ก็เหมือนนักเลงคุมถิ่นซอยหนึ่ง พฤติกรรมเกเรใช้กำลัง อยู่ๆกันไปเริ่มคุ้นหน้าคุยกันรู้เรื่องมีอะไรช่วยกันได้
ต่อมามีนักเลงรุ่นใหม่มาตบรุ่นเก่าออกแล้วมาคุมแทน คนในซอยก็คิดโอ้เป็นอิสระแล้ว
แต่ผลคือกร่างกว่าคนเก่าพฤติกรรมเหี้ยกว่า คนในซอยต้องทนใช้เวลาอยู่นานกว่าจะปรับตัวคุยกับมันรู้เรื่อง
ต่อมามีนักเลงรุ่นใหม่มาตบรุ่นเก่าออกแล้วมาคุมแทน คนในซอยก็คิดโอ้เป็นอิสระแล้ว
แต่ผลคือกร่างกว่าคนเก่าพฤติกรรมเหี้ยกว่า คนในซอยต้องทนใช้เวลาอยู่นานกว่าจะปรับตัวคุยกับมันรู้เรื่อง
ต่อมามีนักเลงรุ่นใหม่มาตบรุ่นเก่าออกแล้วมาคุมแทน คนในซอยก็คิดโอ้เป็นอิสระแล้ว
แต่ผลคือกร่างกว่าคนเก่าพฤติกรรมเหี้ยกว่า คนในซอยต้องทนใช้เวลาอยู่นานกว่าจะปรับตัวคุยกับมันรู้เรื่อง
ต่อมามีนักเลงรุ่นใหม่มาตบรุ่นเก่าออกแล้วมาคุมแทน คนในซอยก็คิดโอ้เป็นอิสระแล้ว
แต่ผลคือกร่างกว่าคนเก่าพฤติกรรมเหี้ยกว่า คนในซอยต้องทนใช้เวลาอยู่นานกว่าจะปรับตัวคุยกับมันรู้เรื่อง
ต่อมามีนักเลงรุ่นใหม่มาตบรุ่นเก่าออกแล้วมาคุมแทน คนในซอยก็คิดโอ้เป็นอิสระแล้ว
แต่ผลคือกร่างกว่าคนเก่าพฤติกรรมเหี้ยกว่า คนในซอยต้องทนใช้เวลาอยู่นานกว่าจะปรับตัวคุยกับมันรู้เรื่อง
ต่อมามีนักเลงรุ่นใหม่มาตบรุ่นเก่าออกแล้วมาคุมแทน คนในซอยก็คิดโอ้เป็นอิสระแล้ว
แต่ผลคือกร่างกว่าคนเก่าพฤติกรรมเหี้ยกว่า คนในซอยต้องทนใช้เวลาอยู่นานกว่าจะปรับตัวคุยกับมันรู้เรื่อง
กาลเวลาผ่านไปมีนักเลงรุ่นใหม่มายึดคุมต่อแล้วทำตัวเหี้ยกว่าเดิม
คนในซอย : พอได้แล้วโว้ย