ประธาน Disney เผย! จากนี้จะทำหนัง "เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ" หลังจากหนังที่ออกมาช่วงนี้ ทำรายได้น่าผิดหวัง
คุณ Bob Iger ประธานบริษัท Disney คนปัจจุบัน ออกมาแถลงการณ์ในรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 เกี่ยวกับสถานการณ์โดยภาพรวมของทางบริษัท โดยระบุว่า จากนี้เป็นต้นไป Disney จะเน้นไปที่การสร้างภาพยนตร์ที่มีคุณภาพมากกว่าปริมาณ หลังจากที่ภาพยนตร์ช่วงหลังๆ ไม่ประสบความสำเร็จในแง่รายได้ Box Office อย่างที่คาดหวังไว้
.
"พวกเรามุ่งมั่นไปที่การพัฒนาคุณภาพของภาพยนตร์ของเรา และโครงสร้างโดยรวมให้ดีขึ้น ไม่ใช่แค่การลดจำนวนภาพยนตร์ที่ออกฉาย แต่รวมถึงต้นทุนในการสร้างแต่ละเรื่องด้วย พวกเราจะใช้ประโยชน์สูงสุดจากภาพยนตร์ต่างๆ ของเรา ด้วยการใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายหลายๆ รูปแบบเท่าที่เรามี เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงเนื้อหาคอนเทนต์ได้หลายๆ ทาง"
คุณ Iger กล่าว
เมื่อต้นเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา มีรายงานว่า Disney ประสบความสำเร็จด้านรายได้มากที่สุดในช่วงครึ่งแรกของปี ด้วยรายได้ 3,400 ล้าน USD จาก Marvel, Lucasfilm และ Pixar และอย่างที่กล่าวไปว่า ด้วยรายได้ Box Office ของหนังหลายๆ เรื่องไม่เป็นไปตามความคาดหวัง และในบางครั้งก็ไม่สามารถทำให้ผู้ชมประทับใจได้ด้วย ก็เป็นหลักฐานชั้นดีที่ทำให้ผู้บริหาร Disney ต้องย้อนกลับไปหาทางแก้ไข
ทาง GamesRadar+ ยกตัวอย่าง Indiana Jones and the Dial of Destiny ที่ใช้ต้นทุนเกือบ 300 ล้าน USD แต่ทำรายได้นอกประเทศสหรัฐอเมริกาเพียง 369 ล้าน USD เท่านั้น ในขณะที่ Elemental, Ant-Man and the Wasp: Quantumania, และ The Little Mermaid ทำรายได้ 400 ล้าน USD, 476 ล้าน USD และ 566.6 ล้าน USD ตามลำดับ ส่วน Haunted Mansion ก็ทำไปได้เพียง 63.2 ล้าน USD เท่านั้น
.
ส่วน Guardians of the Galaxy Vol. 3 ที่ถือว่าทำผลงานได้ดี ที่ทำรายได้ไปถึง 845 ล้าน USD จากต้นทุนการสร้าง 250 ล้าน USD แต่ก็ชัดเจนว่า เหล่าคนรักหนังก็ไม่ได้อุดหนุนภาพยนตร์ของ Disney เป็นจำนวนมากอย่างที่เคยมีมา และ GamesRadar+ ให้ความเห็นว่า ถือว่าเป็นการเดินหมากที่ฉลาดที่ลดปริมาณการออกภาพยนตร์ใหม่ๆ แล้วไปใช้เวลาเพื่อเน้นคุณภาพมากขึ้นแทน
Source: GamesRadar+