>>309 กูว่านางเอกมันก็ไม่เชิงคนธรรมดานะ มันก็พอมีพื้นฐานงานครัวบ้างล่ะ บ้านเปิดร้านอาหาร นางเอกยืนผัดซีอิ๊วหน้าเตาทั้งวันคนมารอกิน ขายดิบขายดีก็แปลว่าแม่งก็ต้องทำอาหารอร่อยพอสมควร แต่เป็นเชฟแบบพวกกอร์ดอน แรมซี่ทำไฟน์ไดนิ่งให้คนรวยแดกมันก็ต้องฝึก เพราะมันไม่ใช่สตรีทฟู้ดแบบนางเอกที่รากหญ้าคนเดินถนนมากินละ อันนั้นพิถีพิถันมากกว่าเพราะแม่งก้าวไปสู่โลกที่อาหารไม่ได้เป็นของที่ทำให้ท้องอิ่มอย่างเดียว คนรวยมันเสพความสุนทรี(?)แบบในเรื่องที่บอก แต่อื่นๆในเรื่องแม่งตกม้าตายหมด ให้ซีนโชว์เก่งของนางเอกแบบตั้งใจสาดสปอตไลท์ไปที่อีนี่เกิน อื่นๆเลยดรอปหมด แบบซีนข้าวผัด ขั้นตอนในครัวมันมีมากกว่านั้นเยอะ แต่ให้เชฟตัวจริง(คนเล่นก็เป็นเชฟตัวจริง)ผัดข้าวแข่งกับนางเอก เชฟตักข้าวร้อนมาผัดเลยแฉะเหี้ยๆ นางเอกเดินไปหยิบข้าวเย็นในตู้เย็นมาผัด ข้าวร่วนไม่แฉะแบบไอ้เชฟคนแรก ไอ้เชฟหนวดไล่เชฟคนแรกกลับบ้านเพราะมึงผัดข้าวได้อุบาทว์ เนี่ย แบบนี้คือจงใจเกินไปที่จะโชว์ซีนว่านางเอกมีของ คนครัวนี่เขาก็ต้องรู้กันป่ะว่าข้าวที่เหมาะกับการทำข้าวผัดคือข้าวเย็น ทำแบบนี้มันดูโง่เกินในการทำให้นางเอกเด่น
อีกอย่างมีคนทำงานครัวมาบอกว่าจริงๆแล้วข้าวผัดในร้านอาหารก็ใช้ข้าวร้อนผัดกันเป็นปกติ เพราะมันก็กะปริมาณไม่ได้หรอกว่าลูกค้าจะมาสั่งข้าวผัดกี่คนแล้วจะแช่ตู้ให้พอดีปริมาณยังไง มีเรื่องของสุขลักษณะด้วย เพราะข้าวเก่ามันก็มีแบคทีเรีย เอาข้าวร้อนไปผัดก็ต้องไฟแรงพอและอย่าใส่พวกเครื่องปรุงน้ำๆเยอะ ข้าวก็ออกมาเป็นเม็ดเรียงสวยได้เหมือนกัน วิธีทำมีตั้งเยอะแต่เสือกเลือกนำเสนอให้อีกคนดูโง่เพื่อให้นางเอกดูเจ๋งว้าว ไม่รู้มาก่อนเลยว่าต้องใช้ข้าวเย็นผัด เชฟทำงานมาเป็นปีๆแพ้เด็กผัดซีอิ๊วไม่กี่ปี