จากประเด็น เรื่องค่าแรงใน ทวิต ที่เดือดๆ ก็สรุปได้ตามนี้
มีคนถามว่าทำไม ไทย กาแฟแก้ว 100 แต่จ่ายเงินเดือนแค่ 15000 (เอาจริงๆกูว่าไม่ถึงหรอก ถ้าไม่รวมโอ ) ในขณะที่เกาหลี ราคากาแฟเท่าไทย แต่จ่ายค่าจ้าง 50000 ได้
ตอบง่ายๆ เลย ก็เพราะ ส่วนต่างกำไรของเรา มันเยอะกว่าเขามาก
ที่ไทย ขายกาแฟแก้วละ 100 วันละ 1000 แก้ว ก็ตกวันละ แสน เดือน ละ 3 ล้านบาท มี พนักงาน 10 คน ค่าจ้าง หมื่นห้า ก็ตกเดือนละ แสนห้า หักค่าวัตถุดิบ ค่าไฟ ค่าที่เช่า ภาษี อาจจะอีกซัก ล้านนึง ให้เยอะสุดๆละ ค่าไฟไทยแพงด้วยส่วนหนึ่ง
= รายรับ 3,000,000 รายจ่าย 1,150,000 = กำไร 1,850,000
ตัดไปที่ประเทศพัฒนาแล้ว
กาแฟแก้วละ 100 * 1000 แก้วต่อวัน
เงินเดือนพนักงาน 50000 * 10 = 500,000
ต้นทุนอย่างอื่น อาจจะเยอะกว่าไทยหน่อย เพราะเป็นประเทศรวย ให้สัก 2,000,000
สรุป รายรับ 3,000,000 รายจ่าย 2,500,000 = กำไร 500,000
ทั้งหมดนี่คือ ความต่างประการแรก
และก็ เพราะ รัฐบาลเขาฟังผู้ใช้แรงงานของไทยมากกว่า นายจ้างและคนรวย ประเทศจะพัฒนาได้ เพราะแรงงาน ไม่ใช่นายจ้าง
ของไทยจะขึ้นค่าแรงแต่ละที ขึ้นไม่ได้เยอะอะไรเลยนะ แต่ ไอ้นู่นไอ้นี่ค้านเต็มไปหมด เสียงลูกจ้างดังน้อยสุดเสมอ แล้วพอคนไม่มีเงิน ก็ไม่จับจ่าย ก็บ่นว่าไม่มีคนซื้อ มีแต่คนขาย ความเหลื่อมล้ำสูงไม่รู้จะสูงยังไง วนเป็นวงจรอุบาทว์ไปเรื่อยๆ
ส่วนตัวคิดว่า พวกร้านกาแฟแบรนด์ดังๆในไทย หลายๆเจ้าๆ ควรจ่ายเงินเดือนพนักงาน ไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท ไม่รวมโอ สวัสดิการด้วยซ้ำ เชื่อว่าไม่เจ๊งหรอก ขายของแพงขนาดนั้น เอาอะไรมาเจ๊ง ข้ออ้างส่วนใหญ่ ก็เพราะอยากจะได้แต่กำไรเยอะๆ ไม่สนสภาพสังคมมากกว่า พอมีเงิน รวย ก็บินไปชิลต่างประเทศ เห็นความเจริญของต่างประเทศ ก็ทำเป็นสงสัยว่าทำไมเราไม่เจริญเท่าเขาอย่างนู้นอย่างนี้ ทั้งๆที่ต้นเหตุมันก็ว่ามากคนรวยกดขี่คนจน และในขณะที่ลูกจ้างเช่าห้องรูหนู เดือนสองพัน กินมาม่าวนๆไป ซึ่งก็ตัวพวกมันนั่นแหละ ที่เป็นต้นเหตุ