Last posted
Total of 900 posts
เงินเดือน15,000
ซื้อเบียร์กินวันละ3ขวด
ลูกชิ้นทอดเป็นกับแกล้ม วันนึง250
เท่ากับ 50%ของรายได้
นี่ยังไม่รวมค่าหวย
ค่าน้ำมันรถ ค่าเช่าหอพัก
ค่ากิน ค่าอยู่ ค่าน้ำค่าไฟ
จะเหลือ...อะไร?
ไปลงทุนกับอนาคตมึง?
อย่าถามหาอนาคตดีๆ
ถ้ายังทำตัวเหมือนเดิม
ใช้เงิน ใช้ชีวิตแบบเดิม
มหาเศรษฐี
เขาใช้เงินแค่5-10%
ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ซื้อของปัญญาอ่อน
สนองตัณหาตัวเอง
เราเป็นใคร?
รายได้เท่าไหร่?
ถึงกล้าใช้เงิน50%ของรายได้
ใช้ไปกับเรื่องไร้สาระ??
ทีนี้รู้ยัง??
ทำไมหลายคนถึงยังจน ทั้งปีทั้งชาติ ???
ทีนี้รู้ยัง???
ทำไมประชานิยม
แจกเงิน แจกนั่น แจกนี่ ถึงชนะใจคน?
ทำไมวงจรอุบาท
ไม่จบไม่สิ้นกันเสียที
รู้หรือยัง
ทำไมคนส่วนใหญ่
ถึง...ลำบากยากจน??
คนที่จนจริงๆ
#เงินซื้อข้าวแดกก็ไม่มี
ถ้ายังมีเงินซื้อบุหรี่สูบ ซื้อเบียร์กิน
จำไว้...คุณไม่ได้จน แค่คุณไม่รวย
ขอขอบคุณบทความจาก สิริทัศน์ สมเสงี่ยม
ถ้าทุกอย่างฟรี ไม่มีเงินเดือน ทำงานส่งผลผลิตให้รัฐ สังคมในอุดมคติของพรรคส้ม มันไม่ดีตรงไหน
>>820 สูบบุหรี่ดีจะตายคลายเคียด ติด้กมดีจะตายสบายๆคลายเครียด ไปเที่ยวตปททุกเดือนดีๆจะตายสนุก
ทำงานทำไปทำไม กู้เงินมา ใช้บัตรเครดิตดีจะตาย
ตรรกะเดียวกันแหละว่าทำไมของพวกนี้ถึงไม่ดี
แต่พวกส้มมันโง่ไม่เจ้าใจหรอก เห็นเขาบิงอกจะให้อะไรก็คิดว่าดี แลกมาด้วยอะไรไม่แคร์
>>819 ใครๆ ก็เชื่อใบเฟิร์นทั้งนั้นครับ
https://www.youtube.com/watch?v=H6iCGe_k-HE
ประธานาธิบดีแบบสาธารณรัฐที่ 5 หรือกษัตริย์สมัย Limited Monarchy กันแน่?]
จนถึงวันนี้ การเลือกตั้ง ส.ส.ในฝรั่งเศส ผ่านมา 6 สัปดาห์แล้ว ฝรั่งเศสก็ยังไม่มีรัฐบาลใหม่ ไม่มีนายกรัฐมนตรีคนใหม่
Macron ยุบสภาตามอำเภอใจ ไม่มีการปรึกษาประธานวุฒิสภา และนายกรัฐมนตรีก่อน ทั้งๆที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ทำ
ผลการเลือกตั้ง แม้ Nouveau Front populaire การรวมตัวกันของพรรคฝ่ายซ้ายจะชนะเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่ง แต่เสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่ง
พรรคฝ่ายซ้ายพยายามเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีไปกี่ครั้ง แต่ Macron และคณะไม่เอาด้วย
สุดท้าย Macron ประกาศว่า จะไม่มีการตั้งนายกรัฐมนตรีจนกว่าจะจบโอลิมปิก
ผ่านมาจนถึงตอนนี้ ก็ยังคงไม่ตั้งนายกรัฐมนตรี
ยุบสภาตามอำเภอใจ โดยอ้างว่าให้ประชาชนตัดสินใจ แต่ตนเอง ”ลอยตัว“ เป็นประธานาธิบดีต่อสบายๆ ส่วน ส.ส.ต้องพ้นจากตำแหน่ง และกลับไปหาเสียง
พอได้ ส.ส.กลับมาเสร็จ ก็ยังไม่ตั้งนายกรัฐมนตรี
รอจนกว่าจะได้คนที่ตนเองถูกใจจึงจะตั้งให้
ตกลงแล้วตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสแบบสาธารณรัฐที่ 5 จะกลายเป็นกษัตริย์แบบสมัย Limited Monarchy ให้มีเลือกตั้ง ส.ส.ได้ แต่ประมุขตั้งนายกรัฐมนตรีเอง และยุบสภาได้ตามอำเภอใจ
นี่คือปัญหาของรัฐธรรมนูญ 1958 ให้อำนาจประธานาธิบดีอย่างล้นพ้น
มีอำนาจมาก โดยไม่ต้องรับผิดชอบทางการเมือง
ความรับผิดชอบทางการเมืองมีอยู่เพียง ครบวาระ 5 ปี แล้วไปเลือกตั้งใหม่ ส่วนการถอดถอดออกจากตำแหน่ง ก็ทำได้ยากมาก
ผมวิจารณ์เรื่องระบอบการเมืองฝรั่งเศสบ่อยครั้ง ด้านหนึ่ง ก็อยากชวนให้คนไทยคิดว่า อย่าไปคิดว่าระบอบของไทยแย่หมด ระบอบของฝรั่งเศส ของตะวันตกดีหมด
อย่าไปอยู่ในมายาคติว่า "แม่แบบประชาธิปไตย” คือ ฝรั่งเศส คือ สหรัฐอเมริกา คือ อังกฤษ คือ ตะวันตก
ขึ้นชื่อว่า “รัฐ” ก็มีปัญหาทั้งนั้น
และตอนนี้ ระบอบประชาธิปไตยแบบผู้แทน แบบรัฐสภา หรือแบบประธานาธิบดี หรือแบบกึ่งประธานาธิบดี กึ่งรัฐสภา แบบที่ใช้ๆกันมา และบังคับให้ทุกที่ใช้ตามๆกันมานั้น กำลังอยู่ในช่วงวิกฤติ จะตะวันตก หรือจะตะวันออก จะซีกโลกเหนือ จะซีกโลกใต้ ต่างก็มีปัญหา
ถึงเวลาทบทวนและคิดรูปแบบ “ประชาธิปไตย” ใหม่ๆแล้วครับ
พวกคนรุ่นใหม่ที่มีอะไรก็ถาม AI แล้วเชื่อเป็นตุเป็นตะนี่น่าห่วงว่าจะโง่กว่าเดิม AI ไม่ใช่ตอบคำถามจากหลักการ และกฏ แต่มันหาข้อมูลจาก Data ที่คนสร้าง In Put และเชื่อมข้อมูล คนทำงานวิจัย และคนต้องการ Fact ต้องไปค้นคว้าหาความรู้จากประสบการณ์เองอยู่ดี เพราะข้อเท็จจริง ความรู้ มันไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูลของ AI มี
AI ให้ข้อมูล ผิดพลาดมีเยอะมาก แต่คนใช้มักลืมหลัก Garbage In Garbage Out นั้นแหละ เวลาจะตีความคำพูด หรืออ่านแถลงอะไรแล้วต้องใช้ Chatgp มาแปล หรือตีความให้นี่ คนๆ นั้นสมองน่าจะมีปัญหาโง่ ติดเองไม่เป็น ตีความคำพูดคนไม่ได้ ไม่ก็อ่อนหัดภาษาอย่างรุนแรง มันไม่ใช่เรื่องที่จะมาคุยโอ้อวดว่า รู้มาจาก AI หรือถาม Chatgp เลย ไม่แปลกที้ยุคนี้หลายม. เริ่มต้องเข้มงวดกับงานวิจัยขยะ ที่มีเยอะมาก เพราะคนเสือกขี้เกียขมักง่ายใช้ AI ค้นหาข้อมูลทำวิจัย แต่ที่จะลงไปสำรวจหาข้อมูลจริง เข้าห้องสมุดค้นคว้าหาอ้างอิง หรือทดสอบทฤษฎีจริงๆ แล้วก็เชื่อว่าข้อมูลที่ AI ให้มามันถูก คนที่เชื่อ AI จะโง่ และหลุดจากโลกความจริง
>>828 คนรุ่นใหม่เชื่อ x tt ai มากกว่าครูบาอาจารย์อีก นี่แหละพลังของคนรุ่นใหม่
น้ำท่วมหนักคราวนี้ เดี๋ยวเราจะได้เห็นไอโอทหารสร้างภาพช่วยเหลือประชาชนเพื่อกลบเกลื่อนความเน่าเฟะในกองทัพอีกครั้ง
ก็นะน้ำท่วมทีไร ขนาดตำรวจแม่งก็พึ่งไม่ได้
หนึ่งใน Myth การเมืองไทย 2 เรื่อง
1.คือ พรรคเพื่อไทย(ไทยรักไทย) เก่งเศรษฐกิจ (หมายถึงทั้งพรรค)
2. ทักษิณ เก่งโคตรๆ แก้ปัญหาเศรษฐกิจได้
ทำไมผมมองว่าเป็น myth
1.พรรคขับเคลื่อนด้วยบุคคล ไม่ว่าพรรคไหน ถ้าให้เอาคนจากพรรคอื่นที่ท่านมองว่าไม่เก่ง ย้ายไปอยู่เพื่อไทย ท่านจะมองว่าเก่งทันทีมั้ย
เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ สมมติเอา Antony ไปอยู่ Madrid มันจะเก่งทันทีเหมือน Vini หรอ เพราะฉะนั้นตัวบุคคลสำคัญ
คำถามคือ ตัวบุคคลที่ช่วยทำให้พรรคเพื่อไทยมีภาพลักษณ์ด้านเศรษฐกิจ ทุกวันนี้ยังเหลือใครบ้าง นักเตะคนเดียวแบกทีมไม่ไหวหรอกครับ เมสซี่เก่งแค่ไหนก็แบกบาร์ซ่าช่วงขาลงในUCLไม่ได้ ต่อให้เล่นดีแค่ไหน แต่เพื่อนห่วย มันจะแพ้อะ หัวกระทู้จึงใช้คำว่า มี สส 248 คน(ผลการเลือกตั้งปี 44)
2.มีใครจำผลงานทักษิณตอนอยู่พลังธรรม ที่มีสสแค่ไม่กี่คนได้บ้างครับ ผมคิดว่าคงไม่มีใครจำได้ เพราะอะไรครับ เพราะตอนนั้นทักษิณเป็นแค่พรรคร่วมที่มีสสไม่กี่คน
เนี่ยประเด็นครับ จะคุณเทพแค่ไหน จบเศรษฐศาสตร์จากLSE เคยเป็น CEO หมื่นล้าน แต่ถ้าคุณมี สสในกลุ่มแค่ 10 คนคุณก็สั่งใครไม่ได้ครับ มีสสแค่10 คนจะเดินไปสั่งรัฐมนตรีจากพรรคอื่น เขาก็แค่รับเรื่อง แล้วก็ลืม เศรษฐาเคยเป็นCEO แต่ทำไมสภาพเละเทะมาก เสียแต้มทางการเมืองให้ศิริกัญญาที่มีทรัพย์สินแค่ 5 ล้าน ลองคิดดูดีๆท่านจะคิดออกเพราะเศรษฐาแม่งไม่มีสสอยู่ในมุ้งสักคนเดียว นั่นเอง
นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมทักษิณ ยุคแรก 2544-2548 ถึงผลงานดี เพราะอำนาจต่อรองเยอะครับ รัฐมนตรีคนไหนไม่ฟังก็ปลด และทักษิณให้สสที่มาเป็นรัฐมนตรีลาออกจากสสด้วย พวกนักการเมืองระดับล่างๆอำนาจต่อรองยิ่งน้อยลงไป สสทั้ง 248 คน 90% คือมุ้งท่านทักษิณครับ
ไม่พอทักษิณยังควบรวมพรรคการเมืองทั้งพรรค แบบM&A บริษัทเลย ไม่รู้ว่าจ้าง IB มาช่วยประเมินมูลค่าพรรคด้วยมั้ย อำนาจต่อรองในสภาของทักษิณคือไม่มีใครขวาง จนฝ่ายตรงข้ามไม่รู้จะสู้ยังไงต้องไปใช้อำนาจนอกระบบ แต่พูดเถอะ วิธีการของทักษิณเองมันก็ทำให้คู่แข่งจนตรอกจริงๆ ผมไม่เห็นด้วยเลยกับการควบรวบ(ซื้อ)พรรคการเมืองแบบดื้อๆ
3.การเมืองนิ่ง เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวจากวิกฤตต้มยำกุ้ง
เรียกได้ว่าช่วงเวลาประจวบเหมาะ ถ้าจะให้บอกว่า ทักษิณก็โค้ชทีมฟุตบอลที่ได้คุมทีมช่วงนักเตะพีคพร้อมกัน คนที่เชียร์ทักษิณโกรธผมแน่ๆ คงบอกว่างั้นทำไมเซาเกตไม่ได้แชมป์ แต่ต้องไม่ลืมนะครับ เซาเกตที่ว่ากากๆ พอมีนักเตะในมือเก่งๆพร้อมกัน ก็ถู่ไถเข้าชิงยูโรได้ 2 สมัยติด
คือผมไม่ได้บอกว่าทักษิณไม่เก่งเลย มาถึงขนาดนี้เก่งๆแน่ แต่จุดเด่นท่านคือ เก่งการเมืองครับ นโยบายต่างๆมันมาจากทีมหลังบ้านและ think tank ของท่านครับ 30 บาทนี่เป็นแนวคิดที่มี‘รากฐาน‘จากแนวคิดสังคมนิยมด้วยซ้ำ จะสังเกตว่านโยบายที่ทำให้ทักษิณป๊อปปูล่า ส่วนใหญ่คือนโยบายที่เอียงซ้ายทางเศรษฐกิจทั้งนั้น ซึ่งหลายๆนโยบายถ้ามาเสนอตอนนี้คงโดนพวกเกลียดฝ่ายซ้ายจนขึ้นสมองต่อต้านแน่ๆ
สรุปนะครับ ปัจจัยที่ทำให้ทักษิณประสบความสำเร็จในการเมือง
1.มีสสในมือเยอะ
2.การเมืองนิ่ง ไม่เจอองค์กรอิสระแบบทุกวันนี้
3 ทีมงานหลังบ้านโหด เก่ง
4 ทักษิณเก่งเรื่องบริหารอำนาจ และการควบรวมกิจการ เห้ย พรรคการเมือง
สุดท้ายครับ คุณจะเก่งเทพ รวยหมื่นล้านมาจากไหน แต่ในการเมืองถ้าคุณไม่มีสส ไม่มีพวก คุณก็เป็นได้แค่นักการเมืองแบบเศรษฐาครับ
ถ้าเข้าใจลุงมันม่วง ก็จะเข้าใจลุงตู่ ฮา
ลุงตู่เองไม่ได้ทำเพราะแสวงหาอำนาจ ไม่ได้อยากเป็นนายกเลยจริงๆ ทุกอย่างทำเพื่อจัดระเบียบสังคม เป็นอุดมการณ์อันสูงส่ง เข้ามาเพื่อไม่ให้ประชาชนสองฝ่ายฆ่ากัน
คิดแล้วร้องไห้ครับ เมื่อไหร่จะทำตามสัญญาซะทีก็ไม่รู้ นี่หลายปีแล้วนะลุง
(ลุงมันม่วงแกทำสำเร็จ แกยังไปนั่งสบายใจเฉิบในกระท่อมปลายนาเลย)
“ฉันโคตรโมโหเลย นี่มันลุกลามใหญ่โตเกินไปแล้ว อย่าไปเล่นเกม Black Myth Wukong แต่ถ้าคุณต้องเล่นให้ไปเล่นเกมเถื่อน ถ้าคุณสนุกกับมัน ฉันไม่อยากรับรู้ ไอ้ Game Science และพวกเกรียนที่มาทำแบบนี้กับหนึ่งในคนที่ฉันรักที่สุดในวงการเกม”
สหาย woke ท่านหนึ่ง
ท่านทั้งหลายควรเล่นเถื่อน อย่าให้ j 3 k มาครอบงำประเทศไทยนะครับ เพราะตอนนี้ j 3 k เข้าครอบงำไทยทุกระดับจนมากเกินไปแล้ว ขนาดงานก่อสร้างที่ไทยให้สัมปทานยังได้ j 3 k มาทำทั้งยวง ทำให้คนไทยต้องตกงาน
คนไทยที่เห็นว่า J 3 K เป็นภัยต่อประเทศไทย
พอแพ้ก็จะบอกว่า ชาวราชบุรีไม่พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง หรือ แพ้เพราะมีการซื้อเสียง ซึ่งวิธีนี้มันมีพรรคการเมืองเก่าแก่เคยใช้มาก่อน การพูดแบบนี้มันเป็นการดูถูกประชาชนไปด้วย การตัดสินใจของชาวบ้านไม่ใช่ว่า เงินอย่างเดียวจะซื้อได้ทั้งหมด มันมีปัจจัยอื่นที่ชาวบ้านเขาใช้ตัดสินใจด้วยในการเลือกตั้งทุกระดับ ถ้าเงินซื้อได้หมดจริง การเลือกตั้งปี 66 ที่ผ่านมาคงไม่มีการล้มบ้านใหญ่กันเยอะขนาดนั้น ไปพิจารณาตัวเองก่อนโทษคนอื่น
“ชาวสยามค่อนข้างรักการเล่นการพนันเสียเหลือเกิน จนยอมผลาญตัวเองให้ฉิบหายได้ ทั้งเสียอิสรภาพความชอบธรรมของตัวเองหรือลูกเต้า เมืองนี้ใครไม่มีเงินพอจะใช้เจ้าหนี้ก็ต้องขายลูกใช้หนี้สิน แม้ถึงเช่นนี้แล้วก็ยังมิพอเพียง ตัวเองก็ต้องกลายตกเป็นทาส…”
ซีมง เดอ ลา ลูแบร์ (ฝรั่งเศส: Simon de La Loubère; 21 เมษายน พ.ศ. 2185-26 มีนาคม พ.ศ. 2272)
อธิบายต่อ…
หากเราโจมตีกันอย่างมีการศึกษา สังคมก็จะสร้างสรรค์
แต่หากเราโจมตีกันอย่างไร้การศึกษา สังคมก็จะเสื่อมโทรม
ข้อแตกต่าง communism และ socialist democracy
Communism ไม่เอาทั้งทุนนิยมและสถาบัน อำนาจการเมืองผูกขาดโดยพรรคเดียว one party system ระบบเศรษฐกิจเป็น command economy รัฐเป็นเจ้าของทุกอย่าง ไม่มีเอกชน และทั้งจีนกับเวียดนามสมัยนี้ การเมืองยังเป็น one party system อยู่ แต่ระบบเศรษฐกิจกลายเป็นทุนนิยมไปแล้ว
Socialist democracy หัวใจคือแรงงาน เพราะฉะนั้น มีรัฐสวัสดิการ ระบบการเมืองก็ประชาธิปไตยนี่แหละ สถาบันอยู่คู่กันได้ อย่างเช่น กลุ่มประเทศ Scandinavia ระบบเศรษฐกิจก็ทุนนิยมนี่แหละ เอกชนเป็นเจ้าของ แต่เน้นสิทธิของแรงงาน มากกว่าอภิสิทธิ์ของนายทุน
จะโจมตี socialist democracy ก็โจมตีได้ นักรัฐศาสตร์/เศรษฐศาตร์ระดับโลกก็ถกเถียงกันอยู่
แต่ช่วยกันสรรค์สร้างสังคมด้วยการโจมตีอย่างมีการศึกษา เพราะหากโจมตีกันอย่างไร้การศึกษา สังคมก็จะเสื่อมโทรม
คนไทยเตะหมา ติดคุกข้อหาทารุณกรรมสัตว์ได้
แต่คนต่างชาติ เตะหมอได้ ยังไงก็ไม่ติดคุก
สมกับเป็นประเทศกะลาแลนด์จริงๆ
เห็นผลงานกรุงเทพทุกวันนี้ก้ตอกย้ำนะครับว่า
"คนไทยชอบคนเก่งแต่ปาก" คนทำงานเป็นกลับไม่เอาเพราะชอบพูดไม่เข้าหู
ครม อุ๊งค์อิ๊งค์ ถวายสัตย์เย็นนี้ https://www.thairath.co.th/news/politic/2812819
ครม เงาสามกีบ ถวายสัส เหมือนกัน https://www.youtube.com/watch?v=n-dLx1NxFPQ
คือจริง ๆ ถ้าพูดถึงคนใช้แรงงานก็ตามนั้นเลยครับ
นึกภาพว่าต้องใช้เวลา 1 ชั่วโมงทุกวันเดินทางไปกลับจากที่ทำงาน
ใช้เวลาอยู่ในที่ทำงานรวม 9 ชั่วโมงเพื่อหาเงินให้ได้รายได้ที่แทบจะไม่พอกินสำหรับ 1 วัน และยังต้องจัดการงานที่บ้าน หุงหาอาหาร และเจอกับคำก่นด่าอื่น ๆ จากเจ้านายอีก
คนเรามันต้องแข็งแกร่งขนาดไหน ที่จะตั้งมั่นพัฒนาตัวเองในช่วงหลังเลิกงาน เพื่อให้มีอนาคตมากขึ้น
ซึ่งไอ้คำว่าพัฒนาตัวเองนี่แน่นอนว่าไม่ได้เกิดภายใน 1 ปี หรือ 3 ปี แต่ต้องเป็นสิบปีแน่นอนหากพิจารณาจากกว่าเขาจะเก็บเงินมาได้แต่ละบาท ดังนั้นการเข้าถึงความรู้ของเขาย่อมจำกัด
และพอเขาพัฒนาตัวเองมาถึงจุดที่พร้อมจะขยับขยายเขายังต้องไปลุ้นว่าจะมีบริษัทให้โอกาสเขาหรือไม่ เพราะเขาไม่มีเงินลงทุนเอง
โดยรวมขนาดแค่ผมคิดผมยังไม่รู้สึกว่าคุ้มค่าที่จะทำ แล้วคนที่ต้องเจอกับตัวเองเขาจะมีแรงใจพัฒนาตัวเองกันขนาดไหนล่ะครับ
ปล. นี่ผมพูดในมุมที่เขาไม่มีครอบครัวด้วยนะ ถ้ามียิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยครับ
เชี้ย ตรงตามการสืบสันดานกีบทุกข้อ
- มีชาติ : ชังชาติ, ยกเลิกรากเหง้าวัฒนธรรม
- มีครอบครัวอบอุ่น : ไม่ได้ขอมาเกิด, ยกเลิกความกตัญญู
- มีศาสนา : ส่งเสริมให้ไม่มีศาสนา
- มีทหาร : ยกเลิกเกณฑ์ทหาร, ลดงบประมาณกองทัพ
- มีสุขภาพดี : ส่งเสริมเหล้าเสรี, กระดี่เสรี, ทำแท้งเสรี และอื่นๆเสรีอีกมากมาย
>>858 ประเทศไทยเสียโอกาสเพราะอนุรักษ์นิยม ถ้าอนาคตใหม่ ก้าวไกล ปชน มาเร็วกว่านี้เราคงไม่มีทศวรรษที่สูญหายทางเศษฐกิจ
สำรวจภาพจริงประเทศไทยใน “ทศวรรษที่สูญหายทางเศรษฐกิจ”
https://www.bbc.com/thai/articles/cp8n9872ej5o
รัฐบาลและเหล่าคนคลั่งเขื่อนกำลังปลุกผีเขื่อนแก่งเสือเต้น โดยอ้างว่าแม่น้ำยมไม่มีโครงสร้างบริหารจัดการน้ำ น้ำจึงท่วมหนักซ้ำซาก ถ้าสร้างเขื่อนแล้ว น้ำจะไม่ท่วม (และไม่แล้ง)
ความจริงคือ ลุ่มแม่น้ำยมและพื้นที่ข้างเคียงมีฝายแม่น้ำยม (ซึ่งความจริงควรเรียกว่าเขื่อนแม่น้ำยม) อ่างเก็บน้ำ และโมเดลบริหารจัดการน้ำที่เรียกว่า 'บางระกำโมเดล' อยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีโครงการ 'สะเอียบโมเดล' ที่ชาวบ้านในพื้นที่เป็นคนเสนอเอง รวมอยู่ด้วย แต่ฝ่ายสนับสนุนเขื่อนกลับไม่พูดถึงโครงสร้างจัดการน้ำเหล่านี้ (ที่ยังสร้างไม่เสร็จ)
สิ่งสำคัญคือ เขื่อนแก่งเสือเต้นที่รัฐบาลพยายามปลุกมันขึ้นมาตลอด 30 ปีนี้ สามารถกักเก็บน้ำได้ไม่ถึง 20% ของปริมาณน้ำรวมที่คาดว่าจะไหลเข้าสู่ระบบ คำถามคือน้ำที่เหลือจะไปอยู่ที่ไหน? ยังไม่นับรวมผลกระทบด้านแผ่นดินไหวเนื่องจากอยู่ใกล้รอยเลื่อนแพร่ การสูญเสียป่านับแสนไร่ ความเสื่อมโทรมของระบบนิเวศแหล่งน้ำ การขัดขวางทางไหลของตะกอน และการย้ายชาวบ้านออกจากพื้นที่
การบริหารจัดการน้ำยุคใหม่ที่สามารถรับมือกับ climate change ได้ คือการบูรณาการความรู้จากหลากหลายสาขา ผลลัพธ์ที่ออกมาคือ การพัฒนาโครงข่ายแหล่งเก็บน้ำขนาดกลาง/ขนาดเล็กแบบกระจายศูนย์ การออกแบบผังเมืองให้สอดคล้องกับภูมิศาสตร์ การรักษาที่ราบน้ำท่วมถึง&พื้นที่ชุ่มน้ำ และการทำเกษตรกรรมบนหลักพฤกษภูมิศาสตร์
ประเทศไทยไม่เหลือพื้นที่สำหรับสร้างเขื่อนขนาดใหญ่อีกแล้ว อีกทั้งต่างชาติก็ถอยห่างจากการสร้างเขื่อนมานานกว่า 10 ปีแล้ว ดังนั้นช่วยก้าวให้ทันโลกสักทีเถอะ อย่าฉุดรั้งและแช่แข็งประเทศไทยให้อยู่ในกรงของคำว่า 'ประเทศกำลังพัฒนา' อีกเลย
พอทำงานหลายอย่าง ก็ไม่ค่อยอยากโพสต์การเมือง เพราะกระทบกับคนที่ทำงานด้วย แต่ไหนๆ ก็ไหน วันนี้พูดสักที
งานแต่งงานทนายทรายเมื่อคืน เหมือนงานรียูเนี่ยนคนที่บาดเจ็บเสียหายจากความขัดแย้งทางการเมืองช่วงที่ผ่านมา คนที่เคยเป็นเพื่อนแต่กลายมาขัดแย้งไม่มองหน้ากัน คนที่ติดคุกมาด้วยกันแต่พอการเมืองเปลี่ยนก็อยู่คนละฟาก เห็นแล้วก็สะทกสะท้อนใจไม่น้อย เฮ้อ
คือตั้งแต่ตอนบล็อกเชนกับดิจิตัลวอลเล็ทแล้ว ที่ผมทักท้วงเรื่องเชิงเทคนิคว่ามันเป็นไปไม่ได้และมีรายละเอียดไม่เพียงพอ ตอนนั้นก็มีทัวร์ลงมาด่าผมจากกลุ่มเชียร์รัฐบาล (ด้วยกันนี่แหละ) ยกโน่นนี่มาอ้าง โห เละไปเหมือนกัน
ซึ่งต่อมาเปลี่ยนรายละเอียดไปลงที่ทางรัฐ ซึ่งเป็นทางออกที่ดี แต่ก็นี่ไง ผลสุดท้ายมันไม่ใช่บล็อกเชน และพอพูดกลับไปกลับมาก็เสียเครดิต เสียความเชื่อมั่น ซึ่งในทางการเมืองมันเสียไปง่าย แต่ได้มายาก และกว่าจะได้กลับมายิ่งยาก พอคนไม่เชื่อแล้วจะทำนโยบายทำอะไรยิ่งยากกว่าเดิม
ฝั่งก้าวไกล/ประชาชน ก็มีกลุ่มที่ชอบจับแพะชนแกะ เอาข้อมูลไม่รอบด้าน หรือจบใจเลือกเรื่องที่คลุมเครือ คิดไปเองตั้งแง่ว่าจะทุจริต มาตีฟูขยายประเด็น พอเขาชี้แจงก็ทำกลบเกลื่อนเงียบๆ ปล่อยให้คนที่ยังเข้าใจผิดคิดไม่ดีต่อไป ล่าสุดก็เรื่องยาอัลพราโซแลมกับซูโดเอฟิดรีนเนี่ย อภิปรายงบรอบนี้ ทำได้ไม่ดีเลย
คิดถึงตอนพี่ทนายอานนท์ นำภา ขึ้นปราศรัยรอบสอง แล้วในสภาอภิปรายงบกลางรบ.ประยุทธ์โควิด ไปๆ มาๆ เพื่อไทยกับก้าวไกลตอนนั้นทะเลาะกัน ติ่งสองฝ่ายตีกันเรื่องโหวตงบกลางเซ็นเช็คเปล่า ผมยังอุทานว่าฉิบหายแล้วพี่ทนายน้อยๆ กู พูดเรื่องใหญ่เรื่องสำคัญ แต่สังคมไม่มีใครสนใจดูเลย ซวยแน่ ถึงวันนี้ได้แต่ถอนหายใจส่งแรงใจส่งจดหมายให้พี่
ผมว่าทุกวันนี้ ยิ่งได้เห็นเพื่อไทยจับมือกับประชาธิปัตย์ได้ ซึ่งเหนือจริงมากๆ ถ้าพูดเมื่อสิบปีก่อน เราประชาชนคนที่ได้รับผลกระทบทางการเมือง ที่อยู่กับมันมานาน ยิ่งน่าจะต้องรู้ตัวแล้วไหมว่าเกือบยี่สิบปีที่ผ่านมา มันมีการปลุกระดมอารมณ์คนเพื่อสร้างวิกฤต เพื่อให้คนที่แสวงหาผลประโยชน์จากความขัดแย้งนั้นได้ ไม่ใช่แค่แกนนำ ชนชั้นนำ แต่มันก็มีกลุ่มขนาดเล็กขนาดกลางที่คอยเกาะหาเงินหางานหารายได้จากการตอบโต้กัน สุดท้ายคนเฮโลหลงเชื่อแต่ละข้าง เกิดเป็นก๊กเป็นเผ่า
ไม่รวมว่าบางก๊กบางเผ่าเหล่านั้น ได้รับเงินหนุนจากต่างชาติมาทำเรื่องให้เกิดความขัดแย้งมากอีกเท่าไร พูดอย่างนี้ไม่ได้หมายถึงยุโรปอเมริกาอย่างที่พวกฝ่าย กอ.รมน. ชอบกล่าวหาฝั่งส้มฝั่งแดง แต่เงินจีนแดง เงินรัสเซีย หว่านโปรยลงมาไม่น้อย ขนาดในอเมริกายังโดนแทรกแซง ไทยใกล้แค่นี้จะเหลือเรอะ พอถึงวันนี้ผมยังสงสัยอยู่ว่าจุดเริ่มต้นความขัดแย้งในม็อบพันธมิตรปี 48 อาจจะมีที่มาจากการแทรกแซงพวกนี้ด้วย
จอร์จ วอชิงตัน ปธน.คนแรกของอเมริกา เตือนในจดหมายสั่งลาตำแหน่งว่า สิ่งที่ควรระวังที่สุดในชาติคือการแบ่งพรรคฝักฝ่ายทำลายกัน และการแทรกแซงโดยอิทธิพลต่างชาติ
ที่พูดมานี่ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องนิ่งเฉยไม่คิดทำอะไรให้ดีขึ้น ไม่แก้สิ่งที่ผิดปกติที่มีอยู่แล้ว แต่อยากให้เราช้าลงสักนิดบ้าง เพราะวันนี้สิ่งที่คนเคยคิดเมื่อยี่สิบปีก่อนก็มาถึงหลายอย่าง มีเรื่องดีขึ้นมาก แม้หลายด้านจะแย่ลงแต่ก็พอเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้น
เราประเมินสิ่งที่เราทำได้ในหนึ่งปีมากไป แต่ประเมินสิ่งที่เราทำได้ในสิบปีน้อยไป
ยุโรป อเมริกา เกิดเหตุแบบเรามาหนักกว่า ตายกันมากกว่า เป็นร้อยปี กว่าเขาจะยืนอยู่ตรงนี้ แต่เขาก็ยังเกิดปัญหาซ้ำอีกอยู่ดี
คนที่ผ่านเรื่องราวมายี่สิบปีเห็นถึงวันนี้ ถ้าจากทารกก็เข้ามหาลัย จากเด็กม.ปลายก็เป็นผู้บริหาร ถ้าไม่ใช่ว่ายังมีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง ก็น่าจะคิดเห็นโตเป็นผู้ใหญ่กันได้แล้วสักที
มีครอบครัว มีภาระ ต้องดิ้นรน ถีบตัวเอง ถ้าไม่มีครอบครัวเขาถึงเรียกว่าลอยชายไปวันๆ ไม่เอาการเอางาน คนแบบนี้มีเยอะแยะ
ดังนั้นการไม่มีครอบครัวจึงล้มเหลวในการเป็นมนุษย์ เพราะมนุษย์อยู่ไม่อมตะ ตายแล้ว ไม่มีคนเกิดใหม่ ถือว่าเราเกิดมาเสียเที่ยวอย่างน้อยต้อง
ผลิตลูกให้ได้ 2 คน ถึงรักษาสมดุล ตรงนี้ได้ 3คนกำไร
"บีบให้จน แล้วแจก
กดให้โง่ แล้วปกครอง
ปล่อยให้ป่วย แล้วรักษา
ใช้ภาษีที่รีดมา สร้างบุญคุณ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
อาจจะใช่ก็ได้นะ บางคนมันเป็นแบบนี้จริงๆ ไม่ชอบอวดความดีให้คนอื่นฟัง แต่ชอบทำเลว เพื่อปกป้องคนอื่น มันมีจริงๆคนแบบนี้ จะว่าไม่มีก็ไม่ได้
คือวันนี้ประหลาดใจ และกึ่งเศร้าใจมากนะ โดยเฉพาะกับเพื่อนๆ น้องๆ หลายคนในโซเชียล
การคัดค้านเรื่องนโยบายแจกเงินหมื่นนึงเนี่ย ถ้าจะค้านประเด็น
1. วินัยการคลัง ต้องกู้มาเพิ่ม จะทำให้ไม่มีช่องว่างงบประมาณเหลือพอทำนโยบายอื่น
2. ระบบการแจกที่ไม่แน่นอน ไม่ตรงที่หาเสียง
3. การกระตุ้นเศรษฐกิจอาจไม่ตรงเป้า หมุนได้น้อยกว่าที่คาดการณ์ ไม่คุ้มค่า
4. การโปรโมทที่ดูเป็นการหาเสียง (แต่ก็ธรรมดาของการทำนโยบายการเมือง)
อะไรราวๆ นี้ เข้าใจได้เลย และยกมาฟังขึ้นด้วย ผมก็เห็นด้วยหลายกรณี
แต่เพื่อนๆ หลายคน ที่ก็สนับสนุนการกระจายรายได้ เพิ่มสวัสดิการให้ประชาชนแบบถ้วนหน้ามาก่อน ดันไปหลงตามแห่ประเด็นภาษีกู ชนชั้นกลางไม่ได้อะไร ชาวบ้านคนจนเอาเงินไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายเนี่ย ผมล่ะงง เหมือนกับที่ผ่านมาเราคุยกันคนละภาษาเหรอ ทำไมพลิกกลับไปเหมือนสมัยปีื 49 ปี 57 กันได้ขนาดนี้
เราคนชั้นกลางจนถึงค่อนสูงเนี่ยใช้ภาษีของส่วนรวมที่รัฐบริหารนะครับ ใช้ในแบบที่คนจนคนอื่นไม่ได้ใช้หรือไม่มีโอกาสใช้แบบไม่รู้ตัวด้วยเยอะมาก ตั้งแต่เรียนมัธยมปลายจนมหาวิทยาลัย (รัฐอุดหนุนทุกคนมากน้อยต่างกัน) ถนน ทางด่วน รถไฟฟ้า สนามบิน จนถึงระบบสัญญา กฎหมาย บังคับใช้ให้เราสามารถอยู่ในสังคมเป็นปกติ ดีบ้างมากบ้างน้อยบ้างต่างกัน อันไหนยังไม่ดีเราก็ต้องให้มันปรับปรุงให้ดี อันไหนไม่เข้าท่าก็ต้องด่า ไม่ใช่ว่าคุณไม่เคยได้อะไรมาก่อน
เราเสียภาษี เราขอลดหย่อนภาษีได้ บริษัทเสียภาษี จดแวท เอาภาษีซื้อไปหักภาษีขายได้ คนธรรมดาทั่วไปไปขอหักลดหย่อนภาษีที่กินใช้แต่ละวันได้ไหม ก็ไม่ได้ป่าวครับ
การใช้งบประมาณจากภาษีให้เกิดประโยชน์ เป็นหน้าที่รัฐ โครงการไหนทำเสียเปล่าไม่ได้ประโยชน์ มีการคอรัปชั่นก็วิพากษ์วิจารณ์กันได้ ปกติ ผมเห็นด้วย จะด่ารัฐบาลก็เป็นปกติ แต่ไอ้เรื่องการจับจดไปแคปภาพแคปโซเชียลหรือข่าวที่แทบไม่มีที่มาที่ไป ใครจะเขียนจะโพสต์ยังไงมาด่าคนที่ได้เงินในส่วนรวมเนี่ย ผมไม่คิดเลยว่าหลายๆ คนซึ่งผ่านมาเคยดูหัวก้าวหน้าจะเป็นกันได้ขนาดนี้
คือถ้าเป็นกลุ่มอนุรักษ์นิยมทางเศรษฐกิจเดิม พวกนายแบงค์ นักเสดสาดสายเดิมๆ ที่ค้านนโยบายสวัสดิการ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่แล้วนี่ไม่แปลกเลย
คือถ้าแจกสวัสดิการเงินคนชราเดือนละ 3000-5000 แล้วคิดเหรอว่าจะไม่มีคนชราเอาไปซื้อหวยซื้อเหล้า หรือใช้หนี้ หรือถ้าให้ทุนเยาวชน เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าจะเอาไปเติมกาชา ไปซื้อกล่องสุ่ม รึเปล่า ถ้าเรามั่นใจในวิจารณญาณของประชาชน เราก็ต้องคิดแบบเดียวกันกับการแจกเงินหมื่นก้อนเดียวนะ เพราะถ้ายิ่งวางข้อจำกัดการใช้ไว้มาก ผลที่จะได้ตามมาก็ยิ่งจะจำกัดมาก และผมก็คิดว่าที่ผ่านมาเนี่ยเราก็คงจะเคยพูดกันเรื่องนี้มาเยอะแล้ว แถมก็น่าจะเคยเห็นตรงกัน เลยยิ่งประหลาดใจเข้าไปใหญ่ว่าทำไมมาวันนี้คิดกันแบบนี้ หรือแค่ว่าพอกลายเป็นการเมืองคนละฝ่ายทำแล้วก็แตกหักกันจนไม่ยืนอยู่ในความคิดเดิมเสียอย่างนั้น เฮ้อ
"คนบางคนโดนครูตีจนเชื่อง แล้วก็เชียร์ให้ครูตีลูกหลานคนอื่น สืบทอดความรุนแรง คนแบบนี้จะไม่หือกับผู้มีอำนาจเหนือกว่าเขา แต่จะข่มเหงผู้มีอำนาจน้อยกว่าเขา"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
เด็กมันต้องรู้ว่าอะไรดีไม่ดี เหมือนกุเลี้ยงแมว
บางทีเมิงก็ต้องสั่งสอนมัน ให้กระดูกหัก(สักนิดมันจะได้เชิ่อง ไม่งั้น มันจะเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ดีหรอ
กุไม่รู้สมัยนี้มีครูตีไหม แต่กุโตมากับไม้เรียว ไม้หน้าสาม เด็กสมัยนี้ไม่น่าเคยโดนกันละ
รถบัสเกิดอุบัติเหตุ ➡️ ยกเลิกทัศนศึกษา
โจรใต้ก่อการร้าย ➡️ ยกเลิก กอ.รมน.
ใส่ร้ายเจ้าจนติดคุก ➡️ ยกเลิก 112
>>876 นี่สามกีบอีกตัว https://www.facebook.com/share/vUQFiQ65P6mE7ERg/
มหาอำนาจ สร้างจากความคุ้มค่า ในการครองพันธมิตรทางทะเล เพราะเมื่อได้ล้อมกรอบ จะรวยไม่รู้เรื่อง วิชาเศรษฐศาสตร์ สุดท้ายมันย้อนกลับไปที่ 4 หมวดในบทแรก
.
คือ Land Labor Capital Entrepreneur ผมใช้เวลาอีกสิบกว่าปีในการตอกย้ำทั้ง 4 ปัจจัยในบทแรก จนผมได้ข้อสรุปที่เป็นรูปร่าง โดยถอดออกมาเป็นโจทย์เชิงรูปธรรม
.
1. การชนะ Land = สมุททานุภาพ และมหาพันธมิตร
.
2. การชนะ Labor = การศึกษาที่ใช้ทุนและการชักนำโดยบริษัทเอกชน และสร้างความฝันถึงโอกาสในชีวิต
.
3. การชนะ Capital = ตลาดทุนที่โตต่อเนื่อง และไม่ถูกถอดทิ้ง ทั้งจากผู้มีอำนาจและปัจเจกชนในสังคม
.
4. การชนะ Entrepreneur = ลดภาษี เพิ่มสิทธิพิเศษการลงทุน เปิดรับยอดคน จากทุกวัฒนธรรมและเชื้อชาติ และรักษาศักยภาพของข้อ 2-3 ให้มั่น
.
บทนี้เน้นสั้นๆ แต่สิ่งที่คนไม่เข้าใจคือคำว่า Land
.
Land ไม่ได้แปลว่าแผ่นดิน แต่แปลว่าทรัพย์แห่งดินแดน -- ในที่นี้รวมทั้งผืนน้ำและท้องนภา โดยการมีอำนาจเหนือมหาสมุทร จะทำให้มีอำนาจเหนือการเข้า-ออก คัดเลือกของ คัดเลือกคน ในทุกๆดินแดน
.
แต่เขาไม่ได้ต้องการทุกดินแดน เขาต้องการแค่ 'หน้าเค้ก' แห่งดินแดนเท่านั้น เพราะถ้าครองดินแดนมากไป ในที่สุดมันจะดูดทุนเราจมไปด้วย และเราจะเสีย มากกว่าได้
.
มันจึงมีแค่บางประเทศ ที่ได้รับพลังโฟกัสนี้ คือพวก 'ขอบทวีป' เช่น ญี่ปุ่น สิงค์โปร์ พวกช่องแคบฮอร์มุซ และแหลมยุโรป รวมทั้งกองหลังโลกอย่างออสเตรเลีย
.
ข้อ 1 เป็นหน้าที่หลักของรัฐบาล -- ส่วน 2 3 4 หน้าที่หลักอยู่ที่เอกชน-ประชาชน
.
บทขยายความ จะอยู่ใน คม. ย่อย
ให้เห็นภาพ ถ้าประเทศไทยถูก Boycott เงินสดของเราก็ไม่มีค่า เพราะเอาไปซื้อน้ำมัน สินแร่ ฯลฯ ไม่ค่อยจะได้ (นึกถึงประเทศลาว)
.
ระบบเงินในภาพใหญ่ของโลก จึงโยงไปที่ 'ผู้สร้างเงิน' เสมอ ... แล้วผู้สร้างเงินคือใคร ?
.
มันต้องถามต่อ ... เงินอะไร ?
.
ถ้าเงินที่ยอมรับในโลกมากที่สุด คือ
'เงินดอลลาร์สหรัฐฯ' เพราะเอาไปซื้อน้ำมัน โลหะ แร่ ธัญพืชได้ทั่วโลก ถัดมาก็ยูโร หยวน(เหรินมินปี้)
.
เงินดอลลาร์ เป็นหนี้สินของ FED
แล้วในงบดุล (ฺbalance sheet หรือทางการเรียกว่า งบแสดงฐานะการเงิน) มันต้องมีสินทรัพย์ถ่วงอีกด้าน ... มันคืออะไร ?
.
มันก็เช่น พันธบัตรของรัฐบาล -- เป็นกระดาษที่รัฐบาลสัญญาค่าของเงินไว้ อันนี้คือส่วนใหญ่ๆ นอกนั้นก็มี ทองคำ ใบค้ำประกันอสังหาฯ เงินของต่างประเทศ (นึกถึง ร.3 ที่มีเหรียญเม็กซิโก)
.
แต่กระดาษนั้น ไม่ต่างจากทะเบียนสมรส มันเป็นเชิงคำสัญญา -- ที่ต้องมีภาคปฏิบัติ เงินสดเหมือนทะเบียนสมรส ผูกมัดโดยกฎหมายไม่ต่างหนี้สิน ดังนั้นถามต่อว่า แล้ว Asset อะไรที่จะทำให้ทะเบียนสมรส ไม่ล่ม ? ... นี่สิ สำคัญ
.
+
.
ถ้าถามว่า อะไรจริงๆคือ Asset ? มันจะเป็น
คำที่ผมพูดบ่อยๆ คือ 'การควบรวมปัจจัยการผลิต' แปลว่าอะไรวะ ? ...หมายถึงอำนาจแห่ง
1 ดินแดน 2 แรงงาน 3 ทุน และ 4 นายทุน
.
ทั้งหมดมี 4 หมวด ที่เข้าใจยากที่สุด คือคำว่า 'ทุน' (capital) ตัดบทเลย ทุนจริงๆ รวมตั้งแต่ ความรู้ การศึกษา กฎหมายที่ชัดเจน ทำได้จริง จับจริง เป็นธรรม ไม่ซอกแซก มั่นใจได้ ฯลฯ
.
ทุนยังรวมถึง อาวุธ อำนาจครอบครอง อำนาจการขนส่ง อำนาจเหนือพันธมิตรและทะเล เมื่อคุณมีทั้ง 4 อย่างเหนือกว่าชาติอื่น คุณจะสร้างเงินได้ไม่อั้น และทั้งโลกจะยอมรับ เพราะเขาไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าคุณ
.
สังเกตมั้ย สหรัฐฯ จะต้องครอง 4 สิ่งนี้ให้
มากที่สุด -- เขาครองดินแดนด้วยการทำ Nato สานต่อพันธมิตรญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ครองอำนาจเหนือ 2 มหาสมุทรหลัก เป็นอย่างน้อย ก็เท่ากับได้ใช้ที่ดินไปครึ่งโลก มาสร้างผลผลิตที่กำไรสูงที่สุด
.
แรงงานที่เก่งที่สุด ก็อยากมาสหรัฐฯ ทุน ไม่ต้องพูดถึง ทั้งอาวุธ ทั้งเทค ทั้งกฎหมาย การทูต การปกครอง
.
และนายทุน ก็คือเศรษฐี นักคิด นักประดิษฐ์ที่หลากหลาย จะมาจากชาติไหนก็มาเถอะ เป็นต้น
.
+
.
ดังนั้น หนี้สินที่ชื่อ ดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่ได้มาลอยๆ มันมีอำนาจของจริงเป็น Asset ที่ Back อยู่เพียบ
.
บรรทัดนี้คิดแบบ 'ตัดอคติ' ลบคำว่าฝรั่ง แขก แขกออกไป -- โดยหลักการ ไม่ว่าแต่งงาน ไม่ว่าคบเป็นเพื่อน หรือหุ้นส่วน เราล้วนต้องปรับ Software ให้เข้ากันได้
.
การพูดว่า เราจะไม่แทรกแซงคนอื่น
เราเคารพธรรมชาติของคุณ ฯลฯ
.
มันฟังดูดี แต่มันคือ One Night Stand
.
แค่เอากันเสร็จๆ ก็ไป เพราะเมื่อไม่ได้คิดจะเป็นผัว-เมีย มีลูกกัน ก็ไม่ต้องปรับปรุงอะไรทั้งนั้น ใช่มั้ย ? แล้วในทางเศรษฐกิจ 'มันกากมาก' --
.
+
.
บรรทัดนี้ เทียบฝรั่ง-จีน
.
สุดท้ายนะ มันต้องปรับ เพราะปัจจัยการผลิตคนที่ชนะจะต้องควบรวมสี่สิ่งนี้ จากการโฟลว์ไปทั่วโลก
.
แล้วคำว่า 'ทุน' มันไม่ใช่แค่เครื่องจักรโรงงาน
ไม่ใช่แค่พลังงาน น้ำมัน แก็ส แต่รวมถึง Software อันได้แก่ ระบบปกครอง การศึกษา ระบบธุรกิจ กฎหมายที่ไว้ใจได้ นิติธรรม วัฒนธรรม ค่านิยม มายเซ็ท
.
ถ้าคุณจะพัฒนาหุ้นส่วนร่วมกัน
มันต้อง ปรับมายเซ็ทระหว่างกัน
.
คุณจะคิดว่า กูจะเป็นชาวนา จะเป็นไทยๆ แล้วเดี่ยวพี่จีนจะมาช่วย ... ปัดโธ่!
.
ต่อ ...เรื่องรัสเซีย พี่แกก็จะออกทะเลเหมือนกัน
>>876 สรุปไฟไหม้เพราะแก๊สรั่ว ต้องยกเลิกทัศนศึกษาหรือยกเลิก NGV
https://www.fm91bkk.com/newsarticle/37964
ทำไมรัสเซีย ทำสงครามยูเครน ? ผมตอบว่า มันคล้าย เสี่ย 2 ตระกูล แย่งที่ดิน
แยกปทุมวัน ใครชนะ คนนั้นได้ทำเลเด็ด แล้วผลักผู้แพ้ออกไป จากนั้นเขาจะได้อีกหลายเด้ง
.
การได้แยกปทุมวัน ไม่เพียงแต่จะสร้างพารากอน แต่ยังรวมถึง อำนาจเหนือซัพพลายเออร์อื่นๆ ผมกำลังพูดถึง หน้าเค้กทะเลดำ มันเป็นสงครามนาวิกศาสตร์ สงครามแห่งการครองทะเล
.
ไม่ใช่แค่ยึดยูเครน แต่ต้องผลักตะวันตก ออกจากทะเลดำ เมื่อชนะฝ่ายรัสเซียก็คุมทวีป
.
สงครามยูเครน ปูตินรู้มั้ย ว่าต้องเสียบอลติก
เพื่อแลกกับทะเลดำ ?
.
บอลติกคือทะเลส่วนบน เป็นทางส่งแก็ส และผลิตภัณฑ์ไปยุโรป โดยรายได้ของรัสเซียมาจากเส้นทางนี้มากที่สุด
.
ทำไมจึงมุ่งหมายทะเลดำ ที่เป็นรายได้อันดับ 2 ของรัสเซีย
คำตอบที่คุ้มราคา คือ 'การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ'
.
+
.
ธุรกิจ ต้องทำที่หน้าเค้ก จึงได้กำไรสูงสุด
ถ้ายุโรปยังคุมพื้นที่ หรือยูเครนเป็นฝ่าย EU ส่งผ่านได้ มูลค่าเพิ่มสูงสุดจะยังอยู่กับฝ่ายยุโรป (ปาดหน้าทำกำไรก่อน) การประกอบการเพิ่มมูลค่าจะเป็นของ EU
.
ส่วนรัสเซีย จะได้บทรอง ตามซัพพลายเชน คือเป็นวัตถุดิบให้เท่านั้น เปรียบง่ายๆ ยุโรปคือเจ้าของพารากอน ส่วนรัสเซียจะป้อนวัตถุดิบ
.
อารมณ์เดียวกับ ถ้าชายฝั่ง East > เป็นของเวียดนาม ไทยก็จะสร้างโรงงานที่ดีกว่าไม่ได้ ?
.
คำตอบคือ ก็ในเมื่อเวียดนามคุมพื้นที่ประกอบการ กำไรเขาก็ย่อมเอาส่วนดีที่สุดไป (ทำของกำไรสูง) ส่วนที่เหลือลดหลั่นให้ไทย ให้อีสานทำ ปูตินรู้ตั้งแต่ต้นไง ว่าไม่มีใครใน Nato คิด
จะบุกรัสเซีย เพราะไม่มีประโยชน์ ถ้าสหรัฐฯ จะทำลายรัสเซีย เขาจะปิดทะเล โดยไม่ต้องส่งกำลังไปบุก ... ถามหน่อย บุกไปแล้วได้อะไร ?
.
มีการพูดว่า ปูตินเชื่อใน 'ยูเรเชีย' มานานแล้ว
คือแผนที่จะทำให้ผืนทวีปเอเชีย-ยุโรปเป็นหนึ่ง และดินแดนรัสเซียจะเป็นเจ้า
.
อย่างไรก็ตาม ทะเลดำตลอด 30 ปี เป็นทางขนส่งที่ทำรายได้ 'รอง' จากบอลติก -- เพราะบอลติกขายคนรวย คือยุโรปตอนเหนือ
.
แต่ปูตินเชื่อว่า เศรษฐกิจใหม่ในรอบร้อยปี จะอยู่ในโซนใต้ อันนี้นักเศรษฐศาสตร์แทบทั้งโลกพูด เพราะประชากรเอย อะไรเอย มันเห็นได้ชัด
.
++
.
ปูตินจึงต้องครองทะเลดำแบบเบ็ดเสร็จ โดยที่ต้อง กันอำนาจยุโรปไม่ให้ครอบงำชายฝั่งนี้ผ่านยูเครน สรุปก็คือ ปูตินครองทะเลดำส่วนเหนือแต่ฝ่ายเดียว
.
โซนที่รบกัน ก็คือริมทะเลนี้แหละ มันก็เรื่องเดียวกับที่สหรัฐฯ อังกฤษ มาครองเมืองท่าต่างๆ
.
ถ้าจะได้มูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์ ต้องผูกขาดทางส่งได้ครับ จึงทำคลัสเตอร์ของตัวเอง คิดค่าต่งคู่แข่ง ควบคุมราคาสินค้าได้ และมีอิทธิพลไปยังประเทศอื่นๆที่เหลือ
.
การควบคุมทะเลดำ ทำให้รัสเซียใช้
อิทธิพลทางการเมืองรอบทะเลดำ เช่น ตุรกี บัลแกเรีย โรมาเนีย จอร์เจีย และยูเครน แล้วสามารถนำไปสู่ข้อตกลงการค้าที่เป็นประโยชน์ต่อรัสเซีย เพื่อเพิ่มผลกำไรของธุรกิจของเขา
.
การมีอำนาจเหนือเส้นทางส่ง ผมพูดแบบบ้านๆ คือ 'เสี่ย' ประจำถิ่นนั่นเอง เหมือนที่สหรัฐฯมีต่อ แปซิฟิค แอตแลนติก ... เงินดอลลาร์จึงไม่ล้มไงครับ เพราะของทั้งหมดอยู่ในการคุ้มกันของสหรัฐฯ ทั้งการค้ำประกัน ความปลอดภัย ฯลฯ
.
แต่คิดว่าแองโกล อังกฤษ สหรัฐฯ จะไม่รู้ ? อะโด่ เจ้าทะเลจะไม่รู้ได้ยังไง ตะวันตกจะไม่ทางยอม
"นี้ครบรอบ 1 ปีที่ผู้ก่อการร้ายฮามาสบุกเข้าไปในอิสราเอลสังหารชาวบ้านไปนับพันคนรวมทั้งแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ที่นั่นรวมทั้งจับตัวประกันไปนับร้อยราย ขณะนี้ยังมีตัวประกันชาวไทยอยู่ในกาซาอีกเกือบ 10 ราย ฮามาสรู้ทั้งรู้ว่าคนงานไทยไม่ใช่ชาวยิว แต่ก็ยังตั้งใจฆ่าทิ้งเพราะถือว่าเป็นคนนอกศาสนาที่เป็นศัตรู
แต่จนถึงวันนี้ ยังไม่เห็นพรรคส้มประนามการก่อการร้ายครั้งนี้เลย ไม่มีใครไปเยี่ยมญาติผู้เสียชีวิตและญาติตัวประกัน แถมมี สส.บางคนยังโพสโซเชียลสนับสนุนกลุ่มฮามาสในการรบกับอิสราเอลอยู่เลย คุณคิดว่าญาติของแรงงานไทยที่เสียชีวิตและที่ยังถูกจับเป็นตัวประกันเขาจะคิดยังไง??
บอกตามตรงว่าเรื่องนี้ผมและโหวตเตอร์พรรคส้มจำนวนมากไม่เข้าใจวิธีคิดของพวกคุณนะ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"ผมจะบอกให้ว่าการเกิดขึ้นของกระแส anti-woke และ anti-fem ทั้งในไทยและในตะวันตก มันไม่ได้เกิดขึ้นจากฝั่งตรงข้ามเลย มันเกิดขึ้นจากความสุดโต่งอย่างโง่ๆของกลุ่ม woke\กลุ่ม feminist เองนั่นแหล่ะ ที่ทำให้เกิดกระแสตีกลับจากคนกลางๆที่เขาเอือมระอากับกิจกรรมและความเชื่อสุดโต่งของคนพวกนี้
ในฝั่งนึง คนกลางๆ เขารับไม่ได้กับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงที่คลั่งลัทธิทางศาสนา เขาต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิให้สตรีและ LGBT ในประเทศมุสลิมเหล่านั้นมาโดยตลอด
แต่ในอีกฝั่งหนึ่ง เขามองเห็นความสุดโต่งอย่างไร้ตรรกะอีกขั้วของเฟม\woke ที่เหมือนคนโรคจิตที่มีปัญหาทางบ้าน และเป็นความสุดโต่งที่ตรงข้ามกับมุสลิมคลั่งศาสนาที่อยู่อีกฝั่ง ซึ่งมันก็หนักหนาอยู่แล้ว
ทีนี้ในช่วงปีที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ประหลาดทั่วโลกที่กลุ่มสุดโต่งสองกลุ่มนี้มาผสมกันกลายเป็นตัวประหลาดที่สร้างความรำคาญให้แก่คนทั่วโลกตามเมืองใหญ่ต่างๆ อย่างที่เราเห็นกันหลังวันที่ 7 ตุลา
คนกลางๆที่เขาต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี เพื่อคนที่ถูกรังแก เพื่อ LGBT เขาเห็นตัวประหลาดที่โง่บัดซบเหล่านี้แล้วเขาทนดูไม่ไหว เขาเกิดความรู้สึกว่ากูจะทำไปเพื่อพวกมึงทำไมวะ ในเมื่อพวกมึงแยกแยะมิตรกับศัตรูไม่ออก จึงทำให้เกิดกระแส anti-woke และ anti-feminist ขึ้นอย่างเงียบๆทั่วโลก และกระแสนี้จะส่งผลต่อการเลือกตั้งในหลายๆประเทศแน่นอน"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ความสดใส ที่มาน้อยนิดน่ะ มันบ่งบอกถึง ความล้ำค่า ของความน่ารักยังไงละ ถ้าโผล่มาเยอะ ความสดใสนั้น มันจะลดความล้ำค่า บนจอไปนะ
#มิตรสหายโอตาคุ
"รักชาติแบบเกลียดฝรั่ง แต่อวยจีน แบกจีน เวลคัมจีนให้มาถลุงทรัพยากรไทย นี่ก็ไม่รู้รักชาติแบบใด"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"น่าเสียดาย คนไทยจำนวนมาก เข้าใจว่าอเมริกาเป็น "ประชาธิปไตย"
ถ้าเอาการเลือกตั้งแบบอเมริกาไปให้ประเทศยุโรปจำนวนมากใช้ รับรองว่าประชาชนเขาไม่เอา"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ชนะให้ได้นะโดนารุโดะคุง
https://i.imgur.com/y2bXSbT.jpeg
"How can someone support the liberal party in Thailand and also back Trump? Or support Thai conservatives and still root for Kamala?"
Well, today you learned, politics is a spectrum, it’s about agendas and benefits, and people’s minds are deeper and more sophisticated than a dumbass like you can handle."
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"“พระ” ถ้ามีมากเกินไปก็ไม่ดี เพราะเป็น “ส่วนเกิน” ในระบบเศรษฐกิจ ดูดซับเงินจากสังคมไป แต่คืนกลับมาใช้ประโยชน์ได้ต่ำ ถ้าเม็ดเงินก้อนเดียวกันไหลไปสู่มูลนิธิการศึกษา หรือมูลนิธิของโรงพยาบาล สังคมจะได้ประโยชน์มากกว่า ไม่นับว่าแรงงานที่หายไป สร้างประโยชน์ได้มากกว่าไปบวช"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
เลอะเทอะ เหยียดเพศแล้วมันเกี่ยวกับ lgbtq ยังไง ตรงนั้นมันคือมารยาท และการเคารพสิทธิ
สิ่งที่คุณกำลังบอกคือ การเป็น lgbtq มันวิเศษวิโสมากจนต้องตั้งหลักสูตรมาเพื่อแจ้งแก่สังคมงั้นเหรอ เลอะเทอะ ถ้าแค่เรื่องกลัวโดนเหยียดไปปลูกฝังเรื่องการเคารพสิทธิของแต่ละบุคคลจะตรงจุดกว่า
พี่เสพพูดถึง พปชร https://imgur.com/KxYFGMY
"it’s been almost 3 years now, and the sanctions against russia clearly haven’t stopped her ability to wage war. the west needs to do something that will really damage russia’s economy
let russia into the eu"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.