Fanboi Channel

หนังไทย #๓

Last posted

Total of 1000 posts

103 Nameless Fanboi Posted ID:f.5erStHXe

อาไพโรจน์นี่เป็นตัวอย่างที่ดีของคนยุคเก่าที่มีความเชื่อฝังหัวแล้วไม่ฟังใครเลย
ปรกติการทำหนังมันต้องไปขอเงินนายทุน หรือมีนายทุนให้เงินมาทำ แกบอกว่าต้นทุน 30 ล้าน
ถ้าไม่มีคนดูจะล้มละลาย แปลว่าแกไปกู้ธนาคารมาทำ ซึ่งแม่งโคตรเสี่ยง เอาสมบัติที่หามาได้ทั้งชีวิต
มายื่นกู้กับธนาคารเป็นสิบๆล้านแบบนี้ กูว่าตอนแรกแกก็ไม่อยากเสี่ยงชีวิตขนาดนี้หรอก
คงเขียนบทแล้วไปเสนอค่ายหนัง แต่ก็โดนค่ายหนังปฏิเสธกลับมาหมด
แกควรรู้ตัวตั้งแต่ตอนนั้นแล้วอ่ะ ว่านายทุนใหญ่ๆในวงการหนังไทย มีประสบการณ์เยอะ
มีความรู้เรื่องธุรกิจมากกว่าแก ยังปฏิเสธ แปลว่าเค้ามองออกว่าหนังมันไม่ทำเงิน

ที่แกทำต่อ กูขอเดาใจแกว่ามาจาก 2สาเหตุหลักๆ คือแกคิดง่ายเกินไปและตามโลกไม่ทัน
คิดง่ายเกินไปนี่คือ แกคิดว่าวัยอลวนเป็นหนังดัง ที่วัยรุ่น(ยุค70-80) ดูกันทั่วบ้านทั่วเมือง
ถ้าทำภาคต่อวัยรุ่นยุคนั้นที่ตอนนี้แก่มากแล้ว จะพาลูกพาหลานมาดูย้อนความหลัง
รายได้จากแฟนคลับรุ่นเก่า+ลูกหลานแฟนคลับ+คนดูหน้าใหม่ที่มาดูเป็นครอบครัว
อย่างน้อยก็คงไม่ขาดทุน ซึ่งตอนนี้เราเห็นแล้วว่าแกประเมินผิด
และอีกข้อคือ แกตามโลกไม่ทัน หนังใหม่แต่บทรูปแบบเดียวกับเมื่อ 40ปีที่แล้วมาขายยุคนี้
มันยากแล้ว ต่อให้ฉายก่อนโควิทก็คงได้ประมาณ 10กว่าล้านอ่ะ
แต่พอโควิทมาไปเร่งพฤติกรรมคนดูให้เลือกดูจากสตรีมมิ่งมากกว่าเข้าโรงหนังเลยจบเลยทีนี้
กูว่าสิ่งที่แกควรทำหลังรายได้ไม่ตรงเป้า ไม่ใช่แค่โพสคลิปอ้อนวอนให้คนช่วยดู
แต่ควรรีบเจรจากับพวกเว็บสตรีมมิ่งขายลิขสิทธิ์หนัง อย่างน้อยก็ชดเชยการขาดทุนได้บ้างแหละ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.