คำอธิษฐานนำพาให้มาพบกัน
อนิเมส่งเสริมการท่องเที่ยวฮอกไกโด
เว็บหลัก http://sora-no-method.jp/
ทวิตหลัก https://twitter.com/sora_no_method
Last posted
Total of 801 posts
คำอธิษฐานนำพาให้มาพบกัน
อนิเมส่งเสริมการท่องเที่ยวฮอกไกโด
เว็บหลัก http://sora-no-method.jp/
ทวิตหลัก https://twitter.com/sora_no_method
โนเอลเมียกู
ชิงแยกก่อน จะได้ไม่เป็นภาระกับเรื่องอื่น/โนเอลภรรยาผมครับ
จบสิ้นแล้วล่ะกระทู้นี้
โนเอลเมียกูสัด หลบไปๆ
แสวงบุญเลยมั้ย lake toya
สัดถ้าอนิเมมาเร็วกว่าสักหนึ่งปีกูคงไปร่วมนมัสการแล้ว
ต่อให้ไม่บุฮี้กูก็ว่าเรื่องนี้ดีมากเลยนะ ลงตัวซึ้งดี
ถ้าตอนต่อไปสาวๆ ตบกันกูจะดีใจมาก
ทำไมโคฮารุถึงไม่หันป้ายออกข้างวะ จะได้เอาออกง่ายๆ
กูไม่เอาเว้ยโนเอล กูยอดชายไม่สนใจเด็กหรอก
น่าสนยูริมั้ยว่ะ
นึกถึงZettai Shonenจริงๆนะเนี่ย แค่เปลี่ยนวัคคุงเป็นโลลิ
http://www.youtube.com/watch?v=KTNypo-2jY8
กูว่าน่าจะมีสองคู่ หูฟังxนางเอก นางเอกxโนเอล
อีแบกเป้กับผู้ชายน่าจะเป็นญาติกัน ยัยร้านของฝากก็คู่กับผู้ชายไป
รอเฮดโฟนอีโม ขอแซ่บๆ
http://i.imgur.com/myFvfja.jpg
http://i.imgur.com/sysb8ZY.jpg
เชิญโม่งรุมเอาโนเอลไป กูจองเฮดโฟน+ถุงน่อง หุ่นดี ขาขาว ยิ่งอีโม่ยิ่งน่าเย็ด
โคฮารุ นมใหญ่แถมเอ๋อๆหน่อยนี่ก็น่าเย็ดเหมือนกันนะเนี่ย
สมองพวกมึงนี่ไม่มีอะไรนอกจากเย็ดนอกจากเมียกูเลยใช่ไหมวะ?
เว็บนี้แม่งตกต่ำยิ่งกว่าพันทิปยิ่งกว่าตุรกีตั้งแต่เมื่อไหร่
เฮดโฟนแซ่บๆนี่กูหมายถึงดราม่าแซ่บๆนะ
หลังๆ พวกเด็ก ม.ต้นขี้เงี่ยนมันมากันเยอะ
ไม่ชอบลใจก็บ่นบ่อยๆ ละกัน
แทง20บาท โนเอลไม่ได้มาจากต่างดาว
>>20 >>22 กูเอาความเห็นของ มู้ AZ มาฝาก
"คนที่แยกมุขตลกกับความเห็นจริงจังไม่ออก ไม่สมควรจะเล่นอินเตอร์เนต"
กูไม่ได้กล่าวไว้ แต่ฮิโรยูกิแอดมิน 2ch (อ่านว่านิจังไม่ใช่ทูแชนเนล และไม่เคยมีเวบบอร์ดชื่อ ทูแชนเนล) เคยกล่าวไว้ว่า
"嘘は嘘であると見抜ける人でないと(インターネット掲示板を)使うのは難しい。"
"คนที่มองเรื่องโกหกไม่ออกว่าโกหกคงจะใช้งาน (เวบบอร์ดบนอินเตอร์เนต) ได้ลำบาก"
ซึ่งกูก็เห็นหลายทีแล้ว ไม่รู้จะโม่งเดียวกันหรือหลายโม่ง เวลาเล่นมุข เสือกจะมาจริงจัง
เรื่องเมียกูๆ มันก็แค่อยากอวยตัวละครแค่นั้นแหละวะ ไอพวกที่กระแดกทำจริงจังสมควรกลับไปเล่น พันติ้บกะตุรเกย์ จนป่านนี้ พวกกองอวยจีซัสก็ยังกัดหมาสเลนไม่เลิก มันจริงจังอะไรกับอีแค่ตัวละครเมะเรื่องนึงขนาดนั้นวะเนี่ย
ก็แยกออกนะ แต่เล่นมากๆมันเบื่อ เข้าใจว่าเรื่องนี้มันยังไม่มีเนื้อหาอะไรให้คุย ก็เลยเย็ดๆกันไปก่อน
กูหยวนๆนะ แต่ขอบอกหน่อยว่าเย็ดเหี้ยอะไรทุกอย่างกูก็เบื่อเหมือนกัน
>>25 มึงคิดว่าตัวเองฉลาดมากเลยสินะ ที่ได้โควทเอาคำพูดเท่ๆมายกหางคห.ขยะๆที่ทำให้เว็บโลว์คลาสลง
กูไม่ได้เกลียดการเล่นมุขตลก แต่มุขตลกโลว์ๆนี่ลดๆลงหน่อยเหอะว่ะ การอวยตัวละครนี่เรี่ยราดนี่แหละตุรกีพันทิพย์ของจริง มีวิธีเล่นมุขอีกมากมายที่สนุกและมีรสนิยมนอกจากsex fantasy หัดเอาอย่างสุริยเทพจุติมั่ง
>>25 เรื่องโกหกกับการเล่นมุกที่ไม่ขำซ้ำๆ ซากๆ กันเกือบครึ่งกระทู้มันเป็นคนละเรื่องกัน
ลองนับ >>1-19 ดูนะ ว่ามีกี่ reply ที่ไม่ได้พูดเรื่องเย็ดหรือเมียกู (กูนับได้ 8/19 ที่พูด)
อีกอย่าง quote ข้างบนที่มึงยกมานี่มันพูดถึงเรื่องโกหกที่เป็นเรื่องโกหกจริงๆ ไม่ได้พูดเรื่องมุก
มันถูกพูดในบริบทของการโพสวางแผนก่อคดีใน 2ch (ที่มีทั้งพูดเล่น แล้วก็มีทั้งทำกันจริงๆ ตายกันจริงๆ)
ถ้าอยากจะเมียกูขนาดนั้น ขอแนะนำ >>>/animanga/324/
ตอนนี้สงสัยมากกว่าว่าคำสัญญาของโนเอลกับนางเอกมันคืออะไร…
เชี่ยเล่นตัดตอนเอางี้เลย
ให้กูเดาทางเรื่องแม่โนโนกะป่วยเปล่าวะ พวกเด็กเลยมาอธิษฐานกันขอพรจากดวงดาว แต่คนอื่นๆเหมือนไม่เชื่อเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่โนโนกะเชื่อเลยเจอและเห็นตัวโนเอล
สัญญาว่าจะกลับมาไง
แต่ตอนนี้แม่โนโนกะคงตายแล้ว คงทำตามความปรารถนาของโนโนกะไม่ได้แต่อาจมีเรื่องอื่นที่สำคัญมาก ทีทำให้แทนแต่เมื่อทำให้แล้วตัวตนของโนเอลจะหายไปตามนั้น
กะแดะกันชิบหาย
ทีตอนเย็ดนาเดโกะเป็นพันrep
ไม่มีใครห้าม
เหม็นโม่งใหม่
กูเพิ่งเลื่อนไปอ่านข้างบนขอเม้นอีกทีละกันว่ะว่าอย่าไปจริงจังอะไรมากเพื่อนโม่ง ตอนนาเดโกะ สเลนนี่ยิ่งกว่านี้เยอะกูก็คุยได้ว่ะ sex fantasy กูก็อ่านขำๆไป คุยเนื้อเรื่องกูก็คุยได้ เฮฮากันดีกว่านะ
กูว่ามันถึงจุดที่เรื่องเย็ดๆมากเกินไปแล้ว เล่นบ้างก็ฮาดี แต่ตอนนี้คือมันคือมีแต่เย็ดๆแล้ววะ เนื้อหาจริงๆเหลือน้อยแล้ว
หรือมึงอยากให้ที่นี้มีแต่ เมียกู กูตั้งแล้ว ไรแบบนี้รึไง
ที่อื่นไม่คุยเหรอวะ คุณซามอนนี่แม่งสุดยอดเลยนะ แม่งได้ใจกูมาก
กัตช่าแมนด้วย กุมาบอร์ดโม่งเพราะที่อื่นไม่มีนี่แหละ แต่ประทับใจชินเซไคจริง
เอ่อกุเพิ่งดูเรื่องนี้ตอนแรกจบ ไม่มีคนพูดถึง มาที่นี่เจอพอดีเซอร์ไพร์สเหมือนกัน
Edออกเดือนหน้า แต่เพลงเต็มขายแล้วในitunes
เออ สตูดิโอที่ทำเรื่องนี้มันเป็นมายังไง กูเพิ่งเคยเห็นชื่อครั้งแรกนี่ล่ะ
เป็นบริษัทที่หนึ่งในคนตั้ง Kinema Citrus (ที่ออกจาก I.G มาตั้ง) แยกตัวออกมาตั้งใหม่
>>45 มึงหากระทู้ทีโนเอลเมียกูเรียราดหน่อยดิ ไอ้สัสกูเห็นแต่มันไปอยู่ที่กระทู้ประจำssหามาอ้างให้กูเป็นบุญตาหน่อยดิไอ้สัส
แล้วมึงไม่ต้องมาอ้างว่ากระทู้ประจำssมันเรียราดนะเพราะมันก่อนที่จะตั้งกระทู้นี้ มันก็ต้องไปคุยที่นู้นอยู่แล้ว ถุย
แล้วอีกอย่าง a/zกูไม่ดูไม่อ่านเพราะเหม็นขี้หน้าเก็น
>>20 กูถามมึงจริงๆเล่นเว็บนี้มาถึง2เดือนยังถึงไม่รู้ว่าเว็บนี้คิโม่ยกว่าตุรกีและพันทิพเห็นโม่งใหม่ชิบหาย
ดัดจริตจริงๆพวกมึง
ปล.โนโนกะเมียกู
เดียวกูจะมาประกาศคิโม่ยสามเวลาหลังอาหารเลยสัสเห็นพวกมึงดิ้นยังงี้
ปญอ.
กูต้องรอตอนต่อไปอีกกี่วันเนี่ย
กูไม่ค่อยชอบคู่นางเอxโนเอล อยากเห็นความสัมพันธ์กับตัวละครอื่นแล้ว
ว่าแต่นิกจากโนเอล ไม่มีใครจำชื่อตัวอื่นได้เลยใช่ไหม...กูนี่แหละคนนึง
กูต้องรอตอนต่อไปอีกกี่วันเนี่ย
กูไม่ค่อยชอบคู่นางเอxโนเอล อยากเห็นความสัมพันธ์กับตัวละครอื่นแล้ว
ว่าแต่นิกจากโนเอล ไม่มีใครจำชื่อตัวอื่นได้เลยใช่ไหม...กูนี่แหละคนนึง
อีเอ๋อชื่อโคฮารุ นอกนั้นกูจำไม่ได้เลย
กูไม่ชอบยูริด้วย
>>58 กูว่า >>45 ไม่ได้หมายถึงโนเอลมันเรียราด แต่หมายถึงมัน หื่นเรียราดไปทั่ว ตอนช่วงนาเดโกะมันก็มีแต่ นาเดโกะในมู้บาเกะ หรือมีหยิบมาเป็นมุกนิดหน่อย หรือตัวอื่นที่กูว่ามันกูไม่ได้ถี่แบบตอนนี้(เท่าที่กูจำได้อะนะ) แต่ตอนนี้คือ มันมีแต่หื่นมีแต่เย็ดเต็มไปหมด เท่าที่กูเห็นนะ
กูรู้ว่าเว็บนี้มันคิโม่ย แต่มึงอยากให้มีแต่คิโม่ยเหรอ มึงอาจไหลตามsex fantasy มันสนุก มันฮากูเข้าใจ แต่มันถึงจุดที่มันเยอะเกินไปแล้ว เนื้อหาจริงๆอย่างในมู้ a/z แทบจะโดนกลืนไปด้วยsex fantasy แล้ว มันก็ต้องมีคนรำคาญมาเตือนบ้าง
ที่กูมาพูดคือ กูอยากอ่านเนื้อบ้างไรบ้าง แต่มันมีแต่เรื่องเย็ดๆเกินไป มันเลยจุดฮามานานแล้ว บอร์ดมันคืออะไรที่ใช้ร่วมกันเล่นนะเล่นได้แต่ช่วยเกรงใจคนอื่นด้วย กูอาจดัดจริตอย่างที่มึงว่าก็ได้ แต่กูก็อยากให้เรื่องเย็ดๆมันลดลง ขอให้มึงเข้าใจกูด้วยละกัน
ปล.กูขอโทษที่มากวนมู้นี้นะ
ไม่อยากจะตอบว่าเล่นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะมันไร้สาระ จะเล่นมา 2 วันหรือ 2 เดือนมันก็ไม่ได้ทำให้ที่พูดกลายเป็นผิดหรือถูก
โพสแค่ภาพนี้ ถ้าอยู่มานานพอน่าจะเดาได้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่
http://imgur.com/Yd2mVCT
Studio 3Hz อ่านออกเสียงว่าไรวะ ทรีเฮิร์ตส ?
เห็นมึงอวดภาพกูอวดกระทู้แล้วกันbookmarkไว้ตั้งแต่เริ่มเล่น
https://fanboi.ch/animanga/38/
5 ก็ Gokumiไง
7 ก็ Seven Arcs
ตอนแรกทำมาดีขนาดนั้น กูกลัวเงิบเพราะความคาดหวังจัง
คนกำกับกูนับถือฝีมือละจากตอนแรก แล้วคนเขียนยทไว้ใจได้ไหม?
>>77 งานเก่าคนเขียนคือ kanon กับ sola
>>75 อวดมั่ง >>>/animanga/2/ กระทู้นี้กูเป็นคนตั้งเอง
พวกมึงแม่งแก่ 555
>>77 คนเขียนบทเป็นคนเสนอพล็อตของ sola ไม่น่าเงิบหรอก (กูชอบ sola ด้วย)
ปล. ถ้าอยากอวดกระทู้ กูก็มีอวดนะ กระทู้ที่ตั้ง >>>/lounge/13/
พูดถึงเรื่องค่าย ด้วยความที่เป็นค่ายใหม่เลยทำให้แรงโปรโมทไม่ค่อยมี กระแสก่อนฉายเลยไม่เท่าไหร่ จะมีที่น่าสนใจคือได้ hisaya naoki คนเขียนบทkanon มาแต่งเรื่องให้ และคาแรกเตอรได้QPมาออกแบบ นักพากย์ก็ใช้หน้าใหม่ผสมเก่า พอฉายตอน1ผลตอบรับดีพอควร ค่ายใหม่ทำออกมาได้ดีเกินคาด งานดีกว่าตอนแรกของค่ายเก่าๆบางค่ายอีก และที่เพื่อนโม่งบอกมีp.a.work บางส่วน บอรดนอกบอกว่านอกจากคล้ายano hana ยังได้อารมณคล้ายnagi อีก และใช้นักพากย์จากnagi 2 คนก็ดึงแฟนp.a.มาดูได้บางส่วนด้วย ตอนนี้ยอดfollowใน tw หมื่นสามแล้วถ้าค่ายใหญ่ถือว่าขำๆ แต่นี่ค่ายเล็กก็ถือว่าเยอะเกินคาดต้องเม้นขอบคุณแล้วขอบคุณอีก กูก็อยากเอาใจช่วยว่ะ ขอให้รักษาคุณภาพไว้จนจบเรื่อง
โนโนกะเมียกู
ดู OP แล้วกูฟันธง เอาหัวโม่งคนที่ 960.00 เป็นแระกัน
เมะ Yuri ดีเด่นประจำซีซั่นนี้ (แต่กูกลัวจะเสียน้ำ...าจัง)
ถ้ากูจำไม่ผิด ผู้กำกับ สตอพานิคกับฮานะบิระด้วยนิมึง กูรอฟินยูริรอ...
http://imgur.com/ztonUrN
http://imgur.com/pyBiR7Y
โคโรบ็อคคุรุแน่ๆ ฮอกไกโดอีกตะหาก
จับมือล้อมวง... อธิฐาน... อ... โออิชิซามะ... นัทสึอิโระ...
ไม่นะ... ไม่อยากนึกออก...
http://sora-no-method.jp/story/
ตัวอย่างตอน 2 มาแล้วนะโว้ยไม่คุยกันหน่อยหรอ
สรุปสั้นๆ สาวหูฟังอีโม สาวผมสั้นอยากชวนโมโมกะไล่จานบิน กูล่ะงงจานบินทำไรให้วะเนี่ย
ขูดรีดเงินทำบุญมั้ง
ดูจากตอนแรกUFO นู๋โนเอลสร้างความเจริญให้กับเมืองด้วยซ้ำ ส่งเสริมการท่องเที่ยว มีผู้คนเข้ามาในเมืองเพื่อดู UFO มีของที่เกี่ยวกับUFO ขายเช่นขนมรูป UFO ที่บางคนไม่ชอบและอยากไล่ UFO ต้องตามดูกันไปว่าเพราะไร
District 9?
คืนนี้ตอนสอง
โนโนกะอยู่ดีๆจะขอให้นู๋โนเอลกลับดาวซะงั้น
สารภาพความโง่อีกอย่าง เพิ่งรู้ว่าสองคนนั้นมันเป็นแฝดชายหญิง
ดูเหมือนจะมีแต่ชิโอเนะ(เฮดโฟน)ที่จำโนโนกะได้ เรื่องของโนโนกะคงจะสำคัญกว่าจานบินสินะ
สองพี่น้องที่โกรธกันนั่น ดูยังไงก็เอาเรื่องจานบินมาอ้าง
ส่วนโนเอลท้ายตอน แอบหลอนไปนิดนึงนะ ตอนโผล่มาบนเนิน
เรื่องนี้ทำกูลำบากใจมากเลย ถุงน่องดำหรือถุงน่องขาว กูเลือกไม่ถูกจริงๆ
กูสงสัยอย่างคนอื่นนี่จำโนโนกะไม่ได้เลยหรือไง อะไรยังไง มุขเพื่อนสมัยเด็กใช้ไม่ได้เหรอวะ เล่นลืมกันหมดงี้
คนอื่นโดนโนเอลลบความทรงจำเกี่ยวกับโนโนกะหมดแล้วไงหละ กลัวจะมาแย่งโนโนกะของโนเอลไป
แต่อีหูฟังมันใส่หูฟังกันไว้เลยไม่โดนลบ
7ปี เอาจริงๆเป็นกูก็ลืม อาจจะจำได้ว่าเคยไปทำอะไรกับใคร แต่ให้นึกหน้านึกชื่อนี่นึกไม่ออกหรอกว่ะ
ถ้าเป็นเพื่อนที่ขาดกันไปนาน คงต้องสนิทจริงๆ ไม่ก็เหี้ยจริงๆ ถึงจำได้
インターリュード 君は踊る 舞台に花びらが舞い
ああ そしていつかそれぞれの 幕を引き旅立つ
イニシャライズ その扉を 開ける時が来るのだろう
綺麗な時を閉じ込めて 湖に沈めたよ
Interlude ตัวเธอที่เต้นรำ บนเวทีที่กลีบดอกไม้โปรยปราย
แล้วเมื่อไหร่กันหนอ ที่ม่านการแสดงเหล่านั้นจะปิดลงแล้วออกเดินทางต่อไป
Initialize ประตูบานนั้น คงถึงเวลาที่ต้องเปิดเข้าสักวัน
ฉันจะปิดผนึกช่วงเวลาที่งดงาม แล้วปล่อยให้มันจมลงสู่ท้องทะเล
เฮ้อ ชอบท่อนนี้ใน edจัง...
วันนี้ตอน3 เดินทางไกล เจอชิโอเนะขู่ตบ
ตบเบยๆ ไม่ได้ดูสาวตบกันนานแล้ว
20 บาท ขู่ไปงั้นแหละ ไม่ตบหรอก
ชิโอเนะ น่ารักว่ะ....
กูเริ่มกลัวอีโนเอลแล้วหวะ
โผล่มาแบบหลอนๆ 2ตอนละ
กลิ่นมาม่าลอยมาเลยว่ะจบตอน 3
โนเอลบอกโนโนกะ เป็นจานบินที่โนโนกะเรียกมา ทั้งที่ตอนที่ 2 โนโนกะจะไล่จานบินไปจากเมือง
หูฟังจัดเต็ม ทั้งตบ ทั้งบอกเกลียด ทั้งชวนคนอื่นให้เกลียดด้วย ตอนหน้าอร่อยเหาะแน่มึง
หูฟังแม่งดอกส์มาก
โนเอลแม่งเอเลี่ยนนี่หว่า ทำไมกูไม่นึกนะ
ตอนสามเหมือนจะเคลียร์บ้าง
เพื่อนๆมันคิดว่าโนโนกะหนีไปเพราะจานบินปะวะ มันเลยตั้งลัทธิแอนตี้จานบินกัน
โนโนกะไป หลายอย่างเปลี่ยนไป หูฟังกลายเป็นคนไม่พูดไม่จาเพราะเพื่อนคนสำคัญหนีไป อีน้องเพิ่มระดับหวงพี่ชายแฝด อะไรงี้
กูก็มั่วไปเรื่อยแหละ
โนเอลคือจานบิน
มีประเด็นเยอะดีแหะตอนนี้ ที่ติดใจสุดก็รูปถ่ายที่เขียนว่าเพื่อนแต่ติดกลับด้านกับเรื่องตบจริงนี่แหละ โนโนกะไม่ร้องสักแอะ จะเรียกว่าไงดี ทักษะการเข้าสังคมสูง(นับรวมตอนที่แล้วที่เดินกับแฝดเพี้ยนๆได้ทั้งตอน) หรือความอดทนสูง?
ก็ไม่แปลกนะ เพราะต้องทำบางอย่างแทนแม่ที่เสียไปตั้งแต่เด็ก เลยดูอดทน แต่อาจจะระเบิดเมื่อไหร่ก็ได้ แบบตอนนึกว่าโนเอลทำกรอบรูปแม่แตก นั่นวีนแตกเต็มๆ
หูฟังแม่งบิทช์มาก จริงๆแม่งน้อยใจนี่หว่า
แฝดมันทำตัวไม่ค่อยน่ารำคาญนะตอนนี้ หรือกูเริ่มชิน
กูรำคาญแฝดหญิงว่ะ ตอนแรกก็รู้สึกน่ารักนะ แต่มึงช่วยหุบปากได้มั้ย
เฮดโฟนจริงๆ ถ้าโนโนกะจำเธอได้ ก็หายงอลละ อย่างตอนที่โนโนกะเรียกชื่อเธอ ก็ดูดีใจและลุ้นว่าโนโนกะจำเธอได้หรือเปล่า
แต่อย่างว่า เพื่อนที่ตัวเองคิดว่าสนิทที่สุดกลับจากไปแบบไม่บอกอะไรเธอเลย พอกลับมาดันจำใครไม่ได้อีก เป็นใครก็โกรธล่ะว้า เพราะไม่มีใครรู้ว่า
โนโนกะความทรงจำมีปัญหา แต่ที่โหดก็ตรงดึงคนอื่นให้มาร่วมเกลียดด้วยเนี่ยแหละ ซึ่งกูชอบว่ะ จะเล่นมาม่าก็เล่นแรงๆแบบนี้แหละถึงจะสนุก
แต่คนที่น่าสงสารที่สุดกูว่าโนเอลจังว่ะ อยู่ดาวตัวเองก็สบายไปละเหอะๆ
http://i.imgur.com/IGuzu7o.jpg
http://i.imgur.com/tvqXRhQ.jpg
เมียใครเลือกกันตามสบาย
>>135 ชิโอเนะ
http://imgur.com/PUIoYGf
กูจะเอาชิโอเนะมาคาวเกิร์ลให้นมเด้งแล้วเอาโนเอลมาบีเจ
เห็นพูดอากิ เคอง ที่พากย์ยัยแฝด นึกถึงคนพากย์หูฟัง 3 SS ที่ผ่านมา
มิอุนะ = นางฟ้า
อิงโกะ = ตัวตลก
หูฟัง = ยัยบิท
3 คน ไม่เหมือนกันเลย แต่มีจุดที่เหมือนกันคือถุงน่อง ที่กูชื่นชอบจงใจหรือเปล่าวะเนี่ย
หูฟังเรทติ้งดีจัง บทมาตอนเดียวโม่งโคฮารุหายสิ้น
เพิ่งได้ดูสามตอนรวดเลย แม่งมาแนวซีเรียสซะงั้น ซีซั่นนี้ไม่มี cute girl doing cute things ให้กูดูเลยใช่มั้ยว่ะเนี่ย
ตอนแรกไม่ชอบนางเอก ตอนสองรำคาญน้องสาว ตอนสามอยากถีบหูฟัง เรื่องนี้แม่งทำสาวๆมาให้อวยไม่ได้เรื่องเลยหว่ะ
ว่าแต่น้องสาวมันชอบพี่ชายใช่มั้ย แล้วพี่ชายชอบสาวร้านขายของ ส่วนหูฟังก็ชอบนางเอก
เรื่องย่อตอน4มาแล้วนะ โนเอลขอโทษโนโนกะ โคฮารุโดนอีแฝดพาลใส่
กูไม่อินกับอาโนะฮานะเลย...
กูกลางๆ
กูรู้แค่เมมมะน่ารัก ><
ซึรุโกะกูน่ารักกว่า
มนุษย์เรามันก็ต้องมีอ่อนไหวกันบ้างดิ ไม่ให้อีโมเลยมึงจะแมนลี่เป็นอเมริกันฮีโร่ทุกเรื่องเลยรึไงวะ
แต่กูว่าอาโนฮานะมันยัดในตอนเดียวเยอะไปว่ะ อยู่ๆก็วิ่งไปหาเมมมะ ซ่อนหา จบเลยในตอนเดียว
http://imgur.com/TQzYEQ0
REMOVE SAUCER!
ใช้ฉากในPVไปจะครบแล้ว เหลือแต่โนโนกะร้องไห้ ท่าจะโดนอีกเยอะ เพราะคงไม่ร้องง่ายๆ
มายัง??
ดูจบแล้วตอน4 กูควรสงสารใคร...
ทำไมกูรำคาญอีแฝด
กูสงสารโนเอลมากสุดละ แจกใบปลิวไล่ตัวเองเพื่ออีอากินี่จะรู้สึกยังไงวะเนี่ย
ส่วนอีอากินี่น่ารำคาญสุดยิ่งกว่าเฮดโฟน ล้านคาเงโร กูดูไม่ได้รู้สึกสงสารเลย อีนี่บ้าไปแล้ว สร้างความรำคาญให้คนอื่นไปทั่ว
โง่ + ขยัน = หายนะ
แบบยูซึกิที่แสดงสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาตรงๆ แม้มันจะขัดกับสามัญสำนึกคนส่วนมากนี่เค้าไม่เรียกว่าโง่นะมึง
แต่เห็นโคฮารุท้ายตอนแล้วกูพอเข้าใจความรู้สึกที่ไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆ
ดูตอนนี้จบแล้วไม่ได้อะไรเลยนอกจากความเกลียดอีแฝด
เหมือนมันออกแนวเห็นแก่ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม
มันจะปูให้เราเกลียดอีดอกนี่รึเปล่า
ไปอ่านเม้นบอรดนอกเกลียดอีอากิกันตรึม บอกไร้เหตุผลสิ้นดี จานบินนี่สร้างรายได้ให้กับเมือง จากการท่องเที่ยวและขายของที่ระลึกแท้ๆ
อีนี่เสือกเอาเรื่องส่วนตัวมาสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น
ทุนนิยมมันเหี้ยจริงๆ อีแฝดไม่ได้กล่าว
เป็นอนิเมนำเที่ยวเห้ๆเลยมึง มีแต่เรื่องเห้ๆ ใครมันจะไปเที่ยววะ
ถ้าทุกคนเห็นด้วยกับมันแล้ว UFO จะหายไปเหรอว่ะ กูไม่เข้าใจตรรกะมัน
ถ้าทำตอนเด็กๆก็ว่าไปอย่าง นี่โตแล้วยังดักดานแจกใบปลิวอยู่ อยากไล่ UFO ทำไมไม่ไปหาจรวดมายิงซะละว่ะ
เอาบั๊งไฟยิง
ถ้ารู้ว่าทำไปให้ตายยังไง สิ่งที่เปลี่ยนไปแล้วก็ไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิม แล้วยังทำต่อไป จนคนอื่นมองว่าบ้า ขนาดคนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทยังเห็นว่าไร้ประโยชน์ แบบนี้กูว่าน่าสงสารนะ
ตอนนี้ไม่ต้องดูก็ได้นี่หว่า เรื่องไม่เดินเลย อีแฝดแม่งน่าตบพอๆมิกะ Psycho Pass เลย
กูขำฉากโคฮารุแม่งยกบาบิกอนเข้าบ้านไม่ได้ถึงกับต้องร้องไห้
นี่มึงไม่รู้จริงๆเหรอวะว่าโคฮารุร้องไห้ทำไม
มึงกลับไปดูไซโคพาสของมึงเถอะ
กูด่าจริง เพราะกูเพิ่งด่าไอ้หรั่งบอร์ดนอกที่พิมพ์อะไรโง่ๆแบบมันมา ไม่นึกว่าจะมาเจอเวอร์ชั่นภาษาไทย
ใจเย็นๆ อยู่บอร์ดโม่งก็แยกแยะหน่อยว่าอันไหนมุกอันไหนโง่จริง หรือต้องให้วงเล็บ (ฮา) กำกับไว้ด้วยวะ หรือ 170 มันไม่ได้เล่นมุกวะ (-_-")
http://imgur.com/HJBWx7o ถ้าเล่นมุกก็ประมาณนี้ล่ะกูว่า
ชิโรเอะอีโมยังไงก็ยังมีคนอยากจัดหนัก แต่ยัยแฝดอีโมนี่เหมือนทั้งโดนเกลียดทั้งไม่มีใครอยากเอาเลยว่ะ
แต่โคอารุกูชอบ ตรงชนประตูเนี่ยแหละ เอ๋อหน่อยๆน่ารักดี แต่ไม่น่าเลิกใส่แว่นเลยเสียดายจัง
ผิดตั้งแต่คนพากย์ละอีแฝด
http://i.imgur.com/Vs2KzX2.jpg
http://i.imgur.com/pr6HcVf.jpg
http://i.imgur.com/1vaO7GO.jpg
เรื่องนี้นู๋โนเอลชนะเลิศจริงๆ fanart ก็มีแต่นู๋จานบินเต็มไปหมด โลลิ + ถุงน่อง
http://imgur.com/idfSQOt
http://imgur.com/yMnmiOK
http://imgur.com/Vi3AzFE
ตอนล่าสุดโนเอลไม่ค่อยได้ออกแอคชั่นเลย นอกจาก キラン=★!
พวกมึง องครักษ์พิทักษ์โคฮารุเรอะ
โนเอลของกู โคฮารุช่างแม่ม
อีอากิ โคอารุ เป็นไงก็ช่าง กูรอเฮดโฟนอีโมแบบมีระดับ ไม่ระรานชาวบ้าน หรือโวยวายหนวกหูแบบอีแฝด
ตอนที่แล้วยุให้เพื่อนแตกคอ พอโนโนกะจุดดอกไม้ไฟให้อีอากิ จะคืนดีก็แล้วไปบอกว่าโนเอลเป็นจานบินอีก
นั่งนึกดูเหมือนคนอื่นก็ไม่ชอบใจจานบินเหมือนกัน
ตอนที่ยัยแฝดบ่นเรื่องจานบิน หูฟังก็บ่นเบาๆว่านั่นซินะ โคอารุตอนเด็กก็เหมือนหงอยๆที่คนไปเล่นกะป้ายมนุษยต่างดาวแทนที่จะเล่นบาบิกอน แต่พอโตแล้วจะเกลียดจะไล่ไปยังไงก็เปล่าประโยชนเลยอยู่เงียบๆดีกว่า แต่ปมยัยแฝดนอกจากเรื่องแฝดพี่ที่ทำตัวเหินห่าง นี่เห็นมีฉากร.พ.ไม่รู้ใครม่องอย่าบอกนะว่าดันไปคิดว่าจานบินปล่อยเชื้อไวรัสลงมาเลยแค้น
ED มันเจ๋งแปลกๆยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก แม่ง rotoscope เอาป่าวว่ะ เดินเหมือนคนเปี๊ยบเลย
เรื่องปมดราม่ายายแฝดน่าจะร้ายแรงเป็น traumatic สุดๆละมั้งไม่งั้นไม่น่าทำตัวให้คนเกลียดได้ขนาดนี้
ถ้าออกมาเป็นเหตุผลงี่เง่าคงยิ่งโดนคนดูเกลียดหนักกว่าเดิมอีกแน่ ขอเชื่อมั่นว่าฝีมือค่ายนี้
ปูเรื่องมาแบบนี้จะไม่ออกมาเป็นแบบนั้น ส่วนโนเอลก็น่ารัก :) ยิ่งตอนช่วยแจกใบปลิวแล้วทำท่าเขินอาย
แล้วบอกประมาณว่าว่ามองจ้องไปที่จานบินนะหนูอาย แม่งจินตนาการไปไหนต่อไหนได้เลย
กูเป็นพี่หล่อก็ไม่เอาอ่ะ ขอโคฮารุดีกว่า
พี่ชายน้องสาวอายุใกล้กันก็ความสัมพันธ์ราวๆนี้แหละ อย่าไปติดภาพซิสคอนบราคอนมากนัก
ชื่อยูซึกิเหมือนกันอีกนะอีแฝด สองเรื่อง
แฝดพี่หล่อเรื่องนี้มาดเหมือนพี่หล่อเรื่อง nagi เลยว่ะ แบบมาดนิ่งๆ เท่ๆ
โนเอล > ผีอูกู๋
อีดอกแฝดน้องกับอีหูฟังถ้าไปอยู่เมะหุ่นยนคงโดนด่าน้อยกว่านี้
พรุ่งนี้ตอนใหม่ เรื่องดอกไม้ไฟกูว่าโนโนกะคิดง่ายไป ไม่น่าจบง่ายๆ
อยากไปดราม่าอีหูฟังแล้ว รีบจบของแฝดเหอะ
หรือมันจะไม่เล่นแบบเคลียร์ไปทีละคน แต่ค่อยๆเดินเรื่องไปพร้อมๆกัน?
เคลียร์ไปพร้อมกันหลายมิตินี่ท้าทายคนเขียนบทดีออกนะ
นอกเรื่อง คนพากย์หูฟังร้องเพลงเพราะจังว่ะ
http://imgur.com/TQzYEQ0
REMOVE SAUCER!
โถ... อีแฝด
ดาวน์โหลดด้วยความเร็วแสงงงง
ผิดหวังว่ะ สรุปที่เข้าโรง'บาลนี่ก็แฝดพี่เรอะ นึกว่าจะดราม่าอะไรมากกว่านี้อีก
มาม่าอีอากิจบง่ายกว่าที่คิด สรุปอีนี่บ้าชัดๆ เหตุผลที่ชีไล่จานบินมาตลอดแมร่งไร้น้ำหนักโคตร พี่เข้า ร.พ. ก็ไปโทษจานบินกะโนโนกะเนี่ยนะ
ยูซึกิถือว่าโนโนกะเป็นเพื่อนตั้งแต่ตอนสอง ถึงได้ทำท่าทางเหมือนจะไม่เชื่อเรื่องที่ชิโอเนะบอกว่าเพื่อนสมัยเด็กที่เรียกจานบินมากับโนโนกะเป็นคนเดียวกัน(ตอน3) แต่พอได้รู้ความจริงก็กลายเป็นเหตุการณ์ในตอน4
ลึกๆในใจยูซึกิยังคงโทษตัวเองเรื่องที่ทำให้พี่ต้องเจ็บตัว แต่เอาเหตุผลเรื่องห้ามจุดดอกไม้ไฟเพราะจานบินมากลบเกลื่อน แล้วยังพาลใส่คนที่เกี่ยวข้องกับจานบินอย่างโคฮารุและโนโนกะ ทั้งที่โคฮารุเองก็เป็นห่วงยูซึกิไม่แพ้ใคร
ความรู้สึกผิดของยูซึกิเริ่มชัดขึ้นตอนที่พี่หล่อมาขอโทษด้วยตัวเองในตอน5 ตามด้วยเรื่องที่เถียงโนโนกะว่า(ป่านนี้แล้ว)จะจุดดอกไม้ไฟไปทำไม เลิกเอาแต่ใจตัวเองซะที (ประโยคนี้เด็ด และคำตอบของโนโนกะก็...)
ฉากอัลบั้มภาพสมัยเด็กของโนโนกะที่เป็นจุดเปลี่ยนก็เหมือนกัน ตรงนี้มาเน้นอีกทีว่ายูซึกิยังเห็นโนโนกะเป็นเพื่อนจากเรื่องสัญญาดอกไม้ไฟเมื่อ7ปีก่อน ถึงได้ตั้งใจวิ่งออกไปที่ท่าน้ำเพื่อขอโทษ ทั้งที่โนโนกะหาดอกไม้ไฟมาจุดไม่ได้อย่างที่บอกไว้
-- ตรงนี้มีตัดมาชิโอเนะนิดนึง เรื่องที่บอกว่าถ้าจุดได้จะไป แต่โนโนกะทำไม่ได้ ก็เลยบอกว่าโนโนกะโกหกอีกตามเคย (เอาจริงๆถึงจุดได้ก็คงไม่ไป)
เท่าที่ดูก็วางอะไรไว้เยอะพอควร แต่ต้องสังเกตท่าทางตัวละครสักหน่อย ถ้ามัวแต่จ้องซับกับฉากบู๊ล่ะก็ไม่อินแน่
ที่น่าสนใจก็คือจากนี้จะเดินเรื่องต่อยังไง
ปมยัยแฝดอากิจบแค่นี้อะดีแล้ว ดีกว่าเขียนบทให้อีโมไปเรื่อย เพราะปมมันไม่มีอะไรมากตั้งแต่แรก มันเป็นเรื่องตัวเองล้วนๆไม่เกี่ยวกะคนอื่น
เจ้าตัวเองก็รู้ดีมาตลอดแหละ พอดูรูปที่นู๋โนเอลเอามาให้ดูก็ปลดล็อค เพื่อนตัวเองทำให้ขนาดนี้มาอีโมโง่ๆต่อมันก็เกินไปไร้เหตุผล เอาไปเล่นประเด็นอื่นดีกว่า บอรดนอกส่วนใหญ่ก็ชอบตอนนี้กัน
ยังมีปมอีกเยอะนะ
-โนเอลลงทุนถ่อมาหาแถมยังทำให้ความปราถนาเป็นจริงเพื่ออะไรกันแน่
-ความปราถนาของโนโนกะคืออะไรกันแน่
-ทำไมพ่อของโนโนกะบอกจะกลับมาแต่ก็ไม่กลับ(เดาว่าเพราะแม่ตาย)
ฯลฯ
ถ้าเคลียร์ปมของหูฟังเสร็จน่าจะเล่นเรื่องของโนเอลต่อละมั้ง
ตอนนี้ชอบฉากโนเอลกับหูฟังนะ ไม่นึกว่าจะมาเจอกันไว
ความน่ารักต่างกันตั้งแต่หูฟังนมใหญ่กว่าแล้ว
เกิดตอนหน้ายูซึกิมันทำตัวน่ารักพวกมึงจะว่าไงวะ
>>231 ตอน 6 กูนึกภาพก็คงทำตัวแบบตอน 2 กะ 3 น่ะ ยัยนีมันไฮเปอร์คงได้ยินเสียงโวกเวกโวยวายตลอดตอน
มองได้ 2 ด้านคือน่ารักกับ น่ารำคาญ แล้วแต่คนชอบ
เพิ่งเริ่มดู kanon อารมณ์ตัวละครและแนวเรื่องแมร่งคล้ายกันฉิบ เล่นเรื่องความทรงจำและคำสัญญา
ยูอิจิ = โนโนกะ
ผีอูกู๋ = โนเอล
มาโคโตะ = ยัดแฝด
ไม = หูฟัง
นายูกิ = โคฮารุ
หมาจิ้งจอก หน้าเหมือนตัวที่อยู่กะโนเอลเป้ะ
อาทิตย์แห่งการหยุดติ่ง ทั้งยูซุกิ ทั้งแองเจ
>>232 แค่เริ่มต้นมาก็คล้ายแล้วมึง kanon พระเอกกลับมาที่เมืองหลังจากเมืองไป 7 ปี ความทรงจำก็ขาดๆหายๆ จำอะไรไม่ค่อยได้อีก
แถมเอาสถานที่จริงมาทำเมะเหมือนกัน แต่เรื่องนี้กูไม่รู้ว่าเอาจังหวัดไหนมาทำ
ตอนท้ายๆคนเขียนบท kanon ต้องมีอะไรทำเงิบแน่ๆ โดยเฉพาะเรื่องโนเอล
ดูในทวิต end gard ตอนนี้คนชอบกันเยอะ หูฟังดูดีขึ้นมาทันที
>>235 >>236 ไม่รู้ว่ะ พี่หล่อกูว่าคล้ายสึมุกุเรื่อง nagi มากกว่า ไอผู้ชายที่ตามท่านประธานมันออกแนวฮามากกว่า
>>237 ตามนั้นแหละ ก่อนหน้านี้ยังไม่ได้ดู กูว่าคล้าย ano hana พอดูแล้วเลยรู้ว่าคล้าย kanon ดูกันไป
http://sora-no-method.jp/story/
ตอนต่อไปมาแล้ว event บ่อน้ำพุร้อน อ่านคร่าวๆแบบโง่ยุ่น พวกโนโนกะชิงโชคตั๋วน้ำพุร้อนกันมั้ง โนเอลอยากได้มาก แต่หูฟังจับรางวัลได้ สงสัยอาจชวนโนเอลไป ยัยแฝด ได้ตั๋วมาจากญาติ อยากขอโทษโนโนกะ เลยอยากจะชวนไปบ่อน้ำพุร้อน แต่ไม่กล้าบอกตรงๆ เลยกะให้โคอารุชวนให้แต่ว่า...
ใครแปลเก่ง แปลให้หน่อย
http://sora-no-method.jp/story/
1สัปดาห์หลังจากเหตุการณ์ดอกไม้ไฟ โนเอลกับโนโนกะไปแวะร้านจับสลากที่มีรางวัลที่1เป็นตั๋วโรงแรมบ่อน้ำพุร้อน โนเอลอยากได้มากแต่ดันจับได้รางวัลที่สองที่เป็นหมอนข้างจานบิน และพอสองคนนี้เดินจากไป ชิโอเนะที่เข้ามาจับรางวัลทีหลังก็ดันได้รางวัลที่1ไปแทน
ขณะเดียวกัน ยูซึกิที่ได้ตั๋วโรงแรมบ่อน้ำพุร้อนมาจากคนรู้จักก็อยากจะชวนโนโนกะไปแต่ไม่กล้าบอกตรงๆกับเจ้าตัว เลยจะให้โคฮารุไปเนียนชวนให้แต่ว่า...
จากพินอัพออนเซ็น ไม่มีโนเอลกับชิโอเนะ ดังนั้น ไปรอดูเอง
แต่กูว่านะ ไม่ได้เห็นหรอก
http://imgur.com/G7kvYAG
หัวใจจะวาย
กูดูตอนนี้แล้วโคตรสงสารพี่หล่ออ่ะ 555555555555555555555555555555+
สรุปชอบโคฮารุจริงๆด้วยสินะ
หูฟังชวนโนเอลไปด้วยจริงแฮะ ทำไมแทงหวยไม่ถูกแบบนี้มั่งฟะ
หูฟังนี่ที่จริงใจดีมาก เลี้ยงโนเอลอย่างดี แถมตอนยิ้มนี่โคตรสวยยังกะนางฟ้า
โนโนกะหมัดหนักโคตร ตอนนั้นนี่ถ้าต่อยสวนยัยแฝดหลับไปแล้ว
ไว้อาลัยให้พี่หล่อ 1 นาที น่าสงสารฉิบ
พี่หล่อผู้แสนดี เกียมัวแน่ๆ 55555555555
ed ขึ้นทีไรบิ้วอารมณ์ได้ดีทุกที
แฝดชายแห้วร้อยเปอร์เซ็น
แม่ง...
ไม่แห้วนะ แค่สาวเจ้ายังไม่คิดอะไร(เลย) แค่นั้นเอง
ยังเฟรนโซนอยู่ไง
ฮาเรมโนโนกะทั้งหมดแหละ สาวๆ
เป็นsubplotที่น่ารักดี กูรอฉากโคฮารุแจกแห้วพี่หล่ออยู่นะ
กุว่าโคฮารุชอบไอตัวเขียวมากกว่าพี่หล่ออีก
ตอนนี้กุชอบคู่โนเอลกะหูฟัง เชียรให้ได้กันไปเลย
กลิ่นยูริเรื่องนี้กูเห็นหลักๆก็หูฟัง-->โนโนกะกับโคฮารุ--->แฝดหญิง หว่ะ
ที่น่าสงสารยิ่งกว่าคือบัตรมันมี 4 ใบไม่ใช่หรอวะ ชวนไป 3 ก็เหลือ 1 แต่คุณเธอไม่คิดจะชวนพี่หล่อเลยกะให้ไปเฝ้าร้านอย่างเดียวนี่ดิ - -
ตอนนี้ยูซึกิมันทำตัวน่ารักแล้วนะ
http://sora-no-method.jp/story/
ปลายฤดูใบไม้ร่วง ย่างเข้าฤดูหนาว สามสาว โนโนกะ ยูซึกิ และโคฮารุขึ้นรถไฟไปนอกเมืองกัน โคฮารุตกใจกับความคึกจนเกินเหตุของยูซึกิ ขณะเดียวกันก็สังเกตได้ถึงท่าทีที่แปลกไปของโนโนกะ อีกด้านหนึ่ง โนเอลก็เจ็บตัวเพราะคิริกอนป้ายมาสคอตหน้าร้าน(เหมือนจะโดนหนัก) โซตะที่เฝ้าร้านอยู่ ถึงกับทนดูไม่ได้เลยจะพาไปหาหมอ
มีรูปหูฟังแต่พรีวิวไม่พูดถึงสักแอะ
พี่หล่อกูเฝ้าร้านอีกแล้ว น่ารักจริงๆ
กุว่ามันก็ปกตินะ สาวๆ เค้าไปเที่ยวกัน จะให้ชวนผู้ชายคนเดียวมาด้วยก็แปลกๆ ไปแล้วก็ต้องนอนคนเดียว แช่น้ำคนเดียว แบบนี้ไม่ต้องชวนไปแต่แรกดีกว่า
https://www.youtube.com/watch?v=4W00VxjscpU
กูฮา
>>261 ใจมากเพื่อนโม่ง สงสัยไปหาหมอแล้ว หมอบอกร่างกายไม่เหมือนมนุษย์
>>266 กูขึ้นเลย
http://i.imgur.com/8vVRnHJ.jpg
http://i.imgur.com/N9NGn4G.jpg
แก้ผ้ารอดูพรุ่งนี้
ดูตอนนี้ยิ่งอยากให้พี่หล่อคู่กับโคฮารุเข้าไปใหญ่เลยนะเนี่ย ดูไปดูมากุเริ่มคิดว่าบาบิก้อนแม่งน่ารัก
ถ้าเป็น A1 ล่ะก็ โคฮารุต้องจบกับบาบีก้อน ส่วนพี่หล่อแห้ว
โนเอลฆาตกรรมบาบิก้อน 555
กูชอบ ED ตอนนี้จัง ภาพสวยเพลงเพราะมาก
กูก็ชอบนะ ยิ่งตอนที่ตัดฉากไปที่เจอกันครั้งแรกแล้วตัดกลับมานี่... อือหือ
เสียน้ำตาให้พี่หล่อแป้ป จะได้ไปไหนมาไหนกับพวกสาวๆมั่งมั้ยเนี่ยไม่ชวนมั่งเลย
ดีนะตอนนี้ได้นู๋โนเอลอยู่เป็นเพื่อน
ทำร้ายบาบิก้อน กูจะไม่ทน
ฮัมเพลงเดียวกันด้วยนะ สามคน
http://sora-no-method.jp/story/
"ฉันเคยอยากดูฝนดาวตกกับเธอ"
โนโนกะที่ได้ยินประโยคนั้นที่ชิโอเนะฝากบอกมากับโนเอล บอกว่าเธอจะทำอะไรสักอย่างในงานวัฒนธรรม
แล้วโนโนกะ โคฮารุ ยูซึกิ โซตะ (และชิโอเนะที่พลอยติดร่างแหไปกับเขาด้วย)ก็ออกไปซื้อของทำท้องฟ้าจำลองแบบทำเองกัน
ระหว่างที่การเตรียมงานเต็มไปด้วยความทุลักทุเล ชิโอเนะที่ยื่นมือเข้ามาช่วยก็ทำให้ทุกคนนึกถึงความทรงจำเมื่อ7ปีก่อนขึ้นมา
เข้ารูทโนเอลแล้ว
หยุดนะ หยุด
เกือบจะฟีลกู๊ดแล้วตอนนี้ ตอนจบมันอะไรอีกวะเนี่ยย
"ขอบใจที่ชวนนะ แต่โนเอลไปไม่ได้หรอก" ว่าแล้วก็คลานกลับไปมุดฟูกที่ห้อง
หูฟังแมร่งน่ารัก + แม่พระอิ๋บอ๋าย นั่งรอผัวตลอด 7 ปี แถมยอมทิ้งผัวเพื่อนู๋โนเอลอีก
ว่าแต่นี่งานค่ายใหม่จริงหรอเนี่ย งานภาพสวยทุกตอนเลยว่ะ ไม่เคยมีเผาเลย
ดูตอนนี้แล้ว insert song ท้ายตอน7 เพราะขึ้นอีก 1.5 เท่า
ชิโอเนะเป็นอะไรอีกวะ
กูว่าโนเอลมันมีความสัมพันธ์ไม่ค่อยลึกซึ้งกะพวกนี้เลยว่ะ กูดูแล้วเหมือนพวกนี้เลี้ยงเด็กกะเล่นกะเด็กไปวันๆมากกว่า
หายไปก็ไม่ค่อยเสียดายเหมือนอีเมมมะเท่าไหร่ แต่จานบินหายไปนี่กระทบธุรกิจโคฮารุแย่เลย
ตอนเมมมะ กูทนดูให้จบๆ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ว่ะ
ยิ่งได้เห็นความเห็นหลากหลายยิ่งรู้สึกเลยว่าต่างจากอาโนะฮานะ
ตัวเอกอย่างโนโนกะที่ตอบคำถามยากๆทางความรู้สึกได้แบบครบทุกเม็ดนี่มันน่าประทับใจจริงๆ
โนเอลไม่เหมือนเมมมะนิ เมมมะเป็นเพื่อนสมัยเด็กของทุกคน ความผูกพันกับทุกคนมีมาก แต่โนเอลเป็นจานบินผูกพันจริงแค่โนโนกะกับชิโอเนะที่เจอกันมาแต่เด็ก จนกล้าบอกว่าตัวคือจานบินแค่2คนนี้ ความสัมพันธ์ลึกๆจะอยู่แค่โนเอล โนโนกะ ชิโอเนะ คนอื่นๆไม่เท่าไหร่เพราะเพิ่งรู้จักกันตอนโต
ถามโม่งเก่งภาษาหน่อย ดูซัพไทยเจ้านึงตอนที่เฮดโฟนกอดหมอนอยู่ ก่อนประโยคที่ โนเอลคือจานบิน
ชีพูดว่า "ฉันเองก็จะคอยดูเหมือนกัน" แต่ตอนดู eng มันแปลว่า We’’ll get a good view this year
มันคนล่ะอย่างไงไม่รู้ว่ะ อันไหนถูกหรือผิด พูดถึงก็แปลกดี ในบอรดโม่ง shirobako กะเรื่องนี้คุยกันเยอะดี ข้างนอกไม่ค่อยมีคนพูดถึง
ถ้าโนโนกะเป็นผู้ชาย แล้วพี่หล่อจะเอาอะไรไปชนะใจโคฮารุวะ
ถ้าโนโนกะเป็นผู้ชาย ตามเทรนด์สมัยนี้จะคู่กะบพี่หล่อไง
ถึงสาวๆ จะชอบโนโนกะก็ไม่ได้แอ้มหรอก
พี่หล่อนี่น่าสงสารอิ๋บอ๋าย ชอบขอให้ช่วยงานแต่ตอนไปไหนมาไหนพวกสาวๆไม่เคยคิดจะชวนเลยว่ะ ตอน6พี่หล่อบ่นซะกูเห็นใจ จะอยู่เมืองนี้เป็นปีสุดท้ายแล้ว อยากไปเที่ยวกะสาวๆมั่ง โดนโนโนกะเก็บเรียบหมด
http://sora-no-method.jp/story/
มาแล้ว วานโม่งเก่งภาษาช่วยแปล ขอบคุณล่วงหน้า
โนโนกะเปิดฮาเรมเก็บออล
โนเอลที่ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าโนโนกะในตอนเช้า บอกว่าเธอเองก็จะไปงานคิตามิไซ แล้วก็ให้คำมั่นว่าชิโอเนะจะไปด้วยแน่
ขณะเดียวกัน ชิโอเนะที่ปรึกษากับพ่อเรื่องจะขอย้ายออกจากเมืองให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ก็เริ่มเตรียมตัวย้ายข้าวของ และก็ได้พบกับสมุดภาพจานบิน ที่ทำให้นึกถึงเรื่องเก่าๆ ที่โนโนกะและทุกคนที่เชื่อเรื่องในหนังสือ ร่วมกันเรียกจานบินมา...
และท่ามกลางความทรงจำเหล่านั้น งานคิตามิไซ ก็ได้เปิดม่านขึ้น
ไม่รู้ว่าในนี้เห็นกันหมดรึยัง อีเวนท์ฉาย10ตอนรวดก่อนออกอากาศตอน11 "คืนฝนดาวตก"
เห็นแค่ชื่อตอนก็สั่นแล้ว
........
ไอสัสสสส โนเอลกู !!!!! กูดูตอนนี้แล้วอยากจะร้องไห้ งี้มีหวังตอนท้ายๆปล่ยโฮแหงๆ
กูไม่เคยดูแต่ขอใช้ตัวช่วยเดา
อากาศบนโลกเป็นพิษใช่มั๊ย
ผิด อยู่ห่างจานบินตะหาก
สัญญาณอ่อน ออกนอกพื้นที่ ต้องแจ้งติด Hot spot เพิ่ม
ดูมาจนตอนนี้ ก็ยังไม่เห็นโนเอลทำอะไรได้เลยนอกจากทำให้จานบินส่องแสงวิ้งวับ
ที่บอกว่ามีหน้าที่ทำให้ความปรารถนาเป็นจริงนี่ก็ไม่ได้ใช้ปาฏิหาริย์อะไรเลย ขนาดเรื่องโนโนกะยังต้องรอตั้งเจ็ดปี
แล้วอย่างนี้ยังจะบอกว่าจะไปทำให้คนอื่นสมปรารถนาอีก....
อ่านบอรดนอก หูฟังโดนด่าเยอะเหมือนกันตอนนี้ แต่จริงๆก็น่าสงสารกันหมดแหละ คนนึงเลือกจะสละเพื่อไม่ให้โนเอลไป อีกคนอยากจะคืนดี ดูดาวด้วยกันแต่ไม่รู้เลยว่าทำงั้นโนเอลจะจากไป
ตอนนี้ชิโอเนะดูฝืนใจจนน่าสงสาร จริงๆก็ทำตัวน่าสงสารมาหลายตอนแล้ว แต่ก็ยังโดนด่าว่าอีโมไม่เข้าเรื่อง
แม่งด่าขนาดนี้ กูจะไม่ทน http://forum.tirkx.com/main/showthread.php?174763-ความรู้สึกที่ได้ดู-sora-no-method-รู้สึกผิดหวังมาก-*%E0%B8%AA%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%A2*
มันก็มีคนตอบมีเหตุผลนะ แต่เหมือนจะไม่มีประโยชน์ เพราะอธิบายไปก็ไม่เข้าใจอยู่ดี
แถมยังมีไอ้พวกเมมเบอร์อายุก็มากแล้วมาเย้วๆยูริๆอีก ตุรกีเลเวลจริงๆ
>>326 จานบินเป็นสิ่งชั่วร้ายอ่านแล้วน้ำแทบพุ่ง 555
เรื่องนี้ใน ANN review แต่ละตอนเฉลี่ย B คนที่ดูก็มีชมว่าภาพสวย เพลงเพราะ ตอนล่าสุดบางคนชมเรื่อง seiyuu ด้วย แต่คนไม่ค่อยดู หรือดูแล้วเลิกคงเพราะหวังมาม่ามากไปมั้ง คิดว่ามันต้องเป็นอะไรที่มันใหญ่โตแต่พอเฉลยดันพื้นๆเกินคาด ส่วนตัวกูว่ามันก็ดีเพราะมันดูมีเหตุผลกว่ายิงกบาลจีซัสแล้วไม่ม่อง หรืออีน้องเหี้ยใน Cross Ange แต่อะไรที่มันบ้านๆ คนมักไม่ดูไม่ชอบ ไม่น่าติดตาม แต่ถึงจะบ้านๆกูก็ยังชอบ ตามดูต่อได้เรื่อยให้เกรต B ตาม ANN
กูดูนะ มันก็เฉยๆนะ มิตรภาพเด็กๆกุ๊กกิ๊กๆ ภาพก็ไม่ค่อยสวย เรื่องก็ไม่ค่อยน่าติดตาม แค่ระดับพอดูได้แบบง่วงๆ
ไม่มีเกรดจะให้ ขอให้แค่คำเดียว ที่มีแค่เรื่องเดียวในซีซั่นที่สมควรได้ไป
"ซื้อ"
http://sora-no-method.jp/story/
จากคำพูดของโนเอลที่จู่ๆก็ล้มพับไป ที่พูดถึงที่ที่มองเห็นจานบิน โนโนกะก็ได้พาเธอกลับมายังคิริยะโกะกับรถของพ่อ ต่อหน้าโนเอลที่นอนหมดสติอยู่ในห้องของตัวเอง โนโนกะก็ระลึกได้ว่าโนเอลนั้นคอยเฝ้าดูเธออยู่เสมอ
แล้วโนโนกะก็ตัดสินใจสารภาพกับยูซึกิ โซตะ และโคฮารุที่มาเยี่ยมว่า เธอคือคนที่เรียกจานบินมาเอง เมื่อ7ปีก่อน
อย่าพีคนักเลย ดีแล้ว เรื่องนี้นี่เป็นที่พักใจของกูจากเรื่องปวดตับอื่นๆในซีซั่นเลยนะ
T T
น้ำตากูจิไหล...
ว่าแต่อีก 3 ตอนนี่จะใส่อะไรอีกวะ กูว่า 11 ตอนน่าจะพอดีๆ กว่านะ
ชื่อตอนหน้าก็ ค่ำคืนฝนดาวตก ด้วย เหมาะเป็นตอนจบจริงๆ
ยิ่งใกล้จบ จิตใจกูยิ่งห่อเหี่ยว
พี่หล่อเอ้ย โคฮารุล้มได้แต่กระเป๋า ตัวดันโดนแฝดน้องรับไปซะงั้น
น้ำตาโนโนกะ...
http://i.imgur.com/KGKITqC.jpg
นู๋โนเอลทำเอากูซึ้ง ภาพสวย เพลงเพราะเหมือนเดิม แต่กูว่า hisaya naoki ตอนหลังๆเขียนบทเหมือนเกรงใจว่ะ ไม่มาม่าหนักเหมือนแรกๆ คนดูดรอปลงเรื่อยๆ คือเมะดีแต่ไม่รู้จะคุยไร ปมมันก็ไม่มีอะไรแล้วดูไปเรื่อยๆ สงสัยเป็นค่ายใหม่มั้ง เขียนมาม่าหนักเกินโอกาสเจ้งสูง เพราะเมะมาม่ามันขายยาก
ที่วงแตกตอนท้ายนั่นกูว่าหนักกว่าโดนตบตอนแรกๆอีกนะ แล้วมาในจังหวะที่ทำให้รู้สึกว่าเรื่องมันกำลังจะจบด้วย
ถึงจะบอกว่าใครๆก็คงเดาได้ว่าตอนจบโนเอลจะหายไปก็เถอะ แต่ฉากที่บอกว่าต้องไป กับเหตุผลนี่ มันทำให้ทุกอย่างที่ทำมาจนตอนนี้สูญเปล่าได้เลย ถ้าเทียบเป็นบทแบบเกมก็ ตอนนี้หักจากฉากจบธรรมดามาสองรอบแล้ว กำลังเข้าสู่True end (ที่ดูเหมือน bad end)
ส่วนเรื่องขายออกขายไม่ออกนี่ กูชอบให้ทำตามใจคนทำมากกว่าพวกตั้งใจขายชัดเจนมากกว่านะ เจ๊งไม่เจ๊ง ก็ไม่ได้เกี่ยวกับซื้อไม่ซื้ออยู่ดีใช่มะ
http://sora-no-method.jp/story/ คืนฝนดาวตก
โนโนกะที่ไปหาชิโอเนะถึงห้อง เพื่อจะพูดเรื่องคำขอของตัวเองอีกครั้ง บอกกับชิโอเนะถึงเรื่องที่คำขอของเธอนั้นเกี่ยวพันถึงชิโอเนะด้วย
ขณะเดียวกัน โซตะและยูซึกิ พอได้คุยกันถึงเรื่องเมื่อเจ็ดปีก่อน ก็ได้รู้ว่าต่างฝ่ายต่างก็อธิษฐานเรื่องเดียวกัน และก็เป็นคำอธิษฐานที่โนเอลทำให้สมปรารถนาไปแล้วด้วย "ครั้งนี้คงถึงคราวที่ต้องทำตามคำขอของโนเอลบ้างแล้ว" โคฮารุที่คิดแบบนั้นเหมือนกันก็ออกไปหาทั้งคู่เช่นกัน
>>345 ขอบใจมากเมื่อนโม่ง
http://i.imgur.com/lxDn1lF.png
โธ่โนเอล
「ใต้ผืนฟ้าไกล」
เศษส่วนของสติที่กระจัดกระจายราวกับปุยเมฆที่ล่องลอยอยู่บนฟ้า ค่อยๆถูกสายลมพัดพามารวมกัน
ระหว่างที่กำลังเหม่อลอย สิ่งที่คลุมเครือก็ได้แปรผันไปสู่ทิวทัศน์เพียงหนึ่งเดียว
ฉันได้แต่ปล่อยตัวเองให้อยู่ท่ามกลางสิ่งเหล่านั้น
ร่างกายฉันแกว่งไกวไปมาอย่างแผ่วเบา ลมหายใจเองก็ดูเหมือนจะเดินสะดวกตามปกติ
ทั้งที่ควรจะรู้สึกสบาย แต่ในอกมันกลับเจ็บปวดเหมือนถูกบีบ
แล้วตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ที่ปุยเมฆที่รายล้อมฉัน กลับก่อตัวขึ้นเป็นภาพอย่างหนึ่ง
"----?"
ฉันเอนคอ ด้วยความคิดสงสัย
ภายในห้องที่ฉันไม่รู้จักแห่งนี้ มีบรรยากาศอันโปร่งใสและออกจะเย็นอยู่เล็กน้อย แถมยังมีกลิ่นอายของธรรมชาติที่ชวนให้นึกถึงแมกไม้
ร่างของฉันยังคงแกว่งไปมาช้าๆ ขึ้นลงอยู่ภายในห้องที่ไม่เคยพบเจอ
แล้วมือที่อบอุ่นก็เข้ามาโอบกอดร่างเล็กๆของฉันที่แกว่งไกวอยู่จากเบื้องหลังอย่างอ่อนโยน
ได้ยินเสียงเพลงหนึ่ง
เพลงที่ชอบที่สุด บทเพลงที่พิเศษที่สุด
คนพิเศษที่ฉันรักที่สุด อยู่ข้างหลังฉันแล้ว
มือที่โอบกอดฉันไว้อย่างแผ่วเบาและอบอุ่น ค่อยๆลูบศีรษะของฉันอย่างเงียบๆ
ฉันนั้น ทั้งที่ดีใจแท้ๆ แต่กลับยังรู้สึกเขิน ไม่อยากให้คนที่ฉันรักได้รับรู้เรื่องนั้น อยากจะหันกลับไปมองหน้าเขาตรงๆ แต่สายตาก็กลับตกลงสู่พื้นห้องที่ไม่มั่นคงแทนเสียนี่
ฉันนี่ช่างดื้อจริงๆ...
ทั้งที่อยากจะหันกลับไปเสียเดี๋ยวนี้
ทั้งที่รอยยิ้มอ่อนโยนนั้นอยู่ใกล้แค่นี้
ทั้งที่อยากจะร้องเพลงด้วยกัน
ทั้งที่อยากจะให้ชมว่า เก่งจังเลยนะ ทั้งที่อยากให้ชมเพราะว่าแอบฝึกร้องเพลงที่เขาสอนให้มาตลอดแท้ๆ
ตัวฉันที่ยังเป็นเด็กน้อยในตอนนั้น ยังทำได้แค่จับชายเสื้อตัวเองไว้แน่น
ถ้ามีความกล้าแม้สักนิด คงหันกลับไปได้ และคงได้เห็นรอยยิ้มที่ตัวเองรักคอยอยู่เคียงข้าง
ฉันเก็บเอาความรู้สึกทั้งหมดเหล่านั้นเอาไว้ แล้วเงยหน้าขึ้นมา
คนที่ฉันรัก นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่โยกเอนไปมาเหมือนตุ้มถ่วง
ส่วนคนที่นั่งอยู่บนตักของเธอเงียบๆนั้น คือตัวฉันที่ยังเป็นเด็กน้อย
ถึงจะรู้สึกเขิน ถึงจะรู้สึกน่าอายสักแค่ไหน ฉันก็จะหันกลับไป
ฉันต้องหันกลับไป
แต่ร่างกายของฉันกลับขยับไม่ได้ดังใจ ราวกับว่าอยู่ใต้น้ำ
รู้สึกเหมือนกับรอยยิ้มที่เคยอยู่เคียงข้าง ค่อยๆห่างไกลออกไป
น้ำตาของฉันมันเอ่อล้นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
ได้แค่คอยส่งเสียงเรียกหาคนสำคัญซ้ำไปมา
แต่กลับไม่มีเสียงใดออกมา เหมือนกับว่าถ้อยคำเหล่านั้นมันละลายหายไปกับน้ำ
----ทำไมล่ะ?
ฉันสับสนไปหมด พยายามขยับร่างกายอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ยิ่งพยายามเท่าไหร่ยิ่งทำได้แค่เหมือนจะขยับ
ความตั้งใจของฉันมันสื่อไปไม่ถึงมือเท้า ตัวฉันที่เป็นเด็กน้อยกลับยังคงมองพื้นตรงหน้าอยู่อย่างนั้น
ในที่สุด มือที่ฉันรักและเคยชิดใกล้ ความอบอุ่นเหล่านั้น ก็ค่อยๆแยกหายไปจากตัวฉัน
เสียงเพลงที่เคยได้ยินก็พลอยเงียบหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
----รอก่อนสิ! มีเรื่องอยากจะพูด อยากจะบอก อีกตั้งมากมายแท้ๆ!
จิตใจที่แกว่งไกว สายลมพัดมาอีกครั้ง
สติที่เคยถูกพัดพามารวมกัน ก็พลันกระจัดกระจายตามสายลมไปอีกครา
ที่กระจัดกระจายอยู่บนท้องฟ้านั้นไม่ใช่ปุยเมฆอีกแล้ว
สิ่งนี้ --- ใช่แล้วล่ะ มันคือดวงดาวที่อยู่บนท้องฟ้าที่เคยเห็นจากที่แห่งนั้นอยู่เสมอ
แล้วในที่สุด ตอนนั้น ฉันก็รู้สึกตัว
อื้ม
ที่จริงก็รู้อยู่ตั้งแต่แรกแล้วล่ะ
ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจแท้ๆ แต่ก็ยังทำใจยอมรับไม่ได้สักที
สิ่งที่ฉันเห็นมาจนตอนนี้ สิ่งที่ฉันคิดว่าตัวเองเห็นมาจนถึงตอนนี้----ทุกอย่าง มันเป็นแค่ความฝัน
to be continued on BD vol.1 side story book
http://sora-no-method.jp/news/archives/338
เตรียมผ้าเช็ดหน้ากันได้แล้ว คืนนี้ตอน11
(เมื่อคืนมี pre-airในนิโกะ)
แก้ผ้ารอซื้อกระดาษซ้ำน้ำตาแล้ว เพลงedตอน7ลอยอยู่ในหัวเลยมาแน่ๆ
วันนี้ฉายไว สปอยล์มาเต็ม ดีนะดูไปก่อนแล้วเมื่อคืน...
กางเกงในไม่ใช้แล้ว?
ดูจบละ กูเศร้า T T เอากางเกงในพวกมึงมารวมกับก็ซับไม่หมดอ่ะ
เรื่องมันน่าจะเศร้านะแต่ก๋อ่านพวกโม่งแล้วกูฮา
ลืมไปเลยว่าเคยเกลียดยูซึกิ
โคตรชอบเพลงประกอบเรื่องนี้จริงว่ะ ตอนแรกนึกว่าจะใช้เพลง ED 7 แต่มีเพลงใหม่อีกแล้ว เอาเพลง ED มาใส่ทำนองใหม่ โคตรลงทุนเรื่องเพลงเลยเรื่องนี้
FYI ทั้งสองเพลงนั่นอยู่ใน image album ที่จะออกวันที่24 เดือนนี้ (ทั้งหมด8เพลง)
ถ้าepilogueเป็น timeskipล่ะ...
จากนั้นโนโนกะก็สร้างหุ่นยักษ์แล้วออกไปอวกาศ
เว็บหลักอัพเดทtracklistของอิมเมจอัลบั้มแล้ว
『天体のメソッド』イメージアルバム
ソナタとインターリュード
2014年12月24日発売
収録曲
1.ソナタとインターリュード (Instrumental)
作曲:佐藤純一 編曲:fhána
2.ホシノカケラ 【第7話特別エンディング主題歌】
作詞:林英樹 作曲:佐藤純一 編曲:fhána ストリングスアレンジ:川本新
3.約束のノクターン (Acappella with Strings)
作曲:yuxuki waga 編曲:加藤達也
4.約束のノクターン
作詞:林英樹 作曲:yuxuki waga 編曲:fhána
5.春を待って ~Joyeux Noël!~ (Acappella with Strings)
作曲:kevin mitsunaga 編曲:加藤達也
6.春を待って ~Joyeux Noël!~
作詞:林英樹 作曲:kevin mitsunaga 編曲:fhána
7.星屑のインターリュード (Acappella with Strings)
作曲:佐藤純一 編曲:加藤達也
8.天体のメソッド ~Quote from Stardust Interlude~ 【第11話特別エンディング主題歌】
作詞:林英樹 作曲:佐藤純一 編曲:fhána ストリングスアレンジ:川本新
http://sora-no-method.jp/story/
โนโนกะรู้สึกว่างเปล่าไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป เมื่อมองขึ้นไปท้องฟ้าใสที่แผ่ขยายอาณาเขตกว้างไกลอยู่เหนือทะเลสาบคิริยะ
จานบินที่เคยเฝ้ามองพวกเธอจากบนนั้นอยู่เสมอ ไม่ได้อยู่ที่นั่นอีกแล้ว
เห็นภาพพรีวิวนี่หนักเลย... โลกนี้ช่างสวยงามแต่ทำไมน้ำตากูไหล
เห็นภาพแล้วเมืองดูเหงาๆเงียบๆ ไงไม่รู้ว่ะ จานบินหายคงมีผลกระทบต่อเมืองน่าดู คิดถึงหมาจิ้งจอก kanon นึกว่าจะไม่ได้เห็นแล้ว
กูนึกว่าจะไม่มีอะไรมาทำร้ายกูได้อีกแล้วหลังจากตอน11
ไม่กล้าแปะendcardเลยครัช...
ใครบอกว่าฮิซายะเขียนบทเกรงใจคนดูวะ…
>>381 กุเองแหละ กูขอโทษ แต่โคตรชอบเลยว่ะหักมุมฉิบหายจนไม่รู้ว่าตอนจบมันจะเป็นยังไงจะจบดีแบบโนเอลกลับมาก็ได้ หรือมีอะไรที่ชวนเงิบอีกก็ได้ แต่ตอนนี้ขอฟินกับเมียกูก่อน สุดๆอะโคตรน่ารัก
http://i.imgur.com/azuRXbf.jpg
http://i.imgur.com/dwGI729.jpg
ชิโอเนะยิ้มทีไร หัวใจผมแทบหยุด
http://i.imgur.com/QTlEcQb.jpg
วันนี้แล้วซินะ อยากฟังๆๆๆ
ดูตอนล่าสุดนี่เป็นเมะที่งานภาพเนี้ยบจริงๆ ตอนนี้ยอดจองยังไม่เยอะเท่าไหร่ แต่กว่าจะขายก็ปลายเดือนหน้าถ้าจบดี น่าประทับใจคงขายได้พอควรแหละมั้ง
เอาเงินกูไปเลย ☆☆☆☆☆☆
http://imgur.com/53Xp1Tc
http://sora-no-method.jp/story/
พรีวิวตอน13 มาแล้ว ขออนุญาตไม่แปล กันคนไม่ได้ดูลากผ่านมาเจอ
ตอนจบดูคุณแม่จะมีเอี่ยว
กลัวจบอายุรูทอิ๋บอ๋าย
約束のノクターン เพลงบอกความในใจของชิโอเนะในอิมเมจอัลบั้ม เพราะมาก
พรุ่งนี้ตอนจบแล้วว่ะ เพื่อนโม่ง
อย่าตกม้าตายตอนจบแบบยูกิยูนะนะเว้ย กูกราบล่ะ
>>393 มากูแปลท่อนฮุคให้
にじんで見えなくなってるけど
消えずに残ってるもの
いつまでもこの胸に刻まれていて
ถึงจะเลือนลางจนแทบมองไม่เห็น
แต่สิ่งที่ยังคงเหลืออยู่ไม่หายไปไหน
ก็ยังคงฝังแน่นอยู่ในอกนี้เรื่อยมา
素直になれなかったよ
ほんとは泣きたかったよ
変わらない想いにそう気付いたんだ
ฉันไม่อาจซื่อตรงต่อหัวใจตัวเองได้เลย
แท้จริงแล้วตอนนั้นฉันอยากร้องไห้ออกมา
นั่นล่ะคือความในใจที่ไม่เคยเปลี่ยนไป
http://sora-no-method.jp/special/141222_cast.php
คอมเมนต์นักพากย์หลังจบตอนสุดท้าย
วันนี้ตอนจบแล้ว อยากดูๆๆ แก้ผ้ารอ
เหลืออีก 3 เพลงที่ยังไม่ได้ใช้
์North Method -- เปิดไปในPV2-2.5 แต่ยังไม่ออกในอนิเม
.約束のノクターン -- น่าจะตัดไปได้
.春を待って ~Joyeux Noël!~ --ได้อยู่
จบแล้วเว้ย
งดงาม อื้อ
ทุ่งทานตะวัน ; ;
いい最終回だった。
จบแล้วววว ดูไปยิ้มไป งดงามจริงๆ
ว่าแต่ถ้าฉากสุดท้ายไม่ใช้ 3D มันจะดูดีกว่ารึเปล่าวะ
ปล.กูแอบฮาฉากนี้ 5555
https://imgur.com/HashEAR
http://imgur.com/qAACAI4
พี่หล่อครับ อย่าครับ ชิโอเนะผมจองนะครับ
เอามือเก๋ามาทำนี่เอง แม่งลื่นกว่า เอา 3D มาทำอีก
กูยังงงอยู่ทำไมต้องวนลูป ทำไมคราวนี้เป็นทุ่งทานตะวัน สรุปโนเอลจะเป็นอะไรก็ได้แล้วแต่ใจคนจะปรารถนาอะหรอ
ดูจบแล้ว กลับไปดูpv2,2.5 อีกรอบด้วยนะพวกมึง
ดูจบแล้วให้คะแนน
ขอชมที่สุดคือภาพกับเพลง ให้ 9 คะแนน ภาพเนี้ยบ เพลงประกอบเยี่ยม เนื้อเรื่อง 7 ความสนุกให้ 8 ดูสบายๆ
คะแนนพิเศษชิโอเนะเมียกูให้ 100 ชุดสุดท้ายนี่น่าฟัดมากๆ แต่ชอบอย่างคือตอนแรกให้ใส่หูฟัง สื่อว่าหัวใจในตอนแรกไม่เปิดรับใคร พอเปิดใจหูฟังก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป
http://i.imgur.com/Gr7Mtco.png
บรรยากาศ : ดูแล้วอยากไปแสวงบุญ
ภาพ,คาราดีไซน์ : อยากให้เต็มตั้งแต่เห็นว่าเป็นQPflapper พอadaptเป็นอนิเมแล้วก็ยังดูดีอยู่
เพลง : ซื้อทุกแผ่น ชอบทุกเพลง โดยเฉพาะเพลงชิโอเนะ
เนื้อเรื่อง : แรกๆรู้สึกว่าเรื่องยูซึกิมันจบง่ายไปหน่อย แต่พอเข้าช่วงหลังที่เหมือนละลายน้ำแข็งในใจชิโอเนะ ก็เริ่มเทใจให้มากขึ้นเรื่อยๆ
คะแนนพิเศษ : Noel is the miracle of universe
สถานะBD : ซื้อ
http://imgur.com/LHPsKh3
กูขอขัดใจพวกมึงหน่อยนะ
งานภาพ: อยู่ในระดับธรรมดา บรรยากาศก็ธรรมดา รู้สึกว่าเป็นแค่อนิเมธรรมดา
ไม่ได้รู้สึกว่ามีอยู่ในโลกจริงๆ ไม่รู้สึกว่าอยากไปแสวงบุญ อนิเมชั่นก็ธรรมดา ไม่ถึงกับห่วยแต่ก็ไม่ดี
กูชอบแค่ OP ว่ะ เอ็ฟเฟ็คสวยดี
เนื้อเรื่อง: ก็ธรรมดา ปมก็ตื้นๆ ไม่ค่อยอิน ชิโอเนะแม่งยึกยักเรื่องมากน่ารำคาญ
เพลงก็เพราะดี: กูชอบ เป็นอย่างเดียวที่กูชมได้เต็มปาก
คะแนนพิเศษ: ไม่มี ส่วนตัวกูให้ใกล้ๆกับ Yukiyuna แต่ให้ Yukiyuna ดีกว่าครึ่งลูก
ปล. หมวกชิโอเนะลอยอยู่บนฟ้า 1 คืน
บอกตรงๆว่า ของที่ดูแล้วซาบซึ้งกันทุกคนกูก็ไม่อินเหมือนกัน
มึงบอกว่าให้ใกล้ๆกับยูกิยูนะ แปลว่า ยูกิยูนะมึงก็เฉยๆสินะ แล้วเรื่องไหนวะที่มึงอิน
แย่ตอนจบเหมือนyuyuyu
ยูกิยูนะกูก็เฉยๆ อะไรที่กูอินเหรอ ถ้าเอาแบบอารมณ์ซึ้งๆ nostalgia ผสมมิตรภาพนะก็
กูให้ Anohana ดีกว่า แต่กูไม่อยากพูดหรอก พูดแล้วแม่งโดนหาว่าเมนสตรีม อีกสักเรื่อง
ก็ Kokoro Connect ละกัน
อืม ก็เมนสตรีมจริงๆ ความเห็นแบบมึงนี่มีทั้งสามภาษาเลยนะ ไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น
อ้อ ยูกิยูนะกูก็ไม่ปลื้มตอนจบนะ
เรื่องนี้ส่วนใหญ่อ่านความเห็นบอรดนอก ก็ให้คะแนนเฉลี่ย 7 ไม่ได้ดีมาก แต่ก็ไม่ได้แย่ ของกูก็ถือว่าโอเค ตามดูได้จนจบไม่ดรอป
ชอบสุดก็เรื่องเพลงแบบเพื่อนโม่ง เพลงของ Fhana ในเรื่องนี้สุดยอดมาก ยอดจองเริ่มดีขึ้น ยังเหลืออีกเดือน หวังว่ายอดคงพอที่จะทำให้ ไม่ขาดทุนนะ
แต่ก็งงกะตอนจบสรุปมันวนลูปหรือเป็นโลกคู่ขนานอีกโลกวะเนี่ย
ก็พอดูได้นะ แต่ภาพสวยเพลงเพราะจริง ภาพอยิเมทบางอันโรโตเอาป่าววะ เหมือนคนมาก เนื้อเรื่องงั้นๆ คือกูรู้สึกว่ามันพยายามจะเดินสูตรแบบอาโนะฮานะไปหน่อย แต่ทำตามเป๊ะไม่ได้เลยต้องไปอีกทางเอาจริงๆ ดูไป 11 ตอนกูไม่อินเลย ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าตกลงมีโนเอลไปมำไร พอตอนที่ 12 ก็พอโอเคหน่อยเพราะเป็นตัวอย่างให้เทียบ แต่กูก็ไม่อินอยู่ดีอ่ะนะ
อาโนะฮานะนี่กูถือว่ากากนะ ไม่เข้าใจว่าดังไปได้ยังไง นอกจากตอนแรกไม่มีอะไรดีเลยว่ะ ดังนั้นเวลามีคนยกมาเทียบ กูจะรู้สึกแย่
ถ้าเทียบZettai Shonen กูจะรู้สึกว่ามึงดูเรื่องเดียวกันกับกูหน่อย กูคิดว่ามันจบคล้ายกัน ตรงที่ตอนจบ ถ้ามึงหาประเด็นไม่เจอ มึงก็จะไม่ฟิน
ส่วนอาโนะฮานะเหรอ เสียเวลาชิบหายเลย
Anohana สนุกถึงตอน 1
กูว่าดังที่เพลง ED
Anohana กูว่าแม่งแป้กตรงตอนจบมาก คือพวกมึงมาเล่นซ่อนแอบร้องห่มร้องไห้กัน กูไม่อารมณ์ร่วมเลยว่ะ
อีกอย่างกูรำคาญอีจินตะมาก ถึงมากที่สุด
เออ แต่ฉากเงิบตอนพลุแหละ ทำได้สุดแล้ว พลุหรือจรวดอ่ะ กูเริ่มจำไม่ได้
ปล. กูชอบโซระเมโซะนะ ปัญหาของตัวละครมันเรื่องจริงดี
กูชอบเรื่องนี้ตอนที่ 12-13 นะ เพราะก่อนหน้านี้กูไม่อินปมของตัวละครเลย
เปลี่ยนตัวละครน่าตบชิบหาย ให้กลายเป็นนางฟ้าได้นี่กูว่าใช้ได้นะ
จานบินโผล่มา ทำให้นางเอกฝากจานบินไปบอกหูฟังได้ หูฟังเลยรอ แต่รอนานเกินไปเลยงอน พอนางเิกกลับมาก็เลยทำตัวดอกใส่ แต่ว่าถ้าจานบินไม่มาแต่แรกหูฟังก็จะไปไม้กลับแบบตอนที่ 12 ความปรารถนาทีีว่า "จะดูฝนดาวตกด้วยกันทุกคน" ก็จะไม่มีทางเป็นจริง
ส่วนอิแฝดน้องยิ่งโตยิ่งอีโมเพราะมาจากปมเล็กๆกะปิดกะปอยเลยถอยไม่กลับ
ก็คือถ้าจานบินอยู่ หูฟังก็อยู่ แต่ถ้าหูฟังไม่อีโมก็จะมีอิแฝดน้องอิโมแทน
ในเรื่องนี้จานบินเป็นหลักฐาน "การใช้เวลาร่วมกันของพวกเรา" อะไรแบบนี้
กูเข้าใจถูกมั้ยวะ
ถ้าจานบินไม่มา ต่อให้ยูซึกิทะเลาะกับโซตะยังไงก็จะไม่มีทางโยงไปถึงโนโนกะได้
ถ้าจานบินไม่มา เรื่องของโนโนกะที่จากไปก็จะกลายเป็นแค่ความทรงจำสมัยเด็กของชิโอเนะ
ถ้าจานบินไม่มา ร้านของโคฮารุก็ไม่ต้องเปลี่ยนชื่อ
แต่ถ้าจานบินไม่มา โนโนกะที่กลับมาคิริยะโกะอีกครั้ง ก็จะไม่มีทางจำเรื่องของทุกคนได้
อ๋อจริงด้วย นางเอกตอนแรกมันจำใครไม่ได้เลยนี่หว่า
กูกลับไปนั่งดูตอนเก่าๆ ยิ่งรู้สึกว่าบทมัน consistent ไม่มีหลงทางเลยว่ะ
สรุปจานบินคือโดราเอมอนซินะ มาเปลี่ยนโลกนี้ เชี่ย
>>431 แย้งหน่อยนึงตรงชิโอเนะไม่ได้งอลเพราะรอนาน แต่งอลเพราะโนโนกะจำตัวเองไม่ได้ อย่างตอน3โนโนกะเรียกชื่อตัวเอง คิดว่าจำได้เลยหยุดรอ เตรียมยิ้มละ
>>428 กูก็ชอบตรงนี้แหละ ที่ปัญหาของแต่ละคนมันไม่เวอรเกินไป อย่างคำอธิษฐานมันก็สมกะเป็นความคิดของเด็ก8ขวบดี
เรื่องนี้ในบอรดโม่งคุยได้เยอะจริง ที่อื่นไม่คุยเลย รักโม่งก็ตรงนี้
ไปนั่งอ่าน2ch มีคุยกันเรื่องเหตุผลที่ความทรงจำแต่ละคนในตอน12กลับมาไม่เท่ากันอยู่ สรุปได้ราวๆนี้
ยูซึกิ โซตะ โคฮารุ : โนเอลมองว่าตัวเองเป็นสาเหตุที่ทำให้ความสัมพันธ์ของสามคนนี้เปลี่ยนไป รอบใหม่เลยลบเรื่องที่เกี่ยวกับจานบินไปจนหมด
โนโนกะ ชิโอเนะ : สองคนนี้ต้องใช้เวลาเจ็ดปีถึงกลับมาคืนดีกันได้ ถึงต้องคงความทรงจำทั้งหมดไว้ เพื่อให้คำอธิษฐานเป็นจริง แต่โนเอลลืมนึกไปว่าระยะเวลา7ปี ทำให้โนเอลกลายเป็นส่วนหนึ่งในคำว่า"ทุกคน"ในคำอธิษฐานสองคนนี้ไปแล้ว
จุดสตาร์ทของแต่ละคนถ้านับว่าเริ่มจากที่แต่ละคนfirst contactกับจานบิน ก็จะกลายเป็นว่ามีชิโอเนะคนเดียวที่เก็บความทรงจำเรื่องโนเอลเอาไว้7ปีเพื่อมารอพบโนโนกะอีกครั้งในตอน12
แต่คราวนี้ไม่ใช่รออย่างมีความหวัง แต่รอเพราะรู้ว่าโนโนกะที่ตัวเองรู้จักต้องกลับมา
ปัญหาของตัวละครมันเล็กน้อยดี ซึ่งกูก็ว่ามันก็เหมาะสมไม่เว่อดี แต่รวมๆยังไงกูก็ไม่ชอบเท่าไหร่ว่ะ รู้แต่ว่าชิโอเนะแม่งซ่อนรูปมาก
จานมา = ดราม่า อีน้องกะชิโอนมอีโม
จานไม่มา = แฮปปี้ แต่ยังไม่สุด แต่ดีว่ะอีน้องไม่อีโมแล้วดูสดใสดี
จานไม่มา แล้วค่อยมาเรียกให้มาทีหลัง = ฟินนนนนนน
สรุปโซวตะมันจะได้กับโคฮารุมั้ย
ไม่ได้คู่แน่ เพราะโคฮารุเมียกู
วันอาทิตย์ที่ไม่มีโนเอล
http://imgur.com/O39fpGs
อาทิตย์นี้ไม่มีโนเอลกูล่ะหงอยเหงา
>>439 ดูก็งงนะ ตอน 12 นั่งดูตอนแรกนึกว่าฮิซายะจะเล่นว่ามันคือความฝันของใครคนนึง แต่พอตอน 13 ดูแล้วคงวนลูปจริง แต่ยังงงอยู่โนเอลทำให้วนลูปทำไม หรือจริงๆอาจเป็นโลกอีกช่วงเวลานึงไปเลย ประมาณโลกคู่ขนานที่ไม่มีจานบินแต่ความนึกคิดของทุกคน โดยเฉพาะโนโนกะกับชิโอเนะต่อโนเอลในโลกช่วงเวลาที่เรียกจานบินมาได้มันแรงพอที่จะส่งมายังอีกโลกนึง อยากให้ฮิซายะมาเฉลยปมจัง
ส่วนเรื่อง anohana กูให้เรื่องนี้ดีกว่าตรงตอนจบเนี่ยแหละมันมีอะไรให้คิด anohana มันเดินแบบเส้นตรงไม่มีอะไรให้คิดเท่าไหร่
http://i.imgur.com/A308WR7.jpg
รูปสุดท้ายปล่อยมาตอนจบ
ตอน10 โนเอลบอกโนโนกะว่า จริงๆแล้วสิ่งที่โนเอลอยากเห็นก็คือรอยยิ้มของทุกคน อยากให้ทุกคนมีความสุข ถึงต้องไป
ถ้าไปของโนเอลหมายถึงสิ่งที่โนเอลทำในตอน12 (ลบexistenceของจานบินออกไปจากโลก,ย้อนเวลา) แล้วทุกคนจะมีความสุข
แต่มันมีฉากโนเอลร้องไห้ในตอน11 ที่กูคิดเอาเองว่า มันน่าจะเกี่ยวกับที่สองคนนี้ยังไม่ลืมนะ เหมือนยังทิ้งคำใบ้ไว้ในความทรงจำว่า ถ้ายังไม่ลืมคงได้พบกันอีกสักวัน เพราะโนเอลเองก็ยังไม่ลืม ยังรอตอบรับคำอธิษฐานของคนที่จำเธอได้อยู่เสมอ
ปล. ฮิซายะบอกในบทสัมภาษณ์ในอิมเมจอัลบั้มว่า ที่ให้อิมเมจของโนเอลเป็นเด็ก เพราะอยากจะสื่อว่ามีแต่ความใสซื่อไร้พิษภัยจริงๆ
มันมีคีย์เวิร์ดว่าต้องไปอยู่ กูเลยคิดว่าไม่น่าใช่โลกคู่ขนานหรือสลับworldline
ส่วนทำได้ยังไงนี่ คงเป็นความหมายของชื่อเรื่อง 天体のメソッド ว่าไปนั่น
เมื่อวานโปรดิวเซอร์แกบ่นๆอยากออกเซทเทย์อยู่นะ ในทวิต
กูเพิ่งรู้ว่าโคฮารุของกูคนพากย์เดียวกันกับเอมะจัง...
>>451 ใจมากเพื่อนโม่งพอเข้าใจละคือจริงๆโนเอลกะจะให้ลืมเรื่องตัวเองให้หมด แต่ท้ายตอน 11 เหมือนใจจริงตัวเองไม่อยากจะจากโนโนกะเลยน้ำตาไหลออกมา ทำให้โนโนกะและชิโอเนะไม่ลืมเรื่องโนเอล เพราะสองคนนี้ผูกพันกับโนเอลโดยตรงตามภาพที่ปล่อยออกมาบ่อยๆเหมือนพ่อ แม่ ลูก แต่ถ้าทุกคนย้อนเวลาแล้วจำเรื่องโนเอลกันไม่ได้หมดชิโอเนะก็ไม่ได้กลับมาหาโนโนกะแน่ๆเลยว่ะ
ตอนนี้รอลุ้นยอดขายวันที่ 28 ดูจาก ranking ยอดจองรายวันคงประมาณ 2 พัน ก็พอได้อยู่มั้ง อย่างน้อยโนเอลนี่เป็นมัสคอตประจำค่ายได้เลย ตอนนี้ในทวิตเห็นคนญี่ปุ่นเอามาใช้เป็นavatar พอควร ลองมาก็ชิโอเนะ
>>454 seiyuu ใหม่ อนาคตน่าจะดัง บทดีทั้ง 2 เรื่อง SS ที่ผ่านมา
กูเฉยๆมากเลยนะตอนจบ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนปลื้มวิเคราะห์ได้เป็นตุเป็นตะขนาดนี้
แค่จบปลายเปิดให้คิดเอาเอง ทีหลังพวกมึงไปดู A/Z ด้วยนะ กูอยากเห็นพวกมึงวิเคราะห์
สักวัน พอมึงเจอเรื่องที่เลือกคนดู จำกัดคนเข้าถึง มึงก็จะเข้าใจเอง
http://i.imgur.com/kQDsHNn.jpg
เรื่องนู๋โนเอลลึกซึ้งนะมุง คิดถึงโนเอลจัง
จะแอนตี้ทั้งทีก็พิมพ์มายาวๆหน่อย ไม่ใช่มากระแนะกระแหนแบบนี้
ยกอนิเมโคตรเทพของมึงมาเกทับด้วยก็ได้ เอาให้สบายใจเลย
ไม่มีใครไฝว์กูไฝว์เอง
กูเป็นคนนึงทีเฉยๆและไม่อินกะเรื่องนี้นะ แต่กูว่าเอามาคุยกับคนที่ชอบก็ไม่มีประโยชน์ว่ะมึง เดี๋ยวสุดท้ายก็กลายเป็นแฟนบอยเฮตเตอร์เกทับกันไปกันมา น่าเบื่อ
แต่ถ้ามันดีจริง คนสุดท้ายที่เหลืออยู่จะเป็นแฟนบอยนะ
ไม่ใช่เฮทเตอร์ที่เป็นอดีตแฟนบอย
ยังมีshort storyแถมBD ออกเรื่อยๆจนถึงเดือน7 สำหรับคนที่รำคาญว่ามันจะคุยอะไรกันนักหนา คงจะได้เจอกันอีกนาน
มึงจะแปลshort storyสินะ เพื่อนโม่ง
http://i.imgur.com/TTgkQxe.png
http://i.imgur.com/iT8YMhf.png
ดีใจเล็กๆกับผลโหวดใน anime trending ถึงจะไม่เกี่ยวกับยอดขายก็เหอะ
เม้นที่เค้าว่า เพลงเพราะ เน้นเนื้อหา ไร้ฮาเรม ไร้เซอร์วิส
infinite shop จัดโปร ซื้อทุก1000เยนได้ตั๋วลุ้นรางวัลใหญ่สามอย่าง
1.อะไรสักอย่างมีลายเซ็น ยังไม่บอก (10รางวัล)
2.หมอนจานบิน(20รางวัล)
3.สคริปต์ตอน1-13 สุ่ม1เล่ม (39 รางวัล)
ตั๋วไม่ถูกรางวัล เก็บไว้แลกของอย่างอื่นได้ รางวัลใหญ่สุดเป็นแสตนด์ ใช้100ใบ
http://infinitedayo.jp/shop/soranomethod_fair.html
ostออกแล้ว สันปกสปอยล์เต็มๆ แต่ในเรื่องเพลงมันเยอะขนาดนี้เลยเรอะ
http://i.imgur.com/wk0a7UA.jpg ได้รับการเยียวยา
ผิดหวังจริงๆ ทำไมต้องขายอะไรแบบนี้ด้วย มีแต่พวกโม่ยไม่สนเนื้อเรื่องเท่านั้นแหละที่จะมาหื่นกับของพวกนี้
*กดพรีออเดอร์ด้วยจิตใจบริสุทธิ์*
ลามกไปหน่อยปะวะสำหรับเรื่องนี้
เอาโนเอลมาทำเป็นของเสียๆหายๆแบบนี้ได้ยังไง ถ้าเอาโคฮารุมากูจะไม่ว่าเลย(กดจองด้วยซ้ำ)
คาราดีไซน์อนิเมบอกในทวิตว่าเพิ่งเคยวาดหมอนข้างนี่แหละ
ส่วน อ.โคฮารุบอก รอบหน้าขอชิโอเนะ...
ไอ้พวกจิตใจระยำ พวกมึงมองเห็นโนเอลเป็นอะไรวะ
เครื่องสนองตัณหาพวกมึงรึไง ควยเถอะ
me......กดจอง"ให้เพื่อน"
ไอ้พวกขี้เงี่ยน มองโนเอลผู้แทนความฝันและความหวังของทุกคนเป็นเครื่องระบายความเงี่ยนและกามารมณ์เองเหรอ ไอ้พวกหื่นกาม
#แค่ภาพตัวอย่างกูก็แตกแบบไม่ใช้มือแล้ว
บทสัมภาษณ์ ผกก.กับฮิซายะ มีพูดถึงเรื่องตอนจบ สรุปสั้นๆว่าสำหรับโนเอลแล้ว ความรู้สึกที่มีต่อ5คนนี้ ไม่ได้มีใครพิเศษกว่าใคร
เรื่องที่โนโนกะกับชิโอเนะจำได้ เป็นเรื่องของความบังเอิญ เป็นหนึ่งในความเป็นไปได้ที่มีอยู่มากมาย(ในเงื่อนไขที่ว่าจานบินไม่มา)
ยูซึกิ โซตะ โคฮารุ เองก็อาจจะจำได้แต่แรกเหมือนกัน เพียงแต่ว่าตอน12-13 เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในมุมมองของโนโนกะ
http://ameblo.jp/gsc-mikatan/entry-11979545042.html พรุ่งนี้ (27) เปิดจอง
http://imgur.com/Qj3kfch ปกพิเศษมินิอัลบั้มคาราซองค์
■ร้านที่ร่วมรายการ
ゲーマーズ/とらのあな/ソフマップ/ネオウイング/ゲインズ/ジーストア
ปกธรรมดานี่ ธรรมดาจนขี้เกียจแปะ
สัปดาห์หน้ายอดBDคงจะออก
http://i.imgur.com/UolDAca.jpg
กูคิดถึงบาบิก้อน
ลุ้นยอดขายจะได้เกิน 2000 มั้ย งานเรื่องแรกของค่ายนี้ด้วย
>>467 รางวัลตั๋วแลก 35 ใบ
http://imgur.com/gbLDGh0
แผ่นสุดท้ายมีตอนพิเศษ
source: https://www.youtube.com/watch?v=aup_8JM50SQ
Tracklist
キャラクターソングミニアルバム 約束のメソッド
01.プロローグ~ノエル~
02.ほんわか日和/椎原こはる
03.モノローグ~こはるから湊太へ~
04.Brand New Scene/水坂湊太
05.モノローグ~湊太から柚季へ~
06.Non-Stop Days/水坂柚季
07.モノローグ~柚季から乃々香へ~
08.流星のなみだ/古宮乃々香
09.モノローグ~乃々香から汐音へ~
10.きみの音色/戸川汐音
11.モノローグ~汐音からノエルへ~
12.にっこり記念日 / ノエル
http://www.thaiairways.co.th/th_TH/plan_my_trip/Special_fare/Offers_Booking/happy_in_love_for2.page? ไปแสวงบุญสิพวกมึง ซัปโปโรราคาดีอยู่
03.モノローグ~こはるから湊太へ~
นี่มัน... พี่หล่อคะ โคฮารุมีอะไรจะบอก
*1,738 *1 Sora no Method [BD+DVD]: 2015/01/28
ไม่ใช่แนวตลาดเลยขายยากมั้ง อย่างบาฮาบุทว่าเมพๆยังขายได้แค่ 3 พันกว่าๆ
ไม่ตลาดแถมคู่แข่งสายเดียวกัน? นี้โหดๆเพียบด้วยวะ ไหนจะดีกรีชื่อเสียงอีก
คนเจอยูซึกิไป ดรอปกันเป็นแถบมากกว่า
ข่าวดี ยอดจองของอินฟินิท(รวมถึงเซทโคตรลิมิทของอินฟินิท) ไม่ได้รวมในยอดโอริคอน ดังนั้นก็บวกยอดไปอีกประมาณ 2-300
http://imgur.com/LUfTCWV
ปกแผ่น3 ยูซึกิที่รักของทุกคน
>>500 ปกโนเอลยังไม่ถึง 2 พัน ปกนี้จะเหลือหรอ
http://i.imgur.com/FK0SfRU.png
โนโนกะตอนโต ไปเป็น seiyuu
โนเอลนั่นปกแผ่น2 ยังไม่ขายเลย
คาราซองค์ออกแล้ว ฟังๆไป ชักติดเพลงพี่หล่อ เพิ่งเคยได้ยินเจ้าตัว(ไคโตะคุง)ร้องเพลงเหมือนกัน
ยอดขายcharasong จะเป็นไงมั่งว้า
พูดถึงยอดขายเกือบ 2 พันสำหรับค่ายใหม่ถือว่าดีแล้วล่ะมั้ง สินค้าอื่นนอกจากเมะก็ออกมาขายได้เรื่อยๆ
ใครๆก็ชอบโนเอลนี้ ได้รับความนิยมมากกก
เว็บนอกมีคนทำ 3D fanart โนเอล โหดมากกกกกกกกกก
http://www.cgchannel.com/2015/01/sketchfabs-models-of-the-month-january-2015/
ได้ยินว่าเป็นคนไทยทำอีกที เจ้าของที่นี้
https://www.facebook.com/XKungWork/photos/a.135881953168876.30778.135867303170341/761476300609435/?type=1&relevant_count=1
วะ คนไทยทำหรอกเรอะอันนี้
http://imgur.com/gQ5oomT
http://imgur.com/I6uG1UK
ปกradio(18ตอน สองแผ่นจบ)
ตอนแรกๆมาดีนะ แต่จนจบกูให้ระดับเดียวกับ glasslip หว่ะ
>>348
"---อ้าว?"
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าฉันตอนลืมตาตื่นขึ้นมา คือนาฬิกาปลุก
เจ้าสิ่งที่มีรูปร่างหน้าตาชวนให้นึกถึงเพนกวินนั้น สบตากับฉันอย่างจริงจัง จับจ้องมองกันอยู่หลายวินาที
"---เช้าแล้วเหรอ?"
อาการเวียนหัวยังไม่จางหายไปดีนัก ทั้งที่ตื่นแล้วแต่ครึ่งหนึ่งกลับยังรู้สึกเหมือนยังนอนอยู่
ขนาดเสียงงัวเงียของตัวเอง ยังรู้สึกเหมือนว่าเป็นเสียงใครที่ไหนก็ไม่รู้
นาฬิกาปลุกที่อยู่ใกล้ตัวตอนที่ตื่นขึ้นมา
ถ้ามีแค่สิ่งนั้นสิ่งเดียวก็คงเป็นภาพปกติทั่วไปในยามเช้าอยู่หรอก
นอกหน้าต่างที่มืดสนิท และสภาพตัวเองที่ไม่ได้นอนอยู่บนเตียง
ดูท่าตัวฉันที่นั่งอยู่บนพื้นไม้ จะฟุบหลับไปโดยใช้ลังกระดาษแทนหมอน
ขณะที่ขยี้คลองสายตาอันสะลึมสะลืออยู่นั้น สติมันก็เริ่มกระจ่างขึ้นมาอีกขั้น
ร่างกายเองก็ปวดตรงนั้นตรงนี้ไปหมด เพราะนอนผิดท่า
"เผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะนี่......"
ฉันฝันไป
เรื่องนั้นน่ะก็แน่อยู่แล้วล่ะ แต่ว่าไปแล้ว ฉันฝันเห็นอะไรกันนะ
ฝันเห็นเรื่องสนุก หรือว่าฝันเห็นเรื่องเศร้าใจ จนแล้วจนรอดก็นึกไม่ออกเลย
ทว่าหัวใจนั้นกลับเต้นรัว
ทั้งที่จำได้แท้ๆว่าฝันไป แต่กลับนึกไม่ออกเสียแล้วว่าเป็นเรื่องอะไร
และอีกไม่นานก็คงจะลืมเสียด้วยซ้ำว่าได้ฝันไป
ขึ้นชื่อว่าความฝัน มันก็เป็นเช่นนั้นเอง
แล้วความจริงอันน่าหงุดหงิดที่ไม่อยากจะยอมรับนักก็เข้ามาแทนที่
ที่นี่คือห้องของฉันเอง
ลังกระดาษมากมายวางอยู่เรียงราย บนพื้นก็เต็มไปด้วยกองหนังสือและกล่องเก็บเสื้อผ้าที่พับไว้แล้ว
ฉันคว้านาฬิกาปลุกขึ้นมาดูโดยอัตโนมัติ
"โธ่ เวลาป่านนี้แล้วเหรอเนี่ย!"
สองมือของฉันจับสิ่งที่หน้าตาละม้ายคล้ายเพนกวินเอาไว้ สายตาจับจ้องอยู่บนเข็มนาฬิกาบอกเวลาบนหน้าปัดด้วยความตกใจ
เวลาขณะนี้ไม่ใช่ตอนเช้า แต่เป็นกลางคืนของปิดเทอมฤดูร้อน แถมยังใกล้จะเปลี่ยนวันแล้วอีกตะหาก
ที่จริงต้องเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วแท้ๆ
แต่เท่าที่ดูสภาพห้องตอนนี้ ดูท่าจะยัง
"เผลอหลับไปได้ยังไงเนี่ย....."
ฉันมองเจ้าเพนกวินด้วยความเหนื่อยใจอยู่คนเดียว
ไม่ใช่แค่ยังไม่ทันได้ทำอะไร พอจะเริ่มจัดการภาระตัวเองที่ค้างไว้ต่อเท่านั้นแหละ-----
"โนโนก่า--- พ่อขอเวลาเดี๋ยวได้เปล่า?"
ฉันได้ยินเสียงคุณพ่อเรียกชื่อตัวเอง ดังมาจากข้างนอกห้อง จากทางห้องรับแขก
"มีอะไรเหรอคะ?"
"อ่า ก็นั่นแหละ"
ฉันตอบกลับเสียงคุณพ่อที่ยังคงสบายๆเหมือนอย่างเคยไป พลางลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ
คุณพ่อยังคงพูดต่อด้วยน้ำเสียงเดิมไม่ผิดเพี้ยน
"เป็นเรื่องแล้วสิเนี่ย"
"เอ๋?"
พอหมดคำนั้น ก็มีเสียงที่ไม่คาดคิดหลุดรอดออกมา
แล้วนาฬิกาปลุกหน้าตาออกแนวเพนกวินที่ถืออยู่ ก็ร่วงหลุดจากมือลงไปในลังกระดาษ
นาฬิกาเรือนนี้ เป็นของขวัญวันเกิดที่คุณพ่อซื้อให้ตอนที่เข้าม.ต้น
ที่จริงแล้วฉันน่ะ อยากจะได้เรือนที่มันน่ารักกว่านี้หน่อยแท้ๆ แต่คุณพ่อน่ะพอเลิกงานก็ดันซื้อกลับมาให้เองตามใจชอบ
ช่วงนั้นฉันถึงกับแอบใส่ของที่พ่อไม่ชอบลงในกับข้าวทุกครั้งเมื่อมีโอกาส แค่เพราะจะประท้วง
แต่ในระหว่างที่ต้องใช้นาฬิกาปลุกนั่นทุกเช้าเพราะความจำเป็น ฉันก็พลอยชินกับการที่มีมันอยู่ในห้องไปด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ถึงแม้ว่าฉันไม่มีทางพูดต่อหน้าคุณพ่อแน่ๆว่าชอบมัน แต่มันก็เป็นหนึ่งในของสำคัญของฉันเลยล่ะ
"โนโนก่า--- งานเข้าของจริงแล้วล่ะ"
เสียงเรียกดังขึ้นอีกรอบ
ฉันถอนหายใจเบาๆแต่ยาวนานให้กับเสียงเรียกของคุณพ่อที่ไร้ซึ่งความกดดันและความกระวนกระวาย แล้วถึงออกจากห้องตัวเอง
อีกไม่นานก็ต้องจากห้องนี้ไปแล้วเหมือนกัน
ฉันมองดูห้องที่กลายสภาพเป็นสถานที่อันจืดชืดไร้รสนิยม เพื่อรอการแยกชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่อยู่ครู่หนึ่ง
ฉัน----- โคมิยะ โนโนกะ อาศัยอยู่ที่นี่มาตลอด
ทั้งที่เป็นห้องที่อยู่มาตั้งหลายปีแล้วแท้ๆ แต่เมื่อไหร่กันนะ ที่มันกลับเปลี่ยนไปเป็นภาพที่ไม่คุ้นตา
>>516
ความหมายของคำว่าเป็นเรื่องที่คุณพ่อพูดถึงนั้น พอออกมาที่ทางเดินก็เข้าใจได้ในทันที
ความผิดปกติที่รู้สึกได้ในทันทีก่อนจะเข้าไปยังห้องรับแขกตรงทางเดิน ต้นทางของมันนั้นมาจากห้องครัวที่อยู่ติดกัน
อธิบายได้ด้วยคำเดียวคือ เหม็นไหม้
"คุณพ่อ ทำอะไรอยู่น่ะ!"
คุณพ่อในชุดผ้ากันเปื้อนกำลังยืนถือกระทะอยู่หน้าเตาแก๊ส
มีควันสีขาวลอยโขมงขึ้นมาจากกระทะ
"ว่าจะทำมื้อดึกสักหน่อย ละสายตาไปนิดเดียวเอง"
นิดเดียวเอง ที่ไหนกันล่ะ
ฉันเดินเข้าไปในครัวอย่างหัวเสีย แล้วยึดกระทะในมือคุณพ่อที่เอาแต่ยืนนิ่งอยู่หน้าเตาอยู่อย่างนั้นมาสำรวจดู
เจ้าสิ่งที่อยู่ในกระทะนั้นอยู่ในสภาพอันน่าสะเทือนขวัญยิ่งกว่าที่คาดการณ์ไว้เสียอีก
"ก้อนดำๆนี่มันอะไรคะ....."
ก่อนอื่นต้องตรวจสอบข้อมูลจากผู้อยู่ในเหตุการณ์
"ไข่ดาวน่ะ กะว่าจะเอาสุกระดับมีเดี้ยม"
ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่ฉันก็ยังนึกว่านี่มันเวลดันอยู่ดี
ไม่สิ จะเรียกว่าเวลดันก็ไม่ถูก แต่นั่นมันไม่ใช่ประเด็น
"นี่ทอดท่าไหนถึงออกมาเป็นแบบนี้ได้โดยไม่รู้ตัวกันคะ!"
"นั่นสิ ทำได้ยังไงกันนะ"
".....ถามก่อนนะคะ นี่ไม่ได้จงใจทำใช่มั้ย?"
"ไม่ได้จงใจจริงๆ"
ฉันถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ เมื่อลองโยกกระทะดูแล้วพบว่าวัตถุสีดำที่เคยเป็นไข่ดาวที่แน่นิ่งไม่ไหวติงอยู่บนนั้นได้กลายเป็นหนึ่งเดียวกับเทฟลอนไปโดยสมบูรณ์
ขนาดที่ว่าพลิกกระทะแล้วยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พอลองใช้ตะหลิวแซะดูก็เจอกับความแข็งระดับที่ไม่รู้สึกว่ามันเป็นไข่ดาวอีกแล้ว
ฉันมองคุณพ่ออย่างหมดความอดทน
"แล้วนี่จะให้ทำยังไงคะ?"
"ก็ถึงได้เรียกโนโนกะมาดูไง"
"เรียกไปก็เท่านั้นล่ะค่ะ ยังไงก็ต้องซื้อใหม่มาเปลี่ยน......"
พอจ้องดูคุณพ่อที่ดูท่าจะสำนึกผิด ก็ไม่พบท่าทีตอบสนองที่แสดงถึงความพยายามอันน่าเวทนาอันแฝงไว้ซึ่งการแข็งขืนต่อลูกสาวตัวเองเลยแม้แต่น้อย
เจ้าตัวเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองแสดงอาการแบบนั้นออกมาแม้แต่นิดเหมือนกัน
"กระทะเนี่ย......ว่าไปแล้ว ที่บ้านทางโน้นยังมีอยู่รึเปล่านะ"
"อันนั้นมัน ของกี่ปีมาแล้วล่ะคะ? ตอนนี้จะยังใช้ได้อยู่รึเปล่าก็ไม่รู้"
"ไม่เป็นไรหรอกน่า ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตซะหน่อย คิดอีกแง่ก็ดีออกไม่ใช่รึไง ข้าวของที่ต้องขนไปด้วยจะได้ลดลง"
คุณพ่อมองฉันพลางเอามือกุมคางเหมือนเพิ่งคิดอะไรดีๆออก
เสร็จแล้วก็ชูนิ้วโป้งทำท่าแข็งขัน
ปกติก็ไม่ค่อยได้ทำงานบ้านแท้ๆ ทำไมจู่ๆถึงได้คึกอะไรไม่เข้าท่าลุกมาทำเครื่องครัวให้พังเล่นกัน......
ทำไมถึงเลือกทำไข่ดาวเป็นอาหารค่ำ......
มีอะไรอยากจะพูดตั้งหลายอย่าง แต่มีปัญหาหนึ่งที่เร่งด่วนยิ่งกว่าเรื่องไหนๆอยู่
"คุณพ่อคะ แพ็คของเรียบร้อยแล้วเหรอ? พรุ่งนี้แล้วนะ ถ้าพรุ่งนี้เช้ายังไม่ได้ออกจากโตเกียวจะลำบากเอาไม่ใช่เหรอคะ?"
ใช่แล้วล่ะ อีกไม่นานฉันกับพ่อก็จะย้ายออกจากแมนชั่นนี่แล้ว
เพราะฉะนั้น พรุ่งนี้-----ไม่สิ ขึ้นวันใหม่แล้วก็ต้องเป็นวันนี้ตอนเช้า พวกเราต้องเก็บข้าวของเตรียมย้ายเสร็จหมดแล้ว
ฝั่งฉันเองยังเก็บของไม่เสร็จก็จริง แต่เป็นห่วงทางฝั่งคุณพ่อมากกว่า
คุณพ่อที่ไม่เคยจะรู้เรื่องเลยว่าลูกสาวเป็นห่วงแค่ไหน
"ยังเหลืออีกตั้งคืนนึงน่า ไม่เป็นไรหรอก"
"จะทำตัวเอ้อระเหยเกินไปแล้วนะคะ"
"นั่นน่ะข้อดีของพ่อเลยนา"
ไม่ได้ชมซะหน่อย
ฉันเมินคุณพ่อที่ยกมือเกาหัวด้วยความเขินแล้วเอากระทะไปวางไว้ในอ่างล้างจาน
จากนั้นก็เปิดก๊อกน้ำ
เหตุผลที่ต้องย้ายออก เกี่ยวกับเรื่องงานของคุณพ่อ ก็เลยไม่รู้รายละเอียดอะไรมากนัก
ที่ทำงานใหม่ของคุณพ่อ อยู่ไกลขนาดที่ไม่สามารถเดินทางไปกลับจากโตเกียวได้
ดีที่ใกล้ๆ ยังมีบ้านที่ครอบครัวเราเคยอาศัยอยู่สมัยที่ฉันยังเป็นเด็ก เลยกลายเป็นว่าได้กลับไปยังบ้านเก่าที่จากมากว่าเจ็ดปี
ฉันเองก็จะย้ายตามคุณพ่อไปด้วย
ปล่อยคุณพ่อให้ไปอยู่คนเดียวคงไม่ไหวแน่...... ส่วนฉันเองถ้าจะอยู่ทางนี้ต่อคนเดียวก็คงลำบากเหมือนกัน
เพราะฉะนั้น ฉันเลยตัดสินใจว่าจะไปจากโตเกียวที่อยู่มาตั้งแต่ประถมจนขึ้นม.ต้น
ไปสู่สภาพแวดล้อมใหม่ โรงเรียนใหม่ ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่
-----ที่เมืองใหม่
>>517
พอคิดถึงเรื่องนั้นทีไร จนตอนนี้ใจมันก็ยังรู้สึกเจ็บแปลบอยู่ตรงไหนสักแห่งอยู่ดี
การที่ต้องแยกจากเพื่อนร่วมชั้นมันก็ต้องรู้สึกเหงานั่นแหละ แต่มันยังมีความรู้สึกอีกอย่างที่ต่างไปจากนั้นคอยทรมานฉันอยู่
ตอนที่คิดว่ากำลังเก็บของในห้องตัวเองอยู่ดีๆแต่กลับเผลอหลับไปนั่นก็ด้วย ถึงจะจำอะไรไม่ได้ก็จริง แต่ความฝันที่กวนใจนั่น
ทั้งหมดมันต้องมีสาเหตุมาจากเมืองนั้นแน่ๆ
คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
"----โนโนกะ? เป็นอะไรรึเปล่า?"
ฉันได้ยินเสียงคุณพ่อกับเสียงน้ำไหล
คุณพ่อมาแอบมองหน้าฉันอยู่ข้างๆตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
"เอ๋......?"
ฉันเผลออุทานออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัวเพราะมัวแต่คิดอะไรๆอยู่
โธ่ อุตส่าห์ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่กังวลเรื่องย้ายบ้าน รู้ทั้งรู้อยู่แล้วว่าคิดมากไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา
ก็สำหรับตัวฉันในตอนนี้น่ะ เรื่องเมืองนั่น.....
"ขอโทษนะ"
คุณพ่อที่เข้ามายืนตรงอ่างล้างจานแทนฉันพูดออกมา
"เรื่องอะไรคะ?"
"ขอโทษนะที่เรียก ที่จริงเรื่องนี้พ่อต้องเป็นคนรับผิดชอบเก็บกวาดเองแท้ๆ"
".......อ้อ เรื่องกระทะ"
"แต่เมื่อกี้เห็นท่าทางแปลกๆไป ไม่เป็นอะไรแน่นะ?"
ถึงจะดูเหม่อๆไปหน่อย แต่ระหว่างที่เป็นห่วงฉันที่ดูท่าทางไม่ค่อยสบายใจอยู่ คุณพ่อก็เอากระทะไปล้างน้ำ
"......อื้ม ไม่เป็นไร หนูยังเก็บของไม่เสร็จ ขอตัวกลับห้องก่อนนะคะ"
"อ่า พยายามเข้าล่ะ ที่เหลือจากนี้เดี๋ยวพ่อจัดการเองได้"
ฉันที่กำลังจะกลับห้อง สะกิดใจกับคำพูดหนึ่งของพ่อ
"......ที่เหลือจากนี้?"
ถึงจะมีเสียงน้ำมากวน แต่ฉันก็ได้ยินอย่างนั้นแน่ๆ
"ก็มื้อค่ำไงล่ะ"
"อย่าบอกนะคะว่า จะออกตอนเช้าอยู่แล้วแต่ยังไม่ทำอะไรเลย?"
"ก็พวกของใหญ่ๆทั้งหลายส่งไปก่อนหมดแล้วนี่นา ที่เหลือจะทำอะไรก็ทำไปไง"
"ทำอะไรก็ทำไปนี่คือทำยังไงคะ? นี่ยังไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยใช่มั้ย?"
"ก็อย่างเช่นเขียนชื่อพ่อบนกล่อง จะได้รู้ง่ายๆอะไรแบบนั้น"
ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย
"เดี๋ยวหนูเก็บของเสร็จแล้วจะรีบมาช่วยนะคะ!"
ก่อนอื่นต้องจัดการเรื่องตัวเองให้เรียบร้อยซะก่อน จะมาโทษตัวเองเรื่องที่เผลอหลับไปกลางทางเอาก็คราวนี้แหละ
พอฉันกำลังจะรีบกลับห้อง
"โนโนกะ"
คุณพ่อที่กำลังขัดกระทะ พูดคำหนึ่งกับฉันที่หันหลังให้ด้วยน้ำเสียงเหมือนถอนหายใจอยู่ในที
"พ่อขอโทษนะ"
มันเป็นคำพูดเดียวกันกับก่อนหน้านี้ เพียงแต่ที่ตามมาหลังจากนั้นเป็นคำพูดอื่นที่ต่างออกไป
"......ที่จู่ๆก็ต้องมาย้ายบ้านเอาตามสะดวกพ่อแบบนี้"
ฉันหยุดยืน แล้วหันกลับไปหาคุณพ่อ
"......ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ไม่ต้องใส่ใจหรอก เรื่องงานไม่ใช่เหรอคะ? ช่วยไม่ได้นี่นา"
ทั้งหมดนั่น คือใจจริงของฉัน
ฉันไม่โทษคุณพ่อเพราะเรื่องงานหรอก
>>518
แต่ว่า
"ถ้าโนโนกะว่าอย่างนั้น พ่อก็สบายใจ"
คุณพ่อมองหน้าฉัน อาการโล่งใจราวกับจะผุดขึ้นมาให้เห็นทางสีหน้า
"ก่อนเราจะย้ายมา ก็เคยอยู่ที่นั่นมาก่อน พ่อว่ามันคงไม่เลวร้ายอะไรนักหรอก"
เมืองนั้น
"......ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ ทีแรกเพื่อนๆเขาก็เป็นห่วงอยู่หรอก แต่ถึงจะเปลี่ยนไปบ้าง ก็ไม่ได้ต่างจากเมืองปกติทั่วไปใช่ไหมล่ะคะ?"
ที่นั่น เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะสถานที่ชมทิวทัศน์ของสิ่งหนึ่ง
"อา นั่นสินะ ตอนนั้นโนโนกะยังเล็กคงจำไม่ได้ ที่จริงก็แค่ย้ายกลับไปบ้านที่เคยอยู่สมัยก่อนเท่านั้นเอง"
"อื้ม ใช่แล้วล่ะ ก็แค่ย้ายกลับไป ถึงหน้าหนาวจะมีเรื่องหิมะที่น่าเป็นห่วง แต่เดี๋ยวก็คงชินจนเลิกใส่ใจไปเอง เพราะงั้นไม่ต้องกังวลหรอก"
คราวนี้ ฉันโกหกไปนิดหน่อย
ตั้งแต่ตอนที่ตัดสินใจว่าจะกลับไปที่เมืองแห่งนั้น ฉันก็เก็บเอาความไม่สบายใจที่แม้แต่ตัวเองก็ไม่รู้สาเหตุไว้กับตัวตลอด
เมืองที่เคยอาศัยอยู่จนกระทั่งเจ็ดปีก่อน
และตัวตนของ"สิ่งหนึ่ง" ที่ไม่ได้อยู่ในช่วงเวลานั้น
สิ่งนั้นที่ลอยอยู่เหนือทะเลสาบ
ฉันจำเรื่องจากสมัยที่ตัวเองยังเด็กแทบไม่ได้เลย
ทั้งที่เป็นแบบนั้น ฉันกลับรู้สึกกระวนกระวายมาตลอด ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ยินเรื่องย้ายบ้าน
เหมือนกับเด็กน้อยที่ร้องไห้ไม่หยุดเพราะสูญเสียสิ่งสำคัญไป แต่กลับนึกไม่ออกเลยว่าสิ่งสำคัญที่ว่าคืออะไร----
และจากนั้นก็เริ่มนึกไม่ออกว่าตัวเองเคยสูญเสียสิ่งสำคัญไป----
ยิ่งกระวนกระวาย คำตอบนั้นก็ยิ่งห่างไกลออกไปเรื่อยๆ
"----คุณพ่อเองก็เถอะ เลิกวุ่นวายเรื่องกระทะแล้วเริ่มเก็บของได้แล้ว เดี๋ยวต้องขับรถอีกนะ"
"นั่นสินะ แฟรี่คงรอไม่ไหวแล้วแน่ๆ"
"......แฟรี่?"
มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
----รอก่อนนะ!
สิ่งนั้น ออกมาจากก้นบึ้งของความทรงจำ
สิ่งนั้น คือเสียงของเด็กน้อย
สิ่งนั้น คือตัวฉันงั้นเหรอ?
"โนโนกะ คำว่าแฟรี่มันทำไมเหรอ?"
"เอ๋? อื้ม นั่นสิ......"
ใช่แล้วล่ะ คำที่ไม่มีความหมายอะไร
ก็แค่เล่นคำ {เข้าใจว่าเล่นกับフライパンที่แปลว่ากระทะ}
มันก็เท่านั้นเอง
"หนู...... ขอกลับห้องก่อนนะคะ"
ฉันพูดแค่นั้น จากนั้นก็หันหลังให้คุณพ่อที่ยังติดใจสงสัยอยู่ แล้วเดินกลับออกไปที่ทางเดิน
เหมือนกับว่าหนีอยู่เลย
หนี?
หนีจากอะไรล่ะ?
สิ่งที่ไม่รู้ตัวตน ถ้าจะให้ยกตัวอย่างก็คงเป็นพวกความรู้สึกผิด ที่อาจจะปรากฏขึ้นมาจากก้นบึ้งของความทรงจำตัวเอง
แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงชั่ววูบ
ความรู้สึกที่ผุดขึ้นมา ค่อยๆละลายหายไปเหมือนกับหิมะ
มันเล็กน้อย และเปราะบาง เกินกว่าจะคว้าเอาไว้
พอกลับมาถึงห้องตัวเอง แม้แต่เรื่องที่เคยมีความรู้สึกแบบนั้นอยู่ ก็ไม่รู้เสียแล้ว
สิ่งที่เห็นเมื่อกี้----หรือที่อาจจะเห็น ทำยังไงก็นึกไม่ออกแล้วว่าเรื่องอะไร เหมือนกับความฝัน
ทั้งที่เป็นอย่างนั้นแท้ๆ----- ความไม่สบายใจมันกลับเอ่อขึ้นมา เกิดขึ้นมาทันทีที่ความรู้สึกนั้นหายไป
"ต้องรีบแล้ว......"
ฉันพูดกับตัวเองเชิงบังคับ แล้วนั่งลงตรงหน้าลังกระดาษ
ต่อให้เป็นเรื่องไม่สบายใจแบบไหน ถ้าลืมไปซะได้มันก็จะดีเอง
แต่เรื่องที่จะให้ลืมสิ่งที่ลืมไปซะ มันเป็นคนละเรื่องกัน
ฉันทยอยแพ็คของที่อยู่รายล้อมตัวลงกล่อง ราวกับจะขจัดความไม่สบายใจที่ตามติดนั้นออกไป
เสื้อผ้า ของใช้ ค่อยๆทยอยลงกล่องไปทีละอย่าง อัดมันลงไปในกล่อง ปิดฝา แล้วปิดด้วยเทปกาว
คลี่กล่องใหม่ออกมา แล้วทำแบบเดิมซ้ำไปเรื่อยๆ
ระหว่างที่ทำอย่างนั้นอยู่ ก็รู้สึกได้ว่าความไม่สบายใจที่ไม่รู้ที่มานั้นได้หายไปพร้อมกับข้าวของในห้องเสียแล้ว
"......ค่อยยังชั่ว แบบนี้อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้วล่ะ"
ถึงเวลาจะล่วงเข้าวันใหม่ไปแล้ว แต่ก็ยังพอมีเวลาอยู่กว่าจะถึงเช้า ต่อไปก็ต้องไปช่วยทางคุณพ่อเก็บของ
ฉันพักหายใจครู่หนึ่งแล้วเหยียดแขนสองข้างขึ้นให้ร่างกายได้ยืดตัว
พอกวาดตามองรอบห้องอีกครั้ง นอกจากลังกระดาษที่ต้องใช้ย้ายของ ก็แทบไม่เหลืออะไรแล้ว
ที่แห่งนั้น ไม่ใช่ห้องที่ฉันเคยรู้จักอีกแล้ว
>>519
ฉันหยิบโทรศัพท์มือถือที่ชาร์จไฟอยู่ขึ้นมาเช็คเมล์
มีเมลใหม่จากเพื่อนร่วมชั้นที่รู้เรื่องที่วันนี้เป็นวันย้ายบ้าน
พอเปิดอ่าน ----ย้ายไปทางโน้นแล้วก็อย่าลืมดูแลตัวเองดีๆนะ แล้วว่างๆก็แวะมาเที่ยวโตเกียวบ้างล่ะ----
ที่เหลือเป็นข้อความที่บ่งบอกถึงความรู้สึกดีๆ
นอกนั้น ก็มีเนื้อหาแสดงความเป็นห่วงที่เกี่ยวกับเรื่องเมืองปลายทางที่ย้ายไป
"นั่นสินะ...... เป็นอย่างนั้นจริงๆด้วย"
ฉันพึมพำราวกับจะตอบรับกับข้อความในเมล
ความรู้สึกไม่สบายใจที่ไร้ที่มาที่รู้สึกได้ตอนคุยกับคุณพ่อเมื่อกี้ ต้องมาจากเมืองปลายทางที่ต่างจากเมืองอื่นทั่วไปแน่ๆ
ไม่ผิดแน่ๆ
จะรู้สึกไม่สบายใจ ก็คงไม่แปลกหรอก
-----ก็เมืองนั้น
ชื่อของเมืองนั้นคือเมืองคิริยะโกะ
ถึงจะจำชื่อเมืองไม่ได้ แต่ก็ไม่มีใครที่ไม่รู้จักเมืองนี้
ก็เพราะที่นั่น เป็นเมืองแห่งจานบิน ที่มีจานบินลอยนิ่งอยู่เหนือทะเลสาบนี่นา
--------- ---
เมืองคิริยะโกะ
เมืองที่เป็นที่ตั้งของทะเลสาบขนาดใหญ่ ทะเลสาบคิริยะ
เมืองที่ฉันเคยอาศัยอยู่ สมัยที่ยังเป็นเด็ก
ย้อนกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อน เมืองที่มีชื่อเสียงในด้านทะเลสาบและบ่อน้ำพุร้อนแห่งนั้น จู่ๆก็มีเหตุที่ทำให้ทิวทัศน์เปลี่ยนไปราวพลิกฝ่ามือ
ในตอนนั้น เรื่องที่ว่าเหนือท้องฟ้าของเมือง มีบางสิ่งปรากฏขึ้นมา กลายเป็นข่าวใหญ่โต
สิ่งนั้นก็คือจานบินขนาดยักษ์ ที่มองเห็นได้จากทุกหนแห่งในเมือง
จากที่ได้ฟังมาจากคุณพ่อ จานบินที่ปรากฏขึ้นหลังจากที่พวกเราย้ายมาโตเกียวนั้น เจ็ดปีผ่านไปจนถึงตอนนี้ ก็ยังคงลอยอยู่กับที่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ฉันเอง ก็ยังไม่เคยเห็นของจริง แต่ดูจากรูปถ่ายแล้ว อย่างกับว่ามันแค่ลอยอยู่เฉยๆแล้วเฝ้ามองลงมายังเมืองคิริยะโกะจากบนนั้น
แค่ลอยอยู่เฉยๆ เท่านั้นเอง
ตอนแรกที่จานบินปรากฏขึ้นมา กลายเป็นข่าวใหญ่ก็จริงอยู่ แต่จากการที่มันไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆเกิดขึ้นให้เห็นเลย ข่าวก็ค่อยๆซาลงไปในที่สุด
เวลาล่วงผ่านไปหลายเดือนหลายปีเข้า ในที่สุดคิริยะโกะก็กลายเป็นที่รู้จักในฐานะจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงด้านทะเลสาบ บ่อน้ำพุร้อน และจานบินไปแทน
แต่กระนั้น ก็อย่างที่ในเมลเป็นห่วง เรื่องข่าวลือทั้งหลายของเมืองจานบิน จนบัดนี้ก็ยังมีให้ได้ยินอยู่เนืองๆ
เรื่องน่าสงสัยเกี่ยวกับเป้าหมายและตัวตนที่แท้จริงของจานบินที่ยังปิดเงียบ
แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนที่ลือกัน ก็เป็นแค่เรื่องที่คาดเดากันไปเอง ไม่ได้มีความน่าเชื่อถืออะไรเลย
ทั้งเรื่องตัวตนของจานบิน และเรื่องเป้าหมาย ไม่มีใครสักคนหรอกที่รู้จริงๆ
จานบินน่ะ จนถึงตอนนี้ อาจจะแค่ข้ามโพ้นฟ้าโพ้นทะเลมาเพื่อลอยอยู่เฉยๆก็ได้
ระหว่างที่กำลังใจลอยคิดไปถึงเรื่องแบบนั้น ตาฉันก็ยังคงจ้องอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์
อีกเดี๋ยว ก็จะได้เห็นจานบินของจริงแล้ว
แล้วจากนั้น ก็จะได้ใช้ชีวิตอยู่กับจานบินไปอีกนานเท่านาน
เมืองที่มีจานบินอยู่คู่กับท้องฟ้า
>>520
ฉันใช้โทรศัพท์มือถือหาข้อมูลเรื่องเมืองคิริยะโกะดูไปเรื่อยเปื่อย
รูปจากเมืองคิริยะโกะมีอยู่เต็มไปหมด ไม่ได้มีแค่รูปถ่ายจานบิน แม้แต่รูปทิวทัศน์ของเมืองแทบทั้งหมดก็มีจานบินเป็นฉากหลัง
ในบรรดารูปพวกนั้น อาจจะมีสถานที่ที่ฉันเคยไปสมัยยังเป็นเด็กอยู่บ้างก็ได้ แต่ที่เห็นแล้วจำได้เลยนั้น ไม่มีอยู่เลย
เมืองคิริยะโกะนั้นขึ้นชื่อเรื่องทัศนียภาพที่สวยงามอยู่เหมือนกัน รอบๆทะเลสาบก็เลยมีภาพของคนที่มาคอยถ่ายรูปจานบินติดมาในฉากหลังด้วย
ในกลุ่มนั้น มีเด็กผู้หญิงอายุรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน อยู่ในท่าตั้งกล้องเล็งจานบินที่อยู่ข้ามทะเลสาบไป ดูท่าคงจะชอบจานบินน่าดู
"มีของฝากจานบินด้วยแฮะ......"
ในรายการแนะนำเมือง มีร้านที่ขึ้นป้ายว่า"ตำหนักจานบิน"อยู่ด้วย พอลองดูภาพด้านในร้าน ก็เห็นของฝากมากมายหลายแบบที่ดีไซน์จากจานบินวางเรียงกันอยู่
เด็กผู้หญิงที่สวมผ้ากันเปื้อนที่น่าจะเป็นพนักงานของร้าน ถือกล่องที่เขียนว่ามันจูจานบินอยู่ หน้าตาดูยิ้มแย้มแจ่มใส
ถ้าจะซื้อของฝากไปให้เพื่อนๆที่โตเกียว มาซื้อร้านนี้น่าจะดี ทุกคนคงจะชอบแน่ๆ
ขณะที่ฉันยังคิดวนเวียนอยู่กับเรื่องนั้นราวกับจะหนีจากความไม่สบายใจที่ไม่ว่ายังไงก็ต้องเผชิญกับมัน ฉันก็ยังทำได้แค่ปล่อยให้เวลามันผ่านไป
แล้วในระหว่างที่กำลังจะละสายตาจากแบตเตอรี่ของโทรศัพท์มือถือที่คิดว่าชาร์จไว้จนใกล้เต็ม ฉันก็พบกับคลิปวิดีโออันหนึ่งที่มีบรรยากาศแตกต่างจากที่แล้วมา
"......ไม่เอาจานบิน?"
ชื่อคลิปที่ติดมาเขียนว่าอย่างนั้น
พอลองกดเล่นดู ก็พบว่าเป็นคลิปที่ถ่ายมาจากหน้าร้านของฝากที่เห็นเมื่อกี้
ท่ามกลางนักท่องเที่ยวและคนแถวนั้นที่เดินผ่านไปมา มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งถือป้ายที่เขียนตัวอักษรตามชื่อวิดีโอยืนอยู่คนเดียว
เด็กผู้หญิงหยิบโทรโข่งออกมา ทำเอาคนที่เดินผ่านไปมาต้องหยุดดูด้วยความสงสัย
"มาไล่จานบินออกไปจากเมืองของพวกเรากันเถอะ! ถ้าทุกคนช่วยกันล่ะก็ ต้องไล่จานบินออกไปจากเมืองคิริยะโกะได้แน่! ขอความร่วมมือด้วยค่ะ!"
เสียงที่ว่านั้นดังออกมาจากลำโพงเล็กๆของโทรศัพท์มือถือ
......มีชาวเมืองที่เกลียดจานบินอยู่ด้วย
แต่ว่า ตั้งแต่ดูมายังแทบไม่เห็นใครสนใจฟังที่เธอพูดเลย แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นก็ยังคงตะโกนผ่านโทรโข่งพร้อมกับโบกป้ายในมือต่อไป
จนแล้วจนรอด ก็ไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนหยุดยืนฟังสักคน
แล้วเด็กผู้หญิงก็เข้ามาเก็บกล้องที่ตั้งถ่ายไว้เอง
"อะไรกัน! ไม่มีใครยอมฟังกันบ้างเลยรึไง!"
เธอตบกล้องที่ไม่มีคนถ่ายด้วยความหงุดหงิดราวกับจะระเบิดอารมณ์ใส่ วิดีโอจบลงเพียงเท่านั้น
ก็คิดอยู่หรอกว่าไม่ไปยุ่งด้วยน่าจะดีกว่ารึเปล่า...... แต่พอเห็นเธอตั้งใจทำอะไรจริงจังก็เผลอยิ้มออกมา
คนที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับจานบินเลยอย่างฉัน คงจะไม่เข้าใจความคิดของเธอก็จริง
แต่ถ้าหากได้อาศัยอยู่ในเมืองเดียวกัน แล้วรู้จักกัน เราอาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้
เด็กผู้หญิงที่ทำงานที่ร้านของฝาก หรือคนที่ถ่ายรูปจานบินก็เหมือนกัน
"......อ๊ะ ตายจริง"
ฉันมองดูเวลาบนหน้าจอมือถือแล้วพึมพัมออกมาเหมือนถอนหายใจเบาๆ
พอมองดูนอกหน้าต่าง ก็สังเกตเห็นแสงสว่างจางๆจากท้องฟ้าไกลในความมืด
เช้าตรู่ของกลางฤดูร้อน ใกล้จะมาเยือนแล้ว
"ทางคุณพ่อ จะเป็นไงบ้างนะ"
ฉันต่อโทรศัพท์มือถือเข้ากับเครื่องชาร์จอีกครั้ง แล้วทิ้งห้องที่เปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าเดิมไว้เบื้องหลัง
ความไม่สบายใจที่มีต่อจานบินนั้น หายไปโดยอัตโนมัติระหว่างที่ดูรูปของเมืองคิริยะโกะ
แต่ความรู้สึกที่อยู่ลึกๆในหัวใจ ยังคงพร่ามัวเหมือนหมอกควันอยู่ในตัวฉันต่อไป
>>521
"คุณพ่อคะ จะผลัดกันก่อนมั้ย?"
ฉันแอบมองเข้าไปในห้องทำงาน ก็เห็นคุณพ่อที่กำลังล้วงมือเข้าไปในกล่องทำท่าสะดุ้ง หันกลับมาทางนี้พอดี
"อ-อะไรกัน โนโนกะเองหรอกเหรอ...... อย่าทำให้ตกใจสิ"
"จะมีใครอีกล่ะคะ? หนูแพ็คของเสร็จแล้ว ให้หนูช่วยนะ"
"ง-งั้นเหรอ ถ้างั้นพ่อฝากแพ็คของที่เหลือในห้องรับแขกให้ทีนะ"
"ห้องนี้ไม่ต้องแล้วเหรอ?"
"อ-เอ้อ ไม่มีปัญหา"
คุณพ่อเอาลังกระดาษไว้ข้างหลังแล้วโบกมือไปมาเหมือนปิดบังอะไรอยู่
"คุณพ่อคะ มันแปลกๆนะ มีอะไรรึเปล่า?"
ฉันเดินเข้าไปในห้องทำงาน และในขณะเดียวกันนั้นเอง
"คือที่จริง......"
คุณพ่อทำคอตกเหมือนจะขอโทษ
"ตอนที่กำลังเก็บของอยู่...... โดนบาดเข้าน่ะ แต่พ่อไม่อยากให้โนโนกะรู้"
"เอ๋......เป็นอะไรมากมั้ยคะ? มีแผลรึเปล่า?"
"อ่า ไม่เป็นไรแล้วล่ะ เพราะงั้นทางนี้ให้พ่อจัดการเองเถอะ"
"ยิ่งน่าเป็นห่วงใหญ่เลย"
ไหนจะพวกเครื่องใช้ในครัวที่ยังไม่เก็บอีก
"ถ้าไม่แบ่งงานกันทำจะไม่ทันเวลาออกรถเอานะ"
คุณพ่อพูดแบบไม่ดูตัวเองเลย แต่ก็ตามที่พูดนั่นแหละ จะอยู่คุยกันตรงนี้ต่อไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา
ฉันหันหลังกลับออกไป
"......งั้น หนูไปจัดการที่ห้องรับแขกก่อนนะคะ"
"เอ้อ โนโนกะ"
คุณพ่อเหลือบมองสิ่งที่อยู่ในลังกระดาษที่ตัวเองแอบไว้ข้างหลัง
"เจ็ดปีแล้วสินะ"
ก่อนที่จะมองฉันตรงๆ
"......ที่ย้ายมาโตเกียวเหรอคะ?"
ฉันตอบไปอย่างนั้น
คุณพ่อไม่ได้เอ่ยปากในทันที แต่กลับปล่อยให้ความเงียบเข้ามาคั่นแทนอยู่ครู่หนึ่ง
"นั่นสินะ ยังจำเรื่องสมัยที่อยู่คิริยะโกะไม่ได้เลยจริงๆสินะ? เรื่องบ้านที่เราเคยอยู่ก็ด้วย"
ฉันตอบไปตามตรง
"......อืม"
"งั้นรึ เอาเถอะ จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรหรอก ตอนนั้นโนโนกะยังเด็กอยู่นี่นา"
อาการเหมือนเสียดายอะไรสักอย่างของคุณพ่อแสดงออกมาทางหน้าตา สายตาก็ลดมองต่ำลงนิดหน่อย
ใช่แล้วล่ะ ตัวฉันสมัยเด็ก จำอะไรในช่วงนั้นไม่ได้เลย
คุณพ่อมองฉันอีกครั้ง ด้วยรอยยิ้มน้อยๆในแบบตัวเอง เหมือนเช่นเคย
"ถ้าหากว่าจำได้ล่ะก็นะ"
"......ทำไมเหรอคะ?"
"พอไปเห็นเมือง เห็นคิริยะโกะของจริง ได้กลับไปบ้านนั้น......ก็อาจจะนึกเรื่องอะไรเล็กๆน้อยๆออกบ้างก็ได้ ว่ามั้ย?"
"......นั่นสิคะ ต้องเป็นอย่างนั้นแน่"
ฉันพยักหน้ารับ
ด้วยสีหน้าที่บอกไม่ถูก
ฉันอยากนึกออกรึเปล่า?
จู่ๆก็ตั้งคำถามตัวเองด้วยคำพูดนั้น
ไม่มีคำตอบใดๆออกมา แม้ว่าจะรอนานสักเท่าใด
"ห้องที่โนโนกะเคยใช้ ก็ยังอยู่เหมือนเดิมเลยนา"
"งั้นเหรอคะ......"
"พวกเฟอร์นิเจอร์ก็-----"
"คุณพ่อคะ"
รู้ตัวอีกที ฉันก็ขัดจังหวะคุณพ่อไปซะแล้ว
"ไม่หิวแน่นะ? เห็นทำมื้อดึกล่มไป หาอะไรรองท้องก่อนสักหน่อยมั้ย?"
"ถ้าได้ก็ดีนะ"
"ยังพอมีของเหลืออยู่ จะทิ้งก็เสียดาย .......เดี๋ยวจะทำให้นะคะ รอก่อนนะ"
สิ่งนั้นคือเสียงที่ไม่รู้จัก
จากเบื้องลึกของความทรงจำที่ไม่รู้จัก
คำพูดสั้นๆของเด็กสาว คำสัญญา
------อื้ม! จะรอนะ!
เสียงที่ไม่รู้จัก คำพูดที่ไม่เข้าใจ
เพราะฉะนั้นจึงสื่อมาไม่ถึงตัวฉันในตอนนี้
คำพูดที่สื่อไปไม่ถึง ก็จะจมลงสู่ห้วงลึกของความทรงจำ-----
วันนี้ ฉันต้องจากที่นี่ไปแล้ว
และวันนี้ ฉันจะกลับไปสู่เมืองที่ตัวเองจากมากว่าเจ็ดปี
ลางสังหรณ์ที่ยังหาคำตอบให้มันไม่ได้จนตอนนี้
ก็ยังเฝ้ารอคำพูดเพียงคำเดียวมาเนิ่นนาน
"------กลับมาแล้ว"
/กราบ
กูว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้แยกซีรีส์ที่เนื้อหาแน่นสุดนับแต่ซาซามิเลย
/กราบอีกคน รักโม่ง อนิเมะที่หาเพื่อนคุยไม่ได้ในบอรดข้างนอก ก็ได้ที่โม่งเนี่ยแหละว่ะ ที่ทำให้รู้ข้อมูลละเอียดขนาดนี้
อ่านจบแล้วน่าจะติดใจที่นึง แต่ถ้ายังจำกันได้ คำตอบมันอยู่ในตอน1นะ
ยอดขายแผ่นเพลงคาราซองมันเท่าไหร่วะเนี่ย อันดับใน orion ไม่เห็นเจอเลย
อาทิตย์ลุ้นแผ่น 2 ปกโนเอล ขายวันที่ 20 ก.พ.
รอลุ้น sidestoryว่าของใครดีกว่า เห็นแต่การ์ตูนแถมเป็นชิโอเนะไปซื้อของกับโนเอล
「ใกล้แต่เหมือนไกล」
รุ่งอรุณที่มาเยือนหอดูดาว สำหรับเด็กสาวนั้น ไม่ว่าจะหมุนเวียนมากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ก็ยังเป็นช่วงเวลาอันแสนพิเศษอยู่เสมอ
ย้อนกลับไปในวันหนึ่งของฤดูหนาวเมื่อเจ็ดปีก่อน เด็กสาวได้พบกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง
เด็กผู้หญิงที่สูงพอๆกับเด็กสาวนั้น บอกกับเธอว่าตัวเองชื่อ---โนโนกะ
ตัวตนของเด็กสาวที่หอดูดาวนั้น สำหรับโนโนกะแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่เธอคาดคิดไว้ก่อนเลยว่าจะได้พบ
แล้วระหว่างที่ยังงงกับเด็กสาว แต่ก็ยังแลกเปลี่ยนคำพูดกันไปด้วยนั้น โนโนกะก็ได้เผยรอยยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
เด็กสาวและโนโนกะ คุยกันราวกับลืมเวลา
อากาศเริ่มหนาว ลมหายใจสีขาวเริ่มปะปนมาในถ้อยคำ
ในวันนั้น มีสิ่งเล็กๆสีขาวที่ร่วงหล่นลงมาสู่มือแล้วหายไปในเวลาไม่นาน สิ่งมหัศจรรย์จำนวนมากมายที่แม้จะเย็นเยียบแต่ก็งดงาม ตกลงมาจากฟ้า ย้อมทุกสิ่งในระยะสายตาให้กลายเป็นสีขาวโพลน
เด็กสาวได้รู้จากโนโนกะ ว่าสิ่งนั้นเรียกว่าหิมะ
เด็กสาวได้รู้จากโนโนกะ ว่าสุ้มเสียงชวนฟังที่ขับร้องจากปากของโนโนกะนั้น คือสิ่งที่เรียกว่าบทเพลง
ท่วงทำนองที่ทั้งสองร่วมกันขับร้อง ได้เปลี่ยนไปเป็นความทรงจำอันแสนพิเศษของเด็กสาว เป็นดังหิมะที่ตกสุมอยู่ในใจ
หิมะอันอบอุ่น
เด็กสาวรู้สึกได้ ว่าข้างในตัวเธอกำลังถูกเติมเต็ม
แต่ทว่า------
โนโนกะกลับหายไปต่อหน้าต่อตาเด็กสาว
เฝ้ารอจนเช้า ผ่านไปจนเช้าวันถัดมา โนโนกะก็ยังไม่กลับมา
หิมะค่อยๆหายไปทีละน้อย รอบหอดูดาวเริ่มถูกปกคลุมด้วยสีเขียวชอุ่ม แล้วสีเขียวก็เปลี่ยนไปเป็นสีอื่นอันสดใส จนเกล็ดหิมะเริ่มโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าอีกครั้ง
เด็กสาวก็ยังคงเฝ้ารออยู่ที่นี่อย่างโดดเดี่ยว
กี่ครั้งแล้วก็ไม่อาจนับได้ ที่ยามเช้ามาเยือน
วันคืนเดิมๆ ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
ช่วงเวลาที่มีแต่เด็กสาวเพียงผู้เดียว วนเวียนซ้ำไปมา
แต่ถึงอย่างนั้น รุ่งอรุณก็ยังเป็นช่วงเวลาแสนพิเศษสำหรับเด็กสาวอยู่ดี
----รอก่อนนะ! เดี๋ยวจะรีบกลับมา!
นั่นก็เพราะว่า สำหรับเด็กสาวที่เชื่อในคำพูดของเพื่อนคนสำคัญจากหัวใจ รุ่งอรุณที่มาเยือนนั้น หมายถึงเวลาที่ทั้งสองจะได้พบกันอีกครั้งได้ใกล้เข้ามาอีกนิด
และตามที่เด็กสาวเชื่อ โนโนกะจะต้องทวงสิ่งที่จะยอมเสียไปไม่ได้กลับคืนมาจากห้วงลึกของความทรงจำตัวเองได้สำเร็จด้วย
แล้วเด็กสาวตัวน้อยในตอนนี้ และเด็กผู้หญิงตัวน้อยในตอนนั้น จะข้ามผ่านเวลาเจ็ดปี กลับมาพบกันอีกครั้ง
เด็กผู้หญิงตัวน้อยคนนั้น จนตอนนี้ก็ยังคงจำชื่อของเด็กสาวตัวน้อยที่ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไปจากตอนนั้นได้
เด็กสาวคนนั้นเรียกตัวเองว่า
โนเอล----
「ใกล้แต่เหมือนไกล」
รุ่งอรุณที่มาเยือนหอดูดาว สำหรับเด็กสาวนั้น ไม่ว่าจะหมุนเวียนมากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ก็ยังเป็นช่วงเวลาอันแสนพิเศษอยู่เสมอ
ย้อนกลับไปในวันหนึ่งของฤดูหนาวเมื่อเจ็ดปีก่อน เด็กสาวได้พบกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง
เด็กผู้หญิงที่สูงพอๆกับเด็กสาวนั้น บอกกับเธอว่าตัวเองชื่อ---โนโนกะ
ตัวตนของเด็กสาวที่หอดูดาวนั้น สำหรับโนโนกะแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่เธอคาดคิดไว้ก่อนเลยว่าจะได้พบ
แล้วระหว่างที่ยังงงกับเด็กสาว แต่ก็ยังแลกเปลี่ยนคำพูดกันไปด้วยนั้น โนโนกะก็ได้เผยรอยยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
เด็กสาวและโนโนกะ คุยกันราวกับลืมเวลา
อากาศเริ่มหนาว ลมหายใจสีขาวเริ่มปะปนมาในถ้อยคำ
ในวันนั้น มีสิ่งเล็กๆสีขาวที่ร่วงหล่นลงมาสู่มือแล้วหายไปในเวลาไม่นาน สิ่งมหัศจรรย์จำนวนมากมายที่แม้จะเย็นเยียบแต่ก็งดงาม ตกลงมาจากฟ้า ย้อมทุกสิ่งในระยะสายตาให้กลายเป็นสีขาวโพลน
เด็กสาวได้รู้จากโนโนกะ ว่าสิ่งนั้นเรียกว่าหิมะ
เด็กสาวได้รู้จากโนโนกะ ว่าสุ้มเสียงชวนฟังที่ขับร้องจากปากของโนโนกะนั้น คือสิ่งที่เรียกว่าบทเพลง
ท่วงทำนองที่ทั้งสองร่วมกันขับร้อง ได้เปลี่ยนไปเป็นความทรงจำอันแสนพิเศษของเด็กสาว เป็นดังหิมะที่ตกสุมอยู่ในใจ
หิมะอันอบอุ่น
เด็กสาวรู้สึกได้ ว่าข้างในตัวเธอกำลังถูกเติมเต็ม
แต่ทว่า------
โนโนกะกลับหายไปต่อหน้าต่อตาเด็กสาว
เฝ้ารอจนเช้า ผ่านไปจนเช้าวันถัดมา โนโนกะก็ยังไม่กลับมา
>>531
หิมะค่อยๆหายไปทีละน้อย รอบหอดูดาวเริ่มถูกปกคลุมด้วยสีเขียวชอุ่ม แล้วสีเขียวก็เปลี่ยนไปเป็นสีอื่นอันสดใส จนเกล็ดหิมะเริ่มโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าอีกครั้ง
เด็กสาวก็ยังคงเฝ้ารออยู่ที่นี่อย่างโดดเดี่ยว
กี่ครั้งแล้วก็ไม่อาจนับได้ ที่ยามเช้ามาเยือน
วันคืนเดิมๆ ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
ช่วงเวลาที่มีแต่เด็กสาวเพียงผู้เดียว วนเวียนซ้ำไปมาครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่ถึงอย่างนั้น รุ่งอรุณก็ยังเป็นช่วงเวลาแสนพิเศษสำหรับเด็กสาวอยู่ดี
----รอก่อนนะ! เดี๋ยวจะรีบกลับมา!
นั่นก็เพราะว่า สำหรับเด็กสาวที่เชื่อในคำพูดของเพื่อนคนสำคัญจากหัวใจ รุ่งอรุณที่มาเยือนนั้น หมายถึงเวลาที่ทั้งสองจะได้พบกันอีกครั้งได้ใกล้เข้ามาอีกนิด
และตามที่เด็กสาวเชื่อ โนโนกะจะต้องทวงสิ่งที่จะยอมเสียไปไม่ได้กลับคืนมาจากห้วงลึกของความทรงจำตัวเองได้สำเร็จด้วย
แล้วเด็กสาวตัวน้อยในตอนนี้ และเด็กผู้หญิงตัวน้อยในตอนนั้น จะข้ามผ่านเวลาเจ็ดปี กลับมาพบกันอีกครั้ง
เด็กผู้หญิงตัวน้อยคนนั้น จนตอนนี้ก็ยังคงจำชื่อของเด็กสาวตัวน้อยที่ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไปจากตอนนั้นได้
เด็กสาวเรียกตัวเองว่า
โนเอล----
to be continued on BD vol.2 side story book
「ใกล้แต่เหมือนไกล」
รุ่งอรุณที่มาเยือนหอดูดาว สำหรับเด็กสาวนั้น ไม่ว่าจะหมุนเวียนมากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ก็ยังเป็นช่วงเวลาอันแสนพิเศษอยู่เสมอ
ย้อนกลับไปในวันหนึ่งของฤดูหนาวเมื่อเจ็ดปีก่อน เด็กสาวได้พบกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง
เด็กผู้หญิงที่สูงพอๆกับเด็กสาวนั้น บอกกับเธอว่าตัวเองชื่อ---โนโนกะ
ตัวตนของเด็กสาวที่หอดูดาวนั้น สำหรับโนโนกะแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่เธอคาดคิดไว้ก่อนเลยว่าจะได้พบ
แล้วระหว่างที่ยังงงกับเด็กสาว แต่ก็ยังแลกเปลี่ยนคำพูดกันไปด้วยนั้น โนโนกะก็ได้เผยรอยยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
เด็กสาวและโนโนกะ คุยกันราวกับลืมเวลา
อากาศเริ่มหนาว ลมหายใจสีขาวเริ่มปะปนมาในถ้อยคำ
ในวันนั้น มีสิ่งเล็กๆสีขาวที่ร่วงหล่นลงมาสู่มือแล้วหายไปในเวลาไม่นาน สิ่งมหัศจรรย์จำนวนมากมายที่แม้จะเย็นเยียบแต่ก็งดงาม ตกลงมาจากฟ้า ย้อมทุกสิ่งในระยะสายตาให้กลายเป็นสีขาวโพลน
เด็กสาวได้รู้จากโนโนกะ ว่าสิ่งนั้นเรียกว่าหิมะ
เด็กสาวได้รู้จากโนโนกะ ว่าสุ้มเสียงชวนฟังที่ขับร้องจากปากของโนโนกะนั้น คือสิ่งที่เรียกว่าบทเพลง
ท่วงทำนองที่ทั้งสองร่วมกันขับร้อง ได้เปลี่ยนไปเป็นความทรงจำอันแสนพิเศษของเด็กสาว เป็นดังหิมะที่ตกสุมอยู่ในใจ
หิมะอันอบอุ่น
เด็กสาวรู้สึกได้ ว่าข้างในตัวเธอกำลังถูกเติมเต็ม
แต่ทว่า------
โนโนกะกลับหายไปต่อหน้าต่อตาเด็กสาว
เฝ้ารอจนเช้า ผ่านไปจนเช้าวันถัดมา โนโนกะก็ยังไม่กลับมา
หิมะค่อยๆหายไปทีละน้อย รอบหอดูดาวเริ่มถูกปกคลุมด้วยสีเขียวชอุ่ม แล้วสีเขียวก็เปลี่ยนไปเป็นสีอื่นอันสดใส จนเกล็ดหิมะเริ่มโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าอีกครั้ง
เด็กสาวก็ยังคงเฝ้ารออยู่ที่นี่อย่างโดดเดี่ยว
กี่ครั้งแล้วก็ไม่อาจนับได้ ที่ยามเช้ามาเยือน
วันคืนเดิมๆ ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
ช่วงเวลาที่มีแต่เด็กสาวเพียงผู้เดียว วนเวียนซ้ำไปมา
แต่ถึงอย่างนั้น รุ่งอรุณก็ยังเป็นช่วงเวลาแสนพิเศษสำหรับเด็กสาวอยู่ดี
----รอก่อนนะ! เดี๋ยวจะรีบกลับมา!
นั่นก็เพราะว่า สำหรับเด็กสาวที่เชื่อในคำพูดของเพื่อนคนสำคัญจากหัวใจ รุ่งอรุณที่มาเยือนนั้น หมายถึงเวลาที่ทั้งสองจะได้พบกันอีกครั้งได้ใกล้เข้ามาอีกนิด
และตามที่เด็กสาวเชื่อ โนโนกะจะต้องทวงสิ่งที่จะยอมเสียไปไม่ได้กลับคืนมาจากห้วงลึกของความทรงจำตัวเองได้สำเร็จด้วย
แล้วเด็กสาวตัวน้อยในตอนนี้ และเด็กผู้หญิงตัวน้อยในตอนนั้น จะข้ามผ่านเวลาเจ็ดปี กลับมาพบกันอีกครั้ง
เด็กผู้หญิงตัวน้อยคนนั้น จนตอนนี้ก็ยังคงจำชื่อของเด็กสาวตัวน้อยที่ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไปจากตอนนั้นได้
เด็กสาวคนนั้นเรียกตัวเองว่า
โนเอล----
ไหนๆก็โผล่มาแล้ว แจ้งข่าวหนังสือด้วยเลย
http://www.amazon.co.jp/dp/4758014345 fanbook เดือน4
http://infinitedayo.jp/shop/soranomethod_memories.html staff book เดือน3 (น่าจะลิมิทเฉพาะอินฟินิท)
ยอดขายแผ่น 2 แม่งโคตรน่าเศ้รา ปกนู๋โนเอลไม่ได้ช่วยอะไร
ยอดออกไวไปป่ะวะ แผ่นเพิ่งขายวันศุกร์เอง
http://imgur.com/QT9MW65 ปกfanbook
เพิ่งเคยเห็นพี่หล่อลายเส้นต้นฉบับ
http://imgur.com/nNGUWGf
http://imgur.com/DUeCl6i
http://imgur.com/Su4FK9y
http://imgur.com/vdBQDQg
>>535
"ฮ้า!"
ราวกับจะขับอากาศที่อยู่ในร่างกายออกมารวดเดียวหมด
สิ่งที่ทับอยู่บนหน้าโนเอลตอนที่ลืมตาตื่นขึ้นมานั้น คือก้อนขนสีน้ำตาลอ่อน
เจ้าก้อนขนปุกปุยนั้น ปิดทั้งปากและจมูกโนเอลเอาไว้เสียหมด
และเท้าเล็กๆที่งอกออกมาจากก้อนขน ก็เหยียบอยู่บนหน้าโนเอลอย่างไม่เกรงใจ
"งืออออ......ฮัดช่า!"
โนเอลปลุกตัวเองด้วยเสียงอันดัง
ก้อนขนที่ใช้หน้าโนเอลต่างหมอนนอนอยู่ ก็พลันสะดุ้งตื่น ตาลุกโพลงด้วยอาการตกใจ แล้วกลิ้งหลุนๆตกลงไปจากบนเสื้อสีขาว
"อ๊ะ! ขอโทษ!"
มือทั้งสองของโนเอลคว้าตัวเจ้าก้อนขนที่กลิ้งตกลงไปเอาไว้ได้ในทันที
แต่ด้วยความที่ตกใจเอามาก เจ้าก้อนขนพอดิ้นหลุดออกจากมือโนเอลได้ ก็วิ่งแจ้นสุดฝีเท้าไปยังอีกมุมของห้องครึ่งทรงกลม
"......เดี๋ยวสิ"
โนเอลทำหน้าหงอย ก่อนจะประสานสายตากับเจ้าก้อนขนอีกครั้ง ต่างฝ่ายต่างคุมเชิงดูสถานการณ์ของอีกฝ่าย ท่าทางเหมือนกับกำลังคำนับกันหรืออะไรสักอย่าง
สภาพนั้นดำเนินต่อไปอีกหลายวินาที
ที่นี่คือมุมหนึ่งของเทือกเขาที่รายล้อมเมืองคิริยะโกะเอาไว้
สถานที่ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาเหล่านั้น หอดูดาวเก่าที่ถูกทิ้งร้าง
หอดูดาวที่ไม่อาจใช้งานตามจุดประสงค์เดิมของมันได้อีกแล้วนั้น สำหรับโนเอลแล้ว จะนับว่าเป็นโลกทั้งใบของเธอก็คงไม่เกินไปนัก
อย่างน้อยก็จนกระทั่งไม่กี่วันก่อนหน้านี้
>>543
"มามะ ไปเที่ยวบ้านโนโนกะกัน"
ก้อนขน ซึ่งแท้ที่จริงแล้วคือกระรอกน้อยนั้น ไม่มีท่าทีโต้ตอบโนเอล แต่กลับซ่อนตัวอยู่ใต้เงาของกล้องโทรทรรศน์เก่ากล้องเดียวที่ยังเหลืออยู่ในหอดูดาว
ระหว่างที่ซ่อนก็ทำจมูกฟุดฟิด คอยสังเกตโนเอลไปด้วย เผื่อว่าเข้ามาใกล้เมื่อไหร่ก็จะได้ตั้งท่าหนีทัน
ด้านโนเอลก็ยังไม่ยอมแพ้ ค่อยๆย่นระยะเข้าหาเจ้าสัตว์ตัวน้อยอย่างไม่ลดละ
กระรอกน้อยส่งเสียงร้องเป็นเชิงขู่
"ข้าวห่อไข่ฝีมือโนโนกะน่ะ อร่อยม้ากมากเลยนะ! แถมยังเอาซอสมะเขือเทศมาวาดรูปข้างบนได้ด้วยล่ะ! ......เพราะงั้น"
โนเอลคลานเข่าเข้าไปใกล้
"......อ๋า"
ทว่า มนต์เสน่ห์ของข้าวห่อไข่ดูจะส่งไปไม่ถึงเจ้าสัตว์ที่โตมากับป่าเขา
กระรอกน้อยไต่ขึ้นไปบนซากกล้องโทรทรรศน์ที่พังแล้วอย่างว่องไวเหมือนขึ้นต้นไม้ จากนั้นก็วิ่งหายออกไปทางช่องเปิดที่ใช้ดูดาวบนเพดานโดม
เหลือไว้แต่โนเอลที่ทำหน้าเซ็ง
"เสียดายจัง"
บรรยากาศอันอบอุ่นของปลายฤดูร้อนไหลรินเข้ามาในห้องของโนเอลพร้อมกับแสงแดดยามเช้าจากช่องเปิดบนเพดานโดม
"แล้วมาใหม่น้า!"
โนเอลส่งเสียงบอกผู้มาเยือนตัวน้อยที่หายลับตาไปแล้ว ไม่มีเสียงตอบรับใดๆกลับมา
โนเอลที่นอนแผ่อยู่บนพื้น เหยียดแขนขาตัวเองเป็นการผ่อนคลาย
เหนือขึ้นไปบนท้องฟ้า ที่สองมือนั้นยื่นออกไปหา ไม่ว่าจะเป็นวันนี้ เมื่อวาน หรือแต่ไหนแต่ไรมา ก็คือจานบินที่ลอยนิ่งอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
"รอก่อนนะ โนโนกะ"
สำหรับโนเอลแล้ว หอดูดาวแห่งนี้ก็เปรียบเหมือนโลกทั้งใบ
เพียงแต่ว่า ตั้งแต่ตอนที่โนโนกะรักษาสัญญา ตั้งแต่วันที่โนโนกะบอกกับเธอว่ากลับมาแล้ว โลกของโนเอลก็ค่อยๆกว้างขึ้น
>>544
"ไปก่อนละนะ~!"
เด็กสาวทิ้งคำพูดที่จะฝากถึงใครก็ตามแต่เอาไว้ แล้ววิ่งลงไปตามบันไดเวียน
ตลอดเวลาเจ็ดปี โนเอลได้แต่เก็บภาพของเมืองที่แค่กวาดตาก็มองเห็นทัศนียภาพโดยรอบเอาไว้ในใจ
แม้ว่าจะวนเวียนมาในความคิดบ้าง แต่เมืองใกล้ๆที่มองเห็นได้จากหอดูดาวนั้น ก็ไม่ใช่ที่ของโนเอลอยู่ดี
ถึงจะคอยเฝ้ามองดูมันได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะลงไปเดินในเมืองได้
แม้จะสัมผัสได้ถึงสายลมที่พัดมาจากทะเลสาบผ่านทางเสื้อผ้าที่พลิ้วไหว แต่ก็ไม่อาจรู้ว่ากลิ่นของชายทะเลสาบนั้นเป็นอย่างไร
แต่ในตอนนี้ ทั้งหมดของเมืองคิริยะโกะนั้น---
พอได้อยู่กับโนโนกะ สถานที่ที่เคยมองเห็นได้จากหอดูดาวทั้งหมดนั้น ก็ค่อยๆกลายเป็นโลกของโนเอล
จากตัวอาคารหอดูดาว ออกไปสู่ภายนอก
ข้ามผ่านลานกว้างที่ปูพื้น เข้าไปในป่าลึก
วิ่งไปตามทางเดินแคบๆ มุ่งไปสู่ตัวเมือง
"อ๊ะ!"
จู่ๆโนเอลก็หยุดเสียกลางทาง
ที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่กว้างกลางภูเขา
ปกคลุมด้วยสีเหลืองอร่าม
กลีบดอกไม้ที่ต้องลม ปลิวว่อนในอากาศราวกับหิมะ
ที่ตรงนั้นคือทุ่งทานตะวัน
ทุ่งทานตะวันที่เห็นเป็นแสงเรืองรองจากแดดในยามเช้า
ทัศนียภาพนั้นได้ช่วงชิงสายตาของผู้พบเห็นอย่างโนเอลไปจนหมด
"อยากให้โนโนกะมาด้วยจังเลยน้า"
โนเอลยิ้มออกมาด้วยอารมณ์ดีใจ แล้วหมุนตัวไปรอบๆ
จากนั้นก็เริ่มออกวิ่งอีกครั้ง
ทะยานฝ่าทุ่งทานตะวันและทางเดินบนเขา ไปหาคนที่เธอรักยิ่ง
http://imgur.com/Ovumxmg ปกแผ่น4 เป็นบาบิก้อน
เห็นข่าวอิโนรินมาAFAแล้วนึกถึงกระทู้นี้ขึ้นมา
Side story ตอน2จะพยายามให้เสร็จก่อนได้แผ่น3นะ ; ; <โม่งจานบิน>
http://imgur.com/zYlrumo staff book
http://imgur.com/Vqk8IBy りぱ
http://imgur.com/6Xvh6Tf อาคิยะยูคิเอะ
http://imgur.com/CevCXFo อ.โทเมตะ
http://imgur.com/mnMtx5e อ.โคฮารุ
http://imgur.com/l6Ib53F โทโรโระ
http://imgur.com/GrkBYx2 โคมัทสึยูกิ
http://imgur.com/SWwe0qP อิโนริน
http://imgur.com/Mby1VDY ไคโตะคุง(โซตะ)
http://imgur.com/rQnPXTd คายาโนะไอที่รักของเหล่าโม่ง
วาดรูปเป็นด้วยเหรอ คายาโนะไอ
เพิ่งได้ฟังคาราซอง เพราะดีจัง ชอบมากสุดคือเพลงของชิโอเนะโคตรเพราะเลย กูชอบตั้งแต่ตอนที่ร้องBlack holy กับเรื่องวันอาทิตย์ไม่มีพระเจ้าละ รองมาก็เพลโนโนกะ โนเอลก็ร้องได้น่ารักดี ฟังเพลงอากินี่เสียงแบบยุย k on เลย เสียดายกูโง่ญี่ปุ่นเลยไม่รู้ว่าแต่ละคนพูดความรู้สึกไงบ้าง
>>545
"ไปก่อนนะคะ คุณพ่อ"
โนโนกะในชุดเครื่องแบบ ม.ต้น ถือกระเป๋านักเรียน เหลียวกลับมามองข้างในบ้านอีกครั้งขณะกำลังสวมรองเท้า
"ไปดีมาดีนะลูก--"
โคมิยะ ยูอิจิ ผู้เป็นพ่อ โผล่หน้ามาให้เห็นตรงทางเดินแวบหนึ่ง เสื้อผ้าหน้าผมยังกระเซอะกระเซิงดูสภาพไม่ต่างจากเพิ่งตื่นนอน
ขณะที่ทั่วประเทศยังคงปิดภาคเรียนฤดูร้อนอยู่ เขตหนึ่งก็เริ่มเปิดภาคเรียนใหม่กันไปแล้ว
โรงเรียนมัธยมต้นในเมืองโฮคุบิที่โนโนกะย้ายมาเรียน ก็เป็นหนึ่งในเขตที่ว่านั้น
"คุณพ่อเองก็เถอะ ถ้าไม่รีบอีกเดี๋ยวก็ไปทำงานสายหรอก"
"เอาน่า เดี๋ยวพ่อจัดการเอง"
โนโนกะมองยูอิจิที่โบกมือหยอยๆพลางตอบรับแบบขอไปทีแล้วก็ถอนหายใจ เสร็จแล้วก็เดินออกไปจากโถงประตู
บ้านโคมิยะ ทันทีที่ก้าวออกมาจากเขตบ้าน
"โนโนก๊ะ!"
แรงอะไรสักอย่างผลักเข้าที่หลังโนโนกะดังตุ๊บ
พอเจ้าตัวเหลียวไปมอง โนเอลที่เกาะหลังอยู่ก็หลบซ้ายหลบขวา
"อรุณสวัสดิ์โนโนกะ--"
"อรุณสวัสดิ์จ๊ะ โนเอล"
โนโนกะที่หันไปมาทำเอาโนเอลที่ยังคงเกาะไม่ปล่อยโยกไปซ้ายทีขวาที
"โนเอล ขอร้องล่ะ ช่วยทำตัวดีๆหน่อยเถอะ ! นี่ อย่าเกาะหลังแบบนี้สิ มันอันตรายนะรู้มั้ย"
โนเอลที่อยู่ในท่าเกาะติดโนโนกะอยู่นั้น พอถึงจุดที่กำลังจะเสียสมดุลกันทั้งคู่ ก็ยอมปล่อยมือในที่สุด
จากนั้นก็กลับมายืนตรงหน้าโนโนกะอีกรอบ
"เจอกันอีกแล้วนะ! คิดถึงจัง!"
โนเอลยิ้มแป้นอย่างเด็กน้อยไร้เดียงสา
แต่โนโนกะที่เผลอใจให้กับรอยยิ้มนั้นไปวูบหนึ่ง ก็พลันนึกขึ้นได้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่
"ฉันก็ดีใจที่ได้เจอโนเอลนะ ......แต่ขอโทษนะโนเอล ถ้าไม่ไปโรงเรียนล่ะก็"
ถึงจะพอมีเวลาอยู่บ้างกว่ารถจะมา แต่ก็ไม่ใช่เวลามายืนแกร่วอยู่แบบนี้อยู่ดี
"โรงเรียน? จะไปโรงเรียนอีกแล้วเหรอ?"
เมื่อตอนวันพิธีเปิดภาคเรียนที่สอง โนเอลก็มาหาโนโนกะแบบนี้เหมือนกัน รอบนั้นก็ไม่ได้เช้าไปกว่านี้สักเท่าไหร่ แถมยังวิ่งไปคุยไปอีกต่างหาก
>>553
"อื้ม ถ้าตามปกติก็ต้องไปเกือบทุกวันนั่นล่ะ"
"โห--"
โนเอลอุทานออกมาด้วยความทึ่ง
โนโนกะพอเห็นอีกฝ่ายทำหน้าทำตาแบบนั้นก็พลอยยิ้มออกมา ระหว่างนั้นก็ปรับก้าวเดินตัวเองให้พอๆกับโนเอล
แล้วทั้งสองก็เดินไปด้วยกันจากหน้าบ้านไปตามทางลงเนินที่พาไปสู่ริมฝั่งทะเลสาบคิริยะ
คราวนี้ต่างจากวันเปิดเรียนวันแรกที่ต้องหัวเสียเพราะคุณพ่อ(ยูอิจิ)แต่เช้า
ยังพอมีเวลาอยู่บ้าง กว่ารถบัสที่ไปโฮคุบิจะมา
ช่วงเวลาที่ได้อยู่กันแค่สองคนนั้น สำหรับโนโนกะแล้ว เป็นช่วงเวลาแสนสุขเลยทีเดียว
"แล้วโนเอลล่ะ ไม่ต้องไปโรงเรียนเหรอ?"
เหนือท้องฟ้าของเมืองนี้ มีสิ่งที่ไม่อาจพบเจอได้ที่ไหนนอกจากที่นี่อยู่
สิ่งที่ลึกลับพอกันแต่เต็มไปด้วยความใสซื่ออย่างเด็กสาวก็ละสายตาจากโนโนกะมองต่ำลงมาที่พื้น ราวกับจะพยักหน้ารับ
"อืม แต่ว่านะ โนเอลอยากไปโรงเรียนของโนโนกะดูมั่งจัง ต้องเป็นที่ที่ดี๊ดีม้ากมากแน่เลย?"
"ดีเหรอ...... ก็ไม่รู้จะว่ายังไงเหมือนกันนะ แต่ในคลาสมีทั้งคนใจดี แล้วก็คนที่อยากรู้จักอยู่ด้วยล่ะ แถมยังได้เป็นเพื่อนกันแล้วอีกตะหาก"
เด็กผู้หญิงที่ทำงานที่ร้านขายของฝาก
เด็กผู้หญิงที่ลากโนโนกะไปร่วมวงขับไล่จานบิน
แล้วก็เด็กผู้หญิงสวมเฮดโฟนที่เอาแต่หลบหน้าโนโนกะอยู่ฝ่ายเดียว
ภาพผู้คนมากหน้าหลายตา วนเวียนอยู่ในความคิดโนโนกะ
"โนเอลก็อยากเจอบ้างจัง"
"ต้องได้เจอแน่ๆจ้ะ"
สีหน้าอ่อนโยนของโนโนกะที่มองโนเอล ทำเอาเจ้าตัวยิ้มแบบเขินๆ
"นี่ๆ โนโนกะ เล่าเรื่องอื่นให้ฟังอีกสิ เรื่องโรงเรียนของโนโนกะ เรื่องเพื่อน รึว่าเรื่องที่โนเอลยังไม่รู้ก็ได้"
"อื้ม ได้สิ"
โนเอลกับโนโนกะ ปล่อยให้เวลาของทั้งคู่เดินไปพร้อมกัน
เบื้องหน้าคือทะเลสาบผืนใหญ่
ท้องฟ้าแจ่มใส ไร้เมฆบดบัง
และสิ่งที่ลอยอยู่ระหว่างผืนฟ้าและผืนน้ำนั้น ก็คือจานบินขนาดมหึมา
ข้างกายโนเอลตอนนี้คือโนโนกะ
นี่คือช่วงเวลาที่โนเอลรอคอยมาเนิ่นนาน
ถ้อยคำเท่าที่โนเอลรู้จัก มีเพียงสิ่งที่โนโนกะพูดออกมาเท่านั้น
และแล้ว ราวกับว่าจะตอบสนองต่อความคาดหวังนั้นสักนิดเดียวก็ยังดี โนโนกะก็พูดถึงเรื่องน่าสนใจ สิ่งที่โนเอลอยากรู้ออกมา
"คราวนี้ ที่โรงเรียนเขาจะจัดกิจกรรมเดินทางไกลล่ะ---"
แต่เวลาก็หมดลงพอดี
ถนนเลียบชายฝั่งทะเลสาบทอดยาวไปไกลสุดลูกหูลูกตา แต่ก็ไม่ใช่ว่าไร้ที่สิ้นสุด
ไม่ช้า ป้ายรถประจำทางไปโฮคุบิ สถานที่ปลายทางก็ปรากฏขึ้นให้เห็น
"---อ๊ะ"
รถประจำทางแล่นผ่านโนโนกะที่เดินอยู่ไปยังป้ายจอด
"ขอโทษนะโนเอล ต้องไปขึ้นรถแล้วล่ะ"
>>554
เวลาที่พอจะเหลืออยู่บ้างตอนที่ออกจากบ้านมา หายไปหมดตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
เวลาแห่งความสุขของโนเอล หมดลงซะแล้ว
เด็กสาวจ้องหน้าโนโนกะตรงๆ ด้วยสีหน้าที่พอจะเดาอารมณ์ได้
"----โนโนกะ จะกลับมาอีกใช่มั้ย? กลับมาแล้วมาคุยกันต่อนะ?"
"อื้ม ได้สิ"
ทั้งคู่วิ่งไปยังรถที่เพิ่งจะจอดป้ายเหมือนกับจะแข่งกัน
ระหว่างนั้น---
"ถ้ายังติดใจฝืมือทำกับข้าวฉันอยู่ ไว้เรามากินข้าวด้วยกันอีกดีมั้ย?"
"กิน!"
โนเอลที่กำลังวิ่งอยู่ตอบทันควัน
"รอบนี้เพิ่งกินข้าวห่อไข่ไปนี่นะ รอบหน้าอยากกินอะไรดีล่ะ?"
"ข้าวห่อไข่!"
เด็กสาวชูแขนสองข้างขึ้นพรึ่บ
โนโนกะหัวเราะคิก พลางคิดไปว่าจะใส่อะไรเพิ่มดีให้โนเอลชอบใจ
โนเอลต่อคำเหมือนกำลังร้องเพลง
"เอาซอสมะเขือเทศวาดรูปด้วยนะ!"
หัวใจก็พองโตไปด้วยความหวังเมื่อจินตนาการไปถึงช่วงเวลาแห่งความสนุกสนาน
พอได้เห็นรอยยิ้มของโนเอลแบบนั้น โนโนกะก็กระโดดขึ้นรถบัสที่จอดรออยู่
จากนั้นก็พ่นลมหายใจออกทีหนึ่งแล้วก็หันกลับมา
ข้างนอกรถคือโนเอลที่มายืนรอส่งโนโนกะเพราะขึ้นรถไปด้วยไม่ได้
"แล้วเจอกันนะ โนโนกะ"
"ไปก่อนนะ แล้วเย็นๆจะกลับมา"
"อื้ม!"
ประตูรถปิดลงตรงหน้าโนเอลที่โบกมือให้
พอประตูปิดสนิทแล้ว รถก็เริ่มเคลื่อนตัวออกไป แต่ก็ยังเห็นโนเอลโบกมือไหวๆให้จนลับสายตา
ด้วยหน้าตายิ้มแย้มอย่างเดิม
แต่ว่า----
"......จะรอนะ"
เสียงกระซิบนั้น เบาเสียจนแทบไม่ได้ยิน
สีหน้าก็พลอยเปลี่ยนไปตามคำพูด ถูกคาดทับด้วยความกังวลใจ
โนเอลสูดลมหายใจฟอดใหญ่
แล้วจึงทวนคำพูดเดิม ซ้ำอีกครั้ง----
"จะรอนะ!"
ด้วยเสียงอันดัง
ดังอย่างที่ถึงไกลแค่ไหนก็ต้องได้ยิน
"-----เอาล่ะ"
สีหน้าของเด็กสาวในตอนนี้ กลับมาเหมือนกับตอนที่อยู่กับโนโนกะ กลับมาเป็นรอยยิ้มสดใสที่ปราศจากความกังวลใดๆอีกครั้ง
>>555
"หืมมม......"
โนเอลขมวดคิ้วสงสัย ขณะกำลังเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย
ส่วนอีกฝ่ายที่ว่า กลับไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าแต่อย่างใด ดวงตากลมโตที่ไม่อาจบอกได้ว่าคิดอะไรอยู่ประสานเข้ากับสายตาของโนเอล
แถมยังอ้าปากกว้าง ยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่อย่างนั้น
"อึ๊ยย"
โนเอลค่อยๆสอดมือเข้าไปในปากของอีกฝ่าย
ปากที่อ้ากว้างจนเกือบเท่าศีรษะของโนเอลนั้นยังคงไม่มีท่าทีตอบสนองใดๆให้เห็น แม้จะล้วงเข้าไปจนสุดแขน
"อ้าว--......ไม่เห็นมีอะไรเลย ยังไม่ได้กินข้าวเหรอ?"
โนเอลแกว่งมือไปมาในปากของเจ้าสิ่งนั้น
หลังจากที่ไปส่งโนโนกะที่ป้ายรถบัสในตอนเช้าเสร็จแล้ว โนเอลก็จะออกไปสำรวจเมืองคิริยะโกะคนเดียว
ทุกสิ่งอย่างของเมืองทะเลสาบที่เคยทำได้แค่เฝ้ามองจากบนหอดูดาว ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่มองเห็นได้หรือสัมผัสได้
ล้วนแต่เป็นประสบการณ์ใหม่ที่แสนตื่นเต้นสำหรับโนเอล
ตามแนวชายฝั่งทะเลสาบ มีประติมากรรมหน้าตาแปลกประหลาดตั้งอยู่เรียงราย แค่ไล่ดูไปเรื่อยๆก็กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเด็กสาว
ช่วยบรรเทาความเหงาที่ตกค้างอยู่ในใจลงไปได้
ทะเลสาบเองพอได้มาเห็นใกล้ๆแล้ว ก็รู้สึกว่ามันช่างกว้างใหญ่จนไม่รู้ว่าไปสิ้นสุดที่ไหน เหมือนกับว่าเป็นท้องฟ้าอีกผืนเลย
ได้เจอผู้คนเยอะแยะมากมาย
ไม่ใช่แค่คนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้เท่านั้น คนที่มาเยี่ยมชมที่นี่ก็มีอยู่ไม่น้อย
คนที่ท่าทางสนอกสนใจในตัวโนเอล ไม่สิ ชุดที่โนเอลใส่ จนถ่ายรูปไว้ก็มีเหมือนกัน
ระหว่างที่ออกสำรวจเมืองนั้น ก็ไปเจอกับร้านหน้าตาน่ารักน่าชังเข้า เป็นร้านอาหารที่ชื่อว่าโนโซมิเทย์
มองจากข้างนอกเข้าไปในร้าน ทุกคนก็ดูจะกินอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส
โนเอลแค่มองจากข้างนอกเฉยๆก็ยังรับรู้ได้ ถึงรอยยิ้มที่แบ่งปันมาให้
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ว่ามา สำหรับโนเอลที่ใช้ชีวิตอยู่ในหอดูดาวมาเจ็ดปีนั้น มันช่างเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นยินดีจนหาอะไรมาแทนไม่ได้เลยทีเดียว
>>556
และในตอนนี้
ณ หน้าร้านซึ่งแขวนป้ายเอาไว้ว่าชิอิฮาระสาขาใหญ่ เด็กสาวก็กำลังล้วงมือเข้าไปในปากของอีกฝ่ายที่เพิ่งเคยเจอหน้ากันครั้งแรก
"ปากกว้างยิ่งกว่าโนเอล ยิ่งกว่าโนโนกะสุดๆแบบนี้ หรือว่าจะเป็น...... คุณสัตว์ประหลาด?"
ขนาดว่าถามไปแล้วก็ยังไม่มีคำตอบใดๆกลับมา
อีกฝ่ายที่โนเอลคุยอยู่ด้วย---- ป้ายที่ตั้งโชว์อยู่หน้าร้านขายของฝากนั้น นอกจากจะทำหน้าทำตาเหมือนเดิมตลอดแล้ว ยังชูมือข้างหนึ่งขึ้นฟ้าเหมือนจะประกาศชัยชนะ
"คุณสัตว์ประหลาด ๆ คุณสัตว์ประหลาดชื่ออะไรเหรอ?"
ถ้าใครก็ตามที่ทำป้ายนี้ขึ้นมาอยู่แถวนี้ เขาหรือเธออาจจะตอบคำถามให้โนเอลได้ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีคนที่รู้เดินผ่านมาเลย
และแล้ว เจ้าป้ายที่ไม่มีปากเสียงนี่ก็ถูกโนเอลจดจำในฐานะคุณสัตว์ประหลาดไปโดยปริยาย
ชื่อของสัตว์ประหลาดตัวนี้คือ คิริกอน
ตามตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาในแถบนี้ ว่ากันว่าเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ที่หลับไหลอยู่ใต้ทะเลสาบคิริยะ
ป้ายหน้าร้านนี่ก็คือรูปร่างหน้าตาในจินตนาการของเจ้าคิริกอนที่ไม่เคยปรากฏตัวให้ใครเห็นนั่นเอง
แต่โนเอลในตอนนี้นั้นยังไม่รู้อะไรเลย ทั้งเรื่องที่เล่าต่อๆกันมา หรือว่าเรื่องของเด็กๆที่ทำป้ายนี้ขึ้นมาเมื่อหลายปีก่อน
"แล้วเจอกันใหม่นะ คุณสัตว์ประหลาด"
เด็กสาวชูมือข้างหนึ่งขึ้นเหมือนอย่างคิริกอน แล้วก็เดินเข้าไปข้างในร้านขายของฝาก
"-----!"
ทันทีที่เข้ามา โนเอลก็ถึงกับตาโตเป็นคิริกอน
พื้นที่ภายในร้าน โดนจานบินยึดครองไว้จนหมดสิ้น
ข้าวของที่ทำเลียนแบบจานบิน วางเรียงกันอยู่ในร้าน หลายอย่างโนเอลเห็นแล้วก็ยังไม่รู้ว่าเอาไว้ทำอะไร
พวงกุญแจที่มีจานบินขนาดจิ๋วติดอยู่กับสายโซ่
ภาพแขวนที่โค้งมนเป็นรูปจานบิน
ของที่กดปุ่มแล้วจะหมุนๆแล้วก็มีแสงออกมา
แม่เหล็กรูปหมีกอดจานบิน
จานบินไม้แกะสลัก 3ขนาด เล็กกลางใหญ่ วางซ้อนกัน
แม้กระทั่งของที่โนเอลไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร ก็ยังมีวางปะปนอยู่ท่ามกลางสินค้ามากมายในร้าน
โนเอลที่โดนห้อมล้อมด้วยจานบินจำนวนมาก เริ่มจะรู้สึกเขินๆขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังเดินดูภายในร้านต่อไป
เด็กสาวมาหยุดอยู่ตรงหน้าชั้นวางผงอาบน้ำร้อนจานบินที่วาดรูปจานบินเอาไว้
มีของที่ดึงดูดความสนใจโนเอลได้เป็นพิเศษ ตั้งเรียงกันอยู่
ถ้าเป็นของฝากพวกนี้ โนเอลก็รู้ว่าใช้ทำอะไร
>>557
"......มันจูจานบิน......มันจู"
แน่นอนว่าต้องเป็นของกิน
โนเอลจ้องมองตัวอย่างสินค้าที่ให้ลองชิมในตู้อคริลิกใสจนหน้าเกือบจะแนบกับตู้
"น่ากินจัง......"
ราวกับสัตว์ตัวน้อยที่ได้กลิ่นหอมหวาน ยิ่งพอเข้าไปใกล้ๆ กลิ่นนั้นก็ยิ่งชวนให้ท้องปั่นป่วน
"ไม่นะ! โนเอลน่ะ ต้องเก็บท้องไว้รอข้าวห่อไข่ของโนโนกะ!"
ทีกับร้านเมื่อกี้ยังอดใจได้เลย
"แต่ว่า......"
......ถ้าแค่นิดเดียวล่ะก็
"แต่ก็......"
......อีกเดี๋ยวเดียวโนโนกะก็จะกลับมาแล้วแท้ๆ
โนเอลค่อยๆเขยิบเข้าไปใกล้ตู้ชิมฟรี
หลังจากคิดหน้าคิดหลังดูแล้ว ก็ได้ความว่าขอสักนิดเดียวก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร
แต่พอเอื้อมมือไปหยิบมันจูจานบินชิมฟรีจากในตู้มาได้ โนเอลก็ยังแอบกินทั้งที่ไม่มีใครเห็นเพราะยังรู้สึกผิดอยู่ในใจ
"หวาาา! หวานจัง--!"
รสชาติที่ต่างกับข้าวห่อไข่ ทำเอาโนเอลเขว
"อยากลองอีกชิ้นจัง...... แต่ว่า......อื้ออ ทำไงดีล่ะเนี่ย......"
แล้วเรื่องนี้ก็กลายเป็นประสบการณ์ดีๆที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนของโนเอลไปอีกหนึ่งอย่าง
หลังจากใช้เวลาอยู่หน้าตู้มันจูจานบินที่รายล้อมด้วยจานบินจนหายเครียด โนเอลก็ออกมาจากร้าน
แดดฤดูร้อนที่สาดแสงแรงกล้าตั้งแต่ตอนก่อนจะเข้าร้าน เริ่มอ่อนลงตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
เงาของโนเอลกับคิริกอนทอดยาวไปตามพื้น
โนเอลเช็คดูตำแหน่งดวงอาทิตย์ที่ยังทอแสงจ้า ถึงจะยังเร็วไปหน่อย แต่ก็ใกล้จะได้เวลาที่เรียกว่ายามเย็นแล้ว
"ใกล้จะกลับมาแล้วสินะ!"
โนเอลยิ้มหยีตาด้วยความดีใจแล้วหันมาหาป้ายคิริกอนที่ตั้งอยู่หน้าร้าน
"โนเอลต้องไปรับโนโนกะแล้วล่ะ บ๊ายบาย คุณสัตว์ประหลาด ไว้มาเล่นกันใหม่นะ"
ป้ายคิริกอนเองก็เหมือนจะโบกมือให้นิดๆ โนเอลเลยหันมามองอยู่หลายรอบคล้ายกับจำใจต้องจากไป ทิ้งร้านของฝากเอาไว้เบื้องหลัง
โนเอลออกมาตรงทางเท้า แล้วเดินต่อไปยังป้ายรถที่ตัวเองมายืนส่งโนโนกะ
โนโนกะจะกลับมาแล้ว
อีกเดี๋ยวก็จะได้เจอกันแล้ว
ขณะที่ความรู้สึกในใจมันท่วมท้นออกมา แต่ละก้าวที่เดินก็กว้างขึ้นโดยไม่ทันรู้ตัว
จากที่ก้าวเดินเร็วๆ ไม่ช้าก็เริ่มกลายเป็นวิ่ง
ความคิดเหล่านั้นเอง ที่คอยผลักดันโนเอล
จานบินที่ราวกับจะไล่ตามโนเอลที่วิ่งอยู่จากบนฟ้าไกลเอง ก็ยังคงลอยอยู่เช่นนั้น
>>558
"โนโนกะ ยังไม่มาอีกเหรอเนี่ย--"
ที่ป้ายรถบัสป้ายเดียวกันกับที่มาส่งโนโนกะเมื่อเช้า
โนเอลที่เฝ้ารอเวลาที่โนโนกะจะกลับมา ท่าทางกระสับกระส่าย
ดวงอาทิตย์ดวงใหญ่ที่เริ่มจะคล้อยต่ำ ได้ย้อมสีท้องฟ้าครามให้กลายเป็นสีอื่นไปเสียแล้ว
จานบินยังคงลอยอยู่บนท้องฟ้า เหนือพื้นดิน ท่ามกลางประกายแสงสีแดงจ้า
"ไว้โนโนกะกลับมาเมื่อไหร่ล่ะก็ โนเอลจะเล่าเรื่องที่เจอมาวันนี้ให้ฟังให้หมดเลย"
เด็กสาวนับนิ้ว พลางนึกทบทวนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดวันที่ผ่านมา
"ทะเลสาบใหญ่มากกก น้ำก็เย้นเย็น----"
โนเอลมีโอกาสได้สัมผัสกับทะเลสาบครั้งแรก ตอนที่เอื้อมมือไปแตะผิวน้ำจนเกือบจะตกจากท่าเทียบเรือ
น้ำในทะเลสาบเย็นอย่างกับหิมะ จนรู้สึกว่าชุดที่อาบด้วยไอแดดของหน้าร้อนนี่มันช่างดีจริงๆ
"ชาวเมืองทุกคนก็ใจดี---"
มีคนที่เห็นโนเอลดูไม่เหมือนคนแถวนี้ เลยโบกมือเรียก เพราะเป็นห่วงว่าอาจจะเป็นเด็กที่พลัดหลงกับครอบครัวนักท่องเที่ยวอยู่ด้วย
"ได้เป็นเพื่อนกับคุณสัตว์ประหลาดด้วยล่ะ---"
ถึงแม้คิริกอนผู้ไม่มีปากมีเสียงจะไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย แต่โนเอลก็เชื่อมั่นว่าอีกฝ่ายจะต้องนึกอยากเป็นเพื่อนกับเธออยู่แน่
"ในร้านขายของก็มีจานบินเต็มไปหมดเลย---"
ร้านของฝากที่เต็มไปด้วยจานบินน้อยใหญ่มากมายอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ที่โนเอลติดใจสุดก็คือจานบินกินได้รสชาติหวานอร่อย ที่สุดท้ายก็จัดไปซะห้าลูก
"แล้วก็นะ...... แล้วก็นะ......"
เรื่องที่อยากจะคุยกับโนโนกะ มีอีกตั้งเยอะแยะ
"----เพราะงั้น"
แล้วโนเอลที่ทอดสายตามองไปตามทางเดินที่ย้อมด้วยสีแดงของท้องฟ้ายามเย็นก็ตะโกนออกมาสุดเสียง
"รีบกลับมาเถอะนะ!"
>>559
ราวกับจะตอบรับกับเสียงเรียกของโนเอล รถประจำทางก็ค่อยๆแล่นเข้ามาใกล้ป้ายรถที่โนเอลยืนคอยอยู่
"โนโนกะ!"
โนเอลกระโดดขึ้นลง พลางโบกไม้โบกมือต้อนรับรถประจำทางอย่างมีชีวิตชีวา
"โนโนก๊ะ โนโนก๊ะ"
ระหว่างที่อดใจรอประตูเปิดแทบไม่ไหว เด็กสาวก็เรียกชื่อนั้นไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
สายตาก็จับจ้องมองคนที่ทยอยลงมาจากรถ
เพื่อว่าจะได้พูดคำนั้นออกไป ในทันทีที่ได้พบกับโนโนกะ
คำนั้น
คำที่โนเอลบอกกับโนโนกะที่หอดูดาว ตอนที่ความหมายที่แท้จริงของการพบกันอีกครั้งได้เกิดขึ้นตามที่สัญญาเอาไว้
"อ้าว......"
แม้ผู้โดยสารจะทยอยลงจากรถตรงป้ายคิริยะโกะจนหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของโนโนกะ
โนเอลกระโดดขึ้นรถไปแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง กวาดตามองหาโนโนกะตามเบาะนั่ง ก็ยังไม่เจอ
เด็กสาวทำคอตก ท่าทางดูกังวลใจ จนคนขับยังดูเชิงอยู่ว่าจะไปหรือไม่ไปกันแน่
ที่จริง ถ้านั่งรถไปแบบนี้ อาจจะไปหาโนโนกะได้ถึงที่เลยด้วยซ้ำ
แต่ถึงอย่างนั้น โนเอลก็ยังทำหน้าเศร้า แล้วส่ายหัว
".......โนเอลไม่ไปหรอก"
เด็กสาวลงจากรถตอนที่กำลังจะออกจากป้าย จากนั้นก็โบกมือน้อยๆให้รถที่วิ่งจากไป
ที่จริง เธออยากจะนั่งรถไปหาโนโนกะเสียเดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ
อยากจะรู้ว่าเมืองที่โนโนกะไปนั้นเป็นยังไง ได้เจออะไรมาบ้าง
เรื่องสถานที่ที่เรียกว่าโรงเรียนที่โนโนกะกับเพื่อนๆไปกันก็ด้วย
แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไหน เด็กสาวก็รู้อยู่แก่ใจ ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้
โลกของโนเอลขยายขอบเขตออกมาจากหอดูดาวแล้วก็จริง แต่ก็ไม่อาจออกไปนอกเมืองที่จานบินคอยเฝ้ามองอยู่ได้
ถ้าหากออกไปไกลจากจานบิน ตัวเองจะเป็นยังไง ข้อนี้โนเอลก็รู้ดี
ก็โนเอลคือจานบินนี่นา
>>560
"......เดี๋ยวก็กลับมาแล้วล่ะ"
ท้องฟ้าจากสีแดงฉาน ก็เริ่มมืดลงตามลำดับ
โนเอลยังคงยืนรอรถบัสอยู่คนเดียว
เวลาล่วงผ่านไปเรื่อยๆ
ตั้งแต่ตอนนั้น ไม่ว่ารถบัสจะมาจอดป้ายอีกสักกี่คัน ก็ล้วนแต่ทำให้โนเอลต้องผิดหวัง
แล้วเวลาที่เรียกได้ว่ายามเย็นก็ได้สิ้นสุดลง เมืองทั้งเมืองก็มืดลงราวกับดับไฟ
ท้องฟ้ากระจ่างดาวเริ่มรายล้อมจานบินเอาไว้
"โนโนกะ ช้าจัง......"
โนเอลเดินย่ำเท้าสั้นๆไปมา
พอเหนื่อยเข้า ก็ไปนั่งหงอยอยู่ที่ม้านั่งตรงป้ายรถ
"............"
รอเวลาให้ผ่านไปอย่างเงียบๆ
นั่งนิ่งไม่ไหวติงอยู่อย่างนั้น
ในใจโนเอลนึกไปถึงวันคืนที่เฝ้ารอโนโนกะที่หอดูดาว
โนเอลเชื่อ
เชื่อว่าโนโนกะจะกลับมา เชื่อว่าจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้
โนโนกะกลับมาเมื่อไหร่ ถึงตอนนั้นโนเอลจะทำให้ความปรารถนาของโนโนกะเป็นจริงเอง
ถึงตอนนี้จะยังทำอะไรไม่ได้ นอกจากรอก็เถอะ
ไว้โนโนกะกลับมาที่หอดูดาวนี่แล้ว ถึงตอนนั้นก็ต้องรู้แน่ว่าควรทำอะไร
ขณะที่นึกถึงเรื่องราวในช่วงเจ็ดปีมานี้ เวลาก็ยังผ่านไปเรื่อยๆ
ผู้คนที่โดยสารรถบัสเดินผ่านไปมา ตรงหน้าโนเอลที่นั่งรอตรงป้ายรถ
"โนโนกะ จะเป็นยังไงบ้างแล้วนะ......"
ระหว่างที่ร้อนรนเพราะจะไปตามหาอีกฝ่ายด้วยตัวเองก็ไม่ได้แบบนี้
ความไม่สบายใจ ก็ค่อยๆลดลงเรื่อยๆ ทีละน้อย
เหมือนกับหิมะที่หนาวเหน็บ
ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องละลายหายไป
"............"
โนเอลที่นั่งก้มหน้าอยู่ที่ม้านั่งตรงป้ายรถ รู้สึกได้ถึงสัมผัสอ่อนๆจากปลายนิ้ว
"......เอ๋?"
พอชายตามองดู ก็เห็นว่ามีก้อนขนมาขดอยู่บนมือตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
"มารอเป็นเพื่อนเหรอ?"
ดูเหมือนว่าจะเป็นกระรอกน้อยหน้าตาเหมือนก้อนขนที่เจอในหอดูดาวเมื่อตอนเช้า
โนเอลยกเจ้าก้อนขนเข้ามาหาตัว
"......ขอบใจนะ"
รอยยิ้มนั้นออกมาเองโดยธรรมชาติ
ในเวลาเดียวกันกับที่สีหน้าอันเคร่งเครียดได้ผ่อนคลายลงโดยไม่รู้ตัว ความกังวลที่สั่งสมอยู่ในใจก็พลอยหายไปด้วย
โนเอลเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง
รถบัสวิ่งเข้ามาอีกคันแล้ว
"อ๊ะ!"
จากหน้าต่างรถบัส เด็กสาวมองเห็นคนที่เธอเฝ้ารออยู่บนนั้น
โนเอลลุกขึ้นจากม้านั่ง ทำเอากระรอกน้อยถอยห่างออกมาด้วยความตกใจ
"เค้าขอโทษ~!"
กระรอกน้อยทำท่าเหมือนจะพยักหน้าน้อยๆให้โนเอลที่กุลีกุจอขอโทษ แล้วค่อยเดินขึ้นเขาไป
"แล้วเจอกันใหม่น้า!"
เด็กสาวโบกมือให้อีกฝ่ายเป็นทีว่าขอบคุณที่มาอยู่เป็นเพื่อน
กระรอกน้อยหยุดส่งเสียงให้เธอเป็นเชิงตอบรับทีหนึ่งก่อนจะเดินต่อไป
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง
"----โนเอล?"
โนโนกะที่ลงมาจากรถบัสที่เพิ่งจอดป้าย พอสังเกตเห็นโนเอลที่โบกมือให้ภูเขา ก็ส่งเสียงเรียก
"รออยู่เหรอเนี่ย?"
"โนโนก๊ะ!"
โนเอลหันกลับมาพร้อมรอยยิ้ม
โนโนกะดูท่าทางรู้สึกผิด
"ขอโทษนะที่กลับมาช้า พอดีเตรียมงานเรื่องเดินทางไกลกันนานกว่าที่คิดก็เลย......"
"อื้ม ไม่เป็นไรหรอก!"
โนเอลส่ายหัวไปมา
ก็เพราะว่า------
โนโนกะกลับมาแล้วยังไงล่ะ
โนเอลน่ะ เชื่ออยู่แล้วล่ะ
เชื่อในคำพูดของเพื่อน ของคนสำคัญ
"นี่ๆ โนโนกะ! มีเรื่องจะเล่าให้ฟังด้วยล่ะ!"
เรื่องที่โนเอลได้พบเจอมาตลอดวันนี้
ประสบการณ์ครั้งใหม่ทุกสิ่งอย่างที่ได้พบเจอมา อยากให้โนโนกะได้รู้
แต่ว่า ก่อนอื่น
มีความรู้สึกหนึ่งที่ต้องบอกโนโนกะเสียก่อน
"โนโนกะ----"
ด้วยรอยยิ้มทั้งหมดของโนเอล
คำๆหนึ่งที่อยากจะพูดออกไปมาตลอด
คำที่อยากจะบอกกับโนโนกะอีกครั้ง
"ยินดีต้อนรับกลับนะ"
http://imgur.com/3n4OIHS ปกแผ่น5 ออกหลายวันแล้ว แต่ไม่อยากปาด
จัดงาน event กับออกสินค้าขายได้เรื่อยๆ แสดงว่ากระแสก็คงพอได้แหละสำหรับค่ายใหม่ ถึงยอดขายจะน้อยไปหน่อยก็เถอะ รองานใหม่ค่ายนี้ อย่างน้อยสิ่งที่น่าชมมากสุดคือเรื่องงานภาพกับเพลงที่งานดี ภาพไม่มีเผาเลย สาวๆในภาพคือ seiyuu 3 ตัวละครหลัก ชิโอเนะ = mikako komatsu , โนโนกะ = Natsukawa Shiina , โนเอล = Minase Inori
http://i.imgur.com/MltELPP.jpg
http://i.imgur.com/GjRuQpJ.jpg
http://i.imgur.com/AZ1CpO0.jpg
http://i.imgur.com/w4ValPI.png
อันนี้อีเวนท์ที่ให้โค้ดสุ่มมาแผ่นแรกน่ะ
อีเวนท์จบ มีแต่คนกล่าวขานถึงความเทพของคนพากย์พี่หล่อ (อิชิคาวะ ไคโตะ)
ปล. คนกลางในรูปแรกไม่ใช่นันสึ แต่เป็นคนพากย์โคฮารุ (โยชิมุระ ฮารุกะ)
ว่าไป วันศุกร์นี้อิโนรินตัวจริงมา ใครจะไปดูมั่งครับ
หน้าเป็นเลยมากกว่า อิชิคาว่าเนี่ย ชอบทำหน้ากรุ้มกริ่มตลอด
เรื่องราวของคนบ้าที่พยายามหาเหตุผลในการยิงจรวดขวดน้ำ
http://imgur.com/csMU1lT
http://imgur.com/i6kbBkT
http://imgur.com/kBwEq9a
http://imgur.com/TwzGvDQ
คนบ้าแต่น่ารัก
Girls's talk ชายในฝันของโคฮารุและรีแอ็คชั่นของชิโอเนะ
http://imgur.com/4DarUPD
http://imgur.com/eUwpIDi
http://imgur.com/zrl1Zgj
http://imgur.com/k6inmoE
ลืมไปเข้ามากะแจ้งยอดขายแผ่น 4 ได้ 1,049
http://i.imgur.com/emqM4fQ.jpg
เดือนนี้จะพยายามลง side story3-4 ให้จบครับ <โม่งจานบินที่สติหลุดลอยไปหลายวันเพราะได้เจออิโนรินตัวจริง>
แปะรูปอิโนริน วันนั้นเจอเธอแต่ใน main stage AZ เค้าห้ามถ่ายรูป นี่รูปที่เธอลงใน FB กะ ทวิต
http://i.imgur.com/Fw2pLnG.jpg
http://i.imgur.com/Km2XPfD.jpg
http://i.imgur.com/mYOnawG.jpg
http://i.imgur.com/d3MUNde.jpg
http://i.imgur.com/pLjKTVF.jpg
http://imgur.com/Dk6W8nR
ขาดไปรูปนึงนะ ไอติมมิกกี้เมาส์
ด้วยความที่อารมณ์ค้างเลยเปิดเรดิโอตอนพิเศษของแผ่นแรกมาฟัง แผ่นนี้มีแขกรับเชิญสองคนคือโทโยซากิ(ยูซึกิ)กับรุรุแคน(โคฮารุ) เกมช่วงโซสะๆเลยเป็นแบบเล่นกัน4คน หัวข้อคือ ดีเจแร๊พโย่ว ให้มาเปิดเพลงสแครชแผ่นแข่งกัน4คน โย่ว ชินจุกุ! แต่ละคนเป็นไงลองจินตนาการกันดูเอง
http://imgur.com/Yva4mFo
ที่จริงรูปนี้ควรอยู่ในกระทู้ดันมาจิ แต่ช่างเถอะ
「ช่วงเวลาของสองเรา」
ฉัน เคยเกลียดจานบิน
จานบินที่อยู่มาวันหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาในเมืองนี้ จากนั้นก็ลอยตัวอยู่เหนือทะเลสาบทำอย่างกับว่าตัวเองเป็นเจ้าของที่นี่
ฉันเคยเกลียดมันมาตลอด
ไม่ว่าจะหลบสายตาสักแค่ไหน ไม่ว่าจะอยู่ห่างจากทะเลสาบสักเท่าไหร่ ตราบใดที่ยังอยู่ในคิริยะโกะ เจ้าสิ่งนั้นก็ยังลอยอยู่เหนือศีรษะฉันตลอดเวลา
เกลียดจริงๆ
ถึงคนแทบทั้งเมืองจะเลิกสนใจจานบินกันไปหมดแล้ว แต่ฉันก็ยังคงยืนหยัดต่อต้านมันต่อไป
คอยถือป้ายไม่เอาจานบิน ไม่ใช่แค่ให้คนในเมืองเห็น แต่ยังคอยโบกให้พวกนักท่องเที่ยวที่มาชมที่นี่ด้วย
ทำใบปลิวขึ้นมาไม่รู้กี่ใบต่อกี่ใบ เพื่อเอาไปแจกแทบทุกที่รอบทะเลสาบ
จะตามหาคนมาเป็นแนวร่วม ก็ยังไปป่าวประกาศในโรงเรียน
แต่จานบิน ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ยังคงลอยอยู่ตรงนั้น คอยจ้องมองสิ่งที่ฉันทำอยู่จากบนฟ้าเฉยๆ ราวกับจะเยาะเย้ยเจ้าคนที่ชี้นิ้วใส่แล้วประกาศสงครามด้วย
เวลาผ่านไปหลายปี จากประถมก็เลื่อนชั้นไปมัธยม พอโรงเรียนเลิกกลับเมืองมาก็ยังเจอจานบิน ลอยนิ่งอยู่เหนือใจกลางทะเลสาบคิริยะอย่างเคย
ท้องฟ้าของเมืองนี้ ไม่เคยเปลี่ยน
ที่เปลี่ยนไปจริงๆ คงเป็นตัวฉันเอง
>>587
ที่เกลียดจานบิน ที่ทุ่มเทกับการต่อต้านจานบิน ---- จนบางที ก็มองไม่เห็นสิ่งอื่นใดนอกจากเรื่องพวกนั้นเลย
---อืม
ที่จริงแล้ว ฉันอาจจะมองเห็น แต่ทำเหมือนไม่เห็น
ปิดหูปิดตา ไม่ยอมรับรู้อะไร รู้ตัวอีกทีก็เหลืออยู่ตัวคนเดียว
โคฮารุเพื่อนสนิทสมัยเด็ก ที่คอยอยู่เคียงข้างกันมาแต่ไหนแต่ไร จะไปไหนมาไหนก็อยู่ด้วยกันตลอด
นอกจากเรื่องที่เลิกใส่แว่น แล้วหันมาใช้คอนแทคเลนส์แทนแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนไปจากสมัยก่อนเลย
แต่ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ที่ฉันกลับรู้สึกว่าพวกเราเริ่มห่างกัน
ทั้งที่อยู่ใกล้ กลับรู้สึกเหมือนเธอจากไปไกล
---แต่ที่จริง มันไม่ใช่แบบนั้นเลย
โคฮารุยังเป็นคนเดิมเหมือนเมื่อก่อน เรื่องห่างเหินนั่น มีแต่ฉันที่รู้สึกไปเอง
โคฮารุที่คอยเป็นห่วงฉันที่ทำตัวแบบนั้นเสียอีก ที่เป็นฝ่ายเจ็บปวดมาตลอด
เรื่องที่เธอกลบเกลื่อนความเจ็บปวดนั้นไว้ด้วยรอยยิ้ม
ฉันเองก็รู้ดีแท้ๆ
แต่ฉันกลับทำเป็นมองไม่เห็นอะไรสักอย่าง
เอาแต่เกลียดจานบิน
ไม่เอาจานบิน
รู้ตัวอีกที ก็ถลำลึกเกินกว่าจะถอนตัวเสียแล้ว
ก็ฉันน่ะทำอะไรลงไปตั้งมากมายแล้วนี่นา เพียงเพราะเรื่องจานบิน
---จานบินนั่นล่ะที่ผิด
---ถ้าจานบินไม่โผล่มาล่ะก็
ฉันบอกกับตัวเองซ้ำๆอย่างนั้น เพื่อจะได้ละสายตาจากทุกสิ่งรอบตัวต่อไป
แค่คำพูดคำเดียว ยังพูดออกมาไม่ได้
เอาแต่หนี เอาแต่โทษจานบินไปซะทุกอย่าง
หนีไปเรื่อยๆ จนหันกลับมาอีกที ก็ไม่เจอใครแล้ว นอกจากตัวเอง
มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วล่ะ ก็ฉันหนีจากตัวเองอยู่นี่นา
สมัยเด็กก็เหมือนกัน แค่จะเชื่อในความสำคัญของคำพูดคำนั้น ฉันยังทำไม่ได้
ที่ออกมาจากปาก กลับกลายเป็นคำว่า ไม่เอาจานบิน
เกลียดจริงๆ
ฉัน......เกลียดตัวเองจริงๆ
>>588
ขณะที่ยังทำใจยอมรับความจริงนั้นไม่ได้ เวลาก็ล่วงเลยผ่านไป
แล้วในปิดเทอมฤดูร้อนครั้งสุดท้ายของ ม.ต้น ฉันก็ได้พบกับเด็กสาวคู่หนึ่ง
คนหนึ่ง เป็นเด็กสาวใจดีที่ย้ายมาจากที่ไกล
อีกคนหนึ่ง เป็นเด็กสาวผู้ใสซื่อไร้เดียงสา
การพบกับทั้งคู่ ได้มอบโอกาสสำคัญให้กับฉันที่เอาแต่ปิดหูปิดตาไม่สนใจสิ่งใดมาตลอด
พอลืมตาขึ้น ก็พบว่ารอยยิ้มของโคฮารุที่ไม่ได้เปลี่ยนไปจากสมัยก่อน ยังอยู่ที่เดิม ไม่ได้จากไปไหนเลย
พอตั้งใจฟัง ก็พลันได้ยินเสียงของเพื่อนๆที่ชวนให้คิดถึง เรื่องราวในวันเก่าๆ ในหอดูดาวอันเป็นสถานที่พิเศษของพวกเรา
ที่ดูจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็ชวนให้ตื่นเต้นจนตาเป็นประกาย ก็กลับมาแจ่มชัดสวยงามในความทรงจำ
ทุกคน ดึงมือฉันเอาไว้อย่างอ่อนโยน
แล้วฉันก็นึกได้ ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว นึกได้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายคิดไปเองว่าไม่มีใคร
โคฮารุ โนโนกะ โนเอล
แล้วก็......
คนที่เป็นห่วงฉัน ใกล้ชิดฉันยิ่งกว่าใครๆ ------ตานั่น
เพราะว่าพวกเรา อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เกิด
อยู่ใกล้กันขนาดที่เอื้อมมือก็ไปถึง อยู่ข้างกันขนาดที่หันไปมองก็เจอหน้า
ทั้งที่อยู่ในฐานะที่คุยกันได้ทุกเรื่องแท้ๆ แต่ฉันกลับเป็นฝ่ายที่หนีออกมาเสียเอง
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่แม้แต่คำพูดคำจาก็ไม่มีให้กัน
เพราะฉันไม่ยอมพูดคำนั้นออกไป คำที่ฉันควรจะพูด
แถมยังโยนความผิดทุกอย่างให้จานบิน
แต่ว่า ฉันก็ยังกลับมาได้
เรื่องที่ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ก็มีโนโนกะที่คอยเป็นห่วงเป็นใย
เรื่องที่ตัวเองทำอะไรแย่ๆลงไป ก็มาสำนึกได้ตอนที่ทำโคฮารุเจ็บปวดใจแทบขาด
ความกล้าที่ขาดไป ก็ได้กำลังใจจากโนเอลที่โบกมือน้อยๆให้
เพราะอย่างนั้น------
ภายใต้จานบินที่ฉันเคยเกลียด ฉันถึงได้พูดคำที่ตัวเองไม่เคยพูดคำนั้นออกมาได้
---ฉันขอโทษ! ขอโทษจริงๆ!
โคฮารุ โนโนกะ โนเอล แล้วก็พี่ชายฝาแฝดของฉัน โซตะ
---ไม่เอาจานบิน!
---มาไล่จานบินออกไปจากเมืองนี้กันเถอะ!
คำที่ฉันต้องพูดออกไป ไม่ใช่หนึ่งในคำพูดพวกนี้เลย
ฉันเหม่อมองไปไกลบนท้องฟ้ากว้างเหนือทะเลสาบคิริยะ ที่ไม่อาจเงยหน้ามองได้ตามใจชอบอีกต่อไปตั้งแต่จานบินได้ปรากฏขึ้นมา
จานบินที่ว่านั้น ยังคงลอยนิ่ง คอยเฝ้ามองพวกเราอยู่เหนือเมืองนี้เหมือนอย่างเคย
http://imgur.com/aDs38Sq ปกแผ่น6อัพแล้ว
http://imgur.com/ynLVluO
http://imgur.com/b9wTe1Z
http://imgur.com/vezf1kE
พรีวิวคัทจากOVA ที่จะแถมกับแผ่น7
Event report เก็บตกจากเดือนที่แล้ว อยากให้ทำแผ่นจัง
http://www.animate.tv/news/details.php?id=1432107050
http://tokyo-anime-news.jp/?p=33070
ยูซึกิเอ๊ย ทุกคนให้อภัยแล้ว
ยัยยูซึกิน่าจะอยู่เมืองไทยว่ะดังแน่นอน
เมื่อไหร่ค่ายนี้จะประกาศทำเมะเรื่องใหม่ อยากดูงานภาพสวย เพลงเพราะๆอีก
พูดก็พูดเถอะ ทุกวันนี้กูยังฟังโฮชิโนะคาเคระอยู่เลย หงุดหงิดอะไรมาก็เปิดเพลงย้อมใจ
http://imgur.com/GjuFZ7D ...เห็นพี่หล่อเป็นยูซึกิไปวูบนึง
ทีมงานใจร้ายฉิบจะให้พี่หล่ออยู่ข้างโคฮารุหน่อยก็ไม่ได้ ดันให้อยู่กับชิโอเนะเฉย รายนั้นมีโนโนกะอยู่แล้วนะ
ลืมบอกยอดแผ่น น่าจะพันกว่าเหมือนเดิมพอดียอดมันไม่ติดอันดับเลยไม่รู้
>>589
"----เฟรชจิงเจอร์เอลอีกแก้ว!"
ขณะที่ตะโกนสั่ง ในเวลาเดียวกัน เสียงชวนรื่นหูของน้ำแข็งที่กระแทกกันในแก้วซึ่งวางลงบนเคาท์เตอร์ก็ลอยออกมาให้ได้ยิน
"ยังจะดื่มอีกเหรอ? จะเยอะไปหน่อยแล้วรึเปล่า......"
เด็กสาวที่สวมเครื่องแบบนักเรียนโรงเรียนเดียวกันนั่งอยู่ข้างฉันตรงหน้าเคาท์เตอร์ ------ชิอิฮาระ โคฮารุ กระซิบบอกด้วยสีหน้า
ท่าทางดูไม่สบายใจมากกว่าที่จะชื่นชม
"นี่เพิ่งแก้วที่สามเองนะ? เอาน่า มันก็ต้องอารมณ์นี้แหละ!"
เงินตัวเองซะอย่าง ถ้าแค่น้ำผลไม้ จะสั่งอีกสักกี่แก้วก็ไหว
"ก็ถ้าจะดื่มแบบนี้ ไปร้านตัวเองก็ได้นี่นา ร้านยูซึกิก็ทำอร่อยออก"
ว่าแล้วโคฮารุก็ยกถ้วยกาแฟของตัวเองที่ไม่ใส่ทั้งนมและน้ำตาลขึ้นมาจิบ
จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าหลังๆมานี้ คุณแม่แกบ่นเรื่องน้ำตาลที่วางไว้ให้เติมเองในร้านหมดเร็วจริงอยู่บ่อยๆ
ต้นเหตุคงไม่ได้มาจากโคฮารุแน่ๆ
อย่างที่โคฮารุพูดนั่นแหละ บ้านฉัน---มิซึซากะ ยูซึกิ เปิดร้านอาหารอยู่ที่เมืองคิริยะโกะ
แต่ว่า ด้วยความที่ร้านน้ำชาในตัวเมืองโฮคุบินี่อยู่ใกล้โรงเรียนกว่า ก็เลยได้มาใช้บริการอยู่บ่อยๆ
เก้าอี้ตรงเคาท์เตอร์ที่นั่งอยู่วันนี้ ก็เป็นที่ประจำของฉันด้วยเหมือนกัน
"ก็ที่บ้านไม่มีเฟรชจิงเจอร์เอลในเมนูนี่นา แถมยังต้องช่วยงานที่ร้านอีก เลิกเรียนทั้งทีก็อยากจะปลดปล่อยบ้างอะไรบ้างแท้ๆ
นี่ยังจะให้มาทำงานต่ออีก ไม่เอาด้วยหรอก"
พอเท้าแขนกับเคาท์เตอร์ได้ที่แล้ว ฉันก็อ้างทันควัน
"แต่ถ้าได้ช่วยงานที่ร้าน คุณแม่ยูซึกิก็น่าจะดีใจนะ อ้อ แล้วก็จะได้จำสูตรอาหารได้ด้วยไง"
ไอเดียเก๋ โคฮารุที่ยกนิ้วชี้เหมือนจะบอกใบ้แบบนั้น
"......นี่ถ้าได้ยินจากคนอื่น จะเหมือนกับนึกว่าฉันทำอาหารไม่เป็นเลยนะ"
ฉันทำเสียงเป็นเชิงปฎิเสธอยู่ในที จังหวะพอดีกับทีพนักงานเอาเฟรชจิงเจอร์เอลแก้วใหม่มาเสิร์ฟ
คงมีแต่โคฮารุนี่แหละ ที่จะพูดเรื่องแบบนี้กับฉันได้แบบไม่รู้สึกอะไร
>>605
"แต่เท่าที่ได้ยินมาจากคนที่อยู่กลุ่มเดียวกับยูซึกิตอนวิชาคหกรรม รู้สึกทุกคนเค้าจะคิดเหมือนกันหมดเลยนะ"
โคฮารุเสริมให้อีกดอก ระหว่างที่รอพนักงานร้านเก็บแก้วเปล่าคืนไปแล้วเปลี่ยนเป็นแก้วใหม่ที่มีน้ำเต็มปริ่มให้
"อันนั้นมัน......ก็มีบ้างล่ะน่า! ก็แบบว่าบางทีเจอโจทย์ให้ทำของยากๆก็เลยมีพลาดบ้างแค่นั้นเอง...... "
"อันนั้นนี่หมายถึงอันไหนก็ไม่รู้หรอกนะ เพราะจะกี่รอบก็พูดแบบนี้ทุกที ตั้งแต่สมัยประถมแล้ว"
เชอะ นี่ล่ะถึงได้บอกว่ามีเพื่อนสมัยเด็กเรียนอยู่ห้องเดียวกันบ่อยๆมันไม่ดี
กับโคฮารุที่รู้เรื่องฉันไปซะหมดแบบนี้ ถึงจะเถียงต่อไปก็เปล่าประโยชน์
รู้แบบนี้แล้วแทนที่จะขัดขืนก็ยกแก้วขึ้นมาซดแบบว่ายอมๆไปซะจะดีกว่า
อื้ม หอมอร่อยเย็นชื่นใจ เสียจนลืมรสชาติแห่งความขื่นขมไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งของอาหารที่ทำเจ๊งในชั่วโมงคหกรรมเลยทีเดียว
นี่ก็เกือบจะลืมจุดประสงค์ที่แท้จริงที่เรียกโคฮารุมาคุยด้วยวันนี้ซะแล้ว
แต่ถึงบ่นไปมันก็เท่านั้นแหละ
ทั้งที่ต้องขอแรงโคฮารุช่วยแท้ๆ
จะเริ่มพูดยังไงดีนะ
พอทำท่าจะขยับปากที่ชุ่มไปด้วยจิงเจอร์เอล สุดท้ายก็ได้แต่ก้มลงมองแก้ว พูดอะไรไม่ออกอยู่ดี
สองมือของฉันประคองแก้วเอาไว้ราวกับจะสัมผัสให้ถึงความเย็นเฉียบของมัน
"โคฮารุ......"
"อืม?"
"......น้ำนี่น่ะ ยิ่งเย็นยิ่งอร่อยนะ โคฮารุไม่อยากลองดูบ้างเหรอ? นานๆทีไม่เป็นไรหรอก"
พูดลำบากจริงๆ
พอฤดูอากาศแจ่มใสอันแสนสั้นผ่านพ้นไป จากนี้ อากาศก็จะเริ่มหนาวเย็นลงอย่างรวดเร็ว
แต่ถึงอย่างนั้น ความเย็นที่สัมผัสได้จากทั้งสองมือนี้ก็ยังชวนให้ผ่อนคลายอยู่ดี
โคฮารุมองฉันออกอาการแบบนั้นแล้วก็ยิ้มๆ จากนั้นก็โพล่งขึ้นมาว่า
"----แล้ววันนี้ ยูซึกิมีเรื่องกลุ้มใจอะไรมาล่ะ?"
"เอะ......เอ๋?"
ฉันเผลออุทานออกไปแบบไม่รู้ตัว น้ำแข็งในแก้วที่ถืออยู่ก็ส่งเสียงกริ๊กเหมือนจะรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน
"ม-ไม่มีอะไรสักหน่อย......"
"มีเรื่องจะปรึกษาใช่มั้ย?"
ตอนที่ชวนมาด้วยหลังเลิกเรียนก็ยังไม่ได้บอกอะไรแท้ๆ แต่คำพูดที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจของโคฮารุกลับแทงซะตรงจุด
"ก็ทำนองนั้น......"
พอแอบเหลือบมองโคฮารุแวบหนึ่ง ก็เห็นว่าเจ้าตัวกำลังมองฉันอยู่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะไหลหลบไปเรื่องอื่นได้แน่ๆ
"......ทำไมถึงรู้ล่ะ?"
พอได้ยินฉันถามแบบนั้น โคฮารุก็หัวเราะคิก
"ยูซึกิน่ะชวนฉันมาร้านนี้ทีไร ก็ต้องมีเรื่องกลุ้มใจไม่ก็มีเรื่องอะไรจะปรึกษาทุกทีนี่นา?"
โคฮารุพูดเหมือนว่ามันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว
ถึงจะไม่ได้หมายความอย่างนั้น แต่ฉันก็ตั้งใจไว้ว่าคราวหน้าจะระวังตัวให้มากกว่านี้
เอาเถอะ เรื่องนั้นก็ส่วนเรื่องนั้นก็แล้วกัน......
>>606
"ที่จริงก็ไม่เชิงว่าเป็นเรื่องที่ถึงกับต้องกังวลหรอก......"
พอขึ้นต้นมาอย่างนั้น โคฮารุก็นิ่งเงียบ รอคำพูดต่อไปของฉันอย่างใจจดใจจ่อ
ความสัมพันธ์ของฉันกับโคฮารุ ไม่ใช่ประเภทที่จะมาปั้นเรื่องหลอกกันได้
ยิ่งไปกว่านั้น ฉันก็ตั้งใจไว้แล้วด้วยว่าจะไม่ปิดบังเรื่องอะไรในใจกับเพื่อนคนนี้อีก
----เพราะในวันนั้น
ฉันได้สาบานต่อแสงที่ราวกับดอกไม้ไฟบนฟ้าเอาไว้แล้ว
"......เรื่องโซตะน่ะ"
แค่คำเดียว ราวกับลมหายใจช่วงสั้นๆ
"ทะเลาะกันเหรอ?"
โคฮารุเปิดฉากซักก่อนเบาๆ เหมือนถามเด็กประถมที่กำลังหลงทางว่าบ้านอยู่ที่ไหน
"อื้ม ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก"
ความสัมพันธ์กับโซตะที่ขาดกันมานาน กลับมาได้อีกครั้ง เพราะโคฮารุ โนโนกะ และโนเอล
แต่ว่า
"เรื่องมันเกิดเมื่อเช้านี่เอง...... คือว่า ตอนที่เตรียมจะไปโรงเรียนเหมือนทุกที พอกำลังจะออกจากบ้าน...... ก็เจอโซตะที่ประตู"
"......?"
โคฮารุเอียงคอด้วยความประหลาดใจ
ก็อยู่บ้านเดียวกัน เรียนโรงเรียนเดียวกัน อยู่ชั้นเดียวกัน จะบอกว่ามันก็เป็นอย่างนั้นเอง มันก็ต้องแน่อยู่แล้วสิ
แต่เรื่องที่ว่าแน่อยู่แล้วนั่นแหละ ที่จนบัดนี้ก็ยังเป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้ยากขนาดบอกว่าแทบจะไม่เคยก็ยังได้
ไม่ว่าจะฉัน หรือโซตะ หรืออาจจะเป็นทั้งคู่ ฉันไม่รู้จริงๆว่ามันเริ่มจากใครกันแน่ มันอาจจะมาจากจิตใต้สำนึกก็ได้
ที่พวกเราเลี่ยงจะออกจากบ้านด้วยกันมาตลอด
กลัวการอยู่ด้วยกันแค่สองคน มาตั้งไม่รู้กี่ปีแล้ว
ถ้ารู้สึกว่าโซตะอยู่ที่ประตู ฉันที่กำลังจะออกจากบ้านก็จะกลับเข้าห้องตัวเอง เอาแต่ใจลอยจ้องโปสเตอร์บนผนัง ปล่อยให้เวลาผ่านไป
ส่วนตอนที่ฉันใส่รองเท้าอยู่ที่ประตู โซตะก็จะถือกระเป๋าหลบอยู่ตรงสุดทางเดินเฉยๆอย่างนั้น
นี่ล่ะคือภาพของยามเช้าที่ชินตามาแต่ไหนแต่ไรจนถึงตอนนี้
แต่ว่าเช้านี้ มันต่างไปจากที่เคย
"แล้วพอฉันสวมรองเท้า โซตะก็เดินมาสวมรองเท้าข้างๆด้วย ......แล้วทีนี้ฉันก็เผลอพูดออกไปแบบไม่ตั้งใจว่าเพิ่งนึกได้ว่าลืมของ ขอกลับเข้าห้องก่อน
แล้วก็ให้โซตะไปก่อนไม่ต้องรอ......"
ที่จริงแล้ว ก็เหมือนกับทุกที
ระหว่างที่มาเสียใจทีหลังว่าทำไมตัวเองถึงพูดแบบนั้นออกไป ก็ได้แต่มองโปสเตอร์หนังในห้องตัวเอง
"............"
โคฮารุมองฉันตรงๆ ตั้งใจฟังทุกๆคำที่พูดออกมา
"ทั้งที่เป็นโอกาสที่พวกโคฮารุอุตส่าห์ช่วยกันสร้างมันขึ้นมาแท้ๆ......"
>>607
พี่ชายกับน้องสาว
ก่อนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน ฉันกับโซตะก็อยู่ด้วยกันสองคนเสมอ
ถึงจะกลับไปเหมือนตอนนั้นไม่ได้อีกแล้วก็จริง แต่ฉันก็คิดนะ ว่าจากนี้ไป เราอาจจะยังเดินไปด้วยกัน บนทางสายเดียวกันได้
เหมือนสมัยเด็ก ที่เคยอยู่ห้องเดียวกัน
"ทั้งที่เป็นอย่างนั้นแท้ๆ แต่พอนึกถึงตอนที่อยู่กับโซตะแค่สองคนทีไร ฉันกลับไม่รู้เลยว่าตัวเองควรทำหน้ายังไง หรือควรจะพูดอะไร......
เพราะทั้งฉันทั้งโซตะ ต่างคนต่างก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว......"
เมื่อก่อน ก็อยู่ด้วยกันตลอด
จะคุยเรื่องอะไรก็ได้หมด จะยิ้มก็ยิ้มไปด้วยกัน
เป็นเรื่องปกติธรรมดา เสียจนไม่เคยคิดเลยว่าต้องมาแยกจากกัน
"ป่านนี้แล้ว จะให้คุยอะไรกันอีกดีล่ะ......"
วันเวลาผ่านไปเสียนาน
ไม่ว่าจะพยายามทำให้มันกลับเป็นเหมือนเดิมสักเท่าไหร่ ก็ยิ่งกลายเป็นว่าไม่รู้ต้องทำยังไงเข้าไปทุกที
พอไม่รู้ว่าต้องทำยังไง สุดท้ายก็กลายเป็นความกลัว
"---นั่นน่ะ เรียกว่าคิดมากไปเองเสียมากกว่านะ"
โคฮารุเอ่ยขึ้นมาเงียบๆ
"ไม่ใช่ว่าจะให้กลับไปเป็นเหมือนยูซึกิกับโซตะสมัยก่อนสักหน่อย แต่เป็นอย่างที่ทั้งคู่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ดีอยู่แล้วรึเปล่า"
"แบบนั้นก็เหมือนว่าไม่ได้เปลี่ยนไปจากที่ผ่านๆมาเลยน่ะสิ......"
ฉันทำหน้างอใส่นิดหน่อย ขณะมองหน้าอีกฝ่าย
โคฮารุหัวเราะเบาๆ ดูท่าทางชอบใจ
"ที่ยูซึกิเอาเรื่องโซตะมาปรึกษาด้วยเนี่ย จนป่านนี้ก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะ
ฉันว่าเป็นแบบนี้ต่อไปนี่แหละดีแล้ว ให้มันค่อยเป็นค่อยไปอย่างนี้นี่ล่ะ"
"มันอาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้...... แต่จะว่าไปรู้สึกเหมือนโดนหลอกให้คิดงั้นยังไงพิกลแฮะ "
รอยยิ้มที่ลอยอยู่บนหน้าโคฮารุนั้น ก็อาจตีความได้ทั้งใช่หรือไม่ใช่
"ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องรีบร้อนอะไรไม่ใช่เหรอ?"
"แต่รายนั้นน่ะ มีพูดเรื่องอะไรที่ไม่เข้ากับตัวเองเลย อย่างเรียนจบแล้วจะไปต่อเมืองนอกด้วยนะ"
พอได้ยินคำว่าไปเรียนต่อเมืองนอก ฉันก็สังเกตว่าสีหน้าโคฮารุดูเหงาๆ นิดหน่อย แต่ก็แค่เท่าที่เห็นนั่นล่ะ ฉันอาจจะคิดไปเองก็ได้
"ไปเรียนต่อนอกน่ะ สักวันก็ต้องกลับมาอยู่ดีนะ อีกอย่าง ยังมีเวลาอีกตั้งครึ่งปีไม่ใช่เหรอ?
ยูซึกิไม่ต้องกังวลไปหรอก กว่าจะถึงตอนนั้นก็ยังมีโอกาสอีกตั้งเยอะ"
"......อื้ม นั่นสินะ"
ที่จริง ฉันก็คิดอย่างนั้นอยู่เหมือนกัน แต่มาสบายใจสุดก็ตรงได้ยินจากโคฮารุนี่แหละ
"โอกาสที่ใช้พัฒนาความสัมพันธ์เนี่ย น่าจะเริ่มจากเรื่องเล็กๆน้อยๆก่อนนะ ......ถ้าของฉันก็คงเป็นเรื่อง คิริกอน ล่ะมั้ง"
"คิริกอน?"
มันคือชื่อของสัตว์ประหลาดที่เป็นต้นแบบของป้ายที่ตั้งอยู่หน้าร้านชิอิฮาระสาขาหลัก
"เมื่อตอนพวกเราเด็กๆ เพราะทุกคนช่วยกันทำป้ายนั้นให้ ตั้งแต่นั้นมาฉันก็เลยสนิทกับพวกยูซึกิไง"
เรื่องนั้น ฉันเองก็เพิ่งเคยได้ยินจากปากโคฮารุเป็นครั้งแรก
โคฮารุที่เหมือนจะเขินอยู่หน่อยๆ หลบตาไปทางอื่นแล้วยกถ้วยกาแฟที่ยังเหลืออยู่ขึ้นมาจิบ
"......อ๊ะ จริงสิ เดี๋ยวฉันต้องรีบกลับแล้วล่ะ พอดีคุณแม่เค้าฝากให้ช่วยงานที่ร้าน"
โคฮารุดูเวลาจากนาฬิกาในร้าน แล้วมองฉันแบบรู้สึกผิด
"ขอโทษนะ ยูซึกิ"
"อื้ม ทางฉันต่างหากล่ะที่เป็นคนขอให้มาด้วย ขอบใจนะ โคฮารุ"
คิดถูกจริงๆนั่นล่ะ ที่มาขอคำปรึกษาจากโคฮารุ
ค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย
"งานจับสลากชิงโชคของชุมนุมเมืองใกล้จะเริ่มแล้วด้วย ช่วงนี้คุณแม่คงยุ่งๆกับเรื่องเตรียมงานน่ะ"
จะว่าไปแล้ว ช่วงนี้ของทุกปีก็มีทำอะไรแบบนั้นกันนี่นะ......
โคฮารุลุกจากเก้าอี้
ส่วนฉันยังนั่งเหม่อ แกว่งแก้วในมือไปมา ด้วยการที่ดื่มไปคุยไป ตอนนี้ในแก้วเลยแทบจะเหลือแต่น้ำแข็งซะแล้ว
"ยูซึกิล่ะ ไม่กลับเหรอ?"
"อื้อ ขออยู่ต่ออีกหน่อย"
"งั้นเหรอ อย่าดื่มเยอะนักล่ะ"
พอต่อปากต่อคำกันเสร็จ โคฮารุก็รีบออกไป
ดูท่าจะอยู่กับฉันซะจนเวลาจวนเจียนจริงๆ
ต้องขอบคุณโคฮารุจริงๆนั่นล่ะ
จะมีสักวันที่เราจะทำอะไรให้โคฮารุกับทุกคนได้บ้างมั้ยนะ......
แต่ก่อนจะไปถึงขั้นนั้น ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำให้มันชัดเจนซะก่อน
"----เฟรชจิงเจอร์เอล อีกแก้ว"
ขณะที่นั่งเหม่อคิดถึงเรื่องพวกนั้นอยู่ ฉันก็พ่นประโยคเดิมที่เป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวันนี้ให้พนักงานได้ยินอีกรอบ
เสาร์อาทิตย์จะมาต่อให้จบบทยูซึกินะครับ ส่วนโคฮารุกับชิโอเนะ ตอนนี้แผ่นอยู่ในมือแล้ว คงจะทยอยลงเหมือนเดิม
https://www.youtube.com/watch?v=9UzEzuASQcQ
ตอนพิเศษแถมมาในแผ่น 7 แจ้งยอดขายแผ่น 5 ได้ 1,166 แผ่น
>>609 ขอบคุณมากๆครับ
秋谷 @akiyayukie 35m35 minutes ago
秋谷 retweeted アニメ「天体のメソッド」公式
久しぶりにメソットです!今回汐音さん特に楽しく描いてました。宜しくですー
---ปกแผ่นสุดท้าย สงสัยจะเป็นชิโอเนะซะล่ะมั้ง
ปล. มาจากทวิตคาราดีไซน์ อาคิยะ ยูคิเอะ
ชิโอเนะขึ้นแผ่น5แล้วคงไม่น่ามาขึ้นเดี่ยวๆอีก อย่างน้อยคงมีโนโนกะกับโนเอล แต่เดาว่าอาจจะเป็นปกรวมทุกคน ว่าแต่พี่หล่อปกเดี่ยวนี่หมดสิทธิ์แล้วซินะ ปกแผ่น6ก็เป็นโนโนกะตอนเด็กกับโนเอล
ถ้ามาเดี่ยว สงสัยจะเป็นชิโอเนะชุดเดรสกับหมวกฟาง
http://imgur.com/et5hEXt
http://imgur.com/nOUAALj
แปะรูปอิโนรินหน่อยเดี๋ยวลืมนู๋โนเอลกัน
http://imgur.com/GpJ4ric ซีซั่นหน้าได้พากย์ตัวร้ายในซิมโฟเกียร์ด้วยนะ อิโนริน
>>608
"อุ๊ฟ...... ดูท่าจะดื่มหนักไปหน่อย......"
นับจากที่แยกกับโคฮารุ นี่ก็ผ่านมาราวชั่วโมงหนึ่งแล้ว
ตอนที่เดินเอ้อระเหยออกมาจากร้านน้ำชา ฟ้าก็เริ่มจะมืดพอดี
จะบอกว่าเอ้อระเหยนี่คงไม่ถูกเท่าไหร่ ที่จริงน่าจะเรียกว่าเดินอืดออกมามากกว่า
ขณะที่ยังรู้สึกได้ถึงของเหลวโคลงเคลงไปมาในท้อง ฉันก็อาศัยเดินตามคนมากมายยิ่งกว่าที่คิริยะโกะมุ่งหน้าไปยังสถานีโฮคุบิ
บัสเทอร์มินัลอยู่ติดกับสถานีโฮคุบิ
คนที่มาขึ้นรถไฟที่นี่มีเยอะก็จริง แต่ฝั่งรถบัสกลับดูบางตา ส่วนรถบัสที่ไปคิริยะโกะก็ยิ่งน้อยลงไปอีก
โพรงอากาศฝีมือมนุษย์ หน้าตาเหมือนอุโมงค์ที่เปิดกว้างเข้ามาในตัวอาคาร ข้างในนั้นมีป้ายรถบัสเรียงกันอยู่เป็นแถว
เป็นสถานที่ที่แม้จะเจอฝนหรือหิมะก็ยังใช้งานได้อยู่ แต่เนื่องจากวันนี้อากาศแจ่มใส ก็เลยไม่ค่อยเกี่ยวกับที่ว่ามาสักเท่าไหร่
พอเข้ามาถึงบัสเทอร์มินัลแล้ว ฉันก็มองสำรวจดูภายในอาคารอีกที
"อ๊ะ"
รถบัส กำลังจะออกจากป้ายรถที่มองหาอยู่พอดี
"ไปด้วยค่า ไปด้วย!"
มือฉันนั้นโบกไหวๆ แต่ตัวนั้นพุ่งไปหารถบัสที่กำลังจะออกจากป้ายแบบสุดฝีเท้า
ไม่ว่าจะเป็นเพราะความพยายามอันแรงกล้านั้นสัมฤทธิ์ผลก็ดี หรือว่าเรี่ยวแรงมันพัฒนาขึ้นมาเองจากเมื่อตอนกลางวันก็ดี
ในที่สุดรถบัสก็จอดรอจนฉันวิ่งมาขึ้นทันจนได้
"ฟู่--- เซฟ......"
ยังรู้สึกแน่นๆท้องอยู่เลย
ตัวฉันที่อยู่ในสภาพเหมือนเกาะราวจับอยู่ ค่อยเงยหน้าขึ้นมองหาที่นั่งในรถ
"อา......"
เหมือนกับตอนที่เพิ่งเจอรถบัส
เพียงแต่ว่า เสียงที่หลุดรอดออกมาจากปากตัวเองนั่นเบากว่ากันมาก
ผู้โดยสารที่ขึ้นรถมาก่อนหน้าฉัน มีแค่คนเดียว
แล้วฉันกับผู้โดยสารคนนั้นก็สบตากัน
เขาคนนั้นในชุดเครื่องแบบนักเรียนชายโรงเรียนเดียวกันกับฉัน นั่งอยู่คนเดียวตรงที่นั่งที่จัดไว้ให้สองคน
"............"
กำลังมองฉันที่ยังยืนเกาะราวจับอยู่
มิซึซากะ โซตะ
พี่ชายฝาแฝดของฉันเอง
>>618
แล้วฉันก็เผลอทำเป็นไม่สนใจ หลบตาไปทางอื่นโดยไม่รู้ตัว
ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเมื่อเช้าเลย
เกลียดตัวเองจริงๆ
เพราะอย่างนั้น ฉันถึงได้ไปปรึกษาโคฮารุ จนได้คำแนะนำมาแท้ๆไม่ใช่รึไง
ทำยังไงดี
ความรู้สึกมากมายหลายอย่าง มันปนเปกันจนเหมือนจะหมุนติ้วๆอยู่ในหัว
จริงสิ โคฮารุ เรื่องที่โคฮารุพูด อะไรแล้วนะ------คิริกอน? คิริกอนเป็นตัวช่วยสร้างโอกาสให้โคฮารุ
อ๊า----รถบัสเริ่มวิ่งแล้ว ถ้าไม่รีบนั่งเดี๋ยวได้มีปัญหากับคนขับแน่เลย
คำพูดที่โคฮารุพูดไว้
โอกาส เริ่มต้นจากเรื่องเล็กน้อย
จริงด้วย อย่างนี้นี่เอง
ถ้าเรื่องเล็กน้อยมันจะกลายเป็นโอกาสขึ้นมาได้ ของฉันก็ต้องเป็นการที่ได้ขึ้นรถบัสรอบค่ำกับโซตะนี่แหละ
ฉันเดินเข้าไปข้างในรถ แล้วมาหยุดยืนตรงข้างที่นั่งที่โซตะนั่งอยู่
"ขอนั่งข้างๆ ได้รึเปล่า?"
ฉันพยายามเกร็งเสียงแบบสุดๆ
แบบที่ว่าอย่าให้ได้ยินแล้วรู้สึกว่าไม่เป็นธรรมชาติ ให้ออกมาธรรมดา เหมือนกับว่าไม่ได้คิดอะไรในใจ
แต่โซตะกลับเงยหน้ามองฉันด้วยท่าทางสงสัย
"......จะถามทำไมเนี่ย ไม่อายชาวบ้านเค้าบ้างรึไง"
"ว-ว่าไงนะ!"
ชักเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว
คนเค้าอุตส่าห์ตั้งใจมาอย่างดี
"เปล่าๆ ไม่ใช่อย่างนั้น เอ้อ ไอ้นั่นไง......น่าจะรู้ไม่ใช่เหรอ"
โซตะที่ไม่รู้จะอธิบายยังไงได้แต่เอามือเกาหัว
"แล้วมันอะไรเล่า!"
"มีพี่น้องที่ไหนที่เค้าต้องออกปากถามอะไรอย่างนั้นกันด้วยเหรอ......นั่นล่ะ ที่จะบอก"
"......อ่า"
"จะนั่งก็นั่งเถอะ เดี๋ยวจะโดนคนขับประกาศเตือนเอา"
พูดเสร็จโซตะก็ขยับเข้าไปนั่งชิดริมหน้าต่าง
ส่วนฉันก็นั่งลงข้างๆ
ผู้โดยสารทั้งคันมีแค่ฉันกับโซตะสองคน
แล้วรถบัสที่เหมือนกับจะรอให้ฉันนั่งอยู่ ก็เคลื่อนตัวออกไป
>>619
รถบัสประจำทางที่ออกจากสถานี เลี้ยวออกจากถนนใหญ่แล้วแล่นเข้าไปทางช่องเขา
ตึกสูงที่เรียงรายอยู่ตามแนวถนนใกล้ๆสถานีโฮคุบิ เริ่มทยอยหายไป ภาพที่มองเห็นจากหน้าต่างรถบัสเริ่มถูกแทนที่ด้วยภูเขาน้อยใหญ่
ทั้งสองฝั่งซ้ายขวา
ทิวทัศน์ธรรมดาๆที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
แล่นไปบนถนนเส้นเดิม ด้วยความเร็วเท่าเดิม
เส้นทางไปกลับเดิมๆที่คุ้นเคย
วันธรรมดาก็ใช้ไปกลับจากโรงเรียน วันหยุดก็ใช้ตอนจะไปซื้อของ สุดท้ายก็กลายเป็นรถประจำทางที่ได้ขึ้นแทบทุกวัน
ทั้งที่เป็นอย่างนั้น แต่วันนี้ฉันกลับสงบสติอารมณ์ไม่ได้เลย
ต้นเหตุก็มาจากโซตะที่นั่งอยู่ข้างๆนี่ล่ะ ทำเอาสติกระเจิงไปไกล
ก็รู้อยู่หรอกว่ามาหงุดหงิดแบบนี้มันไม่มีเหตุผล เพราะตัวเองเป็นฝ่ายที่มานั่งทีหลังเอง
แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ......
"......รถบัส โล่งจังเนอะ"
ผู้โดยสารบนรถ ยังมีแค่สองคนเหมือนเดิม คือฉันและโซตะ
"ก็เป็นแบบนี้ประจำอยู่แล้วนี่"
"......เรื่องนั้นมันก็จริงอยู่"
"เอาเถอะ อีกอย่างนึงนี่มันก็เลยเวลาปกติมาแล้วด้วย จะบอกว่าคนน้อยเพราะมันไม่ใช่ช่วงเวลาเร่งด่วนก็คงใช่"
โซตะที่พิงศอกเข้ากับขอบหน้าต่าง พูดออกมาลอยๆ ขณะที่มองไปยังข้างนอกที่มืดสนิทไปแล้ว
แล้วบรรยากาศในรถ ก็ตกลงสู่ความเงียบอีกครั้ง
ไม่ไหว ต้องหาเรื่องคุยต่อให้ได้ เรื่องอะไรก็ได้
"......โซตะ"
"หืม?"
"เอ่อ...... แล้วไหงโซตะถึงมาขึ้นรถเอาป่านนี้ได้ล่ะ!"
พอเผลอพูดอะไรออกไปไม่ทันได้คิด ก็ดันกลายเป็นคำขึ้นเสียงด่าไปซะอีก
"แล้วไหงอะไรล่ะ...... ก็ถ้าจะกลับบ้าน มันก็ต้องเวลานี้อยู่แล้วนี่"
"กลับซะค่ำขนาดนี้ ไปทำอะไรมา? เลิกเรียนแล้วก็ต้องตรงกลับบ้านเลยสิ อย่ามัวแต่เถลไถล"
พูดเสร็จพอหันไปข้างๆ ก็เจอโซตะที่หันมามองฉัน ทำหน้าอึ้งๆ
"......นี่เธอ ที่พูดออกมานี่เข้าตัวกลับไปหมดเลยนะ"
"อุก"
ก็นั่นแหละ
ฉันได้แต่ทำเสียงอื้อในคอ แล้วบทสนทนาก็จบลงไปอีกรอบ ทำอะไรลงไปเนี่ย......ตัวฉัน
>>620
"----แล้ว ยูซึกิล่ะ ไปทำอะไรที่ไหนมา?"
"เห?"
ขณะที่ความรู้สึกอันผสมปนเปกันระหว่างเกลียดตัวเองกับสำนึกผิดกำลังหมุนติ้วๆเป็นวังวนอยู่ในหัว
ตัวฉันที่โดนเรียกชื่อตอนที่อยู่ในภวังค์นั้นก็ทำเสียงมึนๆออกมา
"จะมาทำมึนอะไรอีกล่ะ"
"ต-ตรงไหนกันยะ!"
ถึงจะคิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่ด้วยความที่เจ็บใจ งานนี้ขอเถียงเต็มที่
จากนั้นก็ไหลกลับเข้าเรื่องอีกที
"ฉันน่ะนะ เอ้อ ก็แค่ไปนั่งกินลมชมวิวกับโคฮารุที่ร้านน้ำชาเท่านั้นแหละ!"
"โคฮารุ? ไม่เห็นอยู่ด้วยเลยนี่"
"ก็เค้ากลับไปก่อนแล้วไง! ได้ยินว่าต้องไปช่วยงานที่ร้าน...... แต่ยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับโซตะอยู่แล้วนี่!"
"ถึงจะไม่เกี่ยว แต่คนที่ถามฉันทีแรกว่าหลังเลิกเรียนไปทำอะไรมาก็ยูซึกิเองไม่ใช่รึไง?"
......เออ มันก็จริงแฮะ
"ล-แล้วโซตะล่ะ?"
"คุยกับพวกเพื่อนๆในชั้นอยู่น่ะ"
"อะไรน่ะ ธรรมดาจัง"
พอหันไปมองแบบเซ็งๆ โซตะก็มองฉันกลับด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์อยู่เหมือนกัน
"ธรรมดาแล้วมันมีปัญหาตรงไหนรึไง แล้วมันต่างกับของยูซึกิตรงไหน ของเธอก็แค่ไปคุยกันที่ร้านน้ำชาเองนี่"
"ก็บอกแล้วนี่ว่ากินลมชมวิว"
"ก็ได้แค่พูดนั่นแหละ อีกอย่างถ้าจะไปร้านน้ำชา ไปที่บ้านดีกว่ามั้ย"
โซตะพูดเหมือนกับโคฮารุเด๊ะ
"ก็ฉันอยากดื้มเฟรชจิงเจอร์เอลนี่!"
"งั้นก็ทำเองสิ ของทำก็มีนี่"
"ท-ทำเอง......?"
"ถึงจะทำอาหารไม่เอาอ่าวแค่ไหน แต่เรื่องแค่นี้อย่างยูซึกิน่าจะทำเองได้อยู่นะ"
"............"
"......ทำไม่เป็น เรอะ?"
คราวนี้ฉันไม่มีแม้แต่เสียงอื้อจากในคอ
>>621
พอถามสารทุกข์สุขดิบเสร็จ ไม่ทันไรโซตะก็หันกลับไปมองนอกหน้าต่างเหมือนกับตอนแรกอีกรอบ
ขณะเดียวกันนั้น ทิวทัศน์นอกหน้าต่างก็ขาดหายไป
อุโมงค์ที่เชื่อมไปยังเมืองคิริยะโกะ รถบัสกำลังเข้าสู่ช่วงที่ต้องลอดผ่านอุโมงค์ที่ว่านั้น
ฉันเห็นสีหน้าโซตะที่มองออกไปข้างนอก สะท้อนอยู่บนกระจกหน้าต่าง
โซตะทำหน้าประหนึ่งว่าภูมิใจมากที่เอาชนะฉันได้หลังจากที่ต้อนฉันเสียจนมุม......ก็แน่ล่ะสิ
ไม่มีท่าว่าจะโกรธกันเลยสักนิด
โซตะ----- ดูท่าจะสนุกน่าดู
แต่แล้วเจ้าตัวก็หยุดยิ้ม เก็บอาการตัวเอง เหมือนกลัวว่าใครจะรู้
ฉันรุ้สึกอย่างนั้น
เพราะว่าฉันรู้ยังไงล่ะ
เรื่องที่ถึงเจ้าตัวจะทำเป็นไม่สนใจ แต่ก็ยังคอยดูแลเอาใจใส่ฉันอยู่ตลอด
"จะว่าไป------"
โซตะพูดขึ้นมาลอยๆ ขณะเดียวกัน เงาที่เปิดปากพูดก็สะท้อนอยู่บนกระจกหน้าต่าง
"งานโฮคุบิปีนี้ จะเอาไงดีหว่า"
คำพูดนั้น ที่จริงก็ไม่ได้มีความหมายอะไร ฟังยังไงก็เป็นบทสนทนาธรรมดาทั่วไปในชีวิตประจำวัน------
"ได้ยินว่าปีสามเขาให้เข้าร่วมตามความสมัครใจนี่"
"เรอะ ถ้างั้นห้องฉันขออยู่เฉยๆไม่ต้องทำอะไรดีกว่า"
"ปีก่อนของโซตะทำอะไรกันเหรอ?"
"คาเฟ่ขนมญี่ปุ่น"
"อี๋ เชยสุดๆ"
"แล้วยูซึกิล่ะ"
"บ้านผีสิง"
"เข้าท่าดีนี่ แล้วตอนปีหนึ่งล่ะ"
"บ้านผีสิง"
"เป็นฝ่ายขายเรอะ"
ไม่มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ จะเรียกว่าเป็นเนื้อหาสาระอะไรก็ไม่ใช่
"......จะยังไงก็เถอะ ปีนี้ก็คงต้องหาอะไรทำสักอย่างล่ะนะ"
"นั่นสิ......"
ก็แค่พูดไปตามสิ่งที่คิด สิ่งที่ลอยออกมาจากใจเท่านั้นเอง-----
"ไปลองปรึกษาโคฮารุกับโนโนกะดูดีไหมนะ งานโฮคุบิปีนี้เป็นปีแรกของโนโนกะซะด้วยสิ
อ๊ะ ถ้างั้นยิ่งต้องชวนชิโอเนะด้วยเลย!"
เรื่องง่ายๆอย่างนั้น กลับทำให้ตัวฉันในตอนนี้รู้สึกดีใจยิ่งกว่าอะไร-----
"นี่ถ้าเกิดว่าอยากจะทำอะไรกันขึ้นมา----- พี่โซตะก็พร้อมจะร่วมวงด้วยแน่นอนสินะ?"
"-----นั่นล่ะ"
ถึงจะกลับไปเหมือนสมัยเด็กไม่ได้ แต่ก็ยังก้าวเดินไปพร้อมกันเหมือนสมัยนั้นได้
รู้ตัวอีกที ก็มองเห็นปลายทางอุโมงค์ฝั่งเมืองคิริยะโกะอยู่เบื้องหน้ารถบัส
อีกไม่นาน รถก็จะออกจากอุโมงค์แล้ว
"เอ้อ"
"หืม?"
"ขอโทษนะ"
"......อะไรอีกล่ะ"
คราวนี้ ฉันสื่อความหมายเข้าใจง่ายเสียจนโซตะต้องหันหน้าหลบ
พอรถบัสแล่นออกมาจากอุโมงค์ได้ ทัศนียภาพโดยรอบก็กลับมากว้างขึ้นในชั่วอึดใจ
ใบหน้าของโนโนกะ อยู่ๆก็แวบขึ้นมาในความคิด
พอมองดูฝ่ามือของตัวเอง ก็ยังรู้สึกได้ถึงความเจ็บแปลบบนนั้น
ฉันอยากจะขอโทษโนโนกะให้เป็นเรื่องเป็นราวอีกสักครั้ง
อืม ทำเรื่องแบบนั้นลงไป จะให้ขอโทษอย่างเดียวก็คงไม่พอสินะ
ถึงโนโนกะจะยกโทษให้ แต่ฉันคงไม่ยอมอภัยให้ตัวเองแน่------
ฉันจะต้องผ่านมันไปให้ได้
ณ ที่แห่งนั้น จานบินที่ลอยอยู่เหนือท้องฟ้าและทะเลสาบคิริยะ ยังคงทอแสงเป็นประกายอ่อนโยน ราวกับจะมอบความสว่างไสวให้กับตัวเมือง
มันมาต่อกับซีนนี้เอง
http://imgur.com/IW11Zi2
ปกแผ่นสุดท้าย
http://imgur.com/TLItJre
นั่นไงพี่หล่อ กลางจอเลย แผ่นสุดท้าย
แต่ถ้านับว่าคนขึ้นปกจะได้เป็นตัวเอกนิยายประจำเล่ม กับต้องตรงกับช่วงเนื้อเรื่องในแผ่นนี่ นึกเนื้อเรื่องพี่หล่อที่จะมาเสริมกับเรื่องหลักไม่ออกเลยนะ
วันนี้มีงาน洞爺湖マンガアニメフェスタ ที่โทยะ มีบูทโซระเมโสะไปเปิดด้วย ใครอยากเห็นบรรยากาศลองส่องๆในทวิตดูได้
แค่พี่หล่ออยู่ตรงกลางแต่ความเด่นที่หายไปกับดอกทานตะวัน //กุมหน้า
http://dimension-w.net/
เมะใหม่ทำร่วมกับ orange
>>634 https://www.youtube.com/watch?v=xH5sYIkWV_U งานดูไปคนละทางกับโซระเมโสะเลย
>>635 https://www.youtube.com/watch?v=8B9EJCCXVhE แก้ลิงค์ ลิงค์บนมันบล็อค
ไปกระทู้ upcoming ดิ
http://www.animate-onlineshop.jp/products/detail.php?product_id=1333357 เซทเทย์ ออกเดือน 8 ใครใคร่อยากเก็บ เชิญสั่งจองกันได้
โปรโมชั่นส่งเสริมการขายของร้านชิอิฮาระ
http://imgur.com/QntXVUd
http://imgur.com/OMX7O8Z
http://imgur.com/Tp8GyuG
http://imgur.com/81V5LN0
http://imgur.com/9sSdPuB
http://imgur.com/yjVSSBC
http://imgur.com/r9mmgvj
เซ็ทแสตนด์โนเอล โปสเตอร์และแฟ้มที่ขายในงานโทยะอนิมังกะเฟสฯ และคัทของจริงแบบสุ่ม 1 ใบ
ขอขอบคุณ #ผู้มีอุปการะคุณ ด้วยครับ
เดือนนี้แล้วนิหว่าแผ่นสุดท้ายออก มีตอนพิเศษแถมด้วยใช่มะ
「วันหนึ่งของร้านชิอิฮาระ」
ตั้งแต่เช้าวันใหม่ที่แสงอาทิตย์จากโลกภายนอกซึ่งกั้นไว้ด้วยบานกระจกส่องผ่านเข้ามาจนจรดแทบเท้า
จวบจนกระทั่งหมดวัน ไม่ใช่หมายถึงเวลาที่ดวงอาทิตย์ลับฟ้า แต่เป็นเวลาที่ผู้คนที่จ๊อกแจ๊กจอแจหายไป แสงไฟตามอาคารบ้านเรือนดับลงจนหมด
เวลาที่ประตูทางเข้าปิดลง
เขา----หรืออาจจะเป็นเธอ ก็ยังคงเฝ้ามองทะเลสาบยามค่ำคืนจากภายในห้องโถงใหญ่ที่มืดมิดและเงียบสงัด
ร่างที่ใหญ่และแบนราบของเขานั้น ได้แบกรับสิ่งสำคัญเอาไว้มากมาย
บนตู้ที่วางกั้นห้องเอาไว้ ยังมีขนมหวานที่ห่อด้วยกระดาษพิมพ์ลายรูปเขาวางเรียงกัน อีกตู้หนึ่งก็มีสแตรปอันจิ๋วที่ทำเลียนแบบตัวเขาแขวนโชว์อยู่
บนผนัง ก็มีโปสเตอร์กับผ้าแขวนรูปทะเลสาบและตัวเขาที่โผล่หน้าขึ้นมาจากผิวน้ำ ท่าทางดูห้าวหาญ แปะทับด้วยป้ายราคาสีออกซีดๆ
ตัวเขาในยามค่ำคืน ยังคงยืนประจำอยู่ที่เก่า คอยปกป้องเหล่าสินค้าที่เป็นดังร่างแยกของตัวเอง ที่ที่ใกล้กับประตูทางเข้ามากที่สุดในร้าน
มองไปนอกร้านด้วยท่าทีที่ไม่ว่าจะดูยังไงก็น่าเกรงขามตลอดทั้งคืน ไม่มีแม้แต่จะกระพริบตาหรือเคลื่อนตัวไปไหน
ด้วยเหตุนี้ ยามเช้าที่สงบสุขไม่มีเรื่องอันใด จึงเป็นเหมือนช่วงเวลาพักผ่อนของเขา
แต่ทว่า เหล่าสินค้าทั้งหลายในร้านที่เขาเคยได้ปกป้องไว้ราวกับลูกๆ ของตัวเองนั้น กลับไม่ได้มีวางอยู่ในร้านเลย
สินค้าทั้งหลายในร้าน ทั้งมันจูยอดนิยม สแตรปเรืองแสงหลากสีสัน ผ้าแขวนที่มีลวดลายของวัตถุทรงกลมที่ไม่ได้อยู่ในทะเลสาบแต่กลับลอยอยู่เบื้องบน
หรือจะพวกแบบจำลองย่อส่วนที่วางกองสุมกันเป็นรูปตัวเอง กระทั่งถ้วยชาหน้าตาไม่สมประกอบที่ด้านในเหมือนกับถูกคว้านออกไปอย่างลวกๆ จนไปถึงแก้วมัคที่วางขายอยู่ใกล้ๆกัน
ไม่ว่าจะเป็นชิ้นไหน ก็ไม่ใช่สินค้าของเขาเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
ถ้านับกันตามเวลาเกิดแล้ว ฝ่ายที่เกิดก่อนก็เป็นเขา ในตอนนั้น ท้องฟ้าเหนือทะเลสาบยังไม่มีสิ่งนั้น ตัวเขาที่เข้าๆออกๆร้าน ก็ยังได้เฝ้ามองทะเลสาบไปเรื่อยๆอย่างสบายอารมณ์
ด้วยเหตุนั้น เขาจึงกลายเป็นประจักษ์พยานที่มองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดผ่านดวงตากลมโต ในช่วงเวลาที่สิ่งนั้นได้ปรากฏขึ้นมา
ท่ามกลางหิมะที่โปรยปราย จานบิน---- ที่จู่ๆ ก็ปรากฏกายขึ้นเหนือท้องฟ้ายามราตรีนั้น ได้ทอประกายสุกสว่างขับไล่ความมืดมิดให้จางหายไป
>>644
ตั้งแต่นั้นมา ไม่ว่าจะผ่านไปกี่เดือนกี่วัน จานบินก็ยังคงสภาพเหมือนครั้งแรกที่เขาได้เห็น ลอยนิ่งอยู่ที่เดิมเรื่อยมาไม่เปลี่ยนแปลงจวบจนวันนี้
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปกลับไม่ใช่จานบิน แต่เป็นสิ่งรอบตัวเขา
แรกสุด กระแสนักท่องเที่ยวที่หยุดชะงักไประยะหนึ่ง เพราะผลกระทบจากจานบิน ก็กลับกลายเป็นมารวมตัวกันเพื่อดูจานบิน
จากนั้น รอบตัวเขาก็เริ่มมีข้าวของเครื่องใช้ของฝากที่ได้แรงบันดาลใจจากจานบินมาวางขาย แต่ถึงอย่างนั้น ตัวเขาที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากมองชั้นวางสินค้าของตัวเองถูกรุกรานด้วยจานบิน
กลับไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
หมียักษ์หน้าตาเหมือนของจริงที่ตั้งประดับอยู่หน้าร้านตรงข้ามกับเขาก็เช่นกัน แวบแรกที่เห็นก็ดูเหมือนทำท่าจะฝังเขี้ยวใส่จานบินที่อุ้มอยู่ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ทำสักที
หรือว่าจะสนิทกันไปซะแล้วตั้งแต่ตอนนู้นก็ไม่รู้ ก็ได้แต่สงสัยต่อไป
ทุกสิ่งที่แวดล้อมรอบตัวเขา เริ่มเปลี่ยนไปทีละเล็กทีละน้อย
เด็กผู้หญิงที่ชื่อโนเอล ระยะนี้ก็เริ่มโผล่มาเล่นด้วยบ่อยขึ้น
โนเอลเรียกเขาว่าคุณสัตว์ประหลาด แถมยังเข้ามาคุยด้วย พวกนักท่องเที่ยวที่ดูจะสนใจเขาก็พอมีอยู่บ้าง แต่คนที่เข้ามาพูดด้วยนั้นแทบจะไม่มี
ปากที่อ้ากว้างของเขา ดูจะเป็นที่ถูกอกถูกใจของเด็กสาวเป็นพิเศษ เธอลองเอาหน้าบ้างแขนบ้างมุดเข้ามาหน้าทีหลังที ด้วยความที่อยากเล่นซนกับเขาล้วนๆ
ต่างไปจากนักท่องเที่ยวคนอื่นที่แค่โผล่หน้ามาแล้วเก็บภาพเป็นที่ระลึก
สำหรับเขาแล้ว เด็กสาวที่ชื่อโนเอล เป็นเหมือนตัวตนที่ตรงกันข้ามกับตัวเองเลยทีเดียว
และอีกคนหนึ่ง
คนที่เป็นเหมือนคนสำคัญของเขา
เด็กสาวที่คอยอยู่เคียงข้าง คอยทุ่มเทความรักให้กับเขาเรื่อยมา ตั้งแต่เกิดมาบนโลกนี้
คนที่คอยยกตัวเขาที่ขยับไปไหนเองไม่ได้ออกไปหน้าร้านทุกเช้า คอยขัดถูร่างกายให้ พอตกกลางคืนก็ยกกลับเข้าร้าน ทั้งยังขอบคุณสำหรับความเหนื่อยยากในแต่ละวัน
ต่างจากร่างกายของเขาที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เด็กสาวที่เขาเฝ้ามองนั้นเติบโตขึ้นทุกวัน จนตอนนี้สูงเท่ากันกับตัวเขาเสียแล้ว
เช้านี้ก็เช่นกัน---
เบื้องหน้าตัวเขา ที่กำลังสัมผัสแสงที่อ่อนโยนของยามเช้าที่ส่องผ่านเข้ามาจรดแทบเท้า
เด็กสาวตัวน้อยที่เคยลอดหน้าผ่านปากที่อ้ากว้างของเขาออกมาอย่างไม่ยากเย็น ในครั้งแรกที่เขาถูกสร้างขึ้นมา----
ชิอิฮาระ โคฮารุ อยู่ตรงนี้แล้ว
โคฮารุไขกุญแจเปิดร้าน ผลักประตูกระจกออกกว้างให้อากาศถ่ายเทเข้ามา แล้วมองมาทางเขา----
"อรุณสวัสดิ์จ้ะ คิริกอน วันนี้ก็ฝากด้วยนะ"
มือขวาของป้ายสัตว์ประหลาดคิริกอนแห่งทะเลสาบคิริยะ สั่นกึกๆอย่างน่าเกรงขาม ประหนึ่งจะตอบรับกับคำพูดนั้น
แล้วหนึ่งวันที่ไม่เคยเปลี่ยนไปของร้านชิอิฮาระ ก็เริ่มต้นขึ้น
ตอน OVA นี่สนุกดี ได้เห็นอีกด้านของชิโอเนะน่ารักอิ๋บอ๋าย เสียดายเป็นแค่ตอนสั้นๆ
สงสารแต่พี่หล่อแม้แต่จะคุยกะบาบิก้อนก็ไม่ได้คุย
ตอนนี้คงเป็นตอนสุดท้ายจริงๆแล้วซินะ
ดูจบแล้วก็นึกถึงคำพูดคนพากย์พี่หล่อตอนที่พรีวิวOVAในอีเวนท์ขึ้นมา ที่บอกว่า เอ๊ ไม่เห็นโซตะเลย หรือว่าจะเป็นมุมมองโซตะรึเปล่า ถถถถถถ
อ่าน side story 6 จบแล้ว แทบอยากจะแปลมาลงตัดหน้า 4 และ 5 ที่ค้างอยู่จริงๆ
ต่างจาก 1-5 ตรงที่เดินเรื่องโดยใช้ตัวละครที่ไม่เคยขึ้นปก เป็นเซอร์ไพรส์ในแง่ดีเลยล่ะ
http://imgur.com/WQ22BSP
http://imgur.com/vNEwrg5
http://imgur.com/z1kfbAQ
กล่องของแถม Gamers
หน้ารองสุดท้ายทำเอาใจหายไปแวบนึง
http://imgur.com/6RlSQcZ
http://imgur.com/4bRUojB
http://imgur.com/I0x59Dd
http://imgur.com/hgHSMjI
>>645
จากมุมมองของคิริกอน นี่ก็คือยามเช้าวันเสาร์ที่ปกติธรรมดาเหมือนเช่นเคย
อากาศค่อยๆเย็นลงทุกวัน จนชวนให้คิดว่าหิมะแรกจะตกลงมาเมื่อไหร่ก็ไม่แปลกใจ สิ่งที่ชะลอมันไว้ก็คงเป็นแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องไปทั่วทั้งเมือง
ด้วยพลังจากแสงที่ว่านั้น ทันทีที่ร้านชิอิฮาระเปิด ก็เริ่มเห็นนักท่องเที่ยวที่เดินไปมา ก้าวเข้ามาในร้าน
โคฮารุเดินเข้าไปหาหนึ่งในลูกค้า
"ยินดีต้อนรับค่า--"
โคฮารุในชุดผ้ากันเปื้อนพนักงานร้าน โค้งให้อีกฝ่ายด้วยหน้าตายิ้มแย้ม
ตามด้วยคำพูดชุดใหญ่
"----ทางด้านนี้คือมันจูจานบินของขึ้นชื่อร้านชิอิฮาระค่ะ มีบริการส่งถึงบ้านให้ด้วยนะคะ"
โคฮารุที่ยกกล่องมันจูจานบินขึ้นบนหัว ส่งยิ้มหวาน
ลูกค้าที่โดนโปรยยิ้มใส่ มองโคฮารุด้วยท่าทางลำบากใจ
"......อ-อื้ม ขอบใจนะ โคฮารุ แต่บ้านฉันอยู่ใกล้แค่นี้เอง"
"ไส้ถั่วแดงเต็มๆคำ อร่อยมากเลยนะคะ มีให้ลองชิมด้วย ของดีห้ามพลาดเลยนะ"
"ม-ไม่เป็นไรหรอก เคยกินแล้วล่ะ"
ลูกค้าคนที่ว่า โบกมือเป็นเชิงหลบเลี่ยง
"จะรับจานบินหินสลักไปด้วยกันรึเปล่าคะ?"
"ของแบบนั้นจะให้เอาไปทำไมกันล่ะ! แล้วก็ขอเถอะนะ โคฮารุ ช่วยพูดแบบธรรมดาทีเถอะ
นี่คงไม่ได้พูดกับลูกค้าคนอื่นแบบนี้ใช่มั้ย?"
พอโดนลูกค้า----โคมิยะ โนโนกะ จี้เอาแบบนั้น โคฮารุที่ท่าทางดูมีความสุขก็จ๋อยไป
"ก็นานๆ โนโนกะจะมาซื้อของที่ร้านที ก็เลยดีใจ จัดเซอร์วิสให้เป็นกรณีพิเศษเอง"
"ไม่ได้มานานขนาดนั้นเชียวเหรอเนี่ย......"
โนโนกะลองนึกทบทวนดู บางทีก็อาจจะเป็นอย่างที่โคฮารุว่าจริงๆ
"คราวก่อนที่เคยมา ก็มีแต่ตอนที่โนโนกะมาตามหาเด็กหลงแค่นั้นเอง"
"......ครั้งแรกเลยล่ะมั้งตอนนั้น แถมยังเป็นครั้งเดียวซะด้วยสิ"
"แล้ววันนี้ล่ะ เด็กหลงคนนั้น มาด้วยกันรึเปล่า?"
โคฮารุละสายตาจากในร้าน มองหาเด็กหลงเมื่อวันก่อนที่เดินตีซี้คู่กันมากับโนโนกะตอนเข้าร้านเมื่อกี้
>>656
"โนเอลน่ะเหรอ...... อ้าว?"
โนโนกะที่ไล่สายตามองตามโคฮารุ ก็เผลออุทานออกมาเมื่อพบว่าโนเอลที่มาด้วยกันหายตัวไปซะแล้ว
"คุณเด็กหลง ยังหลงทางอยู่เหรอเนี่ย?"
"เมื่อกี้ยังอยู่ตรงนั้นแท้ๆ......"
โคฮารุที่เอียงคอด้วยความสงสัย กับโนโนกะที่จนปัญญาไม่รู้จะทำยังไง ขณะที่สองคนนี้ยืนอยู่
โซตะที่ดูเหมือนจะสวมผ้ากันเปื้อนทำงานอยู่ตลอดเวลาก็ยกกล่องมันจูจานบินกองใหญ่เดินผ่านมา
ระหว่างนั้นก็หันมองโคฮารุแล้วพูดขึ้นมาว่า
"อย่ามัวแต่คุยกันสิ โคฮารุก็ต้องทำงานเหมือนกันนะ"
"ก็กำลังรับลูกค้าอยู่นี่ไง"
"ตรงไหนกัน อ้อ แล้วก็อีกอย่าง"
โซตะเหล่ตามองโนโนกะต่อ
"ยัยเปี๊ยกกำลังกวาดของชิมในตู้ตรงนู้นอยู่เลย กินไปจะหมดตู้แล้วมั้ง"
"เอ๋! เดี๋ยวเถอะ โนเอล!"
โคฮารุได้แต่มองตามหลังโนโนกะที่รีบวิ่งไปหาโนเอล
"ที่จริง จะกินให้หมดก็ว่าอะไรหรอก"
"ถ้าโคฮารุบอกไม่เป็นไร คนมาช่วยอย่างฉันก็คงว่าอะไรไม่ได้ล่ะนะ แต่ยังไงก็ต้องเติมของไว้ก่อนอยู่ดี เพราะเดี๋ยวตอนเที่ยงจะมีทัวร์มาลง"
"อ้าว มาวันนี้หรอกเหรอ?"
"ก็ตามที่เช็คจากตารางรถนั่นแหละ อ้อ แล้วก็ไฟข้างในร้านเหมือนมันจะมืดๆไปหน่อยนะ"
"เอ๋? จริงเหรอ?"
"ในโกดังเก็บของยังมีหลอดไฟสำรองอยู่ เดี๋ยวจะเอามาเปลี่ยนให้ก็แล้วกัน"
"......อืมม"
"มีอะไรรึ?"
โคฮารุจ้องหน้าโซตะด้วยสีหน้าประหลาดใจอยู่ในที
"......อะไรเล่า"
แล้วจู่ๆ ก็หัวเราะฮึๆ ออกมา
>>657
"แล้วมันอะไรกันล่ะ ก็บอกสิ ฉันพูดอะไรแปลกๆไปรึไง?"
"อื้ม ก็เห็นโซตะดูพึ่งพาได้ ดูฝากฝังอะไรๆ ได้น่ะ"
"ก็เพราะโดนเธอฝากให้ดูร้านให้บ่อยๆ นั่นแหละ ถึงไม่อยากจำ พอทำไปนานๆ เข้ามันก็จำได้อยู่ดี แย่จริงๆ "
สีหน้าของโซตะที่กำลังทยอยหยิบกล่องมันจูจานบินมาหอบไว้อย่างคล่องแคล่วอยู่นั้น ไม่ได้สื่อถึงความไม่พอใจอย่างที่พูดเลย
"ต้องขอบคุณโซตะจริงๆ นั่นล่ะ"
ว่าแล้วโคฮารุก็รวบกล่องมันจูจานบินจากมือโซตะครึ่งหนึ่งมาไว้กับตัวเอง
"เอาเถอะ ได้ยินคำขอบคุณแบบนี้ก็ค่อยยังชั่วหน่อย เอ้า ไปกันเถอะ"
โซตะที่ตัดบทห้วนๆ เดินหอบกล่องมันจูไปยังชั้นวาง
"ตกลงมันอะไรกันหว่า......"
โดยมีโคฮารุที่หอบกล่องแบบเดียวกันเดินตามมาติดๆ
ถึงจะบอกว่าเหลือครึ่งเดียวของที่โซตะแบก แต่โคฮารุที่เดินตามหลังโซตะที่ก้าวฉับๆ เหมือนเดินตัวเปล่า ก็ยังเดินโงนเงนทำท่าเหมือนจะตก
"----รอเดี๋ยวสิ โซตะ"
ระหว่างที่พยายามสุดชีวิตไม่ให้ของตกพื้น แต่เสียงที่เรียกโซตะก็ดูเหมือนจะไปไม่ถึงเจ้าตัว
ขณะที่โซตะที่ทิ้งห่างไป เริ่มหลุดไปจากระยะสายตา โคฮารุก็พลันเห็นภาพแผ่นหลังของเพื่อนที่โตแล้ว ซ้อนกับเมื่อสมัยยังเด็กขึ้นมา
โคฮารุที่หยุดอยู่กับที่
โซตะที่ก้าวไปข้างหน้า
และยูซึกิน้องสาว ที่อยู่เคียงข้างกันเสมอ
โคฮารุนั้นเคยอิจฉาทั้งคู่ที่สนิทสนมกันมาตลอด ถึงเวลาเล่น จะเล่นด้วยกันสามคน แต่เวลากลับ มีแต่ตัวเองที่ต้องแยกไปกลางทาง เพราะอยู่กันคนละที่
มีแต่ตัวเอง ที่ต้องทนเก็บความเหงาที่ไม่มีที่ไปเอาไว้คนเดียว
ไม่ใช่สามคนหรอก แต่เป็นสองกับหนึ่งต่างหาก
>>658
ถึงจะคอยเตือนตัวเองว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญก็ตาม แต่ความรู้สึกนั้นมันก็ยังไม่หายไปจากใจโคฮารุในวัยเด็กอยู่ดี
ทั้งโซตะและยูซึกิ รวมไปถึงที่มาเจอกันที่หอดูดาวทีหลังอย่างโนโนกะกับชิโอเนะ ไม่มีใครเลยที่รู้ถึงความโดดเดี่ยวในใจของโคฮารุ
ไม่เว้นแม้แต่ตัวโคฮารุเอง
แต่โคฮารุก็ยังอยากจะตรวจสอบให้แน่ใจ ว่าที่ตรงนั้นเป็นที่ของเธอจริงๆ
เพราะงั้นถึงได้วาดคิริกอนขึ้นมา
โคฮารุนั้น วาดรูปไม่เก่งเอาซะเลย แต่ก็ยังพยายามสุดชีวิต ด้วยหวังว่าคิริกอนบนกระดาษวาดเขียนที่เต็มไปด้วยความในใจของเธอ จะผูกสัมพันธ์ระหว่างตัวเองและสองคนนั้นให้
----ยูซึกิ โซตะ ฉันมีเรื่องจะขอร้อง!
โคฮารุในวัยเยาว์ เค้นเสียงทั้งหมดที่ตัวเองมี เรียกทั้งสองคนให้หยุดรอ
พอทั้งคู่หันกลับมา เด็กสาวที่ทำอะไรไม่ถูกจนแทบจะร้องไห้ออกมาในตอนนั้น ก็โชว์รูปวาดคิริกอนฝีมือไม่เอาไหนให้ดู
สัตว์ประหลาดในตำนาน ที่ว่ากันว่าอาศัยอยู่ในทะเลสาบคิริยะ ถ้าหากว่ามีอยู่จริงล่ะก็ คงไม่มีทางจะหน้าตาเหมือนในรูปแน่ๆ
แต่โซตะกับยูซึกิที่คิดแบบนั้น ก็ไม่ได้หัวเราะเยาะอะไร----
"ใช้ได้เลยนี่นา ถ้าเอาไปตั้งเป็นป้ายหน้าร้าน ต้องดึงคนเข้าได้เพียบแหงๆ "
"ส่วนตรงปากนี่ ไว้ทำเป็นช่องให้โผล่หน้ามากันเถอะ! เดี๋ยวฉันช่วยเอง!"
ช่วงเวลาจากตอนนั้น จนถึงตอนที่คิริกอนผู้ชนะศึกสร้างเสร็จ เป็นสิ่งพิเศษที่ไม่มีอะไรมาแทนได้สำหรับโคฮารุในวัยเด็กจริงๆ
ถ้าขาดมันไป เธอคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้
"โคฮารุนี่ก็เก็บซะเงียบเลยนะ ถ้าบอกกันไวกว่านี้ คงได้มาช่วยตั้งนานแล้ว"
"นั่นสิ ก็โคฮารุมัวแต่เกรงใจอยู่นั่นล่ะ"
โซตะกับยูซึกิหันมาหาโคฮารุ ขณะกำลังทาสีป้าย บนใบหน้าของทั้งสอง เปื้อนไปด้วยสีเดียวกับที่ใช้ทาคิริกอน
ถึงจะมองไม่เห็น แต่หน้าตัวเองก็คงเป็นแบบนั้นอยู่เหมือนกัน
สามคนช่วยกัน
โคฮารุขำเบาๆ ด้วยรอยยิ้มที่โนโนกะเคยสอนให้
แค่ยิ้ม ก็เป็นกำลังผลักดันให้ตัวเองก้าวต่อไปข้างหน้าได้
จากนั้นไม่นาน คิริกอนก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมา
>>659
จากภาพวาดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโคฮารุ ด้วยพลังฝีไม้ลายมือของยูซึกิ ก็กลายเป็นอะไรที่ดูเป็นสัตว์ประหลาดขึ้นมา
ไม้กระดานที่แรงแขนโคฮารุเลื่อยไม่ขาด ก็ได้โซตะทำให้เป็นรูปเป็นร่าง
จากตอนนั้นจนตอนนี้ ก็ผ่านมากว่าเจ็ดปีแล้ว ที่คิริกอนยังคงยืนตระหง่านเป็นป้ายหน้าร้านอยู่ทุกวัน
"เพราะงั้น----"
ถึงจะขึ้น ม.ต้นแล้วก็ยังไม่เปลี่ยนไป
"ต้องขอบคุณทุกคนจริงๆ นั่นล่ะ"
ทุกคนที่หอดูดาว โนเอลที่มาหาคิริกอน แล้วก็ลูกค้าทุกคนที่แวะมาเยี่ยมชมร้าน
"อย่ามัวแต่เหม่อสิ"
ความหนักอึ้งหายไปจากมือ
โซตะที่เดินกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เอากล่องที่โคฮารุถืออยู่ไปแบกเองซะแล้ว
"อ้าว? มีอะไรเหรอ?"
"ของชั้นเอาไปเรียงขึ้นชั้นหมดแล้วน่ะ"
"ขอบใจนะ----โซตะ"
"เมื่อกี้ก็พูดไปแล้วไม่ใช่รึไง"
"อื้ม แต่ก็ ขอบใจนะ"
"......อืม"
ทั้งสองคนคุยกันไป ขณะทยอยเติมสินค้าเข้าชั้นวาง ที่วันนี้ก็ยังคงเป็นมันจูจานบินสินค้าขายดี
เป็นฉากหนึ่งในชีวิตประจำวันยามสาย
ต่อหน้าทั้งคู่ที่กำลังจัดของอยู่หน้าชั้นวางนั้น โนโนกะที่แจ้นกลับมาก็พนมมือขอโทษเป็นการใหญ่
"ขอโทษนะ โคฮารุ โนเอลกินมันจูของชิมไปจะหมดแล้วล่ะ......"
"ไม่เป็นไรหรอก เห็นโนเอลจังชอบ ฉันก็ดีใจแล้วล่ะ"
"ข้างในก็เป็นออนเซ็นมันจูอยู่ดีน่ะนะ"
"แล้วโนเอลจังล่ะ?"
"เล่นกับคิริกอนอยู่ข้างนอกน่ะ"
โคฮารุเมินคำพูดโซตะแล้วมองไปนอกร้าน
จากตรงที่ยืนนั้นมองไม่เห็นคิริกอน แต่ยังพอเห็นเงาที่น่าจะเป็นโนเอลกระโดดโลดเต้น หมุนตัวไปมา อยู่แวบๆจากบนส่วนบานกระจกของประตู
ถึงจะเห็นไม่ชัดนักว่าทำอะไรอยู่ แต่ท่าทางดูสนุกสนานทีเดียว
"อ๊ะ จริงสิ อันนี้สินะ----"
โนโนกะหยิบกล่องมันจูจานบินที่เรียงอยู่ขึ้นมา
"วันนี้จะมาซื้อเจ้านี่แหละ ดูท่าคุณพ่อแกจะติดใจจากตอนที่ซื้อไปให้เป็นของฝากจากออนเซ็นน่ะ"
"ดีจัง รอเดี๋ยวนะ เดี๋ยวจะเอาไปห่อกระดาษให้"
โคฮารุยิ้มให้ลูกค้า ไม่สิ เพื่อนต่างหาก
ข้ามไปที่เคาท์เตอร์แคชเชียร์ โคฮารุยื่นกล่องมันจูจานบินในถุงหูหิ้วให้โนโนกะ
ขณะที่โนโนกะรับเอาไว้
"แล้วก็ เรื่องพรุ่งนี้ ตกลงว่ายังไงดี......"
พรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์
ไม่ใช่แค่วันหยุดธรรมดาทั่วไป เพราะสำหรับโนโนกะแล้ว มันเป็นวันที่เธอต้องเผชิญหน้ากับความทรงจำที่หลบเลี่ยงมานาน
"ไม่เป็นไรหรอก ทางฉันกับยูซึกิก็แค่ตามโนโนกะไปด้วยเฉยๆเอง"
"......ขอบใจนะ ถ้าฉันไปเองคนเดียว สงสัยคงได้หนีกลับมากลางทางแน่เลย......"
"โนโนกะน่ะ ไม่ทำแบบนั้นหรอก"
"............"
พอรับถุงใส่มันจูจานบินมา โนโนกะก็ดูท่าทางมั่นใจขึ้น
"ขอบคุณมาก แล้วเจอกันนะ!"
"----อื้ม พรุ่งนี้เจอกัน"
รอยยิ้มจากใจของโคฮารุนั้น ดูจะช่วยให้รอยยิ้มของโนโนกะกลับคืนมาได้บ้าง แล้วเด็กสาวก็เดินออกไป
พอโคฮารุเห็นว่าโนโนกะดูผ่อนคลายลงบ้างแล้ว----
"ยินดีต้อนรับค่ะ ทางนี้เป็นสินค้าแนะนำนะคะ"
ก็กลับไปเรียกนักท่องเที่ยวที่กำลังสนอกสนใจหยิบสินค้าขึ้นมาดูต่อ
>>660
ทันใดนั้นเอง
ที่ด้านนอกร้าน คิริกอนก็กำลังปวดเศียรเวียนเกล้าไม่รู้จะทำยังไงอยู่
ส่วนเด็กสาวที่กำลังคิดอะไรไม่ออกพอกันก็อยู่ข้างๆ พูดให้ถูกก็ต้องบอกว่าอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน
"----เป็นยังไงบ้าง โนเอล?"
โนโนกะที่เห็นสภาพนั้น ทักด้วยความสงสัย
"ก็ปากคุณสัตว์ประหลาดน่ะใหญ่มากเลย"
"ใหญ่มากแล้ว?"
"......ก็เลยคิดว่าจะลอดผ่านไปได้เปล่า"
ผลก็คือ ผ่านมาได้แค่แขนข้างนึงกับหัวโนเอล จะมุดต่อก็ไม่ได้ จะถอยกลับก็ไม่ออก
ไม่รู้จะทำยังไงต่อก็เลยห้อยแกร่วอยู่อย่างนั้นพักใหญ่จนโนโนกะมาเห็นเข้า
ช่างสร้างปัญหาได้ไม่หยุดหย่อนซะจริง โนเอลกับคิริกอน
"เดี๋ยวฉันช่วยเอง รอก่อนนะ"
โนโนกะที่อ้อมไปด้านหลัง ประคองร่างเล็กๆ ของโนเอลเอาไว้เหมือนกอด แล้วออกแรงดึง แต่ไม่มีทีท่าว่าจะหลุดออกมาได้เลย
ก็เลยต้องออกแรงเยอะขึ้น
"งือออ......"
โนเอลทำเสียงเหมือนจะร้องไห้
"ขอโทษนะ! เจ็บรึเปล่า?"
"อื้ม เปล่า แต่ถ้าติดอยู่อย่างนี้สงสัยคุณสัตว์ประหลาดคงไม่ได้กินอะไรแน่เลย......"
แต่ถ้าอยู่ในสภาพที่เหมือนกับกินโนเอลเข้าไปอยู่อย่างนี้ ก็คงไม่ไหวเหมือนกัน
"เดี๋ยวจะลองดึงให้แรงกว่าเดิมดู ถ้าเจ็บบอกนะ"
"อื้ม......"
พอใช้แรงมากกว่าเดิมอีกหนึ่งขั้น คราวนี้ไม่ใช่แค่โนเอล คิริกอนทั้งตัวก็โดนดึงตามมาด้วย
คราวนี้โนโนกะใช้แขนข้างหนึ่งคว้าแขนซ้ายคิริกอนเอาไว้ แล้วพยายามดึงตัวโนเอลออกมา
"อีกนิดเดียว!"
"อื้ออ-"
"อ๊ะ!"
แรงต้านที่แขนโนโนกะหายไปแล้ว ส่วนโนเอลก็หลุดออกมาจนได้ พอมองจากตรงนี้ก็ยังเห็นจานบินอยู่ไกลๆ ผ่านทางปากที่อ้ากว้างของคิริกอนอยู่
"ค่อยยังชั่ว...... ไม่เป็นอะไรนะ โนเอล?"
"โนเอลสบายดีแล้ว คุณสัตว์ประหลาดล่ะ?"
โนโนกะหันไปมองคิริกอนที่ไม่ตอบอะไรต่อ ดูท่าจะไม่มีอะไรเสียหาย
"ก็สบายดี ล่ะมั้ง?"
"เย้!"
ราวกับจะชวนโนเอลที่ออกอาการโล่งใจอยู่
"นี่ก็จวนจะเที่ยงแล้ว จะทำอะไรให้กินนะ พอเสร็จแล้วเราค่อยมากินนี่กัน"
แล้วโนโนกะก็เปิดถุงมันจูจานบินที่เพิ่งซื้อมาให้ดู
"หวาว เยอะแบบนี้ ได้กินกันอิ่มแปล้แน่ๆ เลย"
โนเอลตาเป็นประกาย
"จะกินให้เต็มที่ไปเลยก็ได้ แต่ต้องเหลือไว้ให้คุุณพ่อด้วยนะ ไม่งั้นเดี๋ยวเค้าร้องไห้แย่"
โนโนกะกุมมือโนเอลไว้ เหมือนจะย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
"อื้ม! ไว้ใจโนเอลได้เลย!"
โนเอลกุมมือโนโนกะกลับ ส่วนคำมั่นที่ฝากไว้นั้นจะหมายถึงอะไรก็ไม่ทราบได้
คิริกอนที่สีหน้าเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไป ยังคงยืนรับไอแดดยามดวงอาทิตย์ขึ้นสูง ตรงที่ที่โนโนกะจูงมือโนเอลกลับบ้าน
จากเงาของคิริกอนที่ทอดยาวลงบนพื้น ยังมองเห็นส่วนแขนซ้ายเอนอยู่เล็กน้อย
>>661
ผ่านช่วงกลางวัน ตะวันเริ่มคล้อยบ่าย
รถทัวร์ที่จองไว้เมื่อเที่ยง ออกจากลานจอดรถไปหมดแล้ว ในร้านชิอิฮาระ ก็กลับมาเงียบสงบเหมือนช่วงเช้าอีกครั้ง
แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ เพราะเดี๋ยวพอช่วงค่ำ พวกนักท่องเที่ยวที่มาพักโรงแรมในคิริยะโกะก็จะมากันอีกระลอก
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ทั้งโคฮารุและโซตะ ก็ยังใช้เวลานี้ พักเหนื่อยอยู่ในร้านที่ว่างเว้นจากลูกค้า
จนกระทั่งเมื่อไม่กี่นาทีก่อน
"ให้ตายสิ ไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนกันมั่งเลยย !"
เสียงบ่นไม่สบอารมณ์ ดังขึ้นพร้อมเสียงกระแทกของก้นขวดน้ำผลไม้พลาสติกที่ซัดไปรวดเดียวหมดเกลี้ยงกับเคาท์เตอร์แคชเชียร์
"นี่เธอ อย่ามาดื่มในนี้สิ"
โซตะที่ยืนเฝ้าเคาท์เตอร์อยู่ เตือนยูซึกิที่ยึดเก้าอี้จากโกดังมานั่งเอาเองตามใจชอบตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย
"ไม่เป็นไรหรอกน่า ลูกค้าก็ไม่เห็นมีสักคน อีกอย่างน้ำนี่ก็ซื้อมาเองด้วย"
น้ำผลไม้ยังติดอยู่ที่ปากยูซึกิ
"แล้วยูซึกิ เป็นอะไรมาเหรอ?"
โคฮารุที่กำลังใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดร้านอยู่ ดึงความสนใจจากยูซึกิ
"ใช่ๆ ! โคฮารุฟังนะ! เมื่อกี้ฉันเจอชิโอเนะด้วยล่ะ! แล้วพอชวนว่า พรุ่งนี้จะไปด้วยกันรึเปล่า? ก็บอกว่ามีธุระแล้วด้วยนะ!"
"มีธุระที่อื่นแล้วก็ช่วยไม่ได้นี่นะ"
โคฮารุที่เดินมาถึงข้างๆ ยูซึกิ ค่อยๆ ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดตรงเคาท์เตอร์ที่วางสินค้าตอนคิดเงิน
"ไม่ใช่อย่างนั้นสิ ก็ถ้าชิโอเนะพูดแบบนั้น ก็แปลว่าที่จริงแล้วอยากไปด้วยไม่ใช่รึไง...... แบบเมื่อก่อนน่ะ!"
"นั่นสินะ"
โคฮารุพึมพำ ด้านโซตะเองก็ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่พยักหน้าเบาๆ
"ฉันน่ะ พอเห็นสภาพโนโนกะกับชิโอเนะตอนนี้แล้วก็ปวดใจเหมือนกัน แต่ว่า ยูซึกิไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ มันต้องไม่เป็นไรแน่ๆ"
"อื้อ นั่นสิ ว่าแต่ทำไมโคฮารุถึงคิดว่าไม่เป็นไรกันล่ะ?"
ยูซึกิที่นอนฟุบหน้าแนบเคาท์เตอร์ มองโคฮารุด้วยมุมตะแคง
"ก็ บอกไม่ถูกเหมือนกัน"
เหตุผลจริงๆ นั้นเป็นอีกอย่าง แต่หาคำพูดเหมาะๆ ไม่ได้
"เอ๋- แค่นั้นน่ะนะ?"
โคฮารุไม่ได้พูดอะไรกับยูซึกิที่ดูจะไม่ปลื้มในคำตอบนั้น แต่กลับมองไปทางอื่นด้วยท่าทางสุขใจ
สักวันหนึ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างโนโนกะและชิโอเนะต้องดีขึ้นแน่---- เหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้โคฮารุเชื่อมั่นอย่างนั้นก็คือ ยูซึกิกับโซตะ
สองคนที่อยู่ตรงหน้าเธอ สองคนที่เธอเฝ้ามองมาตลอดนี่แหละ
"นี่เธอ มาทำอะไรกันแน่เนี่ย"
"ฉันเหรอ ก็มาหาโคฮารุน่ะสิ โซตะนั่นแหละมาทำอะไร?"
"ชั้นก็มาช่วยงานที่ร้านอยู่นี่ไง"
"ไหนว่าต้องเตรียมตัวเรื่องไปเรียนต่อ วันนี้วันสุดท้ายแล้วนะ!"
"......อุ"
"เอะ นี่ยังไม่ได้บอกเหรอ?"
"เงียบไปเหอะน่า! พอมีปัญหาเดี๋ยวก็โดนกันทั้งคู่นั่นแหละ!"
"จ้าๆ"
โซตะชักสีหน้าไม่พอใจใส่ยูซึกิที่แกว่งมือใส่เหมือนล้อเลียน แต่ไม่ได้หนักหนาอย่างที่พูดออกไป อยู่ในระดับที่รู้สึกได้นิดหน่อยเวลาที่มองเท่านั้นเอง
พอได้เฝ้ามองสองคนนี้อย่างมีความสุข ก็ทำให้โคฮารุนึกถึงตอนเด็กๆ ที่ช่วยกันทำคิริกอนกันสามคนขึ้นมา
เหตุผลอันดับแรกที่ทำให้โคฮารุเชื่อมั่นอย่างนั้น ก็คือความทรงจำสักอย่างที่โนโนกะกับชิโอเนะมีร่วมกันจะช่วยผูกสัมพันธ์ของพวกเธอเอาไว้
เหมือนกับที่คิริกอนช่วยเป็นสื่อกลางให้พวกโคฮารุนั่นเอง
โคฮารุเชื่ออย่างนั้น
>>662
"เอาล่ะ ได้เวลากลับแล้วสินะ"
ยูซึกิที่ลุกจากเก้าอี้ พูดขึ้นมา
"จะกลับแล้วเหรอ?"
"อืม ไม่มีอะไรแล้ว ไม่อยู่กวนแล้วล่ะ"
โซตะมองยูซึกิแล้วพูดขึ้นมาบ้าง
"ถ้างั้น----"
โซตะกำลังจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็โดนขัดซะก่อน
"จะบอกว่าก็ไม่ต้องมาแต่แรกงั้นสินะ?"
"......ก็ไม่นี่ ยูซึกิอยากทำอะไรก็ทำไปสิ"
โซตะที่แอบคิดในใจว่าเถียงไปก็เท่านั้น หันไปทางอื่นอีกรอบ
"ยูซึกิ พรุ่งนี้เจอกันนะ"
"อื้ม"
ยูซึกิเองก็รู้ดี ว่าพรุ่งนี้เป็นวันสำคัญ ถึงได้ชวนชิโอเนะไปด้วย
ลูกค้านักท่องเที่ยวพ่อลูกเดินเข้ามาในร้าน ราวกับจะสวนทางกับยูซึกิที่เดินออกไปพอดี
"อ๊ะ---- ยินดีต้อนรับค่ะ"
เสียงเชิญชวนด้วยรอยยิ้มของโคฮารุที่พร้อมรับลูกค้าอยู่เสมอ ดังอยู่ในร้าน
ในเวลาเดียวกัน
ยูซึกิที่ออกมานอกร้านแล้ว สังเกตเห็นอะไรแปลกๆ เข้า เลยหยุดดู
เธอยื่นหน้าเข้าไปใกล้คิริกอน
"----แปลกจัง?"
พอดูตรงหน้าเสร็จแล้วก็อ้อมไปเพ่งด้านข้างต่ออีกรอบ
"เหมือนจะงออยู่หน่อยๆ เลยแฮะ......"
ส่วนแขนซ้ายของคิริกอน ดูเหมือนจะงออยู่เล็กน้อย ทั้งที่แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
พอชะเง้อดูข้างในร้าน ทั้งโคฮารุทั้งโซตะก็ติดลูกค้ากันอยู่ทั้งคู่อีก
"เอาสักหน่อยก็แล้วกัน"
ยูซึกิจับแขนซ้ายคิริกอนดันสวนกลับไปอีกทางกับที่งอ
"ฮึบ!"
ยูซึกิที่ใส่แรงไปทั้งตัว พอรู้สึกเหมือนจะได้ยินเสียงกร๊อบที่ไม่พึงประสงค์แว่วๆ ก็รีบปล่อยมือทันที
"ป-ประมาณนี้ก็คงพอล่ะนะ......"
ลองเช็คดูอีกที แขนคิริกอนที่งออยู่ ก็ดูเหมือนจะกลับมาตรงเหมือนเดิมแล้ว
"......อ-อื้ม เท่านี้ก็เรียบร้อย ไม่มีปัญหา"
หลังจากที่กระซิบกระซาบกับตัวเองซะเบาจนไม่รู้จะเบาไปทำไมแล้ว ยูซึกิก็ถอนตัวออกจากพื้นที่ไปราวกับจะหนีคดี
>>663
เมื่อดวงอาทิตย์ไร้เมฆบดบังที่ฉายแสงอยู่เหนือทะเลสาบและตัวเมืองอยู่ตลอดวันลับฟ้าไป อีกหลายชั่วโมงให้หลัง
หนึ่งวันของร้านชิอิฮาระ ที่ยุ่งกว่าที่เคยนิดๆ คึกคักกว่าที่เคยหน่อยๆ ก็ได้เวลาปิดทำการ
"ท่าทางวันนี้จะจบลงด้วยดีเนอะ ขอบใจนะโซตะ อุตส่าห์อยู่ช่วยจนค่ำมืดเลย"
ในร้านไม่มีลูกค้าเหลือให้เห็น ตรงลานจอดก็ไม่มีรถจอดอยู่แล้ว โคฮารุที่ออกไปเช็คนอกร้านเอง บอกกับโซตะที่กำลังเตรียมจะกลับ
"ก็บอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร ----อีกอย่างนึง ที่อยู่ช่วยแบบนี้ได้ก็ปีนี้ปีสุดท้ายแล้วด้วย"
"......นั่นสินะ"
เสียงรำพึงเบาๆจากโคฮารุที่ยืนอยู่นอกร้าน พอสัมผัสกับอากาศภายนอกที่หนาวเย็น ก็กลายเป็นสีขาว
"จนกว่าจะถึงตอนนั้น อะไรที่ช่วยได้ก็จะช่วยน่ะนะ"
"จะดีเหรอ?"
"จะดีหรือไม่ดียังไง พรุ่งนี้ก็ต้องขอแรงช่วยอยู่แล้วนี่?"
โซตะที่เดินออกมานอกร้าน หยอดเบาๆไปหนึ่งที
"นั่นก็ใช่อยู่หรอก"
โคฮารุหัวเราะเบาๆ
"ถ้างั้น ขอตัวกลับก่อนล่ะ ที่เหลือจัดการเองได้นะ"
โซตะปลดโซ่จักรยานที่ขี่มา
"โซตะ"
"หือ?"
"หรือว่า โซตะจะ----"
"อะไรอีกล่ะ......"
"เล็งตำแหน่งสาวเฝ้าร้านอยู่?"
"เล็งอะไรกันเล่า! ชั้นเนี่ยนะจะเล็งตำแหน่งสาวเฝ้าร้าน ฟังยังไงก็พิลึกชัดๆ!"
"นั่นสิ ถ้างั้น ฉันก็คงครองตำแหน่งต่อไปอีกสักพักล่ะนะ"
ระหว่างที่เดินไปคุยไป โคฮารุที่ออกมาส่งโซตะที่เข็นรถจักรยานมาด้วย ก็มาถึงหน้าถนนใหญ่
"ไปก่อนนะ"
"แล้วเจอกัน"
โคฮารุโบกมือให้โซตะที่ยกมือขึ้นบอกลา
แล้วคอยมองส่งจนกระทั่งจักรยานของโซตะลับตาไปบนถนนยามพลบค่ำ
"----ต้องรีบปิดร้านแล้วสิ"
พอมองขึ้นไปยังท้องฟ้ายามกลางคืนที่หนาวเย็นลงจนตรงกันข้ามกับเมื่อตอนกลางวัน โคฮารุก็เดินกลับเข้าร้านอีกครั้ง
แต่พอจะกลับเข้าร้าน ก็ต้องประหลาดใจ
"......อ้าว?"
ตรงหน้าคิริกอน มีใครสักคนยืนอยู่
หลังจากที่ยืนจ้องดูคิริกอนอยู่พักหนึ่ง เจ้าตัวก็เอียงคอ เอามือข้างหนึ่งแตะตรงแขนซ้ายของคิริกอนค้างเอาไว้
แล้วจึงค่อยๆ หยิบกล้องดิจิตอลขึ้นมาถ่ายภาพ
โคฮารุ พอเห็นหลังอีกฝ่าย ก็จำได้ว่าใคร
"ชิโอเนะ?"
คนที่ถูกเรียกชื่อ แล้วหันกลับมาพร้อมกล้องในมือ คือโทกาวะ ชิโอเนะ
"ใช่จริงๆด้วย ชิโอเนะไม่มาที่ร้านซะนานเลย"
"ก็ไม่มีธุระอะไรให้มานี่"
"เข้ามาข้างในก่อนมั้ย? ชาอุ่นๆ กับมันจูหวานๆยังพอมีอยู่นะ"
"............หวาน?"
ท่าทีชิโอเนะ ดูจะลังเลอยู่แวบหนึ่ง ก่อนที่จะตอบ
"ต้องกลับแล้วน่ะ"
"......เหรอ เสียดายจัง ฉันน่ะ อยากให้ชิโอเนะมาอีกนะ ก็วันนี้น่ะ เพื่อนๆ ที่เป็นสมาชิกหอดูดาวที่ชิโอเนะอยู่ด้วย บังเอิญมาเยี่ยมที่ร้านกันครบเลย"
"ฉันไม่เกี่ยวด้วยสักหน่อย"
"ไว้มารวมตัวกันอีกดีไหม? ชิโอเนะด้วย ฉันจะรอนะ"
"เลิกพูดอะไรบ้าๆ สักที ฉันกลับล่ะ ที่มายืนอยู่ก็แค่สงสัยอะไรนิดหน่อยเท่านั้นล่ะ"
ชิโอเนะที่หันหลังให้ หันมองคิริกอนอีกครั้ง
"นี่ โคฮารุ คิริกอนนี่มันมีอะไรแปลกๆ ไปรึเปล่า......"
สายตาของชิโอเนะ จับอยู่ตรงแขนซ้ายของคิริกอน
"มีอะไรเหรอ?"
"อืม ไม่มีอะไรหรอก สงสัยจะคิดไปเอง"
ชิโอเนะที่เดินจากไป มุ่งตรงไปยังป้ายรถ ไม่หยุดรอที่ไหนอีก
ระหว่างที่เดิน ก็พึมพำกับตัวเองเบาๆ
"----คงไม่ได้งอ อยู่หรอกมั้ง"
>>664
เช้าวันนั้นสำหรับเขา----หรืออาจจะเป็นเธอ ก็ยังเป็นยามเช้าที่ปกติธรรมดาเหมือนเช่นเคย
จะยกเว้นก็แต่อากาศที่หนาวเย็นลงยิ่งกว่าเมื่อวาน และความรู้สึกไม่ค่อยดีที่แขนซ้าย
"คุณสัตว์ประหลาด! อรุณสวัสดิ์!"
วันนี้ คนที่โผล่มาก่อนใครๆ เบื้องหน้าตัวเขาที่โคฮารุยกออกมาตั้งข้างนอกเป็นประจำทุกเช้า ก็คือโนเอล
โนเอล เริ่มคุยกับเขา----คิริกอน
"เมื่อวาน โนเอลคิดอยู่ตั้งนานแน่ะ! คุณสัตว์ประหลาดน่ะ ปากกว้างอยู่แล้ว แต่จริงๆ ต้องอ้าปากได้กว้างกว่านี้อีกแน่เลยใช่มั้ยล่ะ! เพราะงั้น!"
ท่ามกลางบรรยากาศยามเช้า
หลังจากที่โคฮารุที่แต่งตัวเตรียมออกไปข้างนอก บอกแม่ว่า "ไปก่อนนะคะ" เธอก็เดินออกมาจากร้าน
วันนี้ สำหรับเพื่อนคนสำคัญของเธอ คงเป็นวันที่หนักหนามาก
เธออยากจะเป็นกำลังให้เพื่อนคนนั้น แม้สักนิดก็ยังดี
ด้วยสิ่งที่เธอพอจะทำได้
เพื่อตอบแทนรอยยิ้มที่เธอเคยได้รับมา เมื่อสมัยยังเด็ก
"แฮ่-!"
คำที่ไม่คุ้นเคย ลอยมากระทบหูของโคฮารุที่เดินออกมาข้างนอก----
แล้ววันใหม่อีกวัน ก็เริ่มต้นขึ้น
จบบทนี้คือ ช่วงก่อนop ของตอน7 พอดีเป๊ะ
http://imgur.com/ns8v67i
ครบรอบ 1 ปีที่ฉาย มีจัดโปรโมชั่นแจกแผ่นอิลลัสเซ็ท ลายเส้นอาคิยะยูคิเอะ 1ใบ ทุก2000เยน มี6แบบ...
เงื่อนไขนี้เฉพาะที่โทยะ สำหรับอินฟินิทช็อป จะเริ่มเดือนหน้า แต่ก็คงเริ่มที่5000เยนสุ่มแจกใบนึงอีกแหงๆ
http://imgur.com/gfLyHqT
http://imgur.com/TF60cht
โดจินของ 0.3hz ที่ขายในงานc88 เมื่อวานครับ เป็นงานสตาฟค่าย3Hzมารวมกันออกโดจินอิลลัสในธีมชุดเครื่องแบบ
เห็นคุยกันเยอะแบบนี้ทั้งที่จบไปนานแล้วชักอยากหามาดูบ้างแล้วสิ
Topic has reached inactivity threshold.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.