“…สาเหตุที่หนี้ครัวเรือนของประเทศเรา ”พุ่ง”…”
เรื่องเก่า เล่าอีกรอบ เปลี่ยนหัวข้อ แล้วลองคิดตาม
ในโลกปัจจุบันอยู่ยากจริงๆ หลังจากการปั่นจักรยานทุกวันอังคารและวัพฤหัสบดี มีการทานข้าวกันกับน้องๆ โม้กันไปมา เกิดหัวข้อหนึ่งขึ้นมา บอกว่า “แม่บ้านบ้านผมเป็นพม่า อายุ18 จะไปดูคอนเสิร์ตนักร้องเกาหลี บัตรราคา4,000บาท พร้อมไปกับเพื่อนพม่าด้วยกัน ทั้งๆที่เงินเดือนแค่ 13,000บาท” (เห็นว่าตั๋วยืน ข้างหน้า6,000บาท ถูกสุดด้านหลัง1,200บาท แต่เขาเลือกตั๋วราคาตั้ง4,000บาท)
ป๊าเลยถาม ทำไมถึงออกมาแบบนี้ได้อย่างไร “ป๊าเลยโดนน้องๆ ว่าพวกเขาแหละปกดิดี ป๊าซิที่ผิดปกติ” และป๊าบอกจะเอามาเขียนในเพจ ”พ่อสอนลูกลงทุน” น้องๆบอกกับป๊าว่าเด๋วโดนแอนตี้นะครับ 555555 ป๊าเชื่อว่าหลายท่านคงเข้าใจนะครับ
ปัญหาของคนรุ่นใหม่ในยุคสมัย social network เป็นใหญ่คือ เรายอมเป็นหนี้หรือใช้จ่ายเกินควรเพื่ออวดรวย ได้ใช้ของหรู ซื้อรถหรือคอนโด แต่บัญชีไร้ซึ่งเงินสดและเผลอๆ การเงินอาจจะถึงกับติดลบไปจนวัยบั้นปลายของชีวิต ป๊าบอกกับตัวเองมาตลอดว่า "หากวันที่ป๊าจะฟุ่มเฟือยได้ ต้องเป็นวันที่ป๊าชนะแล้ว มีรายได้มากเกินกว่าจะใช้ทัน"
สมัยป๊ายังเป็นเด็ก คนรวยกับคนจนมีความเป็นอยู่ต่างกันไม่มากเท่าไร คนจนสามารถหากุ้ง หาปลาจากแม่น้ำได้ง่ายมาก เช่นตอนหน้าร้อน น้ำในคลองแห้งขอด กุ้งก้ามกรามจะลอยคอมาอยู่ริมตลิ่ง เราแค่เอาไฟฉายเดินริมคลอง ก็สามารถจับกุ้งได้ด้วยมือเปล่าแล้ว คนจนก็มีกุ้งก้ามกรามกินได้สบายๆครับ
แต่มายุคสมัยปัจจุบัน ยุคที่คนอยู่ยากขึ้นมากครับ ช่องว่างระหว่างคนที่มีเงินกับคนไม่มีเริ่มกว้างขึ้นเรื่อยๆ สื่อสังคมต่างๆ มันยั่วกิเลส เห็นคนอื่นเขามีเราก็อยากมีบ้าง
“บางคนคิดว่าหามาได้ ก็ต้องใช้ ต้องให้ความสุขกับตัวเอง คิดแบบนี้ก็ไม่ผิดครับถ้าเรามีมากเกินจะใช้ทัน”
แม่บ้านพม่าเอาเงิน 4,000บาท ไปซื้อตั๋วคอนเสิร์ต คุณเอาเงิน 30%ของการทำงานทั้งเดือนไปใช้เลยนะครับ
พนักงานเงินเดือน 20,000 บาท ตกค่าจ้างวันละ 666.66 บาท กินกาแฟแก้วละเป็น100 บาท มันคือ 1/6 ของค่าแรงเราเลยนะครับ
พนักงานเงินเดือน 40,000 บาท ใช้กระเป๋าใบละ 30,000 บาท มันเกือบเท่ากับค่าแรงของเรา 1 เดือนเลยนะครับ
ผู้จัดการธนาคารเงินเดือน 50,000 บาท เลิกกับสามีมีลูกติด1คนค่าใช้จ่ายทั้งเดือนก็ตก 50,000 บาทแล้ว ซ้ำบางเดือนยังคงค้างหนี้บัตรเครดิตไปเดือนหน้าอีก และยังมีหนี้เดือนก่อนๆที่สะสมมาจากบัตรเครดิต
ป๊าได้เอาเรื่องแบบนี้ไปถามหลานชายที่เป็นหมอจิตแพทย์ ว่าพวกเขาเหล่านั้นคิดอย่างนี้ได้อย่างไร?
หมอแกตอบผมว่า... "คนปกติเขาคิดกันแบบนั้น...เราซิที่ผิดปกติ"
เมื่อก่อนภาครัฐส่งเสริมให้เราทำงานเก็บเงินประหยัด ตอนนี้เดิมจากวันหยุด 3วัน รัฐเพิ่มเป็น 4 วันเพื่อกระตุ้นเศรฐกิจ ให้เราใช้จ่ายเยอะๆเงินจะได้หมุน ถ้าเรามีเหลือเยอะก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าคนที่ยังไม่แข็งแรง ไม่รู้เท่าทันก็ลำบาก ต้นทุนของความเป็นอยู่ ค่าครองชีพมันสูงขึ้น
“เราต้องอย่าหลอกตัวเองว่ารวย...ด้วยการอวดรวยนะครับ”