ภาคแรก ทฤษฎี บริษัท tagruato ที่บอกว่า ทำแท่นขุดเจาะ ที่เลี้ยงสัตว์ประหลาดไว้ แล้วดูดเอาของเหลวจากตัวมันมาผลิตเป็นเครื่องดื่มนี่ ดูน่าสนใจ
แต่มาภาคนี้ แม่งมาเป็นยาน ต่างดาว รู้สึกแปลกไปนิดนะ อยากได้แบบภาคแรกมากกว่า
Last posted
Total of 1000 posts
ภาคแรก ทฤษฎี บริษัท tagruato ที่บอกว่า ทำแท่นขุดเจาะ ที่เลี้ยงสัตว์ประหลาดไว้ แล้วดูดเอาของเหลวจากตัวมันมาผลิตเป็นเครื่องดื่มนี่ ดูน่าสนใจ
แต่มาภาคนี้ แม่งมาเป็นยาน ต่างดาว รู้สึกแปลกไปนิดนะ อยากได้แบบภาคแรกมากกว่า
ส่วนตัวกุว่าคนละจักรวาลกัน แต่มีการใส่ easter egg เล็กๆ น้อยๆ เข้ามาให้แฟนบอยสังเกตกันเล่นๆ มากกว่า
อย่างปั๊มน้ำมันที่เคยโผล่ใน Super 8 หรือน้ำ Slusho ใน Star Trek ก็ด้วย
https://www.youtube.com/watch?v=yrK1f4TsQfM
แฮรี่กู......5555555
เมื่อวานไปดู 10 Cloverfield กับ Trumbo ไอ้เชี่ยเรื่องแรกกูหลับ -_-" ไม่รู้ไปง่วงอะไรมา แต่เรื่องสองกลับอินจนหายง่วง สนุกใช้ได้ ดูเพลินๆสะท้อนสังคม
10 Cloverfield กุไปดูมาวันนี้ก็เกือบหลับว่ะ หนังแนวเน้นไดอะล็อก ไม่เหมาะกับคนนอนน้อยอย่างแรง
แต่ตัวหนังก็โอเคนะ แต่เหมือนเดิมตามไวรัลสนุกกว่าตัวหนังจริงๆ อีก
เมาคลีแม่งเทพสัส ๆ กูยกให้เป็นหนังแอคชั่นผจญภัยขึ้นหิ้งอันดับบน ๆ ของปีนี้เลย
ใครคิดว่าเป็นหนังเด็กง่อย ๆ ของดิสนี่ย์คิดใหม่นะสัส ฉากบู๊แม่งดุเดือดถึงเลือดถึงเนื้อมาก
ปีนี้มีทั้งเมาคลี ทั้งทาร์ซาน ไม่รู้ใครจะแป้ก
รายได้นี่ไม่รู้ แต่ถ้าเอาแค่คุณภาพตัวหนังกูบอกได้เต็มปากว่าเมาคลีแม่งโคตรดี
กุบกับกุบกับกุบกับกุบกับ
น่าจะดีอยู่นะ เพราะรายได้เปิดตัวในบ้านนี่มันแซงหนังไลฟ์แอคชั่นของดิสนี่ย์ที่ออกมาก่อนหน้านี้ได้เกือบทุกเรื่อง แพ้แค่อลิซของทิม เบอร์ตัน
เดาเล่นว่ายอด WW น่าจะ ได้ราว 6-700 ล้าน ปลาย ๆ
>>60 ทาร์ซาน คิดว่าน่าจะแป้กเนื่องด้วยตัวหนังไม่ดึงดูดให้ดูได้ทั้งครอบครัว เมาคลี ยังไงก็ขายได้เพราะเป็นหนังครอบครัวเนื้อหาดึงดูคนดูทุกเพศทุกวัย กูว่า วอร์เนอร์ แม่งจับตลาดลูกค้าไม่ถูกว่ะหนังแต่ละเรื่องที่ปล่อยมาฐานลูกค้ามันดูแคบๆพิกล ใครเป็น ผู้บริหาร วะ? ถ้ากูเป็นหุ้นส่วนนี่มีตบกบาลเหอะ มึงลงทุนได้เห่ยมาก
เป็นคนที่เดาในทู้ฮีโร่ว่าเมาคลีจะแป้ก และดีใจมากๆที่ตัวเองเดาผิด
ขอให้รายได้เยอะๆนะ
>>69 อย่าง Pan นี่ตอนแรกกุก็สนใจนะ เพราะชื่อ ผกก. ล้วนๆ เลย แต่ดันออกมาเละทุกองค์ประกอบซะงั้น
วอร์เนอร์น่าจะรู้ตัวได้แล้วว่าแข่งกับดิสนีย์ไปก็มีแต่แพ้กับแพ้ ไปดันหนังแนวอื่นๆ ออกมาดีกว่า
เคยเห็นบทความฝรั่งวิเคราะห์ไว้ว่าวอร์เนอร์เป็นสตูดิโอที่มีชื่อเสียงดีในแง่ให้อิสระกับผู้กำกับสูง (ผกก หลายคนเลยอยู่ประจำสตูดิโอนี้ไปเลย ไม่หนีไปทำให้ค่ายอื่น) แต่ความเสียงก็สูงตามไปด้วย แต่ละเรื่องนี่ถ้าไม่เปรี้ยงก็เละไปเลย
ทาร์ซานนี่กูดูตัวอย่างแล้วเกลียดมาก คือเหี้ยอะไร ทาร์ซานนำทัพสัตว์ป่าเข้าโจมตีมนุษย์เนี่ยนะ ใครมันคนต้นคิดวะ แล้วไอ้ฉากฝูงวัวป่าบุกเข้าบ้านแล้วบ้านระเบิดนี่กูร้อง WTF ในโรงเลย
Hardcore Henry เข้ายังวะ
ไปดูเมาคลีล้าสัสมา ดีมากกกกกกก แต่ก็สงสารเด็กนิดๆว่ะเห็นบอกทั้งเรื่องแสดงคนเดียว แม่งน่าจะโคตรกดดันเลยนะ
ลีโอในเรเวแน้นก็ราว ๆนี้ไม่ใช่เหรอวะ
>>80 เบื้องหลังเมาคลีนะ เผื่อใครยังไม่ได้ดู
https://www.facebook.com/tvsupercinema/videos/1238465252878790/
>>75 >>77 ไม่ ประเด็นกูไม่ใช่เรื่องว่าสู้กับใครด้วยเหตุผลอะไร แต่คือทำไมแม่งเปลี่ยนจากเจ้าป่าเป็นแม่ทัพต่างหาก คือแบบ ทำไมวิธีการแก้ปัญหาของคนๆนึงมันเปลี่ยนไปได้ขนาดนั้นวระ คือในความคิดกูทาร์ซานคือคนเอาตัวเองเข้าเสี่ยงเพื่อปกป้องเหล่าสัตว์ แล้วทาร์ซานที่ปลุกใจเหล่าสัตว์ให้ออกไปรบเสี่ยงชีวิตนี่มันคืออะไรรรร
อ้าว หนังมันไม่ได้เอาเนื้อเรื่องตรงนี้มาจากนิยายหรอกเหรอวะ?
ทาร์ซานที่ดึงหนังกะโปกตัวเองบินได้ป่ะวะ
เนื้อเรื่องในหนังคือหลังจากแต่งงานกับเจน ทาร์ซานมาใช้ชีวิตในเมืองจนทิ้งสัญชาตญาณสัตว์ป่าไปแล้ว จากนั้นโดนแผนของตัวร้ายหลอกให้กลับไปที่ป่า ต้องเอาสัญชาตญาณกลับมาเพื่อช่วยเมีย
น่าจะอิงนิยายแบบหลวมๆ มั้ง
ถ้าหนัง ตย. เน้นว่านี่เป็นภาคต่อจากเนื้อเรื่องทาร์ซานที่ทุกคนรู้จัก กุว่ามันจะน่าสนใจกว่านี้
กูเพิ่งตื่น ไปดูฮาร์ดคอร์เฮนรี่แม่งเมามาก ยังกะโดนแท๊กซี่โปะยาสลบ(มุก) ระดับความเมากล้องเหนือกว่าโคลเวอร์ฟิลด์กับแบลร์วิชหลายเท่า โปรดระวัง
ไรเดอร์โกสท์+V1 รอบพิเศษ บทเละๆเทะๆ ไม่ปะติดปะต่อ ไม่ค่อยมีเหตุผล สไตล์โตเอย์แท้ๆ
เข้าไปดู ฮอนโง ทาเคชิ อย่างเดียวเลย จิโกกุโนะไทชิยังกลายเป็นเบจีต้าไปได้
เมาคลีกูได้ดูละ กูว่าดูเพลินดีนะมึง แอคชั่นดีงามตามท้องเรื่อง จังหวะในการดำเนินเรื่องดี เนื้อเรื่องไม่มีไรมาก ถึงกูจะคาดหวังมากกว่านี้หน่อย แต่ก็นะ หนังครอบครัวใสๆ จะมาให้ฆ่าโหดๆก็คงไม่ได้ ซีจีไอเทพสัสๆ แต่กูดูสามมิติตอนแรกโคตรเวียนหัว เพราะกูจับจุดโฟกัสไม่ได้ แม่งลอยๆไปหมด orz
สวะฟุจิ้นเกย์ได้แม้กระทั่งเมาคลี โรคจิต ในหัวคงไม่มีอะไรนอกจากเรื่องนี้แล้วสินะ
เมาคลีตอนแรกกูนึกว่าถ่ายในป่าด้วยซ้ำไป โหดสัสมากๆ 5555 เด็กนี่จินตนาการบรรเจิดสุดๆ
ตัวร้าย HH แม่งหยั่งกะลูเธอร์ BvS 55555 ช่วงนี้ฮิตตัวร้ายอัจฉริยะแต่เสือกทำไรไม่เมคเซนส์ไม่เต็มเต็งงี้เหรอวะ
ฮาร์ดคอร์เฮนรี่
ขอรีวิว Race
ไม่รู้มู้นี้ถูกเปล่าแต่กูเฉยๆกับเมาคลีว่ะ..คืองานภาพสวย เสียงพากย์ดี ดูแล้วคิดถึงสมัยยังเด็ก แต่กูไม่ชอบตอนจบเท่าไหร่...
สปอยนะ
.
.
.
.
คือสุดท้ายเชียร์คานก็ต้องตาย? ถ้าอย่างงี้เมาคลีหรือสัตว์อื่นก็ไม่ต่างกันดิ เหมือนแค่เลือกฆ่าคนเลวก็เท่านั้น? ทางเลือกมีแค่ฆ่าคนนี้หรือฆ่าคนนี้เนี่ยนะ..แต่เอาเหอะ กูก็คิดไม่ออกเท่าไหร่ว่าถ้าไม่ฆ่าเชียร์คานแล้วจะจบยังไง
ต้นฉบับไฟติเหางแล้วหนีไปเฉยๆ
เดี๋ยวนี้เวลาดูหนังโดยเฉพาะหนังเด็กๆนี่กูก็อดคิดมากไม่ได้ว่ะ แบบเฮ้ย เค้าร้ายเพราะอะไร ร้ายทำไม มีเหตุผลมั้ย เราเป็นคนดีจริงเหรอ หรือแค่บอกว่าตัวเองดีแล้วสามารถจัดการตัดสินใครก็ได้ เค้าทำเรา เราโกรธเราแค้น พอเราทำเค้าคืนแบบเดียวกัน เรากลับดีใจ บลาๆ กูคิดมากไปโคตรๆ555
เรื่องปกติมึง
Me before you เรื่องนี้จบเศร้าใช่ไหมเพื่อนกูสปอยฮือ
ฆ่าเหล่ะดีที่สุดหรือจะปล่อยให้มันกลับมาแก้แค้นเราอีกล่ะ
ต้องเป็นแบบ Jigsaw สิตายแล้วยังสร้างทายาทได้เรื่อยๆ
เห็นตัวอย่างTera formaแล้วหนักใจ CGกระจอกเหลือเกิน ยังกับดูพี่กระโหลกช่อง 7
เรื่องcriminalสนุกไหมวะ รอบฉายน้อยจัง
Criminal สนุกดี รอบฉายน้อยเพราะดันชนซีวิลวอร์ แองกรี้เบิร์ด ไรงี้มั้ง แต่สนุกจริงๆ นะ
(บ่นย้อนหลัง 1 วัน) SF แม่ง ฉาย High Rise แค่ CTW ที่เดียวยังไม่พอ เมื่อวานวันพุธเอาออกจากโรงให้ใช้สิทธิลดราคาไม่ได้อีก วันนี้กลับมาฉายต่อ ควย ไปดูลิโด้ก็ได้วะ
The Man Who Knew Infinity - ดี ให้อารมณ์เหมือน The Theory of Everything หรือ The Imitation Game ที่ใส่กลิ่นอายอินเดี๊ยอินเดียเข้าไป
High Rise - เมา เมามาก โคตรเมา เล่าขาดๆเกินๆ ต้องตีความเองเยอะ ไม่แนะนำสำหรับคนทั่วไป
แองกรี้เบิร์ด หมุกมะ?
http://www.metacritic.com/movie/warcraft
ลาก่อย หนังจากวิดีโอเกม
รีวิว Warcraft เละเป็นขี้เลยว่ะ ถถถถ
แปลกใจเหมือนกัน เพราะกุชอบ Duncan Jones นะ เคยคิดไว้ว่าต่อให้หนังไม่ดีมากก็น่าจะดูสนุก ไม่นึกว่ารีวิวจะแย่ขนาดนี้
เพิ่ง 4 critics เองมึง
มะเขือเน่าอยู่ที่40 ก็ยังไม่แย่มากนะ
ไปอ่านรีวิวมาล่ะ มีแต่บอกว่าเนื้อเรื่องดาร์คไม่มีโจ๊กเหมือนใน wow คือเฮ้ย original มันมาจาก warcraft ที่เป็น strategy นะเว้ย (หลายเว็บเขียนว่า original story from mmorpg กูนี่เฮ้ยยยยยย)
กูเริ่มอ่านอังกฤษออกตอน WC2 แม่งก็ซีเรียสกันทั้งเรื่องนะ แม่งมีขำอย่างเดียว กดให้แกะระเบิดตัวเอง สัส...
>>130 แต่คำวิจารณ์แต่ละรายนี่หนักพอดูเลยนะ อย่าง Variety (นักวิจารณ์ทั่วไป) กับ Kotaku (นักวิจารณ์แฟนเกม) นี่ติจนไม่เหลือดีทุกองค์ประกอบเลย ทั้งบท การแสดง ภาพและซีจี
>>132 หนังฟอร์มใหญ่แฟนตาซีแบบนี้ ปกติถ้าทำออกแนวเบาสมอง ขำๆ เอามันส์ นักวิจารณ์จะยอมให้ผ่านกันมากกว่า เพราะตัวเนื้อหามัน silly อยู่แล้ว ถ้าบทไม่ทำตัวจริงจังมาก คนดูก็จะมองข้ามความเว่อร์หรือความไม่สมเหตุสมผลของบทได้ง่าย (หนังมาร์เวลถึงได้คำวิจารณ์ดีทุกเรื่องไง) แต่ถ้ามึงจะทำหนังจริงจัง ดาร์คๆ บทก็ต้องเนี้ยบสุดๆ นั่นแหละ เขาถึงจะชมกัน
อีเหี้ย 29 แล้ว
ทำไมวะก็กูจะดูอะสัส
AC เตรียมตัวจ้า รายต่อไปปปปป
warcraft ดูจากคำวิจารณ์รอบสื่อแล้ว เสียงแตกเหมือน x-men เลย สรุปต้องไปดูเอง
กูรอmoney monster ตัวอย่างโคตรน่าดู
มีใครไม่ชมมั่งหว่า WC ขอดูคอมเม้นหน่อย
พวกมึงมีใครได้ดูมั่งวะ
เหยดเข้ ทำไม WC จู่ๆ คะแนนพุ่งพรวดเลยว่ะ
IMDb
ถ้าไม่เคยเล่นเกมหรืออ่านนิยายมาก่อนคงเข้าใจได้ยากแน่ๆ ตัวละครเพียบ พล้อตเพียบ และ....
WC รีวิว นี่เาียงแตกพอๆ BvS เบย เชื่อใครได้บ้างเนี่ย สงสัยต้องไปดูเอง
กว่ากูจะได้ดูก็วันอาทิตย์นู่น ;w;
กุไม่ได้เล่นเกมนะ เนื้อเรื่องเดินไวชิบหาย ตัดฉับๆ ไม่ค่อยอินโดยเฉพาะฝั่งมนุษย์ แต่ฝั่งออร์คทำออกมาดีมาก
CG โคตรดี
หนังสนุกไม่เสียดายตัง แต่กุก็อึนๆไม่ค่อยเข้าใจตัวละครฝั่งมนุษย์บางตัว
WC นี้เทียบเนื้อเรื่องก็ warcraft 1 เลยป่ะ(สมัยกูเล่น1-2ไม่เคยอ่านเนื้อเรื่อง พอๆกับ starcraft 1)
Warcraft แม่งเร่งเรื่องเพื่อที่จะไป ภาค3 ไวๆสินะจุดขายกับตัวละครเด่นๆแม่งกระจุกกันอยู่แค่ภาคนั้นเลยมั้ง
แม่งยังมีคนเข้าใจว่าเป็นเนื้อเรื่อง dotA อยู่อีก 55555
กูก็เข้าใจว่าฝั่งออคเป็นพระเอกนะ
กุดูจบแล้วนะ มีอะไรลองถามมาได้ (สปอยก็ได้ไม่สปอยก็ได้)
แต่ถ้าถามกุคือ กุต้องถามเมิงก่อนว่าเมิงอยากรู้โลกเรื่องวอร์คราฟแค่ไหน ถ้าอยากรู้กุว่าดูได้หนังมันไม่ได้แย่และวางรากฐานโลกได้ดี แต่ตัวละครอาจจะเยอะไปหน่อย อาจจะดูไม่ออกในภาคเดียวว่าตัวนี้จะมีความสำคัญต่อไปยังไงในอนาคต
วอร์คราฟท์ เคยเล่นงูๆปลาๆ ตอนภาค 3 อ่ะ แต่ไม่ได้สนใจเนื้อเรื่อง แต่เห็นเรื่องมันแฟนตาซีดี เลยลองไปดูแบบไม่คิดอะไร
รู้สึกนักแสดงฝั่งมนุษย์นี้ ดูไม่มีออร่าเลยว่ะ ไม่รู้มีใครคิดเหมือนกันมั้ย ส่วนฝั่งออคนี่ เป็น CG ที่ดูดีกว่าฝั่งมนุษย์เฉยเลย ชอบเรื่องคิดต่าง เพื่อรักษาเผ่าพันธุ์ว่ะ ทำให้ฝั่งออคดูเท่ดี เครื่องแต่งกายฝั่งมนุษย์นี่ แม่งรู้สึกแปลกๆว่ะ คือ ตัวออคเครื่องแต่งกายอ่ะ เออ ชอบนะ ดิบดี
อีกอย่างคือ ตอนต้นเรื่อง ที่มีการเปิดประตูมิตินี่ คือ รู้สึกเหมือนว่า ออคนี่ ก็คือ มนุษย์ต่างดาวใช่มั้ยอ่ะ เปิดวาร์ปมาโลก
คือ ไม่เคยรู้เรื่องต้นฉบับเกมมาก่อนนะ มันตามเกมเลยมั้ยอ่ะ แม่งมานึกๆ ดู ทำไมรู้สึกแม่งเหมือน หนังมนุษย์ต่างดาวบุกโลก ในแบบแฟนตาซีเลย
ฝั่ง Alliance แม่งหมองจะตาย Horde สิยั่งยืน
เคมี Queen กับสาวออคพุ่งขึ้นเยอะกว่ากับพระเอกอีก ยูริฟิลเตอร์กูพุ่งปิ๊วๆเลย
Queen นี้ตัวเล็กนิดเดียวแต่โคตรแมน+มีเหตุผลกว่าทุกคนในนั้นอีก 555
ถ้าแมวตัวนั้นหายไปนี่เป็นไงมั่งว่ะ กะจะไปดูลิโด้
ออร์คเป็นพระเอกอ่ะถูกแล้ว เพราะในเกม Thrall ก็โคตรพระเอก
ออร์คพระเอกน่ะถูกแล้ว กูจะลิสต์ตัวละครเผ่ามนุษย์ที่เด่นๆให้ดูนะ
.
.
.
.
.
.
.
.
arthas -major spoiler กูไม่พูดนะ
greymane - หน้าหีมาก หลังๆถึงกลับใจ
ตระกูล proudmoore - พ่อส้นตีนมาก ส่วนลูกก็กลายเป็นอีบ้าไปพักนึง
ตระกูล varian - พ่อโคตรโชเนนแต่ผีเข้าผีออกบ่อยมาก บทจะเหี้ยก็เหี้ยเลย ส่วนลูกเป็นโจรไอสัสกูเกลียดมึง
ชอบหนังที่ทำ Gul'dan มาได้กร่างเหี้ยๆเลย แต่ก่อนเคยอ่านเนื้อเรื่องไม่นึกจะกร่างแสรดขนาดนี้
ออร์คผมยาวที่เด่นๆ(นิดหน่อย)ช่วงท้ายๆ grommash ใช่ป่ะ
Medivh นี่ไม่ใช่ Lothar เป็นคนฆ่าเหรอวะ
ตามเนื่ิเรื่องก็ไปเป็นตี้อยู่แล้ว
ใครเป็นแฟนเกมส์ WC บ้าง กูสงสัย ORC แดง คืออะไร Orc ที่ไม่โดน เฟล ??
Orc ที่ปกตินี่จะเรียกไงดี คือผิวหนังมันออกส้มๆอ่ะ ไม่ใช่แดงใกล้เคียงพวกคนขาวที่นอนอาบแดดมากกว่าในความคิดกูนะ
ดูมาแล้วหนังใช้ได้ แต่ข้อเสียอย่างที่ทุกคนบอก เรื่องแม่งไม่อธิบายห่าอะไรเลย อย่างเรื่อง Medivh เป็นปีศาจ ถ้าตอน Khadgar เจอ Aegwynn แล้วเล่าเรื่อง Sargeras ให้ฟังมันก็กระจ่างแล้ว กูกลัวว่าหนังจะเจ๊งเพราะแบบนี้
>>168 Gul'dan กูว่าในหนังยังเหี้ยกว่านี่ได้อีก ตอนกูอ่านประวัติโคตรเหี้ยเลย กูหลงสงสารมันไปตอนเล่น Frozen Throne
>>178 ถ้าในเกมบอกไว้ว่าผิวน้ำตาล
จะว่าไป Jaina ชีหาผัวได้ยัง?
Orcs do not Lie !!!
มันแก้บทเยอะอยู่นะ
ถ้าเอาตามเกมภาคแรกโลธาร์จะเป็นพระเอก ออร์คจะเป็นตัวร้ายสัสๆ
พล็อตจะเป็นลอร์ดออฟเดอะริงฉบับออร์คข้ามมิติ
บลิสเพิ่งเริ่มมาอวยออรค์ตอน WC3 นี่เอง
WC ช่วงแรกๆ กูโอเคมากนะ ปูเรื่องดี ใส่มิติให้ตัวละครได้ดี ถึงกูจะเดาทางได้ว่าแม่งต้องมีคนทรยศ (ซึ่งก็เดาถูก) แต่ก็ยังได้ลุ้นระหว่างทางบ้าง
เห็นด้วยว่าฝั่งมนุษย์ โปรดักชั่นแม่งดรอปมาก ฉากคิงเลนขี่ม้าไปรบนี่ เหี้ย เห็นชัดๆ เลยว่าเมิงถ่ายในสตูดิโอแคบๆ ไม่มีความลึก หนา สูง ของเมืองเลย ในขณะที่ฉากโลธาร์ขี่กริฟฟินกลับมาในเมือง เหี้ย เมืองโคตรใหญ่โตมโหฬาร
*******<<หลังจากนี้สปอยช่วงท้ายๆ ถ้าไม่อยากเสียอรรถรสโปรดข้าม>>********
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
[[[[SPOIL]]]]แต่ช่วงท้ายๆ แม่งเอ๊ย มึนสัสๆ จู่ๆ ดูโลทาน(ชื่องี้ใช่มะ) ไปมอบตัวเฉย แล้วไปมอบตัวเนี่ย เสือกโดนขังในกรงโง่ๆ ขณะที่คนทั้งเผ่าโดนไล่ฆ่า เอ๋า ไหงงั้นล่ะเห้ย
ไอ้ฉากกาโรน่าจะดูดปากโลธาร์นี่ หน้าแม่งเหมือนไม่ค่อยอยากมีเมียใหม่ แต่ตอนโดนจับขังคุกเสือกจับมือถือแขนมุ้งมิ้ง เอาไงของมึงวะเห้ย
เมดิฟห์นี่ กูล่ะอยากให้มันอธิบายเหี้ยๆ ว่าแรงจูงใจคืออะไร ไปโดนไปใช้เฟลตอนไหน แล้วเกี่ยวอะไรกับการซัมม่อนออร์คมาโลกนี้ ตอนท้ายๆ ที่ช่วยเปิดประตูมิติก็เหมือนจะเกี่ยวกับไอ้พ่อมดออร์คแต่ก็ไม่อธิบายอะไรเลย ไอ้ก้อนดำๆ ที่พ่อมดน้อย(จำชื่อไม่ได้)เข้าไปแล้วเจออะไรนะ แม่มด? หรือซัมติงนั่นน่ะ สำคัญเหี้ยไรกับเรื่อง แล้วเมดิฟห์พอสติหลุดก็คางแหลมเลย แต่ยังเสือกแวะไปหาคิงเลนให้พากองทัพไปป้อนประตูมิติในสภาพมนุษย์ปรกติได้อีก ก่อนกลับมาคางแหลมที่หอคอยเดิม เอ๋า กูล่ะงงจังหวะของเรื่องแม่งจริงๆ บางเรื่องก็เข้าใจนะว่าจะทิ้งไว้ทำภาคต่อ แต่ก็รีบทิ้งเกินไปหน่อยปะ ทิ้งซะเยอะเชียว แถมยังยัดโลโก้เรื่องมาทั้งตอนเริ่มกับตอนท้ายอย่างกับกลัวคนดูไม่รู้ว่าจบแล้วนะ เพ้อเจ้อสัส[[[[SPOIL]]]]
โดยรวมมันก็โอเคในระดับกลางๆ อะ ไม่ดีไม่ชั่ว รอดูภาค 2 ถ้าได้ทำต่อนะ
อย่างที่บนๆว่าอะไม่ค่อยอธิบายอะไรเร่งๆเรื่องให้ไปถึงที่ตัวละครที่คนกรี๊ดๆโผล่มาเยอะ
อยากให้ทำเรื่องเกี่ยวกับ Illidan หว่ะ ชีวิตพี่แกน่าสงสารมาก
ตอนเข้าโรง ดูพวกหนังตัวอย่าง คนที่นั่งเยื้องหน้าข้างๆ แม่งคุยถึง HoN เฉย มีเอ่ยถึงฮีโร่ชื่อนั้น ชื่อนี้ เอาล่ะไง
ตอนออกจากโรง แม่งคนคุยกัน บ่นกัน ตูได้ยินประปรายถึงชื่อ ฮีโร่ใน DotA2 ด้วยว่ะ น่าเศร้า
ดีที่แม่งไม่มีคุยถึง LoL ไม่งัั้นแม่ง โคตรสิ้นหวัง
อารมณ์ประมาณมู้นี้เลย
ออคไม่ร้องboboก็ดีแค่ไหนแล้ว
กาโรนาแทนที่จะท้องกับเมดิฟคงไปท้องกับโลธานแทน ลูกครึ่ง3เผ่าเหมือนเดิม
ส่วนโลธานไปตายภาคหน้าแทน
Money monsterลุ้นดี แต่จบแบบอารมณ์ไม่สุดไปหน่อย
มันมี end credit เป่าวอคราฟ หรือแค่ thrall ลอยน้ำ แว้
ไม่มี จบแค่นั้นแหละ
Me before you เห็นคนอวยนักหนาว่าเสียน้ำตากันเป็นถัง กูไปดูแล้วไม่เห็นมีไร
จะเศร้าก็เศร้าไม่สุด ไม่แม้แต่จะน้ำตาซึมอ่ะ กูว่าออกหนังตลกมากกว่าด้วยซ้ำ รอบที่กูไปดูมีหัวเราะกันลั่นทั้งโรง
WC แม่งสมควรปล่อย ภาพเล่าเรื่องเป็น ทีเซอร์ชิบหาย ไอ้เรื่องกำเนิดจักรวาลWC เนี่ย
warcraft ดูแล้วเซงผู้กำกับ การนำเสนอห่วยมาก หลายๆอย่างมักง่าย จุดที่ควรจะพีค ก็ตัดไปเร็วเว่อๆ
>>185 กูจะพยายามตอบละกัน จริงๆกูก็ newbie พึ่งสนใจจักรวาล warcraft เหมือนกัน
1. ดูโรทานมันมอบตัวเพราะ แม่ทัพ blackhand สัญญาว่าจะไว้ชีวิตorcแคลน frostwolf แต่กูลดันมันอัมหิตเกินไป บอกว่าพวก frostwolf อ่อนแอเลยให้ฆ่าทิ้งให้หมด
2.เมดิฟ เป็นลูกของกาเดี้ยนคนก่อนชื่อ Aegwynn ซึ่งเมื่อนานมาแล้วเคยมีจอมปิศาจชื่อ sargeras มาบุกรุกโลกอาเซรอธ เพราะหวังในพลังของเทพทีทานที่หลับไหลอยู่ แต่ก็พ่ายให้กับ Aegwynn จอมมาร sargeras ไม่ยอมแพ้จึงแบ่งเศษเสี้ยววิญญาณใส่ลงไปในร่าง Aegwynn และเมื่อ Aegwynn ตั้งครรภ์ เศษเสี้ยววิญญาณจึงไปสิงสู่ในร่างกายลูกของนาง ซึ่งพวกที่บงการณ์ orc คือพวกเบิร์นนิ่งลีเจี้ยน และเบิร์นนิ่งลีเจี้ยนก็ถูกบงการณ์ด้วยวิญญาณแค้นของ sargeras อีกที ซึ่งวันดีคืนดีเมดิฟก็จะโดนครอบงำโดย sergeras และจำอะไรไม่ได้เลย (ที่จริงก็เป็นคนดีคนนึง)
3.ก้อนดำๆจำชื่อเรียกไม่ได้แต่ที่อยู่ข้างในคาดว่าเป็น Aegwynn แน่ๆเพราะสีตาเหมือน(สำคัญเหี้ยๆเลยนะเอาจริงๆ)
4.ตอนนั้นคงพอมีสติอยู่มั้งเลยพยายามช่วยเท่าที่จะช่วยได้ และคงคิดว่าแยกโลธาออกจากแนวหน้า เผื่อจะแหกคุกมาจัดการตัวเองได้(หรือไม่ก็แคดก้าที่จงใจสร้างพิรุจเพื่อให้มาจัดการตนเองตอนแพ้ให้กับเวทย์เฟล)
5.มันสร้างจากเกมนิ คงอยากลบภาพ dota ที่ติดตาพวกหน้าโง่ออกไปมั้ง ส่วนตัวกูนี่ชอบโลโก้เปิดปิดมากเลยนะ
Aegwynn
http://m.imgur.com/6Qosk0T
Sargeras
http://m.imgur.com/ZGUelBb
ดูแล้วรู้สึกว่า มนุษย์นี่แม่งคนดีชิบหายอ่ะ ขนาดโดนฆ่าโดนจับไปขนาดนั้น เห็นช่องทางที่จะสันติกันได้ยังยอม
คือมันขาดตัวละครที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอม ต้องรบกันให้ตายห่าไปข้างนึงอยู่ ฝั่งมนุษย์แม่งเลยดูแบนๆมั้ง
Burning Legion
http://m.imgur.com/bkphUrb
Horde มันที่บ้าสงครามเพราะว่าระบบของOrc เองมันเป็นแบบนั้นอยู่แล้วนะ กำลัง และ Honor แก้ปัญหาทุกสิ่ง
ส่วนมนุษย์เองจริงๆถ้าตามเนื่อเรื่องยังไม่ค่อยผ่านสงครามเทรทล้างโลกอะไรมากนัก เพราะว่าปกติจะมีการ์ดเดี้ยนคอยปกป้องโลกไว้ตลอดอยู่เบื้องหลังอยู่แล้ว
เหี้ย. จะพิมพ์ว่าออร์ค แม่งเปลี่ยนคำให้เฉย
กุว่าสงครามมันเป็นวัฒนธรรมของออร์คว่ะ อย่างที่ดูโรทานพูด"สงครามแก้ปัญหาได้ทุกสิ่ง"
ขึ้นภาคหน้ากูลดาลมันจะตกอัพยังไงว้า?
-โดนดูมแฮมเมอร์ท้าดวลชนะได้?(เก่งขึ้นจนชนะได้?) เดาว่าคงมีออคตัวอื่นแอบช่วย
-สอนลูกศิษย์ออคสองหัว แล้วศิษย์ดันคิดล้างครู
ส่วนโลธาคงใช้ไทม์สคิปเล่าคร่าวๆว่าทำสงครามจนโดนรุมตาย(ต้องมาแถกาโรน่าปล่อยตายได้ไงอีก)แล้วไปเปิดตัว Thrall แหกด่าน
หนังภาคสองกูอยากให้ข้ามไปบทเกมภาค3เร็วๆ
ดูมแฮมเมอร์แรงแม่งโคตรเยอะ แค่สะบัดหลังแหวน+ค้อนเบาๆออคลิ่วล้อแม่งปลิวหยั่งกะเจอระเบิด
ดูโรธานแม่ง เต็มยศ Shaman warcraft3 เลยห่มหนังหมามีกระดูกกงเล็บที่แขน ว่าแต่มึงเป็นชาแมนมึงใช้สปิริตมางัดกูดานหน่อยดิวะให้แม่งใช้เฟลอัดอยู่ข้างเดียว กูรู้ว่าอยอมใช้ความตายเพื่อพิสูจน์ความเหี้ยของกูดานโชวศักดิ์ศรีออคดวลมือเปล่าก็เหอะ
ไปดูมาละ กูว่าฉากมันทำโทนสดใสไปหน่อยว่ะ ที่บอก CG ดีนี่ดีจริงแต่ฉากไฟฟ้าที่หน้าผามันแปลกๆไปหน่อยว่ะ
แล้วที่บอกกันว่า เปลี่ยนเนื้อเรื่องนี่คือส่วนไหนวะ
ปล.กูลดาลแม่งจอมเวทสาย str นี่หว่า blizzard แม่งหลอกกู
เปลี่ยนเนื้อเรื่อง
ที่กูนึกออกก็ ดูโรทานตายเพราะถูกลอบสังหาร
Medivh จริงๆแล้วเป็นตาลุง http://imgur.com/I6grRWI ใน WoW มีซัมติงกับ กาโรน่า ส่วนในหนัง กาโรน่าไปเอากับโลธาแทน แล้วชีก็เป็นสปาย,นักฆ่าไม่ใช่ทาส คิงเลนถูกหล่อนฆ่าเพราะโดนควบคุมไม่ใช่คิงแกขอ
ไปหาเล่นภาคแรกยังไงล่ะตอนนี้
ดูโรธาน
Shaman - X
Bloodseeker - O
kyแปป กูเพิ่งไปดูme before youมา กูโคตรชอบซาวด์แทรคเลยว่ะมึง
วอร์คราฟ มันทุนสร้างเท่าไรว่ะ
ตอนนี้ รายได้ฉูดเลยใช่มั้ย
สู้ๆกูรอดูภาคต่ออยู่
กูไม่สนใจwarcraft แต่จะแช่งแม่งเพราะวันก่อนติ่งหัวควยเอามาข่มlotrนี่ละ บอกลึกซึ้งดีกว่างู้นงี้ โคตรน่าถ่มถุย กูจะคอยดูจะเทียบได้แม้ขี้ตีนlotrไหม ทั้งในแง่รางวัลและรายได้ รายได้ตอนนี้เท่าขี้หมาเลยสะใจสัสๆ
ต่อ จริงๆกูสงสัยเหี้ยๆว่าติ่งwarcraftเป็นส้นตีนอะไรจะต้องยกมาข่มlotrวะ โดนกระแสด่าจนสมองกลับรึไง คะแนนมะเขือก็โคตรพ่อโคตรแม่สวะ19% อย่างbvsที่ว่ากากแต่คะแนนแรกๆยังดีกว่านี้เยอะ นึกว่าเห่าหอนใส่หนังออสการ์+โคตรทำเงิน+เทพนิยายระดับขึ้นหิ้งได้แล้วหนังพวกมึงจะเทพขึ้นสินะ
ทำไมตูคิดว่าเนื้อเรื่องแม่ง การ์ตูน , คอมมิค สัสๆ เลย เนื้อหาก่อนหน้านี้ รู้สึกธรรมดาๆ พื้นๆมากเลยนะสำหรับตู
หลังๆ มีปรับเนื้อหา เนื้อเรื่องเพิ่มมาใหม่เรื่อยๆ แต่ก็ยังเฉยๆ นะ ตูสนใจแต่เกมเพลย์ และความสนุกของตัวเกมมากกว่า
ส่วนเนื้อเรื่องนี่ เฉยๆ จริงๆ ว่ะสำหรับตู (ส่วนตัวนะ)
แปลกนะ lotr ตอนฉายครั้งแรกกูก็ไม่เคยอ่านนิยายไปดูกับพ่อเพราะอยากดูหนังแฟนตาซี ไม่รู้ห่ารู้เหวอะไรของจักรวาลแม่งซักอย่างว่ามีอะไรมีที่มายังไงมั่ง จบออกมากูว่าสนุก หลายๆคนก็ว่าสนุก
Warcraft ก็เหมือนกันเริ่มเรื่องแม่งก็ไม่ได้เล่าเหี้ยอะไรจักรวาลของมันมากมายเลย เส้นเรื่องก็ว่ากันแค่ ณ เวลาปัจจุบันแล้วก็ดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆเหมือนกัน จบโรงออกมากูรู้สึกสนุกกว่าดู Lotr อีกเพราะคราวนี้กูรู้จักจักรวาลมันดีกว่า
แล้วทำไม คนแม่งด่า warcraft กันจังวะ ยิ่งพวกคริติกในมะเขือนี่ อ่านแล้วแม่งแบบต้องให้ห้อยหัวจากเพดานดูด้วยรึไง -_-"
อื้อหือออ เพิ่งรู้ว่ามีคนกล้าเอามาเทียบกับ lotr ด้วย
กุว่าคนส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะแฟนเรื่องอะไร เขาก็ยอมรับกันนะว่า lotr คือหนึ่งในเสาหลักที่ทำให้เกิน genre แฟนตาซีแนวนี้ขึ้นมาบนโลก
มึงจะชอบเรื่องอื่นมากกว่ามันก็ไม่ผิดหรอก แต่การข่มว่าเรื่องของกุดี ส่วน lotr กากอ่านแล้วหลับอ่ะ ทำให้เมิงดูโง่ ดูเห่อหมอยไปหน่อยนะ
ปล.กุไม่ได้เล่นเกม แต่ดูหนัง
บอกเลยว่าหนังเล่าเรื่องโคตรกาก เหมือนคนเขียนบทไม่เคยเรียนวิธีเขียนบทมาก่อนด้วยซ้ำ
ทั้งการแนะนำให้คนดูอินกับโลกแฟนตาซีในเรื่อง การสร้างความผูกพันกับตัวละคร ทุกอย่างแม่งเฟลหมดเลย (แต่ดันแคนโจนส์นี่เครดิตเก่าพี่แกก็ดีนะ เดาว่าบทร่างแรกๆ อาจจะโอเคกว่านี้ แล้วโดนตัดโดนใบสั่งจนเละทีหลัง)
ซึ่งน่าเสียดายมาก เพราะงานภาพงานออกแบบต่างๆ ทำออกมาดีมาก ดูมีเอกลักษณ์แตกต่างจากพวก lotr ชัดเจน แต่บทแม่งก็พังพินาศอย่างที่เห็น
>>237 จริงๆ มึงไม่จำเป็นต้องเป็นนักวิจารณ์หรือตีลังกาดู มึงก็น่าจะพอรู้สึกได้นะ ว่าระดับของบท การแสดง การตัดต่อ องค์ประกอบหนังต่างๆ มันห่างชั้นขนาดไหน
แต่ถ้ามึงเน้นจะดูฉากตัวละครซีจียิงเวทย์ ดูสัตว์ประหลาดสู้กันเป็นหลัก มึงจะชอบ Warcraft มากกว่าก็ไม่แปลก (ซึ่งก็ไม่ผิดอะไรหรอก)
Lotr มันเน้นเรื่องข้อมูลซัพพอร์ทเนื้อๆเน้นๆ คำบรรยายละเอียดเหี้ยๆ อธิบายยังกะเป็นเรื่องตำนานจริงๆ เช่นเรื่องนี้ๆมาจากหนังสือนี่ๆ รวบรวมโดยนายคนนี้ๆๆๆ เอาแค่บทแรกว่าด้วยฮอบบิทยาวเป็นสิบหน้าก่อนเข้าเนื้อเรื่องก็โหดสัสละ ไอ้ที่ว่าอ่านละหลับนั่นแหละ อารมณ์แบบมึงอ่าน ปวศ ไง ถ้าไม่รู้ว่าคือนิยายนี้คนอ่านแม่งสับสนนึกว่าเป็นตำนานในโลกเราจริงแน่ๆ กูว่าส่วนนี้อะจุดแข็งสุดของ lotr เนื้อเรื่องไม่หวือหวาแต่รายละเอียดเยอะจนมันทำให้เชื่อว่าจริงได้ มันคือการสร้างจักรวาลจากสมองคนๆเดียว warcraft ทำได้ปะละ แค่ทีมงานที่สร้างนี่กี่คนละวะ5555
กูดูหนังกูสนที่บทก่อน ซึ่งกูดูทั้ง 2 เรื่องแบบไม่รู้เหี้ยอะไรมาก่อนเลย กูว่า lotr น่าเบื่อกว่าว่ะ คือมันน่าเบื่อทั้งคู่ เนือยๆ เล่าไปตามเส้นเรื่อง wc มีดีกว่าตรงที่มีหักหลังเปลี่ยนฝ่ายหลายครั้งให้เซอไพรส์นิดนึง(นี้สสสสสสนึงจริงๆ) คือแบบกูไม่อินเลย ไม่รู้สึกเอาใจช่วยคาแรคเตอร์ไหนในเรื่องทั้ง 2 เรื่องเลย ใช้เวลาปูตัวละครน้อยมาก ตอนอีโบโลเมีย(ชื่อนี้ป่าววะ)แม่งทรยศแล้วกลับใจได้ก็ไม่สัมผัสฟิลลิ่งของแม่งได้ซักนิดเลย อยู่ๆอีอาราก้อนก็ไปหยิบดาบทำหน้าเศร้าทำไม อีคิงกับพี่เขยมัน(wc)บ่นเหี้ยอะไรถึง 6 ปีก่อนก็ไม่ยอมบอก บลาๆๆ หนัง(กูเน้นว่าหนัง เพราะกูมาดูหนัง อย่าไล่ให้กูไปศึกษา lore)ทั้ง 2 เรื่องมีจุดที่ใส่มาโดยไม่อธิบายแบบนี้เยอะ มาก! เยอะมาก! สำหรับกูทั้ง 2 เรื่องคือสอบตกเรื่องบททั้งคู่ โดยมี wc ดีกว่านี้สสสสสสสสสสสสนึง
หมายเหตุ นี่กระทู้หนัง เลิกเอาจักรวาลทั้งก้อนของแต่ละฝั่งมาข่มกันได้แล้วเว้ย
เรื่องแต่งหลายเรื่องเอาพื้นฐานมาจากตำนานพวกนี้นะ เอามาอ้างอิงได้อยู่ แต่มันอ้างพลาดว่าเอามาจากไบเบิ้ล
>>245 กูว่าปัญหาที่มึงละ สมัยกูดูlotrเป็นแค่เด็กเห่อหมอยกูยังรู้ว่าโบโรเมียมันหลงแหวนตั้งแต่เห็นทีแรกละ ทั้งออกตัวแรงว่าต้องใช้แหวน ระหว่างเดินทางยังปิ๊งๆกะแหวนอีก พอการเดินทางมันกดดันขึ้นๆ แม่งก็ยิ่งบ้า มาระเบิดเอาตอนที่ต้องตัดสินใจไงว่าจะเอาแหวนไปมอร์ดอร์หรือกอนดอร์ แต่เนื้อแท้แม่งก็คนดี พอออร์คบุกมันถึงช่วยไง ละอาราก้อนนี่ก็เข้าใจว่าแม่งคือคนดีหลงผิดเลยเสียใจ ราวนี้มั้ง
อาราก้อนเรื่องแม่งก็บอกชัดๆ ไม่ใช่เหรอว่าเป็นทายาทกษัตริย์คนที่ตัดนิ้วเซารอน แต่กลายไปเป็นคนพเนจรไม่ได้ปกครองเมือง ส่วนดาบก็เป็นดาบที่เคยใช้ตัดนิ้ว (มีแฟลชแบ็กให้ดูด้วย) มีอะไรงงตรงไหนวะ
เอาจริงๆ ตอนกุดู lotr ครั้งแรกนี่กุก็ยังเด็กนะ ยอมรับว่าไม่ได้เข้าใจเนื้อเรื่องทั้งหมดหรอก แต่ดูแล้วรู้สึกว่าหนังมันดีในองค์ประกอบ ทั้งการแสดง การออกแบบฉากที่ไม่กิ๊กก๊อกแต่ก็ไม่ซีจีเกิน (ส่วนฮอบบิทนี่ซีจีหนักเกินไปมาก เหมือนวิดิโอเกมไปเลย) และหนังมันกล้า take time ในการปูตัวละคร ไม่ใช่จะเร่งข้ามๆ ไปฉากแอคชั่นอย่างเดียว
WC มันบีบเร่งเรื่องเกิ๊นน อีกนิดหนึ่งก็เหี้ยนระดับ BVS ละ
อวย WC แล้วถ่มถุยว่า LOTR กาก หลับ โถๆๆๆ นี่หรือคุณภาพของโม่งดูหนัง
ขำตั้งแต่ที่ติ่งwarcraft บอกงานCGดี ไม่แพ้ลอร์ดล่ะ
สัสเอ้ย ถ้าซีจีแพ้หนังเมื่อ10ปีก่อน ก็กากจนไม่รู้ว่าจะกากไงแล้ว
>>255 ทุกคนรู้จักแต่ไม่มีใครกล้าไปยุ่งไงมึง หนังมันก็บอกตั้งแต่ตอนไปตั้งค่ายใกล้ไอ้หุบเขาผีนี่แล้ว ว่าพวกผีเคยหักหลังราชากอนดอร์สมัยก่อนเลยถูกขังเอาไว้ในนั้น อารากอนหลังจากได้ดาบ + กำลังใจจากเอลรอนด์ ว่าจงไปเป็นพระราชาซะ เลยตัดสินใจเข้าไปขอให้ผีช่วยรบ เพื่อชดใช้ความผิดที่เคยทำ จะได้ไปที่ชอบๆ ได้ นี่กุพิมพ์ตามที่จำได้จากหนังเลยนะ ในหนังสือเป็นยังไงกุลืมไปแล้วด้วยซ้ำ
เท่าที่กูสังเกตนะ หลายครั้งที่คนไม่ชอบเพราะดูไม่รู้เรื่องเอง+โง่ซะเยอะ บางอย่างเฉลยในเรื่องแล้วแต่ไม่คิดตาม ละครไทยถึงไม่ต้องให้คนดูคิดอะไร บอกทุกอย่างออกมาตรงๆ
>>255 เรื่องมันซับซ้อน เพราะอารากอนเป็นเชื้อสายของราชวงศ์ฝ่ายเหนือที่อาณาจักรมันล่มไปก่อนตั้งนานแล้ว พวกที่เหลืออยู่ก็อยู่เป็นพรานดูเนไดน์ กอร์ดอนยังมีกษัตริย์อยู่จนองค์สุดท้ายโดนพวกนาซกูลหลอกให้ไปสู้ด้วยแล้วหายไปเลย มีแต่สจ๊วตดูแลมาตลอด สิทธิ์มันเลยเหมือนขาดตอน แถมเดเนธอร์นี้เกลียดอารากอนฉิบหาย ถ้าไม่ตายไปก่อนอาจจะกั้นไม่ให้อารากอนขึ้นครองได้
>>258 ไม่ใช่ หมายถึงหนังทุกเรื่องเลย ลองย้อนดูสิว่าคำถามบางอย่างมีคำตอบแล้วคนยังมองไม่ออกเลย อย่างxmp โพนี่ตื่นเพราะมัวร่าลืมปิดประตู คนยังเข้าใจว่าตื่นมาเพราะคนสวดเลย ภาพมันบอกละเอียดHD 1080pแล้วนะตอนนั้น
ไอ้หลับนี่ก็เหมือนกัน ไม่รู้ดูมาหรือฟังหลวงจีนหอไตรเล่าถึงบอกว่าอยู่ๆ กองทัพผีก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ ถ้าไม่ถือป้ายบอกมันคงมองไม่ออกว่าหนังสื่ออะไร
พวกมึงเถียงกันได้ไร้สาระมากอ่ะ =w="
ก็ยอมรับเหอะ WC แม่งสอบตกในแง่ตัวหนังไม่สามารถอธิบายให้เคลียร์ได้ในหนังนอกจากแฟนเกม หรือต้องไปนั่งเปิดเนตหาเอานอกจากดูตัวหนังมาอธิบาย
เอาแค่มีเผ่าคุยกันไม่รู้เรื่องอีกาโรน่าเสือกคุยได้ไม่มีปี่มีขลุ่ยพอยังแต่แม้กระทั่งภาษาดาวอาเซลอตเสือกคุยได้ด้วย
นักแสดงฝั่งมนุษย์ก็จืดมาก พระราชาแม่งก็พยายามยืนบุคลิกแปลกๆให้เหมือนใน wc1 มากไปเหรอไง
ถ้าหนังใช้เล่า wc1-2 แบบคร่าวๆเป็นหนังสั้นสรุปแล้วเปิดตัว Arthus(ตอนยังไม่เกรียน) หรือ Thrall(ตอนแบเบาะจนแหกค่ายหนีก่อสงคราม) ประมาณทำแยกฝั่งแล้วเอามาบรรจบทีหลังก็ได้
>>262 วิธีอะไรวะ เสนอมามั่งดิ๊ จะให้อาราก้อนนั่งพล่ามความกากของบรรพบุรุษให้ทุกคนฟังหรา หรือเอาตามนิยายให้เอลรอนมานั่งเล่าเรื่องในที่ประชุม กูว่าหนังแม่งยิ่งอืด ยืนยันว่ะแบบนี้พอแล้ว การที่บอกว่ากษัตรย์กาก เสียบ้านเมืองจนมาถึงรุ่นอาราก้อนมันชัดเจนเข้าใจได้อยู่แล้ว รายละเอียดว่าเสียเมืองไงที่ไหนเมื่อไหร่ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้นเลย ถ้าแค่นี้ต้องขยายงั้นไม่ต้องเล่าหมดตั้งแต่หลอมแหวน รบเซารอน เซารอนแพ้รอบแรกจมเกาะนูเมนอร์ ตั้งพันธมิตรบลาๆๆๆเลยมั่งละ เรื่องพื้นเพของพวกพ่อมดด้วย บัลร้อกอีก คนแคระเอลฟ์และเผ่าห่าไรอีก ห่า เละพอดี
WC ผกก.แม่งกากสัสๆ
LOTR ภาคแรกเราว่า ไม่ค่อยมีอะไรมาก แถมชวนหลับอีก ฉากแอคชั่น รบฟัน ทำออกมาเฉยๆนะ แถมฉากใช้เวทย์ก็ดูงั้นๆ ดูปลอมๆ เหมือนแค่มาปล่อยแสง วับๆ ตัวออคยังทำออกมาเป็นคนใส่ชุดอยู่เลย เล่าเรื่องไม่เคลียร์ ต้องไปอ่านหนังสือเพิ่ม
WC แค่ภาคแรก เราว่าแม้สเกลเนื้อเรื่องจะใหญ่มากๆ แต่ดำเนินเนื้อเรื่องเร็ว ฉับไว เข้าใจง่าย ถึงแม้จะมีเรื่องราวก่อนหน้ามายาวนานเยอะแยะ แต่ก็ไม่ต้องไปทำการบ้านเพิ่ม ไม่ต้องไปหาข้อมูลอะไรเลย เล่าเรื่องเคลียร์ในเรื่องของมันเองในภาคนี้ ตัวเนื้อเรื่องได้ทำหน้าที่ของมันดีที่สุด คนที่ไม่เล่นเกมมาก่อนก็เข้าใจได้ง่าย ว่าตัวละครไหนเป็นยังไง และในอนาคตตัวนี้จะเป็นยังไง
ฉากแอคชั่น ถือว่าจัดเต็ม ดูดุดันยิ่งใหญ่ มีการจัดขบวนรบดูเป็นการรบของจริง ฉากการใช้เวทย์ดูสมจริง และดูเป็นการใช้เวทย์จริงๆ มากกว่าปล่อยแสง ดูเป็นหนังแฟนตาซีขนานแท้กว่าอีกเรื่อง ตัวออคทำออกมาดี ดูแข็งแกร่ง ดิบ เถื่อน CG สมจริง
จริงๆก็ไม่อยากให้เทียบกัน แต่เรื่องนึงมันเก่าแก่ และเนื้อเรื่องจบลงไปแล้ว มันตันแค่นั้น ไม่มีอะไรใหม่ สเกลเนื้อเรื่องระดับท้องถิ่น
ในขณะที่อีกเรื่อง เนื้อเรื่องยังไม่จบดี อัพเดตตลอด สเกลยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ระดับจักรวาล ก็เลยเทียบกันยากนิดนึง คงต้องรอให้จบสมบูรณ์แบบก่อน ค่อยเอามาเทียบกัน
อ่อ ไม่ต้องเสือกรอให้จบก่อนค่อยเทียบนะ แถโคตรพ่อง lotrเก็บออสการ์ได้ตั้งแต่ภาคแรก รายได้ก็มหาศาล ละภาคแรกที่เหี้ยขนาดนี้ภาคต่อดีไงก็ขึ้นหิ้งไม่ไหวชัวร์
http://pantip.com/topic/35247044 รายได้ทุบสถิตในจีนแล้ว
เห็นด้วยกับบางความเห็น เรื่องความยิ่งใหญ่ของสเกลเนื้อเรื่อง WC ทำได้ดีกว่าจริงๆ
ส่วนอีกเรื่องชวนหลับมากกว่าจริงๆ ยิ่งบอสใหญ่เป็นแค่ดวงตา ส่องไปมา ทำอะไรไม่ได้เลย ง่อยเหมือนกับตัวร้ายหนังมาร์เวล
ทั่วโลก69ล้านนี่นะ55555 เพจเทพคอนแม่งทำใจกันแล้ว เฮในกะลาไปเหอะถุย อ่ออย่าลืมbvsก็เปิดตัวทุบสถิตินะจร๊ะะะะะะ
อาจจะรายได้เปรี้ยงในจีนก็ได้นะ
Geekจีนชอบอะไรเห่ยๆแบบนี้อยู่แล้ว5555
คนจีนที่แห่ไปดูนี่ ได้เยอะๆนี่สงสัยเจ้าของบริษัทชาวนาwowให้โบนัสลูกน้องไปดู
มึงพูดแล้วก็นึกออกเลยว่าที่นั่นเป็นแหล่งขุดทองใหญ่ของเกม
กุชอบ WC มากกว่า LOTR นะ ทำไมต้องโดนถ่มถุยหว่า งง
อ่อพึ่งเห็นซอรี่ว่ะ แต่ทำไมไปว่ามันเป็นสวะ DC วะ
wc นักแสดงฝั่งมนุษย์+อีกาโรน่าแม่งแสดงได้กากสัส
ถ้า starcraft เป็นหนังกูก็อยากเห็นนะว่าเกาหลี ไปถล่มดูขนาดไหน
รายได้เยอะที่จีนก็ไม่แปลก เพราะหวังต้าเพิ่งซื้อLegendary Pictureไป เห็นว่าปูโรงฉายกระหน่ำในนั้นมาก (คิดภาพmajorกับหลวงพี่แจ๊สเอา) ทุกที่ฉายแต่warcraft เพราะงานนี้หวังต้าได้เงินเต็มๆ
คว้าออสก้า 11 ตัวให้ได้แล้วค่อยมาคุยเถอะ bobo
เออ มึงอย่าลืมนะว่า เลเจนดารี่ ตอนนี้แม่งเป็นของจีน ถ้าWCมันฮิตที่จีน มันอนุมัติทุนสร้างได้ทันทีเลยนะ เหมือน Pacific Rim ไง
ซึ่งกูว่า มาแนวนี้น่าจะได้ภาคต่อแล้วล่ะ
อย่าหวังถึงระดับฟาส7เลย เพราะfile HD ของwarcraftหลุดมาวันสองวันแล้วว่ะ 55
ถ้าจะคุยเรื่อง WC หรือ LOTR
ไปตั้งคุยอีกที่ดีมั้ย พวก หนัง แฟนตาซี ไรงี้?
ถ้ารายได้ดีมีภาคต่อก็โอเคแหละ ก็ดูภาคหน้าต่อไป ก็คงจะปรับตามฟีดแบคให้ดีขึ้นได้
160 กว่าล้านแล้ว ภาคต่อมาแน่นอนแล้ว
ลุ้นต่อไปว่าจะพุ่งทะยานต่อไปอีกแค่ไหน
ต้นทุนเท่าไหร่
มึงว่านักแสดงที่รับบทพวก อาทัสกับอิเดี่ยน (กูสะกดถูกไหม) จะมาดีหรือมาเหี้ย
รายได้วันศุกร์นี้เดี๋ยวก็น่าจะรู้วันนี้ไม่ก็พรุ่งนี้แหละ แต่ก็คาดการณ์ไว้ว่าน้อยกว่าคอนจูริ่ง 2 นะมึง
ไอ้พวกเหี้ย lotr หายไปไหนวะมาดิ้นสิไอสัส หนังกูจะมีภาค 2 แล้วนะว้อยยยย 55555+ พวกเมิวได้เจอกูเตะกระถางธูปพวกมึงทุกครั้งที่ wc ออกใหม่แน่ๆไม่ต้องกลัว ไอ้พวกขยะ middle earth
หายหัวกันหมด โคตรสะใจ
The Fellowship of the Ring was released 19 December 2001. It grossed $47 million in its U.S. opening weekend and made around $871 million worldwide
Keep trying kid
เปิดตัวในบ้านได้ไม่ค่อยน่าประทับใจนะ อันดับสองบ็อกซ์ออฟฟิซเอง
แถมรายได้กะปริบกะปรอยมากถ้าเทียบกับหนังฟอร์มยักษ์เรื่องอื่น
อารมณ์นี้ถ้ามีภาคต่อกูว่าเอาเจ๊กมาเล่นทั้งเรื่องแล้วตั้งหน้าตั้งตาทำตลาดในจีนจะรุ่งกว่าว่ะ
พวกเผ่าเอลฟ์ที่ปรากฏให้เห็นตอนประชุม ก็หน้าตาเอเชียอยู่แล้ว ไม่น่ามีปัญหา
หลักฐานความห่วยของหนัง ก็คือการที่ติ่งต้องไล่คนวิจารณ์ไปอ่าน lore อ่านหนังสือ อ่านคอมมิก เล่นเกม ฯลฯ นี่แหละ
ทำไมกูนึกถึงคาเงโร่
ต่อ ล่าสุดคะแนนหนังสวะพวกมึง%ขึ้นเทียบเท่าbvsสำเร็จแล้วว่ะ น่าดีใจเนอะ https://www.rottentomatoes.com/m/warcraft/
หนังมันก็ทำได้สมบูรณ์ดีนิ มึงไม่เข้าใจเพราะโง่เองป่าว
lotr ภาคแรกกุดูแล้วหลับ
wc กุไม่หลับแต่ก็ไม่อินมาก
สรุปกากทั้งคู่
lotr มันได้ออสกาเยอะเว่อขนาดนั้นเพราะมันแฟนนิยายมันอวย แล้วนิยายมันเก่า แฟนแก่ๆที่มีผลต่อการตัดสินก็เยอะ เหมือน starwars น่ะ ภาคล่าสุดก็ใช่ว่าจะดีเด่ แต่ได้แรงอวยแฟนรุ่นเก่า
ประเด็นหลักคืออุตสาหกรรมหนังในจีน wcเป็นแค่ตัวอย่างที่ยกมา น่าภูมิใจมาก แปะ แปะ 😂
ได้ออสการ์เยอะเพราะแฟนนิยายอวย?? มึงลองไปเปิดคำวิจารณ์ตามสื่อดูนะว่าเขาชมเรื่องอะไรกันบ้าง แต่ถ้าตั้งใจโทรลก็ขออภัย
ปล.ประเด็น WC นี่ทำให้กุตกใจกับคุณภาพโม่งห้องดูหนังมาก 5555
WC อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่ได้ดีมาก แต่ก็ถือว่าตัวหนังทำหน้าที่ของมันได้สำเร็จในตัวมันเองแล้วนะ
ไม่ต้องไล่คนดูให้ไปตามอ่านเอาเอง เอาแค่ในหนังก็ตอบทุกประเด็น ตรงโจทย์เสร็จสรรพ ครบถ้วน ดูแล้วเข้าใจ ก็ถือว่าหนังมันทำหน้าที่ได้ดีแล้วล่ะ
หนังดี ไม่จำเป็นต้องได้รางวัลเสมอไป ก็เห็นๆ มีหนังดีๆ หลายเรื่อง มีชื่อเข้าชิง แต่ก็ไม่ได้รางวัลเยอะแยะ WC เองก็เป็นหนึ่งในนั้น
ติ่งเกมส์มันก็สวะมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เคยพัฒนาที่ไหนเล่า
warcraft ดีกว่า LOTR แค่ CG กับ เอฟเฟค แค่นั้นแหละนอกนั้นไม่ได้ขี้ตีน ทั้งดราม่าที่ไม่อิน ฉากไคลแม็กที่ไม่สุด เพลงประกอบจืดจาง เช่นเดียวกับนักแสดงฝั่งมนุษย์ที่เล่นได้ไม่สมบทบาทเลย ที่กุชอบก็มีแค่พวกออคทีทำออกมาได้ดีเลย กับงานอาร์ตที่ดึงเอกลักษณ์มาจากเกมได้สุดๆแม้ว่าจะดูลูกกวาดไปหน่อยก็เถอะ(ส่วนตัวกุอยากให้โทนหม่นๆกว่านี้)
CGเหี้ยกว่าก็ไม่รู้จะพูดไงแล้ววะ
lotr ดีกว่าแค่เพลงประกอบกับการแสดง เฉพาะคนนะ ออร์คwc > คนlotr > คนwc นอกนั้นพอๆกัน ดราม่าก็ไม่อินเท่าๆกัน ไคลแมกซ์ก็ไม่สุดเหมือนกัน
หมายเหตุ : กูไม่ใช่ติ่งเกม ไม่เคยเล่นซักภาค
งั้นกูจะรอออร์คได้ออสก้าละกัน
พวกมึงอินกับพวกหนังแนวแฟนตาซี/ฮีโร่ทั้งหลายแหล่ด้วยเหรอวะ? กูดูเอาสนุกเท่านั้นนะแนวนี้
พันดริฟท์นี่มันมีหน่วยอวยดิสนี่ย์เปล่าวะ บางทีก็ดูแล้วรำคาญ
วอร์คราฟนี่คืนทุนละ ที่จีนแม่งได้เต็มๆ ส่วนนอกจีนก็ถือเป็นกำไรไป ตอนนี้น่าจะเกือบๆร้อยล้านได้(ถ้าตามที่คำนวนๆกันคือเมกาหักน้อยกว่าครึ่งส่วนประเทศอื่นหารครึ่ง จีนได้เต็มๆ)
"กำไร" 100 ล้านนี่มีสิทธิไปต่อรึเปล่าวะ?
รอประกาศภาคต่อก่อนแล้วค่อยว่ากัน
แต่เห็นเว็บหนังบางเจ้าฟันธงแล้วว่า ถ้า WC ได้สร้างภาคต่อเพราะกำไรในจีน จะเป็นมิติใหม่ของเกณฑ์วัน "ความสำเร็จ" สำหรับหนังฮอลลีวู้ดเลย
กำไรแล้วเหรอวะ เห็นรายได้ WW ยังค้างเติ่งที่สามร้อยสิบล้านเหรียญนิด ๆ อยู่เลย
คิดแบบขอไปจากทุนสร้างร้อยหกสิบล้านนี่จะ break even ให้ได้มันต้องอย่างน้อยสามร้อยยี่สิบล้านนะ
>>345 มิติใหม่คือจีนกลายเป็นตลาดหลักเหมือนอเมริกา เพราะตลาดโลกมันหลายประเทศรวมกัน กระจายตัวเกินไป ทำเงินเยอะแต่ไม่ค่อยได้เงินเต็มเม็ด มีไม่กี่ประเทศที่หนังทำได้เงินเกินร้อยล้านดอลลาร์แถมต้องเป็นหนังใหญ่ระดับ titanic avatar avengers ด้วย ตลาดจีนมีศักยภาพทำเงินสูงมาก ดูอย่างเงือกสาวปังๆของเฮียโจว เก็บได้ 500 ล้านดอลลาร์ระดับเดี่ยวกับบล็อกบัสเตอร์
พวกมึงเลิกถ่มถุยกันและกันได้แล้ว กุขอเปิดประเด็นใหม่หน่อย ใครไปดูthe nice guysมาแล้วบ้าง กุเห็นคนอวยเยอะชิบหาย ไม่รู้โอเวอร์อวยหรือมันดีจริง โม่งตัวไหนดูมาแล้วบอกกุที กำลังอยากไปจัดซักหน่อย บิบิ
ตามหัวข้อเลยมีหนังไรน่าดูแนะนำมั่งพรุ่งนี้กูว่าง
กูเพิ่งดูไซอิ๋วสองมา ไปคุยตรงไหนได้บ้างเนี่ย...
>>349 ถ้าจะไปดูเพราะคิดว่าเป็นหนังตลกมันพูดยากว่ะว่าสนุกหรือไม่สนุก เพราะทุกคนรับมุกไม่เหมือนกัน สิ่งที่คนอื่นขำมึงอาจจะไม่ขำ สิ่งที่มึงขำคนอื่นอาจจะเฉยๆ ก็ได้ กูดูแล้วชอบ กูสนุก กูขำ ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่ไม่ชอบแม่งกากดูไม่รู้เรื่อง คนที่ไปดูด้วยบอกขำไม่สุด แต่กูว่าบันเทิงแล้ว ไม่ใช่หนังแนวขำก๊ากๆๆ ว่ะ
การสืบก็แบบบ้านๆ อ่ะ ไม่มีลูกเล่นอะไร ไม่มีเทคโนโลยี ถามว่าบทมันฉลาดมากกกกอย่างที่อวยกันมั้ย ไม่ถึงขนาดนั้นว่ะ สืบกันจืดๆ เลย มันไม่ถึงขนาดที่มึงจะตีเข่าฉาดร้องเช้ด ฉากบู๊ก็ไม่ได้ตื่นตาตื่นใจท่าสวยอะไร แต่สำหรับกู กูดูได้ไม่เบื่อ ดูว่าสืบจนจบแล้วมันจะเป็นไง มันจะช่วยผู้หญิงได้มั้ย กูดูไปได้เรื่อยๆ จนมันจบน่ะแหละ
สุดท้ายสวะWCแม่งก็ได้แค่นี้ รางวัลไม่ต้องลุ้น รายได้ก็แค่ลุ้นทำภาคต่อ แหม่ทำภาคเดียวแทบเอาตัวไม่รอด LOTRแม่งถ่ายทีเดียว3ภาคยังกวาดออสการ์ฉลุย รายได้ก็สูงลิบลิ่วในยุคที่ตลาดจีนยังไม่ค่อยมีด้วยซ้ำ ดูไงก็เทียบไม่ได้แม้ขี้ตีนจริงๆว่ะ ขากถุยส์
ทีแรกกูจะไม่พูดแล้วนะ เพราะเห็นว่าหยุดตีกันแล้ว แต่มีพอตัวข้างบนมาอีกแล้ว กูขอพูดหน่อยเหอะ
บางทีกูก็เบื่อโม่งที่ต้องมีไอ้ตัวปากหมามาจุดชวนให้ชาวบ้านตีกันทั้งที่มู้คุยกันดีอยู่แล้ว กลายเป็นมู้เสียและมีแต่พวกเกรียนสวะคุยทับโชว์เหนือว่าเรื่องไหนเจ๋งกว่าเหมือนจะทำให้ควยพวกมันใหญ่ขึ้นงั้นแหละ แล้วแม่งจะต้องมีโทรลอย่างไอ้ตัวข้างบนมาปั้นกระแสให้ตีกันเป็นระยะอีก
กูชอบทั้ง lotr และ warcraft กูไม่มีปัญหาว่าเรื่องไหนดีกว่ากัน กูแค่โคตรเบื่อพวกแม่งที่มาทำมู้เละอีกแล้ว
>>356 กูไม่ได้อวยjacksonว่ะ กูอวยlotr 55555 ฮอบบิทเทียบกะlotrแม่งแพ้เละอยู่แล้วหนังสือเล่มเดียวขยายเหี้ยไรตั้ง3ภาค ห่างไกลจากlotrไตรภาค แต่การที่wcแม่งชนะไม่ได้แม้แต่ฮอบบิทยิ่งแสดงให้เห็นว่าโคตรกาก
อีกอย่างพูดงี้กูก็พูดได้ว่าถ้าwcไม่ได้ความนิยมเพิ่มจากเกมก็ขายไม่ออกในจีนและรายได้จะขี้กากสวะกว่านี้อีกหลายเท่าแน่ๆ
The Nice Guys มันตลกเสียดสีเป็นส่วนใหญ่ว่ะ ต้องเข้าใจ ref 70s ของมันด้วยพอประมาน แต่กุเข้าไปแล้วดูก็แค่หึๆ ไม่ถึงกะขำก๊ากอะไร
Maurice White ตอนฉากปาร์ตี้นั่นตัวจริงป่ะวะมึง
ผกก โรแลน อัมเมอร์ริช เปิดวอร์กับชาวหนังมาร์เวลและดีซี ก่อนที่ID4R จะเข้าแค่3วัน
พ่อมหาจำเริญ
ยังไงวะ
>>365 http://www.ign.com/articles/2016/06/20/independence-day-director-roland-emmerich-mocks-marvel-movies
ด่าแต่มาร์เวล แต่ไม่ได้ด่าดีซีตรงๆ แต่กูอ่าน กูก็รู้สึกถูกกระทบว่ะ555
เออ พูดถึงผ้าคลุมบินได้ใครๆก็คิดถึงซุปนะ
หรือไม่ก็เพราะเกลียดมาตั้งแต่แรก ไม่ได้สนใจ เลยเข้าใจผิดว่าฮีโร่ทั้งมวลบนโลกเป็นของมาเวลแบบหลายๆคน
กูพึ่งไปดูID4มา เนื้อเรื่องไม่เท่าไร แต่ตัวละครพวกมึงไร้ประโยชน์ฉิบ เหมือนจะมีปมดราม่าอะไรให้เล่นก็ปล่อยไว้เฉยๆ
ออกมาซะเยอะแต่ตัวเด่นไม่มีเลย เลียมเฮมสเวิร์ธนอกจากหล่อก็ไม่น่าเอามาโปรโมท
สรุป ดูก็ดีไม่ดูก็ได้ คงไม่ถึงขั้นเสียดายตังค์ แต่ไม่น่าจดจำเท่าไร
กู370 เผื่อมีใครถามว่าไม่ได้ดูภาคแรกจะรู้เรื่องไหม ก็รู้เรื่องแหละ กูจำเนื้อเรื่องภาคแรกไม่ค่อยได้ยังรู้เรื่องเลย
แต่มึงอาจจะงงเรื่องตัวละครหน่อย แต่ก็พอปล่อยๆผ่านไปได้เพราะไม่ค่อยสำคัญกับเนื้อเรื่อง
แต่คิดว่าถ้ามึงดูภาคแรกมาก่อนน่าจะNostalgiaกว่านะ เหมือนดอรี่
เคยดูแต่ภาพแรก ภาค 2 กับ 3 ยังไม่เคยดู ว่าจะหาย้อนดู แต่หาดูยากมาก
เดี๋ยวดูภาค 4 ไปเลยล่ะกัน
มันมีหนังคู่แข่งชื่อเย็นตา4ด้วยนะ มึงอย่าลืมไปดูละ
ถือว่าผ่านในฐานะหนังแอคชั่น นอกนั้นก็ไม่เท่าไหร่
ตัวละครไม่มีประโยชน์จริง ใส่เป็นตัวเดินเรื่องเฉยๆ
ทิ้งปมภาคต่อไว้ด้วย
ตกลงดอรี่มันดีหรือไม่ดีวะ เห็นในโม่งบ่นกันว่าไม่ดี แต่ในพันทิปอวยชิบหายเลย
>>375 กุไปดูมาแล้ว ดอรีไม่เทียบเท่าท็อปฟอร์มพิกซ่าสำหรับกุ กุยังชอบมหาลัยมอนเตอร์มากกว่าเรื่องนี้ด้วยซ้ำ ไม่ต้องเอาไปเทียบinside out หรือwall Eเลย แต่ก็โอเคสำหรับมองในแง่หนังครอบครัว ประเด็นเรื่องอาการผิดปกติก็ทำได้ดีในระดับหนึ่งนะ แต่ก็อย่างที่ข้างบนบอร์ดอนิเมชั่นบอกแหละ หนังไปไม่สุดสักทางอะ มันเวอร์จนเควายอารมณ์กุไปอะเหมือนให้พ่อแม่พาไปเด็กดู ถือว่าดูได้เพลินๆถ้าไม่คิดอะไรมาก บางจังหวะจะหลับ ญาติกุไปนอนในโรงหนังตอนท้ายๆเรื่อง5555 กุมีคนเลี้ยงไงไม่ได้กระเหี้ยนกระหือรือไปดูเอง
ปล.ถ้าอยากได้ฟีลnostalgiaก็พอได้อยู่นะ
ปล.2 piperหนังสั้นต้นเรื่องแม่งงานเทพ ดูแล้วขนลุกมากกว่าดอรี่ทั้งเรื่องอีก
ปลาหมึก op ไปหน่อย จริงๆ มัน op เพราะเซตติ้งมันอยู่ในโลกมนุษย์เนี่ยแหละ ถ้ามันเป็นโลกในทะเลคงไม่ขัดใจขนาดนี้ กับตอนที่ยัดเรื่องใส่ปากดอรี่พูดนี่ยัดมากกก
ถ้าจะให้กูอวยคือ เอาเรื่องยากๆ มาพูดได้เก่งมาก แล้วทำออกมาได้ดีด้วยติดตรงแค่เรื่องมันต้องแฮปปี้เอนด์ ทุกคนเลยxxxxxxxกันหมด ถ้าจบแบบ bitter sweet อาจจะดีกว่านี้
ทำดอรี่เสร็จ กูอยากให้เอา John Carter มาทำภาคต่อวะ
ถึงหนังจะเจ๊งก็เหอะ แต่กูถูกใจตอนหักมุมตอนจบมาก (เพิ่งดูจบทางเคเบิ้ล แบบไม่รู้เหี้ยอะไรมาก่อนเลย)
ไม่แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีอะไร ไม่มีความอยากกลับไปดูอีกรอบ หรือซื้อแผ่นเก็บแบบFrozen Zootopia หรือ Toy story
เหมือนดูการตูนเวอร์ๆลูกกวาดๆ มาพร้อมข้อคิดสวยๆแบบเด็กๆ แนวที่ห้ามไปใช้เหตุผลอะไรมากตอนที่ดู
คิดถึงทอมแอนด์เจอรี่ หรืออีกระรอกในice ageไว้ซะ ว่ามันเป็นแบบนั้นในความเป็นจริงไม่ได้ มันเป็นการ์ตูนเด็กๆ ให้มันเวอร์ให้สาแก่ใจ
กุว่าไดโนเสาร์ภาพสวยดีนะ สวยเทพ แต่นั่นแหละข้อดีอย่างเดียวของเรื่อง55555
>>382 เนื้อเรื่องมันเกี่ยวกับไดโนเสาร์หลงทางหาทางกลับบ้านแค่นั้นจริงๆ
ตัวละครทุกตัวยกเว้นตัวเอกที่เหมือนจะมีอะไรแล้วก็ไม่มีอะไร เนื้อเรื่องที่เหมือนจะสอนอะไรแต่ก็เสือกไม่มีอะไรอีก
การกำกับ การบิ๊ว การดำเนินเรื่องราบเรียบเป็นกระดาษA4 แล้วอยู่ดีๆบทจะจบก็ให้เจอทางกลับบ้านเฉย
ไม่ต้องนับเนื่องพิกซ่าหรอก กูว่าเรื่องนี้ดรอปลงไปหลายขั้นเลยจริงๆ ยิ่งกว่าค่ายบลูสกายหรืออิลลูมิเนชั่นอีก
ส่วนเรื่องภาพสวยกูว่ายุคนี้เทคโนโลยีมันไปไกลแล้ว ปัจจุบันมันเป็นมาตรฐานง่ายๆไปแล้วว่ะ
ที่เหลือคือต้องสู้ด้วยเนื้อเรื่อง การกำกับ ว่าจะกินใจคนดูได้แค่ไหน
ปล. หรือกูแก่เกินจะดูอนิเมชั่นฝั่งอเมริกาแล้ววะ เรื่องล่าสุดที่กูดูแล้วพอรู้สึกอยู่บ้างก็อินไซด์เอาท์
ปลล. OP = Overpowered ตาม>>383
ปลลล. กูรอหนังสัปดาห์หน้าละ I am a hero แม่งต้องเชี่ย(คำชม)แบบไททันชัวร์
>>386 เหยมึง หนังจากการ์ตูนญี่ปุ่นหลายเรื่องก็ทำดีนะเหวย Bakuman,Kenshin งี้ ปรสิตกับไททันก็พอถูไถ(แต่ไททันนี่ไม่ชอบก็เกลียดไปเลย)
แนวดราม่านี่กูว่าญี่ปุ่นถนัดนะ แต่พอแนวแฟนตาซีหรือไซไฟนี่ฉิบหายแน่ๆ I am a hero กูก็ลุ้นๆอยู่
ส่วนFMAกับปอบโตเกียวนี่กูทำใจไว้ละ........
>>387 การ์ตูนแฟนตาซีที่เอามาทำหนังคนแสดงชาติไหนก็ดูพิลึกทั้งนั้นแหล่ะ เพราะดีไซน์มันการ์ตูน ถ้าเนื้อเรื่องปัญญาอ่อนมันจะดูเข้ากัน แต่ถ้าเนื้อเรื่องจริงจังมันจะดูผิดที่ผิดทางไปหมด หนังฮีโร่ฝั่งเมกายุคหลังถึงปรับดีไซน์ให้ดูสมจริงมากขึ้น แต่ฝั่งญี่ปุ่นหลายเรื่องมันพยายามคงความ....ฉูดฉาดเอาไว้ มันเลยไม่ไปไหน บางเรื่องเสือกเร่งสีสดกว่าต้นฉบับอีก อย่าง Terra Formars เงี้ย แม่งเอ๊ย แปลงร่างแล้วยังกะตกถังสี ดีไซน์นี่สัตว์ประหลาดชุดยางอุลตร้าแมนยังดูเรียลกว่า
มันต้องกินทามะคนแสดงสิวะ
วันนี้กูไปดูSing streetมาว่ะ หนังแม่งดีสัตว์ ประทับใจเหี้ยๆในรอบหลายเดือน เพลงก็เพราะฉิบหาย
ใครติ่งจอห์น คาร์นีย์หรือชอบOnceกับBegin again มึงอย่าพลาดนะ หนังเข้าจริงสิ้นเดือนนี้
Finding Dory ก็เหมือน How to Train Your Dragon 2 อะ หนังภาคต่อที่พยายามให้อารมณ์เหมือนภาคแรกทุกอย่าง ดูแบบไม่คิดอะไรก็สนุก แต่ถ้าเทียบกับภาคแรกจะเห็นเลยว่าด้อยกว่ามากๆ
id4 คนเขียนบทชื่ออะไรวะ กูจะไม่หนังที่ไอ้เหี้ยนี่เขียนบทอีกเป็นอันขาด
Id4 แม่งนึกว่ากูดูสตาร์เทรค
เพิ่งดูtake shelterตอนจบ ไม่ค่อยเก็ตเท่าไรว่ะ ตกลงครอบครัวแม่งตายกันหมดใช่ป่าววะ แล้วฝนเหลืองมันหมายความว่าไง เห็นหลายคนhypeกันเยอะว่าจบหักมุมโคตรๆดูแล้วก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากมาย แต่ตัวนักแสดงเล่นโคตรเทพ แบกหนังเอาอยู่แทบทั้งเรื่อง บรรยากาศก็เจ๋งดี
>>396 ผิดมู้เปล่าวะมึง..
ช่างแม่งเหอะไหนๆก็ถามแล้ว
-สปอยไม่ได้ดูอย่าอ่าน-
ที่มันบอกว่าหักมุมโคตรๆกุคิดว่าเป็นเพราะแม่งหลอกไปรอบนึงแล้วไงว่าพายุมีจริง แต่เป็นแค่พายุเล็กๆ พระเอกก็เหมือนยอมรับแล้วตอนนั้นว่าคิดไปเอง สุดท้ายไอ่พายุที่พระเอกเห็นในนิมิต(ฝนเหลือง)มันก็เกิดขึ้นจริงๆอีก..อันนี้ส่วนตัวกุเดาตอนจบได้แต่ไม่คิดว่ามันจะเล่นงี้จริงๆ ตายหมดมั้ยมันก็ปลายเปิดอะมึง
ปล.ฉากโต๊ะอาหารอย่างเทพ กุชอบบรรยากาศเหมือนมึง แม่งอึดอัดดี
ทาร์ซานยังไม่มีรีวิวมาซักที
เน่าจนไม่อยากให้นักวิจารณ์ดูอีกเรื่องป่าวว่ะเนี้ย
กูไปดูดอรี่มาล่ะ บทตอนท้ายกากสัสหมามาก คือถ้าดูแบบไม่คิดอะไรมันก็สนุก ดูแบบติดให้แฟนซีนิดๆ ก็พอรับได้
แต่บทของมันนี่อะไรวะ กูงง คนเป็นโรค short-term memory นี่หลังๆ ทำไมจำคำพูดคนอื่นได้ง่ายจังวะ
หลังๆ นี่อาการแทบไม่มีเลยนะ ไม่เหมือนแรกๆ ที่แม่งลืมตลอด เดี๋ยวลืมชื่อมั่ง ลืมทางมั่ง ตอนหลังแม่งจำได้ทุกอย่าง
ต้องไปช่วยคนนู้น ต้องไปหาคนนี้ ต้องทำยังงี้ จำได้หมด อิห่า
คือโคตรโชเน็น ทุกอย่างดูสวยงามมีสายรุ้งกับยูนิคอร์นมาบินอวยพรให้ แฮปปี้เอนด์ดิ้งแบบอุปสรรคเหี้ยไรก็มาขวางกั้นไม่ได้
ทั้งเรื่องกูชอบอิปลาหมึกที่มัน op ตัวเดียวนี่แหละ
>>396 สปอย
พระเอกเห็นนิมิตจริง ว่าจะเกิดพายุและครอบครัวจะฉิบหาย สังเกตทุกครั้งที่ฝันว่ามีพายุจะต้องมีเรื่องแย่ๆเกิดกับคนในครอบครัว
ถึงฉากจบจะปลายเปิด หากเป็นไปตามนิมิต ครอบครัวพระเอกไม่รอดแน่
ความเจ่๋งของหนังเรื่องนี้คือมันสามารถทำให้เราคิดกลับไปกลับมาชั่งน้ำหนักตลอด พระเอกบ้าไปเองหรือเห็นลางบอกเหตุจริง
สามารถดูและคิดตามได้สองแบบ ถ้ามึงเป็นคนเชื่อเรื่องศรัทธาเป็นธงหลัก ก็จะลุ้นว่ามันต้องมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นแน่ แต่อดคิดอีกมุมไม่ได้ หรือมันบ้าจริงๆวะ
แต่ถ้ามึงเป็นคนยึดหลักความจริงเชื่อเฉพาะในสิ่งที่เห็นตรงหน้า ก็จะปักธงคิดว่าพระเอกป่วยแน่ๆ เมือไรมันจะยอมรับและเข้ารับการรักษาซะที
ยิ่งจากในประวัติพระเอก มีแม่ป่วยเป็นโรคจิต กรรมพันธุ์แหงๆ แต่อดสงสัยไม่ได้ ทำไมฝันร้ายเรื่องเดียวซ้ำจังวะ ฝันทีไรมีปัญหากับคนรอบข้างทุกที
ฉากทะเลาะกันในงานเลี้ยง แล้วพระเอกสติแตกลั่นเรื่องพายุออกไป คืนนั้นพายุเข้าจริง เช้าถัดมาดันเป็นแค่ฝนฟ้าคะนองรุนแรงธรรมดา
พระเอกยอมรับว่าตัวเองป่วย หมอให้ไปพักร้อนกับครอบครัว ยาวจนมาฉากจบ เป็นช่วงที่เล่นกับความคิดของคนดูสองกลุ่มได้เป็นอย่างดี
ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ ว่าใครคิดถูกกว่ากัน ถึงแม้ฉากจบจะเฉลยว่ากลุ่มเชื่อเรื่องศรัทธาเป็นฝ่ายถูก แต่ไม่มีความรู้สึกว่าตัวเองชนะเลย
สรุปสาระสุดท้ายของหนังเรื่องนี้ก็คือ "อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด"
ID4R นี่เป็นหนังเรื่องแรกของปีเลยที่กูเข้าไปดูแล้วรู้สึกเสียดายตังสัสๆ
กูว่าสนุกกว่าหนังของไม่เคิล เบย์เยอะนะ
13hour bengaze ของไมเคิลเบย์นี่สนุกปะวะเห็นมีแต่คนบอกสนุกไม่แย่ พวกมึงว่าไง
>>406 กูว่าดีเลยล่ะ ถึงอารมณ์ความสมจริงมันไม่เท่า Lone Survivor แต่สถานการณ์ความสับสนวุ่นวาย สถาวะกดดัน
ใครเป็นใคร มาจากไหน คิดจะทำอะไรไม่รู้ หนังให้อารมณ์เหล่าได้ดี
หนังเบย์ยุคหลังดูดรอปๆคนบ่นว่าแย่ (แต่หนังโคตรทำเงิน) เพราะบทเห่ย พี่แกคงเซ็งตัวเองเหมือนกัน
13 ได้บทดี แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นดีมากหรอก เป็นหนังทหารใส่ดราม่าตามสูตร (ภาระครอบครัว , เจ้านายงี่เง่า , ประสานงานล่าช้า)
จุดน่าสนใจคือมันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเมื่อไม่นานมานี้ เอามาเล่า ดูเหอะ ดูแล้วแทบไม่นึกถึงว่าเป็นหนังของเบย์ด้วยซ้ำ 55555
วันนี้กูไปดูI am a heroมา หนังแม่งง่วงสัตว์ หรือกูง่วงเพราะความเหี้ยของพันธมิตรไม่รู้ นอกบทอะไรนักหนาน่าโคตรน่ารำคาญ
แต่ช่วงสุดท้ายของหนังอย่างมันส์ ใครจะดูแนะนำเสียงซาวด์แทร็กเท่านั้น
ปล.จบเหมือนจะมีภาคต่อ แต่ก็เหมือนจะให้บริบูรณ์ได้(ในกรณีหนังเจ๊ง) แต่ถ้ามีต่อนี่ หลังๆมังงะมันเริ่มไปไกลแล้วนะ......
ใครที่ว่าTarzanท่าทางจะเน่า คงเดาถูกว่ะ มะเขือเน่าออกแล้ว
WBเตรียมมีหนังเจ๊งที่รุนแรงกว่าอลิซได้เลย555
ที่คะแนนมันเน่าเพราะก่อนหน้านี้มีเมาคลีมาเป็นตัวเทียบอยู่แล้วรึเปล่าวะ
ว่ากันตามคุณภาพโดยเนื้อแท้ของมันคงไม่แย่เท่าไหร่มั้ง...แต่ที่เห็นจากตัวอย่างแล้ว CG แม่งเห่ยจริง ๆ
>>412 เท่าที่อ่านดู ไม่ค่อยมีใครเอาไปเปรียบกับเมาคลีเลยว่ะ สรุปที่อ่านมา2-3คนคือ
- พล๊อทจืดชืด น่าเบื่อ ไม่สนุก ไม่ลุ้น (คะแนนในฐานะหนังป๊อปคอร์นสนุกๆ ตก)
- บทที่ยังยึดในเรื่องWhite supremacyในทวีปแอฟริกาแบบเดิมๆของทาร์ซานอย่างน่าเกลียด ไม่มีการพลิกแพลง (คะแนนฐานะหนังที่ให้แง่คิดโลกสวยอะไรซักอย่าง ตก)
- พระเอกแสดงแข็งมาก (โถ อีริคกู)
- แอ็คชั่นไม่ปัง (คะแนนในฐานะหนังแอ็คชั่น ตก)
- นางเอกเป็นDamsel in distressทั้งเรื่อง จนแทบไม่ได้เข้าฉากกับทาร์ซานเลย (คะแนนในฐานะหนังรักโรแมนติก ตก)
- CG กับฉากป่าดงดิบพอจะผ่าน
กุคงไม่ดูทาร์ซานนะ แต่กุไม่ชอบบทวิจารณ์ที่เอาเรื่อง white supremacy มาเป็นประเด็นในการด่าว่ะ แล้วมึงจะให้หนังดัดแปลงยังไง เปลี่ยนทาร์ซานให้เป็นคนดำงี้เหรอ? หรือจะให้คนแอฟริกาจัดการพวกตัวร้ายกันเอง ทาร์ซานอยู่ง่อยๆ จนจบเรื่อง? คือกุเข้าใจนะว่าต้นฉบับมันแต่งขึ้นมาด้วยแนวคิดคนขาวเป็นใหญ่ แต่ถ้ามึงจะทำหนังทาร์ซานโดยไม่ให้มีแนวคิดแบบนี้เหลืออยู่เลย มึงก็ห้ามทำให้ทาร์ซานเป็นคนขาว ห้ามเขียนบทให้ทาร์ซานช่วยหรือเป็นผู้นำคนท้องถิ่น ซึ่งถ้าจะเรื่องมากขนาดนั้นมึงไม่ต้องทำแต่แรกเลยดีกว่า
ถ้าว่ากันจริงๆ เมาคลีมันก็แต่งขึ้นมาด้วยแนวคิดฝรั่ง > คนพื้นเมืองเหมือนกันนั่นแหละ (สัตว์ = คนอินเดีย) แต่เพราะมันนำเสนอในฐานะหนังเด็กมั้งเลยไม่โดนด่าประเด็นนี้มาก
ทั้งนี้ กุงงกับ WB ตั้งแต่มันคิดจะเอาทาร์ซานมาทำหนังใหม่แล้ว ส่วนตัวกุรู้สึกว่าม้ันเป็นตัวละครที่น่าเบื่อมาก ไม่ได้มีคุณค่าด้าน nostalgia เท่าไหร่ หนังเวอร์ชั่นก่อนๆ ที่ทำมาก็ห่วยหมดเลยด้วย
ทาร์ซานถ้ามึงไม่แต่งใหม่กิ้ง ตย.แบบ ทาร์จัง ไปเลย
ยังไงก็เจ๊งเพราะมุขเดิมๆวะ อันนี้ รวมถึงพวกเอาหนังสือเก่าๆแทบทุกเรื่องมาทำหนัง
>>415 กูเชื่อว่าบทหนังถ้าฉลาดๆหน่อย จะทำให้ประเด็นนี้เบาลงได้นะ แต่ยังไม่ได้ดูและไม่คิดจะดู เลยไม่รู้ว่าที่เค้าด่านี้คือระดับไหน แต่กูคิดอยู่แบบที่มึงถามนะ จะสร้างมาเพื่อ??? จะทุ่มทุนสร้างมาให้คนด่าให้บัญชีติดลบเล่นทำไมว่ะ 555 คือประเด็นนี้มันเลี่ยงยากมากๆที่จะไม่ถูกด่า แล้วยังเป็นหนังที่กูเห็นหน้าหนังแล้วกูขอเดาเลยว่าเจ๊งแน่นอน (กับเบนเฮอร) มันเป็นหนังรีบูตหรือหนังภาคต่อที่คนไม่ได้อยากจะดูเท่าไร จนอยากถามอีกรอบว่าจะสร้างมาทำเพื่อ???
หรือ ทาร์ซานมันเป็นตัวละครที่คนชื่นชอบ และให้ค่ายมั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าจะทำเงิน? (ทุนสร้างไม่รวมงบโปรโมตเรื่องนี้อยู่ที่ 180 ล้าน)
>>419 ดูจากซีจีในหนังตัวอย่างแล้ว กุว่าโดนตัดงบกลางทางแหงๆ
ประมาณว่า ผู้บริหารสตูดิโอดูคัทแรกแล้วรู้ว่าเจ๊งแน่ เลยให้งบแค่พอทำให้เสร็จๆ เอาออกฉายได้
อันที่จริง กุไม่เข้าใจเลยว่าหลังๆ WB คิดอะไรอยู่
นี่ไม่นับเมาคลีเวอร์ชั่น WB ที่กำลังจะเข็นออกมาด้วยนะ คือต่อให้ออกมาดีก็ไม่มีทางดังสู้ของดิสนีย์ได้แน่ๆ อะ
>>420 กูมองว่า WB ชอบลงทุนแปลกๆมานานแล้วล่ะไม่ใช่แค่สมัยนี้หรอกคือเข้าใจว่าค่ายมันออกแนวหนังอินดี้ทุนหนา(เน้นตามใจ ผกก.)แต่บางครั้งมันก็ต้องดูด้วยนะว่าหนังแต่ละเรื่องแม่งขายได้ไหมไม่ใช่สั่งไฟเขียวแบบมั่วนิ่มไม่ได้ดูตาม้าตาเรือเลย พอหนังแม่งเจ๊งหรือโดนด่าหนักๆ ผกก. แม่งก็โบ้ยทางค่ายอีก(ไอ้อ้วนแจ๊คสัน เป็นต้น)ทั้งที่แม่งก็ตามใจชิบหายแล้วนะ เรียกว่าเสียหายหลายทอดเลย
>>421 กรณีฮอบบิท กุว่ามันก็มีปัญหาหลังฉากกันจริงๆ นะ อย่างนึงที่กุเชื่อแจ็คสันคือเวลาเตรียมงานมันน้อยมากๆ สุดท้ายพวก orc หรือฉากต่างๆ เลยต้องหันไปใช้ CG หมด ไม่ได้ใช้เมคอัพหรือ practical effect เยอะเท่า LOTR จนกลายเป็นประเด็นให้คนดูด่า ว่าหนังแม่งเหมือนคัทซีนวิดิโอเกม
หรืออย่างทาร์ซานนี่ จำได้ว่าเคยมีข่าวหลุดมานานแล้วว่า ผกก. ตึงๆ กับพวกโปรดิวเซอร์อยู่ พอได้งานกำกับ Fantastic Beasts (เพราะสนิทกับเจเค) เลยสะบัดตูดกลับโลกเวทมนตร์ไปเลย ไม่ได้สนใจมาช่วยคุมงานโพสต์ / ตัดต่อเท่าไหร่ด้วยซ้ำ
กูทำใจทาร์ซานไว้ละ คิดว่ามันต้องง่วงเหงาหาวนอนชัวร์ วันสองวันนี้คงไปดูจะได้ด่าได้เต็มปาก
ปล.พูดถึงเมาคลีดิสนีย์ กูค่อนข้างเฉยๆว่ะ แต่หมากับบากีร่าน่ารักฉิบหาย อยากได้มาเลี้ยง
>>422 แจ๊คสัน แม่งเรื่องมากเองตั้งแต่ตอนนั่งแท่น โปรดิวเซอร์ แล้วมันยืดเยื้อมากจน ลุงเดลโตโร่ แม่งหนีพองบบานปลายและยืดไปเรื่อยๆแม่งเลยต้องลงมาทำเองนี่ไงส่วน ทาร์ซาน แม่งก็สมควรจะตึงอยู่หรอกเพราะโปรเจคต์แม่งไม่น่ารอดมาแต่แรกล่ะ WB แม่งไฟเขียวเข้าไปได้ไงก็ไม่รู้ ไม่ได้จะมานั่งเข้่าข้างอะไร WB นะแต่เรื่องคุมเข้มตอนถ่ายกับการกำหนดเดเไลน์เนี่ย WB ถือว่าโคตรจะยืดหยุ่นเลยนะเทียบกับ บ. อื่นน่ะแต่ก็เพราะแบบนี้แหล่ะมันถึงมีปัญหาบ่อยแม่งอิสระเกิน
Tarzan ทุนสร้าง180ล้านเลยเหรอว่ะ สัส ซัมเมอร์ปีนี้ หนังทุนหนาแม่งเจ๊งกันเยอะไปป่ะ5555
ทำไมกูตะหงิดๆทำหนังเจ๊งเพื่อแอบแดกงบวะ
สงสัยวิจารณญาณของWB จริงว่ะ ให้เงินเยอะขเกือบๆ200ล้านได้ไงว่ะ เพราะDavid Yates แม่งฝีมือไม่ได้ดีเลิศเท่าไหร่เลย ที่
Hp ออกมาดี เพราะต้นฉบับมันดี แฟนคลับแม่งเยอะ กับงานโปรดักชั่นมันสร้างโลกเวทย์มนตร์ได้สวย หนังมันเลยพอดูได้ แต่ถ้าเอาเรื่องการกำกับและการเล่าเรื่อง. กูว่าหนังแฮรี่ไม่ได้ดีอะไรเลย
ดูทาร์ซานมาละ เอาจริงๆ หนังก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คาดไว้ แต่เชยมาก จืดมาก ดูจบออกมาก็อืมๆ จบแล้วนะ แต่ไม่ถึงขนาดสาปส่งคนเขียนบทกับ ผกก แบบตอนดู ID4
พอมาลองคิดๆ ดู หนังแม่งก็พังเพราะองค์ประกอบเกือบทุกภาคส่วนจริงๆ นะ
แนวคิด - แม่งผิดตั้งแต่สตูดิโอคิดจะปลุกผีตัวละครน่าเบื่อๆ แถมมีประเด็นให้คนสมัยใหม่ด่าอย่างทาร์ซานขึ้นมาบนจอแล้ว ไม่รู้คิดอะไรอยู่
บท - เหมือนคนเขียนบทไม่รู้ว่าจะเขียนเป็นดราม่า โรแมนติก หรือหนังแอคชั่นป๊อบคอร์นดี เลยไปไม่สุดซักอย่าง หนังแตะประเด็นที่เหมือนจะน่าสนใจหลายอย่างแล้วเล่าข้ามไปหมดเลย สรุปแม่งเลยกลายเป็นหนังผจญภัยที่น่าเบื่อมาก ดูแล้วแอบเสียดายนะว่าถ้าหนังเล่นประเด็นจิตใจทาร์ซานหน่อย ว่าทำไมไม่อยากกลับเข้าป่า (รู้สึกผิดที่ฆ่าลูกหัวหน้าเผ่า? กลัวความเป็นสัตว์ป่าในตัวเอง?) แล้วบิ๊วไอ้หัวหน้าเผ่านั่นให้เป็นตัวร้ายหลักไปซะ เรื่องจะน่าสนใจกว่านี้เยอะ
ผกก - ถ้าดูเป็นฉากๆ ไป การกำกับก็ไม่ถึงกับห่วย แต่พี่แกเล่นเล่าเรื่องแบบทื่อๆ ไปเรื่อยๆ พอมารวมกับบทที่แม่งน่าเบื่ออยู่แล้ว หนังเลยพังพินาศไปเลย
นักแสดง - พระเอกเล่นห่วยมาก เหมือนจะพยายามเล่นเป็นคนที่แสดงออกไม่เก่ง เพราะใช้แต่ภาษากายเป็นหลัก แต่ฝีมือไม่ถึงเลยกลายเป็นท่อนไม้ ส่วนตัวอื่นแคสต์มาดีนะ แต่บทไม่ส่งเลย wasted หมด
สรุป คนที่สมควรโดนด่าสุดคือ WB หนังพรรค์นี้สมควรโดนพับเก็บตั้งแต่บทร่างแรกแล้วด้วยซ้ำ ไม่ใช่มาทุ่มเงิน 180 ล้านให้เจ๊งเล่นๆ แบบนี้
ID4 บทการ์ตูนเกินไปว่ะ ขับเครื่องบินสู้เอเลี่ยนเครียดจะตายห่า มันยังมีอารมณ์คุยกันเป็นต่อยหอยอีกเหรอ เฟคเหลือเกิน แต่ถ้าดูเอาบันเทิงก็โอเค รู้สึกคิดถึงวันวานเมื่ออดีตกาลอันไกลโพ้นที่ดูภาคแรก
ทาร์ซานนี่ชอบซามูเอลอ่ะ ตลก เนื้อเรื่องมันดูมีไอ้นั่นนิดไอ้นี่หน่อย ใช้คนยันลิงไม่คุ้ม นึกว่าลิงจะมีบทเยอะกว่านี้เห็นเด่นหราบนโปสเตอร์ บางฉากไม่รู้จะมีมาทำไม แล้วก็ไร้พีค แต่ถ้าไปดูกล้ามผู้ชายก็จัดว่าโอเค นี่คือกูวิจารณ์อย่างจริงใจ
Sing Street สนุกสัส เพลงก็เพราะ กูชอบมาก กูว่าดีกว่า Begin Again อีก นี่ยังอยากไปดูอีกเลย
เป็นหนังแนวไล่ตามความฝันที่ดีอ่ะ กูชอบ
ส่วนเรื่อง The Shallow เห็นคนอวยเยอะ.. กูดูล่ะ แรกๆ ออกดี หลังๆ แฟนซีชิบหาย ดราม่าก็ไม่สุด
แต่กูให้คะแนนเต็มเรื่องพวกความน่ากลัวฉลามกับฉากลุ้นๆ แหวะๆ ไรงี้
I am Hero มันหนังกึ่งๆตลกรึเปล่าวะ ตัวอย่างที่เมเจอร์เอามาเสียงพากย์พันธมิตร ดูแล้วมันขำๆฮาๆยังไงไม่รุ
หนังโจวซิงฉือไม่มีพันธมิตรนี่ไม่ฮาเลยนะ กูเคยเสียงจีนซับอิงแม่งฝืดมาก
แตฮีโร่มันก็ไม่ใช่หนังเครียดอยู่แล้ว มึงไม่ต่องใส่ใจอะไรมากหรอก
พวกหนังตลกต่างชาติส่วนมากเราไม่ค่อยขำกันหรอกยกเว้นพวกเส้นตื้น
ไปดูทาร์ซานมาวันนี้ โคตรแย่เลย
หนังแม่งน่าเบื่อสัดๆ แถมไม่มีอารมณ์ร่วมอะไรเลย
ไม่อินทั้งลิง ทั้งคนป่าเลย ที่แย่สุดคือลิงแม่งดูไม่มีส่วนร่วมในเนื้อเรื่องเลย
ถ้าไม่รู้จักทาร์ซานมาก่อนกุคงคิดว่ามึงจะใส่มาทำไม(วะ)
แล้วแต่ละฉากแม่งก็ไม่สุด มีปมเยอะแต่ไม่ยอมขยี้
นึกว่าจะเล่นเรื่องจอห์นกลับเป็นทาร์ซานเป็นหลัก แตถึงเวลาจริงๆ ก็ม่มีฉากที่ทำให้รู้สึกว่า เออ หมอนี่มันกลับเป็นทาร์ซานแล้วนะ เลย
ฉากร้องโห ฮี่ โห่ที่ควรจะเป็นจุดเด่นก็เอาไปเป็นเสียงแบ็คกราวตอนเจนคุยกับตัวร้ายซะงั้น
เอาจริงๆ มีเรื่องอยากให้ด่าเพียบ แต่คิดไม่ออกละ
เพิ่ม - คนป่าในเรื่องแม่งพูดภาษาอังกฤษเป็นหลักรึไงะ พูดได้ไม่ว่า แต่อย่าอุทานเป็นภาษาอังกฤษได้มั้ย ดูขัดฉิบหาย
ไปดู BFG มา ไม่น่าเชื่อว่าแม่งเนือยยิ่งกว่าทาร์ซานอีกว่ะ ขนาดเป็นงานของสปีลเบิร์กนะ
มีดีแค่ภาพสวย แอคชั่นสร้างสรรค์ดีบางฉาก นอกนั้นน่าเบื่อมาก ไม่น่ากลัว ไม่ตลก ไม่ซึ้ง ดึงเสน่ห์ของต้นฉบับออกมาไม่ได้เลยซักอย่าง
กุว่างานของ Roal Dahl นี่เหมาะกับผู้กำกับสายแฟนตาซีดาร์คๆ อย่างทิมเบอร์ตันหรือเดลโตโร่มากกว่า สปีลเบิร์กทำออกมาหน่อมแน้มเกินไปมาก
>>441 ชาลีกุชอบนะ ถึงมันจะเป็นความ weird สไตล์เบอร์ตันมากกว่าโรอัลดาห์ลก็ตาม ส่วนอลิซแม่งแย่จริง แต่ส่วนตัวกุว่ายังดีกว่า BFG ว่ะ
BFG ฉบับนิยาย กุว่ามันสนุกตรงที่ยักษ์กินคนมันน่ากลัวจริงๆ นิยายมันเล่นกับความกลัวแบบเด็กๆ ว่าตอนกลางคืนแม่งจะมียักษ์ล้วงมือผ่านหน้าต่างมาจับมึงไปกินตอนหลับ มุกที่พวกยักษ์เล่นกันก็มีความดาร์คแฝงอยู่ (เช่นคุยกันว่าคนประเทศไหนรสชาติยังไง) แล้วในเรื่องก็มีเด็กโดนจับกินจริงๆ ด้วย ตอนไคลแม็กซ์มันเลยมีความลุ้นอยู่ ว่านางเอกกับยักษ์จะโน้มน้าวให้ราชินีเชื่อได้มั้ย จะหยุดพวกยักษ์กินคนได้รึเปล่า ส่วนพวกมุกตลกทั้งหลายเป็นตัวเสริมให้อ่านสนุกขึ้น
ปัญหาคือสปีลเบิร์กทำหนังแบบเด็กมากกกกก ยักษ์ตัวร้ายแม่งไม่มีความน่ากลัว ฉากที่ไปจับเด็กกินก็เล่าผ่านๆ เพราะงั้นไคลแมกซ์ของหนังเลยไม่มีความตื่นเต้นหรือความพีคแม้แต่นิดเดียว ฉากที่ไปหาราชินีก็ก็กลายเป็นฉากตลกที่ยาวยืดเกินจำเป็น แล้วฉากสุดท้ายที่มันต้องลากันเลยไม่มีความซึ้ง เพราะมึงไม่อินเลยว่าตัวละครสองตัวนี้ต้องผ่านบททดสอบอะไรมาบ้าง
คือนิยายโรอัลดาห์ลอะแม่งเป็นนิยายเด็กที่มีความดาร์คอยู่เยอะ พอตัดตรงนั้นออกไปแล้วทำออกมาเป็นหนังใสๆ ความสนุกมันก็หายไปจนหมดเกลี้ยง
หนังจากนิยายโรอัลดาห์ลที่กุว่าทำได้โอเค ก็มี Matilda กับ The Witch สองเรื่องล่ะมั้ง (โดยเฉพาะ The Witch นี่ ทำแม่มดตัวหัวหน้าออกมาได้สยองแบบที่หนังสือบอกเป๊ะๆ กุชอบมาก)
Secret Life of Pets เฉยๆว่ะ พล๊อทเหมือนเหมือนดอรี่หรือทอยสตอรี่เด๊ะๆ ในแง่ที่พวกตัวการ์ตูนน่ารักๆมาช่วยกันทำภารกิจช่วยเพื่อนแบบเวอร์ๆ
แต่พวกทาสหมาทาวแมวควรไปดู เพราะน่ารักมาก
ปล. คิดไงกับข่าวTarzan Ultimate Version ที่บอกจะมีฉากจูบช-ช ของทาร์ซานว่ะ กูว่าช่วงนี้WBไม่ไหวนะ
ต่อไปอะไรดี Suicide SquadฉบับBDที่เรท R เพราะมีsex sceneของฮาร์เลย์ ควินกับโจ๊กเกอร์มะ??
>>443 กุอ่านข่าวแล้วเข้าใจว่าลุงคริสตอฟแกอิมโพรไวส์ฉากนั้นเองมากกว่า (สงสัยอยากได้แบบตัวร้ายเจมส์บอนด์ภาค Skyfall) ซึ่งเอาจริงๆ กุอยากเห็นนะ 555 ลุงแกเป็นองค์ประกอบนึงในหนังที่จัดว่าพอดูได้
>>444 งานสปีลเบิร์กก็งี้ไม่มีใครกล้าด่า กุนี่ดูไปสงสัยไปว่าสปีลเบิร์กมือตกขนาดนี้ได้ไงวะ ขนาดดนตรีของ John Williams ที่เทพมาตลอด พอมาเรื่องนี้ยังหาเมโลดี้ติดหูไม่ได้เลย
888 ของพจน์ อานนท์นี่น่าดูไหมวะ กะว่าจะไปดูสักหน่อย เห็นว่าเม่งฮาดี
>>449 ไม่ได้เป็น fag ของใครทั้งนั้นล่ะแต่ มะเขือเน่า หลักๆคือมันบอกให้เห็นถึงรสนิยมของพวกนักวิจารณ์(แต้มของคนทั่วไปก็มีแต่มันไม่ค่อยมีคนสนแต้มตรงนั้นอ่ะนะ) imdb แต่ก่อนเป็นตัวบอกรสนิยมของคนทั่วไปเดี๋ยวนี้กลายเป็นเวปแฟนบอยปั๊มคะแนนไปเรียบร้อยล่ะไม่พูดละกัน
พวกนักวิจารณ์มันมักจะชอบแนวหนัง ตาลุงสปีลเบิร์ก อยู่แล้วมันจะชอบ BFG กันเสียมากก็ไม่แปลกขนาด อินเดียน่าโจนส์ภาคล่าสุด ที่คนบ่นกันระงมแม่งยังอวยกันเลย -*-
ที่พูดนี่ไม่ใช่อะไรหรอกแต่จะบอกว่าสุดท้ายแล้วคนที่ตัดสินว่าหนังมันดีหรือไม่ดี ไม่ใช่เวปมะเขือเน่า นักวิจารณ์ขั้นเทพ หรือ แม้แต่พวกรางวัลทั้งแหล่ แต่เป็นตัวมึงน่ะแหล่ะ
เดี๋ยวมะเขือก็เอามายึดอะไรไม่ค่อยได้แล้วว่ะมึง หาเว็บหรือคนวิจารณ์ที่เทสตรงกับตัวเองยังจะตรงกว่าซะอีก
กูล่ะอยากให้มะเขือเน่ามันทำฟังค์ชั่นที่เลือกสรุปคะแนนเฉพาะนักวิจารณ์ที่เราโอเคด้วย (ในนั้นปกติกูชอบอยู่ 10กว่าคนเอง ไม่ได้รีวิวทุกเรื่องด้วย)
บางคนแม่งเหมือนดูไม่รู้เรือง แล้วก็ด่าเลย
เมื่อก่อนมะเขือเน่านี่ตรงใจกูมาก เรื่องไหน 8 ขึ้นไปคือต้องจัด เดี๋ยวนี้.....
imdb คะแนนจากเวปมันเหมาะสำหรับคนจะซื้อ DVD,Blu-Ray หรือเช่าหนังมาดูวะ ไม่เหมาะสำหรับหนังเข้าโรงปัจจุบัน
ช่วงตอนหนังเข้าโรงอยุ่ละมึงเอ๊ย แฟนบอยปั้มกันฉิบหอย ต้องช่วงหนังออกโรงหมดกระแส คะแนนตามจริงถึงค่อยๆมา
แต่คะแนนเห็นแล้วก็อย่าไปเชื่อถือมากนัก ต้องพิจารณาหลายอย่างประกอบกันก่อน เช่น ดูจำนวนคนโหวต หนังจากประเทศอะไร
หนังอินเดียงี้คะแนนโคตรเว่อโคตรอวย
สมมติกูได้บัตรดูหนังฟรีใบนึง กูดูอะไรดีถ้าเลือกได้แค่2เรื่อง ซิงสตรีท(อีกรอบ)กับทาร์ซาน
CELL นี่เค้าว่า อย่างห่วยแตก เหลือแดกรับประทาน จริงมั้ยว่ะ
อ่านสปอยล์แล้ว อยากรู้ว่ามันจะตลกมั้ย เลยอยากดูเฉยเลยว่ะ
มะเขือเทศเน่า สำหรับเรา ถ้าไม่เน่า = ดูได้ ถ้าเน่า = ดูไม่ได้ ชอบไม่ชอบอีกเรื่องนึง
http://www.imdb.com/title/tt1289401/
นี่ปั๊มก่อนฉายจริงอีกแล้วเหรอวะ
>>458 สรุปกูไปจัดทาร์ซานมา อยากลองของไง แม่งก็ไม่แย่นะแต่ก็ไม่ดี แต่ที่แน่ๆหนังง่วงฉิบ
แล้วก็นอกจากฉากจูบช-ช ที่ตัดออกไปทำไมกูรู้สึกว่ายังมีฉากแซมมวลLแจ๊กสันเลียไข่ลิงถูกตัดด้วยวะ ช็อตนั้นตัดต่อแปลกๆ กูว่าโดนตัดชัวร์
ปล. กูไปดูLights outมาละ หนังแม่งลูกเล่นเหมือนจะดีแบบเรื่องOculusนะ แต่สั้นไปหน่อยว่ะ(หนึ่งชั่วโมง20)
ถ้าได้อีกสัก20นาทีจะดีมาก ให้โชว์ทริกลูกเล่นสู้ผีเปิด-ปิดไฟได้มากกว่านี้หน่อย
แถมตอนจบแม่งห้วนฉิบหาย ยังกับตัดจบ ดูจบแล้วยังกับนี่เป็นหนังขายไอเดียผีเฉยๆ
สรุป สนุกดี แต่จบห้วน
ดีซีกูไม่เกี่ยว มึงก็ยังลากพวกกูไปเกี่ยวจนได้ไอ้เชี่ย
Ghostbusters รีวิวก็ตามคาดนะ คือหนังตลก ดูสนุก ตอบโจทย์เรื่องบันเทิงได้สำหรับคนทั่วไป (พอลฟีกแม่งทำหนังบันเทิงอยู่แล้ว) แต่ไม่มีอะไรน่าจดจำเป็นพิเศษ ระดับมะเขือราวๆ 70 ก็ดูเหมาะสมดี (ถ้ากดอ่านคำวิจารณ์แต่ละเจ้า จะเห็นว่านักวิจารณ์ไม่ได้ชมกันมาก ให้ผ่านแบบ 6-7/10 เป็นส่วนใหญ่)
แต่ถ้ามึงเป็นแฟนภาคเก่าๆ ภาคนี้จะเป็นอะไรที่เหี้ยมาก ทั้งการยัดเยียดเฟมินิสต์แบบกลวงๆ (เปลี่ยนทีมให้เป็นหญิงล้วน แต่ก็เล่นตลกแบบเอา stereotype ของพวกนี้มาล้อ เช่นผู้หญิงคนดำก็ทำหน้าตลกๆ ทำตาถลนตอนเจอผีไป) การเปลี่ยนโทนหนังจากผจญภัยปนตลกเป็นตลกบ้าบอลูกเดียว แล้วด่าสวนแฟนๆ ที่ไม่ชอบว่าเป็นพวกเหยียดเพศ
สรุุปคือถ้ามึงไม่ได้ผูกพันอะไรกับภาคก่อน ก็น่าจะโอเคอยู่ แต่ถ้ามึงเป็นแฟนๆ ภาคก่อน หนังจะสนุกไม่สนุกยังไงมึงก็ด่าอยู่แล้ว
Ghostbuster 2016 กากมาก สัส
มุกตลกเด็กๆเเบบAdam Sandler ไม่ได้มีความฮาเเบบมีชั้นเชิงเหมือนภาคเก่า ตัวละครเเต่ละตัวไม่ได้มีpersonalityเหมือนทีมเก่าเลย
ที่กูสงสัยคือ เพจอวยไส้เเตกนี่ได้รับเงินมาโฆษณาป่ะวะ ให้คะเเนนไป 8/10 ทั้งๆที่มันกากพอๆกับหนังตลกไทยที่เพจอวยมันเคยด่าๆไว้เลย
อย่าไปเชื่อนะโม่ง อย่าไปดูเลย
imdbให้ต่ำชิบหาย หนังมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอวะ แต่มะเขือเน่าโออยู่ ทำไมมันต่างกันขนาดนี้วะ
Ghostbusters นี่ภาคเก่าๆ กูว่าไม่เห็นสนุกเลย... ถ้าภาค 2016 แย่กว่าหรือได้เท่านั้นก็จบกัน..
ปล.ขอหลงประเด็นนิดนึงหนังยุค 80 นี่ กูว่า back to future trilogy กับ Star Wars 5-6 คือที่สุดในยุคนั้นละ
สมัยก่อนหนังภาคต่อที่เทพกว่าหรือดีเทียบเท่าภาคแรกมีเยอะนะ ทั้ง Star Wars, Terminator, Aliens, Back to the Future, Indiana Jones 3 หนังพวกนี้คือเอาองค์ประกอบภาคแรกมาใช้ แต่เขียนบทให้ไปไกลเกินกว่าที่คนดูจะคาดคิดกันทั้งนั้น
ผิดกับภาคต่อส่วนใหญ่ในสมัยนี้ ที่เน้นการเอาพล็อตภาคเก่ามารีไซเคิลตั้งแต่ต้นจนจบ ความน่าจดจำมันเลยต่างกันเยอะ
เอาจริงๆ ID 4 ภาคใหม่ ก็จัดเป็นหนังภาคต่อที่กล้าเล่นอะไรใหม่ๆ เหมือนกัน (แต่หนังมันดันออกมากากสัสหมา)
กุเอา BttF มาเปิดดูเมื่อไม่นานมานี้ยังรู้สึกว่ายังเจ๋งสัสอยู่เลย เสียแค่ภาคสองแม่งทำมาหม่นๆหดหู่ไปหน่อย รวมๆแล้วยังรู้สึกล้ำหนังสมัยนี้หลายเรื่องอยู่
>>472 ท็อปคริติคคนนึงในมะเขือเเม่งให้มะเขือสด เเล้วบอกว่า "ถึงหนังเรื่องนี้จะห่วย เเต่ก็ควรไปดู เพราะเป็นการสู้กับระบบPatriarchyในสังคม"
มันทำให้มึงฉุกคิดไหมว่า ถ้ามีคนนึงยอมรับว่าหนังห่วยเเต่ก็ยังให้คะเเนนดีเพราะมันตรงกับAgendaของตัวเอง จะมีอีกกี่คนที่ชมหนังไม่ใช่เพราะหนังมันดี เเต่เพราะมันถูกAgendaของ SJW Feminists ที่ตัวเองชอบ
ยิ่งพวกInternet Mediaทั้งหลายนี่ เป็นLiberal Cuck ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เเสดงตนว่าฉันหัวก้าวหน้านะ ฉันไม่ได้เหยียดเพศ/ผิวนะ จะมีกี่คนที่โกหกว่าหนังมันดี ให้คะเเนนสูงๆเพื่อเอาใจSJW
Feminist nazi บุกหรอวะ
>>475 จับมือ กูชอบหนัง Adam Sandler เหมือนกัน โดนตั้งป้อมกดคะแนนมากเกินไปจริงวะ
ไม่เข้าใจนักวิจารณ์หวังอะไร อยากได้บทเทพๆแบบ 50 First Dates, Click ทุกเรื่องเลยเหรอ
มันยากนะไอเดียดีๆแบบนี้ไม่ได้มีกันบ่อย เอาเข้าจริงหนังที่พี่แกเล่นก็มาตรฐานเดิมตลอดแหละ
เคยเป็นไงก็เป็นงั้น เข้าไปดูหนัง Adam Sandler เล่น หวังอยากได้หนังตลกเนื้อเรื่องดีๆดูเข้าใจง่าย
มีประเด็นสาระให้คิดนิดหน่อย ก็ได้อย่างที่หวัง ขนาด Zohan เล่นมุกหยาบๆถ่อยๆหื่นๆ มันยังมีสาระให้คิดเลย
ให้ Adam Sandler ไปเล่นดราม่าก็เคยทำมาแล้ว Funny Peopleเห็นหน้าหนังกะฮาอมยิ้มแน่ แต่ดันเป็นดราม่าซะงั้น
ให้แกเล่นแนวถนัดแบบเดิมนะดีแล้ว
Cafe society = หนังคนอกหักขี้เหงา คิดถึงคนรักเก่าๆ ใครไม่ค่อยมีประสบการณ์ความรักมากก็คงดูผ่านๆได้ไม่ต้องคิดมาก
แต่ถ้ามีคนใหม่แล้วแต่ยังคิดถึงคนเก่า เรื่องนี้น่าจะกระแทกใจพวกมึงอยู่ = ดูเพลินๆ
A bigger splash = หนังคนขี้เงี่ยนหวงคนรักแม้จะเลิกรากันไปแล้ว(หรือยังไม่เลิกก็ตาม)
หนังรุนแรงในแง่SEXระดับนึง เห็นนมเป็นนม ไข่เป็นไข่ ฉากSEXไม่รุนแรงมาก แต่เล่นจิตใจตัวละครใช้ได้อยู่ = เครียดใช้ได้
แล้วแต่พวกมึงเลือกเลยอยากได้แนวไหน แต่ถ้ากูเชียร์ ก็เลือกสแปลช หนังมันโหดเอาเรื่อง
ปล.กูไปดูคาเฟ่ที่สกาล่า ช่วงหลังๆซับไตเติ้ลหายทั้งยวงเลย ใครจะไปดูระวังด้วยไม่รู้ซ่อมยัง
ปลล. พูดถึงอดัม แซดเลร์ พวกมึงเคยดูJack & Jillกันยัง เหี้ยสัตว์
ใครดูขุนพันธ์แล้วบ้าง กระแสเป็นไง
>>481 แล้วแบบ https://www.rottentomatoes.com/celebrity/adam_sandler มึงดูสิมึงดู๊ 50 First Dates 44% Click 32% ไอ้เชรี้ยยย
>>486 แต๊งกิ้ว ว่าจะจัดอยู่เหมือนกัน
กูฮาNiggerในฮอลลีวูดสัสๆ
อยากจะทำหนังที่โชว์ความโหดร้ายของระบบSlavery เเต่เสือกเลือกเรื่องของNat Turner มา
http://m.imdb.com/title/tt4196450/
Nat Turner เป็นทาสที่ลุกขึ้นมาฆ่านายทาสเเละคนขาวรอบๆตัว ฆ่าหมดด้วย ผู้ชาย,ผู้หญิง,เด็ก เเม้กระทั่งเด็กทารก ไม่ได้สู้ตรงๆเเบบฮีโร่ด้วยนะ เเม่งไปฆ่าตอนดึกที่หลับกันอยู่
fuck NigNog
LUL
ps. หนังไม่ได้สนุกเลย อย่าไปดูกันนะโม่ง พวกที่เชียร์มีเเต่libcuckทั้งนั้น
คะแนน Star Trek มะเขือออกมาดีทีเดียวเลยว่ะ กูไม่ได้รู้สึกไฮป์แบบนี้มานานแล้ว
พวกมึงต้องถ่มถุยกุที่กูยอมเสียสละตัวเองไปดูBFGมาหลังจากอ่านแล้วอยากพิสูจน์ความเหี้ย
มึงคือนี่งานสปีลเบิร์กจริงๆเหรอวะ โคตรกลวง ไม่มีสาระจะให้ พยายามตลกก็เสร่อเควายๆ เนื้อเรื่องไม่มีสิ่งน่าตื่นเต้นเลยแม้แต่นิด สอบตกตั้งแต่ยี่สิบนาทีแรก ทั้งที่ควรจะพ้อยส์ที่ประเด็นความสัมพันธ์เด็ก/ยักษ์ก็ทำไม่สุด แทบไม่อินเลย กลายเป็นหนังของเล่นขายฝันเอาต้นฉบับมาปู้นี่ปู้ยำซะงั้น กุเคยอ่านมาก็เลยอยากดูไง กูเริ่มไม่รู้แล้วว่าตัวเองคาดหวังอะไรอยู่...
กูควรเอาเวลาไปดูขุนพันธ์กุว่ายังรู้สึกเสียดายตังน้อยกว่านี้ (กุยังไม่ได้ดูขุนพันธ์นะ55)
พึ่งดู cafe society มา ดูจบกูรีบเดินไปลิโด้ดีวีดีซื้อหนังเรื่องอื่นปู่อัลเลนมาดูเลย กูไม่ได้ดูหนังแล้วมีความสุขจริงๆแบบนี้มานานแล้ว ฮือ
กูพึ่งไปดูโกสบัสเตอร์มา ฟีลเหมือนดูหนังไทยที่เอาตลกคาเฟ่มาเล่นเวอร์ชั่นไม่มีคำด่าและมีเงินทุ่มทุนกับค่าโปรดักชั่น ผลคือนั่งหน้านิ่งทั้งเรื่องเลย คือไม่ขำแต่ก็ไม่ระยำ
แต่สิ่งดีงามที่สุดและหนึ่งเดียวในเรื่องคือคริส เฮมสเวิร์ธจริงๆว่ะ ผู้ชายเหี้ยอะไรจะมีเสน่ห์ขนาดนี้วะ ทำตัวเนิร์ดปัญญาอ่อนยังหล่อฉิบหาย หล่อวัวตายควายล้ม โอ ยอมแล้วทูนหัวมีผัวเป็นคริสเฮมสเวิร์ธ
กู498นะ
แล้วมันมีอีสเตอร์เอ๊กอะไรจากภาคแรกบ้างวะ กูรู้แค่มีพวกตัวละครเก่าๆโผล่มาบ้างประปราย(เพราะอีคนในโรงวู้วว้าวกันตอนพวกนั้นออกมา) แล้วเอนด์เครดิตสื่อถึงอะไรวะ
โกสต์บัสเตอร์นี่กูดูภาคแรกแล้วก็ไม่ได้ชอบหรือโดนใจอะไรเท่าไหร่ มาเวอร์ชั่นใหม่จะเปลี่ยนคนไงก็ช่าง เข้าไปดูแล้วก็ไม่ได้ดีไปกว่าภาคเก่าๆเท่าไหร่เลยเฉยๆมาก แต่เห็นคะแนนนักวิจารณ์ที่ลงในมะเขือเน่าก็งงดีนะ มะเขือสุก 70% เลย สรุปคือหนังมันดีแต่รสนิยมกูไม่ดีเองสินะ
ดู light outs มาละ ก็เพลินๆดี แต่ไม่ได้พีคอะไรมากเท่าไหร่
กูสงสารคริสเฮมนะ ซวยชิบหาย
อุตส่าห์หาซีรี่ย์ระดับตำนานเกาะได้อีกเรื่องแทนที่จะปัง หนังโดนรุมเฮทตั้งแต่ยังไม่ฉาย พอฉายจริงก็ไม่ดีพอจะตบปากเฮทเตอร์ได้อีก
>>492 หนังระดับขึ้นหิ้งของสปีลเบิร์ก อย่าง Jaws กับ Jurassic Park ก็ทำมาจากนิยายทั้งคู่นะมึง
แต่สปิลเบิร์กเหมือนเอานิยายมาเป็นแรงบันดาลใจเฉยๆ แล้วสร้างหนังตามใจตัวเองมากกว่า
อย่าง Jurassic Park เนี่ย หนังกับนิยายคือคนละอารมณ์กันเลย แล้วความสนุกของหนังมาจากฝีมือกำกับของสปีลเบิร์กล้วนๆ ตัวบทไม่ได้เอาความไซไฟจากหนังสือมาเลยสักนิด
ปล. กุว่าสปีลเบิร์กแกมือตกมาก ไม่ควรกลับมาจับหนังฟอร์มใหญ่ๆ เลย ไปเป็นโปรดิวเซอร์ช่วยดัน ผกก รุ่นใหม่ดีกว่า
คริสเฮมกุว่าหล่อแบบหล่ออย่างเดียว ไม่มีบุคลิกอะไรโดดเด่นอะ ไม่เหมือนแบบคริสแพทที่มีท่าทางเถื่อนๆ ฮาๆ ติดมาด้วย เลยไปได้รุ่งกว่า
กุว่าคริสเฮ้ม ฝีมือการแสดงดี แต่ยังสลัดภาพตัวละครเก่าๆ ไม่หลุดด้วย คนดูเลยเบื่อ
คริสแพทนี่กุชอบพี่แกในเรื่อง what's your number นะ ออกมาแค่แปปเดียว ที่เล่นเป็นแฟนเก่านางเอกแค่นั้นล่ะ
ดูล้นๆ ตลกๆ ดี
คริสเฮมฯ สำหรับกูนี่หลักๆคือน้ำเสียงแกน่าเบื่อว่ะ
Star Trek สนุกแบบเรื่อยๆมาเรียงๆ สู้สองภาคก่อนไม่ได้ ตัวร้ายแม่งก็ร้ายด้วยเหตุผลปัญญาอ่อนชิบหาย
Negress จากGhostbuster2016ร้องไห้บนทวิตเตอร์เพราะโดนโทรลดรียกว่าApe
>women aint afraid of no ghost
>move over boys, it's girl time
>women power
Got destroyed by internet troll
Women so strong LUL
everybody wants someเป็นไงบ้าง
อวยไส้แตกให้10 คะแนนเวอร์สัตว์ เห็นหลายรอบละ
ไม่อยากไฮป์มาก หวังสูงไปแล้วดูไม่สนุกอีก
light out สนุกดี ตอนจบคล้ายๆลูปเปอร์(สปอยแม่ง)
The secret life of pets หนังดูเพลินๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก สาระไม่ค่อยมีเน้นน่ารักเป็นจุดขาย ถือว่าไม่แย่
Un+une ครึ่งแรกพูดเยอะฉิบหาย รัวกว่าอินเซปชั่นอีก ใครเหนื่อยๆนอนไม่พอมึงหลับตั้งแต่ต้นเรื่องแน่
หลังจากนั้นค่อยโอเคหน่อยแต่ก็เรื่อยๆ ไม่ได้พีคอะไรมาก หนังเหงาๆเงี่ยนๆเหมือนดูCafe societyเวอร์ชั่นฝรั่งเศส
ถ้าให้กูเลือกเอาเงินไปเปให้เรื่องอื่นที่ยังไม่ได้ดูของวีคก่อนๆหรือเก็บไว้ดูซุยไซด์อาทิตย์หน้าดีกว่า
จริงหรือ ว่ามีเพจหนังบางเพจทำตัวเป็นมาเฟีย หนังเรื่องไหนไม่จ่ายเงินให้จะโดนสับแหลกไม่มีชิ้นดี แม้หนังจะไม่ได้แย่ก็ตาม
http://pantip.com/topic/35426729
รับเงินแล้วชมอ่ะยังพอทำเนา แต่ถ้าด่าเรื่องที่ไม่ได้เงินนี่กูว่าแย่นะ
กูมาเสือกไม่ทัน อวยไส้แตกกับคู่กรณี ชื่อไรนะ ตั๋วร้อนสักอย่าง? เคยทะเลาะอะไรกันวะ
ใครก็ได้เล่าให้ฟังหน่อยจะเป็นพระคุณอย่างสูง
เจสัน บอร์น ตอนนี้ได้มะเขือ 61% เรทติ้งเฉลี่ย 5.8
กูคงต้องเผื่อใจไว้หนัก ๆ หน่อยละ
เหมือนไม่ค่อยมีคนคุย star trek เลย กูไปดูมาสนุกดีนะ ไปๆมาๆ เป็นหนังที่ดูเพลินทุกภาคดี
Star Trek กุว่ามันเสียเปรียบแฟรนไชส์อื่นตรงที่สร้างสูตรมาว่าหนังทุกภาคต้องจบในตอน พอถึงฉากสุดท้าย conflict ทุกอย่างต้องเคลียร์ จบด้วยฉากยานบินไปในอวกาศพร้อมเสียงพากย์เท่ๆ มันเลยยากที่จะสร้างเส้นเรื่องต่อกันหลายภาคแบบแฟรนไชส์อื่น จะจบให้ค้างคาเกินไปก็ไม่ได้ น่าสนใจเหมือนกันว่าภาคต่อไปจะเขียนบทยังไงไม่ให้จำเจ
สำหรับภาคสามนี่กุออกแนวเฉยๆ ว่ะ ตอนดูก็บันเทิงดีแต่บทมันดูขัดๆ หลายจุด ฉากแอคชั่นบางช่วงมืดๆ ตัดเร็วๆ ดูยากเกิน แล้วเนื้อเรื่องมันก็จบอยู่แค่นั้น ไม่มีอะไรให้พูดถึงเท่าไหร่
>>531 ดูแล้ว ก็โอเคนะ หนังตอบโจทย์ความเป็นหนังเจสัน บอร์นพอใช่ได้ มีส่วนประกอบของซีรีย์นี้ครบ แต่ไม่ค่อยสดใหม่เหมือนที่ดูภาคก่อนๆอ่ะ
แต่เรื่องเคสนักแสดงสู้ภาคเก่าไม่ได้ว่ะ ตัวละครเฮเทอร์ ลีที่อลิเซียเล่นออกมาแบบเย็นชาและจืดมากๆ
บทของทอมมี่ ลี โจนส์ก็จืด แก่ และเชย ขนาดที่บทของนอร์ตันในเลกาซี่ยังโอเคกว่า กูคิดถึงป้าแพมกับอีโวซัน
พี่แมทกับจูเลีย สไตน์ หน้าแก่สมวัยเหรี้ยๆ
สตาร์เทร็กภาคนี้กูเฉยๆว่ะ กูว่าอินทูเดอะดาร์กเนสดีกว่าเยอะ แต่ชอบเปิดเพลงกำจัดเอเลี่ยนนะ บ้าบอดี
กูดู Jason Bourne แล้วหลับเฉยเลย
เพิ่งไปดูไลท์เอาท์มา ส่วนตัวให้6/10 จริงๆถ้าไม่คาดหวังไว้สูงเกินก็คงได้คะแนนมากกว่านี้
คือรู้สึกว่าหนังมันดูขาดๆเกินๆไปอะ ตัวละครดูแบน ผีแปลกดี แต่ไม่น่ากลัว
ตอนแรกคือกะไปดูกะเอาบรรยากาศหลอนหรือตกใจ แบบเห็นตัวอย่างหนังแล้วเหยย มันต้องน่ากลัวแน่เลยอะ ไม่ได้เจอหนังผีน่ากลัวๆหลอนๆมานานละ แถมคนก็ไฮป์กันเยอะมากจนแบบ มันต้องทำให้เรากลัวได้แหงเลย! แต่ที่ไหนได้ล่ะ...
หลังจากฉากผีโผล่มาสองสามซีน กูก็ไม่ตกใจแล้วว่ะ อารมณ์มันเปลี่ยนเป็นรำคาญแทนว่าทำไมพวกตัวเอกมันไม่พกไฟฉายหรือเปิดไฟสว่างๆวะ(ในสถานการณ์ที่ไม่เมคเซ้นส์นะ) ช่วงคืนหนีผีคือช่วงที่สนุกที่สุดสำหรับกูแล้ว นอกนั้นก็น่าเบื่ออะ กูเกือบหลับเลยด้วยซ้ำกระทั่งตอนผีมา ฉากน่ากลััวสุดๆจนต้องหวีดอย่างที่คนอื่นแม่งบอกกันมาไม่เห็นจะมี ฉากในเรื่องไม่ตราตรึงอะไรสำหรับกูเล้ย ทำเอาเสียดายความหวังที่ตั้งไว้สูงมาก แบบหึยย กูจะต้องกลัวจนปิดไฟนอนไม่ได้! อุไรงี้หายไปหมดเลย..
ข้อดีของหนังคือหนังมันก็สนุกอยู่นะ ไม่น่ากลัว แต่สนุกน่ะแหละ ลุ้นตอนหนีผีช่วงท้ายๆดี ถึงตอนคลายปมจะคลายเป็นไม่มีอิมแพคอะไรเลยก็เหอะ ...
สรุป ไลท์เอาท์ไม่ใช่หนังน่ากลัวสำหรับกู แต่ถือเป็นหนังที่สนุกอยู่เรื่องนึงเลย และเพราะกูตั้งความหวังด้านความน่ากลัวมากไป พอดูแล้วไม่เป็นอย่างที่คิดเลยเฟลรัวๆ
กูว่าไลท์เอาท์ไม่ใช่หนังผีว่ะ เหมือนกูดูX-menไม่ก็สิ่งมีชีวิตประเภทหนึ่ง
ปล.พลังอีผีไดอะน่าแม่งแกว่งๆด้วย เดี๋ยวปิดไฟเองได้แต่เดี๋ยวบางตอนไม่ทำ บางทีวาร์ปไปที่นึงได้ บางทีต้องเปิดประตูก่อนถึงจะเข้าไปได้
ปล.ไลท์เอาท์เป็นหนังตลก
บอร์นนี้ได้คะแนนแค่นั้นแม่งสมควรละ บทมันโคตรจะเรื่อยเจื้อยเลย
พล็อตหลักพล็อตรองแม่งตีกันจนมั่วแล้วตอนท้ายแม่งเสือกกลายเป็นว่าทั้งเรื่องนี่คือข้าราชการชั้นผู้น้อยมันกะหาเรื่องเลื่อยขาเก้าอี้เจ้านายตัวเอง
มีสปอยล์การปล่อยแสงของ Shin Godzila ออกมาแล้วว่ะ
แม่ง ปล่อยจากรอยแยกบนกระดูกสันหลัง (ไอ้แยกๆ ยักๆ บนหลังอ่ะ เรียกแม่งไม่ถูก)
กะ ใช้หางปล่อยแสงได้
ก็อดจิ ค่อยๆ มีพัฒนาการ ไม่ใช่โผล่มาตัวโตเลย
ส่วนหาง คาดว่าเป็นอีกหัวนึงด้วย
(ไม่คอนเฟิร์มนะ อ่านเจอจากพันทิป)
ไลท์เอาท์มันพยายามฉลาดแต่ฉลาดไม่พอ อย่างเรื่องมือถือเป้นมนุ๋ย์ทั่วไปมันเปิดไฟฉายจากมือถือตั้งแต่ตอนแรกแล้ว
>>544 ทู้นี้ใช่มะ http://pantip.com/topic/35434050
กูบอกเลยว่ากูไปเจอสปอยของนอกหนักกว่านี้อีก ชนิดที่มึงจะต้องบอก "อันโนะ นี่มึงเอาแบบนี้จริง ๆ เหรอวะ"
นี่ก็อดจิหรือเทวทูตในอีวาวะเนี่ย
>>547 เชื่อมือมหาเมพอันโนะได้เลยเพื่อน
>>>/movie/2387/22-24
กระแสยุ่นออกไปทางดีว่ะ แต่ก็มีคนไม่ชอบแบบสัดๆ ยกตัวอย่างไอ้โม้สาดออกมาด่า แต่กูอ่านๆกูขำ
คือคนไม่ชอบ เพราะแม่งหวังจะไปดูก็อตซิลล่าแบบปล่อยแสงตลอด10 นาที ออกตลอด5นาทีอะไรแบบนี้ มึงเจอหนังแม่งออกไปทางหนังภัยพิบัติ คุยกันแหลก แม่งไปไม่เป็นเลย ส่วนใหญ่กูเห็นคนไม่ชอบจะบ่นกันจุดนี้
ใครคือโม้สาด
รถไฟจะไปปูซานกูดูเเล้วก็งั้นๆอะ เเต่ไอ้เพจอวยรับเงินมาอีกเเน่ เเม่งให้9/10เเล้วบอกว่าเป็นหนังเเห่งปี
ที่ตลกคือลูกเพจเชื่ออีกเเน่ะ โคตรฮา
พูดถึง SS รีแอคชั่นจากพวกที่ไม่ใช่แฟนบอยเริ่มมาล่ะแต่ยังบอกอะไรไม่ได้มาก Joker มีบทราวๆ 15-20 นาทีและบทค่อนข้างฉีกออกไปฉาก Joker ของ พี่ฮีธ กับ ปู่แจ๊ค พอสมควร
Suicide Squad นี่เเปลกมากตรงที่เพื่อนผู้หญิง/กะเทยในคณะกูที่ปกติไม่ได้สนใจหนังฮีโร่อะไรเลย Hypeเเละอยากดูกันมาก เพราะมีดาราดังๆอยู่เยอะหรือเพราะPRดีวะ?
ตัวละครมันน่าสนใจไง เอาตัวร้ายดังๆ ของค่ายดีซีมารวมกัน ไหนจะโจ๊กเกอร์อีก
เนื้อเรื่องก็ดาร์ค และแปลกใหม่ ไม่แปลกที่คนจะสนใจกันเยอะ
แปลกว่ะ เพื่อนที่ทำงานกูก็กรี๊ดวี้ดว้ายเรื่องนี้กันมากขนาดว่าจะนัดกันไปดูแก๊งใหญ่ กับ civil war หรือ age of ultron ยังไม่สนใจกันขนาดนี้เลย พวกนี้ไม่ใช่แฟนคอมิคด้วยนะ คือตัวในเรื่องไม่รู้จักกันซักตัวรู้แค่ว่ามี joker ออกมาในเรื่อง
ขนาดกูเกลียด dc แต่กูยังอยากไปดูฮาร์ลีย์ ควินน์เลย
ตัวละครโมเอะๆ มาอยู่ในหนังดาร์ค มันก็เลยดูน่าสนใจเป็นพิเศษ
กูชอบฮาลี่ ชอบ ww แถมไม่รู้ทำไม กูดูตย. แล้วกูชอบโจ้กเกอร์เวอชั่นนี้กว่าเวอชั่นฮีธที่คนอวยๆ กันด้วยอีก
แต่ยังไงก็ต้องรอดูหนังตัวเต็มก่อนล่ะ แต่มีความรู้สึกว่าอาจจะออกมาดีก็ได้ ดูตย.แล้วแทรกมุกตลกมาเยอะพอใช้ได้
ถ้ารีวิวออกมากากพวกมึงจะยังดูกันอีกป่ะ? แบบว่าอยากรู้ว่าอยากว่าพวกมึงเป็นประเภทดูหนังเพราะตัวหนังหรือเน้นคำวิจารณ์แล้วโหนตามว่ะ
>>566 สำหรับกูคำวิจารณ์เป็นส่วนนึง เเต่ต้องดูรวมๆจากเเหล่งที่เชื่อได้นะ เพจโง่ๆที่เจ้าของเพจเป็นเเค่เด็กโปกไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับหนัง เเต่พิมพ์เหมือนตัวเองเทพนี่ไม่เอา เพจกากๆอย่างเพจอวยไส้เเตกก็ไม่เอา
ถ้าเรื่องไหนอยากดูก็ไปดู อย่างตอนHardcore Henry กูกำเงินเเล้วไปเลย สนุกสาส
จนป่านนี้แล้วยังมีพวก Companyfags อีกแฮะล้าหลังดีแท้ อยากดูเรื่องอะไรก็ดูไปเหอะ ต่อให้มึงเลียไข่แม่งจนแฉะมันก็ไม่ได้มานั่งแลอะไรมึงหรอกและเวลาแม่งทำอะไรเหี้ยๆก็ไม่มีความจำเป็นต้องออกมาปกป้องเหมือนกัน
กูไม่เชื่อรีวิวว่ะ ขอดูแล้วด่าด้วยตัวเองดีกว่า
เดี๋ยวนี้ตั๋วหนังก็ไม่ได้แพงมาก วันเสาร์-อาทิตย์ ก่อนเที่ยงก็รอบละ100เอง อาทิตย์นึงใช้ตัง 300 บาท ดูหนังได้ตั้ง3รอบ
เดี๋ยวนี้อยากดูเรื่องอะไรก็ไปดูหมดละ ไม่ค่อยสนรีวิวเท่าไหร่ แต่อย่างตอน ID4R อ่านของเทพคอนฯก่อนเข้าไปดู เย็ดแม่.....
เทพเจ้าคอนเน็ตโต้ ตอนนี้กูให้ราคาแค่มุก
กูว่าเทพคอน taste มันเปลี่ยนตั้งแต่ดู BvS อ่ะ เจอหนังที่เคี้ยวยากเกิน หัวมันเลยตีกลับ กลายเป็นเจอหนังที่แมสมากๆ แล้วชอบ กับเชยมากๆแล้วเกลียด
ในบรรดาคนที่วิจารณ์แล้วมีเหตุมีผลสุดกูให้ราคา อาจารย์ ประวิทย์ แต่งอักษร สุดแล้วเสียดายที่อาจารย์แกไม่ทำเพจ ใครอยากอ่านไปหาได้ในเฟชพิมเป็นภาษาอังกฤษ
ไอ้ โรงภาพยนตร์ที่ 3 ที่นั่ง E12 นี่กูว่าดัดจริตโคตรๆ เรื่องของหนังที่เอามาโพสกับคำคมตัดแปะนี่อ่านที่มันพล่ามแล้วรู้เลยว่าแม่งไม่ได้ดูเองหมด
กูชอบ filmsick แต่นางไม่ค่อยดูหนังตลาด 55555
ว่าแล้วเชียวไอ้คอนแม่งต้องโดนด่าเพราะbvs สวะdcอีแอบเอ๊ย ก่อนนี้แม่งก็เคยด่าพาดหัวว่าmcuควรไปตายห่าได้แล้วไม่เห็นติ่งมาเวลจะดิ้นขนาดนี้5555
ใครรับตังค์มาอวย ด่าหมดอ่ะ
เทพคอนมันชอบ Fantastic Four 2015 ด้วยนะมึง ;D
กูไปค้นๆดูแทคมูฟวี่ทวิตนี่แม่งเชื่อถือไม่ได้เลยสัส รับตังมาอวยทั้งโขยง
ถ้าแม่งพูดอีหรอปเดียวกันทุกทวิตขนาดนั้นมึงก็ติดแทคเค้าจ้างมาอวยหนังเถอะ
ปล.เทพคอน=เด็กเห่อหมอยกระแดะคิดว่าตัวเองเทสสูงส่ง
>>575 จับมือ อ.ประวิทย์นี่ตอน BVS แกเขียนดีมาก อ่านแล้วเข้าใจข้อดีข้อเสียของหนังแบบไม่ต้องใช้คำด่าแรงๆ ล่อติ่งมาดราม่าเลยสักคำ
เทพคอนนี่เด็กเห่อหมอยสัสๆ อวย ID4 เป็นหนังแห่งปีนี่ก็น่าจะชัดเจนแล้วว่าเทสต์มันระดับไหน ส่วนอิพวกหนังโปรดของข้าพเจ้า & โรงภาพยนตร์ที่ 3 ที่นั่ง E12 แม่งกลายเป็นช่องทางโปรโมทสินค้าไปแล้ว ไม่เหลือคุณค่าอะไรในตัวเองอีก
เหยดดด บอกเพจรับตังมาอวยเพราะด่าbvsจมกองขี้ ติ่งนี่มันติ่งจริมๆ มิน่าในเพจสวะdcกูถึงเห็นติ่งด่ากราดนักวิจารณ์ทั่วโลกว่ารับเงินดิสนีย์ ถถถถถ
ต่อหน่อย bvs หนังลึกตรงไหนวะ คนอายุ40สมองเหมือนเด็ก14 บทจะหัวร้อนก็เห่อหมอยอ้างเหตุผลใหญ่โต เพื่อโลกมนุษยชาติ ซุปพลังเว่อไปกลัวกลายเป็นคนเลว พอบทจะเลิกเสือกกลายเป็นลูกแหง่ เห็นรักแม่เหมือนกันแม่ชื่อเดียวกัน ความสงสัยห่าไรเลิกหมด อ้อนายเราเพื่อนกันนะ แถมปาหอกเทพทิ้งอีกเพียงเพื่อให้อีโลอิสต้องไปวิ่งเก็บให้ไอ้ดูมได้โชวพาว55555 ลึกชิบหาย
>>585 บางที่กูเห็นความพยายามของแฟนดีซีพวกนั้น กูก็นับถือนะ
BvS แม่งเป็นหนังที่เทพที่สุดในสามโลก ใครไม่ชอบ ใครไม่อินถือว่าดูไม่เป็นเอง
/จ๊ะ
อีกอย่างเห็นข่าว David Ayer ตะโกนว่า Fuck Marvel ! ในงานพรีเมียร์ตะกี้ EQดีงามมากครับคุณเพ่
ผกก.ของDCEU นี้มีแต่พวกถ่อยๆ กร่างๆ ตีนหาเสี้ยนหรือไงว่ะ หรือว่าเป็นกันทั้งแฟนด้อม ทั้งผกก. ทั้งแฟนๆ
เหมือน Fuck Dccomic ของ โรเบิร์ทดอว์น jr ป่ะ
>>587 บริบทคนล่ะโลกเลยว่ะ RDJ เท่าที่กุจำได้ ฮีบ่นfuck นี้แกชมนะ5555
เพราะแกว่าTDK เป็นหนังที่โคตรฉลาด แบบที่แกตามไม่ทันคิดไม่ถึง อารมย์ว่า อีห่าDC comic มึงจะทำหนังฉลาดไปไหน
แต่ของเดวิด เอเยอร์นี้คือ ขึ้นมาบนเวทีพรีเมียร์ แล้วเปิดโรงด้วยคำว่า Fuck Marvel เลย
https://m.reddit.com/r/DC_Cinematic/comments/4vpqg1/fuck_marvel_from_david_ayer_at_the_skwad_premiere/
แล้วกูขำ เฮียแกออกมาขอโทษในทวิตแล้ว แต่พวกสวะดีซีบอก ขอโทษทำไมฟ่ะ แล้วก็ Fuck Marvel กันใหญ่เลย 55555
กูยอมจริงๆว่ะ สวะดีซีนี้สุดยวดด
Dc หนังแม่งซีเรียสเน้นแนวคิดซึ่งมันก็ดี แต่ถ้าคนดูวุฒิภาวะไม่พอมันจะรู้สึกว่าหนังแม่งเหนือมาก มากจนกลายเป็นมองหนังแนวอื่นๆต่ำกว่า และดูถูกไปโดยปริยาย
กูเห็นพวกมึงมานั่งหัวเสียกันเพราะเรื่องนี้แล้วขำอ่ะ แบบว่าเห็นแต่ละคนพิมพ์ก็รู้เลยว่าคิดไรอยู่โคตรอ้อมโลกอ่ะ 5555
เพจเทพคอนมีติ่งดิ้นว่า rdj ด่า fuck dcว่ะ มันอ่านภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่องเรอะไง rdjแม่งพูดในบริบทตาม>>588 บอก แม่งชมหนังโคตรๆบอกว่าตัวเองต้องมีความรู้มากๆถึงจะเข้าใจหนังด้วยซ้ำ fuck มันอารมณ์แบบ เหยดดดด มากกว่า สวะติ่งแม่งคงอ่านผ่านๆจับมาด่ากราดไปเรื่อย สวะแม่งสวะจริงๆ ถถถถุ้ย
มึง คาบาเนะริLive action เอ้ย! train to busanแม่งดีจริงสนุกจริง
ครบเครื่องหมดทั้งความน่ากลัวของซอมบี้ ความน่ากลัวของมนุษย์ ดราม่าน้ำตาไหล แอ๊คชั่น ฯลฯ
กูไม่ได้ดูหนังซอมบี้อย่างนี้มานานแล้วว่ะ อย่างน้อยกูว่าเป็นหนังซอมบี้ดีที่สุดในปีนี้(มีกี่เรื่องเองฟะ) หรือหลายปีเลยว่ะ
ปล.แต่แม่งก็ยังมีตัวละครทำตัวโง่ๆตามสไตล์อยู่ดี
กูว่าตาเจมส์รู้เรื่องเกี่ยวกะGhostbuster มากกว่าอีPaul Feig(ผกก. Cuntbuster)อีกนะ
https://www.youtube.com/watch?v=T_zqrE7mgKw&ab_channel=Cinemassacre
Box Office Cuntbusterเป็นไงบ้างละ ทำเงินเสมอต้นทุนได้รึยัง? 555555555
เห็นได้แค่เกือบ ๆ 160 ล้านว่ะ แถมนี่ยอด WW ด้วยนะ
จะดูCuntbuster ดูเเค่นี้พอเเล้ว
https://www.youtube.com/watch?v=JghuAueF6E0&ab_channel=TheScreamingProxy
ตอนที่Bill Murray พูดว่า "Why are you pretending to catch ghost?" กูว่าลุงไม่ได้เเสดงว่ะ ลุงพูดด้วยน้ำเสียงประมาณว่ากูคือตัวจริง มึงอ่ะของเก๊
เเต่กลุ่มCuntbusterทุกคนทำท่ากูเหนือโดยเฉพาะอีอ้วนเเว่น น่าตบสัสๆ 5555
https://www.rottentomatoes.com/m/ghostbusters_2016/
แต่คะแนนมันดีนะ
เพิ่งได้ดู startrek สนุกดีนะ บางจุดง่ายไปหน่อยแต่ก็พอปล่อยเบลอได้
ประเด็นคือตอนดูผมรู้สึกมีอารมณ์กับเจย์ลาร์ว่ะ ไม่แปลกหรอก เนาะ?
ทำไมกูรู้สึกว่าคนสมัยนี้มันแยกไม่ออกระหว่างพล็อตซ้ำซากกับก็อบพล็อตว่ะ เห็นเวลาเจอหนังที่พล็อตซ้ำซากแม่งจะหาว่าก็อบเขาหมดโดยเฉพาะหนังไทย
ปล.อันนี้ไม่เกี่ยวนะ กูยังขรรมอยู่เลยที่มีคนว่าอวสานโมเอะโดนอวสานโลกสวยก็อบ เพราะแม่งดูแค่ชื่อ 555
มีนักวิจารณคนไหนในไทยที่โอเคไหมวะ พวกเทพคอน อวยไส้แตกไรงี้เชื่อถือได้ป่ะวะ
>>611 กูแนะนำให้เชื่อใจตัวเอง บางเรื่องต่อให้คะแนนเป็น0ทุกเว็บ(สมมติ)แต่ถ้ากูไฮป์เรื่องนี้มาเป็นเดือนกูก็จะไปดูว่ะ
ส่วนเรื่องเพจหนัง
อวยไส้แตกกับคอนเนตโต้กูให้เชื่อได้ครึ่งไม่ได้ครึ่ง
แมวตัวนั้นฯ คะแนนเฟ้อไปหน่อย บางเรื่องเฉยๆก็สาดไป7ไป8เต็ม10แล้ว
กระทู้ในพันทิปพิมพ์ยาวฉิบหายแต่บอกไม่เคยได้ว่าสนุกหรือไม่สนุก(มึงอ่านหัวกระทู้แล้วคำนวณเองว่าดีหรือไม่ดีก็พอ)
ส่วนเพจที่เหลือก็อ่านพอผ่านๆ เพราะเดี๋ยวนี้กูเลิกอ่านรีวิวหนังละ อยากดูเรื่องไหนก็ดู ไม่อยากก็ไม่ดู
พวกเพจวิจารณ์รีวิว กูมีไว้หลังจากกูไปดูหนังจบแล้วอยากอ่านคนอื่นคิดยังไงมากกว่าแฮะ หรือไม่ก็กลับกันเลยไม่คิดจะดูเลยหาคนเล่าหนังให้กูฟังฟรีๆ เอา
รถไฟดีขนาดนั้นเลยเหรอ แนะนำมาหลายคนแล้ว
กูเฉยๆนะ Train to Busan
แต่ให้เทียบกับหนังช่วง 1 เดือนมานี้ให้ Bourne > Star Trek > Train to Busan > Suicide Squad > Light Out นอกนั้นไม่ได้ดู
กูว่าบอร์นน่าเบื่อนะ ไม่ตื่นเต้นเกมือนภาคก่อนๆ
ข้อเสียของหนังภาคต่อก็งี้ละ
>>621 ไม่อะ สตาร์เทรคที่เป็นหนังภาคต่อเหมือนกันกูว่ายังดีกว่าบอร์นภาคนี้โขเลย
ตอนไปดูบอร์นนี่ดูจบแล้วทำเอาอยากไปซื้อน้ำยาขัดห้องน้ำมาแดก
บทแม่งแทบเรียกได้ว่าเอาหนังสามภาคก่อน (ไม่รวม legacy) มายำรวมกันแล้วเรียงใหม่เป็นเรื่องเดียว
ถ้าไม่ติดว่าเรื่องโปรดักชั่นยังดีอยู่นี่กูคงได้แดกน้ำยาขัดส้วมจริง ๆ ละ
บอร์นนี่กูหลับเลยด้วยซ้ำนะ......
เทลเลอร์หนังป๋าโนแลนใหม่นี่กูรู้สึกเฉยมาก คนรอบตัวhypeกันหมด รู้สึกแปลกแยกสัส ตอนเริ่มกูนึกว่า death stranding ของโคจิม่า 55555
รถไฟปูซานสนุกจริง สมกับคะแนนมะเขือ 90+ ไม่แปลกใหม่ แต่ครบสมบูรณ์ทุกอารมณ์
กูไปดูก็อดซิลล่ามาแล้ว เทพสัสๆ
ทำไมคนไทยบางคนถึงคิดว่าหนังที่ใช้คนแสดงน้อยเป็นหนังห่วย หนังที่คนแสดงเยอะเป็นหนังดีว่ะ บางเรื่องเห็นคนมาด่าแบบเล่นอยู่ไม่กี่คนนอกนั้นตัวประกอบงี้
ปูซานเป็นอีกเรื่องที่กูอยากให้ทุกคนได้ดู ทำเอาเครื่องสำอางค์บนหน้ากูหายไปหมดเลย
>>632 taste ของสังคมกำลังพัฒนาก็แบบนี้ (ไม่ได้ประชด นี่พูดจริงๆ) ถ้ามึงอ่านเม้นตามเพจหนังก็น่าจะเห็นนะว่าคนไทยจำนวนมากไม่สนใจดูฉากที่คุยกันด้วยซ้ำ นั่งปิดสมองรอฉากบู๊อย่างเดียว หนังหลายเรื่องโดนด่าในบ้านเราว่า "น่าเบื่อ" "เดินเรื่องอืด" ไม่ใช่เพราะมันอืดหรอก แต่เพราะมีฉากที่ไม่ใช่ฉากบู๊เยอะแค่นั้นเอง
>>634 มันไม่ใช่เทสของสังคมกำลังพัฒนาบ้าบออะไรอย่างที่มึงพยายามจะตะแบงหรอกนะเพียงแต่คนส่วนมากมองว่าสื่อพวกนี้มันมีไว้ให้ความบันเทิงกับคลายเครียด คนมันมองว่าของพวกนี้เอาไว้ดูยามว่างเพื่อผ่อนคลายซึ่งมันก็ถูกแล้ว
ไอ้พวกที่ไปทุ่มเวลาทั้งหมดไปกับของพวกนี้แล้ววิจารณ์เป็นฉากๆติโน่นนั่นนี่เป็นไอ้บ้าทั้งที่ไม่ใช่สายอาชีพนี้ต่างหากที่พิลึก -_-"
หนังไมเคิลเบย์ ลอยเข้ากูเลยสัส
ดูเบื้องหลัง Shin Godzilla ไปแล้วโคตรเงิบ นี่สรุปแม่งไม่ได้ใช้หุ่นยางหรอกเรอะ? โคตรเนียน
ถามช้าไปสองนาที
ชินก็อตเป็นไงบ้างว่ะ รีวิวหน่อย
>>646 เท่าที่อ่านมาหนังมันค่อนไปทางเน้นบทพูดเชิงเสียดสีการการเมืองในยุ่นโดยเฉพาะช่วง สึนามิ กับ เตานิวเคลียร์ ช่วงปี2011+มีกัดเรื่องการวางตัวของมะกันพอสมควรงั้นถ้าใครหวังว่า ก๊อตจิ จะโผล่มาเยอะๆก็คงผิดหวังอ่ะนะ แต่ทางยุ่นดูจะชอบ ก๊อตจิ ตัวนี้มากกว่าของฮอลลีวู้ดปี2014
https://twitter.com/mugenjin/status/763322284970942465
กูเข้าใจสาเหตุที่พี่ก็อตเดินเข้าเมืองล่ะ....
เห็นพี่ก็อด ยิงบีมออกจากปาก เป็นเส้นบางๆ แล้ว บอกเลย กูไม่พลาดแน่ๆ
เรื่องPreferenceของมนุษย์นี่เป็นอะไรที่ทำให้กูงง(ในทางตะลึง มหัศจรรย์)ได้จริงๆนะ
อย่างเช่นเเดกไอติมกะเพื่อน มึงเเดกรสมะนาว เเต่เพื่อนมึงเเดกช็อกโกเเลต ถ้ามึงบอกเพื่อนมึงว่า"มึงชอบช็อกโกเเลตได้ไงวะ มึงเเม่งShit Taste" คนอื่นจะด่ามึงหมด ว่าไอ้เหี้ยนี่ปัญญาอ่อน ใครชอบไอติมรสอะไรก็เรื่องเเม่งดิ
เเต่ถ้าเปลี่ยนรสไอติมเป็น"Art" ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ หนัง หรือเพลง เวลาที่คนที่มีPreferenceต่างกัน ชี้ของคนอื่นว่าเป็นShit Taste บอกว่าที่กูชอบมันSuperiorกว่าที่มึงชอบ มักจะไม่มีคนมาด่าว่าไร้สาระ เเต่จะดีเบทกันเเทน ทั้งๆที่รวมๆเเล้วมันก็boil downลงมาที่"Preference" นั่นล่ะ
หรือเป็นเพราะว่า Art มันมีเรื่องต่างๆเป็นองค์ประกอบมากกว่ารสชาติวะ เลยมองว่ารสไอติมเป็นเรื่องที่ไม่น่าเสือก เเต่ความชอบทางศิลปะเสือกได้ เพราะมีองค์ประกอบให้เปรียบเทียบกันมากกว่า อืม น่าคิดๆ
เเต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องยอมรับล่ะนะว่าถ้าไม่มีการวิจารณ์ศิลปะ มันก็คงไม่มีศิลปะหลากหลายให้เสพกัน พวกที่ชอบพูดว่า"จะวิจารณ์ทำไมวะ วิจารณ์เเล้วได้อะไร" นี่ควรจับโยนลงหลุม Kappa
กูว่ามึงตอบผิดมู้นะ
ดูรถไฟไปปูซานแล้ว ก็สนุกดี แต่กูรู้สึกว่าหนังมันไร้วิญญานแปลกๆ
>>650 ศิลปะมันสามารถให้คุณค่าได้ ดังนั้นมันจะมีศิลปะที่ Shit taste กับศิลปะที่ High taste ก็ไม่แปลก
เรื่องไอติมนี่มันพลาดตรงที่เอาไอติมในระดับเดียวกันมาเทียบกัน จริงๆต้องเป็น แดกไอติมร้านข้างทาง Shit taste แดกฮาเก้นดาส High taste
ถ้าพูดถึงวงการหนัง ชอบไมเคิล เบย์ Shit taste ชอบโนแลน High taste
ถ้าเป็นAnimation ชอบดิสนี่ย์ Shit taste ชอบจิบลิ High taste
ถ้าเอา High จริงๆ ต้องพวก เวด แอนเดอร์สัน , เดวิด ฟิชเชอร์ , สไปร์ โจน , โซเฟีย คอฟเปร่า (สำหรับกลุ่มนี้ taste ของกูถือว่าเป็น Mid-High นะ) พวกที่สูงกว่านี้จะเริ่มดูไม่รู้เรื่องละ
>>659 กูให้เทอร์แรนซ์ มาลิคอีกคน รายนี้Highไป กูดูไม่รู้เรื่องโว้ยยยย
ส่วนหนังเรื่องไหนศิลปะ/ไม่ศิลปะ หรือ High/Shit กูว่าคุยกันไปก็ปวดหัวว่ะ กูเรียนภาพยนตร์ครูกูพูดเสมอว่าภาพยนตร์คือศิลปะอีกแขนงหนึ่ง(แขนงที่7)
หนังที่ดีคือหนังที่ยกระดับจิตใจคนดูได้ ให้คนดูได้รู้สึก(ว่าง่ายๆก็ได้รับบทเรียนจากหนัง) แล้วได้รับบทเรียนคืออะไร? อะ กูแยกหนังให้เป็น2ประเภท
1.หนังที่ดูแล้วยกระดับจิตใจคน ได้ข้อคิด หรือกระตุ้นต่อมบางอย่างให้คนดูรู้สึกตามไปกับสิ่งที่สื่อออกมา เช่น มีแรงบันดาลใจทำอะไรบางอย่างหลังดูหนังจบ มีไฟสู้ ได้ย้อนมองดูตัวเองจนอยากเปลี่ยนแปลง ฯลฯ
2.หนังEntertainแบบคนข้างบนบอก คือดูแล้วสนุก อาจจะโหดเลือดสาดสะใจ รักแฟนตาซีหวานแหวว ผจญภัยแอ๊คชั่นสุดขอบโลก ผีหลอกน่ากลัว ฯลฯ
แต่มึงดูจบก็ได้เพียงความสนุกว่ามันส์เว้ยเห้ย เศร้าจังพระเอกตาย บลาๆ หรือก็คือมีดีที่ตัวบทมีความซับซ้อน ปมทำมาดี ต้นกลางจบสนุก จบแค่นั้น
ซึ่งสำหรับกู ถ้า2ข้อนี้แม่งอยู่ในเรื่องเดียวกันได้แล้วสมดุลกันนี่คือสุดยอดของกูแล้ว แต่ส่วนใหญ่แม่งจะโอนเอนไปข้อใดข้อหนึ่งแล้วกดอีกข้อจมมิดหายไปเลย
กูง่วงละ สรุปง่ายๆละกัน มึงดูว่าสนุกไม่สนุกพอจบ กูเคยคิดมากตอนดูหนังว่าในเรื่องต้องอย่างงู้น อย่างงี้ อย่างงั้น แม่ง ช่วงนั้นกูดูไม่สนุกซักเรื่องเลย
ทั้งนี้ทั้งนั้น ไอ้ความสนุกของมึงก็อย่าปล่อยปละละเลยเหตุผลในเรื่องเกินไป ไม่งั้นสมองมึงจะตื้อหมด เจออะไรก็ปล่อยผ่านได้หมด ต้องวิเคราะห์บ้าง
ทั้งนี้ทั้งนั้น2 ที่แน่ๆหนังพจอานนไม่ใช่ทั้งArt/EntertainและHighสำหรับกูแน่นอน
ปล.แย้งกูได้ ถึงกูจะเรียนภาพยนตร์แต่กูก็ไม่ใช่มหาเทพที่ไหน
กูมองว่าที่หนังมันเป็น Art เพราะมันรวมศิลปะหลายๆอย่างเข้าด้วยกันว่ะ (ภาพ เสียง งานปั้นงานก่อสร้าง บทประพันธ์ การแสดง)
แต่สุดท้ายก็โดน Hollywood เอาไปทำเป็นอุตสาหกรรม จนเป็นเช่นทุกวันนี้ ซึ่งกูว่าดีอย่างน้อยมันเลี้ยงปากท้องได้
ต้องแบบเดวิด ลินซ์ / ฮาเนเก้ / กัสวองเทียร์ / โกดาร์ด สิครัช
โม่งท่านไหนไปดูพริกแกงแล้ว มาสปอยกูที
ตอบแบบไม่กวนตีน เอาง่ายๆ มันก็เหมือนมึงกินข้าวน่ะ บางทีมึงกินข้าวแกงก็ได้ไม่ซีเรียส แต่บางคนแดกมากๆ ก็เบื่อ หาอย่างอื่นกิน บางคนเจอรสชาติที่ตัวเองตามหาทั้งชีวิตก็เลยกลับไปแดกของเก่าไม่ได้ก็มี ของพวกนี้นอกจากจะขึ้นอยู่กับความบันเทิงแล้วมันอยู่ที่ว่ามึง "คลิก" กับมันมั้ยด้วย ประมาณแบบเหมือนมึงเจอคนที่เข้าใจชีวิตที่ไม่สามารถอธิบายได้ของมึงไรงี้อ่ะ ของแบบนี้มันก็มี บางทีไม่จำเป็นต้องสนุกหรือให้ข้อคิดอะไรก็ได้ แค่คลิกกับชีวิตเรามันก็ถือว่าโอเค
ส่วนหนังคือ Art มั้ย ยังไงหนังมันก็คืออาร์ทว่ะ ทุกอย่างในหนังมันก็ต้องใช้ศิลปะหมด มุมกล้อง การใช้แสง การเลือกสี สิ่งที่มึงเห็นในหนังมันก็ just as planned หมดแล้วแหละ ไม่ว่าจะเป็นหนังอิสระหรือหนังฮอลีวู้ดสตูดิโอก็ตาม
>>661 เมื่อก่อนกูก็เคยคิดแบบมึงว่าคนที่พูดว่าภาพยนตร์คือศิลปะแม่งพูดเอาเท่ แต่จริงๆมันคือการนำศิลปะหลายแขนงมาผนวกใช้เข้าด้วยกัน
ทั้ง การแสดง สถาปัตย์ วรรณกรรม(การเขียนบท) เพลง ฯลฯ ไม่ได้หมายถึงว่ามันคือแอ๊บสแตร็ก ต้องใช้จิตวิญญาณสัมผัสเหมือนศิลปินบางคนบอก
ซึ่งกูก็โอเคกับทฤษฏีนี้ แล้วทีนี้มันจะเอนเตอร์เทนคนดูหรือมีประโยชน์กับคนดูรึเปล่าอันนี้ก็เป็นอีกประเด็นละ ซึ่งกูไม่ขอยุ่งด้วยแล้ว ปวดหัว
>>662 ถ้าเป็นที่ที่วันที่20จะมีจัดงานมวยอะไรสักอย่างล่ะก็ คงที่เดียวกัน
>>663 ตามนั้น กูคิดเหมือนมึง
ว่าก็ว่า สรุปว่า>>653 ที่บอกหนังมันดูไร้จิตวิญญาณมันคือยังไงวะ ขอคำอธิบายแบบเป็นรูปธรรม
กูดูก็โอเค หรือกูไม่ได้คาดหวังอะไรไปก่อนดูเลยไม่อะไรมากวะ
ปล. อาทิตย์นี้กูอยากดูแฮนด์ไมเดนฉิบ ลิโด้เสือกเข้าแต่รอบ2ทุ่ม ไม่มีเวลาดูโว้ย แล้วFront coverเป็นไงมั่งวะ
เพื่อนกูไปดูแฮนด์ไมเดนคนเดียว แล้วก็มาบ่นกับกูใหญ่ เพราะมันไม่นึกว่าหนังจะเรทขนาดนี้5555 แถมเป็นผู้หญิงคนเดียวในโรงด้วย สงสารก็สงสาร ขำก็ขำ55
ส่วนอันนี้ ตัวอย่างล่าสุดของประเทศนึงที่แม่ม โคตรสปอยล์ฉากสำคัญหลายฉากมาก
ไม่ดูก็ข้าม อยากดูกด
https://www.youtube.com/watch?v=dw7cjNbQmEY
เข้าวันไหนนะ
ก็อตซิลล่า เข้า 8 กันยา ส่วน 28 สิงหามันรอบพิเศษที่ house
train to busan สนุกมึง กูชอบ แต่ไม่ได้ถึงขั้นต้องร้องห่มร้องไห้อะไรแบบที่รีวิวหลายๆ อันว่ามา
เอาเป็นว่าคุ้มค่าตั๋วมากอ่ะ
Train to Busan
สาวเกาหลีเป็นจ้าวเหรียญทองโอลิมปิกแน่ๆ ขนาดท้องโย้แม่งยัง 4x100 ได้
Train to Busan ถ้าไม่ชอบเกาหลีจะดูสนุกไหม
เกลียดเกาหลีเกี่ยวอะไรกับดูหนัง ใช้สติหน่อย
กูไม่ชอบเกาหลี กูยังดูOld Boy สนุกเลย
ส่วนรถไฟจะไปปูซาน ตดดังป้าดถึงWalking Dead เนี่ย ถ้าดูเป็นหนังเอเชียจะดูเหมือนโคตรเทพ เเต่ถ้ามองผ่านเลนส์ฮอลลีวูดมันจะเเค่above average
>>676 ไม่น่าเกี่ยว บางคนด่ามะกันยังเสือกดูหนังฮอลลีวูดร่ำไป
Train to Busan กูว่าหนังจะดูสนุกๆสนุกอยุ่ที่ว่ามึงดูในอารมณ์ไหน
เป็นคนเอเชียที่อินไปกับวัฒนธรรม ความรักของคนรัก พ่อลูก มิตรภาพ แม่จ๋า? ความเสียสละในเรื่อง
มึงอาจจะชอบไปจนถึงตอนจบของเรื่อง มึงจะยินดีมอบคะแนนสูง8-10คะแนนให้กับเรื่องนี้
หรือกลับกัน
Spoiler
เป็นคนดูหนังมาเยอะ โดยเฉพาะหนังสยองขวัญก็จะเดาทางตุ้งแช่ได้ทันที ยิ่งชื่นชอบแนวเป็นเหตุเป็นผลล่ะก็ มึงอาจกดคะแนนเหลือกลางๆค่อนมาสูงนิดหน่อย
สปอยนะเว้ย
มึงอาจจะเผลอจับผิดจุดแปลกๆของหนังว่าทำไมเป้นแบบนี้
ทำไมระยะเวลาการแพร่ระบาดมันดูไม่ลงตัว
มีคนถ่าย Live ซอมบี้ตัวเดียววิ่งมาชนกระจกรถทีเดียวแตกคนถ่ายในรถเสร็จ......
ทีตรงรถไฟแม่งอัดกันเป็นฝูงวิ่งกระแทกโครมๆกระจกประตูแม่งเสือกทนชิบหาย
ฉากปีนป่ายที่กูว่ายังไงแม่งก็เกินเวลาวิ่งมุดอุโมงค์
ความเร็วซอมบี้ที่ตอนวิ่งไล่แม่งตกลงจะเร็วหรือช้ากันแน่วะ
ความไม่เมคเซ้นต์ของพลังกายตัวละครในเรื่อง ทั้งตอนฟัดซอมบี้และวิ่งไล่รถไฟ(วิ่งหนีซอมบี้ด้วย)
ฉากเหล่าตัวเอกติดสตั้นโง่ๆอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะตอนสุดท้ายแม่งรอทำอัลลัย
ไหนจะตอนจบมึงไปทำแบบนี้นี้เหมือนอยากฆ่าตัวตายเลยคับแม่งเสี่ยงเรียกห่าฝูงซอมบี้มา
ส่วนสำหรับกู ดุแล้วไม่เสียดายเงิน
กูดูNERVEมาละ อารมณ์เหมือน13เกมสยองแต่จะออกวัยรุ่นๆหน่อยเลยไม่ค่อยดาร์ก(+จิกกัดสังคมออนไลน์)
เริ่มเรื่องน่าสนใจดีแต่พอดูไปเรื่อยๆแม่งเรียบไปหน่อย อุปสรรคก็ผ่านแบบไม่ยากเย็นเท่าไร
ประเด็นสังคมออนไลน์ก็เล่นไม่ค่อยหนัก ถือว่าดูฆ่าเวลาได้แบบไม่เสียดายเวลาและไม่เสียดายตังค์
ที่จะเข้าอาทิตย์นี้มีอะไรน่าดูมั่งอ่ะเพื่อนโม่ง มีเรื่องไหนห้ามพลาดป่ะ
Ben hur น่าจะโอเคอยู่นะ
พึ่งไปดู Train to Busan เมื่อคืน
กูว่าถือว่าเป็นหนังที่ใช้ได้ในช่วงนี้ แต่ไม่ถึงกับที่อวยๆกัน
ยิ่งถ้าใครดูหนังแนวซอมบี้มาเยอะ มึงสามารถเดาได้ตั้งแต่แรกเลย ว่าใครตายใครรอด ใครเห็นแก่ตัว
พอมึงเดาได้ขนาดนั้น พอพึงฉากที่มันดราม่า มึงก็จะไม่ดราม่าแล้วล่ะ
กลับไทยสิ้นเดือนจะทันดูรถไฟปูซานมั้ยวะเนี่ย กระแสดีแบบนี้น่าจะอยู่ยาวป่าวนะ
ดู Skiptrace มาแล้วติดใจ
ตกลงจี้จุดสลบมีจริงสินะ
อลิสสนุกดีนี่หว่า สีสดเหมือนเดิม ถ้าไม่แคร์ว่าแต่งใหม่นอกต้นฉบับ(ไปเยอะ)(มาก)ตัวบทของหนังเองก็ไม่มีจุดอ่อนให้ติ ไคลแมกซ์ก็โอเค ไม่ยัดฉากสงครามเลอะเทอะเหมือนภาคแรก
ภาคแรกกูเสียดายที่ดิสนี่ย์สร้าง ลุงทิมน่าจะใส่ฉากโหดๆได้เยอะแต่ติดข้อจำกัดของดิสนี่ย์ กูดูเพลินๆเสพภาพสวยๆ และเพราะนางเอกน่ารักดีกูเลยไม่หลับไปก่อน
ตอนภาคแรกออกกูโดนกระแสเกม alice madness return มาด้วย
พอเห็นชื่อ Tim กำกับคิดว่าจะมีฉากป่วงๆ อาร์ทๆเยอะ
แต่สุดท้ายอารมณ์ดิสนี่ย์จ๋ามากๆ ทำเอาผิดหวังไม่น้อย
ภาค 2 นี่เดี๋ยวต้องหาเวลาไปดูอีกที
วันพีซฟิล์มโกลด์ เฉยๆว่ะ strong worldกับZสนุกกว่าเยอะ โอดะอวยเกินจริงไป
ปล.พึ่งได้ดูเทรลเลอร์คุโบะในโรง ก็สงสัยนะว่าถ้าจะอนิเมทสต๊อปโมชั่นให้ลื่นขนาดนี้ไม่ทำเป็น3Dไปเลยวะ สต๊อปโมชั่นเอกลักษณ์มันคือเห็นช่องว่างการเคลื่อนไหวแท้ๆ
ภาค Omatsuri เจ๋งสุดแล้วครับ
ผู้กำกับภาคหลังๆสู้ Hosoda ไม่ได้ซักคน
พีทดราก้อนพอใส่เพลงประกอบแม่งดูเป็นหนังโร้ดคันทรี่มากๆ
ตัวหนังใช้ได้ละแต่อารมณ์ไม่ถึงเท่าไร
ปล.มังกรน่ารักเชี่ยๆ
สิ่งที่กูยอมดู Mechanic:Resurrection
มีนักแสดงหญิงไทยไปเล่น(ฝั่งตัวร้ายด้วย)
ฉากถ่ายทำที่เกาะหลีเป๊ะไทยตอนต้นเรื่อง(ตำรวจไทยแม่งมีปืนกลด้วย555) ถ่ายกรุงเทพอีกหน่อยหนึ่ง
เนื้อเรื่องง่อยมาก ตอนอยู่ในไทยก็ใช้เวลานานเกิ้น พล็อตโหว่เพียบ นักแสดงไทยกูมีบทแค่ตอนต้นแล้วหายไปเลย. นึกว่าจะได้ไปต่อยซัดกับพระเอกก่อน
ถอดสมองดูเอาแอ็กชั่นเสพย์ความเก่งเวอร์ของพระเอกพอ(ตัวอย่างหนังแม่งก่อนฉายแม่งก็สปอยเนื้อเรื่องสัส)
>>697 Omatsuri ดีสุดจริงๆ ทั้งพล็อต ทั้งการกำกับ ทั้งปูมหลังตัวร้าย บางฉากกุดูแล้วขนลุกยังกับดูหนังสยองขวัญ ไม่น่าเชื่อว่าวันพีซมูฟวี่จะทำได้ขนาดนี้ (ไอ้ฉากที่หัวหน้าตัวร้ายโกหกลูกน้องว่าทุกคนยังไม่ตายนี่ก็สะเทือนใจมาก)
เสียดายที่งานภาพมันล้ำไปหน่อย แฟนๆ เลยรับไม่ได้ กุว่าถ้าใช้พล็อตเดิมแต่เปลี่ยนลายเส้นให้เป็นแบบ Film Gold นี่ หลายคนคงอวยกันสุดๆ แน่นอน
คำวิจารณ์รอบสื่อ ก็อดซิลล่า ออกมาดีจัง
เดี๋ยวนี้เค้าไปถึงไหนแล้ว ของอเมริกาทำออกมาดีมาก CG เนียนตา
ประเทศต้นตำรับ ยังใช้ชุดยางแข็งๆ ทื่อๆ ชักสลิงให้หางขยับอยู่เลย บ้านเมืองยังเป็นโมเดล
รถถังของเล่น ฯลฯ ที่คำวิจารณ์ออกมาดี น่าจะเนื้อเรื่องเครียดการเมือง ตามที่เห็นแต่ละนักวิจารณ์บอก ส่วนก็อดซิลล่าเป็นแค่ตัวประกอบสินะ
มัน CG ไม่ใช่เหรอ แต่ทำให้เหมือนชุดยางเฉยๆ
ไม่แปลกที่ฝรั่งจะด่ากัน นอกจากก็อตซิลล่าออกน้อยแล้ว ก็อตซิลล่าภาคนี้เป็นหนังการเมืองที่ด่าอเมริกาตรงๆเลย แต่เรื่องฉากคุยกันเนี่ย คือคุยกันฉิบหายวายวอดจริงๆนะและพูดกันไฟแลบแบบที่มึงพลาดไปนิดหน่อย มึงไม่รู้เลยว่าพูดเรื่องอะไรกันอยู่
แต่จริงๆ โกจิร่ามันก็หนังอเมริกาอยู่แล้วนี่นะ
แล้วแต่จะคิดนะ เพราะภาคแรกมันเชิงเตือนถึงอันตรายของนิวเคลียร์ว่ามึงไม่ควรจะใช้นะ ไม่ใช่ อเมริกามึงมันเหี้ยที่ทิ้งบอมบ้านกู แต่ภาคนี้มีอเมริกามีบทเข้ามาเต็มๆและมีการด่าตรงๆเลยว่า มึงเสือกญี่ปุ่น
>>701
อ่านบทสัมภาษณ์ผู้กำกับแล้วน่าสนใจดี
บอกว่าเอาประสบการณ์แย่ๆตอนที่ทำงานที่ Ghibli มาเป็นต้นแบบของหนัง
https://instrangeaeonsblog.wordpress.com/2016/04/24/mamoru-hosoda-on-omatsuri-danshaku-animestyle-interview-part-1/
นาวยูซีมี2เสียงอีสาน จริงจังสัตว์
http://www.boomerangshop.com/web/index.php/app/product/fnc/detail/id/1366258
แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว (7/10)
ถือว่าโอเคนะ หนังไทยขาดอารมณ์นี้ไปนานพอควร เป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ดีของ GDH
ปล.เต๋อเล่นเป็นคนเนิร์ดๆไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่ กลับกันตัวนางเอกเล่นดีมากๆ
ไม่เหมือนๆ ออกแนวโรแมนติกซึ้งๆ มากกว่าตลก
ถ้าไม่นับ context ของหนังจะถือว่าเป็นไงวะ จะมีคนไฟท์กันเรื่องด่าเมกาอวยปุ่นไรงี้มั้ย
*กระจอก
กูไม่แปลกใจนะถ้าคนมันจะมองว่า ก็อตซิลล่าคือหนังสัตว์ประหลาดทำลายเมือง ต้นฉบับของมันคือถ้าไม่ใช่แฟนหรือคนที่ดูหนังเยอะๆ มันไม่สนใจหรอก ส่วนใหญ่คนมันจะจำภาพจากยุคเฮย์เซย์ ที่แม่งเป็นหนังสัตว์ประหลาดตีกันไปหมดแล้ว พอ Shin แม่งกลับมาหนทางเดิม คนแม่งเลยบ่นแหละ
กูชอบของเวอร์ชั่นแรกสุดมาก การที่ชินมันกลับมาในหนทางเดิมแบบ 1954 แถมก็อตซิล่ามาในรูปแบบมหันภัยจริงๆถือว่าชีวิตนี้กูตายตาหลับละ
แฟนเดย์ ไม่ค่อยมีอะไรพิเศษเท่าไร ไม่ดีไม่แย่ หนังเรื่อยๆจนแอบง่วง
ถ้าไม่ใช่ติ่งGTH(ที่แยกวงมาเป็นGDH) เก็บตังค์รอดูก๊อดซิลล่าหรือตามเก็บเรื่องเก่าๆอาทิตย์ที่ผ่านมาดีกว่า
แต่สำหรับกู กูอินนะ รู้สึกเหมือนตอนไล่จีบสาวอะTT แต่ช่วยท้ายเฉยมากกกก กูว่ามันไปไม่สุด แต่กูก็ชอบอยู่ดี
กุเดาว่ามันต้องจบที่พอความจำกลับมา ก็พบว่านางเอกมีแฟนอยู่แล้วรักกันดีด้วยไอ้พระเอกก็ต้องแห้วแดกได้แต่เก็บความทรงจำดีๆติดตัวไปแบบกึ่งสุขกึ่งเศร้า..
แล้วก็เลยเกิดความรู้สึกไม่อยากไปดูละ ดูสูตรสำเร็จ ดูไปก็คงไม่รู้สึกอะไร เพราะกุเองก็ลืมเรื่องรักๆสมัยวัยรุ่นไปจนเกลี้ยง ทุกวันนี้ก็ชินกับโสตจนเลิกสนใจหาแฟนไปแล้วด้วย
กูเป็นอีกหนึ่งโม่งที่ไม่อินกับหนังรักฟ่ะส่วนนึงคงเพราะตอนรุ่นๆกูออกแนวฟันแล้วทิ้งด้วยอ่ะนะ แฮะๆ
กูอ่านการ์ตูนบนเว็บที่เป็นเรื่องก่อนเข้าเนื้อเรื่องในหนังนี่ทำเอากูอยากดูเลยทั้งที่ไม่เคยชายตาแลหนังไทย แต่พอเห็นเรื่องย่อและรีวิวหลายเพจกูลังเลเลย คือในการ์ตูนพระเอกแม่งก็ดูโอเคออก เรื่องงานก็ฝีมือพอตัว สังคมก็มี แค่ขี้อายไปหน่อยแต่ไม่ถึงกับไม่กล้าคุยกะหญิงขนาดนั้น ทำไมในหนังมันกลายเป็นโนบอดี้ขนาดว่ามองเมียน้อยหัวหน้าเป็นดอกฟ้าเกินเอื้อมได้ขนาดนั้นวะ
อีกอย่างก็เรื่องเมียน้อยหัวหน้านี่ละ เห็นในการ์ตูนมีตอนที่พระเอกพลาดหญิงดีๆไปเพราะผู้หญิงมีแฟนแล้ว กูก็คิดว่าในหนังคงมีผู้หญิงที่ดีพอๆกันหรือดีกว่าที่พระเอกมันจะจีบได้เต็มตัวซะที นี่กลายเป็นเอาเมียน้อยใครไม่รู้มาเป็นนางเอก ละให้พระเอกวางแผนntr อะไรของแม่งวะ???? ถ้าจะทำตามสูตรกูว่าทำแบบสูตรเมะฮาเร็มยุ่นซะเลยยังจะดีกว่าอีก ให้มีหญิงดีๆเข้ามาในชีวิตละปิ๊งกันไรงี้ ง่ายดีละยังรู้สึกน่าดูมากกว่า
พึ่งเห็นเทรลเลอร์เดะริงเวอร์ชั่นฮอลลีวู้ด อะไรแม่งจะสปอยล์จนกูไม่ต้องดูในโรงขนาดนี้วะ
พึ่งได้ดูHand maidenแม่งดีเหมือนกันว่ะ ฉากSexอล่างฉ่างฉิบ....
ส่วนKubo..... มึงทำ3Dเหอะถ้าจะทำสต๊อปฯขนาดนี้ แต่คือแม่งลื่นจนเสียเอกลักษณ์สต๊อปฯจริงๆ เลยระดับสต๊อปไปแล้วแต่ก็ไม่ลื่นพอจะเป็น3D มึงเอาซักทางสิวะ
ส่วนเนื้อเรื่องWTFมากยันกระทั่งตอนจบ ดูแล้วอยากกุมขมับ
เพจจำพวกโหดสัส เปี๊ยก พวกนี้ทำไมแม่งชอบสปอยหนังกันว่ะ ตั้งแต่ CW bvs มาคราวนี้แฟนเดย์ถึงจะเป็นอีกเพจก็เหอะ หมดรมณ์เลยสัส
ฉากเย็ดนี่โป๊ระดับไหนวะ เห็นนมเห็นหีมั้ย
ชินโกจิร่าแม่ง......ถ้ามึงเคยดูอีวาจะเดจาวูบ่อยมาก ตั้งแต่มุมกล้อง ตัวละคร ยันซาวด์แทร็ก
แต่ให้มึงอย่าคาดหวังว่าจะเป็นแนวหนังสัตว์ประหลาดทำลายบ้านเมืองแบบเวอร์ชั่น2014นะ
ตามรีวิวที่ออกมาแหละว่าเป็นหนังเกี่ยวกับญี่ปุ่นจะทำยังไงเมื่อเจอภัยพิบัติธรรมชาติอย่างสัตว์ประหลาดยักษ์ ให้เตรียมใจว่าพูดเยอะเหี้ยๆ
กูชอบช่วงแรกหนังมาก แม่งตลกร้ายเหี้ยๆ มาช่วง2พี่ก็อตขโมยซีน กูเสียดายหนังมันดรอปลงช่วงท้ายไปหน่อย ถึงช่วงรุมปราบแม่งจะลุ้นสัดก็เถอะ
ในที่สุดก็มีคนมาช่วยกูกรี๊ดชินก็อด กูดูตั้งแต่ฉายที่ญี่ปุ่นวันแรก ไม่มีใครมาไฮป์กะกูเลยยย
หนังแม่งดีจริง ใครชอบเอวาต้องดู ใครชอบบู๊ๆหลับแน่นอน
สมัยก่อนก็ชอบดูนะ ตอนเด็กๆ เวลาก็อดซิลล่าโผล่ออกมาช่วยโลก สู้กับเหล่าตัวร้าย
มีสัตว์ประหลาดเยอะๆ เดี๋ยวนี้ พอเห็นแล้วก็ขำๆ ว่าสมัยก่อนดูไปได้ยังไง แต่ตอนอเมริกาทำออกมา เราว่าโอเค ทั้งสองเวอร์ชั่นเลยนะ
ทั้งปี 1998 และ 2014 เราก็ว่าดูสนุกทั้งสองเรื่องเลย คือปล่อยให้ฝรั่งมันทำ เราว่าดีอ่ะ
แต่ญี่ปุ่นทำ...... ใส่ชุดยางอีกล่ะเหรอ รถถังของเล่น เครื่องบินบังคับ สมัยเด็กๆ ก็ดูตื่นตาดี ชอบมากๆ เวลาเห็นพวกบ้านเมืองจำลอง ย่อส่วน ตึกรามบ้านช่องถูกทำลาย แต่ตอนนี้ มันเปลี่ยนไปแล้วว่ะ คือ คนเรามันก็ต้องมีเปลี่ยนใช่ม่ะ
ไม่ใช่ไม่อยากดูนะ อยากดู อยากเห็นพัฒนาการการถ่ายทำของญี่ปุ่นเหมือนกัน แต่ดูจากตัวอย่างแล้วก็ได้แต่เบะปาก ยังย่ำอยู่กับที่ไม่ไปไหน
คนใสชุดยังไงก็อย่างนั้น แถมทำออกมาแข็งจนดูไร้ชีวิตชีวา กว่าสมัยก่อนอีก คงรอออกแผ่น ไม่ก็โหลดเถื่อนมาอย่างเดียวล่ะ ไม่อยากเสียดายตังค์
อ๋อ ลืมไปอีกอย่าง จริงๆ ก็อยากรู้ด้วยว่า ภาคนี้ ก็อดซิลล่าจะออกมาสู้กับศัตรูตัวอะไร เหมือนตัวอย่างจะปิดความลับไว้
แต่ก็นะ เห็นเทคนิคการถ่ายทำแล้ว รู้สึกเสียดายตังค์มากกว่า เลยอดกลั้นความอยากรู้ไว้ รอแผ่น รอโหลดดีกว่า
ยังไม่เนียนพอ keep trying!!
>>748 โิอเคเข้าใจละ การที่มึงชอบของปี 1998 ไม่ใช่ความผิดหรอก แต่ถือว่ามึง shit taste เอามากๆ สำหรับคนที่บอกว่าชอบก๊อตซิลล่า
มันเป็นหนังที่นักวิจารณ์ทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น แทบทุกคนด่ากราด
ส่วนร่วงตัวก๊อตซิลล่าภาคนี้ ก็ตาม >>750 มึงจะเอาไงกันแน่ก่อน
อย่างไรก็แล้วแต่ ควรดูหนังก่อนค่อยมาตัดสิน แต่กุว่ามึงก็คงไม่ชอบอยู่ดีแหละ นิสัยและรสนิยมการดูหนังของมึงน่าจะ "ไทย" เอามากๆ ชอบหนังเน้นการทำลายล้าง ดูเอาบู๊เอามันส์ แต่ภาคนี้มัน "หนังการเมือง" พูดเยอะ เน้นคนเป็นหลัก ไม่ถูกโฉลกรสนิยมคนไทยส่วนใหญ่ ที่ไม่ใช่สายคอดูหนัง
กุขำเพจหนังที่ด่าๆ เรื่องนี่อยู่ ไอ้การด่าด้วยคำทำนองว่า "ตัวละครแม่งพูดกันอยู่ได้ กุฟังไม่ทัน" นี่มันบ่งบอกสติปัญญาคนวิจารณ์ชัดๆ
ชินก๊อตจิ แม่งสาวไส้พวกชิตเทสกับพวก critic วันนาบีได้ดีนักล่ะ พวกนักวิจารณ์สาย superheroes กับสายโลกสวยแม่งตายอนาถกับเป็นแถบๆ
>>744 ไม่ใช่ชุดยาง ตาม >>704 >>711 >>717 >>718 คือถึงมึงจะขี้เกียจหาข้อมูล แต่อย่างน้อยอ่านที่คนอื่นเม้นหน่อยก็ดี
ไอ้เวอร์ชั่นกิ้งก่ายักษ์เนี่ยชอบเข้าไปได้ไง กลิ่นฮอลิวู้ดหึ่งมาก หนังสัตว์ประหลาดฮอลิวู้ดเพลนๆที่แค่เอาชื่อก็อดซิลล่ามาเป็นจุดขาย
2014 อะค่อนข้างโอเค ยกเว้นดราม่าชีวิตพระเอกที่ปัญญาอ่อนสรัด
แต่นะ คืออย่างมึงไม่ใช่แฟนอะ ตั๋วไม่ถึง 200 ไม่ยอมจ่าย แต่จะบิทก็ไม่ต้องคุยกันต่อแล้ว
ก็อตจิ ปี 98 ถ้ามองเป็นหนังสัตว์ประหลาดธรรมดาถือว่ามันสนุกนะเว้ย ฉากแอคชั่นมันดีใช้ได้ เพียงแต่พอแปะชื่อก็อตซิลล่าเลยห่วยเพราะมันไม่ได้เอาลักษณะเฉพาะก็อตจิ ที่ต้องถึกทนมือทนระเบิดเท่านั้นว่ะ
กุไปดูมาแล้ว ชอบมาก ตอนปล่อยของนี่ขนลุกเลย มุขตลกโอเคเลย
แต่กุไม่ชอบเพลง ost เลยว่ะ มีชอบอยู่สองเพลง ตอนปล่อยของกับตอนจบ ส่วนที่เหลือกุว่ามันไม่ค่อยเข้ากับฉากว่ะ
โดยเฉพาะตอนแผนของพระเอกมั้งถ้ากุจำไม่ผิด กุรู้สึกว่าดนตรีมันเสร่อมาก
ตอนปลุกใจกุก็ไม่ค่อยอิน อาจเป็นเพราะพากษย์ไทย หนังญี่ปุ่นเมะญี่ปุ่นกุไม่ได้ดูพากษย์ไทยมานานแล้ว
CG กุชอบนะ มันเหมือนชุดยางมีชีวิตอ่ะ(ตอนยังไม่อีโวล) อธิบายไม่ค่อยถูกเอาเป็นว่ามันสวยแบบแปลกๆ
น่ารักแบบแปลกๆด้วย ฮา กุไม่ชอบตาอย่างเดียว
ส่วนพวกรถถัง เครื่องบินนี่โอเคเลย นี่ถ้าไม่ได้ดูเบื้องหลังกุนึกว่าของจริงซะด้วยซ้ำ
ส่วนก็อดภาคนี้น่ากลัวอยู่ แต่จุดอ่อนแม่งกลบความน่ากลัวไปเยอะ ตอนจบนี่ wtf มากกุดูไม่ทันมัวไปสนใจไอ้ที่คล้ายๆเอเลี่ยน
อันโนะนี่แม่งอันโนะจริมๆ ความโกรธแค้นที่กูยังไม่ได้ดู 4.00 หายไปหมดแล้ว
ร่างขึ้นบกครั้งแรกกูขนลุกมากเลย เหงือกแม่งมีเลือดสาดลงมา
ช็อตสุดท้ายของหนังแม่งคือเหี้ยอะไร!! ไอ้สัส สมกับเป็นอันโนะจริงๆ
สำหรับใครที่งงตอนจบว่ามันคือเหี้ยอะไร......ยังจำหนังสั้นที่ฉายปะหัว3.33กันได้ไหม?
สัตว์เอ๊ย สุดท้ายมึงก็เอางานเก่าๆมารีไซเคิลสนองนี้ดตัวเอง ไม่รู้จะเริ่มด่าตรงไหน
ทำของสนองนี้ดแล้วไงอ่ะ? ออกมาโอเคก็พอแล้วนี่หว่า
มันเป็นงานแก้กรรมของอันโนะด้วยนา
หลังเอวา 3.3 อันโนะสติแตกไป ทำอะไรไม่ได้
ซึ่งทางโตเอะก็โอเคให้อันโนะทำเต็มที่ (เชิญสามครั้งเป็นขงเบ้งเลย)
แต่ก็นะ กิมมิคอันโนะเยอะมาก มาทุกเฟติช
ตั้งแต่เฟติชสะพานลอย ทางรถไฟ สายไฟ รถไฟ
คุยกันยังไปนัดคุยที่สถานีสับรางโมโนเรล
จรวดตกกระทบหน้า วิธีวาดระเบิด ฉากไฟลุกท่วมเมืองที่ใช้สีแบบอนิเม
ที่ชื่นชมมาก คือวิธีปราบนี่แหละ เหมือนแอนตี้ไคลแมกซ์
แต่มันเป็นการอุทิศให้คนที่เสียสละเพื่อหยุดการรั่วไหลของโรงไฟฟเาฟุคุชิมะ
คือถึงจะสนองนี๊ด ก็ไม่บืมแมสเสจสำคัญ อันนี้ก็ชื่นชม
>>768 อันโนะสติแตกเป็นปกติอยู่แล้ว เวลางานเสร็จจะซึมเศร้า หมดอาลัย ตอน 3.3 กระแสตอบรับมันแรงในหลายๆ แง่ จนอันโนะเฟลยาว ไม่มีแรง(อารมณ์) กระทั่งจะทำเอวาภาคต่อไป
ชินก็อดเนี่ย ตอนแรกวางแผนจะทำพร้อมกับของอเมริกา แต่อันโนะเฟลอยู่เลยปฏิเสธไป จนโทเอะเอาฮิกุจิ(ผกก.ไตตัน, เพื่อนอันโนะที่ตั้งไกแนกซ์มาด้วยกัน) มาช่วยกล่อมอยู่สองปี จนยอมทำ โดยให้อิสระเต็มที่ เพราะโตเอะอยากได้ก็อดซิลล่าของคนยุคใหม่
พอทำก็อดซิลล่าจบ อันโนะก็ประกาศขอโทษแฟนๆ เอวา โดยบอกว่าตอนนี้พร้อมทำเอวาต่อแล้ว
พวกแฟนก็อดซิลล่าที่เป็นแฟนเอวาด้วย ตอนปรากฏว่าอันโนะกำกับเฮลั่นเลยว่าชินก็อตซิลล่าต้องออกมาดีๆแน่ เพราะอันโนะจะเทพสุดก็ตอนสติแตกนี้แหละ ยิ่งจะตั้งใจเอาชนะ 2014 แล้วยิ่งออกมาเทพเลย แต่มึงเขียนผิดหรือเปล่า โตโฮนะไม่ใช่โตเอะ
เอาจริงๆ 2014 คือกาเร็ตมันปากดีเอาไว้เยอะ บอกจะกลับไปเป็นพี่ก็อตตอน 1954 ดูจริงไอ้ห่า โชวะผสมเฮย์เซย์
พากย์ไทยก็อดจิเป็นไงวะ โรงบ้านกูมีแต่เสียงไทยทั้งนั้น
พันธมิตรพากย์นอกบทแค่สองฉากนะ ฉากตัวประกอบเจอก็อตซิล่ากับจุดที่เรื่องทุกอย่างมันจบลงแล้ว ไม่ใช่จุดตึงเครียดเลยปล่อยได้
ชอบไอเดียสองร่างแรกนะ ดูแล้วรู่สึกว่ามันเป็นสัตว์ดี
กูอ่านตำแหน่งไม่ทัน แต่จำได้ว่าแปลไม่ครบคนนึงมั้ง ภาษาแปลกๆ เป็นบางช่วง นอกนั้นก็โอเค แต่แม่งคุยกันไวชิบหาย
ไอ้พวกคำแปลตำแหน่งคนนู้นคนนี้นี่กูตามไม่ทันเลย
ทั้งเรื่องกูจำได้แค่ชื่อพระเอก นายก กับก๊อดซิลล่า ที่เหลือกูเหมารวมๆไปว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ(ใครจะอ่านซับทันวะ)
คุยอยู่นั้นล่ะ คุยทั้งเรื่อง แม่งเหมือนไม่ได้ทำการบ้านมาก่อนว่า ก็อดซิลล่าของแท้เป็นยังไง
เหมือนอยากทำหนังการเมือง จิกกัดนักการเมือง แต่เอาก็อดซิลล่าใส่ประกอบเข้ามา
ดีไซน์ได้กิ้งก้องมาก ตานี่แบ้วเลย พวกทหารก็โง่ คิดเองไม่เป็น รอแต่ฟังคำสั่ง เชี่ย แค่มันเปลี่ยนร่างนิดเดียว ถึงกับต้องขอคำยืนยันในการโจมตีใหม่
ตลกมาก แค่มี คนแก่อยู่แถวนั้น ถึงกับยกเลิกคำสั่งโจมตีอีก แสดงให้เห็นถึงความงี่เง่าของพวกทหารสุดๆ
รวมๆ แล้วไม่มีอะไรน่าจดจำ และดึงดูดให้ดูต่อ แค่มันกลับลงทะเลไป (เชี่ย กลับตอนไหนก็ไม่รู้ แต่จู่ๆ ตัดภาพมา ก็บอกว่า กลับลงทะเลแล้ว)
แค่ค่อนเรื่อง หรือกลางเรื่อง ก็ขอลาออกจากโรงดีกว่า
*ไปฝึก
หนังมันน่าเบื่อ กูต้องใช้ความพยายามในการดูด้วยเหรอว่ะเนี่ย สัส แม่งไม่ใช่แนวว่ะ
คือไอ้การรอคำสั่งเนี่ย มึงไม่รู้จริงๆเหรอ ระบบการทำงานราชการทั่วโลกน่ะ แล้วยิ่งญี่ปุ่นในหนังมันก็ชัดเจนว่า กฏหมายแม่งเข้มยังกับควยอะไรมะนก็ยิ่งเสริมจุดนั้นหนักเข้าไป
มึงบอกกุหน่อยแล้วก็อตของแท้มันเป็นอย่างไงว่ะ?
กุล่ะขำนี่เมิงไม่รู้จริงๆหรือแกล้งโง่ว่ะเนี่ย กุว่าไอ้แบบที่พอสถาณการณ์เปลี่ยนแล้วขอยืนยันคำสั่งนี่มันโคตรปกติ
ทหารมันก็คนธรรมดานะเว้ยมันก็รู้สถาณการณ์เท่าที่มันเห็น มันตรัสรู้เองไม่ได้ ต้องอาศัยข้อมูลจากศูนย์
แล้วยิ่งเจอพี่ก็อตอีกในตำรามันไม่มีสอนโว้ย
ขัดหน่อย กูเพิ่งว่างดูปูซาน ใครยังไม่ได้ดูข้ามเมนท์กูไปเลย
เห็นว่าหนังมันสร้างจากเล่ม 2 ของนิยาย 2 เล่มจบ เหรอวะ ถ้าใช่กูจะได้มองข้ามบางอย่างที่มันรั่วๆไปได้
- เรื่องชีวิตคู่พระเอก ทำไมแม่พระเอกถึงด่าเมียเก่าวาานังแพศยา นอกใจผัวเพราะผัวบ้างาน?
- แทบไม่อธิบายเรื่องสำนักงานใหญ่พระเอกเลยว่าทำงานอะไร ทดลองอะไรถึงปล่อยเชื้อซอมบี้กระจายระดับภูมิภาคได้
- ป้าสองพี่น้องความสัมพันธ์ดูแปลกๆ น่าจะมีของ เสียดายไม่ค่อยมีเวลาขยี้
เป็นคนไม่ค่อยดูหนังซอมบี้ เดาได้เกือบหมด
- เหี้ยอ้วน CEO โหวงเฮ้งเห็นแก่ตัวมาแต่ไกลเลย กูขอไม่นับละกัน
- เอาเฮียอ้วนมาเล่นบทหล่อๆกับเรียกเสียงหัวเราะผ่อนอารมณ์ให้คนดูรัก แล้วก็เสียสละ สูตรง่ายๆแต่อินจริงนะ ผ่าน
- เลยเดาว่าตอนจบเมียเก่าพระเอกน่าจะเป็นซอมบี้ แต่ก่อนเสียสติโทรเคลียร์กันเรียบร้อยแฮปปี้ แล้วพระเอกก็ไปเริ่มชีวิตใหม่กับลูกแล้วก็คนท้อง โอเค กูเดาผิด
- พอเฉลยว่าตัวการแพร่เชื้อมาจากกลุ่มพระเอก จบละ แม่งหาทางลงด้วยการให้ตายชัวร์
- นอกนั้นก็อย่างที่หลายๆคนเคยบ่นไป ความเร็วติดเชื้อแต่ละคนห่างกันเกิน คนแพร่เชื้อเข้ารถไฟนี่เลือดอาบแต่ทนได้โคตรนาน สาวมัธยมโดนกัดน่องติดเร็ว เฮียอ้วนโดนกัดมือติดโคตรช้า เหี้ยอ้วนกับพระเอกก็มีเวลาสั่งเสียพอสมควร , เวลาคลานบนชั้นวางของเกินสองนาทีแน่ๆ , กระจกเดี๋ยวแข็งเดี๋ยวเปราะ , ซอมบี้วิ่งสุดตีนไม่ต้องห่วงเจ็บขาเสือกตามเหี้ยอ้วนไม่ออกกำลัง ผู้ชายอุ้มเด็ก คนท้องแก่ไม่ทัน บลาๆๆ
แต่ถึงพอเดาได้มันก็ยังบิวด์ให้อินไปเกือบตลอดทางได้ กูเอนจอยกับมันจริงๆ ไม่เสียดายเงินเลย
ปล. ซีนที่ชอบที่สุดคือตอนป้ามองป้าแล้วเปิดประตูปล่อยโดนแดกยกตู้ แม่งงงงงงงงงงงง
>>796 มีมันภาคก่อนเป็นอนิเมะฉาย 15 ก.ย.นี้ เล่าว่าเชื้อมันแพร่กระจายได้อย่างไง แต่ตัวละครไม่เกี่ยวกับนะ สำนักงานพระเอกเป็นกองทุน คงเป็นคนให้เงินวิจัยการทดลองนี้แหละ ตอนต้นมีพูดถึงขายหุ่นทิ้งและพระเอกดูข่าวปลาตายในอ่างเก็บน้ำแถวที่วิจัย งบอาจจะหมดเลยเกิดอะไรเหี้ยๆขึ้นที่ห้องทดลอง
ลืมบอกว่าชื่อ seoul station แล้วผู้หญิงที่โดนกัดแล้วหนีขึ้นรถไฟเป็นคนพากย์ตัวละครในเรื่องนั้นด้วย
ชินก๊อดจิ อวตารคาแรคเตอร์จากอีวามาหลายตัวเหมือนกันนะ
นักวิทย์ผมสั้นหน้านิ่งๆก็อวตารเรย์มา นางแพตเตอสันอวตารมิซาโตะ+อาสึกะ ขาดคนขี้แพ้ในเรื่องจะได้ครบเด็กผู้ถูกเลือก
ไปดูก๊อตซิล่ามาแล้วว่ะ ตอนที่ดูที่เพราะชื่อของอันโนะบวกกระแสที่บอกว่าจะออกมาเรียลๆแนวการเมืองการประสานงานซึ่งกูก็คาดหวังไว้พอควรว่าแม่งต้องออกมาแนวกดดัน มีความสิ้นหวังชุลมุนวุ่นวายคล้ายๆอีวา แต่ไปดูมาแล้วทำไมรู้สึกผิดหวังจังวะ หนังแม่งไม่รู้สึกกดดันเชี่ยไรเท่าไร ดีตรงช่วงต้นที่คิดว่าปูมาพอโออยู่กับก๊อตตัวอ่อนแล้ววิวัฒนาการที่ไอเดียแม่งเจ๋งดี หลังจากนั้นแม่งน่าเบื่อสัสๆ บรรยากาศห้องประชุมก็ง่อยชิบหาย คือหนังบางเรื่องที่แบบมีเรื่องการประชุมมันจะมีบรรยากาศที่ดูจริงจังและดุดันกว่านี้ นักแสดงก็กลางๆ ตัวผู้หญิงที่มาจากเมกาก็เล่นไม่ค่อยเก่งเลย ไม่รู้สึกว่าตัวแม่งเก่งอะ เรื่องเหน็บการเมืองก็ใส่มาแล้วผ่านไป ไม่สุดเลย อย่างเวลาดูหนังแนวเหน็บการเมืองมาเยอะแม่งจิกได้สุดและแสบกว่านี้มากๆแม้ว่าเป็นรายละเอียดปลีกย่อย กูไม่รู้สึกถึงอินเนอร์ของหนังเรื่องนี้เลยว่ะ อารมณ์ความสิ้นหวังก็ดึงมาไม่สุด ช่วงก๊อตที่ชอบที่สุดก็ปล่อยแสงถล่มเมืองถึงcgมันจะง่อยแปลกๆแต่ก็ทำออกมาแนวดี หลังจากนั้นแม่งผิดหวังไปเยอะ อารมณ์ความกดดันตอนที่unจะใช้นิวเคลียร์แม่งก็ไม่รู้สึกเลย ตัวก๊อตช่วงท้ายแม่งโคตรง่อย โดนตึกทับแล้วก็แค่เอารถไฟขนระเบิดชนเนี่ยนะ ไหนตอนแรกแม่งยิงเท่าไรก็ไม่เห็นเป็นเชี่ยไรเลยไง แล้วก็วิธีการฉีดไอ้สารแช่แข็งเข้าปากก็ดูกากเกิน
สรุปโดยรวมก็ผิดหวังพอควร คิดว่าหนังน่าจะสร้างอินเนอร์ได้สูงระดับนึงซึ่งกูไม่รู้สึกในหนังเรื่องนี้ ประเด็นการเมืองก็รู้สึกผิวมาก บรรยากาศตอนก๊อตบุกเมืองแล้วผู้คนหนีพลุกพล่านก็ทำไม่ค่อยถึง ดูกับพ่อแม่แล้วก็น้อง พอจบนี่ทุกคนด่ากระจาย กูต้องฟังน้องกูด่าหนังเรื่องนี้ยาวจนถึงกลับบ้าน เห็นคนลุกออกจากโรงด้วยอะ อาจเป็นเพราะหนังมันไม่ถูกจริตกูรึว่าอะไรก็ไม่รู้ทั้งที่ชอบอีวามากๆ
ก็มันไม่ได้เป็นอะไรนิ มันแค่สกัดไว้เฉยๆ แผนมันมีทีละขั้นทีละตอน ให้มานาหมดแล้วล็อค จากนั้นก็ curse ให้ hp หมด
มึงดูหนังไม่เข้าใจเอง ที่มันใช้วิธีแช่แข็งก็เพื่อลดความเสียหาย วิธีทางทหารก็สร้างความเสียหายมากไป การฉีดเข้าปากก็เพราะไม่รู้ว่าเส้นเลือดอยู่ตรงไหน อีกทัิงผิวที่หนาแบบนั้น จะใช้อะไรเจาะเข้าไปละ
กูเห็นด้วยนะว่าหนังไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วม แต่คนส่วนใหญ่แค่ดูไม่เข้าใจเองมากกว่า หรือจะบอกว่าอ่านซับไม่ทันก็คงได้มั้ง แล้วกูคิดว่าอันโนะน่าจะดู g-reco ด้วย อารมณ์เหมือนกันมาก แต่ g-reco เก็งคิกว่าเยอะ
กูเห็นด้วยเรื่องฟีลลิ่งที่ความสิ้นหวังมันน้อย มันกดดันน้อย แทนที่จะสิ้นหวังกูกลับมานั่งตื่นตาตื่นใจกับการโชว์ของของไอ้ชินโกจิร่าเสียมากกว่าว่ามันจะงัดอะไรมาให้กูอึ้งได้อีก แต่สำหรับกูช่วงเตรียมลง Nuke กูชอบนะ กูเห็นสายตานักแสดงแล้วกูรู้สึกว่ามันตึงสุดแล้ว รู้สึกได้เลยว่าแม่งไม่อยากให้ลูกที่สามตกลงมา ส่วนแอนติไคลแมติกนี่เหี้ยจริง กูไม่ชอบเลย ถึงจะรู็แล้วก็เถอะว่าไอ้ชินโกจิร่ามันใกล้หมดก๊อกแล้ว ไม่นึกว่าแม่งจะแข็งดื้อๆงั้นเลย ส่วนซีนสุดท้ายกูชอบมาก โคตรอันโนะเลย
เรื่องFEBRUARYเป็นไงมั่ง โดนก๊อดซิลล่ากลบหมดเลย ดูๆน่าจะทริลเลอร์ดี
ถ้าไม่เวิร์คจะไปดูทอมแฮงค์ละ
เป็นธรรมดาของหนังยุ่นว่ะ เรื่องการสื่ออารมณ์ อาจจะไม่ถูกจริตชาวต่างชาติมั้ง
หนังคนแสดงแม่งจะเล่นแบบขาดๆเกินๆแทบทุกเรื่อง ไม่เล่นเวอร์ไปก็จะแข็งเป็นหิน คือมันไม่เป็นธรรมชาติ
แต่พวกอนิเมะเสือกทำออกมาสื่ออารมณ์ได้ดีกว่าซะงั้น
เรื่องมันพยายามไม่สิ้นหวังนะ รันโดมันพยายามหาทางไปต่อตลอด ชอบตรงนี้
ต่างจากตัวละครคนรุ่นก่อน ที่พอเริ่มหมดหวังก็จะให้ทำลายทิ้งสร้างใหม่อย่างเดียว
เพราะเคยทำมาแลัวสำเร็จ
เรื่องที่คุยและการกระทำหลายๆ อย่างมันชวนไม่อิน เพราะภาคนี้มันเป็นญี่ปั่นสูงมาก
มันเป็นสาส์นส่งถึงคนญี่ปุ่นด้วยกัน ต่างจากภาค 1954 กับ 1984 ที่เป็นเรื่องนิวเคลียร์กับสงครามโลกกับสงครามเย็น
ตอนจบมันแอนตี้ไคลแมกซ์แบบฟุคุชิมะ มีคนเสี่ยงชีวิตหยุดปัญหา แต่ปัญหาไม่ได้กลับลงทะเลไปเหมือนภาคก่อนๆ สุดท้ายทั้งพลังงานนิวเคลียร์และโรงไฟฟ้าก็อยู่กับญี่ปุ่นต่อไป
ในเรื่องมันบอกว่าโกจิราวิวัฒนาการได้ตลอด กูว่าภาคหน้ามันจะต้านสารแข็งตัวแล้วอาละวาดอีกวะ
กูอาจจะข้ามไป มันบอกปะว่าทำไมต้องมาโตเกียว
ตอนในหนังบอกว่ามันอาจงอกปีกได้นี่กูลุ้นภาคหน้า(ถ้ามี)ให้มันบินยิงบีมได้ แม่งคงอันตรายโคตรๆ ต้องให้มอธร่ามาปราบ
ติ่งญี่ปุ่นอวยเว่อร์วังเกินไปนิดนะ อ่านในพันทิปแล้วจะคลื่นไส้
คนเค้าไม่ชอบ ยังจะชักแม่น้ำทั้งสายมาอวย มากล่อมให้คนเค้าชอบให้ได้ เพลียสัส
ก็อตจินี่ คำวิจารณ์ คนดู บลาๆ จากต่างประเทศที่ไม่ใช่ไทยกันยุ่น เสียงไม่แตกเหรอวะ กูเห็นรีวิวต่างๆที่ชอบมักบอก คนไทยอย่างนู้น คนไทยอย่างนี้ มีแค่คนไทยที่ไม่ชอบ แสดงว่าต่างประเทศเสียงไม่แตกปะ
ไม่รู้ดิ กูดูไงไม่รู้แต่ทันออกมาเป็นหนังตลกสำหรับกู ฮาเหี้ยๆ ตลอดทางเช่นไอ้เหี้ย N700 ความภูมิใจของคนญี่ปุ่น ไม่ก็วิธีการบอกเรื่องตัวเน่าของแม่ง สมกับเป็นคนญี่ปุ่นสัสๆ และก็อย่าลืมตำแหน่งรองฯ ให้กูด้วย ยังมีคอมเมนต์ Nico style ตอนต้นเรื่องอีก wwww
แต่นั่นแหละ ถ้าไม่เกตมุขก็พังหมด
กูชอบลุงวากัตตะแมนจริงๆ ถถถถถถ
คนไทยโดยสันดานแล้ว shit taste จะตาย หนัง God of Egypt โดนนักวิจารณ์ด่ายับทั้งโลก ขาดทุนย่อยยับทุกที่ มีไทยนี่แหละดันเสือกได้กำไรถล่มทลาย จน ผกก ต้องออกมาโพสขอบคุณคนไทยเองเลย
ฝรั่งก็ด่า
http://kotaku.com/godzilla-resurgence-the-kotaku-review-1784509330
เว็บติ่งญี่ปุ่นเลยนะมึง
ก็อดออฟอียิปต์มันลิเกจักรๆวงศ์ๆด้วยไง โคตรจริตคนไทยเลย
ก๊อซซิล่าโคตรตลก ทุกอย่างทุกอย่างดูแบน ดูสเตริโอไทป์ไปหมด
คาร์แรกเตอร์พระเอก-นางเอก
คาร์แรกเตอร์ข้าราชการนิสัยไดโนเสาร์ หรือ ข้าราชการเก่งๆหัวใหม่
คาร์แรกเตอร์นักการเมืองไม่ได้เรื่อง
คาร์แรกเตอร์สาวมั่นจากเมกา
พยายามจะกัดจิกระบบราชการ แต่ทำออกมาได้โคตรแบน
ก็อดซิลล่าที่ตัวละครลึกเนี่ย แบบหนัง 2014 ใช่ไหม?
กุชอบภาคนี้ตรงที่มันไม่เน้นไปที่ดราม่าตัวละครนี่แหละ ดูแล้วรำคาญ เน้นหาวิธีปราบไปเลย ไม่ออกนอกลู่นอกทาง
ฉากช่วงท้ายกูอยากล้อจริงๆว่าชินก็อตจิ แสงสีดิสโก้เหี้ยๆ
แผนถล่มนี้ก็เจ๋งน่ะก็อตจิตัวนี้เหมือนอัศวินใส่เกราะเหล็กทั้งตัวฟันแทงไม่เข้าต้องทุบด้วยค้อน(ตึก)ให้ติดสตันเอา
แถมปล่อยโดรนไปล่อเบิร์นมานาจนเกือบหมดอีก
ชอบตอนสุดท้ายที่แช่มันไว้ให้มนุษย์ทนอยู่กับมันเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เลย
บางอันมันเล็กๆ น้อยๆ นะ เรื่องการใส่ยุคสมัยไป
- ชาวบ้านรู้เรื่องก็อดซิลล่าก่อนรัฐบาบผ่านนิโกะนิโกะหรือ fc2
- สาเหตุเพราะคนถ่ายไลฟ์สตรีมพลางวิ่งหนี
- เรื่องกัมตภาพรังสีจากก็อดซิลล่าแตกตกเพราะหลังฟุคุชิมะคนญี่ปุ่นไม่น้อยบ้าพกเครื่องวัด (ไกเกอร์เคาเตอร์)
- พอก็อดซิลล่ากลับลงทะเล เช้าวันต่อมาคนนอกเขตภัยพิบัติก็ใช้ชีวิตชิวๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตอนนี้ไล่ดูภาคเก่าๆ แล้วพบว่า สเกลความแตกตื่นน้อยลง แต่ฉากผู้คนอลังการกว่าเรื่องก่อนๆ สัส
http://pantip.com/topic/35582933
อ่านแล้วคลื่นไส้
อย่างที่เคยมีคนบอกบนๆอะ
ดูหนังย่อยยากรู้เรื่องก็ดี แต่ถ้าแยกแยะไม่เป็นมันจะกลายเป็นคิดว่าตัวเองเหนือแล้วไปดูถูกชาวบ้าน เขาก็ยิ่งมองหนังติดลบ
เดี๋ยวนี้พวกเห่อหมอย wanna be ในพันทิปเยอะจังเลย
ตอนนี้ กุ เห็นพวกอวยก็อตจิ นี่เอาก็อตจิมาใช้เป็นเครื่องมือด่าคนประเทศตัวเองเรียบร้อยแล้วว่ะ ชัดเจนเสียยิ่งกว่าอะไรดีได้โอกาสนี่ก็ทำเลย
ทั้งๆ ที่ชินก็อตจิมันหนังด่าญี่ปุ่นสัสๆ เนี่ยนะ
จับแพะชนแกะสัสๆ
กุกำลังงงมันเหยียดตรงไหนว่ะ ยกตนข่มท่านตรงไหนว่ะ ที่อ่านดูสรุปได้ว่าคนไทยมันชินกับแนวฮอลลีวูดเท่านั้นเอง
เห็นพวกมึงบอกเหยียด แต่กุก็ไม่เห็นมีใครไปกดสยองให้มันสักคน แปลกดี
"คนที่ไม่ชอบ คือคนที่โดนฮอลลี่วูตล้างสมอง บ้านเราดูหนังฮอลลี่วูตมาจนติด จนเคยชิน"
"หนังญี่ปุ่นเล่นสเกลที่ใหญ่ พระเอกเรื่องนี้คือนักการเมือง เล่าเรื่องผ่านนัการเมือง คนไทยไม่ชินครับ ไม่ชินเลย สำหรับพวกไม่เสพสื่อญี่ปุ่นมาและไม่ชอบ"
"ดูหนังตะวันตกล้างสมองไปหมดแล้ววววว"
แม่งเหยียดรสนิยมคนอื่นสัสๆเลยนะ
จริงๆไอ้ก็อตนี่มันก็ไม่เห็นมันจะดีพตรงไหน ออกแนวดูง่ายกว่าพวกหนังดีพๆตะวันตกหลายเรื่องด้วย
cg ก็ดูตลกๆ (แต่อันนี้กูชอบนะ แนวดี)
คือรวมๆมันก็หนังดี แต่มันไม่ได้ดีเท่าที่แม่งอวยกัน
พลอตก๊อตจริงๆมันก็ไม่มีอะไรเท่าไรนะ วิธีการปราบก็ดูก๊องแก๊ง โดนแช่แข็งแบบง่ายๆ ฉากถล่มเมืองมีกลิ่นอายอีวาพอควรแต่ก็แค่นั้น บทสนทนาจริงๆก็ไม่ได้ดีปอะไรมากมาย นักแสดงเล่นแข็งทื่อชิบหาย อารมณ์แทบไม่มาแม้แต่คนเดียว บรรยากาศก็ดูเหมือนเด็กเล่นไปหน่อยอะ ไม่ค่อยรู้สึกว่ามันสมจริงเท่าไร ตัวประกอบนี่เลวร้ายมากๆ เหมือนเอาคนทั่วไปมายัดๆไปแค่นั้น ไม่รู้ว่าหนังมันต้องการทำสไตล์เงียบๆนิ่งๆรึป่าวอารมณ์เลยเนิบมากๆ แถมหนังดูแล้วรู้สึกมันเฟคมากๆด้วย กูคงไม่อินกับหนังยุ่นแบบนี้ กลับไปดูแนวflying colorดีกว่า
ชัดเจนว่าความคิดจริงๆของติ่งยุ่นติ่งเกาก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่
กูชอบวิธีปราบนะ ดูดีกว่าเอะอะก็ใช้ super mother father Jesus of all bomb แบบเมกา
กูนี้ส่วนน้อยใช่ไหม ที่ชอบตอนปราบก็อตจัง กูว่าแม่งทำมาระทึกชิบหาย
กูก็ชอบ พอคู่กับเพลง yashiori strategy แล้วแม่งแฟนตาซีชิบหาย
ตกลงจะเอาสมจริงหรือแฟนตาซีวะ 55
วิธีนะสมจริง แต่เพลงแม่งแฟนตาซีมาก เหมือนจะไม่เข้ากับเรื่อง แต่แม่งโคตรอันโนะเลย
นึกภาพกับตันเมกาเปิดเพลงชาติตอนสู้กับไฮดร้าสิ อารมณ์เดียวกัน
เพลงที่เจ๋งจริงๆ กูว่า Who will know บวกกับซีนนั้นด้วย
แม่ง ทำเอาก็อดซิลล่ากลายเป็นเด็กวัยรุ่นอีโมไปเลย
เทพเจ้าคอนเน็ตโต้นี้ กูควรเชื่อรีวิวมันไหมวะ
คือกูเคยเชื่อมันนะ จนกระทั้งกูหลงกลตอน ID4-2
มึงต้องดูหลายๆ ที่หน่อย คอนเน็ตโต้เชื่อได้บางเรื่อง อย่างน้อยๆ มันก็วิจารณ์ BvS ได้ตรงเป๊ะ
ที่คอนเน็ตโต้พูดไว้มันก็ตรง เรื่องนี้ตัวละครมันไร้ชีวิตชีวามาก ซึ่งมันไม่ชอบเพราะจุดนั้นก็เข้าใจได้ แต่จุดอื่นๆมันก็ยังชอบอยู่นะทั้งก็อตจิทั้งอะไรๆ
กูไม่ค่อยเชื่อคอนเวลาอวย แต่เชื่อเวลากัด ส่วนมากจะตรงประเด็น
http://pantip.com/topic/35585492
คนนี้วิเคราะห์เนื้อหาชินก็อตเชิงรัฐศาสตร์ได้ดีมากว่ะ อ่านเพลินเลย
มันเหวอมากกว่าที่ไม่เคยเจอหนังอะไรแบบนี้ เจอกับหนังที่นำเสนอกลุ่มคนทั้งกลุ่มมากกว่าตัวละครตัวหนึ่ง มันแล้วเป็นญี่ปุ่นจ๋ามาก มันเน้นการทำงานของทั้งระบบมากกว่าคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่มาฟูมฟายกับตัวละครแบบในหนังสัตว์ประะหลาดปกติ มาสละเนื้อเรื่องให้ดราม่าตัวละครตัวหรือตัวสอง เสียเวลาโคตร ถ้ามาเจอรันโดพร่าว่าที่ไม่ยอมแพ้เพราะรักชาติอย่างนู้นอย่างงี้ โคตรเลียโคตรclicheเลย อีกแค่คายาโกะกับประเทศของคุณยายก็โคตรจะส่วนเกินแล้ว ขืนมาเล่นอะไรแบบนี้ ได้พังทั้งเรื่องแน่
>>872 กุเห็นด้วย คายาโกะมันดูยัดเยียดเกินไปว่ะ มันไม่มีใครอยากให้นิวเคลียร์ลงหรอกแต่ไอ้เหตุผลประเทศของคุณย่ามันดูเฟคไปสำหรับคนที่ไม่ได้โตในญี่ปุ่น
เห็นมีแต่คนบ่นนักแสดงไม่อิน แต่กุว่าแสดงดีมากเลยนะสีหน้า อารมณ์โดยเฉพาะพระเอกกุชอบมันตอนระบายอารมณ์กระทืบเท้าหลังพี่ก็อดเผาเมือง
godzilla มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเท่าไรนะ
แต่เพลงประกอบนี่ทำอารมณ์เปลี่ยน แบบ เพลงดังปุบ กุนึกว่าจะมี EVA โพล่มาต่อยกับก็อตจิซะอีก
ปล. ทีมพันธมิตร ทำให้คนขำทั้งโรงได้ตลอดแหะ แถมเด็กในโรงไม่งอแงด้วย(สงสัยหลับหมด)
พวกอวยนี่ คำพูดๆ แทบจะซ้ำๆ กันทุกคน
หนังจริงจัง หนังการเมือง ดูยาก ไม่เหมาะกับเด็ก ไม่เหมาะกับพวกดูหนังตลาด ฮอลลีวูด สมจริง เรียล
แล้วต้องมี กลิ่นอาย อีวา.... อันนี้แม่งทีเด็ด เห็นพิมพ์เชิดชูตัวเองซะยังกะเป็นพวกดูหนังหลากหลาย บางราย แม่งแค่พวกติ่งการ์ตูนงั้นๆ ล่ะว่ะ
แล้วยังทำเป็นไปเหยียดคนดูที่เค้าไม่ชอบ มันเหมือนอะไรนะ
ค่ายการ์ตูนฮีโร่สักค่าย ที่ทำเป็นหนังแล้ว ติ่งมันชอบอวดชอบอ้าง ว่ามันฮีโร่ค่ายมัน เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ ดาร์ค มืดหม่น ดูยาก เนื้อหาลึก ต้องตีความ
ไอ้ที่บอกว่าก็อดซิลล่าที่แท้จริงคนไทยไม่ชอบอะไรเนี่ยโคตรขำ
ซีรีส์เกือบ 30 ภาค มีจริงจัง 2-3 ภาค อันไหนคือภาพลักษณ์ที่แท้จริงวะ?
สมัยก่อนก็อดซิลล่าญี่ปุ่นฏายไทยก็ทำรายได้ดีตลอด จนกระทั่งภาค 1998
ขอแทรกนิด กูชอบประเด็นว่าเยอรมันยังเป็นมิตรแท้กับญี่ปุ่นนะเพราะเป็นประเทศที่แพ้สงครามมาด้วยกันนะ
ในหนังจะแสดงให้เห็นว่าคนเยอรมันรุ่นใหม่ก็ไม่ได้รู้สึกผูกพันอะไรกับญีปุ่นแล้ว แต่คนที่อายุมากหน่อยจะยังผูกพันอยู่เพราะผ่านวิกฤตมาด้วยกัน
ที่ช่วยมันฝรั่งเศสไม่ใช่เหรอ ที่ตอนจบนายกญี่ปุ่นก้มหัวให้เป็นฑูตฝรั่งเศสนะ เยอรมันโผล่มาตอนไหน
ติ่งแม่งพยายามโยงให้มาจากอีวาเหลือเกิน
http://pantip.com/topic/35585492 ดูความเห็นที่ 8 มัน
ทำไมตอนกูดู ไม่เห็นรู้สึกห่าเหวที่จะนึกถึงฉากนี่้เลยว่ะ โคตรต่าง
ก็อตซิลล่าภาคนี้มันก็มีสไตล์ของอันโนะอยู่จริงๆอะนะ คือไม่ต้องถึงกับไปอวยตัวอันโนะหรอก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันให้ความรู้สึกคล้ายๆกับดูอีวาจริงๆ
อารมณ์เหมือนหนังของ อับราม ที่มีเลนส์แฟลร์
"ทึ่งในเทคนิค การถ่ายทำ ทำให้รู้สึกเหมือนอีวานเกเลี่ยน สร้างมาเป็นหนังคนจริงๆ"
แม่งพิมพ์มางี้อีกล่ะ บอกกูหน่อย การถ่ายทำอะไร ยังไง ตรงไหน มันทำให้รู้สึกเหมือนอีวาว่ะ หรือแค่มีชื่ออันโนะก็เลยเหมือน
อันโนะน่ะดังตรงเอาเทคนิคแบบภาพยนต์มาใช้กับอนิเมนะ ตอนเอวาทีวีเทคนิคภาพ การวางตำแหน่งตัวละคร วิธีกำกับฉาก ถือวาแปลกใหม่มาก
พอมาทำหนัง ก็เหมือนหนังนั่นแหละ
แต่ฉากกิมมิคอันโนะเยอะเป็นเลนส์แฟลร์เอบรามส์ มาทั้ง สะพานลอย สายไฟฟ้า ทางรถไฟ จุดสับรางรถไฟ ฯลฯ
อับราม ชอบใส่ เลนส์แฟลร์
จอนวู ชอบใส่ นกพิราบ
ไมเคิลเบย์ ชอบใส่ ธงชาติอเมริกา
อันโนะ ชอบใส่ สะพานลอย รถไฟ
จอนวูต้องกระโดดพุ่งใส่แล้วยิงปืนสิ
กูฮาตอนที่มันเอารถไฟไปชนก็อตรอบแรก ชิงคังเซ็นป่ะจำไม่ได้
ไอ้เหี้ยยย รถไฟแม่งกระเด็นขึ้นไปครึ่งตัวก็อตซิลล่าทั้งขบวน โคตรเชี่ย ถถถถถถถ
กูว่าหนังมันจำลองสถานการณ์จริงมากกว่านะ เลยไม่ได้ปูอะไรมาก เหมือนมึงไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วดูข่าวการเมืองอ่ะ ตอนมึงเปิดดูมึงก็ไม่รู้ว่าไอ้คนในทีวีแม่งเป็นใครทำอะไรมาเหมือนกันแหละ
มองเป็นภาษาหนังแม่มอาจจะกากแต่มองทางภาษาภาพกูว่าดีพอควร สถานการณ์มันเล่าออกมาได้เรียลพอควร (จนกระทั่งหลังฉากดิสโก้ ที่กลายเป็นกลัวเล่าเรื่องธรรมดา)
*หนังเล่าเรื่อง
ทำไมแฟนอาร์ตคนนี้เยอะจัง
http://imgur.com/dCkb3cs
http://imgur.com/rPyosIe
คาโยโกะกูไปหาข้อมูลเพิ่มมา นักแสดงคนเดียวกับฮันซี่ Attack on titan ถึงว่าหน้าคุ้นๆ ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดมีคนแซวว่านักแสดงฮันซี่น่ารักกว่ามิคาซะที่เป็นนางเอกซะอีก แถมขุดผลงานในชุดว่ายน้ำมาลงในกระทู้ด้วย
After the storm หนังญี่ปุ่นแนวอบอุ่นเรียบง่ายเรื่อยๆสไตล์ผกก.คนนี้ ถ้าเคยชอบLike father like sonกับOur little sisterมาก่อน เรื่องนี้ก็น่าจะชอบด้วย
แต่ถ้าไม่ชอบก็อย่าดูดีกว่า เพราะสไตล์เดินเรื่่องมาแบบเดียวกันเลย ก็เฉยๆ ไม่ได้ชอบไม่ได้เกลียดผลงานเขาก็พอดูได้เรื่อยๆ
ปล.นักแสดงหน้าเก่าจาก2เรื่องก่อนก็ตามมาแสดงในนี้กันด้วย
ดูชินก็อดจิมาละ คือถ้าเอาแค่เรื่องเสียดสีการเมืองนี่ก็โอเค สื่อประเด็นความงี่เง่าของระบบราชการ ความสัมพันธ์ของญี่ปุ่นกับนานาประเทศ เชิดชูผู้เสียสละตอนโรงงานนิวเคลียร์ได้ชัดเจนดี
แต่ถ้ามองในแง่หนัง blockbuster เรื่องนึง กุว่ามันเฟลว่ะ หนังแม่งไม่สร้างอารมณ์ร่วมหรือความลุ้นระทึกอะไรเลย คือต่อให้มึงไม่เน้นแอคชั่น ช่วงองก์สุดท้ายของหนังมันก็ควรจะบิ๊วให้พีคสักหน่อย ไม่ว่าจะเป็นความลุ้นในฉากปราบก็อด หรือความเข้มข้นในฉากการเมือง แต่หนังแม่งไม่มีการบิ๊วอะไรเลย เหมือนกุมานั่งดูสารคดีการรับมือภัยพิบัติของญี่ปุ่นตลอดสองชั่วโมง โอเคนั่นอาจจะเป็นความต้องการของผู้กำกับ แต่ในฐานะคนดูหนังแมสๆ คนนึง กุรู้สึกว่าหนังแม่งล้มเหลวในการสร้างความบันเทิงมาก (หรือ ผกก. ตั้งใจทำให้มันไม่บันเทิง จะได้เข้าถึงความเป็นภัยพิบัติวะ?)
พูดถึงหนังสัตว์ประหลาดแนวเสียดสี กุชอบ The Host ของเกาหลีมาก คือหนังแม่งสนุก ลุ้น ดราม่า เสียดสีสังคมเกาหลีตั้งแต่ระดับครอบครัวยันรัฐ แถมใส่ความ weird ของผู้กำกับเต็มที่ แหกสูตรฮอลลีวู้ดทุกอย่าง แต่ก็ให้ความบันเทิงในฐานะ blockbuster แบบครบถ้วนด้วย ถ้าก็อดซิลล่าทำได้แบบนี้นี่กุกราบเลย
มันจะเฟลในฐานะหนัง blockbuster ได้ยังไงในเมื่อรายได้มันดีขนาดนี้ มึงใช้คำผิดแล้ว มึงดูแต่หนังมาสจนชินก็แบบนี้ละ รับอารมณ์อื่นไม่ได้ กูเห็นด้วยนะว่าหนังขาดอารมณ์ไปเยอะ แต่มันดันเป็นข้อดีของมันวะ
blockbuster = a thing of great power or size, in particular a movie, book, or other product that is a great commercial success.
ไปดูสงครามเทพฯมาล่ะ CG บุฟเฟ่เหี้ยๆ เสือกจบแบบให้ต่อภาคสองอีก
แต่ถ้าใครคิดถึงตำนานเทพยุทธ์ก็พอดูแก้คิดถึงได้นะ แต่พระเอกเป็นไอ้ค้างคาวปล่อยสายฟ้าลูกจีชางแทน
แค่ทำฉากตัวละครตายโง่ๆ ตอนแรกก็เพลียล่ะ
นาจาเปลี่ยนเป็น CG เดี๋ยวเปลี่ยนร่างเป็นตัวนักแสดง คือ ถ้ามันหานักแสดงเด็กน่ารักๆ นี่กูไม่ว่า แม่งเอาผู้ใหญ่มา แถมเป็นไอ้หน้าโหล่อีก
CG ยัดมาเยอะ บวกกับการนักแสดงของนักแสดงจีนที่โอเวอร์ยิ่งกว่านักแสดงญี่ปุ่น ฉากใช้สลิง นักจีนแม่งไม่พัฒนาตรงนี้สักที ใช้สลิงทีไร แม่งไม่เคยเป็นธรรมชาติยังไง ผ่านมาสิบยี่สิบปี ยังก็ไม่ธรรมชาติอย่างนั้น เจ็ท ลี เอามาทำไม
ฉากมิดเครดิต ยังกล้าทำต่อเนอะ
ก็อตซิลล่าไม่ใช่หนังที่เอาไว้สำหรับยกตนข่มคนอื่นครับ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
>>914 เอาไว้ใช้อวดว่ากุเอ็นจอยกับอะไรที่ไม่แมสแบบนี้ กุเทสต์ดีกว่าพวกมึงเห็นรึยัง
สำหรับกุ กุขัดใจสุดคือฉากตัวประกอบวิ่งหนีอะ แม่งดูลงทุนต่ำเหี้ยๆ เหมือนจ้างตัวประกอบไม่ถึงร้อยคนมาวิ่งร้องกรี๊ดๆ บนนถนน แล้วตัด footage มาแทรกสลับกับฉากซีจีในหนัง ฉากพังเมืองที่ใช้ซีจีเยอะๆ กับฉากคนวิ่งหนีที่ถ่ายในสถานที่จริงนี่ดูโดดจากกันมากเหมือนเอามาจากหนังคนละเรื่องเลย (จะมีใครออกมาเถียงมั้ยว่าไอ้การถ่ายทำแบบกิ๊กก๊อกนี่ก็เป็นความอาร์ตของ ผกก. ที่กุเข้าไม่ถึงเหมือนกัน?)
กูว่าหนังมันจงใจไม่บิ้วแฮะ.. ปล่อยให้เหตุการณ์ไปตาม Flow เรื่อยๆ ขนาดฉากฉีดน้ำยังเอาฮาเลย
ปล. นี่แม่งไม่แปะ Storyboard , ภาพนิ่ง , บทพูด มาให้ดูแบบ EVA ก็บุญแค่ไหนแล้ว 55
Your Name จะแซง Shin Godzilla แล้วนะฮับ
ไม่เห็นแปลก ก็มันแมสกว่า
Your Name เห็นว่ารายได้ดีสุดของชินไคป่ะ?
เท่าที่หารายได้โรงมา
5cm ทำไปแค่ 100 ล้านเยน
เด็กดาว 4 ล้าน
สวน 150 ล้าน
มีอีเรื่องนี้แหละแม่งโดดไปหลักพันล้านเลย
ตอนซากุระที่รายได้ไม่มากเพราะเฮียแกตอนนั้นยังไม่ดังด้วยแหละ(แต่ก็ดังเพราะเรื่องนี้เลย)
ส่วนอีสาวหาดาวกูว่าปล่อยๆไปเหอะ.....
ของชินไค ชอบสวนสุดแฮะ โดยเฉพาะฉากจบที่ระบายความในใจกันหมดเปลือก แต่ตอนจบของสลับร่าง ก็อมยิ้มดี
Don't breath เนื้อเรื่องเหมือนดูหนังทริลเลอร์ยุค80-90มากๆ ที่สำคัญลุงแม่งโคตรเหนือมนุษย์
แดร์ เดวิล
แบลร์วิชเป็นไงมั่ง ชอบภาคแรกพอตัว ได้ข่าวภาคนี้แฟนตาซีขึ้นแต่คะแนนกึ่งดีกึ่งเละมาก(แล้วไหงคะแนนนอกวิจารณ์ดีจัง)
ทำไมบางคนพูดว่า แบลร์วิช ภาคนี้เป็นภาค 2 อ่ะ
ทั้งที่มันมีภาค บุ๊คออฟ ชาโดว์ ไม่ใช่เหรอ หรือไม่นับ
เสาร์นี้มีเรื่องไหนห้ามพลาดมั่งโม่ง
แบลร์วิชแม่ง.....ไหนๆมันจะแฟนตาซีแล้วน่าจะเอาให้สุดๆไปเลย แบบนี้เหมือนกั๊กแปลกๆ
ปล.สปอยล์นิดๆ>>>>>>>>>>>>>>>>>>คนเขียนบทบอกที่โผล่ในเรื่องไม่ใช่แม่มดแบลร์ ถ้าอยากรู้ต้องซื้อแผ่นนะ ฟัก
คือกูสงสัยว่าจะให้คำตอบยังไง ไม่โผล่เป็นตัวเป็นตนอะกูว่าขลังดี แต่ไอ้ที่โผล่ในเรื่องนี่คือไรฟะ? หน้าตายังกับหลุดมาจากREC
โยไควอชมูฟวี่จะเข้าอาทิตย์หน้าแล้ว คิดว่ากระแสจะเป็นไงกัน
ABOUT RAY>>>>อีเด็กเอาแต่ใจอยากแปลงเพศเป็นผู้ชาย
โทนหนังก้ำกึ่งหนังวัยรุ่นกับหนังรางวัล ดูง่าย สไตล์Coming of age
แต่ถ้าพวกนายไม่เข้าใจหัวอกวัยรุ่นว่ามันจะมีช่วงอารมณ์ร้อน เอาแต่ใจ อยากได้นู่นนี่ไม่สนหัวอกพ่อแม่มึงอาจจะอยากตบอีนางเอก(หรือพระเอก?)ซักฉาด ถ้าไม่งั้นมึงก็จะซึ้งกับความสัมพันธ์แม่ลูกของครอบครัวนี้
บ้านเพริกริน>>>บ้านเด็กX-men Days of future pastภาคทิมเบอร์ตั้น
เห็นในเทรลเลอร์ฉากย้อนเวลาช็อตนึง แต่ไม่คิดว่าในเรื่องมันจะเน้นเรื่องมิติเวลาขนาดนี้ ถ้าไม่ตามทฤษฎีเวลาในเรื่องให้ดีน่าจะมีหลุด
ไม่ใช้พลังจนเป็นแฟนตาซี มีกลิ่นทิมเบอร์ตันเจือๆ แอ๊คชั้นไม่ได้เยอะแยะ แซมมวลแอลแจ๊คสันก็เล่นโอเค แต่นอกนั้นก็ไม่มีอะไรมาก
ถ้าไม่ได้ไฮป์อยากดูเรื่องไหนมากๆ กูว่าอาทิตย์นี้สองเรื่องนี้ปล่อยผ่านได้ ไม่ถึงขนาดMust see
เพริกรินไปดูน้องผมแดงก็คุ้มแล้ว มีpotentialที่จะสวยยิ่งกว่านี้ได้อีก
เฮ้ยยยยยย เวบลิโด้แม่งทำใหม่ http://www.apexsiam-square.com/ ดูทันสมัยขึ้น มีงบเหลือมาทำอะไรแบบนี้แสดงว่าโรงมันจะไม่เจ๊งแล้วใช่ปะ ดีใจๆ
กูชอบเพริกรินนะ ถึงตอนแรกจะเอื่อยไปนิด ส่วนตอนหลังก็เร็วไปหน่อย แต่ชอบงานภาพในเรื่อง สวยหลายฉาก โทนสีก็ดูหม่น ๆ เข้ากับโทนหนัง (แต่มันออกจะมืดไปหน่อย ถ้ามึงไม่ได้อยากดูมาก่อนอาจจะหลับไปเลยก็ได้ 55555) อีกอย่างที่ชอบมากคือ score ที่ใช้ประกอบในเรื่อง ดูลึกลับ แล้วก็ Eva Green ที่เล่นได้มีจริตมาก ถ้าว่างก็ไปดูเพลิน ๆ ได้นะ แต่กูอยากอวยให้ไปดูเยอะ ๆ เผื่อจะทำภาคต่อ
กูไปดูมาละ สัมผัสได้ว่าช่วงแรกปูยาวไปเหมือนกันแต่ก็โอเคอยู่ แต่ช่วงหลังกูว่าเหมือนลดความฉลาดกับความเก่งโหดของตัวร้ายมากจนติดสกิลประมาทเกินไปไงไม่รู้ว่ะเพื่อที่เด็ก ๆ จะได้จัดการได้ ชอบ Eva Green แสดงดีจริง เอาไป 5/10 ละกัน ไปอ่านในพันทิป หนังสือกับหนังไม่เหมือนกันอีก
About Ray
กูกูแล้ว เด็กมันก็ไม่เห็นเบียวอะไรนะ
มีความใจร้อน เอาแต่ใจตามประสาเด็กวัยรุ่นแหละ ไม่มีประเด็นจิตวิทยาใดๆทั้งสิ้น
จริงๆน่าเปลี่ยนชือเป็น About Macky มากกว่า เรื่องเกี่ยวกับแม่มันล้วนๆ
ได้เห็นการใช้ชีวิตของต่างชาติดี หลายอย่างที่กูคิดว่าถ้ามาทำในไทยต้องโดนด่าแน่ๆ 555
Snowdenอย่าโดนเทรลเลอร์หลอกนะ ไม่ใช่หนังแอ๊คชั่นผู้ก่อการร้ายไซเบอร์แบบdiehard4.0
เรียกว่าหนังสารคดีจากชีวิตจริงก็ได้มั้ง คุยเยอะแต่ไม่น่าเบื่อ เดินเรื่องใช้ได้ การเมืองไม่ซับซ้อนเข้าใจง่าย อยากให้ไปดูกัน
Under the shadow ทำบรรยากาศในบ้านหลอนใช้ได้นะ
แต่เกลียดตรงมีจัมพ์สแกร์นี่แหละ มีทั้งจัมพ์ดีๆ กับจัมพ์เหี้ยๆเชยๆ
ส่วนเนื้อเรื่อง.....ไปดูเองดีกว่า กูยังไม่แน่ใจว่าได้อะไรจากหนังกันแน่
กูเห็นเรื่องSplitsอะไรนี่ที่ตัวเอกมี23บุคลิกอ่ะ ทำเอากูนึกถึงหนังเรื่องIdentityว่ะ มันรีเมคหรืออะไรยังไงวะ
Fantastic Beast จะมีห้าภาค?
ป้าJKกูเลิกหาเเดกทางอื่น(เขียนหนังสือใหม่)เเล้วสินะ จะเกาะซีรีย์HPเเดกไปจนตาย
55555
เขียนเรื่องอื่นมันไม่รุ่ง เกาะแฟนๆแดกนี่แหละสบายสุด
ไม่เชื่อถามสาวกสตาร์วอร์ดู แม่งแยกยุบยับจนรีบูทใหม่หมดบังขายได้ ถถถ+
นักเขียนจำเป็นขอแค่ดังเป็นผลุแตกเรื่องเดียวพอนอกนั้นแดกค่าลิขสิทธ์กะโหนกระแสไฮปาร์คเอาก็พอ
ใครจะดูTomcatให้มึงเตรียมใจหลายๆเรื่องเลย ทั้งคนที่ไม่กล้าดูฉากโหดร้ายกับสัตว์
ทั้งฉากกระหนุงกระหนิงของคู่รักชาย-ชาย(และฉากเห็นกระจู๋แบบอ่อนและแข็งตัวอันเซ็น) ทั้งความเรื่อยๆของหนังที่อาจหลับ
2อย่างหลังกูไม่เท่าไร แต่กูเจออย่างแรกไปช็อคซีนีม่าสุดๆ
Tomcat มันคือหนังแมวที่ไม่เกี่ยวกับแมวแต่แมวเป็นตัวสำคัญในเรื่อง แต่แมวแม่งน่ารักนะ ;w;
เห็นข่าว Johnny Depp มาเล่น Fantastic Beasts ภาคสอง กุนี่รอดู SJW ดิ้นรัวๆ เลย อยากรู้ป้าเจเคจะตอบแฟนๆ ยังไง
แต่ถ้ามาเล่นเป็น Grindelwald แบบที่ลือกันนี่ก็น่าสนใจอยู่ ป๋าแกเสียเวลากับบทบ้าๆ บอๆ มาหลายปีแล้ว กลับมาเล่นบทตัวร้ายจริงจัง (ถึงจะเป็นหนังแฟนตาซีก็เถอะ) อาจจะพอกู้ชื่อกลับมาได้บ้าง
มีใครดูเดธโน้ตหรือยัง มารีวิวโหน่ย
SJW ดิ้นเรื่องนั้นด้วยเรอะ?
อีแอมเบอร์ ก็ทำตัวน่าตบอยู่นะ
อิจฉาคนได้ไปดูKimi no na wa รอบพิเศษก่อน อยากดูโว้ยยยยยยย อีก5วัน ;w;
เดธโน้ตภาคนี้โอเคเลยนะ อาจไม่ถึงกับคมเฉือนคมเท่าต้นฉบับ แต่ก็พอกล้อมแกล้มได้
>>973 กุงงกับบทมันหลายจุดมาก คือคิระตัวจริงมันทิ้งโน้ต แล้ววางแผนให้ชิเอ็นช่วยรวบรวมโน้ตอื่นๆ แล้วค่อยมาเจอกับมันตรงจุดนัดพบ แต่จุดนัดพบนั่นดันเป็นจุดที่มีแต่ไลท์กับมิสะที่รู้จัก? แล้วตัวคิระในอดีตมันไปฆ่าทนายของมิสะกับทายาทไลท์ตรงภูเขาเดียวกันนั้นได้ยังไง? ไปเขียนชื่อริวซากิลงเดทโน้ตตั้งแต่เมื่อไหร่? ทายาทไลท์ที่ควรจะบิ๊วให้เป็นจุดสำคัญดันมีบทแค่ตายในฉากแฟลชแบ็ก? (แล้วไอ้พล็อต ใช้ DNA สร้างทายาทนี่กุว่ามันงี่เง่าแปลกๆ อะ) คิระคนใหม่เริ่มใช้เดธโน้ตด้วยแนวคิดแบบเดียวกับไลท์แต่ตอนจบดันกลับลำ 180 องศาซะงั้น?
เดธโน้ตภาคก่อนๆ มันสนุกตรงที่ตัวละครทุกตัวฉลาด แต่กุดูแล้วยังตามความคิดกับเหตุผลของพวกมันทันนะ แต่ไอ้ภาคใหม่นี่ไม่รู้ตัวละครมันฉลาดเกินไปจนกุเข้าไม่ถึง หรือคนเขียนบทเขียนไม่เป็นกันแน่
ริวซากิน่าจะโดนผลจากการพล็อตด้วยเดธโน๊ตของมิชิมะเข้าไปนั่นแหละ เลยโง่ๆงงๆตามบทที่วางไว้ (หรือมันโง่อยู่แล้ว?)
แต่แบบนี้ก็ตรงตามบทพูดเลย คิระคือพระเจ้า มนุษย์ไม่สามารถเอาชนะได้ ก็แหงล่ะมึงเล่นพล็อตเอาไว้ทุกอย่างแบบนี้ มึงก็พระเจ้าดีๆนี่เองล่ะ
ปล.หนังแม่งแฟนเซอร์วิสหนักมาก ฉากไหนที่มังงะมีแต่หนังฉบับเก่าไม่มี มันใส่มาให้แฟนๆกรี๊ดกร๊าดกันเต็มเลย
เอาจริงกูโคตรอึนช่วงเฉลยทุกอย่างช่วงท้าย โดยเฉพาะไอ้ทายาทไลท์เนี่ย ไม่บอกกูจะรู้ไหมว่าไลท์มันไปมีลูกไว้
เหมือนกูดูโคนันแล้วแนะนำตัวละครหลักไป3ตัว แต่คนร้ายจริงๆเป็นป้าแม่บ้านโนเนมที่ไม่เคยโผล่หน้ามา อีสัตว์
>>978 โคตรไม่สมเหตุสมผลอะตอนนั้น คือเฉลยมาแบบนี้แปลว่ามันต้องแอบวางแผนสร้างตัวลูกนี่ตั้งแต่ช่วงภาคสอง แล้วมันเอาเวลาที่ไหนไปวางแผน ต้องใช้เงินทุนขนาดไหน ต้องจัดหาสถานที่วิจัยกับทีมงานในต่างประเทศอีก แล้วพวกคนที่ช่วยสร้างเด็กนี่รู้ว่ามันเป็นคิระรึเปล่า???
นี่ยังไม่นับเรื่องความสมเหตุสมผลเรื่องการโคลนนิ่ง และความเป็นไปได้ที่เด็กแม่งจะโตมามีความคิดจิตใจเหมือนมันทุกอย่างอีกนะ
the arrivalเข้าโรงไทยวันไหนวะเพื่อนโม่ง
เดธโน้ตมันสนุกตรงที่เฉือนกันระหว่างคนฉลาด2คนไลท์ L พอไม่มี2คนนี้แล้วก็ไม่มันส์แล้วว่ะ เหมือน ไลท์กับเนียร์ ต้องเนิฟไลท์ต้องใส่ความสุดโต่งเข้าไป เหมือนกับไลท์เวอชั่นหนังแหละ พอภาคนี้เป็นคนอื่นมาก็เฉยๆแล้วหว่ะ
Kimi no na wa ไม่เข้าโรงจังหวัดกูโว้ยยยย
พวกไปขอให้ฉายทั่วไปกูว่ามันไม่เข้าใจการตลาดว่ะ โอเคหนังดีจริงแต่ถามว่าคนไทยในต่างจังหวัดที่อยากดูจะมีกี่คน ทัศนคติของคนไทยทั่วไปที่ไม่สน J pop มันมองว่า ก็แค่การ์ตูนเรื่องหนึ่งไม่ต่างจากการ์ตูนดิสนี่ย์หรอก ดีงในญี่ปุ่นไม่ได้แปลว่าจะดังในไทยนะ
จะอวยก็อวยไปไม่ได้ห้ามแต่มาเรียกร้องให้เพิ่มโรงในต่างจังหวัดนี่มันคิดว่าอนิเมะญี่ปุ่นคนต่างจังหวัดจะสนใจรึไง
มึง การ์ตูนดิสนี่ต่างจังหวัดดูเยอะนะมึง แต่เมะญี่ปุ่นยากว่ะ ถ้ารับในเรทรายได้ของชินจังได้ก็ควรฉายนะ
ถ้าไอพวกที่ไปตั้งแคมเปญมันทำให้ได้ฉายจริงได้นะสัส กูยอมไปกราบพจน์อานนท์เลย
https://www.change.org/p/welovesf-majorgroup-ให้อนิเมะเรื่อง-kimi-no-na-wa-เข้าฉายในโรงภาพยนต์ทั่วประเทศ?recruiter=43624182
แล้วมึงลองอ่านดูดิ "พวกเราเป็นเด็กคนหนึ่งที่ชื่นชอบในการรับชมอนิเมะ เมื่อทราบข่าวที่อนิเมะเรื่อง Kimi no Na wa จะมาเข้าฉายที่ประเทศไทย พวกเราต่างตั้งหน้าตั้งตารอชมอนิเมะดีๆ ที่กวาดรายได้นับ 18 ล้านเยนในประเทศญี่ปุ่น โดยไม่หันไปสนับสนุนของละเมิดลิขสิทธิ์ แต่โรงหนังที่ฉายอนิเมะเรื่องนี้มีน้อยมาก
ทางเราจึงอยากจะขอกราบเรียนบริษัท เอสเอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)และบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ให้นำอนิเมะเรื่องนี้มาเข้าฉายที่โรงภาพยนต์ทั่วประเทศ"
18 ล้านเยนมาจากไหนฟะ ถถถ
วิธีที่ดีที่สุดคือเปิดรอบพิเศษเฉพาะจังหวัดนั้นๆไปเลย ซักเย็นวันศุกร์วันเสาร์ ใครอยากดูก็ลงชื่อจองจ่ายเงินให้เรียบร้อย
ถ้าเอาเข้าแบบเปิดรอบธรรมดา กูให้เต็มที่คงมีคนดูจริงๆไม่กี่รอบหรอกว่ะ
หนังมันดีแต่ติ่งญี่ปุ่นก็อวยกันซะเหมือนกับว่าสื่อบรรเทิงประเภทอนิเมชั่นของญี่ปุ่นคือสื่อกระแสหลักที่คนไทยชอบดู
ถ้ากูเป็นบริษัทหนังนะ จำนวนคนจริงๆอย่างน้อยๆมันต้องหมื่นคนขึ้นไปน่ะแหละ
คำนวณแบบโง่ๆเลยนะ หมื่นคน สมมติตั๋วหนังใบละร้อย สมมติใช้เวลาฉายอาทิตย์นึง ได้ล้านบาท
ในขณะที่หนังฝรั่งขี้หมูขี้หมาก็เหยียบล้านเหนาะๆอยู่แล้ว เป็นกูแบ่งโรงให้7โรงก็เยอะแล้วนะ
เหมือนที่คนข้างบนบอกด้วยว่ามันไม่ใช่อนิเมชั่นของทางตะวันตกที่ดูได้ทุกเพศทุกวัย สายตาคนทั่วไปยังไงก็มองอนิเมชั่นญี่ปุ่นไม่ต่างจากที่ฉายช่อง9ที่ให้เด็กดูหรอก อยากให้เขาเพิ่มรอบจริงคงต้องให้เต็มทุกรอบ ทุกวันนั่นแหละ
ปล.ไม่รวมกรณีมีพวกที่ลงชื่อเล่นๆแต่ไม่ไปดูด้วย
ปลล.จริงๆก็ดีใจนะว่านี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยเลยที่คนทั้งประเทศร่วมกันไฮป์อนิเมชั่นญี่ปุ่นที่ได้ฉายโรงใหญ่ขนาดนี้ คราวจิบลิยังไม่ขนาดนี้
เออ ถ้าอยากให้ฉายทั่วประเทศง่ายๆ มึงก็ไปดูกันเยอะๆ เดี๋ยวมันก็เพิ่มรอบเอง คำวิจารย์มันดีอยู่แล้ว
เหมือน train to busan แรกๆ ไม่ค่อยมีใครดูเหมือนกัน แต่คำวิจารย์มันดี+คนดูเยอะ เลยอยู่โรงได้นาน
นับถอยหลังรอเจิมกระทู้ใหม่กันได้เลยมึง 5 5 5
คิดว่าkimi no nawaจะทำเงินในไทยเท่าไรวะ ถึง50ล้านมั้ย(แต่ท่าจะยาก)
รอดูตอนฉายจริงอีกทีว่าจะเป็นไง แต่น่าจะเข็ดยากกว่าบูซานเพราะอะไรก็คงรู้ๆ กัน
ปิด
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.