>>650 สมัยนี้ทำไม่ได้แล้วเพราะมันต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกน่ะ เอาง่ายๆ ห้องพักต่างด้าวนี่ห้องน้ำรวมนะมึง แต่เขาไม่ถือไงแลกได้เพราะจะเก็บเงินอะ แต่คนท้องถิ่นไม่มีทางอยู่ห้องพักแบบนี้ได้ ยอมเลือกไปหอที่ดีกว่านั้นแต่ก็แลกด้วยค่าครองชีพสูงขึ้น อาหารการกินนี่ก็เอาแค่กินกันตาย ความอร่อยอะไรไม่มี ถ้าไปดูตามย่านต่างด้าว ของกินของใช้เขาจะดาวน์เกรดกว่าคนท้องถิ่นหมด
กูเห็นแบบนี้เลยเข้าใจไงทำไมคนสมัยก่อนค่าแรงน้อยกว่านี้แต่เก็บเงินง่ายกว่า เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกมันก็น้อยด้วย นอกจากปัจจัย4 ก็มีแค่ค่าน้ำ-ไฟ ข่าวสารก็มาจากเครื่องรับแบบซื้อขาดคือ TV วิทยุ นสพ. นี่อาศัยอ่านจากร้านอาหารเอา มือถือ-คอมพิวเตอร์-อินเตอร์เน็ตยังไกลตัว รถก็ไม่ได้ผ่อนกันง่ายๆ ต้องมีคนค้ำ ต้องดาวน์ คนยุคนั้นก็อยู่กันได้นะ พวก ตจว. มาทำงาน กทม. ก็เคยอยู่หอก้องน้ำรวมแบบที่ต่างด้าวอยู่ตอนนี้แหละ แต่พอเวลาผ่านไป เริ่มผ่อนง่ายขึ้น เน็ตก็เข้าถึงง่ายขึ้น ตรงนี้ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นไง แล้วพออะไรที่คนใช้กันมากๆ เข้า จากที่ถูกมองว่าเป็นของฟุ่มเหือยก็กลายเป็นของที่ต้องมี ถ้าใครอายุมากหน่อยลองมองย้อนนะ ในยุคที่ไม่ต้องมีมือถือ ไม่ต้องต่อเน็ตตลอดเวลา รายจ่ายเราก็ไม่ได้มากเท่าตอนนี้แน่ละ แต่จะให้เราเลิกใช้มันตอนนี้ไหมก็คงไม่ เพราะเราติดมันแล้ว มันทำให้เราสะดวกสบายแถมสนุกด้วย นี่ขนาดคนที่เคยผ่านยุคก่อนมาแล้วนะ ถ้าเด็กยุคใหม่ที่เกิดมาก็เห็นดิจิทัลเลยยิ่งหนัก เขานึกภาพไม่ออกหรอกว่าโลกที่ไม่มีของพวกนี้เขาอยู่กันยังไง แต่มันก็มีข้อแลกเปลี่ยนไง สบายก็ต้องมีค่าครองชีพมากขึ้น แต่รายได้มันก็ดันไม่เพิ่มตามแบบหนีทัน คนส่วนใหญ่ก็เลยบอกว่าเครียดกับปากท้อง เพราะไม่มีใครพร้อมจะกลับไปลำบากแบบในอดีตแล้ว