Last posted
Total of 1000 posts
*แก้ๆ อนิเม rezero ใช้เวลาฉาย 6 เดือน เนื้อเรื่องถึงเล่ม 9
6 เดือน มึงปั้มได้ 3 เล่มก็เก่งแล้ว
https://m.facebook.com/zenshucomic/photos/a.10150233886782007/10155962451007007/?type=3&source=57&ref=bookmarks
จอมมารแม็คก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร มึงช่วยเร่งสปีดออกทีเถอะ
ตอนนี้รับเงินค่าแปลมาแล้วสามแสนสี่ เกิดความแตก เขาไม่จ้างต่อ มึงรับผิดชอบมั้ย ซีรีย์ที่แปลอยู่ยี่ มีอีก 10 กว่าเล่มนะมึง นี่ยังแปลได้ไม่ถึงครึ่ง
ครับ กลัวคนรู้แต่บอกรายละเอียดซะขนาดนี้ อิอิ
ส่วนของนกย่างที่ต้นฉบับจบไปแล้วและเป็นเมะอยู่ตอนนี้หาไม่เจออะ
z มันไปเน้นขายตูนเกย์แล้ว 555
Z ของกูท่าจะอีกนาน เหลือ โอเระกะอิรุ เฮวี่ออปเจค อามากิ โดยเฉพาะเรื่องกลาง ชักจะดองนานเกินไปละ จอมมารร้านแมกเคยคิดจะซื้อ แต่หาเล่มแรกไม่ได้เลยปล่อยไปละ
Z นี่หลังๆเอา BL เข้ามาเยอะสัด
GL นี่รู้สึกเป็นลูกเมียน้อยไปเลย
ของ limited หนึ่งเดียวไปโผล่ร้านนายอินทร์เว้ย มึงปั้มเพิ่มรึขายไม่หมดวะ ?
https://www.facebook.com/groups/1708452006110120/ นักแปลกับ บก. ต้องทำงานหนักกว่าเดิมแล้วล่ะมั้งเมื่อนักอ่านสมัยใหม่เริ่มไม่รู้จักสำนวนไทยพื้นๆ =o=
นิยายมีส่วนช่วยยกระดับความรู้ด้านภาษานา
การศึกษาไทยก็ส่วนนึงแต่พวกนี้มันอยู่ในกลุ่มของคนอ่านหนังสือ อย่างน้อยๆก็น่าจะได้เจอสำนวนอะไรเทือกนี้บ้างนะ
กูว่ามันโง่เองมากกว่าการศึกษามีปัญหานะ วันๆ มัวแต่ทำตัวเป็นคุ ความรู้เลยน้อยแบบนี้
ไม่ครึ่งต่อครึ่งเว้ย แต่อยู่ราวๆ 5คน รู้3 ไม่รู้ 2
ไม่รู้จักก็พิมพ์ในกูเกิ้ลก็ได้นิหว่า ยังมีหน้าไปแซะ โดนด่าก็สมควรและมึง
ไอ้คำที่ดราม่านี่รู้ความหมายนะ แต่ไม่เคยเห็นคนใช้มาก่อน
ขนาดกูช่วงต้นมิลเลเนี่ยมนะ ยังเคยเห็นแค่ตอนเปิดพจนานุกรมเรียน พอมาเจอคนใช้นี้ยังติดสตั้นเลย
จะว่าไป ดราม่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่
กูนึกถึงเคสที่ rose แปลประโยคนึงในอนิเมะ no game no life ว่าราชาสะตึ แล้วคนไม่รู้ว่าสะตึแปลว่าอะไร
ปกติก็ไม่มีใครอยากทำงานแปลนิยายแนวนี้อยู่ละ คนอ่านแม่งยังทำตัวเรื่องเยอะขึ้นทุกวันๆ ถึงเวลาไม่มีคนแปลให้อ่านกูจะหัวเราะให้
งานหนังสือที่ผ่านมา ค่ายใหญ่บิ๊ก 4 ออกหนังสือลดลงทุกค่าย ส่วนค่ายเล็กๆ ออกหนังสือเพิ่มทุกค่ายเลยว่ะ ? ทั้งๆ ที่เป็นงานโกยเงินครั้งสุดท้ายที่ศูนย์สิริกิติ์.....
สถานการณ์แบบนี้หมายความว่าอะไร?
หรือจะมีการเปลี่ยนแปลงในก๊วนบิ๊ก 4 ?
หรือบิ๊ก 4 ได้กลิ่นอะไรมา ?
-ถึงจุดอิ่มตัว ?
-เงินไหลไปลิมิตนกย่างกับปกลิมิตของหนึ่งเดียวกับ GB หมด ?
-เทคาโด ?
-ถอดใจ ?
-เงินหมด เอาไปทำยังอื่นดีกว่า ?
-คนอ่านเท ?
เอาสักอย่างสิเว้ย
แนะนำให้ใส่ดอหจันหรือเชิงอรรถไว้ด้วยครับครั้งต่อไปจะได้รู้ความหมาย ขี้เกียจหาข้อมูลครับ
ที่กุมีข้อมูล
รอบนี้ LP กินขาดทุกค่าย ฟันเงินเละเทะ สูงสุดเท่าที่ออกบูธมา เป็นเงอน 8 หลัก
คิวล้นแบบนั้น กุคงเชื่อละ
>>537 ทำไงได้ เด็กโง่ๆมีเยอะนี่หว่า ที่พวกมโนมันชอบLNกันก็เพราะมีภาพกับอ่านง่ายนั่นแหละ บางคนแม่งเพิ่งมาเริ่มอ่านอะไรแบบนี้กันไม่ถึงปีเลย ยิ่งมาเปิดโลกด้วยLNก่อน อ่านงานที่ใช้ภาษาดีหน่อยก็ไม่รู้เรื่องแล้ว สำหรับพวกมันแค่อ่านรู้เรื่องกับมีภาพก็พอ พวกศาสดานักแปลอากู๋ถึงมีกันเกลื่อน
คิวล้น พรีเมี่ยมหมดก่อนงานเหมือนปีก่อนๆ
ได้ยอดน้อยกว่าปีก่อนๆ กุคงเชื่อละ
ถ้ากูเป็นไอ้หมอกูจะอยู่เงียบๆ ไปวะ ไม่ต้องประกาศโชว์โง่ก็ได้มั้ง
เรื่องไม่รู้ก็ไม่ผิด เป็นที่รูปแบบการศึกษาที่เปลี่ยนไป(ไม่รู้จะโทษใครถ้าระบบการศึกษาปกติไม่สอน) แต่มาเถียงข้างๆคูๆว่าไม่ควรแปลแบบใส่สุภาษิต คำพังเพยมา อันนี้กรูว่าไม่ใช่แล้ว
ถ้าต้นฉบับมันใช้สำนวนสุภาษิต คำพังเพยญี่ปุ่น ก็ควรจะแปลมา ไม่ว่าจะแบบวิธีแปลตรงๆแล้วเชิงอรรถอธิบายคำพังเพยญี่ปุ่น(อันนี้ก็ถือว่าได้เรียนรู้สำนวนภาษาญี่ปุ่นไปด้วย) หรือ localized ให้เป็นคำพังเพยของไทยที่ความหมายใกล้เคียงก็ได้ แต่ไม่ใช่ถอดความมาเป็นรูปประโยคแบบธรรมดา ไม่งั้นกลายเป็นไม่เคารพผู้แต่งไปเสียอีก
แต่จริงๆศัพท์แค่นี้ไม่ได้ลึกอะไรเลย ไม่งั้นไปอ่านนิยายไทยอื่นๆที่ดังระดับไปทำละครทีวี คงอ่านไม่รู้เรื่องกันหมด หรือว่าเอาแต่อ่านนิยายในเนทสำนวนเด็กม.ต้นหรือพวกนิยายแปลสำนวนอากู๋ซะเคยตัว?
>>542
【การแปลสำนวน-สุภาษิตญี่ปุ่น】
วันนี้ผมขอพูดถึงเรื่องหลักทฤษฎีการแปลสักหน่อยครับ
สำนวน-สุภาษิตเป็นหนึ่งในเรื่องที่ยากที่สุดของการแปล เพราะสำนวนมักจะมีความเกี่ยวพันกับวิถีชีวิตภายในสังคมรวมถึงประเพณีและวัฒนธรรมของชาตินั้นๆ ถ้าเลือกใช้คำศัพท์ไม่ถูกต้อง อาจจะทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดเพี้ยนได้
เนื้อหาต่อไปนี้สรุปมาจากหนังสือ <แปลญี่ปุ่น-ไทย (เบื้องต้น)> ของ <ดร.สมเกียรติ เชวงกิจวณิช> ใครสนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ของสำนักพิมพ์สสท.ภาษาและวัฒนธรรม หรือหาได้ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปครับ
===================
จากหนังสือ <แปลญี่ปุ่น-ไทย (เบื้องต้น)> สรุปได้ว่ามีกลวิธีการแปลสุภาษิต 4 เทคนิคดังนี้
➡️ 1. การแปลแบบตรงตัว
ถ้าบทแปลสุภาษิตญี่ปุ่นตรงกับภาษาไทยและมีความหมายเท่าเทียมกัน ให้แปลแบบตรงตัวได้เลย เช่น
> 「火に油を注ぐ」
hi ni abura wo sosogu
เติมน้ำมันเข้ากองไฟ
> 「足ることを知れ」
taru koto wo shire
จงรู้จักพอ
> 「百聞は一見に如かず」
hyakubun wa ikken ni shikazu
ฟังร้อยหนไม่สู้ดูหนเดียว
(สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น)
===================
➡️ 2. การแปลแบบเทียบเคียง
คือการแปลโดยใช้สุภาษิตไทยที่มีความหมายเหมือนหรือคล้ายคลึงมาเทียบเคียง ยกตัวอย่างเช่น
> 「一石二鳥」
isseki nichou
แปลตรงตัว: หินหนึ่งก้อน นกสองตัว
สำนวนไทย: ยิงปืนนัดเดียว ได้นกสองตัว
> 「猿も木から落ちる」
saru mo ki kara ochiru
แปลตรงตัว: แม้แต่ลิงก็ตกจากต้นไม้ได้เหมือนกัน
สำนวนไทย: สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
> 「泣きっ面に蜂」
nakittsura ni hachi
แปลตรงตัว: ผึ้งบินชนหน้าตอนร้องไห้
สำนวนไทย: ผีซ้ำด้ำพลอย
กลวิธีนี้มีข้อควรระวังคือ ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าความหมายโดยตรงและความหมายแฝงของสุภาษิตทั้งสองภาษาตรงกัน และต้องระวังคำภาษาไทยที่แปลกแยกจากวัฒนธรรมญี่ปุ่น (เช่น 'ปิดทองหลังพระ' ไม่ควรใช้สำนวนนี้เพราะชาวญี่ปุ่นไม่นิยมการปิดทองบนองค์พระ)
===================
➡️ 3. การแปลแบบขยายความ
เป็นการแปลแบบตรงตัวตามต้นฉบับ แล้วตัด เพิ่ม หรือปรับสำนวนเพื่อให้ผู้อ่านชาวไทยเข้าใจได้ง่ายขึ้น เช่น
> 「明日は明日の風が吹く。」
ashita wa ashita no kaze ga fuku
พรุ่งนี้ก็จะมีลมของวันพรุ่งนี้พัดมา อนาคตเป็นเรื่องของอนาคต
การเลือกใช้กลวิธีนี้ ต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าคำศัพท์หรือสำนวนที่เพิ่มมานั้นเหมาะสมกับบริบทหรือไม่ และบทแปลที่เสริมมาต้องไม่เยิ่นเย้อเกินไปจนเสียอรรถรสของความเป็นสุภาษิต
===================
➡️ 4. การแปลแบบตีความ
เป็นการแปลอธิบายโดยใช้ประโยคภาษาไทยที่ผู้อ่านชาวไทยสามารถทำความเข้าใจได้ง่าย โดยอาจจะใช้คำจากสุภาษิตต้นฉบับเพียงเล็กน้อยหรือไม่ใช้เลยก็ได้ เช่น
> 「金は天下の回りもの」
kin wa tenka no mawari mono
เงินทองเป็นของไม่แน่นอน
แต่วิธีนี้อาจจะทำให้เสียอรรถรสของสุภาษิตต้นฉบับ ดังนั้นควรใช้เมื่อไม่สามารถปรับบทแปลได้จริงๆ เท่านั้น
===================
[หนังสือแนะนำ]
แปลญี่ปุ่น-ไทยเบื้องต้น (ฉบับปรับปรุง)
เขียนโดย ดร.สมเกียรติ เชวงกิจวณิช
https://www.tpabook.com/product/แปลญี่ปุ่น-ไทยเบื้องต้น/
เครดิท เพจ kagami translation
คือ หลักการมันมีอยู่แล้วว่ะ
>>543 หลักการข้อ4 มีเพราะมันอยู่ในรูปแบบที่เป็นไปได้ทั้งหมด(คงยกเว้นเรื่องตัดทิ้งหรือไม่แปลดื้อๆ) แต่วิธีนี้มันทำให้เสียอรรถรสมากกว่า และในบทความก็เขียนไว้ว่า ควรใช้เมื่อไม่สามารถปรับบทแปลได้เท่านั้น แสดงว่าปกติกฺ็ไม่ควรใช้กัน
ลองนึกถึงนิยายที่ใช้สำนวนมากๆแบบ Lord of the ring ถ้าแปลไทย ถอดความแบบทื่อๆไม่มีการเล่นคำ หรือแต่คำคล้องจองเลย ความสนุกมันหายไปเพียบ โดยเฉพาะบางประโยคที่เป็นวาจาสิทธิ์และกลายเป็น plot twist ทีหลัง(ไม่ spoil แต่คนเคยอ่านน่าจะนึกออกว่าหมายถึงประโยคไหน)
ด่าไดโนเสาร์ว่าเป็นพวกล้าหลังขี้เกียจหาข้อมูล
แต่เจอสำนวนแปลกๆหน่อยก็ด่าว่าทำไมต้องให้มาหาคำแปลอีก :)
นักแปลอย่างเราเหนื่อยใจในความเบาปัญญาแถมหัวร้อนไม่เข้าท่าของนักอ่านเหลือเกิน
ยังอ่านนิยายแปลไทยกันอยู่อีกหรา
กูเกลียดโครตๆเวลาอ่านเจอผู้ชายเรียกผู้หญิงว่านาง
นึกว่าตั้งบ่นในกลุ่มมโน ความต่างระหว่างวัยหรืออะไร
นี่กลุ่มมโนสาขา2ป่ะคับ หัวข้อสนทนาไม่ต่างกันเลย
หล่อนถ้าเป็นบุรุษที่ 3 โอเคนะ แต่ถ้าบุรุษที่ 2 ก็แปลกๆอยู่ที่ผู้ชายจะใช้
เจอพวกที่เรียกผู้ชายปกติว่านางนี่กูเกลียดชิบหาย เดี๋ยวนี้แม่งใช้กันจังไม่รู้เป็นเหี้ยไรกัน
สมาทโฟนแม่งไปเล่ม 10 และ พอหันมาดูพวกที่ทำแบบเล่ม ได้แต่ถอนหายใจ
Nชิโด้ ที่ชอบก็ Gift Book Publishing เพราะสนพ.ใส่ใจคุณภาพเพื่อนักอ่าน มีมาตรฐานในการทำงานที่น่าประทับใจ สตาฟของค่ายก็น่ารักเป็นกันเองครับ
แค่กๆ
ไม่ใช่แมนก้าหรอ
งุ้งงิ้ง มันโวยวายง่ายจังวะ เห็นโวยวายเรื่องแปลกหนังสืออีกแล้ว
แปลถูก อย่าเถียงกุ
ไหนๆ ขอเผือกด้วย
ดูจากโพลมโน
นกย่างชนะใจคุไทยแล้ว
พวกโลคัล มึงแพ้แล้วละ
ในแง่คนซื้อทำไมนกย่างชนะใจ
- ราคาแพง?
ค่ายอื่นก็แพงพอกัน
- ความรับผิดชอบ?
ดีกว่าบางค่าย ลืมใส่ภาพมาภาพนึงพิมพ์ใช้ให้ใหม่ ไม่ตีเนียนเอาไปใส่เล่มสองแล้วไม่บอกว่าหน้าที่หายหน้าไหนอีกสัด
พิมพ์ผิดก็เอาออกโพสประกาศบน fb โต๊งๆ แล้วหยุดขาย ไม่ตีเนียนขายต่อแบบบางค่าย
- ความถี่ในการออก?
ถ้ายอดขายไม่ห่วยมากก็เข็นออก เรื่องไหนขายดีก็ออกถี่ ไม่กั๊ก LN ไว้ขายเฉพาะงานหนังสือ เหมือนบางค่าย
- อื่นๆ
เอาคนวาดมาแจกลายเซ็นต์ ไม่ใช่แค่ปก limited แล้วจบ ช่วงหลังของ limited แบบ limited จริงๆ ไม่พิมพ์เพิ่มก็มี
หาซื้อง่าย ไม่ปล่อยฟันหรอเหมือนบางค่าย
ส่วนกลุ่มมโนลองสุ่มๆ เอาชื่อคนชมนกไปดูช่วงงานหนังสือ จะได้คำตอบเพราะบางตัวก็ลูกค้าชั้นดีซื้อทีเยอะแทบทุกค่าย ดังนั้นมันจะชมนกย่างก็ไม่แปลก เพราะได้อ่านเล่มต่อไว
Z ยังได้ใจกุมากกว่าอยู่ว่ะ
ในแง่คนซื้อทำไม Z ชนะใจ
ขายถูกกว่าเยอะ ภาพเบลอภาพแตกก็พิมพ์ใหม่แก้เอาไปเปลี่ยนได้ เรื่องที่ไม่ได้ดังก็กัดฟันออกจนจบมาหลายเรื่องแล้ว ออกนอกงานสม่ำเสมอ ปกlimited พิมพ์เท่าไรก็เท่านั้นจริงๆ ไม่มีปั็มเพิ่ม
อีเรื่องอวย สนพ เนี่ย จะว่าดีก็ดี มันคือการคุยแง่เชิงบวก แต่มันน่าเบื่ออะ ของพวกนั้นเอาไปคุยที่พันทิพก็ได้ ไปอวยในเฟสในเพจก็ได้ มันไม่มีอะไรเสียหายเลย แต่ในสังคม anonymous อย่างโม่ง นินทาเบื้องหลัง เอาเรื่องเหี้ยๆมาแฉ มันคุยสนุกกว่าเยอะ
ใครมันจะสู้ Z ที่แถมสติ๊กเกอร์แปะแก้ (ไอคอนตามในเล่ม) ได้ล่ะ
แต่มองแต่ด้านเหี้ยๆ อย่างเดียวก็ไม่ถูก มันควรมองให้รอบด้านและสัมพันธ์กันด้วย อย่าง Z ก็มีด้านเหี้ย แต่รวมแล้วดีกว่าค่าย 1 2 3 ไรงี้ ไม่ใช่ดีก็ดีหมด เลวก็เลวหมด
ทุกอย่างมันมีทั้งข้อดีข้อด้อย แต่ในแง่เวลาอยากหาเรื่องคุยจากมุมมองผู้บริโภค คุยด้านเสียมัน สนุก/มันส์ กว่าด้านดีว่ะ
ก็อารมณ์เดียวกับเวลามึงจับกลุ่มนินทาเพื่อน นินทาแฟน หรือ คุยประเด็นสังคมประเด็นบ้านเมืองนั่นแหละ
คนประเภทเดียวที่คุยแต่เรื่องดีๆไม่แตะเรื่องแย่ๆ มีแต่หน้าม้าเท่านั้นแหละ
>>593 เรียกว่าคนไม่ดี/คนเหี้ย กุไม่ตอแหลไม่ดัดจริตอะ ก็ยอมรับตรงๆอยู่นี่ว่านิสัยไม่ดีชอบนินทา
ที่ดีมันก็ดีอยู่แล้ว ก็ไม่เข้าใจว่าจะอวยหนักๆไปทำไม นกย่างชนะอย่างโง้นอย่างงี้แล้วเอย อยากชมมันก็ไปชมที่เพจมันให้คนเห็นเยอะๆ สนพ ก็ได้ภาพลักษณ์ดีไปด้วย จะทำอย่างมากก็มาโยนลิ้งมาแจ้งข่าวว่านกมันให้เปลี่ยนที่เสียแล้วนะไปเปลี่ยนได้ จบแค่นั่นพอ อารมณ์แจ้งข่าวเหมือนตอนมีLCใหม่อะ
กลับกันเวลาจะด่าจะนินทา มึงไปทำที่เพจที่เฟสแรงๆได้ปะละ กล้าออกตัวแรงจัดๆให้คนมารุมมั้ยละ
ก็ใช้ platform ให้มันเหมาะสมสิ
อ่อ แค่หมั่นไส้คนชมนกสินะเลยพยายามอวยz มาข่ม ถถถ กุนึกว่าอยากพูดถึงเรื่องแง่ดีของสนพ. ซะอีก ทำไมชมนกย่างแล้วมันถึงจะเป็นจะตายขนาดนั้นหว่า???
>>596 ไม่ได้จะข่ม ก็แค่รำคาญการอวย เลยชม สนพ อื่น ด้วยหัวข้อแบบเดียวกัน แต่เลือก Z มา
อีข้อเสียของ Z ทำไมจะไม่มี กุไม่เคยลืม ฮาคุโร่ นะมึง
>>597 ถ้าจะวิเคราะห์ด้านดีด้านเสีย คนเปิดประเด็นก็ยกมาทั้งสองด้านดิ แต่นี่เห็นมีแต่อวย ซึ่งส่วนตัวกุไม่ชอบการเอาแต่อวย ก็บอกแล้วว่ากุนิสัยไม่ดี
-อวยอย่างเดียวนี่เห็นแล้วรำคาญ
-ด่าอย่างเดียวนี่เฉยๆรู้สึกสนุกดี
-ด่าและอวยไปพร้อมกันนี่ถือว่าไม่มีปัญหาคุยด้วยได้
พวกมึงเดินทางสายกลางไม่เป็นเหรอ สุดโต่งจัง
>>601 กูคนละคนกับ >>600 เฟร้ย อย่าพึ่งหัวร้อนเห่าไปทั่ว - -
อ่าน >>582 ดีๆ
แล้วกูตอบสาเหตุว่าทำไม นกย่างถึงชนะใจ ในความหมายของกลุ่มมโนเองนะ จริงอยู่ที่กูแอบด่าค่ายอื่นหน่อย (แต่พูดความจริงนะ) มึงอย่าพึ่งรับไม่ได้ดิ้นแหงกๆ จิ แค่พูด วิเคราะเหตุของคำถามข้างบน ไม่ทำให้ผื่นขึ้นซักหน่อย จะบ้าเรอะ
อ่อ แล้วกูไม่ได้ซื้อค่ายเดียวนะ z กูก็ซื้อหลายเรื่องเลยล่ะ แล้ว d , lp , a , fp , gb , bk กูก็ซื้อ
ส่วนตัวแล้วจะค่ายไหน ออกเรื่องกูตามอยู่ หรือสนใจก็ซื้อ ไม่ซีเรียสจะเป็นจะตายว่าค่ายไหนได้ไปหรอก
เรียกร้องอยากได้ e-book นกย่างก็จัดให้ จะได้ใจคุมโนก็ไม่แปลกวะ
นกย่าง จากโดน social bullying จนตอนนี้ชื้อใจคุมโนเฟื่อง ได้ ไม่ธรรมดา
https://www.facebook.com/FirstPagePro/photos/a.767667396579208/2423431821002749/?type=3&theater
อ่านรีวิวของหนึ่งเดียวแล้ว ไม่จริงใจเลยวะเขียนอวย ไม่ได้มีความเป็นกลาง
แค่พวกมึงพูดถึง แชร์ลิงก์มา ก็คุ้มค่าเงินที่จ่ายแล้ว หนึ่งเดียวไม่ได้กล่าวไว้
https://www.facebook.com/groups/1708452006110120/permalink/2288314561457192 ไม่ซื้อตอนออกก็จบเห่ กดของแพงไป
LC ใหม่นกย่างวันนี้ ทำไมมีแต่คนรู้จัก มันมีแปลไทยในเนตมาก่อนเรอะ?
คนแต่งอังกอไง กุขอผ่าน
อังกอกุโอเคนะ อ่านได้เรื่อยๆ
แต่ส่วนตัวกุเซ็งนก คือหนังสือของนกที่กุซื้อเนี่ย 4 เรื่องดอง (อาดาจิกับชิมามุระ, พาลาดิน, ซากุระโกะ, ทาบิโตะ)
รอดเรื่องเดียวที่ไม่ดองคือ 86 อ่ะ 55555
อันนี้กูลองวิเคราะห์ดูนะ
ซากุระโกะ น่าจะยังเข็นปีละเล่มไหว ถ้ามันไม่เอาอันอื่นมายัดเต็มโคต้างานพิมพ์นะ
อาดาจิกับชิมามุระ อันนี้เหมือนงานทดลอง ว่าเอา novel girl's love มาจะขายได้ไหม แล้วก็แป๊กแบบไม่แปลกใจซักนิด
เรื่องนี้ถ้ามันเอามังงะเข้ามาคนคงซื้อจนปั้มเล่มต่อได้อยู่นะ แต่ novel แนว girl's love นิดๆ มุงมิ้งหน่อยๆ ในไทยมันขายไม่ได้ มันต้องแนวดิบๆ มาม่า hardcore บรรยายฉากเย็ดถึงพริงถึงขิง ไปเลยนั่นล่ะถึงขายดี
พลาดิน กูว่ายอดสาหัดอยู่นะ
ทาบิโตะถ้าปกมันดูดีกว่านี้คงขายได้มั้ง แต่โอกาสพิมพ์เล่มใหม่ยังไงเรื่องนี้ก็มากกว่า พลาดินอยู่ดี
แต่สุดท้ายแล้วตลาดคุไทย ต้องพวก พระเอกเทพ ต่างโลก ฮาเรม และใส่ความโม่ย เข้าไปเยอะๆ หน่อย ประมาณนี้ถึงขายดี ไม่งั้นยากที่จะออกเล่มต่อ
โนเบิลวิทกูละ
น่าเสียดายแนวอื่นๆนะ แถมคนอ่านตลาดไลท์โนเวลแนวคุๆยังขยายไปอ่านแนวอื่นยากด้วย
เรามาหาเพื่อนให้ได้ 3000 คนกันเถอะ!!
สมาชิกหมื่นสี่ ที่ลงขันกันได้ไม่ถึง 300 มึงคิดกันเองเหอะ
ก็กลุ่มเดียวกับที่โม่งบอกว่านกย่างซื้อใจได้สำเร็จ ขายดิบขายดีอะ
ซื้อนกย่าง 100 คนจากเมมเบอร์ที่ active 300 ถือว่า success แต่ถ้ามึงไปหารหมื่นสี่ถือว่าล้มเหลว
เออ เมมเบอร์ที่แอคทีฟมีไม่เกิน 300 เชื่อกุ มึงลองลงขันดูสักเรื่องก็ได้ เอาแบบจ่ายตังค์ก่อนนะ
>>636 แอคทีฟในแง่แสดงความเห็น อ่านสปอยอ่านสแกนนี่เกิน 300 เอาจริงๆคือแตะหลักพันชัวร์ๆ เมื่อดูจากยอดวิวตามแอพดูเมะต่างๆ
แต่ถ้าแอคทิฟในแง่จ่ายตังค์นี่ก็อีกเรื่อง
กุนี่นึกถึงตอนเรียนทำวิจัยเลย ถ้ากลุ่มตัวอย่างแม่งเหี้ยแบบนี่ ปวดหัวตายห่าเลย เงื่อนไขลูกค้าตรงกับที่ต้องการ (อายุ ความสนใจ) ถามอะไรตอบชอบตอบโอเค ถึงเวลาจริงไม่จ่าย อีสัส แล้วจะวางกลยุทธ์การขายได้ยังไงฟะ
>>637 ดูข้อมูลได้อยู่นะแต่วิธีแบบทำวิจัยแบบถามตอบ มันใช้จริงไม่ได้จนบริษัทสื่อโฆษณาเลิกใช้กันหมดแล้ว ปัจจุบันใช้ temperature map จับเอา ถึงจะแยก ประเภท หมวด ที่สนใจจริงได้
ดักแบบ มีคนเปิดดูหน้านี้กี่นาที แล้วเรื่องนี้อยู่หมวดอะไร ถ้าปล่อยนานหน่อยก็เพิ่มคะแนน มี limit รายบุคคล แล้วหาค่าเฉลี่ย
แต่รสนิยมหลังๆในกลุ่มมันก็ตรงนะ อย่างไอ้จอมมารเกิดใหม่นี้รสนิยมตรงกับกลุ่มคุมโนเลย
พวกมึงนี่ดิสเครดิตกลุ่มมโนทำหยัง ?
FP GB นกย่าง ดูโพลที่นี่ก็ซื้อ LC นะมึง (แต่นกย่างกุไม่ค่อยชัวร์น่ะ)
พวก บก เค้าชอบบอกว่าเลือกเองไม่ได้ดูโพลมโน ไม่ได้ดูความนิยมจากเวบแสกนนะ ไม่เชื่อเขากันเรอะ
ต้องถามว่า โพลมโนเรื่องไหนยังไม่ lc ดีกว่า ไอ้โพลชุดแรกๆ lcเก็บไปหมดแล้ว
>>642 มันก็วนลูปไง
เรื่องดังๆบนเกาะ ติดอันดับขายดี คุมโนก็สนใจ ทำ poll ได้เยอะ
ค่าย LC ก็เลือกเรื่องดังๆบนเกาะมาขายเพราะมีโอกาสขายได้มากกว่า มันก็ตรงกับผล poll ซะเยอะ
ก็เคลมเครดิตกันไปมา
แต่หลายเรื่องแม่งแบบผลโพลเพิ่งออกไม่ถึงเดือน แล้วประกาศ lc พร้อมขาย อันนี้จะอ้างว่าเลือกเพราะผลโพลก็คงแปลกไปเพราะมันไม่ทันใจขนาดนั้น
กุนึกถึงเคสมังงะเหมาๆ Lคงซื้อมาเพราะยุ่นบอกว่าเรื่องนี้กำลังดัง ตอนติดต่อซื้อมันอาจจะยังไม่รู้ตัวว่ามีอีกเวอร์ชันที่ภาพสวยกว่าและกำลังได้ความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงเวลาที่กำลังเจรจาดีลกันอยู่
พอได้LCมาก็เอวังอย่างที่เห็น
ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นหว่า มีคนตามหา LN ของ LP เล่มเก่ารัวๆ เห็นมาตามหาหลุยส์ 0 กันหลายคนล่ะ
กุไม่เข้าใจว่าทำไมคนมาตามหากันตอนนี้ ทั้งๆ ที่ตอนมีข่าวคนแต่งตายใหม่ๆ พวกมึงถึงพร้อมใจกันเทนิยายแม่ง ด้วยเหตุผลว่าคนแต่งตายไปแล้ว
-โพลขายดีของ Z มี sao ติดตลอด บอกขายไม่ดี
-โพลขายดีของ L ไม่มีหลุยส์ติด บอกขายดี
อืม กุถือว่าพูดเอาประชดละกันเนอะ
วัดจริงๆเปิดตัวเลขเลยดีกว่ามั้งถ้าจะเทียบงั้น
L มันพิมพ์น้อยมาตั้งแต่ตอนไหนวะ หลังๆแม่งหมดอย่างบ่อย
>>659 พิมพ์น้อยๆ ขายขาดทุน มึงทำไปทำไมวะ ยอดแม่งต้องสวยหรูแน่นอน ถึงออกต่อได้
มึงอย่าลืม นี่คือค่ายจอมแพอันดับหนึ่ง ถ้ายอดแม่งเน่าจริง มันก็แพไม่ออกเล่มต่อได้นี่
แต่นี่ .......
ดังนั้นกูเลยเชื่อว่าเรื่องนี้ขายดีมาก พิมพ์ไม่ทัน ขนาด SAO ที่แน่ๆ ยังไม่เคยขาดของขนาดนี้ (ทั้งๆ ที่ SAo พิมพ์ครั้งเดียว แต่ของไม่เคยขาด)
โดนยัดมา ขืนมึงดองก็ยิ่งจมทุนสิวะ ธุรกิจนะมึง จะซื้อมาดองเพื่อ ?
หลุยส์พิมพ์มา1000 ขายได้1000 ของมันก็หมด
saoเป็นตัวท๊อปสุดของเดงเกคิ เลยเก็งไว้พิมพ์มา2000 ขายได้1800 ของเลยยังเหลือ
เมื่อเทียบกันคือขายได้มากกว่าถึง 800 ตีความว่าขายไม่ดี เอาที่สบายใจเลย
GGO ได้ทำเป็นเมะ abecเป็นนักวาดที่ได้ติดโพลอันดับสูงๆ โดนมองว่าเป็นของยัดยกเข่งมา เอาที่สบายใจเลย
ในเมื่อเอาคุเพจมโนมานินทาในโม่งได้ จะมีสมาชิกในนั้นมามโนที่นี่ต่อก็ไม่แปลกใจ
กูก็สงสัยนะมันพิมพ์saoเล่ม1นี้กี่หมื่นเล่ม มตนถึงขายยันตอนนี้ไม่พิมพ์ใหม่สักที
เออถึงเห็นด้วยไงว่าขายดีไม่มีกางตัวเลขดูดีกว่าให้จะๆไป กุเดาว่าSAOที่เหลือๆน่าจะพิมพ์มาเยอะอยู่แหละ ที่สงสัยตอนนี้คือLเดี๋ยวนี้มันพิมพ์ทีละเท่าใหร่ดีกว่า แปปๆหมด แปปๆหมดเนี่ย
ถถถ
มีคนมองออกด้วยเว้ย
มีสองประเด็น
1.มันขายดีจริงรึ ?
1.1 มึงเชื่อบก.หมีว่าขายดีจริงรึ ?
2. มันพิมพ์เยอะมากมายมหาศาลจริงรึ ?
>>673 1.1 ตัด บก หมีไป กุไม่รู้จักมัน ไม่ได้ตามเฟสมัน ไม่สนใจ
1. ขายดีจริงมั้ย กุว่าขายดี เพราะ ไม่งั้นมันโดนดองไปแล้ว เรื่องอื่นในค่ายมันหลายเรื่องที่เป็นตัวรองไม่ได้ออกถี่เท่า sao
2. กุว่ามันพิมพ์เยอะจริง เพราะก็อย่างที่มึงบอกว่าป่านนี้พิมพ์ครั้งที่1ยังไม่หมด
ซึ่ง... กุก็บอกไปหมดตั้งแต่แรกแล้วป่าววะ มึงย้ำถามอีกทำไม
>>676 ไม่ได้คุยเรื่องว่ามีเรื่องไหนขายดีกว่า sao อีก? ปะ ไม่ได้จะว่าหลุยมันไม่ใช่เรื่องขายไม่ดีด้วยนะ แต่คุยกันแค่ว่า sao เข้าข่ายเป็นเรื่องขายดีใช่หรือไม่? ปะตามข้อ1อะ
ในส่วนข้อ2 ก็เหมือนมึงบอกกลายๆไปแล้วว่ามันพิมพ์มาเยอะเกิน optimize เลยขายไม่หมดสักที กุก็พูดไปแล้วว่าใครๆเขาก็มองจุดนี้ออก แล้วมึงต้องการอะไรกันแน่วะ?
กุแค่บอกว่า ถ้ามึงวัดจากความถี่ว่าเป็นตัวขายดี
สาวน้อยวรรณกรรมออกถี่กว่าอีก แปลว่าขายดีกว่าสิวะ ?
ประเด็นคือความถี่อาจไม่ได้ตัววัดความขายดีด้วยซ้ำ ออกถี่ๆ อาจแปลว่าต้นทุนถูก พิมพ์แม่งให้หมดไปเร็วๆ ก็ได้
ประเด็นของกุอยู่ที่ ถ้ามันขายดี มันต้องหมดสักเล่ม ถ้ามึงบอกแม่งประเมินผิด เล่มต่อๆ ไปมึงพิมพ์น้อยลงก็ได้นี่หว่า แต่นี่ sao มียี่สิบปก ไม่เคยมีเล่มไหนพิมพ์ใหม่ แปลว่ามึงประเมิณผิดพิมพ์เท่ากันมายี่สิบเล่มเลยเรอะ !!! Mr.ลุยจิยังเลี้ยงคนประเมินผิดแบบนี้ไว้ทำไม ?
ลองเปรียบเทียบ LP ก็ได้
ของมันหมดบางเล่ม แปลว่ายอดพิมพ์แต่ละเล่มไม่เท่ากัน มีประเมิณผิดประเมิณถูก
ตัวเก่าๆ ที่มันต่อแพกลับมา บางทีก็ประเมิณผิด ของขาดก็มี แต่สิ่งนี้ไม่เคยเกิดกับ sao ที่มึงบอกว่าขายดี
>>679 กุไม่รู้ว่าลุยจิคือใคร บอสzเหรอ เรื่องเลี้ยงคนประเมินผิดไว้ทำไมกุก็ไม่รู้ ถ้ามันเป็นสิ่งที่่มึงสงสัย ก็น่าจะพูดมาตั้งแต่แรกนะว่าสงสัยเรื่องคนของ Z มันห่วย
งั้น sao คือมึงประเมินว่ามันขายไม่ดีสินะ งั้นทำไมไม่ดองสักทีวะ แล้วตกลงเรื่องไหนของ Z ที่มึงคิดว่าเป็นเรื่องขายดี? อันนี้อยากถามเป็นความรู้
Supply มันเกิน demand อยู่ แต่ที่ไม่ลองผิดลองถูกปรับลดให้พอดิบพอดี น่าจะเพราะคิดว่าจะกะเผื่อเลยไว้สำหรับลูกค้าหน้าใหม่ แบบเคสที่ตามหาหลุยส์กันอยู่ตอนนี้นั่นแหละ
มึงพูดเหมือนจะบอกว่าหนังสือที่ขายในงานหนังสือมันขายได้แย่กว่าที่ปล่อยขายนอกงานเลยแฮะ
กูสงสัยวงการนี้มันมีแบบ กูพิมพ์ไปแล้ว4-5รอบ แต่ในเล่มกูยังแปะพิมพ์1อยู่ไหม เพราะจะยื่นเรื่องพิมพ์ซำ้มึงต้องจ่ายให้ทางยุ่นเพิ่ม ซิกแซกเอาแบบนี้แม่งดีกว่า
นกย่างงานในมือมันล้นจนดองในงานหนังสือไม่ได้มากกว่านะ
แต่ก็เอาเถอะอย่างน้อยหนังสือมันก็ยังหางายหน่อย ทยอยซื้อทีละเรื่องได้
ไม่ได้แย่แบบ LP รายนั้นถ้าไม่ตามเก็บตั้งแต่แรกเล่มเก่าอย่าหวังของหมด แถมราคามือสองซักจะเริ่มปั่นกันเหี้ยล่ะ
แตกนอก sicl แพ็คลดครึ่งราคาอยู่นะฮะ
มึงรอออกครบ เล่มต้นหายแน่ๆ
กุหายไปทำงานกลับมาคุยกันไปยาว สรุปเริ่มต้นมันเรื่องอะไรแน่หว่ะ? SAO กับหลุยส์ใครขายดีกว่ากัน(?)
เออกุนึกได้อย่างนะ การที่สนพ.กะปริมาณไว้ขายได้หมดเนี่ยมันดีแล้วหรอวะ? กุว่าการพิมพ์ไว้แล้วเหลือหน่อยๆให้ตามซื้อกันได้บ้างก็ดีนะ จำได้ว่าDALมีเคยบ่นระงมว่าของขาดจนต้องรอพิมพ์ใหม่
ประเด็น 1
หลุยส์ขายดี sao ขายเน่า ดูจากของขายขาดไม่ขาด sao พิมพ์ครั้งแตก 10 ปีขายไม่หมด
ประเด็น 2
ออกถี่ = ขายดี
ดอง = ของเน่า
ดังนั้น สาวน้อยวรรณกรรมออกถี่ขายดีกว่า sao
ประเด็น 3
ออกนอกงานเพราะงานล้นมือ
ออกแต่ในงานเพราะอยากเก็บเงินเต็ม
แต่นกย่างที่งกๆ เสือกออกนอกงานมากกว่า สรุปมันไม่ได้ได้เงิน ?
แต่ sao ไม่โดนดองจะถือว่าขายเน่าถือว่าเป็นของเน่าได้อย่างไร
แล้วใครขายดีกว่ามันต้องพิสูจน์วัดที่ตัวเลขที่ขายออกไป ซึ่ง สนพ ไม่เปิดเผย ที่ยกๆมาคุยกันยืดยาวแม่งก็มโนเดากันไปให้เข้าทฤษฎีตัวเองทั้งนั้น จบได้แล้วนะพวกมึง
ขออีก1คำถามทิ้งทวน
ทำไมสนพ.ไทยไม่ชอบโชว์ตัวเลขยอดขายแบบญี่ปุ่นมั่งว่ะ นับไม่ได้? ขี้เกียดทำ กลัวสรรพากร? อิอิ
มึงจะรู้ทำไมวะ ?
ยอดขายเยอะก็พิมพ์หลายๆ ครั้งไง
ยัย0 ยอดพิมพ์หลัก 100
กุบอกให้ละ จะได้เลิกมโน
และตอนนี้ร้าน LP ที่ผ่านฟ้ามันยังอยู่ป่ะว่ะ หรือเจ๊งไปแล้ว
พิมพ์หลักร้อยน่าจะจริงเพราะมันมีโรงพิมพ์ของมันเอง ส่วนค่ายที่ไม่มีโรงพิมพ์ตัวเองไม่มีทางทำได้เพราะยอดต่ำกว่า 1000 โรงพิมพ์ทั่วไปไม่รับ ที่เห็นชัดคือลองไปดูค่ายที่ไม่มีโรงพิมพ์ตัวเองสิ เล่มเก่าที่ออกมาประมาณปีนึงส่วนมากยังพอหาของได้ทั้งนั้น แต่ LP แค่ 3 เดือนของก็หมดล่ะ ขนาดไม่ค่อยเอาไปขายร้านปลีกกับสายส่งใหญ่ๆ ด้วยนะ สำหรับค่ายนี้ง่ายๆ คือถ้าไม่ซื้อเมื่อมันออกอย่าหวังว่าจะได้อ่าน ดัดหลังพวกรอออกครบดีนักแล
พิมพ์ 3 พัน ค่าพิมพ์ 200000 ตกเล่มละ 67
พิมพ์ 1 พัน ค่าพิมพ์ 180000 ตกเล่มละ 180
พิมพ์ 100 ค่าพิมพ์ 170000 ตกเล่มละ 1700 เท่านั้นเอง
เล่ม eng ขยายเล่มทุกเรื่อง บางทีใหญ่กว่านกย่างอีก
dex ไม่มีพรีออเดอร์เดือนหน้าหรอวะ
https://www.facebook.com/groups/1708452006110120/permalink/2291108151177833/ LP มีโรงพิมพ์เอง จะรีพรินท์เมื่อไหร่ยอดเท่าไหร่ก็ได้ ยังไม่กล้าทำ เจ้าอื่นอย่าหวัง
สปอยอเวนเจอร์จะเป็นจะตาย ที่สปอยนิยาย (แบบผิดๆ ) ไม่เห็นเป็นอะไร
ใครไม่รูเกล่าว
ปั่นราคากันเองป่าว
ไอ้พวกหายากๆ นี่ถ้ามีคนแสกนแจก คนปั่นราคาจะอกแตกตายไหมวะ
ขายไม่ออก ไม่รีพรินท์ แล้วเจอสแกนแจกอีก ถถถถถ คุไทยนี่น้า
อยากรีพรินท์/ซื้อ LC เรื่องไหน หาเพื่อนมา 3,000 คนฮะ เรื่องเงียบ
ปล. 3,000 คนนั่นต้องจ่ายตังค์ด้วยนะเว้ย
gb lc เรื่องใหม่อีกแล้วแฮะ
เหยด กุมีอี 0 เล่ม 1-13 พอดีเลย กะว่าจะไปซื้อเพิ่ม เททิ้งแม่งดีกว่ามั๊ง ราคาดีแบบนี้
เททิ้วไปซื้อเรื่องอื่นยังได้กำไร
กุตะหงิดๆ หลุยส์ 0 ราคาปั่น
มีค่ายเดียวที่ปั่นราคาเก่ง ตั้งแต่สไลม์แล้ว
มโนแม่งเหมากันจนจะหมดอนิเมทแล้ว
ก่อนหน้านี้ไม่มีปั่น
เพิ่งมีปั่นช่วงสไลม์ลิมิท
นี่มันกะเล่นต่อ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2236828383048940&set=gm.2291993801089268&type=3&theater
หมดแล้ว โง่บรมทั้งกลุ่ม
>>745 เป็นเคสตัวอย่างให้คนซื้อประเภทรอออกครบได้สำเนียกกัน คือ ไอ้ประเภทไม่ยอมซื้อตอนเล่มใหม่ออก รอซื้อรวดเดียวหลายๆ เล่ม อย่าคิดว่าจะได้ของครบ แล้วไม่ง้อที่จะพิมพ์เล่มเก่าย้อนด้วย
>>747 โง่ตรงไหนโปสเตอร์ลายโม่ยๆ แค่เอาไปปล่อยต่อก็กำไรชิบหายแล้ว ส่วนในแง่คนขายดูท่าทางครั้งนี้ที่ลอกการตลาดแบบเกาะจะสำเร็จอย่างล้นหลาม ซักพักจะมีลักษณะนี้มาอีกหลายเรื่องแน่ ไอ้การขายลักษณะนี้มันต้องมีแฟนเดนตายวิ่งไปตามซื้อทุกร้านแน่
นกย่างใช้โมเดลแจกของแต่ละร้านไม่เหมือนกันแล้วใช่มะ?
ขยะวรรณกรรมก็ต้องขายขยะแบบพวกมึงนี่แหละ
หัดอัพเกรดสมองไปอ่านวรรณกรรมคลาสสิคบ้างน่ะไอ้พวกโง่ 555555
จะได้ไม่ต้องจ่ายแพง
ควยไรเสิน
กำชี้ผิดตัวซะงั้น
ของแถม โปสเตอร์ นมๆหีๆ ชอบกันขนาดนี้เลยหรอ หรือวัยรุ่นสมัยนี้ชอบแนวนี้ เงี่ยนจัด หาที่ลงไม่ได้
>>748 กูเห็นด้วยกับความเห็นนี้เลย เคยได้ยินเหมือนกันพวกที่แบบ เอาไว้ก่อนเดวค่อยซื้อ เอาไว้ออกครบค่อยซื้อ เดวมันก็พิมพ์ใหม่รอได้ รอราคาถูกก่อนค่อยซื้อ สุดท้ายเจอแบบนี้ก็ยังแอบสมน้ำหน้าเลย 555555
เอาจริงๆ ก็แอบเสียดายที่ไม่ได้อ่าน เลยไม่ได้ติดตาม น่าจะซื้อมาเก็งกำไรซะหน่อย พลาดจริงๆ
นั่นมันไอ่พวกเกยฺฟุ กะเทยฟุ ไอ้ขยะพวกนี้ชอบความวิปริตทุกรูปแบบ
ฟุปกติเค้าไม่เน่าอย่างนี้
ยุ่นเค้ายังเรียกว่าขยะวรรณกรรม
มึงจะเสียเวลาไปอ่านทำไมวะ งั่งชิบหายเลย
เห้อ... GB ขยัน LC เรื่องใหม่มาอีกละ ทั้งที่เรื่องเก่าขายแทบไม่ได้เนี่ยนะ
นกย่างได้ Lord El-Melloi II-sei no Jikenbo
FP มา 450 แล้ว กุไม่กลัวอะไรละ
กลัวแล้วว
หาซื้อยากซื้เย็ดก็เททิ้งเท่านั้นเอง 555+
ยืนยันคำเดิมรอออกจบยกแพ็กลด 60-80%
ไม่ซื้อเงินก็ยังอยู่กับตัวเอาไปทำอย่างอื่นได้
ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยง ดอง ลอยแพ หาซื้อไม่ได้ โดนปั่นราคา ลิมิแตดบ้าบอ
อยากอ่านนิยายก็โหลดเถื่อนฟรีๆ สบายใจ
เล่มมันหนาขนาดนั้นเลยเรอะ
>>781 ยืนยันคำเดิมรอออกจบยกแพ็กลด 60-80%
พัฒนาตัวเองนิดนึงก็มีภาษาอื่นให้โหลดอ่านฟรีๆ เต็มไปหมดแล้ว ทำไมจะต้องโหลดแต่พาสาทัยว่ะ
แถมมันจะปั่นราคาไปขนาดไหนก็ไม่เกี่ยวอะไรกับกุแล้วนิ เมื่อเททิ้งไปแล้ว ก็ลอยตัวเหนือปัญญาหางี่เง่าพวกนี้แล้ว
สงสารก็แต่พวกที่ยังติดอยู่ในวงจรอุบาทนี้อยู่ มีเงินอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีความอดทนสูงด้วย
ซื้อไปแล้วยังต้องมาลุ้น จะดองไหม จะลอยแพไม จะหาซื้อได้ไหม จะโดนปั่นราคาไหม ฯลฯ
บางคนก็สำคัญตนผิด มาทำสงสารคนหาซื้อไม่ได้ ไม่รู้ตัวเองเลยว่าติดอยู่ในวงจรอุบาทชัดๆ 555+
มันสวะโทรลจะไป reply มันทำไมวะ
>>786 ก็ไม่เกี่ยวกับมึงนิ จะดิ้นพรวดๆ ง้อแง้ ทำไม
ก็อย่างที่บอก กระทบแค่กับคนซื้อยอดเห็บแมว ไม่มีใครสนใจหรอกนะ อย่างเก่งก็มาบ่นง้อแง้ในโม่งล่ะจ๊ะ หาได้สะเทือนไม่
แถมในทางกลับกันการที่ลดจำนวนคน ลังเลได้ผลมากกว่า ง่ายๆ ไม่ซื้อตอนนี้มาดูอีกทีหาเล่มเก่าไม่ได้
ขนาดหลุย์ที่โม่งมาโม้ว่าจะปล่อยจนถึงบัดนี้ ยังไม่มีปล่อยเลยซักตัว 555+
อ่อ แล้วบางเล่มมันไม่ได้ราคาต่ำแค่ 8-900 นะ แพงกว่านั้น
บางเรื่องพิมพ์มากกว่าค่ายอื่นก็มี แต่ของหมดก่อน แค่มันเลิกใช้สายส่งเจ้าใหญ่ แล้วขายเองแค่นั้นล่ะ
ลิขสิทธิ์มีให้ซื้อ บอกโหลดเถื่อนฟรีสบายใจ
= โทรล
จบไม่ต้องคุยต่อให้ยืดยาว
กูว่าคนโทรลมันก็ตัวเดิมนะเถียงมันแล้วตลกดี เห็นมันง้อแง้ไปเรื่อย
ค่ายอื่นไม่เห็นเป็น
หาเล่มต้นๆ ได้ตลอด ไม่ยักมีปั่นราคา
12 kingdom ลดเหลือ 399 รับๆ ไปถอยเลว
ถ้าหาซื้อเล่มเก่าไม่ได้ เลยไปโหลดเถื่อนแทนเพราะสบายใจกว่า นับว่าโทรลไหมครับ
โทรลขึ้นอยู่กับเจตนา ภาคภูมิใจในสิ่งผิดไม่ต่างอะไรกับโรคจิต
เพราะถึงเถียงชนะแล้วไงอะไรก็เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยน
มันไม่ได้มากหรือน้อยลงหรอก เสียเวลาทำมาหากินเปล่าๆ ใส่หัวโม่งคุยกันทั้งนั้น -__-
ก็อย่าไปfeedมัน
นอกจาก LP ก็มี VBK นี่แหละที่ของเก่าๆ ราคาแพง
แต่ VBK รีพรินท์เปลี่ยนราคาออกมาเรื่อยๆ แหว่งแค่ช่วงกลางๆ ซีรีส์ ไม่เหมือน LP แหว่งเล่มต้น
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2395827020479891&id=122759277786688 ครบชุด เลด้วย ซื้อสิซื้อสิ
V เดินหน้าลงebookหนักๆละ รอLลงเยอะๆมั่งละกันดูจากคำตอบบอกให้รอหน่อย ก็ดีนะไม่ต้องมาลำบากรีปริ้น ทำebookให้ซื้อได้ตลอด
V ไอ้ที่ด่าๆ กันแต่ตอนนี้พร้อมสุดแล้วมั้ง ebook มีครบทุกเรื่อง
L มี project จะไล่ทำ ebook อยู่นะเว็ป mangaqube ไง เห็นตอนนี้มันทำตัวอย่างไว้ครบหมดทุกเรื่องล่ะ แต่ไม่รู้จะแป๊กก่อนเกิดหรือเปล่า
นกย่าง ก็จะทำ ebook ตอนนี้ก็อ่านตัวอย่างได้ทุกเรื่อง
แต่อยากด่าตรง พวกมึงใช้ supplier เจ้าเดียวกันไม่ได้เรอะ แบบนี้ใช้ app ละเจ้าแหง
ณ เวลานี้ ยอด e book ตัวเน่าๆ ที่มันขายยังแย่กว่าเล่มจริงอีก มันคงลง e book หรอกมึง
ไอ้ที่ขายโครมๆ ใน e book คือพวก 18+ เว้ย
แต่ v ตัวไหนเน่ามันเอาลง ebook อย่างเดียวนะ
ลองคิดในแง่ แปลแล้ว แต่พิมพ์ไม่คุ้ม ก็เหลืองทางเดียวนี่ล่ะ ที่ไม่ติดตัวแดง
หลุยเล่ม14เป็นของแรร์ไปแล้วนะคนับ หน้าเว็บหมดแบ้ว
พิมพ์สองเลยนะ ยอดดีกว่า sao อีก
nstore ยังมีอยู่เลย
อ้าวของหมดนิหว่า lol
เท่านี้กุก็โหลดเถื่อนได้อย่างสบายใจและ
ผ่านฟ้ามี
https://www.facebook.com/groups/1708452006110120/permalink/2293736517581663/ การเปลี่ยนแปลงราคาแบบมีนัยสำคัญ
ซื้อแบบปั่นราคา เงินก็ไม่เข้า สนพ. แล้ว
ไปเรียนภาษาเพิ่มแล้วโหลดเถื่อนดีกว่า ชิลกว่าเยอะ
เรียนภาษา ใช้เวลาประมาณ 3 ปี ค่าเรียนไม่เท่าไหร่ค่ากิน ค่าสังคม ตีต่ำๆ แบบเพี่อนน้อยก็หมดประมาณ 2-3 แสนได้มั้ง เปลืองปีท้ายๆ
แต่ส่วนมากคุผู้บอกว่าจะเรียน น้อยมากที่เรียนจนอ่านออกเขียนได้ เลิกกลางทางภายใน 3 เดือนแรกซะส่วนมาก จะเอาไรมากขนาด eng เรียนมาตั้งแต่เด็กยังอ่านไม่ค่อยออกเลย
เฮ้อแต่ว่าอย่าอะไรมากเลย feed อาหารโทรชัดๆ เลยกูนี่
เรียนมาเพื่ออ่านขยพวรรณกรรมน่ะนะ
น่าสมเพชจังนะครับ
จะเป็นโทรล แต่สุดท้ายได้แค่สไลม์ กากสัส
ไอเหี้ยกลุ่มคุย________โนเวลแม่งอย่างฮา มีเพจอนิเมแชร์สปอยสมาทโฟน พอมีคนมาเม้นด่าแม่งมีติ่งนั่งไล่เม้นเถียงเกือบทุกเม้นเลยสัส
ซื้อหนังสือมาอ่านเองรวมๆไม่ากี่พันบาทกูก็สอบผ่าน N1 ได้นะ บอกเสียเป็นแสนๆนี่มึงบินไปเรียนที่ยุ่นรึไงวะ
>>837 เรียนเองประหยัดสุด กูไม่เถียง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เรียนเองได้นะเว้ย
ไม่ต้องพูดถึงบินไปเรี่ยนยุ่น แค่มึงเรียนคอร์สเรียนตามสถาบันสอนภาษา ก็แตะหลักแสนแล้ว (กรณีเรียนถึง N1)
บางคนบอกไม่จริง ไปดูราคามาไม่กี่พันบาทเอง แต่ถ้ามึงไปเรียนแล้วจะรู้ว่าแม่งเปิดคอร์สให้มึงเรียนไม่ได้เพราะไม่มีคนมาสมัคร ต้องลงแบบไพรเวทซึ่งชั่วโมงละหลายร้อยบาท
เรียนแบบไพเรทคับ โหลดpdf
Ebook แอพไหนคุ้มสุดวะ ราคาไม่แรง ขกซื้อเป็นเล่ม พวกนิยายแปลกับนิยายคนไทย
>>838 มาเสริมให้ คือเรียนกับสถาบันไรก็ตาม เค้าก็มีลำดับการสอนอยู่ เอาจริงๆ บางทีสอนก็เหมือนย่ำกับที่ ยิ่งในคราสเจอพวก "นานๆมาเรียนที" ครูเค้าก็จะใจดีย้ำอยู่กับที่ไม่เดินหน้าเลยก็เป็นได้นะ บอกเลย
เรียนเองถ้ามึงไม่ตั้งใจแบบเล่นเกมเอาถ้วยแพลต พูดตามตรง เปอร์เซ็นต์สำเร็จๆพอๆกับเรทกาจาเฟทเกลือ
อย่าเอาอะไรกับสไลม์ตัวนี้มากมายเลย ตลกตั้งแต่อ่านเองแล้ว ถ้าไม่เรียนในห้อง พวกแกรมม่าจะรู้เรื่องได้ไงวะ
>>850 กูว่าไม่น่าจะรอดนะถ้าไม่เริ่มจากมีคนสอนในห้องตั้งต้นก่อน
แถมที่ดูจากพูดโม้เสมือนทุกอย่างในโลกมี pdf แค่หนังสือฟรีกูว่ามันยังหาไม่ได้เลยมั้ง
สมัยก่อนตอนกูเรียนก็เคยหาบทความตามเว็ป สรุปแบบไทยหายากสัดมีก็ไม่ค่อยมีแบบเต็ม มีแต่แหว่งๆ ประติดประต่อไม่ได้
แถมถ้าใช้บทความ eng อ้างอิงก็หลุดไปใหญ่
ส่วนสอบ n ตั้งแต่ n2 อ่านเองความเป็นไปได้ต่ำเตี้ยติดดินมาก
โอกาศที่จะสอบได้ต้องติวไปสอบอย่างเดียว อ่านหนังสือเองไม่รอดหรอก โดยเฉพาะพาร์ทการฟัง
>>856
https://mfadhillah.files.wordpress.com/2012/12/minna-no-nihongo-i-c3bcbersetzungen-grammatikalische-erklc3a4rungen-englisch.pdf
อะ แต่คนไม่ถูกจริตโม่งที่อ่าน eng ไม่ออกอีกอะมั๊ง
เห็นสลัมป์ตัวเดิมโม้ว่าจะอ่านดิบนานแล้ว กูก็นึกว่าจะอ่านออกแล้ว ป่านนี้ยังมาโพสพยายามเป็นโทรลสิงอยู่อีกเรอะ
ปล. รี router ไม่ช่วยนะ สำนวนการพิมพ์ไม่เปลี่ยน 🤣🤣🤣
อ้าวสลัมป์ร้อนตัว จะร้องให้แล้ว ดิ้นใหญ่ 555+
กูเห็นเด็กน้อยอยู่ตัวเดียวนะ ร้อนรนโพสแก้ตัวใหญ่ (づ ̄ ³ ̄)づ
文法 ไทยกับอังกฤษไม่เหมือนกัน แล้วเวลาเรียนใช้เนื้อหาไม่ประติดประต่อ ถ้าเรียนรู้ได้ก็แปลก กูบอกแค่นั้นล่ะ
แว่วๆ ว่า "สนพ.เล็กๆ" 2 แห่งเทงานหนังสือเมืองทอง และเอาคืนด้วยการขึ้นราคาหน้าปก
อีกสองสามเดือนรู้กัน !!!!!!!!!
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10218368666465491&id=1157513835 ต่วยตูนยังขึ้นราคา มันจบแล้วฮะนาย (เผื่อใครไม่รู้ ต่วยตูนมียอดขายเดือนนึงมากกว่าหมื่นเล่ม)
ยอดขายน้อยกว่าปีละ 20 บ้าน กุถือว่ารายเล็กหมด
*20 ล้าน
ถ้างานเมืองทองคนน้อยกว่าที่แระเมินไว้ สนพ.ที่เคยออกเฉพาะงานจะเฉลี่ย กระจายออกรายเดือนแทนไหมหว่า 🤔
ขายออนไลน์แค่หลักแสน ขายงานออกบูธหลักสิบล้าน
เราจะเปลี่ยนงานหนังสือเป็นโชว์รูมครับ เราจะโชว์ของ เราไม่เน้นขาย เราจะเน้นการขายหนังสือออนไลน์ ที่เมืองทองเราอาจจะทำเป็นโชว์รูม อาจจะไม่ออกเล่มเท่าเดิม แต่ระหว่างงานอาจจะมีหนังสือมากขึ้น หรืออาจจมีการ pre-order หนังสือแปลก ๆ อย่าง “จอมมารแสง” (Maou no Hajimekata) ตัวนี้กำลังอยู่ในการผลิต เราก็เลยดูกันอยู่ว่าอาจจะทำเป็น pre-order มีงานไหนเราก็อยากจะไปนะ แต่เรามีบุคลากรน้อย บางทีงานจัดที่ต่างจัดหวัดเราก็ไปไม่ได้ เราเลยต้องฝากคนอื่นไป
จริง ๆ ปกติแล้วงานหนังสือเขาจัดเพื่อให้สำนักพิมพ์ได้พบปะกับผู้อ่าน แต่ด้วยการขายมันประสบความสำเร็จมาก ๆ คนก็เลยเน้นยอดขายจากตรงนี้เป็นหลัก สำหรับทางพี่คิดยอดขายจากงานหนังสือจัดว่าเป็นกำไรดีกว่า ส่วนต้นทุนเราต้องไปเอาจากข้างนอก เพราะไม่อย่างนั้นเราอยู่ไม่ได้ ถ้างานหนังสือหายไปอะไรแบบนั้น เราเลยต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน เราต้องขายข้างนอกให้มากขึ้น เราต้องเลิกพึ่งพิงงานหนังสือ แต่เราก็ต้องออกเพื่อแสดงศักยภาพ เพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในงาน
สำหรับ First Page Pro. เราเชื่อว่าการขายข้างนอกคือการขายจริง ๆ แต่การขายในงานคือการเพิ่มฐานลูกค้ามากกว่า
ออกนอกงาน ?
มึงส่งร้านทั่วไปให้เร็วกว่านี้ก่อนเหอะ
ขายข้างนอกพ่อง k&mเล่ม3นี้กี่ปีละวะ กูยังไม่เห็นวางร้านทั่วไปเลย
มึขายลิมิทปกในงานให้หมดก่อนเหอะ นี่ทำเนียนๆ ไปวางขายข้างนอกอีก
ผมรอออกสองสามเล่มก่อนค่อยซื้อ มิน่าถึงเจ๊ง
มึงกล้าแย้งมืออาร์ตระดับโลก ผู้ซึ่งเลย์หน้าจาก 300 หน้าเป็น 700 หน้าได้รึ
แน่ใจนะว่าไม่ได้มือบอนแต่งเพิ่ม?
>>888 https://www.facebook.com/aerick.adinas/posts/2802455186494464?comment_tracking={"tn":"O"} ต้นฉบับญี่ปุ่น 300 หน้า แปลไทยได้ 700 หน้า
300กว่าหน้างอกมา400กว่าหน้านี้ยังพอเป็นไปได้นะ แต่งอกเพิ่มอีกเท่าตัวเป็น700หน้านี้แม่งขี้โม้สัสๆ
https://uppic.cc/d/KHz5 มันแปลงอกเป็น 700 หน้าได้จริงๆ เว้ย
เล่มแรก 383 หน้า มันแปลได้ 700 หน้า
ของคนอื่น 464 หน้า แปลได้ 500 กว่าหน้า
เลือกตั้งมีบัตรเขย่ง ไลท์โนเวลก็มีหน้าเขย่ง
กูไม่รู้มันแบ่งช่่องไฟเล่มเล็กwtยังไงนะถึงงอกมาเท่าตัว แต่ถ้าอ้างอิงจากมือสอง หน้านึงมันจะมีประมาณ20-22บรรทัด ส่วนlnเจ้าอื่น จะมีจำนวนบรรทัดต่อหน้าประมาณ22-24
= หายไป 4 บรรทัดต่อหน้า
สมมติหนา 500 หน้า = หายไป 2000 บรรทัด
หารหน้าละ 20 บรรทัด
= งอกมา 100 หน้า
แต่ถ้ามึงงอกมาเท่าตัวเป็น 700 หน้า กุว่าผิดปกติ
ช่วงนั้นคุหลงผกลิมิทโม่ยๆ มันไงจนลืมนึกถึงเรื่องนี้
700 หน้า ลองนับจำนวนคำต่อหน้าดูมั้ย
ปกตินิยายญี่ปุ่น พอแปลเป็นไทยแล้วมาตรฐานจะอยู่ที่ประมาณ 350-500 คำต่อหน้า อย่างบิเบลียก็เฉลี่ยที่ 380 คำต่อหน้า ส่วนพวกบรรยายเยอะๆ หนาๆ อย่างอีทาเนียก็ประมาณ 500 กว่าคำต่อหน้า
ถ้ามันจะงอกมาได้ถึง 300 หน้านีก็คงไม่ถึง 200 คำต่อหน้าล่ะมั้ง
คำหรือตัวอักษร
ถึงตอนนี้มันไม่เถียงกะมึงแล้ว เพราะมันแถเพื่อทำเล่มใหญ่ และผ่านพ้นไปแล้ว 2 เล่ม และคุไม่สนใจแล้ว 55555555555555555555
สมกับพี่หนึ่งเดียวขวัญใจมโนเฟื่อง
https://www.facebook.com/758286224183992/posts/2450561994956398/
150 ไม่มีใครบ่นทุเรศชิบหาย
กุบอกรักปูเป้แล้วมึงจะแบนกุหาพ่องมึงหราๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มาตรฐานคนเงี่ยนมันค่อนข้างแน่นอนไม่ลำเอียงอยู่แล้ว ไม่เซ็นไงๆก็ไม่ด่า เซ็นด่าแน่นอล พวกมึงอย่าพึ่งsaltyได้มะ
>>912 agree ลูกค้ากลุ่มหื่นมีมาตรฐานง่ายๆ ที่แน่นอนคือถ้าเช็นมีด่า นกย่างตอนขายเผ่าหื่นมีแต่คนชม แต่ค่าย s เซ็นยูน่าปุ๊ปด่ากันจะเป็นจะตายไปรอบ สมัยก่อนมีเคสบูมทาวน์จอมเซ็นพวกเล่นบอยคอดไม่ซื้อกันจนเจ้งไปรอบ
ส่วนหนึ่งเดียวรู้กลุ่มลูกค้านี้ดี ตั้งกะสมัยมันเป็น บก.ลัก มันเลยปล่อยราคานี้
ลูกค้าหื่นบอกห้ามเซน
แต่เฟซตัวเอง เสือกเซนเซอร์ มันกลัวไรว้า
>>913 หื่นไม่เท่าไร แต่พวกนี้แม่งเงี่ยนไม่ดูสถานที่ด้วย เอารูปจุก มาโพสรีวิวกันในเพจหรือกลุ่มสาธารณะแบบเพจการ์ตูนหรือ LN บางอันกรูเปิดไล่ฟีด แม่งโผล่มาเต็มๆ ปิดแทบไม่ทัน อส พวกนี้ไม่มีงานทำเหรอวะ เลยไม่รู้ว่าไม่ควรโพสรูป NSFW ในเพจสาธารณะที่คุยทั่วไป ไม่ใช่กลุ่มปิดลับ 18+
ไว้วันนึงสื่อหรือหน่วยงานรัฐมาเจอ แล้วไล่จับสื่อลามกอนาจาร กรูจะสมน้ำหน้าพวกนี้
เงี่ยนกับหัวนมตัวการ์ตูน, หัวนมตัวการ์ตูนโดนเซนแล้วโวยวาย = สวะ Loser
เรื่องเงี่ยนมันก็แน่นอนอยู่แล้ว มันอยู่ในระดับ DNA เลยนะเว้ย ไม่งั้นศูนย์พันธุ์ไปหมดล่ะ
ให้มันไม่เงี่ยนกับของจริงก่อนค่อยมากังวลเรื่องสูญพันธุ์
อส ประเด็นไม่ได้ห้าม หื่น แต่หมายถึงดูสถานที่ด้วย พวกไปลงรูปNSFW โชว์ในกลุ่มสาธารณะ นี่คงนึกว่าตัวเองเท่มาก
มึงเรียกร้องให้คนอื่นหื่นในที่สาธารณะ แต่ตัวมันเองเสือกเซนเซอร์เองกลัวโดน fb แบน โคตรลักลั่นย้อนแย้ง
บ่นควยไรกันไอ้สัส
เรื่องเซ็นเซอร์ มันก็เหมือนซื้อของได้ไม่เต็มราคามั้ง
ส่วนเรื่องแชร์อันนี้งง มึจะโยงทำไมหว่าคนละเรื่องกันเลย เพราะ fb กับ pantip มันก็มีกฏของมัน
มึงจะโยงมั่วให้โพสของในสถานที่เค้ามีกฏห้ามก็แปลกล่ะ
fb และชุมชนต่างๆ ก็ไม่มีกฎให้เซนนะ แล้วพวกมึงเซนทำไม
>>926 แสดงว่าตกภาษาไทย
https://imgur.com/hGX5zwJ
https://imgur.com/a/st6RmRM เออ ไม่ห้ามเซน
มึงมา
เอาตามตัวเลย ห้ามขาย ถึงจะเซ็นก็ไม่ผ่าน เพราะเป็นสื่อลามก ไม่ก็โดนข้อ ศีลธรรมอันดี
แต่ในความเป็นจริง ถ้าไม่จับเย็ดกันอย่างเดียว มันเลี่ยงบาลีได้ ยังไงก็ผ่านตลอด ปกไม่โป้ คนตรวดมันปล่อยหมด เพราะมันมองว่าไม่ใช่ภาพคนจริง
แล้นกม.ไทย คนซื้อไม่ผิด ตราบใดที่ไม่ใช่ สื่ออนาจาร เด็กที่เป็นคนจริง
ส่วน fb ใช้ bot ตรวจ ถึงมึง ไม่เซ็น ใช่ว่าจะโพสได้
ขนาดกูโฟสภาพรถถังที่ไม่เกียวกันเลย bot เสือกแจ้งว่ากูโพสภาพโป้ คิดดู
วันนี้หนังสือลงแถวบ้าน เวิลด์ทีชเชอร์เล่ม 2 แพงกว่าเล่ม 1 แถมบางกว่านี่มันอะไรวะ
กุนโอตะ เล่มเล็ก 280 บาทจ้า ของนกย่างดูราคาถูกเลย สัส
เพิ่งออกเล่ม 1 มึงจะแพเลยรึ สัส
ของมันห่วย จะอออต่อทำเหี้ยอะไรล่ะครัช
เห้ย สนพ.คุนตะพาบที่มีมืออาร์ทระกับโลกทำของห่วยได้ไงวะ
นับๆ ดูเละพิมแม่งแพกูไป 5 เรื่องและสัส (ไม่ออก 3 ปีขึ้นไป)
เหี้ยจริงๆ 555+
https://www.facebook.com/134310463343221/posts/2181068745334039/ ปกไม่เต็มเต็มตลาด
คุไม่รู้ คุไม่สน คุจะเอาตามต้นฉบับบับบับับับับับับับ
>>946 คนออกแบบปกให้ A+ คือ wrongdesign นักออกแบบปกหนังสือ
ไปดูที่เพจ https://www.facebook.com/wrongdesignpage/photos/
ไม่มีปกของสนพ.ที่ว่าซักเล่ม
เทรนด์ / ก็อป / รับงานไม่เผยตัว เลือกเอาสักข้อ
ก็อปมาจะได้ดูเป็นไลท์โนเวล
สายวรรณกรรมแท้ๆ ต้องคอสเพลย์ ลดตัวเองลงมาเป็น LN เพื่อหวังยอดขาย อนาถสัส 555+
เพื่อนกุบอก สายวรรณกรรมแท้จริง จบที่วัชระ (เรื่องสั้น) กับป้าไส้เดือนวนในเขาวงกต (นิยาย)
แต่ตอนนี้เป็นมือหนึ่งจากการประกวด มีสนพ.ต่อคิวให้ทำปกเพียบ คิวยาวถึงปี 2564 แล้ว
เล่มไหนถึงกุอยากอ่าน ถ้าทำปกทุเรศๆ แบบนี้กุก็ไม่ซื้อ
เวลาเถียงกันเรื่องนี้ ส่วนมากจะได้ข้อสรุปว่า ถ้าสำนักพิมพ์ที่ออกบอกว่ามันเป็นไลท์ มันก็คือไลท์
แต่คนอ่านจะยอมรับการเคลมนั้นหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ยิ่งกว่าคนเขียน ก็โคตรกูรูนี่แหละวะ
หลังๆ สาวกทิ้งไปหาโคตรกูรูตัวใหม่ (คลั่งเฟมินิสท์) แล้ว
มีภาพประกอบแนวการ์ตูนอนิเมเยอะๆ แทรกแทบทุกบทแค่นี้แหละเป็น LN
พี่เขาอยู่ในโม่งนี่ละ เคยเห็นประชดๆ คนในโม่งอยู่
นกย่างขายebookลงmebละ
เจ้าอิ่นกำลังตามมา k เขาเปิดแล้วนี่
ราคาลดจากหนังสือ 10% ไม่น่าอุดหนุนเอาซะเลย
ถ้ารู้โครงสร้างราคามัน ลดให้ 10 % นี่โคตรทุ่ม
แสดงว่าปกติ E-Book นี่แพงกว่าหนังสือเล่มอีกเหรอวะ เพราะซื้อไลท์โนเวลมันปกติก็ลด 10% เกือบทุกร้านอยู่แล้ว
ต่างกันแค่ไม่ต้องพิมพ์จริง แต่อย่างอื่น มึงจ่ายล่วงหน้าไปหมดแล้ว ตั้งแต่ LC (การันตีขั้นต่ำกี่โหลด ว่าไป ถ้าโหลดไม่ถึง มึงแบกค่า LC ไป) ค่าแปล ค่ารูป รูปเล่ม (ไฟล์ e pub)
ส่วนรายได้ มึงต้องแบ่งให้เจ้าของมาร์เก็ตก่อน (ราวๆ 30% ของปก + มีภาษีด้วย แต่มึงเคลมคนอ่านไม่ได้) ตามด้วยเจ้าของแอป (ราวๆ 20-30 % +มีภาษีด้วย แต่เคลมคนอ่านไม่ได้) เหลือเท่าไหร่มาหักลบไอ้ที่จ่ายไปก่อนหน้า (แบ่งให้ชาวเกาะครึ่งนึงของราคาปก)
สุดท้ายบางทีขาดทุนเข้าเนื้อไปอีก
อ่อ ส่วนลด 10 % มึงไปหักจากชาวเกาะไม่ได้ แบกเองเต็มๆ
ค่า platform มันก็พอๆกับค่าสายส่งปะวะราวๆ 30% ถูกกว่าหน่อยสำหรับบางเจ้าด้วย มันไม่ได้หักซ้ำซ้อน
ยกเว้นว่าเมิงไปกดซื้อผ่าน in-app purchase ผ่าน app store อันนี้แพงแน่ แต่ถ้ากดซื้อผ่านหน้าเวบ มันไม่หักไรเพิ่มแล้ว
ราคาไม่ดึงดูดยอดขายก็คง....
กดราคาไม่ลง ตราบใดที่ชาวเกาะยังอยากได้ 30%*1000 โหลดเป็นอย่างน้อย
กุสมมติปกละ 100 มึงต้องแบก LC 30,000 บาทไปก่อนไม่รวมค่าแปล ค่ารูป ค่าจัดหน้า epub (เว้นแต่นักแปลทำให้มึงฟรี ซึ่งในโลกนี้คงไม่มี อย่างมากทำให้มึงแค่ word)
กูตีเบาะๆ ต้นทุน = 100,000 บาท/ปก
กูให้ส่วนแบ่งจาก meb = 50 % = 50 บาทเลย (จากปก 100 บาท ซึ่งจริงๆ ไม่ถึง)
แปลว่า มึงต้องได้อย่างน้อย 2,000 โหลดถึงเท่าทุน (ซึ่งถ้า 2,000 โหลด มึงก็ต้องจ่ายชาวเกาะเพิ่ม เพราะเดิมการันตีที่พันโหลด = จ่ายเพิ่ม 30000 บาท ซึ่งมึงก็ต้องหาโหลดให้ได้อีก 600 โหลด แล้ววนลูป จ่ายเพิ่มให้ชาวเกาะ หาโหลดเพิ่ม จ่ายเพิ่ม ไปเรื่อยๆ)
e book ยังไม่เกิดแน่ๆ แบบนี้ เชื่อกุ
ค่า platform น่าจะแพงกว่านั้นมั้ง เผลออาจจะเป็น 40%
ส่วนปรกติ ดิจิตอลถ้าเป็นของ ตปท. ราคาก็ไม่ถูกเท่าไหร่นะ เน้นความสะดวก แต่ในตลาดไทยจะเข้าใจผิดไหมวะนั่น
ในไทย
e book = สแกน
>>984 MEB เก็บประมาณ 30%
สายส่งทั่วไป 30-50%
กรูไม่มีตัวเลขปัจจุบันนะ อ้างอิงตัวเลข mebจาก
https://www.readawrite.com/?action=agreement_of_payment
กรูหมายถึงถ้าหนังสือกระดาษลดได้ ebook มันก็ควรลดได้ไม่น้อยกว่ากัน เพราะค่าใช้จ่ายอื่นๆมันก็พอๆกัน ได้เปรียบตรงไม่ต้องเสี่ยง stock อาจจะมีกังวลเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ง่ายขึ้นหน่อย
ไหนโม่งบอกว่า vbk ฟื้นตัวกลับมาได้เพราะอีบุ๊ค?? (ช่วงที่มันเป๋ ออกหนังสือเล่มไม่ได้ไปพักนึงเลยอะ)
วงในโทรมาเม้งว่า แปลรูปจัดเล่ม = 10 % นั่นมันคอมิคโว้ยยย ถ้านิยาย ต้อง 15 % ขึ้น
อ้าว กุจะรู้เรอะ ออฟฟิศกุเน้นทำคอมิคเว้ย
ยางในมากับเพียบแต่กรูแปลกใจตัวเลข lc ebookนะถ้าเป็นมังงะกรูพอนึกออกเพราะอาจกลัวละเมิดลิขสิทธิ์ง่ายกว่า แต่นิยายน่าจะยากกว่านะคนละภาษาอีก หรือว่าเพราะไม่คิด% จากยอดพิมพ์ เลยคิดเผื่อมาเลย?
** ปล. กุพูดเฉพาะคอมิค ฝั่งนิยายกูไม่รู้
*** ปล.2 อันนี้เฉพาะลิขสิทธิ์ e book อย่างเดียว ตัวเล่มไม่เกี่ยว
ทำไมที่โม่งคุยเรื่องสัดส่วนราคาอีบุ๊คกันศิวิไลซ์กว่าพันทิปอีกวะ
ทางโน้นแม่งพูดกันทีไรจะมีไอ้พวกกูรูขี้มั่วกลุ่มนึงคอยออกมาเถียงตะแบงว่ามันต้องราคาถูกแบบนั้นแบบนี้
ตราบใดที่พวกคุคิดว่า e book = pdf = สแกน = ฟรี (หรือถูกๆ)
e book ไม่มีทางเกิดในบ้านเมืองนี้
Ebook foreverrrr
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.