พอซื้อแผ่น Ost มาฟัง รู้สึกว่า Mitsuha no theme นี่ผสมกันสองเพลงแฮะ
ครึ่งแรกเป็นเพลง Date ของรุ่นพี่ ช่วงกลางๆเพลงเป็นโน้ตตัวเดียวกับเพลงตอนยืนดูดาวตก
Last posted
Total of 1000 posts
พอซื้อแผ่น Ost มาฟัง รู้สึกว่า Mitsuha no theme นี่ผสมกันสองเพลงแฮะ
ครึ่งแรกเป็นเพลง Date ของรุ่นพี่ ช่วงกลางๆเพลงเป็นโน้ตตัวเดียวกับเพลงตอนยืนดูดาวตก
ลิโด้อยู่อีก 7 วัน พวกมึงอย่าเพิ่งถอดใจ
ถ้ากูเข้ากรุงเทพได้จะไปดูรอบที่ 10 เนี่ย
มาส่งท้ายเสาร์นี้กันมั้ยพวกมึง
กูก็ดูซ้ำไปหลายรอบแล้ว แต่เวลาหนังเริ่มฉายใจกูจะเต้นตึกตักๆทุกครั้งเลยว่ะ วันนี้ไปดูก็ยังเป็น ไม่รู้เหมือนกันว่าตื่นเต้นอะไร
นี่กูก็ไม่ได้hypeขนาด10เต็ม10 100เต็ม100นะ
อื้อหือ 10 รอบ กู4รอบเอง ถ้าลิโด้ยังอยู่อีกอาทิตย์เดี๋ยวไปจัดอีก2รอบ
กูเริ่มคิดแล้วว่าพวกไปดูบ่อยๆนี่มันคนโสดที่อยากมีแฟนนี่หว่า 55555 คนมีคู่ไปดูสองรอบนี่ก็เยอะและ แต่คนโสดดูแล้วก็อยากดูอีกเพราะอยากเจอโมเม้นแบบในเรื่อง อยากเจอผู้หญิงแบบมิทซึฮะ อยากได้แฟนแบบทาคิ ฮา
กูรู้สึกว่า ถ้าไม่ไปดูในโรงตอนนี้ ผ่านไปซักพักพออยากดูแล้วจะไม่มีโอกาสว่ะ
กูไปดูเพราะกูติด ถ้าออกโรงแล้วEarthboundไม่ขายมีลงแดงแน่
เริ่มเก็บวันละ 50 ตั้งแต่วันนี้ อาจจะมีเงินกดแผ่นญี่ปุ่นนะครับ
สำหรับกูพอได้แผ่นมาเหมือนจะช่วยแก้ลงแดงได้นะ เปิดฟัง Mitsuha no theme Kataware doki ติดๆกันนี่ฉากในหนังแว้บเข้ามาในหัวเลย แต่พอฟังเพลงไปเรื่อยๆเสือกอยากดูหนังขึ้นมาอีกซะงั้น อาทิตย์นี้กูยอมลงทุนเข้ากทมไปดูที่ลิโด้แม่ง โชคดีที่จังหวัดที่กูย้ายไปทำงานอยู่ใกล้กทมด้วย
เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า producer สำคัญขนาดไหนใน flow of production
จังหวะการเล่าเรื่อง ลำดับเรื่องของชินไค ดูดีผิดหูผิดตาเลยทีเดียว
ถ้าเป็นปกติ 107 เล่าสไตล์เดิมคงไม่พอ แถมจะน่าเบื่ออีก
พึ่งดูรอบ4 ออกมา งงตัวเองเหมือนกันว่าจะไม่ดูแล้วแท้ๆ555
เรื่องแผ่นคงกดBDญี่ปุ่นอยู่แล้วล่ะ อยากได้ของแถม
ถึงจะยังไม่รู้ว่าคืออะไรก็เถอะ แต่ที่อยากได้ที่สุดคือซับญี่ปุ่น
แต่ถ้าของไทยออกก็จะซื้อเก็บด้วย
เรื่องหน้าจะได้ใครมาเป็น producer กันหนอ
ขอเก็งคิอีกรอบ เพราะแกมี passion กะตัวชินไคจริงๆ
>>826 เหมือนกูละ ตื่นเต้นทุกครั้ง จะได้เจอมิทสึฮะแล้ว >w<
เมื่อกี้ไปดูFantastic Beastท้ายเรื่องจะหลับให้ได้ ไม่รู้ว่าเบื่อหนังหรือเพลียจากงาน แต่คิมิไม่ว่ารอบดึกขนาดไหน ตาสว่างยันจบ
วันอังคารเชียงใหม่ไม่รู้จะมีเปล่า พอดีต้องไปอบรม ถ้ามีจะแวะดูก่อนเข้าโรงแรมที่อบรมแม่ม
ส่วนแผ่น ออกพรุ่งนี้ยังได้ เราพร้อมเปย์กันมานานแบ้ว
อัพเดตเมลไดอารี่หน่อยได้มะ
โอเค ลิโด้ยังอยู่ต่ออีกอาทิตย์นึง มีรอบเที่ยงกับ6โมงครึ่ง
http://www.apexsiam-square.com/
บทสัมภาษณ์ชินไค
http://sugoi-japan.jp/en/sugoi/01.html
http://sugoi-japan.jp/en/sugoi/02.html
-- What do you value the most when you interview others to gather information?
Shinkai - The questions I ask revolve around the best and the worst experiences people have in life, regardless of their profession.
I want to know what causes the strongest emotional reactions, and I strive to describe them to the audience as well. When I visit the theater, I’m always there in search of something. That something could be a diversion from troublesome situations at work, or maybe a hint that offers guidance to the mysteries of life. I have hope that films will present something that I need. When everything in life is moving along smoothly, I would never consider going to the theater [laughs]. The same goes for reading as well, since I read the most when I want answers. My goal is to create that something in films and novels that people are searching for. To achieve that goal, it is very important for me to understand the best and the worst, to know what causes joy and heartbreak.
และขอบคุณคุณโนดะ (คนแต่งเพลง) นะครับ ที่ทำให้คราวนี้จบแฮปปี้ 5555555
-- We know the lyrics of RADWIMPS - who provided the music for the film - had an impact on the novel itself. Can you please tell us more about this impact?
Shinkai - The moment I heard “Nandemonaiya” (“It’s Nothing”), I knew that our film would be finished. Before “Your Name”, I had not yet created a good story that clearly had a happy ending. Sure, being able to meet the one who will become the most important person in life is undoubtedly a fantastic experience. In reality, things usually don’t work out that way. Because of this, I tend to write about the times when the connection is not made, when the character is unable to find that important person. To be honest, I was hesitant about letting “Your Name” end in a positive manner. Before writing the lyrics, Yojiro (Noda) had read the script, and he came up with a particular line that goes “just a little more, only just a little more, let's stick together just a little bit longer”. When I laid my eyes upon those lyrics, I knew that wrapping up the film by bringing the characters together in a happy ending would be alright.
Just a bit more, a little bit more. Enveloped within those words is a possibility of separation someday. The day for goodbyes might come, but then again, the characters could possibly remain together if that day never does arrive. Feelings of uncertainty and hope for the future are contained within the cries for “just a bit more”. With the buildup of each cry and each demand for hope, the future becomes something that is worth believing in. I feel that the lyrics have the potential of guiding us towards all the possibilities that may exist after the end of the film.
I also feel that music is as powerful as we believe it to be. It has the aptitude to store melodies and words deeply within our minds, and I’ve always marveled at the strength of music. Even though I may not be able to create the same effect, I truly wish to create expressions that are comparable to music.
อ่านแล้วน่าสนใจอยู่ 1 จุด
คือตรงที่ว่าตอนที่เขียนนิยายเสร็จเนี้ย ยังไม่เริ่มอัดเสียงกัน
แล้วนิยายนี่ก็ไปช่วยให้คนพากย์เขาถึงตัวละครมากขึ้นอีก
ก็คล้ายๆกับที่เขียนท้ายเล่มในนิยายเหมือนกันนะ
ร่วมมือกันหลายฝ่ายจริงๆ
>>837
ถ้าตามอ่านบทสัมภาษณ์เยอะๆนี่จะอร่อยมาก
จริงๆ คนพากย์ก็มีส่วนในการทำให้ตัวละครในหัวชินไคชัดเจนขึ้นมาอีกต่างหาก
ผกก.ชินไคร่างบท ภาพมิตสึฮะในหัวยังไม่ค่อยชัดเจน แล้วไอ้ตอนที่พูดว่าขอให้ชาติหน้าไปเกิดเป็นหนุ่มฮ็อตในโตเกียวเนี่ย ชินไคไม่แน่ใจว่าต้องให้ตะโกนรึเปล่า แต่ว่าหลังจากเจอตัวโมเนะแล้ว ชินไคเห็นภาพเลยว่าต้องตะโกนแน่ๆ
http://manga.tokyo/report/interview-with-makoto-shinkai-director-of-kimi-no-na-wa/
มีสัมภาษณ์กี่แห่งวะเนี่ย มีใครช่วยสรุปหน่อยได้ไหม ช่วงนี้ยุ่งมาก
โมเนะกับคามิกินี่พอจะจิ้นขึ้นไหมวะ
>>840
แกเดินสายเยอะมาก แต่เดี๋ยวกูรวมๆมาให้
สัมภาษณ์ชินไค
http://manga.tokyo/report/interview-with-makoto-shinkai-director-of-kimi-no-na-wa/
http://www.animenewsnetwork.com/interview/2011-08-16/interview-makoto-shinkai
http://site.animeuknews.info/2016/11/09/an-interview-with-makoto-shinkai/
https://i-d.vice.com/en_au/article/your-name-the-japanese-anime-about-body-swapping-teens
http://www.hollywoodreporter.com/news/makoto-shinkai-his-anime-hit-your-name-being-called-new-hayao-miyazaki-q-a-941646
http://mainichi.jp/english/articles/20161020/p2a/00m/0et/020000c
งานที่เกาหลี
http://manga.tokyo/report/kimi-no-na-wa-korean-fans-gets-excited-by-the-official-screening-at-busan-international-film-festival/
งานพบปะขอบคุณคนดู (ชินไค-โมเนะ-คามิกิ-วงRAD) ***ฉากที่โมเนะชอบที่สุดคือตอนทาคิพูด มิตซึฮะ เบาๆบนเขา ทำใจเต้น5555 ผกก.เลยรีเควสให้ทำสดอีกทีwwwwwww
http://manga.tokyo/report/kimi-no-na-wa-radwimps-appears-and-sings-at-a-smash-hit-thanksgiving-event/
อันนี้สัมภาษณ์คามิกิคุง แฟนชินไคตัวยง
http://manga.tokyo/report/interview-with-ryunosuke-kamiki/
สัมภาษณ์คนพากย์เพื่อนแว่น
http://manga.tokyo/report/interview-with-nobunaga-shimazaki-as-tsukasa-fujii-on-kimi-no-na-wa/
แถม วิเคราะห์การสร้างอนิเมะของชินไค
http://imgur.com/a/7LC2d
เห็นมีคลิปสัมภาษณ์อันหนึ่งที่โมเนะบอกว่าปลื้มคามิกิอยู่นะ ถ้าฝ่ายชายเกิดชอบเพื่อนร่วมงานคนนี้ขึ้นมาจริงๆก็น่าจะสานสัมพันธ์ไม่ยากอ่ะ
ว่าแต่ยังไม่มีแฟนทั้งคู่ใช่ม่ะ
นิยายนี่ละเอียดกว่าอนิเมะเยอะไหม ยังไม่ได้หานิยายมาอ่านเลย แต่ดูกี่ทีก็ชอบ เมื่อวันจันทร์ก็ไปย้ำมาอีกรอบ
ไหนๆก้ไหนๆ ลิโด้จะฉายถึงวันที่ 7 แล้ว อาทิตย์นี้ไปดูส่งท้ายกันมั้ย เลือกโรงลิโด้สักรอบนึง
เปิดช่องอัมรินทร์เมื่อกี้มีโฆษณาขายนิยายคิมิโนะนาวะด้วยว่ะ
โหวตดิ จะเอาวันไหน เสาร์ หรืออาทิตย์ กูได้ทั้งคู่
กูกะจะไปทุกวันอยู่แล้ว
รอบฉายของ Lido
วันเสาร์นี้ มีรอบเที่ยง กับ 6 โมง 45
วันอาทิตย์ มีรอบบ่าย 3
เชิญเลือก
นั่งรถจาก ตจว ไปดูจะคุ้มไหมวะ5555
นิยายวางขายเยอะยังวะ พรุ่งนี้กูไปพาราก้อนพอดี จะมีขายไหม ร้านใน ctw ก็ได้ เห็นโม่งบนๆคุยแล้วอยากอ่านชิบ
พอ ๆ กันละ กูนี้อยู่แม่งกึ่งกลางเลย ตอนอบรมไปดูเชียงใหม่คงไม่ทัน ไม่รู้ทางไปด้วย กรุงเทพสะดวกดี มีรถตู้วิ่ง
Of the year ที่แท้จริง
เล่มเดียวชนะเรื่องอื่นที่ออกหลายเล่มรวมกันในปี (จริงๆ มันมีสองเวอร์ชั่น อีกเวอร์ชั่นก็ตัวฟุริงานะกำกับคันจิ สำหรับให้เด็กอ่าน)
เห็นทาคิเอาร่างมิตสึฮะไปกระแซะเท็ตชี่บ่อยๆแล้วแอบลุ้นเหมือนกันนะว่าเท็ตชี่จะตบะแตกเมื่อไหร่
เหี้ย เอาหูฟังราคาแพงมาฟังOST กูกราบRADWIMPSเลยครับ
ถ้ากอดจริงมิทสึฮะไม่ตัวอ่อนไปเลยเรอะ แค่ตอนนั้นก็สำลักความสุขเต็มที่แล้ว
แค่นี้ก็โดนบ่นว่าชอบกันเร็วไปแล้ว
กอดเลยดูจะเป็นโรมานซ์ละ
ทาคิมันรับมือสาวไม่เป็น555 ชินไคว่าไว้งั้น
ฉากบนเขานี่โคตรโรมานซ์เลยนะถึงไม่มีถูกเนื้อตัวก็เถอะ แม่งวิ่งไปหาสาวบนเขาจนเกือบตกเขา ไปถึงไม่เจอก็แหกปากตะโกนแล้ววิ่งไปทั่ว พอเพลงKataware doki ขึ้นนี่โคตรพีคเลย
อารมณ์แบบคนญี่ปุ่นวะ มันจะออกมีอารมณ์เขินอายกันอยู่ทั้ง2ฝ่าย
อีกอย่างตอนนั้นก็ยังไม่ได้เป็นแฟนกันนะเว้ย ถึงอารมณ์ความรู้สึกทั้งคู่มันจะไปเกินกว่านั้นเยอะก็เถอะ
กูได้พลอตโดเลย เจอหน้าปุ๊บทาคิคุงก็บรรเลงทันทีด้วยความอัดอั้น มิทสึฮะก็สมยอม ขณะที่กำลังจะแตกในนั้นเองก็หมดช่วงเวลาสนธยา แตกลงพื้น แล้วทาคิคุงก็หลับไปในสภาพเปลือยล่อนจ้อน ส่วนมิทสึฮะที่อารมณ์ค้างไม่เสร็จก็วิ่งลงเขามาเรียกชาวบ้านไปแกงแบงหลังโรงเรียน ทุกคนรวมทั้งคนที่มามุงดูเลยรอดตายจากสะเก็ตดาวหาง
แฮปปี้เอนด์
3 สัปดาห์ 43 ล้านบาท ในไทย
ไม่เลวนะ
เออรวมด้วย มึงดูถูก ตจว. หรอไม่นับอ่ะสัส!
ควรแดกให้อิ่มท้องก่อนไปดูหนัง รอบนี้อารมณ์ไม่มาเลยสัส
จังหวะนี้ยอดอะไรก็นับหมดอ่ะ ออริอนิเม ไม่มีฐานแฟน ไม่ใช่จิบบลี มาถึงจุดนี้ได้
หลับหูหลับตาจนกูหมั่นไส้ละ มองดูข้อเท็จจริงกันด้วย
กูเห็นหลับหูหลับตาอยู่คนเดียวใน ณ ตอนนี้ ความเห็นเดียวด้วย
สดงว่าไม่เห็นยอดพูดงี้แสดงว่าไม่เห็นยอดจิบลิช่วงหลังในไทย
>>842 เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยย เพิ่งมาอ่านบทสัมภาษณ์
Kamishiraishi picked the scene when Taki calls Mitsuha’s name in the movie’s critical scene. Even though it’s just a single word, Kamishiraishi said it made her heart beat faster. Kamiki took the chance after Shinkai’s request and epically performed that scene on the stage. The fans welcomed them with wild applause. It was amazing to see these two outstanding cast members do what they do best, .
อยากเห็นสดๆเลยว่ะ อยากรู้ว่าน้องโมเนะจะเขินขนาดไหน กูว่าน้องเค้ามากกว่าปลื้มแล้วมั้งเนี่ย ขนาดว่าได้ยินเสียงแล้วใจเต้น
มู้หน้าชื่อไรดี อาทิตย์นี้ออกโรงละ
>>900
จะจิ้นคามิกิคยุ้นกะโมเนะเนะ ผ่านตาลุงทั้งหลายให้ได้ก่อนเถอะ หวานกว่ามั่กๆ
https://web.facebook.com/KamikiRyunosukeThai/videos/904447416322483/
ส่่วนซีนนั้นมีอีกรอบที่งานที่เกาหลี
https://web.facebook.com/KamikiRyunosukeThai/videos/877910608976164/
สรุปให้กูอ่านที ขี้เกียจอ่านแรง
ปล กูเคยดู Mad max แล้วไม่ชอบให้ 5/10 แต่ชอบ Avenger Ultronมากกว่ากูว่ามันสนุกดี ตอนนั้นกูโดนแขวะว่าชอบหนังกากๆไม่เข้าใจหนังบู๊ที่แท้จริง เล่นจริงพังรถทิ้งในฉากจริงๆ คือกูเฉยๆไง พังจริงแล้วไงกูชอบ CG ในAvenger มากกว่าถึงนักวิจารณ์จะมองว่ามันลูกกวาดก็เถอะ
หลังจากนั้นมากูเลยคิดเสมอว่าถ้ากูชอบหนังเรื่องไหนแล้วมีคนไม่ชอบหนังเรื่องนั้นกูจะเฉยเพราะความชอบมันปัจเจก ใครจะด่าสาดเสียเทเสียจะใช้ Kimi no nawa 1/10 กูก็เฉยอ่ะ ได้ยอดเกิน 30ล้านกูก็ปลื้มใจตายห่าแล้ว
หรือเพราะกูไปเก็บตกกับนิยาย และคำสัมภาษณ์ชินไควะ เลยเข้าใจไอ้ที่ว่าเป็นplotholeหมดเลย
รสนิยมแต่ละคนไม่เหมือนกันว่ะ อย่ามาระรานกันก็พอ
โคตรปิดกั้น เหมือนตั้งกฏให้ตัวเองว่าหนังสลับร่างมีกฏได้แค่นี้ หนังย้อนเวลามีกฏได้แค่นี้ อะไรที่แฟนตาซีนอกเหนือที่เคยดูคือผิดหมด กูว่าหนังก็มีกฏอธิบายไว้แล้วนะ ขนาดไม่ต้องไปเสพนิยายหรือมังงะต่อ
อีเพจนี้กูเห็นคะแนนเหวี่ยงโคตรๆ ใกล้ระดับเพจอวยไส้แตกฯ แต่มีมาตรฐานกว่าหน่อย
ส่วนเรื่องอิน/ไม่อินความรักนี่แล้วแต่คน แต่ไม่พูดถึงเพลงเลยสักนิดนี่ มึงไร้ความเจ-ป๊อปในหัวใจมาก
กูแยกคนดูเป็นคนธรรมดากับคนที่อินในเรื่องพรหมลิขิต(มุซึบิ) คนกลุ่มแรกที่ไม่สนใจอนิเมะไม่สนใจเรื่องความรักแบบเกิดมาคู่กันพยายามใช้ตรรกะในการดูทุกช็อตเค้าไม่อินก็ไม่แปลก กูไม่ติดใจอะไรเพจนี้นะ(ไม่พูดถึงเรื่องเพลงนี่สงสัยจะไม่อินจริงๆ)
อีกรีวิวที่มองในมุมมองตนธรรมดาคือเพจตั๋วร้อน
ถ้าตัดคำหยาบ เงี่ยน ชักว่าว หน้าหี ออกไปกูว่ารีวิวของเพจตั๋วร้อนคือมุมมองที่คนธรรมดาเข้าไปดูหนังแล้วจะรู้สึกแบบนี้แหละ กูฮาตรง "ถ้านางเอกหน้าเหมือนปลาลิ้นหมาพระเอกมันคงไม่ทัก"
คิดว่าน่าจะต้องเรื่องภาษาญี่ปุ่นประมาณนึงด้วยนะ แปลอย่างนั้น มุซุบิเอย คาวาทาเระโดคิ(คาตาวาเระโดคิ) เอย ไม่คลุกอยู่กับวงญี่ปุ่นจริงๆ มันไม่เก็ตกันหรอก
แต่ว่าลิโด้บอกกูว่ามีถึงวันพุธ ทำไมเพื่อนโม่งได้รอบถึงแค่วันอาทิตย์เองวะ?
>>906 ข้อ 1 ในหนังมีบอกเกือบครบและมีเสริมในนิยาย ปฏิทินบอกปีในหนังก็มีชัดเสือกไม่เห็นเอง
เช่นทำไมไม่โทรหากัน ตอนทาคิโทรหามิทสึฮะ ในมือถือจะเขียนอยู่ว่า "ห้ามโทรมาเด็ดขาดยกเว้นเหตุฉุกเฉิน" ตรงนี้ซับไม่ได้แปล
แต่จริงๆก็มีเสริมในนิยายว่าลองโทรลองส่งเมล์แล้วก็ไม่ติด
แล้วก็สองคนนี้เวลาสลับร่างกันมันเหมือนฝันอยู่จะเบลอๆนึกอะไรไม่ค่อยออกหรอก แต่ที่รู้เรื่องเพราะเขียนโน๊ตเอาไว้
ข้อสองกูอ่านแล้วอยากถีบหน้าคนรีวิวซักหลายทีว่ะ ปากบอกว่าทฤษฎีเวลาไม่มีผิดหรือถูกแต่เสือกทำเป็นเข้าใจว่าหนังเรื่องนี้มีทฤษฎีเวลายังไง
ดูไม่เข้าใจยังสะเออะปากดี
ข้อสาม หนังไม่ได้แหกกฎแต่มึงไม่รู้กฎเอง และเรียกว่า occult จะดีกว่า fantasy
การสลับร่างแบบตอนหลับกับสลับร่างตอนกินสาเกมันไม่เหมือนกัน
สรุปภาพรวมคือดูไม่เข้าใจเองแต่ออกมาโวยวาย
ไอ้นี่มารีวิวเหี้ยไรตอนนี้สงสัยกลัวตกกระแส แต่อ่านแล้วเหมือนมันดูหนังไม่รู้เรื่องเองมากกว่าว่ะ https://www.facebook.com/MyFavouriteFilms/photos/a.382582948477754.80613.356656854403697/1109865722416136/?type=3
>>921 กูว่าตั๋วมันอาจจะหงุดหงิดที่หนังพม่าหลุดโรง แต่รีวิวKimi no nawa มันไม่ได้กะล่อเป้าหรอก กูตามเพจมันมา2ปีและ มันเคยรีวิวWind rise ก็รีวิวได้ดีนะ น่าเบื่อก็บอกน่าเบื่อแต่อธิบายด้วยเหตุผลไม่ด่าอย่างเดียว ตั๋วมันเป็นคนประเภทไม่อินกับอนิเมะยุ่นด้วย รีวิว Kimi no nawa ก็ออกมาในแบบคนที่ไม่ได้อินกับอนิเมะเรื่องนี้ซึ่งกูว่าก็เป็นมุมมองของตั๋วมันและมันก็ไม่ได้ด่าหนังจนเสียหาย(ยกเว้นเรื่องคำหยาบซึ่งเป็นสไตล์ของเพจตั๋วอยู่แล้ว) อย่างเทชชี่ระเบิดโรงไฟฟ้ากูก็คิดอยู่ว่าแม่งติดหีจนลงทุนระเบิดเลยเหรอวะ แต่ก็ไม่คิดอะไรมาก ก็เป็นบทที่ให้เรื่องมันเดินต่อ
กูว่ากูพอจำแนกคนชอบหรือไม่ชอบหนังเรื่องนี้ได้ระดับนึงละ
- พวกรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นมาระดับนึง รู้จักความบ้าบอและแฟนตาซีของหนังหรืออนิเมญี่ปุ่นมาบ้างเลยซึมซับง่าย พูดง่ายๆคือพวกดูอนิเมหรือโม่งอย่างเราๆนี่แหละ>>>ส่วนใหญ่ชอบ
- พวกแทบไม่รู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นเลย ซีรีส์ไม่แตะ มูฟวี่รู้จักแค่ดราก้อนบอล โดราเอมอน โคนัน โปเกมอน ฯลฯ
อิมเมจการ์ตูนในหัวเลยมีแค่"การ์ตูนเป็นของสำหรับเด็ก ตัวเอกผจญภัย>เจอตัวร้าย>สู้>ชนะ>จบ" พอมาเจอหลับตาฝันฯ เข้าไปเลยเหมือนเปิดหูเปิดตา ไม่คิดว่าการ์ตูนจะมาไกลได้ขนาดนี้ เลยกลายเป็น>>>ส่วนใหญ่ชอบ
- พวกดูหนังฝั่งตะวันตกเยอะ เสพหนังรางวัล หนังที่ใช้ตรรกะทางวิทยาศาสตร์มากกว่าความแฟนตาซี หนังที่เน้นทฤษฏีความสมจริงพิสูจน์ได้ พอมาเจอความแฟนตาซีแบบญี่ปุ่นเข้าไปเลยไม่เข้าใจ >>>ส่วนใหญ่ไม่ชอบ
- พวกดูหนังน้อย การ์ตูนน้อย เสพสื่อน้อย เลยย่อยอะไรยากๆไม่ได้ พอเจอลูกเล่นหนังแปลกๆเข้าไปก็ไม่เข้าใจ ไม่ได้กะเก็บมาคิดต่อ พอออกจากโรงไม่ถึง5นาทีก็ลืมเนื้อเรื่องลืมชื่อตัวละครราวกับมิทสึฮะกับทาคิที่พึ่งตื่น>>>ส่วนใหญ่ไม่ชอบ
ปล.กูชอบเพจตั๋วนะ รีวิวเหมือนชาวบ้านดี แต่ก่อนหน้านี้รีวิวหายไปเลย มีแต่อะไรสัปดี้สัปดนไม่รู้.....
https://twitter.com/yottkun/status/804317452469293056
เปิดตัวที่จีนก็รายได้ดีเหมือนกันนะ
kata wareji ost นี้ฉากไหนวะ
คุยกันเร็วชิบ กลัวว่าเดี๋ยวจะหลับก่อน เลยมาทำฟอร์มไว้
หวังว่ามุตสึบิจะทำให้คนอื่นตั้งบ้าง
==========
[Shinkai Makoto] พูดคุยทุกเรื่อง และจับนม いつは
==========
>>>/animanga/3158/ Kimi no Na wa ระบายกันได้เต็มที่
>>>/animanga/3166/ [Shinkai Makoto] Kimi no Na Wa ふたば และเรื่องอื่น และจับนม พูดคุยกันได้เต็มที่
>>>/animanga/3176/ [Shinkai Makoto] Kimi no Ni Wa จับนม みつは และเรื่องอื่น พูดคุยกันได้เต็มที่
>>>/animanga/3193/ [Shinkai Makoto] Kimi no Ni Wa จับนม よつは やばい! やばい! おっぱい ない! และเรื่องอื่น คุยกันได้เต็มที่
http://imgur.com/c2UE2Zw
http://imgur.com/VRoskz4
http://imgur.com/qouTYNr
http://imgur.com/j5Vpjuj
http://imgur.com/ezpvHZo
http://imgur.com/h5N6vos
===========
คอมเมนต์แรก
===========
>>>/animanga/3166/986/ แลกไดอารี่
https://docs.google.com/document/d/1KUbbCy3-_ihknQFNVl8RYDfHF_OTIvUk26sxhGH-NJ0/ คำถามที่ถามบ่อย
https://imgur.com/QIWVH7g ไทม์ไลน์ของ Kimi no Na Wa
กูลืมไปอัน แก้คอมเมนต์แรก
>>>/animanga/3193/842/ รวมบทสัมพาษณ์
>>>/animanga/3166/986/ แลกไดอารี่
https://docs.google.com/document/d/1KUbbCy3-_ihknQFNVl8RYDfHF_OTIvUk26sxhGH-NJ0/ คำถามที่ถามบ่อยของ Kimi no Na Wa
https://imgur.com/QIWVH7g ไทม์ไลน์ของ Kimi no Na Wa
Suicide squad ที่คนด่าๆกันกูชอบนะ กูร้องไห้ตั้งสองฉากแน่ะ ฉากลูกห้ามพ่อสู้กับแบทแมนกับฉาก Deadshotสู้เพื่อลูก กูไปดูเพราะอยากดูหนังแอคชั่นสนุกๆ มีบทซึ้งกูก็ซึ้งตามหนัง
ตอนดู Kimi no nawa กูไปดูเพราะอยากดูหนังรักใสๆ กูก็ชอบเพราะมันเป็นหนังรักใสๆ ภาพสวยตัวละครหน้าตาดีเพลงประกอบเพราะ บทรักไม่หวานแต่ชวนฟิน ได้ตามที่กูหวังกูก็พอใจและ แต่คนที่ไม่อินกูก็เข้าใจว่าเค้าคิดไม่เหมือนเรา
เพลงDream Lantern ที่เปิดตอนOP มีเวอชั่นเต็มรึยัง
แล้วมีเพลงไหนของRADWIMPSที่แนวคล้ายๆกันอีกมั๊ย
list เพจแปลโดที่กูหาเจอ
https://web.facebook.com/yuuyeepun/?hc_ref=SEARCH แปลไว้สองตอน
https://web.facebook.com/เกือบเป็นชุมนุมอนิเมะ-547541355413605/ แปลไว้เยอะมาก
เวลานี้มีคนสนรีวิวด้วยหรอวะ รอบแรก ๆ กูก็เป็นแบบมันละ รู้แต่เพลงเพราะกับมิทสึฮะดีงาม แต่ข้องใจเลยไปซ้ำอีกรอบก็ได้คำตอบที่สงสัยเรื่อย ๆ
Money Maker ที่แท้จริง ดูหนังหลายรอบไม่เข้าใจ ก็ไล่ไปซื้อนิยายมาอ่าน ไลไปซื้ออัลบั้มเพลง
อุตสาหกรรมครบวงจรแบบนี้ จิบลิไม่เคยคิดจะทำ ขายแต่ตั๋วหนังอย่างเดียวก็เลยเจ๊ง
กูไม่มีความรู้เรื่องดนตรีเลยไม่รู้ว่ามันใช้โน้ตอะไรยังไงนะ แต่กูฟังKataware Dokiแล้วรู้สึกว่าจังหวะเปียโนมันลงตรงจังหวะกับเนื้อร้องYume Torouว่ะ
กูไม่ได้คิดเองใช่มั้ย
อัพเมลกันหน่อยปะ พอดีกุเห็นคนส่งเมลแลกไดอารี่มาให้กุแล้วกุไม่ได้อัพเดทรายชื่อเลยไม่ได้ส่งกลับ
จะได้อัพทีเดียวเลยตอนขึ้นมู้ใหม่
เมื่อวานกุแวะๆไปแถวโรงหนัง รอบก็ยังไม่ได้ลดอะไร แต่กุลองกดจองเล่นๆมีคนดูอยู่รวมๆประมาณสองแถวเอง
อาทิตย์หน้ามีแววโดดถอดละมั้ง
ไม่ได้อ่านวันเดียวแม่งจะครบโควต้าอีกละ
>>912 กูกับเพื่อนหลายคนดูก็เห็นพลอตโฮล แต่หนังมันเร็วๆ เลยไม่สังเกต บางคนเอะใจตอนหลังดูจบแล้ว บางคนเอะใจตอนกำลังดูอยู่ก็มี
กูเคยเอาเรื่องพลอตโฮลมาคุยในนี้แล้วโดนโม่งด่าด้วย T^T ขอกูแอบบ่นนิดนึง
อีกอย่าง >>919 กูว่าหนังก็คือหนัง ถ้ามึงไล่บอกว่าให้ไปอ่านนิยาย มึงจะกลายเป็นเหมือนติ่งคาโงเร่นะ ที่บอกว่าอนิเมทำให้ดูไม่รู้เรื่อง ไปอ่านนิยายเอาสิ หรือแบบเกม FF ที่บอกว่ามึงไปอ่าน lore ในเกมเอาสิ คือไอ้ฉากที่ใส่มาแว้บๆ คือใส่มาไว้กันคนด่านั่นแหละ คือหนังจงใจใส่ไว้อ้อมๆ แต่ไม่ได้พูดตรงๆ เพราะถ้าพูดตรงๆ คนจะเอะใจเลยข้ามไป คือเรื่องนี้มี potential ที่เกิดขึ้นได้หลายอย่าง และหนังเลือกที่จะเบี่ยงเวย์ไปในทางที่ไม่ให้คนดูรู้ตัวที่สุด คือมึงจะบอกว่าหนังไม่ตั้งใจที่จะปิดไม่ได้นะ เพราะมันใช้เทคนิคการตัดต่อเพื่อบังจุดนั้น ลอง
>>950 919มันก็บอกนะว่าหนังใส่มาครบแล้ว อีกอย่างที่ใส่มาแว้บๆกันโดนด่านี่มันยังไงวะ ใส่มาแว้บๆคนไม่เห็นมันก็ต้องโดนด่ามากกว่าปะ อย่างที่มึงกำลังด่าไง ถ้าแค่กันคนด่ามันจะแค่ออกมาให้สัมภาษณ์เหตุผลทีหลังหรือบอกว่าเหตุผลอยู่ในนิยายก็ได้ หรือทิ้งให้ติ่งมโนแก้ต่างเองเลยก็ได้แบบหลายๆฉากในbvsไง ทำไมต้องทำฉากใส่รายละเอียดมาเองให้ยุ่ง แบบนี้มันทำงานละเอียดมากกว่า จะได้ให้คนถกเถียงกันได้แม้หนังจะจบแล้ว
แล้วที่ว่าฉากวันที่มาแวบๆ ก็พูดไม่ได้เต็มปากว่ะว่าตั้งใจปกปิด มันแค่หนังไม่ได้ใส่มาโต้งๆมากกว่า ซึ่งในชีวิตจริงอะมึงก็ไม่ได้เห็นวันเดือนปีโต้งๆขนาดนั้นอยู่แล้ว ไม่เห็นแปลกตรงไหน ประเด็นแม่งไม่ใช่ว่าคนมันไม่รู้ว่าปีนี้ปีอะไรนะ แต่คือคนแม่งมักไม่สนใจจะตรวจสอบมากกว่าว่าปีนี้ปีอะไร แบบกูเนี่ยรู้ปีตอนเปลี่ยนปฏิทินปีใหม่แล้วก็จำแบบนั้นยาวๆเลย ไม่ได้ไปเช็กปฏิทินซ้ำซากบ่อยๆหรอกว่าปีนี้ปีอะไร ถามตัวมึงสิว่ามึงเป็นแบบกูรึเปล่า
อีกอย่างพวกที่บ่นนี่มักไม่เอาประเด็นที่ว่าความรู้สึกมันเป็นเหมือนความฝันมาคิด หรือถ้ามาคิดก็ไม่สนใจมากพอ ทั้งที่มันเป็นปัจจัยสำคัญนะ ในความฝันน่ะตัวมึงจะเบลอและรู้อะไรน้อยกว่าที่คิดเยอะเชียว
ก็น่าจะรู้ตั้งแต่เห็นเรื่องย่อหนังแล้วว่าจงใจไม่พูดถึงเรื่องเวลาเลย
เป็นการสื่อชัดๆ ว่าต้องการให้คนดูไปด้วยกันกับตัวละครที่ไม่สนใจเรื่องกาลเวลาเหมือนกัน ส่วนใหญ่กว่าจะรู้กันก็เรื่องเฉลยนู้น แล้วก็มาบ่นกันว่าทำไมกูไม่รู้ก่อน อะไรทำนองนี้
ไม่เอาอย่าตีกัน เดี๋ยวเอาข้าวให้กินๆ
หนังมันจบในตัวของมันแล้วว่ะ
แต่ถ้ามึงโง่ดูไม่รู้เรื่องกูแนะนำให้ไปหานิยายมาอ่านเพิ่มเพราะเขียนละเอียด
ไม่ต้องโวยนะว่าโดนไล่ไปอ่านนิยาย มึงเสือกดูหนังไม่เข้าใจเอง
กูอยากรู้ว่าจงใจปิดไม่ให้คนดูรู้เวลานี่ถือว่าผิดหรือเป็น plothole ตรงไหนวะ
กูล่ะงงกับไอ้คนที่ออกมาโวยวายจริงๆ
บ่นมากเดี๋ยวกู spoil sixth sense เลยสัด
กรณีนี้คงต้องบอก "มองไม่เห็นเองช่วยไม่ได้" ละนะ
เวลามึงฝันมึงวิ่งไปเปิดปฏิทินดูปีในฝันรึเปล่าล่ะ? บทนำของเรื่อง2คนมันก็พูดแล้วว่าเป็นเหมือนว่าตัวเองกำลังฝัน ตื่นมาก็รู้ว่าเหมือนลืมอะไรไป สิ่งที่สำคัญ แถมขยายอีกว่าสลับร่างมันสุ่ม อาทิตย์ราวๆ2-3 ไม่รู้ว่าวันไหนจะสลับแน่นอน ทั้ง2อย่างนี้มาบวกกัน แล้วยังจะเล่นประเด็นว่าทำไม ไม่รู้ปีกันวะ อีกหรอหืมมม?
ดูไม่รู้เรื่องก็ไล่ไปอ่านนิยาย ติ่งชินไคอัพเกรดแล้วว่ะ แถมเรื้อนไปด่าไปทับถมเมะเรื่องอื่น เหยียดRe:zero เหยียด LN แนวสมัยนิยม เจอเมะดีเข้าหน่อยก็เห่าหอนยกหางตัวเอง
>>963 อย่าโทรลตามโทรล มันไม่งาม https://imgur.com/mkVzf0D
ถึงมึงจะเถียงเรื่องตรรกะ plot บลาๆๆ ให้ตายยังไงก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอกยังไงหนังมันก็ตีตลาดจนประสบความสำเร็จไปละ ตอนนี้ชินไคแม่ง
ก็นอนชิวๆกับกองเงินล่ะ
กูอยู่ฝั่งหนังอธิบายและสามารถจบด้วยตัวมันเองได้ชัดเจนแล้วโดยไม่ต้องหาสื่ออื่นเสริมเพิ่มเติม(แต่ถ้าอยากรู้เพิ่มก็ไปหาเสพได้)
ส่วนใครคิดว่าหนังจงใจเบี่ยนเบนเรื่องเวลานี่ คือมันเป็นลูกเล่นอย่างนึงของหนังที่หลอกเซ็ตติ้งคนดูเว้ย อย่างคลาวด์แอตลาสงี้ The villageงี้(สปอยล์ดีปะวะ) มึงไปดูคงหัวใจวายตาย
แล้วกูก็ไม่เห็นความจำเป็นว่าหนังต้องบอกปีชัดเจนเลย กูหยิบแผ่นหนังในตู้กูมาพลิกดูเรื่องย่อก็แทบไม่เห็นบอกปีซักเรื่องว่าเกิดขึ้นปีไหน มันเป็นสามัญสำนึกปกติปะวะถ้าภาพมันอธิบายชัดเจนว่ารถยังมีล้อวิ่งบนถนนไม่ได้ลอยบนฟ้าได้ มันก็คือยุคปัจจุบัน ถ้ามึงใช้สมาร์ทโฟนคุยกันไม่ได้ส่งพิราบหากัน มันก็คือยุคปัจจุบัน
กุสารภาพว่ากูไปดูรอบ2เพราะจะเก็บรายละเอียดplotholeออกมาด่า แต่กลายเป็นว่าหนังมันตอบทุกข้อสงสัยจากการดูรอบแรกของกูเลย
แล้วก็มีอีก3รอบตามมา...
>>966 กุอยู่ฝ่ายเดียวกันว่าหนังตอบตัวเองได้สมบูรณ์แล้ว
ความเห็นกุนะ คือหลายๆเรื่องที่เหมือนจะเป็นplotholeมันไม่ชัดเจนจนจับผิดได้หรอก แต่มันจะเปิดให้จินตนาการเมิงเติมเต็มเหตุผลได้เอง
ทะนี้นิยายอาจจะเป็นตัวช่วยยืนยันได้ ว่ามันตรงกะที่เมิงจินตนาการเองจริงหรือไม่
คือถ้าเมิงฟีลกู้ดไปกับหนัง ความคิดเมิงน่าจะช่วยหาเหตุผลมาเติมช่องว่างได้ โดยไม่ต้องใช้นิยายอะ
พล่ามซะยาว งงๆปะวะ
กูว่าคนไม่ชอบก็คือไม่ชอบอ่ะ อธิบายไปก็หาตรรกะมาแย้งได้อยู่ดี กูดูแบบเน้นอารมณ์ร่วมไม่ต้องสนใจคนไม่ชอบก็พอ มันก็สิทธิของเค้า และรายได้เกิน50ล้านก็ดีใจและที่เห็นเมะดีๆรายได้ขนาดนี้
เรื่องนี้ขยายความเรื่องรักแรกพบ คนสองคนที่ไม่เคยเจอกันมาก่อนมารักกันได้ตั้งแต่แรกเจอ แต่แทนที่จะเริ่มเรื่องหลังจากที่ทั้งสองคนได้เจอกัน ชินไคเลือกที่จะทำเรื่องก่อนที่สองคนจะได้เจอกัน
ก็คือมารักกันผ่านความฝัน ฟังแล้วย้อนแย้งว่ะ สรุปก็ไม่ใช่รักแรกพบสิวะเนี่ย 5555
รักแรกพบนั้นมีเหตุผลของมันอยู่
เจอกัน 3 ปีก่อน แล้วความจำเสื่อมคู่ เลยเหมือนเป็นรักแรกพบ
ไม่ถึงขนาดความจำเสื่อม พระเอกแค่ลืมไปตามกาลเวลาว่าใครให้เชือกมา จะว่าไปพระเอกก็ยังไม่รู้จักกับนางเอกด้วยซ้ำตอนนั้น
แค่ให้เชือกกับบอกชื่อ แต่มันเก็บไว้เป็นเครื่องรางมาตลอด แสดงว่าก็ฝังใจน่าดู
มีafter storyที่เป็นรูป หรือนิยายแบบ ออฟฟิซเซียลให้ชื่นใจหน่อยไหมวะ
มุซึบิจัดให้ทุกอย่างมึง ไม่ต้องเถียงกัน
เทพแม่งหูตึงแน่ๆ ขอให้ชาติหน้าเกิดใหม่เป็นหนุ่มมิเคเม็งในโตเกียว ดันฟังเป็นขอมีแฟนเป็นหนุ่มอิเคเม็งในโตเกียว
กูแย้งนิด ถ้าอนุมานจากFactนะ
มิตซึฮะคือสาวที่สวยมากคนหนึ่งเลยนะ ตอนมิโกะคนในหมู่บ้านบอกว่าโตมาสวยเหมือนแม่
แล้วปรกติถ้าคนเรโดนเรียกชื่อโดยคนที่เราไม่รู้จัก เราก็ต้องคิดว่า เอ๊ะใครวะ เคยเจอกันมาก่อนรึเปล่า ทาคิมันถามชื่อน่ะไม่แปลก และเอา Factเรื่องหน้าตามาประกอบ
ไอ้สัส หนุ่มมอต้นมีพี่สาวมอปลายคนสวยมาเรียกชื่อด้วยน้ำเสียงเปี่ยมรักเชียวนะมึง แถมก่อนจากก็บอกชื่อตัวเองด้วยกระเซ่า กูขอโทษที่กูจิตอกุศล แต่ประโยค Takikun oboenai กับตอนบอกชื่อมิตซึฮะนี่โคตรหวานผนเศร้าเลยนะโว้ยยย
ทำไมล่ะ จำชั้นไม่ได้เหรอ เศร้าจังจะร้องไห้แล้วนะ
เป็นกูกูเก็บเชือกไว้เหมือนทาคินั้นแหละ
>>981
fact ก็อีกเรื่องนึง แต่ในนิยายมันบอกไว้นะเว่ยว่า เธอเป็นคนที่สมควรรู้จัก+ฝังหัวเรื่องสเป็ก ต้องผมดำยาว อายุแก่กว่าให้เลย แถมคำพูดให้ด้วย สามปีไม่มีลืม กูว่าเทพจัดให้แน่ๆ 555
>>979
แบบชาติหน้ามันไกลไปไง เทพคงแบบ ไหนๆมึงมีหน้าที่เรื่องดาวหาง งั้นก็สลับตัวกะแบบที่มึงขอเลยละกัน เพื่อความชัวร์ จับมาคู่กันแม่งเลย จะได้มีแรงจูงใจช่วยจนสำเร็จ
เรื่องสเป็กสาวกูว่าก็มาจากตอน 3 ปีก่อนนี่แหละ ผมยาวเนี่ยใช่ แต่อายุมากกว่าไม่ชัดเจนในนิยายก็ไม่ระบุไว้
เรื่องชื่อจังหวะนั้นมันต้องถามอยู่แล้ว มึงอย่าพึ่งไปโยนให้ท่านเทพทุกอย่างซิวะ 555 แต่ก็อาจจะมีดลใจนิดๆละนะ
>>981 ก็ถ้าจะถามก็คงถามบนรถไฟเลยปะ เอาแบบปรกติๆเลย แต่ทำงั้นมันจะไม่มีเหตุการณ์ส่งเชือกไง การทักคนผิดมันเสียมารยาทนะยิ่งญี่ปุ่นด้วยแล้ว เพราะงั้นจากคำว่า "ผู้หญิงประหลาด" สีหน้าในฉากนั้นเท่ากับความสนใจเป็น0 ถ้าผ่านการทักผิดตรงนั้นไปแล้วการจะถามในนาทีสุดท้ายก่อนลงรถนี้ถือเป็นพฤติกรรมผิดปรกติทีเดียว มองว่าเทพดลใจได้เลย
เป็นกูก็ฝังใจนะจู่ๆมีพี่สาวหน้าตาน่ารักมาทักด้วยเสียงแบบนี้ แถมเซมาซบอกเราอีก จะไม่ถามชื่อตอนลงจากรถไฟได้ลงคอเหรอวะ
กูสงสัยว่ะมึง ทำไมเวลามีดราม่าทีไร บางคนชอบด่าว่าเพราะ 'มึงอ่านซับไม่ทัน' ว่ะ ทั้งๆที่หนังซาวน์เทร็กเรื่องอื่นฉายกันทั่วบ้านทั่วเมือง หรือเพราะไอ้คนที่ด่าแม่งเป็นคุปลิงที่ไม่เคยดูหนังในโรงว่ะ
ก็โง่เองจริงๆ ใครๆเค้าก็ตามทัน นิยายก็มีให้อ่านเสือกไม่อ่าน โดนคัดสรรไปตามธรรมชาติก็ดีแล้ว ดูง่ายขนาดนี้
นิยายนี่วางขายที่ร้านการ์ตูนใหญ่ๆด้วยปะวะเช่นบุ๊คเฟรน ตูนโซน เผื่อกูไปซื้อที่นั่นจะได้ส่วนลดบ้าง
Bookfriend เข้านะ
>>989 กูว่าน่าจะมีนะ(เดาส่งเดช)
พวกมึง กูขอร้องอย่าไปด่าคนที่ไม่ได้อ่านนิยายหลังดูหนังเสร็จหรือดูแต่หนังอย่างเดียวได้มะ
คือหนังมันจบในตัวมันเอง ถ้าคนถามมันสงสัยแบบโง่ๆ ไม่ได้สังเกตอะไรในหนังเออค่อยด่า
แต่ถ้าข้อมูลมันมีแต่ในนิยายแล้วในหนังไม่ได้ใส่ไว้ แล้วคนมันสงสัยก็อธิบายไปดีๆ ดีกว่า อย่างงี้ภาพลักษณ์พวกเราแม่งเหมือนเรื้อนกันเอง
ปล.กระทู้ต่อไปชื่ออะไรดี
กูโม่งคนทำฟอร์ม เดี๋ยวตั้งเอง
ช่วยปั่นให้อีก 1 Rep มู้หน้าจับนมใครต่อ
พวกมึงคิดว่าคาเฟ่ในความคิดคนไทยกับคนญี่ปุ่นต่างกันมั้ยวะ
จะมีไปถึง earthbound มั้ยเนี่ย
วิ่งควาย1
ปิด
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.