Fanboi Channel

Star Wars : episode IV - A New Hopeless

Last posted

Total of 176 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:WtE64WyRTF

สารบัญ
>>>/movie/2351/ Star Wars: May the Force be with you
>>>/movie/5004/ Star Wars : episode II - The Last Fanboy
>>>/movie/8490/ Star Wars : episode III - Rise of Skywoker

สถิติปิดมู้ (อัพเดทแล้ว)
✈️ = 10 มู้ เอ็กซ์วิง
🚀 = 50 มู้ มิลเลนเนียมฟอลคอน
🌔 = 100 มู้ เดธสตาร์

Snoke 1 มู้ *
Sic 1 มู้ * <<<------------ ล่าสุด

2 Nameless Fanboi Posted ID:f28ofRIHW.

กูว่าไม่ต้องนับสถิติหรอกดูไร้สาระไป

แต่ส่วนตัวกูว่าต่อให้ตัดเรื่อง Woke ออก ข้อเสียจริงๆ คือบทสำหรับไตรภาค 7 ถึง 9

3 Nameless Fanboi Posted ID:g.Nm1SzK1V

จริงๆ Star Wars นี่น่าจะทำแบบเอาองค์ประกอบมาจากเนื้อเรื่องดั้งเดิมมาทำใหม่โดยให้เป็นเอกเทศจากจักรวาลดั้งเดิมไปเลยดีกว่านะ แนวๆ Star Wars Visions บางตอน ส่วนเนื้อเรื่องดั้งเดิมก็ปล่อยให้มันคลาสสิคไป เพราะส่วนตัวเนื้อเรื่องที่สร้างมาใหม่หลังๆนี่มันค่อนข้างทำลายคุณค่าของไตรภาคดั้งเดิมไปเยอะ

4 Nameless Fanboi Posted ID6:6tODOGV.A8

ตอนนี้เห็นแค่เล่นเรื่องเผ่าแมนดาลอเลี่ยนอยู่ พวกนักล่าสวมหน้ากาก
แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ดีไซน์และองค์ประกอบนี่แหละ ทำให้อิทธิพลต่อสื่อไปต่อยอดทำแบบใหม่ ถ้ายกตัวอย่างก็ของญี่ปุ่น ทำอนิเมะแนวไซไฟอวกาศ ไม่ก็ทำฮีโร่ที่ใช้อาวุธดาบเลเซอร์มา

5 Nameless Fanboi Posted ID6:I9Ws3h2qbe

>>2 ตัดไม่ได้ว่ะ ที่บทเน่าเพราะต้องใส่ woke เข้าไปนี่แหละเรียกว่ามันสัมพันธ์กันอย่างแรงเลย

6 Nameless Fanboi Posted ID6:6tODOGV.A8

ไตรภาคดิสนีย์ กูว่ามันแย่ตรงบทแหละ ต่อให้ตัดเรื่อง Woke ออก แถมทำงานไม่ได้ประสานอะไรเลยทำให้ Lore หลักมันเสีย

7 Nameless Fanboi Posted ID6:7R1uVAJaOr

วันก่อนเห็นข่าวดิสนีย์อยากทำสตาร์วอร์ What if

8 Nameless Fanboi Posted ID:gp0/dcejci

>>7 เพื่ออะไร ?

9 Nameless Fanboi Posted ID:mPnQNil.MQ

What if มาขนาดนี้พวกตัวผู้ชายเตรียมโดนตัวหญิงตบดิ้นตามมาเวลแน่นอน ดาร์ธเวเดอร์โดนหญิงที่ไหนไม่รู้ได้พลังไม่ฝึกไรสักอย่างตบดิ้น

10 Nameless Fanboi Posted ID6:I9Ws3h2qbe

>>6 คือ ถ้าไม่ใส่ Woke มันจะมีอิสระในการสร้างสรรค์กว่าไงมึง พอใส่ woke เดี๋ยวมึงต้องให้บทผุ้หญิงแกร่ง เดี๋ยวแม่งต้องให้คนดำมีบทน่ารำคาญ เดี๋ยวแม่งต้องเอาคนอ้วนๆ เข้ามา เดี๋ยวแม่งต้องทำให้ผุ้ชายได้บทแย่ๆ บ้าง .... กลายเป็นบทเน่ากันไปหมดเพราะคนเขียนบทแม่งโดนแทรกแซงให้ต้องยัดโน่นยัดนี่เข้าไป

11 Nameless Fanboi Posted ID6:Xgj437MPQa

>>10 แต่ The Force Awakens พล็อตแทบลอก A New Hope มาเลยนะ แต่นั่นแหละ แค่เอา Woke+เฟมมินิสต์ มาใส่ ตัวหนังเละเน่าไปหมด ไอ้ TLJ นี่ก็ด้วย

12 Nameless Fanboi Posted ID6:4TeUiLXiEq

asoka ดูดีไหมวะ ดูไป ep นึงแล้วโคตรเกลียดพล็อต นางเอกแม่งก็บอกแล้วว่าอย่าเอาไป ก็เสือกแอบเอาไปให้โดนขโมย กูละเกลียดพล็อตสิ้นคิดแบบนี้ชิบหาย ตัวละครแต่ละตัวที่มันอ้างอิงถึงกูก็ไม่รู้จักสักตัวเพราะกูไม่เคยดูอนิเมชั่นเลย

13 Nameless Fanboi Posted ID6:gOFenN023c

>>12 Asoka พอดูได้ เพราะอนาคินมีบท แต่ก็ไม่แย่เท่าโอบิวันที่ดันภคินีที่ 3

14 Nameless Fanboi Posted ID6:2tOuSds5PH

>>12 พอ ok นะมึง มึงไม่รู้จักตัวละครมึงก็แค่ไปอ่านเรื่องย่อ clone wars กับ rebel ใน wiki ก็ได้ กุนี่ทำแค่นี้ แล้วก็เปิด youtube ดูแต่คลิป ซีนเด่นๆ ไม่เคยดูตัวเต็มเลย ยังดูรู้เรื่อง

กุว่ามัน ok ตรงมันมีตัวละครหลากหลายเผ่าดี ไม่เหมือนไอ้ andor ทีแม่งอะไรๆก็ humanoid

15 Nameless Fanboi Posted ID:ukyJEfGg6f

>>10 แค่เมิงดูหนังwoke เมิงก็เป็นwokeแล้ว
ไม่ควรสนับสนุนอะไรแบบนี้ทุกชนิด

16 Nameless Fanboi Posted ID6:E5bnIOb+wn

เพิ่งเห็นชื่อทู้ โฮปเลส 55555

17 Nameless Fanboi Posted ID:5B/0ZkrBSB

https://youtu.be/BtytYWhg2mc?si=eheZ4wuuF9GTY9AO มีกลุ่มแม่มดนอกจาก Nightsisters ด้วยหรอวะ แล้วน้องเขียว Vernestra โผล่ในเรื่องจะได้เห็นดาบแส้นางไหมเนี่ย

18 Nameless Fanboi Posted ID6:zmAxYszD48

>>17 star war มันทำหนังจีนกำลังภายในฝ่ามือปราบมังกร 18 ท่า ด้วยเรอะวะ

19 Nameless Fanboi Posted ID6:xSF+PXd56T

ไลท์เซเบอร์สีแดง ที่มากับหมอกแดง นี่มัน ใช่....ใช่มั้ย

20 Nameless Fanboi Posted ID6:xSF+PXd56T

Leslye Headland นักเคลื่อนไหว LGBTQ+ เป็นผู้กำกับคนใหม่ในแฟรนไชส์ ​​Star Wars:
เป้าหมายของเธอสำหรับภาพยนตร์? เพื่อให้ LGBTQ ครอบคลุมดั่งเทพนิยายของดิสนีย์

https://twitter.com/EndWokeness/status/1770167671654396333

21 Nameless Fanboi Posted ID:UktUNm7RgN

>>20 R.I.P.

22 Nameless Fanboi Posted ID:miqsmPxd9F

ถ้าจริงสงสัย อีเกอร์คงถอนหุ้นลูคัสฟิล์มออกล่ะมั้ง เห็นประกาศว่าจะไม่ทำเนื้อหาสุดโต่งของ Woke อีก ขนาดไล่คนในบริษัทที่ Woke จัดๆ ออกไปแล้ว

23 Nameless Fanboi Posted ID:2yDnG0fpss

ไอพวกที่ด่าลุงสีเรื่องเซ็นเซอร์ เรื่องsocial credit เจอ esg ของพวก woke ไปเป็นยังไงกันบ้างวะ

24 Nameless Fanboi Posted ID:5B/0ZkrBSB

แฟนๆสตาร์วอร์ต้องการแค่สกายวอล์คเกอร์ ไม่จำเป็นต้องสร้างใหม่อะไรทั้งนั้น

25 Nameless Fanboi Posted ID6:17epTuuFAu

>>24 ก็มี RAY แล้วไงล่ะ

26 Nameless Fanboi Posted ID6:xTDYYqPLnc

มันหมดยุคดูนจีนแดงแล้ว

27 Nameless Fanboi Posted ID6:C7UPnMYT2d

>>20 สรุปพวกนี้มีเป้าหมายทำลาย Disney ใช่ไหมวะ ? เจํงมากี่เรื่องแล้วยังไม่หยุดอีก

28 Nameless Fanboi Posted ID6:EBn/zfFMBV

>>27 มันเป็นกระบวนการทำลายประเทศของฝ่ายซ้ายเขา ลองไปหาคลิปของอีตา Yuri Bezmenov ดู

29 Nameless Fanboi Posted ID6:n2.8F0M6xy

มันน่าขำที่เอาพวกนี้เข้ามาทำแฟรนไชส์สตาร์วอร์ส แล้วอีพวกนี้มันออกมามั่นหน้าคุยโวเสียงดังว่า จอร์จ ลูคัส ไม่ใช่คนที่รู้เรื่องสตาร์วอร์สดีเลย ไม่มีใครที่รู้เรื่องของสตาร์วอร์สดีเท่าพวกเธออีกแล้ว กูก็งงนะที่มันกล้าออกมาพูดแบบนั้นใส่หน้าผู้ให้กำเนิดสตาร์วอร์สได้ไง เหมือนพวกมันไม่เคยดูสตาร์วอร์สเลยด้วยซ้ำ

30 Nameless Fanboi Posted ID6:.iB9BFXZBw

>>29 ถ้าแบบมันจริงๆ ก็ฮาตรง ดันรู้ดีกว่าคนแต่งเรื่องซะงั้นทั้งที่ Star Wars ไม่เคยเป็นนิยายมาก่อนที่ ลูคัส จะสร้างแบบ Star Trek

31 Nameless Fanboi Posted ID6:n2.8F0M6xy

ผู้สร้าง เลสลี เฮดแลนด์ เปิดเผยว่าเธอเลือกหนึ่งในมือเขียนบทซีรีส์ Star Wars: The Acolyte ที่ไม่เคยดูจักรวาล Star Wars มาก่อนเลยสักเรื่อง เพราะอยากได้คนที่ไม่มีความคุ้นเคยกับจักรวาลนี้เข้ามาตั้งคำถามกับการเล่าเรื่อง

“ฉันคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าเรามีมุมมองจากคนที่ไม่เคยดู Star Wars มาก่อนเลย เธอบอกฉันว่า ‘ทำไมถึงอยากให้ฉันมาเขียนบทในห้องนี้ล่ะ? ฉันไม่เคยดูสตาร์วอร์สมาก่อนเลยนะ ฉันไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ’”

“ฉันตอบเธอไปว่า ‘อย่างแรกเลย คุณคือมือเขียนบทที่เก่ง แต่นั่นคือเหตุผลที่ฉันอยากให้คุณอยู่ที่นี่ ฉันอยากให้คุณตั้งคำถามเกี่ยวกับการเล่าเรื่อง ฉันไม่อยากได้ตัวฉันเอง ตัวฉันที่เป็นแฟนคลับมาตลอดทั้งชีวิต เพียงเพื่อจะสร้างจังหวะอารมณ์ที่อยู่ในหัวของตัวเอง ฉันอยากให้จังหวะทางอารมณ์พวกนั้นถูกเช็คโดยคนที่ไม่มีความคุ้นเคยกับเรื่องพวกนี้มาก่อน’”

ทว่าหลังจากได้งาน เธอก็กลับไปดูหนัง 6 ภาคแรกก่อนที่จะเข้าไปทำงานในห้องเขียนบทซีรีส์

32 Nameless Fanboi Posted ID:uix5LQ.h9y

>>31 อันนี้พอโอเคนะ เข้าใจว่าอยากได้มุมมองใหม่ๆมาขยายตลาด และคนเขียนบทก็กลับไปทำการบ้านก่อน

33 Nameless Fanboi Posted ID6:biwulcsoIv

>>32 สรุปว่า star war ถ้าจ้างกิมย้งมาเขียนบท ก็จะมีพลังคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นมาสู้กับพลังฟอร์ซ เอากระบี่โลหะมาฟันกับดาบเลเซอร์ ใช้ดัชนียิงพลังสู้กับกระสุนปืนเลเซอร์ อะไรงี้เหรอ

34 Nameless Fanboi Posted ID:U.TQH5RBlO

>>33 อันนั้นมันก็เวอร์ไป ข่าวข้างบนนั่นมันยังไม่มีอะไรที่บอกว่าจะทำถึงขนาดนั่นเลย

แต่ถ้า Force Sect ที่ใช้อาวุธโลหะ ก็มีนะ อย่าง Zeison Sha ที่ใช้ Disc Blade เป็นอาวุธหลัก

35 Nameless Fanboi Posted ID:X6TxPgtbD9

ยังมีอะไรเหี้ยกว่าภาค 7-9 อีกหรอ

36 Nameless Fanboi Posted ID6:.iB9BFXZBw

>>32 ไม่ ok ว่ะ ท่าทางจะไม่ได้บทเรียนจากการเจ๊งมโหฬารของ Dragonball ...

37 Nameless Fanboi Posted ID6:.iB9BFXZBw

การจะเขียนบท Star Wars สิ่งสำคัญคือต้องรู้ Legacy สำคัญที่ห้ามแตะของเรื่องมาก่อน เช่น จะใช้ฟอร์ซต้องฝึก ฟอร์ซไม่สามารถเอามาใช้มั่วๆโดยไม่ฝึกได้ , ต้องรู้ว่า Star Wars เป็นหนังที่ทำมาเพื่อประชดระบอบการปกครองทั้ง ประชาธิปไตย กับ เผด็จการ etc. ไม่งั้นทำไปก็เละ

38 Nameless Fanboi Posted ID6:CSyWXyVWqW

>>33 มิน่าละ โดน ดิสไลท์ ถล่มไปเยอะมาก พวกแอนตี้เอามาอวดให้ดูเลย ก็สงสัยอยู่ว่ายังไม่ฉายทำไมเกลียดกันจัง ก็สมควรแล้วละ หนูเน่า แบบนี้ตูคงไม่ไปดูอีกเช่นกันให้เปลืองเวลาชีวิต

39 Nameless Fanboi Posted ID6:v2NkDxlzqN

เห็นว่ามีการใช้คำเรียกสรรพนามอะไรสักอย่าง คืแมันยังไงว่ะ คือไอ้เรื่องคำเรียกนี่กูงงมาก คือยังซีเรียสอะไรยังไง ต้องเรียกให้ถูก เรียกไม่ถูกมีวีนอะไรน่าแหละ ส่วนใหญ่เกิดจากพวกแอลจีฯ คือพอมีใครอธิบายแบบแจ่มแจ้งมั้ยว่าทำไมต้องซีเรียสเครียดกับการเรียกใช้อะไรแบบนี้

40 Nameless Fanboi Posted ID6:PgMqOUPVzw

>>39 เหมือนตั้งใจว่าให้ตัวละครเอเลี่ยนหรือหุ่นยนต์ไม่มีเพศชัดเจนน่ะ

41 Nameless Fanboi Posted ID6:cYw.Hk6OJo

https://youtu.be/4n0pz_uLuSc

42 Nameless Fanboi Posted ID6:MCaU.8cXOX

เห็นจอร์จ ลูคัส สัมภาษณ์ถึงสตาร์วอร์ส ที่ดิสนีย์ถือสิทธิ์ เหมือนแกจะปลงแถมตบหน้าพวก Woke เรื่องตัวละครหญิงไม่เด่นและเรื่องตัวละครผิวสีไม่เยอะ

43 Nameless Fanboi Posted ID6:9k7Ng5fzQs

ก็มันยังไม่พอไง ต้องดำ อ้วน เตี้ย ไม่สวยด้วย มีเยอะๆหน่อย เด่นๆด้วย บทต้องเก่งเวอร์ๆ ยิ่งข้ามเพศด้วยยิ่งดี

44 Nameless Fanboi Posted ID6:MCaU.8cXOX

อ่านเพิ่มเติมล่ะ แกด่าพวก Woke ว่าภาคแรกๆ (1-6) เป็นหนังชายแท้ ทั้งๆ ที่ตัวละครมันมีคนผิวต่างๆ นอกจากผิวขาว และมีบทหญิงเด่นๆ อยู่แล้ว
ปัญหาคือ คุมจนเสีย Lore ในเรื่องหมดเลยทำให้เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ

45 Nameless Fanboi Posted ID:jDKsjCMRYm

จะไม่หลากหลายจนกว่าตัวละครหลักจะเป็นคนดำหน้าอุจาดราวๆ 9/10 ส่วนของแคสคับ? ขอคนดำหน้าตาดีได้ไหม? ไม่ได้คับต้องอุจาดโอนลี่ถึงจะเป็นดำตับเป็ดที่แท้ทรู เข้าใจป่าววะ? ไอ้พวกขี้เหยียด!

46 Nameless Fanboi Posted ID6:Vk6Ocurmbd

อีป้า KK ไม่รู้ตัวเหรอวะว่าที่เค้าด่าภาคหลังๆ เพราะบทโว้ย ไม่ใช่เรื่อง Woke แบบควายๆ แบบที่นางคุมโว้ย

47 Nameless Fanboi Posted ID6:Ttor1.xxil

กูไม่เคยด่านักแสดง ญ กับพวกคนผิวสี แต่กูด่าคนเขียนบท ผู้กำกับ หรือไอ้พวกเบื้องหลังที่ทำให้สตาร์วอร์กลายเป็นของเน่าๆ จนตอนนี้ เพราะไม่พอใจที่แม่งทิ้งแก่นของสตาร์วอร์ไปจนกลายเป็นหนังไซไฟกากๆ เรื่องนึง

48 Nameless Fanboi Posted ID6:.kAeR.qLUV

ในที่สุดก็มีมาจนได้สินะ ซีรี่ส์สตาร์วอร์สที่เป็นดั่งแสงแห่งความหวัง ซีรี่ส์สตาร์วอร์สที่ดีที่สุดที่เคยมีมา
The Acolyte

49 Nameless Fanboi Posted ID6:c76+4T6Zlo

>>48 ดูเบียวแต่งชุดเจไดมากกว่าวะ
แต่เรื่องนี้ดูทรงน่าจะ กลางๆ เพราะพี่แกเล่นพยายามอวยฝั่งตัวร้ายแบบให้เหตุผลว่าทำไปเพื่ออะไร

50 Nameless Fanboi Posted ID:ltRX97LxOD

>>49 แฟนๆรับไม่ได้แน่ เหมือนจะปูให้เจไดชั่วไปทำอะไรผิดแล้วปกปิดไว้ เจไดเป็นพระเอกรับไม่ได้

51 Nameless Fanboi Posted ID:9RYs9C5tAE

บอกเพื่อนหาตัวละครชายผิวขาวในตอนแรก ถ้าเจอให้ตัวละ100

จบตอนไม่ต้องจ่ายเพราะไม่มีซักคน

52 Nameless Fanboi Posted ID6:jqkOzxj6KN

ไม่มีผิวสี มีแต่ชาวเอเชีย ส่วนตัวก็ไม่แย่นะ แต่สองตอนแรกนี่ยังเนือยๆ หวังว่าตอนท้ายๆ น่าจะสนุก

53 Nameless Fanboi Posted ID:/gb88rqpa8

ตอน 3 นี่ได้เห็นไรใหม่ ๆ ในโลกสตาวอร์ แต่บางคนน่าจะไม่ชอบมาก ๆ อาจจะยี้ไปเลยก็ได้

54 Nameless Fanboi Posted ID:/gb88rqpa8

โครตกล้า เล่าหลักการพลังใหม่เนี่ย เจอแฟน ๆ ด่าไปเถอะ เค้าอยากได้แบบเดิมกัน

55 Nameless Fanboi Posted ID6:lzL0/eBq5i

คนเขียนบทมันโง่เกิน กูดูไม่จบตั้งแต่อาโซก้าละ บอกไม่ให้เอาออกไปก็เอาไปให้โดนขโมย บทเหมือนหนังสยองขวัญเกรด B ที่ให้เหยื่อทำตัวโง่ๆ

56 Nameless Fanboi Posted ID6:7oKCJo.CsW

ถ้าอีป้า KK ตาย กูว่าเฟรนไชส์นี้ และบริษัทจะเจริญขึ้นนะ หลังๆ แม่งทำส้นตีนอะไรไม่รู้มา ถึงแม้ว่าบางเรื่องทำมาดี ก็เถอะ

57 Nameless Fanboi Posted ID6:.w6P/Pfn48

ภาพรวมออกมาดีกว่าที่คาด ดีกว่าสตาร์วอร์สของจอร์จลูคัสอย่างแท้จริง นี่แหละคือสตาร์วอร์สของแท้ที่รารอกันมานาน

58 Nameless Fanboi Posted ID6:aGIY0zc66i

>>57 ชม หรือ ประชด

59 Nameless Fanboi Posted ID6:7oKCJo.CsW

>>58 ไอ้เม้น >>57 มันปั่นประชด

60 Nameless Fanboi Posted ID:usjpWIqGxF

แฟนบอยอย่าเพิ่งหวดกูนะ แต่กูเพิ่งมาตามเฟรนไชส์นี้มาปีกว่า ก่อนหน้ากูก็รู้เรื่องนิดๆหน่อยๆว่าแบบใครเป็นพ่อใคร แล้วกูไล่ดูหนัง4-5-6, 1-2-3 + clone wars แล้วปรากฎว่ากูชอบลุคเฉยเลยว่ะ คาแรคเตอร์มันดูน่าเอ็นดูน่าเอาใจช่วยดี จากเด็กบ้านนอกไกลปืนเที่ยงไม่รู้เรื่องเหี้ยอะไร มาจับพลัดจับพลูแบกรับภาระชี้ชะตากาแล็คซี่ เจอบทเรียนชีวิตหนักๆมากมาย แล้วเติบโตมาเป็นเจไดที่เปี่ยมคุณธรรม แม้ว่าพ่อมึงจะมือชุ่มเลือดทำผิดบาปแค่ไหนก็ยังเข้าใจและให้อภัยเขา แต่พอกูมาดูภาค7-8-9 กูแม่งช้ำใจเหี้ยๆ กูพอรู้สปอยว่าลุคตายภาค 8 แต่กูไม่รู้ว่าระหว่างทางก่อนลุคตายมันจะเหี้ยได้ขนาดนี้ ทำไมมันกลายเป็นอีแก่เสียสติขี้แพ้โหล่ยโท่ยแบบนั้นวะ ทำไมเนื้อเรื่องมันเหี้ยโคตรพ่อโคตรแม่อย่างงี้วะ อกหักใจสลายสุดๆ ไม่อยากจะนึกถ้ากูดูในโรงจอใหญ่ๆกูจะชีช้ำขนาดไหน

กูก็หยุดพักเฟรนไชส์นี้ไปสักพักเพราะกูอกหักจากหนูผีที่ทำกับลุค แต่ยังดีที่มีซีรีส์แมนดาลอเรี่ยนที่ช่วยกู้ศรัทธาให้กูมาหน่อย กูก็เริ่มชอบพ่อดินล่ะ เท่ห์ดี มีการพัฒนา แถมตอนลากับลูกตัวเขียวกูก็น้ำตาแตกเฉยเลย ยิ่งลุคโผล่มาท้ายซีซั่นสองกูยิ่งน้ำตาแตก น้ำตาไหลพร้อมตั้งข้อสงสัยว่า คนที่อ่อนโยนแสนดี แข็งแกร่งปกป้องคนอื่นด้วยหัวใจบริสุทธิ์แบบนั้นอ่ะ แบบลุคอ่ะ มันจะกลายเป็นคนที่ระแวงจนเกือบฆ่าหลานตัวเองได้ไงวะ ถ้าลุคที่มีพื้นฐานเป็นเด็กชาวไร่ความชื้นซื่อๆอย่างแม่งจะเข้าด้านมืดได้ กูนึกออกแค่โดนพ่อมันจับไปฝึกเป็นซิธตั้งแต่แรกเท่านั้นแหละ

61 Nameless Fanboi Posted ID:h3Ptn8AnEY

>>35 อ่าวไอ่ห่า มึงลืมสุดเรื่องเดี๋ยวของ Han Solo ได้ไง

62 Nameless Fanboi Posted ID6:X1.9EjZj5t

The Power of One!!
The Power of Two!!
The Power of Many!!!!

63 Nameless Fanboi Posted ID6:eXfijl/KX2

>>60 กากจริงไอ้สตาร์วอร์ 8 เนี่ยเหี้ยจนไอ้ภาค 9 แม่งลงเหวไปด้วย

64 Nameless Fanboi Posted ID6:x3ho+PSNju

9 แย่กว่า 8 ว่ะ
เคยได้ยินว่าบทเดิม 9 มันจะต่อเหตุการณ์ของ 8 เลย แต่เพราะกระแสเสียงแย่มาก เลยทำให้ปรับบทแบบที่เห็น

65 Nameless Fanboi Posted ID:zFXv4O6.C6

>>63 >>64 สำหรับกูที่เป็นเมนลุคคือ 8 แม่งเหี้ยสุดแต่ 9 ก็เหี้ยพอกัน เหี้ยแบบตีคู่ห่างกันแค่นิดนึง เหมือนมึงนึกอยากจะทำอะไรก็ทำอ่ะภาค 8 แหวกขนบฉีกทุกอย่างเหมือนลืมไปว่ามันเป็นภาคตรงกลาง อะไรที่ 7 ปูมาคือกูโยนทิ้งแถมทิ้งขี้ให้ภาค 9 อีก แล้วภาค 9 คือเสือกปอดแหก จะแหวกทั้งทีก็ไม่ไปให้สุดแม่งทำครึ่งๆกลางๆ จะเอาใจแฟนบอยยุคOGก็จะเอา จะเอาใจแฟนยุคใหม่ก็จะทำ ผลออกมาคือเหี้ยชิบหาย อย่างภาค 8 ไหนๆมึงก็ปู้ยี้ปู้ยำลุคขนาดนั้นแล้วมึงจะมามีซีนโชว์เท่ไปงมไลท์เซเบอร์แถมยกยานขึ้นจากน้ำทำไมวะ มึงเขียนให้เป็นอิแก่ขี้แพ้ขนาดนั้นจะมากลับลำทำเท่อะไรตอนนี้วะ

66 Nameless Fanboi Posted ID6:imA+diPsea

สำหรับกู star wars มีแค่ 6 ภาค + animation
matrix มีแค่ 3 ภาค + animation
คิดแบบนี้สบายใจกว่า ภาคอื่นๆคิดซะว่าแฟนเมด อย่าเอาหัวไปปวดกับพวกโว้คเลย

67 Nameless Fanboi Posted ID6:b5pcyJ9ECV

เข้าใจได้แหละ 8 แม่งทำลายภาพลักษณ์คาร์แรคเตอร์ลุคไปเลย
ส่วน 7 มันเหมือนเอาพล็อตภาคแรก (4) มาทำ เปลี่ยนแค่ว่าฮาน โซโลตาย จากเดิมเป็นโอบิวัน แถมพยายามดันบทฟินน์ไว้ด้วย

68 Nameless Fanboi Posted ID:zFXv4O6.C6

>>67 ภาค 7 แม่งโดนด่าน้อยสุดเพราะเพลย์เซฟก็อปภาค 4 นี่แหละ

69 Nameless Fanboi Posted ID6:GjmC47tDuF

>>66 โร๊ควันไม่โดนใจเหรอโม่ง

70 Nameless Fanboi Posted ID6:qTlxR+0KMs

ภาค 8 นี่มันพยายามจะพลิกโฉม Star wars หลายอย่าง อะไรที่มันเคยเป็นรากฐานเรื่องก็จะพยายามโละไปเลยเหมือนเพื่อเตรียมรับแฟนคลับรุ่นใหม่อะ แต่มันหักดิบหลายอย่างเกินจนเสียงแตกโคตรๆ
พอขึ้นภาค 9 ดันขี้ขลาด ไม่ต่อยอดอะไรสักอย่างแถมมานั่งแก้แผลที่เกิดในภาค 8 เพื่อกลับไปเชิดชูอะไรเดิมๆ เพราะกลัวเสียฐานแฟนเก่า สรุปเละแบบที่เห็นนี่แหละ ส่วนตัวกูให้ 9 เหี้ยกว่า 8 อีก อย่างน้อยถ้ามันกล้าหักดิบโละไปเลยกูก็อยากเห็นว่าแนวทางหลังจากนี้ของแฟรนไชส์นี้ว่ามันจะเป็นแบบไหน นี่แม่งสุดท้ายเอะอะกลับมาสกายวอล์กเกอร์ตลอด

71 Nameless Fanboi Posted ID6:X1.9EjZj5t

The Power of One!!
The Power of Two!!
The Power of Many!!!!

72 Nameless Fanboi Posted ID6:b5pcyJ9ECV

>>70 >>>/movie/5004/247
พล็อตเดิมมันคงประมาณนี้แหละ พอมาเป็นแบบนี้ก็เละตามสภาพ

73 Nameless Fanboi Posted ID6:Qy78oZmuyk

https://www.youtube.com/shorts/gDC7TWxFeCY

74 Nameless Fanboi Posted ID6:768zO2mGfW

>>73 เป็นฉากที่ทรงพลังติดตาและมันจะเป็นตำนาน
The Power of One!!
The Power of Two!!
The Power of Many!!!!

75 Nameless Fanboi Posted ID:YtdE+iudJB

ตอน 4 โอเคอยู่ ใครอยากเห็นตัวละครเก่า ก็ออกมาให้เห็นแถมเหมือนใส่มาให้ถกเถียงกันอีกว่าเอ็งมาได้ยังไง ปกปิดเรื่องซิทตอน ep1 หรอ

76 Nameless Fanboi Posted ID6:ctr4c51qEu

>>75 https://www.youtube.com/watch?v=8aLGvbxz5fs

77 Nameless Fanboi Posted ID6:bvf/GcfumZ

ดูแล้วไม่ต้องคิดไรให้มากมาย ตอนนี้ดูแล้วแค่ท่อง เดอะเพาเวอร์ออฟวัน เดอะเพาเวอร์ออฟทูว. เดอะ.....

78 Nameless Fanboi Posted ID:HWH8wOxMI2

ไม่เอาล้า อยากเป็นคลดีย์

79 Nameless Fanboi Posted ID:TTe7gY12ts

เอาเป็นว่า ใครดู star woke the acolyte แล้วบอกห่วย แสดงว่า มึงยังเข้าไม่ถึงจิตวิญญาณของจักรวาล star war

80 Nameless Fanboi Posted ID6:XRDF5ofUHK

สตาร์วอร์แค่ปลอมๆ รอวันมะนุดไปรบกันเองในอวกาศ ดีก่าาาาา

81 Nameless Fanboi Posted ID6:HxR/BIVGHD

โซลน่าสงสัยสุด

82 Nameless Fanboi Posted ID6:JKY14ObqJL

>>79 ตอน last jedi พวกwoke มันก็พล่ามอวดตัวแบบนี้แหละ

83 Nameless Fanboi Posted ID:4dWJEzMs7/

ใครรับเงินมาอวยตอนนี้ความน่าเชื่อถือหายไปเยอะ

84 Nameless Fanboi Posted ID6:qKGPqDzIAJ

>>83 หลายเพจ หลายช่องยูทูปเลยอ่ะเด่ะ รับเงินทั้งนั้น

85 Nameless Fanboi Posted ID6:y4Ay+7KTBM

มันจะมีช่องนึงที่ด่า เอมไพร์ๆ เหี้ยอะไรนี่แหละ ทำคลิปด่าSWบ่อย
แต่กูไม่ให้ค่าช่องนี้นะ มันออกแนวอคติเกิน และหลอนโวคแบบเหมือนไม่เข้าใจคำว่าโวคจริงๆ เอะอะๆก็บอกโวค เอาประเด็นข่าวปลอมมาทำบ้าง บางเรื่องไม่โวคมันบอกโวค จนรู้สึกว่า ไอ้นี่ด่าตามกระแสเพื่อยอดวิว

86 Nameless Fanboi Posted ID6:au16middQm

ลาก่อนพวกแฟนบอย สตาร์วอส์เขามีฐานแฟนคลับใหม่แล้ว
https://www.youtube.com/shorts/WW-Uc1rhGAM

87 Nameless Fanboi Posted ID6:Op/D25gdgJ

จากซีรี่ส์สตาร์วอร์สที่แย่ที่สุด กลายเป็นซีรี่ส์สคาร์วอร์สที่ดีที่สุดภายในตอนเดียว คะแนนทั้งฝั่งคนดูและนักวิจารณ์เต็ม

88 Nameless Fanboi Posted ID6:8gG/KYqrIy

>>86 จักรวาล star war มีวูซูแล้วเรอะวะ ร้ายกาจ

89 Nameless Fanboi Posted ID6:sycKS7IjTO

>>87 555 อย่าพึ่งไฮป์เวอร์ถ้าตอนนี้ดีสุดในซีรีย์ก็พอได้คิวบู๊เจ๋งดีถึงจะเฉลยตัวเร็วไปหน่อยก็เหอะแต่ตัดฉากเหี้ยเหมือนเดิมกับนางเอกที่เล่นแข็งชิบหาย

90 Nameless Fanboi Posted ID6:t7u6dq5x6n

>>87 มันดีขนาดนั้นเลยหรอ หรือว่ามึงประชด

91 Nameless Fanboi Posted ID:dOER4m2760

>>90 ดูจากเม้นข้างบน มันประชดแหละ

92 Nameless Fanboi Posted ID:6+B1Gg.akl

>>87

93 Nameless Fanboi Posted ID6:Op/D25gdgJ

ไอ้สัส ดีจริง ไม่ได้แซะ

94 Nameless Fanboi Posted ID6:sycKS7IjTO

ทำไมปืนวงๆยิงซิธไม่เป็นไรยิงเจไดมาสเตอร์ทีเดียวร่วง? ตอนแรกนึกว่าซิธมีเกราะด้วยซ้ำทีไหนได้ตัวเปล่าๆเหมือนกันอีก

95 Nameless Fanboi Posted ID6:iSTs7KePf2

อาโซก้าสนุกไหมวะ เทียบกับบาโบเฟต อันไหนน่าเบื่อน้อยกว่า

96 Nameless Fanboi Posted ID6:en6qnPd9Tn

Star Wars Visions สนุกสุด

97 Nameless Fanboi Posted ID6:4Mw/OflgLx

มีใครคิดเหมือนผมมั้ย ซีรีย์ Acolyte มันดูไม่เคารพไตรภาคเลย ทั้งเอามือตบ lightsaber แล้วดับ ทั้งพลังที่อะไรก็ไม่รู้

98 Nameless Fanboi Posted ID6:Z5J3RQSfqR

สตาร์วอร์มีมัลติเวิร์สเหมือนมาร์เวลมั๊ย

99 Nameless Fanboi Posted ID6:iSTs7KePf2

>>98 อนาคตมีแน่ เพราะมันแย่เกินจนกลับลำยากแล้ว อีกนานก็ต้องล้างจักรวาลใหม่ ให้กูเดานะมันต้องเอาเรื่องในอนิเมชั่นมาทำต่อ แล้วเรื่องในหนัง+ซีรี่ส์ทั้งหมดจะไม่ถูกนับรวม

100 Nameless Fanboi Posted ID:3PsfjUNMYq

>>96 เออจริง 55555 เท่าที่ดูมาถูกใจอันนี้สุดหละ

101 Nameless Fanboi Posted ID:KozUuEBrqA

Smilo มาคนเดียวเก็บ Woke ลงถังขยะยกแผง......หรือนี้เป็นแผนดัดหลังหลอกเอาเงินนายทุนว่ะ

102 Nameless Fanboi Posted ID6:9LMrHg72rv

Leslye Headland ผู้กำกับหญิงของซีรี่ส์ Star Wars: The Acolyte ให้สัมภาษณ์กับ Entertainment Weekly เปรย ๆ ว่าอาจจะไม่ได้รับไฟเขียวให้ทำซีซั่น 2 ต่อแล้ว ดังนั้นเธอจึงพยายามจะยัดทุกสิ่งทุกอย่างของพล็อตเรื่องที่อยากจะทำลงไปให้หมดในซีซั่น 1 นี้
.
"ผู้สร้างคอนเทนต์หลายคนมักจะจบซีซั่น 1 ด้วยการปูทางไปยังบทต่อไป เพราะทุกคนเชื่อว่ารายการของตัวเองจะได้ทำต่อซีซั่น 2 ซึ่งฉันว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย"
"ฉันโยนทุกสิ่งทุกอย่างลงไปในซีซั่น 1 เพราะใครจะไปรู้ล่ะว่าอะไรมันจะเกิดขึ้นในอนาคต?" Leslye กล่าว
.
The Acolyte ถูกต่อต้านอย่างหนักจากแฟน ๆ Star Wars เนื่องจากมีพล็อตเรื่องที่ผิดเพี้ยนและขัดแย้งกับเนื้อเรื่องเดิมของซีรี่ส์ที่ดำเนินมาหลายสิบปี เช่น กลุ่มแม่มดเลสเบี้ยนอวกาศที่ใช้พลังของ The Force ในการทำให้ตัวเองตั้งครรภ์ ซึ่งทำให้เกิดการขัดแย้งกับเนื้อเรื่องเดิมเกี่ยวกับต้นกำเนิดของตัวละครสำคัญอย่าง Anakin Skywalker จนนำไปสู่การให้คะแนนรีวิวสุดต่ำเตี้ยแค่ 14% ในเว็บ Rotten Tomatoes

103 Nameless Fanboi Posted ID:MOqj8wx47I

และนี่ก็คือผลจากการเอาคนไม่รู้จักสตาร์วอร์มาทำหนังสตาร์วอร์
ตั้งคำถามกับการเล่าเรื่องมั้ยล่ะมึง

104 Nameless Fanboi Posted ID:yfJ4z+OyBD

โครตงง เอาเหล็กโง่ๆสลายดาบได้เฉย คนไม่รู้จักมาทำสินะ

105 Nameless Fanboi Posted ID:HIMkz8o8t7

>>103 นางสัมภาษณ์ว่า รู้จักstar war มากกว่า จอส์ ลูคัสอีก และบอกว่า ลูคัส ยังไม่รู้จักstar war ดีพอ

106 Nameless Fanboi Posted ID6:3a/S8BStyM

ว่าจะดูยาวๆเผื่อมีอะไรดี เห็นคนพูดคุยกันตอนล่าสุด พอดูถึงตอนแม่งบอกว่าอนาคินทำลายเดธสตาร์กูปิดหนีเลย พอดงไม่ดูมันล่ะ

107 Nameless Fanboi Posted ID:dAZVXONSF.

>>104 ต้องทำ lore เพิ่มแล้วล่ะ แบบเป็นเหล็กเคลือบสารโคตรทรหด X อะไรแบบนี้

108 Nameless Fanboi Posted ID6:I10XRZrGbz

>>105 คนสร้างจักรวาลสตาร์วอร์จะไม่รู้จักสตาร์วอร์ดีพอได้ไงวะ

109 Nameless Fanboi Posted ID6:x0qZVR37gI

>>108 กุว่ามาถึงจุดนี้รู้ดีแค่ไหนก็ไม่เหมือนเดิมแล้วว่ะ แม่งจับยัดฮอโมนผ่าแปลงเพศบิดเบือนidหมดละ

110 Nameless Fanboi Posted ID:TkdYpLJC6J

>>108 ประมาณว่าคนวิจารณ์หนังเห็นว่าหนัง deep มาก แต่ผู้กำกับดันบอกว่า it's not that deep bro

111 Nameless Fanboi Posted ID6:oP1+neRMPH

Qimir เป็นเจไดว่ะ

112 Nameless Fanboi Posted ID6:486HkFnNi7

“สาเหตุหลักที่โชว์นี้ล้มเหลวไม่มีชิ้นดีเป็นเพราะว่ามันไม่มีความรู้สึกของความเป็น ‘สตาร์วอร์ส’ เลยแม้แต่นิด แฟนคลับอย่างผม (หรือแฟนๆ เดนตายอย่างพวกเรา) ไม่ซื้ออะไรแบบนี้ มันคือขยะ”

นี่คือประโยควิพากษ์วิจารณ์จากช่อง Echo Base Network บน YouTube โดยเขาแสดงความรู้สึกหลังจากที่ชม ‘The Acolyte’ ซีรีส์ที่เล่าเหตุการณ์ก่อนภาค 1 ของแฟรนไชส์ Star Wars ที่มีทั้งหมด 9 ภาค (แต่แฟนตัวจริงขอนับแค่ 6 ภาคเท่านั้น) กำกับฯ โดย เลสลีย์ เฮดแลนด์ (Leslye Headland) ที่มีกระแสรีวิวในแง่ลบตั้งแต่ยังไม่ออกฉาย ซึ่งตอนนี้บน iMDB ให้คะแนนเพียง 3.4/10 เท่านั้น

สำหรับแฟนๆ สตาร์วอร์ส ที่ถกเถียงกันบนโลกอินเทอร์เน็ต ให้เสียงเดียวกันว่านับตั้งแต่ซีรีส์ The Mandalorian จักรวาลสตาร์วอร์สเริ่มมีคนนิยมชมน้อยลงเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ Ashoka, Obi-Wan Kenobi (กลับมาฮือฮาได้เพราะตอนสุดท้าย) หรือ The Book of Boba Fett เป็นต้น บางคนกล่าวว่า สตาร์วอร์สได้ตายไปแล้วนับตั้งแต่ Disney ตัดสินใจซื้อ Lucasfilm ไป และถูกนำเนื้อหาเพื่อความหลากหลายเพิ่มเข้าไปจนรู้สึก ‘ฝืน’ แบบเดียวกับแฟนๆ เจ้าหญิงดิสนีย์ที่เคยวิพากษ์วิจารณ์เรื่องฉบับคนแสดง ดิสนีย์ถูกตีตราว่าเป็นค่ายที่ยัดเยียดความหลากหลาย มากกว่านำเสนอความหลากหลายอย่างแนบเนียน

อย่างไรก็ตาม จอร์จ ลูคัส (George Lucas) ผู้สร้างจักรวาลสตาร์วอร์ส เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า สตาร์วอร์ส แทบไม่ต้องเพิ่มความหลากหลายอะไร เพราะมันคือนอกอวกาศ มันมีเอเลี่ยน แค่นี้ยังหลากหลายไม่พออีกหรือ

ทางด้าน เลสลีย์ เฮดแลนด์ ผู้สร้างซีรีส์ The Acolyte แสดงความเห็นว่า เธอไม่ได้คิดว่าซีรีส์นำเสนอความเห็นเควียร์ขนาดนั้น เธอรู้สึกท้อใจที่คนคิดว่า เมื่อไรก็ตามที่เห็นอะไรนำเสนอความเป็นเกย์ มันจะต้องแย่ มันทำให้เธอรู้สึกแย่ที่เห็นคนบนโลกอินเทอร์เน็ตพยายามทำลายสิ่งที่เธอกำลังทำ ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอคิดว่าเป็นผลงานศิลปะชิ้นสำคัญ”
.
ทว่าประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ความพยายามที่ เฮดแลนด์ กำลังนำเสนอความหลากหลายทางเพศ แต่เป็นการนำเสนอเรื่องดังกล่าวที่ไม่แนบเนียนพอ พร้อมกับทำลายธีมทั้งหมดของความเป็นจักรวาลสตาร์วอร์สทั้งในเรื่องของแคสติ้ง ฝีมือการแสดง ความเอาใจใส่ของเนื้อเรื่อง และรายละเอียดหลายอย่าง

มีผู้ใช้บน Reddit แสดงความเห็นว่าสิ่งที่เขาหรือเธอไม่ชอบเกี่ยวกับ The Acolyte คือ “โปรดักชันราคาถูกที่เหมือนเอานักแสดงมาแต่งคอสเพลย์เล่น มากกว่าจะสวมบทบาทเป็นอัศวินเจได แม้แต่กระบวนท่าต่างๆ ยังขาดเสน่ห์ เราไม่ได้ติดใจอะไรกับสิ่งที่ผู้สร้างกำลังนำเสนอ แต่ขอโทษที ทั้งหมดมันเหมือนซีรีส์เกรดบี”

จากที่กล่าวมาข้างต้น Disney กำลังสูญเสียแฟนคลับสตาร์วอร์สไปเรื่อยๆ และส่อแววถึงอนาคตที่สตาร์วอร์สอาจไม่ใช่ซีรีส์หรือหนังทำกำไรอีกต่อไป ตราบใดที่ Disney ยังไม่สนใจความคิดเห็นของผู้ชม หรือสานต่อมู้ด ธีม หรืออารมณ์ ของความเป็นสตาร์วอร์สได้ (ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญของการทำภาพยนตร์แฟรนไชส์)

ถึงกระนั้น เราปฏิเสธไม่ได้ว่า สตาร์วอร์ส กำลังอยู่ในช่วงขาลงไม่ต่างจากแฟรนไชส์ซูเปอร์ฮีโร่อย่าง มาร์เวล (Marvel) เพราะต่างผ่านช่วงจุดสูงสุดกันมาแล้ว ฝั่ง สตาร์วอร์ส กำลังหมดเรื่องที่จะเล่า และวนอยู่กับภาคหลักทั้ง 6 ภาค ส่วนมาร์เวลนั้นกำลังติดหล่มกับการนำเสนอเรื่องที่มีพล็อตเรื่องที่จำเจ ดูเหมือนว่า Disney ต้องพยายามหาทางออกเพื่อให้ธุรกิจความบันเทิงของตัวเองคงอยู่ในระยะยาวต่อไป

113 Nameless Fanboi Posted ID6:MBru5vfbHe

เจได กับ ซิธ มันก็ต่างกันแค่ชุดกับชื่อ

114 Nameless Fanboi Posted ID:gJLdRoLi8w

>>113 เอาจริงๆการฝึกวิชาต่างกันคนล่ะโยชน์ด้วยแหละ เจไดฝึกแบบบู๊ตึ๋ง ซิธฝึกแบบพรรคจรัส

115 Nameless Fanboi Posted ID6:QCLMv7.dUx

>>113 คนละอย่างเลยแต่ละแคลนมันมีหลักธรรม วิชาการของตัวเองโดยเฉพาะเลยนะ อย่าพึ่งเอาพวกเข้าด้านมืดเฉยๆไปรวมกับซิธของจริงที่ต้องได้รับการสอนโดยเฉพาะ

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.