Last posted
Total of 1000 posts
>>636 โอเคกูว่างละ พออธิบายง่ายๆ
BlackRock มันเป็นบริษัทสนับสนุนทุนให้แก่บริษัทต่างๆ เงินมันเยอะขนาดซื้อประเทศเมกาได้อะ ละมันเน้นเรื่อง ESG กับ DEI มากจนถึงตั้ง ESG Score มาวัดคะแนนบริษัทต่างๆ
Environment การใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์และได้ประสิทธิภาพสูงสุด
Social คนคือทรัพยากรที่มีคุณค่าขององค์กร บริหารงานบุคคลให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเท่าเทียม ไม่เอาเปรียบ คำนึงถึงสุขภาพกายและใจของพนักงานเป็นสำคัญ นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องการเอาใจใส่ลูกค้า และการดูแลคนในสังคม
Governance ดำเนินธุรกิจโปร่งใสและตรวจสอบได้ ดำเนินงานทุกอย่างโดยสุจริตและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
คือดูเหมือนจะดีนะ แต่มันมี DEI มาคำนวณคะแนนด้วย
- Diversity คือ ความหลากหลายของผู้คนในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอายุ เพศกำเนิด ศาสนา เชื้อชาติ สัญชาติ ชาติพันธุ์ สีผิว การศึกษา วัฒนธรรม สังคม ความพิการ ความเจ็บป่วย รสนิยมทางเพศ สถานภาพการสมรส สถานภาพทางสังคม หรือความเห็นทางการเมือง
- Equity คือ การที่คนในองค์กรได้รับการปฏิบัติอย่างเสมอภาคกัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการในการคัดเลือกพนักงานเข้าทำงาน อัตราค่าตอบแทน การพัฒนาศักยภาพพนักงาน การเลื่อนขั้น สภาพการทำงาน โดยปราศจากอคติที่มีต่อความหลากหลายและแตกต่าง แต่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทักษะและความสามารถเป็นหลัก
- Inclusion คือ การยอมรับและผสานความแตกต่างของบุคคลในองค์กรเข้าด้วยกัน เช่น การส่งเสริมและให้คุณค่ากับความแตกต่างของบุคคลในองค์กร การสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตร เคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน เปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมกับองค์กร
มึงน่าจะเห็นละ DEI นี่มันเกี่ยวกับ woke เห็นๆเลย ความเสมอภาค ความสีผิวไหนก็ได้ ความเพศไหนก็ได้ เพศมีค่าเท่ากันหมด
พอมันมี DEI มาคำนวณคะแนน ESG ด้วย ซึ่ง BlackRock มันเน้นมาก 3 4 ปีมาเนี่ย ถ้าบริษัทไหน ESG ไม่ดี มันจะไม่มีใครกล้าลงทุนกับบริษัทนั้นเลยไง พอหุ้นต่ำไอ้ BlackRock มันก็จะมาบีบบังคับให้เพิ่มความ DEI นะไม่งั้นกูจะเทคโอเวอร์บริษัทมึง ซื้อหุ้นหมดแม่งทั้งบริษัท พอบริษัทโว๊กแตกหุ้นตก ไอ้ BlackRock มันก็จะมากวาดซื้อหุ้นเหมือนกับลงทุนไปทำให้บริษัทนั้นมันเอาตัวรอดต่อไปได้ มันก็เลยโว๊กกันไม่ยอมเข็ดไง
จะแปลกใจอะไรวะ มีเงินเยอะใช้ควบคุมคนอื่นได้ไง
มันถือหุ้น amazon apple ไมโครซอฟ บริษัทแม่googls
มีแต่อะไรที่พังๆทั้งนั้น
The Little Mermaid ได้เข้าฉายที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อย แต่ตัวหนังก็โดนถล่มรีวิวแง่ลบจากเหล่าผู้ชมในโลกออนไลน์ไม่ต่างกัน จนกลายเป็นหนังจากต่างประเทศที่เข้าฉายในญี่ปุ่นที่ได้คะแนนรีวิวจากผู้ชมต่ำที่สุดของปี
แถวยุโรปก็รายได้ดีแบบมะกันเหรอว่ะ พวกโว้คมันถึงมาลงกะคนเอเชียที่ขายไม่ออก
จำได้ว่าคว่ำเละเทะในเยอรมันกับประเทศแถบนอร์ดิกนะ
หรือตอนนี้รายได้มันพลิกกลับมาดีแล้ววะ
ไม่มีใครอยากเหยียดถ้าไม่ทำตัวได้คืบจะเอาศอก ถ้ายังทำตัวเรื้อนๆแบบนี้ต่อไปก็จะเจอเหยียดไปเรื่อยๆนี่ล่ะ หินดำก็ช่วยอะไรไม่ได้
กูไปพิสูจน์ในโรงมาแล้ว เพราะกูอยากด่าได้เต็มปาก คือภาพรวมหนังไม่แย่ว่ะ คะแนนส่วนตัวกูให้ 6.5/10 คือเป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ อ่ะ ถ้าถอดสมองดู แต่ถ้าเอาจริงจังเลยคือ น้องฮัลลี่แม่งแสดงได้แข็งชิบหาย ตาแข็งสัสๆ กูแทบอยากให้น้องไปเรียนแอคติ้งให้มากกว่านี้หน่อย คือไม่ควรได้รับบทนักแสดงนำตัวละครที่มีชื่อแบบแอเรียลเลย ตัวแบกหนังจริงๆ กูให้เซบาสเตียน ถึงจะดีไซน์มาน่ากลัวแต่กูชอบทุกครั้งที่เซบาสเตียนมีบท เจ้าชายเอริคก็แสดงดีอยู่ วาเนสซ่ากับป้าเออชูล่ากูให้ยืน 1 เลย แสดงดีชิบหาย แต่ใดๆ กูส่วนตัวกับฮัลลี่เลยนะ สงบปากหน่อยเถอะ ให้สัมแต่ละทีแม่งเหมือนไล่คนดู
>>663 กูขอแย้งเรื่องเจ้าชายแสดงดี กูว่านางแสดงไม่ดีเท่าไหร่ ตานางไม่แข็งแต่การแสดงสีหน้าดูเหนื่อยๆ ฟีลแบบดูแล้วเหมือนคนอยากรีบๆถ่ายให้จบ กูรู้สึกว่าโดยรวมทีมงานแต่ละฝ่ายเหมือนไม่คุยกัน จุดที่ชมได้กูยกให้เพลงกับงานอนิเมทหางเงือกว่ะ ที่เหลือควาลิตี้ดูครึ่งๆกลางๆจัด
HOT NEWS !!! ดิสนีย์ปลุกตำนานการผจญถัยโจรสลัด ไพรเรทฯ ภาคใหม่ แม้เดปป์จะไม่หวนมารับบท แต่กัปตันแจ็ค สแปร์โร่ว์ คนใหม่เป็นจะเป็นนักแสดงผิวสีหน้าใหม่
ไหวเรอะ ไพเรทมันขายได้เพราะป๋าเดปป์เป็นสแปร์โร่ว์นะ
สรุปแล้ว แอเรียลในตอนนี้ใช้เวอร์ชั่นหนังคนแสดงละ เพราะแอนิเมชั่นสำหรับเด็กใช้เวอร์ชั่นนั้นไปแลัว (ผิวสี ผมแดงเด็ดล็อค)
เข้าข่ายล้างสมองเด็กนิหว่า โตไปต้องโวค
เดี๋ยวลง D+ ก็กำไรละ พวกเหยียดผิวตามเกมไม่ทัน
รายได้ตอนนี้คุ้มทุนไปละ แถมเสือกนำสไปดี้ มัลติเวิร์สอีก แต่กว่าจะแซงก็นานอยู่
แต่แบบนี้แอเรียล ผิวสีผมเด็ดล็อค คงถูกใช้ไปยาวๆ เลยสินะ เห็นข้างบนบอกว่าฉบับการ์ตูนเด็กเอาเวอร์ชั่นหนังมา
เจอรายได้เงือกเข้าไปพวกเฮตเตอร์เงียบเลย พวกนี้เหยีียดแต่ไม่ยอมรับว่าตัวเองเหยียด แต่เสียใจด้วยนะคนส่วนใหญ่เค้าชอบเงือกเวอร์ชั่นนี้กัน อิอิ
>>679 คุ้มทุนยังไงวะ ทุนสร้าง 250 ล้าน รายได้ตอนนี้ยัง 400 กว่าล้านอยู่เลย สมมติต่อให้ไม่รวมค่าโปรโมตก็ต้อง 500+ กว่าจะเริ่มนับกำไรจริงๆ เพราะต้องแบ่งครึ่งให้โรงหนังอีก
ส่วนเรื่องรายได้แซงสไปเดอร์เวิร์สนี่ก็ไม่แปลกใจอะ อันนี้ไม่รู้ทำไมเอามาเทียบกัน กูว่าสไตล์หนังสไปเดอร์เวิร์สมันเฉพาะกลุ่มอยู่
และถ้านับกำไรกับทุนสร้างนี่สไปเดอร์เวิร์สได้ไป 300 กว่าล้านแล้วนะ จากทุนสร้าง 100 ล้าน ก็กำไรไปเหนาะๆ แล้ว
บางเพจ ทรานฟอร์เมอร์พึ่งฉากไปอาทิตย์นึงรายได้170ล้านบอกเจ็งแล้วเจ็งอีก พอนางเงือกรายได้ 400 กว่าล้านบอกปังๆคะแม่รายได้งามสุดยอดกำไรเน้นๆจ้า
เงือกมืด ทุน250ล. โปรโมท140ล. คร่าวๆต้อง600-700ล.ถึงจะคืนทุนหนิ
บางเพจอนาถมาก บอกทะลุ400ล้านแล้วเดี๊ยวก็ได้ทุนคืนรอดูพวกปากดีแอนตี้ดิ้น.....คือมึงได้ดูรายรับต่อวันไหมตอนนี้วิ่งเฉลี่ยเท่าไหร่ไอ้สัด2-2.3m/วัน มึงขาดอีกตั้ง240ล้าน มึงต้องฉาย100วันเลยไหม
ตรงข้ามทรานส์ฟอรมเมอร์ ยังไม่เข้าไปโกยเงินหัวเรือใหญ่ๆอย่างจีนที่รอบนี้บทมันไม่น่ามีปัญหาฉายได้แน่ๆ แค่จีนอย่างเดียวก็แทบจะการันตี300m+แล้วมึงเอาไรมาเจ๊งก่อน คนจีนชอบทรานส์ฟอรมเมอร์มากกว่าmcuอีกเถอะ
>>685 เปิดตัวเยอะกว่าอีเงือก10เท่าเลยนา
https://m.imdb.com/news/ni64117882?ref_=tt_nwr_1
https://english.news.cn/20230615/5fd86547901c480a81cd84fb51c408b7/c.html
ต้องเข้าใจก่อนว่ามันไม่มีใครเขาไปดู transformer เพื่อเนื้อเรื่องหรือกระทั่งการเล่าเรื่องเวลาคนเขาไปดู transformer เขาไปดู หุ่น เนื้อนมไข่(ถ้ามี) กับ แอคชั่น เป็นหลัก อันใหม่นี่ หุ่นก็ไม่ค่อยเท่ห์ เนื้อนมไข่ก็ไม่มี แอคชั่นก็งั้นๆ ใครเขาจะไปสนวะ? ถ้าอยากจะทำให้คนดูชอบกว่าเดิมก็ใส่คาแรคเตอร์หุ่นพระเอกให้มันเท่ห์มีเอกลักษณ์และรู้จักบิลต์หุ่นฝ่ายศัตรูให้มันดู เก่ง โหด เท่ห์ ให้สมเป็นตัวร้ายหนังขายหุ่นน่ะ เนื้อเรื่องเอาแค่พอมีที่มาที่ไปก็พอเพราะหลักๆคือคนมันอยากดูหุ่นตีกัน
แต่ยอดที่รวมตอนนี้มันยังไม่รวมจีนไอ้ควายอย่าโง่ มึงดูในหมวดแต่ละท้องที่กับเวิล์ดไวด์มันก็มีบอกอยู่ว่ายังไม่รายงานยอด ตลกเหอะรวมจีนแล้วยอดแค่นี้
ต่อให้ไม่ดูสุดๆยังไงก็+200m เดี๊ยวจันทร์หน้ามึงก็รู้
https://www.the-numbers.com/movie/Transformers-Rise-of-the-Beasts-(2023)#tab=international
หรือจะเอาเว็บ the numbers ดี ก็รวมรายได้จากจีนเหมือนกันแล้วนะ
https://imgur.com/uDDPK55
หรือถ้ามึงโง่ถึงขนาดดูไม่เป็น ให้กูใช้เครื่องคิดเลขบวกรายได้ต่างประเทศให้ก็ได้นะอันนี้คือรวมรายได้จากจีนแล้วด้วย แล้วลองไปเช็คดูว่าตรงกับรายได้ต่างประเทศที่แสดงใน box office mojo ไหม 55555 หัดไปอ่านบอร์ดเว็บ worldofkj ที่เค้ามีทั้งวิเคราะห์และรายงานรายได้ box office แต่ละประเทศแบบรอบต่อรอบวันต่อวันซะบ้างไม่ใช่เอาแต่รอดูตัวเลขจาก box office mojo อย่างเดียว
https://variety.com/2023/biz/news/pixar-pete-docter-disney-elemental-cannes-inside-out-1235646648/
ยิ่งทำยิ่งดันทุรังขึ้นเรื่อยๆ Toy Story 5 จะนำวู้ดดี้กับบัซมาเจอกันอีกครั้ง
Pixar เมื่อก่อนทำดีกว่าเยอะ ตอนนี้รู้สึกว่าเนื้อหาของ Pixar กำลังจะโดนดิสนีย์กลืนกินจนเนื้อหาดั้งเดิมแทบไม่มีแล้ว
ไอ้เรื่อง Elements นี่มีแววซ่าอาจจะแป้กอีก ไม่รู้เพราะเหตุใด ถ้าแป้กแล้วเจ๊งกว่า Lightyear Pixar คงโดนควบกินกับดิสนีย์ถาวรละมั๊ง
Elemental เปิดตัวทั่วโลกด้วยรายได้เพียง $44.5 ล้าน ต่ำกว่าหนัง Lightyear ที่ทำรายได้เปิดตัวที่ $85.6 ล้านและปิดยอดรายได้ไว้ที่ $226ล้าน และดูจากสภาพการณ์ของ Elemental สุดท้ายน่าทำเงินต่ำเตี้ยยิ่งกว่า ซึ่งสำหรับหนังทุนสร้าง $200 ล้าน
ไม่แน่ถ้าเนื้อเรื่องดีมีกระแสปากต่อปากอาจจะไม่เจ๊งก็ได้มั้ง ดูอย่างแมวส้มค่ายฝันเปิดตัวทำรายได้น้อยมาก(ฉายชนกับอวตารอีกต่างหาก) แต่พอคำวิจารณ์ดีกระแสปากต่อปากรายได้ขยับขึ้นมาจนปิดที่ 400 กว่าล้านแถมมีชื่อเข้าชิงออสการ์อีก แต่เรื่องทุนสร้างมันน้อยกว่าล่ะนะ อันนั้นรู้สึกจะแค่ 90-130 ล้านเองมั้ง
ส่วนตัว elemental กุยังไม่มีเวลาไปดูไม่รู้หนังดีมั้ย กระแสก่อนฉายมันน่าเป็นห่วงจริง แต่ดูจากรีวิวที่ออกมาบ้างแล้วอาจจะไม่แย่เหมือนที่คิดกันก่อนหน้านี้
เอาแค่แอนิเมชันที่ฉายใกล้ๆ กันอย่าง Spider man ก็สู้เขาไม่ได้แล้ว
ค่ายอื่นเขาไปเรื่องมัลติเวิร์ส ปัญหาการเติบโตของวัยรุ่น เชิดชูความหลากชาติพันธุ์ ไปถึงการล่มสลายของโลก
ไอ้เรื่องธาตุนั่นยังอยู่กับ ฉันเป็นไฟ เธอเป็นน้ำ เราจะรักกันได้ยังไง+อย่าให้คนอื่นมาบังคับตัวตนของเรา อยู่เลย
นี่ยังไม่รวมเรื่องอาร์ตไดเร็คชั่นที่แมงมุมแม่งล้ำเกินไปอีกขั้นแล้วนะ
ไม่ได้อยากอวยแมงมุมขนาดนั้น(ถึงมันจะดีจริงก็เหอะ) แต่ Pixar แม่งโดนหนูผีกินสมองไปหมดแล้วมั้ง ดูแค่เทรลเลอร์ยังรู้สึกว่าประเด็นกับพล็อตในหนังแม่งโคตรแห้งเลย
เรื่อง Elemental ไม่น่าแย่ รีวิวออกมาค่อนข้างดีอยู่ แค่เทียบไม่ได้กับหนังช่วงพิกซาร์พีคๆ แต่คอนเซปต์กับตัวละครไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ เรื่องรายได้นี่เพราะลงโรงหลังลุงหนวดกับจักรวาลแมงมุมน่าจะมีส่วน ยังไงก็สู้กระแสสองเรื่องนั่นไม่ไหวหรอก ยิ่งชื่อพิกซาร์เดี๋ยวนี้คนก็ไฮป์น้อยลงเรื่อยๆ นี่จะรอดูว่า elio จะแป้กตามไปมั้ย
ที่ elemental เจ๊งน่าจะเพราะว่า woke นะเพราะไม่มีตัวละครผิวขาวในเรื่องเลย มีแต่สีอะไรทั้งนั้นไม่รู้ พวกเหยียดผิวลูคติ white supremacy เลยไม่อยากดู
ถือคติ*
Woke ก็ยังด่าอีก ทำไมไม่ทำให้ตัวเอกเป็นเพศเดียวกันด้วย
กาตูนฝรั่ง ก็คือฝรั่ง อย่าไปให้ลูกดูอะไรแบบนี้เลย ยื่งดูยิ่งwoke สิ่งที่ควรให้ลูกดู ซึมซับความเป็น ญป
ดาบพิฆาตอสรู โค้กกีอัส โคนัน ยูยูฮากุโช
ไม่ใช่กาตูนปญอ ของพวกฝั่งตะวันตก สมองเมิงจะไปก่อน
ห้ามลูกดูเด็ดขาด แม้แต่สโนไวท์ ซืนเดอเรล่า แฮรี่ ก็ด้วย
>>712 อันนี้ไม่ได้เบียว อันนี้เป็นบ้า
กูมีเพื่อนทั้งสองกลุ่มนะ พวกเป็นเบียวส่วนใหญ่พอเวลาผ่านไปก็โดนสังคมตบๆ เข้ารูปเข้ารอยไปเอง แต่บางทีก็ทำตัวน่ารำคาญ+น่าหมั่นไส้บ้างเพราะเหมือนขาดทักษะการเขาสังคม
ส่วนกลุ่มที่เป็น Woke ซึ่งเป็นเฟมทวิต แม่งออกจะน่ารำคาญกว่า เพราะมันมีกลุ่มสังคมตัวเองให้ Echo chamber จนแม่งคิดว่าตัวเองถูกต้องเพราะไม่มีใครคัดค้าน(ใครคัดค้านโดนแบนหมด) พวกนี้พออยู่โลกจริงแม่งไม่กล้าพูดกล้าท้วงอะไร แต่พออยู่ในกลุ่มตัวเองแม่งเป็นนักฉอดมือวางอันดับหนึ่ง ทุกวันนี้พวกนั้นยังไม่รู้ตัวเลยว่าอีเงือกมืดมันเจ๊งเพราะอะไร
สรุปกูขอมีเพื่อนเป็นเบียวดีกว่าว่ะ แต่ขอเวอร์ชันโดนสังคมเกลามาแล้วนะ
เบียวแต่สังคมโดนเกลา พอคุยได้ แต่พวกตื่นรู้นี่เกินเยียวยา เวลาจะถกเถียงอะไรก็ตามอ่ะนะ
มันมาในหลายรูปแบบนะ ตอนแรกไปฟังเรื่องอื่น อยู่มันก็อ้างเรื่องความเท่าเทียม
พวกนี้ส่วนมากเป็นlgbt ชายแท้ญแท้ ไม่เห็น
อยากให้เท่าเทียมกันจริงก็ต้องจับผู้หญิงไปเกณฑ์ทหารด้วย อ่าว นอกเรื่องเฉยยย
ลองถามพวกwokeดูดิ ว่าคิดจะทำอะไรกับการที่ผู้ต้องหาหญิงมักจะได้รับการลงโทษเบากว่าผู้ชายในคดีเดียวกัน หรือคิดจะทำอะไรกับการที่ศาลมีเรทการให้ลูกไปอยู่กับแม่ในกรณีหย่าร้างสูงกว่าให้ไปอยู่กับพ่อมากๆไหม
รับรองว่าเงียบทุกตัว
ไม่ต้องเรื่องนั้นหรอก แค่เรื่องสินสอด มันบอกว่า ผญ สมควรได้มากกว่าผู้ชายก็จบแล้ว
แบบนี้สินะ อดแต่งเลย https://www.sanook.com/news/8899610/
เห็นฝ่ายสายความหลากหลายลาออกจากดิสนีย์ไปแล้ว รู้สึกว่าเริ่มรู้ตัวละว่ามันไม่เวิร์คสำหรับขายความตื่นรู้
https://twitter.com/THR/status/1671775948625117184
พวกเอเชียแม่งขี้เหยียดกันหมด
ไปดู Elemental มาละ พล็อตแม่งก็เดิมๆความรักต่างเผ่าพันธุ์(ชนชาติ)
แต่เห็นชัดๆเลยว่าให้เผ่าไฟเป็นตัวแทนของมุสซี่ตะวันออกกลาง ถึงจะใช้คนเอเซียพากย์ก็เหอะ ส่วนพระเอกธาตุน้ำดูจากคนพากย์ก็เป็นตัวแทนคนดำ
เมืองที่เต็มไปด้วยความหลากหลายที่เป็นภาพแทนของอเมริกาแหงแซะ
ข้อดีคือมันดีไซน์องค์ประกอบในโลกสวยดี แต่พล๋็อตมันก็งั้นๆ กูว่าที่ยอดไม่ปังก็คงเพราะคนรอดูในD+กันแหละมั้ง
หนังเรื่องธาตุ แต่มีบทกันอยู่แค่นำ้กับไฟ เปลี่ยนชื่อ น้ำกับไฟ ไปเลยดีกว่า
กูว่า D+ นี่โคตรดาบสองคมของดิสนีย์เลยนะ คนยอมจ่ายตังค์ซับฯ เพื่อดูหนังค่ายนี้ก็จริง แต่ถ้าหนังเข้าฉายโรงที่ดูจะไม่ดังหรือดูไม่น่าจะกระแสเยอะ พอเข้าโรงคนก็จะไม่ไปดูกันเพราะเดี๋ยวรอดูใน D+ ก็ได้ สุดท้ายรายได้เจ๊ง แล้วถ้าไม่รีบเอาเข้าสตีมมิ่งคนก็เลิกซับอีกเพราะไม่มีคอนเทนต์ใหม่ให้คนดู
Pixar เจ๊งยับ 6 เรื่องติดแล้ว ตั้งแต่อยู่กับดิสนีย์มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง
Pixar ในตอนนี้บุคลากรรุ่นบุกเบิกต่างก็ลาออกไม่ก็โดนไล่ออก เพราะผลงงานชุดหลังรายได้ไม่ดี แถมเนื้อหาเริ่มกลืนกินตามดิสนีย์ ดีไม่ดี Pixar อาจจะโดนยุบรวมกับดิสนีย์ถาวรแล้วมั๊ง
Turning Red ตอนอยู่ใน D+ ยังพอกระแสอยู่ ถ้าเอาออกมาฉายได้ก็น่าจะดีอยู่
จะ luca ,lightyear , elemental นี่แป้กเอารัว ๆ เลย
วิธีการดูturning redที่ดีที่สุดคือปิดหนัง แล้วไปว่าวกับแฟนอาร์ตของแม่
พอไปดูชื่อผู้กำกับ Elementals โอเค ไม่แปลกใจ คนเดียวกันกับที่กำกับ Good Dinosaur นี่เอง
แต่งานแอนิเมชั่นระหว่าง ดิสนีย์ และ พิกซาร์ เทียบกันแล้ว พิกซาร์ ดูเฉียบกว่า พอดิสนีย์ ทำแอนิเมชั่น CG แทนแอนิเมชั่น 2D ดูแปลกๆ
https://www.facebook.com/MoviesForYou/posts/pfbid02G3sXbm3TvR9JoU2DwKB8HVQynKrZANbAWfoFa5QcpqYz8rtvVB52tBaNb9cj9y3Cl
แค่บอกว่าไม่สวยก็ไม่ได้ เห็นบางคนพยายามปกป้องหน้าตานาง(แบบกลัวโดนด่ากลับว่าเหยียด)นะว่า "นางหน้าสวยมากนะแต่ไม่ใช่แอเรียล"
ส่วนตัวกูว่าฮัลลี่ก็ไม่ถึงกับอุบาทว์ แต่ก็ไม่ใกล้เคียงคำว่าสวยอะ หรือแถไปถึงว่ามีคาริสม่าไหม ก็ไม่ คือเป็นคนดำที่หน้าดาดๆ ทั่วไปอะ
https://www.facebook.com/MoviesForYou/posts/pfbid02G3sXbm3TvR9JoU2DwKB8HVQynKrZANbAWfoFa5QcpqYz8rtvVB52tBaNb9cj9y3Cl
แอดมินใจกล้าดีที่กล้าพูดตรงๆ แค่บอกว่าไม่สวยก็ไม่ได้ เห็นบางคนพยายามปกป้องหน้าตานาง(แบบกลัวโดนด่ากลับว่าเหยียด)นะว่า "นางหน้าสวยมากนะแต่ไม่ใช่แอเรียล"
ส่วนตัวกูว่าฮัลลี่ก็ไม่ถึงกับอุบาทว์ แต่ก็ไม่ใกล้เคียงคำว่าสวยอะ หรือแถไปถึงว่ามีคาริสม่าไหม ก็ไม่ คือเป็นคนดำที่หน้าดาดๆ ทั่วไปอะ
ไม่ต้องพูดเยอะคนไทยนี่ตัวเหยียดเลย เหยียดพอๆกับเกา,จีน แต่หลายคนแถไปเรื่อยทั้งๆที่ข้างในใจลึกรู้ตัวเองกันทั้งนั้น
เวลามีข่าวลือดาราชายทำผู้หญิงท้อง ความคิดเห็นผู้หญิงด้วยกันนี่ทุเรศสุด ทำไมไม่กินยาคุม ต้องถามดารามึงกลับเปล่า เงินเยอะแยะไม่มีปัญญาซื้อถึงยาง
จริงๆมันก็นะ มันมองได้ว่า นสดใช้หน้าตา + ความสามารถ ในการทำงาน ดังนั้น หน้าตาก็ต้องรวมอยู่ในสิ่งที่วิจารณ์ได้หรือเปล่า แต่ขอแค่ให้ใช้คำที่ไม่หยาบคายเกินไป
เพิ่งไปเจอทวิตหนึ่ง เทียบ นสด.ไลฟ์แอคชัานกับพวกคอสเพลย์
ประมาณว่า อิพวกคอสเพลย์ ก็คอสไม่เหมือนต้นฉบับหร้าเหี้ยเหมือนกัน มีสิทธิ์อะไรไปว่าเอเรียล ทั้งๆที่มึงยังคอสไม่เหมือนเลย มึงก็ทำลายภาพจำคนอื่นเหมือนกันแหละ
กูงงอ่ะ เขาคอสตามความชอบคัวเอง เหมือนไม่เหมือนก็ไม่อะไร คนไม่ได้เห็นเป็นวงกว้าง แต่ไลฟ์แอคชั่นเอเรียล คนทั่วไปตะคาดหวังให้เหมือนก็ไม่แปลกป่ะ การคิดวิเคราะห์พวกนี้แย่จนควรอ่านหนังสือให้เยอะกว่านี้อ่ะ นึกจะโยงด่าก็ด่าทั้งที่ไม่สัมพันธ์กันเลย
อนิเมชั่นเรื่องsoulของดิสนี่ย์แม่งสนุกมากเลยว่ะ เสียดายไม่น่าเจ๊งเลย ไม่งั้นpixarคงยื้ออยู่ได้นานกว่านี้ละ
>>743 อ่าว เรื่องนี้เจ๊งเหรอวะ จำได้ว่าดูในโรงกูประทับใจมากเลย (ถึงมีหลายช่วงรู้สึกหนังมันจะออกแนว "สั่งสอน" กูมากไปหน่อยก็เหอะ + หักมาจบโลกสวยไปหน่อย + รำคาญไอ้วิญญาณเด็กเปรตนั่นด้วย) แต่อย่างน้อยชนะออสการ์มาก็โอเคมั้ง
งี้แปลว่าช่วงหลังเจ๊งติดกันหมดเลยนะเนี่ย Onward, Soul, Luca, Lightyear, Lightyear ส่วน Turning Red ที่กูว่าคนน่าจะชอบเยอะดันส่งลง D+ ซะงั้น
ข้อเสียของ Pixar คือบางเรื่องภาพดีแต่พล็อตเรื่องมันใช้ซ้ำจนเบื่อไปอ่ะ ยังไม่รวมกับการยัดเยียดตัวละครที่น่ารำคาญและการใส่ LGBTQ ตามดิสนีย์
ญาติผู้ใหญ่อยากสมัคร D+ แล้วกูเกลี้ยกล่อมจนเค้าเปลี่ยนใจไม่เอาได้ ถึงแค่คนเดียวจะไม่กระเทือนบริษัทระดับหนูผี แต่อย่างน้อยก็ I'm Doing My Part ล่ะวะ
กูว่า D+ มันก็ดาบสองคมหนูผีดีๆว่ะ หนังช่วงหลังๆรายได้ในโรงไม่ปังเท่าเมื่อก่อนเพราะคนมันก็ไปรอดูในสตรีมมิ่งหมด แล้วหนูผีมันก็เอาแต่ขายของเก่า ipใหม่ก็ไม่มีอะไรให้จดจำ กระแสค่อนไปทางกริบ ทีมมาร์เก็ตติ้งก็น่าจะรู้ว่าอาจจะขายไม่ได้เลยไม่ทุ่มโปรโมต ภาพรวมมันก็เลยเป็นแบบนี้แหละ
สมัยก่อนมันมั่นหน้านั่นแหละipตัวเองดังจัดยังไงคนก็มาดูในโรงเลยกะกิน2ต่อ พอตลาดวายก็กลายเป็นแย่งยอดกันเองตามสภาพ
อินเดียน่าโจน 5 เอาตัวละครระดับตำนาน มาแก่ สิ้นหวังใช้ชีวิตไปวันๆ แล้วให้หญิงแกร่งตัวละครใหม่มาฉายแสง พล็อตคุ้นๆจังวะ มันคิดได้แค่นี้เองเหรอวะ
สำหรับสาวกเดนตายอินดี้อย่างกู ค่อนข้างประทับใจอินดี้5พอควรนะ บทอาจเชยแต่กูว่าหนังพยายามเอาอารมณ์เก่าๆใน3ภาคแรกมาใส่เยอะระดับนึง ปู่ฟอร์ดยังแสดงขั้นเทพเหมือนเดิม ตัวละครลูกสาวบุญธรรมอินดี้ก็ดูลงตัวไม่ขาดไม่เกินเหมือนหนังwokeหลายเรื่อง โดยรวมกูชอบกว่าภาค4นะ
https://twitter.com/Luiz_Fernando_J/status/1675149309916901379
อะ....อ้าว เห็นตอนตัวอย่างมาพวกขี้เหยียดในเฟสบอกจะไปดูเรื่องนี้แทนเงือกดำกัน ไหงกลายเป็นเจ๊งซะงั้น
>>762 เชิดชูคนดำเหี้ยไร ไม่เรียกร้องตอนนี้จะให้เรียกร้องตอนไหน 'ขาวเหยียดดำ-ดำเหยียดเหลือง-เหลืองเหยียดดำ' ความจริงคือไม่ควรมีผิวสีไหนโดนเหยียด พวกอิกนอร์ไม่เรียกร้องไม่ว่าแต่พวกอิกนอร์แล้วยังเหยียดนี่ไม่สมควรมีที่ยืนในสังคม!! โดยเฉพาะพวกคนไทยชายแท้นี่ตัวเหยียดเลย
ความยุติธรรมสีดำ มารุมประชาทัณฑ์คนขาวเพื่อทวงคืนความเท่าเทียมที่สวยงาม
https://twitter.com/AntiWhiteWatch1/status/1676197609445421056
ปรบมือ ๆ ที่ยังวนมาหาชายแท้ได้ ผิวขาวตุยชั่งมันมันเคยไปทำเค้าไว้ ผิวเหลืองไม่ต้องไปสนไอพวกนี้ชั้นต่ำกว่าหมาแมวบ้านมัน ส่วนคนดำห้ามแตะนะเค้าน่าสงสาร เค้าน่าเห็นใจ เค้าต้องทนทุกข์ทรมานจากการเป็นทาสมาแสนยาวนาน แต่ไอพวกที่เคยทรมานน่าจะตุยไปหมดแล้วมั้งทุกวันนี้เหลือแต่พวกยกอดีตมาอ้างเพื่อทำตัวกร่างไปวัน ๆ จะอินอะไรกับคนดำขนาดนั้นล่ะเธอหันมาสงสารคนเผ่าเดียวกับเธอก่อนเถอะ แค่จะมีชีวิตไปวัน ๆ หรือจะเลือกเส้นทางของตัวเองยังยากเลยค่าาาา
https://youtu.be/czcm8wiDCp8
รีวิวแอเรียลที่แท้จริง โดยจันเรด
ภาพล่าสุดของสโนว์ไวท์ อส พวกคนแคระ แคระจริงแค่ 1 นอกนั้นนิกก้าและคนอื่นๆ
แคระแค่คนเดียว มีหญิงดำ 1 ชายดำ 1
และดูทรงคนตัวสูงน่าจะเป็นพวก LGBT
>>770 หลังๆคลิปไม่ค่อยสนุกละ เหมือนมันใส่อารมณ์มากไป พยายามหาข้อมูลเชิงลึกจนมันดูไม่เรียล อย่างว่ามันดังแล้วคนบูชาเยอะคนรอซ้ำก็เยอะ พลาดไม่ได้
กูดูอันนี้สนุกกว่า วิจารณ์โง่ๆแบบคนทั่วไป ตลกโดยธรรมชาติไม่มีการตัดต่อ
https://youtu.be/aYlgtHxOtms
ไม่รู้ snow-white อันใหม่นี่ตีความยังไง ถ้าจะเปลี่ยนคนแคระเป็นกลุ่มชายขอบแทน ถ้าเขียนดีๆก็พอได้อยู่มั้ง
ดิสนีย์น่าจะสร้างเจ้าหญิงนิทราที่เป็นโรคนอนไม่หลับ
ดิสนีย์มันไม่เข้าใจเหรอวะว่า dwarfs กับ dwarves มันไม่เหมือนกัน
อันนึงคือมนุษย์Homosapienที่เกิดมามีพันธุกรรมแคระ
อีกอันคือเผ่าแฟนตาซีที่ความเตี้ยเป็นปกติ
คนแคระในสโนว์ไวท์คืออย่างหลัง เลยไม่มีปัญหาถ้าจะให้มีคนแคระในเรื่อง
สโนไวท์สร้างมาละลายเงินอีกแล้วสินะ หนังwokeขาดทุนรวมกันพันล้านเหรียญแล้วก็ยังไม่เข็ด
ภาพจากกองถ่ายสโนว์ไวท์(ตกลงว่าของจริงใช่มะ?) ถ้าบอกว่าเป็นหนัง Parody แนว Scary movie นี่กูว่าเวิร์คเลยนะ แบบตลกแดกไปเลย แต่ดิสนีย์ทำแล้วไม่น่าเป็นอย่างนั้น ...
น่าจะจริงล่ะหลุดซะขนาดนี้
แต่มาแบบนี้เตรียมเจ๊งละมั๊ง ไหนจะมีประเด็นการประท้วงวงการหนังที่ดิสนีย์เกี่ยวข้อง
มันแค่บอกปัดว่าภาพนั้นไม่ได้เป็นภาพทางการของกองถ่าย แถมยังมีคอนเฟิร์มกลาย ๆ ด้วย เพราะมันอ้างว่าสองในเจ็ดที่ยืนเรียงแถวนั่นเป็นสแตนอิน
ไหน ๆ ก็จะบิดเบือนผลงานเก่าของตัวเองให้สุดทางขนาดนี้แล้ว ไว้กูจะรอดูไรอันกอสลิ่งเล่นเป็นควอซิโมโดในคนค่อมฯ รีเมคละนะ
เดี๋ยวตัวนักแสดงที่เป็นบทคนแคระจะใช้CGทำให้ดูตัวเล็กลง
ตอนนี้สงสัยเรื่องทำไมถึงกล้าเอา Haunted Mansion มาปัดฝุ่นทำใหม่อีก ทั้ง ๆ ที่งานเดิมก็ใช่ว่าจะสำเร็จล้นหลามเลย
เหมือนผลาญงบเล่นจริง ๆ แหล่ะ ช่วงนี้
Woke ก็ได้แต่อย่าให้มันขัดใจลูกค้าและให้มันดูสมเหตุสมผลแค่นั้นก็พอแล้ว แต่ที่ทำมานี่ยัดเยียดชิบหาย เจ๊งยับขนาดนี้ไอ้ที่บอก woke แล้วได้เงินอุดหนุนจากกองทุนเฮียไรซักอย่างเนี่ยกูอยากรู้ว่าเงินที่ว่ามันโคเวอร์ขาดทุนแน่เหรอ
https://twitter.com/KurtWagner2111/status/1679694925472882693?t=nXy7riB0IcTfeiD8QeO2sA&s=19
พวกคนขาวแม่งน่ารังเกียจ
ไอ้ปีเตอร์ดิ้งเลจนี่แม่งน่าเกลียดว่ะ ก่อนจะดังแม่งรับบทคนแคระตลอด ทุกบทที่มันเล่นมีการพูดถึงความแคระ/ความเตี้ย แต่พอดังแล้วจากเกมออฟโทรน สามารถกาบทที่ไม่ใช่บทคนแคระเล่นได้ แม่งเสือกบอกว่าคนแคระไม่ควรเล่นเป็นคนแคระเพราะนั่นมันเป็นการเหยียด
เหมือนแม่งทำให้นักแสดงคนแคระ7คนเสียโอกาศจ้างงาน
รอพวกที่ด่าๆสโนว์ไวท์แต่พอถึงเวลาก็เข้าไปดูแล้วบอกไปดูกาด็อท สุดท้ายมันต่างไงกับการเอาเงินให้หนูผี
กาด็อท จะแบกได้ขนาดไหนก่อน
กาด็อทไม่น่าแบกหนังคนเดียวไหวนะ
ขยันเอา nostalgia มาปู้ยี้ปู้ยำแบบนี้แล้วอีกหน่อยใครมันจะอยากไปดิสนีย์แลนกันวะ เด็กรุ่นถัดไปคงรู้จักดิสนีย์แค่เพราะ Marvel อ่ะ
>>802 เขาบอกเป็นการดัดแปลงให้เข้ากับผู้ชมยุคใหม่
แทนที่จะสร้างสรรค์ของใหม่ ดันเอาของเก่ามาแก้ให้มันถูกต้อง ตามมุมมองแบบโว๊คๆ
เรื่องในยุคชายเป็นใหญ่ก็ต้องเปลี่ยนให้เท่าเทียม(อ่านว่าหญิงแกร่ง)
ความหลากหลายทางชาติพันธ์ก็ต้องเหมือนอเมริกาในปจบ.ไม่ต้องสนว่าเรื่องมันเกิดที่ไหน เพราะเป็นเรื่องแต่ง
ถ้ามีแม่มด มีสัตว์ประหลาดได้ ต้องมีคนดำได้
ปกติกูดูรีวิวหนังมาเวลจะหักลบคะแนนล่วงหน้าไว้ในใจตลอด แล้วsecret invasionคะแนนเป็นแบบนี้ของจริงจะรำยำหมาขนาดไหนวะเนี่ย
>>807 กูให้มันอยู่ในระดับหนังเกรด B พอดูได้ ดูสนุกกว่าฮอว์กอายกับฟัลคอน ตอนสุดท้ายค่อนข้างดร็อปลงหน่อย ถ้ามองว่ามันก็คือซีรีส์จากจักรวาลหนังฮีโร่มันก็คงต้องมีซีนไคลแมกซ์สู้กันเป็นปกติอะ แต่มันดำเนินเรื่องมาแบบหนังทริลเลอร์-สืบสวน บู๊น้อยมาตลอด พอมาจบแพทเทิร์นเดิมคนเลยด่ากันเยอะ
ข้อเสียซีรีส์มาร์เวลหลายเรื่องสำหรับกูเลยคือเหมือนหนัง 2 ชั่วโมงที่หั่นออกเป็น 6 ตอน มันแทบจะมาพีคตอนสองตอนสุดท้ายทุกครั้ง ซึ่งถ้าเป็นหนังมันก็คือองก์สุดท้ายไม่ก็ซีนไคลแมกซ์อะ
เพิ่งเห็นคลิป ลตมม ยาวๆ ในยูทูป คือนางเอกไม่สวยจริงๆนั้นแหละ แถมแสดงแข็งไม่สมกับหนังฟอร์มยักษ์เลยป่ะ คนอวยนี้น่าจะใช้ปากดู
>>811 เจ้าหญิงเงือกมันควรจะสวย ไม่ใช่แบบนี้ คนดำสวยๆหน้าคมๆมีตั้งเยอะทำไมไม่เอามาแสดง ดันเลือกคนนี้มา ตาห่างจนผิดปกติ ถึงกับต้องรีทัชแก้ให้ตาชิดเข้ามา ผมก็ทรงเดรดล็อคที่มันไม่เหมาะ ถึงกับต้องเสียเงินแพงๆไปต่อผมแล้วยังไม่พอ ต้องมาใช้ซีจีให้ผมดูยาวสลวยอีก ลำบากขนาดนี้ก็อย่าใช้คนนี้เลยเหอะ อีกอย่างคนหมั่นไส้ที่นางปากแจ๋วด้วย ไม่ได้พยายามทำความเข้าใจกับบท หรือแสดงให้สมบทบาท แต่ยัดเยียดความเป็นตัวเองลงไปแทนที่จะเป็นแอเรียลอีกต่างหาก ทั้งๆที่นักแสดงเวลาแสดงบทอะไร ต้องสวมวิญญาณแสดงให้สมบทนั้นๆ นี่นางไม่แคร์ จะแสดงเป็นตัวนางเอง ไม่ใช่แอเรียล มันใช่มั๊ยล่ะ
เหยียดก็ได้ ไม่สวยจริงๆ แถมแย่กว่านั้นคือแสดงไม่ดี แย่ไปกว่านั้นนี้คือหนังฟอร์มยักษ์ ถ้าตาไม่บอก ก็ต้องดูออกว่าแสดงยังไม่ดี ดูแล้วไม่อิน แต่เพราะwokeแบบใด เลยไม่สามารถวิจารณ์การแสดงของคนดำคนนี้ได้ เพราะทันที่ที่วิจารญาณ์์จะโดนหาว่าเป็นพวกเหยียดทันที เลยทำได้แค่อวย ไม่ก็เงียบ ไม่พุดอะไร
ดูตัวอย่าง คลิปสั้นๆกูว่าเขาก็พอใช้ได้ แต่พอเจอคลิปยาวจริงๆแล้วแย่มาก นี้หรอนางเอกหนัง240ล้านดอล
หย้าหลุดเกือบทุกช๊อต สามารแคปมาเป็นมีมได้ทุกมุม นึกถึงคิวบิก ที่แคปหน้าพระเอกมาขำ แถมแซะว่าแสดงเป็นหินกันกระจาย แต่ถ้าทำกับนสด.(?)สาวคนนี้ พวกwokeแบบใด ก็จะมาโจมตีทันที
กู>>814 ไม่ต้องมาเปลี่ยนเพศให้กู เพราะงี้แหละก็ถึงเกลียดโว้ค ใครไม่เลียปุ๊บแปะป้ายเหยียด เอาความจริงมาพูดก็รับไม่ได้ ทีสมัยก่อนเราสามารถวิจารณ์ดาราแบบมีอารยะได้เป็นปกติว่าเขาสวยไม่สวย แสดงได้ดีหรือไม่ดีตามปกติกัน ทำไมเดี๋ยวนี้พอคนดำเป็นตัวเอกถึงได้ห้ามวิจารณ์ ต้องชมอย่างเดียวอ่ะ สังคมมันวิปริตเพราะพวกโว้กนี่แหละ
>>820 ไอนี่ก็โง่อีกตัว ห้ามวิจารณ์ห่าไรก็เห็นวิจารณ์กันเต็มโซเชียลทั้งหนังกากโปรดักชั่นไม่สมราคานางเอกแสดงไม่ดีแบบนี้อ่ะไม่มีใครว่าเพราะวิจารณ์อยู่ในขอบเขต แต่ที่เค้าด่ามึงเพราะคำพูดมึงมันเหยียดเต็มๆไอฟายไม่รู้ตัวบ้างหรอ? ไม่รู้จักแยกประเด็นแล้วเสือกโง่อีกทำตัวเป็นเด็กน้อยไม่รู้จักโต
เถียงไม่ออกก็ร้องเหยียดๆอิอิ
แนะนำให้น้องๆไปเดินแถวๆSkidrowแล้วบอกพรี่ๆแคร๊กเฮดแถวนั้นว่าน้องๆเคยเป็นองครักษ์พิทักษ์หอยลิตเติ้ลเมอเมดนะครับ พรี่ๆแคร๊กเฮดจะสมนาคุณให้อย่างเต็มที่เลยทีเดียว
อีเงือกดำตับเป็ด
เออยอมรับว่าเหยียดก็มันไม่สวยจริงๆเสือกเอามาแสดงเป็นนางเอก ถ้าตาห่างแล้วสวยแบบ anya taylor joy จะไม่ว่าเลย ส่วนอีฮัลลี่ทั้งตาห่างทั้งดำชอบไปได้ไง
จาวิส ค้นหาข้อมูลข่าวคนเอเชียโดนทำร้ายในอเมริกามาซิ แล้วคำนวณว่าคนกลุ่มไหนเป็นคนร้ายมากที่สุด
เนื่องจากกระแสตอบรับดีมาก รายได้จากทั่วโลกถึง561ล้านดอลล่า เงือกน้อยผจญภัย เตรียมนำกลับมาฉายอีกรอบ เวอร์ชั่น sing-along ที่มีการแก้ไขฉาก เพิ่ม cg ให้อลังการและดีขึ้นไปอีกขั้น พร้อมกลับมาให้แฟนๆหายคิดถึง 16 สิงหาคมนี้ทุกโรงภาพยนตร์ที่ร่วมรายการ
LEGO Disney princess The castle quest ที่จะปล่อยลง Disney+ 18 สิงหาคมนี้
เพิ่งได้ดู Onward เรื่องมันก็โอเคประมาณนึงแหละ ถือว่าดูได้เพลินๆ แอบเสียดายที่ใช้เซ็ตติ้งโลกแฟนตาซีไม่ค่อยคุ้มเท่าไร แต่พอเจอตอนจบเรื่อง ... Damn Pixar bro ... Why you make me cry?
มีข่าวว่าแอปเปิลจะซื้อดิสนีย์แล้ว
https://wannasin.com/news/10322
เจ้าของ Diamond Grains วิจารณ์นักแสดงสโนว์ไวท์ ติ่งเฟมเสือกมาทัวร์ลงซะงั้น
ต้นเรื่องใช่ที่นางโพสต์วิจารณ์ว่าเจ้าชายเป็นสตอร์คเกอร์ป่าววะ
อีช็อกโก้บราวน์ (สโนว์ไวท์ เวอร์ชั่นหนัง) มันปากแซ่บอยู่แล้ว คนบอยคอตนางเยอะมาก ต่างกับฮีลลี่ ที่คนในเน็ตแม่งบูลลี่
เท่าที่ทราบเหมือนจะขุดคลิปสัมภาษณ์นางเมื่อปีที่แล้ว นางเหมือนจะวิจารณ์สโนว์ไวท์ฉบับการ์ตูน วิจารณ์ในเชิงลบ พอมีข่าวว่าจะเล่นสโนว์ไวท์เลยขุดมาแฉ ในทางว่านางทำตัวย้อนแย้งเอง
ประธาน Disney เผย! จากนี้จะทำหนัง "เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ" หลังจากหนังที่ออกมาช่วงนี้ ทำรายได้น่าผิดหวัง
คุณ Bob Iger ประธานบริษัท Disney คนปัจจุบัน ออกมาแถลงการณ์ในรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 เกี่ยวกับสถานการณ์โดยภาพรวมของทางบริษัท โดยระบุว่า จากนี้เป็นต้นไป Disney จะเน้นไปที่การสร้างภาพยนตร์ที่มีคุณภาพมากกว่าปริมาณ หลังจากที่ภาพยนตร์ช่วงหลังๆ ไม่ประสบความสำเร็จในแง่รายได้ Box Office อย่างที่คาดหวังไว้
.
"พวกเรามุ่งมั่นไปที่การพัฒนาคุณภาพของภาพยนตร์ของเรา และโครงสร้างโดยรวมให้ดีขึ้น ไม่ใช่แค่การลดจำนวนภาพยนตร์ที่ออกฉาย แต่รวมถึงต้นทุนในการสร้างแต่ละเรื่องด้วย พวกเราจะใช้ประโยชน์สูงสุดจากภาพยนตร์ต่างๆ ของเรา ด้วยการใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายหลายๆ รูปแบบเท่าที่เรามี เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงเนื้อหาคอนเทนต์ได้หลายๆ ทาง"
คุณ Iger กล่าว
เมื่อต้นเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา มีรายงานว่า Disney ประสบความสำเร็จด้านรายได้มากที่สุดในช่วงครึ่งแรกของปี ด้วยรายได้ 3,400 ล้าน USD จาก Marvel, Lucasfilm และ Pixar และอย่างที่กล่าวไปว่า ด้วยรายได้ Box Office ของหนังหลายๆ เรื่องไม่เป็นไปตามความคาดหวัง และในบางครั้งก็ไม่สามารถทำให้ผู้ชมประทับใจได้ด้วย ก็เป็นหลักฐานชั้นดีที่ทำให้ผู้บริหาร Disney ต้องย้อนกลับไปหาทางแก้ไข
ทาง GamesRadar+ ยกตัวอย่าง Indiana Jones and the Dial of Destiny ที่ใช้ต้นทุนเกือบ 300 ล้าน USD แต่ทำรายได้นอกประเทศสหรัฐอเมริกาเพียง 369 ล้าน USD เท่านั้น ในขณะที่ Elemental, Ant-Man and the Wasp: Quantumania, และ The Little Mermaid ทำรายได้ 400 ล้าน USD, 476 ล้าน USD และ 566.6 ล้าน USD ตามลำดับ ส่วน Haunted Mansion ก็ทำไปได้เพียง 63.2 ล้าน USD เท่านั้น
.
ส่วน Guardians of the Galaxy Vol. 3 ที่ถือว่าทำผลงานได้ดี ที่ทำรายได้ไปถึง 845 ล้าน USD จากต้นทุนการสร้าง 250 ล้าน USD แต่ก็ชัดเจนว่า เหล่าคนรักหนังก็ไม่ได้อุดหนุนภาพยนตร์ของ Disney เป็นจำนวนมากอย่างที่เคยมีมา และ GamesRadar+ ให้ความเห็นว่า ถือว่าเป็นการเดินหมากที่ฉลาดที่ลดปริมาณการออกภาพยนตร์ใหม่ๆ แล้วไปใช้เวลาเพื่อเน้นคุณภาพมากขึ้นแทน
Source: GamesRadar+
กูก็ยังขัดใจแอนาแบทดำยุดีอ่ะ ไอ้สัส แล้วพอมีคนร้อง ก็หาว่า ผู้ใหญ่ดีๆที่ไหนมางอแงในหนัง/นิยายเด็ก เอ้าอีดอก ก็กูอ่านเรื่องนี้ตอนเด็กป่ะ ผ่านมาสิบยี่สิบปีเพิ่งมาทำ กูแฟนนิยายพูดไม่ได้เลยหรอ
แล้วประสาทสุดคือพวกอีwokeในทวิต แม่ม เมากาว หลอนเหี้ยไร โควด่าคนวาดแอนนาเบทขาว บอกว่าแอนนาเบทเป็นคนดำ คุณฟอกขาวทำไม
แล้วเหตุผลมันคือ นิยายไม่เคยบอกว่าแอนนาเบทเป็นคนขาว เธอมีผิวสีแทน (และตาสีเทา+ผมทอง มันคงเป็นคนดำไปได้เนอะ 5555) และตัวหนังสือไม่สามารถบอกคุณได้ว่าเธอเป็นคนขาว (อีโง่ ภาพหน้าปก ภาพอาร์ตเยอะแยะ ที่บ่งบอกว่านางเป็นคนขาว)
เดี่ยวคอยดู ถ้าซีรี่ย์ออกมา แล้วใครวาดแอนนาเบทขาว มึงโดนโจมตีแน่ ถึงแม้ในนิยายเป็นคนขาว แต่ต่อจากนี้ แอนนาเบทคือคนดำจ๊ะ
(แฟนอาร์ตเก่าๆที่เคยวาดแอนนาเบทขาวกลายเป็นอนุสรณ์ไปแหละ555)
แล้วตลกไรรู้ป่ะ ฮังเกอร์เกม มันแคสนสด.ขาวเกินไป ในนิยายต้องผิวมะกอก (คือตรงข้ามกับเจนนิเฟอร์ แต่นางแสดงดี เลยลบคำสบประมาทได้) แฟนอาร์ตก็วาดตามนิยายกันส่วนใหญ่ คือผิวแทน ไม่เห็นมีใครมาว่าอะไรเลย
อ่านไปเรื่อยๆก็ยิ่งงง มันชอบบอกว่า ในนิยายไม่ได้กำหนดสัญชาติว่าแอนนาเบทเป็นคนขาว แล้วจู่ๆมันก็ใช้คำอย่างมั่นใจว่ส เธอเป็นคนดำ
อ่าว
แล้วมึงรู้ได้ไงว่าเป็นคนดำอ่ะ
คนเขียนยังหักงานตัวเองเลย บอก แอนนาเบท เป็นคนดำได้ เหมือน เจเค ให้ เฮอร์ไมโอนี่ เป็นคนดำได้
Disney Junior’s Ariel แอนิเมชัน(ทีวีซีรีส์?) เกี่ยวกับแอเรียลในวัยเด็กที่เคยปล่อยภาพตอนหนังคนแสดงฉายว่าจะยึดคาแรคเตอร์แอเรียลผิวดำตามหนัง
ล่าสุดปล่อยภาพคิงไทรตันกับเออร์ซูล่ามาเพิ่ม ซึ่งเปลี่ยนคิงไทรตันเป็นผิวดำตามแอเรียล และเออร์ซูล่าก็ดูจะลูกครึ่งดำไปแล้ว ....
https://www.billboard.com/culture/tv-film/little-mermaid-disney-juniors-ariel-cast-taye-diggs-amber-riley-1235394892/
จนตอนนี้แอเรียล แบ่งเป็น 2 เวอร์ชั่นแล้ว
เวอร์ชั่นดั้งเดิม ผิวขาวผมแดง ยังอยู่ในเวอร์ชั่นการ์ตูนและสื่ออื่นๆ เห็นล่าสุดที่มีภาพของเลโก้ เจ้าหญิงดิสนีย์ ยังใช้เวอร์ชั่นดั้งเดิมอยู่เลย ส่วนเวอร์ชั่นคนแสดง ผิวสี ผมทรงเดดล็อก คงใช้เฉพาะสื่อที่เกี่ยวกับภาคคนแสดงเท่านั้นแหละ
>>841 ประเด็นนี้ Iger เหมือนถูกมารับหน้าแทนอะ ทั้งที่ผลงานก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา เป็นผลงานของ Chapek ที่เน้นปริมาณ จนคุณภาพลดลง แล้ว Iger เพิ่งถูกตามตัวกลับมาหลังเกษียณไป คือแกก็ Woke นะ ในยุคเขามีความแทรก Woke ไว้อยู่เยอะ แต่คุณภาพเขามาก่อนแน่ๆ ไม่งั้นในยุคที่เขาอยู่ ผลงานไม่แตะ 1000 ล้านตลอด
แหมกูก็เพิ่มรู้ว่าดิสนี่ย์ยุคนั้นตัดออกเพราะตอนนั้นวาดยากไปหรือเวลาทำไม่พอมั้ง
เจ้าชายรู้จักกับสโนวไวท์นานแล้ว ตอนสโนว์ไวท์หายตัวไปเจ้าชายโดนแม่มดจับขัง แถมมีบอก
แผนการเพื่อเย้ยว่าสโนไวท์จะโดนแอปเปิ้ลพิษทำให้กลับเหมือนตายแต่จริงๆยังมีชีวิตอยู่ แล้วค่อยให้คนแคระเป็นคนฝังหล่อนทั้งเป็น
เจ้าชายที่หนีออกจากคุกเลบออกตามหาสโนว์ไวท์เพื่อช่วยเหลือแต่ดันหลงป่าเลยไปไม่ทัน
แต่ก็รู้ว่าสโนไวท์ยังไม่ตายเลยเข้าไปจุมพิตเพื่อสลายพิษออก(ดูดแอปเปิ้ลออกมา?) ไม่ใช่พวกชอบเยสศพหรือสโตรกเกอร์แบบที่นักแสดงบางคนด่าเอาไว้
บทดั้งเดิมมันโหดอยู่แล้ว เพราะคนเขียนคือพี่น้องกริมม์ แต่ประเด็นคือเรเซล เสือกไปวิจารณ์อนิเมชั่นฉบับดิสนีย์ที่ดัดแปลงเนื้อหาเดิมที่ให้เด็กดูได้ เลยเป็นแบบนี้
>>855 ไม่ทำบทนี้เพราะมันดูเศร้า+หดหู่ไป(งบมีจำกัดด้วยเลยตัดออก)
แต่กูงงคนที่มาจ้องจับผิดแอนิเมชันของดิสนีย์(เช่น อีราเชล) เรื่องความสมเหตุสมผลหรือตรรกะเจ้าชายเยศพ
คือมันทำมาโทนเทพนิยาย นิทานอีสป ที่ชวนเคลิ้มเพ้อฝัน จะมาหาความสมเหตุสมผลในรายละเอียดปลีกย่อยหาอะไรวะ
เหมือนมึงสงสัยทำไมหมาป่าในหนูน้อยหมวกแดงพูดได้ ทำไมหมาป่าในลูกหมูสามตัวมันเป่าบ้านพังได้
เรื่องมันจะสอนว่าอำนาจของรักแท้มันเหนือความตาย แถมเจ้าชายแม่งแค่มา Goodbye kiss เบาๆ ไม่ได้แลกลิ้น อีห่า
https://www.piratesandprincesses.net/disney-lyricist-tim-rice-questions-the-need-for-disneys-live-action-remakes/
https://www.disneydining.com/disney-lyricist-sir-tim-rice-criticizes-disney-live-action-remakes-sw1/
https://www.gbnews.com/news/snow-white-remake-disney-sir-tim-rice
ขนาดคนที่เคยร่วมงานกับดิสนีย์ยังบ่นกับเรื่องพวกนี้
คุณเอาลิงค์อะไรมาลง ผมไม่หลงกดเข้าไปอ่านหรอกนะ
Snow White นี้ว่าที่หนังเจ๊งอีกเรื่อง
ยกเว้นเจ๊ Wonder woman จะช่วยแบกไหว
Florence Pugh เหมาะจะเป็น Rapunzel จริงรึ
เพิ่งได้ดู Treasure Planet สนุกดี แต่พอไปลองอ่านตามเฟซหรือบทความดู มีคนเชื่อว่าดิสนีย์ตั้งใจให้เรื่องนี้เจ๊งจะได้เบนเข็มไปทำ Animation 3D ได้เต็มตัว เป็นข่าวลือที่โคตรไม่เมคเซนส์เลย ดูหนังเต็มๆ แล้วมันก็พอมีจุดให้เข้าใจได้แหละว่าทำไมเจ๊ง เช่น เรื่องมันจะโทนขายเด็กเต็มตัวก็ไม่ใช่จะขายผู้ใหญ่ก็ไม่เชิง คอนเซปต์ความสัมพันธ์พ่อลูกที่เด็กน่าจะเข้าใจยาก ตัวละครน่ารำคาญ แต่ไม่ใช่ระดับที่ปล่อยให้ออกมาเจ๊งแน่ๆ อะ หนังมันตั้งใจทำมาก ทั้งคุณภาพงาน อาร์ตไดเรคชัน บริษัทหรือนักลงทุนเหี้ยไรตั้งใจปล่อยสินค้าให้แผนกตัวเองโดนยุบวะ คิดตามตรรกะนี้ก็โคตรพิลึกแล้ว
ข่าวตรงมั่งไม่ตรงมั่งดังนั้นต้องฟังหูไว้หู เขาบอกว่า
- สโนว์ไวท์ เข้าสู่ช่วง screen testing ให้กลุ่มตัวอย่างชมแล้วฟังฟีดแบค
- มีหลายฉากที่เปลี่ยนแปลงไปจากต้นฉบับ จุดสำคัญมากคือ ไม่มีการกินแอปเปิ้ลแล้วสลบไป เห็นว่ากลัวเด็กๆ ดูแล้วจะกลัว เลยเป็น สโนว์ไวท์แตะแอปเปิ้ลแล้วโดนพิษแทน
- โดนพิษแล้วไม่หลับ ไม่ตาย แค่ทำให้นางจ๋อย หมดใจสู้
- Point คือ นางเอกเคยบอกในการสัมภาษณ์ว่า เวอรชั่นนี้ สโนว์ไวท์จะไม่สนความรัก แต่สนใจความเป็นผู้นำในการต่อสู้ ซึ่งข้อมูล leak นี่บอกว่า ก็นั่นแหละ พิษทำให้นางหมดใจสู้อะไรนั่นที่ว่านั่นแหละ
- ฉากที่ว่าทำให้ผู้ชมกลุ่มตัวอย่างโคตรไม่แฮปปี้
- กัล กาด็อท มีฉากร้องเพลงในเรื่องหลายฉาก แต่ทำได้ไม่ค่อยดี อาจต้องตัดทิ้ง
- นางเอก ราเชล มีเกาเหลากับผู้กำกับ เพราะนางไปให้สัมภาษณ์พูดถึงพระเอกที่รับบทเจ้าชายว่า ถึงถ่ายไปแต่ฉากของเจ้าชายอาจถูกตัดออกหมดก็ได้ เพราะนี่คือฮอลลีวูดยังไงล่ะเบบี๋ (นางพูดงี้จริงๆ แบบทุกคำเลย) ซึ่งประโยคนี้ถือว่าก้าวก่ายงานของผู้กำกับอย่างแรง แถมนางยังเคยพูดวิจารณ์ผลงานเก่าๆ ของ ผกก ออกสื่อด้วย
- ตอนนี้มีข่าวลือว่าอาจมีการยกเลิกการผลิตหนังเรื่องนี้ไปเลย เพราะถ้าฉายจริงอาจเจ๊งหนักกว่าทุนค่าถ่ายทำที่เสียไปอีก
กูว่าไม่ยกเลิกหรอก ดิสนีย์มันพยายามดันจะตายแถมโปรดัคชั่นมันมาไกลเกินกว่าจะยกเลิกละ
... กูไม่อยากให้ยกเลิกด้วยเพราะอยากเห็นหนูผีเจ๊งกับอีราเชลหายมั่นจะได้เลิก Woke กันสักที
กูอยากรู้ อิราเชลเด็กเส้นใครว่ะ ได้งานสปีลเบิร์กแล้วก็รับบทนางเอกโปรเจคใหญ่ถี่ๆ อีโก้สูงปรี้ดก็ไม่แปลก
>>871 ตอนนั้นวอเนอร์มันอยากล้างไพ่ล้างจักรวาล DC ไง(ที่เพิ่งไปเรียกเจมส์กันน์มา) เพราะเละเทะไปหมด ทำรายได้ไม่ต้องเป้าสักที
ส่วนของดิสนีย์ยังไงมันก็ต้องการดันแฟรนไชส์เจ้าหญิงต่อเพราะเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่ใหญ่พอๆ กับมาร์เวลอะ มันไม่ตัดใจเพราะอีเงือกที่เพิ่งเจ๊งไปเรื่องเดียวหรือแค่กระแสตอบรับรอบทดลองฉายไม่ดีหรอก
>>872 คือเรื่องแบทเกิร์ลมันต้องเรียงไทม์ไลน์ก่อนนะ มันเริ่มจากยกเลิกเพราะอยากลดภาษี>ฮามาดะประธานคนเก่าลาออกเพราะไม่พอใจ>WB เลยต้องหาประธานใหม่แล้วหวยมาลง JG>JG ที่ได้คุมเลยล้างจักรวาลซะเลย
มันไม่ใช่ว่าจะล้างจักรวาลเลยยกเลิกแบทเกิร์ล แต่เพราะยกเลิกแบทเกิร์ลเนี่ยล่ะ ถึงได้มีการล้างจักรวาลแบบที่เกิดขึ้น
ส่วนเรื่องสโนไวส์เนี่ยถ้าทองในแง่การดันแบรนด์เจ้าหญิงจะมองว่าการแคนเซิลเพื่อรักษาภาพลักษณ์เป็นการปกป้องแบรนด์ก็ได้เหมือนกัน ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มโปรโมท ถ้าหวยจะลงที่ถอนตัวมันก็ยังทันนะ
>>873 โอ้ค กูเรียงไทม์ไลน์ฝั่ง DC ผิดเอง ส่วนฝั่งดิสนีย์กูก็ยังคิดว่ายังไม่มีอะไรที่เป็นทริกเกอร์ให้น่ายกเลิกขนาดนั้นอยู่ดีนะ ต่อให้ราเชลมันปากจัดกว่านี้หรือทำร้ายคนแบบเอซร่า เต็มที่ก็ถอดนักแสดงออกแล้วเลื่อนฉาย ส่วนบทที่ดูพิลึกๆ จาก >>865 นี่กูว่ามีสิทธิ์ที่จะเป็นจริงต่อให้คำวิจารณ์ไม่ดี ช่วงนี้หนูผีมันดูอยากลองอะไรแปลกใหม่อยู่ด้วย
โอ้ค > โอเค
ตาอีเกอร์ เหมือนแกจะล้างงานที่ไม่ทำเงินอยู่ ถ้าเกิดอะไรขึ้นอีก แกคงสั่งยกเลิกทำไปเลยก็ดี
ขนาดเงือกที่ด่า ๆ กันยังได้เกือบ 600 ล้าน (ถึงสายเจ้าหญิงดิสนีย์ต้อง 1000 ล้านขึ้นด้วยซ้ำ)
แถมยังเข็นหนังดูแล้วแบบไม่ทำเงิน อย่าง haunted mansion ออกมา (แล้วก็แป้กตามคาด)
จะบอกว่ายกเลิกฉายสโนว์ไวท์ ก็กระไรอยู่
สโนว์ไวท์เป็นผู้นำมวลชนลุกขึ้นสู้ต่อต้านอำนาจแม่มด แตะแอปเปิ้ลแล้วหมดใจจะสู้ เหล่าสหายทั้ง7ที่ร่วมสู้จึงต้องหาทางให้นางกลับมานำมวลชนอีกครั้ง สุดท้ายเจ้าชายหนุ่ม ชนชั้นสูงก็มาปลุกใจรนางให้ลุกขึ้นซู่อีกครั้ง พาฝูงชนลุกขึ้นสู้แม่มดใจร้าย ปลิดชีพและยึดครองปราสาท ได้กระจกวิเศษชี้นำให้ปลดปล่อยประชาชนในอีกหลายเมือง ออกเดินทางไปกับสหายทั้ง 7 ปลดปล่อยชาวบ้านเมืองอื่นๆต่อ ให้เจ้าชายรอที่ปราสาท เสร็จภารกิจจะกลับมา
สโนวไวท์ live action
จะไม่มีบทเจ้าชาย แต่พระเอก ซึ่งรับบทโดย Andrew Burnap ซึ่งเป็นพระเอกของเรื่อง จะมีชื่อว่า โจนาธาน ซึ่งเขาไม่ใช่เจ้าชาย แต่จะเป็นโจรป่า แนวๆ โรบินฮูด
ดูทรงพินาศ มากขึ้นเรื่อยๆ
ไล่ latondra Newton หัวหน้าแผนกwokeออกไปแล้ว น่าจะรู้ตัวแล้วล่ะ เหลืออีสโนว์ไวท์นี้แหละ ที่จะทำไงต่อดี
ตลาดหุ้นดิสนีย์ช่วงนี้ก็ตกลงไปเพียบ ยังไม่รวมเรื่องปิดสตูสาขาสิงคโปร์อีก
ทุนจมไปกับเงือกดำแล้ว จะมาทุนจมกับสโนว์(ไม่)ไวท์อีกเรื่องนี้ก็หนักอยู่นะ
คนเขียนบทจะให้เหตุผลว่าชื่อ สโนว์ไวท์ แต่ผิวไม่ขาว ยังไงล่ะ
อยากให้มันยกเลิกถ่ายทำไปเถอะสำหรับ สโนว์ไวท์ เพราะบริษัทหุ้นติดลบ แถมทำหนังมาเจ๊งหลายเรื่อง แอพสตรีมมิ่งก็ลดจำนวนผู้ชมเข้ามาอีก ทำแบบสมัย WB ที่ต้องยกเลิกซูเปอร์แมนที่นิคเคจเป็นพระเอก กับ ซีรีส์แบทเกิร์ล
เอาจริงๆ ทั้งหนังดิสนีย์, Pixar หรือในเครือที่ซื้อหุ้นมาตั้งแต่ 20th Century, Lucus Film, Marvel Studio ทำหนังมาเจ๊งหมด จะมีแค่ Elementals ที่คุ้มทุนอยู่
ข่าวลือ Toy Story 5
แอนดี้จะกลับมามีบทบาทอีกครั้ง
ตามข่าวคือ จะเป็นตัวกลางของเฟรนไชส์นี้แหละ คร่าวๆ คือมีลูกมีเมีย แต่เมียไม่รู้ว่าจะ Woke แบบให้มีเมียผิวสีหรือชาวเอเชีย
แต่ถ้าเป็นจริง กูว่าดิสนีย์น่าจะอ่านฟีคแบคภาค 4 ละว่า บอนนี่ เป็นตัวละครแบบไหนถึงยี้กันแบบนี้
อีกข่าวคือ ดิสนีย์จะโดนซื้อกิจการโดยแอปเปิ้ล ไม่รู้ว่าจะจริงหรือเปล่า เพราะดูจากกระแสแล้วน่าจะจริง เพราะหุ้นติดลบหลังจากยอดรายได้เจ๊งไม่เป็นท่าหลายเรื่อง
ถ้าแอปเปิ้ลซื้อดิสนีย์มันจะมีผลอะไรมั๊ย? จะเป็นแบบดิสนีย์ซื้อ FOX ที่มี 20th Century Fox, X-Men และ Deadpool รึเปล่า?
มี Leak ของหนังสโนว์ไวท์อีกแล้ว จากงาน d23 ที่จะถึงนี้
อันนี้เป็นรวมข่าวลือของสโนวไวท์ จากเว็บ/แชนเนล leak + กับบทสัมภาษณ์ของนางเอก
- สโนวไวท์ยอดนักสู้ ใน live action จะตีความว่าสโนวไวท์เป็นยอดหญิงนักสู้ มีฉากต่อยเตะ ไม่ใช่หญิงสาวนุ่มนิ่มที่เฝ้าหาความรัก (อันนี้น่าจะคอนเฟิรมจากบทสัมภาษณ์นางเอกละ)
- ราชินีใจร้าย ไม่ได้อิจฉาความงามของนาง (แหงสิวะ!!!) แต่ประมาณอยากยึดอำนาจจากราชา
- สโนวไวท์ เลยระเห็ดออกจากวัง แล้วไปเจอโจนาธาน (พระเอก ซึ่งเป็นโจรป่า) แล้วร่วมมือกันก่อการปฎิวัติโค่นล้มราชินี
- ราชินี ยังพยายามจะวางยาพิษสโนวไวท์ แต่ไม่ได้ทำให้นางสลบสไลยตลอดกาล เพียงแค่ทำให้นางจ๋อย หมดใจสู้ จนไม่สามารถปลุกระดมผู้คนมาล้มราชินีได้
- ไม่มีฉากกินแอปเปิ้ล แค่แตะก็โดนพิษ
- คนแคระไม่มี ถูกถอดบทออก (เหลือคนนึงมั้ง) ที่เหลือเป็นสัตว์มหัศจรรย์ ซึ่งเป็นนักแสดงหลายชาติพันธ์ หลายวัย หลายเพศสภาพ (woke นั่นแหละ) และแต่ละคนจะมีพลังพิเศษ เช่น สามารถควบคุมสัตว์ หรือ สภาพอากาศได้ โดยจะมีฉากที่ สัตว์มาวิ่งเล่นรอบสโนวไวท์เหมือนในอนิเม แต่เป็นจากพลังของพวกนี้
- คนแคระ ในอนิเม จะมีบทสำคัญมาก และบทสุดท้ายคือเป็นคนกำจัดราชินี แต่ในอันนี้ จะมีบทเป็นคนสร้างอาวุธให้สโนวไวท์ โดยอาวุธที่ว่าจะเป็นคทา ที่มีอัญมณีสีแดงอยู่ปลายๆ แล้วสโนวไวท์ใช้มันสู้กับราชินีจนราชินีร่างสลายไป
- ไม่มีฉากเลิฟซีน ไม่มีบทความรักใดๆระหว่างโจนาธาน กับสโนวไวท์ จับมือเต็มที่ ไม่มีจูบอะไรทั้งนั้น
- เพลงจากต้นฉบับบางเพลง จะถูกเอามาประพันธ์ใหม่ เช่น ไฮโฮ ของคนแคระ จะถูกเอามา remix เป็นเพลง แร๊ป และให้แร๊ปแนวๆเพลง scuttlebutt ใน little mermaid
- ตามที่ลือคือ ราเชลมีส่วนร่วมในการดัดแปลงบทสูงมาก
แปลกใหม่ น่าสนใจ น่าดู น่าติดตาม เตรียมตัวรอดูในโรงเลย
สโนวไวท์ข่าวว่าอาจไม่ฉายนี่ เพราะรอบ screen test เสียงตอบรับแย่ (เงือกดำรอบ screen test เสียงตอบรับดีนะ) แล้วยังมีเรื่องประท้วงของ SAG ที่ราเชลสนับสนุนออกหน้าออกตาด้วย
สรุป ข่าวลือที่ยกเลิกไม่จริง ตอนนี้มีประกาศละว่าจะปล่อยตัวอย่างหนังมา
แพลนเตรียมภาคต่อก็มา
https://www.facebook.com/100064761634091/posts/pfbid0vo2L34cd86GSFRi1QHo28fGhdcvqfz4zACz4Txm55AQgXWqYQ7M2arjrN96pFoyrl/?mibextid=Nif5oz
Rachel อัพเดต instagrams ล่าสุด
How to ทำหนังยังไงให้เจ๊งโดยที่ไม่ทันฉาย งานนี้ต้องเพิ่งgalแหละ
ภาพล่าสุดของซีรีส์ Percy Jackson เผยมาละ ไม่รู้ว่าจะเละเทะแค่ไหน
>>904 จริง ทั้งบทบรรยาย ทั้งภาพออฟิเชียล แม่งบอกชัดๆว่าแอนนาเบทเป็นคนขาว และมีปมกับสาวผมบลอนด์=โง่
แถมมีรายละเอียดอื่นๆเช่น อาธีน่าจะทำให้ลูกเหมือนตัวเอง = แปลว่าต้องเปลี่ยนอาธีณาเป็นคนดำ?
แอนนาเบทมีลูกพี่ลูกน้อง ชื่อ XX (จำไม่ได้) เป็นตลค.ในชุดโอลิมปัสมั่ง? ที่บรรยายว่าเหมือนแอนนาเบท ก็ต้องเปลี่ยนเป็นคนดำอักสินะ
แม่งโครตคุ้ม เปลี่ยนตัวเกียว ได้เปลี่ยนอีกหลายตัว ถถถถ
คนที่ไม่มองว่ายัดเหยียด คือ แม่งต้อง woke จนหลอนจิงๆแหละ
ถ่าอยากเปลี่ยน ก็ควรเปลี่ยนแค่ตลค.รองสิ ตลค.หลักมันสำคัญ คนชอบเยอะ ก็ควรจะแคสตามรูปลักษณ์ตรง
และที่สำคัญ ถ้ามึงอยากทำหนังเอาใจสังคมมากนัก ก็เลิกรีเมค เลิกเอาหนัง/นิทาน เก่าๆ ที่ไม่รีพีเซ้น มาทำใหม่ย้อมดำได้แล้ว มึงแค่สร้างใหม่ มึงจะใส่คนดำ lgbqtกี่คน ก็ไม่มีใครเขาว่าหรอ
Frozen live action เอลซ่าคนดำ แอนนาคนเอเชีย ตัดบท krisoff เอลซ่ากับแอนนารักกันเกินพี่เกินน้องปานดูดดื่ม olaf ใช้คนแสดงไม่ใช้cg และต้องตัวสูงเพราะถ้าเตี้ยจะเป็นการเหยียดคนเตี้ย ที่สำคัญทั้งเอลซ่าและแอนนาจะต้องเป็นหญิงแกร่ง ซึ่งทั้งคู่จะต้องรวมพลังต่อสู้กับฮานที่ยกทัพมายึดอาณาจักรของตน
อ่ะกูคิดบทให้แล้ว disney เอาไปจัดการที รับรองเข้าฉายปุ๊บ คนเต็มโรงปั๊บ
รอยเตอร์รายงาน ในการประชุมของบอร์ดบริหารของดิสนีย์กับผู้ถือหุ้นล่าสุด
ในรายงาน มีการระบุว่า Bob Iger CEO ของดิสนีย์ บอกกับผู้ถือหุ้นว่า
จากนี้ไปดิสนีย์ จะลดบทบาทใน สงครามวัฒนธรรม (culture war) ลงและไปเน้นความบันเทิง และการลงทุนในดิสนีย์แลนด์ให้มากขึ้น
ซึ่งน่าจะเป็นผลงาน Live Action และหนังหลายๆเรื่องในช่วงหลังของทั้ง Disney และ Marvel ที่พยายามสอดแทรกบริบทการเมืองและสังคมลงไปแต่เสียงตอบรับแย่มากจากถึงขั้นเจ๊งบ๊งหลายเรื่อง ขนาดบางเรื่องยังไม่ทันฉายเช่นในภาพประกอบ ก็คาดการณ์กันว่าเจ๊งแน่
ไม่อยากเชื่อลมปากมาก ลดลง 1% ก็คือลดนะ
รอดูกันที่ผลงานดีกว่า ว่าจะทำจริงมั้ย
ถ้าเห็นพวกฝ่ายผลิต Woke ลาออกก็เป็นสัญญาณแล้วล่ะว่าต้องเปลี่ยนแน่ๆ
แต่แบบนี้ควรโทษ Chapek หรือ Igor ดีวะสำหรับการไปยัดความตื่นรู้จนหนังเสียรูปหมด
สิ้นสุดยุค WOKE แล้วสินะ
ใครสักคน : ดิสนีย์ทำเจ๊งไม่กี่เรื่องขนหน้าแข้งเขาไม่ร่วงหรอก สิ่งที่เขาทำคือการผลักดันให้โลกดีขึ้น
ดิสนีย์ : ใครไหวไปก่อนเลย กูบายละจ้า
อะไรที่มันตึงเกินก็เละนั้นแหละ ดิสนีย์มึงหลงทางตั้งแต่ไปแตะพวก Woke สันดานหมาล่ะ ทั้งๆที่จุดขายมึงคือ Dream+Magic+Fantasy ผู้ชมดูจบแล้วใจฟูได้แรงใจในการใช้ชีวิตเพิ่ม พวก Culture war เหี้ยอะไรนั้นทำสนองนี้ดตัวเองกับพวก woke ของตัวเองล้วนๆ ไม่ได้คิดถึงคนดูเลย หนังที่ออกมาเลยเหมือนแค่ของที่สำเร็จความใคร่ทางจริยธรรมของตัวเองนั้นแหละ ไหนจะนักแสดงทำตัวปากปีจอยิ่งลากแบรนด์ลงนรกกว่าเดิมอีก
Woke มีหมดทุกค่ายแหละ เว้นแต่ทำมาไม่สุดโต่งสำหรับบางเรื่อง
แต่กับดิสนีย์ มันแย่ตรงที่ยำเนื้อหาผลงานเก่ามาดัดแปลงจนภาพรวมของหนังมันไม่น่าสนใจ ยังไม่รวมกับค่ายอื่นๆ ที่ทำอย่าง Sony, Dream Works
โกยได้เยอะจากตอนอีแครอลหรือฝ่าบาทภาคแรกเลยเหลิงหลงไปว่าอวยwoke อวยคนดำแล้วจะได้ตัง ไม่ได้ดูบริบทของตัวงานเลย ว่าทำไมมันประสบความสำเร็จ
ข่าวบันเทิงในต่างประเทศ รายงานว่าตอนนี้ ค่าใช้จ่ายในการผลิตสโนวไวท์ live action พุ่งไปแถวๆ 350ล้าน$
อส มันทุนจมกับอะไรเนี่ย และถ้าทุนขนาดนี้ ถ้าจะไม่ให้ขาดทุน หรือเท่าทุน อย่างน้อยน่าจะต้องทำรายได้ในโรง 7-800 ล้าน$ มันจะทำได้รึไงวะ
ข่าวเปลี่ยนตัวนักแสดงเรื่อง Snow White ไม่เป็นความจริง
มีข่าวลือทางโซเชียลมีเดียล่าสุดที่แพร่สะพัดเกี่ยวกับการคัดเลือกนักแสดงจากภาพยนตร์รีเมคของดิสนีย์เรื่องSnow White นั้นมีการลือกันว่า เนื่องจากความคิดเห็นมากมายของ Rachel Zegler ในบท Snow White ที่พูดถึงภาพยนตร์แอนิเมชั่นต้นฉบับของ Walt Disney ทำให้เกิดกระแสต่อต้านและวิพากษ์วิจารณ์มากมาย จนทำให้เกิดสิ่งข่าวลือและการเดาที่ไม่มีมูล เช่น การยกเลิกภาพยนตร์ทั้งหมด หรือการปรับแผนย้ายจากบ็อกซ์ออฟฟิศไปฉายใน Disney+ หรือข่าวลือล่าสุดคือ ข่าวทาบทาม Jenna Ortega ให้มารับบทสโนวไวท์แทน …
ทั้งหมดนั้นตามข้อมูลแหล่งข่าวแจ้งว่า ไม่เป็นความจริงเลย ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เพียงแต่ตอนนี้ทางค่ายนั้นกำลังได้รับผลกระทบของการนัดหยุดงาน SAG-AFTRA ที่กำลังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง และการถ่ายทำของหนังเรื่องนี้ก็ยังอยู่ในขั้นตอนการถ่ายทำใหม่ให้เสร็จ ทำให้เดิม Snow White มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 22 มีนาคม 2024 มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้
Source The Disinsider (08/10/23) “No, Jenna Ortega Did Not Replace Rachel Zegler as Snow White”
> https://thedisinsider.com/2023/10/08/no-jenna-ortega-did-not-replace-rachel-zegler-as-snow-white/
>>923 อินเดียนาโจนล่าสุดงบอีกนิดไปทำอวาตาร1ได้ มันก็มีข่าวลือว่าWokeฟอกเงินมานานแล้ว ยิ่งThe Marvelนี้หนักเลยหนังสั้นจู๋ไปลงDisney+ดีกว่า แต่งบเสือกเยอะอีก แถมอีผู้กำกับบอกว่าเธอใส่ความเป็นตัวเองไม่ได้ นี้ไม่ใช่หนังฉัน มันเป็นของเขา ของไฟกี
ไฟกีงงเลย ปล่อยละเลยชิบหายจนพังทั้งจักรวาลเสือกมาโทษกูกับหอบเงินอีก เจริญ
เป็นเวลาหลายทศวรรษที่ดิสนีย์กลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านภาพยนตร์ หนังแอนิเมชั่นและหนังคนแสดงนับไม่ถ้วนทำกำไรมหาศาลให้กับบริษัท และได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกมากมาย
.
แต่ในปีนี้มีรายงานว่า บ็อบ อิเกอร์ CEO ของดิสนีย์ รู้สึกเหนื่อยล้าและหนักใจจากความล้มเหลวในบ็อกซ์ออฟฟิศติดต่อกัน ทำให้บริษัทต้องสูญเงินไปถึง 900 ล้านเหรียญจากหนังที่ทำรายได้ไม่เข้าเป้าหลายเรื่อง
.
ตามข้อมูลของ Bloomberg บ็อบ อิเกอร์ ได้หวนคืนตำแหน่ง CEO เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วเพื่อช่วยบริษัทจากความล้มเหลว แหล่งข่าวบอกว่าเขา "รู้สึกเหนื่อยล้าและหนักใจ" ขณะที่เขาต้องเผชิญกับปัญหาของบริษัทในปัจจุบัน ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ที่มาเที่ยว Disney World ลดลง การสูญเสียสมาชิก Disney+ และความล้มเหลวในบ็อกซ์ออฟฟิศอย่างต่อเนื่อง
.
หนังดิสนีย์ในปีนี้ทั้งดูน่าตื่นเต้นและควรจะทำกำไรอย่างงาม อย่างไรก็ตามหนังที่หลาย ๆ คนคาดหวังกลับทำผลงานได้ไม่ดีนัก สาเหตุหลักประการหนึ่งมาจากทุนสร้างที่มหาศาล อีกประการหนึ่งมาจากหนังของพวกเขายังดีไม่พอ หลายเรื่องได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบ และสิ่งนี้ทำให้หลายคนท้อแท้ที่จะเข้าไปดูในโรง
.
น่าสนใจว่า CEO จะแก้ปัญหาบริษัทอย่างไร หลังจากที่เพิ่งประกาศจะเลิก Woke ไปเมื่อไม่นานมานี้จะทำให้หนังกลับมามีรายได้ตรงตามเป้าหมายหรือไม่
https://www.youtube.com/watch?v=cl9LZiB0oao&ab_channel=DailyWire+
ทำมากวนตีนหนูดำแถมถ่ายไล่ๆกันอีก
Teenage Kraken เล่าแบบ Cliché เอะอะจะ Coming of Age, ความขัดแย้งเผ่าพันธุ์, การเข้าหาสังคม, ตีความใหม่ ตัวละครก็ไม่น่าจดจำ โดยเฉพาะพวกคราเคนเพศผู้ ดูงี่เง่าสุด ส่วนเงือกตัวร้ายก็มาสูตรเดิม ตีหน้าเป็นคนดี แต่เป็นตัวร้าย
Snow White ภาพหลุดมาอีกแล้วคราวนี้คนแคระมาต้นฉบับละ แถมอาจจะฉายในปี 2025
เลื่อนฉายเพราะปรับแก้บทล่ะมั้ง เพราะบทเดิมดัดแปลงซะเละ แต่ที่แน่ๆ ทำไมไม่เปลี่ยนตัวนักแสดงสโนว์ไวท์ล่ะวะ
รอบนี้ดิสนีย์คงไม่ Woke เละพินาศแบบเงือกเดรดล็อกผิวสี ล่ะมั้ง เลยต้องทำตามต้นฉบับไปเลย ส่วนนักแสดง คิดว่าท่าปล่อยข่าวว่าราเซลโดนไล่ออก น่าจะมีมูลแต่ เหมือนเบรกเรื่องถอนตัวแล้วโดนเข้าห้องเย็นจนนางเงียบสงบไป เลยไม่มีการเปลี่ยนตัวนักแสดงเลย
แล้วแบบนี้จะทำไงกับแก๊งนักแสดงฮิปปี้ที่ตอนแรกจะเอามาแทนคนแคระอะ
หรือปล่อยเบลอหายไปเงียบๆ เลย
กลายเป็นคนแคระจริงล่ะเหอ แล้วกลุ่มก่อนหน้านี้ที่เป็นกลุ่มต่อสู้เพื่อสิทธิชาวเมืองอะไรนั้นอ่ะ บทยังเหมือนเดิมอยู่มั้ย
หนังยังไม่ทันฉายก็ปล่อยเพลงมาให้ฟังก่อนละ
This Wish ‘พรที่ดี’
https://open.spotify.com/track/4owOdRNIz8bu1cu95YtvlN?si=kGpOIqnFR0qrp2lmx75qpA
This Is The Thanks I Get?! ‘นี่ซิที่ฉันได้คืน’
https://open.spotify.com/track/6l7ngfAUILi71iABuUSOlC?si=-39ZqN4YQTa1RO9eMWGZHg
ข่าวบันเทิงใน ตปท ได้รายงานตัวเลขประมาณการงบสร้าง สโนว์บราวน์ ที่จะฉายในปี 2025 งบตอนนี้เกิน 400 ล้าน$ ไปแล้ว และถ้าจะเท่าทุนได้ ต่อเมื่อทำรายได้รวมเกินพันล้านเท่านั้น
https://variety.com/2023/tv/news/disney-plus-subscribers-150-million-earnings-1235784850/
พอแอพสตรีมมิ่งไม่รุ่ง ก็เอาหนังเก่าๆ กลับไปลงสตรีมมิ่งเจ้าอื่นละ ยังไม่รวมพวกออริจินัลคอนเทนต์ในสตรีมมิ่ง
https://www.youtube.com/watch?v=VWavstJydZU
ตัวอย่างแรกของ Inside Out 2
Bob Iger ขึ้นเวที DealBook Summit (รวมผู้บริหารของบ.ใหญ่และผู้นำในวงการธุรกิจ) ของ New York times และพูดถึงปัญหาของ Disney ที่เขาพบหลังกลับมา
- ภาคต่อ "ผมไม่อยากที่จะขอโทษที่ทำภาคต่อ, บางเรื่องมันดีมากและได้การตอบรับทางรายได้ดี ต้องมีเรื่องที่ดี ถ้ามันไม่ดีเท่าภาคแรก มันจะเป็นปัญหา และต้องมีกว่าแค่ธุรกิจมาผลักดัน แต่ทาง บ. ยังจะทำต่อถ้าผู้สร้างเสนอเรื่องราวที่ดี"
- จำนวนที่มากไปโดยเฉพาะ MCU "มากไปทำให้เจือจาง และต้องมีเหตุผลที่ดีที่จะสร้าง"
- การถ่ายทำช่วงโรคระบาด "มันไม่มีการดูแลในกองถ่ายมาก ที่พวกเราส่งผู้บริหารไปดูแลกองถ่ายได้แบบวันต่อวัน"
- Streaming "เราได้ทำให้คนดูชินกับการที่หนังจะมาลงสตรีมมิ่งเร็ว และการดูที่บ้านมันง่ายและดีขึ้นมาก และถูกกว่าการดูในโรง"
นอกจากนี้เขายืนยันว่าไม่มีแผนจะขายเครือข่าย ABC แม้จะพึ่งบอกในการประชุมบริษัทไปก่อนหน้านี้ว่าจะโฟกัสที่ Direct to Consumer (สตรีมมิ่ง)
พอนึกได้ ดิสนีย์ยุคก่อนเคยทำซีรีส์ซิทคอมฉายช่องดิสนีย์ ไม่รู้ว่าในนี้เคยตามบ้างมั๊ยวะ?
ของกูทัน Lizzie McGuire, The Suite Life of Zack & Cody, Hannah Montana
ยุคนั้นทันอยู่แถมดาราวัยรุ่นของดิสนีย์ก็คนชอบนิยมเยอะเหมือนกันนะ แต่ก็แลกกับเรื่องภาพลักษณฺ์ตัวนักแสดง หนักหน่อยก็ไมลีย์ที่ดังจากบท Hannah Montana ได้ยินมาว่าค่าตัวนักแสดงได้น้อยกว่ารายได้สินค้า แถมงานเพลงตัวเองในค่ายในเครือดิสนีย์กลับไม่ปังเท่า Hannah Montana จนนางหลุดฉีกรูปลักษณ์เดิมออกไป แถมนางดังมากขึ้นไปอีก
พอพูดถึงซีรีส์จากนักแสดงวัยรุ่นของดิสนีย์แล้ว บางเรื่องก็สนุกนะ พอกลับมาดู รู้สึกแปลกๆ ยังดีที่บางเรื่องไม่ได้ไปรีเมคแล้วทำเละๆ
disney ซื้อ Fox มาทำระยำเละเทะ american horror story กลายเป็นอะไรไปแล้ววะ แถมมีภาคแยกที่ดิสนี่เข้ามาบริหารเองเพิ่มอีก ชื่อเดิมแต่เป็นพหูพจน์
หลังจากนี้กูว่า Bob Iger คงปฏิวัติบริษัทหมดจริงๆ ละ หลังจากผลงานหนังของดิสนียฺฃ์ขาดทุนย่อยยับหลายเรื่อง มี Elementals, GOT3 ที่พอแบกยอดรายได้อยู่
Elementals ตอนฉายใหม่ๆ โปรโมทน้อย แต่หลังๆ มีกระแสปากต่อปาก มันพอไปได้อยู่ เพียงแค่การเล่าเรื่องมันเล่าสูตรเดิมแค่นั้น มีดีแค่งานภาพนี่แหละ แถมคุ้มทุนอยู่
แต่คิดๆ แล้วถ้า Elementals เจ๊ง กูว่า Pixar คงโดนยุบไปแน่นอน แถมไม่มีผลงานภาคต่อจากเรื่องเก่าๆ อีก
จะว่าไปช่วงหลังๆ ดิสนีย์แทบไม่โปรโมทหนังที่เข้าโรงเลย คงเพราะหมดกับค่าโปรโมทหนังเงือกน้อยเด็ดร็อคผิวสีละมั๊ง
เมื่อตีลังกาwokeยังคงปกป้องความwokeต่อไป
กระทู้ใกล้จะเต็มละช่วยคิดหน่อยว่าจะตั้งชื่ออะไร
ของกูเป็น
[จักรวรรดิหนูผีที่ 2] Everything About Disney หนัง ซีรีส์ แอนิเมชัน เจ้าหญิง ฯลฯ กับการล้มล้างความ Woke ของ Igor
https://nichegamer.com/gundam-creator-yoshiyuki-tomino-disneys-worst-mistake/
ปู่โทมิโนะยังต้องวิจารณ์
แต่ปู่แกมาก่อนกาลอีกนะ gundam แกมีทั้งทรานส์ คนดำ ชาติพันธ์อื่นๆ ผู้หญิง ลูกเล็กเด็กแดงเป็นตัวเอกตัวประกอบกันอย่างหลากหลายเลยทีเดียว
>>974 แกพูดไม่ผิดแม้จะยังยึดกับ"วิธีการ"มากไปหน่อยคือไม่ไม่ได้เกี่ยวว่าจะเป็น ดิจิตอล หรือ วาดมือ สาระคือเวลาเราทำงานบันเทิงเราจะต้องสุขและสนุกไปกับมัน งานบันเทิงเนี่ยมันไม่เหมือนงานอื่นๆตรงที่มันอสศัยแรงบันดาลใจและความชอบมากกว่างานอื่นเยอะจริงๆไอ้ที่ชอบเรียกกันว่า"พวกติสต์แตก"นั่นล่ะ แต่ถ้าไม่เป็นแบบนั้นมันจะตันไง
อีก 5-10ปีข้างหน้า ถ้ายุคที่ weeb ได้เป็น director กันหมด มึงจะทนได้เหรอ อนิเมะที่มีทุกอย่างที่ weeb อยากให้มี ใส่แทกเท่าที่นึกออกได้เลย เบียว กาว เทพ เทพอีก เทพเยอะๆ พูดพล่ามห่าไรไม่รู้แต่คนเขียนบทแม่งรู้สึก cool จนพวกมึงต้องอุทาน "เอออออ มึงเก่ง มึงเทพ กูกระจอก พอใจรึยัง"
เห็นเพจลงข่าวปู่โทมิโนะ กล่าวถึงดิสนีย์รู้สึกว่าบิดสารที่แปลไปเยอะอยู่ เพจหนึ่งบอกตำหนิดิสนีย์ อีกเพจบอกอย่าให้กันดั้มเหมือนดิสนีย์ แล้วเรื่อง AI ก็ด้วยเพจไทยบอกอย่าเน้นแต่ CG เน้นเรื่องฝีมือ ทั้งที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับ AI
เพอร์ซี่เป็นไงบ้างๆ สนุกไหม
ทรอน จะเตรียมถ่ายทำภาคที่ 3 แล้ว
ชิงออสการ์สาขา Animated ปีนี้
The Boy and the Heron - ปรัชญา แฟนตาซี ตีความ กูเข้าไม่ค่อยถึง
Elemental - ประเด็น 2 เผ่าพันธุ์รักกัน เชยๆ งั้นๆ
Nimona - LGBT ซึมเศร้า กูไม่ค่อยทัชเท่าไร
Robot Dreams - ไม่ได้ดู
Spider-Man: Across the Spider-Verse - หนังฮอลลีวู้ดจ๋า เน้นมันส์ล้วน แต่เป็นภาคต่อที่ยังไม่จบคงไม่น่าได้
ใจจริงกูเชียร์แมงมุมแต่คิดว่าไม่ได้หรอก Nimona กูก็เฉยๆ คิดว่าไม่ได้เหมือนกัน แต่ถ้า Nimona ชนะจริงแม่งโคตรตบหน้าดิสนีย์ที่เคยเทโปรเจคนี้ไปอะ I don't care if who win, I just need Disney to lose.
หนังเจ๊ง, เข้าชิงรางวัลเทพๆ ก็วืด ได้เข้าชิงแต่รางวัลราสเบอรี่แทน, บริษัทขาดทุนจนลดต้นทุนต่างๆ ยันเสียงพากย์ ครั้งหน้าลุงอีเกอร์ปฏิรูปบริษัทองค์กรจริงๆ ละนะ
>>983 กูชอบสไปเดอร์เวิร์ส 2 นะ หนังสนุก อนิเมชั่นโคตรเจ๋งยิ่งกว่าภาคแรก แค่ฉากแรกแม่งก็เจ๋งสุดๆแล้ว
แต่กูว่าไม่ควรได้รางวัล ในฐานะหนังเรื่องนึงแม่งเหี้ยมาก แทบไม่จบประเด็นอะไรเลยปล่อยค้างเติ่งไว้รอภาคต่อ
คือถ้าจบแบบนี้มึงควรต่อชื่อเลยว่า part 1 หนังเรื่องอื่นที่แม่งทำ 2 part แม่งยังจบพาทได้ดีกว่านี้เลยด้วยซ้ำ
>>985 กูเลยว่าคิดว่ายังไงแมงมุมก็ไม่ได้ เหตุผลก็ตามที่มึงบอกเลย ยิ่งเวทีออสการ์ต้องการหนังที่ขับเคลื่อนสังคมโลก(Woke)ด้วย ซึ่งแมงมุมมันไม่ได้ตอบโจทย์ตรงนี้ หนังจิบลิก็อาร์ทเกิน ไปได้รางวัลลูกโลกทองคำอะถูกที่แล้ว
กูเลยคิดว่าตัวเต็งคงเป็น Elemental กับ Nimona ซึ่งถ้าเมืองธาตุมันชนะกูคง Meh แต่ว่ากันตามจริงกูว่ามีสิทธิ์ชนะสุดในนี้
ส่วน Robot dreams กูโนคอมเมนต์ เป็นเรื่องเดียวที่ไม่ฉายไทย
Elemental ถ้าได้รางวัลจะส่งผลต่อ Pixar มั๊ย เพราะได้ข่าวว่าเลย์ออฟคนเยอะหลังจากหนังขาดทุน หนักสุดก็ไปเลย์ออฟคนกอบกู้ไฟล์หนัง Toy Story 2
ไม่นะ แอเรียล!!!! โคตรทำลายภาพเลยว่ะ
https://twitter.com/Enezator/status/1753807389650780342
>>990 disney, pixar ที่ได้ oscar แบบนอนมาอย่างน้อยมันต้อง ดี, รายได้ดี, woke อย่างใดอย่างนึง
elememtal นี่ไม่ดีเท่าไร รายได้ก็น้อย และจริงๆมัน woke ล่ะนะ มันคือต่างด้าาวย้ายประเทศโต้งๆนี่แหล่ะ แต่มันเลือกนำเสนอแบบไม่ระบุเชื้อชาติตรงๆกูว่าไม่น่าได้คะแนนบวกตรงนี้เท่าไร
กูว่าหวยออก Nimona มีกระแสจากที่ disney เท + woke lgbt แบนๆเข้าถึงง่ายถูกใจกรรมการ oscar สาขา animation ที่แม่งสมองน้อยพวกมากลากไปกันอยู่แล้ว
ไม่ก็ตาลุงนกกระสาหัวล้าน กระแส Miyazaki comeback (lol) รอบนี้ฮือฮาพอตัว
แฟน ๆ ของป๋า Johnny Depp และแฟน ๆ ของซีรี่ส์ Pirates of the Caribbean อาจจะไม่ได้เห็นภาคต่อของตัวละคร Jack Sparrow อีกต่อไปแล้ว หลังมีข่าวลือว่า Disney เตรียมจะรีบู๊ตซีรี่ส์นี้ใหม่หมดและเปลี่ยนตัวเอกเป็นโจรสลัดหญิงผิวดำ และน่าจะรับบทโดย Ayo Edebiri
.
Disney ดำเนินการสร้างหนัง Pirates of the Caribbean ถึง 6 ภาคด้วยกันนับตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา เป็นที่น่าเสียดายที่หลาย ๆ เรื่องถูกเลื่อนออกไปจากปัญหาหลาย ๆ อย่าง รวมไปถึงการที่ Disney ปลด Johnny Depp ออกด้วยเหตุผลทางด้านคดีความกับ Amber Heard อดีตภรรยา
.
Disney ล้มเหลวในการรีบู๊ตซีรี่ส์นี้มาแล้วในปี 2018 รวมไปถึงภาค spin-off ที่แสดงนำโดยตัวเอกหญิง (รับบทโดย Margot Robbie)
.
ในปี 2022 พวกเขายืนยันว่ากำลังเขียนสคริปท์เอาไว้ 2 ภาคด้วยกัน ภาคนึงมี Margot Robbie ร่วมแสดง ส่วนอีกภาคไม่มี
.
สำหรับข่าวลือเรื่องการรีบู๊ตใหม่โดยมี Edebiri แสดงนำนั้นถูกเปิดเผยโดยแหล่งข่าววงในอย่าง Daniel Richtman ที่เปิดเผยผ่าน Twitter ของเขา โดย Pirates ภาคใหม่ตามที่เขาบอกคือจะเป็นเรื่องราวของโจรสลัดอายุน้อยออกตามล่าสมบัติ และตัวเอกชื่อ Anne จะรับบทโดย Edebiri
ตั้งกระทู้ใหม่ไปละ
https://fanboi.ch/movie/18265/
เจ๊งแน่นอน
ไพเรทภาคใหม่กูว่าข่าวยังไม่ชัดเจนเลย แต่ดูแล้วคงไม่น่าจริง ไม่ก็ปั่นให้พวกหลอน Woke มาด่าแบบโง่ๆ แค่นั้น
ปิดมู้
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.