Fanboi Channel

ยอดขาย BD/DVD อนิเม Season III

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:Ozh97PnLw

กระทู้เก่า >>>/animanga/629/

2 Nameless Fanboi Posted ID:tQ6OPOd0e

ไม่ถากถางล่ะเหรอ

3 Nameless Fanboi Posted ID:NyPvM9kkx

>>2 อืมว่ายุ สักหน่อยพอคนเค้าคุยกัน ก็คงโทรลไปแจ้งแอดมินลบแน่เลย กุตั้งใหม่ดีกว่า

4 Nameless Fanboi Posted ID:Ozh97PnLw

>>2 ลองทำตามที่ >>>/animanga/629/942/ เสนอดูนะ

5 Nameless Fanboi Posted ID:1ec0e5F63

ไม่ได้ดูเมะมาโคตรนานเห็นว่า kemomo friends มันขายดีเลยลองดูหน่อย เพิ่งดูจบไปล่ะ 3 ตอน เดี๋ยวจะไล่ให้หมด
คือแบบว่า CG ถือกากอันนี้ไม่เถียง แต่องค์ประกอบอื่นถือว่าทำได้ดีนะ เซลเลียนคืออะไร ทำไมต้องเป็นศัตรูด้วย แต่ที่เด่นสุดคือคาแร็กเตอร์ที่ออกแบบมาทั้งเรื่องรูปลักษณ์ กับบทที่ทำได้ลงตัว แบบไม่ต้องเล่นเรื่องเซอร์วิสใต้สะดือ หรือทำตัวน่ารำคาญ นี่เป็นจุดที่แบกเรื่องนี้เลย

6 Nameless Fanboi Posted ID:P4/ulOVzE

เพิ่งดูไป5ตอนกุว่าเมะมันเด็กมากๆเลยวะเหตุผลที่มันดังน่าจะคล้ายๆกับการ์ตูนเรื่องmylittleponyอะถ้าไม่นับเรื่องcgกากๆนะอีกอย่างกุว่าคุที่ญี่ปุ่นน่าจะเบื่อพวกการ์ตูนที่้เซอร์วิสเยอะๆแล้วก็นางเอกทำตัวงี่เง่าน่ารำคาญแล้ววะ

7 Nameless Fanboi Posted ID:P+1mRBTQ7

กูว่า kemomo มันเหมือน advanture time เนื้อเรื่องหลักก็เป็นการ์ตูนเด็กๆสบายๆแก้ปัญหารายตอน แต่ฉากหลังหรือเนื้อเรื่องเสริมก็มีอะไรที่ใส่ลงไปให้ดูน่าสนใจ(พาร์คร้าง เฟรนมาจากไหน เซลเลียนคืออะไร ฯลฯ)
แต่พอมันขายดีขนาดนี้มันก็เป็นเรื่องน่าตกใจอยู่เหมือนกัน 5555

8 Nameless Fanboi Posted ID:Ozh97PnLw

>>3 ไม่ใช่โทรล กระทู้ที่แล้วเป็นคนโพส >>>/animanga/629/953-954/

9 Nameless Fanboi Posted ID:Go9ZveWAw

>>6
มันมีอะไรลึกกว่านั้นหวะ สมองมึงไม่เข้าใจหรอก
พล๊อตเรื่องมันเกี่ยวพันกับการวิวัฒนาการของมนุษย์ชาติ
และความสัมพันธ์ของธรรมชาติกับมนุษย์
คนแม่งก็เป็นแค่สัตว์ชนิดหนึ่ง ยังไงก็ต้องพึ่งพาอาศัยกันเป็นเฟรนส์
แถมมีปมเรื่องวันโลกาวินาศอีก
เอปีคสัดๆ

10 Nameless Fanboi Posted ID:CZZXLKMmY

เห่อหมอยอยากตั้งกูไม่ว่าอะไรนะ
เรื่องชื่อกระทู้กูเฉยๆยังไงก็ได้
แต่มึงกรุณาเอากระทู้เก่าลงมาให้ครบๆในคห.1ด้วย
ควาย

11 Nameless Fanboi Posted ID:Ozh97PnLw

>>10 โทษที พอดีกดกระทู้เก่าแล้วมันมีแค่ลิงค์เดียว เลยตั้งแค่ลิงค์เดียว แต่ลืมนึกไปว่ากระทู้เก่ามันกระทู้ 2

กระทู้ 1 >>>/animanga/61/
กระทู้ 2 >>>/animanga/629/

12 Nameless Fanboi Posted ID:NyPvM9kkx

>>5 >>6 กุว่ามันน่าจะหมดยุคเมะเซอวิสแล้วมั่ง กุเห็นเมะเซอวิสเจ๊งมาแทบทุกชีเลย กุว่าวัยรุ่นสมัยนี้เมาไม่เหมือนไร้เดียงสาเหมือนสมัยก่อนมั่ง ที่จะได้จิ้นว่าเห็นอะไรนิดๆหน่อยแล้วหน้าแดง เลือดกำเดาแตกแบบในเมะฮาเร็มสมัยก่อน สมัยนี้มันคงจัดกันเลยมากกกว่า ไอ้สไตล์เซอวิสโบราณแบบนี้มันเลยไม่ได้ผลแล้วไง

13 Nameless Fanboi Posted ID:w4wxABttX

หมดไปกับเมียกาฉะจนไม่เหลือเงินไปซื้อแผ่นมากกว่า

14 Nameless Fanboi Posted ID:Ozh97PnLw

>>12 Trope พวกนี้มันมีช่วงเวลาของมันนะ
เหมือน K-on ดัง ทำให้อนิเม SOL ผุดมาเป็นดอกเห็ด (แล้วก็หมดกระแสในช่วง 2-3 ปีมานี้)
หลังจากนี้ไปหลายปี จะได้เห็นอนิเมพยายามลอกแม่พิมพ์ของ Kemono ผุดมาแน่ๆ

15 Nameless Fanboi Posted ID:cTiNkF/Td

กูว่าคุมันจนแล้วว่ะ เลยหันมาฉลาดมากขึ้นโดยเมะไม่ซื้อเพราะไม่ได้มีไรมากกว่าที่เห็น ไปซื้อฟิกเกอร์ โดจิน อะไรทำนองนั้นแทน ตอนนี้คนที่เปย์หมดเปย์หนักคือฟุ ส่วนพวกสายแบ๊วสายเด็ก แม่บ้าน มันตีหัวได้ทุกระดับอยู่แล้ว

ที่จริงกูว่าให้มันอวสานเมะขายคุ คิโม่ย ไปเลยก็ดีนะมันไม่มีประโยชน์ว่ะ เมะสายนี้แม่งไร้สาระ อ่านนิยายให้มันเสียบกันจริงๆเลยดีกว่า สายฟุมันยังกล่อมแกล้มเป็นพลังมิตรภาพหนุ่มน้อยปราบมารได้แถๆเป็นสายหลักได้ แต่เมะคุนี้แม่งสาวๆใส่ชุดชั้นในเป็น10ๆคนยืนล้อมส่งพลังเสียวให้พระเอกออกไปปิดบอสแม่งไม่ใช่ว่ะ คิโม่ย ล้วนๆ

16 Nameless Fanboi Posted ID:ITTLsC+tP

คุเงินปลิวเพราะเกมมือถือ หลักๆเลย ยิ่งคุไอดอลทั้งกาชา บลูเรย์ ซีดี คอน ไม่เหลือเงินมาเจียดให้เรื่องอื่นหรอก

17 Nameless Fanboi Posted ID:cTiNkF/Td

>>16 จริง คอนเท้นยุคนี้แม่งเยอะมาก

18 Nameless Fanboi Posted ID:3QPi80tbD

กูว่าที่ไม่ซื้อแผ่นเพราะขี้เกียจเก็บแผ่นกันแล้วมากกว่า พวกธุรกิจ streaming อย่าง netflix ก็เข้ามาแทนที่ตรงนี้ได้
ถ้าไม่มีของแถมลิมิตเต็ด แม่งก็ไม่มีคนซื้อแผ่นปกติเก็บกันแล้วเหอะ

19 Nameless Fanboi Posted ID:Sgtx+0NDO

>>14 แล้วเมะCGกากๆต้นทุนต่ำๆก็ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด น่ากลัวฉิบหาย

20 Nameless Fanboi Posted ID:1+Vb5OQ+Q

LWA แผ่นแรกออกมะรืนนี้แล้ว มีใครซื้อมั่ง

21 Nameless Fanboi Posted ID:NyPvM9kkx

>>15 คุ้นๆน่ะ ต้องให้สาวๆในชุดกึ่งเปลือยมาเพิ่มพลังให้นิ แต่คิดแล้วฮาดี 55
>>19 สยองเลยแบบนั้น

22 Nameless Fanboi Posted ID:Dq7JyvCWZ

ไดมิดาเลอร์ไง ทำแล้ว เจ๊งไปแล้ว

23 Nameless Fanboi Posted ID:w4wxABttX

>>22 สนุกแค่ 1-2 ตอนแรกเองว่ะ หลังจากนั้นก็ดูไม่รู้เรื่องแล้วก็ไม่สนุกด้วย

24 Nameless Fanboi Posted ID:9ur2EL83G

>>23 สำหรับกูช่วงแรกๆโม่ยชวนแหวะมากเลยนะ พอเปลี่ยนตัวเอกแล้วมันค่อยมีตลกหวานๆ (แต่ก็โม่ยอยู่ดี) มาแซมทำให้สนุกขึ้นบ้าง

25 Nameless Fanboi Posted ID:NLW7b+ted

เมะเซอร์วิสหนักๆคงหมดยุคแล้วจริงๆวะต่อไปนี้จะเป็นยุคของเมะที่เน้นเนื้อเรื่องไม่ก็ขายฟุ

26 Nameless Fanboi Posted ID:NyPvM9kkx

พูดถึงเรื่องหมดยุคแล้ว ตอนสมัยก่อน สมัย tirkx ประมูล ตอนฮาเร็มกำลังมาแรง พวกเชเล็ปสมัยนั้นมันชอบพูด เมะสายหลักมันตกยุคไปแล้ว มีแต่มุข สู้แพ้ฮึด ฝึกวิชา ออกมาทีเดียวบอสตาย เป็นไงล่ะมึง เจอเมะฮาเร็มที่มันอวยกันหนักหนา มีแต่มุข อยู่ๆก็เทพแบบไม่มีเหตุผล กับ สาวๆมาส่งพลังหื่นให้ สะใจไหมล่ะพวกชอบแช่งเมะสายหลักยุคเก่า

27 Nameless Fanboi Posted ID:Sgtx+0NDO

กูว่าเคโมโนะมันดูได้ทุกเพศทุกวัยนะ

28 Nameless Fanboi Posted ID:w4wxABttX

สายหลัก พวกจั๊มอนิเมก็มีฉายอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้วนิ ตายตรงไหนว่ะ
กุว่าพวกอยากให้อนิเมสั้น 1-2 คอร์ เดินเรื่องแบบสายหลักตะหากปัญญาอ่อน

29 Nameless Fanboi Posted ID:9ur2EL83G

กูว่าสายหลักพวกนั้นมันก็ไม่ค่อยสนุกจริงๆนะ (ยกเว้นโจโจ้ 555) ยิ่งเรื่องยาวแบบไปเรื่อยอีกยิ่งเละๆ ถ้าให้เทียบกับฮาเร็มโม่ยๆก็คงดีกว่าอยู่มั้ง...
แต่ที่สำคัญคือแม่งไม่ตายหรอก ยังไงก็ขายได้แหละ

30 Nameless Fanboi Posted ID:NLW7b+ted

สายหลักมันไม่ได้เน้นยอดขายแผ่นอยู่แล้วนิยังไงก็อยู่รอดพวกเมะขายแผ่นอะจะตายสมัยนี้คนเค้าแทบจะดูออนไลน์กันหมดอยู่แล้ว

31 Nameless Fanboi Posted ID:tQ6OPOd0e

ขายฟุกำลังมา ทั้งเติมเกมซื้อแผ่นมันทำหมด ส่วนคุมันจน มานั่งหาว่าทำไมยอดตกแต่ก็ไม่ซื้อกันนะ 555 ยกเว้นสายไอดอลที่การจ่ายถือเป็นหน้าที่
เอาจริงตลาดขายคุมันซาๆ อยู่ว่ะ กำลังรอคนทำเรื่องดีๆ สดใหม่อยู่

32 Nameless Fanboi Posted ID:3QPi80tbD

ฮาเรมมันมีมาตั้งแต่สมัย 2K ที่เอาเกมส์โป๊มาทำอนิเมแล้วตัดฉาก H กะยุครุ่งเรื่องของ Love Hina เดี๋ยวนี้ผ่านมากี่ปีแล้วก็นับเอา มันจะเสื่อมความนิยมลงไปก็ไม่แปลก

33 Nameless Fanboi Posted ID:Ozh97PnLw

ขายแผ่นกับดูออนไลน์ไม่เกี่ยวอะไรเลยนะ ที่รับผลกระทบจากออนไลน์คือร้านเช่าต่างหาก
ในญี่ปุ่นส่วนมากออนไลน์ฉายช้ากว่าฉายทีวีสัปดาห์นึง คนที่ดูในทีวีได้ก็เลือกดูในทีวีกันอยู่ดี
ส่วนแผ่นเน้นขายในฐานะ Collector's Item อยู่ตั้งแต่แรกแล้ว ได้รับผลกระทบจากออนไลน์น้อยมาก

34 Nameless Fanboi Posted ID:Nep2Oslmq

>>33 ทีวีญีปุ่นไม่ได้ฉายทั่วประเทศทุกช่อง อนิเมหลายเรื่องบางจังหวัดไม่ได้ดู

35 Nameless Fanboi Posted ID:Ozh97PnLw

อีกนิดคือปรากฏการณ์ตอนนี้ มันไม่ใช่ขายไม่ออก แต่ส่วนต่างระหว่างเรื่องที่ขายออกกับขายไม่ออกมันกว้างขึ้นต่างหาก
คือเมื่อก่อน มันจะเฉลี่ยๆ ไปแบบเรื่องที่ขายไม่ออกขายได้ 2,000 กลางๆ 6,000 ขายดี 10,000
แต่เดี๋ยวนี้มันคือ เรื่องที่ขายไม่ออก 1,000-3,000 ขายดี 10,000-60,000 แล้วตรงกลางหายไป
ถ้าลองนับจำนวนแผ่นในแต่ละซีซันในความเป็นจริงไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมาก ขนาดตลาดใหญ่ขึ้นกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำ

36 Nameless Fanboi Posted ID:Ozh97PnLw

>>34 ถึงได้เขียนว่า "คนที่ดูในทีวีได้" ไง แต่ผลกระทบของออนไลน์มันไม่ได้กระทบตรงนี้หรือกระทบยอดขาย
มันไปกระทบกับร้านเช่า เพราะออนไลน์มีฉายซ้ำ มี on-demand มีดูย้อนหลัง ฯลฯ

37 Nameless Fanboi Posted ID:OLCJ/KzoL

คุยุ่นเอาตังซื้อแผ่นไปลงกาชามือถือหมดแล้ว

38 Nameless Fanboi Posted ID:2GhlICJp+

>>35 เห็นด้วยนะ ส่วนต่างมันมาก ถ้าเป็นแบบนี้ ความหลากหลายจะหายไป เหลือแต่แนวตลาด

39 Nameless Fanboi Posted ID:gi2QljjtS

จะแบบไหนก็ไม่สามารถกลบตัวเลขได้ รายงานบอกว่าอุตสาหกรรมอนิเมะเข้าสู่จุดพีคอีกครั้ง (จริงๆ ก่อนกระทู้นั้นเต็ม อยากตั้งใหม่เป็น Anime Industry ด้วยซ้ำ เพราะเดี๋ยวนี้ดูแค่ BD/DVD ไม่ได้แล้ว แต่ก็ไม่เป็นไร)

ตลาดเอเชียเติบโตมาก มีอย่างเดียวที่กังวลคือจะเป็นฟองสบู่หรือไม่ เพราะกลุ่มทุนเร่งปั๊มจำนวนอนิเมะจำนวนมากขึ้น แต่กำลังใช้จ่ายขณะที่ญี่ปุ่นยังต่อสู้กับภาวะเงินฝืด แถมจำนวนผู้ใช้แรงงานสายนี้ไม่ได้มีมากขึ้นตาม แน่นอนว่าสภาพจากที่เป็นโรงงานนรกก็เป็นยิ่งกว่า (ส่วนหนึ่งก็ได้อิทธิพลจากนโยบาย Abenomics และ Cool Japan ต้องการกระตุ้นการใช้จ่าย และส่งออกวัฒนธรรม)

Anime Industry Report 2016 (English Version)
http://imgur.com/a/NHifx

40 Nameless Fanboi Posted ID:eaf7iybKX

ถ้าญี่ปุ่นฟองสบู่แตกจริงๆนี้พวกมุงก็จะไม่มีเมะดูกันบอร์ดโม่งก็จะถึงการล้มสลาย(รึป่าว)

41 Nameless Fanboi Posted ID:P+1mRBTQ7

>>40 ยังมีห้องอื่นนอกจากเมะมึง

42 Nameless Fanboi Posted ID:CILu/HDA.

ฟองสบู่แน่นอน แค่ในยุ่นมันพยายามยื้อกันอยู่ด้วยการใช้รายได้ทางอื่นมาโปะประคองกันไปมา

โมเดลนี้ดูง่ายๆก็ในไทยที่ไม่มีที่โปะ เลยแตกไปแล้ว
ลิขสิทธิ์อนิเมในไทยเงียบไปเยอะเลย

43 Nameless Fanboi Posted ID:eaf7iybKX

>>41 เออวะจริงงั้นหมวดอนิเมะคงจะหายไปอย่างเดียวละมั้งนะ

44 Nameless Fanboi Posted ID:eaf7iybKX

แบบนี้บริษัทเมะต้องย้ายไปตั้งที่อื่นนอกจากญี่ปุ่นได้ป่าวหว่า

45 Nameless Fanboi Posted ID:Nep2Oslmq

ฟองสบู่คือข้างในต้องกลวง แล้วมึงดูเงินคิมินาวะ
ล่อ challenger ต่อไปได้อีกเป็น 20 ปี

46 Nameless Fanboi Posted ID:CILu/HDA.

คิมินาวะนั่นกรณีพิเศษ มีปัจจัยภายนอกมาเสริมด้วย

47 Nameless Fanboi Posted ID:gi2QljjtS

>>45 >>45 มันเป็นอนิเมะขายได้วงกว้างอยู่แล้ว ซึ่งไอ้ challenger ไปยี่สิบปี แปลว่าเรื่องอื่นๆ ในอุตสาหกรรม แทบจะทำเงินเท่านี้ไม่ได้เลย

แต่ถ้าดูภาพรวมเทรนด์ พวกสตูดิโอใหญ่ๆ ก็ผลิตอนิเมะสไตล์ฉายรอบดึก ก็ลงจอเงินมากขึ้น ดูที่ไทยก็ได้ที่ช่วงนี้ตลาดอนิเมะจอเงินกำลังบูม ขายทั้งตั๋ว ขายทั้งแผ่น

48 Nameless Fanboi Posted ID:0nXT5Y/yq

>>44 ตอนนี้จีนกำลังมาแรง ตลาดใหญ่ คนดูเยอะ เงินหนา ที่จีนขาดตอนนี้คือประสบการณ์ในการทำอนิเมะ แต่กำลังสูบอยู่ ทั้งซื้อสตูดิโอทางอ้อมกะดูดความรู้ กูคาดว่าในอนาคตจีนจะกลายเป็นตลาดอนิเมะที่ใหญ่กว่าญี่ปุ่น และเราจะได้ดูอนิเมะจีนมากขึ้น

ตอนนี้กูกำลังดูผลตอบรับของเรื่อง King's avatar เรื่องนี้ขายได้ทั้งฝรั่งและจีน ไทยก็มีนิยายแล้ว บอกได้เลยว่าเป็นอนิเมะจีนเรื่องแรกที่มีกระแสขนาดนี้ ที่สำคัญคือภาพสวยมาก ตามกระแสนิยมของจีนที่ชอบภาพสวยๆ ถ้ามันรุ่ง กูเชื่อว่าจีนจะนำนิยายมาทำอนิเมะมากขึ้นแน่ๆ

49 Nameless Fanboi Posted ID:KP5lBaor8

จีนมันใช้วิธีเอาเงินฟาดสตูดิโอญี่ปุ่นที่จะเจ๊งดึงพวกทีมงานระดับโปรดัคชั่นมาสอนงานเลยน่ะ

อีกห้าปีสิบปีจีนทำเองได้ ตลาดคงย้ายไปเป็นทำในประเทศแล้ว

50 Nameless Fanboi Posted ID:I0yoqE5zU

ถ้ามองจากตลาดหนังแล้ว กูว่าจีนนี่คงอีกนาน

51 Nameless Fanboi Posted ID:GztuIFsky

>>50 กูเห็นมึงมาย้ำหลายรอบละนะ เบื่อป๊ะ

อยากให้สตูจีนออกทุนให้ยุ่นโดยที่ทำเมะจากนิยายหรือมังงะยุ่นว่ะ

เป็นไปไม่ได้สินะ T_T

52 Nameless Fanboi Posted ID:I0yoqE5zU

>>51 กูก็รู้สึกเหมือนพิมพ์ซ้ำๆ นะ แตนึกว่าคิดไปเองเลยรีพลายไปแบบนี้ สรุปกูย้ำคิดย้ำทำเรอะ....

แต่กูว่างั้นจริงๆ นะ มองผ่านตลาดสื่อบันเทิงที่มีเนื้อเรื่องมันคิดได้แบบนี้จริงๆ

53 Nameless Fanboi Posted ID:w0hor492l

SS นี้ A-1 ก็กินยอดขายเรียบหมดแหละมั้ง
Ero-manga / Saenai / Granblue

54 Nameless Fanboi Posted ID:KP5lBaor8

>>51 มีแล้ว ฉายซีซั่นหน้า

Centaur no Nayami

55 Nameless Fanboi Posted ID:NyPvM9kkx

จีนมันก๊อปเก่งน่ะ อย่าเพิ่งดูถูก เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เคยเป็นยี่ห้อดังๆของยุ่นตอนนี้ก็แพ้จีน

56 Nameless Fanboi Posted ID:KP5lBaor8

แนวคิดจีนมันคือ ถ้าลงแค่เงินก็ได้กำไรแล้วจะเทรนคนทำไม
ตอนนี้เลยเน้นลงเงินในหนังฝรั่งน่ะ ทำกำไรมนจีนก็เข้ากระเป๋าตัวเองเหมือนเดิม เลยพัฒนาช้า

57 Nameless Fanboi Posted ID:NyPvM9kkx

>>53 มีม้ามืด Sakurada Reset อยู่น่ะมึง กุเห็นในห้อง LN ส่งพลังไปช่วยตั้งเยอะ

58 Nameless Fanboi Posted ID:6aG+uhtKp

Sukasuka Eromanga ReCreators น่าจะกินกระแสอยู่

ส่วนใน4chanกูเห็นซีซันนี้แม่งมาแปลก แม่งอวย Akashic recordกันเฉย

59 Nameless Fanboi Posted ID:Nep2Oslmq

55 แม่งคุยไม่รู้เรื่องสุดๆ
ตั้งแต่กลัวฟองสบู่ มันหมายความว่ามูลค่าทางการลงทุนพองโต แต่ตัวธุรกิจไม่มีกำไรของจริง

เทรนตลาดต่างประเทศพุ่ง กลัว? คนลงทุนยิงช็อตกัน จำนวนเรื่องพุ่งเยอะ แต่กำลังการผลิตเท่าเดิม แล้ว? เป็นฟองสบู่? ยังไง?
กลัวมันจะทำหลายๆเรื่อง เยอะๆ เพื่อขายต่างประเทศ แล้วเจ๊งหมด งี้เหรอ?
ขณะที่ทุกปี มีคนถูกหวยกับตลาดในประเทศเนี่ยนะ

คิมินาวะ ขายได้วงกว้าง? ไม่เกี่ยว? ยังไง? คนอื่นเขาก็อยากได้เงินบ้าง ทำไมจะไม่ลงทุน?

60 Nameless Fanboi Posted ID:1dNVy.Cr4

>>50 วัดในแง่มูลค่าตลาด จีนเหนือกว่ามากนะ

61 Nameless Fanboi Posted ID:E/5mICiTc

>>58 มาดูกันว่าจะสู้แกงบูดได้มั้ย 555

62 Nameless Fanboi Posted ID:wI/0AwExU

น่ากลัวว่าพวกเลียนแบบ kemono friends ก็พวกเมะที่เกมนี้แหละ หลายเรื่องแล้วพิสูจน์ว่าแค่แปะชื่อเฉยๆแล้วทำส่งๆก็ขายได้เป็นหมื่น คันไถ ป่วยดาบ แกงบูดยอดจองก็มาเพียบ แต่ทำไมพอทำดีๆแบบ bahamut ขายไม่ได้ฟะ

63 Nameless Fanboi Posted ID:E/5mICiTc

เดี๋ยวๆๆ kemono friends นี่มันเกมไม่ดังมาก่อน แล้วค่อยมาแจ้งเกิดอนิเมะนะ

ไอ้พวกคันไถ ป่วยดาบ แกงบูด นี่เกมดังมาก่อน

แถมไอ้ป่วยดาบนี่พลังดันโจล้วนๆ
ลอง บาฮามุทแผ่น 1 แจกตัวละคร SSR โคตรลิมิตเต็ด พร้อมทองก้อนและหินอัพซัมม่อนดูสิ

64 Nameless Fanboi Posted ID:E/5mICiTc

โทษที แกงบูด

65 Nameless Fanboi Posted ID:I0yoqE5zU

>>62 บาฮามันเอามาแต่เซ็ตตี้ง แต่งเรื่องใหม่ ตัวละครใหม่ มีตัวเดิมแค่มาแจม คิดว่าทำมาหวังดูดคนใหม่ๆ ให้รู้จักไตเติ้ล ไม่หวังคนเก่า เพราะถ้าจะหวังมันต้องเอาอีเวนท์ในเกมมาทำแล้ว
(แบบมานาเรียที่เป็นหมันอยู่)

66 Nameless Fanboi Posted ID:vBlIlqR64

>>65 มึงพูดชื่อนี้ทำไม!!

67 Nameless Fanboi Posted ID:E/5mICiTc

ไอ้สัส ภาคมานาเรียกู

68 Nameless Fanboi Posted ID:v4NljRWx8

>>63 เอาทองก้อนหินอัพซัมมาทำไมบาฮามุทไม่ใช่แกงบูด

69 Nameless Fanboi Posted ID:ITTLsC+tP

>>58 เหมือนตอนราคุไดมั้ง แนวที่เหมือนจะฮาเร็มเทมเพลตแต่ไม่ใช่

70 Nameless Fanboi Posted ID:goCc5FJX5

เอาจริงๆนะ ถ้าพวกความครีเอทกับพวกนิยายในประเทศ จีนยังอยู่ห่างจากยุ่นเป็นสิบปีเลย ไต้หวันฮ่องกงยังจะดีซะกว่า
รสนิยมคนจีนใกล้เคียงกับคนไทย ชอบอะไรที่เสพง่ายๆ แกรี่แมรี่โชว์เทพ นานๆทีถึงจะมีเรื่องที่เปรี้ยงขึ้นมาซักเรื่อง (แล้วคนก็จะแต่งแต่แนวนี้ซ้ำๆ...ซ้ำๆ...และซ้ำๆ)
อีกเรื่องคือรัฐ รัฐบาลจีนชอบกำหนดนู่นนี่ อย่างแนวย้อนเวลาที่กำลังฮิตๆกันอยู่ก็ถูกสั่งห้ามไม่ให้ย้อนไปเจอบุคคลจริงในปวศ. แบบออกประกาศห้ามเลย เพราะเคยมีเด็กฆ่าตัวตายเพราะอยากย้อนเวลาไปเป็นเมียฮ่องเต้
ทัศนคตินักเขียนบางคนก็ค่อนข้างชาตินิยมจัด(ไม่แน่ใจว่าชาตินิยมจริงๆหรือเรียกกระแส) ต่อต้านต่างชาติ เหยียด(โดยเฉพาะเกาหลี ถ้าโผล่มาในนิยายนี่ไม่เคยเห็นโผล่มาในแง่ดีเลย) เล็กๆน้อยๆก็พอมองผ่านได้เพราะมันก็ไม่ได้ชัดมากแล้วก็ไม่ได้พูดชื่อประเทศตรงๆ แต่เรื่องที่กูเจอหนักสุดคือด่าเกาหลีตรงๆอยู่สามตอนติดแบบนอนสต๊อป
เอาเป็นว่าสังคมที่ไม่เปิดกว้างให้คนได้สร้างสรรค์อะไร สังคมนั้นก็ไม่มีผลงานสร้างสรรค์ออกมาหรอก (กูหมายถึงจีนนะ...)

71 Nameless Fanboi Posted ID:I0yoqE5zU

>>70 กูอ่านแล้วนึกว่าประเทศแถวๆ นี้เลย

72 Nameless Fanboi Posted ID:2+qoCZOy8

>>70 เท่าที่กูไปอ่านในห้อง Lit ก็มีนิยายจีนครีเอทสนุกๆอยู่หลายเรื่องอยู่นา

73 Nameless Fanboi Posted ID:m+6XdJVHJ

>>72 ว่าด้วยเรื่องความครีเอต ไซไฟจีนนี่ได้ Hugo Award มาแล้วนะ

ถ้าไม่อคติ มองแต่ด้านแย่ก็จะเห็นว่ามันมีอนาคตอยู่

74 Nameless Fanboi Posted ID:goCc5FJX5

>>73 กูพูดถึงตลาดแบบรวมๆ ไม่ใช่เรื่องนึงที่เปรี้ยงขึ้นมาแต่ไม่ได้ทำให้ตลาดเปรี้ยงตาม
ศักยภาพจีนมันมีเกินพออยู่แล้ว ทั้งคลังความรู้ที่แปลเป็นจีนไว้หมดแล้ว ทั้งวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ที่หลากหลายและยูนีค ทั้งประชากรเป็นพันล้านที่เป็นได้ทั้งผู้ผลิตทั้งลูกค้า คือมันพร้อมที่จะบูมเลยแหละ แต่ ณ ตอนนี้ก็ไม่ได้โตอะไร มีแต่คนกลุ่มเล็กๆที่ตาม ในไทยนี่ก็เพิ่งจะบูมจริงจังก็ไม่กี่ปี
ความเห็นของกูคือมันควรจะโตมากกว่านี้ แต่ก็ไม่ สาเหตุอาจมาจากการแทรกแซงทางความคิดและตลาดที่คนส่วนมากไม่ค่อยรับอะไรใหม่ หรืออาจมีเหตุผลเชิงเศรษฐกิจด้วย เพราะเคยได้ยินว่าสนพ.ที่นู่นคือสุดยอดแห่งการกดขี่ ค่าตอบแทนน้อยมาก สู้ซอย+ยืดเป็นตอนสั้นๆหลายตอนแล้วขายในเว็บยังจะได้เงินเยอะกว่า
(นิยายจีนสนุกๆมีหลายเรื่อง แต่ที่กูเจอคือ ส่วนมากโดยพื้นฐานแล้วเหมือนกับแนวที่มีมาก่อนแล้วถึงจะค่อยต่างกันในรายละเอียด เหมือนเจาะเวลาหาจิ๋นซีเปลี่ยนเซ็ตติ้งไปเรื่อย)

75 Nameless Fanboi Posted ID:Sgtx+0NDO

>>70 อยากเป็นเมียฮ่องเต้ หนังจีนหลายเรื่องก็บอกอยู่ไม่ใช้รึวะว่าแม่งทรมานแค่ไหน

76 Nameless Fanboi Posted ID:wJNn2HjFc

>>70 เคสอยากเป็นเมียฮ่องเต้นี่จริงๆเด็กมันบ้าไม่รู้จักแยกแยะเรื่องแต่งกับความเป็นจริงขนาดนั้นมันเป็นส่วนน้อยมากๆเลยนะ
ไม่น่าเอามาเป็นประเด็นจำกัดไม่ให้คนเอามาแต่งเรื่องเลย

77 Nameless Fanboi Posted ID:ma7nERonN

รู้สึกนิยายจีนสายคุเขียนยังไงก็สู้เมพกิมย้งไม่ได้ถ้ามันยังพยายามเอามาจากไอ้ยุ่น แปดเทพนี่แม่งยังกะรวมgenreทำมาก่อนญี่ปุ่นอีก หลวงจีนสายเด็กผู้ถูกเลือกได้พลัง คุณชายสายฮาเร็ม ไอ้มืดสายพี่กัซ พลังในเรื่องแม่งก็โคตรสร้างสรรค์หลากหลาย กุนึกว่าพวกกาตูนญี่ปุ่นก็อปมาจากเรื่องนี้ด้วยซ้ำ

78 Nameless Fanboi Posted ID:v4NljRWx8

อ่านอุ๋ยเสี่ยวป้อสินิยายฮาเร็มคุโม่ยสมัยนี้ชัดๆ

79 Nameless Fanboi Posted ID:1dNVy.Cr4

>>70 มึงเมานะ นิยายย้อนเวลาไม่ได้ห้ามเจอบุคคลจริง แต่ห้ามบอกวิธีย้อนเวลาเว้ย

80 Nameless Fanboi Posted ID:2+qoCZOy8

>>73 >>74 ไปคุ้ย Hugo award มาปีหลังๆคนจีนบุกรัวๆเลยว่ะ แรงจนเริ่มน่ากลัว แถมเป็นรางวัลที่คนเขียน GOT เคยได้ด้วย
ปล.ไม่มียุ่นหลุดเข้าชิงซักราย....
ปล.2 เลิกขายแนวคุไปเขียนแนวโนเวลจริงจังท่าจะรุ่งกว่าแหะ

81 Nameless Fanboi Posted ID:ma7nERonN

>>80 สายคิโม่ยมันขี้แพ้กับหลุดจากcommon senseของคนจริงจนแค่ระดับเด็กเนิร์ดในโลกก็ไม่อ่านแล้วอะ ตอนนี้ยุ่นแม่งเลือแค่แนวดูดฟุกับติ้วหีที่ยังน่าจะลุยกับโลกนี้ได้ มึงดูนิยายฝรั่งขายได้ช่วงหลังๆมานี่พวก twilight 50shades hunger game แม่งแนวติ้วหีทั้งนั้น กุว่ายุ่นถ้าอยากส่งออกตอนนี้ต้องฮาเร็มไส้กรอกกินกันเองด้วยแล้วรุมนางเอกด้วยไปพร้อมๆกัน

82 Nameless Fanboi Posted ID:ssNdTMS51

แต่กูว่ายังอีกยาวนะ กว่าจีนจะมีอนิเมดีๆ หรือคนเขียนบทอนิเมดีๆ
ยกตัวอย่างอุตสาหกรรมเกมส์ จีนแม่งเริ่มตั้งแต่ยุค 2K แล้ว ไอ้มังกรหยกภาคแรกใน PS1 นั่นไง แต่จนถึงตอนนี้ เกมส์ที่เอาความเป็นจีนมาขายจนออกไปสู่สากลได้อย่างญี่ปุ่น ยังแทบไม่ผุดไม่เกิดเลย อย่างดีก็ขายได้เฉพาะในประเทศตัวเอง
อนิเมก็เหมือนกัน ให้ไปก๊อปญี่่ปุ่นแบบเด๊ะๆ คนก็มองว่าแบบนั้นมึงดูญี่ปุ่นต้นฉบับเลยไม่ดีกว่า ?

83 Nameless Fanboi Posted ID:ssNdTMS51

สิ่งหนึ่งที่ทั้งจีนและเกาหลีแม่งเลียนแบบญี่ปุ่นไม่ได้เลยจริงๆคือเรื่องดีเทลว่ะ ลายละเอียดปลีกย่อยที่คนทั่วไปไม่สังเกตุ การเอาใจใส่ในลายละเอียดปลีกย่อยเหล่านี้นี้มันแทบจะเป็นวัฒนธรรมประจำชาติของญี่ปุ่นไปแล้ว ซึ่งแม้แต่คนจีนและเกาหลีเอง ก็ยอมเสพของญี่ปุ่นเพราะวัฒนธรรมนี้เหมือนกัน

84 Nameless Fanboi Posted ID:ma7nERonN

>>81 ผิดหรือถูกแม่งวัดกันที่ยอดขายซีนี้แหละ มีแต่เบียวกับคิโม่ย ถ้าเอโรมังงะยอมลงเหวปีหน้าพวกมึงเตรียมกินยาถ่ายล้างลำไส้รอกองทัพกาตูนฟุกันได้เลย

85 Nameless Fanboi Posted ID:I0yoqE5zU

มันนี้อันนี้ด้วยนะ
อยากแย่งฐานคนดูของญี่ปุ่นอะ ทำไงดี > ทำอะไรคล้ายๆ กันแต่ดีกว่าสิ > คนดูคิดว่าควล้ายกันแบบนี้ดูของญี่ปุ่นเลยจะดีกว่ามั้ย > จบเห่ (ลูป)

ถ้าเปลี่ยนเป็น ทำอะไรแปวกจากญี่ปุ่นก็จะเป็นได้ฐานคนดูอื่นมาแทนอีก ไม่ตรงเป้า

86 Nameless Fanboi Posted ID:Hst5ijQjg

วรรณกรรมญีปุ่นก็รู้จักแค่ไลท์โนเวล ทำไมมโนได้เยอะจังวะ
เอาเป็นบรรทัดฐานว่าวรรณกรรมจีน ไม่สร้างสรรค์เท่ายุ่นได้เลยทีเดียว
กำลังภายในเก่าๆอันที่ดังๆ เคยอ่านกันบ้างรึยัง กุละอยากรู้ว่าของคุที่แต่งใหม่ๆมันสร้างสรรค์กว่าตรงไหน

อีกอย่าง ไลฟ์สไตล์คุจีน ในนี้ก็ไม่มีใครรู้
เห็น ova จีนเรื่องเดียว ตื่นขี้ว่าจีนจะมีอุตสหกรรม tv อนิเม ใน 5ปี 10ปี hahaha

87 Nameless Fanboi Posted ID:ma7nERonN

>>86 มึงคิดว่ามันเตรียมการณ์เงียบๆมากี่ปีแล้ว มันเอา5ปีนี้แหละ

88 Nameless Fanboi Posted ID:NyPvM9kkx

วรรณกรรมจีนแม่งหนุกน่ะ ไม่เหมือนของยุ่นที่เน้นคิโม่ยเป็นหลัก สเกลพลังในเรื่องก็มั่วนิ่มเละเทะแทบทุกเรื่อง

89 Nameless Fanboi Posted ID:wI/0AwExU

พวกมึงแยะหน่อยระหว่างวรรณกรรมกับพวกนิยายจูนิเบียว

90 Nameless Fanboi Posted ID:1dNVy.Cr4

>>85 ลองไปดูเว็ป Novel Update สิ นิยายจีนได้รับความนิยมมากกว่าญี่ปุ่นเยอะนะ ตอนแรกปัจจัยหลักคือความสดใหม่ แต่ต่อมาที่นิยายจีนยืนพื้นได้จนได้รับความนิยมมากกว่าญี่ปุ่นคือ "คุณลักษณะ/Trait" ของพระเอก

โดยส่วนตัวกูคิดว่านิยายจีนส่วนใหญ่เดินเรื่องซ้ำไปซ้ำมาค่อนข้างน่าเบื่อ ซึ่งก็คล้ายญี่ปุ่นนบางแง่ แต่สิ่งหนึ่งต่างออกไปคือ Trait ที่เรียกว่า "ความต้องการเอาชนะ/Competitive" Trait นี้เป็นจุดเด่นที่สำคัญมากของนิยายจีนสมัยใหม่ เพราะคนจีนนั้นเกิดมาก็แข่งขันกันแล้ว ความต้องการเอาชนะ=เป็นที่หนึ่ง จึงแรงมาก และส่งต่อมาในนิยาย

ในกรณีจีนกับญี่ปุ่นนั้นผิดกันอย่างหนึ่ง ในญี่ปุ่นก็แข่งขันกันหนัก แต่นิยายญี่ปุ่น (โดยเฉพาะ WN/LN) เน้นการประโลมโลกด้วยการสร้างโลกใหม่ให้คนอ่าน self-insert ไป SoL ในต่างโลก แต่จีนนั้นให้ไปต่างโลกเพื่อ "เป็นที่หนึ่ง" ความต่างนี้สำคัญมาก เพราะมันตรงกับ Trait อย่างหนึ่งของฝรั่งโดยเฉพาะเมกัน นั่นคือการแข่งขันเพื่อเป็นที่หนึ่ง นิยายที่ตอบสนองด้านนี้จึงได้รับการยอมรับง่ายกว่า

ตอนนี้ตลาดญี่ปุ่นในฝั่งตะวันตกยังใหญ่กว่า แต่การทุ่มตลาดของจีนที่เปิด Qidian International เว้ปแปลนิยายจาก Qidian ภาษาจีนเป็นภาษาอื่นๆ ทั้งอังกฤษ ไทย และอื่นๆ ในอนาคตอย่าง เวียดนาม ฝรั่งเศส สเปน ฯลฯ การรุกทางวัฒนธรรมที่มีการจัดการอย่างเป็นระบบเคยทำสำเร็จมาแล้วตอนเกาหลี และตอนนี้จีนกำลังทำบ้าง เรื่องนี้ต้องดูในอนาคตว่าจีนจะทำได้แค่ไหน แต่ที่แน่ๆ คือตลาดของจีนจะใหญ่กว่าตอนนี้มากแน่นอน

91 Nameless Fanboi Posted ID:NyPvM9kkx

>>90 ของจีนมันเน้นฝึกฝนเป็นที่หนึ่ง แต่ของยุ่นส่วนใหญ่เลยคือ เป็นไอ้ขี้แพ้ แล้วก็มีพลังพิเศษ มีสาวๆมารุมจีบ

92 Nameless Fanboi Posted ID:GD5B3reQd

ทำไมกูเดจาวูเหมือนหลายปีก่อนกมีคนอวยจีนออกนอกหน้าแบบนี้วะ
จะรอดูว่าเงียบหายไปเหมือนเดิมรึเปล่า

ส่วนไอ้เมะเทพทรู self insert ที่พวกชนชั้นสูงด่ากันไว้เยอะ อย่าง re:zero
ปัจจุบันก็ยังไม่ดับมอด ฮ่า ฮ่า ฮ่า

กูดูซามูไรแจ๊คต่อดีกว่า

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.