แล้วเหตุผลมันคือ นิยายไม่เคยบอกว่าแอนนาเบทเป็นคนขาว เธอมีผิวสีแทน (และตาสีเทา+ผมทอง มันคงเป็นคนดำไปได้เนอะ 5555) และตัวหนังสือไม่สามารถบอกคุณได้ว่าเธอเป็นคนขาว (อีโง่ ภาพหน้าปก ภาพอาร์ตเยอะแยะ ที่บ่งบอกว่านางเป็นคนขาว)
Last posted
Total of 1000 posts
แล้วเหตุผลมันคือ นิยายไม่เคยบอกว่าแอนนาเบทเป็นคนขาว เธอมีผิวสีแทน (และตาสีเทา+ผมทอง มันคงเป็นคนดำไปได้เนอะ 5555) และตัวหนังสือไม่สามารถบอกคุณได้ว่าเธอเป็นคนขาว (อีโง่ ภาพหน้าปก ภาพอาร์ตเยอะแยะ ที่บ่งบอกว่านางเป็นคนขาว)
เดี่ยวคอยดู ถ้าซีรี่ย์ออกมา แล้วใครวาดแอนนาเบทขาว มึงโดนโจมตีแน่ ถึงแม้ในนิยายเป็นคนขาว แต่ต่อจากนี้ แอนนาเบทคือคนดำจ๊ะ
(แฟนอาร์ตเก่าๆที่เคยวาดแอนนาเบทขาวกลายเป็นอนุสรณ์ไปแหละ555)
แล้วตลกไรรู้ป่ะ ฮังเกอร์เกม มันแคสนสด.ขาวเกินไป ในนิยายต้องผิวมะกอก (คือตรงข้ามกับเจนนิเฟอร์ แต่นางแสดงดี เลยลบคำสบประมาทได้) แฟนอาร์ตก็วาดตามนิยายกันส่วนใหญ่ คือผิวแทน ไม่เห็นมีใครมาว่าอะไรเลย
อ่านไปเรื่อยๆก็ยิ่งงง มันชอบบอกว่า ในนิยายไม่ได้กำหนดสัญชาติว่าแอนนาเบทเป็นคนขาว แล้วจู่ๆมันก็ใช้คำอย่างมั่นใจว่ส เธอเป็นคนดำ
อ่าว
แล้วมึงรู้ได้ไงว่าเป็นคนดำอ่ะ
คนเขียนยังหักงานตัวเองเลย บอก แอนนาเบท เป็นคนดำได้ เหมือน เจเค ให้ เฮอร์ไมโอนี่ เป็นคนดำได้
Disney Junior’s Ariel แอนิเมชัน(ทีวีซีรีส์?) เกี่ยวกับแอเรียลในวัยเด็กที่เคยปล่อยภาพตอนหนังคนแสดงฉายว่าจะยึดคาแรคเตอร์แอเรียลผิวดำตามหนัง
ล่าสุดปล่อยภาพคิงไทรตันกับเออร์ซูล่ามาเพิ่ม ซึ่งเปลี่ยนคิงไทรตันเป็นผิวดำตามแอเรียล และเออร์ซูล่าก็ดูจะลูกครึ่งดำไปแล้ว ....
https://www.billboard.com/culture/tv-film/little-mermaid-disney-juniors-ariel-cast-taye-diggs-amber-riley-1235394892/
จนตอนนี้แอเรียล แบ่งเป็น 2 เวอร์ชั่นแล้ว
เวอร์ชั่นดั้งเดิม ผิวขาวผมแดง ยังอยู่ในเวอร์ชั่นการ์ตูนและสื่ออื่นๆ เห็นล่าสุดที่มีภาพของเลโก้ เจ้าหญิงดิสนีย์ ยังใช้เวอร์ชั่นดั้งเดิมอยู่เลย ส่วนเวอร์ชั่นคนแสดง ผิวสี ผมทรงเดดล็อก คงใช้เฉพาะสื่อที่เกี่ยวกับภาคคนแสดงเท่านั้นแหละ
>>841 ประเด็นนี้ Iger เหมือนถูกมารับหน้าแทนอะ ทั้งที่ผลงานก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา เป็นผลงานของ Chapek ที่เน้นปริมาณ จนคุณภาพลดลง แล้ว Iger เพิ่งถูกตามตัวกลับมาหลังเกษียณไป คือแกก็ Woke นะ ในยุคเขามีความแทรก Woke ไว้อยู่เยอะ แต่คุณภาพเขามาก่อนแน่ๆ ไม่งั้นในยุคที่เขาอยู่ ผลงานไม่แตะ 1000 ล้านตลอด
แหมกูก็เพิ่มรู้ว่าดิสนี่ย์ยุคนั้นตัดออกเพราะตอนนั้นวาดยากไปหรือเวลาทำไม่พอมั้ง
เจ้าชายรู้จักกับสโนวไวท์นานแล้ว ตอนสโนว์ไวท์หายตัวไปเจ้าชายโดนแม่มดจับขัง แถมมีบอก
แผนการเพื่อเย้ยว่าสโนไวท์จะโดนแอปเปิ้ลพิษทำให้กลับเหมือนตายแต่จริงๆยังมีชีวิตอยู่ แล้วค่อยให้คนแคระเป็นคนฝังหล่อนทั้งเป็น
เจ้าชายที่หนีออกจากคุกเลบออกตามหาสโนว์ไวท์เพื่อช่วยเหลือแต่ดันหลงป่าเลยไปไม่ทัน
แต่ก็รู้ว่าสโนไวท์ยังไม่ตายเลยเข้าไปจุมพิตเพื่อสลายพิษออก(ดูดแอปเปิ้ลออกมา?) ไม่ใช่พวกชอบเยสศพหรือสโตรกเกอร์แบบที่นักแสดงบางคนด่าเอาไว้
บทดั้งเดิมมันโหดอยู่แล้ว เพราะคนเขียนคือพี่น้องกริมม์ แต่ประเด็นคือเรเซล เสือกไปวิจารณ์อนิเมชั่นฉบับดิสนีย์ที่ดัดแปลงเนื้อหาเดิมที่ให้เด็กดูได้ เลยเป็นแบบนี้
>>855 ไม่ทำบทนี้เพราะมันดูเศร้า+หดหู่ไป(งบมีจำกัดด้วยเลยตัดออก)
แต่กูงงคนที่มาจ้องจับผิดแอนิเมชันของดิสนีย์(เช่น อีราเชล) เรื่องความสมเหตุสมผลหรือตรรกะเจ้าชายเยศพ
คือมันทำมาโทนเทพนิยาย นิทานอีสป ที่ชวนเคลิ้มเพ้อฝัน จะมาหาความสมเหตุสมผลในรายละเอียดปลีกย่อยหาอะไรวะ
เหมือนมึงสงสัยทำไมหมาป่าในหนูน้อยหมวกแดงพูดได้ ทำไมหมาป่าในลูกหมูสามตัวมันเป่าบ้านพังได้
เรื่องมันจะสอนว่าอำนาจของรักแท้มันเหนือความตาย แถมเจ้าชายแม่งแค่มา Goodbye kiss เบาๆ ไม่ได้แลกลิ้น อีห่า
https://www.piratesandprincesses.net/disney-lyricist-tim-rice-questions-the-need-for-disneys-live-action-remakes/
https://www.disneydining.com/disney-lyricist-sir-tim-rice-criticizes-disney-live-action-remakes-sw1/
https://www.gbnews.com/news/snow-white-remake-disney-sir-tim-rice
ขนาดคนที่เคยร่วมงานกับดิสนีย์ยังบ่นกับเรื่องพวกนี้
คุณเอาลิงค์อะไรมาลง ผมไม่หลงกดเข้าไปอ่านหรอกนะ
Snow White นี้ว่าที่หนังเจ๊งอีกเรื่อง
ยกเว้นเจ๊ Wonder woman จะช่วยแบกไหว
Florence Pugh เหมาะจะเป็น Rapunzel จริงรึ
เพิ่งได้ดู Treasure Planet สนุกดี แต่พอไปลองอ่านตามเฟซหรือบทความดู มีคนเชื่อว่าดิสนีย์ตั้งใจให้เรื่องนี้เจ๊งจะได้เบนเข็มไปทำ Animation 3D ได้เต็มตัว เป็นข่าวลือที่โคตรไม่เมคเซนส์เลย ดูหนังเต็มๆ แล้วมันก็พอมีจุดให้เข้าใจได้แหละว่าทำไมเจ๊ง เช่น เรื่องมันจะโทนขายเด็กเต็มตัวก็ไม่ใช่จะขายผู้ใหญ่ก็ไม่เชิง คอนเซปต์ความสัมพันธ์พ่อลูกที่เด็กน่าจะเข้าใจยาก ตัวละครน่ารำคาญ แต่ไม่ใช่ระดับที่ปล่อยให้ออกมาเจ๊งแน่ๆ อะ หนังมันตั้งใจทำมาก ทั้งคุณภาพงาน อาร์ตไดเรคชัน บริษัทหรือนักลงทุนเหี้ยไรตั้งใจปล่อยสินค้าให้แผนกตัวเองโดนยุบวะ คิดตามตรรกะนี้ก็โคตรพิลึกแล้ว
ข่าวตรงมั่งไม่ตรงมั่งดังนั้นต้องฟังหูไว้หู เขาบอกว่า
- สโนว์ไวท์ เข้าสู่ช่วง screen testing ให้กลุ่มตัวอย่างชมแล้วฟังฟีดแบค
- มีหลายฉากที่เปลี่ยนแปลงไปจากต้นฉบับ จุดสำคัญมากคือ ไม่มีการกินแอปเปิ้ลแล้วสลบไป เห็นว่ากลัวเด็กๆ ดูแล้วจะกลัว เลยเป็น สโนว์ไวท์แตะแอปเปิ้ลแล้วโดนพิษแทน
- โดนพิษแล้วไม่หลับ ไม่ตาย แค่ทำให้นางจ๋อย หมดใจสู้
- Point คือ นางเอกเคยบอกในการสัมภาษณ์ว่า เวอรชั่นนี้ สโนว์ไวท์จะไม่สนความรัก แต่สนใจความเป็นผู้นำในการต่อสู้ ซึ่งข้อมูล leak นี่บอกว่า ก็นั่นแหละ พิษทำให้นางหมดใจสู้อะไรนั่นที่ว่านั่นแหละ
- ฉากที่ว่าทำให้ผู้ชมกลุ่มตัวอย่างโคตรไม่แฮปปี้
- กัล กาด็อท มีฉากร้องเพลงในเรื่องหลายฉาก แต่ทำได้ไม่ค่อยดี อาจต้องตัดทิ้ง
- นางเอก ราเชล มีเกาเหลากับผู้กำกับ เพราะนางไปให้สัมภาษณ์พูดถึงพระเอกที่รับบทเจ้าชายว่า ถึงถ่ายไปแต่ฉากของเจ้าชายอาจถูกตัดออกหมดก็ได้ เพราะนี่คือฮอลลีวูดยังไงล่ะเบบี๋ (นางพูดงี้จริงๆ แบบทุกคำเลย) ซึ่งประโยคนี้ถือว่าก้าวก่ายงานของผู้กำกับอย่างแรง แถมนางยังเคยพูดวิจารณ์ผลงานเก่าๆ ของ ผกก ออกสื่อด้วย
- ตอนนี้มีข่าวลือว่าอาจมีการยกเลิกการผลิตหนังเรื่องนี้ไปเลย เพราะถ้าฉายจริงอาจเจ๊งหนักกว่าทุนค่าถ่ายทำที่เสียไปอีก
กูว่าไม่ยกเลิกหรอก ดิสนีย์มันพยายามดันจะตายแถมโปรดัคชั่นมันมาไกลเกินกว่าจะยกเลิกละ
... กูไม่อยากให้ยกเลิกด้วยเพราะอยากเห็นหนูผีเจ๊งกับอีราเชลหายมั่นจะได้เลิก Woke กันสักที
กูอยากรู้ อิราเชลเด็กเส้นใครว่ะ ได้งานสปีลเบิร์กแล้วก็รับบทนางเอกโปรเจคใหญ่ถี่ๆ อีโก้สูงปรี้ดก็ไม่แปลก
>>871 ตอนนั้นวอเนอร์มันอยากล้างไพ่ล้างจักรวาล DC ไง(ที่เพิ่งไปเรียกเจมส์กันน์มา) เพราะเละเทะไปหมด ทำรายได้ไม่ต้องเป้าสักที
ส่วนของดิสนีย์ยังไงมันก็ต้องการดันแฟรนไชส์เจ้าหญิงต่อเพราะเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่ใหญ่พอๆ กับมาร์เวลอะ มันไม่ตัดใจเพราะอีเงือกที่เพิ่งเจ๊งไปเรื่องเดียวหรือแค่กระแสตอบรับรอบทดลองฉายไม่ดีหรอก
>>872 คือเรื่องแบทเกิร์ลมันต้องเรียงไทม์ไลน์ก่อนนะ มันเริ่มจากยกเลิกเพราะอยากลดภาษี>ฮามาดะประธานคนเก่าลาออกเพราะไม่พอใจ>WB เลยต้องหาประธานใหม่แล้วหวยมาลง JG>JG ที่ได้คุมเลยล้างจักรวาลซะเลย
มันไม่ใช่ว่าจะล้างจักรวาลเลยยกเลิกแบทเกิร์ล แต่เพราะยกเลิกแบทเกิร์ลเนี่ยล่ะ ถึงได้มีการล้างจักรวาลแบบที่เกิดขึ้น
ส่วนเรื่องสโนไวส์เนี่ยถ้าทองในแง่การดันแบรนด์เจ้าหญิงจะมองว่าการแคนเซิลเพื่อรักษาภาพลักษณ์เป็นการปกป้องแบรนด์ก็ได้เหมือนกัน ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มโปรโมท ถ้าหวยจะลงที่ถอนตัวมันก็ยังทันนะ
>>873 โอ้ค กูเรียงไทม์ไลน์ฝั่ง DC ผิดเอง ส่วนฝั่งดิสนีย์กูก็ยังคิดว่ายังไม่มีอะไรที่เป็นทริกเกอร์ให้น่ายกเลิกขนาดนั้นอยู่ดีนะ ต่อให้ราเชลมันปากจัดกว่านี้หรือทำร้ายคนแบบเอซร่า เต็มที่ก็ถอดนักแสดงออกแล้วเลื่อนฉาย ส่วนบทที่ดูพิลึกๆ จาก >>865 นี่กูว่ามีสิทธิ์ที่จะเป็นจริงต่อให้คำวิจารณ์ไม่ดี ช่วงนี้หนูผีมันดูอยากลองอะไรแปลกใหม่อยู่ด้วย
โอ้ค > โอเค
ตาอีเกอร์ เหมือนแกจะล้างงานที่ไม่ทำเงินอยู่ ถ้าเกิดอะไรขึ้นอีก แกคงสั่งยกเลิกทำไปเลยก็ดี
ขนาดเงือกที่ด่า ๆ กันยังได้เกือบ 600 ล้าน (ถึงสายเจ้าหญิงดิสนีย์ต้อง 1000 ล้านขึ้นด้วยซ้ำ)
แถมยังเข็นหนังดูแล้วแบบไม่ทำเงิน อย่าง haunted mansion ออกมา (แล้วก็แป้กตามคาด)
จะบอกว่ายกเลิกฉายสโนว์ไวท์ ก็กระไรอยู่
สโนว์ไวท์เป็นผู้นำมวลชนลุกขึ้นสู้ต่อต้านอำนาจแม่มด แตะแอปเปิ้ลแล้วหมดใจจะสู้ เหล่าสหายทั้ง7ที่ร่วมสู้จึงต้องหาทางให้นางกลับมานำมวลชนอีกครั้ง สุดท้ายเจ้าชายหนุ่ม ชนชั้นสูงก็มาปลุกใจรนางให้ลุกขึ้นซู่อีกครั้ง พาฝูงชนลุกขึ้นสู้แม่มดใจร้าย ปลิดชีพและยึดครองปราสาท ได้กระจกวิเศษชี้นำให้ปลดปล่อยประชาชนในอีกหลายเมือง ออกเดินทางไปกับสหายทั้ง 7 ปลดปล่อยชาวบ้านเมืองอื่นๆต่อ ให้เจ้าชายรอที่ปราสาท เสร็จภารกิจจะกลับมา
สโนวไวท์ live action
จะไม่มีบทเจ้าชาย แต่พระเอก ซึ่งรับบทโดย Andrew Burnap ซึ่งเป็นพระเอกของเรื่อง จะมีชื่อว่า โจนาธาน ซึ่งเขาไม่ใช่เจ้าชาย แต่จะเป็นโจรป่า แนวๆ โรบินฮูด
ดูทรงพินาศ มากขึ้นเรื่อยๆ
ไล่ latondra Newton หัวหน้าแผนกwokeออกไปแล้ว น่าจะรู้ตัวแล้วล่ะ เหลืออีสโนว์ไวท์นี้แหละ ที่จะทำไงต่อดี
ตลาดหุ้นดิสนีย์ช่วงนี้ก็ตกลงไปเพียบ ยังไม่รวมเรื่องปิดสตูสาขาสิงคโปร์อีก
ทุนจมไปกับเงือกดำแล้ว จะมาทุนจมกับสโนว์(ไม่)ไวท์อีกเรื่องนี้ก็หนักอยู่นะ
คนเขียนบทจะให้เหตุผลว่าชื่อ สโนว์ไวท์ แต่ผิวไม่ขาว ยังไงล่ะ
อยากให้มันยกเลิกถ่ายทำไปเถอะสำหรับ สโนว์ไวท์ เพราะบริษัทหุ้นติดลบ แถมทำหนังมาเจ๊งหลายเรื่อง แอพสตรีมมิ่งก็ลดจำนวนผู้ชมเข้ามาอีก ทำแบบสมัย WB ที่ต้องยกเลิกซูเปอร์แมนที่นิคเคจเป็นพระเอก กับ ซีรีส์แบทเกิร์ล
เอาจริงๆ ทั้งหนังดิสนีย์, Pixar หรือในเครือที่ซื้อหุ้นมาตั้งแต่ 20th Century, Lucus Film, Marvel Studio ทำหนังมาเจ๊งหมด จะมีแค่ Elementals ที่คุ้มทุนอยู่
ข่าวลือ Toy Story 5
แอนดี้จะกลับมามีบทบาทอีกครั้ง
ตามข่าวคือ จะเป็นตัวกลางของเฟรนไชส์นี้แหละ คร่าวๆ คือมีลูกมีเมีย แต่เมียไม่รู้ว่าจะ Woke แบบให้มีเมียผิวสีหรือชาวเอเชีย
แต่ถ้าเป็นจริง กูว่าดิสนีย์น่าจะอ่านฟีคแบคภาค 4 ละว่า บอนนี่ เป็นตัวละครแบบไหนถึงยี้กันแบบนี้
อีกข่าวคือ ดิสนีย์จะโดนซื้อกิจการโดยแอปเปิ้ล ไม่รู้ว่าจะจริงหรือเปล่า เพราะดูจากกระแสแล้วน่าจะจริง เพราะหุ้นติดลบหลังจากยอดรายได้เจ๊งไม่เป็นท่าหลายเรื่อง
ถ้าแอปเปิ้ลซื้อดิสนีย์มันจะมีผลอะไรมั๊ย? จะเป็นแบบดิสนีย์ซื้อ FOX ที่มี 20th Century Fox, X-Men และ Deadpool รึเปล่า?
มี Leak ของหนังสโนว์ไวท์อีกแล้ว จากงาน d23 ที่จะถึงนี้
อันนี้เป็นรวมข่าวลือของสโนวไวท์ จากเว็บ/แชนเนล leak + กับบทสัมภาษณ์ของนางเอก
- สโนวไวท์ยอดนักสู้ ใน live action จะตีความว่าสโนวไวท์เป็นยอดหญิงนักสู้ มีฉากต่อยเตะ ไม่ใช่หญิงสาวนุ่มนิ่มที่เฝ้าหาความรัก (อันนี้น่าจะคอนเฟิรมจากบทสัมภาษณ์นางเอกละ)
- ราชินีใจร้าย ไม่ได้อิจฉาความงามของนาง (แหงสิวะ!!!) แต่ประมาณอยากยึดอำนาจจากราชา
- สโนวไวท์ เลยระเห็ดออกจากวัง แล้วไปเจอโจนาธาน (พระเอก ซึ่งเป็นโจรป่า) แล้วร่วมมือกันก่อการปฎิวัติโค่นล้มราชินี
- ราชินี ยังพยายามจะวางยาพิษสโนวไวท์ แต่ไม่ได้ทำให้นางสลบสไลยตลอดกาล เพียงแค่ทำให้นางจ๋อย หมดใจสู้ จนไม่สามารถปลุกระดมผู้คนมาล้มราชินีได้
- ไม่มีฉากกินแอปเปิ้ล แค่แตะก็โดนพิษ
- คนแคระไม่มี ถูกถอดบทออก (เหลือคนนึงมั้ง) ที่เหลือเป็นสัตว์มหัศจรรย์ ซึ่งเป็นนักแสดงหลายชาติพันธ์ หลายวัย หลายเพศสภาพ (woke นั่นแหละ) และแต่ละคนจะมีพลังพิเศษ เช่น สามารถควบคุมสัตว์ หรือ สภาพอากาศได้ โดยจะมีฉากที่ สัตว์มาวิ่งเล่นรอบสโนวไวท์เหมือนในอนิเม แต่เป็นจากพลังของพวกนี้
- คนแคระ ในอนิเม จะมีบทสำคัญมาก และบทสุดท้ายคือเป็นคนกำจัดราชินี แต่ในอันนี้ จะมีบทเป็นคนสร้างอาวุธให้สโนวไวท์ โดยอาวุธที่ว่าจะเป็นคทา ที่มีอัญมณีสีแดงอยู่ปลายๆ แล้วสโนวไวท์ใช้มันสู้กับราชินีจนราชินีร่างสลายไป
- ไม่มีฉากเลิฟซีน ไม่มีบทความรักใดๆระหว่างโจนาธาน กับสโนวไวท์ จับมือเต็มที่ ไม่มีจูบอะไรทั้งนั้น
- เพลงจากต้นฉบับบางเพลง จะถูกเอามาประพันธ์ใหม่ เช่น ไฮโฮ ของคนแคระ จะถูกเอามา remix เป็นเพลง แร๊ป และให้แร๊ปแนวๆเพลง scuttlebutt ใน little mermaid
- ตามที่ลือคือ ราเชลมีส่วนร่วมในการดัดแปลงบทสูงมาก
แปลกใหม่ น่าสนใจ น่าดู น่าติดตาม เตรียมตัวรอดูในโรงเลย
สโนวไวท์ข่าวว่าอาจไม่ฉายนี่ เพราะรอบ screen test เสียงตอบรับแย่ (เงือกดำรอบ screen test เสียงตอบรับดีนะ) แล้วยังมีเรื่องประท้วงของ SAG ที่ราเชลสนับสนุนออกหน้าออกตาด้วย
สรุป ข่าวลือที่ยกเลิกไม่จริง ตอนนี้มีประกาศละว่าจะปล่อยตัวอย่างหนังมา
แพลนเตรียมภาคต่อก็มา
https://www.facebook.com/100064761634091/posts/pfbid0vo2L34cd86GSFRi1QHo28fGhdcvqfz4zACz4Txm55AQgXWqYQ7M2arjrN96pFoyrl/?mibextid=Nif5oz
Rachel อัพเดต instagrams ล่าสุด
How to ทำหนังยังไงให้เจ๊งโดยที่ไม่ทันฉาย งานนี้ต้องเพิ่งgalแหละ
ภาพล่าสุดของซีรีส์ Percy Jackson เผยมาละ ไม่รู้ว่าจะเละเทะแค่ไหน
>>904 จริง ทั้งบทบรรยาย ทั้งภาพออฟิเชียล แม่งบอกชัดๆว่าแอนนาเบทเป็นคนขาว และมีปมกับสาวผมบลอนด์=โง่
แถมมีรายละเอียดอื่นๆเช่น อาธีน่าจะทำให้ลูกเหมือนตัวเอง = แปลว่าต้องเปลี่ยนอาธีณาเป็นคนดำ?
แอนนาเบทมีลูกพี่ลูกน้อง ชื่อ XX (จำไม่ได้) เป็นตลค.ในชุดโอลิมปัสมั่ง? ที่บรรยายว่าเหมือนแอนนาเบท ก็ต้องเปลี่ยนเป็นคนดำอักสินะ
แม่งโครตคุ้ม เปลี่ยนตัวเกียว ได้เปลี่ยนอีกหลายตัว ถถถถ
คนที่ไม่มองว่ายัดเหยียด คือ แม่งต้อง woke จนหลอนจิงๆแหละ
ถ่าอยากเปลี่ยน ก็ควรเปลี่ยนแค่ตลค.รองสิ ตลค.หลักมันสำคัญ คนชอบเยอะ ก็ควรจะแคสตามรูปลักษณ์ตรง
และที่สำคัญ ถ้ามึงอยากทำหนังเอาใจสังคมมากนัก ก็เลิกรีเมค เลิกเอาหนัง/นิทาน เก่าๆ ที่ไม่รีพีเซ้น มาทำใหม่ย้อมดำได้แล้ว มึงแค่สร้างใหม่ มึงจะใส่คนดำ lgbqtกี่คน ก็ไม่มีใครเขาว่าหรอ
Frozen live action เอลซ่าคนดำ แอนนาคนเอเชีย ตัดบท krisoff เอลซ่ากับแอนนารักกันเกินพี่เกินน้องปานดูดดื่ม olaf ใช้คนแสดงไม่ใช้cg และต้องตัวสูงเพราะถ้าเตี้ยจะเป็นการเหยียดคนเตี้ย ที่สำคัญทั้งเอลซ่าและแอนนาจะต้องเป็นหญิงแกร่ง ซึ่งทั้งคู่จะต้องรวมพลังต่อสู้กับฮานที่ยกทัพมายึดอาณาจักรของตน
อ่ะกูคิดบทให้แล้ว disney เอาไปจัดการที รับรองเข้าฉายปุ๊บ คนเต็มโรงปั๊บ
รอยเตอร์รายงาน ในการประชุมของบอร์ดบริหารของดิสนีย์กับผู้ถือหุ้นล่าสุด
ในรายงาน มีการระบุว่า Bob Iger CEO ของดิสนีย์ บอกกับผู้ถือหุ้นว่า
จากนี้ไปดิสนีย์ จะลดบทบาทใน สงครามวัฒนธรรม (culture war) ลงและไปเน้นความบันเทิง และการลงทุนในดิสนีย์แลนด์ให้มากขึ้น
ซึ่งน่าจะเป็นผลงาน Live Action และหนังหลายๆเรื่องในช่วงหลังของทั้ง Disney และ Marvel ที่พยายามสอดแทรกบริบทการเมืองและสังคมลงไปแต่เสียงตอบรับแย่มากจากถึงขั้นเจ๊งบ๊งหลายเรื่อง ขนาดบางเรื่องยังไม่ทันฉายเช่นในภาพประกอบ ก็คาดการณ์กันว่าเจ๊งแน่
ไม่อยากเชื่อลมปากมาก ลดลง 1% ก็คือลดนะ
รอดูกันที่ผลงานดีกว่า ว่าจะทำจริงมั้ย
ถ้าเห็นพวกฝ่ายผลิต Woke ลาออกก็เป็นสัญญาณแล้วล่ะว่าต้องเปลี่ยนแน่ๆ
แต่แบบนี้ควรโทษ Chapek หรือ Igor ดีวะสำหรับการไปยัดความตื่นรู้จนหนังเสียรูปหมด
สิ้นสุดยุค WOKE แล้วสินะ
ใครสักคน : ดิสนีย์ทำเจ๊งไม่กี่เรื่องขนหน้าแข้งเขาไม่ร่วงหรอก สิ่งที่เขาทำคือการผลักดันให้โลกดีขึ้น
ดิสนีย์ : ใครไหวไปก่อนเลย กูบายละจ้า
อะไรที่มันตึงเกินก็เละนั้นแหละ ดิสนีย์มึงหลงทางตั้งแต่ไปแตะพวก Woke สันดานหมาล่ะ ทั้งๆที่จุดขายมึงคือ Dream+Magic+Fantasy ผู้ชมดูจบแล้วใจฟูได้แรงใจในการใช้ชีวิตเพิ่ม พวก Culture war เหี้ยอะไรนั้นทำสนองนี้ดตัวเองกับพวก woke ของตัวเองล้วนๆ ไม่ได้คิดถึงคนดูเลย หนังที่ออกมาเลยเหมือนแค่ของที่สำเร็จความใคร่ทางจริยธรรมของตัวเองนั้นแหละ ไหนจะนักแสดงทำตัวปากปีจอยิ่งลากแบรนด์ลงนรกกว่าเดิมอีก
Woke มีหมดทุกค่ายแหละ เว้นแต่ทำมาไม่สุดโต่งสำหรับบางเรื่อง
แต่กับดิสนีย์ มันแย่ตรงที่ยำเนื้อหาผลงานเก่ามาดัดแปลงจนภาพรวมของหนังมันไม่น่าสนใจ ยังไม่รวมกับค่ายอื่นๆ ที่ทำอย่าง Sony, Dream Works
โกยได้เยอะจากตอนอีแครอลหรือฝ่าบาทภาคแรกเลยเหลิงหลงไปว่าอวยwoke อวยคนดำแล้วจะได้ตัง ไม่ได้ดูบริบทของตัวงานเลย ว่าทำไมมันประสบความสำเร็จ
ข่าวบันเทิงในต่างประเทศ รายงานว่าตอนนี้ ค่าใช้จ่ายในการผลิตสโนวไวท์ live action พุ่งไปแถวๆ 350ล้าน$
อส มันทุนจมกับอะไรเนี่ย และถ้าทุนขนาดนี้ ถ้าจะไม่ให้ขาดทุน หรือเท่าทุน อย่างน้อยน่าจะต้องทำรายได้ในโรง 7-800 ล้าน$ มันจะทำได้รึไงวะ
ข่าวเปลี่ยนตัวนักแสดงเรื่อง Snow White ไม่เป็นความจริง
มีข่าวลือทางโซเชียลมีเดียล่าสุดที่แพร่สะพัดเกี่ยวกับการคัดเลือกนักแสดงจากภาพยนตร์รีเมคของดิสนีย์เรื่องSnow White นั้นมีการลือกันว่า เนื่องจากความคิดเห็นมากมายของ Rachel Zegler ในบท Snow White ที่พูดถึงภาพยนตร์แอนิเมชั่นต้นฉบับของ Walt Disney ทำให้เกิดกระแสต่อต้านและวิพากษ์วิจารณ์มากมาย จนทำให้เกิดสิ่งข่าวลือและการเดาที่ไม่มีมูล เช่น การยกเลิกภาพยนตร์ทั้งหมด หรือการปรับแผนย้ายจากบ็อกซ์ออฟฟิศไปฉายใน Disney+ หรือข่าวลือล่าสุดคือ ข่าวทาบทาม Jenna Ortega ให้มารับบทสโนวไวท์แทน …
ทั้งหมดนั้นตามข้อมูลแหล่งข่าวแจ้งว่า ไม่เป็นความจริงเลย ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เพียงแต่ตอนนี้ทางค่ายนั้นกำลังได้รับผลกระทบของการนัดหยุดงาน SAG-AFTRA ที่กำลังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง และการถ่ายทำของหนังเรื่องนี้ก็ยังอยู่ในขั้นตอนการถ่ายทำใหม่ให้เสร็จ ทำให้เดิม Snow White มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 22 มีนาคม 2024 มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้
Source The Disinsider (08/10/23) “No, Jenna Ortega Did Not Replace Rachel Zegler as Snow White”
> https://thedisinsider.com/2023/10/08/no-jenna-ortega-did-not-replace-rachel-zegler-as-snow-white/
>>923 อินเดียนาโจนล่าสุดงบอีกนิดไปทำอวาตาร1ได้ มันก็มีข่าวลือว่าWokeฟอกเงินมานานแล้ว ยิ่งThe Marvelนี้หนักเลยหนังสั้นจู๋ไปลงDisney+ดีกว่า แต่งบเสือกเยอะอีก แถมอีผู้กำกับบอกว่าเธอใส่ความเป็นตัวเองไม่ได้ นี้ไม่ใช่หนังฉัน มันเป็นของเขา ของไฟกี
ไฟกีงงเลย ปล่อยละเลยชิบหายจนพังทั้งจักรวาลเสือกมาโทษกูกับหอบเงินอีก เจริญ
เป็นเวลาหลายทศวรรษที่ดิสนีย์กลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านภาพยนตร์ หนังแอนิเมชั่นและหนังคนแสดงนับไม่ถ้วนทำกำไรมหาศาลให้กับบริษัท และได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกมากมาย
.
แต่ในปีนี้มีรายงานว่า บ็อบ อิเกอร์ CEO ของดิสนีย์ รู้สึกเหนื่อยล้าและหนักใจจากความล้มเหลวในบ็อกซ์ออฟฟิศติดต่อกัน ทำให้บริษัทต้องสูญเงินไปถึง 900 ล้านเหรียญจากหนังที่ทำรายได้ไม่เข้าเป้าหลายเรื่อง
.
ตามข้อมูลของ Bloomberg บ็อบ อิเกอร์ ได้หวนคืนตำแหน่ง CEO เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วเพื่อช่วยบริษัทจากความล้มเหลว แหล่งข่าวบอกว่าเขา "รู้สึกเหนื่อยล้าและหนักใจ" ขณะที่เขาต้องเผชิญกับปัญหาของบริษัทในปัจจุบัน ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ที่มาเที่ยว Disney World ลดลง การสูญเสียสมาชิก Disney+ และความล้มเหลวในบ็อกซ์ออฟฟิศอย่างต่อเนื่อง
.
หนังดิสนีย์ในปีนี้ทั้งดูน่าตื่นเต้นและควรจะทำกำไรอย่างงาม อย่างไรก็ตามหนังที่หลาย ๆ คนคาดหวังกลับทำผลงานได้ไม่ดีนัก สาเหตุหลักประการหนึ่งมาจากทุนสร้างที่มหาศาล อีกประการหนึ่งมาจากหนังของพวกเขายังดีไม่พอ หลายเรื่องได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบ และสิ่งนี้ทำให้หลายคนท้อแท้ที่จะเข้าไปดูในโรง
.
น่าสนใจว่า CEO จะแก้ปัญหาบริษัทอย่างไร หลังจากที่เพิ่งประกาศจะเลิก Woke ไปเมื่อไม่นานมานี้จะทำให้หนังกลับมามีรายได้ตรงตามเป้าหมายหรือไม่
https://www.youtube.com/watch?v=cl9LZiB0oao&ab_channel=DailyWire+
ทำมากวนตีนหนูดำแถมถ่ายไล่ๆกันอีก
Teenage Kraken เล่าแบบ Cliché เอะอะจะ Coming of Age, ความขัดแย้งเผ่าพันธุ์, การเข้าหาสังคม, ตีความใหม่ ตัวละครก็ไม่น่าจดจำ โดยเฉพาะพวกคราเคนเพศผู้ ดูงี่เง่าสุด ส่วนเงือกตัวร้ายก็มาสูตรเดิม ตีหน้าเป็นคนดี แต่เป็นตัวร้าย
Snow White ภาพหลุดมาอีกแล้วคราวนี้คนแคระมาต้นฉบับละ แถมอาจจะฉายในปี 2025
เลื่อนฉายเพราะปรับแก้บทล่ะมั้ง เพราะบทเดิมดัดแปลงซะเละ แต่ที่แน่ๆ ทำไมไม่เปลี่ยนตัวนักแสดงสโนว์ไวท์ล่ะวะ
รอบนี้ดิสนีย์คงไม่ Woke เละพินาศแบบเงือกเดรดล็อกผิวสี ล่ะมั้ง เลยต้องทำตามต้นฉบับไปเลย ส่วนนักแสดง คิดว่าท่าปล่อยข่าวว่าราเซลโดนไล่ออก น่าจะมีมูลแต่ เหมือนเบรกเรื่องถอนตัวแล้วโดนเข้าห้องเย็นจนนางเงียบสงบไป เลยไม่มีการเปลี่ยนตัวนักแสดงเลย
แล้วแบบนี้จะทำไงกับแก๊งนักแสดงฮิปปี้ที่ตอนแรกจะเอามาแทนคนแคระอะ
หรือปล่อยเบลอหายไปเงียบๆ เลย
กลายเป็นคนแคระจริงล่ะเหอ แล้วกลุ่มก่อนหน้านี้ที่เป็นกลุ่มต่อสู้เพื่อสิทธิชาวเมืองอะไรนั้นอ่ะ บทยังเหมือนเดิมอยู่มั้ย
หนังยังไม่ทันฉายก็ปล่อยเพลงมาให้ฟังก่อนละ
This Wish ‘พรที่ดี’
https://open.spotify.com/track/4owOdRNIz8bu1cu95YtvlN?si=kGpOIqnFR0qrp2lmx75qpA
This Is The Thanks I Get?! ‘นี่ซิที่ฉันได้คืน’
https://open.spotify.com/track/6l7ngfAUILi71iABuUSOlC?si=-39ZqN4YQTa1RO9eMWGZHg
ข่าวบันเทิงใน ตปท ได้รายงานตัวเลขประมาณการงบสร้าง สโนว์บราวน์ ที่จะฉายในปี 2025 งบตอนนี้เกิน 400 ล้าน$ ไปแล้ว และถ้าจะเท่าทุนได้ ต่อเมื่อทำรายได้รวมเกินพันล้านเท่านั้น
https://variety.com/2023/tv/news/disney-plus-subscribers-150-million-earnings-1235784850/
พอแอพสตรีมมิ่งไม่รุ่ง ก็เอาหนังเก่าๆ กลับไปลงสตรีมมิ่งเจ้าอื่นละ ยังไม่รวมพวกออริจินัลคอนเทนต์ในสตรีมมิ่ง
https://www.youtube.com/watch?v=VWavstJydZU
ตัวอย่างแรกของ Inside Out 2
Bob Iger ขึ้นเวที DealBook Summit (รวมผู้บริหารของบ.ใหญ่และผู้นำในวงการธุรกิจ) ของ New York times และพูดถึงปัญหาของ Disney ที่เขาพบหลังกลับมา
- ภาคต่อ "ผมไม่อยากที่จะขอโทษที่ทำภาคต่อ, บางเรื่องมันดีมากและได้การตอบรับทางรายได้ดี ต้องมีเรื่องที่ดี ถ้ามันไม่ดีเท่าภาคแรก มันจะเป็นปัญหา และต้องมีกว่าแค่ธุรกิจมาผลักดัน แต่ทาง บ. ยังจะทำต่อถ้าผู้สร้างเสนอเรื่องราวที่ดี"
- จำนวนที่มากไปโดยเฉพาะ MCU "มากไปทำให้เจือจาง และต้องมีเหตุผลที่ดีที่จะสร้าง"
- การถ่ายทำช่วงโรคระบาด "มันไม่มีการดูแลในกองถ่ายมาก ที่พวกเราส่งผู้บริหารไปดูแลกองถ่ายได้แบบวันต่อวัน"
- Streaming "เราได้ทำให้คนดูชินกับการที่หนังจะมาลงสตรีมมิ่งเร็ว และการดูที่บ้านมันง่ายและดีขึ้นมาก และถูกกว่าการดูในโรง"
นอกจากนี้เขายืนยันว่าไม่มีแผนจะขายเครือข่าย ABC แม้จะพึ่งบอกในการประชุมบริษัทไปก่อนหน้านี้ว่าจะโฟกัสที่ Direct to Consumer (สตรีมมิ่ง)
พอนึกได้ ดิสนีย์ยุคก่อนเคยทำซีรีส์ซิทคอมฉายช่องดิสนีย์ ไม่รู้ว่าในนี้เคยตามบ้างมั๊ยวะ?
ของกูทัน Lizzie McGuire, The Suite Life of Zack & Cody, Hannah Montana
ยุคนั้นทันอยู่แถมดาราวัยรุ่นของดิสนีย์ก็คนชอบนิยมเยอะเหมือนกันนะ แต่ก็แลกกับเรื่องภาพลักษณฺ์ตัวนักแสดง หนักหน่อยก็ไมลีย์ที่ดังจากบท Hannah Montana ได้ยินมาว่าค่าตัวนักแสดงได้น้อยกว่ารายได้สินค้า แถมงานเพลงตัวเองในค่ายในเครือดิสนีย์กลับไม่ปังเท่า Hannah Montana จนนางหลุดฉีกรูปลักษณ์เดิมออกไป แถมนางดังมากขึ้นไปอีก
พอพูดถึงซีรีส์จากนักแสดงวัยรุ่นของดิสนีย์แล้ว บางเรื่องก็สนุกนะ พอกลับมาดู รู้สึกแปลกๆ ยังดีที่บางเรื่องไม่ได้ไปรีเมคแล้วทำเละๆ
disney ซื้อ Fox มาทำระยำเละเทะ american horror story กลายเป็นอะไรไปแล้ววะ แถมมีภาคแยกที่ดิสนี่เข้ามาบริหารเองเพิ่มอีก ชื่อเดิมแต่เป็นพหูพจน์
หลังจากนี้กูว่า Bob Iger คงปฏิวัติบริษัทหมดจริงๆ ละ หลังจากผลงานหนังของดิสนียฺฃ์ขาดทุนย่อยยับหลายเรื่อง มี Elementals, GOT3 ที่พอแบกยอดรายได้อยู่
Elementals ตอนฉายใหม่ๆ โปรโมทน้อย แต่หลังๆ มีกระแสปากต่อปาก มันพอไปได้อยู่ เพียงแค่การเล่าเรื่องมันเล่าสูตรเดิมแค่นั้น มีดีแค่งานภาพนี่แหละ แถมคุ้มทุนอยู่
แต่คิดๆ แล้วถ้า Elementals เจ๊ง กูว่า Pixar คงโดนยุบไปแน่นอน แถมไม่มีผลงานภาคต่อจากเรื่องเก่าๆ อีก
จะว่าไปช่วงหลังๆ ดิสนีย์แทบไม่โปรโมทหนังที่เข้าโรงเลย คงเพราะหมดกับค่าโปรโมทหนังเงือกน้อยเด็ดร็อคผิวสีละมั๊ง
เมื่อตีลังกาwokeยังคงปกป้องความwokeต่อไป
กระทู้ใกล้จะเต็มละช่วยคิดหน่อยว่าจะตั้งชื่ออะไร
ของกูเป็น
[จักรวรรดิหนูผีที่ 2] Everything About Disney หนัง ซีรีส์ แอนิเมชัน เจ้าหญิง ฯลฯ กับการล้มล้างความ Woke ของ Igor
https://nichegamer.com/gundam-creator-yoshiyuki-tomino-disneys-worst-mistake/
ปู่โทมิโนะยังต้องวิจารณ์
แต่ปู่แกมาก่อนกาลอีกนะ gundam แกมีทั้งทรานส์ คนดำ ชาติพันธ์อื่นๆ ผู้หญิง ลูกเล็กเด็กแดงเป็นตัวเอกตัวประกอบกันอย่างหลากหลายเลยทีเดียว
>>974 แกพูดไม่ผิดแม้จะยังยึดกับ"วิธีการ"มากไปหน่อยคือไม่ไม่ได้เกี่ยวว่าจะเป็น ดิจิตอล หรือ วาดมือ สาระคือเวลาเราทำงานบันเทิงเราจะต้องสุขและสนุกไปกับมัน งานบันเทิงเนี่ยมันไม่เหมือนงานอื่นๆตรงที่มันอสศัยแรงบันดาลใจและความชอบมากกว่างานอื่นเยอะจริงๆไอ้ที่ชอบเรียกกันว่า"พวกติสต์แตก"นั่นล่ะ แต่ถ้าไม่เป็นแบบนั้นมันจะตันไง
อีก 5-10ปีข้างหน้า ถ้ายุคที่ weeb ได้เป็น director กันหมด มึงจะทนได้เหรอ อนิเมะที่มีทุกอย่างที่ weeb อยากให้มี ใส่แทกเท่าที่นึกออกได้เลย เบียว กาว เทพ เทพอีก เทพเยอะๆ พูดพล่ามห่าไรไม่รู้แต่คนเขียนบทแม่งรู้สึก cool จนพวกมึงต้องอุทาน "เอออออ มึงเก่ง มึงเทพ กูกระจอก พอใจรึยัง"
เห็นเพจลงข่าวปู่โทมิโนะ กล่าวถึงดิสนีย์รู้สึกว่าบิดสารที่แปลไปเยอะอยู่ เพจหนึ่งบอกตำหนิดิสนีย์ อีกเพจบอกอย่าให้กันดั้มเหมือนดิสนีย์ แล้วเรื่อง AI ก็ด้วยเพจไทยบอกอย่าเน้นแต่ CG เน้นเรื่องฝีมือ ทั้งที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับ AI
เพอร์ซี่เป็นไงบ้างๆ สนุกไหม
ทรอน จะเตรียมถ่ายทำภาคที่ 3 แล้ว
ชิงออสการ์สาขา Animated ปีนี้
The Boy and the Heron - ปรัชญา แฟนตาซี ตีความ กูเข้าไม่ค่อยถึง
Elemental - ประเด็น 2 เผ่าพันธุ์รักกัน เชยๆ งั้นๆ
Nimona - LGBT ซึมเศร้า กูไม่ค่อยทัชเท่าไร
Robot Dreams - ไม่ได้ดู
Spider-Man: Across the Spider-Verse - หนังฮอลลีวู้ดจ๋า เน้นมันส์ล้วน แต่เป็นภาคต่อที่ยังไม่จบคงไม่น่าได้
ใจจริงกูเชียร์แมงมุมแต่คิดว่าไม่ได้หรอก Nimona กูก็เฉยๆ คิดว่าไม่ได้เหมือนกัน แต่ถ้า Nimona ชนะจริงแม่งโคตรตบหน้าดิสนีย์ที่เคยเทโปรเจคนี้ไปอะ I don't care if who win, I just need Disney to lose.
หนังเจ๊ง, เข้าชิงรางวัลเทพๆ ก็วืด ได้เข้าชิงแต่รางวัลราสเบอรี่แทน, บริษัทขาดทุนจนลดต้นทุนต่างๆ ยันเสียงพากย์ ครั้งหน้าลุงอีเกอร์ปฏิรูปบริษัทองค์กรจริงๆ ละนะ
>>983 กูชอบสไปเดอร์เวิร์ส 2 นะ หนังสนุก อนิเมชั่นโคตรเจ๋งยิ่งกว่าภาคแรก แค่ฉากแรกแม่งก็เจ๋งสุดๆแล้ว
แต่กูว่าไม่ควรได้รางวัล ในฐานะหนังเรื่องนึงแม่งเหี้ยมาก แทบไม่จบประเด็นอะไรเลยปล่อยค้างเติ่งไว้รอภาคต่อ
คือถ้าจบแบบนี้มึงควรต่อชื่อเลยว่า part 1 หนังเรื่องอื่นที่แม่งทำ 2 part แม่งยังจบพาทได้ดีกว่านี้เลยด้วยซ้ำ
>>985 กูเลยว่าคิดว่ายังไงแมงมุมก็ไม่ได้ เหตุผลก็ตามที่มึงบอกเลย ยิ่งเวทีออสการ์ต้องการหนังที่ขับเคลื่อนสังคมโลก(Woke)ด้วย ซึ่งแมงมุมมันไม่ได้ตอบโจทย์ตรงนี้ หนังจิบลิก็อาร์ทเกิน ไปได้รางวัลลูกโลกทองคำอะถูกที่แล้ว
กูเลยคิดว่าตัวเต็งคงเป็น Elemental กับ Nimona ซึ่งถ้าเมืองธาตุมันชนะกูคง Meh แต่ว่ากันตามจริงกูว่ามีสิทธิ์ชนะสุดในนี้
ส่วน Robot dreams กูโนคอมเมนต์ เป็นเรื่องเดียวที่ไม่ฉายไทย
Elemental ถ้าได้รางวัลจะส่งผลต่อ Pixar มั๊ย เพราะได้ข่าวว่าเลย์ออฟคนเยอะหลังจากหนังขาดทุน หนักสุดก็ไปเลย์ออฟคนกอบกู้ไฟล์หนัง Toy Story 2
ไม่นะ แอเรียล!!!! โคตรทำลายภาพเลยว่ะ
https://twitter.com/Enezator/status/1753807389650780342
>>990 disney, pixar ที่ได้ oscar แบบนอนมาอย่างน้อยมันต้อง ดี, รายได้ดี, woke อย่างใดอย่างนึง
elememtal นี่ไม่ดีเท่าไร รายได้ก็น้อย และจริงๆมัน woke ล่ะนะ มันคือต่างด้าาวย้ายประเทศโต้งๆนี่แหล่ะ แต่มันเลือกนำเสนอแบบไม่ระบุเชื้อชาติตรงๆกูว่าไม่น่าได้คะแนนบวกตรงนี้เท่าไร
กูว่าหวยออก Nimona มีกระแสจากที่ disney เท + woke lgbt แบนๆเข้าถึงง่ายถูกใจกรรมการ oscar สาขา animation ที่แม่งสมองน้อยพวกมากลากไปกันอยู่แล้ว
ไม่ก็ตาลุงนกกระสาหัวล้าน กระแส Miyazaki comeback (lol) รอบนี้ฮือฮาพอตัว
แฟน ๆ ของป๋า Johnny Depp และแฟน ๆ ของซีรี่ส์ Pirates of the Caribbean อาจจะไม่ได้เห็นภาคต่อของตัวละคร Jack Sparrow อีกต่อไปแล้ว หลังมีข่าวลือว่า Disney เตรียมจะรีบู๊ตซีรี่ส์นี้ใหม่หมดและเปลี่ยนตัวเอกเป็นโจรสลัดหญิงผิวดำ และน่าจะรับบทโดย Ayo Edebiri
.
Disney ดำเนินการสร้างหนัง Pirates of the Caribbean ถึง 6 ภาคด้วยกันนับตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา เป็นที่น่าเสียดายที่หลาย ๆ เรื่องถูกเลื่อนออกไปจากปัญหาหลาย ๆ อย่าง รวมไปถึงการที่ Disney ปลด Johnny Depp ออกด้วยเหตุผลทางด้านคดีความกับ Amber Heard อดีตภรรยา
.
Disney ล้มเหลวในการรีบู๊ตซีรี่ส์นี้มาแล้วในปี 2018 รวมไปถึงภาค spin-off ที่แสดงนำโดยตัวเอกหญิง (รับบทโดย Margot Robbie)
.
ในปี 2022 พวกเขายืนยันว่ากำลังเขียนสคริปท์เอาไว้ 2 ภาคด้วยกัน ภาคนึงมี Margot Robbie ร่วมแสดง ส่วนอีกภาคไม่มี
.
สำหรับข่าวลือเรื่องการรีบู๊ตใหม่โดยมี Edebiri แสดงนำนั้นถูกเปิดเผยโดยแหล่งข่าววงในอย่าง Daniel Richtman ที่เปิดเผยผ่าน Twitter ของเขา โดย Pirates ภาคใหม่ตามที่เขาบอกคือจะเป็นเรื่องราวของโจรสลัดอายุน้อยออกตามล่าสมบัติ และตัวเอกชื่อ Anne จะรับบทโดย Edebiri
ตั้งกระทู้ใหม่ไปละ
https://fanboi.ch/movie/18265/
เจ๊งแน่นอน
ไพเรทภาคใหม่กูว่าข่าวยังไม่ชัดเจนเลย แต่ดูแล้วคงไม่น่าจริง ไม่ก็ปั่นให้พวกหลอน Woke มาด่าแบบโง่ๆ แค่นั้น
ปิดมู้
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.