หลายคนบอกว่า Kimi no na wa เป็นความสำเร็จของค่ายหนังที่มีต่ออนิเมะไทย
แต่ผมคิดว่าเป็นความผิดพลาด
Kimi no na wa ควรจะทำรายได้ได้มากกว่านี้ ผู้ที่ทำให้มันทำได้แค่นี้คือผู้จัดฉายเอง
ผู้จัดฉายภาพยนต์ไทยเต็มไปด้วยบุคลากรที่มีความสามารถในวงการหนัง แต่ไม่มีคนที่รู้เรื่องอนิเมะเลย - ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากลุ่มแฟนอนิเมะเป็นอย่างไร
และตัดสินใจเกี่ยวกับ Kimi no na wa ได้ผิดพลาดมาก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ผมอดทนอยู่อาทิตย์กว่าๆ ที่จะไม่ด่า เพราะเดี๋ยวเสียบรรยากาศจะดันเรื่องนี้ไม่ขึ้นเอา แต่ตอนนี้คิดว่าได้เวลาแล้ว
ผมบอกเลยว่าผมไม่ได้เงินจากอนิเมะเรื่องนี้สักบาท เสียเงินด้วย แฟนๆทุกคน ไม่ได้เงินกันสักนิด ทุกคนทำฟรี
ผู้จัดฉายและโรงหนังคือคนได้เงิน 50 ล้าน และจริงๆมันควรจะเป็น 100 ล้านด้วย
อนิเมะฉายโรงนั้น แบ่งตามกลุ่มของคนดูได้ 3 ประเภท
1. เรื่องต่อของซีรี่ หรือภาครีเมคซีรี่เป็นหนัง ที่จะมีแค่แฟนคลับดู :
เช่น วันพีช นารุโตะ โคนัน โมโนกาตาริซีรี มาโดกะ
กลุ่มคนที่จะดูอนิเมะพวกนี้จะต้องเคยดูตัวซีรี่มากก่อน และส่วนใหญ่จะเป็นฐานแฟนฮาร์ดคอร์
พูดง่ายๆว่าฐานคือโอคาคุ
จริงอยู่ที่เรื่องที่มีฐานแฟนกว้าง อย่าง นารุโตะ วันพีช จะมีกลุ่มเป้าหมายมากกว่าเรื่องที่ฐานแฟนแคบ อย่างโมโนกาตาริ หรือมาโดกะ
แต่คนที่ดูเมะกลุ่มนี้ยินดีจะเปย์หนัก ถ้ามีของสะสมที่น่าสนใจพอ ถ้าทำโปรขายตั๋ว ได้ของลิมิเต็ท ใบละ 500 ก็ขายได้
โอตาคุนี้บ้าขนาดให้ซื้อตั๋วบินไปดูญี่ปุ่นก็ทำนะครับ
ดังนั้นกลยุทธที่ดีคือจำกัดโรง ของสะสมดีเวอร์ๆครับ (แต่ช่วยฉายขอนแก่นเชียงใหม่บ้างเถอะ อย่าฉายแต่ลิโด้เลย)
การขายแผ่นอนิเมะนั้นต้องเข้าใจว่าแฟนเรื่องมาก ทำแพงๆจำนวนน้อยดีกว่า
.
.
2. เรื่องแนวรางวัล :
คือพวกเมะของจิบลิทั้งหลาย
ว่ากันตามตรง งานพวกนี้ถูกใจนักวิจารณ์หนัง แต่สำหรับโอตาคุ และผู้ชมทั่วไปนั้นเฉยๆ
จริงๆ ผมว่าสายหนังก็ไม่ได้ชอบอะไรมาก แต่รู้จักเมะแค่จิบลิเท่านั้นเอง ช่วงหลังงานสายรางวัลพยายามทำออกมาเน้นไปทางปรัชญา หรือทำเทคนิคภาพให้ย้อนยุคหนีคอมพิวเตอร์มากเกินไป ทำให้งานมักจะออกมาเข้าถึงยาก น่าเบื่อ
ถามว่าดีมั้ย ผมก็ชอบหลายเรื่อง แต่มันไม่ใช่งานที่จะคาดหวังรายได้
ดังนั้นเตือนไว้ก่อนว่าอย่าคาดหวังกับ The Red Turtle และ In This Corner of The World มากนัก นักวิจารณ์อาจจะชอบ แต่รายได้ไม่ดีเหมือน kimi no na wa แน่ๆ
.
.
3. เรื่องที่คนดูทั่วไป :
คืออนิเมะที่ทำมาเพื่อฉายให้คนทั่วไปดู เช่น kimi no na wa - รักไร้เสียง - Summer war - ลูกหมาป่า
จำพวกงานของ ชินไค, โฮโซดะ มาโมรุ, เกียวโตอนิเมชั่นบางเรื่อง
งานพวกนี้สมควรจะลงทุนไปเอามาให้ได้ ฉายทั่วประเทศ และลงโฆษณา ครับ
ความพิเศษของงานแบบนี้คือ มันมีฐานโอตาคุ ซึ่งถึงไม่บ้าเท่าประเภท1 แต่ก็พร้อมเชียร์ พอเชียร์แล้วมันก็มีฐานของคนทั่วๆไปเข้ามาดูด้วย และเป็นเรื่องที่คนทั่วๆไปชอบ
.
.
ความผิดพลาดของผู้ฉายหนังไทยคือ ไปลงทุนกับอนิเมะกลุ่ม 1 และ 2 แต่ดันเอา 3 มาฉายไม่กี่โรง ไปแบบส่งๆ ไม่โปรโมท