ส่วนหนึ่งที่ไม่ชอบดิจิมอนออมเล็ต และจะพูดซ้ำคือ รัฐบาลย้ำว่า 1 บาทดิจิมอน = 1 บาท แต่รัฐบาลเองกลับกำหนดเงื่อนไขให้เงินดิจิมอนมีมูลค่า “ไม่เท่ากัน” สำหรับกลุ่มประชากรแต่ละกลุ่ม กล่าวคือ
- คนธรรมดาๆ ไม่ใช่เงิน > จบโครงการถ้าใช้ไม่หมดเงินกลายเป็น 0
- ร้านค้าไม่จด Vat รับเงินดิจิมอนมา ขึ้นเงินไม่ได้ > จบโครงการถ้าใช้ไม่หมดเงินกลายเป็น 0
- ร้านจด Vat เท่านั้นถึงจะแลกเงินกลับเป็นบาทได้ > เงิน 1 ดิจิมอน = 1 บาท
สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ รายย่อยถ้าไม่จด Vat จะเลือกไม่รับ หรือรับ แต่ขายของเมื่อรับเงินดิจิม่อนแพงกว่าเงินบาท เพราะตัวเองแลกเงินไม่ได้ สภาพคล่องอาจจะไม่ดี
จะมีร้านแลกเงินอัตราส่วนเงินดิจิมอนมีมูลค่าต่ำกว่าเงินบาท
นั่นแปลว่ารัฐไม่สามารถ Peg ค่าเงินได้
ความแตกต่างของมูลค่าเงินนี้จะยิ่งมากขึ้นเมื่อใกล้จะจบโครงการ คนอาจจะรีบแลกเงินให้เร็วแม้ได้เงินบาทน้อย และอาจจะมีร้านรายย่อยที่ไม่ได้จด Vat แลกเงินไม่ทัน หรือเอาไปซื้อของไม่ทัน > ขาดทุน
สุดท้ายคนแลกเงินได้ = รายใหญ่/ร้านที่จด Vat เงินจะไปกองอยู่ที่รายใหญ่มากกว่ากระจายทั่วไปในชุมชน
ซึ่งรายใหญ่เค้าก็เห็นแล้วแหละ ประกาศว่าจะเปิดร้านสะดวกซื้อแข่งกันแล้ว