สปอยให้ฟัง
หกเดือนหลังจากจบภาคแรก กรินดี้ถูกส่งตัวจากที่คุมขังในอเมริกาไปรับโทษที่ยุโรป แต่ก็หนีไปได้ระหว่างทาง ข้ามมาที่ฝั่งอังกฤษ นิวท์พยายามทำเรื่องขอเดินทางไปต่างประเทศ (สิทธิ์ถูกระงับเพราะไปทำเรื่องวุ่นที่เมกา) กระทรวงเวทมนตร์เสนอให้นิวท์ไปเป็นมือปราบมารแลกกับสิทธิ์แต่นิวท์ไม่เอา ควินนี่กับเจคอบมาอังกฤษเพื่อจะแต่งงาน แต่เจคอบถูกมนต์เสน่ห์สะกดไว้อยู่่ นิวท์ถอนมนต์สะกด เจคอบกับควินนี่ทะเลาะกัน ควินนี่หนีไปหาทีน่าที่มาปฏิบัติภารกิจในฝรั่งเศสแต่หาไม่เจอ ดันไปเจอกรินดี้แทน และสุดท้ายก็เข้าไปเป็นสมุน
นากินีกับเครเด้นก็ไม่มีอะไร พากันหนีออกมาจากคณะละครสัตว์ เครเด้นพยายามหาพ่อแม่ที่แท้จริงของตัวเอง โดยเชื่อว่าตัวเองเป็นน้องชายของลีต้า (แฟนเก่านิวท์) เลสแตรง แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ความจริงเป็นคนนามสกุลดัมเบิลดอร์ (คงไม่ได้เกี่ยวข้องกับอัลบัสโดยตรง คงเป็นญาติห่างๆ ร่วมนามสกุล) ตอนจบเครเด้นได้ไม้กายสิทธิ์ ไปเข้าพวกกับกรินดี้
ตอนท้ายๆ เป็นฉากที่กรินดี้พูดสุนทรพจน์ให้พ่อมดแม่มดฟัง มือปราบมารโผล่มาฆ่าผู้ร่วมชุมนุมคนนึงตาย สถานการณ์ก็เลยบานปลาย เกิดการเลือกข้างกันขึ้น แต่นิฟเฟลอร์ของนิวท์ไปขโมยหยดเลือดสาบานของกรินดี้มาได้ (สาบานกับดัมบี้ว่าจะไม่สู้กันเอง) เดี๋ยวต่อไปดัมบี้ก็คงเอาไอ้หยดเลือดนี่ไปทำลายล้างคำสาป แล้วก็มาปราบกรินดี้ในที่สุด
ฉากเกย์ระหว่างดัมบี้กับกรินดี้คือ รมต กระทรวงเวทมนตร์มาหาดัมบี้ที่ฮอกวอต แล้วถามจี้ว่าที่ดัมบี้ไม่สู้กับกรินดี้เพราะเห็นเป็นพี่น้อง (ไม่ใช่แท้ๆ เป็นอารมณ์สนิทกันนับพี่นับน้อง) ใช่ไหม ดัมบี้ก็ตอบว่าเคยเป็นมากกว่านั้น แค่นี้ขย ะฟุที่เป็นแฟนบอยก็คงดีดดิ้นกันจนน้ำแตกคาเบาะละ
ปล. ถ้าใครอ่านหนังสือก็คงได้ยิ้มหลายฉาก อย่างที่เราได้เห็น (น่าจะเป็น) ปู่ของคอแม็ก แม็คล้ากเก้น เรียนอยู่ที่ฮอกวอตด้วย