Movement ต่างๆของพรรคเพื่อไทยในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นการออกคลิปรัวๆจากทางพรรค เพื่อเตือนความจำประชาชนว่าเคยต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาในอดีต
รวมถึงการเคลื่อนไหวของมวลชนจัดตั้ง และการเตรียมการของขั้วตรงข้ามที่มีข่าว #ดีลลับ ร่วมกัน ต่างก็ชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า เมื่อสถานการณ์ต่างๆสุกงอม เราอาจได้เห็นสูตร #สลับขั้ว จากพรรคเพื่อไทย
ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นตามที่ผมเคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้าว่า เดี๋ยวจะมีเหตุผลสวยหรูเพื่อฉีก MOU เช่น:
-เรารอ 10 เดือนไม่ได้
-ประชาชนจะอดตาย
-ต้องตั้งรัฐบาลเพื่อให้ประเทศชาติเดินต่อ
-112 ของก้าวไกลคือตัวปัญหา เพื่อไทยต้องตามแก้
ตามมาด้วยมหกรรมมิ้นท์ช็อคกับกลุ่มอำนาจเก่าอย่างรื่นเริง จนประชาชนช๊อคทั้งประเทศ
จึงคงไม่ผิดอะไร หากผมจะอดสงสัยถึงความ “จริงใจ” ที่พรรคเพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลกับ 8 พรรคร่วม หรือทั้งหมดนี้เป็นเพียงเกมหลอกประชาชนเพื่อ “ซื้อเวลา สร้างอำนาจต่อรอง” หรือไม่
และยุทธศาสตร์การเดินหมากแบบเก่าๆ ก็สอดรับกันอย่างไม่น่าเชื่อ เช่น:
1.การวางหมากเลือกประธานสภาเป็น อ.วันนอร์ (ซึ่งมีสายสัมพันธ์อันดีกับพรรคเพื่อไทย)
2.การที่ประธานสภาไม่วินิจฉัยให้เสนอชื่อพิธาเป็นนายกซ้ำได้
3.การที่ปล่อยให้พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ พูดลักษณะโจมตีพรรคก้าวไกลในการแถลงข่าวที่พรรคเพื่อไทย
4.การให้มวลชน “จัดตั้ง” มาเคี้ยวข้าวต้มมัดโชว์สื่อ เรียกร้องให้ฉีก MOU
จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าจังหวะอะไรมันจะพอดี เข้าทางขนาดนี้
และนี่คือเหตุผลจริงๆที่พี่หมอชลน่าน ปรี๊ดแตกพี่ปุ่น #ศิธา ถึงขั้นจะชกหน้า หลังเสนอเรื่อง Advance MOU ใช่หรือไม่? เพราะ “รู้ทัน” หรือไม่
สุดท้ายนี้ วาจาที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเคยกล่าว:
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพื่อไทย-ก้าวไกล จะอยู่ด้วยกันตลอดไป”
จะเป็นเพียงประโยคตบตาประชาชน หรือไม่
อีก 5 วันคงได้เห็นกัน
(ปล.เป็นความเห็นของผมในฐานะส่วนตัวครับ)