Fanboi Channel

หนังไทย #๓

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:CP3GZjNVRI

พูดคุยเกี่ยวกับภาพยนตร์ไทย ทั้งยุคเก่าและปัจจุบัน

กระทู้เก่า
>>>/movie/2399/ #๑
>>>/movie/6057/ #๒

2 Nameless Fanboi Posted ID:RADMkWJRx+

กระทู้ 3 หายไปไหน นี่ไม่ใช่กระทู้ 3 อันแรกนะ

4 Nameless Fanboi Posted ID6:VOcs.gJNgV

>>2 sirn ลบทิ้งเพราะมีประเพณีปิดมู้ที่สืบต่อกันมาจากห้อง GG

5 Nameless Fanboi Posted ID:eqrpP7TSJi

รีวิวแบบรับตังค์โฆษณา
https://youtu.be/51a9QXcpYwY
รีวิวแบบไม่ได้รับตังค์โฆษณา
https://youtu.be/AD9Fy-9isv4

6 Nameless Fanboi Posted ID:Z6dbDdZJIZ

พวกรีวิวรับตังค์ มีระดับการอวยตามจำนวนเงินมั๊ยวะ 555555555

7 Nameless Fanboi Posted ID6:fNK4aRdBRi

The Cheese Sisters มีเพจไหนทำรีวิวออกมาบ้างยัง ขอเพจรีวิวที่ไม่ใช่พวกเพจโอตะคุนะ

8 Nameless Fanboi Posted ID6:Msdqptsy2i

>>5 เห็นมีออกมารีวิวอวยหลายช่องเลย ช่องยอดวิวไม่เยอะทั้งนั้น มีช่องข่าวด้วยแต่ลบไปละ ตอนแรกแค่ปิดคอมเม้นแต่เหมือนเอาไม่อยู่
>>7 อยากรู้เหมือนกันว่าสนุกไหม ฟังเพลงนี้แล้วอยากไปดูเลย นักแสดงน่ารักดี https://youtu.be/m6svJS9JtD0

9 Nameless Fanboi Posted ID6:iFQ9lh1XKf

หนังเฉพาะกลุ่มอ่ะ สำหรับเรื่องที่มะเดี่ยวเป็นโปรดิวเซอร์ กับอีกเรื่องที่ฉายก่อนหน้านี้ที่เป็นหนังของวง Proxie รายได้ก็พอๆ กัน แต่น้อยกว่า

10 Nameless Fanboi Posted ID6:oXoyXSPpbb

>>5 ช่องนึงโคตรไร้แก่นสารของนักดูหนังชิบหายเลย นี่มันทำช่องขึ้นมาเหมือนไม่มีความรู้เกี่ยวกับหนังเลยหรือไงว่ะ แต่อีกช่องนี่แบบ นี่มันคนในวงการหนังเลยมั้งเนี่ย

11 Nameless Fanboi Posted ID:3SRyrCKLGg

เป็นไงวะเรื่องนี้ น่าดูไหม
https://youtu.be/FdgYql9Qj2w

12 Nameless Fanboi Posted ID6:BCaeyeprfn

https://video.twimg.com/ext_tw_video/1597464179975213056/pu/vid/540x960/AhXqJYFTAc4kkfik.mp4?tag=12

13 Nameless Fanboi Posted ID:aEXb5ge9rQ

>>10 ช่องไหนไร้แก่นว่ะ

14 Nameless Fanboi Posted ID6:X.QLv8Nc+f

>>13 ช่อง ตลกดน ไง
อีกช่อง ช่อง นน รายนั้น เรียนการแสดง เรียนภาพยนตร์มาเลย

15 Nameless Fanboi Posted ID6:7ZCZQwwp7.

>>13 เหน่งคุงชาแนล

16 Nameless Fanboi Posted ID:283tBXU5hk

>>14 ใช่ช่องที่มีประเด็น​กับ​ จสบ​ ​ป่าวอ่ะ

19 Nameless Fanboi Posted ID6:Zby6Sp1qH6

https://youtu.be/3539ZNu53bo

21 Nameless Fanboi Posted ID:VU0ikvkr9l

หนุมานนี่ไอเดียดีนะ เอาโขนมาใส่ Special effect แต่กูขอเดาว่าคงทำรายได้ไม่เยอะ เพราะดูตัวอย่างหนังแล้ว บทหนังมันคือโขนล้วนๆไม่มีดัดแปลงอะไรเลย เด็กรุ่นใหม่คงไม่สนใจอยู่ดี

22 Nameless Fanboi Posted ID:aFm+NX2/BA

>>21 น่าสนใจอยู่นะ แต่พล็อตเรื่องแบบนี้ดูทรงน่าจะเจ๊งแน่ๆ ถ้าใช้พล็อตเดิม ไหนจะพยายามยึดติดโขนไทยอีก

23 Nameless Fanboi Posted ID:SuztMdqzza

>>21 พล็อตตรงเป็นไม้บรรทัด เป็นแค่โขนใส่CG ก็คงต้องเก็บไว้ดูกันเองชาบูกันเองนั่นแหละ

24 Nameless Fanboi Posted ID:6rZbVrbHhQ

ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าว่าที่นักแสดงไทยเล่นหนังแล้วเวลาแสดงอารมณ์ไม่ขาดก็เกินเพราะBotox มันทำให้หน้าตึง เวลานักแสดงต่างประเทศแสดงอารมณ์แค่เปลี่ยนสีหน้านิดเดียวนี่แบบอย่างเปลี่ยนอารมณ์

25 Nameless Fanboi Posted ID:6rZbVrbHhQ

The lake ทำไมเด็กมันอ้วกว่ะ

26 Nameless Fanboi Posted ID:0cXSJXzoee

https://youtu.be/i29OMg7PLvQ

27 Nameless Fanboi Posted ID6:jbkvlfDEnJ

>>24 คิดไปเอง เกาหลีไม่เห็นเป็นเลย

28 Nameless Fanboi Posted ID6:4qqGaq23Sv

>>24 นักแสดงไทยรุ่นใหม่ๆ ขายหน้าตาเยอะ แต่สกิลการแสดงต่ำเตี้ย

30 Nameless Fanboi Posted ID6:1G0xQJoRoi

https://the-e-world.com/talk-with-tuaron-worldwide/
คิดว่ายังไงกับบทความนี้?

31 Nameless Fanboi Posted ID6:Pd5y9Vgyk8

>>30 สรุปหน่อย เห็นหน้าไอ้แหว่งกูก็ไม่อยากอ่านล่ะ

32 Nameless Fanboi Posted ID:9m1xBplQHV

>>28 กูเปิดดูหนังไทยยุคสิบปีที่แล้วก็เห็นด้วยนะ มันเกิดอะไรขึ้นทำไมวงการหนังกับเพลงไทยมันขยะได้แบบนี้

33 Nameless Fanboi Posted ID6:xZ+HBqp8Ul

>>30 ดูหนังยังไง บอกชื่อพระเอกหนังผิด

34 Nameless Fanboi Posted ID6:xZ+HBqp8Ul

>>32 หนังไทย ไม่ได้พัฒนาไปไหนเลย แต่คนไทยได้ดูหนังต่างชาติที่คุณภาพดีกว่ามาก ค่าตั๋วหนังพอๆ กัน คนก็เลือกดูของต่างชาติมากกว่า ไม่ต่างจากละครไทยที่โดนต่างชาติตีกระจุย เพราะกี่สิบปีก็เหมือนเดิม

35 Nameless Fanboi Posted ID:iYs0hr+dYd

>>30 ต่างชาติก็ชอบดูหนังอะไรง่าย ๆ เหมือนกันแหล่ะ อย่างดูหนังแอ็คชั่น หนังตลก
แต่ความเอาใจใส่ในการผลิตผลงานของผู้ผลิต กับ รสนิยมในการดูมันสูงกว่าของไทย

36 Nameless Fanboi Posted ID:2xJC29Y.C5

>>28 ถ้าเทียบกับต่างชาติ เราขาดพวกโรงเรียนการแสดงที่ได้มาตราฐาน กับ ละครเวทีหรือเปล่า เพราะหลายที่ก่อนจะมาเป็นนักแสดง ส่วนใหญ่ก็ไปเรียนรู้มาจากพวกนี้ก่อน

37 Nameless Fanboi Posted ID:9m1xBplQHV

>>36 ก็เคยเห็นมีจัดacademyไรพวกนี้ ตอนนี้หายไปไหนหมดละ

40 Nameless Fanboi Posted ID6:nZS7fljBFn

>>38 >>39 คุวงม่วงไปไกลๆ ตีน กูไม่อยากโดนแบนเพราะพวกมึง

41 Nameless Fanboi Posted ID6:jTyZkNnReS

>>40 มันก็คุยเรื่องหนังเรื่องการแสดงนะ คุยเรื่องวงการนี้จะให้เลี่ยงไม่พูดถึงเลยคงยากว่ะ ตอนนี้นาดาวก็ยุบไปแล้ว ดาวเด่นค่าย gdh ก็เป็นเด็กจากวงนี้อีก

42 Nameless Fanboi Posted ID:FKKAMa4+.6

แบนไม่ให้พูดถึงภาพยนต์ในประเทศเลยไหม เหมือนที่แบนไอดอลน่ะ ต่อไปก็แบนเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีด้วยนะ ปีหน้า บอค จะไปตีตลาดเดบิ้วที่เกาหลีแล้ว แล้วก็อย่าลืมแบนการเมืองในไทยด้วยล่ะ เด็ก บอค ไปลงการเมืองอยู่พรรคส้ม แล้วก็แบนวงการ esport ด้วย เด็ก บอค 6 คนตอนนี้อยู่ค่าย MiTH

43 Nameless Fanboi Posted ID6:nZS7fljBFn

บ่นไรมึง >>42 ไปดูคอมเม้นข้างบนมีแต่พวกโทรลขยะทั้งนั้น
เข้าสาระ
จากที่ >>36 บอกมันมีแต่ คนไม่ใส่ใจส่วนนี้เยอะมากโดยเฉพาะหนังที่ขายพวกเน็ตไอดอล, อินฟลูเรนเซอร์ นักแสดงหลายคนที่ไปฝึกการแสดงเสริมก็มี แต่ใช้งบตัวเองทำเพื่อพัฒนาตัวเอง

44 Nameless Fanboi Posted ID:Q+0yj2M5wI

ว่าตามตรงนักแสดงส่วนใหญ่ใช้เส้นกับหน้าตามากกว่าฝีมือ จริงๆ ส่วนตัวกุชอบดูพวกนักแสดงสมทบในหนังมากกว่านักแสดงหลักเพราะคนพวกนี้เล่นดีแบบโคตรถึง กลับกันนักแสดงในหนังหลายเรื่องบางคนที่มีคนอวยว่าเล่นดี พอไปดูจริง แม่งก็แค่หน้าตาดี แหกปากกับทำหน้าเขม่งได้ นอกนั้นไม่มีไรเลย

45 Nameless Fanboi Posted ID6:04R0uHE9Iv

>>44 พูดได้โดนใจกูจริงๆ

46 Nameless Fanboi Posted ID6:eos6CyHrZC

แต่ไอดอลนักร้องมากฝีมือ ที่มารับงานแสดงนี่ สุดจริง นึกว่านักแสดงสายรางวัล ไม่ได้ครูดี ก็น่าจะพรสวรรค์ประทานมาให้

47 Nameless Fanboi Posted ID:0lZeZX7ucJ

>>46 หมายถึงใคร จูเน่ หรือ มิวสิค

48 Nameless Fanboi Posted ID6:jahfPnEjJ.

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0Np3YyVn9Zvy7NwzhJvE7cjFaypLix3mFQuSNnPASjBryiDvhGLZtFmCVP1TLCgK5l&id=100044226886660&mibextid=Nif5oz
หนังขาย Rape Culture

49 Nameless Fanboi Posted ID6:E2K0vpKFL6

ไม่ใช่ว่าพวกเฟมทวิตพวกนี้ก็เป็นพวกที่อ่านนิยายวายเกาหลีฉันจะยัดเยียดความเป็นผัวให้นายเองเหรอวะ ทำไมไม่ดิ้นที่อันโน้นขายวัฒนธรรมข่มขืนบ้าง

50 Nameless Fanboi Posted ID:jLTTANp.JI

หนุมาน ภาพดีนะ แต่ข้อเสียมีแค่เรื่องฉากบางฉากควรจะใส่บทพูดบ้างไม่ต้องมาเงียบ ส่วนเนื้อเรื่องก็ตามรามเกียรติ์นั่นแหละเล่าย่อให้มันย่อยง่าย

51 Nameless Fanboi Posted ID6:O539c6V+xQ

เห็นหนังสัตว์ประหลาดไทยกันไปแล้ว มาดุของเพื่อนบ้าน สิงคโปร์กันบ้าง

https://www.youtube.com/watch?v=gd0LaoBVe6U

52 Nameless Fanboi Posted ID:wq.TO09Zdn

Fast feel love ต่างประเทศชอบ คนไทยด่าหนังไรตรรกะตัวละครป่วย เนื้อหาเหมือนปั้น แย่ๆๆๆ ผู้ชายก็เห็นแก่ตัว กุเขียม

53 Nameless Fanboi Posted ID:3yx.oXzVRR

>>52 ก็ชอบในหมู่นักวิจารณ์ พวกเทศกาลหนัง ในไทยพวกนักวิจารณ์ก็ชอบ

54 Nameless Fanboi Posted ID6:91nljHJC7.

>>52 ชอบนี่รายได้เท่าไหร่

55 Nameless Fanboi Posted ID:UE65xDzsjP

>>54 อยากรู้​จริงป่ะ

56 Nameless Fanboi Posted ID6:m6cRPqH.w+

นักวิจารย์ชอบนี่เกี่ยวไรกับรายได้

57 Nameless Fanboi Posted ID:r0r0FfjdR9

>>54 Shawshank ตอนฉายเจ๊งนะเพื่อไม่รู้

58 Nameless Fanboi Posted ID6:AOfTvCh6Vw

เรื่องรายได้ สำหรับคนไทยดูหนังเพื่อความบันเทิง ไม่ได้เสพศิลปะเหมือนพวกนักวิจารณ์ หนังที่ถูกจริตนักวิจารณ์มักจะไม่ถูกจริตคนดูทั่วไป

59 Nameless Fanboi Posted ID:h4ft6PYJE6

>>58 ดูเพื่อความบันเทิงก็น่าจะทั่วโลกนะไม่ใช่แค่คนไทย เอาจริงๆกุทำงานมาเหนื่อยๆก็อยากดูหนังเพื่อผ่อนคลาย ไม่ได้อยากมานั่งตีความถอดนัยยะในหนังให้ปวดหัวหรอกเว้นแต่กุมีเวลามากพอน่ะนะ

60 Nameless Fanboi Posted ID:hkQI/WaHCf

ในไทยมีนักวิจารณ์หนังดีๆไหมอ่ะ

61 Nameless Fanboi Posted ID6:x8IWSh8o.n

ตีลังกาดูหนัง น่าจะเป็นนักวิจารณ์หนังที่ตรงไปตรงมา และผู้คนให้การยอมรับมากที่สุด

62 Nameless Fanboi Posted ID6:uTeXlUy79T

จันเรดดีที่สุด

63 Nameless Fanboi Posted ID6:DG8mrEd2gT

>>60 รับเงินมาทั้งนั้นแหละ

64 Nameless Fanboi Posted ID6:x8IWSh8o.n

>>63 กางหลักฐานการรับเงินมาเลยครับ

65 Nameless Fanboi Posted ID6:fHwFdaV5fF

>>61 บ้าบอ ยังมาทำตัวหิวเเสงเรียกยอดไลท์ตอนดราม่ามังงะMhaอยู่เลย เเถมดูท่าจะเเอบเหยียดหนังยุ่นเมะยุ่นด้วย
ต้องถามว่ามีนักรีวิวคนใหนรีวิวโดยที่ไม่โดนเงินฟาดดีกว่า

66 Nameless Fanboi Posted ID:oXVw017NrY

คนเราเกิดมาพ่อแม่ก็คนละคน ประสบการณ์ก็คนละอย่าง หลอมรวมไปเป็นรสนิยมที่แตกต่างกัน มันไม่มีหรอก นักวิจารณ์ที่ดีที่สุด มีแต่นักวิจารณ์ที่ตรงจริตกับมึงที่สุด มีรศนิยมไกล้เคียงกับมึงที่สุด แล้วคนนั้นแหละที่มึงแม่งจะบอกว่าดี

67 Nameless Fanboi Posted ID:XFqPt7kf7H

ไพโรจน์ สังวริบุตร ตัดพ้อ "ผมล้มละลายแน่" หนังวัยอลวน 5 ถูกลดรอบฉาย https://www.thairath.co.th/entertain/movie/2596555

68 Nameless Fanboi Posted ID6:rZdngrvi9G

>>67 ใจนึงจะเห็นใจแก แต่ใจนึงอยากถามแกว่า ทำไมแกคิดจะทำหนังแบบนี้มา แถมได้ยินข่าวลือว่าแกไม่ชอบภาค 4 เพราะมีปัญหากับทีมงานหรือนักแสดง เพราะมีคนดูมาแล้วว่าภาคนี้ไม่เชื่อมต่อกับภาคใดเลย พวกลูกของพระนางก็โดนตัดทิ้งหายไป เน้นดันหลานแทน
อีกอย่างหนึ่งหนังพวกนี้มันเน้นกลุ่มเก่า ใครจะไปดูล่ะ เพราะกลุ่มผู้ชมเค้าปรับเปลี่ยนดูอย่างอื่นกันไปหมดแล้ว

69 Nameless Fanboi Posted ID:onk/SEzkzF

เพิ่งรู้ว่าอาไพโรจน์ แกควักเงินทำหนังเอง ตอนแรกคิดว่าเป็นคนอื่นทำ
แต่ก็อย่างว่า แกกับหนังวัยอลวน ประสบความสำเร็จ และโด่งดังมาด้วยกัน
และตัวแกก็ไม่อยากจะทิ้งผลงานคู่บุญอันนี้ อยากจะต่อยอดความสำเร็จนี้ไปเรื่อยๆ
จนลืมว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไป หนังของแกมันเชย มันล้าหลัง มันตกยุคหมดแล้ว

70 Nameless Fanboi Posted ID6:mV2rIcZSds

อาไพโรจน์แกดังจากละครพื้นบ้านก่อน มาดังก็วัยอลวน ดังจนคนรุ่นนั้นตั้งชื่อลูกว่าตั้มกับโอ๋เกลื่อนหมดในยุคนั้น
เฟรนไชส์วัยอลวนทำแค่ 4 ภาค คือ วัยอลวน (ภาคแรก), รักอุตลุด (ภาค 2), ชื่นชุลมุน (ภาค 3), วัยอลวน 4 ตั้มโอ๋รีเทิร์น (ภาค 4)
ส่วนภาค 5 เห็นว่าถ่ายทำนานแล้วนะ ตอนแรกฉายในปี 2020 แต่เจอโควิด เลยโดนเลื่อนฉายไปเกือบ 3 ปี แต่กว่าจะกลับมาฉายก็ปีนี้ แต่ว่าดันเจอหนังใหญ่เข้ามาชนอย่างอวตาร 2, Puss in Boots 2 the Last Tale. แถมรอบฉายก็โดนตัดเยอะ
อีกอย่างหนึ่ง อาไพโรจน์ทำภาคนี้ เหมือนทำมาให้ไม่ต่อกับภาค 4 คนเลยวิจารณ์ว่าบทมันย่ำอยู่กับที่ เลยเกิดดราม่าขึ้น
ส่วนหนังเก่าพวกนี้ ว่าตามตรงถ้ามันจะขายเฟรนไชส์หนังพวกนี้ควรไปทำแบบเฟรนไชล์หนังเก่าที่กลับไปทำซีรีส์ลงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง แล้วเอา ผกก มาช่วยเสริมทำให้ แต่อาแกเหมือนติดอีโก้เยอะไปตรงที่แกไม่เอ่ยถึงภาค 4 เพราะเหตุผลบางอย่าง

71 Nameless Fanboi Posted ID6:mV2rIcZSds

ยกตัวอย่างหนังฝรั่งยุค 80 แล้วกลับมาดังก็ Karate Kid เมื่อก่อนดัง แล้วดิ่งลงตั้งแต่ภาค 3 และภาค 4 ที่เปลี่ยนตัวเอกเป็นผู้หญิง จนเฟรนไชส์ตายไป กลับมาดังก็ทำ Cobra Kai เพราะปรับมุมมองเนื้อหาให้ตามยุคปัจจุบัน แล้วหาทางลงกับเนื้อหาเก่าได้ดีจนทำซีซั่น 4 ล่าสุดจะประกาศทำหนังโรงใหม่แล้ว

72 Nameless Fanboi Posted ID:VIuaKceXyw

จะให้ช่วยยังไง หนังออกมาเป็นแบบนั้น ดูแล้วไปไม่รอดแน่
ถ้าลง Netflix ยังพอช่วยได้มั้ยวะ

73 Nameless Fanboi Posted ID6:4ubT.HrfGU

>>72 ช่วยได้ระดับหนึ่งมั๊ง แต่เรื่องพวกนี้จะติดเทรนด์อันดับ 1 ได้หรือเปล่า เพราะ บางเรื่องที่มองว่าห่วยยังติดอันดับ 1 ได้เลย

74 Nameless Fanboi Posted ID6:4ubT.HrfGU

>>70 อาไพโรจน์แกพลาดตรงที่ แกไม่ดูทาร์เก็ตคนดูว่าเค้าจะกลับมาทำหนัง แถม PR ก็เฉพาะกลุ่ม เห็นว่ากลุ่มแฟนคลับของอาไปอยู่ที่ TikTok กันหมด

75 Nameless Fanboi Posted ID6:eByxXZkIGU

>>72 ก็คงช่วยได้นิดหน่อย ค่าซื้อลิขสิทธิ์ไปลง Steaming ถ้าเอาแบบที่คุ้มทุน อาแกบอกว่าลงทุนไป 30 กว่าล้านใช่มะ อาแกคงต้องดีลราคา 30 กว่าล้านนั่นถึงจะไม่เข้าเนื้อ แต่คิดว่า NF จะยอมจ่ายขนาดนั้นเพื่อหนังอะไรก็ไม่รู้แบบนี้เหรอวะ

76 Nameless Fanboi Posted ID:85Gs3W55Eb

>>75 1ล้าน ดอลไม่ถือว่าแพงนะถ้ามองในตลาดนอก มันก็พอๆกับทุนสร้างหนังเกรดบีเผลอๆน้อยกว่า

77 Nameless Fanboi Posted ID6:/sTSdH5HIz

เงิน 30 ล้านที่ทำหนังนี่ งบงานเน้นจากไหนกัน แต่ถ้าเดาคงไม่พ้นเรื่องค่าตัวนักแสดง โดยเฉพาะพวกดารารุ่นใหญ่นี่แหละ แต่รุ่นเล็กอย่างพวกแน็ค ชาลี, พิม พิมประภา ค่าตัวน่าจะอยู่กลางๆ เดี๋ยวว่างๆ ว่าจะไปดูว่าจุดไหนมันขัดใจที่สุด เพราะข้างบนสปอยไปแล้วว่ามันไม่ต่อจาก 4 ที่มีคนลูกเป็นตัวละครนำ

78 Nameless Fanboi Posted ID:lTo8ViblNl

เพิ่งอ่านข่าว ไอทำหนัง30ล้านมา คนทำยังมีสติดีไหมเนี่ย เหมือนติดอีโก้ว่าเคยดังอะ คนเลื่อนตต๊ 2-3นาที
ก็เหมือนดูหนังแล้ว คนเก่งๆทำหนังในช่องทางออนไลน์ให้ดูฟรีด้วยซ้ำ และกุเกิดไม่ทันด้วย ไม่เคยดูภาค 1-4 ดูแต่แกเป็นตัวประกอบช่องหลากสี ก็ไม่ได้แสดงดีอะไร ออกจะดูหงุดหงิด ตามประสาคนแก่ ตกยุค ในละคร
ชีวิตจริงก็ตกยุคหรอวะเนี่ย

79 Nameless Fanboi Posted ID:lTo8ViblNl

https://youtu.be/uSP7ulI749Q
https://youtu.be/NtHCeTWaIWc

80 Nameless Fanboi Posted ID6:BC08vTfoIs

>>78 ลุงแกแค่หลงยุค ขาดการตลาดว่าทาร์เก็ตคนดูเค้าจะดูอยู่ในโรงอยู่มั๊ย เพราะหนังเรื่องนี้มันเกือบ 50 ปีแล้ว มีแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ทั้งนัันใครจะไปดูได้
แต่เอาจริงๆ ไอ้หนังเฟรนไชส์พวกนี้ ควรลดสเกลเป็นซีรีส์และควรปรับบทเนื้อหาให้เข้ากับปัจจุบัน ไม่ใช่เล่นวนกลุ่มตลาดเก่าๆ สุดท้ายเฟรนไชล์หนังพวกนีัมันก็ตาย เพราะไม่ปรับตัว

81 Nameless Fanboi Posted ID:5z21Pmty.A

ทุนสร้าง 30 ล้าน ถ้าเทียบเรทหนังต่างประเทศ ก็ระดับ smile , invitation , the menu
แต่ถ้าเอาแบบทื่อ ๆ ก็ระดับ x , pearl แต่สองนี้เรื่องก็น่าทำได้น่าสนใจกว่าหว่ะ

82 Nameless Fanboi Posted ID:Sv2VGgDs.5

อ่านโพสนึงในเฟสเขาบอกฝั่งคนทำก็ควรศึกษาตลาดด้วยว่าหนังตัวเองจะมีกลุ่มตลาดไหนเข้ามาดู
คนรุ่นเก่ายังคิดแต่การตลาดว่าใส่ genre ให้หนังอย่างหนังผีหนังตลกแล้วให้ดาราดังมาเล่นแล้วคนจะมาดู
สมัยนี้มันทำแบบนั้นยากเพราะคนดูมันตัดสินหนังตั้งแต่เห็นชื่อเรื่องแล้วว่าไม่ใช่แนวที่เขาดู

83 Nameless Fanboi Posted ID:P/EvmZncjx

>>81 หนังระดับนี้ออกมาเยอะมาก ปังไม่ถึง 5% เลยมั้ง

84 Nameless Fanboi Posted ID6:BPWR31C55p

ประเทศเรานี่เวลาทำธุรกิจไม่ศึกษาตลาดกันเลยจริงๆดิ? เห็นหลายทีล่ะ ไม่ใช่แค่หนังด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร หรือ แม้แต่ร้านซักผ้า เจ้าใหญ่ๆ เหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเลย

85 Nameless Fanboi Posted ID:HkCp.6K7G2

ดราม่าแบบนี้มันเหมือนเรื่อง ศรีธนญชัย 555 เลย
อันนั้นไม่มีคนดูไม่พอ ยังโดนโกงอีก
ทำงานเป็นระบบเครือญาติ หลงคิดว่าญาติไว้ใจได้ สุดท้ายเละ ไม่เหลือ
คนสร้างเกือบต้องฆ่าาตัวตาย ตอนนี้ไม่รู้ไปอยู่ไหนแล้ว

86 Nameless Fanboi Posted ID6:8C1kfgEXPD

มีเรื่องฟินสุโค่ยอะไรอีกเรื่องป่ะ ที่เอาดารานักแสดงมาเดินขบวนยืนถือป้ายให้ดูหนังไทยๆ

87 Nameless Fanboi Posted ID6:FsNSWYW.aw

>>86 ไม่น่าใช่ แต่ไอ้หนังเรื่องนี้ มีดราม่าแค่เรื่องโกงค่าตัวมาโคโตะ จนไม่รู้ว่าค่ายหนังที่ทำมันเชิดหนีหรือเปล่า

88 Nameless Fanboi Posted ID6:gdrIlZYANF

ข่าวดาราถือป้ายเดินขบวน ให้มาช่วยกันดูหนัง ฟินสุโค่ย ต่อชีวิตหนังไทย
https://movie.kapook.com/view100648.html

89 Nameless Fanboi Posted ID:wcV/x69.z1

หนังไทยยุคนี้คงจะมีแต่ตระกูล หอแต๋วแตก เท่านั้นที่ได้ไปต่อ
เพราะสร้างมาหลายภาคเหลือเกิน
หนังบ้าๆบอๆแบบนี้ เสือกได้รับความนิยมซะงั้น

90 Nameless Fanboi Posted ID:z5CBU8+Oky

>>89 อย่าลืมหนังตระกูลหลวงพี่

91 Nameless Fanboi Posted ID6:lHSvRE6WOc

>>90 หลวงพี่แจ๊ส ตายไปตั้งแต่ ประเด็นของพชร์กับแจ๊สละ
ส่วนหลวงพี่เท่ง จบแค่ 3 ภาค เพราะ ตั้งแต่ภาค 2 เปลี่ยนตัวนักแสดงตั้งแต่ โจอี้ บอยกับน้อย พรู เพราะเท่งติดสัญญากับค่ายเวิร์คพอยท์ ที่ตลกร้ายคือ หนังเท่งโหน่งจีวรบิน ดันทำทับไลน์กับหลวงพี่เท่งที่เคยรับบท

92 Nameless Fanboi Posted ID6:gdrIlZYANF

นี่ต่างหากละ ความหวังของหนังไทย สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่คนไทย ถูกนำมาสร้างถ่ายทอดเรื่องราวแห่งพลังศรัทธา ปาฏิหาริย์ เสริมสร้างบุญ บารมี
เตรียมพร้อมออกสู่สายตาชาวไทย และชาวโลก ช่วยกันตีตั๋วเข้าชม เข้าดู กันเยอะๆ แล้วอย่าลืมทำบุญกันเยอะๆ บูชากันเยอะๆ มีเท่าไร ก็จัดไปให้อย่างให้เสีย จะได้มีบุญ เสริมบารมีติดคู่ตัวไว้เป็นสิริมงคลชีวิต

https://www.youtube.com/watch?v=uNvSUKDanQM

93 Nameless Fanboi Posted ID:ogfzx5AJ/l

เพิ่งว่างว่าจะไปดูวัยอลวน แต่ไม่มีรอบเลยว่ะ

94 Nameless Fanboi Posted ID6:L+nesqmp8r

>>93 หนังเหมือนจะหมดรอบไปละ วันพุธคือวันสุดท้าย ซึ่งก็ได้ดูไปละเดี๋ยวจะเขียนสปอยว่าเนื้อหาเป็นอย่างไร

95 Nameless Fanboi Posted ID6:pkrVNV1RJq

สปอยล่ะนะ แต่กูอาจจะพิมพ์ไม่เคลียร์เท่าไหร่ อย่าว่ากันนะ
บทแบบว่างั้นๆ มากๆ เหมือนจะแบ่งบททั้ง 2 ฝั่งคือฝั่งรุ่นลุงป้าอย่างตั้มกับโอ๋ และ รุ่นหลานอย่างโต๋และอั้ม
ฝั่งตั้มโอ๋ ไม่มีอะไรมากฉากแรกเอาเพลงสุขาอยู่หนใด ไปแปลงใหม่ ร้องแปลงแซวโอ๋ ต่อมามีฉากไปบ้านผีสิง เล่นมุขแบบตลกสังขาร ไปเยอะมาก แล้วมีฉากตอนเป็นทนายสองฉาก นอกจากนี้มีอ้อพี่สาวของโอ๋ที่เป็นทอมที่มาตั้งแต่ภาค 2 หรือ 3 นี่แหละ มาด้วย แถมเหมือนจะคบหากับหญิงม่ายลูกเดี่ยวที่ดันถูกหวยมาอีก
ส่วนบทโต๋กับอั้ม ไม่มีอะไรมาก ในเรื่องบอกแค่ว่าโต๋เป็นหลานของตั้ม แต่ไม่บอกว่าเป็นพ่อของใคร แถมไม่มีการพูดถึง ลูกของตั้มและโอ๋ที่อยู่ในภาค 4 เลย ส่วนอั้ม มาในบทครูสอนเต้น แต่โดนพ่อสะกดรอยตาม โดยพบโต๋แบบบังเอิญเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนสะกดรอยตามอั้ม แถมต้องมาเล่นเกมปั่นประสาทกับพ่อด้วยการแกล้งเป็นแฟนกับโต๋

96 Nameless Fanboi Posted ID6:0iZPtlJWD1

>>95 ฉากที่ชวนไปโรงแรมนี่ได้ไปมั้ย

97 Nameless Fanboi Posted ID6:bHEWTSR3OY

>>96 กูจาก >>95 นะ
ฉากไปโรงแรม อั้มมันปั่นประสาทพ่อภาคินนี่แหละ ไอ้ลูกน้องก็สะกดรอยตาม จนเจอ แต่ว่าไม่อยู่แถมได้ข้อความกวนตีนกลับ
เพิ่มเติมสักหน่อย
มุขมันตลกดาษๆ ไปเยอะแถมมุขตลกสังขารมีเพียบตั้งแต่ฉากว่าความศาล หรือ ฉากคนต่างด้าวร้องเพลง นี่ก็เต็มไปหมด รวมถึงฉากหวยที่ล้อเลียนประเด็นดราม่าหวย 30 ล้าน
จุดที่ WTF สุดคือปมครอบครัวของอั้มมันดูงงๆ ไปหน่อย ฉากอดีดมีปมว่าพ่อภาคินไปมีกับผู้หญิงอื่นจนมีลูกด้วยกัน พอเมียเจอเข้าก็เลิกกันแล้วเสียชีวิตทันที แถมไม่บอกว่าตายเพราะอะไร แล้วเรื่องที่พ่อส่งคนไปสะกดรอยตามลูกก็ไม่บอกว่าเป้าหมายคืออะไร ฉากก่อนใกล้จบ ก็เจอเมียอีกคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องก็พยายามขอโทษ เหมือนโต๋ไปเคลียร์ใจกับภาคินด้วยเลยทำแบบนี้

98 Nameless Fanboi Posted ID:obu9kUAedm

กุว่าวัยอลวนดูดีกว่าหนังค่ายG ในปีที่ผ่านมาอีกนะ

99 Nameless Fanboi Posted ID6:ypoWUwaq52

>>98 ดีตรงไหนล่ะ ตัวหนังแม่งไม่เล่าอะไรต่อจากภาค 4 เลยซักนิด ภาค 4 ที่ GTH ร่วมทำยังดีกว่าภาค 5 อีก

100 Nameless Fanboi Posted ID:f.5erStHXe

https://www.facebook.com/287876901402155/posts/pfbid026BxTZB9Jx2Ci82Dpn7jcxfsgc4adC1YPM4EmGJYhFdehP8D8dvq4fBroJrib94nul/?app=fbl
จาก11รอบ เฉพาะ กทม เมเจอร์เพิ่มเป็น 200 รอบ ทั่วประเทศ แต่รายได้ยังไม่ถึง 6แสน
คือคุณภาพหนังมันไม่ดีเพิ่มกี่รอบก็ไม่มีคนดูอ่ะ
ว่าแล้วก็สงสัยว่าธนาคารกล้าปล่อยกู้มาได้ไงตั้ง30ล้านวะ ยุคนี้ขนาด GDH ยังมีแป้ก

101 Nameless Fanboi Posted ID6:ypoWUwaq52

>>100 เหมือนแกทำตั้งแต่ปี 2017-18 นะ เพียงแต่ว่า ตอนฉายเกิดโควิดระบาด เลยโดนเลื่อน เหมือนเห็นว่าฉายไม่กี่วันก็โดนถอดออกจากโรงเพราะโควิดระรอกแรก เลยเลื่อนฉาย แต่มาเสือกชนกับหนังใหญ่หลายเรื่องที่อยู่ในโรง
แต่ส่วนตัว ถ้าอยากทำหนังพวกนี้ควรไปทำสเกลพวกซิทคอมละครซีรีส์ดีกว่า หนังมันทำมาแปลกๆ

102 Nameless Fanboi Posted ID:WPX8+lwKlk

>>101 Ok เข้าใจและ ถ้ากู้เงินมาทำช่วงนั้นก็พอเข้าใจได้ แบงค์คงมองว่าสมัยนั้นหนังไทยยังพอขายได้ อย่างแย่ก็ได้ 10-20 ล้าน ได้เงินมาจ่ายคืน แต่เกิดผิดคาดเพราะโควิดต้องเลื่อนฉาย งบโปรโมทไม่เหลือ แถมหลังโควิดพฤติกรรมคนดูหนังเปลี่ยนไป เลือกดูผ่านสตรีมมิ่งมากกว่าไปดูในโรง จะไปเฉพาะเรื่องดังจริงๆ พอมาฉายยุคนี้เลยเจ๊งบ๊ง ขนาดเป็นข่าวยังได้แค่ 7แสน ถ้าไม่เป็นข่าวคงไม่ถึง 2แสน

103 Nameless Fanboi Posted ID:f.5erStHXe

อาไพโรจน์นี่เป็นตัวอย่างที่ดีของคนยุคเก่าที่มีความเชื่อฝังหัวแล้วไม่ฟังใครเลย
ปรกติการทำหนังมันต้องไปขอเงินนายทุน หรือมีนายทุนให้เงินมาทำ แกบอกว่าต้นทุน 30 ล้าน
ถ้าไม่มีคนดูจะล้มละลาย แปลว่าแกไปกู้ธนาคารมาทำ ซึ่งแม่งโคตรเสี่ยง เอาสมบัติที่หามาได้ทั้งชีวิต
มายื่นกู้กับธนาคารเป็นสิบๆล้านแบบนี้ กูว่าตอนแรกแกก็ไม่อยากเสี่ยงชีวิตขนาดนี้หรอก
คงเขียนบทแล้วไปเสนอค่ายหนัง แต่ก็โดนค่ายหนังปฏิเสธกลับมาหมด
แกควรรู้ตัวตั้งแต่ตอนนั้นแล้วอ่ะ ว่านายทุนใหญ่ๆในวงการหนังไทย มีประสบการณ์เยอะ
มีความรู้เรื่องธุรกิจมากกว่าแก ยังปฏิเสธ แปลว่าเค้ามองออกว่าหนังมันไม่ทำเงิน

ที่แกทำต่อ กูขอเดาใจแกว่ามาจาก 2สาเหตุหลักๆ คือแกคิดง่ายเกินไปและตามโลกไม่ทัน
คิดง่ายเกินไปนี่คือ แกคิดว่าวัยอลวนเป็นหนังดัง ที่วัยรุ่น(ยุค70-80) ดูกันทั่วบ้านทั่วเมือง
ถ้าทำภาคต่อวัยรุ่นยุคนั้นที่ตอนนี้แก่มากแล้ว จะพาลูกพาหลานมาดูย้อนความหลัง
รายได้จากแฟนคลับรุ่นเก่า+ลูกหลานแฟนคลับ+คนดูหน้าใหม่ที่มาดูเป็นครอบครัว
อย่างน้อยก็คงไม่ขาดทุน ซึ่งตอนนี้เราเห็นแล้วว่าแกประเมินผิด
และอีกข้อคือ แกตามโลกไม่ทัน หนังใหม่แต่บทรูปแบบเดียวกับเมื่อ 40ปีที่แล้วมาขายยุคนี้
มันยากแล้ว ต่อให้ฉายก่อนโควิทก็คงได้ประมาณ 10กว่าล้านอ่ะ
แต่พอโควิทมาไปเร่งพฤติกรรมคนดูให้เลือกดูจากสตรีมมิ่งมากกว่าเข้าโรงหนังเลยจบเลยทีนี้
กูว่าสิ่งที่แกควรทำหลังรายได้ไม่ตรงเป้า ไม่ใช่แค่โพสคลิปอ้อนวอนให้คนช่วยดู
แต่ควรรีบเจรจากับพวกเว็บสตรีมมิ่งขายลิขสิทธิ์หนัง อย่างน้อยก็ชดเชยการขาดทุนได้บ้างแหละ

104 Nameless Fanboi Posted ID6:FSIqRxEjCv

>>103 เรื่องทำภาคต่อ เห็นข้างบนบอกว่าอาไพโรจน์แกไม่ชอบภาค 4 เพราะ เหมือนจะไม่กินเส้นกับทีมงาน ถ้าจำไม่ผิดภาค 4 GTH ร่วมทำ แต่ว่าไม่มีการถูกทำในสตรีมมิ่ง แถมภาค 5 ก็ไม่กล่าวถึงลูกของตั้มและโอ๋เลย เลยทำภาค 5 เพื่อเหมือนจะแก้ปมเรื่องนั้นไป
แต่ก็อย่างว่า แกไม่ทันโลก ไม่รู้ว่าคนดูเค้าปรับพฤติกรรมการรับชมจากช่องทางอื่นๆ ที่ไม่ใช่พวกรับชมจากช่องทางธรรมชาติ ต่อให้ทำโปรดักมาดีแบบนี้ก็เถอะ

105 Nameless Fanboi Posted ID:f.5erStHXe

>>104 พูดถึงภาค4 ต่อให้แกไม่ถูกกับทีมงานจริง แต่อย่างน้อยแกต้องมีข้อมูลรายได้นี่หว่า
คือแกควรจะรู้ว่าถ้าทำภาค5 มันเสี่ยงขนาดไหน เพราะภาค4 เองกูจำได้ว่ามันก็ไม่ใช่หนังทำเงินอะไรขนาดนั้น หรือแกคิดว่าที่ภาค4 รายได้ไม่สูงเพราะไม่ยอมทำตามแนวทางของแก
ถ้าทำตามที่แกคิดเอาเองคนเดียว รายได้ต้องเยอะแน่ๆ แฟนคลับภาคเก่าๆ 1-3 ต้องพาลูกพาหลานมาดูภาค5 คงเพราะแกคิดแบบนี้รึเปล่าวะถึงได้กล้าทำภาค5 ทั้งที่ไม่มีนายทุนใหญ่หนุนแล้วจนต้องกู้เงินมาทำเอง

106 Nameless Fanboi Posted ID6:FSIqRxEjCv

>>105 ภาค 4 รู้แค่ว่ารายได้ไม่ดี เพราะดันไปชนหนังต้มยำกุ้ง และเหมือนแกจะแทรกแซงการทำงานบางส่วน อารมณ์ประมาณแบบวินหรือเดอะร็อคนี่แหละ ที่ต้องให้บทเป็นแบบตามแกต้องการ แถมตัวผู้กำกับภาค 4 ยังบ่นว่าต้องทำหนังแนวสำหรับรุ่นใหญ่อีก

107 Nameless Fanboi Posted ID:jRJRECuSCt

>>105 อีโก้สูง คิดอะไรง่าย ๆ ไม่ดูสถานการณ์
คิดว่าทำหนังตลก รัก ๆ แล้วเดี๋ยวก็ขายได้

108 Nameless Fanboi Posted ID6:/lk4IPQJs.

>>106 https://mgronline.com/entertainment/detail/9480000106618
เรื่องเกี่ยวกับภาค 4 แป้ก

109 Nameless Fanboi Posted ID:f.5erStHXe

>>108 มนต์ขลังตั้มโอ๋น่ะยังมีอยู่แต่คนรุ่นนั้นเขาไม่ออกมาดูหนังแล้ว
โห ไม่รู้ว่า ผกก พูดแก้เขินรึเปล่านะ คือคนที่เคยอยู่ในยุครุ่งเรืองไม่ออกมาดู
มันก็แปลว่ามนต์ขลังมันจบไปแล้ว

110 Nameless Fanboi Posted ID:rn78aOM.+U

ภาคเก่าๆมันฮิตขนาดนั้นเลยเหรอวะกูเกิดไม่ทัน แต่สมัยนั้นก็น่าจะมีหนังฝรั่งระดับเทพๆฉายเยอะนะ หนังตลกไทยๆ มันจะดังแข่งได้ขนาดนั้นเชียว?

111 Nameless Fanboi Posted ID6:gtCtvFvfEG

>>110 ยุคนั้นหนังไทยบูม เพราะรัฐบาลสมัยก่อนมันมีนโยบายเกี่ยวกับภาษีการนำเข้าสื่อต่างประเทศไว้ ทำให้ราคาในการนำเข้าในขณะนั้นแพงมาก จนบางที่ต้องแอบเอาหนังไปฉายลอบเข้ามาฉายโดยไม่รับอนุญาต ยกตัวอย่างก็สตาร์วอร์ส ที่มีโปสเตอร์ชื่อเรื่องว่าสงครามชิงจ้าวโลกนั่นแหละ

112 Nameless Fanboi Posted ID:soh8OxPWIo

>>110 มีครับ เพราะความนิยมในภาพยนตร์ไทยมีมากอยู่
แต่ตอนนี้กระแสเปลี่ยน ทั้งเรื่องการดรอปคุณภาพหนังไทย ในขณะที่เข้าถึงหนังคุณภาพจากชาติอื่นมีมากขึ้น

113 Nameless Fanboi Posted ID:fpeOf7x2fW

วงต้องห้ามตอนนี้ไม่มีหนังแสดงกันแล้วหรอเงียบเลย

114 Nameless Fanboi Posted ID:kVurH075jj

ยุค 2510-20s นี่เห็นพวกพระเอก-นางเอกตัวท๊อปๆแม่งเล่นหนังปีนึงเป็นหลายสิบเรื่อง

115 Nameless Fanboi Posted ID6:pBsk/Cqo+K

https://youtu.be/dw3ythAfXUg
ไปดูคลิปสัมภาษณ์ของแก ดันเอาเจมส์บอนด์มาเป็นตัวเทียบ ประทานโทษ เจมส์บอนด์ทำหนังหลายภาค แต่เค้าเปลี่ยนตัวนักแสดงตามภาคที่กำหนดไว้นะ
แต่ดูคอมเม้นในคลิป หลายคนเสียงเดียวกันว่าไม่สนุก แถมวิจารณ์ตัวเนื้อหาด้วยซ้ำ

116 Nameless Fanboi Posted ID:0Zget7gE4H

>>114-115 อืม ไม่แปลกใจว่ะที่ทำไมแกมั่นออกมั่นใจขนาดนั้น แกเกิดและโตมากับยุครุ่งเรื่องของหนังไทย
หนังที่แกเป็นพระเอก วัยรุ่นไทยดูแล้วร้องเพลงในหนังได้ คลิปใน >>115 แกเลยพูดด้วยความมั่นใจว่า
ต่อให้ทำภาคต่อถึงวัยรุ่นยุคนี้ไม่รู้จัก แต่ก็เป็นหนังครอบครัว พ่อแม่ที่โตมาในยุคนั้นอาจจะพาลูกพาหลานมาดู
เหมือนในหัวแกยังอยู่ในปี 2520 แถมพาลคิดว่าไปวัยรุ่นยุคนั้น(คนแก่ในยุคนี้)ก็ยังไม่ลืมหนังเรื่องวัยอลวน
ถ้าทำหนังตามที่แกคิด แฟนคลับเก่าๆต้องพร้อมใจกันออกมาดูแน่ๆ ด้วยความมั่นใจขนาดนี้
เลยกลายเป็นสาเหตุของความฉิบหายในชีวิตเลย กู้มาทำหนังเป็น 10 ล้าน แต่ขายไม่ออก รอล้มละลาย

117 Nameless Fanboi Posted ID:Sk.YIJiu7/

ตั้งแต่โควิดมาทั้งหนังไทยละครไทย เริ่มจะเสียคนดูเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ก่อนโควิด จะมีปรากฏการณ์ละครไทยที่กระแสดีจนคนพูดถึงกันทั่ว
แต่ทุกวันนี้ละครไทยแทบจะไม่มีพื้นที่ในสื่อหลักแล้ว ในโซเชียลก็มีแต่กระแสซีรี่ย์เกาหลี
ซีรี่ย์ตะวันตก หนังไทยก็สภาพไม่ได้ดีไปกว่ากัน จากยุค GTH ที่รับประกัน 100ล้าน
พอหลังโควิดหนัง GDH รายได้ไม่กี่สิบล้านก็มีให้เห็น

118 Nameless Fanboi Posted ID:saxvtAyYZz

แกกู้มาทำหนัง กู้มาก็ต้องคืน จะมารอเลื่อนอีกก็ไม่ได้ทุนก็จมไปอีก
อีกอย่างแกคงคิดด้วยว่า อย่างน้อยก็คงขายได้สัก 60-70 ล้านก้ยังดี
แต่ปีนี้กระแสหนังไทยตกตำ่จริง ๆ จากแต่ก่อนหนังไทยขี้หมู ขี้หมา ฟังฟาดเกือบร่้อยล้านด้วยซ้ำ
มาปีนี้หนังไทยแตะแค่ 10 ล้าน ยังหืดขึ้นคอด้วยซ้ำ

119 Nameless Fanboi Posted ID6:eLjN8fpN3N

>>117 ทางเลือกคนดูมันเยอะขึ้น
ถ้ามีเวลาว่าง 2 ชม.จะฝ่ารถติดซื้อตั๋วหนัง 200 ดูหนังไทย genre เดิมๆ หรือจะสั่งของมาแดกนั่งดู nf ที่บ้าน
กูว่าคนเลือกแบบหลังเยอะ

120 Nameless Fanboi Posted ID:3MLBTt65aA

เห็นกำลังจะเข้าโรงเลยลองดูตัวอย่าง
https://www.youtube.com/watch?v=giksYVyZo3g
อื้มมม ดูดีนะเนี่ย นานๆทีไปดูหนังรักดราม่าย้อนยุคแบบนี้ในโรงก็ไม่เลว
พอถึงมุขปิดท้าย อหหห ไอ้เหี้ยยยย หัวจวยยยย ไม่ดูแล้วโว้ยยยย เจ๊งๆไปไอ่สัส ดีนะที่ดูจนจบ เกือบเสียเวลาอันมีค่า 2 ชั่วโมงแล้ว

121 Nameless Fanboi Posted ID6:7XgZBWxNNB

>>120 หนังคนใต้ ฐานแฟนคลับน่าจะพอขายเฉพาะที่นั่น แต่เสียดายหนังเรื่องแรกที่เอกชัยกำกับ ยังไม่ได้ดูเลย สตรีมมิ่งเหมือนจะไม่มีให้ลง

122 Nameless Fanboi Posted ID:0HSd3.y5iR

สงสัยมานานแล้วว่าทำไมคนไทยคุ้นชินกับคนอีสานในสื่อมากกว่าภาคอื่นวะ
หนังภาษาใต้นี่เท่าที่กูนึกออกก็เจ๊งเป็นส่วนใหญ่ มหาลัยเหมืองแร่ที่บทดีๆ
แต่ก็เจ๊ง เหมือนกับว่าคนทั่วไปไม่คุ้นกับภาษาใต้ ไม่เหมือนภาษาอีสาน

123 Nameless Fanboi Posted ID6:PnXtZ9lNAC

>>122 คนใต้ไม่มีบทในสื่อไทยมากเท่าคนอีสาน

อย่างหนึ่งที่ดูเล็กๆแต่มีผลมากคือหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ-มหาสนุก มีการใช้ภาษาอีสานโดยนักเขียนบางคน(และมีคำแปลว่าคำนั้นคืออะไร) ทำให้คนที่โตมากับพวกนี้พอคุ้นชินบ้าง ภาษาใต้ไม่มีอะไรแบบนี้ อย่างมากก็มีในชินจังที่คนแปลภาษาคันไซโอซาก้าเป็นภาษาใต้

ว่าแต่ตอนนี้ยังมีคนอ่านขาย-มหาอยู่เปล่าวะ หรือตายไปแล้วเพราะเด็กเข้าถึงการ์ตูนยุ่นมากกว่า

124 Nameless Fanboi Posted ID6:cUbYebC6ym

>>123 ยังมีคนอ่านอยู่ แต่เปลี่ยนเป็นพวกออนไลน์แทนละ ออกเล่มแค่บางโอกาส

125 Nameless Fanboi Posted ID:TL..sYOTwz

>>123 รุ่นเก่าๆเลิกเขียนไม่ก็จากไปหลายคน พยายามเปิดใจอ่านงานรุ่นใหม่ที่มาแทนก็ดูว่ายังเทียบรุ่นเก่าไม่ได้

126 Nameless Fanboi Posted ID6:v0C.SRUBDB

>>123 โม่ง ไอขายหัวเราะ ,สาวดอกไม้ฯ, มหาสนุก ถ้าคนที่ทำงานในวงการเกือบทุกคนยังสุขภาพดีไม่มีใครตายนะ กูว่ามาบุกเว็บตูนได้เหมือนกัน แต่บางทีคนมันไม่ปรับตัว ไม่งั้นก็ไปเป็นสลิ่ ม เลย ก็นั่นแหละเลยไปตามกาลเวลา แล้วหนังสือการ์ตูนแก๊กตลกพวกนี้นะ ที่เคยดังจนไปทำlive actionได้ก็หนูหิ่นแหละ และเป็นหนังสือที่มันเรียบเรียงภาษาอีสานบ้านๆมาให้คนภาคกลางเข้าใจง่ายไง คือเหมือนสอนผ่านการ์ตูนด้วยซ้ำ

127 Nameless Fanboi Posted ID:oTGZyjINim

เชี่ยยย หนังใหม่ GDH นักแสดงนำใหม่
น้องนางเอกน่าร้ากกกกก
https://www.youtube.com/watch?v=lQpe8emJE7M

128 Nameless Fanboi Posted ID6:6DmPz7l8SK

>>126 ถ้าพวกเรื่องยาวที่ลงเหมือนจะรวมเล่มแบบออนไลน์อยู่นะ ส่วนแก๊กสั้นๆ ลงในพวกสื่อโซเชียลแทน

129 Nameless Fanboi Posted ID6:bo+Q2NzZO/

>>127 น่ารักอย่างเดียว ยังไม่พอนะ ต้องรอดูฝีมือการแสดงด้วยว่าแสดงดีมั้ย จะสู้พวกไอดอลบางคนที่ฝีมือการแสดงระดับรางวัลได้หรือเปล่า

130 Nameless Fanboi Posted ID:r++tkElacK

>>127 เคยดูmvที่คนนี้เล่นอยู่ ก็น่ารักดี แต่พอเข้าไอจีไป ไม่ใช่typeกุเลย ยังกะคนละคน ใสแบ๊วในmvอยู่ไหน??

131 Nameless Fanboi Posted ID:+XOZL+xSfD

>>123-126 เคยอ่านบทสัมภาษณ์ของคนทำงานที่ขายหัวเราะอันหนึ่ง
เค้าบอกว่าจุดที่ขายดีที่สุดไม่ใช่ร้านหนังสือในห้างใหญ่ แต่เป็นตามสถานีขนส่งคน
พวกหัวลำโพง หมอชิต บขส ต่างจังหวัดอะไรพวกนี้ เมื่อก่อนขายดีมากชนิดเอาลง
แปบเดียวก็หมด เพราะสมัยก่อนไม่มีสมาร์ทโฟน เวลาคนนั่งรถกลับต่างจังหวัด
ก็ซื้อขายหัวเราะมาอ่านฆ่าเวลา พอมีสมาร์ทโฟน การ์ตูนแก๊กสั้นๆแบบนี้หาอ่าน
ตามเพจเฟสบุ้คได้ ขายหัวเราะมันเลยค่อยๆหายไป

พูดถึงเรื่องนี้แล้วก็นึกถึงวงการหนังไทยอ่ะ สมัยวัยอลวนภาคแรกเข้าฉาย
ตอนนั้นมันไม่มีคู่แข่ง เป็นสื่อบันเทิงเรื่องเดียวในยุคนั้นที่เจาะตลาดวัยรุ่นไทย
มันเลยดังแล้วทำเงินได้ ซึ่งผิดกับวัยอลวน5 ที่วัยรุ่นไทยยุคนี้มีทางเลือก
ในการชมสื่อบันเทิงเยอะ เกมส์ หนัง ซีรี่ย์ต่างประเทศ อนิเมะ ไลท์โนเวล มังงะ
แต่อาไพโรจน์แกยังคิดแบบเดียวกับเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ว่าถ้าทำหนังตลก เน้นครอบครัวซักหน่อย
ยังไงก็ขายได้ แต่ความจริงคือตัวหนังมันตกยุคไปแล้ว ถึงได้เจ๊งแบบนี้

132 Nameless Fanboi Posted ID6:lFZbtNRX.N

>>127 ใครที่ดูภาพพวก ผ่าครึ่งกลาง ไส้ ไม่ได้ ไม่แนะนำนะครับ เตือนแล้ว

133 Nameless Fanboi Posted ID:ZvruNg21nc

>>132 มันหนังรักนี่หว่า จะมีฉากโหดผ่าครึ่งไส้ไหลเหรอวะ

134 Nameless Fanboi Posted ID6:.eyZP5X3zi

>>127 ไม่เห็นน่ารักเลย กูไม่ชอบจริตตอนพูดอย่างตอนกินซาลาเปาบนรถมันดูประดิษฐ์พูดยานๆยังไงไม่รู้
ตอนเต้นไทรอัมคิงด้อมก็แปลกๆชุดมันดูยังกับผ้าถุง ไม่หอมเลย
ส่วนเรื่องพล็อตถ้ามาแนวหนังฟีลกู้ด coming of age ทั่วไปจะธรรมดามาก แต่ก็มีคนเก็งกันไว้ว่าอาจจะพลิกมาแนวสยอง

135 Nameless Fanboi Posted ID6:lFZbtNRX.N

>>133 ฉากฉีกซาลาเปาจนแบ่งครึ่ง จนเห็นไส้ข้างใน มีไข่ด้วย

136 Nameless Fanboi Posted ID:ok3FuLTK/R

https://www.facebook.com/287876901402155/posts/pfbid02KFzHxFA1ABGFJRfnKEzhXhDLn7EyCpRZ9R1HuhVzN9DCaNmbw8xjd2rKnwQzV6Fql/?app=fbl
เริ่มปีมาก็เห็นแววเจ๊งของหนังไทย ไอ้ไข่นี่พอเข้าใจนะว่าหนังมันแย่ แต่สะพานรักนี่เป็นหนังรักที่พอจะขายได้ในกลุ่มวัยรุ่นดันเจ๊งยิ่งกว่า ขนาดวันหยุดยังทำได้แค่สองแสน

137 Nameless Fanboi Posted ID6:n+6/A4XRkx

ยุคนี้หนังไทยมีแต่กากๆหาดีน้อย ด้วยราคาตั๋วที่ราคาเดียวกับหนังนอก คิดว่าคนดูมันจะเลือกไปทางไหนล่ะ

138 Nameless Fanboi Posted ID:MMAMjoL4rl

>>137 ก่อนโควิดมันไม่ขนาดนี้นะ อย่างน้อยก็ 1-2 ล้าน ช่วงเปิดตัว
ส่วนหนัง ตปท ถ้าไม่ใช่เรื่องดังจริงๆ สภาพก็ไม่ค่อยต่างจากหนังไทยเท่าไร
อย่าง Woman King นี่เป็นหนังแอคชั่นรายได้ยังไม่ถึง 5 ล้านเลย

139 Nameless Fanboi Posted ID6:zR3uEUu0TQ

กูเคยอ่านงานวิจัยเรื่องอุตสาหกรรมภาพยนต์ไทยแบบผ่านๆ ถ้าจำไม่ผิดปี60รายได้หนังตปทมีสัดส่วนอยู่ราวๆ90%ของทั้งหมด ประมาณสี่พันล้านบาท หนังไทย500ล้าน ปี63รายได้จากการฉายหนังไทยเหลือประมาณ300ล้านเองแต่หนังตปท8-9พันล้านบาท คนไม่ได้ดูหนังลดลงนะ แต่กูว่าเพราะการเข้ามาของสตรีมมิ่งคนมันเลยเลือกดูหนังตปทในโรงแล้วดูหนังไทยแบบสตรีมเอา

140 Nameless Fanboi Posted ID6:x4991c+gZO

>>137 ราคาตั๋วคือเหตุผลที่ทำให้คนเข้าไปดูหนังที่โรงหนัง ไม่ใช่กลุ่มใหญ่
ลองย้อนไปดูช่วงที่โรงหนังมีโปรฯ 69 บาทสิ คนแม่งล้นโรงเลย คนทุกกลุ่มที่สู้ราคาตั๋วถูกๆนี้ได้ พวกเขาก็มาดูกัน

141 Nameless Fanboi Posted ID:KbBUr5hOXt

>>140 ไม่เถียงเรื่อง ราคาตั๋วหนังไทยแพง
แต่เรื่องการราคาตั๋วไม่ค่อยมีผลกับการซื้อหนังเท่าที่ควรแล้ว เพราะปัจจัยสตีมมิ่งเข้ามาด้วย

ขนาดวัยอลวน ตั๋ว 99 บาทคนก็ไม่ใช่ว่าจะดูเยอะ เทียบกับหนังเกรด puss in boots , Megan ราคาเต็มคนยังดูเยอะกว่าอีก ถอยไปนานหน่อย ใจฟูสตอรรี่ ขนาดตั๋วหนัง 39 บาท คนยังไม่ค่อยไปดูเลย กลายเป็นหนังโรงขนาดตั๋วแพงกับของมีเกรดที่มีการแถมของยังขายได้มากกว่าอีก อย่าง วันพัซ โดราเอม่อน

142 Nameless Fanboi Posted ID:ebaQ.lo0+2

>>141 ราคา39มันก็ไม่ได้มีทุกโรงอ่ะ ส่วน99ส่วนตัวกุยังแอบคิดว่าแพงไป

143 Nameless Fanboi Posted ID:HJOnw+vufo

พอสตรีมมิ่งเข้ามาทำตลาดเต็มตัว หนังไทยฉายโรงลงสตรีมมิ่งเร็วมากเลยนะ โดยเฉพาะเรื่องที่รายได้น้อย เหมือนพอรู้ว่าเจ๊งก็รีบขายลิขสิทธิ์ให้พวก Netflix เพื่อให้ขาดทุนน้อยที่สุด ที่นี้มันเลยกลายเป็นว่าคนดูหนังไทยเลยคิดว่าไม่ต้องรีบดูในโรงก็ได้ รอไม่กี่เดือนก็ฉายลงสตรีมมิ่ง ทีนี้ก็ Loop นีก หนังไทยฉาย คนดูไม่รีบดู หนังขาดทุน รีบขายลง Netflix คนดูพอใจกับการดูผ่าน Netflix พอมีหนังไทยเรื่องใหม่ลงโรงก็จะคิดแบบเดียวกันแล้วก็วนลูป

144 Nameless Fanboi Posted ID6:gUNy/z2I56

>>140 ราคาตั๋วหนังก็มีผลแหละ แต่ไม่ได้มากขนาดนั้น เพราะถ้ารายได้จากหนังตปทมันพุ่งมา2เท่าได้แต่หนังไทยรายได้ลดแสดงว่าคนส่วนมากยอมจ่ายเพื่อดูหนังตปทเท่านั้น(ตั๋วหนังตปทมันไม่ได้ถูก) แต่ไม่ได้ยอมจ่ายเพื่อหนังไทย

145 Nameless Fanboi Posted ID6:qZ7Al+Wlm2

สมัยเรียนมัธยมเข้าออกโรงหนังบ่อยช่วงปี2549-53 คือหนังไทยยุคนั้นก็ดูสนุกดูเพลินๆอยู่นะแต่พอช่วงไม่กี่ปีมานี้ยันล่าสุดเวลาเข้าโรงแล้วเห็นตัวอย่างหนังไทยก็ไม่มีความรู้สึกอยากดูเลยแนวทาง มุกอะไรพวกนี้มันดูซ้ำซากหรือไม่พัฒนาจากสมัยก่อนเลย

146 Nameless Fanboi Posted ID:Zc3bz8Maw+

ส่วนนึงเพราะมุกแนวsh มันขายยากบวกต่อให้มึงจะชอบก็พูดออกมาตรงๆไม่ได้เลยจะโดนตราหน้าว่าแย่ ทำให้เลือกดูเรื่องอื่นที่สามารถเอามาพูดคุยได้ง่ายกว่าด้วยมั้ง

147 Nameless Fanboi Posted ID:GsY2ocjYDd

ทิดน้อยเปิดตัวที่ 1.6ล้าน ไอ้ไข่ยังไม่ถึงล้านได้ 8แสนกว่า
ส่วนสะพานรักนี่เจ๊งยิ่งกว่าวัยอลวน5อีก รายงานรายได้ที่ 1.9แสน
พอมาอาทิตย์นี้ไม่มีรายงานแล้ว สงสัยถูกถอดออกจากโรงไปแล้ว

148 Nameless Fanboi Posted ID:edjycCJs0C

เดี๋ยวนะ คนไทยสมัยก่อนใส่สไบเขามีสวมคาดอกไว้ข้างในก่อนชั้นนึงด้วยเรอะ บางทีเห็นมีใส่บราด้วย

149 Nameless Fanboi Posted ID:sH1Eh.U6XL

รีวิว where we belong หน่อย

150 Nameless Fanboi Posted ID6:rvGGrUupuY

กลุ่มนิยมอาร์ตไทยปกติรณรงค์ต้านเหยียดคน แต่แฟนหนังอาร์ตไทยแม่งเหยียดคนไทย แบบใช้คำว่าMedia Literacyต่ำที่ไม่ชอบหนังอาร์ตไทย ย้อนแย้งชิบหาย

151 Nameless Fanboi Posted ID:eSkmfXaebj

>>150 พูดยังกับทำหนังระดับเควนติน โนแลน​ ยังต้องกราบ​ โคตรหลงตัวเองสัสๆ

152 Nameless Fanboi Posted ID6:iogUkWAvQF

>>150 ที่มึงเจอน่าจะเป็นพวกเห่อห...มอยอ่ะนะ

153 Nameless Fanboi Posted ID:M3dQbybSBP

>>150 ถ้าเจอคนที่ผลักดันวงการนี้จริงๆเค้าไม่พูดอย่างนั้นกันนะเท่าที่กุอยู่ส่วนใหญ่คือพยายามบอกให้คนเปิดใจ แต่ส่วนใหญ่พวกที่บ่นแบบนั้นคือพวกที่พึ่งเข้ามาแล้วคิดว่าตัวเองเจ๋งที่ดูหนังไม่เหมือนใคร บางคนเห็นอวดรู้จัดๆ พอกุถามถึงหนังที่ย้อนไปไม่ถึงสิบปียังตอบไม่ได้เลยว่าคือหนังอะไร

154 Nameless Fanboi Posted ID6:oMp27ccITy

>>153 เด็กเห่อห มอยก็แบบนี้ เพิ่งได้ดูหนังแบบนี้แล้วคิดว่าตัวเองเจ๋งกว่าใคร

155 Nameless Fanboi Posted ID:5.ybFS0tmZ

>>153 คล้ายๆวงการเพลง ตัวเองฟังเพลงอินดี้แล้วเพ้อว่ารสนิยมกุดี เหยียดคนฟังแมส แล้วพอวงอินดี้ที่ตัวเองฟังดันแมสก็จะเลิกฟังแล้วไปหาวงอินดี้อื่นแทน ชีวิตทำไมยากเย็นขนาดนั้น

156 Nameless Fanboi Posted ID6:/OwGw2JHND

มันก็พอกันแหละ เจอพวกบอกเบื่อละครไทย เบื่อละครจักรๆวงศ์ กูเห็นข้าวเหนียวทองคำ ด่ากันจัง ก็ไอสัส ก็คนทำอยากทำแบบนั้น เหมือนบอกโทคุญี่ปุ่นทำไมมึงไม่ทำแบบมาเวล คนที่ชอบของเค้าก็มี หรือละครเกาหลีก็น้ำเน่าไม่ต่าง

เรื่องรายได้หนัง กูเทียบตารางทุกสัปดาห์ ต่อให้หนังต่างประเทศแต่เบอร์ไม่ใหญ่ ก็ไม่รอด

แล้วเรื่อง Media Literacyต่ำไหม ก็ต้องพูดว่าต่ำจริงๆ ยกตัวอย่าง หนังโง่ง่ายๆ จบออกมา แม่งออกมาคุย การรับรู้ แม่งไปคนละเรื่อง แม่งยังมี

157 Nameless Fanboi Posted ID6:/OwGw2JHND

กูไปย้อนดูเรื่อง คน ไฟ บิน มา ไอสัส แม่งมาสเตอร์พีชเหี้ยๆ ทำไมตอนที่ฉายถึงไม่ประสบความสำเร็จวะ หรือไปเทียบกับโทนี่จา กูชอบการดีไซน์

เอออีกเรื่องที่คาใจ เจ็ดประจัญบานภาค 1 มันสงครามเวียดนาม ไหม ภาค 2 เสือกสงครามโลกครั้งที่ 2 วะ

158 Nameless Fanboi Posted ID6:gW8MVdCQnf

>>157 คิดเหมือนกูเลย เดี่ยว ชูพงษ์ นี่ดูน่าจะไปได้ไกลกว่านี้อีก ทั้งจากเกิดมาลุย ทั้งคนไฟบิน 2 เรื่องนี้แม่งโคตรสุดกว่าหนังจาอีก ทั้งเนื้อเรื่อง ทั้งแอคชั่น

159 Nameless Fanboi Posted ID6:tSY6.NYqm5

เดี่ยว ชูพงษ์ เมื่อก่อนดังอยู่นะ ทุกวันนี้แกยังรับงานในวงการบันเทิงอยู่เน้นพวกหนังละครบู๊แอคชั่น
อีกคนที่น่าเสียดายก็จีจ้า ญาณิน เหมือนเคยจะปั้นเป็นดาราบู๊หญิง แต่นางมาท้องมีลูกเลยเลิกเล่นไปแล้ว

160 Nameless Fanboi Posted ID:4DwKDbmRL8

>>156 โทคุญี่ปุ่น ละครเกาหลี มันก็มีแบบน้ำเน่าไร้สาระกับแบบซีเรียสๆแล้วแต่เรื่องไง กูดูเกาก็ได้ทั้ง2อย่าง นี่ไม่นับทุนโปรดักชั่นอะไรนะ เอาแต่เนื้อหาก็เทียบไม่ติดอยู่ดี ของไทยแม่งขยะ แบบซีเรียสทำไม่ได้ติดโน่นติดนี่ไปหมด

161 Nameless Fanboi Posted ID:3n5XzafFLc

>>157 เหมือนหนังมันหนักวัฒนธรรมบางอย่างเกินไปจนบางทีคนที่ไม่อินกับประเพณี เลยไม่สนใจ บวกความที่หนังเล่าย้อนยุคเลยดูเชยมั้ง แต่ตอนกุดูก็ชอบนะ

162 Nameless Fanboi Posted ID6:tSY6.NYqm5

>>161 กูนึกถึงฟ้าทะลายโจรเลยว่ะ เรื่องนี้ก็สนุกนะ แต่สมัยก่อนยี้เพราะดูเชยล้าสมัย พอหลายปีผ่านไปคนเสือกชอบเรื่องนี้เฉย ซึ่งเรื่องนี้คนกำกับหนังแกตั้งใจจะทำหนังไทยสมัยเก่ามาแล้วตั้งแต่ไอ้ฉากพื้นหลังวาดภาพก็อิงจากหนังไทยสมัยเก่าโดยตรง

163 Nameless Fanboi Posted ID:62+tlhR5vv

>>160 ละครเกาหลี คุญป ผิดอะไร เมิงเหมือนไดโนเสาร์นะที่ไม่ยอมตายจากโลก
หนังไทยที่ไปดูโรงคงมีแต่ พระนเรศวร ก้านกล้วย องค์บากต้มยำกุ้ง มากกว่า
อย่างจอห์น วิก ก็ลอก องค์บาก ไปแต่เวอชั่นดีกว่า ก็ดังทั่วบ้านทั่วเมือง แต่คนไทยไม่ต่อยอด และคิดจะทำหนังอินดี้ ไม่ได้สนใจตลาด
ไม่แปลกใจที่มันจะหายไปตามกาลเวลา

164 Nameless Fanboi Posted ID6:E6vQ.9mtXv

>>162 ฟ้าทะลายโจร ตอนฉายไทยตอนแรกไม่ประสบความสำเร็จ กระแสเงียบ แต่ตัวหนังได้ไปฉายต่างประเทศแล้วดัง ได้เอาไปฉายงานเทศกาลหนังดังๆด้วยมั้ง แล้วเป็นข่าวดังได้รับความสนใจ จนทำให้คนไปดูกัน พอหนังเริ่มมีกระแสอีกครั้ง พวกดาราที่แสดงก็เริ่มได้ไปออกรายการวาไรตี้ต่างๆ ยิ่งทำให้คนสนใจมากขึ้น มีสาระแน กับรายการที่มีโชว์ตลก เอามาล้อด้วยมั้ง ถ้าจำผิดก็ขออภัย
ที่น่าจดจำคือ โฆษณาจะมีคำโปรยขึ้นมา "รักซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศ" เป็นฟ้อนตัวหนังสือแบบโบราณๆ

165 Nameless Fanboi Posted ID6:DmFvcyvKoU

รอโม่งรอบสื่อรีวิวหนัง GDH

166 Nameless Fanboi Posted ID6:Xr0xP1eTCe

เราจะทอดทิ้งอีกบุคลิกนึงที่อยู่กับเรามาตั้งแต่เกิดได้เพียงเพราะผู้ชายคนเดียวอย่างนั้นหรือ

167 Nameless Fanboi Posted ID6:Cwu7JclH1h

>>166 ทำไมไม่สวิงกิ๊งกัน เดี๋ยวนี้ใครๆก็สวิง

168 Nameless Fanboi Posted ID6:OOuQJLT5K3

สวง สวิงอะไร ไปดูหนังหรือยัง?

169 Nameless Fanboi Posted ID:UkFhENzTek

>>168 สปอยมาดิ

170 Nameless Fanboi Posted ID:gC1g.Z9Ss+

อ่านรีวิวเธอกับฉันกับฉันใน pantip
เอาซะไม่อยากดูเลย (จะอยากดูตรง
ยกทรงน้องนางเอกนี่ละ555)

171 Nameless Fanboi Posted ID:gC1g.Z9Ss+

>>170 >>165
https://pantip.com/topic/41864939

172 Nameless Fanboi Posted ID:gC1g.Z9Ss+

>>171 กูไปตามอ่านมู้อื่นของ เธอกับฉันฯ มา
เสียงรีวิวหนักไปทาง แย่ มากกว่า ดี ว่ะ
เสียดายเทรลเลอร์อย่างดี
https://pantip.com/topic/41864013

173 Nameless Fanboi Posted ID6:uKEip1l5hf

ทำหนังแย่ลงเรื่อยๆ เลยวุ้ย

174 Nameless Fanboi Posted ID:6xDt8zy7Ks

>>172 นางเอก 11รด สินะ
เทียบกับทาคากิ ขนาดรักพระเอกมาก ยังไม่ 11รด ขนาดนั้นเลย

175 Nameless Fanboi Posted ID6:AV8iRA+8E0

>>172 ดูตัวอย่างกูก็รู้ละว่าห่วย มึงติดแบรนด์เกินเห็นว่าค่ายใหญ่แล้วหนังจะดีไง

176 Nameless Fanboi Posted ID6:K37BVLAt5i

รีวิว+สปอยจากหนอนหนัง
https://youtu.be/0jfSZQeB8YI

177 Nameless Fanboi Posted ID6:K37BVLAt5i

เธอกับฉันกับฉัน จากการรีวิวของคนทั่วไปแล้ว ที่ไม่ใช่เพจรีวิวแล้ว
ตัวบทธรรมดา ค่อนข้างน้ำเน่า ส่วนการแสดงทำได้ไม่ค่อยดี ค่อนข้างแข็งในหลาย ๆ ฉากด้วย

178 Nameless Fanboi Posted ID:t54A9GpuWc

มึงมาดูตำนานของจริง แก๊งแฟนฉัน
เด็กผู้หญิงในเรื่องโตมานี่อย่างแจ่มเลยว่ะสาส
https://www.youtube.com/watch?v=zi6EtJBSWC0
เธอกับฉันกับฉันนี่ ทำไมไม่เดินตามรอยหนังรุ่นพี่
ทำมีพรรคพวกเป็นแก๊งเด็กยุค y2k
แล้วไอ้ y2k ก็มีหลอกในเทรลเลอร์หน่อยนึงมั้งเห็นคนรีวิว
ในหนังแทบไม่มีอะไรเลย แถม Y2k ก็ดูปลอมๆ
y2k ยุค2000 วัยรุ่นเขาไม่อ่านเธอกับฉันกันแล้วมั้ง
ตอนนั้นน่าจะหนังสือ Ice- Katchup พวกแนวแฟชั่นสตรีทแถวสยามไรงี้มากกว่า

179 Nameless Fanboi Posted ID6:ORk9UEtU/J

สปอยแบบละเอียดๆให้กุหน่อยได้ไหมเพื่อนโม่ง ฉันกับฉันเหี้นไรน้้นอ่ะ

180 Nameless Fanboi Posted ID:pLGXWwr7E8

ถ้าจะเล่นกับยุค y2k ยุค2000 ต้องมีละครญี่ปุ่นด้วยสิ ยุคนั้นเกาหลีไม่ได้ขี้ตีนเลย
https://www.youtube.com/watch?v=KsCfbdYcuJ0

181 Nameless Fanboi Posted ID6:cixVaXC/qn

https://youtu.be/uFjEOLM8SjM
รีวิว ทิดน้อย โดย จันเรด

182 Nameless Fanboi Posted ID:oa34Pf0/qP

>>180 มันมีความเป็นเกาเหลาในหนังด้วยเหนอวะ

183 Nameless Fanboi Posted ID:oa34Pf0/qP

แต่สมัยy2k กูเห่อเพลงร็อค นูเมทัล อิทธิพลเมกา และญี่ปุ่นแรงมาก เธอกับฉันกับฉันนี่อย่างกะยุค2500ไอสัส หรือE3มันไม่เจริญเลยเป็นงี้เหรอ ปลกูก็คสต่างหวัด

184 Nameless Fanboi Posted ID6:FGg.TolNFx

>>183 อีสานตอนยุค 1999 2000 ไม่เจริญแบบตอนนี้หรอก สมัยก่อนโรงหนังเป็นโรงหนังแบบสแตนอโลนไม่ใช่ของในเครือ เมเจอร์ หรือ SF ที่ปัจจุบันครองเมืองทุกจังหวัด

185 Nameless Fanboi Posted ID:3nxsAvEwEV

>>183 Limp bizkit , koRn, Linkin park กำลังดังช่วงนั้น

186 Nameless Fanboi Posted ID6:NoMDHHK14c

เบื่อหนังเบียวๆนักแสดงโอเวอร์แอคติ้งแบบนี้ว่ะ พอคนไม่ชอบก็หาว่าไม่มีรสนิยม
https://youtu.be/Q-fd7m5Kc7U

187 Nameless Fanboi Posted ID:ML2.f8Y5Ik

https://pantip.com/topic/30637378
ตำนาน gth

188 Nameless Fanboi Posted ID:xpFR9hw7g6

>>186 แหม่ ทำซาวน์แบบหนังสยองฮอลลีวู้ดสมัยนี้ด้วยนะ

189 Nameless Fanboi Posted ID:xpFR9hw7g6

กูดู trailer ฉากเต้นเพลงไทรอัมคิงด้อมแล้วรู้สึกเหม็นหว่ะ ทำไมรู้สึกแบบนั้นวะ

190 Nameless Fanboi Posted ID:RIxselogxZ

>>183 >>184 ดำเนินเรื่องที่อีสานนี่ตัวละครพูดอีสานกันมั้ยวะ

191 Nameless Fanboi Posted ID6:hTrm8vczxC

>>190 มีๆ อยู่ในฉากบ้านฝั่งยายของยูและมี
ว่าไปแล้ว เรื่องนี้ ตัดเรื่องการแอคติ้ง มีจุดที่อิหยังวะ อยู่ ตรงที่เรื่องบทของมาร์ค เหมือนใส่ในส่วนพาร์ทความรักที่ดูแล้วไม่จำเป็นเลย แต่ประเด็น Coming of Age พอมีน้ำหนักอยู่เยอะ แถมพ่อของพี่น้องแฝด เหมือนแอบไปทำงานร่วมกับแก๊งต้มตุ๋น เพราะมีฉากพูดว่า ไปทำงานขายบัตร Y2K ให้คอมกลับมาใช้งาน
ส่วนเซ็ตติ้งของเรื่องถึงจะบอกว่าเป็นยุค Y2K แต่จริงๆ มันคือยุค 1999 หรือยุคปลาย 90 นั่นแหละ เพียงแต่เอาองค์ประกอบมาใช้แค่นั้น

192 Nameless Fanboi Posted ID6:a4+/Ml1PpV

จากที่คนดูทั่วไปรีวิวกันมา หนัง gdh หลัง ๆ มานี้ ทั้ง บุพเพ2 วันสุดท้ายก็บายเธอ ร่างทรง ฉีกกฎทดลองผี รักจังวะผิดจังหวะ เธอกับฉันกับฉัน ไปไม่สุดเลยซักเรื่อง ยิ่งเธอกับฉันกับฉัน นักแสดงหลักถูกวิจารณ์เรื่องแอคติ้งที่ไม่ค่อยจะดีด้วย

193 Nameless Fanboi Posted ID6:Wz1elGvJ1L

>>192 ถ้าเรียงตามความแย่น้อยไปมากสำหรับกูนะ
One for by Road - พอสนุกได้แต่เดินเรื่องเฉื่อยไปหน่อย ตามสไตล์หว่อง กาไว
ร่างทรง - สนุก แต่บนบกตีความไม่แตกเรื่องคีย์เวิร์ดของคนในตระกูลว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้
เธอกับฉันกับฉัน - กลางๆ ตามที่กูบอก ไม่ชอบแค่บทพาร์ทความรัก ดูเหมือนทุบกำปั้นดิน แต่ความ CoA พอโอเค
บุพเพสันนิวาส 2 - เอาบทละครมายืดทำเป็นหนัง
รักจังหวะผิดจังหวะ - เบื่อรอมคอม
โกสต์แล็บ - บทเหี้ยอะไรเนี่ย ยัดอีสเตอร์เอ๊กหนังฝรั่งแบบฝืนๆ

194 Nameless Fanboi Posted ID6:vYAUK.0iZJ

>>193 หนังไทยยุคนี้ตัวเปรียบเทียบเยอะจากหนังในสตรีมมิ่ง ไทยเรฟหนังไหนมาคนดูรู้หมด
แล้วมีปัญหาที่บทไม่น่าสนใจ ไม่ใช่ว่าบทไม่ดีนะบทมันก็เล่าเรื่องรู้เรื่องสร้างความอินได้ระดับนึง แต่พล็อตมันเบสิคไปไม่น่าสนใจ
อย่างล่าสุดก็แค่หนังแฝดที่ชอบผชคนเดียวกัน พล็อตมันไม่ดึงดูดหว่ะ คนสมัยนี้ตัวเลือกเยอะมันต้องดึงดูดกว่านี้
พวกทำหนังเพลนๆพล็อตง่ายนำเสนอแบบเดิมๆขายยากแล้ว

ที่พอผ่านก็ได้งานภาพงานกำกับมาช่วย
วฟดร - งานภาพดี โปรดักชั่นดี แต่พล็อตค่อนข้างธรรมดาไปหน่อยตัวละครไม่เด่นเท่าหนังหว่อง
ร่างทรง - ไอเดียตีมหนังดี บรรยากาศโลเกชั่นดี
แต่ไม่ชอบตรงนำเสนอเหมือนว่ามีทีมงานตามถ่ายป้า แต่ถ่ายไปทั่วเก็บทุกชอตได้เฉย ช่วงท้ายเว่อวังไปหน่อยเลยไม่น่ากลัว

195 Nameless Fanboi Posted ID6:dSk/.7M9d6

พวกมึงลืม Fast and feel love ได้ไง กูว่าดีมากในยุคหลังของ GDH เลยนะ แต่คนดูไทยทั่วไปดูจะเข้าไม่ถึงเท่าไร

196 Nameless Fanboi Posted ID:fO2rPwXD3a

>>195 อันนี้พอโอเคแหละ แต่หนังแม่งไทร์อินบ้านจัดสรร แถมเล่า Coming of Age ในอีกวัยที่ควรจะเป็น

197 Nameless Fanboi Posted ID6:vYAUK.0iZJ

>>195 กูไม่ชอบ pace หนังสไตลส์เต๋อหว่ะ กูว่าเขาเขียนบทแบบเดิมจนหนังมันออกมาคล้ายกันทุกเรื่อง
กำหนดตีม ทำรีเสิซหาข้อมูล นำข้อมูลเกร็ดเล็กน้อยแปลกๆไม่ก็ข้อมูลตัวเลขมานำเสนอคนดู เช่น รู้หรือไม่ว่า บลาๆๆๆๆๆ
จริงๆแกผูกประเด็นหนังเก่งนะ อย่างการทิ้งของกับการตัดความสัมพันธ์ของมนุษย์ แต่วิธีนำเสนอน่าเบื่อไปหน่อย
กูว่าเขาเหมาะกับงานหนังโฆษณาสั้นมากกว่า

198 Nameless Fanboi Posted ID:LGlucvgmeK

>>195 เรื่องนี้กูชอบนะ ชอบความโอเวอร์แอคติ่งแบบอนิเมะญี่ปุ่นโชเนนจั๊ม
แต่จุดที่กูว่าดูแปลกๆมากที่สุดคือ ตอนญาญ่ามันอยากมีลูกแล้วพูดกับพระเอก
พระเอกมันก็ยังคงบุคลิกเดิมคือเป็นเด็กเนิร์ดพูดจาอ้ำอึ้ง "เออ...งั้นก็ทำเลยมั้ยล่ะ"
คือคนสองคนแต่งงานกันใช้ชีวิตด้วยกันในบ้านเดียวกัน มันจะไม่คุยเรื่องมีลูกเหรอวะ
อย่างน้อยตอน SEG กันถ้าญาญ่ามันอยากมีลูกก็น่าจะบอกว่าไม่ต้องใส่ถุงนะ อยากท้อง
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ ผกก ไม่อยากใส่ฉากบนเตียงรึเปล่าเลยเลือกที่จะให้ตัวละคร
มันพูดกันนอกเตียงแทน เลยดูแปลกๆไปหน่อยสำหรับกู

199 Nameless Fanboi Posted ID6:0BD2ZCzTdo

https://twitter.com/writeorst/status/1625710709568073729

200 Nameless Fanboi Posted ID:BlhhXWHlUt

>>195 Fast feel love กูก็ว่าดี แต่คนดูทั่วไปแม่งไม่ชอบกัน ถ้าไม่เก็ทพอยซ์พาโรดดี้ที่ใส่มา กับ คนดูทั่วไป บอก แข๊ง พูดประดิษฐ์

201 Nameless Fanboi Posted ID:BlhhXWHlUt

โฮมสเตย์ ตอนฉายมันก็โอเค แต่เทียบกับ GDH ยุคหลัง กลายเป็นดีไปเลย

203 Nameless Fanboi Posted ID6:zdhi3GnAGk

>>202 เม้นโทรลจากห้องเพลง แจ้งท่านเซินบลัส

204 Nameless Fanboi Posted ID6:igh7NiBW6w

https://twitter.com/dv2elopm7/status/1626169770503716865

205 Nameless Fanboi Posted ID6:4Abdtg8MNt

ขอบ่นตรงนี้ละกัน เพิ่งเห็น teaser สาปภูลังกา คือ สลัด! มึงตัดแปะจาก God of War มาแบบหน้าด้านๆเลย เพราะแบบนี้ไง CGI บ้านเรามันถึงไม่ค่อยพัฒนา จิตสำนึกไม่มีเลย มีแต่ความมักง่าย พอจิตใจมันไม่ได้ก็ไม่ต้องพูดกันหรอกเรื่องพัฒนงพัฒนาเนี่ย แล้วพอไม่ได้ดั่งใจก็ชอบมาบีบน้ำหูน้ำตาว่าคนโดนรังแก คนไทยใจแคบไม่ให้โอกาส จู้จี้ขี้บ่นปากสุนัข บลา บลา บลา แม่งเอ๊ย ไม่ได้อยากปากหะมาแต่พวกมึงทำตัวกันแบบนี้จะไม่ให้ด่ายังไงไหว ฮ่วย!

206 Nameless Fanboi Posted ID:9hvvKm0BER

>>201 GTH ก่อนเป็น GDH มีแต่หนังตำนานว่ะ แฟนฉัน ซีซันส์เชนจ์ เพื่อนสนิท กวนมึนโฮ ฯลฯ
ตั้งแต่เปลี่ยนชื่อค่ายมานี่ ไม่มีเรื่องไหนประทับใจกูเลยว่ะ เสียดายอ่านรีวิว เธอกับฉันกับฉัน จะเล่นกับ y2k
ก็ทำไม่สุด...เทียบกับเรื่องแนวย้อนยุค y2k ที่เคยดูมา เป็นของเกาหลีนะ ซีรีส์ 25, 21 เรื่องนี้ทำดีมากเลย
มีตั้งแค่ยุคโทรศัพท์บ้าน เปลี่ยนผ่านมาเพจเจอร์ จนถึงมือถือปุ่มกด ช่วงต้นปี 2000 หลายๆอย่างดูแล้ว
ทำให้คิดถึงอดีต

207 Nameless Fanboi Posted ID:9hvvKm0BER

>>206 มีเรื่องร้านเช่าหนังสือการ์ตูนด้วย อ่านแล้วต้องรีบเอาไปคืนไม่งั้นโดนปรับ
https://www.youtube.com/watch?v=XOjABMKCrWU

208 Nameless Fanboi Posted ID6:HvB26UAA1q

เราเป็นแฟนหนังค่ายจีดีเอชนะ เดย์วันทุกเรื่อง ออกมากี่เรื่องก็ต้องดู แต่อยากบอกว่า แค่ตัวอย่าง เสือเผ่น ๑ ก็ดีกว่าเธอกับฉันกับฉันทั้งเรื่อง

209 Nameless Fanboi Posted ID6:XUflQN3XcQ

OMG รักจังวะ ผิดจังหวะ เข้า Netflix​ แล้ว ไปดูกันได้ แล้วมาคุยกัน

210 Nameless Fanboi Posted ID:9hvvKm0BER

>>209 ครับอพ

212 Nameless Fanboi Posted ID:gb.MxPgDjk

>>209 ไม่สนุก การแสดงงั้นๆ อย่างตอนต้นที่มีเสียงบรรยายเหมือนดูหนังโฆษณาสั้นมากกว่าหนังโรง
บทปูไม่ค่อยดีทำให้คนดูไม่อิน นางเอกหน้าสวยคาแรคเตอร์เหมาะกับบทดีแต่บางครั้งพูดเหมือนท่องไปหน่อย
รายละเอียดตัวละครก็น้อยไป รู้แค่นางเอกหน้าตาดีที่ผญไม่ชอบเลยเพื่อนน้อยแต่ไม่ปูบทบาทด้านอื่นเลย
พระเอกแคสมาไม่เหมาะกับบท หน้าตาพระเอกยังงี้มันต้องบทหนุ่มฮอทมีสาวมาอ่อยไม่ซ้ำหน้าแล้วแต่นี่เอามาเล่นบทไอ้ขี้แพ้มันไม่ใช่
มันต้องแบบ ยัยตัวร้ายนายเจี๋ยมเจี้ยม ที่ไม่หล่อจนเกินไปแต่ดูฮาๆอารมณ์ดี
มันเป็นส่วนนึงที่ทำให้ดูแล้วไม่อินไม่เชื่อว่าตัวละครเป็นแบบนั้น
ไอ้ผชคนอื่นก็จีบติดง่ายเกินปูสตอรี่น้อยไป บทไม่เน้นตรงนี้จริงๆ
เน้นแค่สื่อว่าตัวละครคาร์นี้เกิดเหตุการณ์นี้แต่ไม่ทำให้คนอินว่าทำไมเป็นแบบนั้น

213 Nameless Fanboi Posted ID6:4sFQJQUh9N

. https://youtu.be/tSh7ylid3gY

214 Nameless Fanboi Posted ID:MVjwAiDSMt

>>213 ใบปอ น่ารัก

215 Nameless Fanboi Posted ID6:MdCxQPqR8U

กูเพิ่งมีโอกาสได้ดูเรื่อง OMG รักจังวะ ผิดจังหวะ โดยที่ไม่ได้คาดหวังอะไรเพราะเห็นเขาบอกว่าหนังไม่ดี แต่พอดูไปได้สักพักกูก็เริ่มอิน บรรยากาศเดิมๆมันกลับมา กูถึงได้รู้ตัวว่ากูยังรักจูเน่อยู่นี่หว่า ทั้งฉากที่นางเอกยื่นหน้ามาใกล้ๆ ทั้งในหนังที่ใช้ชื่อจริง จูน พิชญา จูเน่ เพลินพิชญา ทุกการกระทำทุกบทพูดมันเหมือนสะท้อนมาที่ตัวกูเลย กูที่แม่งทำอะไรผิดจังหวะตลอด ถ้าตอนนั้นที่กูไปจับมือจูเน่ กูไม่แกล้งแอคขรึมว่ามาครั้งแรกไม่ได้ตามวงมาก่อน แล้วสารภาพรักกับจูเน่ไปตรงๆ เหมือนกับฉากที่พระเอกแอคขรึมแกล้งไปส่งนางเอกที่หอบอกว่าแค่ทางผ่าน หรือฉากที่พระเอกอัดคลิปสารภาพรักแล้วนางเอกไม่ได้ดู ก็เหมือนตัวกูที่ส่ง GYO ให้แต่เขาไม่ได้ตอบ พอจูเน่แกรดไปกูก็พยายามตัดใจทำเหมือนว่าไม่ได้คิดอะไรกับเขาแล้ว เหมือนกับตอนที่นางเอกไปอังกฤษแล้วพระเอกพยายามตัดใจ แล้วจูเน่ก็ไปอังกฤษจริงๆด้วย ตอนจบที่พระเอกยังคงคอยหลงรักนางเอกหวังว่าจะมีโอกาสสักครั้งที่ไม่ผิดจังหวะอีก หนังเรื่องนี้มันทำมาเพื่อเสิร์ฟคนขี้แพ้ที่ไม่กล้าบอกรักจูเน่อย่างกูชัดๆ ไม่แปลกใจว่าทำไมคนบอกว่าไม่ชอบกัน เพราะหนังเรื่องนี้มันคือชีวิตกู แล้วชีวิตกูมันก็ทำอะไรโง่ๆน่าขัดใจแบบนี้ตลอดแหละ หวังว่าจะมีสักวันที่กูถูกจังหวะสักที รักเน่นะ
https://imgur.com/aHNOY9a
https://imgur.com/eKUSXjc
https://imgur.com/iWK8vfG
https://imgur.com/lFucO5a
https://imgur.com/21SnIce

216 Nameless Fanboi Posted ID:krf2WjWa2c

ไม่มีหรอกถูกจังวะ อยู่ที่ว่าเมิงมีปัญญา หาเงินเลี้ยงลูกเลี้ยงแฟนไหม หนังมันก็คือขายฝันขายมโนนั่นละ ไม่ยอมอยู่กับโลกความจริง ซึ่งหนังไทย ไม่มีปวดตับเลย
จบสวยหรู แฮปปี้เอนดิ้ง แต่ชีวิตคนเราไม่ได้เป็นแบบในหนังนิ

217 Nameless Fanboi Posted ID6:UMzl1BZzxn

>>215 มึงสารภาพไปไทม์ไลน์จักรวาลนี้ก็ไม่เปลี่ยนแปลงมากหรอก
พระเอกกับนางเอกเรื่องนั้นอย่างน้อยมันก็คือเพื่อนกัน แต่มึงคือใครสักคนที่จน่ไม่รู้จักและไม่ได้จำด้วยซ้ำ

218 Nameless Fanboi Posted ID6:dGJ4X6FCft

หลังๆ หนัง GDH สร้าง ตลค แบบเทา ไว้อยู่พอสมควร แต่ข้อเสียคือการเดินเรื่องและจบแบบ Romatize ยกเว้น One for the Road ที่จบแบบไม่โลกสวยเท่าเรื่องก่อนๆ

219 Nameless Fanboi Posted ID:SyxJ32rQQN

>>217 อุ้ย แรงมากแม่

220 Nameless Fanboi Posted ID:0dnpTyoVWL

หนังไทย ที่ netflix thai สร้างเอง น่าดูนะ
ดูพยายามหลุดพ้นจาก หนังรัก หนังตลก หนังผี
อย่างเรื่องที่เกี่ยวกับทำอาหาร ที่ ปีเตอร์ กับ ออกแบบ แสดงนำ

221 Nameless Fanboi Posted ID6:V3dKqGdyHw

รอความเห็นโม่งรอบเพรสขุน1000 3

222 Nameless Fanboi Posted ID:274yLv1Upd

>>221 อยากดูว่ะ
อยากเห็นหนังไทย ทำแอคชั่นดีๆแบบ
Mission imposible, Jason Bourne แบบนั้นบ้างจัง

223 Nameless Fanboi Posted ID6:DgupXK7FwX

เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เข้าโรงละ

224 Nameless Fanboi Posted ID6:kQYTqfrlee

หนังไทยบ้านเราตอนนี้ ใครอยากดูดีให้ไปเรฟหนัง a24
อย่างล่าสุดเจอล่ะพวกซาวน์แปลกๆ

225 Nameless Fanboi Posted ID:KLuiGiVs4D

>>221 รอรีวิวจากสาวๆกลุ่มนี้
https://youtu.be/sfPwt9CGu7o

226 Nameless Fanboi Posted ID:3e6lDbSLK1

End credits ขุนพัน3 คือไรว่ะใครไปดูรอบสื่อมาแล้วสปอยหน่อย

227 Nameless Fanboi Posted ID6:lnbzBbmY9E

เดี๋ยวนี้หนังไทยต้องมี end credit ด้วยเหรอ

228 Nameless Fanboi Posted ID:jq/D8KxR2w

่จากมู้หนึ่งในเว๊บ ss
"ไม่ชอบกินผักทำไมไม่บอก" ประโยคทำไมถึงได้มี impact คนดู ตอนดูหนังเรื่องนี้ครับ
---------
เรื่องนี้ ตำนานจริงๆ ใครที่ดูแล้ว ต้องมีเกิน 10 รอบอะถ้ามีแผ่นอยู่ หรือเปิดหาดูทางสตรีมมิ่งสมัยนี้
คือมัน ดี มันละมุน กลมกล่อมทุกอย่าง เหมือนงานการ์ตูนญี่ปุ่นของอาจารย์ทาดาจิ
เป็นเรื่องราวของวัยรุ่น ช่วงชีวิตวัยนั้น มีแต่ความสดใสจริงๆ
ดูแล้วนึกถึงยุคก่อนสมาร์ทโฟน ในเรื่องตัวเอกยังใช้ Nokia ปุ่มกดอยู่เลยช่วงนั้น
ตอนว่างๆ ก็มีนั่งส่ง text หากัน เสียงเรียกเข้า mono poly คลาสสิค

229 Nameless Fanboi Posted ID6:4wR2rAvdMg

>>228 กูคือหนึ่งในคนที่ไม่ได้ขอบขนาดนั้นหว่ะ ดูได้รอบนึงแต่ไม่จำเป็นต้องซ้ำ

230 Nameless Fanboi Posted ID6:uz0MEZx3xK

ขุนพันธ์ 3 เจอดราม่าเรื่องตัดรอบฉาย
- หนังกำลังฉายไม่กี่สัปดาห์ โรงหนังเมเจอร์ นำทิดน้อยลดราคาตั๋วเพิ่มรอบหนัง แถมโดนตัดรอบฉาย จนผกก บ่นว่าเป็นเกมการเมืองของอุตสาหกรรมหนังไทย

231 Nameless Fanboi Posted ID6:YGTo5BM4Sg

>>230 ก็ปล่อยให้ผูกขาดตลาดได้ก็เป็นแบบนี้ล่ะ เหมือนธุรกิจโทรคมนาคมที่เพิ่งควบกิจการเสร็จ

232 Nameless Fanboi Posted ID6:Unga73kJvk

>>228 มึงดูภาคต่อยัง มึงดูแล้วจะไม่อยากกลับไปดู season change อีกเลย ไม่ใช่ในความหมายที่ดีนะ
https://youtu.be/KwLar9wF4Pw

233 Nameless Fanboi Posted ID6:Wiel+URVaq

>>232 เล่ามาแบบกระชับจับใจความได้ที ว่ามันเป็นยังไง ภาคต่อแบบใด ตัวละครเก่ามาครบมั้ย

234 Nameless Fanboi Posted ID6:Unga73kJvk

>>233 กูก็ดูไม่จบ ทนดูไม่ไหวนักแสดงเล่นแข็งทุกคน ละครทุนต่ำ นักแสดง season change มาครบ เป็นครูสอนดนตรี

235 Nameless Fanboi Posted ID6:PaNTatLK+W

>>230 ค้นสรุปมาละ ต้นเรื่องมันอยู่ตรงที่ โรงหนังภาคตะวันออก ซึ่งแถวนั้นมีโรงเมเจอร์เยอะ ส่วน SF มีประมาณ 14 สาขา ประเด็นหลักคือ ขุนพันธ์ 3 เพิ่งเข้าฉายไม่ถึงสัปดาห์ รอบฉายกลับไม่เพิ่มขึ้น แถมทิดน้อย ซึ่งเป็นหนังที่เป็นหุ่นส่วนกันยังฉายอยู่แถมรอบฉายยังอยู่ทั้งๆ ที่ควรจะถอดโปรแกรมออกจากโรงหนังแล้ว แถมยังมีโปรลดราคาหนังมาเพิ่มอีก จนเกิดเป็นประเด็นที่เกิดขึ้น

236 Nameless Fanboi Posted ID6:+SZGePY6dy

แทนที่จะรันอุตสาหกรรมหนัง เสือกมาผูกขาดจากโรงหนังเพราะแค่เป็นนายทุนของหนังที่ทำซะงั้น

237 Nameless Fanboi Posted ID:pYhKDMfU0V

>>232 ดูจริงป่ะเนี้ย มันไม่ใช่ภาคต่อแค่ใช้นักแสดงจากseason change สงสัยไปดูรีวิวที่บอกว่าเหมือน Season change ที่กลับมาเป็นครู แล้วตลกผลึกไม่ได้จนมาพิมพ์อวดรู้แน่ๆ

238 Nameless Fanboi Posted ID6:gEE2pTEBJw

>>236 มันไม่มีหรอกที่จะหวังให้นายทุนทำเพื่อสังคมก่อนผลประโยชน์
ถ้าไม่อยากให้มีเรื่องแบบนี้เกิดมันต้องออกกฏมาควบคุม ไม่ใช่คาดหวังว่าเขาจะทำแบบไหนเพราะมันจะไม่เป็นแบบที่มึงหวัง

239 Nameless Fanboi Posted ID:EBFSwOAaTt

ไม่เข้าใจตรรกกะนี้เท่าไหร่นะ สมมุดมีหนังมาเวร 1 โรงกะดีสี 5 โรง แถมราคาถูกกว่า คนจะไปดู ดีสี แทนเหรอ

240 Nameless Fanboi Posted ID6:K/tKR7n.C4

>>239 ถ้ายกตัวอย่างแบบง่ายๆ ที่เห็นกันทั่วไป ก็ฟาร์มเฮาส์ ใน 7-11 เมื่อก่อนฟาร์มเฮาส์ขายดีชิบหาย
พอเค้าขายดีก็ทำเลอแปง แถมขายเต็มแผง ต่อให้ขายไม่ดี ก็ถูกวางในตำแหน่งที่ดีกว่า แถมยังขายตัดราคาได้ ไปจนถึงขั้นก๊อปสินค้ากันหน้าด้านๆ

>>238 ไอ้การฆ่าผู้ผลิตรายย่อยแล้วผูกขาดตลาดแต่เพียงผู้เดียวมันคุ้มกว่ายอมให้มีใครเสนอหน้ามาทำกำไรในบ้านตัวเอง

แล้วมึงยังจะมีหน้าไปให้เข้าข้างฝั่งที่กำลังบ่อนทำลายทุกสิ่งอย่าง ด้วยการบอกว่าคนถูกรุมกระทืบสู้ไม่ได้เองแล้วงอแง

241 Nameless Fanboi Posted ID:EBFSwOAaTt

>>240 หนังมันไม่เหมือนขนมปังหนิ ถามตัวเองดูอยากไปดูแอดเวนเจ้อโรงน้อยได้นั่งหน้า แต่จัดติสลีดลดราคาจะไปดูอะไร

242 Nameless Fanboi Posted ID6:t3dpeTYYmx

>>241 มึงเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า ที่เป็นประเด็นกันอยู่ตอนนี้คือโรงหนังแม่งให้พื้นที่หนังที่ตัวเองร่วมหุ้นลงทุนมากกว่าหนังจากค่ายข้างนอกทั้งๆ ที่หนังมึงฉายมาเดือนกว่าแล้วรอบไม่ลดซักทีแถมจะทำโปรโมชั่นห่าอะไรก็ได้เพื่อเบียดหนังรอบอื่น
เหมือนมึงเดินตลาดนัดเจอแต่ร้านของนาย A ที่เป็นลูกเจ้าของตลาดไปซัก 90% ส่วนร้านนาย B-Z ที่เป็นคนนอกก็ถูกผลักไปอยู่ในหลืบส่วนลึกของตลาดที่คนเข้าไม่ถึงบ้าง อยู่ตรงไหนไม่รู้ของตลาดบ้าง
เหมือนกันเลยคือ สมมติกูเป็นพนักงานเงินเดือนเลิกหกโมงเย็นและอยากดูขุนพันธ์ แต่เมเจอร์ให้พื้นที่ 3 รอบแค่ เก้าโมงเช้า บ่ายสาม ห้าทุ่ม ที่เหลือเป็นทิดน้อย ซึ่งกูไม่สะดวกซักรอบ แล้วกูจ
ะดูหนังยังไง+ค่ายที่ทำขุนพันธ์จะได้กำไรจากไหนถ้ารอบเหี้ยขนาดนี้(ไอ้คำตอบแบบ "ถ้ามึงอยากดูจริงก็ลางานหรือดูรอบดึกไปดิ" นี่เหี้ยไปนะ มันคือการผลักภาระให้ผู้บริโภค ทั้งๆ ที่ถ้าจัดรอบกันดีๆ มันจะวินๆ กันหมด)
นี่ไม่ได้พูดในด้านการทำธุรกิจนะ เพราะบ้านเราไม่มีกฎหมายห้ามตรงนี้มึงจะทำยังไงหรือพูดยังไงก็ไม่มีวันผิดอะ ซึ่งก็จะมาพร้อมกับ Quote ประจำ"ก็เขาทำธุรกิจ ไม่ได้ทำการกุศล" แต่พูดกันในด้านวงการภาพยนตร์ว่าทำแบบนี้มันเตะตัดขาวงการตัวเอง ระยะยาวนอกจากค่ายตัวเองที่เหลือจะลุกขึ้นยืนยากกันไปหมด

243 Nameless Fanboi Posted ID:EBFSwOAaTt

>>242 https://www.majorcineplex.com/booking2/search_showtime/movie=1907
โรงไหนที่กระโดดไป 5 ทุ่ม

244 Nameless Fanboi Posted ID6:t3dpeTYYmx

>>243 ก็บอกว่าสมมติไงโว้ย หมายถึงว่าถ้ารอบมันเหี้ยก็หาทางไปดูยาก แล้วนี่คือหนังใหม่สดๆ ที่เข้าไม่ถึงอาทิตย์ด้วยซ้ำแต่รอบโดนลดรอบน้อยกว่าหนังเข้ามาเดือนกว่าตั้งครึ่งนึง
อย่างบ้านกูอยู่ชลบุรี เมเจอร์นี่อย่าว่าแต่ขุนพันธ์รอบสี่ห้าทุ่มหรือรอบเหี้ยๆ เลย แม่งไม่มีเข้าฉายด้วยซ้ำ มึงไม่คิดว่าพิลึกเหรอ คือปกติกูดู SF ก็จริงแต่อยากให้มึงมองภาพในวงกว้างหน่อยว่ามันไม่ใช่ทุกคนที่สะดวกไปดู SF หรือดูรอบเหี้ยๆ รอบไหนก็ได้ในเช้าสายบ่ายเย็น

245 Nameless Fanboi Posted ID6:jckQjrARIn

>>240 กูไม่ได้เข้าข้างหรือปล่อยเบลอแบบพวกที่อ้างว่าก็มันธุรกิจ มึงอ่านดีๆ

246 Nameless Fanboi Posted ID6:jckQjrARIn

กูบอกว่าถ้าอยากให้วงการมันเป็นแบบไหนหรือให้ดีขึ้นยังไง มันต้องมีกฏหมายมาควบคุม
ไม่ใช่ปล่อยฟรีแล้วให้พวกมึงไปหวังว่าเขาจะเมตตาทำหรือไม่ทำแบบไหน การแก้ปัญหามันไม่ใช่การเรียกร้องให้เขาเห็นใจหรือเลิกทำ
แต่มึงต้องชักชวนคนในวงการคนในสังคมแก้กฏหมายเพื่อนผลประโยชน์คนส่วนรวม

247 Nameless Fanboi Posted ID:tFMV7SEwoR

ยุค 2023 ยังต้องทะเลาะกันเรื่องหนังไม่ได้ฉายในโรงอยู่อีกเรอะ ขนาดโทนี่จาตั้งแต่โกอินเตอร์มาก็ 20ปีแล้ว กูยังหาหนังที่โทนี่จาตอนโกอินเตอร์ฉายในโรงไทยไม่ได้สักกะเรื่อง อยากดูจริงๆต้องมุดไปดูแพลทฟอร์มอื่นแทน แต่ก็หาดูยากอยู่ดี

248 Nameless Fanboi Posted ID:pGtAmqGSCS

>>247 มั่วชิบหาย กะจะมาทำเท่ด่าวงการหนังไทย แต่เสือกมั่ว ชนิดที่ว่าแค่คนชอบดูหนังทั่วไปก็รู้มากกว่ามึงแล้ว

"ฉายในโรงไทยไม่ได้สักกะเรื่อง"
https://en.wikipedia.org/wiki/Tony_Jaa#Film
Furious 7, SPL II: A Time for Consequences, XXX: Return of Xander Cage, Paradox, Master Z: Ip Man Legacy, Jiu Jitsu, Monster Hunter พวกนี้กูไปดูในโรงด้วยตัวเอง ที่เหลือไม่ชัวร์ว่าไม่ว่างไปดูหรือไม่เข้า ขี้เกียจเช็ค box office mojo

"อยากดูจริงๆต้องมุดไปดูแพลทฟอร์มอื่นแทน แต่ก็หาดูยากอยู่ดี"
https://www.netflix.com/browse/person/30008375
ยากพ่อง

249 Nameless Fanboi Posted ID:iAGNwPvVCm

ตอนแรกก็อยากช่วยเม้นหนุนอยู้ แต่เห็นสภาพทีมงานมีความพยายามในการชู3นิ้วไม่ให้เหมือนม็อบแล้ว ช่างแม่งดีกว่าวะ55555

250 Nameless Fanboi Posted ID6:86eYiWkxJi

กูเห็นพวกหลิ่มเวิร์สด่าเรื่องนี้ ทำยังกะตอนพวกที่ไปยืนในโรงหนังเลยวะ

251 Nameless Fanboi Posted ID:VLUCyphYqz

หุ่นพยนต์ โดนเลื่อนฉายไม่มีกำหนด เพราะมีฉากเณรชกต่อย และ มีประเด็นเรื่องศาสนา

252 Nameless Fanboi Posted ID:tFMV7SEwoR

>>251 ก็น่าจะรู้ว่าไม่ควรใส่มาป่าววะ

253 Nameless Fanboi Posted ID:VLUCyphYqz

>>252 เหมือนเคสนาคปรกนั่นแหละ แต่ประเด็นคือ หนังที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับพระสงฆ์ เสือกโดนแบนเซนเซอร์ มีแต่หนังเนื้อหาหนักๆ ทีหนังตลกเสือกทำได้ซะงั้น

254 Nameless Fanboi Posted ID:g3R50FPTRN

>>249 อันนี้น่าเห็นใจนิดนึง เลี่ยงไม่ชูสามนิ้วตรงๆสามกีบก็ว่า ชูสามนิ้วตรงๆหลิ่มก็ว่า แต่เลี่ยงน่าจะคุ้มกว่าเพราะอาจจะไปขัดใจพวกบิ๊กๆของประเทศได้

255 Nameless Fanboi Posted ID6:G9DpDOk0v8

>>254 อันนี้จริง บางทีประเด็นนี้มันอ่อนไหวมาก ขนาดโซนี่ยังเคยโดนทัวร์หลิ่มลงแค่เพราะลงภาพสามขีดแนวตั้งเพื่อจะโปรโมทมือถือรุ่นใหม่(ใช้เลขรุ่นเป็นเลขโรมัน)เท่านั้นเอง แต่ถ้าเป็นกูนะ ตัดปัญหาด้วยการไม่ชูนิ้วไปเลยง่ายสุด

256 Nameless Fanboi Posted ID:w321dX/TSI

>>254 ก็ถ้าคิดเรื่องคุ้มไม่คุ้ม การไฟว้เพื่อหนังไทยใดๆก็ไม่มีความคุ้มอะไรสำหรับคนดูแบบกูน่ะ เพราะกูมีหนังตปทคุณภาพดีดูอยู่แล้วอ่ะ

257 Nameless Fanboi Posted ID:6.OMafzsQm

กูสงสัยว่าทำไมไม่ชูนิ้วโป้งแทนวะ เลี้ยงการชูแบบสามกลีบได้ แถมไม่ดูฝืนธรรมชาติด้วย

258 Nameless Fanboi Posted ID6:86eYiWkxJi

>>257 หรือจะเอาชูสองมือ ข้างหนึ่ง 1 นิ้ว อีกข้าง 2 นิ้ว เฟี้ยวกว่าอีก
>>255 อันนี้จำได้ แม้กระทั่งไอ้วงป็อปร็อคไทยอย่าง ทรีแมนดาวน์ โลโก้วงสามขีด หลิ่มก็ดิ้น

259 Nameless Fanboi Posted ID:w321dX/TSI

>>257 มันภาค3ไง

260 Nameless Fanboi Posted ID:6.OMafzsQm

>>259 ไม่ๆ กูหมายถึง นิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลาง น่ะ
ดูเป็นธรรมชาติกว่า แล้วไม่เหมือนการชูแบบสามกีบด้วย

261 Nameless Fanboi Posted ID6:G9DpDOk0v8

>>260 กูว่าชูนิ้วยังไงก็ไม่รอดโดนทัวร์ลงว่ะ
เพราะยังไง Context การชูนิ้วมันคือแสดงออกว่าเป็นการชูสามนิ้วเพื่อโปรโมทหนังภาคสาม ซึ่งคอมมอนเซนส์การชูสามนิ้วเพื่อบอกเลขสามของทั้งโลกก็คือชูแบบสามกีบ(แค่นิ้วไม่ชิดติดกันแบบสามกีบ) การชูนิ้วแบบทีมนักแสดงมันเป็นสัญลักษณ์โอเคอะ ซึ่งแม่งคนละความหมายกันเลย ดูจากดาวอังคารก็รู้ว่าชูแบบนี้เพื่อเลี่ยงบาลี Symbol สามกีบ
กูว่าวิธีเลี่ยงง่ายสุดคือไม่ต้องชูเหี้ยไรเลย หรือไม่ก็ชูแม่งโต้งๆ ไปเลยแบบนิ้วไม่ติดกัน ใครอยากดิ้นก็ดิ้นไป เพราะแม่งก็เป็นเรื่องปกติที่คนจะชูเลขสามแบบนี้

262 Nameless Fanboi Posted ID:w321dX/TSI

>>260 เหมือนกันแหละ กูไม่เคยเห็นใครชู3นิ้วแบบนั้นสักคนจนมีเรื่องม็อบเนี่ย ถึงโผล่มากันจังไอ้การชู3นิ้วแบบพยายาม

263 Nameless Fanboi Posted ID:E8q6jT1vL2

จะชูหรือไม่ชูพวกมึงก็ไม่ได้ไปดูกันอยู่แล้วนิจะดิ้นทำไม

264 Nameless Fanboi Posted ID6:CUly5A1QLm

ดูหนังจีน? หนังเกาหลี หนังเกาหลี
ก็ไม่ค่อยจะบ้าเอาเรื่องศาสนามาถ่ายทำนะ มีไทยนี้แหละขยันดิ้นกันจัง(ทั้งสองฝ่าย)

265 Nameless Fanboi Posted ID6:CUly5A1QLm

>>264 ***หนังญี่ปุ่น

266 Nameless Fanboi Posted ID:ILv+R4cI7c

https://projects.punchup.world/moviefund/

267 Nameless Fanboi Posted ID:8sMS+vr2pG

>>264 หนังจีนก็ไซอิ๋วไง เห็นทำมาหลายเวอร์ชั่นอยู่นะ

268 Nameless Fanboi Posted ID6:vrbapEQKMR

หลายประเทศที่สื่อบันเทิงเค้าไปไกลเกินกรอบของศาสนา เพราะศาสนาไม่ค่อยมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิต แต่ไม่ใช่ในประเทศนั้นจะไม่มีคนที่นับถือแบบคลั่งศาสนานะ แต่บางประเทศมันมีอิทธิพลมาก ห้ามนำเสนอว่าผิด ต้องถูกต้องเท่านั้น ต้องขาวสะอาดเท่านั้น ขนาดมีข่าวเสื่อมทรามขนาดไหนก็ต้องปกป้อง เพราะมันเป็นช่องทางทำกินแบบไม่ลงทุนลงแรงอะไรของคนกลุ่มนึง บ้างก็ออกกฎหมายมาคุ้มครอง ตรงนี้มันเลยทำให้สื่อบันเทิงประเภทหนัง และภาพยนตร์ของบางประเทศ มันทำอะไรเกินขอบไม่ได้ จะแฉความจริงด้านมืด ยังโดนชี้หน้าว่าเป็นคนบาป ทั้งที่ในบริบทของคำว่าบาป ก็พวกมันกันเองนี่ล่ะ ที่กำลังทำอยู่

269 Nameless Fanboi Posted ID:5ULNzR+q23

>>268 มึงเห็นว่าเขาไม่บ่นเพราะมึงไม่เคยเห็นเขาบ่นไง มันบ่นทุกที่แหล่ะและไม่ใช่น้อยๆด้วยนา โม่งเอ๋ย ยิ่งที่ อเมริกา ยิ่งด่าโหดเลย พักหลังๆนี่เลยไม่ค่อยมีคนอยากแตะเรื่องศาสนาเท่าไหร่เพราะแค่คลาดเคลื่อนไปนิดเดียวก็ด่าราวกับไปชำเราบุพการีแม่งแล้ว ถถถ

270 Nameless Fanboi Posted ID6:HSRlwnny1s

เรื่องนี้สนุกไหมวะ เห็นว่าน้องคนที่เล่น omg รักจังวะผิดจังหวะ กับนางเอก slr กล้องติดตาย เล่นด้วยกันด้วย
https://youtu.be/vajxUNhU6ts

271 Nameless Fanboi Posted ID:la0W.l97.1

>>270 ซีรีส์ อส ไม่ใช่หนัง

272 Nameless Fanboi Posted ID6:Rq7p9RcXhX

>>269 ต่างประเทศ อ่อนไหวแค่ประเทศพวกที่มีกฏหมายต่อศาสนา ตั้งแต่พวกประเทศที่เป็นศาสนามุสลิม ส่วนที่เมกา มีอยู่ แต่ไม่ถึงขั้นแบนหนังมาหรอก เว้นแต่การ Censorship ที่มีประเด็นปัญหาทางศาสนา ในสื่ออื่นๆ

273 Nameless Fanboi Posted ID6:Yf8fadH43K

>>264 กูดูหนังสามประเทศนี้ เจอเยอะแยะ ประเด็นเอาศาสนามาเล่าเนี่ย ทั้งหนังใหม่หนังเก่า หนังดราม่า หนังอีโรติก หนังผี

274 Nameless Fanboi Posted ID:qda3a2+qp6

>>273 ถูก โม่งแม่งชอบมีพวกรู้น้อยมาอวดโง่ กูเกิลมีให้ถามไม่ถาม

275 Nameless Fanboi Posted ID:1pikmXQo9Q

>>264 จีน ญี่ปุ่น เกาหลี แถมอินเดียให้อีก
เล่นประเด็นศาสนา กันจนพรุนแล้ว ของจีนเจอเอาพวกเทพจีนมาเตะบอลสู้กับอเวนเจอร์ด้วยซ้ำ
https://www.youtube.com/watch?v=pcw2YrXT-pY

276 Nameless Fanboi Posted ID6:mFL46AkDlR

>>269 ก็ไม่ได้บอกว่าเค้าไม่บ่นหรือด่านะ มันก็มีด่าวิพากษ์วิจาร์หนังกันได้แต่หนังก็มีทำกันมาเยอะแยะ ศาสนา ซาตาน พระเจ้า สารพัดฯลฯ บลาๆ

277 Nameless Fanboi Posted ID6:c2Jwph3L5R

จีนไต้หวันหรือจีนฮ่องกง
จีนแผ่นดินใหญ่น่าจะติดเซ็นเซอร์

278 Nameless Fanboi Posted ID6:adFKp.RQY6

จีนแผ่นดินใหญ่ Censorship หนักสุดตามรัฐบาลของจีนตั้งแต่เรื่อง LGBTQ ชาติพันธุ์ หรือแม้กระทั่งข้อพิพาทของประเทศตัวเอง แต่ยังขายได้ในประเทศตัวเอง นอกประเทศไม่มีใครกล้าซื้อ บางเรื่องรีเมคหลายรอบก็ยังทำ เช่น หนังเกี่ยวกับตำนานจีนต่างๆ
ส่วนจีนฮ่องกง เมื่อก่อนมันรุ่งเรือง แต่ตอนนี้แทบไม่ค่อยมีหนังมาติดความนิยมแบบสมัยก่อน

279 Nameless Fanboi Posted ID6:RC8jL7g/Wf

หนังไทยตอนนี้ เริ่มจะฉายเฉพาะในโรงนั้นไปละ โดยเฉพาะค่าย M ฉายเฉพาะที่โรงเมเจอร์ ส่วนหนังไทยเรื่องอื่นคงฉาย SF ล่ะมั้ง

280 Nameless Fanboi Posted ID:qEMKaKc+Ji

หนังผี จดฮ ใหม่พวกมึงว่ามีโอกาสปังมั้ย
ก็สไตลส์ จดฮ ที่ชอบหยิบข่าวน่าสนใจมาขยายบทเป็นหนัง
แต่ดู trailer แล้วจืดกว่าที่คิดหว่ะ

281 Nameless Fanboi Posted ID6:qfOTshTD+5

>>280 รู้แค่ว่าโปสเตอร์แม่งดีไซน์กากมาก ปกติ GDH ทำสวยกว่านี้เยอะเลยนะ

282 Nameless Fanboi Posted ID:SLvAKQYOQB

หนัง จดฮ เดี๋ยวนี้คือเน้นแต่ตัวดารา เอาแต่คนมีกระแส บก พพ อฟ เอาไปคนละเรื่อง ทั้งๆที่แต่ก่อนใช้แต่หน้าใหม่ๆทั้งหมดก็ยังดัง ดูก็รู้ว่าตลาดหนังเรื่องดารามันไม่ได้สำคัญเท่าบท เดี๋ยวกูจะรอดูว่ารายได้จากแฟนคลับออกมาจะพาออกจากวิกฤตรายได้ทุเรศทุรังแบบเรื่องที่ผ่านๆมาก่อนหน้านี้ได้ไหม 55555

283 Nameless Fanboi Posted ID6:.7DSO+xLFf

หนังจดฮไม่ได้น่าสนใจเท่าสมัยยังเป็นจทฮ แต่เป็นค่ายที่แบรนด์รอยัลตี้สูงจัดๆ ทำอะไรมาคนก็เข้าไปดู

284 Nameless Fanboi Posted ID6:Pj9DFdHW8m

กูอยากให้หนังที่เน้นดารามีกระแสมาเล่นรายได้ไม่ดีเหมือนกัน
แต่กูว่าเขาไม่ได้กะขายที่ชื่อดาราอย่างเดียวหรอก ก็คงพยายามเขียนบทด้วย แต่เอาชื่อดารามาช่วยอีกแรงมากกว่า
เอาดาราเป็นตัวตั้งหาหัวข้อดีๆที่เกี่ยวกับดารานั้นมาเป็นตีมเรื่อง ก็คงไม่พ้นประเด็น lgbt แล้วหาคนพัฒนาบท หาผกกที่เป็นสายนั้นมาทำ

285 Nameless Fanboi Posted ID6:Pj9DFdHW8m

>>283 ไม่เสมอไปแล้วนะ เรื่องหลังๆคนเบื่อเยอะ กลับกันขุนพันธ์ร้อยล้าน/นับทั่วประเทศ

286 Nameless Fanboi Posted ID6:.2kEDUYQZ/

อยากให้เต๋อ นวพล กลับไปพักก่อน

287 Nameless Fanboi Posted ID:zrW6Pw+3y0

>>283 ตกไปพอตัวแล้วนะ ปกติค่ายนี้ 80 ล้านยังน้อยไปด้วยซ้ำ
ตอน OMG , เธอกับฉันกับฉัน ร่วงไปพอตัวเลย

288 Nameless Fanboi Posted ID6:QFaObjbm4X

>>282 ส่วนตัวโอเคกับตัวนักแสดงนะ ดีกว่าแต่ก่อนที่ GDH มีแต่นักแสดงหน้าเดิมๆไม่ เต๋อ ฉันทวิชช์ ก็ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ 555

289 Nameless Fanboi Posted ID:mlQBbsEv2K

จิ้นห้งเหี้ยอะไรของมึงวะใช้ศัพท์แบบนี้ในโฆษณาพูดออกมาไม่อายปากกันมั่งหรือ คุชิบหาย

290 Nameless Fanboi Posted ID6:At9C5A0TfL

>>287 ก็ดีแล้ว กูอยากให้เขาเปลี่ยนวิธีคิดในการทำหนัง

291 Nameless Fanboi Posted ID:sMwJxtKCJ/

https://www.youtube.com/live/XjJuOGIj2Sk
🔥

292 Nameless Fanboi Posted ID:El0OajYwf3

ดราม่าสุพรรณหงษ์กฎเกณฑ์เก่ามันคืออะไรวะ ถึงโดนต่อต้าน

293 Nameless Fanboi Posted ID6:pZALfMRrmi

>>292 ที่มันดราม่าเพราะกฎใหม่มันเอื้อนายทุนไง เงื่อนไขประมาณว่า ต้องฉายในโรงภาพยนตร์ ฉายผ่านสตรีมมิ่งอย่างเดียวไม่ได้, ต้องฉายในโรงครบทั้ง 5 ภูมิภาค อย่างน้อยใน 5 จังหวัดใหญ่ คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี นครราชสีมา และนครศรีธรรมราช และต้องมียอดผู้ชมไม่ต่ำกว่า 50,000 คน หนังค่ายเล็กๆ หนังสายอินดี้เน้นราวัลหมดสิทธิ์ คนในวงการเลยประกาศแบนไปเลย
รายละเอียดก็ตามนี้
https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0FdFXU6vf5giMXi6zssJVoawWno73ZJn6b65BhJGBAvM22ZHeHxuy77Efb9sm3Hcpl&id=100044714585781&mibextid=Nif5oz

294 Nameless Fanboi Posted ID:2Mt55dZQyq

กูอยากเห็นทอมแฮงค์เล่นประกบคู่กับดาราไทยบ้างว่ะ ทุนไทยน่าจะมีปัญญาจ้างแหละ แก่แล้วน่าจะรับเล่นหมด เหมือนนิโคลัส เคจ

295 Nameless Fanboi Posted ID6:+3Tv/4d1cq

>>293 เรื่องต้องฉายในโรงภาพยนตร์ ฉายผ่านสตรีมมิ่งอย่างเดียวไม่ได้ เอาจริงๆ ถ้าพูดตรงๆ มึงถ่ายหนังทุนต่ำระดับแสดงเองคนเดียว 4-5ตัวละคร พากย์เสียงตัดต่อเอง แล้วแปะลงยูทูป ไม่เข้าฉายโรงหนังเลย แม่งก็เสือกเข้าชิงได้สิ แต่กูมันคนอนอกแค่พูดเฉยๆนะ ยังไงก็ได้ แต่ถ้ามันประกวดได้กูก็อยากเห็นอนิเมชั่นอันดับหนึ่งของประเทศไทย afterverse เข้าชิงรางวัลอยู่นะ

296 Nameless Fanboi Posted ID:7umyS3KN2l

>>295 กฏเดิมๆมันก็ต้องฉายโรง แค่ไม่ฟิกว่าต้อง 5 ภาคหรือรายได้เท่าไหร่
มันไม่ใช่สุดโต่งว่าไม่ต้องฉายโรงก็ได้

297 Nameless Fanboi Posted ID:xq2z4UfSR8

สปอย​hungerหน่อยขอระเอียด​ๆ

298 Nameless Fanboi Posted ID6:KoIRAZLTFU

สายดินนี่มันตรวจสอบอะไรยังไง

299 Nameless Fanboi Posted ID:9/juKeqWR6

ดูบ้านเช่าจบมาละ โดยรวมถือว่าสนุกนะ ครึ่งแรกหลอนๆตุ้งแช่ครึ่งหลังเฉลยปมจนจุดไคลแม็กซ์ จบก็จุกๆอึนๆดี คิดว่าชอบกว่าลัดดาแลนด์ของผกก.คนนี้

300 Nameless Fanboi Posted ID6:dGn5vsph6/

>>299 มีความ hereditary มากมั้ย

301 Nameless Fanboi Posted ID6:dmddGzRckS

หุ่นพยนต์/ปลุกพยนต์ เป็นยังไงบ้างวะ?

302 Nameless Fanboi Posted ID:ne.UJM5xPJ

>>301 เหี้ยมากมึง กูไม่รู้ว่าเป็นหนังขายแฟนคลับ เห็นแค่ข่าวดราม่าเลยไปดู หนังเล่าเรื่องไม่ปะติดปะต่อ พูดคำคมเบียวเยอะกว่าเรื่องทำอาหารอีก ไปดูบ้านเช่าดีกว่าเยอะ

303 Nameless Fanboi Posted ID6:NiDnzExz4u

>>301 ถ้าหมายถึง ต่างกันยังไงกับสองเรทนี้
เห็นคนไปดูมาละสองเรทนี้ ปรากฏว่า แม่งเหมือนๆกันนั่นแหละ หาความต่างไม่เจอ ดูอันไหนก็ได้

304 Nameless Fanboi Posted ID:2HsTWEN+1V

อยากดูหนังแอคชั่นบ้าๆไม่สนความสมจริง ไม่ต้องซีเรียสแบบ 7 ประจัญบานอีกว่ะ คนที่ทำได้ก็เสียไปแล้ว คนที่พอจะทำได้ก็การเมืองเข้าเส้นจนลืมวิธีทำหนังให้สนุกไปแล้ว

305 Nameless Fanboi Posted ID6:yBzwRfnoDP

ตกลงไอ้ hunger อะไรนี่มันดีหรอ จะบอกว่าเหมาะกับคนยุคนี้อะก็ใช่เพราะคนยุคนี้ต้องสื่อด้วยความรู้สึก บทพูด การกระทำที่ไม่เม้คเซ้นอะไรเลยก็สนุกได้
กูมองก็คิดว่าเป็น hunger gamesภาคไหนเนี่ย เกมหิวคนกระหายมันคือเหี้ยอะไร ผัดงอแงคิดมาได้ยังไง มันดีหรอ มันอร่อยหรอ มันทำไมต้องดึงอารมณ์ให้ดูดราม่าทั้งๆที่ทำให้มันดูฟีลกู๊ดได้

306 Nameless Fanboi Posted ID6:+gYoHWAJCh

>>305 กูว่าประเด็นหนังมันแข็งแรงนะ แต่เหมือนคนที่ด่านี่ด่าพวกรายละเอียดยิบย่อยกันซะเยอะจนไม่คุยประเด็นหลักกันเลย
ไม่ได้บอกว่ามันพอมองข้ามแผลในหนังไปได้นะ มันเยอะจริงและกูด่าไปเยอะเหมือนกัน แต่ลองอ่านบางเมนต์ตาม FB แม่งเหมือนไม่ได้ดูหนังอะ ไม่ได้เข้าใจว่าเรื่องมันจะสื่ออะไร เหตุผลรองรับของตัวละครเป็นยังไง ด่ากันแต่แบบนางเอกทาเล็บทำงานครัว ครัวแม่งเหี้ยอย่างนู้นอย่างนี้ ฯลฯ

307 Nameless Fanboi Posted ID:nXRJhPcwqS

>>306 คือก็เข้าใจแหละว่าอยากแซะสังคม แต่วิธีการสื่อแม่งไม่เมคเซ้นไง ถ้าเป็นพาราไซต์ก็คือแค่แปปเดียวครอบครัวคนจนแม่งซื้อบ้านได้อะ

308 Nameless Fanboi Posted ID6:9qWJZarlh7

>>306 มันแซะไม่มีชั้นเชิงอะดิ ตัวละครมันเซอร์เรียลเกิน ถ้าเป็นในพาราไซต์มันมีตัวเปรียบเทียบให้ดูเลย พ่อแม่ลูก 4 คนเหมือนกัน ครอบครัวนึงอยู่สบายในบ้านสวยๆหรูๆ ฝนตกก็อากาศดีจังน้า ครอบครัวนึงอยู่ห้องใต้ดินพอฝนตกน้ำก็ท่วมเป็นความทุกข์ ไม่ต้องมาเล่าใครถูกใครผิด ให้คนดูตกตะกอนเอาเอง แต่ไอ้ฮังเกอร์นี่มันเหมือนละครคุณธรรมที่โปรดักชั่นแพงเฉยๆ

309 Nameless Fanboi Posted ID:nXRJhPcwqS

>>308 มันมาพลาดตรงคอมม้อนเซ้นง่าย ๆ ด้วยแหละ เอาคนธรรมดามาทำงานเชฟ ถ้านึกภาพไม่ออกก็เหมือนเจ้าของรพ.ไปเจอพยาบาลเจาะเลือดเก่ง เปิดเส้นเก่ง เลยเอามาเป็นหมอผ่าตัดอะ มันอิหยังวะมาก ๆ

310 Nameless Fanboi Posted ID6:9qWJZarlh7

>>309 กูว่านางเอกมันก็ไม่เชิงคนธรรมดานะ มันก็พอมีพื้นฐานงานครัวบ้างล่ะ บ้านเปิดร้านอาหาร นางเอกยืนผัดซีอิ๊วหน้าเตาทั้งวันคนมารอกิน ขายดิบขายดีก็แปลว่าแม่งก็ต้องทำอาหารอร่อยพอสมควร แต่เป็นเชฟแบบพวกกอร์ดอน แรมซี่ทำไฟน์ไดนิ่งให้คนรวยแดกมันก็ต้องฝึก เพราะมันไม่ใช่สตรีทฟู้ดแบบนางเอกที่รากหญ้าคนเดินถนนมากินละ อันนั้นพิถีพิถันมากกว่าเพราะแม่งก้าวไปสู่โลกที่อาหารไม่ได้เป็นของที่ทำให้ท้องอิ่มอย่างเดียว คนรวยมันเสพความสุนทรี(?)แบบในเรื่องที่บอก แต่อื่นๆในเรื่องแม่งตกม้าตายหมด ให้ซีนโชว์เก่งของนางเอกแบบตั้งใจสาดสปอตไลท์ไปที่อีนี่เกิน อื่นๆเลยดรอปหมด แบบซีนข้าวผัด ขั้นตอนในครัวมันมีมากกว่านั้นเยอะ แต่ให้เชฟตัวจริง(คนเล่นก็เป็นเชฟตัวจริง)ผัดข้าวแข่งกับนางเอก เชฟตักข้าวร้อนมาผัดเลยแฉะเหี้ยๆ นางเอกเดินไปหยิบข้าวเย็นในตู้เย็นมาผัด ข้าวร่วนไม่แฉะแบบไอ้เชฟคนแรก ไอ้เชฟหนวดไล่เชฟคนแรกกลับบ้านเพราะมึงผัดข้าวได้อุบาทว์ เนี่ย แบบนี้คือจงใจเกินไปที่จะโชว์ซีนว่านางเอกมีของ คนครัวนี่เขาก็ต้องรู้กันป่ะว่าข้าวที่เหมาะกับการทำข้าวผัดคือข้าวเย็น ทำแบบนี้มันดูโง่เกินในการทำให้นางเอกเด่น

อีกอย่างมีคนทำงานครัวมาบอกว่าจริงๆแล้วข้าวผัดในร้านอาหารก็ใช้ข้าวร้อนผัดกันเป็นปกติ เพราะมันก็กะปริมาณไม่ได้หรอกว่าลูกค้าจะมาสั่งข้าวผัดกี่คนแล้วจะแช่ตู้ให้พอดีปริมาณยังไง มีเรื่องของสุขลักษณะด้วย เพราะข้าวเก่ามันก็มีแบคทีเรีย เอาข้าวร้อนไปผัดก็ต้องไฟแรงพอและอย่าใส่พวกเครื่องปรุงน้ำๆเยอะ ข้าวก็ออกมาเป็นเม็ดเรียงสวยได้เหมือนกัน วิธีทำมีตั้งเยอะแต่เสือกเลือกนำเสนอให้อีกคนดูโง่เพื่อให้นางเอกดูเจ๋งว้าว ไม่รู้มาก่อนเลยว่าต้องใช้ข้าวเย็นผัด เชฟทำงานมาเป็นปีๆแพ้เด็กผัดซีอิ๊วไม่กี่ปี

311 Nameless Fanboi Posted ID6:lHNVdBe5B2

>>310 เหมือนเด็กม.ต้นจะข้ามชั้นไปเรียนมหาลัยแต่ได้ข้อสอบบวกลบคูณหารมาอ่ะ แล้วไอเด็กมหาลัยดันทำไม่ได้ มันทุเรศ555

312 Nameless Fanboi Posted ID6:JfBSXpBT6k

ไม่จำเป็นเสมอไปว่าต้องข้าวเย็นอร่อยกว่า ลองดูคลิปจากยูทูบ เห็นมีหลายรายก็ตักจากหม้อหุงใหม่ๆก็มี ทั้งเชฟจีน ญี่ปุ่น ฯลฯ

313 Nameless Fanboi Posted ID:EtjJnbPIB/

>>312 ไม่จำเป็น แต่เคล็ดลับมันต้องมีมากกว่านี้ แบบข้าวเย็นนี่มันเคล็ดลับที่ไม่ลับแล้ว
นีมันซีน กดให้อีกฝ่ายโง่ด้วยซ้ำ

314 Nameless Fanboi Posted ID6:9qWJZarlh7

>>313 ใช่ไง จริงๆมันควรเป็นซีนดับมั่นนางเอกด้วยซ้ำ ให้รู้ว่ามืออาชีพเขาทำกันแบบนี้เว้ย ไอ้ข้าวเย็นมาผัดนี่ใครๆเขาก็รู้ แต่มึงทำงานครัวระดับนี้แล้วมึงไม่มีเวลาไปแช่ข้าวให้เย็นหรอก มึงต้องตักข้าวจากหม้อมาผัดทั้งร้อนๆนี่ล่ะ แล้วคุมไฟกับเครื่องปรุงเอา ตอกหน้านางเอกไปเลยว่ากูคือมืออาชีพให้นางเอกมันไปฝึกจนกว่าจะได้เท่าเขา เนี่ย วิธีนำเสนอมีเยอะ เสือกเลือกที่จะให้เชฟมืออาชีพทำอะไรปญอ.แล้วนางเอกได้ซีนฉลาดสวยๆ กลายเป็นโง่หนักไปเลยเพราะเชฟห่าไรไม่รู้จักการเอาข้าวเย็นมาผัด

315 Nameless Fanboi Posted ID:DUtQCSz69R

>>310 แบบนั้นกูแต่งให้นางเอกทำร้านอาหารตามสั่งดีกว่าถึงจะเชื่อว่าทำได้หลายเมนูจริงแถมมีประสบการณ์พลิกแพลงสถานการณ์เฉพาะหน้าได้
ไอ้ข้าวผัดจริงๆจบให้ต่างกันแค่ สูตรพริกน้ำปลานางเอกมันอร่อยพิศดารกว่าใครเลยชนะก็พอ

เนื้อหามันมีปัญหาเพราะคนแต่งบท ทำอาหารไม่เป็นสักอย่างด้วยล่ะมั้ง

316 Nameless Fanboi Posted ID6:yBzwRfnoDP

>>312 กูเห็นพวกข้าวเย็นอร่อยกว่า มันอยู่ที่วิธีไข่เคลือบข้าว อร๊อย อร่อย ค.วย ข้าวที่ทำข้าวผัดที่ดีที่สุดคือข้าวหอมมะลิ หุงแข็งๆแต่ไม่ดิบ เพราะข้าวเวรนี่ต่อให้หุงแข็ง ความนิ่มดีกว่าข้าวขาวหุงรวมกันอีก ผัดไข่ก็คนไม่ต้องสุกมาก พอขาวๆก็ไข่ใส่เข้าไป ซีอิ้ว น้ำปลา น้ำตาลแล้วแต่จะใส่ เครื่องเคียง ถั่วฝักยาว แครอท อะไรก็ได้หั่นเต๋า ผัดรวมลงไป ไม่ฟิก
รสชาติที่ได้ ก็ออกเค็มๆ มันๆของไข่ มีความซับซ้อนถ้ามึงใส่น้ำตาล หอมน้ำปลานิดๆ มึงใช้เค็มตัดหวานแทนที่ผงชูรส แล้วทำกับข้าวจะอร่อย ตัวข้าวเป็นเม็ด ไม่ยุ่ย แต่ลิ้นดุนได้ การใช้ข้าวเย็นก็ต้องเป็นข้าวหอมมะลิ ผัดใช้ไฟแรง ใส่น้ำเปล่านิดหน่อยได้ แต่รสชาติก็พอกินได้ ไม่อร่อยเท่าข้าวร้อนหุงแข็ง ข้าวนิ่ม ลิ้นดุนยากหน่อย แต่เคี้ยวไม่ค่อยเหนื่อยปากเท่าข้าวแข็ง
คนที่บอกตัวเองว่าเชฟ แต่ไม่รู้จักการพลิกแพลง ทั้งๆที่เชฟมึงสั่งได้ กูก็แค่กุ๊กมือสมัครเล่น เพราะกูผัด wok กาก ระดับโฮมกุ๊กเอง คนแต่งบทไม่มีความรู้พอ แต่คนมันอวยเอาๆ ไอ้ไข่เคลือบข้าวก็จำมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นบ้าง หนังบ้าง การที่ทำไข่ดิบเคลือบข้าวรสชาติค่อนข้างห่วยแตก เพราะทำข้าวแฉะ ทำได้แค่กับข้าวแข็ง
กูลองมาหมดแล้ว

317 Nameless Fanboi Posted ID6:yBzwRfnoDP

>>316 **พอขาวๆก็ไข่ใส่เข้าไป** แก้เป็นพอไข่ขาวๆก็เอาข้าวใส่เข้าไป

318 Nameless Fanboi Posted ID6:9qWJZarlh7

>>315 ร้านบ้านนางเอกมันขายผัดซีอิ๊ว แต่ขายดีคนรอต่อคิวกินเยอะเหี้ยๆ เป็นกูคงไม่ไปทำงานกับไอ้เชฟหนวดให้โดนกดขี่หรอก แต่ร้านบ้านนางเอกนี่แม่งไม่เมคเซนส์เท่าไหร่ที่พ่อนางเอกจะไปนอนโรงบาลรัฐแบบคนไข้อนาถา ขายดีขนาดนั้นปกติแม่งส่งลูกเรียนเมืองนอกกันหมดนะเว้ย 555555555

เป็นกูคงเขียนบทให้นางเอกทะเยอทะยานเอง โดนไอ้เชฟหนวดเคี่ยวกรำจนกลายเป็นแบบไอ้เชฟหนวด เอาทุกอย่างในชีวิตแลกเพื่อเป็นเชฟแบบนั้นจนสูญเสียทุกอย่างไปหมด ทั้งแฟน ครอบครัว เพื่อน แต่นางเอกหันหลังกลับไปไม่ได้เพราะมาไกลเกินกว่าจะกลับแล้ว ตอนจบก็มีเด็กใหม่แบบนางเอกเข้ามาในร้าน ให้คิดต่อเอาเองว่านางเอกจะฝึกเด็กคนนี้ยังไงเป็นวังวนอุบาทว์ต่อไป จบแบบในซีรีส์แม่งละครคุณธรรมขายประกันสัสๆ

319 Nameless Fanboi Posted ID6:aH8Cvr8neh

>>318 จริงๆแค่ปรับบทให้ ที่ตั้งร้านนางเอกทำเลเลวร้าย หายไปจากกูเกิ้ลแมป ตรอกแคบรถไม่ผ่าน มีแต่คนในพื้นที่เล็กๆที่เป็นขาประจำ
เลยไม่มีทุนเปิดร้านทำเลดีหารายได้จุนเจือ

320 Nameless Fanboi Posted ID6:yBzwRfnoDP

>>318 แล้วก็ไอ้ผัดงอแงก็คือผัดซื้อิ๊วเนี่ยนะ โด่

321 Nameless Fanboi Posted ID:4OpRcMgqsW

>>318 ร้านบ้านนางเอกเท่าที่ดูไม่มีลูกจ้าง ไม่มีหนี้(ถ้ามีคงโชว์ให้เห็นไปแล้ว) ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าเพราะเป็นบ้านตัวเอง แถมคนมากินกันเต็มยังกับไข่เจียวเจ๊ไฝ แต่เสือกยังมีปัญหาเรื่องส่งน้องเรียนมหาลัย กูงงฉิบหายว่าบริหารร้านยังไงของพวกมึงวะ ขายจานละ 5 บาทรึไง และถ้ารีเสิร์ชดีๆ นี่ก็น่าจะรู้นะว่าร้านที่คนมากินกันเต็มรายได้วันละเป็นหมื่นเหนาะๆ ถ้าเรื่องมันปูว่าเจอพิษเศรษฐกิจไม่มีลูกค้าจนร้านใกล้เจ๊งจนต้องยอมรับไปอยู่กับเชฟพอลกูจะไม่งงเท่านี้
เรื่องตอนจบเหมือนกัน พวกหนังไทยตลาดนี่ชอบเลือกตอนจบเพลย์เซฟสวยๆ ตลอด ไม่ค่อยชอบเหี้ยให้สุด กลายเป็นว่าเหลือแต่พวกหนังนอกกระแส/หนังอินดี้/หนังล่ารางวัลต่างประเทศ ที่กล้าเล่นตอนจบถึงลูกถึงคน

322 Nameless Fanboi Posted ID:aNyoou2RVz

>>321 มันขายจานละ 150 ว่ะ ขายราคานี้แต่คนยังมากินและคิวยาวสัส แปลว่าต้องมีดี แต่เสือกเขียนบทแบบโง่ๆเรื่องค่าใช้จ่ายของน้องกับพ่อไปอีก

323 Nameless Fanboi Posted ID6:yBzwRfnoDP

>>322 ผัดซีอิ๊วดาวอังคารหรอวะ ทั้งๆที่รสชาติไม่ค่อยดีมากอะนะ

324 Nameless Fanboi Posted ID:aNyoou2RVz

>>321 แถมจะแซะชนชั้นแบบเรื่องชนชั้นปรสิตก็ทำไม่ถึงแบบเขา เรื่องนั้นพระเอกฝันว่าจะเก็บเงินซื้อบ้านเอาพ่อขึ้นมาอยู่บนดินเหมือนเดิม แต่กลายเป็นโดนความจริงตบหน้าว่ามึงเก็บไปร้อยปีก็ซื้อบ้านนั้นไม่ได้ พ่อพระเอกก็คงต้องตายอยู่ในห้องใต้ดินแบบไอ้ลุงนั่นไป หดหู่สัสแต่เรียล

325 Nameless Fanboi Posted ID:aNyoou2RVz

>>323 อาหารฮิตๆขายดีๆก็ไม่ได้แปลว่าอร่อยนะมึง ร้านนางเอกอาจจะเป็นไวรัลอะไรซักอย่างที่จับลูกค้าติด ก็ขายดีเรื่อยๆ แบบผัดไทเจ้าดัง คนกินบอกไม่อร่อย แต่คนซื้อเยอะและคิวยาวสัส ร้านนางเอกคงแบบเดียวกันมั้ง

326 Nameless Fanboi Posted ID:mvUB+9CIpO

>>322 หนังแซะชนชั้น
แต่นางเอกขายจาน 150 แถมคนแดกเต็มร้าน รายได้วันหมื่นเหนาะๆ เดือนเป็นแสน ปีเป็นล้าน

แต่เสือกไม่มีปัญญาส่งเสียน้องไปเรียน เยสเข้ น้องมึงไปเรียนอเมริกาแบบยัดตังเหรอวะ

327 Nameless Fanboi Posted ID:aNyoou2RVz

>>326 สมมตินางเอกขายได้วันละ 300 จาน ดูจากคนเต็มร้านตลอด 300×150 = 45000 กูให้หักต้นทุนทุกอย่างเลยเหลือกำไร 20000 ขายเดือนละ 26 วัน หักวันหยุดไปแล้ว 20000×26 = 520000 แล้วเอา ห้าแสนนี่คูณจำนวน 12 เดือน 520000×12 = 6240000 อันนี้คิดมั่วๆเลยนะ เสือกมีปัญหาค่าใช้จ่ายอีก

328 Nameless Fanboi Posted ID:J2/Y8M.5iv

ในไทยพวกร้านอาหารบ้านๆที่อยู่มานานและคนแดกเยอะนี่ส่งลูกเรียนจบยุโรปมาเป็นร้อยเคสแล้วนะ ดูไปงงไปว่าส่งเรียนไม่ไหวนี่มันไปเรียนMITเหรอวะ
จะเสียดสีเรื่องชนชั้น แต่ไม่รู้ว่าชนชั้นที่ตัวเองจะโอ๋เขาใช้ชีวิตกันยังไง มโนไปเองจากหอคอยงาช้าง กูล่ะขลำ

329 Nameless Fanboi Posted ID:4OpRcMgqsW

แล้วคนเขียนบทคือคงเดชที่มักจะทำหนังแนวการเมืองด้วยนะ ไม่รู้มันพลาดขนาดนี้ได้ไง หรือถ้ากำกับเองจะปิดรูรั่วได้ดีกว่านี้?

330 Nameless Fanboi Posted ID:aNyoou2RVz

>>328 ถ้ามันปูมาว่าบ้านมีหนี้ พ่อป่วยแบบรักษาทีใช้เงินเป็นล้าน ไอ้เชฟมาเสนอว่ามาทำงานกับกูสิ รายได้งามแบบเอาไปรักษาพ่อมึงได้นะ แบบนี้จะดูเมคเซนส์กว่าอีก

331 Nameless Fanboi Posted ID6:lHNVdBe5B2

>>314 กูว่าคนเขียนบทคงอยู่สังคมคนละแบบกับพวกเรามั้งเลยคิดว่าเอาข้าวเก่ามาทำข้าวเก่ามาผัดมันดูเป็นวิธีบ้านๆและดูเจ๋งดี จะได้คอนทราสกับเชฟอีกคนที่เลือกทำข้าวผัดด้วยวิธีหรูๆด้วย ประมาณจะแซะว่าพวกชนชั้นปกครองเพราะเสพแต่อะไรเลิศหรูตลอดเลยไม่รู้คุณค่าของสิ่งง่ายๆ

332 Nameless Fanboi Posted ID6:LVI5PEyI8e

>>331 แต่ไอ้ข้าวเก่านี่มันเคล็ดลับล้าสมัยไปแล้วอะดิ อารมณ์แบบอยากหมักเนื้อให้นุ่มก็ใส่สัปปะรดไรเงี้ย มันไม่เจ๋งไม่ว้าวห่าไรทั้งนั้นเพราะใครๆที่เข้าครัวทำกับข้าวเป็นเขาก็รู้ป่ะวะ แต่คนเขียนบทแม่งเสือกยัดฉากนี้มามันคิดว่าทริคนี้เจ๋งสาดดดแล้วเหรอวะ 5555555555

333 Nameless Fanboi Posted ID6:yBzwRfnoDP

>>332 ยิ่งฝรั่งที่ทำ bbq ตลอดๆนะ

334 Nameless Fanboi Posted ID6:LVI5PEyI8e

>>333 กูว่านางเอกมันควรโชว์ความเจ๋งแบบ...ไอ้เชฟนั่นเดินไปเปิดตู้เอาข้าวเย็นมาผัด แต่กูเอาข้าวร้อนผัดเว้ย โชว์ทักษะคุมไฟให้ไอ้เชฟหนวดมันดูเลยว่ากูเอาข้าวร้อนผัดแม่งก็ออกมาร่วนสวยไม่แพ้ข้าวเย็น จะได้คำตอบแบบสวยๆว่ากูผัดนั้นนี่อยู่หน้าเตาทั้งวัน มันก็จับทริคได้เองว่าต้องทำยังไง จะทำให้นางเอกดูเจ๋งไปเลยในฉากนี้ ไม่ใช่ไปยัดซีนเชฟตัวจริงเอาข้าวร้อนผัดเลยออกมาแฉะ แต่นางเอกใช้ข้าวเย็นผัดเลยร่วน มันเลยดูโง่ทั้งเรื่อง

335 Nameless Fanboi Posted ID6:yBzwRfnoDP

>>334 แบบที่กูบอกไง ข้าวหอมมะลิหุงแข็งๆ พอผัดออกมาก็ใช้ได้ ถ้าเชฟใช้วิธีนี้นะ จบเรื่อง

336 Nameless Fanboi Posted ID:cmpIwznEnT

>>332 ทำหมูกรอบ เนื้อกรอบหรือทริกทอดอกไก่ให้สุกแบบทั้งยวง ไอพวกเนี้ย กูไม่เก็ทว่าทำไมมันนึกไม่ได้ว่ามันก็มีทริกเล็กๆน้อยๆของมันนะ กูเห็นมาสเตอร์เชฟเกาหลีมีซีซั่นนึงมั้งให้แล่ไก่ ละสุดท้ายให้เอาส่วนอกไปทอด ทอดให้กรอบนอกนุ่มใน สุกต้องทั่วถึง แม่งต้องทำแข่งกับเวลามากๆ ทำไมมันไม่เอาตรงนี้มาวัดของกัน ....อีกอย่างนึงนะ ผัดข้าวเนี่ย มีแบบผัดโต๊ะจีนและผัดแบบในเรื่อง เดาใจยากจะตายห่าว่าต้องผัดแบบไหน ถ้าเฮดเชฟแม่งชอบแนวผัดข้าวโต๊ะจีน(นึกไม่ออกก็หน้าตาแบบข้าวผัดเซเว่นอ่ะ) แม่งก็ไม่ผ่านป่ะวะ?
>>326อีเชี่ย plot hole ตัวเบ้อเริ่ม กูก็นึกว่าขายจานละ 60-80 ....ละแม่งก็ร้านนี่ไม่ได้เช่าใคร บ้านตัวเองใช่ป่ะ? ต่อให้เซ้งกิจการก็ตามนะ ขายขนาดนี้ต้องคุ้มทุนได้แล้วอ่ะ

337 Nameless Fanboi Posted ID6:LVI5PEyI8e

>>336 ไม่ต้องถึง 150 ร้านที่ขายดีๆ ขายจานละ 60 80 ก็ส่งลูกเรียนเมืองนอกได้เยอะแยะนะมึง อาแปะปากซอยบ้านกูขายข้าวมันไก่จานละ 40 แม่งส่งลูกเรียนเมกาไปสองคน แต่แกขายดีชิบหาย ข้าวหอมมัน ไก่นุ่ม น้ำซุปอร่อย ราคาไม่แพง ขายตอนเย็นคนรอต่อคิวซื้อกันคนละสี่ห้าถุง แกรบมาจอดรอหน้าร้าน ขายตอนห้าโมงเย็นถึงสามทุ่มแต่ส่วนใหญ่หมดก่อน ลูกเรียนจบหมดแล้วแกก็ยังไม่เลิกขายนะ ขายเอาสังคมเฉยๆ แต่ก็เสือกขายดีไปอีก

338 Nameless Fanboi Posted ID6:x/av1jkeVX

คนใช้กะทะผัดซีอิ๊วมาทั้งชีวิต กับเชฟที่ฝึกทั้งผัด ทั้งทอด ทั้งย่าง ทั้งปลา หมูเห็ดเป็ดไก่ มันจะไปแพ้แม่ค้าขายผัดซีอิ๊วที่สักแต่ผัดไปวันๆได้ไงวะเนี่ย

339 Nameless Fanboi Posted ID:78dLhfI0cd

>>338 เชฟอุปกรณ์ครบเครื่องกว่ามาก เรียนมาหมดแต่แม่งถ้าไม่เคยเจอสภาวะกดดันบางอย่างนี่แม่งก็ไม่ค่อยได้ฝีมือหรอก เก่งแบบเป็ดมันไม่เท่าคนเก่งลึกอยู่นะ

340 Nameless Fanboi Posted ID:mGh1ATYkSQ

กลับกัน ถ้าเปลี่ยนบทเป็นไม่เอาดาร์คแบบนี้
เปิดเรื่องมาไอ่ผู้ช่วยเชฟไปแดกร้านนางเอกแล้วปิ๊งมาจีบ
ไปๆมาๆ ดึงกันเข้าทีมเชฟพอลอย่างที่เห็นต้นเรื่อง..

เชฟพอลก็ดูเป็นคนดุ แต่มีเหตุผล และไม่ใช้คำรุนแรง ไม่ลงมือกับใคร

ทีม Hunger เป็นทีมที่กำลังถือเป็นทีมอาหารดาวรุ่ง ทุกคนในทีมร่วมแรงร่วมใจกัน

มีทีมคู่แข่งกำลังตามไล่หลังมาคือ ทีมนึงที่พยายามซื้อตัวเชฟพอลไป
ทีมนี้พยายามหาตัวมาเสริมทีม เลยแอบติดต่อนางเอกลับๆ แต่นางเอกแน่นอน..ไม่ไป

ก็ไม่ต้องมีการเมืองเหี้ยไรมาแทรก กูอยากเห็นหนังทำอาหารเต็มๆ ดีๆ สักเรื่อง แค่นี้แหละ

341 Nameless Fanboi Posted ID:5IlGVahTNz

แวะมาแก้ให้หน่อยว่า ผัดซีอิ้วร้านนางเอกแปะ 40 บาท แต่คนแดกเต็มร้านมี grab นั่งรอ คือขายดีนั่นและ

342 Nameless Fanboi Posted ID6:/Kq9StHGzV

ยายแก่ๆแถวบ้าน(ชนบท)ขายขนมจีนตอนเช้า ร้านก็สนามหญ้าหน้าบ้านแกนี่แหละเอาเต็นท์สีฟ้ามากาง วางโต๊ะเก้าอี้พลาสติก ขายมาตั้งแต่จานละ10บาทจนตอนนี้จานละ30 คนตามกินกันเยอะตามกินกันนาน(แม้แต่คนในตัวเมืองยังขับรถออกมากินเช้าๆ ตั้งขายหกโมงสิบโมงก็เก็บร้าน) คุยไปคุยมาเพิ่งรู้ว่าแกส่งหลานเรียนจบแคนาดาด้วยขนมจีนแก

แล้วอีน้องชายของนางเอกมันจะไปเรียนที่ไหนวะที่ราดหน้าจานละ150ขายทั้งวันจะส่งไม่ได้ กูล่ะงงไอ้สัส

343 Nameless Fanboi Posted ID:l/MJUsEVVd

>>339 จริงๆงานเชฟมันกดดันนะมึงเพราะต้องแข่งกับเวลา ลูกค้ามารอเต็มร้านจะให้เขารอเป็นชั่วโมงนี่โดนด่านะเว้ย ไอ้เรื่องกดดันมันต้องเจอกันมาหมดแล้ว จะให้แพ้แม่ค้าผัดซีอิ๊วด้วยทริคโง่ๆนี่เกินไป

344 Nameless Fanboi Posted ID6:aqkDMA7K1u

>>341 ผัดทั่วไปของมันก็ 40 แต่ไอ้ผัดงอแงอะไรซักอย่าง 150 แล้วไอ้ผัดห่านี่เสือกเป็นผัดขายดีที่สุดของร้านอีก แต่ก็นั่นล่ะ ขายดีระดับนี้แม่งต้องส่งลูกเรียนเมืองนอกได้สบายๆกันหมดละ ถ้าไม่ปูมาก่อนว่าเคยเจ๊ง เคยล้มละลาย หนี้สินพะรุงพะรัง มันก็ไม่ชวนเชื่อไงว่าพ่อนางเอกต้องไปนอนห้องอนาถา ไม่มีเงินส่งน้องเรียนแบบนั้น

345 Nameless Fanboi Posted ID6:JpJXB92Aol

>>344 แล้วผัดงอแงมันต่างจากผัดซีอิ๊วยังไงวะ

346 Nameless Fanboi Posted ID:BPIimlUUoq

>>345 ผัดขี้เมา แล้วเอามาเปลี่ยนชื่อ

347 Nameless Fanboi Posted ID6:.Ug.Am.EYu

>>341 โอเค สมมติยึดยอดขายตาม >>327 กำไรต่อปีก็น่าจะลดเหลือประมาณ 1-2 M ... ก็เยอะอยู่ดีนั่นแหละวะ
ภาพลักษณ์ครอบครัวที่หนังสื่อออกมาก็ไม่ได้มีกิจกรรมทางการเงินอะไรที่ใช้จ่ายเยอะแยะ ฟุ่มเฟือย หรือติดพนันอะไร ยิ่งพื้นฐานครอบครัวเจ๊K คือขี้งกอยู่แล้วด้วย แล้วเงินพวกมึงไปไหนหมดวะ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.