และแล้วความเคลื่อนไหวก็ปรากฏ
..............
(1)
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
[ ผมพร้อมสู้กับความพยายามคืนชีพ ITV เพื่อสกัดกั้นพวกเรา ]
.
https://www.facebook.com/photo?fbid=816857846466659&set=a.490911722394608
ผมจะยกข้อมูลตามแบบนำส่งงบการเงิน (ส.บช.3) ของ ITV เช่น ปีบัญชี 2561-2562 ระบุประเภทธุรกิจว่า “กิจกรรมของบริษัทโฮลดิ้งที่ไม่ได้ลงทุนในธุรกิจการเงินเป็นหลัก” ปีบัญชี 2563-2564 ระบุประเภทธุรกิจว่า “สื่อโทรทัศน์” โดยในส่วนสินค้า/บริการ ระบุว่า “ปัจจุบันไม่ได้ดำเนินการเนื่องจากติดคดีความ” ส่วนในปีบัญชี 2565 ระบุประเภทธุรกิจว่า “สื่อโทรทัศน์” โดยในส่วนสินค้า/บริการ ระบุว่า “สื่อโฆษณาและผลตอบแทนจากการลงทุน” ทั้งนี้ เนื้อหาในหมายเหตุงบการเงินไม่ปรากฏรายได้จากกิจการสื่อโทรทัศน์และสื่อโฆษณาตามที่ระบุประเภทธุรกิจไว้แต่อย่างใด โดยงบการเงินปีบัญชี 2565 มีการนำส่งงบการเงินต่อ DBD ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 (ก่อนวันเลือกตั้ง เพียง 4 วัน)
.
แสดงให้เห็นว่า การจัดทำแบบนำส่งงบการเงินและข้อมูลในหมายเหตุประกอบงบการเงินมีความไม่สอดคล้องกัน และเป็นข้อพิรุธที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อความที่ระบุในแบบนำส่งงบการเงิน จากเดิม “กิจกรรมของบริษัทโฮลดิ้งที่ไม่ได้ลงทุนในธุรกิจการเงินเป็นหลัก” แก้เป็น “สื่อโทรทัศน์” ทั้งๆ ที่ประกอบกิจการไม่ได้ และปีล่าสุดแก้เป็น “สื่อโฆษณาและผลตอบแทนจากการลงทุน” ทั้งๆ ที่ในหมายเหตุประกอบงบการเงินระบุรายได้จากดอกเบี้ยและการลงทุนในตราสารหนี้
.
และในรายงานการประชุมผู้ถือหุ้น ITV เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 มีการตั้งคำถามของผู้ถือหุ้นบางรายว่า “บริษัท ไอทีวี มีการดำเนินการเกี่ยวกับสื่อหรือไม่” ซึ่งเป็นการตั้งคำถามที่ขอให้ทุกท่านที่มีใจเป็นธรรมพิจารณาว่า เป็นคำถามมีความมุ่งหมายทางการเมืองหรือไม่ และให้ท่านตอบตัวท่านเอง ว่านี่คือพฤติการณ์ความพยายามฟื้นคืนชีพ ITV ให้กลับมาเป็นสื่อมวลชน ใช่หรือไม่?
(2)
เป็นผอ.สนง.อินทัช! คนทำบัญชี ITV ยังไม่แจงปม
'พิธา’ชี้พิรุธแบบส.บช.3 แก้ 'สื่อโทรทัศน์'
https://www.isranews.org/article/isranews/119129-inves0999-24.html?fbclid=IwAR1TrrH9RSMPLyUynFMN0wHrLh94Nngs5w25-aBwmcTwAUrqarnR3ccWn_Y
นายนฤวัต ปฏิเสธที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีนี้ ระบุเพียงสั้นๆ ว่า "ตอนนี้ยังมีสภาพเป็นพนักงานอยู่ ต้องรอหลังจากนี้อีกระยะหนึ่ง ยังให้ข้อมูลไม่ได้"
ขณะที่สำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลพบว่า นายนฤวัต มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานบัญชีบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ถืออยู่จำนวน 638,602,846 หุ้น มูลค่า 3,193,014,230 บาท
ปัจจุบัน บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) มีบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ของ นาย สารัชถ์ รัตนาวะดี เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
กล่าวสำหรับนายสารัชถ์ รัตนาวะดี ในช่วงเดือนสิงหาคม 2565 เว็บไซต์ Forbes.com ในส่วนของ ‘The Real-Time Billionaires List’ จัดอันดับมหาเศรษฐีของโลกและของประเทศต่างๆ ปรากฏข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยที่กลายเป็นกระแสอย่างรวดเร็ว เมื่อตำแหน่งของคนที่รวยที่สุดในประเทศไทย คือ นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของเมืองไทย มีทรัพย์สินสุดมั่งคั่งสุทธิที่ 423,330 ล้านบาท แทนสองเจ้าสัว มหาเศรษฐีอย่าง นายเจริญ สิริวัฒนภักดี และ นายธนินท์ เจียรวนนท์
.........................
(3)
กล่าวโดยสรุป สถานะไอทีวีตั้งแต่ถูกปิดมาตั้งแต่ปี 2550
ตั้งแต่ 2558 ยื่นว่าไม่ใช่สื่อโทรทัศน์ หรือไม่ได้ประกอบกิจการสื่อเนื่องจากมีคดีความ
จนกระทั่งล่าสุด 2566 (ก่อนการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566)
เพิ่งยื่นว่าเป็นสื่อโทรทัศน์
และคนทำ ไม่ใช่ใครที่ไหน
แต่คือคนของ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
ซึ่งมีบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
ของ นาย สารัชถ์ รัตนาวะดี เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อีกทีหนึ่ง
ส่วนเรื่องนี้จะมีลับลม คมในอะไร ที่เกี่ยวโยงไปที่นโยบายของพรรคก้าวไกลที่จะมา "เปลี่ยนประเทศไทย" ภายหลังชนะเลือกตั้ง และกำลังจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้ อย่างไรบ้าง
ก็รอติดตามกัน