พูดคุยเกี่ยวกับผลงานป้าเจเคในจักรวาลหนัง
Last posted
Total of 781 posts
พูดคุยเกี่ยวกับผลงานป้าเจเคในจักรวาลหนัง
ตรัส
กูเจิมกระทู้ให้
คิดยังไงกับการยัดเยียดบทรักของตัวละครหลายๆคู่ในภาค 6
Fantastic Beasts 2
กูสงสัยว่า ดัมเบิลดอว์ เป็นเกย์ใช่ไหม
ดูโมโนฉายภาค 7.1 เมื่อกลางวันแม่งวิ่งๆวาร์ปๆหนีทั้งภาคเลยนี่หว่า เนื้อๆอยู่ 20 นาทีสุดท้ายหมด
เออ อีกอย่างคือกูอ่านนิยายแล้วชิปคู่ครัมกับเฮอร์ไมโอนี่มาก แม่งเคมีอย่างดี ไอ้บื้อขี้ตื๊อคนนึงกับสาวฉลาดที่แอบเล่นตัวคนนึง แล้วมีหลายโมเมนท์ที่ดีต่อกันมาก
ปรากฏว่าไปจบกับรอนเฉย อีดอกกกกกกกกก
>>8 จริง ไอ้ฉากเผาบ้านโพรงกระต่ายนี่กูงงมาก มีมาทำเหี้ยอะไรวะสัส
>>9 อันนี้น่าจะไม่ใช่ความผิดป้า น่าจะเป็นเรื่องของการเขียนบทที่ต้องการรวบยอดเรื่องความรักเอาไว้ให้ได้ภายในเวลาสั้นๆ
>>11 อันนี้ไม่เลย ครัมกับเฮอร์ไมโอนี่เนี่ยโมเมนต์ไม่มากเท่าไหร่ ประมาณไอ้หนุ่มทึ่มแบดบอยชอบสาวฉลาดๆ และเฮอร์ไมโอนี่ก็กรี๊ดๆ ปลื้มๆ นักกีฬานั่นแหละ สุดท้ายก็ไปไม่รอด ถ้ายกในหนังสือมาพูดด้วยเนี่ยต้องบอกว่าครัมแม่งหน้าม่อสัส มางานแต่งบิลกับเฟลอร์ก็ยังเหล่สาวไปทั่ว และดูไม่ได้แคร์เท่าไหร่ที่รอนกับเฮอร์ได้กัน
ขอถามแบบไม่รู้หน่อย ตอนที่จับพวกแฮร์รี่มาที่บ้านมัลฟอยแล้วให้เดรโกยืนยันว่าใช่ตัวจริงรึเปล่า ที่เดรโกไม่ตอบคือไม่รู้จริงๆหรือจะช่วย
>>12 "อันนี้น่าจะไม่ใช่ความผิดป้า น่าจะเป็นเรื่องของการเขียนบทที่ต้องการรวบยอดเรื่องความรักเอาไว้ให้ได้ภายในเวลาสั้นๆ"
ยังไงนะ? คือจะบอกว่า รวบรัดจับคู่นี่ไม่ใช่ความผิดป้า? ไม่ใช่แล้วเว้ย ที่กูด่านี่ก็ด่าหนังสือไง แม่งรวบยอดตั้งแต่ในหนังสือแล้ว ไม่ถึงปีคู่รักโผล่เป็นสิบ ทั้งๆตอนเล่ม5ไม่มีโมเม้นอะไรเลย ถ้านับตามเวลาในเรื่องคือแม่งไวกว่านารูโตะอีก
ครัมในภาค4กูไม่เคยเห็นว่ามันแบดบอยว่ะ เอาตามหนังสือมากกว่าหนังนะ กูเห็นมันเป็นนักกีฬาวินัยดีที่ผ่านผู้หญิงมาจนเบื่อที่โดนกรี๊ดแล้ว เลยมาชอบเฮอร์ที่ไม่สนใจตัวเอง คือรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ง่ายด้วยส่วนนึง ...แต่พอโดนหักอกแม่งก็เปลี่ยนกลับไปเป็นคนที่คบใครก็ได้เหมือนก่อนจะมีบทบาทในเรื่อง
>>16 โง่ฉิบหาย ในหนังกับในหนังสือนี่คนละเรื่องกันเลย ถ้าบอกว่าในหนังสือรวบรัดจับคู่ ในหนังนี่คงต้องเปลี่ยน genre เป็น romance อะ
เรื่องรักๆ ใคร่ๆ แม่งปูมาตั้งแต่เล่ม 4 แล้ว เล่ม 5 ก็มีเยอะ เล่ม 6 ก็มาสุกงอมกันหลายคู่ (อายุ 14-15-16 ก็เหมาะสมอยู่ ใจคอมึงจะให้แม่งจ้องจะเย็ดกันตั้งแต่อายุ 11 เหรอ) เอาง่ายๆ นะไอ้ควาย นี่ก็อุตส่าห์เป็นห้องหนังแล้ว ถ้ามึงไม่เคยอ่านหนังสือ หรือไม่มีปัญญาแม้แต่เพียงเศษเสี้ยวที่จะวิเคราะห์อะไร มึงก็พูดแต่เรื่องหนังดีกว่า
ทุกคนรู้กันนะ ว่ามันตามมาด้วย เห็นมลพิษก็เมินทิ้งกันนะเพื่อนโม่ง คนอื่นอุตส่าห์ย้ายจะได้ตรงประเด็นเป๊ะๆยังจะตามมาระรานอีก ดูเหงาอะ
ถ้าตัดเรื่องหยาบคายออกไป >>18 ก็พูดมีเหตุผลอยู่ เพราะหนังภาค 6 เนี่ย เหมือนจะเน้นเรื่องรักๆใคร่ๆแบบเต็มที่เพื่อปูไปยังบทสรุปในภาค 7 คือตามหนังสือมันก็มีรักๆเยอะนะ แต่มันใช้เรื่องรักๆเป็นพล็อตรองที่ใช้เคลื่อนเรื่องมากกว่า แล้วเรื่องอายุก็มีส่วน เหมือนว่าภาค 6 ตัวเอกทั้งหมดก็สลัดความเป็นเด็กใสๆไปแล้ว กลายเป็นวัยรุ่นวัยฮอร์โมนพลุ่งพล่านเต็มตัว จะมามีแฟนเปลี่ยนแฟนกันเป็นว่าเล่นมันก็ไม่ได้แปลกอะไร ลองมองย้อนไปดูตัวละครอย่างเพอร์ซี่ ก็จะเห็นว่าเขาก็มีแฟนตอนปี 6 เหมือนกัน (เล่ม 2)
นี่กระทู้แฮร์รี่หรืออินซิเดียสวะ วิญญาณยังคงตามติด
>>12 เฮอร์ไม่ได้ปลื้มครัมเว้ย ยังบอกรำคาญอยู่เลยตอนฮีหอบหนังสือมานั่งในห้องสมุดแล้วสาวๆแฟนคลับจะตามมากรี๊ดทำลายความสงบ แต่ครัมมาขอชวนไปงานกูว่าเฮอร์ก็คงให้โอกาสอะ ฟังจากคำบอกเล่าของเฮอร์ยังรู้สึกเลยว่าครัมน่ารักชิบหาย หมีตัวใหญ่ๆมาทำท่าเขินๆตอนชวนสาวไปงานทั้งที่จะชวนใครก็ได้ไปแต่ก็ชวนฉันนี่ มันให้ความรู้สึกน่าเอ็นดูนะเว้ย
>>21 สงสัยกระทู้นั้นไม่มีใครคุยด้วยเพราะรังเกียจเลยต้องตามมากระทู้นี้ มันมาทำไมวะ เชิญอยู่กับหนังสือที่มันรู้แจ้งอยู่แต่เพียงผู้เดียวไปเด่ะ คนดูแต่หนังไม่อ่านหนังสือแบบที่มันว่าเขาจะคุยกัน
>>11 ถ้าเอาโมเมนต์ในหนังที่เพิ่มจากในหนังสือคือตอนภาค 2 ที่เฮอร์วิ่งมากอดแฮร์รี่ แต่ไม่กล้ากอดรอน มันก็มีซัมติงแล้วว่ะ ภาค 3 ตอนประหารบัคบีคเฮอร์ก็กอดรอนตอนเสียใจ ส่วนรอนเองก็ออกหน้าปกป้องเฮอร์ตอนโดนมัลฟอยด่าว่าเลือดสีโคลนถึงขั้นจะสาป(แต่ซวยเอง) แถมหึงที่เฮอร์ไปกับครัมแต่มันโง่ไง ไปทะเลาะกับเฮอร์จนนางร้องไห้ คู่นี้กูว่าปูโมเมนต์ไว้เยอะอยู่ โครตเข้าตำราพ่อแง่แม่งอน กัดกันไปมาก็รักกัน แต่เนื่องจากกูไม่ชอบรอนเพราะแม่งงี่เง่าบ่อยสัสๆ ดังนั้นกูไม่เชียร์คู่นี้จ้าาา 5555555
เฮอร์มันชอบรอนตรงไหนวะ หรือชอบแนวที่ต้องให้ดูแล เพราะเฮอร์ก็เป็นคนจู้จี้จุกจิกอยู่แล้ว มีรอนมาอยู่ใต้โอวาทนางเลยฟิน??
>>26 เข้าใจการเปรียบเปรยป่ะ ในความคิดกูคิดว่าครัมเหมือนหมีตัวใหญ่ ไม่ได้บอกว่าเฮอร์คิดว่าครัมเหมือนหมีตัวใหญ่ๆ สงสัยจะอ่านหนังสือไม่แตก ที่อ่านแตกก็มีแต่เรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์เรื่องเดียว สงสารครูประถมของมึงจริงๆที่ทำให้มึงไม่สามารถเข้าใจข้อความของมนุษย์ปกติทั่วไปได้
ย้ายมานี่แล้วยังจะตามมาเสนอหน้าอีกเหรอวะ ก็อ่านไปคนเดียวในโลกของมึงสิ กูก็ย้ายมาคุยจักรวาลหนังกันแล้วเนี่ย สะเหล่อสัด อีคนฉลาดที่สุดในโลก เพราะทั้งโลกมีมึงคนเดียวอะ ไม่มีคนคบ
>>4 กูงงท็องส์กับลูปินมาก ถึงจะบอกว่าท็องส์เปลี่ยนผู้พิทักษ์เป็นหมาป่าก็ตาม แต่ตอนที่สองคนนี้เข้าซีนด้วยกันในสายตาแฮร์รี่กูยังไม่เห็นเคมีใดๆต่อกันเลย ถึงจะบอกว่าไปจีบกันหลังไมค์ก็ตามที แต่มันก็น่าจะมีปฏิกริยาแพลมๆ มาให้เห็นบ้างนะ นี่มาบอกรักกันชอบกัน กูเลยแบบ ห๊ะ!! เอาจริงดิป้า แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ แค่งงๆที่คู่นี้โผล่มาเท่านั้นเอง
พวกมึง กูขอได้มั้ย ถ้ารู้ว่าเป็นโม่งนักเขียนผู้แตกฉานหนังสือหนึ่งเดียวในหล้า พวกมึงช่วยเมินมันไปแบบสมบูรณ์ได้มั้ย ต่อให้เม้นมันจะน่าตอบแค่ไหนก็ตาม
มันทำมู้ห้องลิทtoxicจนกูไม่อยากจะอ่านแล้ว ตอนนี้ห้องนี้ก็มีเอาไว้คุยหนังแล้ว มันจะมาวอแวอะไรยังไงก็ปล่อยมันเห่าไปตัวเดียวเถอะ อย่าไปต่อปากต่อคำกับมัน
มีฉากไหนในหนังที่ไม่มีในหนังสือแล้วพวกมึงชอบมั้ยวะ กูชอบฉากที่สเนปตบกบาลแฮร์รี่กับรอนตอนมันแอบคุยกันไม่ตั้งใจเรียน กับฉากมักกอนนากัลร่ายเวทย์ป้องกันฮอกวอตส์แล้วทำท่าดีใจตอนบอกอยากใช้คาถานี้มานานแล้ว กูว่ามันเป็นฉากที่น่ารักดี
น่าจะหมายถึงท้ายภาค4ที่โวลดี้เพิ่งคืนชีพ
กู>>34 นะ ฉากบู๊ภาค 5 ที่กูพูดคือที่มึง>>35 บอกนั่นละ สู้กันเจ๋งดี ส่วนฉากดราก้อนบอลคือภาค 7 ฉากสุดท้าย ในหนังสือแฮรี่ชนะด้วยเงื่อนไขไม้เอลเดอร์ ที่กูชอบมากเพราะทำให้เห็นชัดๆ ว่าป้าวางแผนมาตั้งแต่ช่วงเล่ม 4 แต่หนังตัดประเด็นตรงนี้ไปเลย เข้าใจว่าถ้าทำตามหนังสือมันจะชนะง่ายเกิน ไม่ล้น เลยต้องมีฉากให้เนวิลตัดหัวงูตอนนั้นอีก
พูดแล้วนึกได้ ฉากที่เพิ่มมาแล้วกูเกลียดมากคือฉากหักไม้นี่ละ ในหนังสือแฮรี่ให้ความสำคัญกับไม้เพราะเป็นของดัมเบิ้ลดอร์ แต่ก็ไม่ยึดติดกับไม้ หลังจากใช้เรปาโรซ่อมไม้หางฟีนิกซ์แล้วก็เอาไปคืน จุดนี้ละที่แสดงให้เห็นว่าแฮรี่เป็นผู้ที่คู่ควรกับสมบัติทั้ง 3 มากที่สุด แต่หนังก็คือหนัง กูดูแค่เอาเอฟเฟคพอ
กูชอบตอนที่เฮอร์มันบอกตื่นเต้นดีนะ ทำผิดกฎเนี่ย แล้วรอนหันไปถามประมาณว่า เธอไม่ใช่เฮอร์ไมโอนี่ เธอเป็นใคร ฉากเชมัสทำทุกอย่างระเบิดได้ก็ฮา
จริงๆกูชอบมุกตลกที่อยู่ในหนังสือมากกว่า อย่างตอนที่สามสหายไปตักน้ำแล้วเจอพ่อมดกระทรวงบอกให้พ่อมดแก่ๆที่ใส่ชุดวันพีชของผู้หญิงเปลี่ยนมาใส่กางเกง แล้วตาเฒ่าไม่ยอมใส่บอกว่าชอบให้ลมโกรกเป้าแบบนี้ จำได้ว่าตอนอ่านครั้งแรกกูขำไปหลายนาทีมากกว่าจะอ่านต่อได้ 5555555555
>>37 ภาค 7 กูไม่ค่อยชอบฉากสู้กับโวลดี้เท่าไหร่ คือมันว้ากๆพุ่งไปเป็นลำแสงแล้วก็มานอนกลิ้งหน้าโรงเรียนกันทั้งคู่ ทั้งที่ในหนังสือแฮร์รี่สู้กับโวลดี้มีพยานรู้เห็นตั้งเยอะ ป่าวประกาศความดีของสเนป แถมฉากโวลดี้ตายกลายเป็นศพรวมกับคนอื่นนี่มันก็ตอกย้ำนะว่าโวลดี้ยังไงก็เป็นคนทั่วๆไปอยู่ดี(แม้กูจะนึกภาพโวลดี้เข้าห้องน้ำหรือแดกฟิชแอนด์ชิพไม่ออกก็ตาม 55555555555)
กูชอบฉากแฮร์รี่หักไม้แล้วโยนทิ้ง ติสท์ดี
จริงๆ กุก็ชอบที่มันหักไม้นะ กุชอบตอนจบที่เคลียร์ๆ แบบนี้ ดีกว่าเอาไม้ไปเก็บที่ไหนแล้วคนก็จะมาเดากันว่าจะมีตัวร้ายที่ไหนมาขโมยไปใช้อีก แต่ก่อนหักมันน่าจะให้ซ่อมไม้เก่าตัวเองก่อน
กูชอบฉากเนวิลล์ฆ่านากินี เฟี้ยวๆฟ้าวๆหมับฉับ ปรี้ดดด
ฉากมักกอนนากัลร่ายเวทย์ป้องกันฮอกวอตส์กูก็ชอบ ตัดอารมณ์ด้วยมุกน่ารักๆ
พูดถึงฉากเนวิลล์ฆ่านากินี ถ้าฟตตบ.ภาค2มาแล้วชะตานากินีรันทดน่าสงสาร
กูคงกลับไปดูฉากนี้ไม่เหมือนเดิม5555
เนวิลล์ไม่ผิดนะ แต่กูต้องสงสารชะตานากินีแน่ๆที่ดิ้นรนแทบตาย สุดท้ายต้องมาตายใต้คมดาบกริฟฟินดอร์ในฐานะสมุนจอมมาร
ส่วนตัวกุว่าถ้าภาคหลังๆ ให้นากินีเปลี่ยนฝ่าย เข้าด้านมืดไปเป็นตัวร้าย ทิ้งความเป็นมนุษย์ของตัวเองอย่างเต็มใจ มันก็น่าสนใจเหมือนกันนะ
ไม่รู้สิ ในฐานะคนเอเชีย กุอยากเห็นตัวละครเอเชียเป็นตัวร้ายแซ่บๆ มากกว่าจะมาเอาใจ sjw ด้วยการบังคับว่าตัวละคร minority ต้องเป็นคนดี ต้องสมบูรณ์แบบ ต้อง empower บลาๆๆๆ ว่ะ
>>50 ถ้ามึงออกความเห็นแบบนี้กลางดงSJW มึงจะโดนด่าอีกทีเว้ยว่ามึงมันก็เอเชี่ยนที่อยู่ในประเทศเอเชี่ยน ไม่เข้าใจความยากลำบากการเป็นminorityของอเมริกันเอเชี่ยน/ยุโรปเอเชี่ยนที่ในที่สุดก็มีตัวแทนความminorityได้มามีบทบาทในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับโลกสักที
/บั่บ กุว่าพวกมึงกำลังเหยียดเอเชี่ยนที่เกิดและโตในเอเชียนะ ว่าไม่ควรมีสิทธิ์มีเสียงอะไรเพราะไม่ใช่คนโดนกดขี่แบบอเมริกันเอเชี่ยน
ไม่รู้กูอคติไปรึเปล่า แต่ไม่ชอบการแถของป้าว่านากินีเป็นคนมาก่อนเลยว่ะ(เรื่องชาติเอเชียว่ากันอีกที) เหมือนคิดไรไม่ออกแล้ว จะขุดตัวละครเก่าๆจากภาคหลักตัวไหนมาเรียกคนดูดีน้าาาา อ๋อ นากินีไง วดฟ.
>>50 ทำไมกูรู้สึกว่าเอเชี่ยนในฮอลลิวู้ดดูค่อนไปทางตัวร้ายมากกว่าอยู่แล้ววะ พวก sjw แม่งเลยชอบด่ากันเนี่ย เหมือนบทเหี้ยๆ ไรก็โยนให้ minority ไว้ก่อน
แต่ที่แน่ๆ ป้าไม่ทำแบบนั้นแน่นอนว่ะมึง กูก็ไม่อยากเห็นด้วย ถ้าอยากให้เป็นตัวร้ายเฟียซๆ ก็เป็นตั้งแต่ต้นไปเลยก็ได้ ไม่ต้องพยายามทวิสเพิ่มดราม่าให้เรื่องหรอกว่ะ
กูคนนึงอ่ะไม่เชื่อว่าป้าคิดมายี่สิบปีเรื่องนากินี เพิ่งมาแถแท่ดๆๆเอาป่านนี้ชัดๆ ถ้าคิดไว้แล้วไม่มีทางหรอกที่จะไม่ทิ้ง clue อะไรไว้ในหนังสือเลย เพราะมันไม่มีหลักประกันอะไรเลยว่าวันนึงจะได้มาเฉลยในรูปแบบนี้
ดัมเบิลดอร์เป็นเกย์
เฮอร์ไมโอนี่เป็นคนดำ
นากินีเป็นเอเชียน
ต่อไป ป้าจะบอกว่าวีสลีย์เป็นยิวแน่นอลลล
Retcon แม่งให้หมด นักเขียนเหี้ยอะไรไม่เคยมีความแน่นอนในงานของตัวเอง
>>55 ดัมเบิลดอร์เป็นเกย์กูยังเฉยๆนะ เรื่องเพศสภาพไม่ค่อยมีผลกับกู นากินีชื่อก็เอเชียอยู่แล้ว แม้กูจะจิ้นเป็นภาพสาวแขกอินเดียแล้วเสือกออกมาเป็นสาวเกาหลีก็ตาม แต่เฮอร์เป็นคนดำกูก็ไม่เข้าใจป้าเหมือนกันเพราะหน้าปกหนังสือหรือนักแสดงหลักแบบเอ็มม่าที่ป้าเลือกมาเองก็เป็นเด็กผิวขาวกันหมด ตรงนี้กูว่าไม่โอเคที่ป้ามาบอกว่าไม่เคยพูดว่าเฮอร์เป็นเด็กผิวขาวเพราะอยากเอาใจกลุ่ม SJW เท่านั้นเองว่ะ
ปล.แต่ในหนังภาคแรกๆ ลาเวนเดอร์เป็นคนผิวสีนะเว้ย พอมามีบทเยอะขึ้นตอนเป็นแฟนรอน เปลี่ยนมาเป็นสาวผิวขาวซะงั้น ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
>>56 ถ้านากินีเป็นสาวแขก กุบอกเลยว่า sjw เดือดกว่านี้หลายเท่าแน่ๆ เพราะจะมีประเด็นอาณานิคมมาเกี่ยวอีก
เอาจริงๆ ตอนป้าบอกว่าชื่อนากินี ป้าได้แรงบันดาลใจจากตำนานอินโดนีเซียนี่ กุมั่นใจเลยว่าป้าตั้งใจเลี่ยงพูดถึงอินเดีย (ถ้าเสิชข้อมูลตำนาน naga ต่อให้ผิวเผินขนาดไหน ก็น่าจะต้องรู้แหละว่ามันเริ่มมาจากอินเดีย) แต่คนอังกฤษอย่างป้าน่าจะรู้ดีว่าประเด็นนี้มันมีสิทธิ์ดราม่าขนาดไหน
เรื่องลาเวนเดอร์ กุว่ามันเป็นเรื่องปกติของหนังภาคต่อนะ ถ้าตัวประกอบตัวไหนขึ้นมามีบทเด่น การ recast หานักแสดงที่เล่นเก่งๆ มาแทนมันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว (แต่ถ้าจะยึดตามหนังสือจริงๆ ลาเวนเดอร์ต้องเป็นคนขาวแหละ เพราะมีบรรยายไว้ว่าฉากรอนกับนางนัวกัน แทบจะแยกไม่ออกว่ามือใครเป็นใคร)
ถึงป้าจะพยายามเลียไข่SJW แต่กูว่าลึกๆแล้วป้าเป็นWhite Supremacistว่ะ โลกพ่อมดทั้งใบจุดศูนย์กลางอยู่ที่ยุโรป พ่อมดยุโรปเก่งสุด เป็นต้นแบบให้พ่อมดทั่วโลก
ขนาดมาเริ่มทำFantastic Beast ยังลงเอยด้วยตัวละครหลักทุกตัวเป็นคนขาวหมดเลย ทั้งๆที่เป็นเรื่องในอเมริกาแท้ๆ เป็นโอกาสอันดีที่ป้าจะใส่ให้มีคนดำในแก๊งหลักแต่ก็ไม่ทำ จิตใต้สำนึกป้าหยุดไว้
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.