กุขำเพจหนังที่ด่าๆ เรื่องนี่อยู่ ไอ้การด่าด้วยคำทำนองว่า "ตัวละครแม่งพูดกันอยู่ได้ กุฟังไม่ทัน" นี่มันบ่งบอกสติปัญญาคนวิจารณ์ชัดๆ
Last posted
Total of 1000 posts
กุขำเพจหนังที่ด่าๆ เรื่องนี่อยู่ ไอ้การด่าด้วยคำทำนองว่า "ตัวละครแม่งพูดกันอยู่ได้ กุฟังไม่ทัน" นี่มันบ่งบอกสติปัญญาคนวิจารณ์ชัดๆ
ชินก๊อตจิ แม่งสาวไส้พวกชิตเทสกับพวก critic วันนาบีได้ดีนักล่ะ พวกนักวิจารณ์สาย superheroes กับสายโลกสวยแม่งตายอนาถกับเป็นแถบๆ
>>744 ไม่ใช่ชุดยาง ตาม >>704 >>711 >>717 >>718 คือถึงมึงจะขี้เกียจหาข้อมูล แต่อย่างน้อยอ่านที่คนอื่นเม้นหน่อยก็ดี
ไอ้เวอร์ชั่นกิ้งก่ายักษ์เนี่ยชอบเข้าไปได้ไง กลิ่นฮอลิวู้ดหึ่งมาก หนังสัตว์ประหลาดฮอลิวู้ดเพลนๆที่แค่เอาชื่อก็อดซิลล่ามาเป็นจุดขาย
2014 อะค่อนข้างโอเค ยกเว้นดราม่าชีวิตพระเอกที่ปัญญาอ่อนสรัด
แต่นะ คืออย่างมึงไม่ใช่แฟนอะ ตั๋วไม่ถึง 200 ไม่ยอมจ่าย แต่จะบิทก็ไม่ต้องคุยกันต่อแล้ว
ก็อตจิ ปี 98 ถ้ามองเป็นหนังสัตว์ประหลาดธรรมดาถือว่ามันสนุกนะเว้ย ฉากแอคชั่นมันดีใช้ได้ เพียงแต่พอแปะชื่อก็อตซิลล่าเลยห่วยเพราะมันไม่ได้เอาลักษณะเฉพาะก็อตจิ ที่ต้องถึกทนมือทนระเบิดเท่านั้นว่ะ
กุไปดูมาแล้ว ชอบมาก ตอนปล่อยของนี่ขนลุกเลย มุขตลกโอเคเลย
แต่กุไม่ชอบเพลง ost เลยว่ะ มีชอบอยู่สองเพลง ตอนปล่อยของกับตอนจบ ส่วนที่เหลือกุว่ามันไม่ค่อยเข้ากับฉากว่ะ
โดยเฉพาะตอนแผนของพระเอกมั้งถ้ากุจำไม่ผิด กุรู้สึกว่าดนตรีมันเสร่อมาก
ตอนปลุกใจกุก็ไม่ค่อยอิน อาจเป็นเพราะพากษย์ไทย หนังญี่ปุ่นเมะญี่ปุ่นกุไม่ได้ดูพากษย์ไทยมานานแล้ว
CG กุชอบนะ มันเหมือนชุดยางมีชีวิตอ่ะ(ตอนยังไม่อีโวล) อธิบายไม่ค่อยถูกเอาเป็นว่ามันสวยแบบแปลกๆ
น่ารักแบบแปลกๆด้วย ฮา กุไม่ชอบตาอย่างเดียว
ส่วนพวกรถถัง เครื่องบินนี่โอเคเลย นี่ถ้าไม่ได้ดูเบื้องหลังกุนึกว่าของจริงซะด้วยซ้ำ
ส่วนก็อดภาคนี้น่ากลัวอยู่ แต่จุดอ่อนแม่งกลบความน่ากลัวไปเยอะ ตอนจบนี่ wtf มากกุดูไม่ทันมัวไปสนใจไอ้ที่คล้ายๆเอเลี่ยน
อันโนะนี่แม่งอันโนะจริมๆ ความโกรธแค้นที่กูยังไม่ได้ดู 4.00 หายไปหมดแล้ว
ร่างขึ้นบกครั้งแรกกูขนลุกมากเลย เหงือกแม่งมีเลือดสาดลงมา
ช็อตสุดท้ายของหนังแม่งคือเหี้ยอะไร!! ไอ้สัส สมกับเป็นอันโนะจริงๆ
สำหรับใครที่งงตอนจบว่ามันคือเหี้ยอะไร......ยังจำหนังสั้นที่ฉายปะหัว3.33กันได้ไหม?
สัตว์เอ๊ย สุดท้ายมึงก็เอางานเก่าๆมารีไซเคิลสนองนี้ดตัวเอง ไม่รู้จะเริ่มด่าตรงไหน
ทำของสนองนี้ดแล้วไงอ่ะ? ออกมาโอเคก็พอแล้วนี่หว่า
มันเป็นงานแก้กรรมของอันโนะด้วยนา
หลังเอวา 3.3 อันโนะสติแตกไป ทำอะไรไม่ได้
ซึ่งทางโตเอะก็โอเคให้อันโนะทำเต็มที่ (เชิญสามครั้งเป็นขงเบ้งเลย)
แต่ก็นะ กิมมิคอันโนะเยอะมาก มาทุกเฟติช
ตั้งแต่เฟติชสะพานลอย ทางรถไฟ สายไฟ รถไฟ
คุยกันยังไปนัดคุยที่สถานีสับรางโมโนเรล
จรวดตกกระทบหน้า วิธีวาดระเบิด ฉากไฟลุกท่วมเมืองที่ใช้สีแบบอนิเม
ที่ชื่นชมมาก คือวิธีปราบนี่แหละ เหมือนแอนตี้ไคลแมกซ์
แต่มันเป็นการอุทิศให้คนที่เสียสละเพื่อหยุดการรั่วไหลของโรงไฟฟเาฟุคุชิมะ
คือถึงจะสนองนี๊ด ก็ไม่บืมแมสเสจสำคัญ อันนี้ก็ชื่นชม
>>768 อันโนะสติแตกเป็นปกติอยู่แล้ว เวลางานเสร็จจะซึมเศร้า หมดอาลัย ตอน 3.3 กระแสตอบรับมันแรงในหลายๆ แง่ จนอันโนะเฟลยาว ไม่มีแรง(อารมณ์) กระทั่งจะทำเอวาภาคต่อไป
ชินก็อดเนี่ย ตอนแรกวางแผนจะทำพร้อมกับของอเมริกา แต่อันโนะเฟลอยู่เลยปฏิเสธไป จนโทเอะเอาฮิกุจิ(ผกก.ไตตัน, เพื่อนอันโนะที่ตั้งไกแนกซ์มาด้วยกัน) มาช่วยกล่อมอยู่สองปี จนยอมทำ โดยให้อิสระเต็มที่ เพราะโตเอะอยากได้ก็อดซิลล่าของคนยุคใหม่
พอทำก็อดซิลล่าจบ อันโนะก็ประกาศขอโทษแฟนๆ เอวา โดยบอกว่าตอนนี้พร้อมทำเอวาต่อแล้ว
พวกแฟนก็อดซิลล่าที่เป็นแฟนเอวาด้วย ตอนปรากฏว่าอันโนะกำกับเฮลั่นเลยว่าชินก็อตซิลล่าต้องออกมาดีๆแน่ เพราะอันโนะจะเทพสุดก็ตอนสติแตกนี้แหละ ยิ่งจะตั้งใจเอาชนะ 2014 แล้วยิ่งออกมาเทพเลย แต่มึงเขียนผิดหรือเปล่า โตโฮนะไม่ใช่โตเอะ
เอาจริงๆ 2014 คือกาเร็ตมันปากดีเอาไว้เยอะ บอกจะกลับไปเป็นพี่ก็อตตอน 1954 ดูจริงไอ้ห่า โชวะผสมเฮย์เซย์
พากย์ไทยก็อดจิเป็นไงวะ โรงบ้านกูมีแต่เสียงไทยทั้งนั้น
พันธมิตรพากย์นอกบทแค่สองฉากนะ ฉากตัวประกอบเจอก็อตซิล่ากับจุดที่เรื่องทุกอย่างมันจบลงแล้ว ไม่ใช่จุดตึงเครียดเลยปล่อยได้
ชอบไอเดียสองร่างแรกนะ ดูแล้วรู่สึกว่ามันเป็นสัตว์ดี
กูอ่านตำแหน่งไม่ทัน แต่จำได้ว่าแปลไม่ครบคนนึงมั้ง ภาษาแปลกๆ เป็นบางช่วง นอกนั้นก็โอเค แต่แม่งคุยกันไวชิบหาย
ไอ้พวกคำแปลตำแหน่งคนนู้นคนนี้นี่กูตามไม่ทันเลย
ทั้งเรื่องกูจำได้แค่ชื่อพระเอก นายก กับก๊อดซิลล่า ที่เหลือกูเหมารวมๆไปว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ(ใครจะอ่านซับทันวะ)
คุยอยู่นั้นล่ะ คุยทั้งเรื่อง แม่งเหมือนไม่ได้ทำการบ้านมาก่อนว่า ก็อดซิลล่าของแท้เป็นยังไง
เหมือนอยากทำหนังการเมือง จิกกัดนักการเมือง แต่เอาก็อดซิลล่าใส่ประกอบเข้ามา
ดีไซน์ได้กิ้งก้องมาก ตานี่แบ้วเลย พวกทหารก็โง่ คิดเองไม่เป็น รอแต่ฟังคำสั่ง เชี่ย แค่มันเปลี่ยนร่างนิดเดียว ถึงกับต้องขอคำยืนยันในการโจมตีใหม่
ตลกมาก แค่มี คนแก่อยู่แถวนั้น ถึงกับยกเลิกคำสั่งโจมตีอีก แสดงให้เห็นถึงความงี่เง่าของพวกทหารสุดๆ
รวมๆ แล้วไม่มีอะไรน่าจดจำ และดึงดูดให้ดูต่อ แค่มันกลับลงทะเลไป (เชี่ย กลับตอนไหนก็ไม่รู้ แต่จู่ๆ ตัดภาพมา ก็บอกว่า กลับลงทะเลแล้ว)
แค่ค่อนเรื่อง หรือกลางเรื่อง ก็ขอลาออกจากโรงดีกว่า
*ไปฝึก
หนังมันน่าเบื่อ กูต้องใช้ความพยายามในการดูด้วยเหรอว่ะเนี่ย สัส แม่งไม่ใช่แนวว่ะ
คือไอ้การรอคำสั่งเนี่ย มึงไม่รู้จริงๆเหรอ ระบบการทำงานราชการทั่วโลกน่ะ แล้วยิ่งญี่ปุ่นในหนังมันก็ชัดเจนว่า กฏหมายแม่งเข้มยังกับควยอะไรมะนก็ยิ่งเสริมจุดนั้นหนักเข้าไป
มึงบอกกุหน่อยแล้วก็อตของแท้มันเป็นอย่างไงว่ะ?
กุล่ะขำนี่เมิงไม่รู้จริงๆหรือแกล้งโง่ว่ะเนี่ย กุว่าไอ้แบบที่พอสถาณการณ์เปลี่ยนแล้วขอยืนยันคำสั่งนี่มันโคตรปกติ
ทหารมันก็คนธรรมดานะเว้ยมันก็รู้สถาณการณ์เท่าที่มันเห็น มันตรัสรู้เองไม่ได้ ต้องอาศัยข้อมูลจากศูนย์
แล้วยิ่งเจอพี่ก็อตอีกในตำรามันไม่มีสอนโว้ย
ขัดหน่อย กูเพิ่งว่างดูปูซาน ใครยังไม่ได้ดูข้ามเมนท์กูไปเลย
เห็นว่าหนังมันสร้างจากเล่ม 2 ของนิยาย 2 เล่มจบ เหรอวะ ถ้าใช่กูจะได้มองข้ามบางอย่างที่มันรั่วๆไปได้
- เรื่องชีวิตคู่พระเอก ทำไมแม่พระเอกถึงด่าเมียเก่าวาานังแพศยา นอกใจผัวเพราะผัวบ้างาน?
- แทบไม่อธิบายเรื่องสำนักงานใหญ่พระเอกเลยว่าทำงานอะไร ทดลองอะไรถึงปล่อยเชื้อซอมบี้กระจายระดับภูมิภาคได้
- ป้าสองพี่น้องความสัมพันธ์ดูแปลกๆ น่าจะมีของ เสียดายไม่ค่อยมีเวลาขยี้
เป็นคนไม่ค่อยดูหนังซอมบี้ เดาได้เกือบหมด
- เหี้ยอ้วน CEO โหวงเฮ้งเห็นแก่ตัวมาแต่ไกลเลย กูขอไม่นับละกัน
- เอาเฮียอ้วนมาเล่นบทหล่อๆกับเรียกเสียงหัวเราะผ่อนอารมณ์ให้คนดูรัก แล้วก็เสียสละ สูตรง่ายๆแต่อินจริงนะ ผ่าน
- เลยเดาว่าตอนจบเมียเก่าพระเอกน่าจะเป็นซอมบี้ แต่ก่อนเสียสติโทรเคลียร์กันเรียบร้อยแฮปปี้ แล้วพระเอกก็ไปเริ่มชีวิตใหม่กับลูกแล้วก็คนท้อง โอเค กูเดาผิด
- พอเฉลยว่าตัวการแพร่เชื้อมาจากกลุ่มพระเอก จบละ แม่งหาทางลงด้วยการให้ตายชัวร์
- นอกนั้นก็อย่างที่หลายๆคนเคยบ่นไป ความเร็วติดเชื้อแต่ละคนห่างกันเกิน คนแพร่เชื้อเข้ารถไฟนี่เลือดอาบแต่ทนได้โคตรนาน สาวมัธยมโดนกัดน่องติดเร็ว เฮียอ้วนโดนกัดมือติดโคตรช้า เหี้ยอ้วนกับพระเอกก็มีเวลาสั่งเสียพอสมควร , เวลาคลานบนชั้นวางของเกินสองนาทีแน่ๆ , กระจกเดี๋ยวแข็งเดี๋ยวเปราะ , ซอมบี้วิ่งสุดตีนไม่ต้องห่วงเจ็บขาเสือกตามเหี้ยอ้วนไม่ออกกำลัง ผู้ชายอุ้มเด็ก คนท้องแก่ไม่ทัน บลาๆๆ
แต่ถึงพอเดาได้มันก็ยังบิวด์ให้อินไปเกือบตลอดทางได้ กูเอนจอยกับมันจริงๆ ไม่เสียดายเงินเลย
ปล. ซีนที่ชอบที่สุดคือตอนป้ามองป้าแล้วเปิดประตูปล่อยโดนแดกยกตู้ แม่งงงงงงงงงงงง
>>796 มีมันภาคก่อนเป็นอนิเมะฉาย 15 ก.ย.นี้ เล่าว่าเชื้อมันแพร่กระจายได้อย่างไง แต่ตัวละครไม่เกี่ยวกับนะ สำนักงานพระเอกเป็นกองทุน คงเป็นคนให้เงินวิจัยการทดลองนี้แหละ ตอนต้นมีพูดถึงขายหุ่นทิ้งและพระเอกดูข่าวปลาตายในอ่างเก็บน้ำแถวที่วิจัย งบอาจจะหมดเลยเกิดอะไรเหี้ยๆขึ้นที่ห้องทดลอง
ลืมบอกว่าชื่อ seoul station แล้วผู้หญิงที่โดนกัดแล้วหนีขึ้นรถไฟเป็นคนพากย์ตัวละครในเรื่องนั้นด้วย
ชินก๊อดจิ อวตารคาแรคเตอร์จากอีวามาหลายตัวเหมือนกันนะ
นักวิทย์ผมสั้นหน้านิ่งๆก็อวตารเรย์มา นางแพตเตอสันอวตารมิซาโตะ+อาสึกะ ขาดคนขี้แพ้ในเรื่องจะได้ครบเด็กผู้ถูกเลือก
ไปดูก๊อตซิล่ามาแล้วว่ะ ตอนที่ดูที่เพราะชื่อของอันโนะบวกกระแสที่บอกว่าจะออกมาเรียลๆแนวการเมืองการประสานงานซึ่งกูก็คาดหวังไว้พอควรว่าแม่งต้องออกมาแนวกดดัน มีความสิ้นหวังชุลมุนวุ่นวายคล้ายๆอีวา แต่ไปดูมาแล้วทำไมรู้สึกผิดหวังจังวะ หนังแม่งไม่รู้สึกกดดันเชี่ยไรเท่าไร ดีตรงช่วงต้นที่คิดว่าปูมาพอโออยู่กับก๊อตตัวอ่อนแล้ววิวัฒนาการที่ไอเดียแม่งเจ๋งดี หลังจากนั้นแม่งน่าเบื่อสัสๆ บรรยากาศห้องประชุมก็ง่อยชิบหาย คือหนังบางเรื่องที่แบบมีเรื่องการประชุมมันจะมีบรรยากาศที่ดูจริงจังและดุดันกว่านี้ นักแสดงก็กลางๆ ตัวผู้หญิงที่มาจากเมกาก็เล่นไม่ค่อยเก่งเลย ไม่รู้สึกว่าตัวแม่งเก่งอะ เรื่องเหน็บการเมืองก็ใส่มาแล้วผ่านไป ไม่สุดเลย อย่างเวลาดูหนังแนวเหน็บการเมืองมาเยอะแม่งจิกได้สุดและแสบกว่านี้มากๆแม้ว่าเป็นรายละเอียดปลีกย่อย กูไม่รู้สึกถึงอินเนอร์ของหนังเรื่องนี้เลยว่ะ อารมณ์ความสิ้นหวังก็ดึงมาไม่สุด ช่วงก๊อตที่ชอบที่สุดก็ปล่อยแสงถล่มเมืองถึงcgมันจะง่อยแปลกๆแต่ก็ทำออกมาแนวดี หลังจากนั้นแม่งผิดหวังไปเยอะ อารมณ์ความกดดันตอนที่unจะใช้นิวเคลียร์แม่งก็ไม่รู้สึกเลย ตัวก๊อตช่วงท้ายแม่งโคตรง่อย โดนตึกทับแล้วก็แค่เอารถไฟขนระเบิดชนเนี่ยนะ ไหนตอนแรกแม่งยิงเท่าไรก็ไม่เห็นเป็นเชี่ยไรเลยไง แล้วก็วิธีการฉีดไอ้สารแช่แข็งเข้าปากก็ดูกากเกิน
สรุปโดยรวมก็ผิดหวังพอควร คิดว่าหนังน่าจะสร้างอินเนอร์ได้สูงระดับนึงซึ่งกูไม่รู้สึกในหนังเรื่องนี้ ประเด็นการเมืองก็รู้สึกผิวมาก บรรยากาศตอนก๊อตบุกเมืองแล้วผู้คนหนีพลุกพล่านก็ทำไม่ค่อยถึง ดูกับพ่อแม่แล้วก็น้อง พอจบนี่ทุกคนด่ากระจาย กูต้องฟังน้องกูด่าหนังเรื่องนี้ยาวจนถึงกลับบ้าน เห็นคนลุกออกจากโรงด้วยอะ อาจเป็นเพราะหนังมันไม่ถูกจริตกูรึว่าอะไรก็ไม่รู้ทั้งที่ชอบอีวามากๆ
ก็มันไม่ได้เป็นอะไรนิ มันแค่สกัดไว้เฉยๆ แผนมันมีทีละขั้นทีละตอน ให้มานาหมดแล้วล็อค จากนั้นก็ curse ให้ hp หมด
มึงดูหนังไม่เข้าใจเอง ที่มันใช้วิธีแช่แข็งก็เพื่อลดความเสียหาย วิธีทางทหารก็สร้างความเสียหายมากไป การฉีดเข้าปากก็เพราะไม่รู้ว่าเส้นเลือดอยู่ตรงไหน อีกทัิงผิวที่หนาแบบนั้น จะใช้อะไรเจาะเข้าไปละ
กูเห็นด้วยนะว่าหนังไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วม แต่คนส่วนใหญ่แค่ดูไม่เข้าใจเองมากกว่า หรือจะบอกว่าอ่านซับไม่ทันก็คงได้มั้ง แล้วกูคิดว่าอันโนะน่าจะดู g-reco ด้วย อารมณ์เหมือนกันมาก แต่ g-reco เก็งคิกว่าเยอะ
กูเห็นด้วยเรื่องฟีลลิ่งที่ความสิ้นหวังมันน้อย มันกดดันน้อย แทนที่จะสิ้นหวังกูกลับมานั่งตื่นตาตื่นใจกับการโชว์ของของไอ้ชินโกจิร่าเสียมากกว่าว่ามันจะงัดอะไรมาให้กูอึ้งได้อีก แต่สำหรับกูช่วงเตรียมลง Nuke กูชอบนะ กูเห็นสายตานักแสดงแล้วกูรู้สึกว่ามันตึงสุดแล้ว รู้สึกได้เลยว่าแม่งไม่อยากให้ลูกที่สามตกลงมา ส่วนแอนติไคลแมติกนี่เหี้ยจริง กูไม่ชอบเลย ถึงจะรู็แล้วก็เถอะว่าไอ้ชินโกจิร่ามันใกล้หมดก๊อกแล้ว ไม่นึกว่าแม่งจะแข็งดื้อๆงั้นเลย ส่วนซีนสุดท้ายกูชอบมาก โคตรอันโนะเลย
เรื่องFEBRUARYเป็นไงมั่ง โดนก๊อดซิลล่ากลบหมดเลย ดูๆน่าจะทริลเลอร์ดี
ถ้าไม่เวิร์คจะไปดูทอมแฮงค์ละ
เป็นธรรมดาของหนังยุ่นว่ะ เรื่องการสื่ออารมณ์ อาจจะไม่ถูกจริตชาวต่างชาติมั้ง
หนังคนแสดงแม่งจะเล่นแบบขาดๆเกินๆแทบทุกเรื่อง ไม่เล่นเวอร์ไปก็จะแข็งเป็นหิน คือมันไม่เป็นธรรมชาติ
แต่พวกอนิเมะเสือกทำออกมาสื่ออารมณ์ได้ดีกว่าซะงั้น
เรื่องมันพยายามไม่สิ้นหวังนะ รันโดมันพยายามหาทางไปต่อตลอด ชอบตรงนี้
ต่างจากตัวละครคนรุ่นก่อน ที่พอเริ่มหมดหวังก็จะให้ทำลายทิ้งสร้างใหม่อย่างเดียว
เพราะเคยทำมาแลัวสำเร็จ
เรื่องที่คุยและการกระทำหลายๆ อย่างมันชวนไม่อิน เพราะภาคนี้มันเป็นญี่ปั่นสูงมาก
มันเป็นสาส์นส่งถึงคนญี่ปุ่นด้วยกัน ต่างจากภาค 1954 กับ 1984 ที่เป็นเรื่องนิวเคลียร์กับสงครามโลกกับสงครามเย็น
ตอนจบมันแอนตี้ไคลแมกซ์แบบฟุคุชิมะ มีคนเสี่ยงชีวิตหยุดปัญหา แต่ปัญหาไม่ได้กลับลงทะเลไปเหมือนภาคก่อนๆ สุดท้ายทั้งพลังงานนิวเคลียร์และโรงไฟฟ้าก็อยู่กับญี่ปุ่นต่อไป
ในเรื่องมันบอกว่าโกจิราวิวัฒนาการได้ตลอด กูว่าภาคหน้ามันจะต้านสารแข็งตัวแล้วอาละวาดอีกวะ
กูอาจจะข้ามไป มันบอกปะว่าทำไมต้องมาโตเกียว
ตอนในหนังบอกว่ามันอาจงอกปีกได้นี่กูลุ้นภาคหน้า(ถ้ามี)ให้มันบินยิงบีมได้ แม่งคงอันตรายโคตรๆ ต้องให้มอธร่ามาปราบ
ติ่งญี่ปุ่นอวยเว่อร์วังเกินไปนิดนะ อ่านในพันทิปแล้วจะคลื่นไส้
คนเค้าไม่ชอบ ยังจะชักแม่น้ำทั้งสายมาอวย มากล่อมให้คนเค้าชอบให้ได้ เพลียสัส
ก็อตจินี่ คำวิจารณ์ คนดู บลาๆ จากต่างประเทศที่ไม่ใช่ไทยกันยุ่น เสียงไม่แตกเหรอวะ กูเห็นรีวิวต่างๆที่ชอบมักบอก คนไทยอย่างนู้น คนไทยอย่างนี้ มีแค่คนไทยที่ไม่ชอบ แสดงว่าต่างประเทศเสียงไม่แตกปะ
ไม่รู้ดิ กูดูไงไม่รู้แต่ทันออกมาเป็นหนังตลกสำหรับกู ฮาเหี้ยๆ ตลอดทางเช่นไอ้เหี้ย N700 ความภูมิใจของคนญี่ปุ่น ไม่ก็วิธีการบอกเรื่องตัวเน่าของแม่ง สมกับเป็นคนญี่ปุ่นสัสๆ และก็อย่าลืมตำแหน่งรองฯ ให้กูด้วย ยังมีคอมเมนต์ Nico style ตอนต้นเรื่องอีก wwww
แต่นั่นแหละ ถ้าไม่เกตมุขก็พังหมด
กูชอบลุงวากัตตะแมนจริงๆ ถถถถถถ
คนไทยโดยสันดานแล้ว shit taste จะตาย หนัง God of Egypt โดนนักวิจารณ์ด่ายับทั้งโลก ขาดทุนย่อยยับทุกที่ มีไทยนี่แหละดันเสือกได้กำไรถล่มทลาย จน ผกก ต้องออกมาโพสขอบคุณคนไทยเองเลย
ฝรั่งก็ด่า
http://kotaku.com/godzilla-resurgence-the-kotaku-review-1784509330
เว็บติ่งญี่ปุ่นเลยนะมึง
ก็อดออฟอียิปต์มันลิเกจักรๆวงศ์ๆด้วยไง โคตรจริตคนไทยเลย
ก๊อซซิล่าโคตรตลก ทุกอย่างทุกอย่างดูแบน ดูสเตริโอไทป์ไปหมด
คาร์แรกเตอร์พระเอก-นางเอก
คาร์แรกเตอร์ข้าราชการนิสัยไดโนเสาร์ หรือ ข้าราชการเก่งๆหัวใหม่
คาร์แรกเตอร์นักการเมืองไม่ได้เรื่อง
คาร์แรกเตอร์สาวมั่นจากเมกา
พยายามจะกัดจิกระบบราชการ แต่ทำออกมาได้โคตรแบน
ก็อดซิลล่าที่ตัวละครลึกเนี่ย แบบหนัง 2014 ใช่ไหม?
กุชอบภาคนี้ตรงที่มันไม่เน้นไปที่ดราม่าตัวละครนี่แหละ ดูแล้วรำคาญ เน้นหาวิธีปราบไปเลย ไม่ออกนอกลู่นอกทาง
ฉากช่วงท้ายกูอยากล้อจริงๆว่าชินก็อตจิ แสงสีดิสโก้เหี้ยๆ
แผนถล่มนี้ก็เจ๋งน่ะก็อตจิตัวนี้เหมือนอัศวินใส่เกราะเหล็กทั้งตัวฟันแทงไม่เข้าต้องทุบด้วยค้อน(ตึก)ให้ติดสตันเอา
แถมปล่อยโดรนไปล่อเบิร์นมานาจนเกือบหมดอีก
ชอบตอนสุดท้ายที่แช่มันไว้ให้มนุษย์ทนอยู่กับมันเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เลย
บางอันมันเล็กๆ น้อยๆ นะ เรื่องการใส่ยุคสมัยไป
- ชาวบ้านรู้เรื่องก็อดซิลล่าก่อนรัฐบาบผ่านนิโกะนิโกะหรือ fc2
- สาเหตุเพราะคนถ่ายไลฟ์สตรีมพลางวิ่งหนี
- เรื่องกัมตภาพรังสีจากก็อดซิลล่าแตกตกเพราะหลังฟุคุชิมะคนญี่ปุ่นไม่น้อยบ้าพกเครื่องวัด (ไกเกอร์เคาเตอร์)
- พอก็อดซิลล่ากลับลงทะเล เช้าวันต่อมาคนนอกเขตภัยพิบัติก็ใช้ชีวิตชิวๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตอนนี้ไล่ดูภาคเก่าๆ แล้วพบว่า สเกลความแตกตื่นน้อยลง แต่ฉากผู้คนอลังการกว่าเรื่องก่อนๆ สัส
http://pantip.com/topic/35582933
อ่านแล้วคลื่นไส้
อย่างที่เคยมีคนบอกบนๆอะ
ดูหนังย่อยยากรู้เรื่องก็ดี แต่ถ้าแยกแยะไม่เป็นมันจะกลายเป็นคิดว่าตัวเองเหนือแล้วไปดูถูกชาวบ้าน เขาก็ยิ่งมองหนังติดลบ
เดี๋ยวนี้พวกเห่อหมอย wanna be ในพันทิปเยอะจังเลย
ตอนนี้ กุ เห็นพวกอวยก็อตจิ นี่เอาก็อตจิมาใช้เป็นเครื่องมือด่าคนประเทศตัวเองเรียบร้อยแล้วว่ะ ชัดเจนเสียยิ่งกว่าอะไรดีได้โอกาสนี่ก็ทำเลย
ทั้งๆ ที่ชินก็อตจิมันหนังด่าญี่ปุ่นสัสๆ เนี่ยนะ
จับแพะชนแกะสัสๆ
กุกำลังงงมันเหยียดตรงไหนว่ะ ยกตนข่มท่านตรงไหนว่ะ ที่อ่านดูสรุปได้ว่าคนไทยมันชินกับแนวฮอลลีวูดเท่านั้นเอง
เห็นพวกมึงบอกเหยียด แต่กุก็ไม่เห็นมีใครไปกดสยองให้มันสักคน แปลกดี
"คนที่ไม่ชอบ คือคนที่โดนฮอลลี่วูตล้างสมอง บ้านเราดูหนังฮอลลี่วูตมาจนติด จนเคยชิน"
"หนังญี่ปุ่นเล่นสเกลที่ใหญ่ พระเอกเรื่องนี้คือนักการเมือง เล่าเรื่องผ่านนัการเมือง คนไทยไม่ชินครับ ไม่ชินเลย สำหรับพวกไม่เสพสื่อญี่ปุ่นมาและไม่ชอบ"
"ดูหนังตะวันตกล้างสมองไปหมดแล้ววววว"
แม่งเหยียดรสนิยมคนอื่นสัสๆเลยนะ
จริงๆไอ้ก็อตนี่มันก็ไม่เห็นมันจะดีพตรงไหน ออกแนวดูง่ายกว่าพวกหนังดีพๆตะวันตกหลายเรื่องด้วย
cg ก็ดูตลกๆ (แต่อันนี้กูชอบนะ แนวดี)
คือรวมๆมันก็หนังดี แต่มันไม่ได้ดีเท่าที่แม่งอวยกัน
พลอตก๊อตจริงๆมันก็ไม่มีอะไรเท่าไรนะ วิธีการปราบก็ดูก๊องแก๊ง โดนแช่แข็งแบบง่ายๆ ฉากถล่มเมืองมีกลิ่นอายอีวาพอควรแต่ก็แค่นั้น บทสนทนาจริงๆก็ไม่ได้ดีปอะไรมากมาย นักแสดงเล่นแข็งทื่อชิบหาย อารมณ์แทบไม่มาแม้แต่คนเดียว บรรยากาศก็ดูเหมือนเด็กเล่นไปหน่อยอะ ไม่ค่อยรู้สึกว่ามันสมจริงเท่าไร ตัวประกอบนี่เลวร้ายมากๆ เหมือนเอาคนทั่วไปมายัดๆไปแค่นั้น ไม่รู้ว่าหนังมันต้องการทำสไตล์เงียบๆนิ่งๆรึป่าวอารมณ์เลยเนิบมากๆ แถมหนังดูแล้วรู้สึกมันเฟคมากๆด้วย กูคงไม่อินกับหนังยุ่นแบบนี้ กลับไปดูแนวflying colorดีกว่า
ชัดเจนว่าความคิดจริงๆของติ่งยุ่นติ่งเกาก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่
กูชอบวิธีปราบนะ ดูดีกว่าเอะอะก็ใช้ super mother father Jesus of all bomb แบบเมกา
กูนี้ส่วนน้อยใช่ไหม ที่ชอบตอนปราบก็อตจัง กูว่าแม่งทำมาระทึกชิบหาย
กูก็ชอบ พอคู่กับเพลง yashiori strategy แล้วแม่งแฟนตาซีชิบหาย
ตกลงจะเอาสมจริงหรือแฟนตาซีวะ 55
วิธีนะสมจริง แต่เพลงแม่งแฟนตาซีมาก เหมือนจะไม่เข้ากับเรื่อง แต่แม่งโคตรอันโนะเลย
นึกภาพกับตันเมกาเปิดเพลงชาติตอนสู้กับไฮดร้าสิ อารมณ์เดียวกัน
เพลงที่เจ๋งจริงๆ กูว่า Who will know บวกกับซีนนั้นด้วย
แม่ง ทำเอาก็อดซิลล่ากลายเป็นเด็กวัยรุ่นอีโมไปเลย
เทพเจ้าคอนเน็ตโต้นี้ กูควรเชื่อรีวิวมันไหมวะ
คือกูเคยเชื่อมันนะ จนกระทั้งกูหลงกลตอน ID4-2
มึงต้องดูหลายๆ ที่หน่อย คอนเน็ตโต้เชื่อได้บางเรื่อง อย่างน้อยๆ มันก็วิจารณ์ BvS ได้ตรงเป๊ะ
ที่คอนเน็ตโต้พูดไว้มันก็ตรง เรื่องนี้ตัวละครมันไร้ชีวิตชีวามาก ซึ่งมันไม่ชอบเพราะจุดนั้นก็เข้าใจได้ แต่จุดอื่นๆมันก็ยังชอบอยู่นะทั้งก็อตจิทั้งอะไรๆ
กูไม่ค่อยเชื่อคอนเวลาอวย แต่เชื่อเวลากัด ส่วนมากจะตรงประเด็น
http://pantip.com/topic/35585492
คนนี้วิเคราะห์เนื้อหาชินก็อตเชิงรัฐศาสตร์ได้ดีมากว่ะ อ่านเพลินเลย
มันเหวอมากกว่าที่ไม่เคยเจอหนังอะไรแบบนี้ เจอกับหนังที่นำเสนอกลุ่มคนทั้งกลุ่มมากกว่าตัวละครตัวหนึ่ง มันแล้วเป็นญี่ปุ่นจ๋ามาก มันเน้นการทำงานของทั้งระบบมากกว่าคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่มาฟูมฟายกับตัวละครแบบในหนังสัตว์ประะหลาดปกติ มาสละเนื้อเรื่องให้ดราม่าตัวละครตัวหรือตัวสอง เสียเวลาโคตร ถ้ามาเจอรันโดพร่าว่าที่ไม่ยอมแพ้เพราะรักชาติอย่างนู้นอย่างงี้ โคตรเลียโคตรclicheเลย อีกแค่คายาโกะกับประเทศของคุณยายก็โคตรจะส่วนเกินแล้ว ขืนมาเล่นอะไรแบบนี้ ได้พังทั้งเรื่องแน่
>>872 กุเห็นด้วย คายาโกะมันดูยัดเยียดเกินไปว่ะ มันไม่มีใครอยากให้นิวเคลียร์ลงหรอกแต่ไอ้เหตุผลประเทศของคุณย่ามันดูเฟคไปสำหรับคนที่ไม่ได้โตในญี่ปุ่น
เห็นมีแต่คนบ่นนักแสดงไม่อิน แต่กุว่าแสดงดีมากเลยนะสีหน้า อารมณ์โดยเฉพาะพระเอกกุชอบมันตอนระบายอารมณ์กระทืบเท้าหลังพี่ก็อดเผาเมือง
godzilla มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเท่าไรนะ
แต่เพลงประกอบนี่ทำอารมณ์เปลี่ยน แบบ เพลงดังปุบ กุนึกว่าจะมี EVA โพล่มาต่อยกับก็อตจิซะอีก
ปล. ทีมพันธมิตร ทำให้คนขำทั้งโรงได้ตลอดแหะ แถมเด็กในโรงไม่งอแงด้วย(สงสัยหลับหมด)
พวกอวยนี่ คำพูดๆ แทบจะซ้ำๆ กันทุกคน
หนังจริงจัง หนังการเมือง ดูยาก ไม่เหมาะกับเด็ก ไม่เหมาะกับพวกดูหนังตลาด ฮอลลีวูด สมจริง เรียล
แล้วต้องมี กลิ่นอาย อีวา.... อันนี้แม่งทีเด็ด เห็นพิมพ์เชิดชูตัวเองซะยังกะเป็นพวกดูหนังหลากหลาย บางราย แม่งแค่พวกติ่งการ์ตูนงั้นๆ ล่ะว่ะ
แล้วยังทำเป็นไปเหยียดคนดูที่เค้าไม่ชอบ มันเหมือนอะไรนะ
ค่ายการ์ตูนฮีโร่สักค่าย ที่ทำเป็นหนังแล้ว ติ่งมันชอบอวดชอบอ้าง ว่ามันฮีโร่ค่ายมัน เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ ดาร์ค มืดหม่น ดูยาก เนื้อหาลึก ต้องตีความ
ไอ้ที่บอกว่าก็อดซิลล่าที่แท้จริงคนไทยไม่ชอบอะไรเนี่ยโคตรขำ
ซีรีส์เกือบ 30 ภาค มีจริงจัง 2-3 ภาค อันไหนคือภาพลักษณ์ที่แท้จริงวะ?
สมัยก่อนก็อดซิลล่าญี่ปุ่นฏายไทยก็ทำรายได้ดีตลอด จนกระทั่งภาค 1998
ขอแทรกนิด กูชอบประเด็นว่าเยอรมันยังเป็นมิตรแท้กับญี่ปุ่นนะเพราะเป็นประเทศที่แพ้สงครามมาด้วยกันนะ
ในหนังจะแสดงให้เห็นว่าคนเยอรมันรุ่นใหม่ก็ไม่ได้รู้สึกผูกพันอะไรกับญีปุ่นแล้ว แต่คนที่อายุมากหน่อยจะยังผูกพันอยู่เพราะผ่านวิกฤตมาด้วยกัน
ที่ช่วยมันฝรั่งเศสไม่ใช่เหรอ ที่ตอนจบนายกญี่ปุ่นก้มหัวให้เป็นฑูตฝรั่งเศสนะ เยอรมันโผล่มาตอนไหน
ติ่งแม่งพยายามโยงให้มาจากอีวาเหลือเกิน
http://pantip.com/topic/35585492 ดูความเห็นที่ 8 มัน
ทำไมตอนกูดู ไม่เห็นรู้สึกห่าเหวที่จะนึกถึงฉากนี่้เลยว่ะ โคตรต่าง
ก็อตซิลล่าภาคนี้มันก็มีสไตล์ของอันโนะอยู่จริงๆอะนะ คือไม่ต้องถึงกับไปอวยตัวอันโนะหรอก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันให้ความรู้สึกคล้ายๆกับดูอีวาจริงๆ
อารมณ์เหมือนหนังของ อับราม ที่มีเลนส์แฟลร์
"ทึ่งในเทคนิค การถ่ายทำ ทำให้รู้สึกเหมือนอีวานเกเลี่ยน สร้างมาเป็นหนังคนจริงๆ"
แม่งพิมพ์มางี้อีกล่ะ บอกกูหน่อย การถ่ายทำอะไร ยังไง ตรงไหน มันทำให้รู้สึกเหมือนอีวาว่ะ หรือแค่มีชื่ออันโนะก็เลยเหมือน
อันโนะน่ะดังตรงเอาเทคนิคแบบภาพยนต์มาใช้กับอนิเมนะ ตอนเอวาทีวีเทคนิคภาพ การวางตำแหน่งตัวละคร วิธีกำกับฉาก ถือวาแปลกใหม่มาก
พอมาทำหนัง ก็เหมือนหนังนั่นแหละ
แต่ฉากกิมมิคอันโนะเยอะเป็นเลนส์แฟลร์เอบรามส์ มาทั้ง สะพานลอย สายไฟฟ้า ทางรถไฟ จุดสับรางรถไฟ ฯลฯ
อับราม ชอบใส่ เลนส์แฟลร์
จอนวู ชอบใส่ นกพิราบ
ไมเคิลเบย์ ชอบใส่ ธงชาติอเมริกา
อันโนะ ชอบใส่ สะพานลอย รถไฟ
จอนวูต้องกระโดดพุ่งใส่แล้วยิงปืนสิ
กูฮาตอนที่มันเอารถไฟไปชนก็อตรอบแรก ชิงคังเซ็นป่ะจำไม่ได้
ไอ้เหี้ยยย รถไฟแม่งกระเด็นขึ้นไปครึ่งตัวก็อตซิลล่าทั้งขบวน โคตรเชี่ย ถถถถถถถ
กูว่าหนังมันจำลองสถานการณ์จริงมากกว่านะ เลยไม่ได้ปูอะไรมาก เหมือนมึงไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วดูข่าวการเมืองอ่ะ ตอนมึงเปิดดูมึงก็ไม่รู้ว่าไอ้คนในทีวีแม่งเป็นใครทำอะไรมาเหมือนกันแหละ
มองเป็นภาษาหนังแม่มอาจจะกากแต่มองทางภาษาภาพกูว่าดีพอควร สถานการณ์มันเล่าออกมาได้เรียลพอควร (จนกระทั่งหลังฉากดิสโก้ ที่กลายเป็นกลัวเล่าเรื่องธรรมดา)
*หนังเล่าเรื่อง
ทำไมแฟนอาร์ตคนนี้เยอะจัง
http://imgur.com/dCkb3cs
http://imgur.com/rPyosIe
คาโยโกะกูไปหาข้อมูลเพิ่มมา นักแสดงคนเดียวกับฮันซี่ Attack on titan ถึงว่าหน้าคุ้นๆ ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดมีคนแซวว่านักแสดงฮันซี่น่ารักกว่ามิคาซะที่เป็นนางเอกซะอีก แถมขุดผลงานในชุดว่ายน้ำมาลงในกระทู้ด้วย
After the storm หนังญี่ปุ่นแนวอบอุ่นเรียบง่ายเรื่อยๆสไตล์ผกก.คนนี้ ถ้าเคยชอบLike father like sonกับOur little sisterมาก่อน เรื่องนี้ก็น่าจะชอบด้วย
แต่ถ้าไม่ชอบก็อย่าดูดีกว่า เพราะสไตล์เดินเรื่่องมาแบบเดียวกันเลย ก็เฉยๆ ไม่ได้ชอบไม่ได้เกลียดผลงานเขาก็พอดูได้เรื่อยๆ
ปล.นักแสดงหน้าเก่าจาก2เรื่องก่อนก็ตามมาแสดงในนี้กันด้วย
ดูชินก็อดจิมาละ คือถ้าเอาแค่เรื่องเสียดสีการเมืองนี่ก็โอเค สื่อประเด็นความงี่เง่าของระบบราชการ ความสัมพันธ์ของญี่ปุ่นกับนานาประเทศ เชิดชูผู้เสียสละตอนโรงงานนิวเคลียร์ได้ชัดเจนดี
แต่ถ้ามองในแง่หนัง blockbuster เรื่องนึง กุว่ามันเฟลว่ะ หนังแม่งไม่สร้างอารมณ์ร่วมหรือความลุ้นระทึกอะไรเลย คือต่อให้มึงไม่เน้นแอคชั่น ช่วงองก์สุดท้ายของหนังมันก็ควรจะบิ๊วให้พีคสักหน่อย ไม่ว่าจะเป็นความลุ้นในฉากปราบก็อด หรือความเข้มข้นในฉากการเมือง แต่หนังแม่งไม่มีการบิ๊วอะไรเลย เหมือนกุมานั่งดูสารคดีการรับมือภัยพิบัติของญี่ปุ่นตลอดสองชั่วโมง โอเคนั่นอาจจะเป็นความต้องการของผู้กำกับ แต่ในฐานะคนดูหนังแมสๆ คนนึง กุรู้สึกว่าหนังแม่งล้มเหลวในการสร้างความบันเทิงมาก (หรือ ผกก. ตั้งใจทำให้มันไม่บันเทิง จะได้เข้าถึงความเป็นภัยพิบัติวะ?)
พูดถึงหนังสัตว์ประหลาดแนวเสียดสี กุชอบ The Host ของเกาหลีมาก คือหนังแม่งสนุก ลุ้น ดราม่า เสียดสีสังคมเกาหลีตั้งแต่ระดับครอบครัวยันรัฐ แถมใส่ความ weird ของผู้กำกับเต็มที่ แหกสูตรฮอลลีวู้ดทุกอย่าง แต่ก็ให้ความบันเทิงในฐานะ blockbuster แบบครบถ้วนด้วย ถ้าก็อดซิลล่าทำได้แบบนี้นี่กุกราบเลย
มันจะเฟลในฐานะหนัง blockbuster ได้ยังไงในเมื่อรายได้มันดีขนาดนี้ มึงใช้คำผิดแล้ว มึงดูแต่หนังมาสจนชินก็แบบนี้ละ รับอารมณ์อื่นไม่ได้ กูเห็นด้วยนะว่าหนังขาดอารมณ์ไปเยอะ แต่มันดันเป็นข้อดีของมันวะ
blockbuster = a thing of great power or size, in particular a movie, book, or other product that is a great commercial success.
ไปดูสงครามเทพฯมาล่ะ CG บุฟเฟ่เหี้ยๆ เสือกจบแบบให้ต่อภาคสองอีก
แต่ถ้าใครคิดถึงตำนานเทพยุทธ์ก็พอดูแก้คิดถึงได้นะ แต่พระเอกเป็นไอ้ค้างคาวปล่อยสายฟ้าลูกจีชางแทน
แค่ทำฉากตัวละครตายโง่ๆ ตอนแรกก็เพลียล่ะ
นาจาเปลี่ยนเป็น CG เดี๋ยวเปลี่ยนร่างเป็นตัวนักแสดง คือ ถ้ามันหานักแสดงเด็กน่ารักๆ นี่กูไม่ว่า แม่งเอาผู้ใหญ่มา แถมเป็นไอ้หน้าโหล่อีก
CG ยัดมาเยอะ บวกกับการนักแสดงของนักแสดงจีนที่โอเวอร์ยิ่งกว่านักแสดงญี่ปุ่น ฉากใช้สลิง นักจีนแม่งไม่พัฒนาตรงนี้สักที ใช้สลิงทีไร แม่งไม่เคยเป็นธรรมชาติยังไง ผ่านมาสิบยี่สิบปี ยังก็ไม่ธรรมชาติอย่างนั้น เจ็ท ลี เอามาทำไม
ฉากมิดเครดิต ยังกล้าทำต่อเนอะ
ก็อตซิลล่าไม่ใช่หนังที่เอาไว้สำหรับยกตนข่มคนอื่นครับ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
>>914 เอาไว้ใช้อวดว่ากุเอ็นจอยกับอะไรที่ไม่แมสแบบนี้ กุเทสต์ดีกว่าพวกมึงเห็นรึยัง
สำหรับกุ กุขัดใจสุดคือฉากตัวประกอบวิ่งหนีอะ แม่งดูลงทุนต่ำเหี้ยๆ เหมือนจ้างตัวประกอบไม่ถึงร้อยคนมาวิ่งร้องกรี๊ดๆ บนนถนน แล้วตัด footage มาแทรกสลับกับฉากซีจีในหนัง ฉากพังเมืองที่ใช้ซีจีเยอะๆ กับฉากคนวิ่งหนีที่ถ่ายในสถานที่จริงนี่ดูโดดจากกันมากเหมือนเอามาจากหนังคนละเรื่องเลย (จะมีใครออกมาเถียงมั้ยว่าไอ้การถ่ายทำแบบกิ๊กก๊อกนี่ก็เป็นความอาร์ตของ ผกก. ที่กุเข้าไม่ถึงเหมือนกัน?)
กูว่าหนังมันจงใจไม่บิ้วแฮะ.. ปล่อยให้เหตุการณ์ไปตาม Flow เรื่อยๆ ขนาดฉากฉีดน้ำยังเอาฮาเลย
ปล. นี่แม่งไม่แปะ Storyboard , ภาพนิ่ง , บทพูด มาให้ดูแบบ EVA ก็บุญแค่ไหนแล้ว 55
Your Name จะแซง Shin Godzilla แล้วนะฮับ
ไม่เห็นแปลก ก็มันแมสกว่า
Your Name เห็นว่ารายได้ดีสุดของชินไคป่ะ?
เท่าที่หารายได้โรงมา
5cm ทำไปแค่ 100 ล้านเยน
เด็กดาว 4 ล้าน
สวน 150 ล้าน
มีอีเรื่องนี้แหละแม่งโดดไปหลักพันล้านเลย
ตอนซากุระที่รายได้ไม่มากเพราะเฮียแกตอนนั้นยังไม่ดังด้วยแหละ(แต่ก็ดังเพราะเรื่องนี้เลย)
ส่วนอีสาวหาดาวกูว่าปล่อยๆไปเหอะ.....
ของชินไค ชอบสวนสุดแฮะ โดยเฉพาะฉากจบที่ระบายความในใจกันหมดเปลือก แต่ตอนจบของสลับร่าง ก็อมยิ้มดี
Don't breath เนื้อเรื่องเหมือนดูหนังทริลเลอร์ยุค80-90มากๆ ที่สำคัญลุงแม่งโคตรเหนือมนุษย์
แดร์ เดวิล
แบลร์วิชเป็นไงมั่ง ชอบภาคแรกพอตัว ได้ข่าวภาคนี้แฟนตาซีขึ้นแต่คะแนนกึ่งดีกึ่งเละมาก(แล้วไหงคะแนนนอกวิจารณ์ดีจัง)
ทำไมบางคนพูดว่า แบลร์วิช ภาคนี้เป็นภาค 2 อ่ะ
ทั้งที่มันมีภาค บุ๊คออฟ ชาโดว์ ไม่ใช่เหรอ หรือไม่นับ
เสาร์นี้มีเรื่องไหนห้ามพลาดมั่งโม่ง
แบลร์วิชแม่ง.....ไหนๆมันจะแฟนตาซีแล้วน่าจะเอาให้สุดๆไปเลย แบบนี้เหมือนกั๊กแปลกๆ
ปล.สปอยล์นิดๆ>>>>>>>>>>>>>>>>>>คนเขียนบทบอกที่โผล่ในเรื่องไม่ใช่แม่มดแบลร์ ถ้าอยากรู้ต้องซื้อแผ่นนะ ฟัก
คือกูสงสัยว่าจะให้คำตอบยังไง ไม่โผล่เป็นตัวเป็นตนอะกูว่าขลังดี แต่ไอ้ที่โผล่ในเรื่องนี่คือไรฟะ? หน้าตายังกับหลุดมาจากREC
โยไควอชมูฟวี่จะเข้าอาทิตย์หน้าแล้ว คิดว่ากระแสจะเป็นไงกัน
ABOUT RAY>>>>อีเด็กเอาแต่ใจอยากแปลงเพศเป็นผู้ชาย
โทนหนังก้ำกึ่งหนังวัยรุ่นกับหนังรางวัล ดูง่าย สไตล์Coming of age
แต่ถ้าพวกนายไม่เข้าใจหัวอกวัยรุ่นว่ามันจะมีช่วงอารมณ์ร้อน เอาแต่ใจ อยากได้นู่นนี่ไม่สนหัวอกพ่อแม่มึงอาจจะอยากตบอีนางเอก(หรือพระเอก?)ซักฉาด ถ้าไม่งั้นมึงก็จะซึ้งกับความสัมพันธ์แม่ลูกของครอบครัวนี้
บ้านเพริกริน>>>บ้านเด็กX-men Days of future pastภาคทิมเบอร์ตั้น
เห็นในเทรลเลอร์ฉากย้อนเวลาช็อตนึง แต่ไม่คิดว่าในเรื่องมันจะเน้นเรื่องมิติเวลาขนาดนี้ ถ้าไม่ตามทฤษฎีเวลาในเรื่องให้ดีน่าจะมีหลุด
ไม่ใช้พลังจนเป็นแฟนตาซี มีกลิ่นทิมเบอร์ตันเจือๆ แอ๊คชั้นไม่ได้เยอะแยะ แซมมวลแอลแจ๊คสันก็เล่นโอเค แต่นอกนั้นก็ไม่มีอะไรมาก
ถ้าไม่ได้ไฮป์อยากดูเรื่องไหนมากๆ กูว่าอาทิตย์นี้สองเรื่องนี้ปล่อยผ่านได้ ไม่ถึงขนาดMust see
เพริกรินไปดูน้องผมแดงก็คุ้มแล้ว มีpotentialที่จะสวยยิ่งกว่านี้ได้อีก
เฮ้ยยยยยย เวบลิโด้แม่งทำใหม่ http://www.apexsiam-square.com/ ดูทันสมัยขึ้น มีงบเหลือมาทำอะไรแบบนี้แสดงว่าโรงมันจะไม่เจ๊งแล้วใช่ปะ ดีใจๆ
กูชอบเพริกรินนะ ถึงตอนแรกจะเอื่อยไปนิด ส่วนตอนหลังก็เร็วไปหน่อย แต่ชอบงานภาพในเรื่อง สวยหลายฉาก โทนสีก็ดูหม่น ๆ เข้ากับโทนหนัง (แต่มันออกจะมืดไปหน่อย ถ้ามึงไม่ได้อยากดูมาก่อนอาจจะหลับไปเลยก็ได้ 55555) อีกอย่างที่ชอบมากคือ score ที่ใช้ประกอบในเรื่อง ดูลึกลับ แล้วก็ Eva Green ที่เล่นได้มีจริตมาก ถ้าว่างก็ไปดูเพลิน ๆ ได้นะ แต่กูอยากอวยให้ไปดูเยอะ ๆ เผื่อจะทำภาคต่อ
กูไปดูมาละ สัมผัสได้ว่าช่วงแรกปูยาวไปเหมือนกันแต่ก็โอเคอยู่ แต่ช่วงหลังกูว่าเหมือนลดความฉลาดกับความเก่งโหดของตัวร้ายมากจนติดสกิลประมาทเกินไปไงไม่รู้ว่ะเพื่อที่เด็ก ๆ จะได้จัดการได้ ชอบ Eva Green แสดงดีจริง เอาไป 5/10 ละกัน ไปอ่านในพันทิป หนังสือกับหนังไม่เหมือนกันอีก
About Ray
กูกูแล้ว เด็กมันก็ไม่เห็นเบียวอะไรนะ
มีความใจร้อน เอาแต่ใจตามประสาเด็กวัยรุ่นแหละ ไม่มีประเด็นจิตวิทยาใดๆทั้งสิ้น
จริงๆน่าเปลี่ยนชือเป็น About Macky มากกว่า เรื่องเกี่ยวกับแม่มันล้วนๆ
ได้เห็นการใช้ชีวิตของต่างชาติดี หลายอย่างที่กูคิดว่าถ้ามาทำในไทยต้องโดนด่าแน่ๆ 555
Snowdenอย่าโดนเทรลเลอร์หลอกนะ ไม่ใช่หนังแอ๊คชั่นผู้ก่อการร้ายไซเบอร์แบบdiehard4.0
เรียกว่าหนังสารคดีจากชีวิตจริงก็ได้มั้ง คุยเยอะแต่ไม่น่าเบื่อ เดินเรื่องใช้ได้ การเมืองไม่ซับซ้อนเข้าใจง่าย อยากให้ไปดูกัน
Under the shadow ทำบรรยากาศในบ้านหลอนใช้ได้นะ
แต่เกลียดตรงมีจัมพ์สแกร์นี่แหละ มีทั้งจัมพ์ดีๆ กับจัมพ์เหี้ยๆเชยๆ
ส่วนเนื้อเรื่อง.....ไปดูเองดีกว่า กูยังไม่แน่ใจว่าได้อะไรจากหนังกันแน่
กูเห็นเรื่องSplitsอะไรนี่ที่ตัวเอกมี23บุคลิกอ่ะ ทำเอากูนึกถึงหนังเรื่องIdentityว่ะ มันรีเมคหรืออะไรยังไงวะ
Fantastic Beast จะมีห้าภาค?
ป้าJKกูเลิกหาเเดกทางอื่น(เขียนหนังสือใหม่)เเล้วสินะ จะเกาะซีรีย์HPเเดกไปจนตาย
55555
เขียนเรื่องอื่นมันไม่รุ่ง เกาะแฟนๆแดกนี่แหละสบายสุด
ไม่เชื่อถามสาวกสตาร์วอร์ดู แม่งแยกยุบยับจนรีบูทใหม่หมดบังขายได้ ถถถ+
นักเขียนจำเป็นขอแค่ดังเป็นผลุแตกเรื่องเดียวพอนอกนั้นแดกค่าลิขสิทธ์กะโหนกระแสไฮปาร์คเอาก็พอ
ใครจะดูTomcatให้มึงเตรียมใจหลายๆเรื่องเลย ทั้งคนที่ไม่กล้าดูฉากโหดร้ายกับสัตว์
ทั้งฉากกระหนุงกระหนิงของคู่รักชาย-ชาย(และฉากเห็นกระจู๋แบบอ่อนและแข็งตัวอันเซ็น) ทั้งความเรื่อยๆของหนังที่อาจหลับ
2อย่างหลังกูไม่เท่าไร แต่กูเจออย่างแรกไปช็อคซีนีม่าสุดๆ
Tomcat มันคือหนังแมวที่ไม่เกี่ยวกับแมวแต่แมวเป็นตัวสำคัญในเรื่อง แต่แมวแม่งน่ารักนะ ;w;
เห็นข่าว Johnny Depp มาเล่น Fantastic Beasts ภาคสอง กุนี่รอดู SJW ดิ้นรัวๆ เลย อยากรู้ป้าเจเคจะตอบแฟนๆ ยังไง
แต่ถ้ามาเล่นเป็น Grindelwald แบบที่ลือกันนี่ก็น่าสนใจอยู่ ป๋าแกเสียเวลากับบทบ้าๆ บอๆ มาหลายปีแล้ว กลับมาเล่นบทตัวร้ายจริงจัง (ถึงจะเป็นหนังแฟนตาซีก็เถอะ) อาจจะพอกู้ชื่อกลับมาได้บ้าง
มีใครดูเดธโน้ตหรือยัง มารีวิวโหน่ย
SJW ดิ้นเรื่องนั้นด้วยเรอะ?
อีแอมเบอร์ ก็ทำตัวน่าตบอยู่นะ
อิจฉาคนได้ไปดูKimi no na wa รอบพิเศษก่อน อยากดูโว้ยยยยยยย อีก5วัน ;w;
เดธโน้ตภาคนี้โอเคเลยนะ อาจไม่ถึงกับคมเฉือนคมเท่าต้นฉบับ แต่ก็พอกล้อมแกล้มได้
>>973 กุงงกับบทมันหลายจุดมาก คือคิระตัวจริงมันทิ้งโน้ต แล้ววางแผนให้ชิเอ็นช่วยรวบรวมโน้ตอื่นๆ แล้วค่อยมาเจอกับมันตรงจุดนัดพบ แต่จุดนัดพบนั่นดันเป็นจุดที่มีแต่ไลท์กับมิสะที่รู้จัก? แล้วตัวคิระในอดีตมันไปฆ่าทนายของมิสะกับทายาทไลท์ตรงภูเขาเดียวกันนั้นได้ยังไง? ไปเขียนชื่อริวซากิลงเดทโน้ตตั้งแต่เมื่อไหร่? ทายาทไลท์ที่ควรจะบิ๊วให้เป็นจุดสำคัญดันมีบทแค่ตายในฉากแฟลชแบ็ก? (แล้วไอ้พล็อต ใช้ DNA สร้างทายาทนี่กุว่ามันงี่เง่าแปลกๆ อะ) คิระคนใหม่เริ่มใช้เดธโน้ตด้วยแนวคิดแบบเดียวกับไลท์แต่ตอนจบดันกลับลำ 180 องศาซะงั้น?
เดธโน้ตภาคก่อนๆ มันสนุกตรงที่ตัวละครทุกตัวฉลาด แต่กุดูแล้วยังตามความคิดกับเหตุผลของพวกมันทันนะ แต่ไอ้ภาคใหม่นี่ไม่รู้ตัวละครมันฉลาดเกินไปจนกุเข้าไม่ถึง หรือคนเขียนบทเขียนไม่เป็นกันแน่
ริวซากิน่าจะโดนผลจากการพล็อตด้วยเดธโน๊ตของมิชิมะเข้าไปนั่นแหละ เลยโง่ๆงงๆตามบทที่วางไว้ (หรือมันโง่อยู่แล้ว?)
แต่แบบนี้ก็ตรงตามบทพูดเลย คิระคือพระเจ้า มนุษย์ไม่สามารถเอาชนะได้ ก็แหงล่ะมึงเล่นพล็อตเอาไว้ทุกอย่างแบบนี้ มึงก็พระเจ้าดีๆนี่เองล่ะ
ปล.หนังแม่งแฟนเซอร์วิสหนักมาก ฉากไหนที่มังงะมีแต่หนังฉบับเก่าไม่มี มันใส่มาให้แฟนๆกรี๊ดกร๊าดกันเต็มเลย
เอาจริงกูโคตรอึนช่วงเฉลยทุกอย่างช่วงท้าย โดยเฉพาะไอ้ทายาทไลท์เนี่ย ไม่บอกกูจะรู้ไหมว่าไลท์มันไปมีลูกไว้
เหมือนกูดูโคนันแล้วแนะนำตัวละครหลักไป3ตัว แต่คนร้ายจริงๆเป็นป้าแม่บ้านโนเนมที่ไม่เคยโผล่หน้ามา อีสัตว์
>>978 โคตรไม่สมเหตุสมผลอะตอนนั้น คือเฉลยมาแบบนี้แปลว่ามันต้องแอบวางแผนสร้างตัวลูกนี่ตั้งแต่ช่วงภาคสอง แล้วมันเอาเวลาที่ไหนไปวางแผน ต้องใช้เงินทุนขนาดไหน ต้องจัดหาสถานที่วิจัยกับทีมงานในต่างประเทศอีก แล้วพวกคนที่ช่วยสร้างเด็กนี่รู้ว่ามันเป็นคิระรึเปล่า???
นี่ยังไม่นับเรื่องความสมเหตุสมผลเรื่องการโคลนนิ่ง และความเป็นไปได้ที่เด็กแม่งจะโตมามีความคิดจิตใจเหมือนมันทุกอย่างอีกนะ
the arrivalเข้าโรงไทยวันไหนวะเพื่อนโม่ง
เดธโน้ตมันสนุกตรงที่เฉือนกันระหว่างคนฉลาด2คนไลท์ L พอไม่มี2คนนี้แล้วก็ไม่มันส์แล้วว่ะ เหมือน ไลท์กับเนียร์ ต้องเนิฟไลท์ต้องใส่ความสุดโต่งเข้าไป เหมือนกับไลท์เวอชั่นหนังแหละ พอภาคนี้เป็นคนอื่นมาก็เฉยๆแล้วหว่ะ
Kimi no na wa ไม่เข้าโรงจังหวัดกูโว้ยยยย
พวกไปขอให้ฉายทั่วไปกูว่ามันไม่เข้าใจการตลาดว่ะ โอเคหนังดีจริงแต่ถามว่าคนไทยในต่างจังหวัดที่อยากดูจะมีกี่คน ทัศนคติของคนไทยทั่วไปที่ไม่สน J pop มันมองว่า ก็แค่การ์ตูนเรื่องหนึ่งไม่ต่างจากการ์ตูนดิสนี่ย์หรอก ดีงในญี่ปุ่นไม่ได้แปลว่าจะดังในไทยนะ
จะอวยก็อวยไปไม่ได้ห้ามแต่มาเรียกร้องให้เพิ่มโรงในต่างจังหวัดนี่มันคิดว่าอนิเมะญี่ปุ่นคนต่างจังหวัดจะสนใจรึไง
มึง การ์ตูนดิสนี่ต่างจังหวัดดูเยอะนะมึง แต่เมะญี่ปุ่นยากว่ะ ถ้ารับในเรทรายได้ของชินจังได้ก็ควรฉายนะ
ถ้าไอพวกที่ไปตั้งแคมเปญมันทำให้ได้ฉายจริงได้นะสัส กูยอมไปกราบพจน์อานนท์เลย
https://www.change.org/p/welovesf-majorgroup-ให้อนิเมะเรื่อง-kimi-no-na-wa-เข้าฉายในโรงภาพยนต์ทั่วประเทศ?recruiter=43624182
แล้วมึงลองอ่านดูดิ "พวกเราเป็นเด็กคนหนึ่งที่ชื่นชอบในการรับชมอนิเมะ เมื่อทราบข่าวที่อนิเมะเรื่อง Kimi no Na wa จะมาเข้าฉายที่ประเทศไทย พวกเราต่างตั้งหน้าตั้งตารอชมอนิเมะดีๆ ที่กวาดรายได้นับ 18 ล้านเยนในประเทศญี่ปุ่น โดยไม่หันไปสนับสนุนของละเมิดลิขสิทธิ์ แต่โรงหนังที่ฉายอนิเมะเรื่องนี้มีน้อยมาก
ทางเราจึงอยากจะขอกราบเรียนบริษัท เอสเอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)และบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ให้นำอนิเมะเรื่องนี้มาเข้าฉายที่โรงภาพยนต์ทั่วประเทศ"
18 ล้านเยนมาจากไหนฟะ ถถถ
วิธีที่ดีที่สุดคือเปิดรอบพิเศษเฉพาะจังหวัดนั้นๆไปเลย ซักเย็นวันศุกร์วันเสาร์ ใครอยากดูก็ลงชื่อจองจ่ายเงินให้เรียบร้อย
ถ้าเอาเข้าแบบเปิดรอบธรรมดา กูให้เต็มที่คงมีคนดูจริงๆไม่กี่รอบหรอกว่ะ
หนังมันดีแต่ติ่งญี่ปุ่นก็อวยกันซะเหมือนกับว่าสื่อบรรเทิงประเภทอนิเมชั่นของญี่ปุ่นคือสื่อกระแสหลักที่คนไทยชอบดู
ถ้ากูเป็นบริษัทหนังนะ จำนวนคนจริงๆอย่างน้อยๆมันต้องหมื่นคนขึ้นไปน่ะแหละ
คำนวณแบบโง่ๆเลยนะ หมื่นคน สมมติตั๋วหนังใบละร้อย สมมติใช้เวลาฉายอาทิตย์นึง ได้ล้านบาท
ในขณะที่หนังฝรั่งขี้หมูขี้หมาก็เหยียบล้านเหนาะๆอยู่แล้ว เป็นกูแบ่งโรงให้7โรงก็เยอะแล้วนะ
เหมือนที่คนข้างบนบอกด้วยว่ามันไม่ใช่อนิเมชั่นของทางตะวันตกที่ดูได้ทุกเพศทุกวัย สายตาคนทั่วไปยังไงก็มองอนิเมชั่นญี่ปุ่นไม่ต่างจากที่ฉายช่อง9ที่ให้เด็กดูหรอก อยากให้เขาเพิ่มรอบจริงคงต้องให้เต็มทุกรอบ ทุกวันนั่นแหละ
ปล.ไม่รวมกรณีมีพวกที่ลงชื่อเล่นๆแต่ไม่ไปดูด้วย
ปลล.จริงๆก็ดีใจนะว่านี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยเลยที่คนทั้งประเทศร่วมกันไฮป์อนิเมชั่นญี่ปุ่นที่ได้ฉายโรงใหญ่ขนาดนี้ คราวจิบลิยังไม่ขนาดนี้
เออ ถ้าอยากให้ฉายทั่วประเทศง่ายๆ มึงก็ไปดูกันเยอะๆ เดี๋ยวมันก็เพิ่มรอบเอง คำวิจารย์มันดีอยู่แล้ว
เหมือน train to busan แรกๆ ไม่ค่อยมีใครดูเหมือนกัน แต่คำวิจารย์มันดี+คนดูเยอะ เลยอยู่โรงได้นาน
นับถอยหลังรอเจิมกระทู้ใหม่กันได้เลยมึง 5 5 5
คิดว่าkimi no nawaจะทำเงินในไทยเท่าไรวะ ถึง50ล้านมั้ย(แต่ท่าจะยาก)
รอดูตอนฉายจริงอีกทีว่าจะเป็นไง แต่น่าจะเข็ดยากกว่าบูซานเพราะอะไรก็คงรู้ๆ กัน
ปิด
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.