“หลายสำนักพาดหัวข่าวเหมือนกับว่า คุณพิธาโล่งใจได้แล้ว กกต. ปัดตกไม่รับคำร้องเรื่อง ถือหุ้นสื่อ แล้ว ?
คือมันไม่ใช่เรื่องน่าโล่งใจนะครับ !! .. ที่กกต. เขาต้องไม่รับคำร้องพวกนั้น เพราะว่ามายื่นเกินเวลาที่กำหนดให้ยื่นไป (ถ้ารับคำร้อง กกต. ก็ผิดซะเอง)
แต่กกต. อาศัยข้อมูลตามที่มีผู้ยื่นร้องมา แล้วเห็นว่ามีมูล จึงตั้งกรรมการไต่สวนเพิ่มเติม !
ซึ่งผลลบ ที่จะเกิดกับคุณพิธา อย่างแรกคือการที่ได้รับการรับรองเป็นส.ส. ล่าช้าออกไปอีก น่าจะช้ากว่าคนอื่นมากทีเดียว
และผลลบร้ายแรง ที่ถ้าเกิดมีการตัดสินว่าทำผิดจริง คือ ไม่สามารถลงสมัครส.ส. ได้ แต่ยังมาสมัคร ก็จะถูกลงโทษตามมาตรา 151 ซึ่งรุนแรงมากครับ
มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะ ต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอม ให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น มีกำหนด 20 ปี
นั่นคือทำให้คุณพิธา กว่าจะมีสิทธิ์กลับมาลงเลือกตั้งทางการเมืองได้ ก็ต้องอายุ 60 กว่าปีขึ้นไปครับ !
ป.ล. นึกผลลบเพิ่มได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ ถ้าเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายและต้องยืดเยื้อนาน ก็จะเป็นข้ออ้างได้สำหรับคนที่ไม่อยากจะโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรีครับ”
เอามาจากเพจลุงสรยุทธ