เส้นวิวาทะการเมือง สังคม เศรษฐกิจ ข่าว
Last posted
Total of 900 posts
เส้นวิวาทะการเมือง สังคม เศรษฐกิจ ข่าว
ขอแสดงความสงสัยแบบซื่อๆ เลยนะ
ทำไมภาพพรรคเพื่อไทยทั้งที่พรรคเองและแฟนคลับฉายออกมาในช่วงนี้ ไม่เหมือนพรรคเพื่อไทยที่เราเคยรู้จัก
พรรคเพื่อไทยที่เคยเป็นรัฐบาลสามสมัย เคยชนะแลนด์สไลด์มาสามครั้ง ยุคไทยรักไทย ทักษิณสามารถกวาดมุ้งการเมืองสารพัดทิศ/พิษมารวมอยู่ในพรรค แล้วจัดการสยบ/สลาย จนพรรคสามารถเติบโตเป็นเอกภาพพอสมควร เข้าไปจัดการปฏิรูประบบราชการได้บางส่วน สส.ในพรรคล้วนเขี้ยวลากดิน หลายคนมีประสบการณ์ทางการเมืองมานานก่อนเกิดพรรคไทยรักไทยด้วยซ้ำ แม้ว่าหลายคนจะผละจากพรรคไปหลังรัฐประหาร แต่ก็มีอีกหลายคนที่อยู่กับพรรคมาถึงทุกวันนี้
แต่ทำไมก่อนและหลังการเลือกตั้ง 2566 ทั้งบางคนในพรรคเพื่อไทยและเอฟซีต่างโอดครวญว่าพรรคถูกกระทำต่างๆ จากพรรคก้าวไกล ซึ่งโคตรจะเด็กเมื่อวานซืน หลายคนอายุไม่ถึงเกณฑ์จะเป็นรัฐมนตรีด้วย พรรษาทางการเมืองก็นับได้ไม่เกินสิบนิ้ว แต่เอฟซีกลับโอดครวญราวกับถูกเด็กพวกนี้ขี่คอตลอดเวลา
สรุปว่าในสายตาเอฟซีพรรคเพื่อไทย ตกลงนักการเมืองพรรคเพื่อไทยเก่งหรือไม่เก่ง เขี้ยวลากดินหรืออ่อนด้อย คร่ำหวอดหรือไร้เดียงสา มีประสบการณ์หรืออ่อนต่อโลก?
จะเอายังไงกันแน่ ถ้าเอฟซีเชื่อว่านักการเมืองพรรคเพื่อไทยถูกไอ้ต๋อมอดีตกองบรรณาธิการฟ้าเดียวกันไล่บี้หักเหลี่ยมได้ แบบนี้ไปเจอพวกข้าราชการในกระทรวง ไม่ถูกปั่นหัวหลอกกลั่นแกล้งจนพังหมดเหรอ? แล้วจะบริหารกระทรวงยังไง?
คือภาพนักการเมืองเพื่อไทยในสายตาเรามันไม่ได้เป็นยังงั้น จริงๆ เราห่วงคนของพรรคก้าวไกลมากกว่าว่าจะโดนข้าราชการกลั่นแกล้ง แต่พอเห็นมีการโอดครวญกันมากว่าพรรคเพื่อไทยถูกกระทำโดยไม่สามารถตอบโต้อะไรได้เลย เรารู้สึกสับสนว่าโลกมันกลับตาลปัตรอะไรหรือเปล่า ตกลงมันยังไงกันแน่ นักการเมืองพรรคเพื่อไทยเก่งหรือไม่เก่ง เขี้ยวหรือไม่เขี้ยว แล้วจะเอาข้าราชการอยู่มือไหมถ้าอ่อนต่อโลกขนาดนี้?
#ยังไม่เมา
คนเลือกสลากเลขท้าย 31 มากดดันอะไรกับคนเลือกเลขท้าย 29 ไปกดดันกับเลขท้ายของตัวเองสิ
#จากกลุ่ม FC แดง
"บรรยากาศตอนนั้นเป็นยังไงพอเข้าไปเห็นคนอื่นแล้วรับรู้ว่าแพ้"
"หน้าตาเหมือนกับตอน ลิเวอร์พูล ไม่ได้ไป ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แล้ว"
#จากรายการเฮียสอ
สิ่งที่เพื่อไทยทำได้เฉพาะหน้านี้คือทำให้รัฐบาลผสมและสภาผู้แทนใหม่มีน้ำหนักของเพื่อไทยมากที่สุด หัวใจคือตำแหน่งประธานสภาที่ทำหน้าที่เสนอชื่อนายก จัดคิวกฎหมายและกำหนดวาระการประชุมสภา รวมทั้งให้ได้ตำแหน่งรมต.กระทรวงสำคัญๆ
ทั้งหมดนี้เพื่อให้ได้ "รัฐบาลเพื่อไทยที่มีพิธาเป็นนายกฯ" วาระ กฎหมายญัตติของก้าวไกลจะถูกปัดตกในครม.และในสภา ส่วนวาระกฎหมายญัตติของเพื่อไทยจะผ่านฉลุยสร้างผลงานให้เพื่อไทย ขณะที่พิธาและก้าวไกลเป็น "เป็ดง่อย" ทั้งในครม.และในสภา
ก้าวไกลจะต้องยืนให้มั่น ไม่หวั่นเกรงคำขู่แบล็กเมล์ต่างๆสารพัด ยึดตำแหน่งยุทธศาสตร์ไว้ให้จงได้ ถ้าถอยวันนี้ ก็จะต้องถอยตลอดไป
#ก้าวไกล #เลือกตั้ง66 #รัฐบาลก้าวไกล
“ใช่ครับ นโยบายพรรคก้าวไกลไม่ได้ออกแบบมาเพื่อพวกคุณ
เค้าออกแบบมาเพื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศครับ”
ช่วงนี้เริ่มเห็นคนพูดถึงนโยบายเศรษฐกิจของพรรคก้าวไกลมากขึ้น โดยเฉพาะในเพจการเงินดังๆหลายเจ้า โดยเฉพาะเพจการลงทุน คอมเมนท์มักจะไปในทางแซะและแซว รวมถึงแสดงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายของก้าวไกลว่า จะทำตลาดหุ้นพัง นักลงทุนหนีหาย หลายคนก็แซะไปว่า ก็คนส่วนใหญ่เขาเลือกแบบนี้นิ ส่วนตัวในฐานะที่ทำงานอยู่ภาคการเงิน ขอแชร์ความคิดเห็นประมาณนี้ละกันครับว่า
.
ใช่ครับ นโยบายพรรคก้าวไกลไม่ได้ออกแบบมาเพื่อพวกคุณ
เค้าออกแบบมาเพื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศครับ
.
ทำไมผมถึงกล้าพูดแบบนี้ เพราะสถิติของคนไทยมันบอกอยู่น่ะสิครับ
.
คุณรู้ไหมว่า ปัจจุบัน ถ้าเอาคนไทยมายืนเรียงต่อกัน 66 ล้านคน
คนที่อยู่ลำดับที่ 33,000,000 หรือ ตรงกลางของประเทศ มีรายได้ต่อเดือนเท่าไหร่?
.
คำตอบคือ 7,000 บาท/เดือนครับ (ข้อมูลปี 2564)
.
ใช่ครับ 50% หรือครึ่งหนึ่งของคนไทย มีรายได้ต่อเดือนไม่ถึง 7,000 บาทต่อเดือน!
.
ที่น่าตกใจคืออะไรรู้ไหมครับ
.
ถ้านับต่อไป ไปหาคนที่ยืนอยู่ตำแหน่งที่ 10% ที่รวยที่สุดในประเทศ
รายได้เฉลี่ยต่อเดือนเท่าไหร่ ทราบไหมครับ
.
คำตอบคือ 34,463 บาทต่อเดือน
แปลว่า ถ้าวันนี้ คุณมีเงินเดือนเยอะกว่า 35,000 บาทต่อเดือน
คุณรวยกว่าคนอีก 59 ล้านคนในประเทศไทย หรือ 90%ของประเทศ
และก็ใช่ครับ พวกคุณเป็นคนส่วนน้อยของประเทศนี้ รวมถึงผมด้วย
นโยบายทั้งเรื่องรัฐสวัสดิการและการเก็บภาษีตลาดทุน รวมถึงการเก็บภาษี Wealth tax การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามลดความเหลื่อมล้ำนี้ ย่อมส่งผลกระทบทางลบระยะสั้นต่อตลาดทุนแน่นอน
.
ถ้ามองในมุมกลับ ถ้าเราเชื่อว่าการประกาศนโยบายต่อสู้กับกลุ่มทุนผูกขาดทำให้ตลาดหุ้นลง แปลว่า เรากำลังยอมรับว่า ประเทศนี้ตลาดทุนถูกผูกขาดโดยกลุ่มธุรกิจเพียงไม่กี่กลุ่มเท่านั้นไม่ใช่หรือแล้วเรายังจะกล้าคาดหวังว่าตลาดทุนจะเติบโตต่อในอนาคตระยะยาวได้อย่างไรในสภาวะที่ตลาดมีการผูกขาด หากเป็นแบบนี้ยิ่งควรสนับสนุนนโยบายยกเลิกการผูกขาดเหล่านี้เลยไม่ใช่หรือ?
.
แถมนิดหน่อย : นโยบาย เบี้ยผู้สูงอายุ 3,000 บาท
มีคนมองว่า ไม่ได้ก่อให้เกิด productivity ใดๆ ทำไมต้องไปให้ด้วย แล้วยังต้องใช้เงินกว่า 6แสนล้านมา อาจมีปัญหากับวินัยการคลังได้ในอนาคต
ขอเสนอความเห็นแบบนี้ครับ 3,000 นี้ไม่ได้ก่อให้เกิด productivityทางตรงครับ แต่มันก่อให้เกิด productivity ทางอ้อมจากลูกหลานคนในครอบครัวครับ
ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้อง 3,000 แต่พอไปดูตัวเลขสถิติก็เข้าใจ
เพราะประเทศไทยนั้น เส้นความยากจนอยู่ที่ 3,000 บาทต่อเดือนครับ
พูดง่ายๆก็คือ 10% ที่อยู่ฐานล่างสุดของไทยมีรายได้เฉลี่ยนต่อเดือนที่ 2,100 บาทเท่านั้นเองการสนับสนุนเงินจำนวนเท่านี้คือการดึงกลุ่มคนออกจากพื้นฐานเส้นความยากจน …“ทั้งประเทศ” แบบไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังจริงๆ
สิ่งที่ตามมาคือ ลูกหลาน สามารถออกไปเรียน ไปทำงาน โดยไม่ต้องเป็นห่วงพ่อแม่ปู่ย่าตายาย ไม่ต้องคอยส่งเงินกลับมาให้ สามารถทำงาน เก็บออม ลงทุน สร้างโอกาสในชีวิตให้ตัวเองได้มากขึ้น สุดท้ายแล้วมันจะเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพด้วยตัวของคนๆนั้นเอง และผลตอบแทนของสิ่งนี้จะวนมาอยู่ในรูปแบบของการบริโภคที่เพิ่มขึ้น ขยาย purchasing power หรือ อำนาจการซื้อของแต่ละบุคคล สุดท้ายก็จะเป็น consumptionที่ทำให้ GDP โตขึ้นในอนาคตครับ
ปล. สำหรับนักลงทุนรายย่อยที่กังวล อยากจะบอกว่า ตลาดหุ้นไทยไม่ไปไหนมาจะ10ปีแล้วนะครับ คนที่รวยขึ้นมีแค่เจ้าของธุรกิจรายใหญ่ ส่วนเม่าไทยก็อยู่ที่เดิมทั้งหมดแหละครับ หุ้นจะลงรอบนี้ก็เตรียมซื้อครับ ไม่ใช่เตรียมขาย
อีกนิดนึง รอบนี้ดอกเบี้ยขึ้นตั้งแต่ต้นปี ตลาดหุ้นจะเอาที่ไหนมาขึ้นล่ะครับ
เดี๋ยวแปะลิงค์ ref ข้อมูลสถิติรายได้ไว้ให้ในคอมเมนท์นะครับ
ทุนจีนออกไป
https://marketeeronline.co/archives/309408
>>13 ท่านออกอีเว้นท์กับก้าวไก่อยู่
ประชาชนชาวกทม.นับล้านยืนรอไปก่อนนะ
https://imgur.com/9uMmEQM
ลดราคารถไฟฟ้า
ฝุ่นหาย
จัดการแผงลอย
เลือกชชเพราะสามสิ่งนี้ ไหนอ่ะกั๊บ
"ถ้าความสามารถในการอภิปราย สะท้อนคุณภาพในการบริหาร ประเทศไทยคงเจริญโชติช่วงชัชวาลในรัฐบาลประชาธิปัตย์แล้วล่ะครับ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง ตอบกลับ ไหม
"ถ้าความอาวุโส สะท้อนคุณภาพในการบริหาร ประเทศไทยคงเจริญโชติช่วงชัชวาลในรัฐบาลไอ้ตู่แล้วล่ะครับ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง ตอบกลับ สวะโง่ๆ
ไม่ต้องทะเลาะกันครับไม่มีทั้งคู่ ไม่เหมือน ก.ไก่ ที่ผลงานมากมาย
"ถ้าความสดใหม่ สะท้อนคุณภาพในการบริหาร ประเทศไทยคงเจริญโชติช่วงชัชวาลในรัฐบาลปูแล้วล่ะครับ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง ตอบกลับ สวะโง่ๆ
เห็นคนกำลังเดือดร้อนกับนโยบายเศรษฐกิจของก้าวไกล ผมคิดว่าคนที่กำลังโวยวายกันตอนนี้จำนวนมากเลือกก้าวไกลด้วย เรื่องนี้แสดงให้เห็นเลยว่าไทยยังมีคนที่มีspectrumทางการเมืองเป็นซ้ายการเมือง แต่ขวาเศรษฐกิจอยู่เต็มไปหมด
ในการเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านมา มันไม่มีพรรคใหญ่รองรับคนกลุ่มนี้ พรรคฝ่ายขวาในปัจจุบันก็ห่วยกันเหลือเกิน เขาเลยต้องมาเลือกก้าวไกล ที่ตรงใจทุกอย่างยกเว้นเศรษฐกิจ
แต่เลือกตั้งครั้งหน้าผมว่ามาแน่นอน และในอีก8ปีจะกลายเป็นพรรคใหญ่ ฝ่ายซ้ายเตรียมตัวไว้เลย เราอาจจะได้เห็นคนหนุ่มรูปหล่อโปรไฟล์ดีแบบพิธา แต่เป็นฝ่ายขวา (ผมเอง แฮร่😜) พรรคแบบนี้เกิดง่ายด้วยเพราะคนมีตังสนับสนุน ไม่เหมือนพรรคฝ่ายซ้ายแบบก้าวไกล ถ้าไม่มีคนที่มีศักยภาพแบบธนาธร ไม่มีทางเกิดมาได้แน่ๆ
สิ่งที่น่าเศร้าและน่าผิดหวังที่สุด ก็คือ ทั้งๆ ที่นักกฎหมายและคนทั่วไปทราบถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญเป็นอย่างดีว่าเหตุใดถึงห้าม สส. เป็นเจ้าของหรือถือหุ้นสื่อ และศาลฎีกาในคดีล่าสุด (คดีชาญชัย อิสระเสนารักษ์, 2566) ก็ได้วินิจฉัยไว้ได้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจนที่สุด แทนที่จะช่วยกันส่งเสริมให้การปรับใช้กฎหมายเกิดความชัดเจนแน่นอนและเป็นธรรมอย่างที่ศาลฎีกาได้แสดงไว้เป็นตัวอย่าง แต่นักกฎหมายระดับครูบาอาจารย์ หรืออดีตตุลาการชั้นผู้ใหญ่ กลับช่วยกันชี้ช่องให้เกิดการตีความกฎหมายที่บิดเบือนเจตนารมณ์ สร้างความสับสนและทำลายความแน่นอนในนิติฐานะ อย่างไม่กระดากอาย
>>30 มึงไม่รู้ใช่ไหม มึงฟังให้ดีๆนะ
1. ปีที่แล้ว สส ของพรรคไทยภักดี สลิ่มแท้ ถือหุ้น ช่อง 9 แค่ 1 หุ้น เจอ กกต. ฟันห้ามยุ่งเกี่ยวการเมือง 20 ปีเพราะรู้ตัวว่ามีหุ้นเสือกสมัคร สส ดังไอ้นั้นไอ้ข้ออ้าง 0.004 เนี่ยตกไปได้เลย
2. Itv ยังจดทะเบียนกับกรมการค้าว่ายังทำธุรกิจเกี่ยวกับสื่อ ดังนั้น itv ยังเป็นบริษัทสื่อสารมวลชนอยู่ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงข้อนี้ ต่อให้แม่งจะไม่ได้ทำอะไรเพราะกำลังฟ้องร้องกันอยู่ก็เหอะ
มึงอะเลิกฟังนักวิชาเกินของพวกมึงได้แล้ว พูดเข้าข้างเพื่อบิดเบือนกฎหมานแม่งอยู่นั่นแหละ
ถ้า พิธา ชนะคดีงวดนี้มันต้องใช้ เส้นก๋วยเตี๋ยว อย่างเดียวแบบ ทักษิณ ตอนคดีซุกหุ้นเลย แต่ไอ้ พิธา มันไม่เก่งเหมือน ทักกี้ ก่อนมาเล่นการเมืองบริษัทมันขาดทุนตั้งเป็น 100 ล้าน ตอยนี้ทำท่าบ้มละลายด้วยแล้วใครจะช่วยให้มันเป็นนายกวะ
itv ไม่ใช่สื่อแต่อดีตพนักงาน itv ก็กระจายไปอยู่สื่ออื่นๆแล้วเนียนช่วยโปรโมตก้าวไกล
ถ้าจับไม่ได้ก็ /เป็นไปดั่งกลอุบาย
กกต มันรอเชือดนานแล้ว ตอนมันให้สัมภาษณ์ดิ ลุงตูบแพ้ แต่ กกต มันยิ้มดีใจอะ และ ลุงตูบมันตั้ง กกต มาอยู่แล้ว
อย่าไปคิดว่า ทวิตเตอร์ เฟสบุค คือโลกทั้งหมดเลย ตอนนี้ทำเอาแสงปลุกมวลชนแค่นั้น อะ กไก่
ทักษิณ ออกไป ทักษิณ ออกไป ทักษิณ ออกไป
---------กู้ชาติ ---------
และแล้วความเคลื่อนไหวก็ปรากฏ
..............
(1)
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
[ ผมพร้อมสู้กับความพยายามคืนชีพ ITV เพื่อสกัดกั้นพวกเรา ]
.
https://www.facebook.com/photo?fbid=816857846466659&set=a.490911722394608
ผมจะยกข้อมูลตามแบบนำส่งงบการเงิน (ส.บช.3) ของ ITV เช่น ปีบัญชี 2561-2562 ระบุประเภทธุรกิจว่า “กิจกรรมของบริษัทโฮลดิ้งที่ไม่ได้ลงทุนในธุรกิจการเงินเป็นหลัก” ปีบัญชี 2563-2564 ระบุประเภทธุรกิจว่า “สื่อโทรทัศน์” โดยในส่วนสินค้า/บริการ ระบุว่า “ปัจจุบันไม่ได้ดำเนินการเนื่องจากติดคดีความ” ส่วนในปีบัญชี 2565 ระบุประเภทธุรกิจว่า “สื่อโทรทัศน์” โดยในส่วนสินค้า/บริการ ระบุว่า “สื่อโฆษณาและผลตอบแทนจากการลงทุน” ทั้งนี้ เนื้อหาในหมายเหตุงบการเงินไม่ปรากฏรายได้จากกิจการสื่อโทรทัศน์และสื่อโฆษณาตามที่ระบุประเภทธุรกิจไว้แต่อย่างใด โดยงบการเงินปีบัญชี 2565 มีการนำส่งงบการเงินต่อ DBD ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 (ก่อนวันเลือกตั้ง เพียง 4 วัน)
.
แสดงให้เห็นว่า การจัดทำแบบนำส่งงบการเงินและข้อมูลในหมายเหตุประกอบงบการเงินมีความไม่สอดคล้องกัน และเป็นข้อพิรุธที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อความที่ระบุในแบบนำส่งงบการเงิน จากเดิม “กิจกรรมของบริษัทโฮลดิ้งที่ไม่ได้ลงทุนในธุรกิจการเงินเป็นหลัก” แก้เป็น “สื่อโทรทัศน์” ทั้งๆ ที่ประกอบกิจการไม่ได้ และปีล่าสุดแก้เป็น “สื่อโฆษณาและผลตอบแทนจากการลงทุน” ทั้งๆ ที่ในหมายเหตุประกอบงบการเงินระบุรายได้จากดอกเบี้ยและการลงทุนในตราสารหนี้
.
และในรายงานการประชุมผู้ถือหุ้น ITV เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 มีการตั้งคำถามของผู้ถือหุ้นบางรายว่า “บริษัท ไอทีวี มีการดำเนินการเกี่ยวกับสื่อหรือไม่” ซึ่งเป็นการตั้งคำถามที่ขอให้ทุกท่านที่มีใจเป็นธรรมพิจารณาว่า เป็นคำถามมีความมุ่งหมายทางการเมืองหรือไม่ และให้ท่านตอบตัวท่านเอง ว่านี่คือพฤติการณ์ความพยายามฟื้นคืนชีพ ITV ให้กลับมาเป็นสื่อมวลชน ใช่หรือไม่?
(2)
เป็นผอ.สนง.อินทัช! คนทำบัญชี ITV ยังไม่แจงปม
'พิธา’ชี้พิรุธแบบส.บช.3 แก้ 'สื่อโทรทัศน์'
https://www.isranews.org/article/isranews/119129-inves0999-24.html?fbclid=IwAR1TrrH9RSMPLyUynFMN0wHrLh94Nngs5w25-aBwmcTwAUrqarnR3ccWn_Y
นายนฤวัต ปฏิเสธที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีนี้ ระบุเพียงสั้นๆ ว่า "ตอนนี้ยังมีสภาพเป็นพนักงานอยู่ ต้องรอหลังจากนี้อีกระยะหนึ่ง ยังให้ข้อมูลไม่ได้"
ขณะที่สำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลพบว่า นายนฤวัต มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานบัญชีบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ถืออยู่จำนวน 638,602,846 หุ้น มูลค่า 3,193,014,230 บาท
ปัจจุบัน บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) มีบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ของ นาย สารัชถ์ รัตนาวะดี เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
กล่าวสำหรับนายสารัชถ์ รัตนาวะดี ในช่วงเดือนสิงหาคม 2565 เว็บไซต์ Forbes.com ในส่วนของ ‘The Real-Time Billionaires List’ จัดอันดับมหาเศรษฐีของโลกและของประเทศต่างๆ ปรากฏข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยที่กลายเป็นกระแสอย่างรวดเร็ว เมื่อตำแหน่งของคนที่รวยที่สุดในประเทศไทย คือ นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของเมืองไทย มีทรัพย์สินสุดมั่งคั่งสุทธิที่ 423,330 ล้านบาท แทนสองเจ้าสัว มหาเศรษฐีอย่าง นายเจริญ สิริวัฒนภักดี และ นายธนินท์ เจียรวนนท์
.........................
(3)
กล่าวโดยสรุป สถานะไอทีวีตั้งแต่ถูกปิดมาตั้งแต่ปี 2550
ตั้งแต่ 2558 ยื่นว่าไม่ใช่สื่อโทรทัศน์ หรือไม่ได้ประกอบกิจการสื่อเนื่องจากมีคดีความ
จนกระทั่งล่าสุด 2566 (ก่อนการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566)
เพิ่งยื่นว่าเป็นสื่อโทรทัศน์
และคนทำ ไม่ใช่ใครที่ไหน
แต่คือคนของ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
ซึ่งมีบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
ของ นาย สารัชถ์ รัตนาวะดี เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อีกทีหนึ่ง
ส่วนเรื่องนี้จะมีลับลม คมในอะไร ที่เกี่ยวโยงไปที่นโยบายของพรรคก้าวไกลที่จะมา "เปลี่ยนประเทศไทย" ภายหลังชนะเลือกตั้ง และกำลังจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้ อย่างไรบ้าง
ก็รอติดตามกัน
>>38 ปัญหาไม่ใช่อยู่ว่ามันกลับเป้นสื่อเพราะชนะคดีหรือเปล่า เพราะต่อให้ชนะคดีตอนนี้มันก็ไม่มีผลอะไรเพราะจุดสำคัญมันอยู่ตอนวันที่สมัครรับเลือกตั้ง ตอน พิธา ไปลงทะเบียน สส ITV ยังจดทะเบียนต่อกรมการค้าภายในว่าเป็น บริษัททำเกี่ยวกับสื่อหรือเปล่า ต้องไปดู ใบรับรองนิติบุคคล โน่น (ถ้ามึงทำร้านค้ามงจะรู้มันจะมีใบรับรองว่ามึงทำกิจการเกี่ยวกับอะไร) สิ่งสำคัญคือ เอกสารทะเบียนนิติบุคคล ต่างหากไม่ใช่ความรู้สึก
>>39 และ tj เคยมีประเด็นนี้เลย แม้ในทางปฏิบัติจะไม่ได้ประกอบกิจการสื่อแล้ว แต่ตราบใดที่ไม่ยอมถอนการจดทะเบียนว่าเป็นสื่อออก ศาลก็ยังคงนับว่าเป็นสื่ออยู่ดี โดยให้เหตุผลว่าสามารถเป็นสื่อเมื่อไรก็ได้ (แต่เอาจริงๆ กูไม่ค่อยเห็นด้วยกับคำวินิจฉัยแบบนี้เท่าไรนะ เพราะมันขัดกับความเคยชินของคนทั่วไปทีทำธุรกิจไง ปกติฟอร์มจดทะเบียนบริษัท ค่า default ตั้งมาแต่แรกนี่คือมันให้จดทุกประเภทแบบครอบจักรวาล คนทั่วไปก็ไม่ค่อยไปเลือกคัดออกหรอก)
ตอนนี้คุณอยู่ในเกมของพวกผม คุณต้องรับสภาพ
อะไรที่ฝ่ายผมบอกว่าถูก มันก็ต้องถูก อะไรที่ฝ่ายผมบอกว่าผิด มันก็ต้องผิด เพราะฝ่ายผมมีเสียงสนับสนุนเยอะกว่า
คุณคิดว่าคนที่มีอำนาจสูงสุดในการสั่งโยกย้ายเจ้าหน้าที่รัฐ และเป็นผู้กำหนดนโยบายต่างๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐนำไปปฏิบัติตามนโยบายนั้นๆ คือใคร?
เจ้าหน้าที่รัฐ แลข้าราชการทุกคน ของทุกกระทรวง จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงนั้นๆ โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ
และถ้าคุณไม่ทำตามคำสั่ง คุณก็ถูกสั่งย้าย
ถ้าฝ่ายผมเป็นรัฐบาล และผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แล้วผมสั่งให้ตัดลดงบสนุนสนุนของสถานศึกษาแห่งนี้ คุณจะกล้าขัดคำสั่งผมไหม?
ทำไมหมอพหูสูตรรู้ทุกเรื่องแถวบ้านกูช่วงนี้เชียร์ส้มหนักจังวะ จำได้ว่าเมื่อไม่กี่ปีก่อนหมอท่านนี่เหลืองอ๋อยเหมือนกล้วยหอมเลย งง
>>45 เผื่อ นร อยากขึ้นครูต้องซื้อกี่ดริ้งค์ถึงได้ออฟ อาชีพนักร้องมันไม่จำเป็นต้องร้องในผับอโคจรเด้อ.. มันมีเส้นบางๆ ระหว่างอาชีพสุจริตกับความเหมาะสมอยู่นะ ถ้าเกิดกฎหมาย sex worker ผ่าน แล้วเผอิญว่า สส ญ อยากทำงานเป็น sex worker ด้วย เวลารับงานฝ่ายตรงข้าม แล้วต้องอภิปรายในสภามันทำใจลำบากนะ
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่าประเทศไทยไม่มีความเท่าเทียมและยุติธรรม
- ครูรับจ๊อบเสริมร้องเพลงในผับ โดนโรงเรียนไล่ออก
- ตำรวจสาวสวย และเป็นนางงาม ร้องเพลงลูกทุ่งได้ ได้เลื่อน 6 ขั้น
ร้องในผับ = ให้แขกออฟ
ฝากไว้ให้คิด
Are all human beings truly equal?
These days everywhere you go there's talk about the fight for equality. As a wise man once said heaven does not create one person above or below another. People like to throw his words around but that's not the whole quote. He goes on to say that while we are all equal at birth, pretty soon things begin to change. Academic effort is what sets some people apart to rise above the others.
At any rate, humans change over time based on their actions. Truth be told, at the end of the day, equality is just a fantasy and most of us go through life denying the fact that we live in a meritocracy.
เมื่อรัฐบาล ไม่ว่าจะรัฐบาลใดก็ตาม สัญญาที่จะมอบการรักษาพยาบาลฟรี การศึกษาฟรี ที่พักอาศัยฟรี การเดินทางฟรี หรือ อาหารฟรี สิ่งที่พวกเขา (รัฐ) จะเอาไปจากเรา คือ อิสรภาพ อิสรภาพทางความคิด อิสรภาพทางการเติบโต อิสรภาพทางการรับความเสี่ยง อิสรภาพในการเดินทางตามหาความสุขด้วยตัวเอง อิสรภาพในความเป็นมนุษย์
when goverment promise you free healthcare, free education, free travel, free lunch, freedom to pursue your happiness then they remove your freedom.
ไม่ว่าส้มจะได้เป็นรัฐบาล/ทิมเป็นนายกหรือไม่ แต่ก้าวไกลก็ชนะแล้ว เพราะวัตถุประสงค์สำคัญของการตั้งอนาคตใหม่/ก้าวไกล ไม่ใช่การเป็นรัฐบาลหรือมีอำนาจทางการปกครอง แต่คือการเปลี่ยนแปลงสามัญสำนึกทางการเมืองของสังคมไทย ถ้าพูดในภาษาทางทฤษฎีแบบที่ปิยบุตรเคยพูดตอนขับเคลื่อนพรรคอนาคตใหม่ก็คือ เอาชนะสงครามความคิด (war of position) ช่วงชิงวาระทางสังคม กำหนดเส้นขอบฟ้าว่าอะไรคือสามัญสำนึก/ความปรกติทางการเมือง ในแง่นี้ การที่ผู้คนจำนวนมากออกมากดดัน ส.ว.ให้ต้องทำตามกติกาของระบอบประชาธิปไตย (คือโหวตเลือกผู้นำตามเสียงข้างมากในสภาล่าง) โดยไม่จำเป็นต้องพูดถึงกระแสการ turn ของ กปปส. จำนวนมากจากผลการเลือกตั้ง(โดยเฉพาะในกรุงเทพ) ก็คือหลักฐานว่าก้าวไกลเอาชนะในสงครามความคิด สามารถสร้างสามัญสำนึกทางการเมืองใหม่ให้กับสังคมไทยได้แล้ว ซึ่งสามัญสำนึกใหม่ทางการเมืองที่เกิดขึ้นนี้ อย่างน้อยๆที่เห็นชัดจะมีอยู่สองข้อ คือ 1.ยืนยันว่าอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศคืออำนาจอธิปไตยที่เป็นของประชาชน (ความชอบธรรมทางการปกครองในสังคมไทยจะต้องเป็นความชอบธรรมที่ผูกกับเจตนารมย์ของประชาชนเท่านั้น) 2.วิธีเดียวในการสะท้อนเจตนารมย์ของประชาชนคือการชนะการเลือกตั้งตามกติกาของระบบประชาธิปไตย (เจตนารมย์ของประชาชนไม่สามารถสะท้อนผ่านวิธีการ/กลไกอื่นๆได้อีกต่อไป โดยเฉพาะการแอบอ้างคุณค่าเชิงจารีตหรือสถาบันทางประเพณีต่างๆ)
ด้วยเหตุนี้ ก้าวไกลจะได้อำนาจทางการปกครอง/เป็นรัฐบาลหรือไม่ จึงเป็นแค่เรื่องของเวลา อย่างมากก็รอไปอีกหนึ่งสมัย แต่ถ้าได้เป็นเลย (ผมเชียร์แบบนี้) ก็คงน่าตื่นเต้นไม่น้อยว่าประเทศไทย (ซึ่งเปลียนแล้วในขณะนี้) จะเปลี่ยนไปได้อีกขนาดไหน
Aint reading all at
"ระบบ"
พยายามต่อต้านจนทำให้คุณมีคุณภาพชีวิตที่ถดถอยตลอดเวลา
- คุณต้องทำงานมากกว่าหนึ่งงาน
- คุณมีเวลาชีวิตน้อยลง เวลานอนของคุณ
- คุณมีเงินในกระเป๋าน้อยลง คุณยอมเสียเวลาเพื่อไล่ตามเงินที่มีค่าน้อยลง
- คุณไม่มีเงินซื้ออาหารดีๆ ทุกมื้อ
- คุณมีสุขภาพจิตที่ทรุดโทรมจากภาระรอบด้าน
ทาสยุคใหม่ไม่ได้ถูกใส่กุญแจมือเหมือนเมื่อก่อน แต่พวกเขาไม่มีชีวิต ไม่มีจิตใจ และถูกครอบงำด้วยความกลัว ปลูกฝังความเชื่อผิดๆ
คุณเป็นนักโทษในระบบการเงินฉ้อฉลที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
ฉันกำลังจะบอกกับคุณว่าความหมายของการมีชีวิตคือการมีชีวิตที่ดีขึ้นแต่พวกเราทุกคนถูกริดรอนสิ่งนี้ไปอิสรภาพในการใช้ชีวิต
คุณภาพชีวิตประกอบไปด้วย :
- คุณภาพอาหารของคุณ
- คุณภาพการนอนหลับของคุณ
- คุณภาพจิตใจของคุณ
- คุณภาพความสัมพันธ์ของคุณ
มนุษย์คู่ควรเป็นมนุษย์เพราะมนุษย์มีความต้องการหากคุณปล่อยให้ชีวิตล่องลอยและละทิ้งความฝันไปคุณได้สูญเสียจิตวิญญาณในความเป็นมนุษย์ไปแล้ว นั่นคือสิ่งที่ชนชั้นปกครองหวังให้คุณเป็นพวกเขาจะแนะนำทุกสิ่งให้โดยที่คุณไม่ต้องคิด
ลืมเรื่องความเท่าเทียมไปได้เลยสิ่งนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้รัฐสวัสดิการณ์เป็นเพียงการเพิ่มเงื่อนไขและทำให้ชีวิตก้าวหน้ายากไปอีกขั้นความยากจนแบบหมู่คณะเพื่อกักขังนักโทษ
ยุคนี้ไม่ต้องทำงานกันแล้วมุ่งเน้นหาเงินเพียงอย่างเดียวใบปริญญาเป็นเพียงใบเบิกทางสู่การเป็นทาสในระบบ
ฝึกฝนทักษะการหาเงินจนชำนาญ เริ่มต้นทันทีไม่ต้องรอเรียนจบ
ทุกคนต้องได้เรียน - พ่อบุญธรรมหยก
https://www.thaipost.net/x-cite-news/398007/
Itv ไม่ใช่สถานที่ แต่เป็นผู้คน
คนเราเป็นทาสอะไรบางอย่างอยู่เสมอ
ทาสของเงินก็จะตามล่าเงิน
ทาสของเกียรติยศ ก็จะไขว่หาการเป็นที่ยอมรับ
ทาสของความสนุก ก็จะไปปาร์ตี้หัวราน้ำ
ทาสของกิเลสตัณหา ก็ไปซื้อบริการ
>>41 สอบตกกฎหมายมรดกแล้วโม่ง
ไม่เรียนกฎหมายอย่ามั่วกฎหมายเอง และหยุดฟังอ.มธ.เช่นปริญญาได้แล้ว ถ้าเปิดกฎหมายอ่านเองจะรู้เลยว่าพวกนี้มั่วทั้งเพ
ทายาทโดนธรรมกับผู้จัดการมรดกเป็นพร้อมกันได้ มรดกตกทอดแก่ทายาททันทีที่เจ้ามรดกเสีย พิทาถือว่าถือหุ้นมาตลอดในส่วนของตนนับแต่พ่อเสีย ดังนั้นตอนสมัคร สส. พี่แกยังถือว่าถือหุ้นอยู่ในขณะนั้น และโอนไปแล้วก็ไม่มีผล เพราะถ้าทำผิดแล้ว ก็ผิดเลย แก้ไปไม่ช่วย
>>60 มันคือความจริง ที่รัฐสวัสดิการจะล่มสลาย
และทุกประเทศต้องทำสงครามเพื่อแย่งทรัพยากรกัน
สงครามโลกไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ผู้คนจะไร้บ้านอยู่
ตึกรามบ้านช่องพังเสียหาย ไวรัส โรคติดต่อ ทำลายสาธารณสุข อาหารและยา ขาดแคลน เงินทองไม่สามารถซื้อของได้ ใครมีกำลังกว่า ก็เข่นฆ่าคนอ่อนแอ
ขออย่าให้เกิดในยุคกุเลย
พิธ๊อคคิโอ กำลังโดนจับแก้ผ้าทุกวัน
เราเป็นเพื่อนกับพ่อมัน รู้จักกับพ่อมันแบบเพื่อนสนิทตั้งแต่เรียนป.4 ที่กรุงเทพคริสเตียน พ่อพิธ๊อคคิโอ ชื่อพงษ์ศักดิ์ เราเรียกเล่น ๆ ว่า ไอ้บ๊อก เพราะมันลักษณะมันเป็นฟันล่างข่มฟันบน ปากมันเลยเหมือนปากหมาบ๊อกเซอร์ มันก็ไม่เคยว่าอะไร ยอมรับชื่อเล่นมันจนจบมาทำงานกัน
บ๊อก เป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ จบวิทยาศาสตร์ อาหารจากม.เกษตร ฯ เรียนต่ออเมริกาสายเดียวกัน จบมาทำงานกับเกษตรรุ่งเรืองที่สำนักงานอยู่ถนนเดียวกับ KBank สาทร ที่เราเป็นผู้จัดการสาขา ได้พบปะสังสรรค์กันทุกสัปดาห์ รวมทั้งกินข้าวกันทุกเดือน แม้แต่ทำบุญสาขา ก็ชวนบ๊อกมาทำบุญด้าย พร้อมกับพาเจ้าทิมที่พิธ๊อคคิโอ ขณะนั้นอายุ 4-5 ขวบมาด้วย
บ๊อกเริ่มธุรกิจหลายอย่าง ตลอดระยะเวลาที่เจอกัน สำเร็จทุกโครงการที่บ๊อกคิดทำ แม้กระทั่ง โรงงานสกัดน้ำมันรำ ก็ยังเริ่มมาในสายตา เรารวมทั้งให้การสนับสนุนเงินกู้บางส่วน
บ๊อกตายไปเมื่อ 2547 ด้วยการติดเชื้อจากโรคไตเสื่อม ตายตามเพื่อน BCC อีกคนชื่อสมัยจิตต์ เวเปุลละ ที่ตายก่อนไปสองวัน ด้วยความใจเสียและหมดกำลังใจบ๊อกก็ตายไปอย่างกระทันหัน
พิธ๊อคคิโอ กลับมารับมรดกจากพ่อ ไม่ได้บริหารกิจการโรงงานสกัดน้ำมันรำข้าวอย่างสมควร มีการดูดซึมเงินออกจากกิจการ จนทุกวันนี้ ญาติพี่น้องรวมทั้งเจ้าผดุง อาของบ๊อกที่เคยเป็นเลขาฯของทักษิณยังไม่ยอมนับญาติ อีกไม่กี่วันก็คงโดนแก้ผ้าเรื่องนี้ออกมาให้พวกเราได้รู้
บริษัทน้ำมันจิ้งเหลนฟอร์ไลฟ์
แม้มีแผนจะเรียนต่อจนจบระดับปริญญาเอก แต่เนื่องจากบิดาต้องเสียชีวิตกะทันหัน “ทิมมี่” จึงต้องกลับประเทศเพื่อดำเนินกิจการของครอบครัว ล้มเลิกความตั้งใจด้านการศึกษาไปโดยปริยาย
ด้วยความรู้จากสถาบันการศึกษาระดับโลก เขาจึงรื้อฟื้นโครงสร้างภายในบริษัทใหม่ทั้งหมด
ลำดับแรก เขาสั่งเลิกจ้างพนักงานสูงวัยซึ่งเปรียบเสมือนช้างป่วย โดยจะชดเชยให้เดือนละ 3,000 แต่สุดท้ายกลับไม่ได้ให้แม้แต่เดือนเดียว
สูตรการผลิตน้ำมันจิ้งเหลนซึ่งอยู่ในมือพนักงานอาวุโส จึงสูญหายไปนับตั้งแต่บัดนั้น ผลิตภัณฑ์ของบริษัทจึงไม่ได้คุณภาพเหมือนเก่า ส่งผลให้ยอดขายตกลงต่อเนื่อง ทิมมี่พยายามกระทำทุกวิถีทางแล้ว แต่ยอดขายก็ไม่กระเตื้องขึ้นแม้แต่น้อย สภาพบริษัทตอนนี้เหมือนกับกรุงศรีอยุธยาใกล้เสียกรุงครั้งที่ ๒ ก็มิปาน
“หรือเราจะเป็นพระเจ้าตาก รวบรวมกองกำลังตีฝ่าออกไปสร้างอาณาจักรใหม่ จะว่าไปการกลั่น การสกัด ไม่ใช่เรื่องที่เราถนัดเหมือนการปั้นน้ำเป็นตัวสักหน่อย”
หลังจากคำนวณถี่ถ้วน ในที่สุด ชายหนุ่มจึงตัดสินใจตามนั้น เขาถอนเงินออกจากบัญชีจนเกือบหมด บันทึกว่าเป็นการให้กู้ยืมโดยไม่มีการค้ำประกัน หรือระบุชื่อผู้ยืม ไม่จำเป็นต้องถูกต้องนักหรอก ยังไงอยุธยาก็ล่มอยู่แล้วนี่
น่าเสียดายที่เขาไม่รู้ว่า การเอาตัวรอดในครั้งนั้น กลับส่งผลเสียมาถึงทุกวันนี้ สถาบันเขาไม่ได้สอน หรือสอนเท่าสอน ไม่เคยจำ ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ แม้แต่ตัวเขาเอง…
ผู้อ่านกวีเหลวไหล
๑๖ มิย ๖๖
Comment: เมื่อคดโกงทำกับครอบครัวตัวเองได้ มีหรือจะไม่คดโกงประเทศชาติเมื่อมีโอกาส
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.