>>46 กูบอกให้แล้วกันเผื่อยอดขายหนังสือในวงการมันจะมากขึ้น
กูอยู่วงการเลยไม่ได้เป็นพวกวงในฟังเขามา ทำหนังสืออื่นส่งไม่ได้ทำ LN แต่ชอบอ่าน
ส่งหน้าร้านเจ้าใหญ่ในไทยหักราวๆ ร้อยละ 40 +- (มันไม่เท่ากัน แต่ก็ใกล้ๆ กันนี่แหละ) จากราคาหนังสือ แต่อย่าไปว่าเขาเลยว่ากินเปล่า ร้านก็มีค่าบริหารร้าน จ้าง พนง ค่าเช่าที่ที่แพงขึ้นทุกปี ค่าสายส่งที่ส่งหนังสือให้ ถ้าลงระบบนี้มันก็ต้องแบ่งกันไม่งั้นก็ไปกันไม่รอด เครดิตประมาณ 3 เดือนแล้วแต่วันลงขาย ขอข้ามเงื่อนไขจุกจิกบางอย่างละกัน นอกจากนี้ยังมีค่ารถไปส่งหนังสือกับรับตอนร้านคืนถ้าขายไม่ออกยังไม่เอาไปรวม
ส่วนงานหนังสือมีค่าบูธ หลักหมื่นถึงแสนหรือหลายแสนแล้วแต่จำนวนบูธ แล้วมีเงื่อนไขก่อนเข้าหน่อยซึ่งกูคงไม่ต้องเหลาให้ฟัง แค่อยากบอกต้นทุนให้พวกมึงๆ เข้าใจบ้างจะได้ไปช่วยอุดหนุน งานหนังสือได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วย หลายเจ้าก็ออกในงานนั่นแหละได้เงินเยอะกว่าเร็วกว่าไม่ต้องรอเครดิต แต่มันต้องขายดีกันระดับหนึ่งด้วย ขายไม่ออกก็โดนค่าบูธไป บวกต้นทุนพิมพ์ค่าจ้างพนักงานค่าขนหนังสือมาลงงานจุกจิกเยอะแยะ ขายไม่ได้ก็เจ๊ง
ตัวเลขสุดท้ายส่งร้านกับขายงานหนังสือไม่เท่ากันหรอก นอกจากขายงานหนังสือไม่ได้ดีมากเลยโดนค่าพิมพ์กับค่าบูธหนักๆ อันนี้กูกล่าวเป็นกลางทุก สนพ. ที่เข้าร่วมงานนะ
ส่วนระบบขายส่งออนไลน์ ได้ยินว่าหลายเจ้าดูแลไม่ค่อยดีเหมือนกัน แต่ปกติกูซื้อร้านกับในงาน ร้านใหญ่ก็สั่งไม่กี่เจ้า มีทั้งดีและแย่ อันไหนสั่งแล้วเป็นยังไงก็รับไปเป็นประสบการณ์
สุดท้ายถ้ามึงอยากช่วย สนพ. อยากให้ออกงานจนจบไม่ต่อแพก็อุดหนุนกันไปอย่าไปรอจบมาก มึงรอมากเขาไม่มีเงินพิมพ์ หรือก็มีอยู่แต่กลัวขายไม่ดีเขาก็ต่อแพให้มึงได้ ส่วนใหญ่เขาสนปากท้องก่อนอยู่แล้ว ทำหนังสือเล่มหนึ่งหมดกันหลักแสน หมดน้อยกว่านี้ก็พวกทำมือ ดังนั้นอย่าไปคิดว่าเขาจะมีความรับผิดชอบต่อสังคมจนสุดทาง เขาก็ต้องดูแลปากท้องตัวเองและครอบครัวกันก่อนทั้งนั้นแหละ เรื่องแพนี่ไม่ได้บอกให้สงสารนะ แค่บอกว่าถ้ามันไม่มีเงินเข้ามันก็จะมาแนวนี้แหละ