Last posted
Total of 1000 posts
>>>/animanga/3158/ Kimi no Na wa ระบายกันได้เต็มที่
>>>/animanga/3166/ [Shinkai Makoto] Kimi no Na Wa ふたば และเรื่องอื่น และจับนม พูดคุยกันได้เต็มที่
>>>/animanga/3176/ [Shinkai Makoto] Kimi no Ni Wa จับนม みつは และเรื่องอื่น พูดคุยกันได้เต็มที่
>>>/animanga/3166/986/ แลกไดอารี่
https://docs.google.com/document/d/1KUbbCy3-_ihknQFNVl8RYDfHF_OTIvUk26sxhGH-NJ0/ คำถามที่ถามบ่อย
https://imgur.com/QIWVH7g ไทม์ไลน์
ทำไมกูต้องเป็นคนตั้งทุกที
วันนี้ใครไปดูเมเจอร์รัชโยธินกลับมาเล่าให้ฟังด้วย
จับๆ หนุบหนับๆ
ขึ้นใหม่อีกแล้ว ตกลงมีใครลองถักเชือกยังวะ อยากเห็น
จากไทมไลน์หัวกระทู้ก็ชัดๆว่า มิซึฮะไปโตเกียววันเดียวกับที่เดท กลับมาเย็นวันนั้นก็ตัดผมเลย 3ตุลา
ถึงโยทสึฮะจนได้
ตอนเช้าไม่ว่าง กลับมาขึ้นทู้ใหม่แหละ 555+
กระทู้ต่อไปเอาไงดีวะ ถึงแน่ๆ ด้วย
พูดถึงโยทสึฮะกูดูจบแล้วคิดว่านางน่ารักแต่กลับรู้สึกว่าจับคาแรกเตอร์หรือนิสัยนางไม่ค่อยได้แฮะ ประมาณว่าเป็นเด็กที่มีความเป็นผู้ใหญ่เกินเด็กรึเปล่า เช่นเอือมระอากับพฤติกรรมจับนม หรือคิดว่าเรื่องที่พี่สาวอคติกับพ่อมันไร้สาระ
พรุ่งนี้จะยังมีโรงฉายอยู่มั้ยวะ เผื่อเสาร์อาทิตย์นี้จะแวะไปดูอีกสักรอบ
factในหนังคุยกันหมดแล้วว่ะถ้าจะวิ่งต่อกูว่าไม่ทะเลาะกันก็ แนว what if แล้วล่ะมึง
กูเศร้า earthbound ภาษายุ่นหมด เลยยังไม่ได้อ่านสักที
วันอาทิตย์หวัดแดกไม่อยากไปตากแอร์เย็นๆในโรง วันอังคารกะว่าจะไปแต่คิดว่ารอวันเดียวมันก็ลดราคา
พอมาวันพุธฝนเสือกตกตอนกูจะออกจากห้อง สัสเอ้ย
จัดการได้มั่วสัสๆ
กูพึ่งดูอีกรอบมา สำหรับกูว่านี่เป็นงานที่ชินไคทำได้ดีที่สุดละ
กูว่าเป็นงานชิยไคที่ย่อยง่ายสุดล่ะ กูจะขำถ้าใครสนดูงานเก่าๆ แกแล้วไม่รู้เรื่อง
หนังสือยังไม่ถึงแต่โปรเตอร์ถึงก่อน แล้วให้เลขตามแต่โปรเตอร์ คือเหี้ยอะไร...
วันนี้ไปดูมาอีกรอบ คนดูยังเกือบครึ่งโรงเลยว่ะ
ไปดูหลังจากอ่านนิยายมาแล้วนี่แม่งทั้งฟิน
ทั้งกระจ่างเลยว่าในหัวมันคิดอะไรกันอยู่มั่ง
เหลือแต่เรื่องที่อยู่ใน earthbound ละ
ถามหน่อย เรื่องในนิยายที่โยทสึฮะไปสลับร่างมั่งนี่มันก่อนหรือหลังตอนทาคิกะมิสึฮะมาเจอกันอีกครั้งในตอนจบหนังวะ?
วันนี้ไปเก็บรอบที่ 3 มา โรงแถวบ้าน ทั้งโรงมีอยู่ 6 คน
แล้วใครได้สลับร่างเป็นโยทสึฮะวะอย่าบอกนะว่าเป็นลุงหมีๆ
ยิ่งดูยิ่งเสียดายที่มันไม่ยอมแปลเพลงSparkle
รายได้น่าจะหยุดที่ราวๆ 45 ล้านบาท แซงโดเรม่อนได้แต่ไม่ถึง 50 ล้าน
หนังใหม่โปรแกรมโหดเหลือเกิน พรุ่งนี้ก็ 20 วัยใส สัปดาห์หน้า Moana
พุธนี้เหมาโรงแล้ว
พรุ่งนี้คงไม่มีละ ตจว
แรกสุดจริงๆ คือเกินล้านก็ดีแล้ว
45ล้านนี่แค่กทม.กับปริมณฑลนะ รวมทั้งประเทศคง50-60ล้านแหละ
นิยายมาถึงบ้่านล่ะ
>>47 ตอนมาแรกๆที่หลายเพจเริ่มจุดกระแสอวยกูลุ้นให้เกิน 10ล้านว่ะ กะว่าเกินล้านแน่ๆ ถ้าโชคร้ายก็ไม่ถึง5ล้าน ถ้าโชคดีก็ 10ล้าน วันศุกร์แรกที่มีข่าวขยายโรงทั่วประเทศกูก็กะว่ามันคงผ่าน10ล้านได้สบายเพราะวันแรกก็ทำไป 3ล้าน
แร่ยอดสุดสัปดาห์ทำไป20ล้านขึ้นที่1 Boxoffice แซงInfernoกูก็อึ้งและดีใจไปพร้อมๆกันเลยว่ะ
โปสเตอร์ไม่สวยเลยว่ะ นึกว่าจะมีคลงมีเคลือบอะไรมั่ง เห็นแล้วไม่รู้ทำไมเหมือนถ่ายเอกสารสีมาเลย รู้งี้สั่งแบบปกติก็ดี
เห็นโปสเตอร์ที่งานวันนี้แล้วอยากได้จัง โคตรใหญ่ เอามาติดคู่กับโปสเตอร์จากนิยายคงฟินน่าดู
Ost ตอนไปเดทกับรุ่นพี่กับตอนสนธยานี่ตัวเดียวกันป่ะ เป็นเสียงเปียโนเหมือนกันกูแยกไม่ออก
กูอยากฟัง Yume terou Long ver. มากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
วันนี้ไปส่งท้ายมา ทำให้รู้ว่า เสียงป็อปคอนโรงหนังแม่ดังชิบหาย ขนาดซื้อตัวไกลคนไปแล้วนะ ไหนจะเสียงอีแฟนสองคนอีก มึงเสียงดังเหมือนอยู่บ้าน สัด
รอบนี้กะไปฟินกับเสียงมิทสึฮะสักหน่อย BD ออกกุจะจัดหูฟังดี ๆ สักตัวแม่ง
ที่รุ่นพี่ไลน์มาหานั่นนับเป็นเดทด้วยหรอวะ
สงสัยกูต้องจัดแผ่นoatของบูมเมอแรงแล้วว่ะ หาในYoutubeไม่เจอ แม่งแผ่นรวมเพลงแพงกวาหนังอีก ฮา เป็นอนิเมะที่สิ้นเปลืองที่สุดในชีวิตกูเลย ดูไป3รอบ สั่งDVD(ถ้าออก) สั่งนิยาย และตบท้ายด้วยแผ่นOst
กูว่าไม่ใช่เพราะรุ่นพี่ย้ายไปทำงานที่ชิบะนานแล้วแต่แวะเข้าเมืองมาเจอเฉยๆ
แต่งกับคนอื่นแหละ
รุ่นพี่ก็มีแหวนที่นิ้วนางนะมึงคงเห็นกันใช่มั้ย
>>65 ใช่กูเห็น และสึคาสะก็มีแหวนแต่สองคนนี้ไม่น่ามีอะไรกัน(ไม่งั้นตอนรุ่นพี่ตื่นที่โรงแรมบราไม่ค้างที่หน้าอกหรอก 555)
พูดถึงแหวนแล้วก็เสียดายบทรุ่นพี่ว่ะ ถ้าไม่มีมิทซึฮะเข้ามากูว่าถึงไม่ได้แต่งแต่ก็ได้คบเป็นแฟนกับทาคิซักระยะแน่ๆ เพราะรุ่นพี่พูดเองว่าเคยชอบทาคิ ก็น่าจะมีใจพอสมควร แต่ต้องตัดบทหลบนางเอกตัวจริง
ถ้าเรื่องนี้เป็นซีรีย์รุ่นพี่คงไม่หลีกทางให้ไวขนาดนี้อ่ะ ดูค่อนข้างมีใจให้จริงในร่างทากิปรกตินี้แหละ แต่ตอนมิซึฮะมาสิงก็ช่วยเร่งสปีดให้เร็วขึ้น พอเป็นหนังชั่วโมงกว่ามีเรื่องใหญ่กว่ารักต้องเล่นด้วยเลยต้องตัดๆออก
กูก็ว่าสึคาสะไม่ได้กับรุ่นพี่หรอก รุ่นพี่ก็ทำงานที่อื่น เพื่อนก็ไม่เคยแซวว่าได้กับรุ่นพี่(ปกติถ้าเพื่อนหรือคนใกล้ชิดได้กันเองมันต้องมีแซวๆกันมั่ง)
สึคาสะก็ไม่เคยกล่าวถึงคู่หมั้นแปลว่าน่าจะเป็นคนส่วนตัว แถมรุ่นพี่ยังแอบนัดมาเจอข้างนอกส่วนตัวอีก เป็นพฤติกรรมที่ไม่น่าใช่คนหมั้นกันแล้วทำมาก
กูว่าชินไคใส่แหวนมาเพื่อให้คนดูรู้ว่าหลายๆคนมันก็ก้าวต่อไปนะ ไม่ได้รอใครสักคนไปเรื่อยๆ
รอบที่ 9 ส่งท้าย แทบไม่มีอะไรจะเก็บตกแล้ว
- OP ยิ่งดูยิ่งชอบ รายละเอียดเยอะสัด รอบนี้นึกได้ว่าที่มองหากันใน OP ตอนต้น ใช้ transition แบบเดียวกับตอนส่งเชือกให้ในรถไฟ (ใส่ชุดของ 3 ปีก่อนด้วย)
- เสียงมิตสึฮะนอกจากจะเศร้าแล้วยังฟังดูเก็บกดอยู่ตลอด ยกเว้นเวลาคุยกับทาคิ
- บนเขาเทพสถิตย์ลักษณะทางธรีวิทยาผิดปกติมาก รอบๆ ศาลมีหินขนาดใหญ่ตกอยู่รอบยอดเขา รวมทั้งที่ทาคิไปหลบกินข้าวปั้นด้วย คงเศษยอดเขานั่นล่ะ (ชินไคเก็บรายละเอียดทุกเม็ดจริงๆ)
- ตอนดูชื่อผู้เสียชีวิต ข้างๆ เป็นชื่อโยตสึฮะกับยาย ไม่มีชื่อพ่อ(นามสกุลเดียวกันแต่งเข้า) รอดนี่เหมือนตายทั้งเป็น
- ตอนทาคิคุยกับยายวันอุกกาบาตตก ก้านชาตั้ง
- ตอนเขียนชื่อ มิตสึฮะเห็นแน่นอน เพราะก้มลงมอง ตอนล้มไม่รู้คงเพราะลืมแล้วว่าเขียนอะไรไว้
ที่เหลือคือกูได้ซิงอลองส่งท้าย เพราะเหมาโรง
อีกเรื่องคือยากอ่านออกอ่านทันชิบ พวกหนังสือที่ทาคิหาข้อมูลทั้งสองไทม์ไลน์ บางอันมันเล่มเดียวกันแต่เนื้อหาเปลี่ยน
อยากให้ชินไคทำเพิ่มอีกสักยี่สิบนาทีจะได้เล่าความสัมพันธ์คู่พระนางให้อินหน่อยกุว่ามันรวบรัดไปนิด แถมตอนจบมันรู้สึกไม่สุดยังไงไม่รู้
หวัง After Credits ในแผ่น BD ก็ได้นะ เอาแบบช็อตแต่งงานก็ได้ จะได้รู้ว่าคู่นี้ไปตลอดรอดฝั่ง
ไม่แยกทางระหว่างคบกัน ...... แบบกู ; w ;
ใครไปงานวันนี้แล้วได้โปสเตอร์มั่ง ถ่ายให้ดูหน่อย อยากดูสภาพงาน รู้แค่ว่ามันใหญ่ดี
เพิ่งอ่านนิยายจบ รู้สึกว่านิยายไม่โทรลก็บุญเหี้ยๆ แล้ว
เรื่องอื่นชินไคพระนางก็ไม่ได้จบสวยแบบนี้
โฮชิ นางเอกกลับมาได้ แต่พระเอกมันเป็นอาสาสมัครไปแล้ว นางเอกต้องรอลุ้นอีก 10 ปี
คุโม จบตรงนั้นก็หล่อแล้ว ดันต้องแยกกันอีก สัด
5cm อย่างที่รู้ว่าทำเอาสมน้ำหน้าทาคากิไปเลย ทำไมมังงะต้องเพิ่มด้วยฟระ
>>74 ถ้าหมายถึงว่ามันปุปปับรักกันจะตายดูเร่งๆช่วงท้ายละก็ กูก็เคยคิดเหมือนมึงอีทากิแม่งตามน้ำมิซึฮะแน่ๆฉากบนเขา ก่อนหน้านั้นรวมถึงการเดินทางไม่มีโมเม้นแบบหาคนรักเลยอยู่ๆพี่แกไปเขียนบนมือเค้า
แต่พอกูดูอีกรอบ พบว่ามันไม่ใช่การตามน้ำ มันรักจริง และไม่ต้องมีฉากไหนเพิ่มแล้ว ตอนที่มันไปกินน้ำลายมันได้รับรู้ทุกสิ่งในชีวิตมิซึฮะตั้งแต่เป็นเซลเดียวยันนาทีสุดท้ายของชีวิตและความทรงจำทั้งหมดตอนสลับร่างที่มักจะหายไปด้วยรวมถึงความรู้สึกที่ตัดสินใจตามหาถึงโตเกียวผ่านทั้งหมดนั้นมา มันก็รู้ใจตัวเองแล้วว่ารักเค้าเลยเขียนคำๆนั้นลงไป
จะว่าไปดูกี่รอบก็ชอบฉากมิทสึฮะเขินทากิจริง ๆ ทั้งบนรถไฟ ทั้งบนยอดเขา เขินแบบ เขินจริงจัง เขินสุดชีวิต
ถ้าได้เป็นเมียจะดูแลอย่างดีเลย ให้เป็นพ่อบ้านใจกล้าก็ยอม
กูบอกตั้งแต่กระทู้แรกแล้วว่านิยายเขียนตรงนี้ชัด
กุเพิ่งดูวันนี้เอง 555 เลยเข้ามาอ่านเก็บตกส่วนที่ไม่เข้าใจ
เพจฟินิกส์บอกนิยายวางแผง 24 เอ้าพวกพรีมันก็ได้ก่อนแปปเดียวเองนี่หว่า นึกว่าจะมีช่วง 29-30 ซะอีก
ก็วันนี้นะสิ ............... ออกไปซื้อดีกว่า
>>89 กูดูออกตั้งแต่ยังไม่ได้อ่านนิยายนะ
ตั้งแต่ขึ้นหอชมวิวกับรุ่นพี่ทาคิก็ไม่มีอารมณ์ร่วมแล้ว
ตอนกินข้าวก็ไม่ได้ฟังรุ่นพี่ รุ่นพี่ยังดูออก แล้วตอนเห็นอิโตโมริในหอศิลป์อีก
ยิ่งรุ่นพี่มาจี้ตอนเดทล่มเลย ทาคิเวลาโกหกมันหลบตาถูมือ (อีกทีตอนบอกว่าจับนมครั้งเดียว กับชมมิตสึฮะไม่เต็มปาก)
มันคิดถึงมิตสึฮะมากกว่ารุ่นพี่ตั้งแต่ตอนเดตแล้ว แค่มันยังไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกชอบ
ของกูได้วันที่ 21 เร็วกว่า 3 วันเองนี่หว่า
กูพรีออเดอร์ที่ร้านอนิเมท แต่ว่างไปรับอาทิตย์หน้า นี่กูพรีทำม้ายยยยย
ของกูได้วันที่ 22 พร้อมกระบอกโปสเตอร์อีกอัน สั่งมาเร็วกูก็ยังไม่มีเวลามาอ่านอยู่ดีอีก
อ่านนิยายจบล่ะ ก็บอกอะไรหลายๆอย่างดีเหมือนกัน ทั้งพวกกระบวนการควาคิด ต้นเหตุของการกระทำหลายๆอย่างที่ตัวอนิเมมันบอกไม่ได้ ส่วนเรื่องการแปล แหม่งๆเป็นบางจุด
มิตสึฮะกับทาคิหลังจากได้หลับมาเจอกันแล้วจะนึกเรื่องต่างๆในอดีตออกมั้ยวะ คิดว่าจะจำได้แค่รางๆเหมือนเป็นเรื่องในความฝัน
หรือจะจำได้แบบละเอียดเลย
*ได้กลับมาเจอกัน
คิดว่าจำไม่ได้หรอกมึง แต่ เย็ด+ แต่งงาน กันแน่นอน
จำไม่ได้หรอก น่าจะเป็นแค่ความรู้สึกแบบ "ไม่รู้ทำไม แต่เหมือนรู้กันกันมานานแล้ว รู้จักดีด้วย *จับนม*"
หลังจากตอนจบ ทาคิกับมิตสึฮะคบกันสักพักก็รู้สึกว่าเข้ากันไม่ได้ เลยแยกย้ายเลิกกันไป
ถ้าเป็นชินไคเมื่อก่อนนิยายคงจบงึี
พันธมิตรแห่งนม
เห้ย เมื่อวานหลังกลับบ้านไม่ได้เข้าทำไมมู้ใหม่มันวิ่งเป็นร้อยเลยวะไวชิบ
>>116 เรื่องนี้มันเคาเตอร์ 5cm แบบเต็มๆ เลยนะ
5cm เวลาผ่านไป ความรู้สึกจางหายไป เหลือเพียงความทรงจำ
คิมิ ถึงความทรงจำจะหายไป ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ความรู้สึกก็ยังอยู่
โรงแถวบ้าน
ลาก่อน ไม่มีรอบที่ 10 แล้ว
http://i.imgur.com/gUAcKiZ.jpg
ลาก่อนด้วยคน เห็นว่านิยายออกวันนี้ ถ้าได้มาคงแก้โรคคิดถึงมิทสึฮะได้อยู่
ห่าริด112 ขวัญใจคุยุคใหม่ เขียนบทความด่าโรงฉายอีกละ
>>120 55+ โคตรแมนเลยวะ ตอนก่อนฉายเห็นเงียบกันหมด ตอนนี้ด่าย้อนหลังกันเลยเว้ย
ผมไม่ได้รายได้ซักบาทนะฮ๊าฟฟ แต่ถ้าคนกำตังทำตามมึงละก็เค้าจะเสียตังค์มึงรับผิดชอบมั้ยละค๊าฟฟ
กุเป็นคนกำตังค์กุก้ไม่กล้าทำตามหรอกวะ ฉายน้อยๆถ้าดังค่อยยัดรอบเพิ่มแบบเดิมดีกว่า ถ้าดีจริงมันก็ปากต่อปากละวะ
เรื่องพวกนี้มันอยู่ที่ความเขื่อมั่นในการทำเงินของตัวหนังแหละ
รอดูเต่าแดงกับมุมนี่ของโลกเลย คนละเรื่องแน่ๆ
ลมปากคุเชื่อยากสัส เจ๊งมานักต่อนักแล้ว
เรื่องอื่นมันไม่น่าจะเป็นกระแสได้ขนาดนี้หรอกดูจากหลายๆอย่างแล้วนะ
ทำแบบเดิมแหละกูว่าดีที่สุดละ ถ้าดังเป็นกระแสค่อยเพิ่มโรงเอา
ถ้ารักไร้เสียงดีจริงแม่งต้องคว่ำหนังชินไคได้สิวะ
อย่างรักไร้เสียงเนี่ยตัวกูเต็มที่ก็รอบเดียวว่ะคงไม่ไปดูซ้ำ
ดูเนื้อหาแล้วคงไม่บันเทิงซักเท่าไหร่(กูยังไม่ได้อ่านะ) ดูเพราะฮายามินล้วนๆ
>>122 มันเขียนอวยมาตั้งแต่เดือนกันยา ก่อนกำหนดฉายรอบแรกแล้ว
ที่มันมองข้ามไปคือ คิมิมันมีสถานการณ์พิเศษเกิดขึ้นหลายอย่างด้วย ซึ่งถ้าฉายกำหนดเดิมกูว่าเจ๊ง
ส่วนเรื่องค่ายหนังจะลงทุนกับอนิเมฉายโรงกูไม่อิน เพราะสถานการณ์พิเศษของคิมิ มันเปรียบเทียบกับเรื่องอื่นๆ แทบไม่ได้เลย ยกตัวอย่างฮิรุเนะฮิเมะอนิเมฟอร์มใหญ่ปีหน้า ที่หน้าหนังเป็นผจญภัย มันจะดึงคนดูได้เท่าหนังรักในอาทิตย์ที่ไม่มีหนังดีๆ เข้าเหรอ
>>135 ออกมาด่าโรงนี่กุว่าไม่แฟร์วะ แม่งก็แค่มองในถานะคุอยากดูไม่ได้เป็นคนจ่ายเงิน
อีกอย่างอวยหนังกุเห็นเขียนหลายเพจแล้ว แต่ไม่มีใครกล้าเขียนด่าโรงอย่างมันเลย
พอหนังมันบูมมันดังจริงๆ ก็เขียนด่าโรงข่มให้กุดูดีว่าเป็นไงละ แต่ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เมิงแค่เขียนอวยหนัง กุเห็นหลายเพจหลายคนอวยตั้งแต่ดูที่ยุ่นละ
แต่จะมีแต่คุบางตัวนั่นแหละที่ออกมาชี้หน้าด่าโรงแว๊ดๆในเพจ
ถ้าโรงไม่โง่บ้าจี้ตามคุ มุมหนึ่งของโลกกับเต่าแดง น่าจะฉายแบบจำกัดรอบและไม่ทุกโรงตามปกติ
ซึ่งหวังอย่างยิ่งว่าจะไม่โง่ทำอะไรเกินตัว กูจะได้มีเมะดีๆให้ดูเรื่อยๆ
อนิเมญี่ปุ่นฉายโรงส่วนใหญ่ประเด็นมันคือการเติบโต ครอบครัว การใช้ชีวิต ซึ่งดึงคนได้จริงที่ฝั่งนั้น
แต่ในไทยไม่ใช่ว่ะ ไม่ใช่มากๆ ที่คนวัยรุ่นวัยทำงาน จะไปดูอนิเมแบบนั้น
君の名は กูไปดูซ้ำนะแต่รักไร้เสียงนี่กูคงไม่ไปดูซักรอบว่ะ แบบมังงะกูยังไม่อยากอ่านเลย
kimi นี้ นอกจากมิทสึฮะกับเสียงหวาน ๆ ๆ แล้ว งานภาพของชินไคก็เป็นตัวดึงดูดให้กูไปดูซ้ำบ่อย ๆ วะ
4 รอบ สำหรับคนเกลียดการดูหนังในโรง ถือว่าเยอะนะ เรื่องอื่นต่อให้เสี้ยนแค่ไหน ก็รอบเดียว ดูให้รู้เรื่อง กันพวกสปอย
เสียงพากย์นางเอกดีงามมากอ่ะ ทั้งตอนพากย์มิทสึฮะก็ส๊าวสาว ตอนพากย์ทาคิก็เท่
คนพากย์ทาคินี่ก็เกย์ได้ใจ
อีกอย่างบอกตรงๆ รักไร้เสียง นี่เห็นอิจ่าอวยๆมากๆ กุเป็นพวกแอนตี้มันด้วยแหละ
ยิ่งก่อนหน้านี้มาบ่นๆว่าทำไมต้องดราม่ากันเยอะแยะทำไมไม่ยอมจบกันบ้าง ก็มึงเป็นคนสร้างพวกเหี้ยนี่มาไม่ใช่หรอ
กุไม่แปลกใจเลยที่มันจะมีคนแบบนี้
เพราะแบบนี้แหละกุเลยเฉยๆกับรักไร้เสียง ถ้าไปดูก็คงรอบเดียวนะ แต่ตอนนี้ยังไม่มีอารมณ์อยากดูเลย
>>144 ลองดูตอนพากย์จับจู่สิ
https://youtu.be/_ZB-mmrtaVw?t=289
มีประกาศวันฉายมาแล้วว่ะ เต่าแดงกับ kono sekai
เต่าแดง 26 มกราคม และ kono sekai 2 กุมภา Kono sekai อาจจะดูซ้ำ แต่เต่าแดงไม่แน่ใจ
ครัั้งนี้มีตัวช่วยเยอะ ทั้งพลังคุ พลังนอก พลังดูซ้ำ
ครั้งหน้า พลังพวกนี้จะมาอีกรึเปล่า
มางี้แปลว่ายังไม่ได้รักไร้เสียง
ไอ้เรื่องสครามกูบายล่ะ รักไร้เสียงดูก่อน
กูไม่ชอบ kono sekai. เต่าแดงนี่ชื่อเรื่องอะไรเหรอ
ที่รู้ๆ ไอ้ 2 เรื่องนี้กูไม่ดูแน่ๆ ละหนึ่งคน แต่รักไร้เสียง กูจัดแน่ๆ
ส่วนใครอยากโชว์พลังคุก็โชว์ไปนะ บาย
ควรเปลี่ยนชื่อมู้เป็นอนิเมฉายโรงไหม555
กูว่าทั้ง 2 เรื่องยืนโรงตจว.ได้อาทิตย์เดียวว่ะ เข้าไม่ครบทุกจังหวัดด้วย คนตจว.เห็นหน้าหนังแบบนี้ก็ง่วงแล้ว ในกรุงพอเข้าอาทิตย์ที่ 2 ก็เหลือแค่โรงใหญ่แล้วล่ะ ส่วนรักไร้เสียงถ้าโปรโมทตอแหลหน่อยสุดสัปดาห์แรกอาจได้เยอะหน่อย แต่งานภาพไม่เทพ+เนื้อเรื่องดราม่า อาทิตย์เดียวก็แผ่วแล้ว
เอ้า ย้ายๆ เรื่องเต่าแดงกับ kono sekai ไปคุยกันที่นี่ดีกว่า https://fanboi.ch/animanga/3155/
เชี่ยื2 เรื่องที่มาต่อเนี่ยผ่านหมดแน่ๆเลยตู
มีแต่อนิเมอาร์ตทั้งนั้น
https://fanboi.ch/movie/2362/recent/#bottom มู้นี้ซิตรงกว่านะ
ไปกระทู้หนังกระทู้อนิเมยังไม่ฉายกันสิเอ้ย กูยังคิดชื่อกระทู้ 5 ไม่ออกเลย
จะว่าไปถ้าเรื่องนี้เป็นทีวีซี่รี่ย์ 12 ตอนจะแบ่งยังไงดีวะ
ตอน 1-6 ช่วงสลับตัว
ตอน 7 เดทล่ม,สลับตัวไม่ได้
ตอน 8 เดินทางหามิตซึฮะ
ตอน 9-10 ช่วยมิตซึฮะ
ตอน 11 ผ่านไป 5 ปีตามหาอะไรซักอย่าง
ตอน 12 พบกันอีกครั้ง + อาฟเตอร์
หลายคนบอกว่า Kimi no na wa เป็นความสำเร็จของค่ายหนังที่มีต่ออนิเมะไทย
แต่ผมคิดว่าเป็นความผิดพลาด
Kimi no na wa ควรจะทำรายได้ได้มากกว่านี้ ผู้ที่ทำให้มันทำได้แค่นี้คือผู้จัดฉายเอง
ผู้จัดฉายภาพยนต์ไทยเต็มไปด้วยบุคลากรที่มีความสามารถในวงการหนัง แต่ไม่มีคนที่รู้เรื่องอนิเมะเลย - ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากลุ่มแฟนอนิเมะเป็นอย่างไร
และตัดสินใจเกี่ยวกับ Kimi no na wa ได้ผิดพลาดมาก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ผมอดทนอยู่อาทิตย์กว่าๆ ที่จะไม่ด่า เพราะเดี๋ยวเสียบรรยากาศจะดันเรื่องนี้ไม่ขึ้นเอา แต่ตอนนี้คิดว่าได้เวลาแล้ว
ผมบอกเลยว่าผมไม่ได้เงินจากอนิเมะเรื่องนี้สักบาท เสียเงินด้วย แฟนๆทุกคน ไม่ได้เงินกันสักนิด ทุกคนทำฟรี
ผู้จัดฉายและโรงหนังคือคนได้เงิน 50 ล้าน และจริงๆมันควรจะเป็น 100 ล้านด้วย
อนิเมะฉายโรงนั้น แบ่งตามกลุ่มของคนดูได้ 3 ประเภท
1. เรื่องต่อของซีรี่ หรือภาครีเมคซีรี่เป็นหนัง ที่จะมีแค่แฟนคลับดู :
เช่น วันพีช นารุโตะ โคนัน โมโนกาตาริซีรี มาโดกะ
กลุ่มคนที่จะดูอนิเมะพวกนี้จะต้องเคยดูตัวซีรี่มากก่อน และส่วนใหญ่จะเป็นฐานแฟนฮาร์ดคอร์
พูดง่ายๆว่าฐานคือโอคาคุ
จริงอยู่ที่เรื่องที่มีฐานแฟนกว้าง อย่าง นารุโตะ วันพีช จะมีกลุ่มเป้าหมายมากกว่าเรื่องที่ฐานแฟนแคบ อย่างโมโนกาตาริ หรือมาโดกะ
แต่คนที่ดูเมะกลุ่มนี้ยินดีจะเปย์หนัก ถ้ามีของสะสมที่น่าสนใจพอ ถ้าทำโปรขายตั๋ว ได้ของลิมิเต็ท ใบละ 500 ก็ขายได้
โอตาคุนี้บ้าขนาดให้ซื้อตั๋วบินไปดูญี่ปุ่นก็ทำนะครับ
ดังนั้นกลยุทธที่ดีคือจำกัดโรง ของสะสมดีเวอร์ๆครับ (แต่ช่วยฉายขอนแก่นเชียงใหม่บ้างเถอะ อย่าฉายแต่ลิโด้เลย)
การขายแผ่นอนิเมะนั้นต้องเข้าใจว่าแฟนเรื่องมาก ทำแพงๆจำนวนน้อยดีกว่า
.
.
2. เรื่องแนวรางวัล :
คือพวกเมะของจิบลิทั้งหลาย
ว่ากันตามตรง งานพวกนี้ถูกใจนักวิจารณ์หนัง แต่สำหรับโอตาคุ และผู้ชมทั่วไปนั้นเฉยๆ
จริงๆ ผมว่าสายหนังก็ไม่ได้ชอบอะไรมาก แต่รู้จักเมะแค่จิบลิเท่านั้นเอง ช่วงหลังงานสายรางวัลพยายามทำออกมาเน้นไปทางปรัชญา หรือทำเทคนิคภาพให้ย้อนยุคหนีคอมพิวเตอร์มากเกินไป ทำให้งานมักจะออกมาเข้าถึงยาก น่าเบื่อ
ถามว่าดีมั้ย ผมก็ชอบหลายเรื่อง แต่มันไม่ใช่งานที่จะคาดหวังรายได้
ดังนั้นเตือนไว้ก่อนว่าอย่าคาดหวังกับ The Red Turtle และ In This Corner of The World มากนัก นักวิจารณ์อาจจะชอบ แต่รายได้ไม่ดีเหมือน kimi no na wa แน่ๆ
.
.
3. เรื่องที่คนดูทั่วไป :
คืออนิเมะที่ทำมาเพื่อฉายให้คนทั่วไปดู เช่น kimi no na wa - รักไร้เสียง - Summer war - ลูกหมาป่า
จำพวกงานของ ชินไค, โฮโซดะ มาโมรุ, เกียวโตอนิเมชั่นบางเรื่อง
งานพวกนี้สมควรจะลงทุนไปเอามาให้ได้ ฉายทั่วประเทศ และลงโฆษณา ครับ
ความพิเศษของงานแบบนี้คือ มันมีฐานโอตาคุ ซึ่งถึงไม่บ้าเท่าประเภท1 แต่ก็พร้อมเชียร์ พอเชียร์แล้วมันก็มีฐานของคนทั่วๆไปเข้ามาดูด้วย และเป็นเรื่องที่คนทั่วๆไปชอบ
.
.
ความผิดพลาดของผู้ฉายหนังไทยคือ ไปลงทุนกับอนิเมะกลุ่ม 1 และ 2 แต่ดันเอา 3 มาฉายไม่กี่โรง ไปแบบส่งๆ ไม่โปรโมท
ต่อ
เพราะคิดว่ามันดัง มีฐานแฟน หรือนักวิจารณ์หนังบอกว่าดี
เอาเข้าจริงก็เลยเจ๊ง เพราะถ้าผมไม่เคยดูนารุโตะมาก่อน คงดูโบรุโตะไม่รู้เรื่อง หรือพวกเมะแนวรางวัลก็เหมือนหนังแนวรางวัลที่คนดูต้องคิดเยอะหน่อยถึงจะชอบ
พอเจ๊งก็บ่นว่า อนิเมะไม่น่าลงทุน
ทีนี้พอ บังเอิญดวงดี ได้ Kimi no na wa มา คราวนี้ก็เอาไปเทียบกับโคนัน นารุโตะ ที่เคยผิดพลาด
ทั้งๆที่ Kimi no na wa นั้นเป็นอนิเมะสำหรับคนทั่วไป ที่ฐานกว้างมากๆ เราพูดไปยังไงก็ไม่ฟัง
มันกลับกัน คือ เมะฐานคุ ควรจะเน้นของแถมจัดเป็นอีเวนท์หน้าโรงฉาย แล้วอาจจะฉายแค่ไม่กี่รอบ แต่มีอีเวนท์ มีของ จากนั้นก็ขายบล็อกสวยๆ - พวกเมะรางวัลควรจะฉายให้นักวิจารณ์ดู รอบไม่ต้องมาก และไม่ต้องโฆษณามาก จัดประเภทเหมือนหนังอาร์ทรางวัล - ส่วนเมะทั่วไปควรจะอัดโฆษณา และฉายทั่วไป โดยคิดว่ามันเป็นน้องหนังดิสนีย์
จริงๆถ้าแฟนไม่ดันกันขนาดนี้ ไม่มีคอมมูนิตี้ กับพลังของเพจรีวิวที่มากเหมือนสมัยนี้ สุดท้าย Kimi no na wa คงจบประมาณ ลูกหมาป่าเมื่อ 2-3 ปีก่อน
จริงๆนะ ถ้าทำพากษ์ไทย มีงบโฆษณาสักหน่อย ขายของสะสมหน้าโรง คงจะโกยได้มากกว่านี้
อันนี้ไม่จ่ายเลยสักบาท ไม่มีแม้แต่ตัวอย่างฉายก่อนหนังเรื่องอื่น ตอนแรกจะไม่ฉายทั่วประเทศด้วยซ้ำ
ปล่อยให้แฟนดันจนไม่รู้จะดันยังไง ดันจนโดนด่าว่ารับเงิน
คือเหมือนบอกว่า เฮ้ยเงินกองอยู่ตรงหน้านะ แต่ก็ไม่เอา
ก็ไม่รู้จะว่ายังไง
ผมหวังว่า จะไม่เจอประเภท ปล่อยให้รักไร้เสียงหลุด แล้วเอาเงินไปอัดโฆษณา The Red Turtle แก้แค้น Kimi no na wa เพื่อความสะใจของเจ้าหน้าที่ที่เป็นสายหนัง
เป้าหมายส่วนตัวของผมคือ อยากให้คนทั่วไป เข้าใจว่าอนิเมะนั้นมีแนวตลาดที่คนดูได้ทั่วๆไป
ดังนั้น Time line ที่ดีควรจะเป็น ฉายรักไร้เสียงเป็นเรื่องต่อไป โดยโฆษณาว่า จะเจอเรื่องเหมือน Kimi no na wa
แต่ถ้าฉายเรื่องแนวรางวัลเป็นเรื่องต่อไป ผู้ชมก็จะผิดหวัง และกลับเป็นเหมือนเดิม
ก็แล้วแต่ละกันครับ... รายได้ก็ไม่ได้เข้าผมสักบาท
ป.ล. มีคนบอกผมหลังไมค์ว่าไปงานฉายคิมิโนะนาวะแล้วทางผู้จัดฉายบอกว่า สตูดิโอที่ทำรักไร้เสียงนั้นติดต่อยาก - ถ้าผมเป็นผู้ถือหุ้นคงเสียใจ ผมอยากบอกว่า ติดต่อยากก็บินไปสิครับ เคียวอนิมันก็ตั้งอยู่ที่เดิมนะ เงิน 10 ล้าน น่ะจะเอามั้ย ค่าตั๋ว/โรงแรม ไม่ได้หนึ่งในสิบของค่าโฆษณาที่ลงใส่หนังเรื่องอื่นหรอกครับ
#มิตรสหายผู้เคยไปทัวร์วัลฮาล่า
จังหวะต่อไปเต่าแดงกับโลกนี้อย่าบ้าจี้ฉายทั่วประเทศละกัน แต่กูเห็นต่างว่า รักไร้เสียงด้วย
รักไร้เสียงก็ไม่แมสนะ กูว่าควรฉายเยอะหน่อยแต่ไม่ต้องทั่วไป
ไอ้เรื่องไม่โปรโมตหนักนี่มันได้โงหัวดูโกลไหมว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น
จะเรื่องไหนค่ายไหนแม่งก็โปรโมตไม่ได้ทั้งนั้นแหละ แล้วก็เป็นอานิสงค์ผลบุญให้คิมิด้วย
เพราะหนังฮอลลีวูดอาทิตย์นั้นมันโปรโมตหนักไม่ได้ กระแสมันเลยมาตามเน็ต
ถ้ามาปกติยังไงสุดสัปดาห์แรกก็เสร็จอินเฟอโน่ถึงมันจะห่วย
ใครแม่งมโนว่าเรื่องนี้จะนำพาวงการอนิเมะไทยดีขึ้น ตื่นได้แล้วสัส
ตกลงนายคืนไร้ดาวก็เป็นแค่... เหมือนคนอื่นๆ เหรอ...
หวังจะให้เป็นฟรีด้อมไฟเตอร์พ่อค้าอาวุธรึไง
จริงๆ กูจะบอกว่าถ้าจังหวัดไหนอยากดูเรื่องอะไรเป็นพิเศษ แต่หนังไม่เข้าอ่ะ ลองระดมทุนแล้วคุยกับโรงหนังดูได้นะ
กูเห็นพวกสายสารคดี สายหนังนอกกระแส เขาก็รวมกลุ่มกันในจังหวัดเค้า เพื่อขอให้โรงหนังฉายรอบพิเศษไรงี้ แบบเพจชื่อไรวะ ชาวภูเก็ตอยากดู เข้าหาดใหญ่เถอะนะ ไรงี้
เพราะไทยมันไม่ค่อยมีวนโรงฉายนี่หว่า ก็ลำบากหน่อย
ทำไมบางคนบอกว่า your name มันแมสกว่า รักไร้เสียง วะ คือกูเคยอ่านรักไร้เสียงแต่ในมังงะยังไม่เคยดูหนังโรง ส่วน your name ไปดูมาแล้ว
กูคิดว่า your name มันเกี่ยวกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นค่อนข้างเยอะ เช่นเรื่อง เทพเจ้า มุสึบิ สาเก ซึ่งไม่น่าจะใช่แนวคนไทยกลุ่มทั่วๆไปอยู่แล้ว ถึงเนื้อเรื่องจะพูดถึง ความรัก โชคชะตา พรหมลิขิต ด้วยก็เถอะ
ส่วนรักไร้เสียง เกี่ยวกับการกลั่นแกล้งในโรงเรียน ตัวเอกที่ต้องการแก้ไขความผิดพลาดในอดีต มีดราม่าแบบที่คนไทยเจอกันบ่อยๆ (แก่งแย่งชิงดี ตบตี ความรัก การกีดกัน ฯลฯ) มันน่าจะแมสกว่านะในความคิดกู
อันนี้กูสงสัย ขอถามความเห็นพวกมึงหน่อย
คนไทยอาจจะชอบก็ได้นะ ตบกันแย่งผัว
>>191 จริงของมึงที่ yourname มันเล่นกับวัฒณธรรม วิถีชีวิต ความเชื่อ ของคนญี่ปุ่นค่อนข้างเยอะ แต่มันfeelgoodไงมึง และองค์ประกอบภาพเสียง การกำกับภาพและตัวบท มันย่อยง่ายไม่ต้องตีความไม่ต้องมีความรู้ใดๆ ดูทีเดียวรู้เรื่องจบเรื่องเดินออกจากโรงมีความรู้สึกด้านบวกติดมาแน่นอน
รักไร้เสียงการกลั่นแกล้งกันในห้องเรียน กูว่ามันเกินไปหน่อยสำหรับคนไทยว่ะบรรยากาศในห้องและประเด็นที่เล่นก็เป็นญี่ปุ่นอยู่ดี และไม่รู้ว่าจะไปเสพบรรยากาศการตั้งแก้งค์ตบตีแย่งหำกันไปทำไม ถามว่าแมสมั้ยกูว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา+แฟนตาซีนิดนึง อารมณ์ค่อนไปทางหม่นๆ มันไม่แมสเรื่องรายได้ แต่ไม่ไกลตัวมาก ที่สุดแล้วก็ไม่สร้างอารมณ์การดูซ้ำ และเปิดใจคนดูได้มากเท่าว่ะ
>>106 สปอย Earthbound บทแรก อย่ากดเข้าไปถ้าไม่อยากเสียอรรถรส
http://pastebin.com/fKsgDeGx
>>191 โคตรไทยเหอะมึง เทพ ยามโพล้เพล้ พรหมลิขิต
วิเคราะห์กันมาเยอะแล้วว่าไท(ก่อนพุทธ)กับญี่ปุ่นพื้นฐานตำนานโคตรเหมือนกัน
และสำคัญที่สุดคือมันเป็นหนังรักวัยรุ่น
ส่วนประเด็นของรักไร้เสียง ำทจคนรู้จักก็จริง แต่มันเป็นมังงะ รู้จักในหมู่คนอ่าน
โอเค อาจจะสตาร์ตดีกว่าคิมินิดนึง แต่มันเป็นดราม่า แถมเนื้อหามันไม่สุขนิยม จี้ใจดำ
แนวนี้มันก็มีฐานคนดูอยู่ แบบพวกชอบฟรีแลนซ์ เฟรนเดย์
แต่จะดึงมาดูอนิมที่คุบุฮี้ไม่ฮิปไฮป์ได้ไหม
อ้าว พ่อหนุ่มเซเลปโดนด่ารัวเลยนี่หว่า นึกตอนแรกเหมือนมีคนเห็นด้วยนึกว่าจะมีกระแส
อะไรคือการที่เอาความสำเร็จด้านรายได้ของKMNNWมาว่ากระทบค่ายหนังในไทยว่าโง่ ไม่รู้จักพัฒนาวะ
เขาอุตส่าห์เพิ่มรอบฉาย เพิ่มโรงฉายทั่วประเทศให้ได้ดูกันทั่วๆ แทนที่จะชมเขาบ้าง
เจอมาในเฟซ โคตรเปรี๊ยะเลยว่ะ
รู้จักไมเคิล รู้จักบิลลี่ จีนนี่แม่งไม่ธรรมดาเลยนะ เทียบกับอายุแล้ว
http://pantip.com/topic/35842996 บินไปแล้ววววว
ก็เตรียมไว้ให้ผลคือใส่ไม่เป็นแถมเล่นแผลงๆอีก เลยใส่นอนแม่งเลย
กูก็ว่าคิมิโนะแมสกับรักไร้เสียงเยอะนะ คิมิโนะมันแนวโรแมนติคคอเมดี้(ปนๆดราม่า)ขนาดนี้ แนวเรื่องไม่ได้คุจ๋าจนบุฮี้ รางวัลจ๋าจนขาดความบันเทิง ถ้าไม่ได้อคติว่าเป็นการ์ตูนก็พอเข้าไปดูได้
ขณะที่รักไร้เสียงแม่งแนวดราม่าปัญหาสังคม แทบจะหลุดจาหมวดโรแมนติคแล้วด้วยซ้ำ คนไทยทั่วไป(ที่ไม่ใช่สายการ์ตูนและสายคอหนังรางวัล)ก็คงคิดแหละว่าทำไมกูต้องมาดูเด็กมีปัญหาหูหนวกนี่ด้วย
อย่าลืมนะว่า หนังผี หนังตลก หนังรัก คือ3หมวดหลักของหนังที่คนไทยชอบมาก
คาแรคเตอร์ก็มีส่วนนา เชื่อกูโม่งชายที่อยากได้เมียแบบมุทสึฮะ 90% ได้ 10% เผื่อให้โม่งชายเกย์พิศวาททาคิล่ะกัน
น่าอ่านสัด คือนิยายมันแค่ส่วนเสริม earthbound โครตน่าอ่าน
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.
