Last posted
Total of 1000 posts
แว่วๆ ว่า "สนพ.เล็กๆ" 2 แห่งเทงานหนังสือเมืองทอง และเอาคืนด้วยการขึ้นราคาหน้าปก
อีกสองสามเดือนรู้กัน !!!!!!!!!
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10218368666465491&id=1157513835 ต่วยตูนยังขึ้นราคา มันจบแล้วฮะนาย (เผื่อใครไม่รู้ ต่วยตูนมียอดขายเดือนนึงมากกว่าหมื่นเล่ม)
ยอดขายน้อยกว่าปีละ 20 บ้าน กุถือว่ารายเล็กหมด
*20 ล้าน
ถ้างานเมืองทองคนน้อยกว่าที่แระเมินไว้ สนพ.ที่เคยออกเฉพาะงานจะเฉลี่ย กระจายออกรายเดือนแทนไหมหว่า 🤔
ขายออนไลน์แค่หลักแสน ขายงานออกบูธหลักสิบล้าน
เราจะเปลี่ยนงานหนังสือเป็นโชว์รูมครับ เราจะโชว์ของ เราไม่เน้นขาย เราจะเน้นการขายหนังสือออนไลน์ ที่เมืองทองเราอาจจะทำเป็นโชว์รูม อาจจะไม่ออกเล่มเท่าเดิม แต่ระหว่างงานอาจจะมีหนังสือมากขึ้น หรืออาจจมีการ pre-order หนังสือแปลก ๆ อย่าง “จอมมารแสง” (Maou no Hajimekata) ตัวนี้กำลังอยู่ในการผลิต เราก็เลยดูกันอยู่ว่าอาจจะทำเป็น pre-order มีงานไหนเราก็อยากจะไปนะ แต่เรามีบุคลากรน้อย บางทีงานจัดที่ต่างจัดหวัดเราก็ไปไม่ได้ เราเลยต้องฝากคนอื่นไป
จริง ๆ ปกติแล้วงานหนังสือเขาจัดเพื่อให้สำนักพิมพ์ได้พบปะกับผู้อ่าน แต่ด้วยการขายมันประสบความสำเร็จมาก ๆ คนก็เลยเน้นยอดขายจากตรงนี้เป็นหลัก สำหรับทางพี่คิดยอดขายจากงานหนังสือจัดว่าเป็นกำไรดีกว่า ส่วนต้นทุนเราต้องไปเอาจากข้างนอก เพราะไม่อย่างนั้นเราอยู่ไม่ได้ ถ้างานหนังสือหายไปอะไรแบบนั้น เราเลยต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน เราต้องขายข้างนอกให้มากขึ้น เราต้องเลิกพึ่งพิงงานหนังสือ แต่เราก็ต้องออกเพื่อแสดงศักยภาพ เพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในงาน
สำหรับ First Page Pro. เราเชื่อว่าการขายข้างนอกคือการขายจริง ๆ แต่การขายในงานคือการเพิ่มฐานลูกค้ามากกว่า
ออกนอกงาน ?
มึงส่งร้านทั่วไปให้เร็วกว่านี้ก่อนเหอะ
ขายข้างนอกพ่อง k&mเล่ม3นี้กี่ปีละวะ กูยังไม่เห็นวางร้านทั่วไปเลย
มึขายลิมิทปกในงานให้หมดก่อนเหอะ นี่ทำเนียนๆ ไปวางขายข้างนอกอีก
ผมรอออกสองสามเล่มก่อนค่อยซื้อ มิน่าถึงเจ๊ง
มึงกล้าแย้งมืออาร์ตระดับโลก ผู้ซึ่งเลย์หน้าจาก 300 หน้าเป็น 700 หน้าได้รึ
แน่ใจนะว่าไม่ได้มือบอนแต่งเพิ่ม?
>>888 https://www.facebook.com/aerick.adinas/posts/2802455186494464?comment_tracking={"tn":"O"} ต้นฉบับญี่ปุ่น 300 หน้า แปลไทยได้ 700 หน้า
300กว่าหน้างอกมา400กว่าหน้านี้ยังพอเป็นไปได้นะ แต่งอกเพิ่มอีกเท่าตัวเป็น700หน้านี้แม่งขี้โม้สัสๆ
https://uppic.cc/d/KHz5 มันแปลงอกเป็น 700 หน้าได้จริงๆ เว้ย
เล่มแรก 383 หน้า มันแปลได้ 700 หน้า
ของคนอื่น 464 หน้า แปลได้ 500 กว่าหน้า
เลือกตั้งมีบัตรเขย่ง ไลท์โนเวลก็มีหน้าเขย่ง
กูไม่รู้มันแบ่งช่่องไฟเล่มเล็กwtยังไงนะถึงงอกมาเท่าตัว แต่ถ้าอ้างอิงจากมือสอง หน้านึงมันจะมีประมาณ20-22บรรทัด ส่วนlnเจ้าอื่น จะมีจำนวนบรรทัดต่อหน้าประมาณ22-24
= หายไป 4 บรรทัดต่อหน้า
สมมติหนา 500 หน้า = หายไป 2000 บรรทัด
หารหน้าละ 20 บรรทัด
= งอกมา 100 หน้า
แต่ถ้ามึงงอกมาเท่าตัวเป็น 700 หน้า กุว่าผิดปกติ
ช่วงนั้นคุหลงผกลิมิทโม่ยๆ มันไงจนลืมนึกถึงเรื่องนี้
700 หน้า ลองนับจำนวนคำต่อหน้าดูมั้ย
ปกตินิยายญี่ปุ่น พอแปลเป็นไทยแล้วมาตรฐานจะอยู่ที่ประมาณ 350-500 คำต่อหน้า อย่างบิเบลียก็เฉลี่ยที่ 380 คำต่อหน้า ส่วนพวกบรรยายเยอะๆ หนาๆ อย่างอีทาเนียก็ประมาณ 500 กว่าคำต่อหน้า
ถ้ามันจะงอกมาได้ถึง 300 หน้านีก็คงไม่ถึง 200 คำต่อหน้าล่ะมั้ง
คำหรือตัวอักษร
ถึงตอนนี้มันไม่เถียงกะมึงแล้ว เพราะมันแถเพื่อทำเล่มใหญ่ และผ่านพ้นไปแล้ว 2 เล่ม และคุไม่สนใจแล้ว 55555555555555555555
สมกับพี่หนึ่งเดียวขวัญใจมโนเฟื่อง
https://www.facebook.com/758286224183992/posts/2450561994956398/
150 ไม่มีใครบ่นทุเรศชิบหาย
กุบอกรักปูเป้แล้วมึงจะแบนกุหาพ่องมึงหราๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มาตรฐานคนเงี่ยนมันค่อนข้างแน่นอนไม่ลำเอียงอยู่แล้ว ไม่เซ็นไงๆก็ไม่ด่า เซ็นด่าแน่นอล พวกมึงอย่าพึ่งsaltyได้มะ
>>912 agree ลูกค้ากลุ่มหื่นมีมาตรฐานง่ายๆ ที่แน่นอนคือถ้าเช็นมีด่า นกย่างตอนขายเผ่าหื่นมีแต่คนชม แต่ค่าย s เซ็นยูน่าปุ๊ปด่ากันจะเป็นจะตายไปรอบ สมัยก่อนมีเคสบูมทาวน์จอมเซ็นพวกเล่นบอยคอดไม่ซื้อกันจนเจ้งไปรอบ
ส่วนหนึ่งเดียวรู้กลุ่มลูกค้านี้ดี ตั้งกะสมัยมันเป็น บก.ลัก มันเลยปล่อยราคานี้
ลูกค้าหื่นบอกห้ามเซน
แต่เฟซตัวเอง เสือกเซนเซอร์ มันกลัวไรว้า
>>913 หื่นไม่เท่าไร แต่พวกนี้แม่งเงี่ยนไม่ดูสถานที่ด้วย เอารูปจุก มาโพสรีวิวกันในเพจหรือกลุ่มสาธารณะแบบเพจการ์ตูนหรือ LN บางอันกรูเปิดไล่ฟีด แม่งโผล่มาเต็มๆ ปิดแทบไม่ทัน อส พวกนี้ไม่มีงานทำเหรอวะ เลยไม่รู้ว่าไม่ควรโพสรูป NSFW ในเพจสาธารณะที่คุยทั่วไป ไม่ใช่กลุ่มปิดลับ 18+
ไว้วันนึงสื่อหรือหน่วยงานรัฐมาเจอ แล้วไล่จับสื่อลามกอนาจาร กรูจะสมน้ำหน้าพวกนี้
เงี่ยนกับหัวนมตัวการ์ตูน, หัวนมตัวการ์ตูนโดนเซนแล้วโวยวาย = สวะ Loser
เรื่องเงี่ยนมันก็แน่นอนอยู่แล้ว มันอยู่ในระดับ DNA เลยนะเว้ย ไม่งั้นศูนย์พันธุ์ไปหมดล่ะ
ให้มันไม่เงี่ยนกับของจริงก่อนค่อยมากังวลเรื่องสูญพันธุ์
อส ประเด็นไม่ได้ห้าม หื่น แต่หมายถึงดูสถานที่ด้วย พวกไปลงรูปNSFW โชว์ในกลุ่มสาธารณะ นี่คงนึกว่าตัวเองเท่มาก
มึงเรียกร้องให้คนอื่นหื่นในที่สาธารณะ แต่ตัวมันเองเสือกเซนเซอร์เองกลัวโดน fb แบน โคตรลักลั่นย้อนแย้ง
บ่นควยไรกันไอ้สัส
เรื่องเซ็นเซอร์ มันก็เหมือนซื้อของได้ไม่เต็มราคามั้ง
ส่วนเรื่องแชร์อันนี้งง มึจะโยงทำไมหว่าคนละเรื่องกันเลย เพราะ fb กับ pantip มันก็มีกฏของมัน
มึงจะโยงมั่วให้โพสของในสถานที่เค้ามีกฏห้ามก็แปลกล่ะ
fb และชุมชนต่างๆ ก็ไม่มีกฎให้เซนนะ แล้วพวกมึงเซนทำไม
>>926 แสดงว่าตกภาษาไทย
https://imgur.com/hGX5zwJ
https://imgur.com/a/st6RmRM เออ ไม่ห้ามเซน
มึงมา
เอาตามตัวเลย ห้ามขาย ถึงจะเซ็นก็ไม่ผ่าน เพราะเป็นสื่อลามก ไม่ก็โดนข้อ ศีลธรรมอันดี
แต่ในความเป็นจริง ถ้าไม่จับเย็ดกันอย่างเดียว มันเลี่ยงบาลีได้ ยังไงก็ผ่านตลอด ปกไม่โป้ คนตรวดมันปล่อยหมด เพราะมันมองว่าไม่ใช่ภาพคนจริง
แล้นกม.ไทย คนซื้อไม่ผิด ตราบใดที่ไม่ใช่ สื่ออนาจาร เด็กที่เป็นคนจริง
ส่วน fb ใช้ bot ตรวจ ถึงมึง ไม่เซ็น ใช่ว่าจะโพสได้
ขนาดกูโฟสภาพรถถังที่ไม่เกียวกันเลย bot เสือกแจ้งว่ากูโพสภาพโป้ คิดดู
วันนี้หนังสือลงแถวบ้าน เวิลด์ทีชเชอร์เล่ม 2 แพงกว่าเล่ม 1 แถมบางกว่านี่มันอะไรวะ
กุนโอตะ เล่มเล็ก 280 บาทจ้า ของนกย่างดูราคาถูกเลย สัส
เพิ่งออกเล่ม 1 มึงจะแพเลยรึ สัส
ของมันห่วย จะอออต่อทำเหี้ยอะไรล่ะครัช
เห้ย สนพ.คุนตะพาบที่มีมืออาร์ทระกับโลกทำของห่วยได้ไงวะ
นับๆ ดูเละพิมแม่งแพกูไป 5 เรื่องและสัส (ไม่ออก 3 ปีขึ้นไป)
เหี้ยจริงๆ 555+
https://www.facebook.com/134310463343221/posts/2181068745334039/ ปกไม่เต็มเต็มตลาด
คุไม่รู้ คุไม่สน คุจะเอาตามต้นฉบับบับบับับับับับับับ
>>946 คนออกแบบปกให้ A+ คือ wrongdesign นักออกแบบปกหนังสือ
ไปดูที่เพจ https://www.facebook.com/wrongdesignpage/photos/
ไม่มีปกของสนพ.ที่ว่าซักเล่ม
เทรนด์ / ก็อป / รับงานไม่เผยตัว เลือกเอาสักข้อ
ก็อปมาจะได้ดูเป็นไลท์โนเวล
สายวรรณกรรมแท้ๆ ต้องคอสเพลย์ ลดตัวเองลงมาเป็น LN เพื่อหวังยอดขาย อนาถสัส 555+
เพื่อนกุบอก สายวรรณกรรมแท้จริง จบที่วัชระ (เรื่องสั้น) กับป้าไส้เดือนวนในเขาวงกต (นิยาย)
แต่ตอนนี้เป็นมือหนึ่งจากการประกวด มีสนพ.ต่อคิวให้ทำปกเพียบ คิวยาวถึงปี 2564 แล้ว
เล่มไหนถึงกุอยากอ่าน ถ้าทำปกทุเรศๆ แบบนี้กุก็ไม่ซื้อ
เวลาเถียงกันเรื่องนี้ ส่วนมากจะได้ข้อสรุปว่า ถ้าสำนักพิมพ์ที่ออกบอกว่ามันเป็นไลท์ มันก็คือไลท์
แต่คนอ่านจะยอมรับการเคลมนั้นหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ยิ่งกว่าคนเขียน ก็โคตรกูรูนี่แหละวะ
หลังๆ สาวกทิ้งไปหาโคตรกูรูตัวใหม่ (คลั่งเฟมินิสท์) แล้ว
มีภาพประกอบแนวการ์ตูนอนิเมเยอะๆ แทรกแทบทุกบทแค่นี้แหละเป็น LN
พี่เขาอยู่ในโม่งนี่ละ เคยเห็นประชดๆ คนในโม่งอยู่
นกย่างขายebookลงmebละ
เจ้าอิ่นกำลังตามมา k เขาเปิดแล้วนี่
ราคาลดจากหนังสือ 10% ไม่น่าอุดหนุนเอาซะเลย
ถ้ารู้โครงสร้างราคามัน ลดให้ 10 % นี่โคตรทุ่ม
แสดงว่าปกติ E-Book นี่แพงกว่าหนังสือเล่มอีกเหรอวะ เพราะซื้อไลท์โนเวลมันปกติก็ลด 10% เกือบทุกร้านอยู่แล้ว
ต่างกันแค่ไม่ต้องพิมพ์จริง แต่อย่างอื่น มึงจ่ายล่วงหน้าไปหมดแล้ว ตั้งแต่ LC (การันตีขั้นต่ำกี่โหลด ว่าไป ถ้าโหลดไม่ถึง มึงแบกค่า LC ไป) ค่าแปล ค่ารูป รูปเล่ม (ไฟล์ e pub)
ส่วนรายได้ มึงต้องแบ่งให้เจ้าของมาร์เก็ตก่อน (ราวๆ 30% ของปก + มีภาษีด้วย แต่มึงเคลมคนอ่านไม่ได้) ตามด้วยเจ้าของแอป (ราวๆ 20-30 % +มีภาษีด้วย แต่เคลมคนอ่านไม่ได้) เหลือเท่าไหร่มาหักลบไอ้ที่จ่ายไปก่อนหน้า (แบ่งให้ชาวเกาะครึ่งนึงของราคาปก)
สุดท้ายบางทีขาดทุนเข้าเนื้อไปอีก
อ่อ ส่วนลด 10 % มึงไปหักจากชาวเกาะไม่ได้ แบกเองเต็มๆ
ค่า platform มันก็พอๆกับค่าสายส่งปะวะราวๆ 30% ถูกกว่าหน่อยสำหรับบางเจ้าด้วย มันไม่ได้หักซ้ำซ้อน
ยกเว้นว่าเมิงไปกดซื้อผ่าน in-app purchase ผ่าน app store อันนี้แพงแน่ แต่ถ้ากดซื้อผ่านหน้าเวบ มันไม่หักไรเพิ่มแล้ว
ราคาไม่ดึงดูดยอดขายก็คง....
กดราคาไม่ลง ตราบใดที่ชาวเกาะยังอยากได้ 30%*1000 โหลดเป็นอย่างน้อย
กุสมมติปกละ 100 มึงต้องแบก LC 30,000 บาทไปก่อนไม่รวมค่าแปล ค่ารูป ค่าจัดหน้า epub (เว้นแต่นักแปลทำให้มึงฟรี ซึ่งในโลกนี้คงไม่มี อย่างมากทำให้มึงแค่ word)
กูตีเบาะๆ ต้นทุน = 100,000 บาท/ปก
กูให้ส่วนแบ่งจาก meb = 50 % = 50 บาทเลย (จากปก 100 บาท ซึ่งจริงๆ ไม่ถึง)
แปลว่า มึงต้องได้อย่างน้อย 2,000 โหลดถึงเท่าทุน (ซึ่งถ้า 2,000 โหลด มึงก็ต้องจ่ายชาวเกาะเพิ่ม เพราะเดิมการันตีที่พันโหลด = จ่ายเพิ่ม 30000 บาท ซึ่งมึงก็ต้องหาโหลดให้ได้อีก 600 โหลด แล้ววนลูป จ่ายเพิ่มให้ชาวเกาะ หาโหลดเพิ่ม จ่ายเพิ่ม ไปเรื่อยๆ)
e book ยังไม่เกิดแน่ๆ แบบนี้ เชื่อกุ
ค่า platform น่าจะแพงกว่านั้นมั้ง เผลออาจจะเป็น 40%
ส่วนปรกติ ดิจิตอลถ้าเป็นของ ตปท. ราคาก็ไม่ถูกเท่าไหร่นะ เน้นความสะดวก แต่ในตลาดไทยจะเข้าใจผิดไหมวะนั่น
ในไทย
e book = สแกน
>>984 MEB เก็บประมาณ 30%
สายส่งทั่วไป 30-50%
กรูไม่มีตัวเลขปัจจุบันนะ อ้างอิงตัวเลข mebจาก
https://www.readawrite.com/?action=agreement_of_payment
กรูหมายถึงถ้าหนังสือกระดาษลดได้ ebook มันก็ควรลดได้ไม่น้อยกว่ากัน เพราะค่าใช้จ่ายอื่นๆมันก็พอๆกัน ได้เปรียบตรงไม่ต้องเสี่ยง stock อาจจะมีกังวลเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ง่ายขึ้นหน่อย
ไหนโม่งบอกว่า vbk ฟื้นตัวกลับมาได้เพราะอีบุ๊ค?? (ช่วงที่มันเป๋ ออกหนังสือเล่มไม่ได้ไปพักนึงเลยอะ)
วงในโทรมาเม้งว่า แปลรูปจัดเล่ม = 10 % นั่นมันคอมิคโว้ยยย ถ้านิยาย ต้อง 15 % ขึ้น
อ้าว กุจะรู้เรอะ ออฟฟิศกุเน้นทำคอมิคเว้ย
ยางในมากับเพียบแต่กรูแปลกใจตัวเลข lc ebookนะถ้าเป็นมังงะกรูพอนึกออกเพราะอาจกลัวละเมิดลิขสิทธิ์ง่ายกว่า แต่นิยายน่าจะยากกว่านะคนละภาษาอีก หรือว่าเพราะไม่คิด% จากยอดพิมพ์ เลยคิดเผื่อมาเลย?
** ปล. กุพูดเฉพาะคอมิค ฝั่งนิยายกูไม่รู้
*** ปล.2 อันนี้เฉพาะลิขสิทธิ์ e book อย่างเดียว ตัวเล่มไม่เกี่ยว
ทำไมที่โม่งคุยเรื่องสัดส่วนราคาอีบุ๊คกันศิวิไลซ์กว่าพันทิปอีกวะ
ทางโน้นแม่งพูดกันทีไรจะมีไอ้พวกกูรูขี้มั่วกลุ่มนึงคอยออกมาเถียงตะแบงว่ามันต้องราคาถูกแบบนั้นแบบนี้
ตราบใดที่พวกคุคิดว่า e book = pdf = สแกน = ฟรี (หรือถูกๆ)
e book ไม่มีทางเกิดในบ้านเมืองนี้
Ebook foreverrrr
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.