เสียงแตกจังวะแอปวอ
Last posted
Total of 1000 posts
เสียงแตกจังวะแอปวอ
สปอย Appwar
ก็โอเคนะใช่ได้ ดูได้เพลินๆดี หนังเล่าเรื่องชีวิตคนทำงาน Start up สองทีม ฝั่งพระเอกกับฝั่งนางเอก
ฝั่งพระเอกเป็นโปรแกรมเมอร์ฝีมือดี Profileหรู แต่ไม่ชอบทำงานประจำเลยออกมาทำ Start up
ฝั่งนางเอก บ้านรวย พ่อมีกิจการแต่ไม่อยากทำงานกงสีเลยขอเงินพ่อมาทำ Start up แต่เพื่อนนางเอกฝีมือสู้ฝั่งพระเอกไม่ได้
แล้วหนังก็เดินเรื่องผ่านการแข่งขันของทั้งสองทีม มีอรเป็นตัวเชื่อม ช่วงต้นเรื่องกับกลางเรื่องสนุกดีนะ
แต่พอเข้าช่วงท้ายๆกับตอนจบรู้สึกขัดใจอยู่สองสามจุด คืออรแม่งยอมขโมยโน้ตบุคพระเอกไปส่งให้ทีมนางเอก
กูดูแล้วแบบ...................ไอ้เหี้ย ขโมยเลยนะโว้ยยย คือแค่ล้วงความลับมันก็ผิด พรบ.ความลับทางการค้าแล้วนะ
แค่ทีมพระเอกไปฟ้องนายทุนแม่งก็ชนะบายแบบไม่ต้องแข่งแล้ว เพราะนี่แม่งทำพลาดระดับเล่นนอกเกมส์สมควรได้ใบแดง
แต่..แต่.... ฝั่งพระเอกบทแม่งโคตรพระเอกอ่ะมึง น้องอรมาขอโทษแล้วเก็บของกลับ พระเอกแม่งบอกว่า
อรเหมาะกับเป็น PR มากกว่าเป็นสปาย ถ้าเรียนจบก็มาสมัครงานที่นี่ได้นะ แม่งบิ๊วอารมณ์ให้ซึ้งดี
ซักพักอรนั่งแท็กซี่กลับ เปิดจดหมายรายงานผลการฝึกงานถึงมหาลัย พระเอกเขียนตอนท้ายว่า
ขอบคุณที่สร้างสีสรรให้ทีม Inviter ขอให้โชคดีกับอนาคต แล้วอรก็ร้อง(ซีนนี้อรแสดงดีนะดูมีอารมณ์ร่วม)
คือมันควรจะซึ้งได้มากกว่านี้ ถ้าคนเขียนบทเขียนให้มัน Make sense กว่านี้อ่ะ ถ้าน้องมันแค่แอบส่งไฟล์ผ่านเมล์
หรือก็อบไฟล์ใส่แฟรชไดร์ฟ แล้วโดนจับได้ทีหลังจนสารภาพเองก็ว่าไปอย่าง แต่นี้เล่นแบกโน้ตบุ้คไปแบบไม่กลัวโดนข้อหาลักทรัพย์เลยว่ะ
ต่อมาก็เรื่องตอนจบที่นางเอกเฉลยว่าแอบปลื้มพระเอกมานานแล้ว(พระเอกเป็นโปรแกรมเมอร์ที่เก่งมากและชอบไปงานStart up)
เขียนแอพเพราะอยากเจอกับพระเอกอีก ซึ่งเหตุผลนี้มันจะไปตีกับเนื้อเรื่องช่วงต้นอีก เพราะตอนนั้นนางเอกก็รู้ว่าพระเอกชอบมางานStart up
ถ้าอยากเจอหรืออยากทำความรู้จัก ก็แค่โผล่มาที่งาน Start up หรือขอข้อมูลพระเอกจากงานเลย แม่งงานกว่าเยอะ
นางเอกก็ตำแหน่งการตลาด แค่อ้างว่าอยากได้โปรแกรมเมอร์มาร่วมทีม มันก็เป็นเหตุผลที่จะได้คุยได้เจอไม่อยากเลย
อันสุดท้าย แอพที่น้องอรเอามานำเสนอหลังเรียนจบ เข้าใจว่าตรงนี้เป็นบทที่เพิ่มเข้ามาให้อรโดยเฉพาะ
เพราะแม่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่องหลักเลย แถมทำลายความน่าเชื่อของตัวละครนายทุนอีก
คือตัวละครนายทุนแม่งเคยด่าแอพนางเอกว่าให้เวลาไปตั้งนานไม่พัฒนา แถมด่าข้อเสียของแอพที่นำเสนอในงาน Start up ตรงๆ
แบบไม่ไว้หน้าใคร แต่แอพน้องอรข้อเสียตรงๆคือมันผิดกฎหมายโว้ยยยย คุกคามความเป็นส่วนตัวสัสๆ
แต่นายทุนแม่งนั่งฟังเฉยไม่ด่าอะไรซักคำ คือถ้าให้มาตรฐานเดียวกับที่เคยด่านางเอก น้องอรก็ควรโดนด่าเหมือนกันอ่ะ
แต่ก็นั้นแหละ คงเป็นบทที่ถูกเพิ่มเข้ามาให้น้องอร
โอตะอวยกันเอง คนทั่วไปเลยไม่กล้าดู เลือกไปดู MI6 แทน สบายใจกว่า
บทโง่ๆ
>>899
แต่แอพน้องอรข้อเสียตรงๆคือมันผิดกฎหมายโว้ยยยย คุกคามความเป็นส่วนตัวสัสๆ
แต่นายทุนแม่งนั่งฟังเฉยไม่ด่าอะไรซักคำ คือถ้าให้มาตรฐานเดียวกับที่เคยด่านางเอก น้องอรก็ควรโดนด่าเหมือนกันอ่ะ
ล่อแหลมแต่ไม่ผิดกฎหมายว่ะ ถ้าเอาแค่ public information จากหลาย social network มาจัดกรุ๊ปเข้าด้วยกัน มันก็ฟ้องไม่ได้ แอพที่คล้ายๆกันใน store จริงก็มี แรงกว่านี้อย่างคอยบอก check in location ของคนที่ต้องการ stalk ก็มี มันดูคุกคามแต่ไม่ผิด เพราะฝั่งคนถูกดึงข้อมูลมาเลือกที่จะ public เองอะ
ตอนนี้ที่พันทิป กำลังสับเรื่อง app war กันมัน หลังจากรายได้ไม่ค่อยดี
>>904 สับในแง่การตลาดอะสิ เอาจริงๆหน้าหนังมันก็ไม่น่าจะมีคนอยากดูเท่าไร Trailerก็ดูงงๆ อย่างไอ้ฉลาดเกมส์โกงถึงนักแสดงจะไม่ได้ระดับบิ๊กเนมแต่trailerแม่งตัดมาเทพ ดูแนวจารกรรมเจ๋งๆ แถมมีประเด็นจิกกัดสังคมในปัจจุบันด้วย หนังมันเลยถูกพูดกันเป็นวงกว้างได้ หรืออย่างน้องพี่กูว่ามันก็ตัดtrailerออกมาได้ชัดว่าแม่งหนังสไตล์รอมคอมgthที่คนชอบกัน มันก็เลยไปได้ จริงๆตัวtrailerมันต้องจับจุดขายให้ได้ถ้าจะขายตัวหนังจริงๆ T momentแม่งพลาดมารอบที่2แล้ว
สำหรับกูตัวอย่างหนังก็เข้าใจง่ายดีนะ
พระเอกนางเอกเป็นคู่แข่งทำแอพกัน
เนื้อเรื่องก็น่าจะออกมารอมคอมโดยมีวงการStart up เป็นฉากหลัง
เออ จริงๆสตาร์ทอัพไม่ได้มีปค่เขียนแอพนะ
มันทำเป็นโครงการระดมทุนหรือทำสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆก็ได้ แต่หนังมันเสนอแค่การเขียนแอพอย่างเดียวเลย
ยังไม่ได้ดูนะ แต่มีคนบอกว่ามันนำเสนอ กรุงเทพในมุมที่ไม่เหมือนกรุงเทพจริงๆ กูดูจากตัวอย่างก็ว่างั้นนะ พยายามทำให้ กรุงเทพดูเจริญมากๆ
>>908 เป็นกรุงเทพของมนุษย์ชนชั้นกลางค่อนไปทางสูงน่ะ ในเรื่องไม่มีฉากที่บ้าน พระเอกนางเอก
แต่สภาพออฟฟิซพระเอกหรูมาก ระดับออฟฟิซมนุษย์เงินเดือนย่านสาธร สีลม ส่วนฝั่งนางเอกเอาห้องหลังโรงงานพ่อตัวเองมาทำออฟฟิซแต่ก็ตกแต่งซะหรู ออฟฟิซนายทุนก็เป็นตึกระฟ้า
มีฉากจัดปาร์ตี้วันเกิดที่คอนโดที่มีสระว่ายน้ำ
Laset tag ค่าเล่นไม่ใช่ถูก 45 นาที ก็ครึ่งพันเข้าไปแล้ว ดูเป็นชีวิตมนุษย์เงินเดือนรายได้สูงที่คงเป็นคนกลุ่มน้อยใน กทม อ่ะ แต่หนังเสนอประเด็นเรื่อง Start up คนที่กล้าลาออกจากงานประจำมาทำ Start up คงมั่นใจในเรื่องฝีมือที่สามารถหาเงินจากงานฟรีแลนซ์และคงมีความมั่นคงเรื่องเงินในระดับที่สูงอยู่ ส่วนนางเอกนี่เงินพ่อล้วนๆ
>>908 กูว่าคนบ่นแม่งเรื่องเยอะ เป็นคนประเภทที่มองทุกอย่างเป็นประเด็นทางการเมือง พวกซ้ายขวาลิเบอรัลบลาๆอะไรเทือกนั้น
แบบเดียวกับคนที่เขียนบทความเพลงชาติ bnk48 ไม่สะท้อนสังคม คือมึงฟังเพลงไทยเที่ยวไทยแต่อยากได้เนื้อเพื่อชีวิต?
สื่อบันเทิงไม่จำเป็นต้องให้เห็นทุกอย่างที่ background location เป็น ผกกอยากสื่ออะไรก็ให้เห็นแบบนั้นก็ปกติอยู่แล้ว
ร้านอาหารอินเดียก็ดูบ้านๆนะ ไปเดินซื้อของเล่นที่สะพานเหล็กด้วย บ้านจะตาย
>>909 ให้กูตีตกทีละข้อยังได้เลย
ออฟฟิซพระเอกหรูมาก >>> ได้ทุนมาก็เอามาเปิดออฟฟิศกับจ้างคนเพิ่มไง ก่อนหน้านี้พระเอกอาจเป็น pgm คนเดียวทำงานที่บ้านก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใส่มา
ฝั่งนางเอก >>> มันก็ไม่ได้หรูขนาดนั้น ระดับห้องนั่งเล่นชนชั้นกลางทั่วๆไป
นายทุน >>> นายทุนไม่รวยจะให้ใครรวยวะ
มีฉากจัดปาร์ตี้วันเกิดที่คอนโดที่มีสระว่ายน้ำ >>> คอนโดไหนๆก็มีสระว่ายน้ำ... กรณีเช่า ถ้าคิดว่าปีนึงครั้งเดียว มันก็ไม่ได้แพงขนาดนั้น ไปเที่ยวตปทปีละครั้งนี่เยอะมั้ยล่ะ
Laser tag ครึ่งพัน >>> บุฟเฟ่ต์มื้อนึงก็เท่านี้ กินข้าวห้าง200+ ดูหนัง200 สตาบัค200 ผับ800+ นี่คือสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนกรุงเทพส่วนใหญ่ทำเป็นปกติ ไม่ใช่กลุ่มน้อยแบบที่มึงว่า มันดูแพงเพราะคนสนใจมันน้อย พอไม่ใช่สิ่งที่มึงสนใจแต่ราคา500มึงก็มองว่าแพงไง ลองเทียบกับอย่างอื่นที่มึงจ่ายเป็นประจำโดยไม่คิดอะไรสิจะเห็นว่ามันไม่ได้แพง คือมึงเอาเงินมาจ่ายความบันเทิงอย่างนึงและงดความบันเทิงอย่างอื่นก็ได้ไง และพระเอกมันก็เลือก Laser tag แทนไปเที่ยวผับ
ถ้าไม่นับออฟฟิศพระเอกที่ดูน่าสงสัยว่าเงินทุนรอบแรกมันพอจริงรึเปล่า ที่เหลือเป็น lifestyle ที่คนเงินเดือน 20k ทำได้โดยไม่เดือดร้อนว่ะ
เอ่อ...กูงงมาก ทำไมมีแต่คนบอกว่าหนังดีๆ แต่ไม่มีคนไปดูวะ แต่ละเพจอวยกันตั้งกะก่อนหนังเข้า โอตะจองบัตรอวยอรอุ๋งรัวๆ
หรือมันจะพลาดที่ฝ่ายโปรโมท ที่ไปเน้นโปรโมทผ่านสือโซเชียวเกินไปเพราะกูเห็นโฆษณาเรื่องนี้นอกจากบนโซเชี่ยวน้อยมาก
อันที่จริงถ้าจะจ้างเพจอวยมันควรจะจ้างตั้งกะทริลเลอร์ออกป่ะ
สำหรับกูเทรลเลอร์ไม่ชวนให้อยากดูว่ะ
เอาดาราโนเนม ที่ไม่มีคนรู้จักมาแสดงนำ มีบทบาทมากกว่าคนที่เป็นที่รู้จักมากกว่า หน้าหนังมันก็ไม่ดึงดูแล้ว ให้อรแบกคนเดียวทั้งเรื่องแต่ไม่ใช่ตัวเอก ใครมันจะดูล่ะครับ
ขุนพัน ตัวอย่างเทพแต่ตัวหนังเข้าขั้นเหี้ย
App war นี้ไม่รู้เพราะได้mono29 ทำโฆษณาให้ป่าวแม่งโคตรไม่น่าดู ค่ายนี้โฆษณาหนังเรื่องไรพังในแง่รายได้เกือบหมด และรับพวกหนังฝรั่งเกรดบีด้วยนะ
มีค่ายกล้าซื้อลิขสิทธิ์ โทมิเอะ มาทำ ช่างกล้าแฮะ
>>922 เออ เด็กใหม่ตอนแรก คหสตกูนะ ยังทำไม่ค่อยถึงเท่าไหร่ นักแสดงผู้ใหญ่อ่ะโอเค แต่นักแสดงเด็กเข้าขั้นกาก บทตอนแรกก็มีจุดอ่อนเยอะ แถมไม่ได้ปูไปสู่ตอนต่อๆไปมากนักจนกูงงว่าตกลงมันจบในตอนหรือมันเป็นเรื่องราวต่อกัน? ทำตัวอย่างมันเหมือนอยากมีอิมแพคท์ต่อสังคมแบบฮอร์โมน แต่ดูโม้เหม็นเกินจริงไปหน่อยนะ
ไหนๆ ใครดู girls don't cry มาแล้วบ้างงง
จะบอกว่าอย่าเพิ่งสปอยล์นะสึด กูจะไปดูวันเสาร์
พี่จ๋า อย่าร้องไห้
กูดูมาละ รีวิวให้ ไม่สปอยล์นะ
ในฐานะที่กูชอบวงนี้ระดับกลางๆ (ฟังแต่เพลงกับตามผลงาน เมมเบอร์ชอบแค่เปี่ยม ที่เหลือบางคนจำไม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือไปงานจับมืออะไร)
ถ้ามึงไม่อคติหรือปิดรับวงนี้เกินไปมึงจะเข้าใจระบบกับความยากลำบากของสมาชิกมากขึ้น ถ้าไม่เคยเข้าใจอะไรเลยเกี่ยวกับBNK/AKBสารคดีเรื่องนี้จะช่วยให้มึงรู้จักระบบโดยรวมของมัน อาจไม่ลึกมาก แต่เข้าใจได้ง่าย
การเล่าเรื่องกูว่าแมสมาก ไม่ต้องกลัวว่าเป็นสไตล์เต๋อจ๋า ถ้าอยู่ในช่วงกำลังขาดไฟ ท้อแท้ สู้คนอื่นไม่ได้น่าจะอินง่ายนะ
ปล.มีเอนด์เครดิตด้วย อีห่า ยังกับมาร์เวล
อยากได้สปอนกุต้องไปตามที่ไหน
จะว่าไปหนังสารคดีมีอะไรให้สปอยล์วะ
อะ กูสปอยล์ให้ ในเอนด์เครดิต.....
มีBNKรุ่นที่2มาให้สัมภาษณ์ต่อ
สปอยเลยคือมีคนนึงในวงที่ตายแล้ว
การดูหนังร่วมกับโอตะแม่งเป็นประสบการณ์ที่เหี้ยมาก เลวร้ายสัสๆ
ใครมีธงเกลียดอยู่แล้ว เข้าไปดูมึงก็จะเกลียดเหมือนเดิม
Girl Don't Cry เนี่ย กูว่าภาคต่อไม่ต้องไปสัมภาษณ์รุ่นสองหรอก สัมภาษณ์คณะผู้บริหารที่อยู่เบื้องบนของBNKเลยดีกว่า กูว่าต้องดุเด็ดเผ็ดมันกว่าสัมภาษณ์เด็กๆแน่
ก็ว่าไปนั่น เป็นไปไม่ได้หรอก
ขุนพันธ์ 2 คิดว่ายังไง เห็นในกระแสที่ดูรอบสื่อถือว่าโอเคกว่าภาคแรก
ภาคแรกดีกว่า ภาคนี้มันเว่อร์เกินจนกูตลกแทน ขุนพันธผืหายตัวได้ กระสุนเสือใบอิมบอท เสือฝ้ายvoidwalker
แถมดราม่าคู่รักก็ไม่รู้จะเยอะไปไหน รำคาญสัสๆ
แถมตอนท้ายแม่งตัดเข้าไทอินโฆษณาไทยประกันชีวิตได้เหี้ยสุดๆ
กูชอบนะสนุกดี รู้สุกเซลสมองกูตายไปครึ่งนึง
เขาเซ็นไว้เมิง ไม่ต้องห่วง ไม่สาด
แต่เคมี เสือใบ กะ ขุนพันธ์เข้ากันมาก เวลาขุนพันธ์ เต้นกะแฟน เสือใบหงอยเบย แถมเมียตายอีก
ตอนจบที่อนันดาขับมอไซด์มาแล้วเอามือขวาชูสามนิ้วใส่กล้อง กูขำลั่นโรงเลย
5555 มีภาค ต่อ รอบนี้ ขุนพันธ์ ปะทะเสือใบ
ตอนดูกูก็สงสัยตลอดนะว่า แล้วไอ้ที่ขุนพันธ์นั่งคุยกับเสือใบท้ายภาคแรกนี่อะไรวะ
ก็ มีเลือด นิ แต่มันไม่ถึงกะเลือดสาด ๆ แบบ หนังสยองขวัญ โดนปืนยิงเลือดกระจายก็มีบ้าง แบบ ฉากเสือฝ้ายโดนทุบ มันก็มเอาผ่าปิดไว้ หรือฉาก เอากระสุนออก ก็ เอา มืดๆ ปิดไว้อีก เลยบอกไงว่าฉากสาดหนักๆ มันเซ็นหมด
สงสัยว่า Two face มันไปฝึกวิชาตอนไหนวะ แถมฝึกเสร็จเก่งพอๆกับคนที่ฝึกมานาน
กูไม่ชอบ ดาราที่แสดงเป็นลาสบอสว่ะ หน้าตา รูปลักษณ์ มันไม่ให้
ตอนแรกคิดว่า ผู้พันเบิร์ดจะมีอะไรมากกว่านี้ แต่แม่ง เชี่ย!!!
หนังสารคดีพี่ตูนกำลังจะเข้า แต่กูไม่ชอบที่มีคนมาแขวะกับGirl don't cryเลยว่ะ ประมาณแบบ "นี่แหละสารคดีที่น่าดูจริงๆกว่าวงสาวๆอะไรไม่รู้"
คือจะดูก็ดูพี่ตูนไปดิวะ กูก็ชอบทั้งสองฝั่ง ไม่เห็นต้องแขวะเลย
สรุปแล้วเรื่องขุนพันธ์นี่แม่งแฟนตาซีบู๊ใช่ไหมวะ? คือ มันสนุกไหมดีกว่า มีมุขหนังไทยโผล่มาแบบละครหลังข่าวไหมวะ?
9 ศาสตรานี่ทำไมมันดูมีปัญหาเยอะจัง ตอนพรีก็สัมภาษณ์ว่างบบานปลาย พอหลังหนังฉายทำสินค้าก็ไม่ไ้ตามที่บอก
มีใครเป้นแบบกูปะ ดูอะไรแบบสารคดีพี่ตูนไม่ได้เลย กูเป็นคน cringe ง่าย โฆษณา ISUZU มาทีไร ต้องมองไปทางอื่น
เพิ่งได้ดูอินทรีแดง ไอ้เหี้ยเอ๋ยทำไมหนังไทยช่วงหลังเรื่องนี้มันถึงมีดีๆน้อยจังว่ะ
อีอันที่เป็นลูกเจ้าของโรงงานนาฬิกาแล้วเอาเศษเหลือมาทำของประดับนี่ก็กูแอบcringeหน่อยๆแบบพอรับได้ แต่กูว่าที่หนักคืออยู่ๆก็ลากเข้าเรื่องพอเพียงได้หน้าเบ้ปากสัตว์ๆ
ฮาสัส ไล่ไทม์ไลน์โฆณาที่กุจำได้นะ
ของจริง > สิ่งนั้น > อยู่ในใจเรา
กุว่าก็ดี เป็น meme ให้เราได้เล่นกัน
เริ่มๆเกือบดีละ จบมาเกี่ยวกับพอเพียงไปไม่เป็นเลย
จริงๆ กูขำตั้งแต่นาฬิกาปลุกคือเสียงเครื่องเหล็กละ แปลว่าคุณปิ่นตื่นสายสินะ
พึ่งได้ดู สยามสแควร์ คือตอนแรกที่หนังฉายไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าเป็นหนังผีวัยรุ่นธรรมดา
พอได้ดูตะกี้ เหยดดดดด...................... ไม่คิดว่าเป็น หนังที่เกี่ยวกับการเดินทางข้ามกาลเวลา
>>971 กูว่าโรงเหล็กแม่งเหี้ยกว่าเดิมนะ
ของเก่ามันดัดจริตก็จริง แต่อย่างน้อยมันก็สื่อได้ตรงประเด็นที่ผู้ผลิตมะนต้องการ
แต่โรงเหล็กพอเพียงนี่สิ่อได้งงฉิบหาย เสียงผลุกเชั่ยอะไรวะ แล้วเอาเจ้าของโรงงานมาบ่นๆนี่จะสื่ออะไร เอารูปลูกน้องตัวเองมาสลับกันเยอะๆเพื่อ? แล้วปิดท้ายด้วบการลากเข้าประเด็นแบบงงๆ ว่าความพอเพียงไม่ได้อยู่แค่ในไร่ในนาแต่อยู่ในใจ?
มันก็ยังทำแนวนี้ออกมาเรื่อยๆนะ ไม่รู้ไงวะคนดูเค้าcringeกัน หรือเค้าไม่แคร์อยู่แล้ววะ 555
cringeนี่แปลว่าไรวะ อารมณ์ขนลุกแบบรับอะไรเสี่ยวๆไม่ได้เหรอ
>>978 ประเด็นคือตัวเศรษฐกิจพอเพียงมันล้มเหลวใช้ไม่ได้กับสังคมไทยอ่ะ คนดูหนังไม่อินเพราะรู้ได้ว่ามันดัดจริต คนรวยมาเล่นบทเป็นคนนนอะไรแบบนี้ ซึ่งยุคก่อนคำว่าพอเพียงนี่คือการโหนเจ้ายอดนิยมอ่ะ ทั้งรัฐและเอกชน คนดหนังบ่นว่าดัดจริตแต่ในภาพรวมไม่มีใครกล้าด่าเศรษฐกิจพอเพียงตรงๆ
แต่ตอนนี้เริ่มมีคนกล้าวิจารณ์ตรงๆแล้ว
https://prachatai.com/journal/2018/08/78400
https://prachatai.com/journal/2017/07/72272
ในอนาคตโฆษณาอะไรแนวนี้คงหมดบทบาทไปเรื่อยๆเพราะพยายามยังไงคนก็ไม่อินแล้ว
>>982 กุขอโทษ ฮือ
>>976 >>977 https://youtu.be/TKMJTxBVt8Y กุหามาให้ละ
ทำไมนับวันโฆษณาเศรษฐกิจพอเพียงมันยิ่งเหี้ยลงวะ แทนที่จะซึ้งแต่กลายเป็นตลกและจะอ้วกแทน
กูถามหน่อย เรื่อง คน-โลก-จิต นี่ใครเคยดูมาบ้างวะ? สนุกไหม??
เฉยๆ นะ จำไม่ได้แล้ว แต่เคยดู แต่มันไม่น่าจดจำ จนตูจำไม่ได้จริงๆ
จำได้แค่ว่ามีปมเรื่องถูกละเมิดตอนเด็กของไอ้ตัวที่คล้ายๆ ตัวร้ายอ่ะ
อ่ะ เจออยู่อีกเรื่องคือ นาคปรก อันนี้ใครมีความเห็นไงมั่ง เพราะเมื่อก่อนจะตามหาดูแต่เสือกลืมเพราะเจอบิ๊กโปรเจค อยากกลับมาดูอีกรอบ
สารคดีพี่ตูนโอเคแฮะ ดูจบรู้สึกอยากไปทำอะไรสักอย่างให้สำเร็จ
เมื่อวานกูดูเรียลลิตี้ของดีไซเนอร์เสื้อผ้าคนนึงที่มันดังๆอยู่ตอนนี้อ่ะ ทำไมรู้สึกว่าแม่งเฟคจังวะ คือมันมีบทใช่มะไม่ใช่เรียลลิตี้จริงๆ
ตั้งแต่ที่มาบอกละว่า รอไม่เป็น ไม่รู้ว่าการรอต้องทำไง คือแบบ ต่อให้เป็นเซเลปหรือพวกเจ้านายแม่งก็ต้องเคยรออยู่ละ นี่มาบอกรอไม่เป็นคือไรอ่ะ โตมายังไงวะ โครตละคร
แล้วการที่มาเปิดลำโพงคุยจิ๊จ๊ะเรื่องผู้ชายกับเพื่อนต่อหน้าลูกน้องนี่คือไร คนปกติเค้าทำงั้นกันหรอ นี่เหมือนอยากให้รู้ว่าคุยไรบ้าง ดูแล้วเหมือนกุกำลังดูก๊อซซิปเกิร์ล
ไบค์แมนฯ บทกับจังหวะมุขตลกในเรื่องโอเค แต่เรื่องความสมเหตุสมผลของเรื่องไม่ผ่าน โดยรวมถือว่าออกมาได้กลางๆ
จระเข้ มี 2 ตัวนะจ๊ะ
ไม่บอกว่าสปอยล์เรื่องไร อิๆ
>>997 ไม่ใช่>>995 แต่ความเห็นส่วนตัวกูคือทั้งเรื่องปูมาว่าไอ้นี่ชอบมอไซต์ ทำงานขับแล้วมีความสุข เหมือนจะให้ข้อคิดที่ว่าขับมอไซต์ก็เป็นอาชีพที่ดีมีความสุขได้
แต่ตอนท้ายเรื่อง ไปทำงานแบงค์แล้วทุกอย่างดีขึ้น ชีวิตดี๊ดีมีความสุข ครอบครัวแฮปปี้ตัวเองก็แฮปปี้
อ้าวไอ้สัส ที่ปูอารมณ์มาทั้งแต่ต้นพังหมด จากหนังที่พยายามจะเปลี่ยนแปลงสังคมให้ไม่เหยียดอาชีพแรงงานกลายเป็นหนังอวยคนชั้นกลางซะงั้น เพื่อ?
>>998 ตามนั้นเลย อีกช่วงหนึ่งที่ไม่เนียนคือตอนพวกเพื่อนพระเอกที่เป็นวินมอไซต์เอาเงินให้พระเอกไปรักษาย่า ดันไทร์อินได้ไม่เนียน แถมได้งานเพราะว่านางเอกลาออกจากงานพอดี ซึ่งมันก็ขัดกับสิ่งที่พระเอกที่อยากทำ พอได้งานตามนางเอกดันไม่พูดถึงพวกเพื่อนพระเอกเลยสักนิด
ส่วนเรื่องนักแสดง กูว่าเล่นดีหมดนะทั้งพีช ฝน โอ๊ต หรือแม้แต่ตลกอย่างน้าค่อม โรเบิร์ต
กระทู้จะเต็มแล้วนะ
ปิดให้ฌปผู้จะนำ homestay สู่ 500 ล้าน
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.