ในยุคที่การเป็นชายแท้เลวร้ายกว่าการฆ่าคนตาย ทำยังไงถึงจะพอใจเฟม
Last posted
Total of 1000 posts
ในยุคที่การเป็นชายแท้เลวร้ายกว่าการฆ่าคนตาย ทำยังไงถึงจะพอใจเฟม
แก้ปัญหาด้วยการจับเฟมทวิตมาแปลงเพศเป็นชาย
นี่แม่งมู้ล่อทัวร์สัสๆ เอาลิ้งไปแปะในทวิตเตอร์นี่น่าจะมันส์
เราต่างก็หลอกใช้กันในเรื่องของผลประโยชน์ไม่มีใครผิดหรอก
3090ti มือสองราคา 8000 ผ่านเหมืองมาแน่ๆ แต่ถูกดี ซื้อมาใช้จะมีปัญหาอะไรป่าววะ
กูไม่เข้าเซเว่น กูไม่ใช้ทรู กูไม่แดกห้าดาว กูไม่ขับเอ็มจี
คุยไรกันมึงไม่รู้หรอว่าเจ้าของเว็บอยู่ฝั่งไหน เดี๋ยวจะบินกันไม่รู้ตัว
แมนมินิสและเฟมทวิต ผสมพันธุ์กัน ออกมาเป็นอะไร
แมนมินิสมันประชดเฉย ๆ ไม่ใช่หรอ
เฟมทวิตปสด.สุดละ
มีขั้นกว่าของเฟมทวิตมั๊ย
>>14 กลุ่มนั้นมันมีฉายาว่า บังมินิสต์ หรือ บังมินิสสถาน แรก ๆ กลุ่มมันเปิดมาเพื่อสู้กับพวกเฟมทวิตประสาทแดกอะ เอาไว้เป็นฐานไว้สู้กับพวกเฟมประสาทแดกในทวิต ไป ๆ มาเจอพวกบังมุสซี่ที่แม่งเหยียดผู้หญิง+กดผู้หญิงสัสๆตามคำสอนของหมูฮัมหมัดที่เย้ดเด็ก9ขวบเข้ามาเฮโลยึดกลุ่ม กลุ่มแม่งเลยมีพวกบัง ๆ ที่เหยียดผู้หญิงหนัก ๆ + กับแม่งรู้ถึงการมีอยู่ของเฟมทวิต เลยยกพวกมาสิงอยู่ในนี้หลายตัว แต่ละตัวกูกดเข้าไปดูเฟสแม่งแล้วไอสัสเอ๋ย คำสอนที่แม่งแชร์ๆในเฟสหรือแม่งโพสต์ไว้สอนคนศาสนามันเองโคตรสุดโต่ง บางตัวแม่งเรียนมาแต่ปอเนาะ ตาดีกา เหรี้ยไรพวกนั้นด้วย
ไป ๆ มาจากกลุ่มผู้ชายทั่วไปที่ไม่พอใจเฟมทวิตประสาทแดกที่ชอบเหมารวมผู้ชายทุกคนบนโลก เปลี่ยนมาเป็นกลุ่ม บังมินิสต์แห่งบังมินินิสสถานแทนละไอสัส มีแต่พวกบังๆเคราแพะเย้ดแพะเอาหัวโขกพื้น 5 เวลาเพียบ
บังมินิสต์ แม่งขยะตั้งแต่ไหนแล้ว
แทงสวนชาวบ้านทุกครั้ง ตรรกะควายกว่าพวกเกศินี, ปลาคัง หลายเท่า
เจอท่านี้คนจะดิ้นเยอะหน่อยตามโซเชี่ยล
https://imgur.com/eXQUapE
แต่พอเอารูป บักเป้หำตั้ง จะเม้นท์ตรงข้ามกัน
มันเป็นคนละมักกะโรนีกันค่ะ
เจ้าตัวไม่รู้สึกแอนตี้ ไม่ถือว่าเป็นเซ็กช่วลฮาราจูกุนะคะ
ได้ยินข่าวไหมโม่ง มีครูเฟม pc มาพยายามล้างสมองเด็กในโลกเรียน แถมมีพูดเรื่องเพศป๋าเปรมด้วย ตามpc style ต้องคลั่งเรื่องเพศ
พอโดนเด็กแฉเลยเริ่มbully เด็กแถมพาเด็กในอาญัติมาbully ด้วย กรณีเหมือนใน เมกาเลย ที่บังคับให้เรียกเด็กตามเพศทีเด็กต้องการ แต่พอมีคนไม่ทำตามแม่งก็bully
พวก pc fem sjw นี่ ขอบbully เนอะ
สลิ่มนี่ตัวบูลลี่เลย ตอนยิ่งลักษณ์แม่งด่าเขาว่าไงทำลืมเหรอ
พังทั้งคู่แค่สลับด้าน
>>24 พวกเฟมทวิตไม่ค่อยกล้าด่า ไม่ค่อยไปยุ่งกับพวกสาวกไอ้เลาะห์เท่าไหร่ ออกแนวปกป้องโลกสวยด้วยซํ้า เพราะถ้าด่าเดี๋ยวโดนข้อหา Islamophobia(มันมีพวกประสาทแดกที่คิดแบบนี้จริงๆ) แต่ก็ไม่ด่าไม่ได้เพราะพวกบังแม่งตรรกะเหี้ยสัสๆ ล่าสุดก็มีหมออิสลามใน 3 จังหวัดออกมา รณรงค์ให้ผู้ชายอิสลามมีเมีย4คนตามคำสอนของไอมูฮัมหมัดนักเย้ดเด็ก พวกเฟมทวิตเลยอยู่ในสถานะนํ้าท่วมปากจะด่าแบบปากแซ่บๆเยอะก็ไม่ได้ จะไม่ด่าเลยก็ไม่ได้อีกต่อมเอดูเขตในปากมันร้อนรน อีกอย่างพวกบังแม่งคลั่งเหมือนพวกคนป่าอะ ใครด่าบังเลาะห์หัวดอแม่งเถียงสู้ไม่ได้มีขู่ฆ่าด้วยนะกูโดนมาละ ศาสนาแห่งสันติมั้ยละไอสัส สันติจงมีแด่ท่านแต่ถ้าท่านไม่สันติกับเราระวังหัวขาดนะจ้ะ 5555
พวกเฟมทวิตแม่งโง่ ทำเป็นสงสารทำเป็น PC ให้สาวกไอ้เลาะห์ หารู้ไม่พวกแม่งรังเกียจพวกเฟมทวิตเหรี้ยๆ ยิ่งพวกเฟมประสาทแดกที่เป็นตุ๊ด ราอูลด้วยมึงเตรียมโดนเอาล้อรถบัสได้เลย
กูอ่านนิยาม Political Correctness ละไม่เข้าใจหว่ะว่าไอพวกนี้คือคนแบบไหน โม่งอธิบายให้ง่ายกว่านี้ได้ไหมวะ? ไปถามในดงพวกเฟมก็เสียวมันถล่ม
>>34 ถ้าแปลตรงตัวก็คือความถูกต้องทางการเมืองใช่ไหม แล้วอะไรที่ว่าถูกต้อง ซึ่งส่วนใหญ่ที่คนที่อยู่ในวัฒนธรรม PC มองว่าถูกต้องก็มักเป็นหลักการในแบบ woke หน่อยๆ (เช่นเรื่องเพศ ชนชั้น สีผิว ศาสนา บลาๆ) โดย PC มันก็ใช้ในบริบท "การพูด" หรือ "แสดงออก" ซึ่งถ้ามึงไม่แสดงออก "อย่างถูกต้อง" ตามหลักการ ก็คือไม่ PC ถ้าคนคลั่ง PC ก็มาด่ามึง แต่เอาจริงๆ PC โดยทั่วไปมันก็อิงกับหลักการสากลแบบประชาธิปไตย/สิทธิมนุษยชนแหละ (แต่คำพวกนี้มันก็ตีความกว้างไม่เท่ากันทุกคน ทำขอบข่าย PC แต่ละคนก็อาจจะไม่เท่ากัน)
ยกตัวอย่างอะไรที่ไม่ PC สมมติมึงด่าคน lgbtq+ "อีตุ๊ด มึงแม่งผิดเพศ" อันนี้ก็ไม่ PC ใช่ไหม เพราะในหลักการที่โว๊กหน่อย การเป็น lgbtq+ ไม่ได้ "ผิดเพศ" แต่เขาเป็นก็เป็นเพศหนึ่งที่ควรรับการยอมรับทางการเมืองสังคมปกติ การบอกว่าผิดเพศก็เป็นการส่งเสริมการกีดกันหรือ discriminate เขาออกจากสังคมปกติ เพราะไปตีตราว่าเขาผิดปกติ มันส่งผลลบต่อความพยายามทำให้สังคม inclusive กับทุกอัตลักษณ์ เป็นต้น
หรือศาสนาก็ได้ เช่น ไปหาว่าหรือล้อว่ามุสลิมเป็นผู้ก่อการร้าย นี่ก็ไม่ PC แต่มุสลิมทุกคนไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายซักหน่อย
แต่มันเริ่ม gone wrong หรือเป็นที่วิจารณ์ เอาจริงๆ ก็หลายปีแล้วในฝั่งตะวันตก ก็เมื่อ PC culture มันทำให้ใครพูดอะไรได้ยากมาก บางคนบอกว่าเป็น censorship เลย คนที่วิจารณ์ (แต่อาจไม่ได้แปลว่าไม่เอา PC เสมอไปนะ) ก็มักจะยกการเซ็นเซอร์ "คำ" แบบละทิ้งบริบทเลย เช่น กุไปเรียกเพื่อนคนดำว่านิกก้า ซึ่งก็อาจจะไม่ได้มี intention เหยียดเสมอไป เพื่อนกุอาจจะอยากให้เรียกนิกก้าก็ได้เป็นการเสียดสีหรือกวนตีน แต่พวกโปรพีซีจัดๆ ก็จะเสนอหน้ามาด่ากุว่ามึงพูดนิกก้าได้ไง มึงรู้ไหมคำนี้ในทางประวัติศาสตร์มันเป็นการเหยียดและกีดกันคนดำขนาดไหน เป็นต้น หรือเอาเรื่องมุสลิมก็ได้ พวกเหยียดหรือโยงเก่งก็อีกเรื่อง แต่บางคนก็อาจจะ point out ว่า มันมีปัญหาเรื่องอาชญากรรมในหมู่ผู้อพยพชาวมุสลิมที่มาจากตะวันออกกลางอยู่ ซึ่งมันอาจเป็นบริบทเฉพาะทางศาสนาหรือชาติพันธุ์ที่ต้องการการแก้ไขแบบหนึ่ง (ไม่ได้บอกว่า "เอาไอพวกมุสลิมอพยพพวกนี้เข้ามาก็เป็นอาชญากรหมด" แบบนี้แม่งตีคลุมแน่ๆ) แต่พวก PC แบบหลุดโลก ก็อาจจะมาบอกว่ามึงมาพูดถึงอิสลามทำไม อาชญากรก็มีที่นับถือจากทุกศาสนาแหละ พวกมึงมันเหยียดศาสนา มาหาว่ามุสลิมจะเป็นอาชญากรหรือ ฯลฯ
สรุปง่าย ๆ มันกลายเป็นว่า PC Culture แม่งไปประสาทแดกเรื่องคำเกินจนไม่สนใจบริบทห่าอะไรเกินไป จนคนรำคาญ แต่พวกที่วิจารณ์ PC ก็ไม่ได้แปลว่าใครใคร่เหยียดก็เหยียดเสมอไปนะ แค่ไม่อยากให้มัน pc แบบ extreme เกินและพยายามหาทางออกอื่น หรือพยายามไม่อยู่ในวัฒนธรรมแบบ pc เพราะเห็นปัญหาในตัวมัน พร้อมกับวิจารณ์ด้วย แต่ก็ไม่ได้ต่อต้านมากสัสๆ แบบนี้ก็เรียกพวก non-pc แต่มันก็จะมีพวกเหยียดไม่สนห่าไรเลยก็เป็น+ไม่เอา pc จัด พวกนี้เรียก anti-pc
>>36 โอเค แทงก์มึงมาก เริ่มเข้าใจละ ทีนี้สงสัยอย่างมันมีsubredditอันนึง มีบอทที่แนะคำที่เป็นเพศกลางด้วย เช่น businessman , businesswomanงี้ไม่เหมาะ เอาเป็นbusinesspersonจะดีที่สุดเพราะใช้ได้ทุกเพศ ซึ่งไออิทธิพลพวกนี้นี่ก็มาจากพวกPCด้วยไหมวะ? ถ้าใช่จริงๆนะ ก็เอาที่เจอพวกห่านี่นะ ล่าสุดเจอในกลุ่ม นร. เลวที่แม่งไม่โอเคกับคำสรรพนามแทนตัวเองเรื่อง ผม , ดิฉัน ไรงี้ มันมาตั้งประเด็นว่าควรมีคำกลางไหม กูเลยหามาก็เจอแต่ก็ถามมันกลับว่าเวลาไปใช้สนทนาจริงมันเป็นธรรมชาติไหม มันก็เงียบไปเลย 5555
คลิป 3 ปีก่อน จากเกม 20 ปีก่อน แม่งโคตรแม่ง ชาบูโคจิมโบ
https://www.youtube.com/watch?v=jIYBod0ge3Y
ที่พวกเฟมทวิตมันไม่ด่าอิสลาม เพราะถือเป็นพวก minorities ผู้ถูกกดขี่เหมือนกับพวกมัน มันมองแค่มิติเดียวไม่มองมิติอื่นว่าอิสลามมันกดขี่ผู้หญิงแค่ไหน มันพยายามเอาอิสลามมาเป็นแนวร่วม หารู้ไม่ว่าอิสลามแอนตี้พวกมัน เพราะแนวคิดพวกมันขัดกับอัลกุรอ่าน โง่ชิบหาย
>>37 - เรื่องคำที่มีเพศ เช่น businessmen / businesswomen
กุไม่แน่ใจว่าเรื่องการปรับคำนามที่มีเพศ หรือเรื่องการบูมของ PC อะไรเกิดก่อน แต่มันเกี่ยวข้องกันโดยตรงแน่ๆ และวัฒนธรรม PC ก็มีส่วนทำให้ไอเรื่องการใช้คำนามแบบ gender neutral หรือเป็นกลางทางเพศเป็นสิ่งสำคัญขึ้นมากๆ ก็ชัดเจน
เรื่องพวกนี้ (ถ้ายังไม่ไปมองพวก woke ปสด ที่อาจจะไม่ได้เข้าใจอะไรเลย แค่อยากฟินที่ได้ทำอะไร "ถูกต้อง" ไปวันๆ) มันก็มีไอเดียของมัน จะเห็นด้วยมั้ยก็อีกเรื่อง อย่างที่อธิบายไปเรื่องการใช้คำตอนแรก ถ้าอธิบายง่ายสุด มันก็มีไอเดียเรื่องว่าภาษามันเป็นตัวกลางที่ทำให้เราเข้าถึงความจริงบางอย่าง แล้วถ้าเราไม่ตระหนักถึงพลังของภาษา มันก็ทำให้วิธีคิดเราถูก shape ไปโดยไม่รู้ตัว
จากไอเดียนี้ + กับข้อเสนอที่ว่าเพศ (gender) มันไม่ได้มีสองเพศเหมือนเพศทางชีววิทยาที่มีสองแบบหลักของกลุ่มที่เราเรียกรวมๆ ว่า woke มันก็เลยเสนอว่าการใช้คำก็ควรจะ gender neutral ไปเลย เพื่อที่จะทำลายพลังของภาษา เช่น businessman/businesswoman มันก็บีบให้เราคิดว่า นักธุรกิจก็คงได้เป็นได้แค่ผู้ชายหรือก็ผู้หญิงแหละ (ในความเข้าใจและวิธีคิดของคนที่จำกัดด้วยภาษานะ) ส่วนเพศอื่น ถ้าพวกขี้เหยียดจัด อาจจะมองว่า "อีพวกกะเทย ไม่ต้องพูดถึง มันเป็นนักธุรกิจได้ด้วยหรอ" อันนี้อาจจะสุดโต่งไปหน่อย แต่โดยทั่วไปเราอาจจะนึกภาพกะเทยเป็นนักธุรกิจยากกว่า หรือ questioning กับพวกนักธุรกิจที่เป็นกะเทยมาก แต่มันก็รุนแรงในอดีตอ่ะนะ ปัจจุบัน โดยเฉพาะประเทศเรา กะเทยรวยๆ เยอะแยะ แต่เราก็อาจจะมีความรู้สึกว่า ไอห่า มันน่าเชื่อถือป่าววะ ซึ่งไม่เกิดกับผู้ชายหรือผู้หญิง ในฝั่งคนที่เป็น lgbt เอง คำมันก็ไม่มีพื้นที่ให้เขา คนที่ concern เรื่องนี้ก็ต้องการให้คำมัน inclusive ขึ้น ดังนั้นเลยสนับสนุนคำที่ gender neutral
- เรื่องนร. เลว
กุไม่แน่ใจว่ากลุ่มมันทำแคมเปญไร แต่มันก็มีไอเดียว่า คำสรรพนามในไทยที่มันมีลำดับชั้นชัดเจน (เช่น เรา ฉัน ดิฉัน เธอ หนู คุณ ท่าน ฯลฯ) มันนัยยะที่แสดงถึงความไม่เท่ากันของคนสองฝั่งที่คุยกันได้ หรือถ้าลึกกว่านั้น บางคนอาจจะมองว่ามันกำหนดความสัมพันธ์ทางอำนาจของคนสองฝั่งเมื่อเขาคุยกันหรือเอ่ยถึงกันเลย แล้วก็มากำหนด/ควบคุมพฤติกรรมของคนที่อยู่ในลำดับชั้นที่ต่ำกว่า
เหมือนเวลาเราคุย พอใช้คำว่า "หนู" ปุ้บ พลังของภาษามันก็ทำงานทันที เราก็พูดหรือทำตัวพินอบพิเทาขึ้น automatically ภาษาเกรงใจขึ้น เนื้อหาตรงไปตรงมาน้อยลง ฯลฯ หรือในทางกลับกัน ถ้าอีกฝั่งใช้คำว่าหนูกลับมาเพื่อคุยกับเรา มันก็สะท้อนเลยว่าเขามองเราเป็นผู้น้อยก่อนเพื่ออธิบายให้เราเชื่อฟัง เอาจริงๆ ภาษามันมีบริบทและการใช้เฉพาะที่เราเคยชินอยู่แล้ว "หนู" มันมีนัยยะว่าเป็นผู้น้อยกว่าชัดเจน ตรงนี้แหละที่มันมากำหนดพฤติกรรม และมีส่วนสร้างความไม่เท่าเทียมกันขึ้นมา แทนที่จะคุยกันในระดับที่เราเสมอกัน
แล้วไอคำว่า "หนู" มันก็เสือกมีประเด็นเรื่อง gender อีก คือสำหรับผู้หญิง คำสรรพนามที่ไม่เป็นทางการมากที่ไว้คุยกับผู้ใหญ่มันมีแค่คำว่า "หนู" (นึกภาพเวลานักเรียนหญิงคุยกับครู) จะใช้ "ดิฉัน" ก็เกินไป แต่ผู้ชายมันมี "ผม" ที่มีนัยยะที่เท่ากันกว่า (ทั้งมวลจะใช้คำว่า "เรา" ก็แปลกๆ ใช่มะ หรือแทนด้วยตำแหน่งเลยก็อาจจะพอถูไถ เช่นพูดว่า "นักเรียน")
ถ้าเอาพวกเลนส์ gender มาจับ ยังไง "ความเป็นผู้ชาย" มันก็โดนควบคุมน้อยกว่าผู้หญิงอยู่แล้ว เอาจริงในบริบท รร. ผู้ชายมีโอกาส push ไปจนถึงจุดที่กวนตีนครูเล่นหัวครูได้ ผู้หญิงนี่ยาก พูดไรผิดนิดหน่อยก็โดนมองผิดปกติแล้ว (ลองพิจารณาดู) ยกเว้นผู้หญิงที่ห้าวๆ มีความเป็นชายบ้าง (แต่ไม่ใช่ทอม ถ้าเป็นทอมนี่คนยิ่งหมั่นไส้) ก็อาจจะพอแซวครูได้บ้าง
พิมพ์มาซะยืดยาว ทั้งหมดที่พิมพ์เอาจริงๆ กุเฉยๆ กุมองภาษาเป็นผลผลิตของความสัมพันธ์ทางอำนาจในสังคมอยู่แล้ว ก็สังคมเรามีความสูงต่ำชัด มันก็สะท้อนมาในภาษา หรือวิธีคิดแบบคริสเตียนที่เป็นรากของตะวันตกมันแบ่ง role ชายหญิงชัดจัดๆ มันก็สะท้อนมาในภาษาที่มีเพศ ดังนั้น ถ้าจะจัดการเรื่องไอความเหลื่อมล้ำไรนี่ กุมองเรื่องการเปลี่ยนโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ กฎหมายเป็นหลัก ส่วนวัฒนธรรมซึ่งรวมถึงภาษาเป็นเรื่องรองลงมา (แต่ตรงนี้ บางคนอาจจะเถียงได้ว่า ถ้าไม่เปลี่ยนวัฒนธรรม กฎหมายการเมืองเศรษฐกิจไรต่างๆ ก็เปลี่ยนยาก เพราะขาดแรงสนับสนุน อันนี้ก็ว่ากันไป อยู่ที่ยุทธศาสตร์แต่ละคนด้วย) แล้ว PC ตอนนี้มันเลอะเทอะเกิน กุเลยมีจุดยืนแบบ non pc
ส่วนไอพวก PC Culture แบบสุดโต่ง มันมองเป็นเรื่องภาษาเป็นสารัตถะเกิน จนไม่สนหีแตดอะไรเกินไป
>>39 ก็มันโง่ไง
มองว่าถ้าจะวิจารณ์อิสลามก็เป็นการเหยียดไปหมด โอเค จะมองว่าอิสลามมันก็เป็น minorities หรือ the oppressed ในโลกที่คนขาวเป็นคนนำ หรือในระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมคนขาวโลกฝั่งเหนือใดๆ (อันนี้ใครจะคิดยังไงก็คิด ก็ดีเบตกันไป)
ประเด็นคือระบอบที่นำด้วยศาสนาอิสลาม ชาวมุสลิมบางกลุ่ม แม่ง violate หลักการโว้กๆ (จริงๆ ก็หลักการพื้นฐานแบบสิทธิมนุษยชนด้วยซ้ำ) เสือกไม่วิจารณ์เท่าไหร่ซะงั้น พวกนี้มักไม่เก็ตประเด็น เอาเข้าจริงๆ ถึงจะเป็นพวก PC "จริงๆ" มันก็วิจารณ์อิสลามได้ปกติ ถ้าไม่ได้วิจารณ์โง่ๆ อ่ะนะ
นร.เลว = loser
loser ก็มีความคิดแบบloser อะนะ
เฟมทวิตมีค่าตํ่ากว่าหมาและสัตว์ พบเห็นที่ไหนโปรดช่วยกันกระทืบแบบที่อปป้าเกาหลีได้ทำมาแล้ว
1. เฟมทวิตส่วนใหญ่เป็นGlobalist มองว่าโลกไม่มีเขตแดน ทุกคนเป็นสมาชิกประชาคมโลก
2. คนขาวถ้านับรวมประชากรโลกทั้งหมด ถือว่าเป็นminority
ดังนั้นถ้าเฟมทวิตไม่ตรรกะวิบัติ เฟมทวิตต้องถือว่าคนขาวสมควรได้รับการช่วยเหลือมากที่สุด ได้พื้นที่สื่อมากที่สุด ห้ามวิจารณ์เพราะจะถือว่าเป็นการเหยียด
แต่หาเฟมทวิตที่ตรรกะไม่วิบัติคงเส้นคงวายากเหมือนหาหมูบินได้
>>45 ในอนาคตมีประชาคมโลกแน่นอน ทุกทวีปจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียว แต่ใครคือผู้นำที่จะสร้างสิ่งนั้นให้เกิดล่ะ
มันต้องมีความวุ่นวายตามมาแน่ บวกกับราคาที่ต้องจ่าย
ส่วนคนขาว ต้องยอมรับว่าสายพันธุ์เราด้อยกว่าพวกนั้น ทำให้ ผญ เลือกคนขาว เพราะจะได้ให้กำเนิด สายพันธุ์ที่แข็งแกร่งกว่า ก็เข้าใจได้ มันเรื่องธรรมชาติ คนอ่อนแอผิวเหลืองก็ต้องสูญพันธ์
ทำไมเลือกคนขาว
หน้าตาดี น่าทำลูกด้วย
คิดว่าพวก Anti SJW, Woke ประสาทแดกกว่าพวกที่มันแซะมั๊ยวะ ช่วงนี้ในโม่งเห็นบ่อยมาก
>>48 ไม่อะ เฟมทวิต woke ประสาทแดกกว่าเยอะ พวก แอนตี้บางทีและบางพวกมันก็เป็นแค่พวกเอ๋อ นอร์มี่ ปั่นเอาสนุก เหมือนเพจในเฟซบุ๊คทั่วไป แต่พวกเฟม ทวิตนี่ประสาทแดกย้อนแย้งของจริง พวกเฟมทวิตนี่คือสลิ่มฝ่ายซ้ายอะ ใครไม่เห็นด้วย ใครไม่woke ไม่ pc ไม่ยอมรับ lgbtq คือสลิ่ม ผูกขาดความถูกต้อง ความดีงามไว้ที่พวกตัวเอง ทำตัวเป็นศาลยุติธรรมโซเชียล ไล่เอดูเขตชาวบ้านไปทั่วเพราะถือว่าตัวเองเหนือกว่า สูงส่งกว่า ฉลาด รอบรู้ จึงมีหน้าที่มาโปรดสัตว์พวกที่ไม่เห็นด้วยกับตัวเองและจัดคนประเภทที่ไม่เห็นด้วยกับตัวเองไว้เป็นสลิ่ม
ตัวเองคือพระมหาไถ่ผู้มาโปรด สูงกว่า เหนือกว่า ต้องเอดูเขตให้ความรู้ สั่งสอน คือมึงมีสิทธิ์เหรี้ยไล่ไปไล่สั่งสอนคนอื่นทั้งๆที่ตัวเองก็หยาบ บอกว่าทุกคนเท่าเทียมกัน แต่มองคนที่เห็นต่างว่าขยะ ชายแท้ สลิ่ม เครื่องจักรข่มขืน รวมตัวกันอ้วก รวมตัวกันอวยตัวเองอยู่ในทวิต ไม่ต่างเหรี้ยไรจากสลิ่มที่อยู่ในกะลาเลย เพราะงั้นเฟมทวิตนี่แหละคือสลิ่มฝ่ายซ้าย ประสาทแดกพอกับพวกสลิ่ม
สลิ่มผูกขาดความเป็นคนดีย์ ความรักชาติ ความจงรักภักดี ไว้กับตัวเองฉันใด
เฟมทวิต Woke Pc ก็ผูกขาดความ ดีย์ ความถูกต้อง ความยุติธรรมบนโลกโซเชียล ไล่แขวน ไล่ถล่มคนเห็นต่างจากเฟมทวิตรัวๆ ทำตัวเป็นศาลเตี้ยศาลยุติธรรมออนไลน์ บังคับให้ทุกคนห้ามเห็นต่าง ห้ามเถียงพวกตัวเอง ไม่งั้นมึงโดนแขวนในทวิตและรุมอ้วกใส่พฤติกรรมเฟมทวิตไม่ต่างอะไรจากสลิ่มฉันนั้น
เพราะแม่งคือสลิ่มฝ่ายซ้าย คือสลิ่มนิวเจนดีๆนี่เอง
>>48 ไหนจะหลักการควายๆโง่ๆของเฟมทวิตแบบ listen and believe ที่ห้ามตั้งคําถาม ห้ามสงสัย ห้ามสอบสวนใดๆ ต้องเชื่ออย่างสุดลิ่มทิ่มถูรู
อย่างเดียวโดยไม่ต้องหาหลักฐานหรืออะไรมาประกอบเลย ใครจะโกหก จะใส่ร้ายใครยังไงก็ได้ มึงห้ามถาม ห้ามสงสัยเหยื่อ ต้องฟังและเชื่อเหยื่ออย่างเดียว ต่อให้เหยื่อปลอม ประสาทแดกในทวิตเตอร์จะแต่งนิยายมาดักควายเอายอดรียอดเฟบ มึงก็ต้องห้ามถามห้ามสงสัย ไม่งั้นจะขัดกับหลักการเฟมทวิตประสาทแดก เฟมทวิตโดนดักควายด้วยหลักการนี้มาไม่รู้กี่รอบ แต่ตีมึน ไม่รู้ไม่ชี้ ปิดแอคหนี ล็อคแอค กันกระจาย
เรื่องที่โด่งดังที่สุดที่เฟมทวิตโดนดักควายด้วยอุดมการณ์ listen and believe ของพวกมันเองคือ มหากาพย์ อีหมวยปลั๊กไฟ เมื่อ 3ปีที่แล้ว
พอโดนแหกว่าเป็นเรื่องแต่งพวกเฟมทวิตหน้าแหกกันยับต้องปิดแอ็ค ล็อคแอคกันกระจาย โคตรขำ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.