>>>/animanga/6118/ [พระเอกหลวม ก็อบลินเงี่ยน] Goblin Slayer [ก็อบลินศพที่1]
Last posted
Total of 1000 posts
>>>/animanga/6118/ [พระเอกหลวม ก็อบลินเงี่ยน] Goblin Slayer [ก็อบลินศพที่1]
ตอน2 ยังไม่มี กระทู้2 ก็มาแล้วฮะ อิอิอิ
เมะคุณภาพจริง ๆ
Fastest since sex fantasy Zero.
อยากซดฉี่หนูอโค
ก๊อบลินกินไรเป็นอาหารวะ
กูว่าถ้ามันผ่านฉากเรปที่อาจจะมีอีกซักฉากก่อนตอนบุกหมู่บ้าน กูพนันว่าระหว่างนั้นคนจะบอกว่าน่าเบื่อแล้วดรอปกันแล้วก็มาฮือฮากันอีกทีตอนบุกหมู่บ้านแล้วก็ดรอปอีกพอถึงช่วงไปเจอีตาบอด
มันมีกี่ตอนวะ? 12 หรือ 24 ถ้า12ไม่ใช่ว่าน่าจะไปจบตรงลอร์ดบุกหมู่บ้านมั้ง
แล้วกุก็จะอดเห็นเจ๊ซอร์ดไมเดน
งั้นฉากเย็ดฉากต่อไปควรจะมาตอนที่เท่าไหร่ฮะ จะได้กำรอ
กลายเป็นมู้คิโม่ยบุฮี้แล้วเหรอวะ
https://boards.4chan.org/a/thread/179144760
หนังสือที่คนแต่งใช้อ้างอิง
กุแยากเหยดซอกไมเด็น อ่ะกุประเดิมให้ล่ะ เย่ย์
เรื่องนี้มังงะแม่งวาดเด็ด จนกุไม่ต้องรอโดจินเลยทีเดียว ขอตัวไปกำหมัดแปป
ไมเดนแอบตกเบ็กทุกคืนคิดถึงแต่กอบสุเระ
กุว่าเมะน่าจะจบตอนบุกหมู่บ้านนั้นหล่ะ ช่วงนั้นพีคสุดล่ะทั้งพระเอกถอดหน้ากากและประโยคเด็ดประจำตัว
อยากเห็นหน้าพี่ก๊อบลินครับ LN เล่ม1ถอดหมวกมึงก็เสือกไม่วาดหน้า ให้กุเห็นอีกนะ
หน้าเหมือนคนเขียน
หน้าเหมือนนายกรัฐมนตรี
...GOBLIN SLAYER! SIDE STORY: YEAR ONE เล่ม 1 “ฉบับการ์ตูน”
และ GOBLIN SLAYER! เล่ม 1 “ฉบับการ์ตูน”
เนื่องจากภายในเล่มมีภาพไม่เหมาะสม จึงจะไม่มีวางจำหน่ายในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ
แต่สามารถสั่งซื้อและสั่งจองได้ทาง animagshop.com
ส่วนกำหนดจำหน่ายตามร้านค้าทั่วประเทศทาง สนพ.จะแจ้งให้ทราบอีกครั้งครับ...
เพิ่งไปหิ้วนิยายมาสองเล่ม อ่านส่วนของผู้กล้าแล้วเอาหน้าฮารุฮิมาไม่พอเสือกเอานิสัยมาด้วย ความหมั่นไส้+1000 แสรดๆ
เพิ่งซื้อเล่มแรกมาอ่าน ส่วนที่ทำตอนแรกเนี่ย
สาวประชาสัมพันธ์ก็พยายามรั้งอยู่นี่ว่าจะมีอีกคนมา คือก็อบลินสเลเยอร์สินะ
จริงๆ ก็ไม่ได้ไม่ดูดำดูดีพวกมือใหม่ขนาดนั้นนี่หว่า
แต่ยิ่งอ่านยิ่งเกลียดไอ้ตี้เลเวล 1 นี่ นู๊บหาเรื่องตาย แล้วเสือกมีแฟลชแบ็คความหลังอีก อ่านจากที่คุยๆ กันตี้นี้มันเป็นตัวครีเอตสินะ นักบวชหญิงแม่งตามไปเหมือนโดนป้ายยาเลย
กุว่าพระเจ้าโลกนี้ก็อารมณ์ประมาณเราๆเนี่ยหล่ะที่โรลเพลย์เป็นฝั่งร้ายและดี อารมณ์แบบเล่นดันเจี้ยนแอนดราก้อนอ่ะอารมณ์คล้ายๆกันเลย
อ้าวแรงตกหรอ หรือเผื่อโควต้าตอนสองกัน
คุยกันไปหมดแล้วมั้ง ประเด็นที่พูดๆกันข้างบนนี่ กลับไปหาคำตอบในกระทู้เก่ายังได้เลย เถียงกันไปหมดแล้ว
อีเอลฟ์กระดานอายุร้อยปีแต่ยังซิงใช่ไหมครับ มันเป็นไปได้เรอะ
ขอให้น้องพรีส น้องสาวกิลล์ น้องเอล์ฟนมแบน น้องเพื่อนสมัยเด็ก น้องแม่มดนมโต น้องบอด
รักษาความบริสุทธิ์ไว้จนถึงวันแต่งงานนะครับ
พี่น้อย
เสียซิงให้พระเอกคุไม่ว่านะ
เอาจริงๆ คือเหมือนเนิร์ดบ่นงานอดิเรกตัวเองให้ฟังมากกว่า มี Shadowrun,ผีในหอยหลุดมาด้วย
กูพูดผิด จริงๆคือแกไปให้สัมถาษณ์น่ะว่าได้แรงบัลดาลใจมาจากอะไร ไล่ไปเทเบิลท็อปที่เล่นตอนเด็ก มัธยม จนถึงล่าสุด นิยายที่ชอบ เกมที่เล่น นิสัยก็อบสเลย่าได้ต้นแบบจากใคร ประมาณนี้
จริงๆมันเป็นสัมภาษณ์ขายหนังสือเนิร์ดไงมึง อย่าไปคิดลึกซิ
เหม่ ถนนขาว สุดยอดนิยายในตำนาน ก็เอามาจากหนังสือเกมเหมือนกันนะ
แฟนตาซีบทสุดท้ายของไทยแม่งก็ก็อปหลายๆเรื่องมาปนกัน
ซิงมา1200ปีออกไปกับก็อบสเลแปบเดียวเกือบโดนข่มขืน
เอลฟ์แก่ๆ มานาเหม็นแถมมีกลิ่นเหมือนดินเน่าอีก จะไม่มีใครเอาก็ไม่แปลก
คงมีแต่พวกมนุษย์กับก๊อปลินที่อยากเอากับเอลฟ์แก่ๆเท่านั้นล่ะ
1200 ทำตัวเหมือนเด็กอายุ 12
ในเรื่องอายุของเอลฟ์ 2000 ปี+ ฟระ ถือว่าวัยรุ่น พี่อีเอลฟ์ อายุ 8000 ปีพึ่งแต่งงานตอนเล่ม 6 หรือ 7 นี่แหละ
อายุเป็นแค่ตัวเลข จริงๆ ในเรื่องมันกำหนดอายุเอลฟ์ให้ดูมากไปงั้นแหละไม่ได้คิดความสมจริงไรหรอก เหมือนเวลาเราเล่นเกมนั้นแหละ
พูดถึงอายุเอลฟ์นี่นึกถึงรีวิวหื่นของนกย่าง
ก๊อปชิน่อน sao มา
ส่วนอายุก็ยัดเลขส่งเดชไปนั่นแหละ
อีธนูไม่เคยออกจากป่าเลย เป็นไฮเอลฟ์แท้
พวกอาณาจักรเอลฟ์ที่ติดกับอาณาจักรมนุษย์ก็อีกเรทนึง
กูเปิดประเด็นใหม่ สวอร์ด เมเดน นี่แปลเป็นไทยว่า สาวซิงดาบ หรือสาวโสดดาบก็ได้ แต่ถ้าแปลว่าสาวซิงดาบก็เท่ากับย้อมแมวขาย จึงขอให้โม่งทุกคนเรียกเธอว่าสาวโสดดาบ
เรื่องของมึงกูเรียกอีชีบอดเหมือนเดิม
อาจจะให้นักบวชชัั้นสูงร่าย Restoration รีแพร์ให้แล้ว เลยเป็นไมเดน
อีบิซบอดดีกว่า เขาว่าสาวซิงจะบิซ กว่า คนไม่ซิง
พวกเมิงกำลังบุลลี่เจ๊ไมเดนของกุ
ขายเรด 161 zeny รีบเข้ามาเดี้ยวหมด
หยุด หยุดเดี๋ยวนี้ หยุดทันที
https://i.imgur.com/8gTFU4v.jpg
เมะเนื้อหามันว้าวขนาดต้องพูดคุยกันทุกซอกทุกมุมแบบนี้เลยเหรอวะ กูว่าเฉยๆว่ะ ออกไปแนวเอกกี้ด้วยซ้ำ รู้สึกจะชอบการข่มขืนกันเป็นพิเศษนะเด็กสมัยนี้สงสัยเงี่ยนกันมาก
ผมนี่กำเจี๊ยวรอเซ็กเฟรนด์ชุดซอร์ดไมเด็นเลย
edgy ของพวกมึงคืออะไรกันวะ ทำไมใช้มั่วแบบนั้น
เจอนมแนบหลังเจอสาวแก้ผ้ายังเก๊กนิ่ง ยังไม่เอดจี้พออีกเหรอ
เรื่องนี้มันเข้าข่ายEdgyแน่นอน(ปล. มันอ่านว่าเอดจี้โว้ย มีโม่งตัวนึงในนี้เรียกเอกกี้อยู่ด้ายยย) พยายามเขียนให้ดาร์ก แต่ฝีมือไม่ถึงเลยดาร์กได้แค่ถึงขั้นข่มขืน
ปล. การให้ตัวร้ายข่มขืนสาวๆเพื่อให้คนอ่านรู้สึกสะใจตอนตัวร้ายโดนฆ่านี่แม่งcliche พอๆกับหนังฝรั่งที่ให้ตัวร้ายเตะหมาเลย
ยกตัวอย่างตัวเอกเท่ๆคลูๆที่ไม่เอ็กกี้ให้คนนึงหน่อยคับ
กาตูนฟุจิตะทุกเรื่อง ไม่เอดจี้
กุว่าเรื่องนี้เป็นแนว fantasy ที่ดิบๆหน่อย แนวๆเดียวกับเบอเซิค แต่แค่ยังไม่เท่า
ในเมื่อกุไม่ได้รู้สึกว่าเบอเซิคจะ edgy เรื่องนี้ก็เช่นกัน
แต่ในเมื่อเห็นหลายคนชอบบอกว่าเรื่องนี้มัน edgy ก็อยากให้ช่วยอธิบายเบิกเนตรให้กุกระจ่างขึ้นหน่อย
เอกกี้เป็นศัพท์โม่งไง เหมือนหลวมอ่ะ
อย่างพระเอกแวบแรกที่ดู กูว่าคำฝรั่งที่เข้าข่ายและฝรั่งชอบใช้กันคือ badass นะ
ซึ่ง... กุก็ไม่รู้ละว่า badass กับ edgy มันเหมือนหรือต่างกันแค่ไหน แต่ส่วนตัวคิดว่าต่างอยู่
>>94 มีเยอะแยะไป โจเหยินจากโจโจ้ โกคู
กูว่าเรื่องนี้ตัวเอกไม่เอดจี้(ยอมรับการช่วยเหลือจากคนอื่น ไม่เหมือนซาซึเกะหรือเวจีต้าที่"ชิ ชั้นไม่ต้องการให้นายช่วย") แต่เซ็ตติ้งมันเอดจี้มากกว่า อย่างเบอร์เซิกมันดาร์กเพราะสิ้นหวังว่าจะไปสู้พวกก๊อดแฮนด์พวกปีศาจได้ไง เก่งกว่าเราเยอะ 40kมันดาร์กเพราะสิ้นหวังว่ามีแต่สงครามการสู้รบกันไม่มีทีท่าว่าจะจบสิ้น ส่วนก๊อบมีแค่ตัวกระโปกเขียวๆข่มขืนสาวสวย...
เออ ซาซึเกะ นี่ใช่เลย ตัวอย่างของคาแรกเตอร์ edgy มันต้องแนวๆนี้ ก็อปลินสเลเยอร์ มันเกือบๆตรงที่ชอบพูดว่าจะฆ่าๆก๊อปลิน แต่เมื่อมองที่สภาพแล้วมันก็คืองานที่มันหาเลี้ยงชีพอ้ะ ยิ่งฆ่าเยอะก็ยิ่งมีผลงานป่าววะ
มันเอดจี้ตรงไม่ถอดหมวก ตอนแดกก็ไม่ถอด ประมาณว่ากอบลินจะบุกมาตีหัวได้ทุกเมื่อกูต้องระวังไว้
ซาสึเกะนี่ถูกเรียกว่าเจ้าพ่อเอดจี้เเห่งวงการล่ะ
ตัวละครมีสเน่ห์ เกรียนเเตกเหี้ยๆเเต่คนรักทั้งโลก
กูว่าเอดจี้เนี่ยมันต้องมีความเบียวหรือความอีโมของตัวละครแฝงอยู่ในตัวด้วยนิดนึงว่ะ
เท่ๆ คูลๆต้องพี่ปุ้น ไปที่ไหนบรรลัยที่นั่น ด้วยมือปุ้น
ในเมื่อเรามีซาสึเกะเป็น benchmark ที่ดีของ edgy อีก็อปลินสเลเยอร์ก็คงไม่ใช่ไง
ในเมื่อเรามีเบอเซิคเป็น benchmark ที่ดีของแนวแฟนตาซีสายดาร์ค อีเรื่องนี้ก็คงไม่ใช่ไง
มันก็จัดอยู่ในระดับธรรมดาๆทั่วไปนั่นแหละ จะโหวกเหวกทำควยไรว่าดาร์คบ้างละ edgy บ้างละ งี่เง่าสัสๆ
หรือเพราะแค่มันมีฉากเรป กับเห็นว่าเห่อหมอยชอบ(เพราะด้วยวัยคงไม่ได้อ่านเบอเซิคกัน?)
งั้นใช้ "ซาสึเกะ" เป็นหน่วยวัดความเอกกี้ แบบ "กาเซฟ" ดีไหม
ไม่ดีหว่ะ มันจะได้แค่ 0.1ซาสึเกะ 0.5ซาสึเกะ
edgy อีกตัวที่ยกกันมาบ่อยๆคือคาเนกิ ปอบโตเกี่ยวช่วงหัวขาว กับช่วงเทวฑูตดำภาค re
เพียงแต่ความ edgy มันจบไปแล้วพร้อมๆกับ arc สุดท้ายที่สุดแสนจะกาก คนก็เลยลืมมันไปอย่างรวดเร็ว
ถ้าให้นิยาย adgy กว้างๆก็คือ มนุษยสัมพันธ์แย่ หยิ่ง เชิด อีโม ไม่เชื่อใจใคร สนแต่เรื่องของตัวเอง
แต่เก่ง โหด ฆ่าได้ฆ่า ไม่โลกสวย ทำได้ทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมาย
ยากเลย ต้องใช้หน่วย edgy น้อยๆ เป็นฐานเหรอ จะใช้ใครได้วะแบบนี้
เอดจี้นี่ไม่ใช่ว่ามันคือการทำอะไรที่ดูเท่ดูเถื่อน แต่จริงๆมันโคตรเสี่ยวเหรอวะ
คิดถึงมิกะสามน้ำIBOของคุณหนูๆวะ สุดท้ายเจอผัวโม่งพระเอกตัวจริง&ลุงเทพตบเละ
“Edgy” is an English slang term used to describe things, behaviors or trends which are provocative or avant-garde, and is often used to describe things that are dark and gothic in nature. It is commonly used as an insult online, particularly on 4chan and Tumblr for someone attempting to be badass by acting emo or overly contrarian.
พยายามจะเท่โดยการทำตัวอีโมหรือทำตัวสวนกระแส
ก็ใช้ มิลลิซาสึเกะ หรือ เซนติซาสึเกะ
อย่างกอบลินสเลเยอร์ ก็น่าจะถึง 10 เซนติซาสึเกะได้อยู่มั้ง
เอกกี้เหรอ มึงลองไปอ่าน dungeon seeker เอกกี้เห่อหมอยของแท้
อ่านๆดูเอดจี้นี่กุเข้าใจถูกแล้วว่า เท่แบบพยายามมีความเบียวหน่อยๆเลยออกมาดูเสี่ยวแทนสินะ
ก็อบสุเรคุงก็นิดนึงละมั้งไม่หนักมาก
อีซาสึเก่หนะหนักสุด
กูว่ามันเอดจี้ที่settingอย่างข้างบนว่า เช่น พระเอกหน้าตาหล่อนะแต่ใส่หมวกปิดหน้าตลอดเวลางี้ พระเอกเก่งแค่สู้กับก็อบลินแต่ก็อบลินเรื่องนี้อันตรายสุดนะอะไรแบบนี้ ออกจะเบียวหน่อยๆ สงสัยมากกว่าว่าทู้แรกทำไมเรียกพระเอกว่านักหลวม มันดูไม่หลวมนะในสายตากู
พยายามเก๊กสวนกระแสก็เอดจี้สิวะ มอนอื่นกูไม่ฆ่า จะฆ่าแต่ก็อบลินงี้
กูว่ามันก็ใส่เหตุผลมาเพียงพอแล้วนะว่าทำไมมันล่าแต่ก็อบลินไม่ได้เก๊กหล่อเหี้ยไรเลย
คนอื่นบอกก็อบลินกาก มันบอกก็อบลินโหดไล่ฆ่าแต่ก็อบลิน แต่เวลามอนโหดๆออกมาต้องเก๊กเอาไอเทมโกงขว้างใส่ทีเดียวตายแล้วยืนเก๊กต่อ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.