>>688
กูรู้ว่าเปลี่ยนใจมึงไม่ได้หรอก แต่เห็นมึงไม่แคร์ e-reader ขนาดนี้แล้วต้องขอแนะนำฝั่ง e-reader บ้าง
1. ถ้าจะใช้ tablet อยู่แล้ว แล้วงบไม่เยอะ เออ ซื้อ tablet ไปเหอะ e-reader แม่งแพงเพราะจอมันยังผูกขาดโดยบริษัท e-ink
2. ถ้าเน้นอ่านภาษาไทยเป็นหลัก และอ่านมากกว่า Light Novel (เช่นอ่านหนังสืออื่นๆ ด้วย) หนังสือไทยนอกจาก LN แม่งเป็น PDF กันเกือบหมด ถ้าไม่ซื้อพวก 10" อ่านยาก ซึ่ง 10" แม่งแพงสัส ไปซื้อ iPad เหอะถ้าไม่ใช่ตังเหลือๆ
3. ถ้าอ่านแค่ LN ไทย หรือ อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ/ญี่ปุ่นเป็นหลัก พวกนี้มันไม่ใช่ PDF ใช้แค่พวกจอ 6" ก็ชิวๆ (มังงะพอไหวที่ประมาณ 7" เป็นต้นไป)
ข้อดีที่สำคัญมากของ e-reader คือเรื่องปวดตานี่แหละ แน่นอนว่าถ้าอ่านวันละสั้นๆ ไม่มีผลหรอก แต่กูเองอ่าน 2-3 ชั่วโมงบน tablet/คอม ไม่ไหวจริงๆ ปวดตามาก (ประเด็นคืองานกูก็นั่งทำหน้าคอมทั้งวันแล้วอ่ะนะ)
ข้อดีที่สองคือมันเบา อย่าง Onyx Poke 3 จอ 6" หนักแค่ 150g หรือ Kindle Paperwhite 2021 จอ 6.8" ก็หนักแค่ 200g เบากว่า tablet โข ถ้าถืออ่านวันละนานๆ มีผลเยอะมาก
หนังสือพวก LN นิยายทั่วไป หรือมังงะมันก็ขาวดำ 99% ของเล่มอยู่แล้ว เป็นขาวดำไม่ใช่ปัญหาเลย พาร์ทสีก็เปิดดูในมือถือไป เรื่องรีเฟรชหน้าก็ไม่รู้ว่า >>688 แม่งลองครั้งสุดท้ายเมื่อไร แต่มันไม่ได้ช้านะ ปกติไม่ถึงวินาทีอยู่แล้ว พลิกหน้าหนังสือธรรมดายังใช้เวลานานกว่า แล้วกูก็ไม่รู้อีกเช่นกันว่าจุดเด่น e-book ที่ >>688 พูดถึงคืออะไร แต่สำหรับกู คือ 1) น้ำหนัก 2) ขนาดฟอนต์ (แน่นอนว่าถ้ามังงะหรือหนังสือไทยที่เป็น pdf ก็ไม่ช่วยตรงนี้) ซึ่ง e-reader ตอบโจทย์ได้หมด
อ้อ แล้วกูเป็นคนไม่ได้ใช้ tablet อยู่แล้ว สำหรับคนแบบกู เรื่องพกอันเดียวจบไม่ใช่ประเด็นเลย เพราะไม่ว่าซื้ออันไหนก็ต้องแบกเพิ่ม แล้ว e-reader เบากว่าเป็นโขลง
ถ้าเป็นคนชอบอ่านหนังสือเป็นประจำอยู่แล้ว โดยเฉพาะถ้าหนังสือภาษาต่างประเทศหรือ LN ไทย (ที่มันเป็น EPUB ได้) แล้วมีเงินพอก็แนะนำให้ลงทุนซื้อ ถ้าเน้นอ่านหนังสือไทยหรืออ่านมังงะหรืออ่าน PB/Magazine แบบ >>688 ก็ซื้อ Tablet ไปแหละ