ความเดิมจากกระทู้แรก
https://fanboi.ch/movie/2362/
Last posted
Total of 946 posts
ความเดิมจากกระทู้แรก
https://fanboi.ch/movie/2362/
เติม Netflix กะว่าจะรอดู Godzilla 2017 แต่ไม่น่าเชื่อว่าระหว่างรอกูดู Happy Tree Friend จบไป 3 ตอนรวด
แม่งสนุก+ตลก ตรงที่แต่ละตอนมันเสนอการตายแบบพิศดารและฮาในตัว
ขนาด Your Name ไม่ได้ชิง เรื่องนี้ไม่มีหวังแน่ๆ ครับ
อ้างไฟสงครามจากเมกา กรรมการคงปลื้มมากเบย
>>5 กรรมการชอบแนวนี้ แต่กูว่าคงแพ้ให้กระแสมุสซี่ เฟมินาซี อยู่ดี
https://www.facebook.com/thematterco/photos/pcb.1961931574022235/1961929244022468/?type=3&theater
ไม่รู้กูโตไปหรือพิกซ่ามันหมดของหรืออะไร Cocoกูว่ามันก็ดีนะแต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าดีขนาด9/10หรือ9.5/10
มันเดาทางออกได้หมดเลยจริงๆ ปมนี้มันต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ ไม่พลิกโผเลย
ส่วนหนังสั้นโอลาฟแม่งน่าเบื่อมาก ไม่ได้เกลียดเอลซ่ากับอันนาหรอก แต่กูว่าโอลาฟเป็นมาสค็อตที่ไม่ได้ตลกหรือมีเสน่ห์เล้ยยยยยย ค่อนจะไปทางน่ารำคาญแบบจาจาบิงด้วยซ้ำ พอแม่งเป็นตัวละครหลักกูนี่ภาวนาอยากให้หนังมันจบเร็วๆด้วยซ้ำ
>>7 กูจะ30และ แต่เวลาดูอนิเมะที่มีคนบ่นๆกันกูก็ดูได้สนุกทุกเรื่องนะ มินเนียนกูก็ว่ามันน่ารักดีในขณะที่คนบ่นว่าเนื้อเรื่องสู้ภาคหลักไม่ได้
ฮิรุเนะฮิเะมที่มีแต่คนด่า กูดูแล้วก็เพลินๆดี ในระดับที่ทำให้เด็กประถมสนุกได้
สำหรับกูเวลาดูอนิเมชั่นนี่ต้องคิดว่าตัวเองกลับไปเป็นเด็กคนหนึ่ง แล้วจะสนุกขึ้น
>>8 กูชอบที่มึงบอกว่าต้องกลับไปเป็นเด็ก เพราะหนังการ์ตูนยังไงก็ทาร์เก็ตเด็กเป็นหลัก ผู้ใหญ่ดูอาจจะเซ็ง เหมือนมึงไปเที่ยวสวนสนุกนั่งรถไฟปู๊นๆ มึงอาจจะเบื่อ แต่ถ้ามึงทิ้งความเป็นผู้ใหญ่ กระโดดโลดเต้นสนุกไปกับไอ้ปู๊นๆที่เด็กๆสนุกได้มึงก็จะสนุกเอง
Coco ตอนดูกูเดาได้ตั้งแต่กลางเรื่องเลย แต่มันไม่ใช่หนังนักสืบนี่หว่า กูก็ไม่ได้ซีเรียสจะไปหาความหักมุมจากหนังการ์ตูน กูว่าเขาแต่งเรื่องมาดี ไม่มีจุดไหนขัดใจเลย เด็กดูก็น่าจะว้าวโคตรแล้ว
หนังโอลาฟนี่กูนึกว่าจะมาท้ายเรื่อง กะเดินออก ดันเอามาแปะหน้าสุดเลยต้องดูไปโดยปริยาย ฮ่าๆๆ
เอาโอลาฟออกตอนไหนบอกกูด้วนนะ กูจะได้เข้าโรงไปดูโคโค่ เบื่อโฟรเซ่นชิบหาย สุดยอดแห่งความoverrated กูดูแรกๆก็ชอบ ตอนนี้แม่งไม่ขอบเพราะมันไม่ได้ดีขนมดน้้รแหละ
frozen นี่แม่ง overated จริงๆ ดังเพราะนางเอกแม่งมาแนวสาวแกร่งเกือบๆจะแมรี่ซูอยู่ละ(แค่ยังมีบทง้องแง้งตามแบบผู้หญิงให้เห็นบ้าง) แต่ก็เป็นแบบที่ไม่ค่อยเห็นในเจ้าหญิงดิสนีย์เท่าไหร่แค่นั้นแหละ คนเลยเห่อกัน
คนดูสายอนิเมชั่นแม่ง Hate เพราะปีนั้นเสือกแย่งออสก้าร์จาก Wind rise ด้วยล่ะ
สำหรับตัวผลงานกูชอบตรงนี้หักมุมเรื่องความรักนี่แหละ ตอนดูยังนึกในใจว่า แอนนา คริสตอฟ ฮาน นี่จะหาทางลงยังไง พอมาตอนท้ายก็เล่นประเด็นความรักของคนในครอบครัว
โฟรเซ่นโอเวอร์เรตน่ะกูไม่ว่าหรอก แต่กูรำคาญโอลาฟ ไอ้เหี้ยยยยยยยย แล้วแม่งเป็นเนื้อหาของมันตั้งยี่สิบนาที
จริงๆเนื้อหาของอันนากับเอลซ่านี่ก็แทบไม่เหลืออะไรให้เล่นแล้วนะ กูยอมรับว่าในหนังโอลาฟแม่งเก่งที่ยังหาเรื่องมาใส่ให้2คนนี้ได้อีก
ส่วนคริสตอฟแม่งหมดประโยชน์แล้วจริงๆ โผล่มาคราวนี้โคตรกลวงไม่มีห่าอะไรเลย ที่จริงก็ตั้งแต่Frozen Feverที่ฉายปะหน้าซินเดอเรลล่าคนแสดงละ
เหมือนใส่มาป้องกันคนหาว่าเป็นหนังเกย์เลสเบี้ยนของสองพี่น้อง แต่กูไม่เห็นมีโมเมนท์เลิฟๆกับอันนาหรือส่งผลอะไรกับเนื้อเรื่องเลย กวางแม่งยังมีประโยชน์กว่าอีก
ส่วนโอลาฟแม่งงงงงงงงงงงงงงง ใครก็ได้เอามันไปทิ้งสักทีสิวะะะะะะะะะ
ปล.ไปๆมาๆกูอยากรู้มากกว่าว่าฮานแม่งเป็นยังไงบ้าง
กระแสที่เมืองนอกก็ยังด่าหนังสั้นโอลาฟเลย ล่าสุดดิสนีย์ยอมถอดออกเรื่องนี้ไปแล้ว
รำคาญพวกที่บอกว่า นี่ ยอมไปดู Coco เพราะจะดูโฟรเซ่นเลยนะ/เบ้ปาก
กูว่ามันก็ดีเกินจะเป็นหนังฉายทีวีช่วงวันหยุดแหละ(แพลนตอนแรกว่าจะเป็นแบบนั้น) แต่ก็ยาวเกินที่จะเป็นหนังปะหน้า
ในไทยโปรโมทเหมือนเป็นหนังเดี่ยว สงสัยกลัว Coco ไม่มีคนดูจัดทั้งๆที่เนื้อหาหนังดีมากๆๆๆ
พอมีคนบอกว่าจะไปดูโคโค่เพื่อดูโฟรเซ่นนี่กูมองบนด้วย แม่งดูไม่เคารพหนังโคโค่เลย โอเค โคโค่เป็นแค่หนัง มึงไม่ต้องเคารพก็ได้ แต่ฟังแล้วเหมือนยกหางสิ่งที่ตัวเองชอบแล้วมองเรื่องอื่นด้วยหางตา ไม่ชอบคนแบบนี้
กูคิดว่าดิสนีย์ไม่ได้กะเอามาดึงคนหรอกว่ะ กะเอามาโฆษณาโฟรเซ่นมากกว่า กลายเป็นโดนด่ายับ สมน้ำหน้าเล็กๆ หนังไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีพอจะบังคับให้ทุกคนดู ยิ่งคนที่ไม่เคยดูโฟรเซ่นก็จะคิดว่านี่มันอะไร ทำไมกูต้องดู มึงเป็นรายการคืนความสุขของนายกหรือไง อีดิสนีย์
มีคนบอกพวกมึงไม่ดูก็เข้าโรงช้าสิ กูเข้าตรงเวลาเพราะกูไม่อยากสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น อีดอก เข้าสายมึงต้องเดินผ่านบังจอคนอื่น กูเข้าตรงเวลาคือถูกต้องแล้ว
เออ กูว่าดิสนีย์ควรเลิกหากินกับโฟรเซ่นโดยการเอามายัดๆใส่เรื่องอื่นได้ละ จะทำภาคต่อก็ทำมา ฉายซีรีส์ทีวีหรืออะไรก็ว่าไป
ไม่ใช่เอามาปะหน้าเรื่องอื่น อย่างนี้คนไม่ดูโฟรเซ่นก็มานั่งงงว่าอีตุ๊กตาหิมะดอกทองนี่มันเหี้ยอะไร อี2พี่น้องแม่งเป็นใคร
แล้วใครแม่งอนุมัติให้โอลาฟมันเป็นมาสค็อตวะ กูว่าน่ารำคาญมากๆแบบมากจริงๆ เฉยๆกับเรื่องโฟรเซ่นแต่ถ้าให้นึกถึงสิ่งที่เกลียดในเรื่องอีมนุษย์หิมะหน้าโง่นี่จะโผล่มาเป็นสิ่งแรกเลย
Ferdinand คิดว่าจะสนุกมั๊ยว่ะ เห็นตัวอย่างแล้วดูธรรมดาไปหน่อยขนาดมีจอน ซีน่ามาพากย์เป็นเจ้าวัว Ferdinand นะ
อยากดูIsle of dogsเร็วๆจัง...
>>20 เออ ตอนกูลองเอาชื่อไปหาข้อมูลดูก็เจอนี่ เอาไปดูพลางๆก่อนละกันนะ 555
https://m.youtube.com/watch?v=ALYj24vKmR4
ชื่อไทยดอกไม้ไฟกูโอเคนะ แต่กูงงว่ายังจะมีคนให้ตั้งแปลชื่อตามญี่ปุ่นเป๊ะๆอีก ชื่อแม่งพิลึกพอๆกับอยากกินตับอ่อนของเธอเลยนะใครเขาจะมาสนวะ
ชื่อหนังมันก็มีการแปลงดัดเอาเองมาตลอดไม่ว่าจะหนังฝรั่งจีนญี่ปุ่นจะมากระสันอยากแปลเป๊ะๆเหี้ยไรตอนนี้และพอแปลเป๊ะแล้วคำออกมาตลกอย่างขอตับอ่อนเงี้ยไม่ดัด your name ไม่แปลเป็นเธอชื่อ?ไปเลยล่ะสัด
จริงๆตับอ่อนความหมายมันดีนะ คนเขียนก็ตั้งใจให้ชื่อมันดึงดูดคนอ่าน แต่คนไทยฟังแล้วมันดูตลกเพราะนึกไปถึง "กินตับๆๆ" ไม่ก็ผีปอบกินเครื่องใน
ไปดู coco น้ำตากูไหลพรากๆ โคตรจี้ใจกูตั้งแต่ตอนแรกๆเลย(แต่กูไม่คิดว่าคนอื่นจะร้องตาม ส่วนใหญ่กูอินเพราะกูสนิทกับตายาย+ครอบครัวใหญ่) น้ำตาไหลจนอายคนข้างๆ แต่เห็นคุณทวดแต่ละฉากแบบ กูปวดใจ ตอนที่ทวดแกเรียกหาปาป๊านี้กูห้ามน้ำตาไหลไม่ได้เลย แต่เรื่องโดยรวมก็ดีด้วย กูชอบที่เรื่องเน้นไปประเด็นครอบครัวนะ ถึงจุดหักมุมเรื่องมันจะเดาได้ตั้งแต่ฉากแรกๆที่ตัวละครนั้นออกมาแล้วก็เหอะ แต่ก็นะการ์ตูนเด็ก
ปล.ไอ้หนังโอลาฟนั้นมันยาวเกินนะ......
กูล่ะกลัวการโปรโมทดอกไม้ไฟที่ทำให้คนคิดว่าเรื่องนี้มันจะเหมือน your name ความจริงแม่งไม่ใช่แนวแมสเลยอ่ะ แต่ก็อยากให้ทำเงินนะ จะได้มีเรื่องอื่นๆฉายที่ไทยอีก
ณ มุมโลกและแท็ปเล็ตกู้โลก(ได้ไงวะ)ได้ชิง annie ณ มุมโลกอาจจะได้ชิงออสการ์ ส่วนไร้เสียงอาจจะอดหมดเลย
Ferdinand ตอนเสียงพี่Edขึ้น กูร้องไห้เฉยเลย คือไรอะ ทำไมกูอ่อนไหวแบบนี้555 Frozenก็ร้อง Cocoก็ร้อง555555
>>31 ความเชื่อญี่ปุ่นกล่าวว่าถ้าป่วยเป็นโรคอะไรหรือเจ็บป่วยตรงไหน ให้กินส่วนนั้นจากสัตว์อื่นจะหาย
นางเอกเป็นโรคเกี่ยวกับตับเลยอยากขอกินตับพระเอก เพราะจะได้เหมือนเป็นชีวิตที่มีความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวกัน
ตอนจบพระเอกจะบอกนางเอกว่าอยากกินตับอ่อนของเธอมั่งคือจะสื่อว่าพระเอกก็อยากให้นางเอกเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเหมือนกัน
หรืออีกแง่หนึ่งก็คือ มันคือการสารภาพรักของสองคนนี้
>>32 เสริมเม้นนี้ วัฒนธรรมญี่ปุ่นไม่พูดตรงๆ นัตซึเมะ โซเซกิ สอนให้นักเรียนแปล I love you ว่า พระจันทร์สวยนะ
ตับอ่อนเป็นหนังรักที่ไม่มีคำว่ารักในเรื่อง แต่ "ฉันอยากกินตับอ่อนของเธอ" ในเรื่องนี้คือประโยคบอกรักนั้นแหละ
ส่วนฉบับนิยาย พระเอกส่งข้อความว่าอยากกินตับไปหา หลังงานศพพระเอกขอมือถือกับแม่นางเอก ปรากฎว่าข้อความถูกกดอ่านไปแล้ว พระเอกก็ขออนุญาตร้องไห้
Ferdinandนี่ ถ้าตัดเหตุผลว่าฉายชนสตาร์วอร์จนเจ๊งนี่อาจจะเพราะเป็นวัฒนธรรมเฉพาะถิ่นไปมะ
กูดูแล้วมันก็โอเคนะ ดูเอาเพลินๆได้ แต่อาจจะเพราะไอ้การแทงกระทิงของมาทาดอร์มันไม่ได้เข้าถึงคนทั่วไปได้ปะวะ คือไม่ใช่ทุกคนจะชอบดูการฆ่าสัตว์สดๆเป็นๆแล้วมันดันเอาเรื่องนี้มาเล่นคนเลยไม่ค่อยสนใจกัน
ในหนังมีอธิบาย ไปดูแล้วก็เข้าใจเอง เหมือน call me by your name อ่ะ เรียกชั้นด้วยชื่อของนาย ฟังดูอะไรของมึงแต่มันก็มีเหตุผลของมัน
ใครดูเฟอร์ดินานด์แล้วมั่ง กูสงสัยในเอนด์เครดิตนิดหน่อยที่พี่น้องอีกตัวของพวกเม่นกลับมา
คือมันโยงไปเรื่องอื่นของค่ายรึเปล่าวะ ทำไมมันดูเป็นตัวละครลับที่ดูมีสตอรี่จัง หน้าก็ไม่โชว์ให้เห็นจนกูรู้สึกทะแม่งๆว่ามันไม่ได้เป็นแค่แก๊กธรรมดาๆ ไม่งั้นมันก็ตั้งให้เป็นสามพี่น้องเม่นไปเลยก็ได้
ปล.หรือจริงๆทางค่ายมันกะทำเรื่องแยกแบบเพนกวินในมาดากัสการ์? คือเกาะเรื่องหลักดัง เผื่อตัวละครมันฮิตจะได้เอามาทำภาคแยกได้อีก(แต่เสือกเจ๊งซะนี่)
ดู loving vincent มาแล้ว ก็ดีนะ แต่กูว่าหนังไม่ควรชิงสาขาอนิเมชั่นเลย มันหนังเป็นลูกผสมโดยเฉพาะเลย
กูเห็นโปรโมทในไทยแต่ละอย่างของอุจิอาเกะ(ดอกไม้ไฟต้องมองจากด้านข้างฯ) อย่าง มันคือYour nameของปีนี้ กูนี่รอดูรีแอ๊คชั่นคนดูเลย55555555555
เหี้ย คนรู้จักใครจะไปดูรีบเตือนเลยนะมึง
กูอ่านฉบับนิยายแล้ว ถึงไม่ได้หวานซึ้งแบบ Your name แต่ก็ยังจัดว่าเป็นนิยายรักอยู่นะ
แค่ตอนจบอาจจะเหวอๆหน่อย สำหรับคนไม่เคยเจอแนวนี้มาก่อน
แม่งเป็นเหี้ยไรไม่รู้เวลาโปรโมต anime แนวๆรักแล้วชอบโหน your name ทุกทีเลยสัส เจอสตูดิโอ shaft เข้าไปพวกคนที่ไม่เคยดูหรือไม่ชอบในอาร์ตๆ WTF กันเป็นแถบ
รู้สึกMirai no miraiงานใหม่ของโฮโซดะมีกำหนดฉายในไทย20ก.ค.(อาจจะเลื่อน)
เขร้ กูเพิ่งได้ดู loving vincent งานดีงามสัสๆ เหมือนได้ดูภาพเขียนเคลื่อนไหวไม่ใช่อนิเมะทั่วไป ชอบรูปแบบการนำเสนอประวัติแวนโก๊ะด้วย ทำเอากูอยากไปศึกษาประวัติจริงๆของแวนโก๊ะและคนอื่นๆเลย ทีแรกเข้าไปดูไม่ได้รู้นะว่าทุกคนในเรื่องมีตัวตนจริง ดูจบละกูตีความว่าแวนโก๊ะคงฆ่าตัวตายเองจริงๆแหละ แต่เป็นอิทธิพลมาจากหลายๆคนคนละไม่มากก็น้อย มีบางคนโกหก บางคนก็เล่าแค่จากมุมมองของตัวเอง หมอกาแชที่นึกว่าร้ายก็ไม่ร้ายอย่างที่คิดกลับดูเป็นคนดีมากๆคนนึง บ้านพวกเจ้าของโรงแรมที่เหมือนจะดีแต่เอาจริงๆก็เป็นคนขายปืนให้ไอ้เกรียนเอาไปกร่างใส่แวนโก๊ะ แวนโก๊ะก็ขโมยปืนกระบอกนั้นไปฆ่าตัวตาย ว่าแต่ลูกสาวหมอกาแชกับแวนโก๊ะคงมีอะไรๆจริงๆนะถึงไม่แต่งงาน แต่ผิดคาดทีแรกนึกว่าหมอหวงลูกสาว กลายเป็นหมอหวงแวนโก๊ะกลัวลูกสาวไปทำให้อนาคตจิตรกรเสียซะงั้น
Godzilla netflix เข้าวันที่ 17
ไอ้ก็อตซิล่าเน็ตฟลิค ถ้าการตลาดมันไม่ออกมาหลุดเรื่องขนาดบ่อยๆก็คงไม่อะไรอ่ะ แม่งสปอยเรื่องขนาดมาปุ้บ เห็นก็อตซิล่าที่สู้กันดูไซส์ปกติปุ้บกูเก๊ทเลย ว่าแต่สุดท้ายมันจะหนีไปหาดาวอื่นกันทำไมวะ... แม่งไปอาศัยแบบที่ไอ้หัวหน้า(จำคาร์ไม่ได้สักตัว)บนดวงจันทร์ละคอยลงมาเก็บทรัพยากรก็คงไม่เป็นงี้
ขอถามก่อนนะ คือเห็นภาพลักษณ์ จากทั้งของเล่น ทั้งหุ่นตั้งโชว์ PR คือ เห็นลำตัวมัน กับครีบหลังนี่ เหมือนเป็นใบไม้ ตัวก็คล้ายๆ รากไม้ ต้นไม้
: คือ มันเกี่ยวมั้ย อันนี้แบบ เห็นแล้วข้องใจ เลยเดาล่วงหน้าไปก่อน แต่ยังไม่ได้ดูนะ
ก็อต Netflix นี้ดูไปหาวไปตอนแรกๆ ฉากถล่มให้มึนก็มาแบบชินก็อตมาเลย พอช่วงท้ายนี้ตัวยักษ์มาก็ว้าวบ้างอยู่ถึงว่าไอ้ตัวแรกทำไมมันจิ๋วจัง แต่ชอบประเด็นที่มันชูเรื่องการวิวัฒนาการน่ะกับระยะเวลาที่เอามาเล่นแหะ คิดถึงกันบัสเตอร์ภาคแรกเลยไปทำภารกิจแป็บเดียวกลับมาเพื่อนๆมีลูกมีเมียหมด อันนี้ไป 20 ปี กลับมาโลกเวลาผ่านไปหลายหมื่นปี
เผลอๆจะได้มีขับเมก้าก็อตซิลล่าที่ทิ้งไว้ 20,000 ปีไปสู้น่ะหนิ ขายของเล่นได้อีก 5555
ก็อดภาคนี้เฉยๆว่ะหาวเกือบทั้งเรื่อง ไม่ค่อยอิน+ไม่รู้สึกว่าก็อดมันน่ากลัวด้วยแหละ ได้แต่ยืนยิงโง่ๆทั้งเรื่อง
ถึงตอนท้ายจะมีตัวแม่ออกมาปล่อยของก็ยังรู้สึกเฉยๆ อีกอย่างถึงจะหนังไซไฟแต่สัมผัสได้ถึงความเบียว
เมกาก็อตซิล่าหน้าตาเหี้ยชิบหาย ยังกะเศษเหล็ก สงสัยมาตั้งแต่หน้าตาก็อตซิลล่าแล้ว ใครมันอาร์ตไคลดเรคเตอร์เรื่องนี้วะ และเห็นด้วยว่าก็อตซิล่าไม่มีความน่ากลัวเลย คือแม่งเหมือนจะเก่งเหมือนะโม้นะ ออกมาโชว์ของปล่อยพลังตูมตาม แต่แม่งก็รู้สึกแค่อืม ก็เก่งดี
End credit มันพีคยังไงวะ กุไม่เก็ต
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.