Last posted
Total of 1000 posts
วันนี้ใครไปงานหนังสือบ้าง ของเอที่เลื่อนมาลงครบมั้ย ไม่เห็นบอกที่เพจเลย
พรุ่งนี้ว่าจะแวะไปตอนเช้าก่อนออกตจว. ทางผ่านพอดี
ครบทุกเรื่อง
>>819 กูเข้าใจว่านี้มู้ไลท์โนเวล แต่ทำไมทุกคนดูพูดถึงมังงะภาพแตกวะ งง เกี่ยวไรกัน ก็กูพูดถึงไลท์โนเวล มังงะยังกากกว่า Kobo ใช่ เพราะมันความละเอียดแค่ 2k ซึ่งละเอียดพอสำหรับ Kindle e-reader ปัจจุบันแล้ว (ไม่รู้พอ Kindle Scribe ออกมาจะเป็นยังไง) (แต่เอาจริงมังงะใน Amazon US ห่วยกว่านี้มากๆ)
>>822
> ก็อ่านแยกแอพไป ยิ่งถ้าอ่านหลายค่าย หลายภาษา เมกา ญี่ปุ่น ยังไงก็ต้องแยก เพราะมันซื้อคนละแบบ จำกัดzone ด้วยอีกตะหาก
ก็ถ้ากูอ่านแอพเดียวได้ กูจะอ่านแยกแอพไปทำไม แค่ต้องจำว่าอะไรอยู่แอพไหนก็ปวดหัวแล้ว คนอ่านตามกฎหลายคนต้องทำลิสต์ใน Excel เพื่อมาตามเลยว่ามีหนังสืออะไรบ้าง อะไรอยู่แอพไหน กูจะต้องปวดหัวทำตามกฎทำไมในเมื่อกูทำแบบอื่นที่สะดวกกูกว่าได้
แล้วก็กูยังไม่เจอหนังสือที่มีใน Amazon US แต่ไม่มีใน Amazon JP เลย ขนาด LN แปลอังกฤษยังมีใน Kindle JP กูก็ซื้อตรงนี้เพราะง่าย แพลตฟอร์มหลักกรูคือ Amazon JP มีแตกไป Kobo หรือ Google Play Book บ้างเวลามีโปร บางทีก็ซื้อ Humble Bundle ทั้งหมดนี้ก็มีให้อ่านไม่หมดทั้งชีวิตแล้ว ถ้าแพลตฟอร์ทไทยเข้ากับ flow กรูไม่ได้ ต้องปวดหัวนั่งจำว่าอะไรอยู่ที่ไหน กรูก็เลือกไม่ซื้อไง ก็แค่นั้น
>>820 นี่แหละประเด็น ไม่เข้าใจจริงๆ
นี่ก็พูดมาตลอดว่าเข้าใจสภาพตลาดไทยว่าคงไม่รอด แต่กรูก็เลือกไงว่างั้นไม่ซื้อ แค่นี้ก็โดนคนตราหน้าว่าเป็นพวกโจรสลัดแล้ว ถ้าเรายังแค่จะเริ่มคุยข้อดีข้อเสียยังไม่ได้ ก็นั่นแหละ
>>836
เรื่องภาพแตก จริงๆ LN มีภาพประกอบไม่กี่ภาพเอง จะชัดไม่ชัด ก็ไม่ได้ขัดใจอะไรมากมาย ที่จะเห็นชัดๆคือมังงะมากกว่า ซึ่งกรูก็ไม่คิดว่ามันจะแตกจนรับไม่ได้อะไรขนาดนั้น
เรื่องแยกแอพก็เมิงไม่เข้าใจเรื่องจำกัด zone และลิขสิทธิ์
หนังสือใน amazon jp ไม่มีขายใน amazon US เพียบและในทางกลับกันก็มีเช่นกัน แถมใช้account ร่วมกันไม่ได้ตรงๆนะ (ต้องสมัครแยกกัน) มันเป็นเรื่องของการขายลิขสิทธิ์ตามภูมิภาคด้วย ที่เมิงเจอทั้งสองที่ ก็เป็นแค่บางเรื่อง บางปก และจริงๆแล้วตามpolicyเมิงอยู่นอกเกาะ ก็ไม่สามารถซื้อหนังสือ JP ได้เช่นถ้าเมิงกดโหลดหนังสือตัวอย่าง จะโดนล็อคaccount ต้องใช้ VPN เกาะไปปลดล็อค แต่เขาเปิดช่องไว้คือถ้าซื้ออย่างเดียว เขาไม่ว่าอะไร(เหมือนที่บอกปิดตาข้างเดียว ทั้งๆที่จะเข้มงวดกว่านี้ก็ได้)
ถ้ามันมีรวมหมดก็ง่าย แต่ก็คือจะกลายเป็นผูกขาดเจ้าเดียวทั่วโลกแทน ราคาการแข่งขันก็จะหายไป
อยากอ่านที่เดียวจบกรูเข้าใจ แต่ไม่เข้าใจที่เมิงพยายามเอามารวมขนาดหาวิธีถอดdrm แบบเถื่อนๆ แล้วบอกว่า ฉันอยากอ่านที่เดียวกันหมด ไม่อยากยุ่งยาก มันขัดแย้งกันเองตั้งแต่แรกแล้ว กรูว่าแค่ลงหลายแอพ มันยุ่งยากน้อยกว่าพยายามหาโปรแกรมมาถอดdrmนะ
drm ไม่ได้มีเพื่อนักอ่านโดยตรงก็จริง แต่มันทำให้สนพ.ลิขสิทธิ์อยู่ได้ ก็ทำให้ระบบ ebook อยู่รอดได้ ไม่ต่างจาก steam ยุคแรกที่บังคับต่อเนทนั่นแหละ คนก็บ่นเพียบ ถ้าไปอยู่เกาะบ้านไม่มีเนททำไง(เขาก็ทำoffline modeให้ทีหลัง) ตอนหลังระบบเกมมันบังคับให้สมัครaccountแยกอีกต่างหาก ก็บังคับให้ต่อเนทและของเถื่อนใช้ไม่ได้ในตัว จนเนทมันแพร่หลาย แม้แต่ในมือถือก็แรงเหลือๆ คนก็เลิกบ่นไปเอง
ที่เมิงบอกว่าสภาพตลาดไทย ยังปลดdrmไม่ได้ คือมันไม่ใช่แค่ไทยหรอก มันก็ทั่วโลกนั่นแหละ เมกา เองมีแต่เจ้าเล็กๆที่ทำdrm free ขาย ถ้าเมิงมองแค่ LN แปล eng เฉยๆมันก็แค่ genre เล็กๆของยอดทั้งหมดเอง
เมิงมองข้อเสียได้ แต่ก็ต้องมองภาพใหญ่ด้วย ว่าทำไมเจ้าใหญ่ๆถึงไม่อยากทำตามที่เมิงอยากได้(drm free) และอาจไม่มีวันเป็นไปได้ในเร็วๆนี้ อาจจะต้องรอ 3-5ปีให้ทุกคนเคยชินกับการซื้อebook ถูกลิขสิทธิ์เหมือนการซื้อเกมแบบdigital download ก่อน ก็อาจจะผ่อนคลายความเข้มงวดลง (แต่เกมมันมีสภาพอีกแบบเพราะบังคับต่อเนทใช้account เฉพาะของค่ายเกมอีกได้ เลยเล่นเถื่อนยากขึ้นไปในตัว)
เรื่องfingerprint ที่ฝังในไฟล์แบบ drm free มันก็จะไม่มีประโยชน์ ถ้าไม่บังคับให้แอพทีเปิดอ่านทุกตัวต้องยืนยันความเป็นเจ้าของ นอกจากจะไปตามจับคนupload แล้วไล่เบี้ย ซึ่งมันก็ปลายทางมากๆ แถมคนซื้อมันก็สมัครหลายๆaccount ไว้กระจายความเสี่ยงได้อีกตะหาก
เอาแค่ทุกวันนี้ในไทยคนบ่น ทำไม ebook ขายแพง ไม่ขายถูกกว่าแบบเล่มเยอะๆทั้งที่ไม่มีกระดาษ (เจ้าที่ขายแพงกว่าแบบเล่มกรูก็ด่านะ) คือระบบ platformมันก็เก็บค่าfee ไม่ต่างจากสายส่ง ส่วนลดค่าพิมพ์มันก็ไม่ได้มาก 10-20% แถมเจอยอดขั้นต่ำebook เวลาขอลิขสิทธิ์ ยอดขายมันน้อยกว่าแบบเล่มอีก ยางในหลายคนก็มาบอกกันบ่อยๆในมู้แล้ว
สุดท้ายเมิงไม่ชอบใจในระบบก็ไม่ซื้อก็เรื่องของเมิง หวังแค่ว่าไม่เอาข้ออ้างไปอ่านเถื่อนก็แล้วกัน(กรูพูดลอยๆ)
จะว่าไป amazon US เคยบอกว่า ยอดขายebook มากกว่าหนังสือเล่มแล้ว(เฉพาะของร้านมัน) แต่ก็ยังไม่ยอมปลดdrm อยู่ดีนะ แถมจำได้ว่ามีค่ายนึงโดนฟ้องว่าทุ่มตลาด เพราะลดราคาebook มากเกินไป จนร้านหนังสือจริงเดือดร้อน
>>837
> ที่เมิงเจอทั้งสองที่ ก็เป็นแค่บางเรื่อง บางปก
กูยังไม่เจอเล่มไหนที่กูอยากได้ใน US แล้วไม่มีใน JP อ่ะ มันเสิร์ชไม่เจอหรอกนะ แต่กรอก ASIN ใน URL แล้วซื้อได้ ราคาก็เท่ากับแปลงค่าเงินมา
> จริงๆแล้วตามpolicyเมิงอยู่นอกเกาะ ก็ไม่สามารถซื้อหนังสือ JP ได้
กูอยู่ญี่ปุ่น
> กรูว่าแค่ลงหลายแอพ มันยุ่งยากน้อยกว่าพยายามหาโปรแกรมมาถอดdrmนะ
กรูต้องคิดเหมือนมรึงสินะ ดีจัง
> ที่เมิงบอกว่าสภาพตลาดไทย ยังปลดdrmไม่ได้ คือมันไม่ใช่แค่ไทยหรอก มันก็ทั่วโลกนั่นแหละ เมกา เองมีแต่เจ้าเล็กๆที่ทำdrm free ขาย ถ้าเมิงมองแค่ LN แปล eng เฉยๆมันก็แค่ genre เล็กๆของยอดทั้งหมดเอง
มันไม่ใช่มีแค่นั้น มันมีว่าทำไมร้านแบบ Kobo หรือ Google Play Book ถึงยังใช้ Adobe DRM ระบบเก่า ไม่ย้ายไประบบใหม่ (ระบบใหม่มีมาหลายปี เพิ่งจะถอดได้แค่ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา) แปลว่าจริงๆ เค้าก็ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้นหรือเปล่า หรือแบบ Amazon ก็ยังไม่ย้ายระบบทั้งหมดไป AZK/KFX ที่ก็ยังถอดรหัสไม่ได้ 100% แต่ยังปล่อย AZW3 ที่ถอดง่ายๆ ให้โหลดอยู่ ถ้าเค้าจริงจังจริงเค้าจะปล่อยระบบเก่าที่ถอดง่ายๆ ไปทำไม
แล้ว DRM ฟรีก็ไม่ได้มีแค่เจ้านั้น แต่พอดีนี่ทู้ไลท์โนเวลไง เลยยกมาแต่ไลท์โนเวล แบบ O'Reilly บริษัท Textbook ใหญ่ก็ขาย DRM-Free (และเจ้าอื่นๆ หลายเจ้า กรูไม่เข้าใจว่ากรูต้องยกตัวอย่างทุกเว็บเลยเหรอ มันมีเยอะมาก) ลองเข้าแบบ ebooks . com แล้วไปดูหมวด DRM Free สิ เต็มไปหมด แน่นอนว่ามันก็ยังไม่ใช่ส่วนใหญ่ของตลาด แต่ก็ไม่ใช่ส่วนเล็กนิดเดียวแบบที่มึงบอก
> (ที่เหลือของคอมเม้นต์)
อันนี้แหละคือที่กรูคิดว่าควรจะเป็นสิ่งที่เราจะคุยกันตอนกูเปิดเรื่องนี้ ไม่ใช่มีแต่คนออกมาปกป้อง DRM แบบไม่ลืมหูลืมตา
>>839 ถ้าทางกลับกัน มันจะตรงกันข้ามนะ หนังสือ JP มีใน US น้อยกว่าสุดๆ
อยู่เกาะแสดงว่าอ่านภาษาเกาะออก แล้วจะสนใจฉบับแปลไทยทำไมหว่า?
platform ที่ใช้drm แบบเก่าก็ไม่ได้หมายความว่าเขาอยากปล่อยฟรี แค่อาจจะมองว่ามันยังไม่กระทบ และการเปลี่ยนdrm มันมีต้นทุน(แพงมากด้วยเท่าที่ได้ยิน) แต่สุดท้ายฝั่งสนพ.เองอาจจะเป็นตัวเรียกร้องมาตรฐานให้สูงขึ้นก็ได้
เรื่องสัดส่วนคำว่าไม่น้อยนี่เท่าไร กรูคิดว่าหนังสือdrm freeในตลาดรวมๆมีไม่เกิน 10% นะ ถ้าไม่น้อยน่าจะ 30%++ ยกเว้นเจาะแค่บางgenre หรือบางแหล่งที่เน้นขายdrm free เป็นจุดขายอยู่แล้ว
กรูก็ยังแปลกใจที่เมิงพยายามหาวิธีถอดdrm แบบเถื่อนๆ(มันเถื่อนหมด ถ้าไม่ใช่ผู้ขายให้เอง) แล้วบอกว่าง่ายกว่าลงแอพหลายตัว ไม่ต้องคิดเหมือนกรูหรอก แต่กรูก็ไม่คิดว่าคนอื่นจะคิดแบบเมิงสักเท่าไร เหมือนเมิงซื้อwindows license แล้วพยายามลงcrack เพื่อปิดauto update /ปิดระบบactivated เพราะรู้สึกว่าผูกมัดเกินไปนั่นแหละ มันเหมือนการให้เหตุผลไม่ตรงกับการกระทำ
ระบบDRM ก็เหมือนกฎหมายนั่นแหละ ถ้าโลกสวยๆก็จะบอกว่า ถ้าทุกคนเป็นคนดีก็ไม่ต้องมีกฎหมาย ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นจริงในโลก หนังสือเล่มแมร่งยังมีแบบcopy ทั้งเล่มขายตามร้านถ่ายเอกสารสมัยก่อนเลย
แต่ส่วนหนึ่งนอกจากเรื่องกลัวปล่อยเถื่อน มันยังมีเรื่องของscope of license ในมุมสนพ.หรือเจ้าของหนังสือ เมิงขายให้platform นึงสัญญานึง แต่ถ้าคนซื้อไป หาวิธีไปถอดรหัสcrackเอง แล้วไปอ่านในอีกplatform นึง จริงๆถือว่าผิดกฎหมายนะ มันไม่เหมือนหนังสือเล่มตรงนี้(และเป็นสิ่งที่พ่อค้านักเก็งฯ โจมตีตลอด และยังมีฟ้องร้องกันในเมกาเรื่องกรรมสิทธิ์ebook ว่าทำได้แค่ไหน)
กรูไม่ค้าน ถ้าจะมีการขายdrm free นะมีเยอะๆขึ้นก็ดี ส่วนกรูคนใช้หลายแอพอยู่แล้วก็เฉยๆ แต่กรูเห็นว่า การพยายามถอดรหัส drm เองมันคือการละเมิดลิขสิทธิ์แบบหนึ่ง เพราะผิดเงื่อนไขการใช้งาน และไม่คิดว่ามันจะเป็นสิ่งที่แก้ไขpain point เรื่องขี้เกียจลงหลายแอพ เพราะมันยุ่งยากกว่าเยอะ
>>840
> ถ้าทางกลับกัน มันจะตรงกันข้ามนะ หนังสือ JP มีใน US น้อยกว่าสุดๆ
ใช่ ไม่เถียง ถึงพูดตลอดไงว่ากูหมายถึง Amazon JP
> อยู่เกาะแสดงว่าอ่านภาษาเกาะออก แล้วจะสนใจฉบับแปลไทยทำไมหว่า?
ก็อ่านภาษาเกาะเป็นหลักนี่แหละ แต่มันก็มี LN ออริไทยนี่หว่า บางทีก็อยากลองอ่านบ้าง
> platform ที่ใช้drm แบบเก่าก็ไม่ได้หมายความว่าเขาอยากปล่อยฟรี แค่อาจจะมองว่ามันยังไม่กระทบ และการเปลี่ยนdrm มันมีต้นทุน(แพงมากด้วยเท่าที่ได้ยิน) แต่สุดท้ายฝั่งสนพ.เองอาจจะเป็นตัวเรียกร้องมาตรฐานให้สูงขึ้นก็ได้
Kindle เนี่ย ถ้าโหลดผ่านเครื่องมันเองได้ KFX ที่ยังถอดไม่ได้ แต่ถ้าโหลดผ่านเว็บมันแล้วใช้ USB โหลดลงเครื่อง จะได้ AZW3 ที่ถอดได้ชิวๆ ต้นทุนไม่น่าเกี่ยวแล้วอันนี้
> กรูก็ยังแปลกใจที่เมิงพยายามหาวิธีถอดdrm แบบเถื่อนๆ(มันเถื่อนหมด ถ้าไม่ใช่ผู้ขายให้เอง) แล้วบอกว่าง่ายกว่าลงแอพหลายตัว
มรึงอาจจะไม่รู้ว่ามันง่ายขนาดไหน มันออโต้ 100% ได้แล้วใน calibre ถ้าลงปลักอินถูกตัว กูโหลด AZW3 จากอเมซอน หรือ ACSM จากพวกที่ใช้ Adobe DRM แล้ว import เข้าไป จบ ง่ายแค่นี้ จะยากกว่าสลับแอพได้ยังไง ทีนี้กูก็เอาไปอ่านแอพไหนก็ได้แล้ว calibre มันก็คอนเวิร์ตอัตโนมัติ หรือตั้งเป็น home server ซิงค์ผ่าน OPDS ใช้กับแอพอ่านหนังสืออื่นๆ ได้อีกหลายตัว
> เหมือนเมิงซื้อwindows license แล้วพยายามลงcrack เพื่อปิดauto update /ปิดระบบactivated เพราะรู้สึกว่าผูกมัดเกินไปนั่นแหละ มันเหมือนการให้เหตุผลไม่ตรงกับการกระทำ
แต่คนทำงั้นเยอะนะ เยอะสัสๆ เพราะหลายครั้งถ้าวินโดวส์คิดว่าคีย์เถื่อน แครกไปเลยไม่กี่นาทีจบ ง่ายกว่าโทรไปทะเลาะกับ Microsoft
เพลงก็เหมือนกัน กูซื้อซีดี(ญี่ปุ่นอ่ะนะ)แล้วก็ไปบิทเอาไฟล์ FLAC มาเพราะขี้เกียจริปเอง
หนังสือกูก็ทำตามที่บอกไป เพราะกูจะเอาไปอ่านบน Platform อื่น
ไม่แน่ใจกฎหมายไทย (เพราะขี้เกียจอ่าน) แต่หลายๆ ประเทศการถอด DRM ไม่ผิดกฎหมายตราบเท่าที่ใช้ส่วนตัวเท่านั้น แล้วทางศีลธรรมก็คือกูซื้อมาแล้ว กูก็ควรจะใช้ได้ตามแบบที่กูอยากตราบเท่าที่กูใช้ของกูคนเดียว ส่วนเรื่องเงื่อนไขการใช้งาน หลายๆ ประเทศ (เช่นกัน กูไม่รู้กฎหมายไทย) ก็ระบุชัดว่าเงื่อนไขพวกนี้ไม่มีผลบังคับใช้ ทางกฎหมายอาจะผิด (แต่โทษคืออะไรหว่า พวกนี้โทษส่วนมากมันคือค่าเสียหาย แต่ถ้าไม่ได้เผยแพร่มันก็ไม่ทำให้ใครเสียหายนิ) แต่ทางศีลธรรมก็นั่นแหละ คงไม่ใช่ทุกคนจะเห็นด้วยหรอก อันนี้ก็เข้าใจ แค่กูไม่รู้สึกว่าผิด ยังไงเงินก็จ่ายไปแล้ว
>>841
เรื่องลงwin นี่ซื้อแท้แล้ว ลงcrack มีเยอะของเมิงนี่วงการไหนวะ ส่วนใหญ่ที่มันจะแบบ ซื้อkeyถูกๆจากในเนท ซึ่งเป็นพวก msdn,volume license ของมหาลัย มาใช้ จริงๆมันผิดเงื่อนไขการใช้งานไม่ต่างจากเถื่อนแค่ไม่ต้องcrack บางทีมันหลุด เพราะใช้keyแบบนี้(หมดอายุ/ใช้จนเต็มโควต้า)
ถ้าkeyกล่องแท้ๆหรือซื้อจากเวบmsยังไม่เคยหลุด ยกเว้นเปลี่ยนcpu บ่อย(มันจำ 3-5หนมั๊ง) แล้วต้องโทรหาms ซึ่งกรูก็ไม่คิดว่าคนที่ซื้อของแท้จริงๆราคาหลายพัน จะยอมเสี่ยงลงcrack เพราะกลัวเสียเวลาไม่กี่นาที
อีกอย่างยุคนี้win10-11 ต่อให้ไม่ซื้อ ก็ไม่ต้องactivate ก็ไม่เสียหายอะไร ยังงงจะลงcrackให้เสี่ยงโดนเจาะไปทำไม เหมือนร้านคอมclone hddทำตามๆกันซะมากกว่า
กฎหมายลิขสิทธิ์ไทยมันอนุญาตให้เมิงbackup ส่วนตัว โดยที่ไม่กระทบสิทธิ์ของเจ้าของสิทธิ์ แต่อย่างเคสเช่นการแปลง file ไปเล่นหลายๆที่ก็เป็นที่ถกเถียงกันว่าสิทธิ์ของคนซื้อมีถึงแค่ไหน(เช่นตัวอย่างเมิง ซื้อcd แผ่นเดียว แต่แปลงไปเล่นในคอม ในเครื่องเสียง ในทีวี ในมือถือทั้ง android/iOS ที่เขาก็มีขายเพลงแยกกันหมดอยู่แล้วฯลฯ) แต่ประเด็นนี้เมกาก็ฟ้องกันอยู่ มันมีหลายแง่มุม หลักการหลักของกฎหมายลิขสิทธิ์คือต้องไม่กระทบสิทธิ์ของเจ้าของสิทธิ์เกินควร
เรื่องการถอดdrm มันจะเป็นในแง่ผิด EULA ห้ามทำ reverse engineering มันไม่ใช่การbackup โดยปกติ แต่มันก็พิสูจน์ยาก นอกจากเมิงป่าวประกาศเอง ถ้าของไทยมีเรื่องพรบ.คอมฯด้วยนะ เข้าถึงระบบที่ไม่ได้จัดเตรียมไว้ให้มันเหมารวมได้ แต่ถ้าเมกา นี่มีประเด็นเพิ่มเพราะคุ้มครองสิทธิบัตร(ไม่ใช่ลิขสิทธิ์)ระดับsoftwareด้วย เช่นที่ oracle ฟ้อง google เรื่อง ลอกAPI ของJAVA ไปใช้งานบน android(ไม่ได้ลอก source code แค่ลอกลักษณะการเรียกใช้ API)
แต่ถ้าเมิงใช้คนเดียวอยู่ในบ้าน จะทำอะไร คนนอกก็ไม่รู้หรอก เหมือนเมิงใช้software จะเถื่อนจะแท้ อยู่ในบ้านเขาก็ไม่จับ แต่ถ้าเมิงไปรับงานนอกเมื่อไร หรือทำธุรกิจ ส่งงานข้างนอก โดนจับได้ เพราะมันกระทบสิทธิ์ของเจ้าของแล้ว(ไม่จำเป็นต้องเผยแพร่หรือหารายได้ถึงจะผิด) ถ้าเป็น ebook อาจจะยกตัวอย่างได้ยาก สมมติเคส print จาก ebook ออกมารวมเป็นเล่ม แล้วไปอ่านนอกบ้าน ไปตั้งโชว์ ฯลฯ ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าผิดไหม
นอกประเด็นไปเยอะละ แต่กรูก็ยังมองว่า เมิงคลิกโหลดในแอพอีกตัว ก็ใช้เวลาน้อยกว่า เมิงพยายามเข้าเวบเพื่อโหลดมาแล้วคลิกโปรแกรมแปลงถอดรหัส แม้จะทำ script auto แค่ไหนก็ตาม
ส่วนเรื่องการเข้ารหัสของplatform ปกติมันคิดค่าlicenseแยกตามchannel หมดไง บางอันมันอาจจะยังไม่ต่อ/upgrade เพราะคนใช้น้อยแล้วก็ได้ และราคาก็ไม่ถูก อย่างของเมบนี่ค่าdrm ได้ยินแว่วๆว่ารวมMAแล้วหลักร้อย ไม่รู้จริงไหม
ป.ล.กฎหมายลิขสิทธิ์ไทย มีโทษทางอาญาฯ ทั้งค่าปรับ(เข้ารัฐ)และจำคุก โดยแยกค่าเสียหายออกต่างหาก เป็นกฎหมายที่มีทั้งส่วนแพ่งและอาญาในตัวเดียวกัน
>>842
> (เรื่องวินโดวส์)
ไม่อ่ะ คีย์ FPP นี่แหละ ถูกสิทธิ์โดยตรวจไม่มีปัญหาแน่ๆ แต่ขี้เกียจ แครกง่ายกว่า ปกติโดนเช็คถ้ามีเอกสารสิทธิ์ให้ดูถูกต้องก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
> (เรื่อง EULA)
ในยุโรปเข้าใจว่ามีตัดสินแล้วนะว่าห้าม reverse engineering ไม่ได้ ส่วนพรบ.คอมไทยแม่งก็นะ...
> เมิงคลิกโหลดในแอพอีกตัว ก็ใช้เวลาน้อยกว่า
สำหรับกูไม่ใช่แค่นั้นด้วยไง คือต้องเอามากรอกชีทเพื่อจำให้ได้ว่าอะไรอยู่ที่ไหน นี่ก่อนจับทุกอยากยัดใน calibre ก็งงมากว่าหนังสืออะไรซื้อที่ไหน (Amazon US, Amazon JP, Kobo, Google Play Book, Humble Bundle, etc.) สุดท้ายเลยตัดสินใจยัดทุกอย่างเข้า calibre เพื่อจัดการที่เดียวหมด
โม่ง
>MEB ได้เปรียบเจ้าอื่นเพราะคนมี ebook ใน MEB แล้วไม่อยากไปซื้อที่อื่นแยกกัน
Also โม่ง
>เมิงคลิกโหลดในแอพอีกตัว ก็ใช้เวลาน้อยกว่า เมิงพยายามเข้าเวบเพื่อโหลดมาแล้วคลิกโปรแกรมแปลงถอดรหัสทำไม
ผิด EULA แล้วไงวะต่อให้ฟ้องขึ้นมาจริงก็ไม่ชนะหรอกเหมือนริปไฟล์เกมมาเล่นในอีมูผิดข้อตกลงจริงแต่ซื้อมาแล้วไม่ได้แจกต่อจะทำไรก็เรื่องของกรู
สงสัยอยู่ว่าปรกติถ้าหนังสือเยอะมากเอา สมมติเอาแค่ประมาณพันกว่าเล่ม พื้นที่ table ก็เกิน 256GB ไปแล้ว แล้วไหนจะมี file update แถมว่างขนาดมาถอด drm นั่งจัดไฟล์ แถมเวลาจะอ่านทีต้องวิ่งไปที่คอมหา file อีกรอบเรอะ? ชีวิตต้องว่างขนาดไหวว่ะเนี่ย
แถมอยู่เกาะอันนี้ยิ่งแปลกถ้าซีเรียสอยากได้ไฟล์ขนาดนั้นเดินเข้าร้านหนังสือมือสอง แล้วไปเช่าเครื่องแสกนมาทำ ebook เองไม่ง่ายกว่าเรอะ
>>846 หนังสือหรือมังงะ หนังสือที่เป็น text ต่อให้ LN แบบมีรูปประปรายก็ 5-10MB ไม่มีรูปนี่ไม่ถึง 1MB เอาที่ไหนไป 1000 เล่ม 256GB วะ e-book ที่เป็นไฟล์สแกนนี่คือเอาเมื่อไม่มีทางเลือกอื่นจริงๆ (เช่น มันไม่มีขายเป็น ebook ปกติ ต้องเอามาสแกนเอง)
ส่วนเรื่องจัดการในคอม... พูดชื่อ calibre ไปประมาณสามร้อยรอบแล้ว ขี้เกียจตอบแล้ว ทุกอย่างที่พูดกันเหมือนว่ายุ่ง ของจริงแม่ง 2 คลิกก็เสร็จแล้ว ใช้เวลาไม่ต่างกะเปิดแอพมาหาหนังสือหรอก (คอมหลักกูคือ ultrabook ที่พกติดตัวตลอด ถ้าไม่ใช่แบบนี้อาจจะคิดว่ายุ่ง ก็อาจจะใช่ แต่ไม่ใช่กู)
>>847 ebook มั่วสัด manga เฉลี่ยเล่มละ 100-150mb ถ้าต่ำกว่านั้นภาพค่อนข้างแตกแล้วล่ะ LN มันมีรูปนะ ต่อให้เป็น epub ก็เฉลี่ยเล่มล่ะ 20-50mb เกิน 1mb อยู่ดี ขนาดเล่มไม่ถึง 1mb ของมึงไม่มีปกเรอะ แต่ไม่แปลกหรอกพูด calibre ไม่ถึงสอบรอบ บอก 300 ครั้ง lol
อ่านมากแต่อ่านบน ultrabook เออ จ้าา อาเข้าไป คนบ้าที่แบกกระเป๋สคอมไปทุกที กูว่ามึงเป็นเภทซื้อไม่กี่เล่มแล้วโวยวาย เอาตัวเป็นจุดศูนย์กลาง ลัดธิเกลียด DRM เข้าไส้ ทำแบบกูสิแบก ultrabook ไม่ทุกที่สะดวกสุด ตรงไหนวะ 555
ปล่อยคนบ้าไปคนเดียวเถอะ
ในแง่คนทั่วไป ก็ซื้อธรรมดา อ่านใน app ของใครของมันจบสะดวกกว่า เพราะมันไม่ต้องหาที่เก็บให้วุ่นวาย ส่วน drm คนปรกติไม่สนใจหรอก ขอให้อ่านสะดวกเป็นพอ
>>844
เมิงต้องแยกความสะดวก และเวลาในการใช้งาน กรูเรียงให้จากง่ายไปยาก
เจ้าเดียวมีครบทุกอย่าง -> ใช้หลายเจ้าหลายแอพ-> download file ลงมาแล้วใช้โปรแกรมแปลง เพื่อรวมใช้แอพเดียวอีกที
คือถ้ามีหนังสือเล่มเดียวกัน ขายในสองแอพ แต่เมิงมีหนังสือในแอพแรกแล้วเยอะ เมิงจะไปซื้อเจ้าใหม่ไหม? ถ้าไม่ได้มีโปรโหดๆ หรือขายถูกกว่ามากๆ ขนาด แอพของสนพ.แบบ การ์ตูนลูกบาศก์ ก็ไม่ได้ขายถูกกว่าที่ขายในเมบเลย ขายเท่ากันด้วยซ้ำ แค่ลงไวช้าต่างกัน ถ้าไม่รีบมาก ก็รอในเมบตลอดอะ ยกเว้นบางเรื่องอยากอ่านไวๆก็ยอมกดในลูกบาศก์ไป
ที่ตอนนี้ลงหลายแอพ เพราะหนังสือมันไม่ได้มีขายเหมือนกันมากกว่า ยิ่งแยกตามโซนประเทศงี้ คือจำเป็นต้องทำ แต่ยังไงก็ง่ายกว่าโหลดจากเวบมาถอดdrm เยอะปะวะ
>>843 >>847 กรูเข้าใจละ เมิงใช้ ultrabook เลยรู้สึกยุ่งยากที่จะใช้หลายแอพ เพราะมันต้องlogin หลายรอบผ่านเวบเป็นหลัก (เดาว่า windows os)
เพราะ ถ้าใช้แอพebook ต่างๆใน android/iOS มันก็login ค้างไว้ สลับแอพก็ง่ายนิดเดียวแค่แตะเดียว(ยกเว้นใช้คนละ acc ในapp เดียว อาจต้องใช้ตัวช่วยพวกapp clone)
เอาเหอะ สะดวกแบบไหนก็ใช้แบบนั้น แต่ละคนก็ต่างๆกันไป
ป.ล. กรูมีหนังสือในเมพเกินพันเล่มแล้ว อ่านจบก็ลบ เปลืองที่ โดยเฉพาะมังงะ(เล่มละหลักร้อยMB) อยากอ่านใหม่ซ้ำก็กดโหลดใหม่ เนทสมัยนี้โคตรแรง แทบไม่รู้สึกต้องรอ อีกอย่าง NAND/solid state memory ใน tablet ถ้าใช้ใกล้เต็มความจุ speed มันก็ตกนะ
>>849 มั่วอีก tablet ส่วนใหญ่ในท้องตลาดคือ ipad มันใส่ sd card ได้ซะทีไหนกันเล่า อ่อ ขนาดพวกจอ elink ของจีนก็ไม่ค่อยมีช่อง sd card นะ
ถ้าบอกว่าพกหนังสือพร้อมกันไม่ได้ทั้งหมด ถ้างั้นความสะดวกก็ไม่มี เสียเวลาเลือกหนังสือโอนไปโอนมาอีก ไม่ต่างกับ mp3 รุ่นโบรานว่างั้น
ทำลายหนังสือแล้วยัดใส่เครื่อง duplex ไม่ต่างกับถ่ายเอกสาร ไม่มีเงาหรอก ที่เกาะมีบริการเช่ามันมาเป็นกล่องพร้อมที่ตัด
>>848 มึงอ่านภาษาไทยแตกปะเนี่ย กูงงละ กูอ่านบน kindle แต่กูพก ultrabook ตลอดอยู่แล้ว การโหลดเข้า kindle มันเป็นเรื่องที่ไม่ได้สะดวกน้อยกว่ากดโหลดจากในแอพเลย
แล้วก็กรูไม่รู้มึงเอาหนังสืออะไร 50MB วะ เนี่ย เอา LN เลยก็ได้ Sword Art Online เล่มแรก ฉบับภาษาญี่ปุ่น ไฟล์ AZW3 ที่โหลดมาจาก Amazon ขนาด 2.64MB นี่ขนาดมีรูปพอสมควรนะเพราะเป็น LN
ส่วนที่ถามว่าไม่มีปกเหรอ ก็กรูบอกว่าถ้าไม่มีรูปไง ปกไม่เป็นรูปเรอะ ถ้าหนังสือไม่มีปกมันเล็กกระจิดเดียว ถ้าอยากถามว่าหนังสืออะไรไม่มีปก หนังสือจาก Project Gutenburg
>>851 เปล่า กรูอ่านในคินเดิล มันไม่มีแอพให้ใช้ด้วยซ้ำ เลยต้องถอด DRM มาใช้ไง ส่วนตัวว่าประสบการณ์อ่านภาษาอังกฤษ/ญี่ปุ่นบนคินเดิล e-reader ดีกว่าเจ้าอื่นทิ้งฝุ่นไม่เห็น ส่วนถ้าบอกว่าไปใช้ BOOX ลงแอพเนี่ย แค่เป็นแอพ MEB ก็ไม่อยากใช้ละ ฟอนต์มันบางไปปรับไม่ได้ (kindle/kobo มันปรับความหนาฟอนต์ได้เป็น stepๆ) แล้วปรับระยะบรรทัดไม่ได้อีกต่างหาก ไม่รวมถึงความเร็วที่ Kindle รุ่นใหม่ๆ เร็วกว่ามากๆ
>>855 ถึงได้บ่นว่า amazon ภาพกากสุดไง app สมมุติลองไปโหลดลีดาเอลใน meb ตอนโหลดขึ้น 160mb file epub นะ หลังโหลดมาบบีบอัดอันนี้ไม่รู้แต่เกิน 30mb แน่
table ด๋อยพวกจอ elink ส่วนมากก็ไม่มีช่อง sd card นะ แล้ว kindle รุ่นไหนหว่า รุ่นทั่วไปที่จอเป็น elink ไม่ใช่ด๋อยนะ แถมโปรแกรมอ่านของ kindle ถือว่าห่วยสุด มันกั๊กหน่วยความจำสำหรับ ebook นอก store หรือ หมายถึง kd fire? แต่ปรกติลง apk นอกไม่ได้นิ ต้องไปปลด security
อ๋อ แต่ต่อไปอาจโดนลอยแพเพราะ google play มันไม่ support apk แล้ววันดีคืนดีคนทำ app 3rd party อาจลอยแพ apk ไปก็ได้ เพราะเครื่องมือ build โดนบีบทุกที
>>856 ลองหา android tablet e-ink จีนก็ได้นะ ถ้าเมิงชอบ e-ink ลงแอพได้เหมือนandroid ปกติเลย ตัวใหม่ๆแรม 3GB แล้วลื่นขึ้นกว่ารุ่นเก่าๆ พวก Meebook P78 จอ e-ink 7.8" 300PPI คมอยู่ ราคาไม่แพงด้วย มีช่องsd cardที่หลายคนถามหาด้วย ตัว 10 นิ้วก็มี แต่กรูว่าราคามันจะไปชน ipad แล้ว
แต่สำหรับกรูใช้ tablet ธรรมดา จอ 10.5-11 นิ้วนี่แหละ ไม่เล็กเกิน ขยายตัวอักษรใหญ่ได้อ่านพอดีๆ โดยที่ไม่หนักไป ชอบสีสดๆ เพราะอ่านหนังสือหลากหลายแนว โดยเฉพาะนิตยสารด้วย ใช้ table android ล้วนๆ ชอบที่จอ OLED สุดแล้วล่ะ
เมบ มังงะภาพสวย คมจริง ยกเว้นเรื่องเก่าๆ(ที่เคยพิมพ์แบบเล่มนานแล้ว แต่เพิ่งมาลงebook) น่าจะขึ้นกับต้นฉบับสนพ.ไทยส่งให้ด้วยนั่นแหละ ใน kindle jp เคยซื้อพวกมังงะรายสัปดาห์ ภาพเส้นไม่คมเท่าในเมบ แต่ภาพประกอบเนื้อหาอื่นเช่นปกหรือสกู๊ป ที่ลงเป็นรูปกราเวียหรือไอดอล ก็คมตามปกติ
แต่มังงะในเมบ ก็แลกด้วยเล่มละร้อยกว่า MB นั่นแหละ กรูใช้tablet ความจุ 256GB อ่านจบยังต้องลบประจำ อย่างที่บอก กดโหลดใหม่ไม่กี่สิบวินาที ไม่ได้รู้สึกช้าจนต้องเก็บไว้ทุกเรื่องในเครื่อง ส่วนLN epub เรื่องละ 30-50MB เก็บทิ้งๆไว้ได้ไม่กลัวเปลือง
พวกมึงคุยเรื่องอะไรกัน
อ่านแค่เมพ อ่านแค่สแกน ไม่ต้องใช้เครื่องเทพอะไรทั้งนั้นเว้ย
กูงงมันไม่ได้มาขอคำแนะนำ tablet ทำไมขยันยัดเยียดให้มันจัง เข้าใจไรผิดป่าว
>>866 ก็เห็นมีคนบ่น ว่าที่มันใช้อยู่มันยุ่งยากไง
บ่นว่า kindle อ่านหนังสือเจ้าอื่นไม่ได้ เลยต้องเอาเจ้าอื่นไปถอด drmแบบเถื่อนๆ เพื่อให้แปลงไฟล์กลับไปอ่านในkindle ได้
หรือใช้ultrabook อ่าน ขี้เกียจlogin เข้าหลายแอพ(เพราะมันไม่มีแอพในwindows) เลยต้องถอด drm เพื่อให้อ่านที่เดียวกันหมดได้ บลาๆ
ก็แค่เสนอทางเลือก และเผื่อใครสนใจ ใครชอบe-ink ยุคนี้ก็มีandroid ตัวเลือกดีๆเยอะลงได้ทุกแอพทุกstore ไม่ต้องจำกัด แถมรุ่นใหม่ก็แรงขึ้นเยอะแล้วในราคาไม่แพง ไม่เหมือนตัวที่ขายกันยุคแรกๆสมัยนั้นอืดจริง ลงstoreอื่นก็ไม่ค่อยได้
หรือใช้tablet ธรรมดาก็ได้ ipad,android ก็ตามงบประมาณ ภาพสวยดี
แต่ช่างเหอะ กรูก็คิดว่ามันนอกเรื่องไปเยอะเหมือนกัน เอาเป็นว่ากรูขอโทษที่นอกเรื่อง
อ่านยังไงให้เป็นมันบ่นว่ายุ่งยากวะ กูเห็นมันบอกว่าชอบ kindle มากกว่าเพราะปรับแต่งอะไรได้ละเอียดกว่าแอพร้านค้า และรวมไฟล์อยู่ที่เดียวสะดวกกว่าจะอ่านไรก็หาง่าย และปลด DRM ง่ายนิดเดียว
"หรือใช้ultrabook อ่าน ขี้เกียจlogin เข้าหลายแอพ(เพราะมันไม่มีแอพในwindows) เลยต้องถอด drm เพื่อให้อ่านที่เดียวกันหมดได้" ไอนี่ก็มั่วมโนเองมันไม่ได้พิมพ์
เข้าใจได้อะนะว่าแนวคิดเรื่องสิทธิ์ผู้บริโภคในไทยไม่ค่อยเข้มแข็งเท่าไหร่ ผูกของที่ "ซื้อขาด" ให้ใช้ได้แอพตัวเองที่เดียว จะลบออกจากเซิฟเมื่อไหร่ก็ได้ เลยไม่มีคนบ่นเท่าไหร่ (ไม่ได้พูดถึงว่ามันจะลบหรือไม่ลบแค่ "สิทธิ์" ที่จะลบอยู่ที่ผู้ให้บริการฝ่ายเดียว ลูกค้าที่ "ซื้อขาด" สำรองข้อมูลหนังสือของตัวเองไม่ได้ก็แย่แล้ว เพราะเท่ากับมึงไม่ได้ซื้อแค่เช่าอ่านเฉยๆ)
https://www.reddit.com/r/books/comments/rzqh8b/dont_make_my_mistake_and_buy_books_from_google/
>>868 แล้วเมิงอยากได้หนังสือจากเมบ แต่จะเอาไปอ่านในkindle เมิงก็ไม่คิดว่า ฟีเจอร์ในแอพมันคือการแข่งขันกันเหรอวะ
ถ้าเมิงซื้อได้จากทุกที่ แล้วไปอ่านที่เดียวกันได้หมด การแข่งขันก็หายไปดิ ใครจะทำแอพดีๆแข่งกันล่ะวะ เผลอๆหนังสือราคาขึ้นอีก เพราะทำตลาดแบบlocal ไม่ได้
อย่าบอกว่าให้ไปแข่งกันที่แอพอ่านฟรีนะ
ที่เมิงพยายามพูดว่า เมิงมีสิทธิ์ใช่วิธีเถื่อนๆในการถอด drm นี่ก็ไม่เข้าใจเหรอว่า มันผิดกฎหมายในหลายประเทศ แม้แต่เมกาหรือEU ที่ฟ้องๆกันบางเคส มันก็ยังไม่ยกเลิกทั้งหมดนะ ชอบยกสิทธิ์ แต่กฎหมายมันยังไม่ได้รับรองสิทธิ์ให้เมิงเลย (เมิงก็เรียกร้องได้ แต่อย่าพูดว่าที่อื่นเขาให้แล้ว มันให้case by case ไม่ใช่ทุกเคส)
กรูว่ามันเลยยุคที่ยังเถียงว่าเช่าหรือซื้อหนังสือแล้วนะ พวกที่กลัวplatform เจ๊ง แล้วหนังสือหายนี่ยังมีอีกเหรอวะ เมิงกลัวตั้งแต่สิบปีที่แล้ว วันนี้ก็ยังกลัวทั้งๆที่เมิงแทบไม่เคยกลับไปแล ของที่เมิงซื้่อสิบปีที่แล้ว
สิทธิ์ที่จะลบนี่ก็กลัวกันจัง ที่ผ่านมาเขาเลิกขาย แต่ก็ยังโหลดได้ หรือถ้าจะลบจริงๆเพราะติดขัดทางข้อกฎหมาย(เช่นโดนrevoke license)เขาก็คืนเงินรีฟันด์กันไป
อยากอ่านจากแอพเดียว มีหนังสือทั่วโลก สะดวกเข้าใจ
แต่ในความเป็นจริง ทำแบบนั้นมันคือการผูกขาดด้วยซ้ำ ไม่เกิดการแข่งขัน
ส่วนจะบอกให้เปิดเสรี drm free แต่แรกเลย จะได้เอาไปอ่านที่ไหนก็ได้ไม่จำกัด ถามสนพ.กับคนเขียนก่อนว่าเขายอมรับความเสี่ยงไหม ที่ยอมก็มี เมิงก็ไปซื้อ แต่ที่ไม่ยอม เพราะเขาจะรักษาสิทธิ์ของเขาก็ต้องยอมรับ
>>869 กลับกันต่างหาก การล็อกให้ใช้ได้แค่แอพตัวเองนี่แหละที่ทำให้การแข่งขันหายไป เจ้าตลาดได้เปรียบเจ้าอื่นเพราะคนขี้เกียจย้ายแอพอยากให้หนังสือรวมอยู่ที่เดียวจะได้ไม่งง ต่อให้หนังสือแพงกว่าเจ้าอื่น แอพเจ้ารองทำดีเท่า หรือเจ้ารองทุ่มเงินอุดหนุนลดราคาสู้ก็เจาะไม่ค่อยเข้า ตัวอย่างเช่น สตีมกับอีปิค
เรื่องโหลดได้หรือลบแล้วคืนเงินนี่แล้วแต่ผู้ให้บริการจะเมตตาเลยจะปิดหนีไปเฉยๆก็ยังได้ ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าของหนังสือต้องมาลุ้นเลย
>>871 คือเมิงต้องเข้าใจนะ การสร้างแอพ สร้างplatform มันต้องลงทุน หรือแม้แต่ไปจ่ายค่าลิขสิทธิ์หนังสือแพงๆเพื่อให้ได้ exclusive มาขายก่อน
ถ้าเมิงเปิดให้ใครซื้อที่ไหนก็ได้ถูกๆ เอามาอ่านในแอพแพงๆสุดหรูใช้ฟีเจอร์ได้เพียบ แล้วใครจะลงทุนทำแอพอ่านให้เมิงดีๆล่ะวะ?
ถ้าโลกสวยก็บอก รอแอพopen source ดีๆสิ ในความเป็นจริงมันมีข้อจำกัดโคตรเยอะ แถมไม่เอื้อต่อเจ้าของหนังสืออีกตะหาก
เรื่องปิดหนีไม่ให้โหลด เมิงฟ้องได้ ทีจะฟ้องเรื่องถอด DRM กล้าฟ้อง แต่ดันไม่กล้าฟ้องถ้าplatformปิดหนีเหรอวะ งง
อยากเสรีมาก และ เมิงscanหนังสือเก็บไว้ดูเองนั่นแหละ(แต่ห้ามเผลอแชร์ หรือเอาไปโชว์ใครข้างนอก เพราะผิดกฎหมายลิขสิทธิ์)
อย่าเทียบกับplatform digital download อื่นๆเลย ยิ่งฝั่งเกม ยิ่งเห็นการแข่งขัน ถ้ามีsteam เจ้าเดียว เมิงจะเห็นการลดราคาแข่งกันไหม? epic สู้ไม่ได้? กรูก็ซื้อเกมกับ epic ไปหลายพันแล้ว เพราะมันมีคูปองลดเกมใหม่เร็วกว่าsteam ตอนแรกคนบ่นโหลดได้ช้า ตอนหลังมันก็พัฒนาเยอะขึ้นแล้ว แทบไม่ต่างกัน กรูซื้อเกมใหม่ช่วงเปิดตัวกับ epic มากกว่าsteam แล้วล่ะ
สมมติถ้ามันเปิดเสรีสุดๆ ซื้อเกมจากepic ถูกๆเอาcode ไปใส่steam ก็โหลดเล่นได้ เมิงคิดว่า epic มันจะพัฒนาระบบการโหลดของมันไหม? (จริงๆตอนนี้มันมีระบบร้านหรือนายหน้าขายcode เกม ลดราคาแตกต่างกัน แต่มันคนละแบบกับการเสรีplatform)
จริงๆฝั่งเกม เขาล้ำหน้าไปไกลเยอะแล้ว ที่เมิงกลัวๆกัน ฝั่งเกมเจอมาหมดแล้ว แย่ยิ่งกว่าก็มีเช่น บางเกมต้องต่อเนท sync กับserver แล้วค่ายเกมปิดserver เมิงก็เล่นไม่ได้ไง ทั้งๆที่เป็นเกมoffline เขาก็หาวิธีกัน มีทั้งแบบเถื่อนๆทำ patch มาหลอกเกม หรือค่ายเกมทำ update offline mode มาให้ก็มีหลายแบบ คงไม่มีใครไม่กล้าซื้อเกมวันนี้ เพราะกลัวจะเล่นไม่ได้ในอีกหลายปีข้างหน้ากันแล้ว
ต่อให้ถ้าทำระบบระบุตัวตนว่าใครซื้อ file ไป แล้วถ้าเอาไปแจกมี id วิ่งเข้าหาบัตรประชาชน เบอร์โทรพร้อมสามารถฟ้องถูกตัว แล้วไม่มีปัญหาเรื่องระเมิดลิขสิทธิ์มาทีหลัง
แต่ใช้งานแบบนี้คนส่วนมากไม่เอาหรอกนะ เพราะถ้าทำแบบนั้น file ที่ซื้อมาก็จะโหลดได้ครั้งเดียวหรือไม่ก็โหลดได้ภายในระยะเวลาสั้นอย่างจำกัด เพราะ file ทุกคนต่างกัน สมุติซื้อ 1000 คนก็เปลืองพื้นที่ 1000 เท่าจากปรกติ แถมจะโหลด file เดี๋ยวนั้นเลยคงเป็นไปไม่ได้ต้องรอคิว server process
การดูแล file ตัวเองนี่ละเรื่องยุ่งยากสุดเกิด hdd / ssd file หายก็ไม่ต่างจากปลวกกิน ถึงจะเอาไปใส่ cloud ก็เสียค่าบริการรายเดือน
>>872
"ถ้าเมิงเปิดให้ใครซื้อที่ไหนก็ได้ถูกๆ เอามาอ่านในแอพแพงๆสุดหรูใช้ฟีเจอร์ได้เพียบ แล้วใครจะลงทุนทำแอพอ่านให้เมิงดีๆล่ะวะ?"
มึงละเมออะไร มีเม้นไหนเรียกร้องให้แอพอัพโหลดไฟล์ด้วยเหรอ ไม่ใช่ประเด็นสนทนาเลยมึงอ่านจับใจความยังไง อีกอย่างถ้าพูดถึงเรื่องอัพโหลดไฟล์ในแอพตัวเองเจ้าใหญ่ๆทำได้หมดทั้ง kindle kobo playbooks ฯลฯ ไม่ใช่เรื่องให้มาเถียงเลย
"เรื่องปิดหนีไม่ให้โหลด เมิงฟ้องได้ ทีจะฟ้องเรื่องถอด DRM กล้าฟ้อง แต่ดันไม่กล้าฟ้องถ้าplatformปิดหนีเหรอวะ งง"
มันปิดไปแล้วมึงจะฟ้องใครล่ะ เรื่องถอด DRM หมายถึงผู้ให้บริการฟ้องลูกค้าโว้ยมึงนี่มีปัญหาอ่านจับใจความแน่ๆ
https://www.facebook.com/photo/?fbid=487265293398058&set=a.441684561289465
ใครจะไปซื้อ A พรุ้งนี้ก็ดูเวลาดีๆ
>>879 ปกติถ้าซื้อไฟล์สแกนภาพมาจากญี่ปุ่นมา มันจะใช้งานได้เลย คมชัดเป๊ะเวอร์
แต่ในบางครั้ง มันจะมีหลุดภาพสองภาพที่มีโค้ดซ่อนอยู่ ชาวเกาะทำเพื่อกันว่า ถ้าไฟล์หลุด มันสามารถสืบทราบว่าใครทำหลุดออกไป
ซึ่งมึงไม่มีทางรู้ว่าภาพไหน และเล่มไหน มารู้ตอนยิงเพลทเสร็จแล้ว (บางทีก็พิมพ์จบแล้ว) ตัวภาพไม่เคลียร์ ถ้านิดๆ หน่อย ก็แอบปล่อยผ่าน บางค่ายกุเห็นหลุดบ่อยๆ
วิธีแก้ไม่ยาก แต่กูไม่บอก
ปกติมันต้องตัดให้เข้ากับสัดส่วนเล่มไทยก่อนป่ะ
กุขำเรื่อง a ประกาศเลื่อน แต่คุเสือกเอาไปแซะ LP
แถมพะโล้ดันเกาะกระแสเลียนแบบด้วย
ให้คุมันบ่นไป ยังไงพวกมันก้อไม่ซื้ออยู่แล้ว
ชมเอไปก็เท่านั้น คุไม่ได้ซื้อเอสักเล่ม
เห็นกลุ่มมโนเฟื่องโวย ลพ เรื่องแบนแอคฯ มาปลุกระดมกันใหญ่
มันไปบ่นอะไรกันจนโดนแบนเหรอวะ
สำนักพิม์พะโล้เปลี่ยนชื่อเป็นละโพ้แล้วเหรอ
แต่เอาจริงๆ A ก็แบนวะ
มันเคยมีคนนึงมาโวยวายว่าโดนแบน เลยโดนพี่แว่นมาตอบถึงในโพสท์เลยว่าไปทำอะไรไว้
พอแถว่าไม่ได้ทำ ไม่เคยไปตอบอะไรในเพจ เลยโดนสวนว่าสร้างไอดีเฟซใหม่ทำไมจะไม่รู้
กูจำทู้นั้นได้แม่นเลย พี่แว่นแม่งโคตรจองเวร ไอดีผีก็ไม่เว้น อย่างฮา
พูดถึง A งานหนังสืองวดนี้ A ดีหน่อยที่ปรับปรุง มีถุงขุ่นซ้อนไม่ให้ย้วยแล้ว 555
คนที่ไม่ซื้อมังงะ ด้วยวลี "ไม่มีอีบุ๊คไม่ซื้อ" แต่เสือกรู้ทุกสแกนของมังงะ
"ดีจัง เรื่องนี้ xxx ได้ ดองไปก่อนไม่ต้องรีบแย่งซื้อ"
ข้างในออฟฟิศ xxx คงกำหมัดกันแล้ว
ระหว่างแย่งกันไปซื้อ กับรอต่อคิวจ่ายเงินสร้างภาพ อะไรดีกว่ากัน ์?
>>899 เมื่อก่อนกรูเคยเห็นนักโม้ เดินมาหยิบเล่มนึงแล้วโม้ให้กลุ่มฟัง วิจารณ์แบบเจาะลึกดังลั่น ชนิดคนไม่อยากจะฟังก็ได้ยินยัดเข้าหู เล่าร่ายไปทีละเรื่องจนหมดชั้น แล้วก็หยิบไปจ่ายตังค์แค่เล่มเดียว
แต่ตอนโม้ นี่โคตรขวางทางชาวบ้านที่จะซื้อจริงๆซะอีก
เคยเจอนักโม้เยอะๆ ที่ค่ายเดียวเดาเอาค่ายไหน เพราะจัดบูทไม่ค่อยเหมือนชาวบ้าน ที่อื่นจัดคิวแถวเดียววนไป และไม่ให้อยู่นานๆ แต่ค่ายนี้ จัดแบบเปิด คนไปยืนขวางได้เยอะๆ (ไม่นับพวกวิ่งฟายที่มาซื้อแต่เช้่านะ เพราะนี่คือบ่ายๆแล้ว)
ปีนี้ยังไม่ได้ไป สั่งออนไลน์ซะส่วนใหญ่ เลยไม่รู้ว่ายังมีนักโม้อยู่เยอะเหมือนเดิมไหม
ไม่เห็นสเตตัสโชว์ของจากงานเลย จริงๆ พวกเฟื่องแห่แอบซื้อของจากค่ายที่เรารัก แต่ไม่กล้าถ่ายรูปลงสินะ
พรี่แว่นไม่เคยทำใครก่อน อย่าให้พรี่จองเวร
นกเจาะโชกักคุคังได้ยันตัวท็อปค่ายแล้ว จบกันโลคัล
มิน่า มีขายของโคนันในบูธ
งานนี้ VBK LP SMM กำหมัดแล้ว
รอมคอม รอบคอมเเต็มไปหมดเลย
มีแนวอื่นให้ซื้อรึวะ
ซื้อแนวเซอร์วิส ก็โดนพวกด่าเรื่องเซนเซอร์
มีแต่รอมคอมก็ดีแล้ว เข้าสู่ยุคสบายกระเป๋าอย่างแท้จริง ผ่านได้รวดเดียวหมดแนวพวกนี้อ่านไปเสียดายเวลา
อืม การที่มีบริษัทชาวเกาะมาเปิดในไทยเพื่อขายของโดยตรง ถ้านับในมุมผู้บริโภคไม่ใช่เจ้าถิ่นเดิมมันทำให้ออกเร็วดีอะนะ ได้อ่านเรื่องสั้นครบ ข้อเสียมันก็มีอยู่บ้างตรงเทสเลือกเรื่องในเครือนั้นแทบจะจำกัดอยู่กับบก. กลุ่มเดียว แต่หักลบกันมันก็ยังโอเค
แต่พักหลังที่เริ่มไปกวาดงานชาวเกาะคนอื่นเยอะเข้า ทำไมกรูรู้สึกว่าเริ่มเข้าทางทุนผูกขาดกลายๆ กำหนดทิศทางตลาดกับราคาได้ตามใจชอบแล้ววะ ยิ่ง LN ก็ได้ต้นทุนโคตรดีจากของในเครือตัวเองอยู่แล้ว ชาติอื่นจะไต้หวันหรือมาเลย์ก็ไม่รวบขนาดนี้ ฝั่งตะวันตกก็ยังมีทุนจากชาวเกาะหลายเจ้าตัดกันเอง
หรือกรูอาจจะคิดมากไปเอง ยังไงสินค้าพวกนี้ก็ไม่ใช่ปัจจัยหลักในการดำรงชีวิตอยู่แล้ว?
ภาษาคนละตระกูลแต่คนจีนเจอคันจิบอกหมู ลำบากทำความเข้าใจไวยกรณ์หน่อย แต่ถ้ามังงะยังไงก็เดาได้ ส่วน LN ก็อาศัยความพยายามอีกหน่อย
>>919 ไต้หวันอุดหนุนชาวเกาะคนอื่นไม่เยอะ แถมยังปล่อยงานให้โลคัลเรื่อยๆ นะ งานที่ตัวลูกไทยหยิบมาทำเองช่วงนี้ กูเห็นอยู่ 5 เรื่องที่ฝั่งนู้นไปอยู่กับโลคัลแทน ถ้ารวมพวกที่ยังไม่มี LC ไทยก็เกิน 10
ส่วนเรื่องช้า เดี๋ยวนี้ไทยแซงแล้วว่ะ รอมคอมใหม่ๆ เราไต้หวันยังไม่มีเลย เรื่องรัสเซียอะไรนั่นกับ NTR ก็เข้าก่อน
>>922 มันก็เหมือนกับ พวกตัวแทนยี่ห้อมาขายของ พอขายดี บ.แม่ก็มาตั้งบ.ลูกในไทยเป็นตัวแทนเอง เป็นเรื่องปกตินั่นแหละ
ถ้ายอดมันเยอะ เขาก็มองว่า ทำไมต้องแบ่งให้คนอื่น มาตั้งบ.ทำเองดีกว่า
ตัวอย่างมีเยอะแยะ เช่นพิซซ่า น้ำดำ รถมอไซด์(คาวาฯ) บางอย่าง เจ้าเก่าในไทยรู้ช่องทางดีกว่า ก็ตั้งยี่ห้อใหม่มาแข่งเลยบางทีก็เล่นใต้เข็มขัด ไปข่มขู่คู่ค้าไม่ให้ขายวัตถุดิบให้บ.แม่ที่ตั้งใหม่บ้างก็มี สำเร็จบ้าง เจ๊งบ้าง บางเจ้าก็ทำเก่งจนไล่บ.แม่แทบเจ๊งกลับประเทศได้ก็มี เช่นพิซซ่า บางเจ้าปั้นยี่ห้อตัวเองแต่ไม่รุ่ง แม้จะมีconnection แทบผูกขาดประมูลกับหน่วยราชการ แต่ก็ไปไม่รอด เพราะไม่ใช่เจ้าของเทคโนโลยี(เช่นมอไซด์ ที่ตั้งยี่ห้อใหม่เป็นเสือ เอาของจีนมาประกอบ แล้วก็ไม่ทน)
หนังสือเองก็ต้องปรับตัว คำว่าข้อเสียคือแนวเรื่องจะไม่หลากหลายมันก็ไม่ใช่หรอก เพราะถ้าบ.แม่คิดว่าขายไม่ได้ ไม่ทำเอง เขาก็ขายให้ตัวแทนไง แต่มันก็แสดงว่า แม้แต่ตัวแทนก็คิดว่าแนวเรื่องพวกนั้นไม่น่าจะรอด ขายไม่ออก ก็เลยไม่เอามาขาย ไม่ใช่ว่าบ.แม่มันกีดกันหรอก
ต้องทำใจ ตอนนี้กระแสรอมคอมฯมา ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องอ่าน กรูก็เช่นกัน แทบไม่ได้ซื้อปกใหม่ๆเลยช่วงนี้
LC ใหม่ 10 เรื่อง มีเรื่องที่บริษัทกูยื่นไป 8 เรื่องวะ
มีอย่างน้อย 2 เรื่อง ไม่น้อยว่ะ ราคา LC ต้องขายมากกว่า 6,000 เล่ม ถึงได้ทุนคืน
นกย่างเอาตัวทอปชาวเกาะค่ายอื่นไปหมดใช่ว่าจะดี
บางทีมันเอาไปดองแบบสาวน้อยห้องสมุดหรือสาวน้อยเหมาๆ
มองแบบยุทธศาสต์คือกุแปะนำลายไว้แล้ว กุออกเมื่อไหร่ก็ได้โว้ยย แต่กุอยากออกของค่ายแม่กุก่อน แต่โลคัลก็แข่งกุไม่ได้ ไรงิ้
สาวห้องสมุดกุว่ามันไม่ได้กวน น่าจะเน่าจริง ไม่งั้นไม่ปล่อยให้คนด่าเช็ดแบบนี้หรอก ก็เป็นบทเรียนไป จะว่าไปเรื่องนี้ก็ตัวท็อปโคโนะด้วยนี่หว่า
ส่วนโม่งที่พลาด 8 เรื่อง ดูจากต้นสังกัดที่ยื่นแล้ว กุว่าบีบวงเข้ามาได้ระดับนึงนะ
ทอปโพลโคโนะ พลาดได้ไง
อิอิออิอิ
เลิฟคอมช่วงนี้กูเบื่อบท ชายเป็นหมาวัดไอ้จืดกับหญิงเป็นนางฟ้าเทพธิดาสาวป็อบจัง
อยากได้แบบชายเป็นพวกเรียจู หญิงเรียจู หรืือไม่ก็หญิงเป็นพวกเก็บตัวมีปมกับชายเรียจูมั้ง
มีไหมวะ
วัดกันที่หลังเล่ม 4-5 อ่ะ
LC มาดอง LC มาแพ
วัดกันตรงนี้ เพราะคุจะเทะทิ้งหาไวฟุใหม่ก็ช่วงนี้ละ
ไม่มีใครสนเอาเรื่องนี้เข้ามาเหรอ
Sekai wo Sukuu tame ni Ajin to Asa-chun dekimasenka?
ว่าแต่ เคสยางมัดผมมาฮิรุหายนี่คือ GA ก็ไม่ได้สังเกตเหมือนกันสินะตอนส่งไปขอแอพพรูฟปก เลยหลุดมาขนาดนี้
กูว่ามีใครสักคนเล่นพิเรนท์ลบยางมัดผมจะเอาถุงยางไปแปะแทน ตอนส่งงานเลยเผลอส่งผิดไฟล์
มีคนไปตั้งรับหนังสือเวอร์ชันยางมัดผมหายด้วยว่ะ 555
แต่ช่วงนี้เอหลุดเยอะจริงว่ะ เห็นคนบ่นว่ากระดาษช่วงนี้มองทะลุถึงหน้าอื่นอีก ปกติมีแค่ดีเลย์เฉยๆ
เพราะโหลดงานจากจำนวนหนังสือที่ออกมันเพิ่มมาขนาดนี้รึเปล่า? ยังไงก็สู้ๆนะครับพี่แว่น
กระดาษมันก็เบอร์เดิมละ เพราะยี่ห้อนี้มันมีเบอร์เดียว (ไม่เหมือนกรีนรีดที่มี 2 เบอร์)
ที่คิดว่าทะลุเพราะอุปทาน 1
หน้าต่อไปพิมพ์มาทับจางๆ (เพราะหน้าแรกมันยังไม่แห้ง เสือกใช้หมึกถั่วเหลืองพิมพ์ก็งิ้) 1
สั่งหมึกเข้มไปตอนพิมพ์ 1
เลือกเอา อยากได้แบบไหน
ถ้ามึงอยากจับผิดว่าเปลี่ยน แนะนำให้เอาไปชั่งครับ
ถ้าน้ำหนักเปลี่ยนเกิน 150 กรัม มั่นใจว่ามันเปลี่ยนกระดาษแน่นอน
เบอร์เดิม แต่กระดาษคนละเจ้า สเป็คอะไรอย่างความทึบมันก็ต่างกันนิดๆ นะ
ถ้าจำไม่ผิดช่วงต้นปีรึกลางๆ ปีนี้มันมีปัญหากระดาษเจ้านึงหมดเกลี้ยง พวกที่สต็อคไว้ไม่เยอะเลยต้องวิ่งหาเจ้าใหม่กัน
ของเออาจจะเคสนี้
ระหว่างเปลี่ยนกระดาษกับอัพราคา 20 %
คุเลือกแบบไหนครัช
อาเจ้ถามมา
ทำไม LN eng ราคาเล่มกับ ebook ยังต่างกันเกือบเท่าตัวได้ อยากขายแพงเองมากกว่า
ebook eng คนคุมราคาคือ amazon เค้าไม่สนหรอกว่าสัญญามึงกับ สนพ.เกาะจะเป็นยังไง
แต่ถ้ามึงอยากจะขายมึงต้องตั้งราคาช่วงนี้เท่านั้น ไม่งั้นค่า % ธรรมเนียมจะแพงแบบสัดหมา แล้วหาไม่เจอ ไม่ขึ้นแนะนำ แถมเวลา amazon อยากจะจัดจัดโปรอันนี้บังคับลดนะ ถ้าจะโวยวายน่ะเหรอไม่ง้อไม่สนมึงไม่ลงก็มี สนพ อื่นมารอลงเยอะแยะกูเป็นเจ้าใหญ่สุด อ่ออันใหน sjw โวยมากหน่อยก็ถอดห้ามขายแบบไม่แจงเหตุผลเอาดื้อๆ เลย
พอมีการฟ้องผูกขาดช่วงหลังค่อยเพลามือลงบ้าง แต่ในสัญญาเขียนไว้เล็กๆ คอยฟันหัว สนพ. เสมอ เอาเป็นว่าถ้าแอฟส้มเห้แล้ว amazon นี่เห้กว่ากันหลายเท่า
วิธีขายแนวใหม่เหรอ ลุ้นลายที่คั่นเอา
นอกเรื่อง
เท่าที่สังเกตุแอฟดูหนังเจ้านึงที่มี comment ได้ พอปรับเป็นพรีเมี่ยมไม่มี เด็กกะโปก spoil มั่วซั่ว หรือพูดกันเกรี้ยวกราดเลย กลายเป็น comment กันค่อนข้างไปสุภาพมาก พอดูแล้วกูก็สังเกตุได้อย่างนึง....
หรือว่าพวกขี้สปอยตามเว็ป จริงๆ แล้วมันไม่เคยซื้อเลยวะ ประมาณว่าอ่านเถื่อนแล้วโชว์พาวมาเล่า
>>954 มึงเข้าใจถูกแล้ว
พวกคุขี้สปอยล์เป็นพวกอ่านเถื่อนแล้วมากวัดแกว่ง E-Penis โชว์พาว
พวกสาวกที่ตามสปอยล์ก็เช่นกัน เวลาโดนจี้ถามจะบอกว่าดูสปอยล์เพื่อตัดสินใจซื้อ
ถ้าตีความกลับกันก็แปลว่าดูสปอยล์แล้วตัดสินใจไม่ซื้อได้เหมือนกัน แล้วพวกแม่งก็แทบไม่ซื้ออะไรเลยไงล่ะ
คุไทยส่วนใหญ่แม่งเป็นพวก cheap ass แบบนี้แหละ ซื้อจริงๆ ไม่กี่คนหรอก
>>955 คงเพราะคุส่วนใหญ่อยู่วัยเรียนด้วยแหละ กำลังซื้อจริงๆน้อยมาก
สำหรับคนทำงานการ์ตูน/นิยาย เล่มหนึ่งยังพอซื้อไหว แต่สำหรับเด็ก
มันอาจจะเป็นค่าขนมทั้งอาทิตย์ แต่ด้วยความที่อยู่ในวัยอยากโชว์อยากอวด
พอไม่มีเงินซื้อเลยกลายเป็นไปหาสปอยด์อ่านแล้วมาคุยเหมือนว่าตัวเอง
ซื้อมาอ่านทั้งเล่ม
https://www.facebook.com/photo/?fbid=130885786412274&set=a.126844293483090
เปลี่ยนแบบค่อยแจ้งเมลทีหลัง แถมเปิดพรีไปแล้ว
ถ้า ebook มันจะเติบโตได้ คงต้องหวังพึ่งผู้หญิงวัยทำงานที่หาผัวไม่ได้ ไม่มีลูก ที่ตะมาเป็นกำลังหลักในการผลักดันตลาดอีบุ้ค ไม่น่าจะใช่พวกเด็กที่แบมือขอเงินพ่อแม่
>>956 ที่เห็นไปต่อคิววิ่งฟายในงานหนังสือ ก็คุวัยเรียนมัธยมซะ70% นะ
คือถ้าเป็นไวฟุลิมิต ยังไงก็ยอมทุ่มซื้อมาอวดเพื่อน แล้วก็ขายต่อ พวกนี้ใช้วิธีวนอ่านนิยานไวฟุ อ่านจบก็ขายต่อวนๆไป แล้วมาโม้สรุปspoilที่ฟังจากคนอื่นอีกทีสำหรับเรื่องอื่น ที่ไม่ได้คลั่งไวฟุเรื่องนั้นมาก
ebook นี่ลูกค้าหลักน่าจะวัยทำงาน หรือสายอ่านที่มีหนังสือเล่มเยอะ จนไม่สนใจเก็บแล้ว เพราะไม่มีที่ และมีตังค์ซื้อtablet,ipad ดีๆไว้อ่าน
วังวนวัยรุ่นสร้างตัว
สนพ.ออก boxset :: หูยไม่สวยเลย ทำมาได้ไงดูประเทศนี้สิสวยกว่าจมใครจะซื้อวะ
หลัง สนพ. ปิด pre :: ตั้งรับ boxset ฮะ ราคาแพงกว่า สนพ. 50% > เสนอราคา boxset ฮะ + ราคาเพิ่ม 100% ต่ำกว่านี้เก็บกับฮะ
ส่วนไอ้ตัวบอก boxset ไม่สวยโพสอวดของ สรุปพรี่แกซื้อไว้อย่างน้อย 4 กล่องเอาไว้เก็ง
ไอ้ที่บอกไม่สวยนี่สกัดคู่แข่งรึไงวะ 555
L เอาคงจะดีe book ลงมังงะคิวป์ละ รออีกเดือนลงเมบ
กูจะได้อ่านต่อสักที พลาดไม่ได้ซื้อไปตอนเล่ม9-10แล้วแม่งหาซื้อไม่ได้เลยสัส
เว็บนกแปลกๆ ทำไมปล่อยหนังสือหมดนานจัง 86 กับเทพในเงาแหว่งบานสักพักแล้ว แต่ข้างนอกยังเห็นบ้าง เรียกของจากร้านกลับมาไม่ได้?
นิยายแถม sao มูฟวี่ ยังมีโลโก้ปลาของ Z อยู่ว่ะ
ใครแนะนำ light novel แปลไทย เรื่องไหนบ้างที่มีฉาก Sex อยากหามาอ่าน
ไปถามกลุ่มมโนสิ พวกนั้นรอบรู้เรื่องเงี่ยนๆ มากกว่าโม่ง เรื่องไหนไม่เยไม่ซื้อ
LP กับ NED นำร่องขึ้นราคาตาม PN ไปแล้ว
LP เรื่องใหม่มันของอิชิจินฉะนี่หว่า ไม่ได้เห็นนิยายเจ้านี้เข้าไทยนานแล้วนะเนี่ย
ปอลอ มีโลคัลอีกเจ้าได้งานแม่นกจบแล้วมา ไปหากันในเว็บหอสมุดเอา
แปลกใจทำไม สนพ. อื่นไม่ค่อยเอาเรื่องจิปาถะ มาโพสให้มีความเคลื่อนไหวในเพจแบบนกย่างบ้างเลยหว่า
ยิ่ง twitter นี่แค่แปะข่าวหนังสือออกใหม่นานๆ ทีเฉยๆ น่าจะโพสถามตอบอะไรบ้าง ไม่งั้นคนทั่วไป ถ้าไม่บูสโฆษณาจะเห็นโพสยากนะเหวย
ก็นกย่างมันไม่ต้องขอรูปไง
ค่ายอื่นจะทำไรที แค่ขอรูปก็รอไปสองสัปดาห์แล้ว
ยิ่งทวิต มึงจุ๊บรูปมาใช้เลยไม่ได้ คนวาดเอามึงตาย ยิ่งเป็นออฟฟิเชียลเพจ
อย่างมากได้แค่รีทวิต
แต่นกย่างทลายข้อจำกัดนี้ได้เลย เพราะแม่มัน
จะใช้รูปอะไร ต้องขอหมด ขนาดรูปที่ตัวเองมีลิขสิทธิ์ยังต้องขอ จะลงปกก็ต้องเป็นปกที่ผ่านอนุมัติแล้ว
ที่ทำได้ง่ายๆ มีแค่แชร์ทวิตแชร์ข่าว
ส่วนขาใหญ่ที่เกาะอำนาจแม่นั้น ทำอะไรก็ได้
กับเรื่องนอกเครือก็ยังทำได้ เจ้าของไม่พอใจเดี๋ยวคุณแม่เคลียร์ให้
ต่อไปมึงแชร์ข่าวไม่ได้ละ แม่มันซื้อ ANN ไปแลว
GB ราคา 400
ถ้ามึงจัดหน้าเหมือนชาวบ้าน ขาย 300 บาทยังได้
ปี 2030 เขาว่าผู้หญิง 25-45จะไม่มีลูก ราวๆ50%
Ebook น่าจะพีคสุดๆช่วงนั้น
>>988 กรูงงที่เมิงพยายามพูดว่าคนซื้อ ebookส่วนใหญ่มีแต่ผู้หญิงโสดมีอายุหรือทำงานแล้วหลายหนละ
เมิงเป็นนักเกร็งกำไรหนังสือปั่นราคาเหรอวะ แซะคนซื้อebook จัง
หรือเป็นเด็กม.ต้นที่ไม่มีเงินซื้อtablet มาอ่านebook เลยต้องใช้วิธีวนซื้อหนังสือเล่ม อ่านจบแล้วขายต่อเรื่อยๆ?
ก่อนจะหลงไปไกล
ควบรวมกิจการแล้ว หลังจากนี้ก็มีข่าวของแม่นกเยอะกว่าของชาวบ้านหน่อยนึงไงละ
LP เปิดพรีล่วงหน้าให้พวกมึงได้ของครบทุกคน
แล้วโวยวายอะไรอีก
อยากไปแย่งกันในงานรึ
นี่คือกลยุทธขั้นกว่า จากเดิมกูพิมพ์เท่าที่ขายได้ แล้วเสือกมีคนเก็งกำไร
ตอนนี้พวกมึงอยากเก็งเท่าไหร่ กูก็พิมพ์ให้ ขอให้มึงแจ้งล่วงหน้า
ลองเช็คดูรายการที่เปิด มิถุนา แล้วเบี้ยวไม่ส่งตามกำหนดมีตกค้างอยู่ 3 เรื่อง
batman 5 โคมิ 13 หนุ่มเหว 4
ส่วนรายการที่เปิดฟรีเดือน กันยา บางรายการแบบ หลุยส์ zero เผลอๆ จะเบี้ยวไม่ออกเลยด้วยซ้ำ พวกที่ฟรีกับร้านไม่มีทางได้ของแหง
ปล. รู้สึกว่าตอนนี้ มีเรื่องที่น่าสงสัยว่า LP ไปทะเลาะอะไรกับโชงะกุกังหรือเปล่า มังงะค่ายนี้เหลือโควต้าปีล่ะเล่ม ที่หนักคือแต่ละเรื่องพี่แกเอามายาวทั้งนั้น ห่างกับเกาะเกิน 10 เล่ม ต่อให้ที่เกาะจบแล้ว อาจจะต้องใช้เวลา 20 ปีกว่าจะพิมพ์จบ...
ของขายไม่ได้ จะพิมพ์ออกมาทำไมละ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.