อ่านไปอ่านมาชักอยากดูแหะ ถ้ายืนโรงได้ไม่โดนถอดก่อนคงได้ดู
Last posted
Total of 311 posts
อ่านไปอ่านมาชักอยากดูแหะ ถ้ายืนโรงได้ไม่โดนถอดก่อนคงได้ดู
ไปดูมาละ ขอสรุปสั้นๆ ว่ากูควรหยุดดูดอกไม้ไฟด้านหน้าโรงหนังจะดีที่สุด 55555
ส่วนตัวกูไปดูมาแล้ว ไม่รู้สึกว่ามันแย่ แถวชอบอีก รอบ2อยู่ในแผนกูแล้ว
แต่ก็บอกได้เต็มปากว่ามันไม่ใช่เรื่องคนคนทั่วๆ ไปจะดูรู้เรื่อง
กูว่าแฟนชาฟท์ไม่พอ ต้องชอบเลียชินโบด้วย สำหรับกูรอบเดียวก็บายละ
อย่าเอาชื่ิอ Your Name มาโปรโมตเลย คนทั่วไปเขาจะนึกว่าหนังชินไค เจ้าตัวจะเสียเครดิตโดยใช่เหตุ
ลิโด้ให้รอบฉายเยอะจังวะ หนังมันสั้นหรอ
กูดูบนเครื่องบินตอนไปญี่ปุ่นมาแล้ว
ไม่ถึงกับเลวร้ายอะไรจริงๆแต่คงไม่ไปดูอีกรอบละ
ถ้าหนังมันภาพสวย ถึงจะดูไม่รู้เรื่องก็ยังโอเคนะ เจริญหูเจริญตา
แต่นี่เหี้ยอะไรวะ เผาชิบหาย
ผมว่าหนังมันอยากให้เราไปคิดต่อเยอะเลยนะ อีสเตอเอ้กเยอะมาก ผมว่ามันเป็นหนังดีนะ ไม่ใช่งานเผาๆอ่ะ
กูดูหนังต้องมาตามอีสเตอร์เอ้กอีกเรอะ ไอ้สัสกูอยากชมงานภาพงามๆให้สมกับค่าตั๋วที่กูจ่ายไป
https://youtu.be/l4wc1xLh0Zo?t=39s
ซีนนี้กูอาจจะคิดมากไปเอง แต่พระเอกมัน maduca mecuca มาก คือพอจอใหญ่แล้วยิ่งเห็นชุด
X เผา
O อาร์ต
Kappa
พึ่งไปดูมา แม่งโมชิโมะทั้งเรื่องเลย สัส
ก็ถือว่าสนุกอยู่นะถึงจะไม่ปังแต่ที่แน่ๆใครคาดหวังว่าจะอารมณ์your nameก็ผิดหวังแน่ๆล่ะ ส่วนตัวกูว่าใครลังเลอยู่ควรเข้าไปตัดสินใจด้วยตัวเองนะเพราะรสนิยมการดูหนังแต่ละคนมันไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
มีใครได้เย็ดกันมั้ย
เพิ่งดูจบ สมคำร่ำลือจริงๆ
- องก์ที่สามของหนัง(ตั้งแต่นาสึนะร้องคาราโอเกะบนรถไฟ)คือแม่งWTFมาก อยู่ดีๆก็มีคำถามผุดขึ้นในหัวว่านี่กูดูอะไรอยู่วะ
- กูว่าตอนจบเหงาๆดีนะ กูจินตนาการว่าจะตัดจบเหี้ยกว่านี้ "ครั้งหน้าที่เราได้เจอกัน จะเป็นโลกแบบไหนนะ" สมควรโปรโมทว่าเป็นหนังเหงามากกว่าคิมิโนะอีก
- ถามว่าเผาไหม มันก็เผาแหละ แต่พอคิดว่ามันคือชาฟต์ทำกูก็รู้สึกว่างานมันนับว่าขยันแล้วล่ะ ไม่เจอภาพนิ่งแบบบาเขะเท่าไร
แต่ถ้าดูแบบงานอนิเมชั่นทั่วไปถือว่างานหยาบประมาณนึงเลย คุณภาพไม่ค่อยสมกับฉายโรง แต่CGพวกวิช่วลหรือสิ่งของนี่ยอมจริง ทำสวยแต่CGคนนี่ก็เหี้ยมาก
สรุป รวมๆก็ชอบแต่ไม่เท่าคิมิโนะที่ตลาดกว่าย่อยง่ายกว่า เรื่องนี้แม่งชาฟต์+ชินโบจ๋าเกิ๊นนนน มักเกิ้ลดูแล้วคงด่าแน่นอนและคงไม่ถูกปากคนไทยเท่าไร รายได้เกิน5ล้านก็บุญแล้ว
ปล.มีใครรู้สึกไหมว่าภาพมันไม่ค่อยชัด เหมือนเบลอหน่อยๆ
https://www.facebook.com/BangkokCritics/posts/826024534254053:0
รายได้เปิดตัวไม่แย่มาก(สำหรับแนวนี้)
โม่งที่บอกเผานี่มืงดูจากด้านข้างหรือด้านล่างวะ
ว่าแต่มีเพจไหนรีวิวจริงๆจังๆบ้างแล้ววะ กูอยากอ่านรีแอ๊คชั่นหน่อย
เท่าที่ผ่านตากูเห็นเพจนึงรีวิวแบบลวกๆบอกว่าไม่ชอบ
กุชอบ kizumonogatari เพราะงานภาพแปลกตาดี ควรดูเรื่องนี้มะ
มีรีวิวอันนี้อันนึง
https://goo.gl/KmMDce
อันนี้ผมยกมาจากที่พิมพ์ใน pantip อีกที คิดว่าตีความหมายถูกไหม
"ตรงฉากสุดท้ายตอนที่ลูกแก้วระเบิด ผมมองว่ามันคือความปรารถนาต่อคนที่ชอบของแต่ละคนมากกว่าไม่น่าใช่โลกมิติอื่น เพราะสังเกตได้ว่าพอแต่ละคนได้เห็นความปรารถนาของตัวเองแล้วจู่ๆก็เกิดอาการอยากแสดงออกขึ้นมาทันที ซึ่งพระนางเราดันใจตรงกันและแสดงออกกันตรงนั้นทันที
ลูกแก้วไม่ได้ทำให้แค่ย้อนเวลาแต่พยายามทำให้สมปรารถนา
ตอนจบที่ครูขานชื่อถ้าพระเอกป่วยครูจะต้องไม่ขานชื่อครับเพราะครูหรือเพื่อนน่าจะรู้ก่อนอยู่แล้วถ้าป่วย
ส่วนตอนจบเดาว่าพระเอกน่าจะไปหานางเอกนั่นแหละครับ สังเกตจากการที่เพื่อนมันทำหน้าเบื่อๆในตอนจบนั่นแหละ
ถ้าสังเกตดีๆตอนที่ลูกแก้วแตก ไอ้โดมที่มันดูเหมือนมิติอื่น มันก็ค่อยๆหายไปด้วย
แสดงว่าที่ผ่านมาพระเอกมันก็อยู่ในโลกความจริงมาตลอด เพียงแต่ลูกแก้วมันดันทำให้ตรรกะค่อยๆเพี้ยนไปเรื่อยๆต่างหาก
พอลูกแก้วมันแตก ตรรกะถึงได้กลับมา ดอกไม้ไฟถึงได้กลับมาเป็นของจริงไงครับ
ผมว่าชื่อเรื่องดอกไม้ไฟคือมันต้องการให้เราสังเกตเห็นตรงจุดนี้นั่นแหละครับ
ส่วนตอนจบพระนางแสดงออกกันตั้งขนาดนั้น คงไม่แคล้วกันแล้วล่ะครับ
แต่คงไม่ใช่หนีตามกันไปแน่นอน เพราะนางเอกบอกระหว่างเรื่องแล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้
หล่อนต้องการที่จะอยู่กับพระเอกในคืนสุดท้ายเท่านั้น
ส่วนนางเอกน่าจะชอบพระเอกมาตั้งแต่แรกแล้ว เพราะจากลูปแรกนางเอกแกเป็นคนพูดเองว่าคิดว่าโนริมิจิจะต้องชนะแน่ๆ แต่มันดันผิดคาดไปซะก่อนเลยยึดเอาความตั้งใจแรกของตัวเองที่จะเลือกคนที่ชนะ แต่จากคำพูดข้างต้นเลยทำให้ค่อนข้างมั่นใจว่านางเอกมีใจให้พระเอกมาแต่แรกแล้วแน่ๆ แต่เรื่องมันดันผิดคาดเท่านั้นแหละ"
กุเพิ่งดูจบ คือกุดูเหี้ยไรเนี่ย แม่งกาวชิบหายไอ่สัส ภาพก็มีเผาบ้างเล็กน้อย กุว่าแม่งโคตรพลาด ที่โปรโมทว่าโรแมนซ์ มึงต้องดูยังไงให้มันเป็นโรแมนซ์วะ บอกกุที
ตรงพระเอกนางเอกจูบกันไง
เศษลูกแก้วมันทำให้เห็นถึงความปรารถนาของตัวเองต่อคนที่ชอบ แถมมันยังกระตุ้นให้อยากทำตามความปรารถนาด้วย
สังเกตจากที่เพื่อนๆ 4 คนพอเห็นเศษลูกแก้วแล้วจู่ๆก็ตะโกนสารภาพความในใจออกมา (ตรงนี้เป็นฉากที่จงใจใส่มาให้เรารู้ว่าลูกแก้วมันมีอำนาจแบบนี้ )ซึ่งหากใครไม่ทันเก็ทตรงนี้ ก็จะงงกับฉากต่อไป
ที่พอพระนางเห็นความปราถนาที่แท้จริงที่ตัวเองต้องการแล้วเลยโดนกระตุ้น(โดยลูกแก้ว)ให้ลงไปจูบกันในน้ำครับ (ตรงนี้หลายๆคนเลยอาจจะงงว่าทำไมพระนางจู่ๆก็จูบกันแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย)
>>179 5555555555555555555555555555555555555555555555555+ กุชอบความเห็นมึง
เอาจริง ถ้าถามกุ กุว่าแม่งแย่ แต่แย่ระดับที่พอรับได้อ่ะ หรือเพราะกุเคยดูพวกเมะเหี้ยๆ จนชินแล้วก็ไม่รู้
กุไปอ่านคอมเม้นต์นึงใน MAL กุว่าแม่งรีวิวค่อนข้างโอเค ให้สรุปก็คือ
ถ้าเป็นติ่ง Shaft เอาความมาฉุด พวกมึงก็ไปดูอยู่ดี ห้ามไปก็เท่านั้น
ถ้ามึงอยากไปดูเพราะ MV เพลง มึงรอดูแค่ฉากสุดท้ายในหนังพอ
ถ้ามึงอยากดูเพราะเนื้อเรื่องย่อ มึงไม่ต้องไปดูก็ได้ เนื้อเรื่องแม่งมีแค่นั้นแหละ ไม่มีเชี่ยไรมากกว่านั้น
https://myanimelist.net/reviews.php?id=259469
มีฉากปาลูกแก้วมั้ยวะ กูอ่านฉบับนิยาย ลูกแก้วในนิยายเหมือนปุ่มรีสตาร์ทอ่ะ
พอพระเอกมันตะโกนด้วยความอารมณ์เสีย(ถ้าตอนนั้นไม่แพ้แข่งว่ายน้ำ)แล้วปาลูกแก้ว
ก็เป็นจุดย้อนกลับมาในห้วงเวลาที่พระเอกอยากแก้ไข แต่จะเหมือนการรีเซ็ทจักรวาลด้วย
เพราะแต่ละครั้งที่ย้อนกลับ อะไรบางอย่างในโลกที่ย้อนกลับมาจะแตกต่างกับโลกก่อนหน้าเล็กน้อย
เช่น กังหันลม หรือรูปร่างของแท่งไอติม
หวังอะไรกันวะ กุดูหนังโมโนกาตาริภาคแรกแม่งโคตรกลวง กุก็เลิกสนชินโบตั้งแต่บัดนู้นแล้ว
ทำไมคนญี่ปุ่นนิยมเรื่องมิติเวลาจังเลยวะ?
แต่หนังเรื่องนี้ที่ญี่ปุ่นก็ด่ากันเยอะนะ 555555
ใครพออธิบายฉากที่มีผู้ชายกำลูกแก้วลอยอยู่ในทะเลได้บ้าง
แล้วทำไมตั้งแต่แรกเพื่อนพระเอกที่ชอบนางเอกถึงไม่ไปตามคำชวนแล้วพอมาลูปอื่นเสือกหึงหวง
>>186 ตอนนั้นนาสึนะกำลังเล่าเรื่องพ่อให้โนริมิจิคุงฟังอยู่แล้วภาพนี้ก็ตัดเข้ามา ก็อนุมานได้ว่าคนๆนั้นคือพ่อของเธอที่ตายไป แต่ก็อธิบายไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมถึงถือลูกแก้วอยู่(แต่ต้นฉบับจริงเป็นไงไม่รู้นะ)
กูว่าเวิร์ลไลน์ปกติที่ไม่โยนลูกแก้วเพื่อนมันไม่ได้ชอบนาสึนะหรอก ตอนที่บอกจะสารภาพรักก็พูดเล่นไปงั้น แต่เวิร์ลไลน์อื่นนี่น่าจะชอบจริง
ชอบจริงๆ แต่แค่ป๊อดเฉยๆ บางครั้งคนเราก็ไม่ได้ทำตัวตรงกับหัวใจ
สรุปดูไม่คุ้มค่าตั๋วใช่มะ ตอนแรกกูจะไปดูสตาร์วอร์ควบเฟอดินานด์ เห็นโปรเมเจอร์แล้วคิดหนักเลยว่าจะเอากระทิงหรือดอกไม้ไฟ 555
มีใครจับตัวนับ 3 2 1 ช่วงก่อนเข้าฉากสำคัญได้บ้าง
ถ้าไปดูเพื่อโม่ยนางเอกนี่คุ้มมั๊ย
เมเจอร์แถวบ้านกู พนักงานขายตั๋วคอสเพลย์เป็นนาซึนะด้วยว่ะ มีสองคนที่แต่งที่เหลือใส่ชุดปรกติ
ก็น่ารักในระดับพนักงานร้านสะดวกซื้อที่หาได้ทั่วๆไปอ่ะ
พิกัดเซ็นทรัลปิ่นเกล้ารอบ19.00 ตอนดูจบออกมาไม่เจอแล้ว อันนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นนโยบายของผู้จัดการโรงหนังหรือน้องเค้าอยากใส่เองนะ
จริงๆไม่ถึงขั้นคอสเพลย์หรอก แค่เอาชุดนักเรียนญี่ปุ่นสีขาวปกกะลาสีกับกระโปรงสีกรมสั้น แล้วก็ถุงน่องยาวคลุมเข่า แต่ไม่ใส่วิก
>>203 กุยังสงสัยอยู่เลยว่ะ สรุปว่าไอ่ที่แม่งย้อนแต่ละทีนี่ มันเปลี่ยนแปลงโลกความจริงปะ
หรือเป็นแค่โลกที่ลูกแก้วสร้างขึ้นมาเฉยๆ ถ้าเป็นโลกที่ลูกแก้วสร้างขึ้นมา งี้ทฤษฎีที่สักคนในโม่งบอกไว้ว่า
ตอนจบคือ พระเอกแม่งไปหานาซึนะ เลยไม่อยู่เช็คชื่อ เพราะเห็นพวกเพื่อนๆ มันทำหน้าเบื่อโลกก็ใช้ไม่ได้ดิ
ตีความระดับเดียวกับหนังโนแลนเลยครับ
>>204 มันพยายามทำให้คำขอสมปรารถนาจนสามารถเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงของโลกได้
แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวตนและความนึกคิดของแต่ละคนได้
จุดสังเกตคือตอนที่ลูกแก้วแตก โลกที่ความเป็นจริงหรือตรรกะผิดเพี้ยนมันได้ค่อยๆหายไป แต่ว่าแต่ละคนในเรื่องก็ไม่ได้หายไปหรือความคิดเปลี่ยนไปตรงไหนเลย
อันนี้จากใน pantip นะ
"ตรงฉากสุดท้ายตอนที่ลูกแก้วระเบิด ผมมองว่ามันคือความปรารถนาต่อคนที่ชอบของแต่ละคนมากกว่าไม่น่าใช่โลกมิติอื่น เพราะสังเกตได้ว่าพอแต่ละคนได้เห็นความปรารถนาของตัวเองแล้วจู่ๆก็เกิดอาการอยากแสดงออกขึ้นมาทันที ซึ่งพระนางเราดันใจตรงกันและแสดงออกกันตรงนั้นทันที
ลูกแก้วไม่ได้ทำให้แค่ย้อนเวลาแต่พยายามทำให้สมปรารถนา
ตอนจบที่ครูขานชื่อถ้าพระเอกป่วยครูจะต้องไม่ขานชื่อครับเพราะครูหรือเพื่อนน่าจะรู้ก่อนอยู่แล้วถ้าป่วย
ส่วนตอนจบเดาว่าพระเอกน่าจะไปหานางเอกนั่นแหละครับ สังเกตจากการที่เพื่อนมันทำหน้าเบื่อๆในตอนจบนั่นแหละ
ถ้าสังเกตดีๆตอนที่ลูกแก้วแตก ไอ้โดมที่มันดูเหมือนมิติอื่น มันก็ค่อยๆหายไปด้วย
แสดงว่าที่ผ่านมาพระเอกมันก็อยู่ในโลกความจริงมาตลอด เพียงแต่ลูกแก้วมันดันทำให้ตรรกะค่อยๆเพี้ยนไปเรื่อยๆต่างหาก
พอลูกแก้วมันแตก ตรรกะถึงได้กลับมา ดอกไม้ไฟถึงได้กลับมาเป็นของจริงไงครับ
ผมว่าชื่อเรื่องดอกไม้ไฟคือมันต้องการให้เราสังเกตเห็นตรงจุดนี้นั่นแหละครับ
ส่วนตอนจบพระนางแสดงออกกันตั้งขนาดนั้น คงไม่แคล้วกันแล้วล่ะครับ
แต่คงไม่ใช่หนีตามกันไปแน่นอน เพราะนางเอกบอกระหว่างเรื่องแล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้
หล่อนต้องการที่จะอยู่กับพระเอกในคืนสุดท้ายเท่านั้น
ส่วนนางเอกน่าจะชอบพระเอกมาตั้งแต่แรกแล้ว เพราะจากลูปแรกนางเอกแกเป็นคนพูดเองว่าคิดว่าโนริมิจิจะต้องชนะแน่ๆ แต่มันดันผิดคาดไปซะก่อนเลยยึดเอาความตั้งใจแรกของตัวเองที่จะเลือกคนที่ชนะ แต่จากคำพูดข้างต้นเลยทำให้ค่อนข้างมั่นใจว่านางเอกมีใจให้พระเอกมาแต่แรกแล้วแน่ๆ แต่เรื่องมันดันผิดคาดเท่านั้นแหละ
เศษลูกแก้วมันทำให้เห็นถึงความปรารถนาของตัวเองต่อคนที่ชอบ แถมมันยังกระตุ้นให้อยากทำตามความปรารถนาด้วย
สังเกตจากที่เพื่อนๆ 4 คนพอเห็นเศษลูกแก้วแล้วจู่ๆก็ตะโกนสารภาพความในใจออกมา (ตรงนี้เป็นฉากที่จงใจใส่มาให้เรารู้ว่าลูกแก้วมันมีอำนาจแบบนี้)ซึ่งหากใครไม่ทันเก็ทตรงนี้ ก็จะงงกับฉากต่อไป
ที่พอพระนางเห็นความปราถนาที่แท้จริงที่ตัวเองต้องการแล้วเลยโดนกระตุ้น(โดยลูกแก้ว)ให้ลงไปจูบกันในน้ำครับ (ตรงนี้หลายๆคนเลยอาจจะงงว่าทำไมพระนางจู่ๆก็จูบกันแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย)
สรุป จากคำถาม
1.นางเอกชอบพระเอกแน่นอน แต่น่าจะยังไม่รู้ใจตัวเองในตอนแรก คำพูดและการกระทำหลายๆอย่างมันบ่งบอกว่าเธอคิดว่าพระเอกจะชนะแน่ๆแต่เรื่องราวมันดันตรงกันข้าม (จริงๆสังเกตปฏิกิริยาของนางเอกตอนที่ชวนไปเดทจากลูปแรกและลูปที่สองก็ได้ครับ ตอนชวนยูสุเกะทำหน้าซังกะตายสุดๆ ตอนยูสุเกะถามยังมีการต้องคิดก่อนจะตอบอีกต่างหาก แต่พอเป็นตอนชวนพระเอกกลับทำหน้าลั่ลล้าสุดขีด ถามเหตุผลก็ไม่ยอมตอบอีก(จะให้บอกชอบกับคนที่ชอบง่ายๆได้ยังไง) ขี่จักรยานกลับก็ยังไม่เหมือนเดิมเลย)
2.เรื่องนี้ไม่มีมิติอื่น มันคือการย้อนเวลาดื้อๆนี่แหละครับไม่มีอะไรซับซ้อน ยิ่งคิดเยอะหรือโดนคำพูดพระเอกชักจูงที่ว่าเป็นโลกมิติอื่นจะยิ่งงง
3.''ยังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว ฉันแค่อยากจะอยู่กับนายคืนสุดท้ายเท่านั้น'' คำพูดนี้นางเอกเธอหมายถึงการหนีตามกันครับ คือที่ทำไปเธอรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ คืนสุดท้ายที่ว่าน่าจะหมายถึงคืนสุดท้ายก่อนที่จะออกจากเมืองไปครับ (จริงๆฉากที่เศษลูกแก้วให้นางเอกเห็นคือความปรารถนาของเธอที่อยากจะหนีตามพระเอกไปครับ พอเห็นแบบนั้นนางเอกเธอถึงร้องไห้ไงครับเพราะรู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นไปไม่ได้ อายุยังน้อยแบบนี้มันจะไปสวยงามเหมือนที่ปรารถนาได้ยังไง)
4.สุดท้ายพอลูกแก้วระเบิด โลกก็กลับสู่ความจริงครับ ไม่บิดเบี้ยวแล้ว ดอกไม้ไฟที่แท้จริงในตอนสุดท้ายคือคีย์เวิร์ดที่คอยบอกเรื่องนี้ครับ "
บางคนไม่แปลกใจกันบ้างเหรอว่าถ้าในเศษลูกแก้วมันคือมิติอื่นทำไมมันถึงให้เห็นแต่คนที่ตัวเองชอบ
คิดจริงๆเหรอว่าจะมีโลกที่พระเอกนางเอกอายุยังไม่ถึง 15 จะสามารถหนีตามกันไปแล้วมีชีวิตลั่ลล้าแบบที่นางเอกเห็นในเศษลูกแก้วได้
บางคนติดกับดักทางความคิดเหมือนเรื่องเล่าที่ไอสไตน์สอนนักเรียนเกี่ยวกับตรรกะ บางคนยึดติดกับคำว่าโลกคู่ขนานจนมองแก่นที่แท้จริงผิดเพี้ยนไปจนตีความหมายผิดไปนะผมว่า
จริงๆผมว่าเรื่องนี้มันดูไม่ยากนะ ถ้าเราไปตีกรอบความคิดหรือคิดให้มันซับซ้อนยุ่งยากเกินไป จะดูแล้วงงไปเลย
หลังจากไปดูรอบที่ 2 เพื่อเก็บรายละเอียดอีกรอบ ขอสรุปเพิ่มเติม
................................................................................................................................................................................................
1.นางเอกมีใจให้พระเอกมาตั้งแต่ต้นแน่นอน ทั้งจากปฏิกิริยาที่แตกต่างกันตอนที่ชวนยูสุเกะกับที่ชวนพระเอกจากที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ ยังสามารถยืนยันจากคำพูดของนางเอกจากลูปแรกตอนที่เดินคุยกันหลังจากยูสุเกะเบี้ยวนัด (อาจจะไม่เป๊ะๆทุกคำนะครับ)
นาซึนะ : "ตอนนั้นชั้นตัดสินใจปุ๊บปั๊บว่าจะชวนคนที่ว่ายน้ำชนะ ชั้นคิดว่านายจะเป็นคนชนะแน่ๆ ทำไมนายถึงได้แพ้ล่ะ"
โนริมิจิ :"เพราะว่าเธอว่ายน้ำเร็วเกินไปน่ะซิ" (ราวๆนี้แหละ)
นาซึนะ : "มันเป็นความผิดของชั้นเหรอ ทั้งหมดมันเป็นความผิดของชั้นเหรอ"
ก่อนจะคุยกันเรื่องหนีออกจากบ้านและก่อนจากกันนางเอกของเราก็ได้พูดทิ้งท้ายไว้
นาซึนะ : "นายรู้ไหมว่าทำไมชั้นถึงคิดว่านายจะชนะ"
แล้วก็เดินจากไป
ประโยคข้างต้นทั้งหมดมันแทบจะเป็นการบอกกันกลายๆอยู่แล้วว่าแท้จริงแล้วเธออยากชวนใคร
................................................................................................................................................................................................
2.หลังจากที่นางเอกร้องเพลงในรถไฟ
นาซึนะ : "ชั้นรู้อยู่แล้วว่าการหนีตามกันแบบนี้มันเป็นไปไม่ได้ แต่ขอแค่วันนี้ก่อนที่ชั้นจะย้ายออกไปจากเมืองนี้ ชั้นอยากจะอยู่ด้วยกันกับโนริมิจิคุง"
ประโยคที่นางเอกคิดนี้บอกให้เรารู้ได้ชัดเจนอยู่สองอย่าง
2.1.นางเอกรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าการหนีตามกันไปมันเป็นไปไม่ได้ เธออยากจะหนีไปกับพระเอกแต่ก็เข้าใจความจริงในข้อนี้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ ตอนสุดท้ายที่เศษลูกแก้วให้เธอเห็นความปรารถนาในข้อนี้เธอถึงได้ร้องไห้ออกมาเพราะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้นั่นแหละครับ
2.2.มันบ่งบอกชัดเจนว่านางเอกอยากจะอยู่กับพระเอก มันช่วยยืนยันได้ชัดเจนว่าเธอชอบพระเอกแน่นอน ชอบไม่ใช่น้อยๆด้วย
................................................................................................................................................................................................
3.ฉากที่นางเอกเธอตกลงไปในน้ำก่อนที่ลูกแก้วจะระเบิดหลังจากที่เธอรู้ความในใจของพระเอกที่ตะโกนบอกว่าอยากจะอยู่ด้วยกันแม้ในโลกประหลาดๆแห่งนี้และรู้แล้วว่ายังไงๆก็ต้องย้ายออกจากเมืองนี้แน่ๆ
นาซึนะ : "แล้วเราจะเจอกันอีกเมื่อไหร่ดีล่ะ"
ประโยคนี้มันบ่งบอกชัดเจนเลยว่าแม้เธอจะย้ายออกไปจากเมืองนี้เธอก็ยังอยากเจอพระเอกอีก เพราะฉะนั้นที่พระเอกไม่อยู่ในห้องเรียน ผมค่อนข้างมั่นใจเลยว่าไปหานางเอกแน่นอน
................................................................................................................................................................................................
4.หลังจากที่พระเอกกับนางเอกโดนเศษลูกแก้วกระตุ้นให้แสดงความรักต่อกันแล้วและนางเอกรู้แล้วจากโดมที่แตกต่อหน้า ว่าโลกประหลาดๆที่พระเอกบอกว่าได้สร้างขึ้นโดยขอพรจากลูกแก้วมันเป็นเรื่องจริง
นาซึนะ : "ครั้งต่อไปที่เราเจอกันมันจะเป็นโลกแบบไหนนะ ชั้นรอแทบไม่ไหวแล้ว"
แต่อย่างที่เรารู้ๆกันนั่นแหละครับ ลูกแก้วมันแตกไปแล้วมันไม่มีโลกที่ตรรกะผิดเพี้ยนแบบนี้แล้ว
................................................................................................................................................................................................
ปล.ถ้าใครอ่านที่ผมพิมพ์มาตลอดแล้วกลับไปดูอีกรอบคุณจะเข้าใจและอินไปกับความโรแมนติคและความรักของเด็กสองคนนี้
ปล.2 หนังเรื่องนี้หากกลับไปดู ถ้าอยากเข้าใจคุณต้องตัดประเด็นเรื่องจักรวาลคู่ขนานทิ้งไปซะ ลูกแก้วไม่ได้ช่วยแค่ให้พระเอกย้อนเวลาเพื่อกลับไปแก้ไขเรื่องราว แต่มันกำลังพยายามให้คนที่ใช้มันสมความปรารถนาต่างหาก ที่เราดูมามันจึงเป็นเส้นทางเดียวแต่ถูกลบและแก้ไขซะใหม่ต่างหากไม่ใช่ทางแยก
บอกชัดขนาดนี้ยังต้องตีความอะไรอีกวะ
ลูกแก้ว ทำให้ความปรารถนาเป็นจริง แต่ก็ทำให้ตรรกะรอบตัวบิดเบี้ยวไปด้วย
อย่างเรื่องพลุที่แปลกไปจากปกติ หรือรูทสุดท้ายที่มีโดมกระจกขี้นมา
แต่เรื่องมิติอื่น มันก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ อันนี้ผมว่าหลายคนไม่ได้สังเกตุ มีคนพูดถีงเรื่องนี้น้อยมาก นั้นก็คือเหตุการณ์ในห้องพระเอกทั้งสองรูท
จุดแรกที่เห็นชัดๆคือเพื่อนพระเอก อันนี้ต่างกันเลย รูทแรกบอกพลุกลม รูทสองบอกพลุแบน อันนี้คือเปลี่ยนความคิด
แต่เรื่องสิ่งของที่เห็นชัดๆเลยคือ เครื่องเกมครับ ในรูทแรกกับรูทสอง เครื่องเกมในห้องมันคนละเครื่องกันนะ ทำไมการย้อนอดีต หรือเปลี่ยนแปลงความปรารถนา ไปมีผลอะไรกับการซื้อเครื่องเกมด้วยหรือไง หรือเพราะคนละมิติ มิตินี้พระเอกซื้อเครื่องเกมอันนี้แทน
และยังมีที่ประตู อันนี้ผมมองไม่ทันจริงๆ มีคนบอกว่าประตูห้องพระเอกสองรูทตกแต่งต่างกัน ทำไมมันถีงต่างกันได้ล่ะ
ส่วนเรื่องนางเอกชอบใครก็ไม่น่าต้องมาวิเคราะห์อะไรกันหรอก ชัดขนาดนี้
เสริมอีกนิด เรื่องลูกแก้ว ในฉบับซีรีย์ตอน 1993 ไม่มีนะ ในเมะมาปรับเป็นแบบนี้เอง แต่ต้นคิดก็คือผู้กำกับและเขียนบทตอนทำซีรีย์นั้นล่ะ
>>212 https://www.picz.in.th/image/01Ssj9
เครื่องเกมอันบนคือลูป1 อันล่างคือลูป2
เรื่องเครื่องเกมชาฟน่าจะเผาแล้วล่ะ มองใกล้ๆเครื่องเกม ลูป1กับลูป2 เหมือนกันเป๊ะ
https://www.picz.in.th/image/01Yk22 ลูป1
https://www.picz.in.th/image/01YTTy ลูป2
แต่พอมองไกลๆกลับเป็นคนละเครื่อง
เก็บรายละเอียดแบบนี้นึกถึงตอน Your name เลยว่ะ
สงสารคนโดนตีหัวเข้าบ้าน เห็นPVกับการโปรโมทเข้าไปนึกว่าจะเจอชินไค ที่ไหนได้.....
ยังดีไม่เจอชินโนะซีเกะ
ปัญหากับคนดูทั่วไปผมว่ามันอยู่ตรงนี้เนี่ยล่ะ ค่ายมันโปรโมทซะคนคิดว่าคนสร้างคนเดียวกัน แนวเดียวกันกับยัวร์เนม พอเข้าไปดูเจองานภาพเจอการดำเนินเรื่องแบบนี้ไป เงิบกันหมด
ไอ้โปรโมทแบบนี้มันก็ไม่แปลกหรอก หนังหลายเรื่องมันก็โปรโมทกันแบบนี้ แต่ค่ายมันก็ต้องรับฟีดแบคให้ได้เวลาเจอคนด่าแล้วกัน 555+
จากข้างบนๆ เรื่องนางเอกไม่น่าต้องมาคิดหรอกว่าชอบพระเอกไหม ชัดขนาดนี้ไม่ว่ารูทใหน แต่ที่สงสัยเรื่องเพื่อนพระเอกว่าชอบนางเอกไหม ผมว่ามันก็ชอบแบบชัดๆเลยนะ แต่ตัวมันขี้ป๊อดปอดแหก สาวมาชวนเสือกไม่กล้า เลยจบแบบนี้
แต่รูทต่อๆมามันคือ ตัวเพื่อนพระเอกบอกพระเอกไปแล้วว่าชอบนางเอก แล้วอยู่ๆมาเห็นพระเอกใกล้ชิดกับนางเอก เลยโมโหหีงไปแบบนั้น
ส่วนเศษลูกแก้ว ผมตีความว่าคือความปรารถนาของแต่ละคนนะ อย่างเพื่อนพระเอกก็เห็นตัวเองได้เที่ยวกับนางเอกอย่างมีความสุขในงานวัด หรืออย่างภาพที่พระเอกนางเอกหนีตามกันได้ ซี่งความเป็นจริงตามข้างบนว่า มันเป็นไปไม่ได้ แต่ลูกแก้วอาจจะทำให้ แต่ก็ทำให้ตรรกะรอบตัวผิดเพี้ยนไปด้วยตามความปรารถนาเหมือนกันอีก
ดูจบสดๆร้อนๆเมื่อกี้ที่เอ็มควอเทียร์ ทั้งโรงมีประมาณ6คนเป็นสาวฝรั่ง2คน(น่าจะชอบอนิเมะเพราะเห็นตั้งใจดูจนจบ)ที่เหลือเป็นชาวญี่ปุ่นหมด
เข้าเรื่อง...เอาเป็นว่าดูแล้วส่วนตัวรู้สึกชอบนะและคิดว่าโชคดีที่ได้ไปดูคนเดียวเพราะถ้าไปกับเพื่อนมันคงบ่นแล้วเราก็คงต้องเออออตามจนหมดสนุกหรือไม่มีสมาธิดู
คือความสนุกของเรื่องนี้มันอยู่ที่ดูไปแล้วคิดถึงตัวเองไปเงียบๆในใจกับคำว่าIF ไม่ต้องหาเหตุผลกับลูกแก้วย้อนเวลาหรือพลุว่ามันจะกลมหรือแบนทั้งหมดมันล้วนเป็นเรื่องไร้สาระของเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงที่วัยเพิ่งจะพ้นประถมไม่กี่ปี
และเรื่องทั้งหมดมันอาจจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่จริงก็ได้และไม่มีที่มาที่ไปไม่มีคำตอบตายตัวและคำตอบของคนที่ดูก็คงจะออกมาไม่เหมือนกัน
ส่วนที่ประทับใจในเรื่องคงเหมือนกับที่โม่งคนก่อนๆที่เคยบอกว่าถ้าเข้าไปดูความน่ารักของนัตสึนะจะคุ้มสุดซึ่งก็เห็นด้วยเลยผมชอบเวลาซูมหน้านางเอกชอบตากับริมฝีปากจนลืมฉากหลังที่เป็นทะเลสวยๆไปเลย
สรุปใครจะดูเรื่องนี้แนะนำว่าควรไปดูคนเดียวน่าจะดีที่สุดและปล่อยตัวเองไปกับความไร้เหตุผลของเรื่องแล้วลองหาคำตอบในแบบของตัวเองดู
ยิ่งถ้าใครตอนเด็กๆนึกถึงคนที่เราแอบชอบแล้วคิดตามพระเอกถึงIFต่างๆก็ยิ่งเพลินเลยนะ
กูว่าเรื่องนี้มันมีองค์ประกอบของหนังรักที่เยอะดีนะ ถ้าผกก.ดันอาร์ทจัด จัดรายละเอียดเข้ามาเยอะจนคนดูเงิบ
ถ้าทำตรงๆแบบต้นฉบับ คือแยกทางเลือกให้ชัดเจนไปเลย แล้วไปเล่นประเด็นโลกที่สองที่พระเอกพานางเอกหนีได้
เดินไปแนว Love com ให้สุด กูว่ามันคงดูง่ายกว่านี้เยอะ
>>224 เอาจริงๆ เลยนะ ที่แม่งโปรโมทอ่ะ กุไม่สนใจด้วยซ้ำ กุเข้าไปดูรักไร้เสียง ออกมาก็ชอบ ชอบกว่า Your name อีก
แต่ Hanabi นี่กุรู้สึกกาวตั้งแต่แม่งแตะกระจกแล้วเปลี่ยนชุดละ ดูๆ อยู่แล้วรู้สึกอายแทนชิบหาย แต่โดยรวมก็พอรับได้
อินดี้สไตล์ชาฟท์สัส กุว่าสไตล์ชาฟท์แม่งควรทำแค่ Monogatari Series อ่ะ จริงๆ
อารมณ์แปลกๆดี ดูไปก็เอามือกุมหัวไปในความกาวหลายฉาก แต่ไปๆมาๆก็เพลินและช่วยแก้ความหงุดหงิดที่มีก่อนดูหนัง(จากไอ้ร้านคอมหัวควยที่ไปซ่อม)ได้ดีซะงั้น จบงงๆแต่ก็พออ่านออกว่าน่าจะแฮปปี้ กลับมาแล้วก็เปิดกระทู้อ่านสนุกดีซะงั้น โดยรวมก็คิดว่าไม่เสียดายตังนะ
ไอ้เรื่องต่างจากต้นฉบับจะว่าชินโบว่าShaftอย่างเดียวก็ไม่ได้หรอก อย่างเรื่องลูกแก้วนั้นก็ไอเดียของผู้กำกับและเขียนบทตั้งแต่สมัยทีวีแล้ว
อีกจุดก็เรื่องวัย ต้นฉบับคือประถม แต่พอเป็นเมะ ประถมจะเด็กไป ม.ปลายก็มากไป ม.ต้นอายุพอดีและเป็นช่วงที่เด็กผู้หญิงโตกว่าเด็กผู้ชายพอดีด้วย
พูดถึงลูกแก้วเห็นตามเว็บอื่นๆเถียงกันเรื่องว่ามันเกิดขึ้นจริงหรือเป็นความเพ้อฝันของพระเอกที่อยากจะย้อนไปแก้ไขความผิดพลาด
แต่จริงๆมันก็เหมือนกับในเรื่องที่เพื่อนมันนั่งเถียงกันว่าดอกไม้ไฟมันกลมหรือแบนนั่นแหละมันอาจเป็นได้ทั้งจริงและไม่จริงแต่ก็ไม่มีผลพิสูจน์มายืนยัน
เพราะสุดท้ายก็ตามที่นางเอกพูดคือเรื่องทุกอย่างจะเป็นยังไงก็ช่างแค่รู้ว่าเธออยากอยู่กับพระเอกก็พอ
ในตอนจบมันสื่อได้ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นแค่ความเพ้อฝันแต่พระเอกก็ตัดสินใจทำตามใจตัวเองก็คือยอมรับความจริงและออกตามหานางเอกที่ย้ายไปแล้ว
หรือทุกอย่างที่เกิดขึ้นอาจเป็นเรื่องจริงก็ได้แต่สุดท้ายผลลัพธ์ของคำตอบก็เป็นไปในทางเดียวกันคือพระเอกทำตามความต้องการของตัวเองเรื่องอื่นๆมันจะเป็นยังไงก็ช่าง
ตอนจบนี้เห็นถกกันได้หลายอย่าง ซี่งมันก็ตามที่คนทำต้องการนั้นล่ะ จบปลายเปิด อยากให้เป็นแบบใหน จิ้นเอาเอง
พระนางหนีไปด้วยกันได้ แต่ถ้าตามความเป็นจริงก็ยากตามที่รู้กัน
นางเอกย้ายไป พระเอกไปหา
แต่เจอแบบฮาร์ดคอร์สุด นางเอกย้ายไป พระเอกตายแล้ว จากการใช้พลังลูกแก้วมากไป อิงจากตอนที่นางเอกเล่าเรื่องพ่อ แล้วมีภาพคนจมน้ำในมือถือลูกแก้ว คนเดากันว่าคือพ่อนางเอกเคยใช้พลังของลูกแก้วมาก่อน ลูกแก้วถีงได้ลอยน้ำมาให้นางเอกเก็บ
>>232 ถ้าทั้งหมดนั่นมันเป็นเรื่องเพ้อฝันของพระเอก มันจะมีฉากเล่าปูมหลังนางเอกไปทำไม ในเมื่อพระเอกไม่เคยรู้ปูมหลังนางเอก ในเรื่องก็บอกอยู่ว่าไม่มีใครรู้ กระทั่งครูเองก็มารู้ตอนได้จดหมาย ถ้ามันเป็นความเพ้อฝันของพระเอกทำไมจู่ๆถึงเพ้อฝันว่านางเอกมีปัญหากับแม่เพราะเรื่องพ่อเลี้ยง คนเราหนีออกจากบ้านมันมีเหตุผลร้อยแปดพันเก้าทำไมความเพ้อฝันของพระเอกถึงฟันธงแบบนี้
>>234 ส่วนตัวคิดว่าหนังเล่นแง่กับเรื่องนี้แหละคือถ้าพยายามชี้ชัดมันก็เหมือนกับพวกเพื่อนๆในเรื่องที่เถียงกันเรื่องดอกไม้ไฟกลมหรือแบนมีทั้งมโนเองบ้างมีทั้งเอาข้อมูลมายืนยันแต่สุดท้ายก็ไม่มีเฉลย
ส่วนผมคิดว่ามันทั้งเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้เพราะไม่มีเฉลยนี่แหละ
และสิ่งที่เราเห็นมีส่วนไหนจริงส่วนไหนเท็จเราก็ไม่รู้อยู่ดีเหมือนกับที่พระเอกได้ไปเห็นดอกไม้ไฟในรูปแบบต่างๆ
การที่พระเอกได้มีโอกาสหนีขึ้นรถไฟไปนั่งฟังเรื่องของนางเอกอาจเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ได้
และก่อนหน้านั้นล่ะหรือหลังจากนั้นล่ะอะไรเกิดขึ้นก่อนหรือหลังอันไหนจริงหรือเท็จไม่มีอะไรยืนยันได้เลยทุกอย่างล้วนเป็นไปได้และไม่ได้แต่สุดท้ายคำตอบที่ได้คือความปรารถนาลึกๆในใจของตัวเอง
ฉากนาซึนะเก็บลูกแก้วแล้วเอียงคอหันมามองพระเอกนี่ลายเซ็นShaftด้วยป่ะ
พล็อตโฮลของการที่คิดว่าเป็นโลกในความคิดของพระเอก เรื่องดอกไม้ไฟก็ดูไม่สมเหตุสมผลถ้าคิดแบบนี้ ในเมื่อหากมันเป็นโลกในความคิดของพระเอกที่คิดว่าเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ แต่ตัวพระเอกไม่เคยยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงซักโลก เป็นโลกที่พระเอกคิดขึ้นมาแต่พระเอกไม่เคยคิดว่าเป็นแบบนี้ ฟังดูแปลกๆไหม อะไรมันจะย้อนแย้งกันขนาดนี้ เป็นโลกในความคิดพระเอกว่าพลุมันแบนแล้วพระเอกก็บอกว่าพลุมันไม่แบนแบบนี้ เป็นโลกในความคิดพระเอกที่พลุมันประหลาดๆแฟนซีแล้วพระเอกก็บอกว่ามันไม่เป็นจริง เป็นโลกในความคิดพระเอกที่มีโดมแก้วประหลาดๆพระเอกก็บอกว่ามันประหลาดๆไม่เป็นความจริง
แปลก หากมันเป็นโลกที่พระเอกคิดจริงๆแล้วพระเอกมันจะคิดขัดแย้งกับความคิดตัวเองทุกโลกทำไม มันย้อนแย้ง มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ
ประเด็นที่คิดว่าเป็นโลกในความคิดพระเอกตัดทิ้งไปได้เลย
ไม่ได้ว่าอะไรนะ เรื่องแบบนี้มันดิสคัสกันได้ แต่ถ้าบางอย่างมันผิดไปจากข้อมูลที่หนังมีเกินไปก็ไม่ไหว
plot hole บางอย่างมันเกิดขึ้นตอนดัดแปลงบท ของแบบนี้ถมยังไงก็ไม่เต็ม
ดูจากความติสของชินโบผมว่าเขาก็ต้องการให้เรามึนอยู่แล้วล่ะสรุปก็คือมันไม่มีใครผิดใครถูกหรอกฮะกับเรื่องที่ปลายเปิดซะขนาดนี้
บางที่กุก็สงสัยนะ พวกผกก.ยุ่นเกือบทุกตัวเลยทำไมมันชอบอะไรแบบนี้
จบแบบให้ไปคิดเอาเองเนี่ย คิดว่ามันติสมากรึไงว่ะ ทำกันเกร่อไปหมด
หรือมือไม่ถึงทำฉากจบแบบชัดเจนแล้วกลัวคนไม่ชอบไม่พีคเลยจบปลายเปิดแทน
>>242
1. การทำจบปลายเปิด(ในบางแบบและบางเรื่อง)จะทำให้จินตนาการของคนดูทำงานได้ดีกว่าจบแบบปลายปิดจนเป็นตอนจบที่ประทับใจและน่าจดจำกว่า
2.แต่ถึงอย่างนั้นปลายเปิดแบบWTFก็มี แบบไม่ปิดปมเหี้ยอะไรทั้งสิ้น ซึ่งหนังทางฝั่งตะวันตกจะเป็นกันเยอะ มาจากแนวคิดว่าชีวิตคนเราไม่ได้จบแค่ในจอภาพ บางอย่างในชีวิตไม่สามารถจบได้ในเหตุการณ์เล็กๆที่เกิดขึ้น เช่นการคอร์รัปชั่นในรากเหง้าสังคมไม่มีทางที่ตัวเอกจะจัดการได้หมด
ก็ไม่รู้ว่าฝั่งญี่ปุ่นรับกันมามากแค่ไหน แต่จบปลายเปิดนี่กูก็เห็นกันทุกประเทศอะ
3. กูว่าหนัง/อนิเมญี่ปุ่นมันก็มีคละๆกันไปหมดอะ ทั้งปลายปิด/เปิด
แต่รอบนี้ขอชมเรื่องซับไทยว่าดีกว่าyour nameเยอะคือไม่ทื่อเกินอ่านแล้วไม่ค่อยขัดเท่าไหร่ถึงจะใช้ศัพท์วัยรุ่นปนๆไปบ้าง
นอกเรื่องนิด เห็นพูดถึงจบปลายปิดเปิดนึกถึงชาแมนคิง ไอปาหมอนในตำนานนี่ก็ถือว่าปลายเปิดเหมือนกันใช่มะ55555
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=828321504024356&substory_index=0&id=287876901402155
รายรับช่วงสิ้นปีได้ 1.4ล้าน ไม่แย่มาก
ลองกลั้นใจชวนเพื่อนไปดู แบบว่ากูอยากดูแต่ไม่อยากไปคนเดียว กะว่าออกจากโรงแล้วโดนโบกก็ยอม
เพื่อนบอกพี่ไปดูมาแล้วบอกว่าห่วยมันเลยไม่คิดจะดู เสียใจสัส ; ;
พูดถึงตอนจบที่ลูกแก้วแตกแล้วสะท้อนให้เห็นโลกอีกหลายIFที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นส่วนตัวคิดว่ามันเหมือนถ้าเรายังคิดวนเวียนอยู่กับมันก็มีทางเป็นไปได้อีกหลายแบบแต่ก็เท่านั้นมันควรจบลงยอมรับความจริงแล้วก้าวต่อไปซะที
อยากรู้ทุกคนคิดไงกับฉากแรกสุด (ฉากตื่นนอน) ส่วนตัวมองว่า มันอยู่ในโลก IF ตั้งแต่ฉากนี้แล้ว (ถ้าจำไม่ผิดมันจะมีภาพที่ซูมแก้วเปล่า สลับ หลอดไฟ) โดยเหตุผลรองรับ คือขนาดของ นมครู ที่ใหญ่เกินไป แต่พอย้อนกลับรอบอื่น นมครู กลายเป็น size เล็กซะแล้ว แล้วฉากสุดท้ายก็ไม่ยอมให้เราเห็นขนาดนมที่แท้จริง ตอนวันเปิดเทอม (หรือตรูมองนมมากไป 55555)
นมครูใหญ่อยู่แล้วว่ะ
พูดถึงครูตัวผู้นี่เริ่มต้น คสพ แบบเซ็กเฟรนใช่ปะวะเนี่ย เห็นครูสาวบอกวันนั้นเมาไปหน่อยเลยเผลอ ไม่ได้เป็นแฟนกันแต่ไปๆมาๆยอมไปดูดอกไม้ไฟด้วย หรือเพราะอันนั้นก็เป็นความเป็นจริงที่บิดเบี้ยวเหมือนกันวะ
ฟังเสียงพากย์ยุ่นแล้วนึกภาพเมเมะเมาแล้วลากนาเดโกะเมียโม่งไปเย็ด
กูดูพากย์ไทย เสียงยุ่นมันดีกว่าเยอะปะวะ แม่งไม่เข้าใจคนดูก็ไม่ได้เยอะจะเสือกพากย์ไทยเพื่อ
สัปดาห์แรกเก็บได้2.14ล้าน ใช้ได้ว่ะ คงหลอกแฟนเก่าYour nameได้ประมาณนึง555555
>>264 2 ล้านแล้วเรอะตอนแรกเห็น1.4 ล้านแล้วสงสารค่ายหนังที่นำเข้าเลยไปดูอีกรอบ
จะว่าไปคนญี่ปุ่นก็ไปดูเรื่อยๆนะ รายได้คงมาจากตรงนี้เพราะไปดูสองรอบตรงที่นั่งราคา350ที่เอ็มควอเทียร์มีแต่ญี่ปุ่นทั้งนั้น
จะว่าไปก็รู้สึกประหลาดตัวเองเหมือนกันนะคือชอบYour nameมากกว่าดันดูแค่รอบเดียว
แต่เรื่องนี้อึนๆงงๆก็ดันไปดู2รอบแบบมึนๆงงๆกับตัวเอง มันแอบใส่การสะกดจิตไว้ในหนังรึเปล่าฟะ
กำลังนั่งดูต้นฉบับอยู่มีบางจุดต่างกันนิดหน่อยแต่จุดใหญ่ๆเลยคือไม่มีลูกแก้วย้อนเวลา เป็นIFแบบมโนเลย
https://www.youtube.com/watch?v=JJbwjQUIvkI
ดูจบแล้วต้นฉบับแม่งเศร้ากว่าที่คิดจนส่วนตัวคิดว่าถ้าให้ค่ายอื่นทำตามต้นฉบับไม่ติสไม่อาร์ทแตกไม่ไซไฟเน้นอารมณ์ดราม่าล้วนๆอาจขายดีในตลาดบ้านๆของเราก็เป็นได้เพราะเข้าใจง่ายคนละเรื่องกับAnimeไปเลย
ขำอย่างปรกติพวกฉากทะลึ่งๆในAnimeจะแรงกว่าแต่เรื่องนี้แม่งละครทีวีดันแรงกว่าซะงั้น
ในAnimeเพื่อนพระเอกแค่แซวครูว่านมใหญ่แต่ในละครทีวีแม่งวิ่งเข้าไปบีบนมครูเต็มๆ
ฉากแบบนี้โผล่ในละครผู้ใหญ่ที่นู่นเขาไม่ว่ากันเรอะ 5555
เห็นว่าในซีรีส์Ifมันมีตอนนึงถูกตัดออกเพราะรุนแรงเกินไป.....ยังมีรุนแรงกว่าจับนมอีกเรอะ.....
>>272 เท่าที่เข้าใจซีรี่ย์IFต้นตำรับน่าจะถูกทำเป็นตอนๆจบอาจจะมีตอนที่เกี่ยวกับการตายอะไรแบบนี้มั้ง
แต่เวอร์ชั่นละครทีวีที่ถูกดัดแปลงเป็นอนิเมะคือแค่เอาIFมาใช้ในแนวรักที่ไม่สมหวังของโนริมิจิประมาณนั้น
แอบฮาตรงฉากพระเอกเดินไปติดต่อพยาบาลแล้วพูดเสียงแหบในอนิเมะก็ทำตามแม้กระทั้งฉากนี้ 5555
>>274 เอาเป็นว่าถ้ายึดตามต้นฉบับตอบข้อสงสัยที่เถียงๆกันได้หลายข้อเลยฮะ
-นัตสึนะชอบโนริมิจิแน่นอนโนริมิจิก็ชอบนัตสึนะ
-ดอกไม้ไฟกลมหรือแบนจริงๆในละครไม่ได้ลึกซึ้งอะไรเลย
แค่ไอ้แว่นเด็กเรียนอยากโชว์ภูมิว่าฉลาด+การบ้านฤดูร้อนครูให้ไปดูดอกไม้ไฟก็ไปเด็กๆก็พนันกัน
- ลูกหมอคู่แข่งคือไม่ว่าจะIFไหนมันมีหน้าที่ขัดขวางไม่ให้โนริมิจิได้สารภาพรักกับนัตสึนะ
จากที่เห็นถ้าไอ้หมอนี่ชนะมันจะปิดเรื่องนัตสึนะสารภาพรักและที่บอกให้โนริมิจิไปหาหมอที่บ้านมันเพราะมันรู้ว่าโนริมิจิชอบนัตสึนะและมันคิดว่าที่นัตสึนะชอบมันเป็นเรื่องจริงก็เลยวางแผนว่าถ้าสองคนนี้ได้อยู่กัน2ต่อ2โนริมิจิคงสารภาพรักและจะได้โดนปฏิเสธเพราะมันคิดว่านัตสึนะชอบมันจริงๆ...ที่เหลือก็อย่างที่เข้าใจกันว่ามันป๊อดกลัวโดนเพื่อนล้อและจะไปสารภาพรักลับหลังเพื่อนๆ
แต่ถ้าIFที่นัตสึนะสารภาพรักกับโนริมิจิมันก็จะเหวี่ยงหัวเสียอย่างที่เห็นเพราะผิดแผนนั่นแหละ
สุดท้ายสิ่งที่ต้นฉบับเศร้ากว่าคือ...ความเป็นจริงหลังจากที่โนริมิจิรู้ว่านัตสึนะชอบมันแต่ยังไม่ทันที่จะได้สารภาพรักออกไปแม่ก็มาลากนัตสึนะกลับไปเสียก่อนโดยที่ทำอะไรไม่ได้แถมยังผิดคำพูดที่ว่าโนริมิจิสัญญาว่าจะไม่ทรยศนัตสึนะแต่ตอนที่เธอขอร้องให้โนริมิจิช่วยเธอจากแม่โนริมิจิก็ทำได้แค่นิ่งเฉย(แหงล่ะเด็กนี่หว่า)และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็จบลงตรงนี้โดยที่ไม่ได้ปรับความเข้าใจอะไรกันเลย
จากนั้นโนริมิจิก็ไปต่อยไอ้ลูกหมอจนแตกคอกับเพื่อนๆโนริมิจิเสียใจมากจนมโนเป็นIFขึ้นมา
ว่าตัวเองชนะการแข่งว่ายน้ำและได้หนีตามกันไปปรับความเข้าใจกับนัตสึนะจนมาจบลงที่สระว่ายน้ำโรงเรียนร่างมโนของนัตสึนะก็ให้กำลังใจโนริมิจิจนถึงท้ายที่สุดว่าให้ไปดูดอกไม้ไฟกับเพื่อนๆ(เหมือนจะบอกนัยๆว่าให้ไปคืนดีกัน)จากนั้นร่างมโนนัตสึนะก็ว่ายน้ำจากไป
https://www.youtube.com/watch?v=vHSAf2GxFRE
กลับสู่ความเป็นจริงคือโนริมิจิหลังทะเลาะกับเพื่อนก็เดินคนเดียวไปทั่ว(โดยมโนถึงนัตสึนะตามที่ต่างๆ)
จนใกล้ได้เวลาชมดอกไม้ไฟและได้มาเจอกับครูสาวและพาไปดูดอกไม้ไฟใกล้ๆว่าจริงๆมันแบนหรือกลมซึ่งในละครจบลงตรงนี้ไปพร้อมกับรักแรกที่ไม่สมหวังของโนริมิจิครับ
>>278 จริงๆผมก็ไม่แน่ใจ100%หรอกนะว่าIFในละครมันเกิดขึ้นจริงหรือแค่มโน
เพราะฉากจบจากสระว่ายน้ำโนริมิจิก็เปลี่ยนเสื่้อผ้ามาเดินในงานเทศกาลเฉยๆซะงั้น
ไหนจะเรื่องที่นัตสึนะตัดสินใจจะขึ้นรถไฟหนีแต่แป๊บเดียวก็เหมือนทำเป็นมึนๆแบบ "รถไฟอะไรจะไปไหนกันหรอ" แล้วก็นั่งรถเมล์กลับบ้านเฉย มันเลยดูเหมือนเป็นมโนของเด็กๆที่พอสุดจิตนาการต่อในสถานที่ที่ไม่รู้จักไม่ได้ก็วกกลับมาที่เดิมมากกว่า
ฉากที่ทำน้ำตาซึมคือตอนที่ นัตสึนะบอกว่า "ไว้เจอกันตอนเทอม2นะ" ซึ่งมันไม่มีวันเป็นจริงนี่เล่นเอาอนิเมะดูอบอุ่นหัวใจไปเลยถ้าเทียบกับละครแล้ว
กูว่าถ้าทำแบบละคร มันจะชวนให้คนดูย้อนนึกถึงเรื่องในอดีตที่ตอนเด็กทำไม่ได้ เพราะยังเป็นเด็ก
แต่ตอนนี้โตเป็นผู้ใหญ่แล้วทำได้ แล้วยังเป็นปมอยู่ในจิตใจว่า IF ตอนนั้นทำแบบนั้น เรื่องคงไม่เป็นแบบนี้
ไปดูแบบละครเต็มๆก่อนแล้วค่อยมาเมนท์อีกทีก็ได้ คนเล่าก็เล่าซะชี้นำเหลือเกิน
ฉากที่ฮาอีกฉากคือ ตอนที่พวกเพื่อนๆมันตะโกนสารภาพชื่อคนที่ชอบออกมา
ไอ้แว่นตะโกนว่าชอบเซเลอร์มูน...รู้สึกว่าปีที่ละครฉาย(1993)เซเลอร์มูนกำลังดังพอดี
ไปดูมาแล้ว ส่วนตัวนึกถึง The Girl Who Leapt Through Time
ซีจีในหนังมันดูขัดไปหน่อย
ของดั้งเดิมมันเกิดปี 199X เลย มิน่าทำไมไม่เห็นใช้มือถือกัน
...แต่กูรู้สึกเหมือนเกมที่พวกพระเอกเล่นมันเป็นเกมใหม่พิลึก... (เสือกจำชื่อไม่ได้แล้วหาไม่เจอ แม่ง)
>>287 เออ กูก็เพิ่งจะเจอ PV มันพอดี แต่ก็ขอบใจสำหรับข้อมูลมาก
https://www.youtube.com/watch?v=xMB5FK2YMVA
แผ่นญี่ปุ่นออก 18 เมษายน
ในทีวี กูคิดว่ามันไม่ได้มโนหรอก แต่เป็นโลกโมชิโมะจริงๆ เพราะครึ่งแรกพวกเด็กมันไม่ไปดูดอกไม้ไฟแล้ว เพราะเจอคนในศาลเจ้า ครึ่งหลังไปดูหันเพราะไม่เจอคนในศาลเจ้า
นาสึนะในทีวีอาจไม่ได้ชอบโนริมิจิเลยก็ได้ แค่อยากเที่ยวเล่นกับเพื่อนเฉยๆ
>>290 ก็มีสิทธิ์เป็นไปตามนั้นเหมือนกันฮะเพราะIFในละครก็ไม่มีอะไรชี้ชัดว่าเป็นสิ่งทีีีีีีีีีีีีีีีีเกิดขึ้นหรือมโน
ทุกอย่างจะต้องสังเกตจากคำพูดของตัวละครเอาฮะส่วนนัตสึนะที่ผมเข้าใจว่าชอบโนริมิจิจริงๆ
ก็คือในฉากที่นัตสึนะโดนไอ้ลูกหมอทิ้งเธอได้พูดตัดพ้อออกมาว่าถ้าเป็นโนริมิจิจะไม่ทรยศเธอใช่ไไหมโนริมิจิก็ตอบรับว่ามันจะไม่ทรยศเธอซึ่งตรงนี้เหมือนทั้งคู่ได้แสดงความรู้สึกของกันและกันออกมาเพียงแต่โนริมิจิยังไม่ทันสารภาพรักจริงๆจังๆเรื่องก็จบลงเสียก่อน
ผมไขข้อที่ผมสงสัยได้อีก 2 ข้อแล้ว คนกำกับเรื่องนี้เก่งจริงๆ วางพล็อตได้แน่นและเชื่อมโยงกันหมดเลย
ข้อแรก : ตอนแรกผมสงสัยมากกว่าทำไมในเมื่อนางเอกไม่ได้ชอบเพื่อนพระเอก แล้วเธอจะชวนเพื่อนพระเอกหนีออกจากบ้านทำไม
คำตอบ : จริงๆมันง่ายนิดเดียว ก็เพราะว่าทีแรกเธอไม่ได้คิดจะหนีออกจากบ้านจริงๆน่ะซิครับ เธอแค่อยากจะหนีตามผู้ชายเพื่อประชดแม่เธอเท่านั้นในทีแรก
จุดเชื่อมโยงแรกคือตอนลูปที่สอง นางเอกบอกพระเอกว่า "ชั้นคิดจะหนีออกจากบ้านตั้งแต่ได้ลูกแก้ว ไม่ซิ! ตั้งแต่โนริมิจิคุงชนะต่างหาก"
จากรูปประโยคมันก็บอกชัดแท้ๆ ว่าครั้งแรกเธอแค่ตั้งใจประชดแม่เท่านั้น แต่พอพระเอกชนะ คราวนี้เลยอยากจะหนีไปกับพระเอกขึ้นมาจริงๆ
มันเลยข้ามมาจุดเชื่อมโยงที่สอง ว่าทำไมการหนีตามผู้ชายถึงเป็นการประชดแม่และพอพระเอกชนะถึงอยากจะหนีไปกับพระเอก
ข้อแรก ผมสงสัยตั้งแต่แรกแล้วว่าทำไมปูมหลังนางเอก ผู้กำกับถึงใส่มาให้มันซับซ้อนแบบนั้น ใส่มาทำไม มันไม่จำเป็นต้องซับซ้อนแบบนี้ (นางเอกไม่ชอบที่แม่เธอแม่หนีจากคนรักคนแรกเพื่อตามพ่อเธอมาจนเกิดเธอ สุดท้ายพอพ่อเธอตาย ได้ไม่ถึงปีก็จะแต่งงานใหม่) เหตุผลก็เพราะปูมหลังทั้งหมดนี้มันตอบเหตุผลที่นางเอกทำไปได้นั่นเอง
ช้อสอง อ้างอิงจากในมังงะ ตัวนางเอกถึงแม้เธอจะไม่ชอบแม่เธอที่ทำตัวแบบนี้ แต่เธอก็รักพ่อเธอมาก พูดให้ชัดอีกก็คือเธอไม่ชอบที่แม่หนีคนรักคนแรกแล้วไปมีคนใหม่ แต่คนใหม่ที่ว่าก็คือพ่อของเธอที่เธอรักมากนั่นเอง พอเป็นแบบนี้ พอคนที่ชนะที่เธอคิดจะชวนหนีเป็นพระเอกที่เธอชอบอยู่แล้ว เธอจึงมองเห็นพระเอกซ้อนทับกับพ่อเธอที่พาแม่เธอหนี และอยากให้พระเอกทำแบบนั้นกับเธอบ้าง (ตรงนี้มังงะบอกค่อนข้างชัด)
สุดท้ายในลูปที่ 4 ที่เธอเห็นแม่เธอร้องไห้อยู่ในรถและนางเอกทำหน้าเศร้า เธอถึงได้รู้ว่าทำไม่ถูกและหนีไปกับพระเอกไม่ได้แน่ๆ (บ่งบอกว่าเธอเองก็รักแม่เหมือนกัน)
จริงๆหนังเรื่องนี้ผู้กำกับเขาวางพล็อตได้ค่อนข้างแน่นมากครับถ้าจะว่าไปแล้ว เขาพยายามใส่ฉากที่คอยอธิบายเหตุผลต่างๆไว้หมดแล้ว อยู่ที่ว่าเราจะแกะทางไปถูกหรือเปล่าเท่านั้นแหละครับ ถ้าหลงทางก็งงยาวเลยล่ะครับ สังเกตบางคนยังหาคำอธิบายจากคำถามที่เขาตอบเองไม่ได้เลย วกไปวนมา
>>294 ตามนั้นเห็นด้วยว่าเรื่องนี้มันแอบใส่เฉลยๆไว้ตามรายทางถ้าไม่สังเกตก็จะไม่ได้อะไรเลย
อย่างฉากจบที่หลายคนงงกันว่าพระเอกมันไปไหน ตายรึเปล่า จบHappyไหม
มันก็เฉลยไว้แล้วว่าสุดท้ายพระเอกจะไปไหนและจบHappyแน่นอน
ลองดูฉากนี้ดีๆ(โคตรสปอยนะ)
https://www.youtube.com/watch?v=LouCTfb6SYg
สังเกตว่าพอลูกแล้วอันใหญ่แตกก็จะรู้ว่าIFนั้นไม่ได้มีแค่พระเอก
นางเอกเองก็มีIF ที่จะได้เห็นว่าเธอได้ไปเจอกับพระเอกที่โตเกียว(ตรงสะพานสายรุ้ง)
คู่แข่งพระเอกก็มีIF ได้ไปเที่ยวงานวัดกันสองต่อสองกับนัตสึนะ
ตรงนี้สังเกตให้ดีๆว่าIFของพระเอกและนางเอกจะตรงกันคือไปพบกันที่สะพานสายรุ้งที่โตเกียว
นั่นคือการเฉลยนัยๆว่าสุดท้ายพระเอกก็ออกไปตามหานัตสึนะและทั้งคู่มีโอกาสจะได้เจอกันที่โตเกียวตรงสะพานสายรุ้งครับ
อีกเรื่องคือเห็นมีคนบอกว่าลูกแก้วอันสุดท้ายจู่ๆก็ลูกใหญ่อาจเพราะShaftเมากาว
แต่สังเกตให้ดีๆว่าในฉากสุดท้ายพระเอกกับนางเอกมาถึงสถานนี "โมชิโม" คือซับไทยแปลตามเสียงเรียก
คนไม่รู้ญี่ปุ่นอาจจะนึกว่าเป็นชื่อสถานนี้โมชิโมจริงๆแต่ความหมายของมันก็คือIFนั่นหแหละหรือแปลตรงๆคือ"สถานีแห่งความเป็นไปได้"
สรุปก็คือทั้งคู่หลุดมาได้โลกที่เกิดความเป็นไปได้ทุกประการเรียบร้อยแล้วครับและที่นั้นมไม่ได้บ่งบอกว่าจะมีลูกแก้วแค่ลูกเดียว
และจะนำพาความปรารถนาแบบใดมาก็เป็นได้ทั้งนั้น เช่นลุงขี้เมาที่จู่ๆก็โผล่มาหรือเพื่อนๆที่สามารถเห็นIFได้รวมไปถึงนางเอก ซึ่งอาจะเป็นความปรารถนาในใจลึกๆของพระเอกและส่งผลให้เกิดเป็นฉากจบนั้น
มันมีจุดเชื่อมโยงอีกจุดครับ ว่านางเอกไม่ได้คิดจริงจังเรื่องจะหนีตามผู้ชายในทีแรก นั่นคือลูปแรกนั่นเอง
(ตรงจุดนี้จำบทพูดทั้งหมดไม่ได้หมดนะครับ อาจจะมีตกหล่นเล็กน้อย)
หลังจากพระเอกกับนางเอกเดินคุยกันเรื่องที่นางเอกคิดว่าพระเอกจะชนะ แล้วถามว่าทำไมถึงแพ้และพระเอกทักเรื่องกระเป๋า จนมาคุยกันที่เสาพัดลม
นาซึนะ : ชั้นคิดที่จะหนีออกจากบ้านล่ะ
โนริมิจิ : หา! ล้อเล่นหรือเปล่า
นาซึนะ : ก็ล้อเล่นน่ะซิ
โนริมิจิ : ตกลงยังไงกันแน่ล่ะนี่
นาซึนะ : นี่รู้ไหม
โนริมิจิ : หือ?
นาซึนะ : ว่าทำไมชั้นถึงคิดว่านายจะชนะ
แล้วนางเอกก็เดินจากไป ก่อนที่ต่อมาจะโดนแม่ไล่ตาม
>>297 ตรงนี้ผมเห็นด้วยฮะว่านางเอกไม่ได้คิดจริงจังเรื่องหนีออกจากบ้านแต่แรกแค่อยากทำตามใจตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย
อีกฉากที่ผมเห็นก็ฉากนัตสึนะร้องเพลงแล้วนัตสึนะเห็นตัวเองเป็นดั่งซินเดอเรลล่าซึ่งก็สื่อถึงเวลาแห่งความสุขที่มีจำกัด
ก่อนจะร่วงหล่นลงมาพร้อมกับความคิดที่ว่าเธอเข้าใจดีแต่แรกแล้วล่ะว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะหนีไปโตเกียวด้วยกัน
แต่ถ้าจบแบบพระเอกตามไปหาจริงๆปลายทางมันอาจเป็นแบบ5cmก็ได้ปะวะเพราะพระเอกมันคงถึงกับย้ายบ้านตามไม่ไหวแน่ๆ ก็จะกลายเป็นรักทางไกลซึ่งโอกาสแผ่วปลายก็ไม่ใช่น้อยๆ
>>299 ก็มีสิทธิ์เป็นไปได้แต่อย่างน้อยชิ้นส่วนจากIFก็เป็นตัวชี้ว่ามีหนทางที่ได้ไปเจอกันแถมยังตรงกันด้วยเพียงแต่หลังจากนั้นจะมีความสุขหรือเปล่าก็เป็นปลายเปิดที่ต้องไปคิดเองกันต่อ
อันนี้ผมคิดเอาเองว่าหนังอาจใบ้เรื่องพ่อนัตสึนะว่าเป็นตัวอย่างที่จบแบบไม่มีความสุข
ผมจิ้นไปว่าพ่อนัตสึนะอาจใช้ลูกแก้วจนสามารถหาIFที่แย่งแม่นัตสึนะมาจากสามีคนเก่าได้
แต่IFไม่สามารถเปลี่ยนแปลงนิสัยคนได้แม่นัตสึนะอาจจะมีใจให้ชายอื่นพ่อนัตสึนะก็คง
พยายามหาIFที่แม่นัตสึนะยังคงรักตัวเองต่อไปสุดท้ายก็ไม่สามารถหลุดพ้นออกมาได้
ที่ผมคิดแบบนี้เพราะมันมีฉากที่โนริมิจิเคยคิดที่จะอยู่ในโลกIFตลอดไปแม้มันจะบิดเบี้ยวแค่ไหนเพราะอย่างน้อยก็ได้อยู่กับนัตสึนะตลอดไปโดยพยายามฝืนเรื่องการย้ายโรงเรียนของนัตสึนะ
แต่โชคดีที่มันปล่อยวางได้ยอมรับความจริงและหลุดพ้นออกมาได้ไม่งั้นอาจจบแบบพ่อนัตสึนะก็เป็นได้
คลิปรีวิว วิเคราะห์ เรื่องนี้ (มีสปอยนะ)
https://youtu.be/DChjZn0n3Pw
แฟนๆเรื่องนี้อย่าลืมซื้อภาคพิเศษเล่มนี้กันนะฮะ
https://imgur.com/xnhYJY9
https://imgur.com/QYPDi65
https://imgur.com/Ju8LmYv
ซึ่งจะเป็นเหตุการณ์ก่อนภาคหนังโรงจะเป็นช่วงที่ทั้งคู่อยู่ชั้นป.6
นัตซึนะได้มีโอกาสมาค้างที่บ้านของโนริมิจิและได้เล่าให้เขาฟังว่าพ่อแม่กำลังจะหย่ากัน
จนนำมาซึ่งแผนการหนีตามกันไปครั้งแรกในคืนงานเทศกาลดอกไม้ไฟ
ซึ่งถ้าใครได้ดูละครที่ผมเอามาแปะก่อนหน้านี้ก็ตามนั้นเลยฮะเพราะทั้งคู่
จะเป็นการเอาเนื้อเรื่องในละครต้นฉบับมาดัดแปลงให้เป็นภาคจุดเริ่มต้นก่อนที่จะนำมาซึ่งเหตุการณ์ในหนังโรง
ทั้งคู่ที่เป็นเด็กประถมก็จะทำได้แค่นั่งรถบัสวนไปมาและจบที่สระว่ายน้ำโรงเรียน
ส่วนรายละเอียดที่เห็นในภาพประกอบอย่างเสื้อผ้านัตซึนะก็จะตรงกับเวอร์ชั่นละครด้วย
และไม่แน่อาจจะมีเผยปมเรื่องพ่อของนัตซึนะด้วยก็เป็นได้แต่ที่แน่ๆ
คงเน้นไปที่บทกุ๊กกิ๊กของทั้งคู่ตอนอยู่ประถมนั่นแหละ
อาจจะมีพวกฉากอาบน้ำกับฉากนอนด้วยกันตามภาพประกอบ
ความนี้ผมจะมาวิเคราะห์ให้ฟังถึงตัวละครอีกหนึ่งตัว ที่ผมคิดว่าหลายๆคนน่าจะยังสงสัยในการกระทำของมัน นั่นคือเพื่อนพระเอกนั่นเอง
เราเห็นจากปฏิกิริยาต่างๆของเพื่อนพระเอกตอนต้นเรื่อง ทุกอย่างชี้นำไปหมดว่าไอ้หมอนี่มันชอบนางเอกแน่ๆ โดยเฉพาะหลังจากนางเอกบอกว่าชอบมันตรงสระน้ำ ปฏิกิริยาของมันทำท่าเหมือนเหม่อลอยจนจมน้ำ พอขึ้นจากน้ำยังทำท่าเหม่อลอยอีก แล้วทำไมมันถึงจงใจจัดฉากให้พระเอกไปบอกนางเอกเรื่องที่จะไม่ไปดูดอกไม้ไฟแล้ว
(ผมขอเกริ่นไว้ก่อนว่านางเอกมีใจให้พระเอกแน่นอนและเธอมีปูมหลังเรื่องที่แม่เธอหลายใจ เพราะฉะนั้นมันเป็นไปได้ยากมากจนถึงกับเป็นไปไม่ได้เลยที่นางเอกจะไปรักคนอื่นอีก สิ่งที่เพื่อนพระเอกเห็นในเศษลูกแก้วจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้)
เหตุผลก็เพราะมันตั้งใจจะให้พระเอกซดแห้วนั่นเอง เพื่อนพระเอกจงใจบอกว่าแผลแบบนี้อาจจะติดบาดทะยักแล้ว เลยให้พระเอกไปบ้านมันเพื่อให้ไปบอกนางเอกว่ามันไม่ไป โดยบอกว่านางเอกชวนมันตอนสระว่ายน้ำ แต่...แต่มันไม่ได้บอกเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งกับพระเอกคือเรื่องที่นางเอกบอกชอบมัน ซึ่งตรงจุดนี้ดูยังไงก็มีเจตนาแอบแฝงชัดๆ
(ซึ่งตรงจุดนี้มังงะค่อนข้างทำให้เห็นท่าทางมีลับลมคมในของเพื่อนพระเอกชัด) ตอนหลังที่เพื่อนบอกจะไปตามหาพระเอกมันถึงทำท่าทางชิชะเหมือนไม่เป็นไปตามแผน ตรงจุดนี้ทำให้เห็นเลยว่าเพื่อนพระเอกนิสัยไม่ค่อยดี ต่างกับพระเอกชัดๆตรงจุดนี้เพราะพระเอกค่อนข้างจะแคร์ความรู้สึกทุกคน ทั้งนางเอกและเพื่อนมัน (ตรงนี้ทำให้เรารู้ว่าหนูนาซึนะเลือกรักคนไม่ผิดหรอกครับ)
แต่ก็อย่างที่เราดูในเรื่อง เพราะแผนการของเพื่อนพระเอก เลยทำให้เกิดเรื่องราวในเรื่องจนพระเอกกับนางเอกได้รักกัน คนที่ซดแห้วเลยกลายเป็นมันแทน
ตรงฉากสุดท้ายที่หนังโฟกัสไปที่เพื่อนพระเอก ผมถึงได้รู้สึกสะใจเป็นพิเศษ (และคิดว่าก่อนจะเปิดเทอม มันต้องไปสารภาพรักและซดแห้วมาแล้วแน่ๆ)
ไปเห็นรูปนางเอกในสระว่ายน้ำก็ว่าทำไมไม่เห็นฉากนี้ในหนังที่แท้เป็นโปสเตอร์ดราฟภาพจากละครมานี่เอง
https://imgur.com/0kZBjHY
ใครพอจะรู้บ้างว่าตอนนี้รายได้ในไทยถึงเท่าไหร่แล้วครับ
พึ่งได้ดูก่อนมันออกโรงวันนี้(โรงบ้านกู) ขอไล่อ่านคอมเม้นท์พวกมึงแป็บ
วันนี้วันสุดท้ายที่ฉายแล้วมั้งจะมีใครไปดูครั้งสุดท้ายเป็นที่ระลึกบ้าง
ไปไม่ได้ ติดประชุม เสียใจ...
เห็นรายได้ 2.5ล้านแล้วไปช่วยดันครั้งสุดท้ายดีกว่าสงสารจะได้แวะไปซื้อนิยายภาคป.6ติดมือกลับบ้านด้วย
โรงจังหวัดกูออกไปละ ไม่แปลกเท่าไร เพราะกูไปดูวันพุธแม่งเหมาโรงเลย 5555+ ห่า เอาซะกูรู้สึกผิดที่ซื้อตั๋วร้อยเดียวเข้าไปดู
บลูเรย์ออกแล้วนะฮะ แก้งานด้วยนะเว้ยมึง
Topic has reached inactivity threshold.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.