ถ้าไม่มีสวัสดิการเลยมึงก็จะเจอเรื่องน่าสลดแบบเมกา ทุกคนต้องทำประกัน แล้วก็ไปลุ้นกันเอาเองว่าจะได้รักษาพยาบาลไหมเพราะประกันมันก็จะทำทุกทางที่จะไม่จ่าย เพราะไม่มีสวัสดิการสุขภาพแบบไทยที่มี 30 บาท , คนจนไม่มีวันได้เรียนมหาลัย เว้นแต่มึงจะไปเสี่ยงชีวิตด้วยการเป็นทหาร ถ้าอยู่รอดครบสัญญาก็ได้ทุนเรียน ป.ตรี เพราะเงินกู้ที่โน่นแพงมาก ผ่อนกัน 20-30 ปีเหมือนผ่อนบ้าน ไม่มีสวัสดิการกู้ดอกถูกแบบไทยที่มี กยศ. แต่แน่นอนละว่าถ้าเอาแบบสแกนฯ ทั้งที่การเก็บภาษีไมไ่ด้โหดเท่าเขา + ไม่ได้มีทรัพยากรธรรมชาติเหลือเฟือ อันนี้แหละระบบจะพังหมด แต่เชื่อเถอะไม่มีใครยอมให้โลกกลับไปสู่ยุคไร้สวัสดิการที่ทุกคนต้องดิ้นรนกันเอง 100% และเกิดมาก็ต้องเรียนรู้วิธีเตรียมใจยอมรับความตายแบบแต่ก่อนแล้วละ (ใช่ ทุกวันนี้คนมองว่าความตายเป็นเรื่องไกลตัว เพราะการแพทย์ก้าวหน้าและวิธีคิดเรื่องสวัสดิการนี่แหละ) ดังนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับการต้อมาคุยกันน่ะว่าอะไรจำเป็นต้องเป็นสวัสดิการหรืออะไรที่เกินความจำเป็น
>>951 เพื่อไทยเคยมีช่วงเป๋เหมือนกันตอนยุคปู จำนำข้าวนั่นละ ต่อให้ไม่โกงเลยรัฐก็เสียหายเพราะรับซื้อข้าวเกินกว่าราคาตลาด อารมณ์ประมาณเวเนฯ ที่นำเข้าสินค้าเกษตร ตปท. มาแล้วขายถูกกว่าราคานำเข้านั่นละ เกษตรกรเวเนฯ หลังๆ เลิกอาชีพไปเลยเพราะปลูกไปก็สู้ราคาอาหารนำเข้าไม่ได้ ส่วนช่วงจำนำข้าว ชาวนาไทยก็สักแต่ปลูกเยอะๆ ไม่แคร์คุณภาพแล้วเพราะได้เท่าไรรัฐก็รับซื้อแพงๆ อยู่ดี ถ้าอยากช่วยเกษตรกรต้องทำแบบ ปชป. น่ะ ประกันราคาอิงค่าจ้างขั้นต่ำ อีกอันที่เป๋คือขึ้นค่าจ้าง 300 เท่ากันทั้งประเทศ ซึ่งมันไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง พวกเมืองใหญ่ๆ อะจ่ายไหวนะ แต่เมืองเล็กๆ พังหมด กลายเป็นคนต้องเข้ามาแออัดในเมืองใหญ่ แถมเอื้อทุนผูกขาดอีกเพราะทุนใหญ่จ่ายไหวแต่ SME เจ๊งเพราะไม่ไหว พอมาตอนนี้ถึงบอกไง ค่าแรง 600 ไว้รอปี 70 เพื่อให้ทั้งนายจ้าง-ลูกจ้างค่อยๆ ปรับตัว