Fanboi Channel

[Shinkai Makoto] Kimi no Ni Wa จับนม よつは やばい! やばい! おっぱい ない! และเรื่องอื่น คุยกันได้เต็มที่

Last posted

Total of 1000 posts

177 Nameless Fanboi Posted ID:jfYfcihpe

หลายคนบอกว่า Kimi no na wa เป็นความสำเร็จของค่ายหนังที่มีต่ออนิเมะไทย

แต่ผมคิดว่าเป็นความผิดพลาด

Kimi no na wa ควรจะทำรายได้ได้มากกว่านี้ ผู้ที่ทำให้มันทำได้แค่นี้คือผู้จัดฉายเอง

ผู้จัดฉายภาพยนต์ไทยเต็มไปด้วยบุคลากรที่มีความสามารถในวงการหนัง แต่ไม่มีคนที่รู้เรื่องอนิเมะเลย - ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากลุ่มแฟนอนิเมะเป็นอย่างไร

และตัดสินใจเกี่ยวกับ Kimi no na wa ได้ผิดพลาดมาก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ผมอดทนอยู่อาทิตย์กว่าๆ ที่จะไม่ด่า เพราะเดี๋ยวเสียบรรยากาศจะดันเรื่องนี้ไม่ขึ้นเอา แต่ตอนนี้คิดว่าได้เวลาแล้ว

ผมบอกเลยว่าผมไม่ได้เงินจากอนิเมะเรื่องนี้สักบาท เสียเงินด้วย แฟนๆทุกคน ไม่ได้เงินกันสักนิด ทุกคนทำฟรี

ผู้จัดฉายและโรงหนังคือคนได้เงิน 50 ล้าน และจริงๆมันควรจะเป็น 100 ล้านด้วย

อนิเมะฉายโรงนั้น แบ่งตามกลุ่มของคนดูได้ 3 ประเภท

1. เรื่องต่อของซีรี่ หรือภาครีเมคซีรี่เป็นหนัง ที่จะมีแค่แฟนคลับดู :

เช่น วันพีช นารุโตะ โคนัน โมโนกาตาริซีรี มาโดกะ

กลุ่มคนที่จะดูอนิเมะพวกนี้จะต้องเคยดูตัวซีรี่มากก่อน และส่วนใหญ่จะเป็นฐานแฟนฮาร์ดคอร์

พูดง่ายๆว่าฐานคือโอคาคุ

จริงอยู่ที่เรื่องที่มีฐานแฟนกว้าง อย่าง นารุโตะ วันพีช จะมีกลุ่มเป้าหมายมากกว่าเรื่องที่ฐานแฟนแคบ อย่างโมโนกาตาริ หรือมาโดกะ

แต่คนที่ดูเมะกลุ่มนี้ยินดีจะเปย์หนัก ถ้ามีของสะสมที่น่าสนใจพอ ถ้าทำโปรขายตั๋ว ได้ของลิมิเต็ท ใบละ 500 ก็ขายได้

โอตาคุนี้บ้าขนาดให้ซื้อตั๋วบินไปดูญี่ปุ่นก็ทำนะครับ

ดังนั้นกลยุทธที่ดีคือจำกัดโรง ของสะสมดีเวอร์ๆครับ (แต่ช่วยฉายขอนแก่นเชียงใหม่บ้างเถอะ อย่าฉายแต่ลิโด้เลย)

การขายแผ่นอนิเมะนั้นต้องเข้าใจว่าแฟนเรื่องมาก ทำแพงๆจำนวนน้อยดีกว่า
.
.
2. เรื่องแนวรางวัล :

คือพวกเมะของจิบลิทั้งหลาย

ว่ากันตามตรง งานพวกนี้ถูกใจนักวิจารณ์หนัง แต่สำหรับโอตาคุ และผู้ชมทั่วไปนั้นเฉยๆ

จริงๆ ผมว่าสายหนังก็ไม่ได้ชอบอะไรมาก แต่รู้จักเมะแค่จิบลิเท่านั้นเอง ช่วงหลังงานสายรางวัลพยายามทำออกมาเน้นไปทางปรัชญา หรือทำเทคนิคภาพให้ย้อนยุคหนีคอมพิวเตอร์มากเกินไป ทำให้งานมักจะออกมาเข้าถึงยาก น่าเบื่อ

ถามว่าดีมั้ย ผมก็ชอบหลายเรื่อง แต่มันไม่ใช่งานที่จะคาดหวังรายได้

ดังนั้นเตือนไว้ก่อนว่าอย่าคาดหวังกับ The Red Turtle และ In This Corner of The World มากนัก นักวิจารณ์อาจจะชอบ แต่รายได้ไม่ดีเหมือน kimi no na wa แน่ๆ
.
.
3. เรื่องที่คนดูทั่วไป :

คืออนิเมะที่ทำมาเพื่อฉายให้คนทั่วไปดู เช่น kimi no na wa - รักไร้เสียง - Summer war - ลูกหมาป่า

จำพวกงานของ ชินไค, โฮโซดะ มาโมรุ, เกียวโตอนิเมชั่นบางเรื่อง

งานพวกนี้สมควรจะลงทุนไปเอามาให้ได้ ฉายทั่วประเทศ และลงโฆษณา ครับ

ความพิเศษของงานแบบนี้คือ มันมีฐานโอตาคุ ซึ่งถึงไม่บ้าเท่าประเภท1 แต่ก็พร้อมเชียร์ พอเชียร์แล้วมันก็มีฐานของคนทั่วๆไปเข้ามาดูด้วย และเป็นเรื่องที่คนทั่วๆไปชอบ
.
.
ความผิดพลาดของผู้ฉายหนังไทยคือ ไปลงทุนกับอนิเมะกลุ่ม 1 และ 2 แต่ดันเอา 3 มาฉายไม่กี่โรง ไปแบบส่งๆ ไม่โปรโมท

178 Nameless Fanboi Posted ID:jfYfcihpe

ต่อ

เพราะคิดว่ามันดัง มีฐานแฟน หรือนักวิจารณ์หนังบอกว่าดี

เอาเข้าจริงก็เลยเจ๊ง เพราะถ้าผมไม่เคยดูนารุโตะมาก่อน คงดูโบรุโตะไม่รู้เรื่อง หรือพวกเมะแนวรางวัลก็เหมือนหนังแนวรางวัลที่คนดูต้องคิดเยอะหน่อยถึงจะชอบ

พอเจ๊งก็บ่นว่า อนิเมะไม่น่าลงทุน

ทีนี้พอ บังเอิญดวงดี ได้ Kimi no na wa มา คราวนี้ก็เอาไปเทียบกับโคนัน นารุโตะ ที่เคยผิดพลาด

ทั้งๆที่ Kimi no na wa นั้นเป็นอนิเมะสำหรับคนทั่วไป ที่ฐานกว้างมากๆ เราพูดไปยังไงก็ไม่ฟัง

มันกลับกัน คือ เมะฐานคุ ควรจะเน้นของแถมจัดเป็นอีเวนท์หน้าโรงฉาย แล้วอาจจะฉายแค่ไม่กี่รอบ แต่มีอีเวนท์ มีของ จากนั้นก็ขายบล็อกสวยๆ - พวกเมะรางวัลควรจะฉายให้นักวิจารณ์ดู รอบไม่ต้องมาก และไม่ต้องโฆษณามาก จัดประเภทเหมือนหนังอาร์ทรางวัล - ส่วนเมะทั่วไปควรจะอัดโฆษณา และฉายทั่วไป โดยคิดว่ามันเป็นน้องหนังดิสนีย์

จริงๆถ้าแฟนไม่ดันกันขนาดนี้ ไม่มีคอมมูนิตี้ กับพลังของเพจรีวิวที่มากเหมือนสมัยนี้ สุดท้าย Kimi no na wa คงจบประมาณ ลูกหมาป่าเมื่อ 2-3 ปีก่อน

จริงๆนะ ถ้าทำพากษ์ไทย มีงบโฆษณาสักหน่อย ขายของสะสมหน้าโรง คงจะโกยได้มากกว่านี้

อันนี้ไม่จ่ายเลยสักบาท ไม่มีแม้แต่ตัวอย่างฉายก่อนหนังเรื่องอื่น ตอนแรกจะไม่ฉายทั่วประเทศด้วยซ้ำ

ปล่อยให้แฟนดันจนไม่รู้จะดันยังไง ดันจนโดนด่าว่ารับเงิน

คือเหมือนบอกว่า เฮ้ยเงินกองอยู่ตรงหน้านะ แต่ก็ไม่เอา

ก็ไม่รู้จะว่ายังไง

ผมหวังว่า จะไม่เจอประเภท ปล่อยให้รักไร้เสียงหลุด แล้วเอาเงินไปอัดโฆษณา The Red Turtle แก้แค้น Kimi no na wa เพื่อความสะใจของเจ้าหน้าที่ที่เป็นสายหนัง

เป้าหมายส่วนตัวของผมคือ อยากให้คนทั่วไป เข้าใจว่าอนิเมะนั้นมีแนวตลาดที่คนดูได้ทั่วๆไป

ดังนั้น Time line ที่ดีควรจะเป็น ฉายรักไร้เสียงเป็นเรื่องต่อไป โดยโฆษณาว่า จะเจอเรื่องเหมือน Kimi no na wa

แต่ถ้าฉายเรื่องแนวรางวัลเป็นเรื่องต่อไป ผู้ชมก็จะผิดหวัง และกลับเป็นเหมือนเดิม

ก็แล้วแต่ละกันครับ... รายได้ก็ไม่ได้เข้าผมสักบาท

ป.ล. มีคนบอกผมหลังไมค์ว่าไปงานฉายคิมิโนะนาวะแล้วทางผู้จัดฉายบอกว่า สตูดิโอที่ทำรักไร้เสียงนั้นติดต่อยาก - ถ้าผมเป็นผู้ถือหุ้นคงเสียใจ ผมอยากบอกว่า ติดต่อยากก็บินไปสิครับ เคียวอนิมันก็ตั้งอยู่ที่เดิมนะ เงิน 10 ล้าน น่ะจะเอามั้ย ค่าตั๋ว/โรงแรม ไม่ได้หนึ่งในสิบของค่าโฆษณาที่ลงใส่หนังเรื่องอื่นหรอกครับ

#มิตรสหายผู้เคยไปทัวร์วัลฮาล่า

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.