>>155 ไม่ได้เข้าใจนิยามของหนังสืออ่านนอกเวลาใช่มั้ย? มันคือหนังสือที่ไม่ใช่แบบเรียนที่ถูก "บังคับให้อ่าน" ในหลักสูตรการเรียนเลย คือเด็กทุกคนในชั้นเรียนนั้นต้องอ่านเพื่อเขียนรายงานส่งอาจารย์อะไรก็ว่าไป (รามเกียรติ์หรือพระอภัยไรพวกนี้ไม่นับ เพราะมันอยู่ในแบบเรียนอยู่แล้ว) ่ส่วนห้องสมุดเนี่ยมันคือความสมัครใจจะอ่าน ถ้าคนมันไม่คิดจะอ่านก็ไม่ต่างอะไรกับประเด็นเรื่องการไม่อยากลองซื้อหนังสือดีๆใช่มั้ย
เวลาที่เด็กไทยก่อเรื่องดราม่านาซี ก็เคยมีรายการหนึ่งออกมาวิพากย์วิจารณ์แล้วว่ากระทรวงควรจะบรรจุ บันทึกลับของแอน แฟรงค์ ลงไปในหนังสือนอกเวลาได้แล้ว (ประเทศอื่นเค้าทำกัน)
ย้ำอีกรอบ ว่าต่อให้ไม่มีไลท์โนเวล ไม่มีมังกะ ไม่มีอนิเมะเลย ก็ใช่ว่าเด็กจะนึกอยากเดินไปหยิบหนังสือจากห้องสมุด หรือ ซื้อจากร้านหรอกนะ มันก็อาจมีแต่น้อยแน่นอน (กุเชื่อว่ากุเป็นเคสที่น้อยมากๆที่ชอบเข้าห้องสมุดมากกว่าไปร่วมเตะบอลหรือเล่น MOBA กับเพื่อน) แต่มึงอยากให้เกิดการขับเคลื่อนเป็นวงกว้างใช่มั้ยละ ก็ต้องให้ชิมฟรีแบบบังคับเพื่อเพิ่มจำนวนคนให้มากที่สุดนั่นแหละ