Last posted
Total of 60 posts
>>>/movie/4115/1000
ขอต่อเรื่องฝันของเอกอนรุ่นแรก คือมึงจะเอาอะไรกับอีพล๊อตอันนี้ที่ทีมงานTVมันตู่ใส่มาเองว่ะ
เพราะจริงๆลุงอ้วนแค่ช่วยไรอันที่กำลังตันเรื่องต่อบทว่า เอกอนมันฝันว่าจะมีไวท์วอร์คเกอร์บุก มันเลยยึดเวสเทอรอสเพื่อป้องกัน แต่ไม่มีใครรู้เพราะเอกอนไม่ได้บอกใคร ไม่ก็ไม่โดนบันทึกลงปวศ แค่นี้
He told us very early on in the room, as he does. He just casually mentioned the fact that Aegon the Conqueror was a Dreamer who saw a vision of the White Walkers coming across the wall and sweeping over the land with cold and darkness.
ที่มา https://screenrant.com/house-dragon-aegon-dream-george-rr-martin/
ไม่ได้บอกเลยว่า จะมีผู้ถูกเลือกห่าไร อันนี้ไรอันแต่งเอง
แล้วเรื่อง The prince that was promised เกิดจากเกลือและ มันไม่ใช่ความลับอะไรเลย มันเป็นคำทำนายในพวกผู้นับถือR'hllor ที่ส่งกันมานานปีแล้ว ไม่ได้มีที่มาจากฝันของทาเกเรี่ยน
เอก้อน I : ข้าเห็นความฝันว่าปีศาจขาวมันจะบุกทะลุกำแพงทางเหนือลงมาฆ่าทุกคนในคืนอันยาวนาน
เมียๆ : งั้นเราจะทำยังไงดีเอก้อน! แบบนี้เราต้องให้ไนท์วอทช์เป็นองกรณ์ที่สำคัญที่สุดในอาณาจักรใช่ไหม
เอก้อน I : ไม่อ่ะ เอาทหาร เงินทุน เสบียง เมียหนึ่งคน มังกรหนึ่งตัวไปทิ้งในดอร์นดีกว่า เราจะไม่สนใจไม่ช่วยไนท์วอทช์ไปตลอดราชวงศ์ของเรา
คือถ้าเอกอนที่หนึ่งเห็นสำคัญขนาดนั้น มันควรบัญญัติเป็นแนวทางที่ต้องทำเพื่อรองรับเหตุมากกว่านี้เปล่า จะทิ้งสารเป็นลายลักษณ์อักษรบอกลูกหลาน ย้ายเมืองหลวงขึ้นไปแดนเหนือเพื่อให้ตระกูลตัวเองคอยจับตาผากำแพงหรืออย่างน้อยต้องมีคนขี่มังกรสักตัวไปประจำการณ์เป็นรุ่นๆอะไรก็ว่าไป คือให้มันดูศักดิ์สิทธิ์ มีโร้ดแม็ปหน่อย ไม่ใช่เป็นแค่ตำนานเลื่อนลอยปากต่อปากข้ามเวลาหลายร้อยปี จนกลายเป็นอย่างกะนิทานหลอกเด็ก แถมเล่าให้รู้เฉพาะรัชทายาทอีก เพื่อ?
กูว่ามันเป็นพล็อตที่ลุงยังไม่ตกผลึกอะ มันดูเลื่อนลอยเกินกว่าจะเอามาเป็นเหตุผลหลักที่ผลักดันให้ทาร์กาเรียนต้องยึดเวสเทอรอส ไรอัน เอ็งบอกลุงอ้วนแกรึเปล่าว่าจะเอามาใช้ให้บ้านดำอ้างเป็นเหตุผลหลักในการที่ฝ่ายตัวเองต้องครองบัลลังก์ต่อ คือกูยังไม่เห็นเหตุผลว่าแล้วทำไมต้องเรนีร่าอะ เพราะเป็นบรรพบุรุษของแดนี่เหรอ? งั้นใครที่ขี่มังกรให้กำเนิดสายเลือดที่ขี่มังกรได้ก็นั่งบัลลังก์ก็ได้มั้ง
เออ ถ้ามันมาพร้อมเหตุผลว่าทั้งชีวิตที่เหลือของเรนีร่าหลังจากนี้จะอุทิศตนเป็นไนท์วอช สละความสุขสบายของตัวเองและต้องหักใจส่งลูกหลานมาทำหน้าที่ต่อด้วย ว่าไปอย่าง นี่แม่งตอบแบบ "เพราะชะตากรรมกำหนดมาอะ" ที่เหลือมึงจะทำตัวไงก็ได้ เพราะชะตากรรมเลือกมึง ไอ้คนที่คิดเข้าข้างตัวเองแบบนี้อย่างเรการ์ แล้วก็ทิ้งลูกเมียพาน้องสาวคนอื่นหนีไปแต่งงานใหม่ ลุงอ้วนแกก็ส่งไปคุยกับค้อนโรเบิร์ตแล้ว
>>4 เดี๋ยวเรนีร่าก็ไปคุยกับซันไฟร์ละไง แต่กว่าจะถึงตอนนั้นไม่รู่ว่าจะอวยพลังญอะไรอีกมั้ย555 กุอยากรู้จริงๆปูมาขนาดนี้ทีมงานมันจะเอายังไงให้เรนีร่าเป็นอีบ้าบริหารไม่เป็น ถ้าตามที่ตัวละครในเรื่องอวยๆเรนีน่าแม่งไม่ขูดรีดประชาชนแน่นอน ให้คนในสภาจัดการเองจนเรื่องบายปลาย? เรนีร่าไปทำอะไรไม่มาประชุมไม่รู้เรื่องชาวบ้านเดือดร้อน? เจซตายเลยประสาทแดก? ทีลุคตายยังมีหน้าโดดประชุมไปหาอลิเซนขอยุติสงครามเลย ถ้าเป็นเพราะปัจจัยภายนอกแบบควายๆให้เรนีร่าเป็นนางโศกนี่พอเหอะเลี่ยนเกิ๊น
สงครามมังกรเริงระบำ แค่เหตุผลในนิยายมันเป็นแรงผลักดันที่เพียงพอแล้ว คนเรามันตีกันง่ายๆแค่เพราะเรื่องสิทธิ์ที่คิดว่ากูต้องได้และความหวาดระแวงนี่แหละ
จะตั้งคำถามให้มันซับซ้อนขึ้นก็ได้ว่าระหว่างข้อดี/ข้อเสียของผู้ชาย/ผู้หญิง ควรจะเลือกอะไร หรือคนที่ทำตามกฎประเพณีศาสนาจนดูน่าศรัทธาแต่ก็ชวนอึดอัด กับคนที่ไม่เอากฎเกณฑ์อะไรเลยแลดูยืดหยุ่นแต่ก็หลักลอยด้วย แบบไหนดีแย่กว่ากัน ถ้ามันทำให้ทั้งสองบ้านมีเหตุผลที่สมควรของตัวเองมันจะเชียร์และถกเถียงกันสนุกกว่านี้
นี่ซีรี่ส์มึงตอบเป็นนิยายแฟนตาซีจ๋ามาเลย ทีมดำถูกเพราะเขาคือผู้ถูกเลือก ทีมเขียวผิดเพราะโง่เข้าใจผิดลูกชื่อซ้ำ พอตั้งโจทย์หลักเป็นแบบนี้ หลังจากนั้นมึงจะพยายามทำให้มันลึกซึ้งซับซ้อนยังไงก็ไม่มีประโยชน์เลย เพราะแก่นมันติงต๊อง
มันยังมีคนดูเรื่องนี้ไม่เข้าใจอยู่เยอะจริงๆแฮะ เดม่อนมันยังฟันกัวเรนีร่าในนิมิตอยู่เลย เรน่าดับเบล่าก็แทบไม่สนใจ บอกรักครอบครัวที่หนึ่งในเรื่อง 5555
เฮเลน่านี่มันยังนับเป็น dreamers ได้อยู่ปะรู้สึกพลังมัน op เกินละเทพกว่าอีกา3ตาอีกมั้งอยู่เฉยๆไม่ต้องใช้อะไรก็ถอดจิตไปคุยนู่นนี่ได้เลย คุยกับคนสั่งฆ่าลูกตัวเองด้วยนะ ละไอภาพนิมิตมันก็เลี่ยงได้ปะตอนทาเกเรียนรอดก็เพราะหนีจากภาพคำทำนาย คือเฮเลน่ามึงคิดว่าปล่อยจอยรอให้พี่น้องแม่ญาติๆตายห่าไปเลยนะ แถมมาแบบนี้คือมังกรตายไปเกือบหมดเลยถ้าใช้คำทำนายเป็นประโยชน์นี่ดีไม่ดีมังกรไม่ต้องตายเป็นเบือจะ ดูจะสู้ nk ได้มากกว่ารอเดเนอรีสกับมังกร3ตัวอีกมั้ง
>>11
อยากรู้ว่าไอ้ความเชื่อที่ว่าซีรี่ส์คือเรื่องจริงมันมีที่มาจากอะไรหว่า เห็นพูดกันเยอะเลย ปู่จอร์จแกบอกเองเหรอ ถ้าปู่บอกเองนี่โดนผีตัวไหนในฮาเรนฮอลหลอนมา ยกแฟนฟิคเนื้อเรื่องอุๆมาเป็น official ของตัวเองเนี่ย
บทพูดในซีรี่ส์มันยังมีการแซะฉบับนิยายอยู่เลย "History will paint you a villain."
จ้ะ คนนึงเรียกร้องชีวิตลูกชายแลกลูกชาย หลานชายที่หั่นคอเค้าไปแล้วไม่นับ
อีกคนหักหลังครอบครัว ทอดทิ้งลูกชายตัวเอง แล้วเดินออกไปในท้องฟ้ากว้างยามเช้าด้วยความเป็นอิสระนี่ฮีโร่มากเลย
ไอ้ทีมเขียนบทมึงคิดว่าพลังหญิงนี่ต้องเป็นยังไงวะ ถ้าพ่อกับลูกชายไม่ได้ดั่งใจ ปล่อยแม่งตายห่าไปเล้ยยยย เก็บไว้แต่ลูกสาวหลานสาวพอ หน้าที่เมียไม่เอายังเข้าใจ หน้าที่แม่นี่มึงก็ไม่เอาอีก อยากทำห่าไรฉันต้องได้ทำว่างั้น
>>10 เหมือนคนทำซีรี่ส์มันไม่รู้จะทำไงดีกับพวกเห็นอดีตอนาคตอะ เป็นตั้งแต่แบรนละ ให้มาปั้นหน้านิ่ง รู้ทุกอย่างแต่ไม่ทำอะไรสักอย่าง แบบที่มีมฝรั่งมันแซวอะแหละ
เฮเลน่านี่อัพเกรดความห๊ะ!?เข้าไปอีกคือไปชี้แนะฝ่ายศัตรู แถมเป็นคนที่สั่งฆ่าลูกตัวเองอีก เอมอนเผาพี่นี่รู้จักด่ารู้จักตั้งคำถามว่ามันคุ้มเหรอ กับเดมอนดันไม่ว่าอะไรเลยเพราะท่านเป็นส่วนหนึ่งของชะตากรรม อืมมมมมมม
>>12 ที่มาก็มาจากการคิดเองเออเอง เดิมทีเติมแต่งเนื้อหาbase onนิยายแล้วแสร้งทำตัวเหมือนกูนี่แหละเรื่องราวของจริงที่ไม่ได้ถูกบันทึก ยิ่งเห็นพรี่เดม่อนเท่ปาดคอบาดใจ อลิเซ้นนางหญิงโง่ ชั่ว แย่งพ่อไปจากเรนีร่า แล้วให้เรนีร่าทำตัวเฟียสๆผู้ถูกกระทำเน้นความน่าสงสาร+สะใจเหมือนตอนดูละครไทยน้ำเน่าพออินทีนี้เลยอวยกันใหญ่เลยนี่แหละของจริง แต่พอเดม่อนหลอนมีฉากทำตัวโง่ๆปล่อยให้คนนู้นคนนี้ลูบคมไม่นับนะอันนี้ซีรี่ย์มั่วนิ่มขึ้นมาเอง55555
อัฟนี่เป็นอาเรนีร่าด้วยใช่ปะ มันเล่นหัวเจซได้ก็ไม่แปลกมั้งแต่คนไม่ชอบกันเพราะติดธรรมเนียมยศติดศักดิ์ปะหรือเพราะมันหน้าไม่ดีไม่เท่เท่าเรนีร่าที่ไม่ทำตามธรรมเนียมเหมือนกัน จริงๆถึงเดม่อนอยู่ด้วยมันคงทำอะไรไม่ได้ด้วยต้องยอมๆไอ้อัฟด้วยซ้ำเหมือนตอนโดนถอนหงอกจะเอามั้ยมังกรไปรบ
>>11 อะไรที่บ้านดำดูดี เรนีร่าดูเฟี้ยสตัวแม่เป็นของจริงทั้งหมดค้าบบบ ส่วนเดม่อนบีบคอเรนีร่า หลอนที่ฮาเรนฮอล ซีรีย์มั่วบททำลายคาร์ท่านอาคนเท่ แงๆ ส่วนคริสปี้แอบกินกับอลิเซนแบบงงๆ เรื่องจริงค่าาา นังอลิเซนมันร่านนัก มันต้องเป็นชู้กันมานานแล้วแน่ๆ
ส่วนเลนอร์ อุตส่าห์เขียนบทให้แอบหนีไปพร้อมซีสโมคด้วยนะ เพื่อให้เรนีร่าไปได้แส้บกับผัวใหม่อย่างถูกต้อง สุดท้ายก็ไปตxยห่าที่ไหนไม่รู้ มังกรตัวเองยังไม่เห็นหัวบินมาเคลมนิกก้าอื่นชิลๆ
เฮเลน่า
ในนิยายใกล้ชิดกับวิเซริสมาก > พ่อลืมไปแล้วมั้ง ไม่ได้ๆ ลูกรักต้องมีเรนีร่าคนเดียว
ในนิยายชอบขี่มังกรมาก > ซร.แก้เป็นไม่ชอบ
ในนิยายสติแตกเพราะเรื่องลูก รักลูก > ลดระดับทุกอย่างลงมา แทนที่ด้วยความเอ๋อ
แดนิสเห็นอนาคต ทาเกเรี่ยนถึงรอดตาย เอกอนฝัน ถึงได้มายึดเวสเทอรอสจากที่อยู่เกาะชิลๆ บินเล่นไปกลับที่free cities > อีเฮเลน่าtv กูเห็นแต่ไม่ทำไรทั้งนั้น
เนิร์ฟทุกอย่าง แก้ทุกอย่าง เพื่ออีนั้นคนเดียว 5555555
>>12 ในซีซั่น1ซีรี่ย์มันตั้งใจอ่ะว่าจะสื่ออกมาให้ให้รักหรือให้เกลียดตัวละครไหน พอคนดูซีรี่ย์เริ่มรักฝั่งดำมารู้ว่าเนื้อหาในหนังสือไม่เหมือนกันและฝั่งเขียวในหนังสือดูดีกว่าในซีรี่ย์เลยเกิดการโมเมขึ้นสนองความฟินตัวเองว่าในเมื่อหนังสือมันเป็นแค่บันทึกประวัติศาสตร์ที่ฝั่งเขียวดูดีคนบันทึกมันก็มั่วล่ะสิ จริงๆอลิเซ้นมันหญิงชั่ว หญิงโง่ แสดงว่าในซีรี่ย์คือเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ โดยเริ่มจากพวกยูทูปเบอร์และคนในคอมมูบางคนที่เคยอ่านนส.มาก่อน
เฮเลน่าเอ๋อพูดเป็นปริศนามาตลอดทุกตอน เจอใบสั่งเปลี่ยนนิสัยจากหน้ามือเป็นหลังตีน พูดรู้เรื่องเป็นมนุษย์ภายในตอนเดียว บอกคำทำนายเป็นฉากๆ
กรวยเหอะ เขียนไม่เป็นก็ไม่ต้องเขียน
คิดเล่นๆว่าถ้าลุงจอร์จเขียนdance of dragon ค้างไว้ถึงตอนกัลเล็ท ละซีรีย์ต่อจาก ss2 ทีมงานต้องคิดเองไม่มีนส พวกมึงว่าละเนื้อเรื่องจะไปทางไหน
>>22 กูลองให้chatgptเขียน ระบุว่าเอาแบบเฟมินิสต์โว้ค
---
**Title: A New Dawn in Westeros**
The war for the Iron Throne has reached its climax. Instead of the realm being torn apart by bloodshed, Rhaenyra Targaryen and Alicent Hightower decide to meet and negotiate a peaceful resolution. Both women realize that the cycle of violence and patriarchy has been perpetuated for far too long, and it’s time for change.
### The Council of Queens
Rhaenyra and Alicent propose the formation of a ruling council comprised of representatives from all corners of Westeros, including women, people of different ethnicities, and the marginalized. They establish the **Council of Queens**, which includes Rhaenys Targaryen, Helaena Targaryen, Mysaria, and other powerful women leaders who have been sidelined by history.
### The People's Charter
The Council drafts a groundbreaking document called **The People's Charter**. This charter enshrines equality, justice, and freedom for all people of Westeros, regardless of gender, race, or social standing. It outlaws slavery and establishes a system where leaders are chosen based on merit and the will of the people, rather than lineage and birthright.
### Daenerys's Vision
Through the use of magic, the visions of Daenerys Targaryen from the future echo back to the past, showing the devastation that dragons can cause. Rhaenyra, moved by these visions, chooses to end the rule of dragons. She frees the dragons and allows them to live in peace away from human conflict, in a secluded sanctuary where they can roam freely.
### A New Beginning
In a grand assembly in King's Landing, the Iron Throne is dismantled, and a new seat of power is established, symbolizing the end of tyranny. The new government is a council-led republic, where every voice is heard and considered. Rhaenyra and Alicent serve as co-chairs, showing unity and cooperation between former adversaries.
### Empowering the Next Generation
Aegon III, under the guidance of this new council, learns the values of compassion, leadership, and equality. He is taught that power is not about domination but about serving the people. With the guidance of strong women around him, Aegon becomes a symbol of a new generation of rulers who prioritize the welfare of their subjects over personal ambition.
### The Legacy of Visenya’s Sword
Visenya Targaryen’s sword, Dark Sister, becomes a symbol of the new era. It is placed in a public square in King’s Landing as a reminder of the sacrifices made by those who fought for a better world. It serves as a testament to the strength and resilience of women who have shaped history.
### An Era of Peace
Under the Council’s leadership, Westeros enters an era of unprecedented peace and prosperity. The realm becomes a beacon of progress and inclusivity, attracting scholars, artisans, and people from all over the world who seek to learn and contribute to this new society.
### The Final Scene
The series closes with a panoramic view of King's Landing, where people of all backgrounds celebrate together. The camera pans over to the peaceful dragon sanctuary, where dragons fly freely in the sky, untethered by the chains of human conflict. The world of Westeros has finally embraced a future where everyone is valued, and the legacy of the past has been transformed into a hopeful vision for tomorrow.
---
This ending highlights the importance of unity, equality, and the dismantling of oppressive systems, focusing on cooperation and the empowerment of underrepresented voices.
ผู้ชายหายไป 55555
แต่กูพูดได้มั้ยว่า อาจจะดีกว่าอีอะไรก็ไม่รู้ที่sara hessเขียน
>>23 ไปให้สุดทางแนวตลกไปเลยก็ดีนะ ทุกวันนี้บทแม่งก็ขายขำอยู่แทบทุกตอนละ ไอ้สัส Democracy of Westeros 555 ให้มังกรใช้ชีวิตอย่างอิสระนี่คือไรวะ วันดีคืนดีมันโฉบมางาบลูกๆราษฎรแบบที่โดรกอนเคยแดกเด็กที่มีรีนนี่ทำไง ควรออกกฎหมายห้ามตอบโต้ด้วยเครื่องยิงธนูยักษ์เพราะถือเป็นการทารุณสัตว์ถึงจะถูก รุ่นถัดมาเอกอนที่สามยังได้ปกครองนี่ไม่ควรนะมึง ให้เบลาไม่ก็เรนาเป็น ปธน. หญิงคนแรกสิวะ 55555
>>22 ถึงลุงจอร์จเขียนไว้แล้วพี่อั้น (ไรอัน) เราก็ละเลงได้ อย่าห่วง
ซีซั่นสาม ศึกกัลเลตจะจบในสิบห้านาทีแรก เพราะต้องรีบไปยึดคิงส์แลนดิ้ง ให้บร๊ะแม่เรนีร่าขึ้นนั่งบัลลังก์เหล็ก ออตโตโดนเดมอนจับตัดหัวโดยที่เรนีร่าห้ามปรามไม่ทัน จากนั้นตลอดทั้งซีซั่นจะเป็นเรื่องการปกครองของสภาหญิง อลิเซนต์จะเป็นหัตถ์ราชินีเงาอยู่หลังม่าน จับมือกะเรนีร่าสะสางปัญหาที่พวกผู้ชายทำทิ้งไว้ โดยมีมิซาเรียเป็นนางอิจฉา ลักพาตัวอลิเซนต์กับเฮเลน่าไปขายซ่องเพื่อกำจัดคู่แข่งหัวใจ โชคดีที่เรนีร่ารู้ทันและบุกไปทลายซ่องได้ทันท่วงที
เหตุการณ์นี้ทำให้ทั้งคู่ได้รู้หัวใจตัวเองและใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น เดมอนที่รู้ตัวว่าตนกลายเป็นอดีตก็เข้าใจและยอมหลีกทาง แกล้งเก็บเด็กผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มาเลี้ยงแล้วประกาศว่าเป็นเมียน้อย เพื่อให้เรนีร่ามีข้ออ้างในการเปลี่ยนคู่ครอง ในขณะที่เรื่องราวหัวใจกำลังจะลงเอยด้วยดี เด็กเหี้ยแดรอนก็รวมพลบุกขึ้นมาจากแดนใต้ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรโปรดติดตามต่อในซีซั่นสี่ และซีรี่ส์ภาคแยกอีกหกเรื่อง เรื่องราวของ เบลา เรนา เฮเลนา เจเฮรา อลิสริเวอร์ ท่านหญิงเจย์นแอร์ริน ต้องดูให้ครบนะ ไม่งั้นจะไม่รู้เรื่อง
ว่าบาป ถ้าจบแบบให้ซีนผู้หญิงทุกคนยังดูเป็นพลังหญิงมากกว่าประเคนทุกอย่างให้เรนีร่าคนเดียวแบบที่มันทำตอนนี้ ที่เอาอลิเซนเป็นตัวเปรียบเทียบว่าถ้ายอมอยู่ใต้ปิตาจะชีวิตพังแบบนี้ๆ ผญ.คนอื่นก็เป็นได้แค่ side kick ของเรนีร่า ใครไม่อวยชีแบบเจน แอริน ก็โดนด่าเป็นอีมั่นหน้าไป พลังหญิงแบบชั้นต้องเริศคนเดียว มีผัวหลายคนได้คนเดียว
หรือจริงๆพวกเราด่วนตัดสินกันไปเองวะ ซีซั่นหลังๆบทมันอาจจะพลิกแบบตบหน้ามั้ย แบบนางเทิร์นเหี้ย แบบนี้แหละญชั่วคนกากตัวจริง ช่วงที่โดนไล่ออกจากคิงส์แลนดิ้ง แบบตอนเดนี่เผาเมือง
ซูดดด ปลุกกูที5555555
หลังจากเห็นCondomกับMessเขียนมังกรในซีรีย์แล้ว ลุงจ๊อดก็ไปเขียนแซะในบล็อกเลย บอกว่ามังกรของกูเป็นสัตว์อยู่ติดที่ ไม่ใช่สัตว์เร่ร่อนที่จะบินไปไหนตามใจ ไม่งั้นสามร้อยปีหลังจากทาแกเรียนมาเวสเทอรอสแม่งคงมีมังกรอยู่ทั่วอาณาจักรยุ่บยั่บแล้ว แต่Condom&Messแม่งเสกให้มังกรบินไปนู่นไปนี่ตามใจมัน
My dragons are predators, carnivores who like their meat will done. They can and will hunt their own prey, but they are also territorial. They have lairs. As creatures of the sky, they like mountain tops, and volcanic mountains best of all. These are creatures of fire, and the cold dank caverns that other fantasists house their pets in are not for mine. Man-made dwellings, like the stables of Dragonstone, the towers tops of the Valryian Freehold, and the Dragonpit of King’s Landing, are acceptable — and often come with men bringing them food. If those are not available, young dragons will find their own lairs… and defend them fiercely.
My dragons are creatures of the sky. They fly, and can cross mountains and plains, cover hundreds of miles… but they don’t, unless their riders take them there. They are not nomadic. During the heyday of Valyria there were forty dragon-riding families with hundreds of dragons amongst them… but (aside from our Targaryens) all of them stayed close to the Freehold and the Lands of the Long Summer. From time to time a dragonrider might visit Volantis or another Valyrian colony, even settle there for a few years, but never permanently. Think about it. If dragons were nomadic, they would have overrun half of Essos, and the Doom would only have killed a few of them. Similarly, the dragons of Westeros seldom wander far from Dragonstone. Elsewise, after three hundred years, we would have dragons all over the realm and every noble house would have a few. The three wild dragons mentioned in Fire & Blood have lairs on Dragonstone. The rest can be found in the Dragonpit of King’s Landing, or in deep caverns under the Dragonmont. Luke flies Arrax to Storm’s End and Jace to Winterfell, yes, but the dragons would not have flown there on their own, save under very special circumstances. You won’t find dragons hunting the riverlands or the Reach or the Vale, or roaming the northlands or the mountains of Dorne.
Fantasy needs to be grounded. It is not simply a license to do anything you like. Smaug and Toothless may both be dragons, but they should never be confused. Ignore canon, and the world you’ve created comes apart like tissue paper.
ลุงอ้วนแม่งรู้จักเขี้ยวกุดด้วย ใครเปิดให้ดูวะ
ซีรีย์ dunk and egg นี่มีแววตาม got ไปมั้ย ลุงจอร์จแกยังเขียนได้3เล่มจากที่แพลนไว้9เล่มก็ทำซีรีย์ละ wind of winter ก็ยังไม่ออก
อ้วนมันแก่แล้วสมองไม่เหมือนเดิมตอนพีคๆอะไรไม่จบก็อย่าไปหวังเล่มต่อเลย
รอดูอยู่นะว่าซีซั่น3มันจะทำยังไงให้พวกเมสเตอร์กลัวมังกรกันไปเลย ผ่านมา2ซีซั่นกูยังไม่รู้สึกถึงความโหดร้ายของมังกรเท่าในเกมออฟโทรน
จ๊อดเตรียมตัวออกมาเขียนบล็อกด่าHouse of Two Womenแล้วว่าเหี้ยยังไงบ้าง
อันนี้กูทึ่งเลย ปู่แกมีcontractแบบไหนวะที่สามารถลากเอาโปรเจคมาตบหัวในที่สาธารณะได้โดยไม่โดนฟ้อง
กูพึ่งจะได้ดูไม่เคยตามข่าวไม่เคยอ่านนิยายเลย รู้สึกขัดใจตระกูลวาเลเรียนมันเป็นคนดำอยู่แล้วป่ะ มันไม่ให้ความรู้สึกเหมือนตระกูลชั้นสูงเลย เหมือนพวกเก็บฝ้ายมากกว่า ไม่มีความสง่าเลย แล้วฉากนางเอกจูบปากสาวใช้ เข้าใจว่านางมีความต้องการทางเพศสูงมาตั้งแต่เด็ก แต่แม่งไม่ได้มีความสเน่หาหรือเคมีที่เข้ากันมาก่อนเลย จู่ๆก็เข้าไปจูบเหมือนโดนสั่ง
แต่ที่กูหงุดหงิดที่สุดคืออาการภาพหลอนของอีเดม่อน แค่ตอนเดียวกูก็ง่วงจะหลับแล้ว แม่งล่อเกือบทั้งซีซั่น ไอ้ห่า ใครกำกับวะ คนละคนกับภาคก่อนๆป่ะ
>>41 กูว่าละ เรน่าดูยังไงก็ไม่เหมือนองค์หญิงที่ลี้ภัย เหมือนคนใช้ตามดูแลเด็กไม่มีที่ซุกหัวมากกว่า ไม่ได้มีความสวยสง่าเลย ส่วนฝั่งเขียวแคสมาดีจริง เล่นดีเหมาะสมกับบทบาททุกคน
https://imgur.com/H9L8ySo
แหม อุตส่าห์รอซะนาน นึกว่าลุงจอร์จจะสับอีไรอันแม่งแล้วเว้ยงานนี้ ปรากฏว่าเบากว่าที่คิดไว้เยอะ แถมเรื่องที่บ่นคือการตัดตัวละครออกซึ่งตัวนี้มันเห็นแววว่าจะตัดตั้งกะซีซั่นแรกแล้วลุ้งงง ไอ้ตัวที่ควรบ่นมากกว่าอย่างเนทเทิลส์ดันไม่พูดถึง ไรอันคงตบอกโล่งใจ (ดีนะที่กูไม่ได้ตัดแดรอนออก ไม่งั้นตาอ้วนอาจเฉ่งกูแรงกว่านี้ 555)
ผมอ่านแล้ว ก็เข้าใจทั้งลุงทั้งผู้สร้างที่เลือกจะดัดแปลง
หลักๆนอกจาก blood&cheese ที่เปลี่ยนไป ลุงดูจะไม่เห็นด้วยกับการตัดเจ้าชายเมเลอร์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเนื้อเรื่องและสถานการณ์ต่อไปเป็นทอดๆ ซึ่งส่วนนี้ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับที่เป็นแบบในซีรีส์ เพราะถ้ามีเจ้าชายเมเลอร์ เด็กน้อยนี้จะเป็นทายาทสายตรงสู่บัลลังก์ทันทีหลังจากพี่ชายโดนตัดหัว แต่พอไม่มีก็ทำให้เอม่อนด์ที่เป็นอา เข้าใกล้บัลลังก์มากขึ้น ซึ่งมันสอดรับกับความทะเยอทะยานที่เด่นชัดของเอม่อนในซีรีส์ อีกก้าวเดียวก๋เป็นราชา เป็นมุมที่ไม่ค่อยเห็นในหนังสือ ส่วนเรื่องที่เมื่อเมเลอร์ขิตอย่างทารุณในภายหลังแล้วจะส่งผลกระทบต่อใจของเฮเลน่าจนเธอเลือกจะฆ่าตัวแบบในหนังสือ ผมว่าน่าเสียดายที่หนังสือฉายภาพเฮเลน่าแค่คนบ้าที่เศร้าจนฆ่าตัว ในแบบซีรีส์ที่เป็นผู้หยั่งรู้แบบโคตรเทพน่าสนใจกว่ามาก สรุป ผมดันชอบเรื่องราวแบบที่เป็นในซีรีส์มากกว่า รู้สึกว่าเป็นการดัดแปลง-แต่งเติม ที่น่าสนุกดีและลุ่มลึกกว่า
อ้วนด่าแล้วพวกที่บอกอ้วนยังไม่ด่าเลย ตอนนี้กูด่าได้ยัง?
>>44
ถ้าเฉพาะประเด็นเมลอร์ เข้าใจทั้งสองฝ่ายครับ
ไรอันมันก็พูดถูกแหละ ว่าเด็กอ่อนจัดการยาก (แม้จะสงสัยอยู่ไม่น้อยว่ามันไม่มีทางดัดแปลงเลยเรอะ แต่ถ้าอ้างเรื่องเงินด้วยก็หยวนๆ เพราะเอชบีโอมันตัดงบตัดจำนวนตอนจริง)
แต่เอมอนด์ซีรี่ส์กับเฮเลน่าซีรี่ส์ในซีซั่นสองนี้ มองว่าได้นักแสดงแบกแทบจะล้วนๆเลยครับ
เฮเลน่าที่ในหนังสือเป็นผู้หญิงแสนหวานอ่อนโยนรักพ่อ เป็นที่รักของประชาชน มากพอจะจุดชนวนให้ผู้คนต่อต้านเรนีร่าได้ ในซีรี่ส์โดนแปลงจนแทบไม่เหลือเค้าอะไรแบบนั้นเลย (แถมโดนประชาชนวิ่งไล่จะรุมสกรัมอีก)
ในแง่มุมของผู้ทำนาย จนถึงตอนนี้มองว่าถ้าพลังแก่กล้าแล้วมีประโยชน์แค่นี้ คาแร็คเตอร์กลายเป็นประหลาดโลกแบบนี้ ให้เค้าเป็นคนธรรมดาดีกว่าครับ
ยังมองแบบเดิมว่า
# ธีมของจักรวาลนี้มันสนุก เพราะเป็นเรื่องของมนุษย์ธรรมดามีดีมีเลวในตัวฟาดฟันกัน ความแฟนตาซีใส่เข้ามาเป็นปริศนาได้ แต่อย่าเอามาเป็นคำตอบแบบที่ HotD ทำอยู่ (บ้านดำคือผู้ถูกต้องเพราะเป็นผู้ถูกเลือก) มันทะแม่ง
# ผู้สร้างซีรี่ส์เหมือนไม่รู้จะทำยังไงดีกับตัวละครแนวนี้ตั้งแต่แบรน GoT แล้ว เขียนบทให้เป็นมนุษย์โมโนโทน รู้ทุกอย่างแต่ไม่ทำอะไรสักอย่าง นี่ก็ดันจะทะลึ่งสร้างขึ้นมาอีกตัว แถมเฮเลน่าพิลึกหนักกว่าคือกับคนของฝั่งตัวเองสื่อสารไม่เป็นภาษามนุษย์ แต่ไปพูดชี้แนะแบบฟังรู้เรื่องให้ฝ่ายตรงข้าม แถมเป็นคนที่สั่งฆ่าลูกตัวเองอี๊กก
(ต่อ)
ส่วนเอมอนด์ ในหนังสือไม่ได้บ่งบอกชัดเจนว่าเอมอนด์หมายตาบัลลังก์ และเอกอนก็โดนไหม้จากการตะลุมบอนกับเรนิส ที่จริงคือในหนังสือ ถ้าจะมองว่าพี่น้องคู่นี้ดูจะเกื้อหนุนกันแบบแปลกๆก็มองได้ เอกอนเป็นคนเดียวที่ไม่ตำหนิและยกย่องเอมอนด์เรื่องฆ่าลุค ส่วนเอมอนด์หลังจากขึ้นแทนพี่ ก็แสดงจุดยืนเรียกตัวเองเป็นผู้สำเร็จราชการ
ในซีซั่นแรก เอกอนยังมีลักษณะที่ว่าตามหนังสืออยู่ แม้จะชอบบูลลี่น้อง แต่น้องโยนขี้มาให้ตอบคำถามก็รับไว้ น้องเปิดงานลุยกับเด็กบ้านอื่น ตัวเองก็ลุยตาม
เอมอนด์เองก็ยังเป็นเด็กดีของครอบครัวอยู่ แม่ให้ภาวนาก่อนกินข้าวก็ทำ ไม่ได้เคารพพี่ชายแต่ก็ไปตามหาตัวกลับมาให้
ซีรี่ส์ซีซั่นสองหักหัวมาเป็นแบบนี้ก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้หรอก แต่ปมแตกหักมันควรแข็งแรงและละเอียดกว่านี้ อย่างน้อยไม่ใช่ถูกแซวแล้วปรี๊ดแตก นี่คือการฆ่าพี่น้องร่วมสายเลือด และฆ่าในขณะที่ศึกมาประชิดรั้วบ้านด้วย ไม่ใช่กระทืบลุงขี้เมาข้างทางที่ไหนไม่รู้
ลุงอ้วนเรียกเฮเลน่าว่าqueenทุกคำ แต่เรียกเรนีร่าด้วยชื่อเฉยๆ เหอๆ
>>50 ตามในหนังสือเอกอนก็เหมาะกว่าเรนีร่าจริงๆนั่นแหละ ถึงจะเป็นวัยรุ่นหัวขวดตามประสาเด็กเกเรบ้านรวยปี้สาวชอบบุลลี่แต่เรนีร่านี่แหกขนบแหกธรรมเนียมแถมจะเครมไปทุกอย่างทั้งบรรลังก์เหล็กที่ตัวเองได้มาเพราะเอาไว้กันเดม่อนแถมชอบเป่าหูพ่ออีกแถมไปอยู่ดราก้อนสโตนกับเดม่อนปล่อยพ่อป่วยทั้งจะเอาลูกชู้ครองดริฟมาร์คทำให้เวลาเรียนลิ้นขาดเป็นแถบๆทำผ้าคลุมขาวเปื้อนด้วย นี่มันระดับคอรัปชั่นสุดๆ
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.