ข่าวบันเทิงในต่างประเทศ รายงานว่าตอนนี้ ค่าใช้จ่ายในการผลิตสโนวไวท์ live action พุ่งไปแถวๆ 350ล้าน$
อส มันทุนจมกับอะไรเนี่ย และถ้าทุนขนาดนี้ ถ้าจะไม่ให้ขาดทุน หรือเท่าทุน อย่างน้อยน่าจะต้องทำรายได้ในโรง 7-800 ล้าน$ มันจะทำได้รึไงวะ
Last posted
Total of 1000 posts
ข่าวบันเทิงในต่างประเทศ รายงานว่าตอนนี้ ค่าใช้จ่ายในการผลิตสโนวไวท์ live action พุ่งไปแถวๆ 350ล้าน$
อส มันทุนจมกับอะไรเนี่ย และถ้าทุนขนาดนี้ ถ้าจะไม่ให้ขาดทุน หรือเท่าทุน อย่างน้อยน่าจะต้องทำรายได้ในโรง 7-800 ล้าน$ มันจะทำได้รึไงวะ
ข่าวเปลี่ยนตัวนักแสดงเรื่อง Snow White ไม่เป็นความจริง
มีข่าวลือทางโซเชียลมีเดียล่าสุดที่แพร่สะพัดเกี่ยวกับการคัดเลือกนักแสดงจากภาพยนตร์รีเมคของดิสนีย์เรื่องSnow White นั้นมีการลือกันว่า เนื่องจากความคิดเห็นมากมายของ Rachel Zegler ในบท Snow White ที่พูดถึงภาพยนตร์แอนิเมชั่นต้นฉบับของ Walt Disney ทำให้เกิดกระแสต่อต้านและวิพากษ์วิจารณ์มากมาย จนทำให้เกิดสิ่งข่าวลือและการเดาที่ไม่มีมูล เช่น การยกเลิกภาพยนตร์ทั้งหมด หรือการปรับแผนย้ายจากบ็อกซ์ออฟฟิศไปฉายใน Disney+ หรือข่าวลือล่าสุดคือ ข่าวทาบทาม Jenna Ortega ให้มารับบทสโนวไวท์แทน …
ทั้งหมดนั้นตามข้อมูลแหล่งข่าวแจ้งว่า ไม่เป็นความจริงเลย ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เพียงแต่ตอนนี้ทางค่ายนั้นกำลังได้รับผลกระทบของการนัดหยุดงาน SAG-AFTRA ที่กำลังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง และการถ่ายทำของหนังเรื่องนี้ก็ยังอยู่ในขั้นตอนการถ่ายทำใหม่ให้เสร็จ ทำให้เดิม Snow White มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 22 มีนาคม 2024 มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้
Source The Disinsider (08/10/23) “No, Jenna Ortega Did Not Replace Rachel Zegler as Snow White”
> https://thedisinsider.com/2023/10/08/no-jenna-ortega-did-not-replace-rachel-zegler-as-snow-white/
>>923 อินเดียนาโจนล่าสุดงบอีกนิดไปทำอวาตาร1ได้ มันก็มีข่าวลือว่าWokeฟอกเงินมานานแล้ว ยิ่งThe Marvelนี้หนักเลยหนังสั้นจู๋ไปลงDisney+ดีกว่า แต่งบเสือกเยอะอีก แถมอีผู้กำกับบอกว่าเธอใส่ความเป็นตัวเองไม่ได้ นี้ไม่ใช่หนังฉัน มันเป็นของเขา ของไฟกี
ไฟกีงงเลย ปล่อยละเลยชิบหายจนพังทั้งจักรวาลเสือกมาโทษกูกับหอบเงินอีก เจริญ
เป็นเวลาหลายทศวรรษที่ดิสนีย์กลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านภาพยนตร์ หนังแอนิเมชั่นและหนังคนแสดงนับไม่ถ้วนทำกำไรมหาศาลให้กับบริษัท และได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกมากมาย
.
แต่ในปีนี้มีรายงานว่า บ็อบ อิเกอร์ CEO ของดิสนีย์ รู้สึกเหนื่อยล้าและหนักใจจากความล้มเหลวในบ็อกซ์ออฟฟิศติดต่อกัน ทำให้บริษัทต้องสูญเงินไปถึง 900 ล้านเหรียญจากหนังที่ทำรายได้ไม่เข้าเป้าหลายเรื่อง
.
ตามข้อมูลของ Bloomberg บ็อบ อิเกอร์ ได้หวนคืนตำแหน่ง CEO เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วเพื่อช่วยบริษัทจากความล้มเหลว แหล่งข่าวบอกว่าเขา "รู้สึกเหนื่อยล้าและหนักใจ" ขณะที่เขาต้องเผชิญกับปัญหาของบริษัทในปัจจุบัน ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ที่มาเที่ยว Disney World ลดลง การสูญเสียสมาชิก Disney+ และความล้มเหลวในบ็อกซ์ออฟฟิศอย่างต่อเนื่อง
.
หนังดิสนีย์ในปีนี้ทั้งดูน่าตื่นเต้นและควรจะทำกำไรอย่างงาม อย่างไรก็ตามหนังที่หลาย ๆ คนคาดหวังกลับทำผลงานได้ไม่ดีนัก สาเหตุหลักประการหนึ่งมาจากทุนสร้างที่มหาศาล อีกประการหนึ่งมาจากหนังของพวกเขายังดีไม่พอ หลายเรื่องได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบ และสิ่งนี้ทำให้หลายคนท้อแท้ที่จะเข้าไปดูในโรง
.
น่าสนใจว่า CEO จะแก้ปัญหาบริษัทอย่างไร หลังจากที่เพิ่งประกาศจะเลิก Woke ไปเมื่อไม่นานมานี้จะทำให้หนังกลับมามีรายได้ตรงตามเป้าหมายหรือไม่
https://www.youtube.com/watch?v=cl9LZiB0oao&ab_channel=DailyWire+
ทำมากวนตีนหนูดำแถมถ่ายไล่ๆกันอีก
Teenage Kraken เล่าแบบ Cliché เอะอะจะ Coming of Age, ความขัดแย้งเผ่าพันธุ์, การเข้าหาสังคม, ตีความใหม่ ตัวละครก็ไม่น่าจดจำ โดยเฉพาะพวกคราเคนเพศผู้ ดูงี่เง่าสุด ส่วนเงือกตัวร้ายก็มาสูตรเดิม ตีหน้าเป็นคนดี แต่เป็นตัวร้าย
Snow White ภาพหลุดมาอีกแล้วคราวนี้คนแคระมาต้นฉบับละ แถมอาจจะฉายในปี 2025
เลื่อนฉายเพราะปรับแก้บทล่ะมั้ง เพราะบทเดิมดัดแปลงซะเละ แต่ที่แน่ๆ ทำไมไม่เปลี่ยนตัวนักแสดงสโนว์ไวท์ล่ะวะ
รอบนี้ดิสนีย์คงไม่ Woke เละพินาศแบบเงือกเดรดล็อกผิวสี ล่ะมั้ง เลยต้องทำตามต้นฉบับไปเลย ส่วนนักแสดง คิดว่าท่าปล่อยข่าวว่าราเซลโดนไล่ออก น่าจะมีมูลแต่ เหมือนเบรกเรื่องถอนตัวแล้วโดนเข้าห้องเย็นจนนางเงียบสงบไป เลยไม่มีการเปลี่ยนตัวนักแสดงเลย
แล้วแบบนี้จะทำไงกับแก๊งนักแสดงฮิปปี้ที่ตอนแรกจะเอามาแทนคนแคระอะ
หรือปล่อยเบลอหายไปเงียบๆ เลย
กลายเป็นคนแคระจริงล่ะเหอ แล้วกลุ่มก่อนหน้านี้ที่เป็นกลุ่มต่อสู้เพื่อสิทธิชาวเมืองอะไรนั้นอ่ะ บทยังเหมือนเดิมอยู่มั้ย
หนังยังไม่ทันฉายก็ปล่อยเพลงมาให้ฟังก่อนละ
This Wish ‘พรที่ดี’
https://open.spotify.com/track/4owOdRNIz8bu1cu95YtvlN?si=kGpOIqnFR0qrp2lmx75qpA
This Is The Thanks I Get?! ‘นี่ซิที่ฉันได้คืน’
https://open.spotify.com/track/6l7ngfAUILi71iABuUSOlC?si=-39ZqN4YQTa1RO9eMWGZHg
ข่าวบันเทิงใน ตปท ได้รายงานตัวเลขประมาณการงบสร้าง สโนว์บราวน์ ที่จะฉายในปี 2025 งบตอนนี้เกิน 400 ล้าน$ ไปแล้ว และถ้าจะเท่าทุนได้ ต่อเมื่อทำรายได้รวมเกินพันล้านเท่านั้น
https://variety.com/2023/tv/news/disney-plus-subscribers-150-million-earnings-1235784850/
พอแอพสตรีมมิ่งไม่รุ่ง ก็เอาหนังเก่าๆ กลับไปลงสตรีมมิ่งเจ้าอื่นละ ยังไม่รวมพวกออริจินัลคอนเทนต์ในสตรีมมิ่ง
https://www.youtube.com/watch?v=VWavstJydZU
ตัวอย่างแรกของ Inside Out 2
Bob Iger ขึ้นเวที DealBook Summit (รวมผู้บริหารของบ.ใหญ่และผู้นำในวงการธุรกิจ) ของ New York times และพูดถึงปัญหาของ Disney ที่เขาพบหลังกลับมา
- ภาคต่อ "ผมไม่อยากที่จะขอโทษที่ทำภาคต่อ, บางเรื่องมันดีมากและได้การตอบรับทางรายได้ดี ต้องมีเรื่องที่ดี ถ้ามันไม่ดีเท่าภาคแรก มันจะเป็นปัญหา และต้องมีกว่าแค่ธุรกิจมาผลักดัน แต่ทาง บ. ยังจะทำต่อถ้าผู้สร้างเสนอเรื่องราวที่ดี"
- จำนวนที่มากไปโดยเฉพาะ MCU "มากไปทำให้เจือจาง และต้องมีเหตุผลที่ดีที่จะสร้าง"
- การถ่ายทำช่วงโรคระบาด "มันไม่มีการดูแลในกองถ่ายมาก ที่พวกเราส่งผู้บริหารไปดูแลกองถ่ายได้แบบวันต่อวัน"
- Streaming "เราได้ทำให้คนดูชินกับการที่หนังจะมาลงสตรีมมิ่งเร็ว และการดูที่บ้านมันง่ายและดีขึ้นมาก และถูกกว่าการดูในโรง"
นอกจากนี้เขายืนยันว่าไม่มีแผนจะขายเครือข่าย ABC แม้จะพึ่งบอกในการประชุมบริษัทไปก่อนหน้านี้ว่าจะโฟกัสที่ Direct to Consumer (สตรีมมิ่ง)
พอนึกได้ ดิสนีย์ยุคก่อนเคยทำซีรีส์ซิทคอมฉายช่องดิสนีย์ ไม่รู้ว่าในนี้เคยตามบ้างมั๊ยวะ?
ของกูทัน Lizzie McGuire, The Suite Life of Zack & Cody, Hannah Montana
ยุคนั้นทันอยู่แถมดาราวัยรุ่นของดิสนีย์ก็คนชอบนิยมเยอะเหมือนกันนะ แต่ก็แลกกับเรื่องภาพลักษณฺ์ตัวนักแสดง หนักหน่อยก็ไมลีย์ที่ดังจากบท Hannah Montana ได้ยินมาว่าค่าตัวนักแสดงได้น้อยกว่ารายได้สินค้า แถมงานเพลงตัวเองในค่ายในเครือดิสนีย์กลับไม่ปังเท่า Hannah Montana จนนางหลุดฉีกรูปลักษณ์เดิมออกไป แถมนางดังมากขึ้นไปอีก
พอพูดถึงซีรีส์จากนักแสดงวัยรุ่นของดิสนีย์แล้ว บางเรื่องก็สนุกนะ พอกลับมาดู รู้สึกแปลกๆ ยังดีที่บางเรื่องไม่ได้ไปรีเมคแล้วทำเละๆ
disney ซื้อ Fox มาทำระยำเละเทะ american horror story กลายเป็นอะไรไปแล้ววะ แถมมีภาคแยกที่ดิสนี่เข้ามาบริหารเองเพิ่มอีก ชื่อเดิมแต่เป็นพหูพจน์
หลังจากนี้กูว่า Bob Iger คงปฏิวัติบริษัทหมดจริงๆ ละ หลังจากผลงานหนังของดิสนียฺฃ์ขาดทุนย่อยยับหลายเรื่อง มี Elementals, GOT3 ที่พอแบกยอดรายได้อยู่
Elementals ตอนฉายใหม่ๆ โปรโมทน้อย แต่หลังๆ มีกระแสปากต่อปาก มันพอไปได้อยู่ เพียงแค่การเล่าเรื่องมันเล่าสูตรเดิมแค่นั้น มีดีแค่งานภาพนี่แหละ แถมคุ้มทุนอยู่
แต่คิดๆ แล้วถ้า Elementals เจ๊ง กูว่า Pixar คงโดนยุบไปแน่นอน แถมไม่มีผลงานภาคต่อจากเรื่องเก่าๆ อีก
จะว่าไปช่วงหลังๆ ดิสนีย์แทบไม่โปรโมทหนังที่เข้าโรงเลย คงเพราะหมดกับค่าโปรโมทหนังเงือกน้อยเด็ดร็อคผิวสีละมั๊ง
เมื่อตีลังกาwokeยังคงปกป้องความwokeต่อไป
กระทู้ใกล้จะเต็มละช่วยคิดหน่อยว่าจะตั้งชื่ออะไร
ของกูเป็น
[จักรวรรดิหนูผีที่ 2] Everything About Disney หนัง ซีรีส์ แอนิเมชัน เจ้าหญิง ฯลฯ กับการล้มล้างความ Woke ของ Igor
https://nichegamer.com/gundam-creator-yoshiyuki-tomino-disneys-worst-mistake/
ปู่โทมิโนะยังต้องวิจารณ์
แต่ปู่แกมาก่อนกาลอีกนะ gundam แกมีทั้งทรานส์ คนดำ ชาติพันธ์อื่นๆ ผู้หญิง ลูกเล็กเด็กแดงเป็นตัวเอกตัวประกอบกันอย่างหลากหลายเลยทีเดียว
>>974 แกพูดไม่ผิดแม้จะยังยึดกับ"วิธีการ"มากไปหน่อยคือไม่ไม่ได้เกี่ยวว่าจะเป็น ดิจิตอล หรือ วาดมือ สาระคือเวลาเราทำงานบันเทิงเราจะต้องสุขและสนุกไปกับมัน งานบันเทิงเนี่ยมันไม่เหมือนงานอื่นๆตรงที่มันอสศัยแรงบันดาลใจและความชอบมากกว่างานอื่นเยอะจริงๆไอ้ที่ชอบเรียกกันว่า"พวกติสต์แตก"นั่นล่ะ แต่ถ้าไม่เป็นแบบนั้นมันจะตันไง
อีก 5-10ปีข้างหน้า ถ้ายุคที่ weeb ได้เป็น director กันหมด มึงจะทนได้เหรอ อนิเมะที่มีทุกอย่างที่ weeb อยากให้มี ใส่แทกเท่าที่นึกออกได้เลย เบียว กาว เทพ เทพอีก เทพเยอะๆ พูดพล่ามห่าไรไม่รู้แต่คนเขียนบทแม่งรู้สึก cool จนพวกมึงต้องอุทาน "เอออออ มึงเก่ง มึงเทพ กูกระจอก พอใจรึยัง"
เห็นเพจลงข่าวปู่โทมิโนะ กล่าวถึงดิสนีย์รู้สึกว่าบิดสารที่แปลไปเยอะอยู่ เพจหนึ่งบอกตำหนิดิสนีย์ อีกเพจบอกอย่าให้กันดั้มเหมือนดิสนีย์ แล้วเรื่อง AI ก็ด้วยเพจไทยบอกอย่าเน้นแต่ CG เน้นเรื่องฝีมือ ทั้งที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับ AI
เพอร์ซี่เป็นไงบ้างๆ สนุกไหม
ทรอน จะเตรียมถ่ายทำภาคที่ 3 แล้ว
ชิงออสการ์สาขา Animated ปีนี้
The Boy and the Heron - ปรัชญา แฟนตาซี ตีความ กูเข้าไม่ค่อยถึง
Elemental - ประเด็น 2 เผ่าพันธุ์รักกัน เชยๆ งั้นๆ
Nimona - LGBT ซึมเศร้า กูไม่ค่อยทัชเท่าไร
Robot Dreams - ไม่ได้ดู
Spider-Man: Across the Spider-Verse - หนังฮอลลีวู้ดจ๋า เน้นมันส์ล้วน แต่เป็นภาคต่อที่ยังไม่จบคงไม่น่าได้
ใจจริงกูเชียร์แมงมุมแต่คิดว่าไม่ได้หรอก Nimona กูก็เฉยๆ คิดว่าไม่ได้เหมือนกัน แต่ถ้า Nimona ชนะจริงแม่งโคตรตบหน้าดิสนีย์ที่เคยเทโปรเจคนี้ไปอะ I don't care if who win, I just need Disney to lose.
หนังเจ๊ง, เข้าชิงรางวัลเทพๆ ก็วืด ได้เข้าชิงแต่รางวัลราสเบอรี่แทน, บริษัทขาดทุนจนลดต้นทุนต่างๆ ยันเสียงพากย์ ครั้งหน้าลุงอีเกอร์ปฏิรูปบริษัทองค์กรจริงๆ ละนะ
>>983 กูชอบสไปเดอร์เวิร์ส 2 นะ หนังสนุก อนิเมชั่นโคตรเจ๋งยิ่งกว่าภาคแรก แค่ฉากแรกแม่งก็เจ๋งสุดๆแล้ว
แต่กูว่าไม่ควรได้รางวัล ในฐานะหนังเรื่องนึงแม่งเหี้ยมาก แทบไม่จบประเด็นอะไรเลยปล่อยค้างเติ่งไว้รอภาคต่อ
คือถ้าจบแบบนี้มึงควรต่อชื่อเลยว่า part 1 หนังเรื่องอื่นที่แม่งทำ 2 part แม่งยังจบพาทได้ดีกว่านี้เลยด้วยซ้ำ
>>985 กูเลยว่าคิดว่ายังไงแมงมุมก็ไม่ได้ เหตุผลก็ตามที่มึงบอกเลย ยิ่งเวทีออสการ์ต้องการหนังที่ขับเคลื่อนสังคมโลก(Woke)ด้วย ซึ่งแมงมุมมันไม่ได้ตอบโจทย์ตรงนี้ หนังจิบลิก็อาร์ทเกิน ไปได้รางวัลลูกโลกทองคำอะถูกที่แล้ว
กูเลยคิดว่าตัวเต็งคงเป็น Elemental กับ Nimona ซึ่งถ้าเมืองธาตุมันชนะกูคง Meh แต่ว่ากันตามจริงกูว่ามีสิทธิ์ชนะสุดในนี้
ส่วน Robot dreams กูโนคอมเมนต์ เป็นเรื่องเดียวที่ไม่ฉายไทย
Elemental ถ้าได้รางวัลจะส่งผลต่อ Pixar มั๊ย เพราะได้ข่าวว่าเลย์ออฟคนเยอะหลังจากหนังขาดทุน หนักสุดก็ไปเลย์ออฟคนกอบกู้ไฟล์หนัง Toy Story 2
ไม่นะ แอเรียล!!!! โคตรทำลายภาพเลยว่ะ
https://twitter.com/Enezator/status/1753807389650780342
>>990 disney, pixar ที่ได้ oscar แบบนอนมาอย่างน้อยมันต้อง ดี, รายได้ดี, woke อย่างใดอย่างนึง
elememtal นี่ไม่ดีเท่าไร รายได้ก็น้อย และจริงๆมัน woke ล่ะนะ มันคือต่างด้าาวย้ายประเทศโต้งๆนี่แหล่ะ แต่มันเลือกนำเสนอแบบไม่ระบุเชื้อชาติตรงๆกูว่าไม่น่าได้คะแนนบวกตรงนี้เท่าไร
กูว่าหวยออก Nimona มีกระแสจากที่ disney เท + woke lgbt แบนๆเข้าถึงง่ายถูกใจกรรมการ oscar สาขา animation ที่แม่งสมองน้อยพวกมากลากไปกันอยู่แล้ว
ไม่ก็ตาลุงนกกระสาหัวล้าน กระแส Miyazaki comeback (lol) รอบนี้ฮือฮาพอตัว
แฟน ๆ ของป๋า Johnny Depp และแฟน ๆ ของซีรี่ส์ Pirates of the Caribbean อาจจะไม่ได้เห็นภาคต่อของตัวละคร Jack Sparrow อีกต่อไปแล้ว หลังมีข่าวลือว่า Disney เตรียมจะรีบู๊ตซีรี่ส์นี้ใหม่หมดและเปลี่ยนตัวเอกเป็นโจรสลัดหญิงผิวดำ และน่าจะรับบทโดย Ayo Edebiri
.
Disney ดำเนินการสร้างหนัง Pirates of the Caribbean ถึง 6 ภาคด้วยกันนับตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา เป็นที่น่าเสียดายที่หลาย ๆ เรื่องถูกเลื่อนออกไปจากปัญหาหลาย ๆ อย่าง รวมไปถึงการที่ Disney ปลด Johnny Depp ออกด้วยเหตุผลทางด้านคดีความกับ Amber Heard อดีตภรรยา
.
Disney ล้มเหลวในการรีบู๊ตซีรี่ส์นี้มาแล้วในปี 2018 รวมไปถึงภาค spin-off ที่แสดงนำโดยตัวเอกหญิง (รับบทโดย Margot Robbie)
.
ในปี 2022 พวกเขายืนยันว่ากำลังเขียนสคริปท์เอาไว้ 2 ภาคด้วยกัน ภาคนึงมี Margot Robbie ร่วมแสดง ส่วนอีกภาคไม่มี
.
สำหรับข่าวลือเรื่องการรีบู๊ตใหม่โดยมี Edebiri แสดงนำนั้นถูกเปิดเผยโดยแหล่งข่าววงในอย่าง Daniel Richtman ที่เปิดเผยผ่าน Twitter ของเขา โดย Pirates ภาคใหม่ตามที่เขาบอกคือจะเป็นเรื่องราวของโจรสลัดอายุน้อยออกตามล่าสมบัติ และตัวเอกชื่อ Anne จะรับบทโดย Edebiri
ตั้งกระทู้ใหม่ไปละ
https://fanboi.ch/movie/18265/
เจ๊งแน่นอน
ไพเรทภาคใหม่กูว่าข่าวยังไม่ชัดเจนเลย แต่ดูแล้วคงไม่น่าจริง ไม่ก็ปั่นให้พวกหลอน Woke มาด่าแบบโง่ๆ แค่นั้น
ปิดมู้
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.