ฤดูร้อนกำลังมา
ตอนนี้ก็ช่วงสิ้นเดือนพฤษภาคมแล้วนะครับ เมื่อถึงเดือนมิถุนายนก็จะเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนของถีบซีกโลกเหนือแล้ว ฝนก็จะค่อยๆตกน้อยลง จนพื้นดินแข็งตัว การเคลื่อนกำลังทหารขนาดใหญ่ก็จะทำได้สะดวกมากขึ้น ถ้าจะมีการรุกใหญ่ของทั้งสองฝ่ายก็น่าจะเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ เป็นการรุกช่วงฤดูร้อน (Summer Offensive) และถ้าต้องการผลเชิงสัญลักษณ์ด้วย วันที่ 22 มิถุนายนก็เหมาะจะเป็นวัน D-Day มาก เพราะวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ. 1941 คือวันที่เยอรมันเปิดฉากปฏิบัติการบาร์บารอสซ่า (Operation Barbarossa) และวันเดียวกันในปี 1944 ก็คือวันที่โซเวียตเปิดฉากปฏิบัติการบากราติออน (Operation Bagration) บดขยี้กลุ่มกองทัพภาคกลาง (Army Group Center) ของเยอรมันในเบลารุส
แนวรบตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวมากนัก วากเนอร์กำลังถอนตัวออกจากเมือง Bakhmut อ้างว่าเพื่อกลับไปพักปรับกำลังใหม่ในแนวหลัง โดยมีทหารรัสเซียเข้ามาแทนที่ หนึ่งในนั้นคือนาวิกโยธินจากกองเรือภาคเหนือ (Northern Fleet) และบริเวณปีกก็มีทหารพลร่ม (VDV) ด้วย เมื่อทหารรัสเซียเข้ามาประจำแนวรบ Bakhmut แทนที่วากเนอร์แล้วก็พยายามบุกยึดหมู่บ้าน Khromove และ Ivanivske รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อเป็นกันชนให้ตัวเมือง Bakhmut ที่เพิ่งยึดได้ ด้านยูเครนก็พยายามตอบโต้ ผลัดกันรุกผลัดกันรับ ไม่มีความคืบหน้ามากนัก แนวรบอื่นๆเช่นที่ Kupyansk, Kremenna, Marinka และ Avdiivka สถานการณ์ก็คล้ายๆกัน
พูดถึงพลร่มรัสเซียใน Bakhmut มีข้อสังเกตที่น่าสนใจคือก่อนหน้านี้ตอนที่ยูเครนพยายามตีโต้บริเวณปีกของตัวเมือง Bakhmut (ผมเน้นเรื่องปีกของตัวเมือง ไม่ใช่ปีกของแนวรบ Bakhmut เพราะแนวรบ Bakhmut ไม่ได้มีเฉพาะตัวเมือง Bakhmut แต่ยังมีเมืองและหมู่บ้านใกล้เคียงเช่น Soledar, Klishchiivka, Krasna Hora, Blahodatne ฯลฯ ด้วย ครอบคลุมพื้นที่กว้างกว่า) กำลังพลของรัสเซียที่ยูเครนปะทะด้วยในช่วงแรก ไม่ใช่ทหารพลร่ม แต่เป็นทหารราบยานยนตร์ทั่วไป ผมคิดว่ารัสเซียน่าจะรู้ข่าวการตีโต้ของยูเครนคราวนั้นล่วงหน้า จึงสับเปลี่ยนทหารพลร่มที่คุ้มกันปีกให้วากเนอร์อยู่ ให้ทหารราบยานยนต์ธรรมดาไปประจำพื้นที่เพื่อ "รับแรงกระแทก" ในช่วงแรกก่อน จนโมเมนตัมของยูเครนหมดแล้ว ทหารพลร่มรัสเซียจึงกลับมาตีโต้
แม้แนวหน้าจะยังไม่เคลื่อนไหวมากนัก แต่แนวหลังระอุมากทีเดียว รัสเซียระดมโจมตีทางอากาศพื้นที่ในแนวหลังของยูเครนด้วยจรวดร่อนและโดรนพลีชีพต่อเนื่องกันแทบทุกวัน โดยเฉพาะจุดรวมพลและคลังแสง เป้าหมายของรัสเซียคงต้องการตัดกำลังของยูเครนที่จะใช้ทำการรุกช่วงฤดูร้อนให้มากที่สุด ขณะเดียวกันก็เป็นการกดดันให้ยูเครนเปิดฉากการรุกก่อนไปในตัวด้วย เพราะถ้ายูเครนไม่สามารถป้องกันพื้นที่แนวหลังทั้งหมดได้ เมื่อเวลาผ่านไป ยุทโธปกรณ์ที่ยูเครนสะสมไว้จากที่ตะวันตกให้มาก็จะถูกทำลายไปเรื่อยๆ และตะวันตกต้องการเห็นผลลัพธ์เพื่อจะได้คงการสนับสนุนทางทหารให้ยูเครนต่อไป อย่างที่ผมเคยบอกไว้ว่าตอนนี้ทั้งสองฝ่ายต่างสะสมและเตรียมกำลังรบสำหรับการรุกช่วงฤดูร้อนไว้อย่างน้อยระดับหนึ่งแล้ว อยู่ที่ว่าใครจะโจมตีก่อนเท่านั้น โดยพื้นที่ที่ผมคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่สุดสำหรับการรุกช่วงฤดูร้อนคือที่แนวรบ Bakhmut และ Zaporizhzhia
สวัสดี
29.05.2023