>>210 >>218
“แต่อยุธยายึดครองเขมร“ ก็เพราะยึดครองไงไอ้ฟาย
สิ่งมึงพิมพ์ก็ย้อนแย้งในตัวเองแล้ว อย่างกรณีแมนจูที่เป็นคนเถื่อนแต่ได้เป็นเจ้าของชาวฮั่น พออยู่ๆไปหลายอย่างก็เริ่มรับวัฒนธรรมชาวฮั่น
เช่นกัน การที่อยุธยายึดครองเขมร ก็เกณฑ์ชาวบ้าน เกณฑ์ช่างฝีมือ กลับมา มันเผยแพร่ตอนนี้แหละ
ไอ้ที่มาแถว่ารับจากอินเดีย นี่ว่าตลกนะ ไม่ใช่ตลกเพราะไม่จริงนะ แต่มันคืออินเดียเผยแพร่สู่ชุมนุมสุวรรณภูมิ อย่างที่กุบอกว่าสมัยก่อนไม่มีรัฐชาติ มันลอกกันไปกันมา แต่เขมรคืออารยธรรมที่เจริญมาก่อน พออยุธยาเรืองอำนาจก็เข้ายึดแล้วยึดเอาวัฒนธรรมกลับมาด้วย
พอเขมรตกเป็นประเทศราช ก็รับของอยุธยาไปเช่นกัน ย้ำอีกครั้งว่ากุบอกว่า ลอกกันไปกันมา และอยุธยาที่ขึ้นมาทีหลังได้รับอิทธิพลจากชุมนุมที่เรืองอำนาจมาก่อนอย่าง
อีกเรื่อง ไม่มีตรงไหนที่กุบอกว่าได้รับมาแต่เขมรเลยว่ะ มึงcopyมาดี้ว่าบรรทัดไหนกุบอกว่าวัฒนธรรมอยุธยาคือของเขมรทั้งหมด กุบอกว่าได้รับเต็มๆ แต่ไม่ได้บอกว่าทั้งหมดคือเขมรโว้ย
อีกเรื่องมานั่งแถว่า เขมรกับขอม คือคนละกลุ่มแบบ 100%
“ขอมเป็นชื่อทางวัฒนธรรม ดังนั้นไม่เป็นชื่อชนชาติหรือเชื้อชาติ จึงไม่มีชนชาติขอม หรือเชื้อชาติขอม ฉะนั้นใคร ๆ ก็เป็นขอมได้ เมื่อยอมรับนับถือวัฒนธรรมขอม…ช่วงแรก ขอมเป็นชื่อที่คนอื่นเรียก (ในที่นี้คือพวกไต-ไท) ไม่ใช่เรียกตัวเอง
หมายถึง คนในวัฒนธรรมขอม ที่อยู่รัฐละโว้ (ลพบุรี) บริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยไม่ระบุชาติพันธุ์ จะเป็นใครก็ได้ถ้าอยู่สังกัดรัฐละโว้ในวัฒนธรรมขอม ถือเป็นขอมทั้งนั้น หลังจากเมื่อมีรัฐอยุธยา คนพวกนี้กลายตัวเองเป็นคนไทย”
ไอ้พวกมึงย้อนเวลาไป กุกล้าฟันธงเลยว่า แยกไม่ออกว่าใครคือเขมร ขอม
จริงๆมันจะง่ายๆชกว่านั้น
ขอม = พวกเขมรตอนเรืองอำนาจ เป็นคำเรียกของคนไทที่เรียกพ วกที่ถูกสั่งมาปกครองคนไท เช่น ขอมสบาดโขลญลำพง
เขมร = พวกเขมร ที่กลายเบี้ยล่างของพวกคนไท
รากเหง้าของอยุธยาคือ ละโว้ แล้วมึงจะบอกว่าอยุธยาไม่ได้รับวัฒนธรรมเขมร(ที่แถกว่าไม่ใช่ขอม)ได้ไงวะ