กูแทงว่าป๊อดแน่ๆระดับดิสนี่ย์อ่ะ ถ้าแม่งเสียงแตกแบบนี้จะให้คุมไตรภาคใหม่นี่คิดหนักเลย
Last posted
Total of 1000 posts
กูแทงว่าป๊อดแน่ๆระดับดิสนี่ย์อ่ะ ถ้าแม่งเสียงแตกแบบนี้จะให้คุมไตรภาคใหม่นี่คิดหนักเลย
EP4 มันผสม กันลงตัวพอดี
ตะวันออก
คอนเซปต์เจได = ซามูไร
เวเดอร์ = เกราะซามูไร
เข้าเดธสตาร์ไปช่วยเจ้าหญิง = Hidden Fortress ของคุโรซาว่า อากิระ
R2&C3 = คู่หูตัวฮาใน Hidden Fortress
ฉากสู้ของโอบีวันกับเวเดอร์ = เคนโด้
ตะวันตก
ลุค = พระเอก Arthurian
เบน = พ่อมด Arthurian
ฮาน = โจรสลัด
เลอา = เจ้าหญิง
เอาจริงๆคนเค้าไม่แคร์พวกเจไดหรอก คนเขาแคร์ไลท์เซเบอร์ต่างหาก
คนส่วนมากที่เข้าไม่ถึงวิถีของเจได เขาเห็นแค่คนถือไลท์เซเบอร์ = เจได แล้ว
ทั้งๆที่จักรวาลคนที่ใช้ไลท์เซเบอร์มันไม่ได้มีแค่พวกเจได
พึ่งไปดูมาเมื่อวาน ภาคนี้ที่ทำให้กูตื่นเต้นได้มีแค่ตอนเดียวคือฉาก join me นี่ละ นอกนั้นเฉยๆ ไม่ดีไม่ร้ายอะไรมาก
ยอมรับว่าภาค 7 ยังทำให้ตื่นเต้นกว่า แต่สิ่งที่กูรู้สึกว่าดีกว่าภาคก่อนชัดมากคือพัฒนกาการณ์ของอีเรย์ ถึงบางอย่างจะดูแปลกๆ แต่พอจูนิ เร็นเฉลยเรื่อง father complex นี่อ๋อเลย ว่าทำใมอีนี่ถึงทำตัวยึดติดกับอะไรแบบนี้
แต่สิ่งนึงที่กูแปลกใจภาคนี้คือเรื่องความเร็วของยอน บอกว่ายานเล็กเร็วกว่ายานใหญ่ กูว่ามันไม่ใช่อะฮักส์ คือ "บนโลก" ที่อะไรเล็กๆ เร็วกว่าเนี่เพราะมันมี "แรงต้าน" ไม่ว่าจะจากดินลมน้ำที่เป็นพื้นผิว เรือลำเล็กแรงต้านน้อย ทำให้ไปได้ไว
แต่ในอวกาศมันไม่มี "แรงต้าน" นะ มันคือ "อวกาศ" เครื่องยนต์ใหญ่ๆ ต้องไปได้เร็วกว่าสิ โอเค มันอาจจะอยู่ที่รูปแบบของเครื่องยนต์ด้วย แต่ในเรื่องมันพูดเองว่ายานลำเล็กไปได้เร็วกว่ายานลำใหญ่ กูงงมาก space sci-fi แม่งตกม้าตายง่ายๆ งี้เลยเหรอ
มีแมนดารอเลี่ยนใช้ Darksaber กับพวก Imperial Knight
ฝึกแบบซิธ แต่สุดท้ายมันก็ไม่ใช่ซิธแล้ว บาย
แบบนี้ต้องนับพวกอินควิสซิเตอร์ด้วย
พูดถึงมอลเบยนึกได้ ไอ้ที่แฟนบ่นเสียงแตกอีก
ก็ฉากดวลครั้งสุดท้ายของโอบีวันกับมอลที่ทาทูอิน
ไฮป์มาแล้วสามดาบจบ
แต่กูชอบนะ รู้สึกคู่นี้มันสู้กันมาเยอะแล้ว ตัดสินกันไปเหอะ
>>773 ถ้าค่อยๆ ทิ้งห่างมันคงไม่โดนยิงตอด 18+ ชั่วโมงแบบนี้หรอก ดูแล้วความเร็วมันน่าจะเท่าๆ กันละ ถึงหนีไม่พ้น
เออ แล้วฉากเปิดตัวยานทิ้งระเบิดอีก star destroyer ที่อยู่ข้างๆ แม่งไม่คิดจะทำไรเลยเหรอ ยานทิ้งระเบิดบินมาตั้งไกล ปืนมึงก็มี ยานเล็กมึงก็มี ทำใมไม่ส่งออกมาช่วยวะ ไอ้ยานใหม่ห่าเหวนี่มีก็เหมือนไม่มี first order รวยนักเหรอไง ถึงสร้างของออกมาให้พวกกบฏทำลายทิ้งได้ตลอดแบบนี้
อนาคินมีความรู้สึกโกรธเวลาเห็นซิธทำเรื่องชั่วๆ = สภาเจไดรุมด่าเพราะกลัวด้านมืด
เรย์โจมตีคนแก่จากข้างหลัง ความตั้งใจฆ่ามาเต็ม = ผีโยดาชาบูว่าเป็นความหวังของฝั่งสว่าง
????????????????????????????
>>777 ก็ในหนังมันไม่แสดงให้เห็นเลยนิว่าช่วย ไอ้ยานทิ้งนะเบิดนั่นก็บินมาตั้งไกล ต่อให้ทำลายปืนใหญ่บนยานใหม่ได้หมด star destroyer ที่อยู่ข้างๆ จะช่วยยิงไม่ได้เลยเหรอ
กลยุทธ์ภาคนี้แปลกๆ มาตั้งแต่ต้นแล้ว อย่างแทนที่จะยิงฐานกบฏ ยิงยานหลบหนีดีกว่า จะได้หนีไม่ได้ ไอ้มุกหลบหนีลงดาวก็เหมือนกัน ตอนแรกโพพูดเองแท้ๆ ว่ายานหลบหนีวาร์ปไม่ได้ พรางตัวไม่ได้ แต่ดันหลบออกมาโดยไม่มีใครเห็นได้เฉย เซ็นเซอร์ยานแม่งกากขนาดนั้นเลยเหรอ
>>779 มันไม่รู้ดิว่าดาวเกลือมีฐานทัพ โพมันยังไม่รู้เลย
มารู้ว่ามีฐานตอนมันปล่อยยานหลบหนีหมดแล้ว
ส่วนเรื่องยานใหญ่มันยิงไม่เข้าเพราะน้ำมันยังไม่หมด ยังมีเกราะ
ที่ตอนมันหมุนมาวาร์ปเหมือนกัน ทำไมยิงไม่ได้ เพราะมันไกลเกินระยะเทอร์โบเลเซอร์ของลำอื่น แถมหลังใหญ่ยิงโดนก็ไม่ทะลุเกราะ
ส่วนเรื่องทำไมไม่ส่งยาน TIE ตาม อันนี้มัน in universe เลยว่า TIE มันไม่ได้เซ็ตมาให้โจมตีระยะไกลได้ วาร์ปก็ไม่มี ถ้ามันตามยานแม่ไม่ทันแล้วเน่าตายคาอวกาศเลย ต้องติดยานแม่
แลกมากับราคาโคตรถูกเมื่อเทียบกับสตาร์ไฟเตอร์
ตอนหลังยานหลบหนีพลางตัวได้นะ ถ้าไอ้นักถอดรหัสไม่บอกก็หนีลงดาวสบายแล้ว หรือว่าโพมันมึนไม่รู้ว่ายานหลบหนีพลางตัวได้?
>>781 ไม่ หมายถึงการที่ให้ยานหลบหนีออกไปแบบนั้นนะ ทั้งที่ตอนแรกบอกว่าพรางตัวไม่ได้ แต่ออกมาไม่มีใครเห็นเลย มันใช่เหรอ
มึงอ่านยังไงของมึง ใครพูดยังว่ายิงไม่เข้า กูพูดถึงความเร็วของยาน
TIE ก็อีก กูพูดถึงตอนต้นที่ส่งมาถล่มยานเดรดนอด ว่าทำใมไม่ช่วยส่งออกมาสกัดยานทิ้งระเบิด แล้วมันไม่ได้ห่างกันซักนิด ยานแม่งก็ลอยอยู่ข้างๆ กันนั่นละ x-wing กับยานทิ้งระบิดยังบินจากยานหลบหนีมาหาได้เลย ทำใม TIE จะบินมากันรอบๆ ไม่ได้วะ
เห้ย นี่มึงอ่านภาษาไทยออกจริงป่าวเนี่ย ทำใมจับใจความไม่ได้เลยวะ
ไอ้เรื่องแผนถ่ายคนไปยานขนส่งน่ะ ที่โพ มันโวยทีแรกคือ ไม่รู้ว่ามีดาวฐานกฏบอยู่ใกล้ๆ มันเข้าใจว่าถ้าแค่ถ่ายคนไปยานเล็ก เพื่อเพิ่มความเร็วหรือประหยัดเชิ้อเพลิงก็ไม่มีความหมาย แต่ถ้ามีฐานเอากองยานใหญ่ล่อ แล้วถ่ายคนไปหลบ มันก็โอเค ซึ่งในฉากก็ให้เห็นระยะยิงของยานศัตรูแล้วว่า ไกลมากแค่ไหนถ้าเห็น แผนมันกะว่าหลบไปซ่อนในดาวเนียนๆสะสมกองกำลังเพิ่ม แต่พอแผนแตกนอกจากโดนไล่ยิงแล้วยังเสียฐานไปอีก
>>753 กุ >>741 กุว่ามันกลัวเกินไปว่ะ คือ ถ้ามันเขียนบทดีๆ หน่อยอธิบายว่า เรย์ กำลังกลายเป็นบางสิ่งที่เหนือกว่าเจไดขึ้นไป กุว่าคนดูรับได้นะเพราะมันจะทำให้ เรย์ กลายเป็นผู้นำความสมดุลมาสู่พลังตัวจริงไง แต่ไปๆมาๆมันดันไม่กล้าแล้วดันไปเอาแนวทางจากภาค 5 - 6 มาตีความใหม่แทนซะงั้น ตอน เรย์กลายเป็นเจไดคนใหม่ก็ไม่ได้ต่างจากตอนลุคเป็นเจไดเลยแค่ปรับเปลี่ยนบทจากยอมรับว่าพ่อเป็นเวเดอร์ เป็นยอมรับความหลังตัวเอง ส่วนไอ้เบนแม่งก็แนวเดียวกับ Darth Vader มันพูดเหมือนเวเดอร์ตอนชวนลุคเข้ามาร่วมเลย แค่ปรับบทจากเวเดอร์เป็น เบน มันไม่ยอมกลับด้านสว่างแต่มันเลือกถลำลึกเข้าไปแทนเท่านั้น และ กลายเป้น ต่างฝ่ายต่างเข้าใจแต่ละฝั่งกันผิด... กุกำลังคิดว่าไอ้คนเขียนบทมันต้องได้อิทธิพลการ์ตูนญี่ปุ่น มาแหงๆ
นอกเรื่อง Adam Driver เป็นนักแสดงที่น่าจับตามองจริงๆ กูขอแนะนำ Paterson อีกเรื่อง หนังอินดี้ช้าๆ แต่เฮียแกเลนดีสุดตีน
Adam Driver แสดงเก่งนะ แต่บทไคโรเรนแม่งอีโมเอง กูเคยขอไม่ให้ถอดหน้ากากแม่งพังทิ้งตั้งแต่เปิดภาค8เลยฆวย
หน้ากากกับคอสตูมแม่งอย่างเท่ อย่างในเกมBF2อ่ะอลังสัสๆ
นั่งฟังฝรั่งด่าเรื่อง plot hole กุแม่งเห็นด้วยอย่างนึงเลยว่ะ ถ้าลุคมันอยากตายและจบเรื่องเจได มันจะเอาแผนที่ใส่ไว้ใน R2D2 เพื่อให้คนหาเจอทำบ้าอะไรนี่ละ plot hole แบบเต็มเหนี่ยวเหมือนไม่ได้ดูภาคก่อนเลย
Adam Driver แสดงดีจริง ดีกว่าอีเรย์อีก แต่พูดตามตรงนะว่าหน้าแม่งไม่ให้เลยยยยย กูดูยังไงก็แค่เด็กเบียวหนีออกจากบ้านมาเล่นเป็นจอมมาร มันไม่มีออร่าความเลว dark lord อะไรแบบนั้น เวเดอร์ยังมีเสียงหายใจฟืดฟาดให้สยิวบ้าง แต่อีจูนิ เร็นมี....... นึกไม่ออกแฮะว่ามันมีอะไรที่แสดงออร่าออกมา
>>789 กูถามไปหลายรอบละ หลายที่ด้วย เงียบ ไม่ได้คำตอบ
กูบาป กูสร้างมารมาตัวนึง ผู้คนเดือดร้อนไปทั่ว กูขอตายเพียงลำพัง นี้คือเรื่องราวในภาค8
ภาค7เลอาบอกว่าลุคหายตัวไป ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกตัวเองกลายเป็นมารไปแล้ว เลยต้องตามหาลุคเพื่อเอาความหวังกลับมาสู่แกแลคซี่ โดยมีแผนที่ครึ่งนึงในR2 และอีกครึ่งอยู่กับชายแก่ในแจคคู เหยดแหม่ มันแปลว่าลุคมึงพร้อมจะกลับมาตลอดถ้าเดือดร้อน
ตอนแรกอาจจะให้เผื่อตามหา แต่พอหลังๆชักบรรลุเจไดคือความผิดพลาด และมาบรรลุอีกรอบตอนโยดาสั่งสอน
เห็นว่ามีสัมภาษณ์ลุงมาร์คเกี่ยวกับตัวเองในหนังภาคนี้เหรอวะ
ใครฟังแล้วมั่ง ลุงแกบอกว่าไง
>>793 ไม่ชอบทิศทางของตัวละคร หน้าเหมือนจะร้องไห้ เห็นแล้วเหนื่อยแทน
แต่ก็ต้องพูดเรื่องดีๆเกี่ยวกับหนัง เพราะเดี๋ยวจะโดนหนูดำฆ่าทิ้ง(ในชีวิตจริง)ถ้าไม่อวย
มีสัมภาษย์อันนึงที่แกพูดว่า "Remember kids, it is not important if it's of high quality, only if it makes money." กูฮาเลย
ช่างหัวลุงมาร์คสิ ลูคัสชอบก็พอแล้ว
พูดถึงด้านภาพ กูว่า 8 สวยจริงๆ นะ ละเอียดดี
ฟังลุงมาร์คแล้วจะร้องไห้
https://www.youtube.com/watch?v=Mdm8rpv045U
เรื่องแผนที่นี่ความเห็น6พอถูไถไปได้มั้ย
https://m.pantip.com/topic/37198120?
>>805 เหมือนจะฟังขึ้น แต่ถ้าพวกมรึงไม่อยากให้ฝ่ายมารหาเจอแทนที่พวกมึงจะแยก2ส่วน ทำลายทิ้งเลยดีกว่ามั้ย? อะถาม จะเหลือไว้ให้คนรุ่นหลังมาตามเจอทำไม ในเมื่อเป็นสถานที่ลับและคนที่ควรไปถึงก็คือลุคซึ่งไปเจอแล้ว มันก็มีเหตุผลไม่กี่อย่างคือตัวเองไปแล้วอาจใช้เวลาศึกษาทั้งชีวิต เหลือไว้ให้คนที่ใช่จริงๆที่ได้แผนที่ผ่านชายแก่และR2 ที่ก็ต้องผ่านการทดสอบมาก่อนถึงจะได้ อย่างโพได้จากลุงเพราะรีเบลลำบากจริงโพก็ไม่ใช่คนชั่วมุ่งในอำนาจ หรือลุงแกอาจไม่ให้เพราะไม่มีเซ้นในพลัง
กูเพิ่งดูจบ แม่งพลิกไปพลิกมาอย่างกะปิ้งข้าวเกรียบเหมือนที่มีคนแซวในเฟสจริงๆว่ะ
กูค่อนข้างชอบไอเดียภาคนี้ที่มันพยายามพลิกทุกstereotypeของstar warsนะทั้งเรื่องที่ลุคบอกว่าเจไดควรจบได้แล้ว เรื่องพ่อแม่เรย์เป็นnobody แล้วก็conflictขอไคโล เรนด้วย
แล้วกูก็ชอบประเด็นแผนการล้มเหลวที่ติ่งดิ้นกันชิบหายในหลายๆเว็บ กูว่าภาคนี้ทั้งฟินทั้งโพได้โตขึ้นเยอะ โพเริ่มใจเย็นลงสมเป็นผู้นำมากขึ้น
ส่วนฟินนี่กูว่าฉากดาวคาสิโนมันมีประโยชน์ในแง่ทำให้ฟินน์ตัดสินใจได้ว่าจะสู้ไม่ใช่เอาแต่จะพาคนที่ตัวเองห่วงหนีแบบภาคก่อน(ที่มันบุกstar destroyerตอนนั้นคือไปช่วยเรย์ล้วนๆไม่ได้สนใจฝ่ายresistanceซักนิด)แต่อารมณ์ของฉากดาวคาสิโนแม่งไม่สุดว่ะมันควรได้มากกว่านั้น โรมานซ์ของอีโรสก็ดูไม่น่าเชื่อถือว่ามึงไปรักมันตอนไหน ถ้าเปลี่ยนบทพูดเป็น"Because you're my friend"ให้บักฟินนกตลอดกาลไปยังดูน่าจะซึ้งกว่าอีก แล้วยังมีอีกหลายฉากที่บทดูแปลกๆอารมณ์โดยรวมของหนังมันเลยขาดๆเกินๆไงไม่รู้
ส่วนเรื่องพล็อตโฮลนี่ก็เป็นปกติของเรื่องนี้อยู่แล้วพอหาเหตุผลแถได้ แถมไอ้นี่เป็นภาค2ของไตรภาคอาจจะมีอะไรมาอธิบายเพิ่มในภาคจบเพราะงั้นยังไม่ด่าละกัน
สรุปกูว่าสนุกดีคุ้มค่าตั๋ว แต่คงไม่เบิ้ลรอบสอง และหวังว่าภาคสุดท้ายจะเอาประเด็นต่างๆที่พยายามปูเรื่องไว้ไปใช้ได้ดีนะไม่งั้นกูจะมองภาคนี้เป็นหนังเหี้ยไปเลย
>>797 กูเคยอ่านเจอว่าตอนจบภาค6ที่จอร์จ ลูคัสเคยเขียนไว้คือหลังเวเดอร์ตายลุคเป็นเวเดอร์ต่อแล้วยึดจักรวรรดิเองแต่โดนทุกคนคัดค้านเลยตกไป ถ้าจริงนี่ลุงแกอาจจะถูกใจที่ไคโล เรนยึดตำแหน่งsupreme leaderก็ได้นะ
>>805 ก็ฟังดูมีเหตุผลอยู่นะ
ลุคมันหาดาวนี่เจอเป็นชาติแล้วนะ ตั้งแต่ก่อนแจคคูอีก (ใน Battlefront 2 ได้ผังดาว)
แต่ถ้ามันไม่ได้บอกคนอื่น จะทำไมวะ?
กูเริ่มสงสัยว่าเรื่องพ่อแม่อีเรย์นี่คิดไว้ตั้งแต่ภาคที่แล้ว หรือเพิ่งมาด้นสดเอาภาคนี้วะ
พวกมึงนี่ self insert เป็นลุคกันขั้นหนักกันชิบหาย ถถถถ
สงสัยนิด
ตอนภาค5ที่ลุค รีบไปดะกับเวเดอร์ทั้งๆที่ยังฝึกกับโยดาไม่เสร็จ
ตอนบินออกจากดาวไปโอบิวันบอก ลุคคือความหวังสุดท้าย แต่โยดาบอก ยังมีอีกคน
ไอ้อีกคนที่ว่าคือใครอ่ะ เวเดอร์? เลอา?
>>811 เลอา
อันนี้ตัวอย่างที่ดีของการด้นตั้งแต่ยุคลูคัส
บทเดิมแรกสุด ไม่มีน้องสาวลุค ลุคคู่กับเลอา
บทพอเขียนภาค 5 แล้ว มีน้องสาวลุคเพิ่มมา ดราฟแรกๆ ยังไม่รวมกับเลอา อีกคนหมายถึงน้องสาวลุค ตอนจบภาค 5 เลยดูสวีทนิดนึง ให้เป็นรักสามเส้า
พอเริ่มทำภาค 6 ยุบน้องสาวลุครวมกับเลอา ให้บทกระชับ
สตาร์วอร์สด้นเสมอ
>>815 โทรลสัส กูเจองี้ปาจอยทิ้งแม่ง 555555
ถามอีกอย่าง เพลงในเทรลเลอร์นี้ https://www.youtube.com/watch?v=Q0CbN8sfihY มันมีแค่ในเทรลเลอร์ใช่ปะวะ กูไปไล่ฟังซาวด์แทรคไม่เจอ เสียดายอะ ชอบมาก อยากได้แบบเพลงเพียวๆ
>>819 กู30แต่กูโตมากับลุคนะมึง เพราะพ่อแม่กูเปิดเลเซอร์ดิสค์ภาค456ให้กูดูตั้งแต่จำความได้
แต่กูไม่เดือดร้อนอะไรกับบทลุคภาคนี้ว่ะ ลุคมันก็เป็นคนธรรมดาทำเรื่องผิดพลาดได้ จะสะเทือนใจไปเป็นฤาษีอะไรก็ไม่เห็นแปลก กูพอใจตอนจบด้วยซ้ำที่ลุคเหมือนบรรลุอะไรซักอย่างแล้วทิ้งร่างไปอย่างสงบน่ะ
>>816 แต่กูเชื่อว่าคนเกินครึ่งที่ไม่ชอบฉากเลอาเหาะ คนที่ชอบหนังภาคนี้หลายคนยังรู้สึกว่ามันไม่เมกเซนซ์ ถ้ามีของดีจริง ทำไมไม่สอนวิถีฟอร์ซให้เรย์วะ แล้วทำไมไม่เคยใช้ฟอร์ซไปช่วยทหารต่อสู้ ทำไมยังต้องใช้ปืนอีก กูว่ามัน asspull ล้วนๆ อยากให้มีซีนตัวละครสาวโชว์เทพ เรื่องสมเหตุสมผลช่างมัน จริงๆแม่งคงกะให้เลอาเป็นซูเปอร์ไซย่าในภาค 9. แต่คนแสดงเสือกสำลักโคเคนตายก่อน
กุไปดูมาแบบไม่อ่านรีวิวใครมาก่อนเลย ตอนดูให้ 11/10 นะ มันว้าวมันเอนเตอร์เทนมาก แต่พอกูออกมาตั้งสติสักพักเท่านั้นแหละ เอาไป 7/10 ละกัน
กูว่ามันครึ่งๆกลางๆกึ่งเพลย์เซฟอย่างที่ คห.บนๆว่า เดี๋ยวพอกระแสไฮป์หายคงเหมือนภาค 7 ที่รีวิวกันแบบมีสติกันมากขึ้นแหละ ส่วนตัวตอนนี้กูไม่ค่อยหวังอะไรกับภาค 9 แล้วเล่นล้างไพ่หมด กูว่ารอดูตอนไตรภาคใหม่ที่เป็น new saga ไปเลยดีกว่า น่าจะ fresh กว่าไตรภาคครึ่งๆกลางๆแบบตอนนี้ ทำเอาใจกลุ่มไหนอีกกลุ่มก็ไม่พอใจอยู่ดี
ส่วนเรื่องบทลุคที่แฟนเก่าๆไม่พอใจ กูว่ามอง 7-8-9 เป็น alternate universe ไปละกัน เป็นลุคที่มันเรียลๆหน่อยรับกระแสหนังสไตล์ coming of age ส่วนลุคฮีโร่วัยเด็กของกูก็ยังเหมือนเดิม เล่น Battlefront 2 แล้วกูก็คิดได้ นี่แหละลุคของกู นี่ว่าจะไปหาฉบับนิยายอ่านต่อเลย หนีความจริง 5555
เห็นเนิร์ด rage กันมากเรื่องเหตุผลกับบุคลิกของลุค กุว่าจริงๆ การที่ภาคเจ็ดปูทางไว้แบบนั้น (ฮานพูด "Luke felt responsible so he went away") ผกก ภาคนี้มันก็ไม่มีทางอื่นนอกจากจะเขียนบทให้เป็นแบบนี้นะ คือถ้าลุคบุคลิกเหมือนเดิม ไม่หมดกำลังใจที่จะต่อสู้ แม่งก็ต้องไม่หายไปจนกลายเป็นปมเรื่องแต่แรกแล้ว และ Ep 8 นี่ก็ให้เหตุผลได้โอเคนะในความเห็นกุ ทำให้ลุคเป็นคนธรรมดา ทำผิดพลาด ตัดสินใจโง่ๆ ได้ ไม่ได้กลายเป็น god แบบที่แฟนบอยเคยมโนกัน
ไม่ใช่อะไร กุเห็นแฟนเพจฝรั่งบางเพจเอาคลิปจากเกมพวก Jedi Academy มาโพสแล้วคร่ำครวญกันว่ากุอยากให้ลุคเป็นแบบนี้ๆๆ กุเลยสงสัยว่าทำไมพวกนี้ความรู้สึกช้าจังวะ มึงควรจะโกรธตั้งแต่ภาคเจ็ดแล้วไม่ใช่เรอะ นี่เหมือนไม่ได้ดูภาคเจ็ดแล้วเพิ่งมาปิ๊งเอาตอนนี้ว่าลุคไม่เหมือนเดิม เลยรับไม่ได้ซะงั้น (และเอาจริงๆ ถ้าลุคยังเพอร์เฟ็กต์แบบที่พวกมึงต้องการกันอยู่ มันก็ไม่จำเป็นต้องมีภาค 7-9 หรอก)
กูนึกว่าแม่งหายตัวไปขึ้นเขาฝึกวิชาเพิ่มเตรียมรอปั้นลูกศิษย์ไปตบกะโหลกไอ้สน็อค
ผิดคาร์ก็คือผิดคาร์ คาแร็กเตอร์ในหนังอ่ะถ้าจะทำให้มันบิดหรือเปลี่ยนแม่งต้องมีที่มาที่ไปว่าลุคมันเจออะไรมาในระหว่างภาค 6 จนถึงเห็นความมืดในตัวหลานมันก่อน (ซึ่งไอ้แคนน่อนตอนนี้ก็มีแค่แบทเทิ่ลฟร้อนท์ที่ลุคแม่งเสือกถูกคาร์) หลักการของคาแร็กเตอร์หนังมันไม่ได้เปลี่ยนกับแบบคนจริงนะเว้ย ถ้าจะบอกว่าเปลี่ยนเพราะมันแก่ก็แสดงให้เห็นมากกว่านี้สิฟระ(เดี๋ยวดิสนี่ย์แม่งทำภาคแยกมาอุดแหงๆ เอาคนแสดงวินเทอร์โซลเจอร์มา หน้าแม่งอย่างเหมือน)
มาปุบปับๆเพราะเปลี่ยนผกก.แบบนี้ก็ไม่เห็นต่างไรจากแบทแมนของ DCEU ที่ใน BvS ทำตัวเข้มๆแล้วอยู่ดีๆมารวมกับคนอื่นแล้วเล่นตลกปล่อยมุก one-liner เอาหรอกว่ะ
มึงผิดที่ได้เล่น battle front 2 ไง lol
>>831 แบทเทิลฟรอนท์นั่นมันเกิดหลังภาค 6 แป๊บเดียวเองนิ ถ้าลุคจะยังเหมือนในภาค 6 ก็ไม่แปลก ฉากที่คิดจะฆ่าเบนนี่คือห่างจากช่วงนั้นเป็นสิบปีแล้วมั้ง
ประเด็นของกุคือเรื่องคาแรกเตอร์ลุคเปลี่ยนนี่มันชัดเจนมาตั้งแต่ EP7 แล้ว กุเลยสงสัยว่าแฟนๆ ที่เพิ่งมาผิดหวังในภาคนี้ เขาคาดหวังกันว่าลุคจะแอบไปทำอะไรอยู่บนเกาะกันวะ (ในเมื่อภาคเจ็ดมันก็พูดโต้งๆ ว่าลุครู้สึกผิดเลยหนีไป) คิดว่าลุคจะไปหาสุดยอดคัมภีร์เจไดบนเกาะมาสอนเรย์ให้ไปปราบสโนคงี้เหรอ
>>831 BF2 มันต่อเนื่องจาก 6 เลยนะ Operation Cinder มันเริ่มหลังจากพวกลุคฉลองน่ะล่ะ ตรงก็ไม่แปลก (ลุคของ 6 ต้องขรึมขึ้นด้วย เพราะทิ้งบทสามเส้ากับเลอากับฮาน)
จาก 6 ไป 7 นี่ลุคมันผ่านช่วงไปศึกษาวิชาเจได(เอาเอง) ตัังโรงเรียนแล้วเหลิง จนไปเจอด้านมืดหลาน จนตายยกโรงเรียน
เวลาจาก 3 ไป 6-8 นี่ยังเปลี่ยนโยดาจากเจไดยึดขนบมาเผาต้นกำเนิดเจไดได้เลยนะ กูว่าลุคพลาดนี่น่าจะพังได้ขนาดนั้นจริงๆ อยู่
ลุคมันไม่นึกถึงพ่อมันได้ไงวะตอนเห็นความมืดในตัวเบ็น เวเดอร์คือface of darksideที่ลุคปะทะด้วยบ่อยสุด แถมเวลาพูดถึงด้านมืด สิ่งที่ทั้งตัวละครหลักในสตาร์วอส์456กับแฟนๆนึกถึงก่อนเลยคือเวเดอร์ ดังนั้นการที่ลุคจะฆ่าเบ็นแม่งโคตรไม่เมคเซนส์ เพราะมันรู้ว่าพ่อมันกลับมาสว่างได้
มันจะเวิร์คกว่านี้ถ้าสมมติให้อาจารย์เจไดใหม่ซักคนที่ไม่เคยสู้กับด้านมืด(ให้เป็นศิษย์ลุค รุ่นพี่เบน)เป็นคนสัมผัสด้านมืดในตัวเบ็นได้แล้วจะฆ่า เบ็นตื่นมาฆ่าล้างวัดตามบทเดิม ลุคหยุดไว้ไม่ได้เลยเสียใจหนีไป ยังจะดูเมคเซนส์กว่า
หลังดูโรงจบ เลยไปเช็คในซูมเอาอีกที
ฉากที่ลุคจะหายไป และเห็นเงาคน น่าจะคิดกันไปเอง(กูว่ามันคือหลังลุคที่มองย้อนแสงแหล่ะ) กับเด็กถือไม้กวาดที่น่าจะเป็นฟรอสจริงๆ
คือแบบภาค5-6นี่โดนทั้งขู่ ทั้งทรมาน ลืมตัวไปเพราะความโกรธ จนได้สติกลับมาเพราะความเป็นคนซื่อนี่มันเป็นอะไรที่โดนใจสัสๆอ่ะ แม่งเป็นคนเดียวในเรื่องจริงๆที่ยังเห็นความดีเหลือในตัวเวเดอร์ นึกแล้วเศร้า กูขอไปทำใจแพ๊พ
>>836 คิดเหมือนมึงเลย พอเป็นแบบนั้นลุคมันก็ยังพอรู้สึกผิดแล้วหนีไปได้อยู่ดีว่าเพราะยังฝึกศึกศิษย์ไม่ดี ศิษย์เลยคิดอย่างนั้น เป็นผลพวงจากกระทำตัวเองทางอ้อมด้วย เพราะลุคมันไม่มีคนให้ปรึกษาด้านการสอนด้วย คือเป็นสิ่งใหม่ให้คาแร็กเตอร์มันเรียนรู้แน่ๆอ่ะ แบบนี้ฟังดูเมคเซ้นส์กว่าในแง่บทหนังด้วย
https://www.youtube.com/watch?v=qEkf6OkosNQ เศร้าแทนลุงแกจริงๆ...
มานั่งดู Fanboi wars
สนุกชิบหาย สนุกกว่า TLJ ก็แฟนบอยตีกันจะตายนี่แหละ
ก็สิ้นศรัทธาในวิถีเจไดอะไนประมาณนั่น
ขนาดแฟนๆ คนดูยังคิดได้ขนาดนี้ ไอ้ทีมเขียนบทมันทำไรอยู่วะนั่น เค้าจ้างเป็นล้าน
กูว่าทีมเขียนบทตั้งใจเขียนในสิ่งที่แฟนๆคาดไม่ถึงว่ะ มีใครเดาได้มั่งว่าจะออกมาเป็นแบบนี้
แต่กูเดาไว้ตั้งแต่ฮันตายแล้วว่าภาคนี้ไม่ลุคก็เลอาคงไม่รอด
ไอ้ฟินกับอีโรสนี่ไม่ต้องมีก็ได้นะ อย่างกะจาร์จาร์บิงคส์
กูว่าคนเขียนบทมันคงเห็นความคิดชาวเน็ตก่อนดูภาคนี้อ่ะ ที่สบประมาทกันว่าเห้ยคนตั้งทฤษฎีดักทุกทาง เข้าไปยังไงก็ไม่เซอไพรส์แล้ว เลยพยายามเขียนเลี่ยงทำทุกอย่างที่เลี่ยงได้ หนังมันเลยดูมีการตัดสินใจครึ่งๆกลางๆหลายจุดมากๆ
I HURT MYSELF TODAY
https://www.youtube.com/watch?v=Mdm8rpv045U&ab_channel=FundamentalDisappointment
ปล่อยให้มันขาดๆ เกินๆ ครึ่งๆกลางๆ ไปไม่สุด ก็น่าโดนด่าแหละนะ ...
กูว่าลุคจิตตกเลยหนีไปก็พอรับได้นะ แต่ไปอยู่เกาะรอวันตายนี่ยังไงๆ อยู่
มุกตลก กูว่ามันก็พยามตลกมาตั้งแต่ 1-3 แล้วนะ แต่ลูคัสแม่งเขียนมุกตลกไม่เก่ง เลยออกมาเป็นมุกฝืดสัดๆ จนเป็นตำนานนั่นไง
แต่กูชอบมุกตอนสอนเรย์นะ 5555555 สัส มีตีมือด้วย
ภาค 8 มุกโคตรมาเวล สัสเอ้ย
มาเวลพ่องสิ ดิสนี่ไอ้ฟาย
แบทแมน = DC
แฟลช = DC
แบทแมน = แฟลช
????
กูเก็ทคำว่ามุกมาร์เวลนะ หนังฮีโร่ก็เล่นมุกบาทสองบาทแบบเนี้ย แต่กูว่าของ TLJ มันฝืดว่ะ มุกงงๆของลูคัสยังดีกว่า
กูรู้สึกว่าฉากลุค(ร่างฟอร์ซ)โดนยานรุมยิงแล้วเดินออกมาปัดฝุ่นบนเสื้อนี่ลุงมาร์คด้นสดเอง กวนตีนเหี้ยๆ555555555555
>>871 กูว่าแบบนี้ก็ดูดีไปอีกแบบนะ ขนาดร่างปลอมยังปั่นหัวได้ขนาดนี้เลย
ผกก.คงไม่อยากให้เจอกันจริงๆ เพราะไม่ว่าจะออกมาทางไหนก็ดูไม่ดี
ลุคชนะ - จบเรื่อง
ลุคแพ้ - โดนด่ากระจาย ไม่สมเหตุสมผล
เสมอกัน - เป็นไปไม่ได้
เลิกแล้วต่อกัน - แล้วจะออกมาทำใมวะ
ผลก็คือแบบนี้ละ ออกมาช่วยแบบจำกัด และไม่แทรกแซงเส้นเรื่องมากไป
กุว่าบทลุคโอเคนะ
ที่กุมีปัญหาคือบทของ โพ กับ ฟินน์ มากกว่า
ติ่งชอบหนังก็มีเว้ย กูว่ากูติ่งกว่าวพวกเห่างอแงหลายๆตัวอีก กูชอบนะ
ฉากจบลุคกุว่าในหนังทำโอเคแล้วว่ะ ถ้าเจไดคนเดียวขยี้ walker ทั้งกองทัพได้สเกลพลังในหนังก็พังหมด กลายเป็น Fanboy's Dragonball Fanfiction ไป (เห็นฝรั่งคนนึงใช้คำนี้ กุชอบมาก)
หรือจะให้ลุค (cg) ฟันดาบกระโดดตีลังกาแบบ prequel นี่กุว่ายิ่งแย่ มึงดุสังขารลุงมาร์คหน่อย แม่งออกมาตลกแหงๆ
>>876 โคตร toxic เลย 55555 ถ้าไอ้เว็บนี้มีมาตั้งแต่ ep 1-3 กุว่าต้องมีแฟนบอยออกมาประท้วงกันทุกภาคแน่ๆ
แต่จะว่าไป คาแรกเตอร์ฮานในภาค 7 นี่กุว่าเหี้ยกว่าลุคเยอะนะ ทิ้งเมียทิ้งภาระหน้าที่กลับไปขายของเถื่อน กลับมาสู้แบบเสียไม่ได้ (บังเอิญฝ่ายต่อต้านมาช่วยพอดี) แล้วยังตายแบบไร้ความยิ่งใหญ่ใดๆ น่าสนใจเหมือนกันว่าทำไมแฟนๆ ส่วนใหญ่รับได้เฉยเลย หรือเพราะฮานบุคลิกเหมือนเดิมเด๊ะ คนดูเลยมองข้ามเรื่องอื่นไปหมด
พึ่งดูจบ สรุปกูชอบ rogue one มากกว่า 7-8
เห็นรีวิวต่างประเทศที่กูตามอยู่แม่งจะชมก็ชมไม่เต็มปาก กูว่าละต้องมีอะไรแปลกๆ
กูโอเคกับจุดจบของลุคแต่ที่ไม่โอเคคือระหว่างทางบางอย่างของมันตังหาก
- เหตุผลที่ไม่ยอมฝึกเรย์ตอนแรก / โอเครับได้เหมือนได้ดูมารบูรพาหน้าฝรั่ง
- เหตุผลที่เจไดต้องจบสิ้น / โอเคฟังขึ้น
- ลุคกลัวความมืดในตัวเบนแล้วกลัวจนชักดาบออกมา / ไอ้เหี้ยอันนี้แหละไม่ใช่ละสัส มึงทำยังกะ Coming of Age ของภาค 6 ไม่เคยเกิดอย่างงั้นแหละ
- เผาวิหารเจไดเจอโยดา / โอเคได้อยู่ถ้าโอบีวันหรืออนาคินโผล่มาอาจจะพีคกว่านี้ (แต่อันนี้มันบอกตั้งแต่ภาค 6 ละว่า โยดาจะตามหลอกหลอนลุคตลอดไป)
- แยกร่างมาช่วยตอนท้ายและตาย / โอเคอันนี้ชอบถึงจะไม่ค่อยชอบมุกปัดฝุ่นแบบหนัง Marvel เท่าไหร่ก็ตาม แต่ฉากมองพระอาทิตย์กินใจดี
>>880 คำตอบมึงก็พิมพ์อยู่ในความเห็นมึงแล้วไง แฟนๆที่ rant เรื่องฮานตายก็มี แต่แฟนส่วนใหญ่เขารับได้เพราะคาแรกเตอร์ฮานมันไม่เปลี่ยน เหี้ยๆแบบนี้แหละ แต่ยังมีจุดอบอุ่นอยู่บ้าง(อีเรย์มันถึงอยากได้เป็นพ่อ) ส่วนลุคเนี่ย กูเชื่อว่าถึงจะตายภาคนี้แต่ถ้าคาแรกเตอร์มันไม่ได้เปลี่ยนแบบฮาน แฟนๆหลายคนมันก็คงไม่ปามะเขือใส่หรอกว่ะ จะให้ลุคไปดวลดาบถ่วงเวลาแล้วโดนอีโมเรนฟันตายก็ได้ เพราะแก่แล้ว แบบตอนโยดาภาคสามอ่ะ วิชาดาบเทพสัสๆแต่สู้แบบเดียวเหนื่อยจนเกือบพลาดท่า
>>885 ฮานไม่เปลี่ยนนี่แหละคือปัญหาใหญ่เลย ประเด็นคือฮานแม่งเริ่มเปลี่ยนจากคนเห็นแก่ตัวไปเป็นคนที่อยากช่วยคนอื่นตั้งแต่ท้าย EP 4 แล้ว ตอนภาค 6 ก็เป็นคนนำกลุ่มกบฎไปทำภารกิจเสี่ยงตายเอง แต่พอมาภาค 7 ดันย้อนกลับไปเป็นฮานแบบภาค 4 ขายของเถื่อน โกงชาวบ้านไปเรื่อยๆ ปล่อยลูกไล่ฆ่าคนทั่วกาแล็กซี่ ปล่อยเมียนำกองทัพสู้เสียงตายอยู่คนเดียว พอมาคิดๆ ดูกุว่าแม่งหนักกว่าลุคด้วยซ้ำ
ส่วนลุคกูขัดใจแค่เรื่องคิดจะฆ่าเบน แต่อย่างที่บอกไว้ข้างบนว่าภาค 7 มันเซ็ตไว้แล้วว่าลุคหนีไปเพราะรู้สึกผิด ภาค 8 มันก็ต่อยอดได้ไม่กี่แบบอะนะ
อนาคินมันรักลูกจะตาย ตอนมันกลับใจแล้วสำเร็จวิชาผีเจได มันน่าจะมาสื่อสารกับลูกบ้างนะ แต่ดูเหมือนจะไม่เคยมาเลย หรือแม้แต่โอบีวัน แม้ตอนมีชีวิตอยู่ด้วยกันไม่นาน แต่ผีโอบีวันอยู่กลับลุคตลอดไตรภาค4-6เลยนะ ไม่น่าปล่อยให้ลุคหลงทางได้ขนาดนี้เลยว่ะ
มีการเดินทางระดับความเร็วแสงมานานเป็นชาติ แต่ไม่มีใครเคยใช้เป็นอาวุธ ต้องรอให้ป้าแก่Tumblrคิดขึ้นมา
มันใช่เหรอวะ ตามธรรมชาติคนแล้วถ้ามีอะไรมีแววใช้เป็นอาวุธได้จะคิดค้นขึ้นมาทันที โดยเฉพาะที่ดูรุนแรงแบบนี้ด้วยแล้ว
ไดนาไมต์เอาไว้ระเบิดหินยังเอามาปากันเลย แล้วการเดินทางไลท์สปีดรุนแรงแบบนี้ดันไม่ได้ใครใช้มาหกภาค ถ้าเอาตามจริงมันต้องมีคนคิดเอาดรอยด์ไปเป็นคามิคาเซ่ หรือสร้างไลท์สปีดมิสไซส์มาเป็นล็อทๆแล้ว
กูว่าไรอันมันซุยขึ้นมาเอง จะเพื่อGIRL POWER หรือเพื่อวิช่วลสวยๆก็แล้วแต่
ภาคต่อไปขอกายริชได้ป่ะ อยากเห็นสตาร์วอรส์แบบแก๊งสเตอร์
ใครว่าภาคนี้ตลกสู้ภาค2ก็ไม่ได้ กูขำทั้งเรื่อง โดยเฉพาะอนาคิน
แล้วไงอ่ะ จะวิธีใหม่แล้วมันมีปัญหาตรงไหนว่ะ เบื่อจริงๆพวกวิสัยทัศน์แคบ มึงทำหยั่งกับตอนปี 77 มันรู้วิทย์เหมือนปัจจุบัน
ปล่อยให้แฟนเก่าๆตายไปซะ เร็นไม่ได้กล่าวเอาไว้
ผมก็ยังไม่เคยเห็นคนฟอซโกสข้ามดาว สร้างสิ่งของขึ้นมา ในหนังหกภาคเลย ไรอันมันต้องด้นสดแน่ๆแย่จริงๆ
ถ้ามันจะพุ่งไปชนจากที่ไกลๆนี่ต้องคำนวณเป๊ะๆมากเลยนะผิดไปแม้กระทั่ง 0.0001 องศาก็วืดไปหลายร้อยปีแสง
แถมมีความเสี่ยงว่าจะโดนห่าอะไรเข้ากลางทางอีก ไอ้จะไปทำใกล้ๆเดี๋ยวก็โดนยิงดับก่อนอีก (กูแถ)
1. เครื่องยนต์การจัมพ์มีขนาดใหญ่ ต้องใส่เฉพาะยานขนาดใหญ่เท่านั้น
2. ใช้เวลาในการชาร์จนาน ถ้าศัตรูไม่ได้อยู่นิ่งๆก็พุ่งวืด หรือถ้าศัตรูรู้ตัวก็โดนยิงทิ้งก่อน
3. สิ้นเปลือง อันตราย และโอกาสสำเร็จต่ำ
4. ให้เกียรติหนังเมื่อ30-40ปีที่แล้วด้วย มึงคิดว่าความคิดต่อยอดของหนังไซไฟสมัยนั้นจะล้ำได้แค่ไหนกันวะ ยุคนั้นใครจะคิดเอาการเดินทางความเร็วแสงมาพุ่งชนยานศัตรูได้
ผ่านมาตั้งหลายสิบปี ไม่ใช่แค่ข้างนอกนะ มันรวมถึงในหนังด้วย
มันก็ต้องพัฒนาซิวะ มีมุกใหม่ๆบ้าง
ว่าแต่เอาจริงๆภาคนี้มันแปลกใหม่กี่จุดวะ เท่าที่นึกได้ก็
- Light Speed Kamikaze
- สู้กับซามุไรเกราะแดง
- ฟอร์ชโกสข้ามจักรวาล
- นกเปรตหมาคริสตัล
- โพปฏิวัติในยาน
- เลอาซุปเปอร์แมน
นอกนั้นกูว่าก็มุกเดิมๆ แค่เอาเนื้อเรื่องภาค 5-6 มาหักมุมให้อีกทางแค่นั้นเอง
- เรย์เห็นความขัดแย้งในตัวไคโรเรน = ลุคเห็นความขัดแย้งในตัวเวเดอร์
- ดาวเกลือ = ดาวหิมะ
- วิหารเจไดแห่งแรก = เดโกบาร์
- จุดจบของสโนค = จักรพรรดิ (โง่พอกันแต่สโนคค่อนข้างโง่กว่า)
- กองยานแม่หนี First Order = Star Destoryer ไล่ล่า Falcon ในภาค 5
- เบน Skype อวกาศกับเรย์ = เวเดอร์ Skype อวกาศกับลุค
- เบนรู้สึกถึงเลอา = เวเดอร์รู้สึกถึงลุค (อันนี้ตัดต่อใช้ Fast Dissolve เหมือนกันเป๊ะ)
- แคนโตไบร์ท = ดาวของแลนโด้
- นักถอดรหัส = แลนโด้
- ฟาสม่า = โบบาเฟต
- โพสั่ง C3PO เงียบ = ฮานเอามือปิดปาก C3PO
>>904 มึงคิดได้ถูกเป๊ะเลย ภาคนี้แม่งแทบไม่มีอะไรใหม่เลย กุว่าไอ้คนที่บอกภาคนี้มันใหม่อย่างโน้นอย่างนี้ ถ้าเป็นพวกติ่งภาคเก่าไม่ควรเรียกเป็นติ่งเลยเสือกจำพล็อตภาค 5 - 6 ไม่ได้ชัดๆ มันเห็นชัดเลยว่ามันไม่ได้มีห่าอะไรใหม่เลย ไอ้พวกที่ชอบภาคนี้แม่งก็เอามาอ้างอยู่ได้ว่าภาคนี้มันใหม่จนพวกชอบของเก่าไม่ยอมรับ ทั้งที่มันแทบไม่ได้มีอะไรใหม่ มันแค่เอาของเดิมมาเขียนไปทางตรงข้ามแค่นั้น แม่งไม่กล้าเขียนเรื่องใหม่จริงๆ ...............
เพิ่มหน่อย
ลุคเชื่อว่าพ่อตัวเองมีด้านดีและดึงพ่อตัวเองกลับด้านสว่างได้ = เรย์เชื่อว่าเรนมีด้านดี แต่เรนดันถลำลึกแทนดึงกลับไม่ได้
ดาร์ค เวเดอร์ ชวนลุคเข้าร่วมบอกให้จัดการจักรพรรดิ จัดการฝ่ายกบฎ = เรน ชวนเรย์เข้าร่วมคำพูดแทบเหมือนเวเดอร์พูดกับลุค
ถ้าบอกว่าชอบภาคนี้ = ไม่ใช่แฟนตัวจริง ไปตายซะ
ถ้าบอกว่าเกลียดภาคนี้ = ไม่ใช่แฟนตัวจริง ไปตายซะ
กูเห็นฝั่งที่บอกว่าภาคนี้มันใหม่คือฝั่งที่ชอบภาคนี้มากกว่านะ เห็นบอกกันว่ามันใหม่จนแฟนไดโนเสาร์รับไม่ได้ กูเห็นละรำคาญ
แฟนเก่าๆมันคิดกันได้แค่นี้รึไง ถถถ
ภาคนี้เหมือนห้าและหกมากจริงๆ ถุยยย พวกมึงใช้ตาหรือตูดดู
พวกติ่งลุค ทำเป็นบอกลุคดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เสือกไม่พูดเรื่องลุคโดนด้านมืดครอบงำจนเกือบฆ่าพ่อตัวเอง
เรื่องลุค บอกตรงๆกูไม่อินตั้งแต่ภาคเก่าละ ฝึกครึ่งๆกลางๆ เสือกเป็นระดับเจไดมาสเตอร์ ที่ผ่านๆมาระดับเจไดนี่แม่งต้องฝึกมาตั้งแต่พาดาวัน เจไดไนท์ เจไดมาสเตอร์ ตอนภาค 6 ให้ไปสู้แค่หุ่นอย่างกรีวัสคงเละอยู่ตรงนั้น
หนังมันเวลาน้อยก็ต้องโละทิ้งแหละ
สรุปมาร์ก แฮมิลล์บอกล่ะนะว่าไม่เคยพูดว่าไม่ชอบอะ แล้วเขาขอความกรุณาอย่าโควตอ้างอิงด้วย
เพราะงั้นเลิกอ้างเนอะ กุเห็นสามสี่ห้าโพสที่ทำยังกับเป็นลูกมาร์ก ไม่ก็อยู่มต้เตียงมาร์กอะ รำคาญเช่นกัน
จะโดนดิสนี่ย์ฟ้องหมดตูดเอาอ่ะดิ
โดนฟ้องเรื่องอะไรอ่ะ
สรุปว่าไอ้ light speed kamikaze นี่มันทำได้จริงๆเหรอวะกูยังสงสัยอยู่
ระยะห่างขนาดนั้น ไม่ใช่ว่าพอจัมป์เสร็จมันต้องเข้าเวิร์มโฮลเลยเหรอ ทำไมมันยังพุ่งไปชน star destroyer ได้อีก
ถ้าไม่ได้เข้ารูหนอนแต่เดินทางด้วยความเร็วแสงเฉยๆนี่น่าจะมีคนตายห่าเพราะจัมป์แล้วเจอเศษหินกลางอวกาศเยอะแน่ๆ.....
ย้อนกลับมาภาค 7 ก็จะงงอีกรอบเพราะ falcon ใช้ Hyperspace ทะลุเกราะไปจอดบน Starkiller Base ได้
ภาค8เอง หลังจากฉากที่ยานภาคีบึ้มเพราะโดนเจ๊ม่วงคามิกาเซ่ ฟินน์กับโรสยังรอดทั้งๆที่เห็นชัดๆว่าข้างหลังเป็นรูบะเริ่มจนเห็นอวกาศภายนอกเลยนะมึง ทั้งๆที่ความจริงควรโดนดูดปลิวออกไปไม่ก็อากาศหมดแล้ว
Pewds สับเละ ให้คะแนน 3.5/10 ดิสนีย์โดนสวนกลับอีกดอก
https://www.youtube.com/watch?v=Ymt4lpzv62g
น่าเชื่อถือสำหรับพวกชนกลุ่มน้อยอ่ะดิ ถถถ
คงไม่ถึงกับขาดทุน แต่กูมั่นใจเลยว่า9 จะรายได้น้อยสุดใน 7 8 แน่ๆ
ดู % ร่วงของรายได้อาทิตย์ 2 ก็น่าจะรู้แล้วมั้ง
พวกลูกจ้างดิสนีย์ไปไกลๆเลยครับ กลัวนายไม่แจกโบนัสล่ะสิ
ภาคเก้าได้น้อยกว่าแน่ๆ ถ้าพวกแฟนบอยไม่กลืนน้ำลายตัวเองกันน่ะครับ
แฟนบอยไม่ทำไรนอกจากนั่งกดเรจไปวันๆ? ตะ-แต่คนชอบก็ไปกดเพิ่มให้ได้นะ
ต่อให้มันไม่ชอบภาคแปดยังไงมันก็คงดูภาคเก้าอยู่ดีนั่นแหละ หลายๆคนที่มันด่ามันก็บอกว่าคงดูให้จบไตรภาคนี้อยู่ดี
มันก็ต้องมีแหละคนที่ติดเบ็ดดิสนี่ ที่มันวางไว้ ว่ากว่าจะตัวว่าstar wars จะรีบูทก็ล่อไปภาค8แล้วเหลืออีกภาคเดียวก็จบไตรภาคแล้วก็ดูๆไป
แต่คนที่เลือกจะไม่ดูก็มีเหมือนกัน น่าจะจำนวนเยอะพอสมควรเลย
ใครที่ได้ดู7แล้วชอบ ไม่ว่าจะแฟนรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่1 2 3 มาภาค8กลายเป็นหนังที่ "ต้องดู" แต่ตอนนี้ 9 มันไม่ถึงคำๆนั้นแล้วน่ะ
prequel trilogy ขนาดคนด่าจะเป็นจะตาย ยังทำเงินเพียบเลย whiny fanboy อย่างไงก็ดู
อีกอย่างพวกนี้ชอบ TFA แต่เกลียด TLJ เพราะชอบอะไรเดิมๆ ก็ให้ star wars มันตายไปซะเถอะ
กูนึกเรื่องแถให้
ลุคเห็นด้านสว่างในใจเวเดอร์ เลยมีความหวังจะดึงกลับมา - แค่รู้สึกก็เชื่อแล้ว
ลุคเห็นด้านมืดในใจเบน เลยเผลอชักดาบออกมา - ก็ไม่ต่างกัน เพราะเชื่อง่ายแบบนั้นเลยถลำเผลอชักดาบ
จริงๆไม่ใช่ว่าลุคมันมองขาดเห็นอะไรๆ แต่พลังมันเยอะ มันเลยมองเห็น แต่ไม่ได้ฝึกฝนอย่างดีพอเลยจัดการกับความรู้สึกไม่ได้
ไตรภาคใหม่สงสัยแฟนสตาร์วอร์คงตายเป็นแถบ แถมทำตัว toxic ล่ารายชื่อไม่นับเป็น canon แน่ๆเลย มะเร็งจริงๆ
กูดีใจอย่างนึง พอ TLJ ฉายแล้วมีคนชม ep1-3 กันเยอะมาก เหมือนเพิ่งนึกได้ว่าจริงๆแล้วไตรภาคนั้นก็ดีนะ
แล้วลุคมันก็หน้ามืดแว้บเดียวเอง ไม่ได้กะฆ่าจริงๆจังๆซะหน่อย
>>948 Rogue One มันอยู่ได้ด้วยการขาย nostalgia & reference to original trilogy & เวเดอร์ &ฉากแอคชั่นล้วนๆ ไง ซึ่งหนังแบบนี้มันสร้างไปตลอดไม่ได้หรอก ถ้าจะให้แฟรนไชส์อยู่ต่อไปได้เป็นสิบๆ ปี ก็ต้องสร้างอะไรที่เป็นเหมือน original trilogy สำหรับคนรุ่นใหม่ขึ้นมา ซึ่งดิสนีย์ก็คงพยายามจะทำแบบนั้นด้วยไตรภาคใหม่ในอนาคตนี่แหละ (แต่จะทำได้รึเปล่าก็อีกเรื่อง)
>>949 ใช้จิตสิ ลุคมันพูดเองเลย "I feel the good in you. The conflict." การกระทำของเวเดอร์แทบไม่สื่อถึงความดีอะไรซักอย่าง (ยกเว้นตอนฆ่าจักรพรรดิ) การชวนลุคมาโค่นจักรพรรดิด้วยกันก็เป็นไปตามวิถีซิธล้วนๆ
>>951 ไอเดียของลูคัสนี่กล้าและบ้ากว่า TLJ หลายเท่าเลยด้วยซ้ำ เปลี่ยนสตาร์วอร์เป็นหนังการเมือง เปลี่ยนฟอร์สจากเวทมนตร์เป็นมิดิคลอเรียน เสียตรงที่ลุงแกเขียนบท & กำกับไม่ได้เรื่องเท่านั้นเอง
พูดถึงลูคัส มีข้อมูลหลุดออกมานิดนึงว่า sequel trilogy ที่แกเคยแต่งไว้ (แต่เจเจปัดทิ้ง) จะออกมาเป็นยังไง อ่านแล้วก็อยากดูหนังจากไอเดียแกเหมือนกันแฮะ (แต่ให้คนอื่นกำกับนะ 5555)
http://www.slashfilm.com/george-lucas-sequel-trilogy/
- เปิดภาคเจ็ดมา ลุคปลีกวิเวกบนเกาะเหมือนกัน แต่เหตุผลอาจจะต่างออกไป
- เด็กผู้หญิงชื่อ Kira มาหา ขอให้ลุคช่วยฝึก ลุคยอมฝึกให้แบบไม่เต็มใจ
- ลุคอาจจะโดน Sith force ghost ตามหลอกหลอน
เรื่องไอเดียนี่ลูคัสเนี่ยเบอร์ 1 เลยแหละ อย่าง อินเดียน่า โจนส์แกก็คิด ถ้าแกกำกับดีด้วยป่านนี้คงเหนือกว่า james cameron ไปละ
ภาคนี้เพลงติดหูน้อยๆยังไงไม่รู้แหะ ไอ้ที่โอเคสำหรับกูหน่อยก็ resistance march มั้ง
>>960 กุว่าปู่ John Williams แกก็เริ่มแต่งไม่ไหวแล้วแหละ ภาค 7 ยังมี theme ของเรย์กับไคโลที่ดีอยู่ ภาคล่าสุดไม่มีเลย จริงๆ ปู่แกคงอยากเกษียณตัวเองเต็มที่แล้วด้วย อย่างหนังสปีลเบิร์กหลังๆ ก็เริ่มจะให้คนอื่นทำแทนแล้ว
ช่วง EP 1-3 นี่ฝีมือปู่แกยังพีคๆ อยู่ เพลงใหม่ๆ สุดยอดทุกภาค
อ่านสนุกดี ดิสนีย์แม่งน่ากลัวจริมๆ 5555
http://collider.com/star-wars-the-last-jedi-problems-fandom-menace/#mythology-yoda-snoke
พวก แพทโธเรี่ยนการ์ด นี่มันมองทางช่องทางไหนของหมวกว่ะ เหมือนไม่มีจุดที่ใช้มองเลย
ชุด ทรูปเปอร์ว่ามองยากแล้ว ไอ้พวกชุดแดงนี่ ไม่ยากกว่าเรอะ
จริงๆ ep9 แก้เรื่องพ่อแม่อีเรย์ใหม่ยังได้เลย แถว่าไคโลตอแหลอะไรก็ว่าไป
กูว่าการที่พ่อแม่เป็น nobody นี่แม่งเพิ่มความซูหนักกว่าเดิมเยอะ ให้พ่อแม่เป็น somebody ยังดีซะกว่า
>>966 ถึงจุดนี้กุว่ามันแถอะไรไม่ได้แล้วแหละ จะบอกว่าเป็นสกายวอล์กเกอร์หรือโซโลก็จะดูไม่เมคเซนส์ ถ้าแถหนักกว่านั้นคือให้เป็นเคโนบิ หรือพัลพาทีน ก็ต้องมา exposition กันอีกยืดยาว
ส่วนตัวกุว่าการเป็น nobody ไม่เห็นจะซูตรงไหน ยิ่งตรงที่เฉลยว่าลึกๆ เรย์รู้อยู่แล้วว่าพ่อแม่เป็นขี้เมา แต่หลอกตัวเองว่าจริงๆ พ่อแม่ต้องเป็นคนสำคัญ มันช่วยเพิ่มมิติให้ตัวละครได้เยอะเลย แถมยัง contrast กับไคโล ที่เหนือกว่าทางสายเลือดดีด้วย
ถ้าให้เป็นเคโนบีกูเผาดิสนีย์แน่สัส พังชิปObiSati กู
เออ เดินเล่นตรงแผนกของเล่นห้างเห็นชั้นของเล่นสตาร์วอร์อยู่ เห็นมีตุ๊กตาโมเดลของไคโรเบนเต็มเลย
ซึ่งกูสงสัยมากบทเหี้ยสัสหัวร้อนขนาดนี้ใครแม่งอยากจะซื้อ ยิ่งถ้าเป็นเด็กๆด้วยยิ่งไม่อยากซื้อแน่ๆอ่ะกูว่า
ได้ข่าวเข้าสัปดาห์ที่ 2 ยอดตก 42% เมื่อเทียบตอนภาค 7 นิ ไงล่ะมึง Let the past die if you had to ไหมล่ะ
Force คือพลังรอบตัวอยู่ว่าคนจะเข้าถึงได้ขนาดไหนมากกว่านิ ประเด็นเหมือนจะใหม่ แต่มันก็บอกผ่านๆ ไปแล้วตอนภาค 1-3 นะ (โดยบอกว่า อนาคินมัน Born to be เลยสัมผัสถึง force ได้มากกว่าชาวบ้านเขา)
>>972 กุว่าไม่เห็นจำเป็น โยดาก็ไม่ได้เทพเพราะสายเลือด (ป่าววะ) พัลพาทีนไม่ได้เทพเพราะสายเลือด อนาคินแม่งเกิดมาแบบไม่สืบสายเลือดอะไรเลยด้วยซ้ำ ในภาค 4-5 ทุกอย่างแม่งเป็น the will of the force หมด พอภาค 6 ลูคัสเริ่มเปลี่ยนฟอร์สเป็นพันธุกรรม (ลุคพูดประโยค "the force is strong in my family") แล้วพอ ep 1 เฉลยว่าระดับฟอร์สขึ้นอยู่กับไวรัสในเลือด แฟนบอยแม่งก็ตีโพยตีพายว่าลูคัสทำลายความ mythical ของฟอร์สอีก
ส่วนตัวกุไม่อินกับเรื่อง "ฟอร์สอยู่ในสายเลือด" แต่แรกแล้วมั้ง เลยรู้สึกว่าเรย์จะเป็นลูกใครแม่งก็ไม่ได้มีผลอะไร
>>969 จริงๆแล้วเรื่องใครๆก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นฟอร์ซเซนซิทีฟตอนเกิดมันก็มีมาตลอดนะ เด็กเกิดมามีฟอร์ซจากครอบครัวที่ใช้ฟอร์ซไม่ได้ก็มีถมไป ไม่รู้ว่ามันจะเสียเวลาสามสิบนาทีในดาวคาสิโนกับฉากจบเพื่อเน้นตรงนี้ทำมะเขืออะไร
แต่คนดูมันคิดว่ามัดอยู่กับสายเลือดเพราะตาร์วอส์หกภาคแรกมันติดตามครอบครัวนี้มั้ง ความคิดว่าฟอร์ซต้องอยู่ในสายเลือดเลยเกิดมา
"ข้าสอนเจไดมากว่า 800 ปี" โยดากล่าวในภาค 5 ต่อให้เป็นปู่แกเป็น nobody แต่อยู่มาขนาดนี้แล้วยังกากอีก ก็ไม่ต้องมีเจไดตั้งแต่แรกก็ได้มั้ง 555
อ้าวกูมั่วซะงั้น
ฟอร์ซเกิดจากพลังชีวิต(เพราะไม่มีสิ่งไม่มีชีวิตที่มีฟอร์ซ) และมิดิคลอเรี่ยนนี่หล่ะคือต้นกำเนิดฟอร์ซ เพราะมันมีอยู่ในทุกสิ่งมีชีวิต อาจจะเป็นไปได้ว่ามิดิคลอเรี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตอย่างแรกของกาแลกซี่และให้กำเนิดฟอร์ซ
แต่กูงงในโคลนวอส์ แม่งมีครอบครัวเทพที่พ่อเป็นฟอร์ซทั้งหมด พี่ชายเป็นด้านมืด น้องสาวเป็นด้านสว่าง แถมอีกดาวนึงก็มีวัวเบนดูที่เป็นตรงกลางระหว่างมืดกับสว่างอีก ตกลงดิสนีย์มันจะทำยังไงกับมิดิคลอเรี่ยนวะ ในภาคใหม่ก็ไม่วัดเรย์อีกว่ามีเท่าไหร่
พูดถึงมิดิคลอเรี่ยนนี่ทำไมติ่งสตาร์วอร์มันเคืองกับไอ้ประเด็นนี้กันจังวะ
ดูตามในหนัง EP.1 มันก็สมเหตุสมผลดี ว่าถ้าใครมีไอ้ตัวนี้อยู่เยอะก็จัดเป็นพวก force sensitive มีน้อยก็เป็นคนธรรมดา
แล้วตัวมันก็ไม่ได้เป็นแหล่งกำเนิดฟอร์ซโดยตรงนี่หว่า มันแค่ช่วยให้สื่อสารกับฟอร์ซได้ก็แค่นั้น ไม่เห็นจะไปขัดกับเนื้อหาของไตรภาคแรกตรงไหน
ที่กูบอกว่าการที่พ่อแม่อีเรย์เป็น nobody มันเพิ่มความซู กูไม่ได้ยึดติดกับสกายวอล์กเกอร์หรือตัวละครเก่าๆหรอก กูมองว่าการที่อีเรย์มันเป็นใครมาจากไหนไม่รู้ ไม่เคยผ่านการฝึกห่าเหวอะไรมาเลย แต่กลับเก่งเทพได้ขนาดนี้ มันไม่มีเหตุผลเกินไปอะ ถ้าพ่อแม่เป็น somebody มันยังแถได้ว่าเก่งโดยสายเลือดไง แต่สายเลือดที่ว่าไม่จำเป็นต้องเป็นสกายวอล์กเกอร์หรือเคโนบีก็ได้
เรื่อง Force sensitive from nobody ไปดู Rebel ก็ได้นะ เอซร่า เนี่ยแหละ Nobody ของจริงแถมไม่ Sue ด้วย กว่าแม่มจะทำได้แต่ละอย่างโคตรลุ้น ตัดภาพมาที่เรย์ โอ้พระสงฆ์จะเก่งไปไหนคร้าบเจ๊
https://pantip.com/topic/37205881
สรุปสโนคก็เหมือนพัลพาทีนใน 4 5 6 ไม่ได้สำคัญอะไรกับไตรภาคนี้ แค่แฟนๆมันบ้าไปเอง
ส่วนลุควางมาให้เป็นตำนานที่ยิ่งใหญ่ ไม่ได้เอาไลท์เซเบอร์โง่ๆไปไล่ฟันพวก first order
>>983 Clone Wars นี่ไอเดียลูคัสล้วนๆ นะ จำได้ว่าเคยอ่านสัมภาษณ์คนสร้าง ทั้งเรื่อง Bendu, The Father, The Son อะไรเว่อร์ๆ นี่ไอเดียลูคัสหมด
มึงลองดูฉากนี้ก็ได้ แม่งแทบจะกลายเป็นแฮรี่พอตเตอร์อยู่แล้ว https://www.youtube.com/watch?v=QBYUNU0rNCs
เทียบกับพวกนี้แล้ว ไอ้การถอดจิตข้ามกาแล็กซี่ของลุคนี่ดูธรรมดาไปเลย
จุดต่างระหว่าง พัลพาทีน กับ snoke คือ พัลพาทีน มันไม่ได้ถูกปูมาความเด่นมาแต่แรก ภาค 4 มีแต่พูดถึงว่าไปยุบสภาแค่นั้น พอภาค 5 ก็มาเป็นแค่โฮโลแกรมแถม ver. ดั่งเดิมก็ไม่ได้มาเป็นพัลพาทีนที่เราเห็นกันตอนแรกๆด้วยเหมือนตัวละครใส่หน้ากากใส่ hood ด้วยซ้ำ ไม่ได้โชว์อะไรเลยว่ายิ่งใหญ่ยังไงนอกจากมีชื่อว่าเป็นจักรพรรดิ ตั้งแต่ภาค 4 เวเดอร์ต่างหากที่โดนชูให้เป็นตัวร้ายหลักของเรื่องทุกคนโฟกัสที่ความแข็งแกร่งของเวเดอร์กันหมด คนนึงว่าพัลพาทีนมันเก่งแต่เรื่องบัฟกับล่อลวงคนให้เข้าด้านมืดอย่างเดียวด้วย พอจักรพรรดิถึงจะตายง่ายแต่คนก็เลยพอรับได้เพราะมันโฟกัสที่เวเดอร์เยอะมาก ไอ้ EP1-3 มันแค่มาเสริมว่าเห้ย จักพรรดิ มันเก่งจริงนะเว้ย ต่างกับไอ้ snoke มันโดนโฟกัสเหมือนเป้นตัวละครที่แข่งแกร่งมาตั้งแต่เริ่มว่ะ ออกแบบหน้าตามาก็ดูหน้ากลัวหน้าเกรงขาม ใครจะไม่คิดว่าไอ้นี่ต้องเป็นตัวละครที่ปราบยากอย่างน้อยๆ ต้องไม่ควรซ้ำรอยพัลพาทีน คนก็ต้องผิดหวังแหละว่าอะไรวะ ตั้ง First Order แหกพวก republic มาได้แต่เสือกตายแบบพัลพาทีน คนก็เซ็งซ้ำซากซะงั้น
สรุปคือส่วนใหญ่คุยกับลูคัสไว้แล้ว ลูคัสไม่ได้ปฏิเสธไอเดียอะไร มึงอยากทำอะไรก็ทำสินะ
ลูคัสทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้นแหละ เซนต์ขายให้ยกแผงขนาดนั้น ดิสนี่ย์พยายามจะกันออกจากโปรเจคด้วยซ้ำ ยังดีที่ไว้หน้าชวนมางานรอบสื่อ
สโนคโผล่มานิดหน่อยนี่มึงเรียกโฟกัสแล้วเหรอ ถถถถ
>>997 มึงดูพัลพาทีนใน 4 - 5 ใน ver แรกสิวะ ไม่ใช่ไอ้เวอร์ชั่น special edition นะเว้ย แม่งรวมกันโผล่น้อยกว่าไอ้เหี้ย snoke ภาค 7 อีก มาแค่บอกว่าไอ้ลุคน่าจะเป็นลูกอนาคิน แค่เนี้ย แถมตอนแรกไม่มีหน้าตาจริงๆ ด้วย มาโผล่หน้าจริงๆก็ภาค 6 เลย ไอ้ snoke แม่งมาครั้งแรกทำภาพตัวใหญ่น่าเกรงขามมาเลยนะมึง
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.