พูดคุยเกี่ยวกับหนังที่เข้าฉายในโรงขณะนี้ ไม่จำกัดว่าจะเป็นโรงเล็ก โรงใหญ่ หรือโรงฟรี
อนึ่ง กรุณาระวังสปอยล์ โปรดใช้กระทู้ด้วยความเห็นอกเห็นใจกัน
โรงที่ 1 >>>/movie/2364/
โรงที่ 2 >>>/movie/3150/
โรงที่ 3 >>>/movie/4552/
Last posted
Total of 1000 posts
พูดคุยเกี่ยวกับหนังที่เข้าฉายในโรงขณะนี้ ไม่จำกัดว่าจะเป็นโรงเล็ก โรงใหญ่ หรือโรงฟรี
อนึ่ง กรุณาระวังสปอยล์ โปรดใช้กระทู้ด้วยความเห็นอกเห็นใจกัน
โรงที่ 1 >>>/movie/2364/
โรงที่ 2 >>>/movie/3150/
โรงที่ 3 >>>/movie/4552/
ทูเก่ายังไม่ปิดเลย รีบเปิดทำไมหมาเวร
Yesterday หนังไม่สนุกว่ะ พระเอกกับนางเอกเคมีไม่เข้ากันอย่างแรง ดูมากูยังไม่รู้เลยว่าไอ้พระเอกมันไปรักนางเอกตอนไหน อยู่ๆเสือกมาดราม่าฟูมฟายตอนจะเย็ดกันแล้วก็ไม่เย็ด อีนางเอกก็มาดราม่าว่านายเป็นคนดังแล้วฉันไม่คู่ควรหรอก แต่ก็เสือกไปอ่อยเขาถึงที่ อีพระเอกก็ยึกๆยักๆ แถมบทสรุปพระเอกไม่ได้รับผลกรรมห่าอะไรเลยจากการตอแหลแอบอ้าง อีค่ายเพลงก็ใจดีชิบหายไม่เห็นฟ้องอะไรพระเอกเลยทั้งที่ความจริงฉากจบพระเอกแม่งน่าจะต้องขึ้นศาลด้วยซ้ำ จบโลกสวยและเชยสัส มีดีแค่อย่างเดียวคือเพลงเพราะ ลิลี่เจมส์และเอ็ด ชีแรน
มา+1 Yesterdayงั้นๆ เพลงบีเทิ่ลส์ก็ใช้ไม่ค่อยคุ้มเลย ไม่อินความสัมพันธ์พระเอกนางเอกด้วย
คือมึงจะง้องแง้งอะไรกันตอนกลางเรื่องวะกูไม่เข้าใจ คือเหมือนอยากให้ชีวิตพระเอกมันดราม่าสักนิดเลยยัดๆ ให้มันพอมีปมไปงั้น
ส่วนเอ็ด ชีแรนนี่กูงงว่าใครยัดบทมา ไม่ใช่ไม่ดีหรอก สงสัยเฉยๆ ว่าทำไมต้องเป็นเอ็ด5555555
>>6 หนังรักแต่พระเอกนางเอกเคมีไม่เข้ากันนี่เป็นอะไรที่ขัดใจกูที่สุดละ มันสื่อไม่ได้เลยว่าพระเอกนางเอกรักกันนะ แต่ไอ้พระเอกไม่รู้ตัวว่ารักเขาจนเสียเขาไปถึงได้รู้สึก ตรงนี้ทำออกมาได้ห่วยแตกมาก พระเอกแม่งยังดูงงๆเด๋อๆอยู่เลยตอนไปอัดเพลงที่ la อยู่ๆอีนางเอกมาดราม่าใส่ เอ้า มึงเลือกที่จะไม่ตามไอ้พระเอกไป la เองไม่ใช่เหรอวะ แถมยังเสือกทำตัวเหมือนผญ.งี่เง่าเวลาทะเลาะกับแฟนอีก ระหว่างฉันกับงานจะเลือกอะไรห๊า ไม่งั้นไม่บอกว่าจะรออยู่ที่บลาๆหรอก แล้วพอเขาไม่ไปหาเสือกโทรมาดราม่าอีก น่ารำคาญ
ที่ต้องเป็นเอ็ดเพราะเอ็ดเป็นนักร้องเพลงป็อบชายที่ดังสุดในตอนนี้แล้วป่ะวะ คล้ายๆบีเทิลในยุคเขาอะ แต่เอ็ดยังไม่เป็นไอคอนของยุคแบบบีเทิล
yesterday ถ้าไม่ติดว่าเพลงเพราะนี่คือพูดได้เต็มปากเลยว่าเสียดายเงินสุดๆ เพลงเพราะจริงแต่บทป่วยสัส ตอนกลางเรื่องอีนางเอกเมนส์มาเหรอวะถึงได้มางอแงกับพระเอกในห้องนอนเรื่องเพลงของพระเอก ตรงนี้กูไม่เข้าใจว่านางจะสื่ออะไร น้อยใจที่ไม่มีชื่อนางในเพลงเหรอ แถมยังตามไปง้องแง้งที่โรงแรม ถ้าจะเล่นประเด็นดราม่าก็ให้พระเอกเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตีนตอนดังแล้วดีกว่ามั้ย นี่ไอ้พระเอกยังมึนๆอึนๆอยู่เลยว่ากูดังแล้วจริงน่ะเหรอ แถมอยู่ๆพระเอกเสือกมารู้ว่ารักนางเอกนี่เหมือนถูกจับยัดอะ ไม่อินความสัมพันธ์อะไรใดๆทั้งสิ้น และพระเอกไม่มีเสน่ห์เลย ไม่ชวนเอาใจช่วยหรือสงสารเห็นใจอะไรทั้งนั้นอะ แถมจบได้โลกสวยน้ำเน่าสัส เป็นของจริงน่าจะโดนฟ้องล้มละลายหมดตูดไปนานละ แล้วกูเกลียดที่แม่งสื่อว่าไม่มีเพลงใดๆในโลกเทียบเท่าเพลงของ the beatles อีกแล้ว กูเอาโบฮีเมียนแรปโซดี้ตบหน้าแม่ง
ปล.กูรำคาญอีพ่อแม่พระเอกมาก ตอนจะเล่นเพลง let it be เสือกมีอะไรมาขัดจังหวะตลอดจนหมดมู้ด ถ้ามันไม่กี่ครั้งก็ยังพอขำๆเป็นมุกได้ แต่พอพระเอกจะเล่นเพลงแม่งก็ขัดตลอดเป็นกูก็อารมณ์เสียล่ะวะ พ่อแม่พระเอกนี่แม่ง KY เหี้ยๆ
>>8 ตอนเพลงLet it beนี่กูโคตรเห็นด้วย เพลงที่กูชอบสุดของบีเทิลส์แม่งเอามาเล่นมุกจนกูรำคาญ ครั้งสองครั้งยังพอรับได้นี่แม่งล่อยันเพื่อนบ้านมาขัดจังหวะแถมได้ฟังแค่ท่อนแรก สุดท้ายต้องไปหาฟังเอาเอง
แล้วไอ้ตอนอีนางเอกมาบ่นพิรี้พิไรเรื่องแอบชอบมาตั้งนานคือแบบ ห๊ะ อีหยังวะ ไหงอยู่ดีๆ มึงก็พูดเรื่องนี้วะ โคตรไม่เข้าใจการอยู่ดีๆ ก็โพล่งประเด็นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยไรเลย
Weathering With You อาจดีไม่เท่า your name
แต่กูชอบว่ะ ไม่รู้ทำไม กูชอบที่ มนุษย์ต้องเจอกับหายนะภัยพิบัติอะไรแบบนี้ เรื่องก่อนเจออุกกาบาต แต่จบสวย
เรื่องนี้ก็จบแฮปปี้นะ แต่มนุษย์ต้องเผชิญภัยธรรมชาติตลอดไป ตอนแรกคิดว่ามีทางแก้ทางอื่น เออเว่ย ไม่ต้องแก้มันล่ะ ปล่อยให้ผู้คนเผชิญมันต่อไปนี่ล่ะ อาจจะดูเห็นแก่ตัวนะ แต่แบบ ถ้าต้องเสียคนรักไปตลอดกาล เป็นกู กูก็ไม่เอาโว้ย เป็นคนเห็นแก่ตัวนี้ล่ะ
กูว่า Yesterday เหมือนวัตถุดิบดีๆ แต่คนปรุงแม่งกากเลยเป็นแบบนี้ จริงๆ กูว่าเส้นเรื่องไร้บีทเทิลสี่เต่าทอง มันสามารถเล่นได้อะไรเยอะอีกทั้งวงที่มาจากอิทธิพลบีทเทิลอย่างโอเอซิสที่แจ็คค้นแล้วหาไม่เจอ กับสิ่งที่แจ็คนึกออกแล้วคนอื่นไม่รู้ ไม่รวมกับพวกสมาชิกบีทเทิลที่มีชีวิตอยู่ ในเรื่องดีแค่ตัวเพลงกับนักแสดงที่เล่นเป็นจอห์น เลนน่อนนี่แหละ แนวทางโอเคแต่การเล่าเหี้ย
Weathering With You ไม่ไหวอะชินไค ดูไป cringe ไป แย่กว่าเด็กดาวอีก
Weathering With You นี่กูว่าคอนเซ็ปต์ของเรื่องคือ "ความเอาแต่ใจ" มากกว่า "ความโรแมนติก" นะ
เทพเจ้าที่เอาแต่ใจอยากให้ฝนตก เอาแต่ใจอยากให้มีเด็กสาวเป็นเครื่องสังเวย
โฮดากะที่เอาแต่ใจอยากได้ฮินะกลับคืนมา เพราะเป็นคนแรกที่มอบความอ่อนโยนให้ในเมืองอันโหดร้าย
ไม่ใช่ความคิดแบบที่ว่า "ฉันจะล้างแค้นโลกใบนี้ที่โหดร้ายกับฉัน!" แต่เป็น "ทำไมถึงมอบโชคชะตาของโลกทั้งใบให้พวกเราล่ะ พวกเราเพิ่งอายุ15-16นะ จะบอกว่าเราเป็นคนผิดได้ยังไงเล่า" ซึ่งอย่างที่สุกะบอกตอนท้ายคือ "โลกใบนี้มันก็เพี้ยนอยู่แล้ว" ต่อให้ฮินะยอมพลีร่างยังไงมันก็เพี้ยนอยู่แล้วที่ต้องสังเวยเด็กสาวให้อากาศดี และสุดท้ายคนในเมืองมันก็ใช้ชีวิตอยู่กันได้อยู่ดีจะฝนตกแดดออกก็ปรับตัวกันไป
ที่กูชอบอีกอย่างคือนอกจากตัวโฮดากะกับฮินะที่เป็นโลกของเด็กวัยรุ่นเอาแต่ใจ นี่มันคือสังคมของผู้ใหญ่ที่เรื่องพยายามไม่ไปแตะถึงเลยนะ แต่คนดูที่เป็นผู้ใหญ่นี่รู้แหละว่าโลกความเป็นจริงมันมีเรื่องแบบนี้ ทั้งผู้ใหญ่ที่รังแกเด็ก ความเย็นชาของสังคม อำนาจเงินตรา ฯลฯ ทั้งโฮดากะกับฮินะก็พยายามดิ้นรนไปกับระบบที่ขัดขืนไม่ได้พวกนี้ทุกหนทาง
เอาง่ายๆ มันคือหนังที่แสดงความต่อต้านระบบสังคมนั่นแหละ
-โฮดากะที่ไม่ชอบสังคมบนเกาะเลยหนีมาเข้าเมือง(เหมือนในนิยายบอกด้วยว่าถูกพ่อทำร้าย)
-ฮินะที่ไม่อยากแยกจากกับน้องเลยต้องแอบๆ อยู่กัน 2 คน ไม่งั้นจะโดนสถานสงเคราะห์แยกกัน
-สุกะที่ตอนแรกจะจับโฮดากะส่งตำรวจเพราะไม่อยากมีปัญหากับตำรวจ สุดท้ายเห็นโฮดากะทำเพื่อใครสักคนถึงขนาดนั้นและคิดว่าถ้าคนที่รักยังอยู่ตัวเองจะทำขนาดนี้รึเปล่าเลยยอมช่วย
-โฮดากะกับฮินะฝ่าฝืนโชคชะตากับสิ่งที่ไม่เห็นด้วย แม้มันจะผลกระทบตามมาทีหลังก็ตาม
Weathering With You กูว่าจบทะแม่งๆแบบฝ่ายตัวเอกแฮปปี้นะ แต่แลกมากับการที่เกิดภัยพิบัติไปตลอดกาล เข้าใจความรู้สึกโฮดากะที่ขาดที่พึ่ง ความสุขเดียวได้จากไปแล้ว เป็นกูก็ยอมไปพาฮินะกลับมาคือต่อให้อากาศกลับเป็นปกติ แต่ถ้ากูต้องเข้าคุก น้องของคนรักกูก็เข้าสถานคุ้มครองอยู่ตัวคนเดียว คนรักของกูก็หายไปตลอดกาล ฮินะก็นอนอยู่บนก้อนเมฆตลอดไป จบแบบนี้โฮดากะแม่งคง depressed ไปนาน ยอมให้อากาศแปรปรวนแต่มีความสุขยังดีกว่า เห็นตอนจบครั้งแรกรู้สึกเหมือนมันจะเหี้ยนะแต่ตัวละครในเรื่องดูปกติคงจะชินกับอากาศแปรปรวนไปแล้วแสดงว่าไม่ได้แย่ขนาดนั้น
ปล.เรื่องนี้จักรวาลเดียวกับเด็กดาวด้วยแต่เป็นเหตุการณ์ในอนาคตปี 2021-2024 พอเจอภัยพิบัตินี่ความรู้สึกซึ้งตอนที่ทาคิเจอกับมิตสึฮะกูหายไปหมดเลย เพราะรู้ว่าหลังจากนั้นแม่งฝนตกน้ำท่วม5555 อยากเห็นเรื่องต่อไปจักรวาลเดียวกันอีกเป็นซีรี่ย์ 3 เรื่องวัยรุ่นโรแมนติกพลังวิเศษไปเลย ถ้าทำจริงคงต้องเป็น timeline ก่อน WWY ไม่งั้นฝนตกทั้งเรื่อง
ดาวหางมาแล้ว
ภัยพิบัติธรรมชาติมาแล้ว
ต่อไป เอาไคจูมาเลยก้ได้นะ
มีใครดู IT รึยังวะ
>>17 กูดูล่ะ ชอบภาคแรกมากกว่า รู้สึกว่าเทคนิคการเล่าเหมือนดูละครอ่ะ แฟลชแบ็คบ่อยมาก เล่าแม่งทุกอย่าง ส่วนปีศาจก็สร้างสรรค์ดี กูเชียร์ให้ได้รางวัลพวกกำกับศิลป์ แต่งหน้า เหมือนกโูหนังสยองขวัญสมัยก่อน
ชอบรุ่นเด็กมากกว่านะนักแสดง แต่ชอบปมของพวกผู้ใหญ่ เราต้องยอมรับอดีตแล้วก้าวต่อไปอ่ะ กูผิดหวังนะกับภาคนี้แต่ก็คิดว่าควรไปดูเถอะ นั่งเกือบสามชั่วโมงคุ้มดี
>>17 กูไม่ดูหนังผีนะ คอนจูริ่ง แอนนาเบลล์ และอะไรที่สยองๆ ดูแล้วต้องมากลัวมาหลอน ไม่เอาหว่ะ
แต่ IT เนี่ย กูดู ทั้งสองภาคเลย ชอบภาคแรกมากกว่า มันมีอะไรที่ nostalgia ด้วย รำลึกถึงเรื่องวัยเด็ก
ตอนโต ยังไงก็ไม่อิน ยิ่งตัวนางเอกนะ กูว่าคนนี้แม่งไม่ใช่หว่ะ กูไม่เชื่อว่าจะโตมาเป็นคนนี้ สายตา ท่าทาง
ภาคสองกูคงอินเรื่องที่ว่า เราโตมาโดยที่ลืมไปว่า ตอนเด็กเราผ่านเหตุการณ์อะไรมาบ้าง มันลืมไปจริงๆ ผ่านเวลา เรื่องราวมากมายทับถม จนวันหนึ่งมันถูกสะกิดขึ้น แม่งก็พรั่งพรูออกมาหมด
>>13 อืม ความรักแบบวัยรุ่นนี่แหละ ทำให้กูเข้าใจว่า ทำไมเรายังดูต้องหนังรักที่ตัวละครเป็นวัยรุ่นอยู่ มันมีพลังจริงๆ ความรักผู้ใหญ่ ความรักคนแก่ มันก็พลังอีกรูปแบบหนึ่ง
แต่กูไม่ชอบเลย บางรีวิว อีเทพคอนเนี่ยแหละ ใช้คำว่า ติดหี แล้วทำให้โลกพลิก
เชื่อเลยว่า ไอ้สัส มึงไม่เคยมีความรักแน่ๆ รักแบบชิบหายวายป่วง ทำเลวร้ายได้ทั้งหมด รักจนฆ่าตัวตาย รักไร้สติ
ความรักของวัยรุ่น มันคือช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งพอมึงโตเป็นผู้ใหญ่ มึงไม่มีช่วงเวลานั้นอีกแล้ว มันจะเป็นรักแบบอื่น รักลูก ครอบครัว
ใช้คำว่า ติดหี พ่องตาย สัส กร้านมาก ติดหีใช้กับ โฮดากะ ไม่ได้โว้ย
IT2 นี่ไม่เหลือความน่ากลัวแล้ว(ถึงภาคแรกกูก็ไม่กลัวอยู่แล้วก็เหอะ) พลังเพนนีไวซ์นี่โคตรแฟนตาซีเลย
>>21 เออ กูก็ไม่ชอบคำว่าติดหี บางคนมันอาจจะพูดเล่นๆ ในความหมายว่าชอบผู้หญิงมากกว่าส่วนรวม แต่กูว่าคำแม่งเหี้ยพอๆ กับขุดทองเลย เหมือนมึงไม่เคยมองผู้หญิงด้วยความรัก มองแต่จะเย็ดอย่างเดียว
ส่วนรีวิวของเทพคอนกูทำใจนานละ แม่งชอบหนังสไตล์จัดๆ มีเอกลักษณ์เด่นๆ โดยไม่สนว่าหนังมันเหี้ยหรือดีกูเลยไม่ค่อยให้ราคาเท่าไร
IT ตัวจริงเป็นแสงสีส้ม อยู่นอกจักรวาล คอยต่อสู้กับเทพเต่าที่แบกโลกไว้บนหลัง
kingไม่รู้เล่นยาตัวไหนอยู่
หนังที่สร้างจากนิยายขยะของนักเขียนสวะเกรดบีมันจะออกมาดีได้ไงวะ
ดีกว่าขยะสวะอย่างมึงละกัน
ขนาดเจ้าตัวยังยอมรับเลยว่าเขียนตอนจบได้ห่วย 555
ไปดูแบบครึ่งราคาวันพุธมาล่ะ it2 คือความสนุกมันไม่เท่าตอนเด็กเลยจริงๆ ชอบพาร์ทเด็กเพราะความไม่รู้ ความใสซื่อ และการร่วมกันหาทางสู้มากกว่า พาร์ทผู้ใหญ่ ทำไมมันจำตอนเอาชนะในวัยเด็กไม่ได้เหรอว่ะ แค่ไม่กลัว ก็สู้มันได้ แบบตอนสู้ในวัยเด็ก แถมเกริ่นเรื่องความทรงจำที่หายไปแต่ละคนก็ดูแปลกๆ ว่ะ ยิ่งพิธีกรรมอะไรนั้น แม่งมายังไงว่ะ ไอ้ชนเผ่าโบราณมันก็สู้และขังไว้ไม่ได้ แล้วเหลือรอดมาบันทึกพิธีกรรมอะไรนั้นได้ไง
แต่กูชอบเรื่องเหยื่อที่ถูกแดกในพาร์ท 2 นี่มากนะ ตั้งแต่เกย์ต้นเรื่อง เด็กหญิงมีปาน เด็กชายแฟนคลับริชชี่ คือแม่งเป็นเหยื่อที่ดูน่าสงสารนะ อย่างเกย์ต้นเรื่องโดนซ้อมยับแล้วโยนลงน้ำกะให้ถึงตายสุดท้ายโดนแดกตาย ส่วนไอ้พวกนักเลงบูลลี่ รอด กูชอบมาก คือถ้าเป็นหนังไทยหรือทั่วไปแม่งจะมีการได้รับผลกรรมในภายหลังของไอ้พวกนี้แน่ๆ แต่เรื่องนี้แม่งไม่มี นี่ล่ะความจริงบนโลกในบางครา
It ไหงไม่มีฉากเซ็กหมู่ เบเวอรี่เปิดซิงเด็กผู้ชายในแก๊งทีละคนเพื่อเอาพลังไปสู้Itครับ
ยี้พวกติดหึ
อี๋เหม็นกลิ่นสวะจัง
ครั้งหนึ่งในฮอลลีวู้ด คือเรื่องมันจะบอกอะไรวะ หรือดูเอามันส์ตามสไตล์เควนติน
นอกจากเนื้อเรื่องนี่ลีโอกับแบรดพิตเอาอยู่จริงๆ ว่ะ ฝรั่งยิ่งแก่ยิ่งมีเสน่ห์จริงๆ
เคว็นตินไม่ได้ทำหนังให้คนดู เคว็นตินทำหนังเพราะอยากดูเท้าดาราสาวฮอลลีวูดครับ
พล็อตอะไรช่างมัน ขอแค่มีเท้าเปลือยเป็นพอ
Reservoir Dogs กับ Hateful 8 ก็ไม่เห็นจะมีฉากสาวเปลือยเท้านะ
เริ่มเขียนบทกากตั้งแต่เฮทฟุลละไอ้เควนติน เหลือแต่ขายดารา
เพิ่งดูad astraจบ หนังแม่งขายบรรยากาศในอวกาศชัดๆ น่าจะได้แรงบันดาลใจจากspace odysseyพอควร ส่วนตัวไม่ใช่หนังที่คนไทยจะชอบว่ะ กูดูแล้วเคลิ้มเหี้ยๆ มีสิทธิหลับง่ายๆ ปมเนื้อหาก็ค่อนข้างเบาบางพอสมควร แต่งานถ่ายทำมุมกล้องนี่โคตรงาม
ดูแรมโบ้จบสดๆร้อนๆ ก่อนหนังฉายเห็นมีเด็กร้องงอแงกูก็รู้สึกwtfสัสๆ พอดูจบแล้วช่วงท้ายกูนึกว่าดูsawอยู่ โดยรวมช่วงแรกปูเรื่องเอื่ยไปหน่อย มามันส์จริงก็ช่วงท้าย ทีนี้แม่งฆ่ากันรัวๆทั้งวางกับดักตกลงไปเสียบกับเหล็ก ตัดคอ เสียบหัว ตัดขา ยิงหัวกระจุยแบบจะๆ จนไปถึงควักหัวใจสดๆ คือก็โหดได้ใจดี555 แต่มันไม่ค่อยดูจะเป็นแรมโบ้เท่าไร กูชอบแบบลุยกันในป่ารึถ้าจะดราม่าก็ควรจะให้ได้แบบภาคแรกอะนะ
กูโกรธมากที่หนังดีๆแบบ good boys รอบน้อยและระยะยืนสั้นชิบเป๋ง
เพื่อนโม่งครับ อยากไปดู The Matrix ที่เข้าโรงใหม่
อยากถามว่าระหว่าง 4DX กับ MX4D อันไหนดีกว่ากันครับ
Houseสามย่านเปิดแล้ว ไปอุดหนุนละมารีวิวกันเพื่อนโม่ง ของดีเพียบเลย รอดูPulpด้วยใจจดจ่อ
ปกติไม่ได้ดูวันพีซแบบอนิเมชั่นทางทีวีเท่าไหร่ อ่านมังงะ แต่ก็หลงลืมไปบ้างล่ะ
ได้ลองดู มูวี่ ที่ฉายล่าสุด สแตมปีด คือ จะบอกว่า ไม่คิดว่า คนจะเข้าไปดูเยอะมาก
ตอนแรกเห็นแต่เด็กวัยรุ่น แต่ มีทั้งมาแบบครอบครัว กลุ่มผู้สูงอายุ(ไม่แก่ แต่อายุเยอะกว่าเราแน่ๆ) วัยทำงาน หนุ่มสาวคู่รัก ก็เข้ามาดูกันเยอะเลย
สิ่งนึงที่คิดไว้ในใจ กลุ่มเด็ก และวัยรุ่น พวกนี้ เราพบเจอพฤติกรรมจากการดูหนังเรื่องอื่นคือ มีคุย มีเล่นโทรศัพท์ขณะหนังดำเนินเรื่อง
แต่เรื่องนี้ ผิดคาดว่ะ แม่งตั้งใจดูกันจังวะ จนไม่กล้าขยับตัวในบางช่วงเลย อาจจะมีเสียงคุยซุบซิบ แบบ เฮ้ย อันนั้น... เชดดด อันนี้...
บางอัน เราก็ไม่รู้หรอกนะว่าเค้าฮือฮาอะไรกัน เพราะตัวเองก็ไม่ได้เป็นแฟนเหนียวแน่น แต่ฉากนึงในเรื่อง ที่เรียกเสียงจากคนทั้งโรงได้
คือ ฉากการหนีในตอนท้าย ที่มีภาพ เอส ที่ถูกพลังพิเศษใช้เรียกมาจากภาพ เพื่อช่วยสร้างทางหนีในกลุ่มโจรสลัด ฉากนี้ เข้าใจสุดๆ
และไม่มีใครลุกออกจากโรงเลยเพื่อดูเอนด์เครดิต (ซึ่งหนังมาร์เวล เราจะเห็นมีคนลุกออกไปบ้าง แต่นี้ แม่งไม่มีใครลุกเลย)
จริงๆ ไม่อยากไปพิมพ์ในกระทู้ห้องการ์ตูน เพราะส่วนตัวไม่ใช่สายดูหนังอนิเมะ เลยขอมาพิมพ์ในนี้ล่ะกัน
>>53 คุยได้
https://fanboi.ch/animanga/7464/286/
กูยังไปสปอยแม่งเลย 555555
>>53 กูดูรอบเสียงต้นฉบับนะ แต่ส่วนตัวกูว่าสนุกนะแอร์ไทม์ตัวละครในเรื่องแม่งมากันเกือบหมด ทั้งพวกบากี้, คล็อกโคไดล์, เจ็ดเทพโจรสลัด, คณะปฏิวัติ บลาๆ ถ้าสำหรับคนที่เคยตามก็ดูสนุกๆ ได้ แต่ถ้าติดตามวันพีชตั้งแต่แรกๆ คงมีขัดใจกันแหละเพราะหนังโรงนี้มันไม่อิงเรื่องหลักๆ
ใครไป house Samyan มาแล้วบ้าง กูเพิ่งไปมาวันนี้ เสียงดังโหวกเหวกอย่างกะสลัม อยากรู้ว่าวันอื่นสภาพเป็นแบบนี้มั้ย
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.