Fanboi Channel

หนังไทย #๓

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:CP3GZjNVRI

พูดคุยเกี่ยวกับภาพยนตร์ไทย ทั้งยุคเก่าและปัจจุบัน

กระทู้เก่า
>>>/movie/2399/ #๑
>>>/movie/6057/ #๒

2 Nameless Fanboi Posted ID:RADMkWJRx+

กระทู้ 3 หายไปไหน นี่ไม่ใช่กระทู้ 3 อันแรกนะ

4 Nameless Fanboi Posted ID6:VOcs.gJNgV

>>2 sirn ลบทิ้งเพราะมีประเพณีปิดมู้ที่สืบต่อกันมาจากห้อง GG

5 Nameless Fanboi Posted ID:eqrpP7TSJi

รีวิวแบบรับตังค์โฆษณา
https://youtu.be/51a9QXcpYwY
รีวิวแบบไม่ได้รับตังค์โฆษณา
https://youtu.be/AD9Fy-9isv4

6 Nameless Fanboi Posted ID:Z6dbDdZJIZ

พวกรีวิวรับตังค์ มีระดับการอวยตามจำนวนเงินมั๊ยวะ 555555555

7 Nameless Fanboi Posted ID6:fNK4aRdBRi

The Cheese Sisters มีเพจไหนทำรีวิวออกมาบ้างยัง ขอเพจรีวิวที่ไม่ใช่พวกเพจโอตะคุนะ

8 Nameless Fanboi Posted ID6:Msdqptsy2i

>>5 เห็นมีออกมารีวิวอวยหลายช่องเลย ช่องยอดวิวไม่เยอะทั้งนั้น มีช่องข่าวด้วยแต่ลบไปละ ตอนแรกแค่ปิดคอมเม้นแต่เหมือนเอาไม่อยู่
>>7 อยากรู้เหมือนกันว่าสนุกไหม ฟังเพลงนี้แล้วอยากไปดูเลย นักแสดงน่ารักดี https://youtu.be/m6svJS9JtD0

9 Nameless Fanboi Posted ID6:iFQ9lh1XKf

หนังเฉพาะกลุ่มอ่ะ สำหรับเรื่องที่มะเดี่ยวเป็นโปรดิวเซอร์ กับอีกเรื่องที่ฉายก่อนหน้านี้ที่เป็นหนังของวง Proxie รายได้ก็พอๆ กัน แต่น้อยกว่า

10 Nameless Fanboi Posted ID6:oXoyXSPpbb

>>5 ช่องนึงโคตรไร้แก่นสารของนักดูหนังชิบหายเลย นี่มันทำช่องขึ้นมาเหมือนไม่มีความรู้เกี่ยวกับหนังเลยหรือไงว่ะ แต่อีกช่องนี่แบบ นี่มันคนในวงการหนังเลยมั้งเนี่ย

11 Nameless Fanboi Posted ID:3SRyrCKLGg

เป็นไงวะเรื่องนี้ น่าดูไหม
https://youtu.be/FdgYql9Qj2w

12 Nameless Fanboi Posted ID6:BCaeyeprfn

https://video.twimg.com/ext_tw_video/1597464179975213056/pu/vid/540x960/AhXqJYFTAc4kkfik.mp4?tag=12

13 Nameless Fanboi Posted ID:aEXb5ge9rQ

>>10 ช่องไหนไร้แก่นว่ะ

14 Nameless Fanboi Posted ID6:X.QLv8Nc+f

>>13 ช่อง ตลกดน ไง
อีกช่อง ช่อง นน รายนั้น เรียนการแสดง เรียนภาพยนตร์มาเลย

15 Nameless Fanboi Posted ID6:7ZCZQwwp7.

>>13 เหน่งคุงชาแนล

16 Nameless Fanboi Posted ID:283tBXU5hk

>>14 ใช่ช่องที่มีประเด็น​กับ​ จสบ​ ​ป่าวอ่ะ

19 Nameless Fanboi Posted ID6:Zby6Sp1qH6

https://youtu.be/3539ZNu53bo

21 Nameless Fanboi Posted ID:VU0ikvkr9l

หนุมานนี่ไอเดียดีนะ เอาโขนมาใส่ Special effect แต่กูขอเดาว่าคงทำรายได้ไม่เยอะ เพราะดูตัวอย่างหนังแล้ว บทหนังมันคือโขนล้วนๆไม่มีดัดแปลงอะไรเลย เด็กรุ่นใหม่คงไม่สนใจอยู่ดี

22 Nameless Fanboi Posted ID:aFm+NX2/BA

>>21 น่าสนใจอยู่นะ แต่พล็อตเรื่องแบบนี้ดูทรงน่าจะเจ๊งแน่ๆ ถ้าใช้พล็อตเดิม ไหนจะพยายามยึดติดโขนไทยอีก

23 Nameless Fanboi Posted ID:SuztMdqzza

>>21 พล็อตตรงเป็นไม้บรรทัด เป็นแค่โขนใส่CG ก็คงต้องเก็บไว้ดูกันเองชาบูกันเองนั่นแหละ

24 Nameless Fanboi Posted ID:6rZbVrbHhQ

ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าว่าที่นักแสดงไทยเล่นหนังแล้วเวลาแสดงอารมณ์ไม่ขาดก็เกินเพราะBotox มันทำให้หน้าตึง เวลานักแสดงต่างประเทศแสดงอารมณ์แค่เปลี่ยนสีหน้านิดเดียวนี่แบบอย่างเปลี่ยนอารมณ์

25 Nameless Fanboi Posted ID:6rZbVrbHhQ

The lake ทำไมเด็กมันอ้วกว่ะ

26 Nameless Fanboi Posted ID:0cXSJXzoee

https://youtu.be/i29OMg7PLvQ

27 Nameless Fanboi Posted ID6:jbkvlfDEnJ

>>24 คิดไปเอง เกาหลีไม่เห็นเป็นเลย

28 Nameless Fanboi Posted ID6:4qqGaq23Sv

>>24 นักแสดงไทยรุ่นใหม่ๆ ขายหน้าตาเยอะ แต่สกิลการแสดงต่ำเตี้ย

30 Nameless Fanboi Posted ID6:1G0xQJoRoi

https://the-e-world.com/talk-with-tuaron-worldwide/
คิดว่ายังไงกับบทความนี้?

31 Nameless Fanboi Posted ID6:Pd5y9Vgyk8

>>30 สรุปหน่อย เห็นหน้าไอ้แหว่งกูก็ไม่อยากอ่านล่ะ

32 Nameless Fanboi Posted ID:9m1xBplQHV

>>28 กูเปิดดูหนังไทยยุคสิบปีที่แล้วก็เห็นด้วยนะ มันเกิดอะไรขึ้นทำไมวงการหนังกับเพลงไทยมันขยะได้แบบนี้

33 Nameless Fanboi Posted ID6:xZ+HBqp8Ul

>>30 ดูหนังยังไง บอกชื่อพระเอกหนังผิด

34 Nameless Fanboi Posted ID6:xZ+HBqp8Ul

>>32 หนังไทย ไม่ได้พัฒนาไปไหนเลย แต่คนไทยได้ดูหนังต่างชาติที่คุณภาพดีกว่ามาก ค่าตั๋วหนังพอๆ กัน คนก็เลือกดูของต่างชาติมากกว่า ไม่ต่างจากละครไทยที่โดนต่างชาติตีกระจุย เพราะกี่สิบปีก็เหมือนเดิม

35 Nameless Fanboi Posted ID:iYs0hr+dYd

>>30 ต่างชาติก็ชอบดูหนังอะไรง่าย ๆ เหมือนกันแหล่ะ อย่างดูหนังแอ็คชั่น หนังตลก
แต่ความเอาใจใส่ในการผลิตผลงานของผู้ผลิต กับ รสนิยมในการดูมันสูงกว่าของไทย

36 Nameless Fanboi Posted ID:2xJC29Y.C5

>>28 ถ้าเทียบกับต่างชาติ เราขาดพวกโรงเรียนการแสดงที่ได้มาตราฐาน กับ ละครเวทีหรือเปล่า เพราะหลายที่ก่อนจะมาเป็นนักแสดง ส่วนใหญ่ก็ไปเรียนรู้มาจากพวกนี้ก่อน

37 Nameless Fanboi Posted ID:9m1xBplQHV

>>36 ก็เคยเห็นมีจัดacademyไรพวกนี้ ตอนนี้หายไปไหนหมดละ

40 Nameless Fanboi Posted ID6:nZS7fljBFn

>>38 >>39 คุวงม่วงไปไกลๆ ตีน กูไม่อยากโดนแบนเพราะพวกมึง

41 Nameless Fanboi Posted ID6:jTyZkNnReS

>>40 มันก็คุยเรื่องหนังเรื่องการแสดงนะ คุยเรื่องวงการนี้จะให้เลี่ยงไม่พูดถึงเลยคงยากว่ะ ตอนนี้นาดาวก็ยุบไปแล้ว ดาวเด่นค่าย gdh ก็เป็นเด็กจากวงนี้อีก

42 Nameless Fanboi Posted ID:FKKAMa4+.6

แบนไม่ให้พูดถึงภาพยนต์ในประเทศเลยไหม เหมือนที่แบนไอดอลน่ะ ต่อไปก็แบนเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีด้วยนะ ปีหน้า บอค จะไปตีตลาดเดบิ้วที่เกาหลีแล้ว แล้วก็อย่าลืมแบนการเมืองในไทยด้วยล่ะ เด็ก บอค ไปลงการเมืองอยู่พรรคส้ม แล้วก็แบนวงการ esport ด้วย เด็ก บอค 6 คนตอนนี้อยู่ค่าย MiTH

43 Nameless Fanboi Posted ID6:nZS7fljBFn

บ่นไรมึง >>42 ไปดูคอมเม้นข้างบนมีแต่พวกโทรลขยะทั้งนั้น
เข้าสาระ
จากที่ >>36 บอกมันมีแต่ คนไม่ใส่ใจส่วนนี้เยอะมากโดยเฉพาะหนังที่ขายพวกเน็ตไอดอล, อินฟลูเรนเซอร์ นักแสดงหลายคนที่ไปฝึกการแสดงเสริมก็มี แต่ใช้งบตัวเองทำเพื่อพัฒนาตัวเอง

44 Nameless Fanboi Posted ID:Q+0yj2M5wI

ว่าตามตรงนักแสดงส่วนใหญ่ใช้เส้นกับหน้าตามากกว่าฝีมือ จริงๆ ส่วนตัวกุชอบดูพวกนักแสดงสมทบในหนังมากกว่านักแสดงหลักเพราะคนพวกนี้เล่นดีแบบโคตรถึง กลับกันนักแสดงในหนังหลายเรื่องบางคนที่มีคนอวยว่าเล่นดี พอไปดูจริง แม่งก็แค่หน้าตาดี แหกปากกับทำหน้าเขม่งได้ นอกนั้นไม่มีไรเลย

45 Nameless Fanboi Posted ID6:04R0uHE9Iv

>>44 พูดได้โดนใจกูจริงๆ

46 Nameless Fanboi Posted ID6:eos6CyHrZC

แต่ไอดอลนักร้องมากฝีมือ ที่มารับงานแสดงนี่ สุดจริง นึกว่านักแสดงสายรางวัล ไม่ได้ครูดี ก็น่าจะพรสวรรค์ประทานมาให้

47 Nameless Fanboi Posted ID:0lZeZX7ucJ

>>46 หมายถึงใคร จูเน่ หรือ มิวสิค

48 Nameless Fanboi Posted ID6:jahfPnEjJ.

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0Np3YyVn9Zvy7NwzhJvE7cjFaypLix3mFQuSNnPASjBryiDvhGLZtFmCVP1TLCgK5l&id=100044226886660&mibextid=Nif5oz
หนังขาย Rape Culture

49 Nameless Fanboi Posted ID6:E2K0vpKFL6

ไม่ใช่ว่าพวกเฟมทวิตพวกนี้ก็เป็นพวกที่อ่านนิยายวายเกาหลีฉันจะยัดเยียดความเป็นผัวให้นายเองเหรอวะ ทำไมไม่ดิ้นที่อันโน้นขายวัฒนธรรมข่มขืนบ้าง

50 Nameless Fanboi Posted ID:jLTTANp.JI

หนุมาน ภาพดีนะ แต่ข้อเสียมีแค่เรื่องฉากบางฉากควรจะใส่บทพูดบ้างไม่ต้องมาเงียบ ส่วนเนื้อเรื่องก็ตามรามเกียรติ์นั่นแหละเล่าย่อให้มันย่อยง่าย

51 Nameless Fanboi Posted ID6:O539c6V+xQ

เห็นหนังสัตว์ประหลาดไทยกันไปแล้ว มาดุของเพื่อนบ้าน สิงคโปร์กันบ้าง

https://www.youtube.com/watch?v=gd0LaoBVe6U

52 Nameless Fanboi Posted ID:wq.TO09Zdn

Fast feel love ต่างประเทศชอบ คนไทยด่าหนังไรตรรกะตัวละครป่วย เนื้อหาเหมือนปั้น แย่ๆๆๆ ผู้ชายก็เห็นแก่ตัว กุเขียม

53 Nameless Fanboi Posted ID:3yx.oXzVRR

>>52 ก็ชอบในหมู่นักวิจารณ์ พวกเทศกาลหนัง ในไทยพวกนักวิจารณ์ก็ชอบ

54 Nameless Fanboi Posted ID6:91nljHJC7.

>>52 ชอบนี่รายได้เท่าไหร่

55 Nameless Fanboi Posted ID:UE65xDzsjP

>>54 อยากรู้​จริงป่ะ

56 Nameless Fanboi Posted ID6:m6cRPqH.w+

นักวิจารย์ชอบนี่เกี่ยวไรกับรายได้

57 Nameless Fanboi Posted ID:r0r0FfjdR9

>>54 Shawshank ตอนฉายเจ๊งนะเพื่อไม่รู้

58 Nameless Fanboi Posted ID6:AOfTvCh6Vw

เรื่องรายได้ สำหรับคนไทยดูหนังเพื่อความบันเทิง ไม่ได้เสพศิลปะเหมือนพวกนักวิจารณ์ หนังที่ถูกจริตนักวิจารณ์มักจะไม่ถูกจริตคนดูทั่วไป

59 Nameless Fanboi Posted ID:h4ft6PYJE6

>>58 ดูเพื่อความบันเทิงก็น่าจะทั่วโลกนะไม่ใช่แค่คนไทย เอาจริงๆกุทำงานมาเหนื่อยๆก็อยากดูหนังเพื่อผ่อนคลาย ไม่ได้อยากมานั่งตีความถอดนัยยะในหนังให้ปวดหัวหรอกเว้นแต่กุมีเวลามากพอน่ะนะ

60 Nameless Fanboi Posted ID:hkQI/WaHCf

ในไทยมีนักวิจารณ์หนังดีๆไหมอ่ะ

61 Nameless Fanboi Posted ID6:x8IWSh8o.n

ตีลังกาดูหนัง น่าจะเป็นนักวิจารณ์หนังที่ตรงไปตรงมา และผู้คนให้การยอมรับมากที่สุด

62 Nameless Fanboi Posted ID6:uTeXlUy79T

จันเรดดีที่สุด

63 Nameless Fanboi Posted ID6:DG8mrEd2gT

>>60 รับเงินมาทั้งนั้นแหละ

64 Nameless Fanboi Posted ID6:x8IWSh8o.n

>>63 กางหลักฐานการรับเงินมาเลยครับ

65 Nameless Fanboi Posted ID6:fHwFdaV5fF

>>61 บ้าบอ ยังมาทำตัวหิวเเสงเรียกยอดไลท์ตอนดราม่ามังงะMhaอยู่เลย เเถมดูท่าจะเเอบเหยียดหนังยุ่นเมะยุ่นด้วย
ต้องถามว่ามีนักรีวิวคนใหนรีวิวโดยที่ไม่โดนเงินฟาดดีกว่า

66 Nameless Fanboi Posted ID:oXVw017NrY

คนเราเกิดมาพ่อแม่ก็คนละคน ประสบการณ์ก็คนละอย่าง หลอมรวมไปเป็นรสนิยมที่แตกต่างกัน มันไม่มีหรอก นักวิจารณ์ที่ดีที่สุด มีแต่นักวิจารณ์ที่ตรงจริตกับมึงที่สุด มีรศนิยมไกล้เคียงกับมึงที่สุด แล้วคนนั้นแหละที่มึงแม่งจะบอกว่าดี

67 Nameless Fanboi Posted ID:XFqPt7kf7H

ไพโรจน์ สังวริบุตร ตัดพ้อ "ผมล้มละลายแน่" หนังวัยอลวน 5 ถูกลดรอบฉาย https://www.thairath.co.th/entertain/movie/2596555

68 Nameless Fanboi Posted ID6:rZdngrvi9G

>>67 ใจนึงจะเห็นใจแก แต่ใจนึงอยากถามแกว่า ทำไมแกคิดจะทำหนังแบบนี้มา แถมได้ยินข่าวลือว่าแกไม่ชอบภาค 4 เพราะมีปัญหากับทีมงานหรือนักแสดง เพราะมีคนดูมาแล้วว่าภาคนี้ไม่เชื่อมต่อกับภาคใดเลย พวกลูกของพระนางก็โดนตัดทิ้งหายไป เน้นดันหลานแทน
อีกอย่างหนึ่งหนังพวกนี้มันเน้นกลุ่มเก่า ใครจะไปดูล่ะ เพราะกลุ่มผู้ชมเค้าปรับเปลี่ยนดูอย่างอื่นกันไปหมดแล้ว

69 Nameless Fanboi Posted ID:onk/SEzkzF

เพิ่งรู้ว่าอาไพโรจน์ แกควักเงินทำหนังเอง ตอนแรกคิดว่าเป็นคนอื่นทำ
แต่ก็อย่างว่า แกกับหนังวัยอลวน ประสบความสำเร็จ และโด่งดังมาด้วยกัน
และตัวแกก็ไม่อยากจะทิ้งผลงานคู่บุญอันนี้ อยากจะต่อยอดความสำเร็จนี้ไปเรื่อยๆ
จนลืมว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไป หนังของแกมันเชย มันล้าหลัง มันตกยุคหมดแล้ว

70 Nameless Fanboi Posted ID6:mV2rIcZSds

อาไพโรจน์แกดังจากละครพื้นบ้านก่อน มาดังก็วัยอลวน ดังจนคนรุ่นนั้นตั้งชื่อลูกว่าตั้มกับโอ๋เกลื่อนหมดในยุคนั้น
เฟรนไชส์วัยอลวนทำแค่ 4 ภาค คือ วัยอลวน (ภาคแรก), รักอุตลุด (ภาค 2), ชื่นชุลมุน (ภาค 3), วัยอลวน 4 ตั้มโอ๋รีเทิร์น (ภาค 4)
ส่วนภาค 5 เห็นว่าถ่ายทำนานแล้วนะ ตอนแรกฉายในปี 2020 แต่เจอโควิด เลยโดนเลื่อนฉายไปเกือบ 3 ปี แต่กว่าจะกลับมาฉายก็ปีนี้ แต่ว่าดันเจอหนังใหญ่เข้ามาชนอย่างอวตาร 2, Puss in Boots 2 the Last Tale. แถมรอบฉายก็โดนตัดเยอะ
อีกอย่างหนึ่ง อาไพโรจน์ทำภาคนี้ เหมือนทำมาให้ไม่ต่อกับภาค 4 คนเลยวิจารณ์ว่าบทมันย่ำอยู่กับที่ เลยเกิดดราม่าขึ้น
ส่วนหนังเก่าพวกนี้ ว่าตามตรงถ้ามันจะขายเฟรนไชส์หนังพวกนี้ควรไปทำแบบเฟรนไชล์หนังเก่าที่กลับไปทำซีรีส์ลงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง แล้วเอา ผกก มาช่วยเสริมทำให้ แต่อาแกเหมือนติดอีโก้เยอะไปตรงที่แกไม่เอ่ยถึงภาค 4 เพราะเหตุผลบางอย่าง

71 Nameless Fanboi Posted ID6:mV2rIcZSds

ยกตัวอย่างหนังฝรั่งยุค 80 แล้วกลับมาดังก็ Karate Kid เมื่อก่อนดัง แล้วดิ่งลงตั้งแต่ภาค 3 และภาค 4 ที่เปลี่ยนตัวเอกเป็นผู้หญิง จนเฟรนไชส์ตายไป กลับมาดังก็ทำ Cobra Kai เพราะปรับมุมมองเนื้อหาให้ตามยุคปัจจุบัน แล้วหาทางลงกับเนื้อหาเก่าได้ดีจนทำซีซั่น 4 ล่าสุดจะประกาศทำหนังโรงใหม่แล้ว

72 Nameless Fanboi Posted ID:VIuaKceXyw

จะให้ช่วยยังไง หนังออกมาเป็นแบบนั้น ดูแล้วไปไม่รอดแน่
ถ้าลง Netflix ยังพอช่วยได้มั้ยวะ

73 Nameless Fanboi Posted ID6:4ubT.HrfGU

>>72 ช่วยได้ระดับหนึ่งมั๊ง แต่เรื่องพวกนี้จะติดเทรนด์อันดับ 1 ได้หรือเปล่า เพราะ บางเรื่องที่มองว่าห่วยยังติดอันดับ 1 ได้เลย

74 Nameless Fanboi Posted ID6:4ubT.HrfGU

>>70 อาไพโรจน์แกพลาดตรงที่ แกไม่ดูทาร์เก็ตคนดูว่าเค้าจะกลับมาทำหนัง แถม PR ก็เฉพาะกลุ่ม เห็นว่ากลุ่มแฟนคลับของอาไปอยู่ที่ TikTok กันหมด

75 Nameless Fanboi Posted ID6:eByxXZkIGU

>>72 ก็คงช่วยได้นิดหน่อย ค่าซื้อลิขสิทธิ์ไปลง Steaming ถ้าเอาแบบที่คุ้มทุน อาแกบอกว่าลงทุนไป 30 กว่าล้านใช่มะ อาแกคงต้องดีลราคา 30 กว่าล้านนั่นถึงจะไม่เข้าเนื้อ แต่คิดว่า NF จะยอมจ่ายขนาดนั้นเพื่อหนังอะไรก็ไม่รู้แบบนี้เหรอวะ

76 Nameless Fanboi Posted ID:85Gs3W55Eb

>>75 1ล้าน ดอลไม่ถือว่าแพงนะถ้ามองในตลาดนอก มันก็พอๆกับทุนสร้างหนังเกรดบีเผลอๆน้อยกว่า

77 Nameless Fanboi Posted ID6:/sTSdH5HIz

เงิน 30 ล้านที่ทำหนังนี่ งบงานเน้นจากไหนกัน แต่ถ้าเดาคงไม่พ้นเรื่องค่าตัวนักแสดง โดยเฉพาะพวกดารารุ่นใหญ่นี่แหละ แต่รุ่นเล็กอย่างพวกแน็ค ชาลี, พิม พิมประภา ค่าตัวน่าจะอยู่กลางๆ เดี๋ยวว่างๆ ว่าจะไปดูว่าจุดไหนมันขัดใจที่สุด เพราะข้างบนสปอยไปแล้วว่ามันไม่ต่อจาก 4 ที่มีคนลูกเป็นตัวละครนำ

78 Nameless Fanboi Posted ID:lTo8ViblNl

เพิ่งอ่านข่าว ไอทำหนัง30ล้านมา คนทำยังมีสติดีไหมเนี่ย เหมือนติดอีโก้ว่าเคยดังอะ คนเลื่อนตต๊ 2-3นาที
ก็เหมือนดูหนังแล้ว คนเก่งๆทำหนังในช่องทางออนไลน์ให้ดูฟรีด้วยซ้ำ และกุเกิดไม่ทันด้วย ไม่เคยดูภาค 1-4 ดูแต่แกเป็นตัวประกอบช่องหลากสี ก็ไม่ได้แสดงดีอะไร ออกจะดูหงุดหงิด ตามประสาคนแก่ ตกยุค ในละคร
ชีวิตจริงก็ตกยุคหรอวะเนี่ย

79 Nameless Fanboi Posted ID:lTo8ViblNl

https://youtu.be/uSP7ulI749Q
https://youtu.be/NtHCeTWaIWc

80 Nameless Fanboi Posted ID6:BC08vTfoIs

>>78 ลุงแกแค่หลงยุค ขาดการตลาดว่าทาร์เก็ตคนดูเค้าจะดูอยู่ในโรงอยู่มั๊ย เพราะหนังเรื่องนี้มันเกือบ 50 ปีแล้ว มีแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ทั้งนัันใครจะไปดูได้
แต่เอาจริงๆ ไอ้หนังเฟรนไชส์พวกนี้ ควรลดสเกลเป็นซีรีส์และควรปรับบทเนื้อหาให้เข้ากับปัจจุบัน ไม่ใช่เล่นวนกลุ่มตลาดเก่าๆ สุดท้ายเฟรนไชล์หนังพวกนีัมันก็ตาย เพราะไม่ปรับตัว

81 Nameless Fanboi Posted ID:5z21Pmty.A

ทุนสร้าง 30 ล้าน ถ้าเทียบเรทหนังต่างประเทศ ก็ระดับ smile , invitation , the menu
แต่ถ้าเอาแบบทื่อ ๆ ก็ระดับ x , pearl แต่สองนี้เรื่องก็น่าทำได้น่าสนใจกว่าหว่ะ

82 Nameless Fanboi Posted ID:Sv2VGgDs.5

อ่านโพสนึงในเฟสเขาบอกฝั่งคนทำก็ควรศึกษาตลาดด้วยว่าหนังตัวเองจะมีกลุ่มตลาดไหนเข้ามาดู
คนรุ่นเก่ายังคิดแต่การตลาดว่าใส่ genre ให้หนังอย่างหนังผีหนังตลกแล้วให้ดาราดังมาเล่นแล้วคนจะมาดู
สมัยนี้มันทำแบบนั้นยากเพราะคนดูมันตัดสินหนังตั้งแต่เห็นชื่อเรื่องแล้วว่าไม่ใช่แนวที่เขาดู

83 Nameless Fanboi Posted ID:P/EvmZncjx

>>81 หนังระดับนี้ออกมาเยอะมาก ปังไม่ถึง 5% เลยมั้ง

84 Nameless Fanboi Posted ID6:BPWR31C55p

ประเทศเรานี่เวลาทำธุรกิจไม่ศึกษาตลาดกันเลยจริงๆดิ? เห็นหลายทีล่ะ ไม่ใช่แค่หนังด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร หรือ แม้แต่ร้านซักผ้า เจ้าใหญ่ๆ เหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเลย

85 Nameless Fanboi Posted ID:HkCp.6K7G2

ดราม่าแบบนี้มันเหมือนเรื่อง ศรีธนญชัย 555 เลย
อันนั้นไม่มีคนดูไม่พอ ยังโดนโกงอีก
ทำงานเป็นระบบเครือญาติ หลงคิดว่าญาติไว้ใจได้ สุดท้ายเละ ไม่เหลือ
คนสร้างเกือบต้องฆ่าาตัวตาย ตอนนี้ไม่รู้ไปอยู่ไหนแล้ว

86 Nameless Fanboi Posted ID6:8C1kfgEXPD

มีเรื่องฟินสุโค่ยอะไรอีกเรื่องป่ะ ที่เอาดารานักแสดงมาเดินขบวนยืนถือป้ายให้ดูหนังไทยๆ

87 Nameless Fanboi Posted ID6:FsNSWYW.aw

>>86 ไม่น่าใช่ แต่ไอ้หนังเรื่องนี้ มีดราม่าแค่เรื่องโกงค่าตัวมาโคโตะ จนไม่รู้ว่าค่ายหนังที่ทำมันเชิดหนีหรือเปล่า

88 Nameless Fanboi Posted ID6:gdrIlZYANF

ข่าวดาราถือป้ายเดินขบวน ให้มาช่วยกันดูหนัง ฟินสุโค่ย ต่อชีวิตหนังไทย
https://movie.kapook.com/view100648.html

89 Nameless Fanboi Posted ID:wcV/x69.z1

หนังไทยยุคนี้คงจะมีแต่ตระกูล หอแต๋วแตก เท่านั้นที่ได้ไปต่อ
เพราะสร้างมาหลายภาคเหลือเกิน
หนังบ้าๆบอๆแบบนี้ เสือกได้รับความนิยมซะงั้น

90 Nameless Fanboi Posted ID:z5CBU8+Oky

>>89 อย่าลืมหนังตระกูลหลวงพี่

91 Nameless Fanboi Posted ID6:lHSvRE6WOc

>>90 หลวงพี่แจ๊ส ตายไปตั้งแต่ ประเด็นของพชร์กับแจ๊สละ
ส่วนหลวงพี่เท่ง จบแค่ 3 ภาค เพราะ ตั้งแต่ภาค 2 เปลี่ยนตัวนักแสดงตั้งแต่ โจอี้ บอยกับน้อย พรู เพราะเท่งติดสัญญากับค่ายเวิร์คพอยท์ ที่ตลกร้ายคือ หนังเท่งโหน่งจีวรบิน ดันทำทับไลน์กับหลวงพี่เท่งที่เคยรับบท

92 Nameless Fanboi Posted ID6:gdrIlZYANF

นี่ต่างหากละ ความหวังของหนังไทย สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่คนไทย ถูกนำมาสร้างถ่ายทอดเรื่องราวแห่งพลังศรัทธา ปาฏิหาริย์ เสริมสร้างบุญ บารมี
เตรียมพร้อมออกสู่สายตาชาวไทย และชาวโลก ช่วยกันตีตั๋วเข้าชม เข้าดู กันเยอะๆ แล้วอย่าลืมทำบุญกันเยอะๆ บูชากันเยอะๆ มีเท่าไร ก็จัดไปให้อย่างให้เสีย จะได้มีบุญ เสริมบารมีติดคู่ตัวไว้เป็นสิริมงคลชีวิต

https://www.youtube.com/watch?v=uNvSUKDanQM

93 Nameless Fanboi Posted ID:ogfzx5AJ/l

เพิ่งว่างว่าจะไปดูวัยอลวน แต่ไม่มีรอบเลยว่ะ

94 Nameless Fanboi Posted ID6:L+nesqmp8r

>>93 หนังเหมือนจะหมดรอบไปละ วันพุธคือวันสุดท้าย ซึ่งก็ได้ดูไปละเดี๋ยวจะเขียนสปอยว่าเนื้อหาเป็นอย่างไร

95 Nameless Fanboi Posted ID6:pkrVNV1RJq

สปอยล่ะนะ แต่กูอาจจะพิมพ์ไม่เคลียร์เท่าไหร่ อย่าว่ากันนะ
บทแบบว่างั้นๆ มากๆ เหมือนจะแบ่งบททั้ง 2 ฝั่งคือฝั่งรุ่นลุงป้าอย่างตั้มกับโอ๋ และ รุ่นหลานอย่างโต๋และอั้ม
ฝั่งตั้มโอ๋ ไม่มีอะไรมากฉากแรกเอาเพลงสุขาอยู่หนใด ไปแปลงใหม่ ร้องแปลงแซวโอ๋ ต่อมามีฉากไปบ้านผีสิง เล่นมุขแบบตลกสังขาร ไปเยอะมาก แล้วมีฉากตอนเป็นทนายสองฉาก นอกจากนี้มีอ้อพี่สาวของโอ๋ที่เป็นทอมที่มาตั้งแต่ภาค 2 หรือ 3 นี่แหละ มาด้วย แถมเหมือนจะคบหากับหญิงม่ายลูกเดี่ยวที่ดันถูกหวยมาอีก
ส่วนบทโต๋กับอั้ม ไม่มีอะไรมาก ในเรื่องบอกแค่ว่าโต๋เป็นหลานของตั้ม แต่ไม่บอกว่าเป็นพ่อของใคร แถมไม่มีการพูดถึง ลูกของตั้มและโอ๋ที่อยู่ในภาค 4 เลย ส่วนอั้ม มาในบทครูสอนเต้น แต่โดนพ่อสะกดรอยตาม โดยพบโต๋แบบบังเอิญเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนสะกดรอยตามอั้ม แถมต้องมาเล่นเกมปั่นประสาทกับพ่อด้วยการแกล้งเป็นแฟนกับโต๋

96 Nameless Fanboi Posted ID6:0iZPtlJWD1

>>95 ฉากที่ชวนไปโรงแรมนี่ได้ไปมั้ย

97 Nameless Fanboi Posted ID6:bHEWTSR3OY

>>96 กูจาก >>95 นะ
ฉากไปโรงแรม อั้มมันปั่นประสาทพ่อภาคินนี่แหละ ไอ้ลูกน้องก็สะกดรอยตาม จนเจอ แต่ว่าไม่อยู่แถมได้ข้อความกวนตีนกลับ
เพิ่มเติมสักหน่อย
มุขมันตลกดาษๆ ไปเยอะแถมมุขตลกสังขารมีเพียบตั้งแต่ฉากว่าความศาล หรือ ฉากคนต่างด้าวร้องเพลง นี่ก็เต็มไปหมด รวมถึงฉากหวยที่ล้อเลียนประเด็นดราม่าหวย 30 ล้าน
จุดที่ WTF สุดคือปมครอบครัวของอั้มมันดูงงๆ ไปหน่อย ฉากอดีดมีปมว่าพ่อภาคินไปมีกับผู้หญิงอื่นจนมีลูกด้วยกัน พอเมียเจอเข้าก็เลิกกันแล้วเสียชีวิตทันที แถมไม่บอกว่าตายเพราะอะไร แล้วเรื่องที่พ่อส่งคนไปสะกดรอยตามลูกก็ไม่บอกว่าเป้าหมายคืออะไร ฉากก่อนใกล้จบ ก็เจอเมียอีกคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องก็พยายามขอโทษ เหมือนโต๋ไปเคลียร์ใจกับภาคินด้วยเลยทำแบบนี้

98 Nameless Fanboi Posted ID:obu9kUAedm

กุว่าวัยอลวนดูดีกว่าหนังค่ายG ในปีที่ผ่านมาอีกนะ

99 Nameless Fanboi Posted ID6:ypoWUwaq52

>>98 ดีตรงไหนล่ะ ตัวหนังแม่งไม่เล่าอะไรต่อจากภาค 4 เลยซักนิด ภาค 4 ที่ GTH ร่วมทำยังดีกว่าภาค 5 อีก

100 Nameless Fanboi Posted ID:f.5erStHXe

https://www.facebook.com/287876901402155/posts/pfbid026BxTZB9Jx2Ci82Dpn7jcxfsgc4adC1YPM4EmGJYhFdehP8D8dvq4fBroJrib94nul/?app=fbl
จาก11รอบ เฉพาะ กทม เมเจอร์เพิ่มเป็น 200 รอบ ทั่วประเทศ แต่รายได้ยังไม่ถึง 6แสน
คือคุณภาพหนังมันไม่ดีเพิ่มกี่รอบก็ไม่มีคนดูอ่ะ
ว่าแล้วก็สงสัยว่าธนาคารกล้าปล่อยกู้มาได้ไงตั้ง30ล้านวะ ยุคนี้ขนาด GDH ยังมีแป้ก

101 Nameless Fanboi Posted ID6:ypoWUwaq52

>>100 เหมือนแกทำตั้งแต่ปี 2017-18 นะ เพียงแต่ว่า ตอนฉายเกิดโควิดระบาด เลยโดนเลื่อน เหมือนเห็นว่าฉายไม่กี่วันก็โดนถอดออกจากโรงเพราะโควิดระรอกแรก เลยเลื่อนฉาย แต่มาเสือกชนกับหนังใหญ่หลายเรื่องที่อยู่ในโรง
แต่ส่วนตัว ถ้าอยากทำหนังพวกนี้ควรไปทำสเกลพวกซิทคอมละครซีรีส์ดีกว่า หนังมันทำมาแปลกๆ

102 Nameless Fanboi Posted ID:WPX8+lwKlk

>>101 Ok เข้าใจและ ถ้ากู้เงินมาทำช่วงนั้นก็พอเข้าใจได้ แบงค์คงมองว่าสมัยนั้นหนังไทยยังพอขายได้ อย่างแย่ก็ได้ 10-20 ล้าน ได้เงินมาจ่ายคืน แต่เกิดผิดคาดเพราะโควิดต้องเลื่อนฉาย งบโปรโมทไม่เหลือ แถมหลังโควิดพฤติกรรมคนดูหนังเปลี่ยนไป เลือกดูผ่านสตรีมมิ่งมากกว่าไปดูในโรง จะไปเฉพาะเรื่องดังจริงๆ พอมาฉายยุคนี้เลยเจ๊งบ๊ง ขนาดเป็นข่าวยังได้แค่ 7แสน ถ้าไม่เป็นข่าวคงไม่ถึง 2แสน

103 Nameless Fanboi Posted ID:f.5erStHXe

อาไพโรจน์นี่เป็นตัวอย่างที่ดีของคนยุคเก่าที่มีความเชื่อฝังหัวแล้วไม่ฟังใครเลย
ปรกติการทำหนังมันต้องไปขอเงินนายทุน หรือมีนายทุนให้เงินมาทำ แกบอกว่าต้นทุน 30 ล้าน
ถ้าไม่มีคนดูจะล้มละลาย แปลว่าแกไปกู้ธนาคารมาทำ ซึ่งแม่งโคตรเสี่ยง เอาสมบัติที่หามาได้ทั้งชีวิต
มายื่นกู้กับธนาคารเป็นสิบๆล้านแบบนี้ กูว่าตอนแรกแกก็ไม่อยากเสี่ยงชีวิตขนาดนี้หรอก
คงเขียนบทแล้วไปเสนอค่ายหนัง แต่ก็โดนค่ายหนังปฏิเสธกลับมาหมด
แกควรรู้ตัวตั้งแต่ตอนนั้นแล้วอ่ะ ว่านายทุนใหญ่ๆในวงการหนังไทย มีประสบการณ์เยอะ
มีความรู้เรื่องธุรกิจมากกว่าแก ยังปฏิเสธ แปลว่าเค้ามองออกว่าหนังมันไม่ทำเงิน

ที่แกทำต่อ กูขอเดาใจแกว่ามาจาก 2สาเหตุหลักๆ คือแกคิดง่ายเกินไปและตามโลกไม่ทัน
คิดง่ายเกินไปนี่คือ แกคิดว่าวัยอลวนเป็นหนังดัง ที่วัยรุ่น(ยุค70-80) ดูกันทั่วบ้านทั่วเมือง
ถ้าทำภาคต่อวัยรุ่นยุคนั้นที่ตอนนี้แก่มากแล้ว จะพาลูกพาหลานมาดูย้อนความหลัง
รายได้จากแฟนคลับรุ่นเก่า+ลูกหลานแฟนคลับ+คนดูหน้าใหม่ที่มาดูเป็นครอบครัว
อย่างน้อยก็คงไม่ขาดทุน ซึ่งตอนนี้เราเห็นแล้วว่าแกประเมินผิด
และอีกข้อคือ แกตามโลกไม่ทัน หนังใหม่แต่บทรูปแบบเดียวกับเมื่อ 40ปีที่แล้วมาขายยุคนี้
มันยากแล้ว ต่อให้ฉายก่อนโควิทก็คงได้ประมาณ 10กว่าล้านอ่ะ
แต่พอโควิทมาไปเร่งพฤติกรรมคนดูให้เลือกดูจากสตรีมมิ่งมากกว่าเข้าโรงหนังเลยจบเลยทีนี้
กูว่าสิ่งที่แกควรทำหลังรายได้ไม่ตรงเป้า ไม่ใช่แค่โพสคลิปอ้อนวอนให้คนช่วยดู
แต่ควรรีบเจรจากับพวกเว็บสตรีมมิ่งขายลิขสิทธิ์หนัง อย่างน้อยก็ชดเชยการขาดทุนได้บ้างแหละ

104 Nameless Fanboi Posted ID6:FSIqRxEjCv

>>103 เรื่องทำภาคต่อ เห็นข้างบนบอกว่าอาไพโรจน์แกไม่ชอบภาค 4 เพราะ เหมือนจะไม่กินเส้นกับทีมงาน ถ้าจำไม่ผิดภาค 4 GTH ร่วมทำ แต่ว่าไม่มีการถูกทำในสตรีมมิ่ง แถมภาค 5 ก็ไม่กล่าวถึงลูกของตั้มและโอ๋เลย เลยทำภาค 5 เพื่อเหมือนจะแก้ปมเรื่องนั้นไป
แต่ก็อย่างว่า แกไม่ทันโลก ไม่รู้ว่าคนดูเค้าปรับพฤติกรรมการรับชมจากช่องทางอื่นๆ ที่ไม่ใช่พวกรับชมจากช่องทางธรรมชาติ ต่อให้ทำโปรดักมาดีแบบนี้ก็เถอะ

105 Nameless Fanboi Posted ID:f.5erStHXe

>>104 พูดถึงภาค4 ต่อให้แกไม่ถูกกับทีมงานจริง แต่อย่างน้อยแกต้องมีข้อมูลรายได้นี่หว่า
คือแกควรจะรู้ว่าถ้าทำภาค5 มันเสี่ยงขนาดไหน เพราะภาค4 เองกูจำได้ว่ามันก็ไม่ใช่หนังทำเงินอะไรขนาดนั้น หรือแกคิดว่าที่ภาค4 รายได้ไม่สูงเพราะไม่ยอมทำตามแนวทางของแก
ถ้าทำตามที่แกคิดเอาเองคนเดียว รายได้ต้องเยอะแน่ๆ แฟนคลับภาคเก่าๆ 1-3 ต้องพาลูกพาหลานมาดูภาค5 คงเพราะแกคิดแบบนี้รึเปล่าวะถึงได้กล้าทำภาค5 ทั้งที่ไม่มีนายทุนใหญ่หนุนแล้วจนต้องกู้เงินมาทำเอง

106 Nameless Fanboi Posted ID6:FSIqRxEjCv

>>105 ภาค 4 รู้แค่ว่ารายได้ไม่ดี เพราะดันไปชนหนังต้มยำกุ้ง และเหมือนแกจะแทรกแซงการทำงานบางส่วน อารมณ์ประมาณแบบวินหรือเดอะร็อคนี่แหละ ที่ต้องให้บทเป็นแบบตามแกต้องการ แถมตัวผู้กำกับภาค 4 ยังบ่นว่าต้องทำหนังแนวสำหรับรุ่นใหญ่อีก

107 Nameless Fanboi Posted ID:jRJRECuSCt

>>105 อีโก้สูง คิดอะไรง่าย ๆ ไม่ดูสถานการณ์
คิดว่าทำหนังตลก รัก ๆ แล้วเดี๋ยวก็ขายได้

108 Nameless Fanboi Posted ID6:/lk4IPQJs.

>>106 https://mgronline.com/entertainment/detail/9480000106618
เรื่องเกี่ยวกับภาค 4 แป้ก

109 Nameless Fanboi Posted ID:f.5erStHXe

>>108 มนต์ขลังตั้มโอ๋น่ะยังมีอยู่แต่คนรุ่นนั้นเขาไม่ออกมาดูหนังแล้ว
โห ไม่รู้ว่า ผกก พูดแก้เขินรึเปล่านะ คือคนที่เคยอยู่ในยุครุ่งเรืองไม่ออกมาดู
มันก็แปลว่ามนต์ขลังมันจบไปแล้ว

110 Nameless Fanboi Posted ID:rn78aOM.+U

ภาคเก่าๆมันฮิตขนาดนั้นเลยเหรอวะกูเกิดไม่ทัน แต่สมัยนั้นก็น่าจะมีหนังฝรั่งระดับเทพๆฉายเยอะนะ หนังตลกไทยๆ มันจะดังแข่งได้ขนาดนั้นเชียว?

111 Nameless Fanboi Posted ID6:gtCtvFvfEG

>>110 ยุคนั้นหนังไทยบูม เพราะรัฐบาลสมัยก่อนมันมีนโยบายเกี่ยวกับภาษีการนำเข้าสื่อต่างประเทศไว้ ทำให้ราคาในการนำเข้าในขณะนั้นแพงมาก จนบางที่ต้องแอบเอาหนังไปฉายลอบเข้ามาฉายโดยไม่รับอนุญาต ยกตัวอย่างก็สตาร์วอร์ส ที่มีโปสเตอร์ชื่อเรื่องว่าสงครามชิงจ้าวโลกนั่นแหละ

112 Nameless Fanboi Posted ID:soh8OxPWIo

>>110 มีครับ เพราะความนิยมในภาพยนตร์ไทยมีมากอยู่
แต่ตอนนี้กระแสเปลี่ยน ทั้งเรื่องการดรอปคุณภาพหนังไทย ในขณะที่เข้าถึงหนังคุณภาพจากชาติอื่นมีมากขึ้น

113 Nameless Fanboi Posted ID:fpeOf7x2fW

วงต้องห้ามตอนนี้ไม่มีหนังแสดงกันแล้วหรอเงียบเลย

114 Nameless Fanboi Posted ID:kVurH075jj

ยุค 2510-20s นี่เห็นพวกพระเอก-นางเอกตัวท๊อปๆแม่งเล่นหนังปีนึงเป็นหลายสิบเรื่อง

115 Nameless Fanboi Posted ID6:pBsk/Cqo+K

https://youtu.be/dw3ythAfXUg
ไปดูคลิปสัมภาษณ์ของแก ดันเอาเจมส์บอนด์มาเป็นตัวเทียบ ประทานโทษ เจมส์บอนด์ทำหนังหลายภาค แต่เค้าเปลี่ยนตัวนักแสดงตามภาคที่กำหนดไว้นะ
แต่ดูคอมเม้นในคลิป หลายคนเสียงเดียวกันว่าไม่สนุก แถมวิจารณ์ตัวเนื้อหาด้วยซ้ำ

116 Nameless Fanboi Posted ID:0Zget7gE4H

>>114-115 อืม ไม่แปลกใจว่ะที่ทำไมแกมั่นออกมั่นใจขนาดนั้น แกเกิดและโตมากับยุครุ่งเรื่องของหนังไทย
หนังที่แกเป็นพระเอก วัยรุ่นไทยดูแล้วร้องเพลงในหนังได้ คลิปใน >>115 แกเลยพูดด้วยความมั่นใจว่า
ต่อให้ทำภาคต่อถึงวัยรุ่นยุคนี้ไม่รู้จัก แต่ก็เป็นหนังครอบครัว พ่อแม่ที่โตมาในยุคนั้นอาจจะพาลูกพาหลานมาดู
เหมือนในหัวแกยังอยู่ในปี 2520 แถมพาลคิดว่าไปวัยรุ่นยุคนั้น(คนแก่ในยุคนี้)ก็ยังไม่ลืมหนังเรื่องวัยอลวน
ถ้าทำหนังตามที่แกคิด แฟนคลับเก่าๆต้องพร้อมใจกันออกมาดูแน่ๆ ด้วยความมั่นใจขนาดนี้
เลยกลายเป็นสาเหตุของความฉิบหายในชีวิตเลย กู้มาทำหนังเป็น 10 ล้าน แต่ขายไม่ออก รอล้มละลาย

117 Nameless Fanboi Posted ID:Sk.YIJiu7/

ตั้งแต่โควิดมาทั้งหนังไทยละครไทย เริ่มจะเสียคนดูเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ก่อนโควิด จะมีปรากฏการณ์ละครไทยที่กระแสดีจนคนพูดถึงกันทั่ว
แต่ทุกวันนี้ละครไทยแทบจะไม่มีพื้นที่ในสื่อหลักแล้ว ในโซเชียลก็มีแต่กระแสซีรี่ย์เกาหลี
ซีรี่ย์ตะวันตก หนังไทยก็สภาพไม่ได้ดีไปกว่ากัน จากยุค GTH ที่รับประกัน 100ล้าน
พอหลังโควิดหนัง GDH รายได้ไม่กี่สิบล้านก็มีให้เห็น

118 Nameless Fanboi Posted ID:saxvtAyYZz

แกกู้มาทำหนัง กู้มาก็ต้องคืน จะมารอเลื่อนอีกก็ไม่ได้ทุนก็จมไปอีก
อีกอย่างแกคงคิดด้วยว่า อย่างน้อยก็คงขายได้สัก 60-70 ล้านก้ยังดี
แต่ปีนี้กระแสหนังไทยตกตำ่จริง ๆ จากแต่ก่อนหนังไทยขี้หมู ขี้หมา ฟังฟาดเกือบร่้อยล้านด้วยซ้ำ
มาปีนี้หนังไทยแตะแค่ 10 ล้าน ยังหืดขึ้นคอด้วยซ้ำ

119 Nameless Fanboi Posted ID6:eLjN8fpN3N

>>117 ทางเลือกคนดูมันเยอะขึ้น
ถ้ามีเวลาว่าง 2 ชม.จะฝ่ารถติดซื้อตั๋วหนัง 200 ดูหนังไทย genre เดิมๆ หรือจะสั่งของมาแดกนั่งดู nf ที่บ้าน
กูว่าคนเลือกแบบหลังเยอะ

120 Nameless Fanboi Posted ID:3MLBTt65aA

เห็นกำลังจะเข้าโรงเลยลองดูตัวอย่าง
https://www.youtube.com/watch?v=giksYVyZo3g
อื้มมม ดูดีนะเนี่ย นานๆทีไปดูหนังรักดราม่าย้อนยุคแบบนี้ในโรงก็ไม่เลว
พอถึงมุขปิดท้าย อหหห ไอ้เหี้ยยยย หัวจวยยยย ไม่ดูแล้วโว้ยยยย เจ๊งๆไปไอ่สัส ดีนะที่ดูจนจบ เกือบเสียเวลาอันมีค่า 2 ชั่วโมงแล้ว

121 Nameless Fanboi Posted ID6:7XgZBWxNNB

>>120 หนังคนใต้ ฐานแฟนคลับน่าจะพอขายเฉพาะที่นั่น แต่เสียดายหนังเรื่องแรกที่เอกชัยกำกับ ยังไม่ได้ดูเลย สตรีมมิ่งเหมือนจะไม่มีให้ลง

122 Nameless Fanboi Posted ID:0HSd3.y5iR

สงสัยมานานแล้วว่าทำไมคนไทยคุ้นชินกับคนอีสานในสื่อมากกว่าภาคอื่นวะ
หนังภาษาใต้นี่เท่าที่กูนึกออกก็เจ๊งเป็นส่วนใหญ่ มหาลัยเหมืองแร่ที่บทดีๆ
แต่ก็เจ๊ง เหมือนกับว่าคนทั่วไปไม่คุ้นกับภาษาใต้ ไม่เหมือนภาษาอีสาน

123 Nameless Fanboi Posted ID6:PnXtZ9lNAC

>>122 คนใต้ไม่มีบทในสื่อไทยมากเท่าคนอีสาน

อย่างหนึ่งที่ดูเล็กๆแต่มีผลมากคือหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ-มหาสนุก มีการใช้ภาษาอีสานโดยนักเขียนบางคน(และมีคำแปลว่าคำนั้นคืออะไร) ทำให้คนที่โตมากับพวกนี้พอคุ้นชินบ้าง ภาษาใต้ไม่มีอะไรแบบนี้ อย่างมากก็มีในชินจังที่คนแปลภาษาคันไซโอซาก้าเป็นภาษาใต้

ว่าแต่ตอนนี้ยังมีคนอ่านขาย-มหาอยู่เปล่าวะ หรือตายไปแล้วเพราะเด็กเข้าถึงการ์ตูนยุ่นมากกว่า

124 Nameless Fanboi Posted ID6:cUbYebC6ym

>>123 ยังมีคนอ่านอยู่ แต่เปลี่ยนเป็นพวกออนไลน์แทนละ ออกเล่มแค่บางโอกาส

125 Nameless Fanboi Posted ID:TL..sYOTwz

>>123 รุ่นเก่าๆเลิกเขียนไม่ก็จากไปหลายคน พยายามเปิดใจอ่านงานรุ่นใหม่ที่มาแทนก็ดูว่ายังเทียบรุ่นเก่าไม่ได้

126 Nameless Fanboi Posted ID6:v0C.SRUBDB

>>123 โม่ง ไอขายหัวเราะ ,สาวดอกไม้ฯ, มหาสนุก ถ้าคนที่ทำงานในวงการเกือบทุกคนยังสุขภาพดีไม่มีใครตายนะ กูว่ามาบุกเว็บตูนได้เหมือนกัน แต่บางทีคนมันไม่ปรับตัว ไม่งั้นก็ไปเป็นสลิ่ ม เลย ก็นั่นแหละเลยไปตามกาลเวลา แล้วหนังสือการ์ตูนแก๊กตลกพวกนี้นะ ที่เคยดังจนไปทำlive actionได้ก็หนูหิ่นแหละ และเป็นหนังสือที่มันเรียบเรียงภาษาอีสานบ้านๆมาให้คนภาคกลางเข้าใจง่ายไง คือเหมือนสอนผ่านการ์ตูนด้วยซ้ำ

127 Nameless Fanboi Posted ID:oTGZyjINim

เชี่ยยย หนังใหม่ GDH นักแสดงนำใหม่
น้องนางเอกน่าร้ากกกกก
https://www.youtube.com/watch?v=lQpe8emJE7M

128 Nameless Fanboi Posted ID6:6DmPz7l8SK

>>126 ถ้าพวกเรื่องยาวที่ลงเหมือนจะรวมเล่มแบบออนไลน์อยู่นะ ส่วนแก๊กสั้นๆ ลงในพวกสื่อโซเชียลแทน

129 Nameless Fanboi Posted ID6:bo+Q2NzZO/

>>127 น่ารักอย่างเดียว ยังไม่พอนะ ต้องรอดูฝีมือการแสดงด้วยว่าแสดงดีมั้ย จะสู้พวกไอดอลบางคนที่ฝีมือการแสดงระดับรางวัลได้หรือเปล่า

130 Nameless Fanboi Posted ID:r++tkElacK

>>127 เคยดูmvที่คนนี้เล่นอยู่ ก็น่ารักดี แต่พอเข้าไอจีไป ไม่ใช่typeกุเลย ยังกะคนละคน ใสแบ๊วในmvอยู่ไหน??

131 Nameless Fanboi Posted ID:+XOZL+xSfD

>>123-126 เคยอ่านบทสัมภาษณ์ของคนทำงานที่ขายหัวเราะอันหนึ่ง
เค้าบอกว่าจุดที่ขายดีที่สุดไม่ใช่ร้านหนังสือในห้างใหญ่ แต่เป็นตามสถานีขนส่งคน
พวกหัวลำโพง หมอชิต บขส ต่างจังหวัดอะไรพวกนี้ เมื่อก่อนขายดีมากชนิดเอาลง
แปบเดียวก็หมด เพราะสมัยก่อนไม่มีสมาร์ทโฟน เวลาคนนั่งรถกลับต่างจังหวัด
ก็ซื้อขายหัวเราะมาอ่านฆ่าเวลา พอมีสมาร์ทโฟน การ์ตูนแก๊กสั้นๆแบบนี้หาอ่าน
ตามเพจเฟสบุ้คได้ ขายหัวเราะมันเลยค่อยๆหายไป

พูดถึงเรื่องนี้แล้วก็นึกถึงวงการหนังไทยอ่ะ สมัยวัยอลวนภาคแรกเข้าฉาย
ตอนนั้นมันไม่มีคู่แข่ง เป็นสื่อบันเทิงเรื่องเดียวในยุคนั้นที่เจาะตลาดวัยรุ่นไทย
มันเลยดังแล้วทำเงินได้ ซึ่งผิดกับวัยอลวน5 ที่วัยรุ่นไทยยุคนี้มีทางเลือก
ในการชมสื่อบันเทิงเยอะ เกมส์ หนัง ซีรี่ย์ต่างประเทศ อนิเมะ ไลท์โนเวล มังงะ
แต่อาไพโรจน์แกยังคิดแบบเดียวกับเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ว่าถ้าทำหนังตลก เน้นครอบครัวซักหน่อย
ยังไงก็ขายได้ แต่ความจริงคือตัวหนังมันตกยุคไปแล้ว ถึงได้เจ๊งแบบนี้

132 Nameless Fanboi Posted ID6:lFZbtNRX.N

>>127 ใครที่ดูภาพพวก ผ่าครึ่งกลาง ไส้ ไม่ได้ ไม่แนะนำนะครับ เตือนแล้ว

133 Nameless Fanboi Posted ID:ZvruNg21nc

>>132 มันหนังรักนี่หว่า จะมีฉากโหดผ่าครึ่งไส้ไหลเหรอวะ

134 Nameless Fanboi Posted ID6:.eyZP5X3zi

>>127 ไม่เห็นน่ารักเลย กูไม่ชอบจริตตอนพูดอย่างตอนกินซาลาเปาบนรถมันดูประดิษฐ์พูดยานๆยังไงไม่รู้
ตอนเต้นไทรอัมคิงด้อมก็แปลกๆชุดมันดูยังกับผ้าถุง ไม่หอมเลย
ส่วนเรื่องพล็อตถ้ามาแนวหนังฟีลกู้ด coming of age ทั่วไปจะธรรมดามาก แต่ก็มีคนเก็งกันไว้ว่าอาจจะพลิกมาแนวสยอง

135 Nameless Fanboi Posted ID6:lFZbtNRX.N

>>133 ฉากฉีกซาลาเปาจนแบ่งครึ่ง จนเห็นไส้ข้างใน มีไข่ด้วย

136 Nameless Fanboi Posted ID:ok3FuLTK/R

https://www.facebook.com/287876901402155/posts/pfbid02KFzHxFA1ABGFJRfnKEzhXhDLn7EyCpRZ9R1HuhVzN9DCaNmbw8xjd2rKnwQzV6Fql/?app=fbl
เริ่มปีมาก็เห็นแววเจ๊งของหนังไทย ไอ้ไข่นี่พอเข้าใจนะว่าหนังมันแย่ แต่สะพานรักนี่เป็นหนังรักที่พอจะขายได้ในกลุ่มวัยรุ่นดันเจ๊งยิ่งกว่า ขนาดวันหยุดยังทำได้แค่สองแสน

137 Nameless Fanboi Posted ID6:n+6/A4XRkx

ยุคนี้หนังไทยมีแต่กากๆหาดีน้อย ด้วยราคาตั๋วที่ราคาเดียวกับหนังนอก คิดว่าคนดูมันจะเลือกไปทางไหนล่ะ

138 Nameless Fanboi Posted ID:MMAMjoL4rl

>>137 ก่อนโควิดมันไม่ขนาดนี้นะ อย่างน้อยก็ 1-2 ล้าน ช่วงเปิดตัว
ส่วนหนัง ตปท ถ้าไม่ใช่เรื่องดังจริงๆ สภาพก็ไม่ค่อยต่างจากหนังไทยเท่าไร
อย่าง Woman King นี่เป็นหนังแอคชั่นรายได้ยังไม่ถึง 5 ล้านเลย

139 Nameless Fanboi Posted ID6:zR3uEUu0TQ

กูเคยอ่านงานวิจัยเรื่องอุตสาหกรรมภาพยนต์ไทยแบบผ่านๆ ถ้าจำไม่ผิดปี60รายได้หนังตปทมีสัดส่วนอยู่ราวๆ90%ของทั้งหมด ประมาณสี่พันล้านบาท หนังไทย500ล้าน ปี63รายได้จากการฉายหนังไทยเหลือประมาณ300ล้านเองแต่หนังตปท8-9พันล้านบาท คนไม่ได้ดูหนังลดลงนะ แต่กูว่าเพราะการเข้ามาของสตรีมมิ่งคนมันเลยเลือกดูหนังตปทในโรงแล้วดูหนังไทยแบบสตรีมเอา

140 Nameless Fanboi Posted ID6:x4991c+gZO

>>137 ราคาตั๋วคือเหตุผลที่ทำให้คนเข้าไปดูหนังที่โรงหนัง ไม่ใช่กลุ่มใหญ่
ลองย้อนไปดูช่วงที่โรงหนังมีโปรฯ 69 บาทสิ คนแม่งล้นโรงเลย คนทุกกลุ่มที่สู้ราคาตั๋วถูกๆนี้ได้ พวกเขาก็มาดูกัน

141 Nameless Fanboi Posted ID:KbBUr5hOXt

>>140 ไม่เถียงเรื่อง ราคาตั๋วหนังไทยแพง
แต่เรื่องการราคาตั๋วไม่ค่อยมีผลกับการซื้อหนังเท่าที่ควรแล้ว เพราะปัจจัยสตีมมิ่งเข้ามาด้วย

ขนาดวัยอลวน ตั๋ว 99 บาทคนก็ไม่ใช่ว่าจะดูเยอะ เทียบกับหนังเกรด puss in boots , Megan ราคาเต็มคนยังดูเยอะกว่าอีก ถอยไปนานหน่อย ใจฟูสตอรรี่ ขนาดตั๋วหนัง 39 บาท คนยังไม่ค่อยไปดูเลย กลายเป็นหนังโรงขนาดตั๋วแพงกับของมีเกรดที่มีการแถมของยังขายได้มากกว่าอีก อย่าง วันพัซ โดราเอม่อน

142 Nameless Fanboi Posted ID:ebaQ.lo0+2

>>141 ราคา39มันก็ไม่ได้มีทุกโรงอ่ะ ส่วน99ส่วนตัวกุยังแอบคิดว่าแพงไป

143 Nameless Fanboi Posted ID:HJOnw+vufo

พอสตรีมมิ่งเข้ามาทำตลาดเต็มตัว หนังไทยฉายโรงลงสตรีมมิ่งเร็วมากเลยนะ โดยเฉพาะเรื่องที่รายได้น้อย เหมือนพอรู้ว่าเจ๊งก็รีบขายลิขสิทธิ์ให้พวก Netflix เพื่อให้ขาดทุนน้อยที่สุด ที่นี้มันเลยกลายเป็นว่าคนดูหนังไทยเลยคิดว่าไม่ต้องรีบดูในโรงก็ได้ รอไม่กี่เดือนก็ฉายลงสตรีมมิ่ง ทีนี้ก็ Loop นีก หนังไทยฉาย คนดูไม่รีบดู หนังขาดทุน รีบขายลง Netflix คนดูพอใจกับการดูผ่าน Netflix พอมีหนังไทยเรื่องใหม่ลงโรงก็จะคิดแบบเดียวกันแล้วก็วนลูป

144 Nameless Fanboi Posted ID6:gUNy/z2I56

>>140 ราคาตั๋วหนังก็มีผลแหละ แต่ไม่ได้มากขนาดนั้น เพราะถ้ารายได้จากหนังตปทมันพุ่งมา2เท่าได้แต่หนังไทยรายได้ลดแสดงว่าคนส่วนมากยอมจ่ายเพื่อดูหนังตปทเท่านั้น(ตั๋วหนังตปทมันไม่ได้ถูก) แต่ไม่ได้ยอมจ่ายเพื่อหนังไทย

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.