เส้นวิวาทะการเมือง สังคม เศรษฐกิจ ข่าว
Last posted
Total of 900 posts
เส้นวิวาทะการเมือง สังคม เศรษฐกิจ ข่าว
ขอแสดงความสงสัยแบบซื่อๆ เลยนะ
ทำไมภาพพรรคเพื่อไทยทั้งที่พรรคเองและแฟนคลับฉายออกมาในช่วงนี้ ไม่เหมือนพรรคเพื่อไทยที่เราเคยรู้จัก
พรรคเพื่อไทยที่เคยเป็นรัฐบาลสามสมัย เคยชนะแลนด์สไลด์มาสามครั้ง ยุคไทยรักไทย ทักษิณสามารถกวาดมุ้งการเมืองสารพัดทิศ/พิษมารวมอยู่ในพรรค แล้วจัดการสยบ/สลาย จนพรรคสามารถเติบโตเป็นเอกภาพพอสมควร เข้าไปจัดการปฏิรูประบบราชการได้บางส่วน สส.ในพรรคล้วนเขี้ยวลากดิน หลายคนมีประสบการณ์ทางการเมืองมานานก่อนเกิดพรรคไทยรักไทยด้วยซ้ำ แม้ว่าหลายคนจะผละจากพรรคไปหลังรัฐประหาร แต่ก็มีอีกหลายคนที่อยู่กับพรรคมาถึงทุกวันนี้
แต่ทำไมก่อนและหลังการเลือกตั้ง 2566 ทั้งบางคนในพรรคเพื่อไทยและเอฟซีต่างโอดครวญว่าพรรคถูกกระทำต่างๆ จากพรรคก้าวไกล ซึ่งโคตรจะเด็กเมื่อวานซืน หลายคนอายุไม่ถึงเกณฑ์จะเป็นรัฐมนตรีด้วย พรรษาทางการเมืองก็นับได้ไม่เกินสิบนิ้ว แต่เอฟซีกลับโอดครวญราวกับถูกเด็กพวกนี้ขี่คอตลอดเวลา
สรุปว่าในสายตาเอฟซีพรรคเพื่อไทย ตกลงนักการเมืองพรรคเพื่อไทยเก่งหรือไม่เก่ง เขี้ยวลากดินหรืออ่อนด้อย คร่ำหวอดหรือไร้เดียงสา มีประสบการณ์หรืออ่อนต่อโลก?
จะเอายังไงกันแน่ ถ้าเอฟซีเชื่อว่านักการเมืองพรรคเพื่อไทยถูกไอ้ต๋อมอดีตกองบรรณาธิการฟ้าเดียวกันไล่บี้หักเหลี่ยมได้ แบบนี้ไปเจอพวกข้าราชการในกระทรวง ไม่ถูกปั่นหัวหลอกกลั่นแกล้งจนพังหมดเหรอ? แล้วจะบริหารกระทรวงยังไง?
คือภาพนักการเมืองเพื่อไทยในสายตาเรามันไม่ได้เป็นยังงั้น จริงๆ เราห่วงคนของพรรคก้าวไกลมากกว่าว่าจะโดนข้าราชการกลั่นแกล้ง แต่พอเห็นมีการโอดครวญกันมากว่าพรรคเพื่อไทยถูกกระทำโดยไม่สามารถตอบโต้อะไรได้เลย เรารู้สึกสับสนว่าโลกมันกลับตาลปัตรอะไรหรือเปล่า ตกลงมันยังไงกันแน่ นักการเมืองพรรคเพื่อไทยเก่งหรือไม่เก่ง เขี้ยวหรือไม่เขี้ยว แล้วจะเอาข้าราชการอยู่มือไหมถ้าอ่อนต่อโลกขนาดนี้?
#ยังไม่เมา
คนเลือกสลากเลขท้าย 31 มากดดันอะไรกับคนเลือกเลขท้าย 29 ไปกดดันกับเลขท้ายของตัวเองสิ
#จากกลุ่ม FC แดง
"บรรยากาศตอนนั้นเป็นยังไงพอเข้าไปเห็นคนอื่นแล้วรับรู้ว่าแพ้"
"หน้าตาเหมือนกับตอน ลิเวอร์พูล ไม่ได้ไป ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แล้ว"
#จากรายการเฮียสอ
สิ่งที่เพื่อไทยทำได้เฉพาะหน้านี้คือทำให้รัฐบาลผสมและสภาผู้แทนใหม่มีน้ำหนักของเพื่อไทยมากที่สุด หัวใจคือตำแหน่งประธานสภาที่ทำหน้าที่เสนอชื่อนายก จัดคิวกฎหมายและกำหนดวาระการประชุมสภา รวมทั้งให้ได้ตำแหน่งรมต.กระทรวงสำคัญๆ
ทั้งหมดนี้เพื่อให้ได้ "รัฐบาลเพื่อไทยที่มีพิธาเป็นนายกฯ" วาระ กฎหมายญัตติของก้าวไกลจะถูกปัดตกในครม.และในสภา ส่วนวาระกฎหมายญัตติของเพื่อไทยจะผ่านฉลุยสร้างผลงานให้เพื่อไทย ขณะที่พิธาและก้าวไกลเป็น "เป็ดง่อย" ทั้งในครม.และในสภา
ก้าวไกลจะต้องยืนให้มั่น ไม่หวั่นเกรงคำขู่แบล็กเมล์ต่างๆสารพัด ยึดตำแหน่งยุทธศาสตร์ไว้ให้จงได้ ถ้าถอยวันนี้ ก็จะต้องถอยตลอดไป
#ก้าวไกล #เลือกตั้ง66 #รัฐบาลก้าวไกล
“ใช่ครับ นโยบายพรรคก้าวไกลไม่ได้ออกแบบมาเพื่อพวกคุณ
เค้าออกแบบมาเพื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศครับ”
ช่วงนี้เริ่มเห็นคนพูดถึงนโยบายเศรษฐกิจของพรรคก้าวไกลมากขึ้น โดยเฉพาะในเพจการเงินดังๆหลายเจ้า โดยเฉพาะเพจการลงทุน คอมเมนท์มักจะไปในทางแซะและแซว รวมถึงแสดงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายของก้าวไกลว่า จะทำตลาดหุ้นพัง นักลงทุนหนีหาย หลายคนก็แซะไปว่า ก็คนส่วนใหญ่เขาเลือกแบบนี้นิ ส่วนตัวในฐานะที่ทำงานอยู่ภาคการเงิน ขอแชร์ความคิดเห็นประมาณนี้ละกันครับว่า
.
ใช่ครับ นโยบายพรรคก้าวไกลไม่ได้ออกแบบมาเพื่อพวกคุณ
เค้าออกแบบมาเพื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศครับ
.
ทำไมผมถึงกล้าพูดแบบนี้ เพราะสถิติของคนไทยมันบอกอยู่น่ะสิครับ
.
คุณรู้ไหมว่า ปัจจุบัน ถ้าเอาคนไทยมายืนเรียงต่อกัน 66 ล้านคน
คนที่อยู่ลำดับที่ 33,000,000 หรือ ตรงกลางของประเทศ มีรายได้ต่อเดือนเท่าไหร่?
.
คำตอบคือ 7,000 บาท/เดือนครับ (ข้อมูลปี 2564)
.
ใช่ครับ 50% หรือครึ่งหนึ่งของคนไทย มีรายได้ต่อเดือนไม่ถึง 7,000 บาทต่อเดือน!
.
ที่น่าตกใจคืออะไรรู้ไหมครับ
.
ถ้านับต่อไป ไปหาคนที่ยืนอยู่ตำแหน่งที่ 10% ที่รวยที่สุดในประเทศ
รายได้เฉลี่ยต่อเดือนเท่าไหร่ ทราบไหมครับ
.
คำตอบคือ 34,463 บาทต่อเดือน
แปลว่า ถ้าวันนี้ คุณมีเงินเดือนเยอะกว่า 35,000 บาทต่อเดือน
คุณรวยกว่าคนอีก 59 ล้านคนในประเทศไทย หรือ 90%ของประเทศ
และก็ใช่ครับ พวกคุณเป็นคนส่วนน้อยของประเทศนี้ รวมถึงผมด้วย
นโยบายทั้งเรื่องรัฐสวัสดิการและการเก็บภาษีตลาดทุน รวมถึงการเก็บภาษี Wealth tax การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามลดความเหลื่อมล้ำนี้ ย่อมส่งผลกระทบทางลบระยะสั้นต่อตลาดทุนแน่นอน
.
ถ้ามองในมุมกลับ ถ้าเราเชื่อว่าการประกาศนโยบายต่อสู้กับกลุ่มทุนผูกขาดทำให้ตลาดหุ้นลง แปลว่า เรากำลังยอมรับว่า ประเทศนี้ตลาดทุนถูกผูกขาดโดยกลุ่มธุรกิจเพียงไม่กี่กลุ่มเท่านั้นไม่ใช่หรือแล้วเรายังจะกล้าคาดหวังว่าตลาดทุนจะเติบโตต่อในอนาคตระยะยาวได้อย่างไรในสภาวะที่ตลาดมีการผูกขาด หากเป็นแบบนี้ยิ่งควรสนับสนุนนโยบายยกเลิกการผูกขาดเหล่านี้เลยไม่ใช่หรือ?
.
แถมนิดหน่อย : นโยบาย เบี้ยผู้สูงอายุ 3,000 บาท
มีคนมองว่า ไม่ได้ก่อให้เกิด productivity ใดๆ ทำไมต้องไปให้ด้วย แล้วยังต้องใช้เงินกว่า 6แสนล้านมา อาจมีปัญหากับวินัยการคลังได้ในอนาคต
ขอเสนอความเห็นแบบนี้ครับ 3,000 นี้ไม่ได้ก่อให้เกิด productivityทางตรงครับ แต่มันก่อให้เกิด productivity ทางอ้อมจากลูกหลานคนในครอบครัวครับ
ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้อง 3,000 แต่พอไปดูตัวเลขสถิติก็เข้าใจ
เพราะประเทศไทยนั้น เส้นความยากจนอยู่ที่ 3,000 บาทต่อเดือนครับ
พูดง่ายๆก็คือ 10% ที่อยู่ฐานล่างสุดของไทยมีรายได้เฉลี่ยนต่อเดือนที่ 2,100 บาทเท่านั้นเองการสนับสนุนเงินจำนวนเท่านี้คือการดึงกลุ่มคนออกจากพื้นฐานเส้นความยากจน …“ทั้งประเทศ” แบบไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังจริงๆ
สิ่งที่ตามมาคือ ลูกหลาน สามารถออกไปเรียน ไปทำงาน โดยไม่ต้องเป็นห่วงพ่อแม่ปู่ย่าตายาย ไม่ต้องคอยส่งเงินกลับมาให้ สามารถทำงาน เก็บออม ลงทุน สร้างโอกาสในชีวิตให้ตัวเองได้มากขึ้น สุดท้ายแล้วมันจะเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพด้วยตัวของคนๆนั้นเอง และผลตอบแทนของสิ่งนี้จะวนมาอยู่ในรูปแบบของการบริโภคที่เพิ่มขึ้น ขยาย purchasing power หรือ อำนาจการซื้อของแต่ละบุคคล สุดท้ายก็จะเป็น consumptionที่ทำให้ GDP โตขึ้นในอนาคตครับ
ปล. สำหรับนักลงทุนรายย่อยที่กังวล อยากจะบอกว่า ตลาดหุ้นไทยไม่ไปไหนมาจะ10ปีแล้วนะครับ คนที่รวยขึ้นมีแค่เจ้าของธุรกิจรายใหญ่ ส่วนเม่าไทยก็อยู่ที่เดิมทั้งหมดแหละครับ หุ้นจะลงรอบนี้ก็เตรียมซื้อครับ ไม่ใช่เตรียมขาย
อีกนิดนึง รอบนี้ดอกเบี้ยขึ้นตั้งแต่ต้นปี ตลาดหุ้นจะเอาที่ไหนมาขึ้นล่ะครับ
เดี๋ยวแปะลิงค์ ref ข้อมูลสถิติรายได้ไว้ให้ในคอมเมนท์นะครับ
ทุนจีนออกไป
https://marketeeronline.co/archives/309408
>>13 ท่านออกอีเว้นท์กับก้าวไก่อยู่
ประชาชนชาวกทม.นับล้านยืนรอไปก่อนนะ
https://imgur.com/9uMmEQM
ลดราคารถไฟฟ้า
ฝุ่นหาย
จัดการแผงลอย
เลือกชชเพราะสามสิ่งนี้ ไหนอ่ะกั๊บ
"ถ้าความสามารถในการอภิปราย สะท้อนคุณภาพในการบริหาร ประเทศไทยคงเจริญโชติช่วงชัชวาลในรัฐบาลประชาธิปัตย์แล้วล่ะครับ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง ตอบกลับ ไหม
"ถ้าความอาวุโส สะท้อนคุณภาพในการบริหาร ประเทศไทยคงเจริญโชติช่วงชัชวาลในรัฐบาลไอ้ตู่แล้วล่ะครับ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง ตอบกลับ สวะโง่ๆ
ไม่ต้องทะเลาะกันครับไม่มีทั้งคู่ ไม่เหมือน ก.ไก่ ที่ผลงานมากมาย
"ถ้าความสดใหม่ สะท้อนคุณภาพในการบริหาร ประเทศไทยคงเจริญโชติช่วงชัชวาลในรัฐบาลปูแล้วล่ะครับ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง ตอบกลับ สวะโง่ๆ
เห็นคนกำลังเดือดร้อนกับนโยบายเศรษฐกิจของก้าวไกล ผมคิดว่าคนที่กำลังโวยวายกันตอนนี้จำนวนมากเลือกก้าวไกลด้วย เรื่องนี้แสดงให้เห็นเลยว่าไทยยังมีคนที่มีspectrumทางการเมืองเป็นซ้ายการเมือง แต่ขวาเศรษฐกิจอยู่เต็มไปหมด
ในการเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านมา มันไม่มีพรรคใหญ่รองรับคนกลุ่มนี้ พรรคฝ่ายขวาในปัจจุบันก็ห่วยกันเหลือเกิน เขาเลยต้องมาเลือกก้าวไกล ที่ตรงใจทุกอย่างยกเว้นเศรษฐกิจ
แต่เลือกตั้งครั้งหน้าผมว่ามาแน่นอน และในอีก8ปีจะกลายเป็นพรรคใหญ่ ฝ่ายซ้ายเตรียมตัวไว้เลย เราอาจจะได้เห็นคนหนุ่มรูปหล่อโปรไฟล์ดีแบบพิธา แต่เป็นฝ่ายขวา (ผมเอง แฮร่😜) พรรคแบบนี้เกิดง่ายด้วยเพราะคนมีตังสนับสนุน ไม่เหมือนพรรคฝ่ายซ้ายแบบก้าวไกล ถ้าไม่มีคนที่มีศักยภาพแบบธนาธร ไม่มีทางเกิดมาได้แน่ๆ
สิ่งที่น่าเศร้าและน่าผิดหวังที่สุด ก็คือ ทั้งๆ ที่นักกฎหมายและคนทั่วไปทราบถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญเป็นอย่างดีว่าเหตุใดถึงห้าม สส. เป็นเจ้าของหรือถือหุ้นสื่อ และศาลฎีกาในคดีล่าสุด (คดีชาญชัย อิสระเสนารักษ์, 2566) ก็ได้วินิจฉัยไว้ได้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจนที่สุด แทนที่จะช่วยกันส่งเสริมให้การปรับใช้กฎหมายเกิดความชัดเจนแน่นอนและเป็นธรรมอย่างที่ศาลฎีกาได้แสดงไว้เป็นตัวอย่าง แต่นักกฎหมายระดับครูบาอาจารย์ หรืออดีตตุลาการชั้นผู้ใหญ่ กลับช่วยกันชี้ช่องให้เกิดการตีความกฎหมายที่บิดเบือนเจตนารมณ์ สร้างความสับสนและทำลายความแน่นอนในนิติฐานะ อย่างไม่กระดากอาย
>>30 มึงไม่รู้ใช่ไหม มึงฟังให้ดีๆนะ
1. ปีที่แล้ว สส ของพรรคไทยภักดี สลิ่มแท้ ถือหุ้น ช่อง 9 แค่ 1 หุ้น เจอ กกต. ฟันห้ามยุ่งเกี่ยวการเมือง 20 ปีเพราะรู้ตัวว่ามีหุ้นเสือกสมัคร สส ดังไอ้นั้นไอ้ข้ออ้าง 0.004 เนี่ยตกไปได้เลย
2. Itv ยังจดทะเบียนกับกรมการค้าว่ายังทำธุรกิจเกี่ยวกับสื่อ ดังนั้น itv ยังเป็นบริษัทสื่อสารมวลชนอยู่ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงข้อนี้ ต่อให้แม่งจะไม่ได้ทำอะไรเพราะกำลังฟ้องร้องกันอยู่ก็เหอะ
มึงอะเลิกฟังนักวิชาเกินของพวกมึงได้แล้ว พูดเข้าข้างเพื่อบิดเบือนกฎหมานแม่งอยู่นั่นแหละ
ถ้า พิธา ชนะคดีงวดนี้มันต้องใช้ เส้นก๋วยเตี๋ยว อย่างเดียวแบบ ทักษิณ ตอนคดีซุกหุ้นเลย แต่ไอ้ พิธา มันไม่เก่งเหมือน ทักกี้ ก่อนมาเล่นการเมืองบริษัทมันขาดทุนตั้งเป็น 100 ล้าน ตอยนี้ทำท่าบ้มละลายด้วยแล้วใครจะช่วยให้มันเป็นนายกวะ
itv ไม่ใช่สื่อแต่อดีตพนักงาน itv ก็กระจายไปอยู่สื่ออื่นๆแล้วเนียนช่วยโปรโมตก้าวไกล
ถ้าจับไม่ได้ก็ /เป็นไปดั่งกลอุบาย
กกต มันรอเชือดนานแล้ว ตอนมันให้สัมภาษณ์ดิ ลุงตูบแพ้ แต่ กกต มันยิ้มดีใจอะ และ ลุงตูบมันตั้ง กกต มาอยู่แล้ว
อย่าไปคิดว่า ทวิตเตอร์ เฟสบุค คือโลกทั้งหมดเลย ตอนนี้ทำเอาแสงปลุกมวลชนแค่นั้น อะ กไก่
ทักษิณ ออกไป ทักษิณ ออกไป ทักษิณ ออกไป
---------กู้ชาติ ---------
และแล้วความเคลื่อนไหวก็ปรากฏ
..............
(1)
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
[ ผมพร้อมสู้กับความพยายามคืนชีพ ITV เพื่อสกัดกั้นพวกเรา ]
.
https://www.facebook.com/photo?fbid=816857846466659&set=a.490911722394608
ผมจะยกข้อมูลตามแบบนำส่งงบการเงิน (ส.บช.3) ของ ITV เช่น ปีบัญชี 2561-2562 ระบุประเภทธุรกิจว่า “กิจกรรมของบริษัทโฮลดิ้งที่ไม่ได้ลงทุนในธุรกิจการเงินเป็นหลัก” ปีบัญชี 2563-2564 ระบุประเภทธุรกิจว่า “สื่อโทรทัศน์” โดยในส่วนสินค้า/บริการ ระบุว่า “ปัจจุบันไม่ได้ดำเนินการเนื่องจากติดคดีความ” ส่วนในปีบัญชี 2565 ระบุประเภทธุรกิจว่า “สื่อโทรทัศน์” โดยในส่วนสินค้า/บริการ ระบุว่า “สื่อโฆษณาและผลตอบแทนจากการลงทุน” ทั้งนี้ เนื้อหาในหมายเหตุงบการเงินไม่ปรากฏรายได้จากกิจการสื่อโทรทัศน์และสื่อโฆษณาตามที่ระบุประเภทธุรกิจไว้แต่อย่างใด โดยงบการเงินปีบัญชี 2565 มีการนำส่งงบการเงินต่อ DBD ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 (ก่อนวันเลือกตั้ง เพียง 4 วัน)
.
แสดงให้เห็นว่า การจัดทำแบบนำส่งงบการเงินและข้อมูลในหมายเหตุประกอบงบการเงินมีความไม่สอดคล้องกัน และเป็นข้อพิรุธที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อความที่ระบุในแบบนำส่งงบการเงิน จากเดิม “กิจกรรมของบริษัทโฮลดิ้งที่ไม่ได้ลงทุนในธุรกิจการเงินเป็นหลัก” แก้เป็น “สื่อโทรทัศน์” ทั้งๆ ที่ประกอบกิจการไม่ได้ และปีล่าสุดแก้เป็น “สื่อโฆษณาและผลตอบแทนจากการลงทุน” ทั้งๆ ที่ในหมายเหตุประกอบงบการเงินระบุรายได้จากดอกเบี้ยและการลงทุนในตราสารหนี้
.
และในรายงานการประชุมผู้ถือหุ้น ITV เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 มีการตั้งคำถามของผู้ถือหุ้นบางรายว่า “บริษัท ไอทีวี มีการดำเนินการเกี่ยวกับสื่อหรือไม่” ซึ่งเป็นการตั้งคำถามที่ขอให้ทุกท่านที่มีใจเป็นธรรมพิจารณาว่า เป็นคำถามมีความมุ่งหมายทางการเมืองหรือไม่ และให้ท่านตอบตัวท่านเอง ว่านี่คือพฤติการณ์ความพยายามฟื้นคืนชีพ ITV ให้กลับมาเป็นสื่อมวลชน ใช่หรือไม่?
(2)
เป็นผอ.สนง.อินทัช! คนทำบัญชี ITV ยังไม่แจงปม
'พิธา’ชี้พิรุธแบบส.บช.3 แก้ 'สื่อโทรทัศน์'
https://www.isranews.org/article/isranews/119129-inves0999-24.html?fbclid=IwAR1TrrH9RSMPLyUynFMN0wHrLh94Nngs5w25-aBwmcTwAUrqarnR3ccWn_Y
นายนฤวัต ปฏิเสธที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีนี้ ระบุเพียงสั้นๆ ว่า "ตอนนี้ยังมีสภาพเป็นพนักงานอยู่ ต้องรอหลังจากนี้อีกระยะหนึ่ง ยังให้ข้อมูลไม่ได้"
ขณะที่สำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลพบว่า นายนฤวัต มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานบัญชีบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ถืออยู่จำนวน 638,602,846 หุ้น มูลค่า 3,193,014,230 บาท
ปัจจุบัน บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) มีบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ของ นาย สารัชถ์ รัตนาวะดี เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
กล่าวสำหรับนายสารัชถ์ รัตนาวะดี ในช่วงเดือนสิงหาคม 2565 เว็บไซต์ Forbes.com ในส่วนของ ‘The Real-Time Billionaires List’ จัดอันดับมหาเศรษฐีของโลกและของประเทศต่างๆ ปรากฏข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยที่กลายเป็นกระแสอย่างรวดเร็ว เมื่อตำแหน่งของคนที่รวยที่สุดในประเทศไทย คือ นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของเมืองไทย มีทรัพย์สินสุดมั่งคั่งสุทธิที่ 423,330 ล้านบาท แทนสองเจ้าสัว มหาเศรษฐีอย่าง นายเจริญ สิริวัฒนภักดี และ นายธนินท์ เจียรวนนท์
.........................
(3)
กล่าวโดยสรุป สถานะไอทีวีตั้งแต่ถูกปิดมาตั้งแต่ปี 2550
ตั้งแต่ 2558 ยื่นว่าไม่ใช่สื่อโทรทัศน์ หรือไม่ได้ประกอบกิจการสื่อเนื่องจากมีคดีความ
จนกระทั่งล่าสุด 2566 (ก่อนการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566)
เพิ่งยื่นว่าเป็นสื่อโทรทัศน์
และคนทำ ไม่ใช่ใครที่ไหน
แต่คือคนของ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
ซึ่งมีบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
ของ นาย สารัชถ์ รัตนาวะดี เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อีกทีหนึ่ง
ส่วนเรื่องนี้จะมีลับลม คมในอะไร ที่เกี่ยวโยงไปที่นโยบายของพรรคก้าวไกลที่จะมา "เปลี่ยนประเทศไทย" ภายหลังชนะเลือกตั้ง และกำลังจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้ อย่างไรบ้าง
ก็รอติดตามกัน
>>38 ปัญหาไม่ใช่อยู่ว่ามันกลับเป้นสื่อเพราะชนะคดีหรือเปล่า เพราะต่อให้ชนะคดีตอนนี้มันก็ไม่มีผลอะไรเพราะจุดสำคัญมันอยู่ตอนวันที่สมัครรับเลือกตั้ง ตอน พิธา ไปลงทะเบียน สส ITV ยังจดทะเบียนต่อกรมการค้าภายในว่าเป็น บริษัททำเกี่ยวกับสื่อหรือเปล่า ต้องไปดู ใบรับรองนิติบุคคล โน่น (ถ้ามึงทำร้านค้ามงจะรู้มันจะมีใบรับรองว่ามึงทำกิจการเกี่ยวกับอะไร) สิ่งสำคัญคือ เอกสารทะเบียนนิติบุคคล ต่างหากไม่ใช่ความรู้สึก
>>39 และ tj เคยมีประเด็นนี้เลย แม้ในทางปฏิบัติจะไม่ได้ประกอบกิจการสื่อแล้ว แต่ตราบใดที่ไม่ยอมถอนการจดทะเบียนว่าเป็นสื่อออก ศาลก็ยังคงนับว่าเป็นสื่ออยู่ดี โดยให้เหตุผลว่าสามารถเป็นสื่อเมื่อไรก็ได้ (แต่เอาจริงๆ กูไม่ค่อยเห็นด้วยกับคำวินิจฉัยแบบนี้เท่าไรนะ เพราะมันขัดกับความเคยชินของคนทั่วไปทีทำธุรกิจไง ปกติฟอร์มจดทะเบียนบริษัท ค่า default ตั้งมาแต่แรกนี่คือมันให้จดทุกประเภทแบบครอบจักรวาล คนทั่วไปก็ไม่ค่อยไปเลือกคัดออกหรอก)
ตอนนี้คุณอยู่ในเกมของพวกผม คุณต้องรับสภาพ
อะไรที่ฝ่ายผมบอกว่าถูก มันก็ต้องถูก อะไรที่ฝ่ายผมบอกว่าผิด มันก็ต้องผิด เพราะฝ่ายผมมีเสียงสนับสนุนเยอะกว่า
คุณคิดว่าคนที่มีอำนาจสูงสุดในการสั่งโยกย้ายเจ้าหน้าที่รัฐ และเป็นผู้กำหนดนโยบายต่างๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐนำไปปฏิบัติตามนโยบายนั้นๆ คือใคร?
เจ้าหน้าที่รัฐ แลข้าราชการทุกคน ของทุกกระทรวง จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงนั้นๆ โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ
และถ้าคุณไม่ทำตามคำสั่ง คุณก็ถูกสั่งย้าย
ถ้าฝ่ายผมเป็นรัฐบาล และผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แล้วผมสั่งให้ตัดลดงบสนุนสนุนของสถานศึกษาแห่งนี้ คุณจะกล้าขัดคำสั่งผมไหม?
ทำไมหมอพหูสูตรรู้ทุกเรื่องแถวบ้านกูช่วงนี้เชียร์ส้มหนักจังวะ จำได้ว่าเมื่อไม่กี่ปีก่อนหมอท่านนี่เหลืองอ๋อยเหมือนกล้วยหอมเลย งง
>>45 เผื่อ นร อยากขึ้นครูต้องซื้อกี่ดริ้งค์ถึงได้ออฟ อาชีพนักร้องมันไม่จำเป็นต้องร้องในผับอโคจรเด้อ.. มันมีเส้นบางๆ ระหว่างอาชีพสุจริตกับความเหมาะสมอยู่นะ ถ้าเกิดกฎหมาย sex worker ผ่าน แล้วเผอิญว่า สส ญ อยากทำงานเป็น sex worker ด้วย เวลารับงานฝ่ายตรงข้าม แล้วต้องอภิปรายในสภามันทำใจลำบากนะ
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่าประเทศไทยไม่มีความเท่าเทียมและยุติธรรม
- ครูรับจ๊อบเสริมร้องเพลงในผับ โดนโรงเรียนไล่ออก
- ตำรวจสาวสวย และเป็นนางงาม ร้องเพลงลูกทุ่งได้ ได้เลื่อน 6 ขั้น
ร้องในผับ = ให้แขกออฟ
ฝากไว้ให้คิด
Are all human beings truly equal?
These days everywhere you go there's talk about the fight for equality. As a wise man once said heaven does not create one person above or below another. People like to throw his words around but that's not the whole quote. He goes on to say that while we are all equal at birth, pretty soon things begin to change. Academic effort is what sets some people apart to rise above the others.
At any rate, humans change over time based on their actions. Truth be told, at the end of the day, equality is just a fantasy and most of us go through life denying the fact that we live in a meritocracy.
เมื่อรัฐบาล ไม่ว่าจะรัฐบาลใดก็ตาม สัญญาที่จะมอบการรักษาพยาบาลฟรี การศึกษาฟรี ที่พักอาศัยฟรี การเดินทางฟรี หรือ อาหารฟรี สิ่งที่พวกเขา (รัฐ) จะเอาไปจากเรา คือ อิสรภาพ อิสรภาพทางความคิด อิสรภาพทางการเติบโต อิสรภาพทางการรับความเสี่ยง อิสรภาพในการเดินทางตามหาความสุขด้วยตัวเอง อิสรภาพในความเป็นมนุษย์
when goverment promise you free healthcare, free education, free travel, free lunch, freedom to pursue your happiness then they remove your freedom.
ไม่ว่าส้มจะได้เป็นรัฐบาล/ทิมเป็นนายกหรือไม่ แต่ก้าวไกลก็ชนะแล้ว เพราะวัตถุประสงค์สำคัญของการตั้งอนาคตใหม่/ก้าวไกล ไม่ใช่การเป็นรัฐบาลหรือมีอำนาจทางการปกครอง แต่คือการเปลี่ยนแปลงสามัญสำนึกทางการเมืองของสังคมไทย ถ้าพูดในภาษาทางทฤษฎีแบบที่ปิยบุตรเคยพูดตอนขับเคลื่อนพรรคอนาคตใหม่ก็คือ เอาชนะสงครามความคิด (war of position) ช่วงชิงวาระทางสังคม กำหนดเส้นขอบฟ้าว่าอะไรคือสามัญสำนึก/ความปรกติทางการเมือง ในแง่นี้ การที่ผู้คนจำนวนมากออกมากดดัน ส.ว.ให้ต้องทำตามกติกาของระบอบประชาธิปไตย (คือโหวตเลือกผู้นำตามเสียงข้างมากในสภาล่าง) โดยไม่จำเป็นต้องพูดถึงกระแสการ turn ของ กปปส. จำนวนมากจากผลการเลือกตั้ง(โดยเฉพาะในกรุงเทพ) ก็คือหลักฐานว่าก้าวไกลเอาชนะในสงครามความคิด สามารถสร้างสามัญสำนึกทางการเมืองใหม่ให้กับสังคมไทยได้แล้ว ซึ่งสามัญสำนึกใหม่ทางการเมืองที่เกิดขึ้นนี้ อย่างน้อยๆที่เห็นชัดจะมีอยู่สองข้อ คือ 1.ยืนยันว่าอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศคืออำนาจอธิปไตยที่เป็นของประชาชน (ความชอบธรรมทางการปกครองในสังคมไทยจะต้องเป็นความชอบธรรมที่ผูกกับเจตนารมย์ของประชาชนเท่านั้น) 2.วิธีเดียวในการสะท้อนเจตนารมย์ของประชาชนคือการชนะการเลือกตั้งตามกติกาของระบบประชาธิปไตย (เจตนารมย์ของประชาชนไม่สามารถสะท้อนผ่านวิธีการ/กลไกอื่นๆได้อีกต่อไป โดยเฉพาะการแอบอ้างคุณค่าเชิงจารีตหรือสถาบันทางประเพณีต่างๆ)
ด้วยเหตุนี้ ก้าวไกลจะได้อำนาจทางการปกครอง/เป็นรัฐบาลหรือไม่ จึงเป็นแค่เรื่องของเวลา อย่างมากก็รอไปอีกหนึ่งสมัย แต่ถ้าได้เป็นเลย (ผมเชียร์แบบนี้) ก็คงน่าตื่นเต้นไม่น้อยว่าประเทศไทย (ซึ่งเปลียนแล้วในขณะนี้) จะเปลี่ยนไปได้อีกขนาดไหน
Aint reading all at
"ระบบ"
พยายามต่อต้านจนทำให้คุณมีคุณภาพชีวิตที่ถดถอยตลอดเวลา
- คุณต้องทำงานมากกว่าหนึ่งงาน
- คุณมีเวลาชีวิตน้อยลง เวลานอนของคุณ
- คุณมีเงินในกระเป๋าน้อยลง คุณยอมเสียเวลาเพื่อไล่ตามเงินที่มีค่าน้อยลง
- คุณไม่มีเงินซื้ออาหารดีๆ ทุกมื้อ
- คุณมีสุขภาพจิตที่ทรุดโทรมจากภาระรอบด้าน
ทาสยุคใหม่ไม่ได้ถูกใส่กุญแจมือเหมือนเมื่อก่อน แต่พวกเขาไม่มีชีวิต ไม่มีจิตใจ และถูกครอบงำด้วยความกลัว ปลูกฝังความเชื่อผิดๆ
คุณเป็นนักโทษในระบบการเงินฉ้อฉลที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
ฉันกำลังจะบอกกับคุณว่าความหมายของการมีชีวิตคือการมีชีวิตที่ดีขึ้นแต่พวกเราทุกคนถูกริดรอนสิ่งนี้ไปอิสรภาพในการใช้ชีวิต
คุณภาพชีวิตประกอบไปด้วย :
- คุณภาพอาหารของคุณ
- คุณภาพการนอนหลับของคุณ
- คุณภาพจิตใจของคุณ
- คุณภาพความสัมพันธ์ของคุณ
มนุษย์คู่ควรเป็นมนุษย์เพราะมนุษย์มีความต้องการหากคุณปล่อยให้ชีวิตล่องลอยและละทิ้งความฝันไปคุณได้สูญเสียจิตวิญญาณในความเป็นมนุษย์ไปแล้ว นั่นคือสิ่งที่ชนชั้นปกครองหวังให้คุณเป็นพวกเขาจะแนะนำทุกสิ่งให้โดยที่คุณไม่ต้องคิด
ลืมเรื่องความเท่าเทียมไปได้เลยสิ่งนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้รัฐสวัสดิการณ์เป็นเพียงการเพิ่มเงื่อนไขและทำให้ชีวิตก้าวหน้ายากไปอีกขั้นความยากจนแบบหมู่คณะเพื่อกักขังนักโทษ
ยุคนี้ไม่ต้องทำงานกันแล้วมุ่งเน้นหาเงินเพียงอย่างเดียวใบปริญญาเป็นเพียงใบเบิกทางสู่การเป็นทาสในระบบ
ฝึกฝนทักษะการหาเงินจนชำนาญ เริ่มต้นทันทีไม่ต้องรอเรียนจบ
ทุกคนต้องได้เรียน - พ่อบุญธรรมหยก
https://www.thaipost.net/x-cite-news/398007/
Itv ไม่ใช่สถานที่ แต่เป็นผู้คน
คนเราเป็นทาสอะไรบางอย่างอยู่เสมอ
ทาสของเงินก็จะตามล่าเงิน
ทาสของเกียรติยศ ก็จะไขว่หาการเป็นที่ยอมรับ
ทาสของความสนุก ก็จะไปปาร์ตี้หัวราน้ำ
ทาสของกิเลสตัณหา ก็ไปซื้อบริการ
>>41 สอบตกกฎหมายมรดกแล้วโม่ง
ไม่เรียนกฎหมายอย่ามั่วกฎหมายเอง และหยุดฟังอ.มธ.เช่นปริญญาได้แล้ว ถ้าเปิดกฎหมายอ่านเองจะรู้เลยว่าพวกนี้มั่วทั้งเพ
ทายาทโดนธรรมกับผู้จัดการมรดกเป็นพร้อมกันได้ มรดกตกทอดแก่ทายาททันทีที่เจ้ามรดกเสีย พิทาถือว่าถือหุ้นมาตลอดในส่วนของตนนับแต่พ่อเสีย ดังนั้นตอนสมัคร สส. พี่แกยังถือว่าถือหุ้นอยู่ในขณะนั้น และโอนไปแล้วก็ไม่มีผล เพราะถ้าทำผิดแล้ว ก็ผิดเลย แก้ไปไม่ช่วย
>>60 มันคือความจริง ที่รัฐสวัสดิการจะล่มสลาย
และทุกประเทศต้องทำสงครามเพื่อแย่งทรัพยากรกัน
สงครามโลกไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ผู้คนจะไร้บ้านอยู่
ตึกรามบ้านช่องพังเสียหาย ไวรัส โรคติดต่อ ทำลายสาธารณสุข อาหารและยา ขาดแคลน เงินทองไม่สามารถซื้อของได้ ใครมีกำลังกว่า ก็เข่นฆ่าคนอ่อนแอ
ขออย่าให้เกิดในยุคกุเลย
พิธ๊อคคิโอ กำลังโดนจับแก้ผ้าทุกวัน
เราเป็นเพื่อนกับพ่อมัน รู้จักกับพ่อมันแบบเพื่อนสนิทตั้งแต่เรียนป.4 ที่กรุงเทพคริสเตียน พ่อพิธ๊อคคิโอ ชื่อพงษ์ศักดิ์ เราเรียกเล่น ๆ ว่า ไอ้บ๊อก เพราะมันลักษณะมันเป็นฟันล่างข่มฟันบน ปากมันเลยเหมือนปากหมาบ๊อกเซอร์ มันก็ไม่เคยว่าอะไร ยอมรับชื่อเล่นมันจนจบมาทำงานกัน
บ๊อก เป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ จบวิทยาศาสตร์ อาหารจากม.เกษตร ฯ เรียนต่ออเมริกาสายเดียวกัน จบมาทำงานกับเกษตรรุ่งเรืองที่สำนักงานอยู่ถนนเดียวกับ KBank สาทร ที่เราเป็นผู้จัดการสาขา ได้พบปะสังสรรค์กันทุกสัปดาห์ รวมทั้งกินข้าวกันทุกเดือน แม้แต่ทำบุญสาขา ก็ชวนบ๊อกมาทำบุญด้าย พร้อมกับพาเจ้าทิมที่พิธ๊อคคิโอ ขณะนั้นอายุ 4-5 ขวบมาด้วย
บ๊อกเริ่มธุรกิจหลายอย่าง ตลอดระยะเวลาที่เจอกัน สำเร็จทุกโครงการที่บ๊อกคิดทำ แม้กระทั่ง โรงงานสกัดน้ำมันรำ ก็ยังเริ่มมาในสายตา เรารวมทั้งให้การสนับสนุนเงินกู้บางส่วน
บ๊อกตายไปเมื่อ 2547 ด้วยการติดเชื้อจากโรคไตเสื่อม ตายตามเพื่อน BCC อีกคนชื่อสมัยจิตต์ เวเปุลละ ที่ตายก่อนไปสองวัน ด้วยความใจเสียและหมดกำลังใจบ๊อกก็ตายไปอย่างกระทันหัน
พิธ๊อคคิโอ กลับมารับมรดกจากพ่อ ไม่ได้บริหารกิจการโรงงานสกัดน้ำมันรำข้าวอย่างสมควร มีการดูดซึมเงินออกจากกิจการ จนทุกวันนี้ ญาติพี่น้องรวมทั้งเจ้าผดุง อาของบ๊อกที่เคยเป็นเลขาฯของทักษิณยังไม่ยอมนับญาติ อีกไม่กี่วันก็คงโดนแก้ผ้าเรื่องนี้ออกมาให้พวกเราได้รู้
บริษัทน้ำมันจิ้งเหลนฟอร์ไลฟ์
แม้มีแผนจะเรียนต่อจนจบระดับปริญญาเอก แต่เนื่องจากบิดาต้องเสียชีวิตกะทันหัน “ทิมมี่” จึงต้องกลับประเทศเพื่อดำเนินกิจการของครอบครัว ล้มเลิกความตั้งใจด้านการศึกษาไปโดยปริยาย
ด้วยความรู้จากสถาบันการศึกษาระดับโลก เขาจึงรื้อฟื้นโครงสร้างภายในบริษัทใหม่ทั้งหมด
ลำดับแรก เขาสั่งเลิกจ้างพนักงานสูงวัยซึ่งเปรียบเสมือนช้างป่วย โดยจะชดเชยให้เดือนละ 3,000 แต่สุดท้ายกลับไม่ได้ให้แม้แต่เดือนเดียว
สูตรการผลิตน้ำมันจิ้งเหลนซึ่งอยู่ในมือพนักงานอาวุโส จึงสูญหายไปนับตั้งแต่บัดนั้น ผลิตภัณฑ์ของบริษัทจึงไม่ได้คุณภาพเหมือนเก่า ส่งผลให้ยอดขายตกลงต่อเนื่อง ทิมมี่พยายามกระทำทุกวิถีทางแล้ว แต่ยอดขายก็ไม่กระเตื้องขึ้นแม้แต่น้อย สภาพบริษัทตอนนี้เหมือนกับกรุงศรีอยุธยาใกล้เสียกรุงครั้งที่ ๒ ก็มิปาน
“หรือเราจะเป็นพระเจ้าตาก รวบรวมกองกำลังตีฝ่าออกไปสร้างอาณาจักรใหม่ จะว่าไปการกลั่น การสกัด ไม่ใช่เรื่องที่เราถนัดเหมือนการปั้นน้ำเป็นตัวสักหน่อย”
หลังจากคำนวณถี่ถ้วน ในที่สุด ชายหนุ่มจึงตัดสินใจตามนั้น เขาถอนเงินออกจากบัญชีจนเกือบหมด บันทึกว่าเป็นการให้กู้ยืมโดยไม่มีการค้ำประกัน หรือระบุชื่อผู้ยืม ไม่จำเป็นต้องถูกต้องนักหรอก ยังไงอยุธยาก็ล่มอยู่แล้วนี่
น่าเสียดายที่เขาไม่รู้ว่า การเอาตัวรอดในครั้งนั้น กลับส่งผลเสียมาถึงทุกวันนี้ สถาบันเขาไม่ได้สอน หรือสอนเท่าสอน ไม่เคยจำ ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ แม้แต่ตัวเขาเอง…
ผู้อ่านกวีเหลวไหล
๑๖ มิย ๖๖
Comment: เมื่อคดโกงทำกับครอบครัวตัวเองได้ มีหรือจะไม่คดโกงประเทศชาติเมื่อมีโอกาส
กก
จะให้คนไทยสูญสิ้น ต้องทำลายความเป็นมนุษย์ของคนไทยก่อน 😈
ถาม
ทำยังไง 😲
กก
ทำลาย ศีลธรรม ทำลายค่านิยมที่รวมกลุ่ม ทำลายความสงบสุข 🌪
ถาม
แล้ว เอ็ง จะได้อะไร 😫
กก
ความฉิบหายของประเทศนี้ กองทัพของพ่อกูจะได้มาตั้งได้ ส่วนกูจะเป็น ชนชั้นนำกลุ่มใหม่ 😇
ถาม
แล้วคนทัวไปที่ถูกหลอกละ 😥
กก
เป็นบุญมันแล้วมั้ย ที่เป็นบันไดให้พวกกู แต่นั่นละ ตัวใหม่มีประโยชน์ก็ให้เศษเนื้อกับมันบ้าง 🍗
ถาม
แล้วคนที่ไม่รู้เรื่อง ครอบครัวแตกแยก คนที่ล้มตาย โดยไม่รู้เรื่องละ 😭
กก
แล้วมันเป็นเรื่องของกูหรอ มันเป็นแค่เหยื่อ อยู่แล้ว 🤗
มึงดูสิ่งที่พวกกูทำ มึงก็เห็นๆอยู่ ว่าเรื่องจะไปทางไหน ก็ความวุ่นวายไง chaos อะ
และ กูมาสร้างความวุ่นวายนะ ไม่ใช่มาแก้ปัญหา
กูหลอกพวกมัน เพื่อให้สิ่งที่ได้มา
และ กูเกลียด ประเทศไทย
ไม่ใช่พ่อแม่หยกโดนอีฆ่าหมดส้วมไปแล้วเหรอ
ก้าวไกล ไม่ใช่พรรค แต่เป็นผู้คน
“พี่จะเอากับประตูเหรอคะ 5555555”
-นักเคลื่อนไหวฝั่งซ้ายหัวก้าวหน้า พูดกับชายชนชั้นแรงงานที่กำลังทำงานอยู่
หากเปรียบเทียงโรงเรียนคือกิจการ โดยทีครู เป็นผู้ให้บริการ นักเรียนเป็นลูกค้า หรือ ผู้รับบริการ
ผู้ให้บริการไม่ควรมิสิทธิและอำนาจเหนือลูกค้าหรือผู้รับบริการ การที่ผู้ให้บริการบังคับให้ผู้รับบริการต้องใส่ชุดอะไรก็ไม่รู้ บังคับว่าผู้รับบริการต้องทำอย่างนั้น อย่างนี้ โดยสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ให้บริการ (ครู) เป็นเรื่องที่แปลกมาก ปกติ ลูกค้า ควรที่ต้องมีอำนาจในการรับบริการตามวัตถุประสงค์ ที่ลูกค้าใช้บริการ ในทีนี้ นักเรียน คือลูกค้า ครูไม่ควรออกกฎบังคับใดๆ ไม่สามารถออกกฎบังคับให้นักเรียนต้องกระทำการใดๆ ที่สร้างความพึงพอใจให้กับครูอีกด้วย
ดังนั้น การที่บังคับให้นักเรียน ต้องใส่ชุดนักเรียนถือเป็นการกระทำที่เผด็จการ และการที่หลายคนไม่ควรสนับสนุนระบบเผด็จการในรูปแบบนี้เด็ดขาด
#ช่วยน้องหยกให้เข้าเรียน
>>77 มันคือการค้าประเภทนึงแต่คนเป็นลูกค้าไม่ใช่นักเรียนแต่เป็นพ่อแม่ ในที่นี้ลูกค้า(ผปก)ส่งคนของตัวเอง(ลูกหลาน)มาให้ผู้ให้บริการ(ครู)ฝึกให้มันเป็นงาน งานที่ว่าคือความรู้พื้นฐานกับระเบียบของสังคม ง่ายๆรรคือธุรกิจที่คนเป็นพ่อแม่มาให้พวกอาจารย์ดัดสันดานและให้ความรู้ของลูกตัวเองเพราะตัวเองไม่มีเวลามาสอนเอง
โรงเรียนคืนค่าเทอมแล้วเพราะงั้นอีหยกไม่ใช่ลูกค้านะ
จะมี รร ไหนกล้ารับล่ะนั่น
เรื่องตอนนี้เหมือนเหตุการณ์ลูกค้าสถุนมายืนด่าพนักงานกับบริษัทเพราะไม่ถูกใจ เลยโดนพนักงานเชิญออก แต่เราไม่ยอม รู้ว่าร้านที่ดูมีชื่อเสียงดีมีแค่ที่นี่แหละ เลยมุ่งมั่นด่าต่อไปเผื่อเขาจะตามใจเราที่เป็นลูกค้า แล้วบอกว่าตัวเองอะถูกแล้ว อีกฝ่ายมีหน้าที่บริการเราเท่าน้าน แต่เขาก็บอกว่าบริการให้เราได้เท่านี้จริงๆ ที่เหลือมันเกินกฎเกณฑ์ร้านค้า แต่ร้านอื่นมีนะ ทางเราคืนเงินให้หากคุณไม่ถูกใจ แต่คือถ้าไปอีกที่มันตามใจเราแต่มันไม่มีบางอย่างที่เราอยากได้อะ ก็เลยมั่นต่อไปว่าเปลี่ยนเหอะ กูจะได้เข้าร้านนี้ต่อไปได้ ร้านนี้ดีที่สุดแล้ว ขาดแค่เรื่องนี้จริงๆ เปลี่ยนทีๆๆๆ
>>77 “หากเปรียบเทียงร้านชาบูคือกิจการ โดยทีร้าน เป็นผู้ให้บริการ คนกินเป็นลูกค้า หรือ ผู้รับบริการ
ผู้ให้บริการไม่ควรมิสิทธิและอำนาจเหนือลูกค้าหรือผู้รับบริการ การที่ผู้ให้บริการบังคับให้ผู้รับบริการต้องกินได้แค่ตามเวลาที่กำหนด บังคับว่าผู้รับบริการต้องจ่ายค่าปรับถ้ากินเหลือ โดยสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ให้บริการ (ร้านชาบู) เป็นเรื่องที่แปลกมาก ปกติ ลูกค้า ควรที่ต้องมีอำนาจในการรับบริการตามวัตถุประสงค์ ที่ลูกค้าใช้บริการ ในทีนี้ คนกิน คือลูกค้า ร้านชาบูไม่ควรออกกฎบังคับใดๆ ไม่สามารถออกกฎบังคับให้คนกินต้องกระทำการใดๆ ที่สร้างความพึงพอใจให้กับร้านชาบูอีกด้วย
ดังนั้น การที่บังคับให้คนกิน ต้องมีเวลากินจำกัดถือเป็นการกระทำที่เผด็จการ และการที่หลายคนไม่ควรสนับสนุนระบบเผด็จการในรูปแบบนี้เด็ดขาด”
กูแค่แทนที่คำพื้นๆนะ ลองอ่านทวนดูแล้วตอบดิ๊ว่าเห็นด้วยไหม อิอิ
ว่าด้วยเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ
.
1. หลายพรรคการเมืองขนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเสนอประชาชนในช่วงการเลือกตั้ง โดยบอกว่าที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยโตต่ำกว่าที่ควรจะเป็น (เฉลี่ยอยู่ที่ 3% ต่อปี) ซึ่งหากเป็นรัฐบาลจะทำให้เศรษฐกิจโตได้มากกว่านี้ (5% - 6% ต่อปี) อย่างไรก็ดี มีงานศึกษาเมื่อปี 2565 ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตได้ตามศักยภาพ (Potential GDP growth) 3.7% และกระทรวงการคลังประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2566 จะโตอยู่ที่ 3.6% ซึ่งใกล้เคียงกับการเติบโตตามศักยภาพ
.
2. นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอุปสงค์ที่เน้นการเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยในระบบเศรษฐกิจจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตเพิ่มขึ้นได้ แต่หากการเติบโตนั้นเกินกว่าการเติบโตตามศักยภาพ ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศที่แท้จริง (Real GDP) จะกลับเข้ามาสู่การเติบโตตามศักยภาพในภายหลัง และเพิ่มเติมด้วยเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเงินเฟ้อปี 2566 คาดว่าจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ หลังจากที่ปี 2565 อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 6.08% สูงสุดในรอบ 24 ปี
.
3. ต้นทุนของนโยบายเศรษฐกิจที่ควรพิจารณา
- ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity cost) ของงบประมาณ ยิ่งใช้เงินงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจมากเท่าไหร่ แปลว่างบประมาณสำหรับภาคส่วนอื่น อาทิ การศึกษา สาธารณสุข การเกษตร จะลดลงมากขึ้นเท่านั้น
- การกู้ยืมเงินเพื่อมาใช้จ่ายนโยบายจะส่งผลต่อวินัยการเงินการคลังของรัฐอย่างมาก เนื่องจากพื้นที่การคลัง (Fiscal Space) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ที่ 61.23% เกินกว่าที่กรอบวินัยการเงินการคลังเคยกำหนดไว้ช่วงก่อนโควิด
- การออกแบบนโยบายยิ่งยุ่งยากมากเท่าไหร่ ยิ่งมีคนตกหล่นมากเท่านั้น นโยบายที่มีต้นทุนในการเข้าถึงมาก อาจจะทำให้คนที่ต้องการมากที่สุดไม่สามารถเข้าถึงนโยบายได้ ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอาจจะไม่ทั่วถึง แต่เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจะเข้าถึงและส่งผลต่อทุกคนอย่างไม่เลือกหน้า
- หากเงินเฟ้อรุนแรงอาจทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยมีความจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก และจะยิ่งซ้ำเติมปัญหาหนี้ครัวเรือนของไทย ซึ่งปี 2566 คาดว่าจะอยู่ที่ 84% - 86.5% ต่อ GDP ชะลอตัวลงเป็นปีที่ 2 แต่ยังถือว่าสูงอยู่ (เป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ที่ 80% ต่อ GDP)
.
4. ทางออกของประเทศไทยในเวลานี้จึงอาจจะไม่ใช่เน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นด้วยนโยบายด้านอุปสงค์ แต่ควรเน้นเพิ่มศักยภาพการเติบโตของประเทศระยะยาวด้วยนโยบายด้านอุปทาน คือเร่งการเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) ให้กับปัจจัยการผลิตภายในประเทศ ลดการใช้ทรัพยากร และเปลี่ยนโครงสร้างระบบเศรษฐกิจ อาทิ
- ลดการผูกขาด เพิ่มการแข่งขันที่เป็นธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมที่เป็นต้นทุนของระบบเศรษฐกิจ เช่น ไฟฟ้า เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบเศรษฐกิจ
- เชื่อมโยงกับต่างประเทศ เพื่อแสวงหาทรัพยากรใหม่ ๆ หรือใช้ประโยชน์จากห่วงโซ่อุปทานโลก
- ส่งเสริมการลงทุนที่เน้นเทคโนโลยี เศรษฐกิจสร้างสรรค์และส่งเสริมส่งแวดล้อม เพื่อให้โตได้เร็ว โตได้ไว และโตอย่างยั่งยืน
- ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สอดรับกับการเพิ่มผลิตภาพในประเทศ ลดความซ้ำซ้อน และกระจายสู่ท้องถิ่น รวมทั้งจัดการระบบให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้
- ลดต้นทุนในการเข้าถึงการศึกษาและสาธารณสุข รวมทั้งส่งเสริมคุณภาพการศึกษา ลดอำนาจนิยมในโรงเรียน เพื่อให้บุคลากรของชาติในรุ่นถัดไปกล้าคิด กล้าทำ และมีองค์ความรู้ที่สอดคล้องกับความท้าทายใหม่ ๆ ในโลกอนาคต
- ยกเลิกเกณฑ์ทหาร เลิกบังคับให้กำลังแรงงานออกจากระบบเศษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ประเทศเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์
.
ประเทศไทยแก่ก่อนรวย เราอาจจำเป็นต้องระมัดระวังการใช้เงินให้มากขึ้น เราเหลือโอกาสอีกไม่มากที่จะรวย ถ้าเราทำไม่ได้ ภาระในการดูแลคนแก่ที่มีจำนวนมากกว่าเราจะตกสู่คนรุ่นเราและรุ่นถัด ๆ ไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
US healthcare - “You can see a doctor for $10,000”
European healthcare - “You can see a doctor in 9 months.”
Canadian healthcare - “Have you considered killing yourself?”
-มิตรสหายท่านนึง
>>91 แต่ยังดีกว่าไทยนะครับ สำหรับระบบการแพทย์บ้านเขาก้าวหน้ากว่าไทยเยอะครับ มียาที่ดีที่สุดที่เขาผลิตเองได้ แถมตอนโควิทก็ไม่มีปัญหาเตียงไม่พอเหมือนไทยด้วย เพราะมีวัคซีนที่ดีที่สุดในโลกฉีด ขณะที่บ้านเรายังไม่มีฉีด ขนาดมีคนเสนอให้แลกวัคซีน 2:1 ยังไม่ยอมแลกให้คนไทยได้ฉีดวัคซีนที่ดีที่สุดอีกด้วย
สามกีบทุกคนเป็นพลเมืองโลก แต่หากินกับคนไทย รู้ไปหมดแต่ออกจากไทยไม่ได้สักที
เมืองหลวงของอเมริกาไม่ใช่วอชิงตันดีซีเหรอ
เคยเจอทวิตนึงบอกว่าคนเลือกเพื่อไทย 10 กว่าล้าน เป็นพรรคอันดับสองนี่ เขาต้องการเพื่อไทยที่เป็นแบบนี้ ดังนั้นเลยไม่ต้องปฏิรูปเปลี่ยนแปลงพรรค
ถ้าระดับนำในพรรคคิดแบบนี้ เลยนำมาสู่การเล่นการเมืองแบบหน้าด้านเอาประธานสภา เพราะเชื่อว่าไอ้สิบล้านคนนี่มันของตายอยู่แล้ว อีกอย่างทักษิณก็ยังขายได้อ่ะนะ ค่อยไปหวังเพิ่มจำนวนอีกสี่ปีข้างหน้า
ก็รอกันไปนะครับว่าไอ้สิบล้านคน อีกสี่ปีหน้าจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงเหลือแค่ล้านต้นๆ กันนะ🤔
>>100 คนเลือกเพื่อไทยเขาสนใจแต่เรื่องปากท้อง ถ้าเพื่อไทยตั้งรัฐบาล ทำนโยบายตัวเองได้ แล้ว ศก. ดีคนมีเงินใช้ขึ้นมาจริงๆ กูก็อยากดูเหมือนกันนะ ระหว่างความเชื่อที่ว่าถ้า ศก. ดีคนจะลืมเรื่องเจ้าไปเอง (เพื่อไทย) vs สำนึกคนไทยเปลี่ยนไปแล้ว ความนิยมเจ้าลดลงแล้ว (ก้าวไกล) อะไรจะถูก
>>103 มันเป็นแบบนี้
- ไทย : ข้อดีทุกคนเข้า รพ. และเจอหมอง่ายแถมจ่ายค่ารักษาถูก ข้อเสียรอนานเพราะ รพ.แน่น และบุคลากรการแพทย์ทำงานหนักเหมือนโรงงานนรก
- โลกที่ 1 ทั่วไป : ข้อดียังมีสวัสดิการสุขภาพและหมอไม่ได้ทำงานหนักมากเกินไป ข้อเสียคือไม่ใช่ทุกคนที่จะพบหมอได้ง่าย ถ้าไม่คอขาดบาดตายจริงๆ ก็รอคิวยาวๆ
- เมกา : ข้อดีคือหมอเป็นอาชีพทีรายได้ดีมากและไม่ได้ทำงานหนักเกินไป ข้อเสียคือไม่มีสวัสดิการสุขภาพ แต่ละคนต้องดิ้นรนทำประกันเอาเอง ดังนั้นป่วยมาคนจนโอกาสตายสูง
เมื่อเดือนก่อนๆ โทรสัมภาษณ์เด็กจบใหม่คนนึงมาทำตำแหน่งธุรการทั่วไป ประจำ บ.
มีเด็กส่งเรซูเม่มา เลยโทรไปสัมฯ ถามข้อดีน้อง น้องก็เก่ง ดูคล่อง พูดจาฉะฉาน แล้วแพงว่าแพงชอบทำงานกับคนที่มีอะไรก็พูด
🐣: หนูเป็นคนไม่ยอมคน ถ้าอะไรผิดหนูไม่ยอม หนูจะใส่คืน (ใช้คำนี้)
👩: อ๋อ โอเค พี่ก็ชอบนะ มีอะไรก็คุยกันด้วยเหตุผล ดีกว่าเบลม หรือต้องฟังคำสั่งเท่านั้น .. มีอะไรอีกไม๊?
🐣: หนูติดเที่ยวมาก ขอเลิกงานตรงเวลา
👩: โอเคค่ะ ทุกคนตรง👍
🐣: หนูไม่รับโทรศัพท์นอกเวลางานเด็ดขาด ให้ช่วยก็อาจจะไม่ได้
👩: ค่ะ
🐣: ขอ WFH วีคละ 2 วันถ้าเป็นได้ น้ำมันแพง
👩: ค่ะ
🐣: หนูติดแฟนนะพี่ บางทีแฟนมารับก่อนเพราะเลิกงานไวกว่า บอกก่อนเลยกลัวมีปัญหา
😤
ก็เลยบอกน้องว่า ภายใน 3 วันพี่ติดต่อกลับนะคะ ถ้าเลย 3 วันน้องมูฟออนเลยไม่ต้องรอ
นึกได้เพราะน้องโทรมาถามว่าหนูได้งานนี้ไหม หนูหางานไม่ได้เลย,, คืออ ไม่ใช่น้องไม่ดีนะ น้องมีสิทธิ์เรียกทุกอย่างตามต้องการตามระดับความสามารถ แค่ คพ กลัวเจอตัวเองเวอร์ชั่น พนง.ออฟฟิส 😂
ถ้าน้องชอบลาออกเวลาไม่ถูกใจ นั่นก็พี่เลย 😌
คนเรียนเศรษฐศาสตร์กันมา จะเก่งหรือไม่ยังไง ภ้าไม่เหี้ย ทุกคนเขาอยากให้เปิดธนาครเพิ่มผู้เข้าแข่งขันใน section นี้กันหมดครับ เพราะเขารู้ว่า ทุนธนาคารไทยนี่ แม่งผูกขาดมาก และครอบงำตลาดไทยมาก มันล็อกศักยภาพประเทศเอาไว้
ดังนั้น ไอ้คนแบบนี้ ไปฟังบ้าอะไรมันก่อน วู้
>>107 ปัญหาเวเน คนละเรื่องกับ ไอ้ >>106 ปัญหาเวเนที่นโยบายประชานิยมสุดโต่ง เพราะบังเอิญขุดเจอน้ำมัน
ส่วนเรื่องเปิดธนาคาร ปัญหาเดียว ธปท. บ้านเราเขี้ยวมาก หลังจากปัญหา 40 ต้มยำกุ้ง ที่ ธ. ล้ม บริษัทไฟแนนซ์ ทั้งหลายล้มจาก bank run ไม่มีเงินจ่ายคืนให้กับคนฝาก
ส่วนสุกัญญา สงสัยจริงๆนะ ไม่เคยผ่าน 40 มาใช่ไหมเนี่ย หรือไม่ก็ไม่สนใจรู้เรื่องนี้เลย แล้วแม่งก็ไม่เข้าใจปัญหา NPL บ้านเราอีกต่างหาก สินเชื่อส่วนบุคคลมันเยอะไป บ้านเราแบบว่าต้องมีเงินไม่ขาด ไม่มีถ้ากู้หรือยืมได้ จะยืม ถ้าไม่มีคืนก็ไม่จ่าย นิสัยแบบนี้ บริษัทที่ไหนจะให้คนมายืมวะ
>>108 ไม่คนละเรื่องละมึง 1 ใน ปัญหาของ เวเนซุเอล่า คือ นโยบายประชานิยมของมันนั่นแหละทำให้ เอกชน แม่งหนีออกจากประเทศหมดเลยไม่สามารถผลิตสินค้าเองได้ต้องนำเข้าหมด แล้วไอ้นโยบายของ ส้ม มันมีแนวโน้มจากสร้างสถานการณ์เดียวกับ เวเนซุเอล่า ได้ ต่างกันคือเราไม่มีน้ำมันแม่งแค่นั้น
ประชานิยมน่ะต้องมี ยังไงเทรนด์ลดเหลื่อมล้ำช่องว่างรวย-จนไม่ทำไม่ได้ เพื่อให้อุณหภูมิสังคมไม่ระอุเกินไป แต่ไม่ใช่ทำแบบสุดโต่งอะ ปัญหาของเวเนฯ คือไม่รู้มันเอาอะไรคิด น้ำมันอย่างเยอะแต่สร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำ พอหน้าแล้งทีไฟก็ติดๆ ดับๆ สิ อุตสาหกรรม-ธุรกิจที่ไหนจะอยู่ได้ อีกอันคือไปคุมราคาสินค้าเกษตรให้ถูกเวอร์ พวกชาวนาชาวไร่บอกกูเลิกทำเกษตรละ รัฐบอกไม่แคร์ รวยน้ำมันก็นำเข้าของกินจาก ตปท. มาขายถูกๆ วันนึงราคาน้ำมันตกก็อย่างที่เห็น
อีกประเทศคือซิมบับเว ตอนแรกๆ อะผู้นำมันทำดีนะ ทุ่มงบสร้างโรงเรียน-โรงพยาบาลก่อนเลย จนเกือบจะรุ่งแล้วเพราะในแอฟริกาช่วง 80-90 คนส่วนใหญ่แม่งแทบไม่รู้หนังสือ สาธารณสุขก็แย่สุดๆ แต่ไม่รู้พี่แกเกิดเฮี้ยนอะไรขึ้นมา ไปยึดที่ดินจากคนขาวมาให้คนดำทำเกษตร ผลคืออดอยากทั้งแผ่นดินสิเพราะคนดำตอนนั้นยังทำเกษตรกันไม่ค่อยเป็นเลย พอเห็นคนอดอยากพี่แกยังไม่เลิกคิดอะไรเพี้ยนๆ ดันพิมพ์เงินมาแจกอีก เงินเฟ้อไปกันใหญ่
แต่ถ้าไม่มีประชานิยมเลย ผลก็จะเป็นแบบอเมริกาน่ะ ด้านหนึ่งเจริญวัตถุสุดๆแต่อีกด้านสังคมอย่างเสื่อม homeless น่าจะเยอะสุดในโลกละมั้ง เพราะทุกคนอยู่ด้วยประกัน ต้องลุ้นตลอดเกิดเรื่องแล้วจะรับเคลมไหม วันไหน ศก. ผันผวน จากมีบ้านก็ไร้บ้านได้ง่ายๆ แถมเป็น homeless อเมริกันนะ ไม่ใช่ผู้อพยพแบบฝั่งยุโรป
>>110 ประชานิยมมันสร้างปัญหาระยะยาวไงมึง ไทยเนี่ยแหละเจออยู่ก็คือ หมอ พยาบาล นี่ไง จะยกเลิกแม่งก็ไม่ได้รอวันพังอย่างเดียว มันอาจจะไม่เห้นวันที่ใช้ แต่มันจะเห็นหลังจากนั้นประมาณ 10 กว่าปี แล้วไทยก็เห็นกันเต็มๆ อยู่ตอนนี้ นี่กุไม่รวม Taxi ที่ตอนสมัยนั้นออก taxi เอื้ออาทร สนับสนุนคนมาขับแท็กซี่กันเยอะ จนกลายเป็นรากความห่วยแตกของ taxi จนทุกวันนี้เลย
ประชานิยมการแพทย์ระบบเน่าถึงขั้นคนติดเตียงตายห่าก่อนได้เข้ารักษา เพราะคนป่วยแม่งล้นคิว ไอ้ที่ร่อแร่จริงๆเลยเข้าถึงการรักษาไม้ทัน(เอาทันก็ต้องใช้เงินฟาด)
>>111 >>112 งั้นมึงจะเอาไงล่ะ ปล่อยให้มันเป็นไปแบบยุคโบราณ ไม่ต้องแคร์ว่าสังคมจะเหลื่อมล้ำยังไง ไม่ต้องบอกนะว่าโลกไม่มีวันเท่าเทียม อันนั้นใครๆ ก็รู้ แต่แค่มี Mindset ว่าจะลดความเหลื่อมล้ำ แล้วให้มันพอขยับบ้างก็ดีแล้ว ขยับได้มาก-น้อยแค่ไหนก็อยู่ที่การถกเถียงกัน แต่ถ้าไม่เอา Mindset นี้เลย ก็เท่ากับว่ายอมรับ Mindset แบบโบราณด้วยนะ ว่ามันมีคนที่เกิดมาเป็นนายและคนที่เกิดมาเป็นทาสน่ะ
>>113 ก็ถ้ามึงยิ่งคิดลดความเหลื่อมล้ำด้วยวิธีประชานิยม มันก็ยิ่งเหลื่อมล้ำขึ่นเรื่อยๆไงละมึง ตอนแรกมันก็ดูเหมือนจะไม่เหลื่อมแต่พอผ่านไปสักพักมึงจะเห้นชัดเลยมันยิ่งถ่างกว้างขึ้นเรื่อยๆ 10 กว่าปีที่ผ่านมามึงก็เห็นชัดๆ อยู่ยังจะคิดทำอีกเหรอ ประชานิยมมันก้กินเนื้อย่างติดมันนั่นแหละ กินแรกๆมันก็อร่อยดี แต่พอผ่านไปสัก 10 มึงก็เป็น มะเร็งแดก ไขมันอุดตันในเส้นเลือด ตายห่าน มึงถามกุว่าควรใช้วิธีไหนกุก็บอกตรงๆ ว่ากุก็ไม่รู้ คงต้องให้คนที่เก่งกว่าคิดแหละ แต่ไม่ใช่ใช้วิธีที่พามึงไปเป็น มะเร็ง ฟระ
*พอผ่านไปสัก 10 กว้าปีมึงก็เป็นมะเร็งแดก*
แก้ไขคำผิด
>>114 >>115 ก็อย่างที่โลกเป็นนี่แหละ แต่ก่อนมันมีสมดุลของมัน มนุษย์เนี่ย อารยธรรมเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปตลอด คนรวยสะสมทุนจุดหนึ่งสังคมระอุมากอยู่ไม่ได้ก็เกิดปฏิวัติรัฐประหารไม่ก็สงครามทำลายล้างกัน พอล่มสลายเสื่อมลงสักพักก็นับ 1 วนลูปใหม่กันมาแบบนี้ ซึ่งการล่มสลายมันก็มีคนตายเยอะใช่ปะ ถ้าไม่เอาอารมณ์ความรู้สึกไปจับ มันก็คือการรักษาสมดุลประชากรมนุษย์ แต่ก็นั่นละ มนุษย์แม่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่คิดอะไรซับซ้อนกว่าสัตว์อื่นไง ไม่อยากเห็นภาพแบบนี้ ถึงได้พยายามหาทางลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งก็จะลดโอกาสการเกิดสงครามหรือการฆ๋าฟันเพื่อแย่งชิงทรัพยากร ก็จะไม่มีภาพความอดอยากหรือคนตายเป็นเบือให้รันทดใจอีก เราถึงเรียกเผ่าพันธุ์ตัวเองว่าสัตว์ประเสริฐไง แตกต่างจากสัตวอื่นที่เป็นเดรัจฉานเพราะมนุษย์พยายามจะหนีสัญชาตญาณดิบอยู่ตลอด แต่ก็นั่นละ มันเป็นเรื่องที่น่าคิดว่าอารยธรรมมนุษย์จะแบกรับตรงนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน เพราะทำแบบนี้ผลก็คือประชากรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แถมเอาจริงๆ มีแต่คนแก่ทีเ่พิ่มอีก เช่นเดียวกับสายพันธุ์ที่ควรถูกคัดทิ้งตามธรรมชาติอย่างพวกเจ็บออดๆ แอดๆ มีโรคประจำตัวก็ถูกรั้งให้อยู่ด้วยการสร้างสังคมลดเหลื่อมล้ำ
https://main.healthstation.in.th/news/show/914 เบื้องหลังองค์กรตระกูล ส ผู้ผลักดันให้คนไทยเข้า รพ. ได้ง่ายๆ และหนุน ngo จนเข้มแข็งมาสู้กับสามเหลี่ยมเหล็ก (ราชการ+การเมือง+นายทุน) เริ่มจากคนกลุ่มนี้
แต่ก็ทำให้หลายคนรอดตาย X
ตอนนี้ก็เริ่มไม่รอดแล้ว O
ลองคิดหลายตลบแล้ว ถ้าไม่นับรวม ส.ว. ซึ่งเป็นไปตามระบบแล้ว อุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาลพิธา ไม่ใช่รัฐบาลเสียงข้างน้อยของฝั่งเดิมแล้ว เพราะเขาตระหนักว่าตั้งได้ก็บริหารไม่ได้ ซื้อ 60 กว่าคนนั้นยาก ความชอบธรรมก็ล่มจม
แต่เป็นโอกาสของ "ส้มหล่น" และ "รอเสียบ" นี่แหละ
>>125 กูนั่งคิดเล่่นๆ นะ ถ้าไม่มี สว. เผลอๆ เพื่อไทยได้เปรียบก้าวไกลยิ่งกว่าตอนนี้ เพราะจะไม่ถูกกดดันให้ต้องจับมือกัน คือต่างฝ่ายต่างหาทางรวมเสียงแข่งกันไปเลย ซึ่งแน่นอนยังไงก้าวไกลก็ไม่มีใครอยากร่วมด้วย (ไม่มีพรรคไหนอยากยุ่งเรื่องเจ้า) เพื่อไทยตั้งรัฐบาลชิลๆ ปล่อยด้อมส้มหัวร้อนไป
ซ้ายครองแถวไหนมักจะจบลงที่ไม่มีจะแดกอย่างเท่าเทียม ซ้ายครองโลก=อดอยากอย่างทั่วถึง
You will own nothing and you will be happy!! ไอ้โล้นคอมมี่แถว WEF มันเห่าเอาไว้
ดูข่าวเมื่อเช้า มีคนออกมาขู่ว่าถ้าพ่อเป็นนายกไม่ได้ จะดำเนินการหยุดงานประท้วง เน้นในกทม ปริมณฑล เขตนิคมอุสาหกรรมต่างๆ ที่เราสงสัยคือ เหตุการณ์จะพัฒนาไปแบบไหน เป็นแบบฝรั่งเศส หยุดงาน ออกเผา ปล้นสะดมร้านค้า หรือแบบดาวกระจายแบบอดีต ที่เลิกงานชุมนุมทุกวัน ปิดล้อมบ้านนายก ขวางขบวนรถ ปิดสี่แยก ล้อมสภา ละเลงสีสถานที่สำคัญ แล้วผลกระทบจะออกมาทรงไหน นักลงทุนบางประเทศย้ายโรงงาน เพราะค่าแรงแพง คนงานหยุดบ่อย การท่องเที่ยวบริษัทประกันไม่รับ ต่างชาติประกาศให้หลีกเลี่ยงการมาเที่ยว
ก้าวไกลเป็นพรรคการเมืองแบบIdeology ซึ่งจุดอ่อนมีเยอะแยะมาก ทำไม่ได้ตามที่สัญญาความนิยมก็ร่วงได้เร็วแล้ว
แต่ฝั่งเผ็ดกลางมันโง่ ทำตัวเรียกคะแนนให้อีกฝั่งรัวๆ ถ้าไม่ได้เป็นรัฐบาลตอนนี้ รอบหน้าได้เกิน250ขึ้นมา คราวนี้จะแก้เกมยังไง
มองจากมุมต่างประเทศ พรรคชนะเลือกตั้งแต่ไม่ได้เป็นรัฐบาล เค้าก็รู้แล้วว่ามันประหลาด
>>134 ฝั่ง รบ ไม่ได้ทำตัวโง่ แต่พวกมึงแค่โดนไอโอด้อมส้มล้างสมอง เริ่มจากจุดอ่อนแรกคือ รบ มาจากการ ปฏว ล้างสมองด้วยม๊อบรายวันซ้ำๆ แล้วก็ตั้งตัวเองเป็นฝั่ง ปชต ทั้งๆ ที่แนวความคิดสังคมนิยม คอมมี่จ๋า ส่วนลุงป้อมแม่งโง่เอง ส่งลูกน้องมาคอยปัดแข้งปัดขาตู่ พวกแป้ง ปารีณา สี ทำตัวโง่ๆ เพื่อดิสเครดิต รบ ตัวเอง ไอ้หนูก็คุมน้องเนวินไม่อยู่แดกมูมมามเกินเหตุ ปชปแม่งก็มีปัญหาภายในพรรคจะแตกร่อมร่อบางคนดีลย้ายไปพรรคอื่นไว้รอแล้ว
Neo-Marxism มีประเทศไหนใช้บ้างไหม และหน้าตาแนวคิดเป็นยังไง ประสบความสำเร็จไหม
ค่านิยม gen z เขาไม่เอาเผด็จการหรืออำนาจนิยมอะ ขนาดเจียมยังโดนทัวร์ลงเลยตอนที่โพสต์ว่าไทยไม่ควรเอนเอียงข้างไหนทั้งนั้นตอนรัสเซีย-ยูเครนเพิ่งเริ่มรบกันน่ะ
ไม่เอาอำนาจนิยมนี่รวมไม่เอารัฐตำรวจด้วยมะ
https://twitter.com/TaoualitAmar/status/1677680778350567430
พอเกิดจราจลแถวบ้านเดี๋ยวก็ร้องหาตำรวจเรียกหาความสงบเรียบร้อยแบบไอ้พวกอิลิทหรั่งสมัย BLM ยังพีคๆ
>>146 เปล่าเลยไอ้พวกนี้มันโดนฝังหัวกันมา gen y อย่างกุก็โดนว่า ฝั่งตะวันตกคือฮีโร่ ระบบ Democracy คือดีที่สุดแบบโน้นแบบนี้ โดยไม่สงสัยเหี้ยอะไรเลยต่างหาก เรียกว่าไม่กล้าตั้งคำถามกับคำว่า Democracy ว่าจริงๆ มันต้องเป็นลักษณะไหน พวก Gen Z เลย มันโชว์ความเป็น อำนาจนิยม ซะเองอยู่นี่ไง โดยผ่านการใช้วิธี หมาหมู่ กดดันใส่คนอื่น
>>148 ตั้งแต่หลัง ww2 แนวคิดกดดันแบบนี้มันก็เริ่มมาแล้ว อย่างหนังสือ Mein Kampf ที่ลุงหนวดเขียนก็ห้ามเผยแพร่ ต้องมาหาอ่านนอกโลกตะวันตกน่ะ (อ้างว่านาซีเป็นลัทธิอันตราย) แล้วพวกนี้ก็ไปยึดพื้นที่สถาบันสำคัญๆ ของสังคม ทั้งมหาลัย ทั้งสื่อ สร้างคนไปเป็นนักการเมือง เป็น NGO บอกว่า พวกแนวคิดอำนาจนิยมต้องให้มันไม่มีที่ยืน อย่างในเมกาจะเห็นสื่อไปทางเดม อวยโลกาภิวัตน์กันหมด ถึงได้เกิดปรากฏการณ์ช็อกตอนที่ทรัมป์กลายเป็น ปธน. ได้ไง และหลังจากนั้นก็อย่างที่เห็น พวกนี้มันครองวงการไอทีอยู่แล้ว ก็พยายามสกัดไม่ให้ทรัมป์มีที่ยืนบนโซเชียล
การเมืองของคำว่า “โลกร้อน” (Global Warming) และ “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” (Climate Change)
.
ในหนังสือ The ALL NEW Don't Think of an Elephant (2014) โดย George Lakoff อ้างอิงถึงตัวอย่างการเฟรมความคิดของสังคมด้วยการใช้ถ้อยคำ ผ่านตัวอย่างของ Frank Luntz นักสื่อสารการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยมอเมริกัน ซึ่งเขียนหนังสือแนะนำการใช้ถ้อยคำสำหรับนักการเมืองปีกอนุรักษ์นิยมอเมริกาออกมามากมาย
.
หนึ่งในตัวอย่างที่น่าสนใจคือ Luntz แนะนำ เหล่านักการเมืองอนุรักษ์นิยม (ในอเมริกา) ว่าควรเลิกใช้คำว่า “โลกร้อน” (Global Warming) เพราะมันดูน่ากลัว แล้วเหมือนบอกว่ามนุษย์ต้องทำอะไรสักอย่าง โดยเปลี่ยนมาใช้คำว่า “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” (Climate Change) แทน เพราะดูเป็นคำที่เป็นมิตรกว่า (“Climate” ในภาษาอังกฤษทำให้คิดถึงต้นปาล์ม-การพักร้อน)
.
นอกจากนี้ Luntz ยังแนะนำให้ใช้ข้อความอย่างเช่น Healthy, Clean, Safe แม้แต่เมื่อพูดถึงพลังงานถ่านหินหรือนิวเคลียร์ จึงเกิดคำศัพท์ “ถ่านหินสะอาด” (clean coal) ขึ้น ซึ่งการใช้ถ้อยคำเหล่านี้สร้างความชอบธรรมให้พรรคอนุรักษ์นิยมผ่านกฎหมายที่เพิ่มมลภาวะ โดยตั้งชื่อว่า ‘Clean Sky Act’
.
โดย Luntz ใช้การเฟรมการรับรู้ของผู้คนผ่านถ้อยคำควบคู่ไปกับการให้เหตุผลที่ทำลายความชอบธรรมของนโยบาย เช่น บอกว่าข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยังไม่นิ่ง บอกว่าการเพิ่มมาตรฐานสิ่งแวดล้อมจะทำลายเศรษฐกิจ รวมถึงการนำเสนอคอนเซป “อิสรภาพทางพลังงาน” (Energy Inderpendence) เพื่อสนับสนุนการขุดน้ำมันจากชั้นหิน (Fracking)
.
สิ่งที่ Luntz ทำคือกลวิธีเฟรมการรับรู้ที่เรียกว่า Orwellian language หรือใช้คำที่ความหมายตรงกันข้ามกับความจริงเพื่อเฟรมการรับรู้ของคนให้รู้สึกดี เช่น ตั้งชื่อกฎหมาย “ปฏิรูปสวัสดิการ” สำหรับโครงการตัดงบสวัสดิการ ตั้งชื่อกฎหมาย “ไม่มีเด็กคนใดถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” สำหรับนโยบายตัดงบการศึกษา
.
แต่หัวใจสำคัญของสิ่งที่ Luntz ใช้ไม่ใช่ภาษา หัวใจสำคัญคือไอเดีย หรือกรอบความคิด ที่สะท้อนวิธีการมองโลกจากจริยธรรมแบบอนุรักษ์นิยม ทุกการเลือกใช้ถ้อยคำมีการเขียนอธิบายว่าเหตุผลของฝ่ายอนุรักษ์นิยมคืออะไร ข้อโต้แย้งของฝ่ายก้าวหน้าคืออะไร และ ข้อถกเถียงของฝ่ายก้าวหน้าตรงไหนที่สามารถโจมตีได้ ไม่ใช่เพียงแค่หลักการเล่นถ้อยคำเท่านั้น
.
เมื่อคุณพบว่าคุณไม่สามารถหาคำพูดที่มาอธิบายสิ่งที่อยู่ในใจคุณ จริงๆแล้วคุณไม่ได้ขาดคำพูดแต่คุณขาดไอเดีย ในรูปแบบของกรอบความคิดหรือว่าเฟรม ถ้าคุณมีความคิดที่ชัด ถ้อยคำจะเกิดขึ้นเอง
.
Lakeoff ยกตัวอย่างการถกเถียงเรื่อง “Tax relief” (แปลตรงตัวว่า “การปลดปล่อยจากภาษี” แต่ภาษาไทยใช้คำว่า “การยกเว้นภาษี”) ในขณะที่อนุรักษ์นิยมสามารถอธิบายด้วยคำสองคำ แต่ฝ่ายก้าวหน้าใช้หนึ่งพารากราฟในการอธิบาย โดยไม่สามารถเฟรมชุดความคิดในถ้อยคำจำนวนน้อยได้ ซึ่งนี่คือสิ่งที่ใน cognitive science เรียกว่า “Hypocognition” (ภาวะขาดคำ)
.
กล่าวโดยสรุป ชุดความคิดและการใช้ภาษา หรือ “การเล่นคำ” เป็นสิ่งที่ไปด้วยกัน และการใช้ภาษาไม่ใช่แค่การคิดคำที่แคชชี่ จำง่าย หรือสโลแกนเด็ดๆ แต่ต้องเป็นคำที่เชื่อมโยงถึงชุดคุณค่าทางศีลธรรมที่มีการเฟรมกรอบคิด กับชุดคุณค่าที่คนแต่ละกลุ่มยึดถือ เมื่อใดก็ตามที่คุณ ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ง่ายๆ จงตั้งคำถามว่าคุณกำลัง ขาดชุดเหตุผลในการสร้างคำอธิบายหรือพูดง่ายๆว่า กำลัง “พ่ายแพ้ทางความคิด” อยู่หรือเปล่า
พิธา รอด หรือ ไม่รอด
ประเทศไทยมีการขับรถฝ่าไฟแดงมากกว่าหมื่นครั้งต่อวัน
...ฉะนั้น เราต้องเอาไฟแดงออก คนจะได้ไม่ทำผิดกฎหมายฝ่าไฟแดง ตามฉันทามติประชาชน...
เพื่อน 7 คนถาม เย็นนี้กินหมูกะทะกันมั้ย
A: กินๆ ✅
B: กินด้วย ✅
C: กินๆ ✅
D: ไม่เอาอะ หมูกะทะมีแต่สารก่อมะเร็ง ❌
E: งดออกเสียง พวกนายเลือกเอาละกัน
F: งดออกเสียง พวกนายเลือกเอาละกัน
G: (ไม่มา.. ติดภารกิจ)
โอเค สรุป กินหมูกะทะ แพ้ 3:4 😨😨😨
ตรรกะอะไรเนี่ย!!??
#มิตร
คนไทยจะอดตายกันหมดแล้ว
https://www.facebook.com/100044477737480/posts/825534345605816/?app=fbl
>>158 นโยบายส่งเสริมจากภาครัฐหนะ ก็ไม่ได้รวยจริง ต้องอาศัยส่วนลด
https://www.pptvhd36.com/automotive/news/172274
ขออนุญาตมองโลกในแง่ร้ายครับ
การที่พิธาไม่ได้เป็นนายก ปัญหาสำคัญอาจไม่ได้อยู่ที่ ส.ว.
คำถามของผมก็คือ หากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่มี ส.ว.เข้ามาเกี่ยวข้องในการเลือกนายกรัฐมนตรี นายพิธาจากพรรคก้าวไกลจะได้รับการสนับสนุนให้เป็นแคนดิเดทนายกไหม การรวมตัวของ 8 พรรคจะเกิดขึ้นไหม MOU 8 พรรคจะเกิดขึ้นไหม
สมมติฐานของผมก็คือ จะไม่มีการยอมให้พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพียงแต่ครั้งนี้มี ส.ว. ให้เล่นก็เลยใช้ ส.ว.เป็นผู้แสดงการขัดขวาง เพื่อไม่ให้เกิดการโจมตีพรรคการเมืองที่จะร่วมกันขวางทางไม่ให้ก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตย
หมายความว่าหากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้ให้ ส.ว.มีอำนาจเลือกนายก มีแต่ ส.ส.ล้วนๆ พรรคการเมืองต่างๆก็จะจับมือกัน แล้วปล่อยให้พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านตั้งแต่ต้น
เพราะอะไร เพราะเราก็ทราบกันดีมิใช่หรือว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเมืองไทย ก็คือเครือข่ายอำนาจที่ควบคุมผลประโยชน์มหาศาลของประเทศนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการประจำที่นำโดยทหาร กลุ่มทุนผูกขาด และอำนาจที่มองไม่เห็นอื่นๆอีก
เครือข่ายอำนาจดังกล่าวไม่ยอมเสียประโยชน์อันมหาศาลแน่ ดังนั้นหากไม่มีอำนาจ ส.ว. เครือข่ายอำนาจพวกนี้ก็จะสนับสนุนพรรคการเมืองที่พวกเขาควบคุมได้ให้จับมือกันแต่แรกแล้ว
ในอดีตก็มีตัวอย่างให้เห็นโดยตลอด
การเลือกตั้งปี 2518 เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่เป็นประชาธิปไตยฉบับหนึ่ง เป็นการเลือกตั้งที่ประชาชนมีความตื่นตัวทางการเมือง เนื่องจากเกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า ปชป.ได้คะแนนสูงสุด ซึ่งสถานการณ์เหมือนตอนนี้เลย คือ ทุกพรรคสนับสนุนให้ ปชป. ตั้งรัฐบาล เพราะได้รับคะแนนสูงสุด ไม่มีพรรคการเมืองใดตั้งรัฐบาลแข่งเลย แต่ว่าเมื่อตั้งแล้วก็ล้มยังไม่ทันได้บริหารประเทศ เพราะพรรคการเมืองส่วนใหญ่ไม่สนับสนุน ปชป.จึงต้องตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย รัฐธรรมนูญฉบับนั้นกำหนดว่าก่อนรัฐบาลจะเข้าบริหารประเทศต้องแถลงนโยบายต่อสภาผู้แทนก่อน หากได้เสียงเห็นชอบไม่ถึงครึ่งรัฐบาลก็ต้องล้มไป
ที่ ปชป.ตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็เพราะว่ากลุ่มอนุรักษ์นิยมที่มีอำนาจสูงสุดในขณะนั้นไม่ไว้ใจ ปชป. เพราะ ปชป.ประกอบด้วยคนหลายกลุ่ม มีพวกเสรีนิยมได้รับเลือกตั้งเข้ามาหลายคน เช่น นายอุทัย พิมพ์ใจชน นายดำรง ลัทธพิพัฒน์ นายวีระ มุสิกพงศ์ แม้แต่นายชวน หลีกภัย ตอนนั้นก็มองกันว่าเป็นเสรีนิยม และมีเค้าว่า ม.ร.ว.เสนี ปราโมช จะคุมพวกนี้ไม่ได้ ในขณะที่ในสภามีคนที่กลุ่มอนุรักษ์นิยมไว้ใจอยู่ด้วย คือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช กลุ่มอนุรักษ์นิยมจึงสนับสนุนให้พรรคการเมืองที่เหลือจับมือกันตั้งรัฐบาล โดยมี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ หัวหน้าพรรคกิจสังคม ซึ่งมี ส.ส.เพียง 18 คนเป็นนายกรัฐมนตรี
การเลือกตั้งปี 2526 พรรคการเมืองที่ไม่ต้องการสนับสนุนพลเอกเปรมเป็นนายก นำโดยพรรคชาติไทย ได้จับมือกันจนมีเสียงเกินครึ่งหนึ่งของสภา และสามารถผลักดันให้คนในกลุ่มตนเป็นประธานสภาได้ คือนายอุทัย พิมพ์ใจชน แต่ว่าทหารโดยการสนับสนุนของกลุ่มอนุรักษ์นิยมเข้าไปแทรกแซง และสามารถนำพรรคประชากรไทยออกมาได้ 1 พรรค ทำให้เกิดกรณีพรรคประชากรไทยเข้าไปร่วมรัฐบาลเดียวกันกับ ปชป. ทั้งที่ 2 พรรคนี้ประกาศผีไม่เผาเงาไม่เหยียบกันมานานแล้ว
สรุปคือพลเอกเปรมได้เป็นนายกอีกครั้งในฐานะนายกคนกลาง โดยการสนับสนุนของทหารและกลุ่มอนุรักษ์นิยม
การเลือกตั้งปี 2529 ปชป.ได้จำนวน ส.ส.สูงสุดคือ 100 คน จากจำนวน ส.ส.ทั้งหมด 347 เสียง ที่ ปชป.ได้ ส.ส.มาก เพราะนายวีระ มุสิกพงศ์ เลขาธิการพรรคสามารถประสานงานนำคนที่หลากหลายทั้งคนรุ่นใหม่และรุ่นเก่าเข้ามาเสริมจำนวนมาก เช่น สามารถดึงนายจาตุรนต์ ฉายแสง มาลงสมัครครั้งแรก ดึงนายไขแสง สุกใส อดีต ส.ส.นครพนมที่เพิ่งออกมาจากป่าได้ไม่นานเข้ามาลงเลือกตั้งด้วย
ในระหว่างหาเสียง ปชป. ประกาศว่าถ้าได้เสียงสูงสุดจะผลักดันนายพิชัย รัตตกุล หัวหน้าพรรคเป็นนายก แต่ฝันของ ปชป.ก็ไม่เป็นจริง เพราะทหารและกลุ่มอนุรักษ์นิยมต้องการให้พลเอกเปรมเป็นนายกต่อ จึงสนับสนุนให้พรรคกิจสังคมและพรรคชาติไทยจับมือกันแล้วบอกว่ามีเสียงมากกว่า ปชป. และพร้อมจะสนับสนุนให้พลเอกเปรมเป็นนายก ทำให้ ปชป.กลับตัวแทบไม่ทัน คือเข้าไปร่วมสนับสนุนให้พลเอกเปรมเป็นนายกเช่นเดิม
เวลาตปท.ถามกุจะชอบตอบว่า เออ กะลาแลนด์เนี่ยนะ don't know any better เพราะไม่เคยเปิดหูเปิดตามองประเทศที่เจริญแล้ว senator บางคนมีความเกลียดชังในใจเข้าขั้น xenophobia แถม SEA นิกก้าสายพันธุ์เจ็กชอบอนุรักษ์สิ่งที่ฉุดรั้งประเทศ คิดว่าความด้อยค่าคือความภาคภูมิใจ แม้ยกตัวอย่างประเทศเอเชียด้วยกันอย่างเกาหลีใต้ที่งอกงามได้ด้วยระบบที่ดีกว่า พวกเขาก็จะยังอยากจะอยู่ในกะลา หนักหน่อยก็บน ivory tower ที่ครอบด้วยกะลาอีกที เพราะคนที่ออกมาวิจารณ์การเมืองต่างๆนาๆ ต่างไม่ใช่คนหาเช้ากินค่ำ doing 6 to 5 jobs และความเหลื่อมล้ำของประเทศนี้ก็เป็นอีกความภาคภูมิใจด้วยเช่นกัน บางทีการที่กะลาแลนด์ไม่เคยโดน colonized จาก western อาจจะเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่เคยเกิดขึ้นกับประเทศนี้ก็เป็นได้ เพราะเราไม่เคยได้รับรู้ว่าการตกอยู่ใต้อำนาจของคนกลุ่มนึงแล้วทำอะไรไม่ได้เลยมันเป็นที่สิ่งเลวร้ายมาก คนในอดีตที่รับรู้อย่างลึกซึ้งได้รายนึงโดนประหารไปแบบงงๆด้วยเหตุผลว่ามีอาการ megalomaniac แต่กะลาแลนด์ซะอย่าง เรามองข้ามได้เพราะเราภูมิใจได้กับทุกสิ่งตั้งแต่ ladyboy ยัน hooker
คนไทยแค่เบื่อง่าย เห่อของใหม่น่ะ
ใครคือศัตรูตัวจริง
https://www.facebook.com/121587384616106/posts/1666077713500391/?app=fbl
>>177 >>169 >>173 ตอนช่วงเป็นอาณานิคม ศูนย์กลางเจ้าอาณานิคม อย่าง เวียต มาเลย์ พม่า อินเดีย เจริญกว่าเรานะ
เมื่อก่อนคนอิสานยังข้ามไปทำงานให้พวกอาณานิคมเลย แต่ก็แค่ตอนนั้นแหละ หลังจากสูบทรัพยากรจนหมด
ด้วยหลักการแบ่งแยกแล้วปกครอง อดีตอาณานิคมก็เกิดสงครามแย่งชิงกัน
อังกฤษสร้างปัญหาให้ มาเลย์ พม่า อินเดีย อินเดีย แยกเป็นสามประเทศ พม่าเป็นสหพันธรัฐแต่ก็ยังรวมกันไม่ได้จนทหารต้องยึดอำนาจไว้จนกว่าจะกลืนชาติได้ มาเลย์ทะเลาะกันจนต้องขับสิงคโปร์ออกจากสหพันธรัฐ
ส่วนฝรั่งเศส ขีดเส้นแบ่งพรมแดนตามใจฉัน เวียตกินพื้นที่ลาวเขมร เขมรกินพื้นที่ลาว เวียตพี่ใหญ่นำทีมจะกลืนชาติอีกสองประเทศ ออกนโยบายนอนสามัคคี นอนส่องแสง ให้ผู้หญิง เขมร ลาว นอนกับทหารเวียตเพื่อกลืนชาติสร้างลูกซอดเชื้อแกว
หากคุณนำมดดำ 100 ตัว
และมดแดงอีก 100 ตัว
ไปใส่ไว้ในขวดโหลแก้วใบเดียวกัน
เมื่อวางไว้เฉยๆ จะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่หากคุณนำขวดโหลแก้วนั้น
มาเขย่าอย่างรุนแรง
และวางกลับไปบนโต๊ะ
มดทั้งสองสีจะเริ่มฆ่ากันเอง
เพราะมดแดงเชื่อว่ามดดำคือศัตรู
ส่วนมดดำก็เชื่อว่ามดแดงคือศัตรู
แต่ มดดำและมดแดงต่างไม่รู้เลยว่า
ศัตรูที่แท้จริง คือคนที่เขย่าขวดโหล
#ในสังคมก็เช่นเดียวกัน
ก่อนที่เราจะต่อสู้กันเอง
เราต้องรู้ให้ทันและตั้งคำถามอยู่เสมอ
ว่าใคร คือคนที่เขย่าขวด..
Cr:เจ้าของบทความ
ไม่มีมหาเศรษฐีคนไหนทำงานหนักกว่าคนทำความสะอาดถึง 70,000 เท่า ดังนั้น จึงไม่มีมหาเศรษฐีคนไหนที่สมควรมีรายได้สูงกว่าแรงงานทั่วไปถึง 70,000 เท่า
#TaxTheRich
กูสงสัย พอบอกว่าคนดำร่างกายแข็งแรงกว่าเผ่าพันธุ์อื่น มันก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ทำไมพอบอกว่า ยิวหรือเอเชียตะวันออกฉลาดกว่าเผ่าพันธุ์อื่นถึงกลายเป็ยการเหยียดไปได้วะ
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.