พื้นที่ป้อมปราการ (Citadel area) ทั้งหมดของเมืองบัคมุต ได้ตกไปอยู่ในมือของฝ่ายรัสเซียแล้ว และพื้นที่โรงพยาบาลเด็ก (Children’s Hospital) ของเมืองนี้ซึ่งมีการอพยพโยกย้ายคนไข้ออกไปนานแล้ว ก็เพิ่งถูกรัสเซียช่วงชิงไปแล้วเช่นกัน
บริเวณสุดท้ายของเมืองที่ยังไม่ถูกยึดครอง คือพื้นที่มุมเล็กๆ ประจันหน้ากับอีวานจ์สเก (Ivanjske) ประชิดติดกับพื้นที่ซึ่งฝ่ายยูเครนกำลังปฏิบัติการโจมตีด้านปีกอยู่ พื้นที่ตรงนี้ตั้งคร่อมถนนสายสำคัญสายหนึ่ง
เมื่อมาถึงขั้นนี้ ผมมองไม่เห็นเหตุผลอะไรนักหนาเลยที่ฝ่ายยูเครนจะยังคงพยายามยืนหยัดสู้รบต่อไป และสมควรต้องอพยพโยกย้ายกำลังทหารใดๆ ที่ยังเหลืออยู่
ยังไม่มีข้อมูลข่าวสารใดๆ ออกมาเกี่ยวกับจำนวนผู้บาดเจ็บล้มตาย
สภาพส่วนใหญ่ของเมืองนี้คือถูกทำลายจนราบเรียบ
บางทีฝ่ายรัสเซียอาจจะออกมาประกาศอ้างว่าเข้ายึดเมืองนี้ได้ทั้งเมืองแล้วในสุดสัปดาห์นี้
^
เวลาเดียวกัน ยูเครนก็กำลังรักษาการปฏิบัติการโจมตีทางปีกของตนเอาไว้ (บริเวณด้านเหนือและด้านใต้ของบัคมุต) โดยที่จวบจนถึงตอนนี้กองทัพรัสเซียไม่ได้ทำอะไรมากนักกับการปฏิบัติการเหล่านี้ ดูเหมือนว่าในเวลานี้ฝ่ายรัสเซียมองการปฏิบัติการโจมตีทางปีกเหล่านี้ว่าเป็นความพยายามในการเบี่ยงเบนความสนใจ
กิจกรรมการโฆษณาชวนเชื่อของฝ่ายยูเครน กำลังยกย่องสรรเสริญความสำเร็จของการปฏิบัติการทางปีกของฝ่ายตนกันอยู่ และไม่ได้กล่าวอะไรเลยโดยสิ้นเชิงเกี่ยวกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นภายในพื้นที่เขตตัวเมืองบัคมุตเอง นี่ไม่ใช่สิ่งที่น่าประหลาดใจอะไร เนื่องจากพวกเขาคาดหมายว่าแนวทางการโฆษณาชวนเชื่อของพวกเขาจะได้รับการถ่ายทอดต่อๆ ไปทั่วโลก ปกปิดซุกซ่อนสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นมาจริงๆ
ผลกระทบของการปราชัยที่บัคมุตที่จะมีต่อ เซเลนสกี ตอนนี้ยังคงไม่ปรากฏออกมา ตัวเขาเองกำลังมุ่งหน้าเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่มจี-7 ที่ประเทศญี่ปุ่น บางทีอาจจะเพราะต้องการหลีกเลี่ยงไม่อยากเผชิญผลสะท้อนกลับถ้าหากยังอยู่ที่บ้าน สำหรับเหตุผลอย่างเป็นทางการในทริปเดินทางเที่ยวนี้ของเขาคือ การเสาะแสวงหาอาวุธยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมนั้น ฟังดูเป็นเรื่องงี่เง่าซึ่งไม่มีมรรคมีผลอะไรจริงจัง
สตีเฟน ไบรเอน เป็นนักวิจัยอาวุโสอยู่ที่ Center for Security Policy และ Yorktown Institute ข้อเขียนนี้หนแรกสุดเผยแพร่อยู่ในบล็อก Substack, Weapons and Strategy ของผู้เขียน