สไตน์เกทกับฮอไรซอนเทียบต่อเล่มแล้วใครหนากว่าคับ
Last posted
Total of 1000 posts
สไตน์เกทกับฮอไรซอนเทียบต่อเล่มแล้วใครหนากว่าคับ
>>656
สไตน์เกทหนากว่าโฮไรซอนบางเล่ม แต่ถ้านับในกรณีเล่มแบ่ง(บน/ล่าง หรือ บน/กลาง/ล่าง)โฮไรซอนหนากว่า
กรณีสไตน์เกท นิยายรู้เรื่องเข้าใจในตัว กรณีโฮไรซอน อ่านนิยายแล้วต้องเปิดดิคที่ออกมาอธิบายเรื่องนี้โดยเฉพาะไปด้วย
>>649
ความเสี่ยงสูง แปลยาก ยากเหี้ยๆจริงๆเรื่องนี้ จะดักมุกเรื่องนี้คนแปลต้องอ่านล่วงหน้าอย่างน้อยสามเล่ม ต้องเคยอ่านงานเก่าๆอย่าเรื่องจุดจบหรือนิยายที่แต่งมาเอื้อเรื่องนี้ด้วย
ตัวประกอบบางตัวในโฮไรซอนเชื่อมโยงกับเนื้อหาหลังๆด้วย มันค่อยๆเผยปมไม่เหมือนเรื่องหัวเสือดาวที่มันลึกลับอยู่แล้ว
พูดในฐานะคนที่คลุกคลีกับวงการนี้ เห็นโฮไรซอนก็ท้อแล้ว
คอนเฟิร์มแล้ว Oda Nobuna no Yabou ย้ายค่ายจาก GA เป็น Fujimishobo
เล่ม 11 ออกเดือน 3 ดูจากขวาบนภาพนี้ http://imgur.com/S96z2LN
เซนชูเอ๋ย…
เซนชูมันก็ดีลกับฟุจิมิอยู่แล้ว จะห่วงอะไรมัน ตามมารยาทค่ายอื่นก็คงไม่ยุ่งอยู่แล้วด้วย
คิดว่าจะมีใครสน โฮไรซอนไหมวะ กูอยากอ่านชิบหาย ซีรียยาวๆ น่าสนุกสัสๆ
ตอนนี้เอาแค่อินเดกซ์ของอนิแม็กให้รอดก่อนเหอะ
โฮไรซอนกูอ่านไม่เข้าใจว่ะ
ไม่ใช่อ่านไม่ออกนะ แต่แม่งอ่านแล้วกูงงชิบหายเลย คอนเซปท์อาวุธแต่ละอย่างแม่งอธิบายชวนงงมาก
อย่างสับแมงปอนี่มันบอกมาว่าสู้แล้วมีเงาสะท้อนบนใบหอกทำให้โดนตัด แล้วสู้ไปสู้มามึงบอกกูตัดความเร็วมึงทิ้งไปละ
กูจะรู้เรื่องมั๊ยสัส
แต่เรื่องของเงิน เซนซวย มีเพียบจ้า แย่งแม่งหมดเลย
แค่รายได้จากเกมมือถือในช่องเคเบิ้ลมันก็เยอะกว่ารายได้ของค่ายบางค่ายแล้วมั้ง
ฟุจิมิ lp ก็ดีลอยู่ด้วยนะ
รอซื้อทีเดียวดันเสือกซื้อซ้ำอีกนะ
จัดระเบียบการซื้อง่ายๆ ถ้ามีมือถือเปิดรูปได้ เวลามีเล่มใหม่ออกมึงก็ยัดรูปปกลงไป เล่มไหนซื้อแล้วก็ลบออก แค่นั้น ไม่มีพลาด
นิยายกุไม่เคยซื้อซ้ำหว่ะ แต่มังงะนี่บ่อยเลย
>>673 Index ออกถี่เพราะต้องรีบโกยยอดช่วงที่ยังพอมีกระแสมากกว่าว่ะ
ขืนออกช้าปีละสองสามเล่ม ขึ้นปีที่สามคนตามคงเหลือไม่ถึงครึ่ง
>>668 ซีรีส์ยาวๆ สำหรับกูไม่ใช่ว่าสนุกสัดๆ ว่ะ หลายเรื่องมันเลยจุดพีคที่ชวนให้ตื่นเต้นรอเล่มใหม่มาแล้ว ทุกวันนี้ยังตามอ่านเพราะเหมือนเจอเพื่อนเก่า เจอตัวละครที่อ่านเรื่องของมันมานาน
ไอ้พวกคนเชียร์ๆ เนี่ย แม่งตามซื้อทุกเล่มทุกคนไหมวะ
กูเพิ่งซื้ ถุึงเล่ม 5 เอง อินเด็กซือ่ะนะ
ซื้อทุกเล่มแต่อ่านถึงแค่เล่ม3เองวะ >.<
>>667 เมะมันอธิบายน้อยมาก......บอกแค่ว่าตัด "นาม" ที่เป็นต้นกำเนิดความเร็วของมุเนชิเกะไป
บูสเตอร์ที่หลังกับยุทธภัณฑ์แห่งบาปของมุเนชิเกะ มีความสามารถคือทำให้ผู้ใช้มีพลังตามฉายาที่ได้รับ (ของมุเนชิเกะคือเจ้าแห่งความเร็ว)
แล้วพลังจริงๆของทมโบคิริมันคือสะท้อนภาพแล้วตัด "ชื่อ/ตัวตน" ของสิ่งนั้นๆ สรุปคือมุเนชิเกะโดนตัด "ฉายา"ไปแล้วเลยไม่เร็วเท่าเดิม + เจ็บแผลเก่าอีกเลยแพ้ฟุตาโยะตอนเจอกันรอบ 2
เลยเป็นเหตุผลด้วยว่าทำไมหอกมันถึงใช้กับพี่สาวพระเอกไม่ได้ เพราะคิมิมีเป็นสิบๆชื่อไว้วนกันใช้ ไม่เคยให้ความสำคัญกับชื่อตัวเองอยู่แล้วเพราะคิดว่าตัวเองเป็นดอกไม้)
ที่กุพอเดาได้เรื่องนึงก็น่าจะเป็นเจ้าหญิงปืนแหละนะ
ใต้ฟ้าจันทร์ครึ่งดวงเล่มแปด ยังมีหลงเหลืออยู่ที่ไหนบ้างวะ ใครเห็นช่วยบอกกูหน่อย ขาดอยู่แค่เล่มเดียวนี่แหละ
อ่าน strike the blood ถึงเล่ม 6 เรื่องนี้มันสนุกตรงไหนฟะ แพทเทิ่นเดิมตลอด มีศัตรู-->สู้ไม่ไหว-->ดูดเลือดสาว-->เรียกสัตว์รับใช้ตัวใหม่ เป็นแบบนี้เกือบทุกเล่ม พระเอกแม่งก็บื้อได้โล่เสียเวลาอ่านฉิบเป๋ง เทียบกับวานาดีสที่เพิ่งอ่านจบนี่คนละเรื่องเลย
> วานาดีสที่เพิ่งอ่านจบนี่คนละเรื่องเลย
คารวะ
>>690 Here you are
http://www.phanpha.com/cartoon/Jbook
ไม่นับเรื่องแปลกากเหี้ยๆ แล้ววานาดิสมันสนุกกว่าจริงๆว่ะ รอเล่ม 9 อยู่เนี่ย
แม่มถึงจะเดาๆได้ก็เหอะว่างอกแหงแต่ไม่นึกว่าจะให้งอกเอาซะเล่ม 8
ฮากุเระยูฉะ นี่มีแววเอามาแปลขายไหมวะ
อยากอ่านอบอุ่นหัวใจ แต่สนเรื่องสาวแดกกระดาษ?? มึงโดนปกหลอกแล้วว่ะ
เออ เห็นในนี้มีคนที่เป็นแฟนผลงาน อ.มัทสึยามะ ทาเคชิอยู่
ถามหน่อยสิเรื่องใหม่ 白銀のソードブレイカー ของ อ.แกนี่สนุกไหม ถ้าสนุกจะลองซื้อมาอ่านดู
ได้ยินแว่วๆมาว่าอ่านแล้วเข้าใจยาก เลยไม่อยากเสี่ยงเท่าไร สกิลไม่แน่นขนาดนั้น
ที่มาสนใจเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องแรกของ อ.แกที่มีพระเอก(ใช่รึเปล่า?)น่ะนะ
ผมอ่านไอริสที่จันทร์บ้าแล้วชอบคอนเซ็ปต์เรื่องนะ แต่โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยนิยมสายยูริน่ะ
ถ้าจะให้ยูริน่ะอ่านได้ถ้าเรื่องมันดีจริง แต่พอคิดว่ามันยูริแล้วก็รู้สึกขี้เกียจซื้อดิบมาอ่านยังไงก็ไม่รู้
สาววรรณกรรมนี่แม่ง มีคนโดนหลอกเพราะชื่อเรื่องกับปกเยอะจริง ๆ
คนรู้จักกูก็โดนหลอกไปหลายคน
เล่าหน่อยดิ ไอสาวแดกหนังสือ
แล้ว Gosickหละเฮ้ย
เรื่องโรคจิตกูว่า B.A.D เหี้ยกว่าเยอะ
แม่งโรคจิตกันทุกคน
gosick ไม่ได้อ่านว่ะ ดูแต่อนิเมได้ไม่กี่ตอนจำได้แค่วิคตอริก้ากลิ้งๆ
แต่สาวแดกหนังสืออ่านคุ้มนะเหมือนได้อ่านนิยายซ้อนนิยายอีกที
ส่วนจะให้เล่าไม่รู้เล่าไงดีว่ะ แม่มเดี๋ยวสปอยหมด
แต่สรุป สนุกใช่ไหมวะ แล้วมันแมวเหี้ยไรวะตกลงแล้งแล้ว ?
สาวแดกกระดาษนี่แปลไทยแปลโอเคไหมวะ
Heavy object สนุกเปล่าวะ
Gosick ยังไม่ได้อ่าน แต่อนิเมะมันจะสนุก 12 ตอนหลัง ตอนแรกๆ ไร้สาระมาก...
>>715 สาวแดกหนังสือ เป็นเรื่องไขพวกปริศนา แต่จะมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับวรรณกรรมระดับตำนาน เดินเรื่องควบคู่ไป ไขปริศนาไป
ตัวละครมักจะถูกนำไปเทียบเคียงกับเนื้อเรื่องต้นฉบับ แต่มักจะมีจุดพลิกผันซ่อนอยู่ไว้หักหลังคนอ่าน
ส่วนตัวกูว่าเป็นเรื่องที่เนื้อหามีคุณภาพสูงสุดในตลาด(ไทย)ตอนนี้เลย
มันก็เหมือนที่จั๊งก์ฟู้ด/เหล้า/เบียร์
ขายดีกว่าอาหารคลีน/อาหารมังสวิรัติแหละมึง คิดอะไรมาก
แล้วมันออกมากี่เล่มแล้ววะเพื่อนโม่งสาวแดกหนังสือ ไม่มีอะไรอ่านพอดีจะออกไปซื้อ
3 เล่ม
>>723 มันก็เป็นแบบนี้มานแล้วทุกวงการ
หนังดี ๆ เพลงดี ๆ ขายไม่ดีเท่าหนังตามกระแส เพลงตามกระแส เป็นเรื่องที่เห็นกันดาษดื่น
วงการนิยายในไทยก็มีให้เห็นบ่อย
หนังสือขายดียอดขายได้สิบล้านร้อยล้านเล่มทั่วโลก เข้าไทยกลายเป็นหนังสือขายไม่ค่อยออกฝุ่นจับอยู่บนชั้นในร้านหนังสือก็เป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยพอสมควร
ทำใจเถอะว่ะ
ตอนนี้กูเขียนนิยายอยู่ ขอถามความเห็นพวกมึงหน่อย
สงครามระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ต่างดาว มันจำเป็นต้องมีมนุษยธรรมมั้ยวะ
ถ้าตัวเอกยิงยานแพทย์ไร้อาวุธ ยิงกระสวยที่คนขับยานรบใช้ดีดตัวหนี จับมนุษย์ต่างดาวมาทรมานรีดข้อมูล
ตัวเอกจะถูกคนอ่านมองว่าเป็นคนไม่ดีมั้ยวะ
สงครามแบบไหนล่ะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือป้องกันตนเอง ถ้าแบบแรกจะไปสนมนุษย(ต่างดาว)ธรรมไปทำไม
>>729 แล้วแต่คาแรกเตอร์พระเอก
ต่อให้พระเอกมึงฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทั้งจักรวาล แต่ถ้าพระเอกมีเหตุผลต้องทำอย่างนั้นแล้วคนอ่านพยักหน้าหงึกๆตามได้ พระเอกก็จะเป็นคนดีหรือเป็นแอนตี้ฮีโร่ตามสัดส่วนความดีความเลวในสายตาคนอ่าน
แต่ถ้าเหตุผลมึงมันพิการนักพระเอกมึงก็จะเลวเหี้ย และมึงจะโดนคนอ่านสับเละ
แต่ตอนจบ เรื่องที่มาแบบนี้ ชอบให้ใจสื่อสปาร์คถึงสมองมนุษย์ต่างดาว5555555
ให้พระเอกเลวไปเลยก็ได้ั้ง ด้วยเหตุผลว่าเป็นทหารต้องใจเหี้ยมกูว่าก็เมคเซนส์พอแล้ว
แล้วค่อยหักมุมทีหลังว่าจริงๆที่มนุษย์ต่างดาวมาฮั้วเอาทรัพยากรโลกไปได้เรื่อยๆแถมรู้กลยุทธ์ไม่ใช่เพราะมันฉลาด
แต่เพราะคนสนิทสักคน(นางเอกเลยก็ได้เอ้า)เป็นไส้ศึก แลกกับอะไรสักอย่าง(ที่ไม่ใช่แค่ความสบายธรรมดา เหตุผลที่ทำให้ยอมทรยศคนทั้งโลกได้)
มันเลยรู้ไต๋ทุกซอกทุกมุมไรงี้
ยิ่งถ้าตอนจบนางเอกโดนหักหลังกลับมาอยู่ฝั่งพระเอกนะ แม่งสายหลักเหี้ยๆ
แต่งนิยายทำไมอยู่มู้นี้วะ
ก็นี่มันมู้นิยาย
เมหือนตอนตรูไปโม่งการ์ตูนไทยก็เจอ ไอเเต่งนิยายมาเเจม
ไปตั้งกระทู้หัดเขียนนิยายในเล้าเลยดิ
อินเดกซ์แม่งไม่ติดtop100 ของร้านซีเอ็ด แต่ไอ้เรื่องพิธีกรรมปริศนาอะไรนั่นมันติดtop 100 ว่ัะ
อินเดกซ์มันขายได้ห่วยแตกมากหรือตารางร้านซีเอ็ดมันเชื่อถือไม่ได้วะ
>>741 ตั้งแต่มันขึ้นค่าสต๊อกสินค้าเป็น 50% ก็แทบไม่มีค่าย LN เจ้าไหนส่งหนังสือให้มันแล้วล่ะ
โม่งๆทั้งหลายถ้าอยากให้สำนักพิมพ์ไหนอยู่กับพวกมึงไปนานๆ
ให้มึงไปซื้อที่สัปดาห์หนังสือหรือสั่งตรงจากเวปสำนักพิมพ์เหอะนะ
อย่างน้อยเงินก็ไปถึงสำนักพิมพ์เยอะกว่าเสือนอนกินอย่างสายส่ง
นี่กูพูดเลยนะ เพราะสายส่งกับร้านหนังสือในประเทศนี้แม่งทำนาบนหลังคนมากๆ
ดู infographic ข้างล่างประกอบได้
เรื่องสายส่งเคยมีพูดกันไปแล้ว มึงไปหาอ่านดู
ภาพที่มึงโพสมันเป็นการทำนาบนหลังคนตรงไหน
25% เป็นกำไรเข้าร้านหนังสือ ไม่ได้เข้าสายส่ง
ก็คือสายส่งรับหนังสือมาที่ราคา 55% ของราคาปกก็จริง แต่ส่งให้ร้านหนังสือในราคา 75% ของราคาปก
ได้ไปแค่ 20%
ซึ่งมันก็มีค่าจ้างพนักงานส่วนต่าง ๆ ค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษารถ และอื่น ๆ อีกมากมาย เหมือนข้อมูลทางซ้ายของทางสำนักพิมพ์นั่นแหละ ไม่ใช่ว่าเจ้าของสายส่งมันดีดนิ้วแล้วหนังสือจากสำนักพิมพ์มันจะลอยไปเข้าร้านหนังสือเองซะที่ไหน แต่ infographic มันไม่ได้แยกออกมาให้ดู เขียนรวมเป็น ค่าบริการจัดการไปหมดเลยก็เท่านั้น ถ้าแยกออกมาให้เห็นเป็นอย่าง ๆ ก็จะเห็นว่ากำไรมันไม่ได้เยอะมากเช่นกัน
ร้านหนังสือมันก็มีค่าบริหารจัดการเหมือนกัน ซึ่ง infographic ไม่ได้แยกให้ดู
แฟรนไชส์ร้านหนังสือแห่งหนึ่งต้องเรียก % เยอะ ๆ เพราะเน้นการบริหารจัดการที่ให้ความสะดวกกับลูกค้า สร้างสาขาให้เยอะ ๆ แม้ว่าหลาย ๆ สาขาจะขาดทุนเพื่อให้ลูกค้าสามารถหาซื้อหนังสือที่ต้องการได้สะดวก ซึ่งใช้ต้นทุนสูง ไม่ได้ทำเพื่อหวังฟันกำไร
ในบรรดาร้านต่าง ๆ ที่มีสาขาอยู่ในทุกห้างทั่วประเทศ ร้านที่พวกมึงด่ากันว่าทำนาบนหลังคนเนี่ยเป็นร้านที่ได้กำไรน้อยเป็นอันดับต้น ๆ ด้วยซ้ำ
กูว่าร้านหนังสือที่เห็นความสะดวกของลูกค้า สำคัญกว่าความร่ำรวยของทางสำนักพิมพ์ มันก็ทำถูกแล้ว
แล้วกูก็เห็นมีแต่เฉพาะสำนักพิมพ์สายการ์ตูน กับพวกสำนักพิมพ์นิยายขายไม่ออก สองพวกนี้แหละที่ออกมาโวยด่าแฟรนไชส์ร้านหนังสือนี้
แล้วก็ ข้อมูลต้นทุนของสำนักพิมพ์ที่ภาพ infographic เอามาแจกแจงนี่โคตรมั่ว
ถ้าขายหมดแล้วได้กำไรแค่ 10% แสดงว่า
ถ้าหนังสือราคาปก 200 บาท
ราคาที่สำนักพิมพ์ขายออกให้สายส่งคือ 110 บาท << 55% ของราคาปก
แบ่งเป็นกำไร 11 บาท << 10% ของ 110
ต้นทุนของหนังสือจริง ๆ คือ 99 บาท << ราคาขายออก 110 บาท - กำไร 11 บาท
ถ้าพิมพ์ 3,000 เล่ม ต้นทุนคือ 297,000 บาท << 99 บาท x 3,000 เล่ม
ถ้าขายหนังสือได้ 90% ของที่พิมพ์ ( 2,700 เล่ม ) จะได้เงินกลับมา 297,000 บาท << 110 บาท x 2,700 เล่ม
แสดงว่า ถ้าสำนักพิมพ์คิดกำไรค่าหนังสือแค่ 10% จริง ถึงจะขายหนังสือออก 90% ของที่พิมพ์ ก็จะได้แค่เท่าทุน ไม่มีกำไรเลย
ถ้าคิดกำไรแค่ 5% ก็ต้องขายให้ได้เยอะกว่านั้นอีก
ซึ่งถ้าจริง สำนักพิมพ์เจ๊งไปหมดแล้วว่ะ
http://peestory.wordpress.com/2010/10/15/รบกวนสอบถามเกี่ยวกับกา-2/
พวกมึงอย่าไปเชื่อเรื่องที่สำนักพิมพ์ด่าร้านหนังสือ ด่าสายส่งให้มาก เพียงเพราะว่าสำนักพิมพ์มีช่องทางติดต่อสื่อสารกับผู้อ่านมากกว่าทางสายส่งกับทางร้านหนังสือเลย
คนทำงานสำนักพิมพ์บางคนก็ด่าเอามัน บางคนก็ลืมคิดไปว่าร้านหนังสือกับสายส่งมันก็มีต้นทุนเหมือนกัน ไม่ใช่ได้เงินไป 20% 25% แล้วเป็นกำไร 20% 25% ทั้งหมดซะที่ไหน
ถ้ามันกำไรดีมากจริง ๆ มีคนทำแบบมันไปเยอะแล้ว ไม่ปล่อยให้มีเจ้าใหญ่ผูกขาดอยู่เจ้าเดียวมานานขนาดนี้หรอก
ไอ้ทฤษฎีสมคบคิดปัญญาอ่อนที่ว่า บริษัทสายส่งมันมีเส้นสาย เอามาใช้บีบคู่แข่งบีบร้านหนังสือ มึงก็ไม่ต้องยกมาอ้างนะ กูเบื่อ
คนที่มีเส้นสายมีอำนาจมืดมหาศาลมีเยอะแยะ ถ้ามันงานสบายกำไรดีจริง มันไม่กลัวเส้นสายสายส่งหรอก มันมาทำแข่งไปนานแล้ว กูบอกเลย
E-book สักทีเซ่!!!!
คือชอบซื้อเก็บนะแต่คุณภาพบางเล่มมันต่ำเก็บได้ไม่นานก็ฝุ่นเขรอะ
หลังๆ นี้ซื้อมาไม่มีที่เก็บกองบนเตียงเป็นตั้งๆ วันไหนนอนกลิ้งไปฟาดทีคงล้มมาทับตาย
ทำ E-book สักทีเถิด
บงกชทำ e-book แล้วสามเรื่่อง ฮารุฮิ ,สภานักเรียน ,ลำนำรักราชาปิศาจ
ช่วยกันไซโคให้เจ้าอื่นทำมั่ง
>>743
ร้านหนังสือน่ะ ตัดราคาฆ่ากันเอง แล้วก็เที่ยวมาคร่ำครวญบอกว่าไม่มีกำไร ไอ้วัฒนธรรมลด 5-10% หน้าแผงเนี่ยตัวดีเลย
แข่งกันลดจนลูกค้าเสพติด ตอนนี้ถ้าไม่ลด 10% ขายไม่ได้ แล้วจะมีราคาหน้าปกไว้ทำเหี้ยอะไร กลายเป็นแรงบีบกลับไปหาสายส่งกับสำนักพิมพ์อีก
มึงรอดูร้านเทพลด 15% บางร้านเหอะ ใกล้เดี้ยงเต็มทีแล้ว ติดหนี้สายส่งอื้อซ่าอยู่เนี่ย
ส่วนเรื่องต้นทุนฝ่ายสำนักพิมพ์ ตัวเลขที่กูรู้มาคือ ถ้าพิมพ์มินิมั่ม (3-4000 เล่ม) จุด break even จะอยู่ที่ 2/3
แล้วก็ถ้าเป็นหนังสือแปล สัดส่วนค่าตอบแทนของค่าลิขสิทธิ์+ค่าแปลจะเกิน 10% (ที่ในอินโฟกราฟบอกว่าเป็นค่าคนเขียน) ไปอีก น่าจะถึง 12-15%
ลองคำนวณดูละกัน กูเรียนบริหารก็จริงเหอะ แต่กูโง่เลข
กูไม่เชื่อทฤษฎีสมคบคิดอะไรนั่น แต่กูก็ยืนยันอยู่ดีว่าการที่สายส่งเรียกปรับเปอร์เซ็นต์เพิ่มส่วนแบ่งแม่งเหี้ย
ราคาหนังสือปรับตามกลไกตลาดตลอดเวลาอยู่แล้ว ถ้าราคาขึ้น มันก็ได้เงินต่อเล่มเพิ่ม
การที่แม่งขยับส่วนแบ่งในเวลาที่เศรษฐกิจแย่ๆ แบบนี้ มึงคิดว่าจะเข้าเนื้อใครบ้าง สนพ.มันไม่กล้าขึ้นราคาหรอกนะ
>>744
มึงจัดการสันดานคนไทยขี้ก็อปแจกให้ได้ก่อน ตอนนี้สนพ.มันยังไม่มั่นใจที่จะลงตลาด สงวนท่าทีรอดูบริษัทใหญ่ๆ ทั้งนั้น
LNแทบไม่โดนสแกนแจกเลยเพราะมันสแกนยาก ถ้าดัมพ์ไฟล์กันง่ายๆ ก็จบเห่ละ
Ebook มันจะดี ถ้าใช้ Epub แต่ของไทยแม่ง ใช้ PDF สาดมันหนักเครื่องรู้ไหม
อ่านวันอาทิตย์ที่ไม่มีพระเจ้าเล่ม 2 จบล่ะ
รวมๆก็โอเค แต่ถ้าจำไม่ผิดเมียยูรี่หลังตายมันโดนแฮมนี่แฮมเบิร์กฆ่าไม่ใช่เหรอวะ
ทำไมมันแปลเป็น "โดนของเล่นกินคนกลืนกิน" วะ
ใครแปล ?
เออ กูสงสัยว่าต้นทุนเรื่องนักเขียนไทยถ้านับเฉพาะนิยายวัยรุ่นนี่ค่าเรื่องมันประมาณเท่าไรวะ
เออ Ebook นี่ทำไม สนพ มันไม่เอามังงะเก่าๆมาทำวะ ขายเล่มละ 10-20บาทก็ว่าไป บางเรื่องเเม่งหาอ่านไม่ได้ LN ด้วยไอเหี้ย มึงแถมโคตมาใน LN ก็ได้กู ขี้เกียจเเบกไปอ่าน
>>757 กุจะเล่าให้ฟัง
เคสร้านหนังสือซีเอ็ด มันมี 500 สาขา ถ้าเกิดมันต้องการสาขาละ 5 เล่ม มึงก็ต้องพิมพ์ 2500 เล่มเข้าไปแล้ว ถ้าเกิดมันขายดี เออ มึงขายได้เลย2000 เล่ม แต่ถ้าเกิดแม่งเน่า มึงเน่าทันทีเลย 2000 เล่ม
ทีนี้ ร้านมันเสียอะไร ถ้าแม่งเน่า มันก็คืนมาที่สำนักพิมพ์ทั้งหมด เงินขายก็ไม่ได้ก็ไม่เสีย
แต่สำนักพิมพ์มันต้องจ่ายค่าเรื้อง ค่าแปลค่าพิมพ์ไปแล้ว สนพ. จะได้เงินเมื่อมันขายได้ แล้วพอขายได้ ร้านมันก็ไม่ได้ให้เงินมึงทันที สมมติขายได้วันที่ 1 มีนา กว่ามึงจะได้เงินก็วันที่ 30 กันยาโน้น แต่ระหว่างวันที่1 มีนา ถึง 30 กันยา เงินที่ขายได้ ร้านมันก็เอาไปหมุนฟรีๆ ก่อนไม่ต้องกู้แบงก์ มึงคิดดู แทนที่สนพ.จะได้เงินเลย ทันที หรืออย่างช้าสัก 3 เดือนก็ได้ แต่แม่งรอไปครึ่งปัี แต่ค่าเรื่อง ค่าพิมพ์ ค่ากระดาษ มันไม่รอมึงนะเว้ย พิมพ์เสี็ร็จก็ต้องจ่ายเลย
แบบนี้แหละมันถึงเรียกว่า ทำนาบนหลังสำนักพิมพ์ สายส่งอื่นก็เป็นแบบนี้แหละ
ทีนี้มึงเข้าใจหรือยังว่าทำไม lp ไม่เข้าร้านซีเอ็ด
พูดแบบโง่ๆ คือ พอถึงเดือนกันยา ร้านมันเอายอดขายเดือนสิงหามาจ่ายมึงก็ได้ แต่ยอดขาย มีนาถึงกรกฎา กูจะเอาไปหมุน
พอตุลาก็เอายอดกันยาไป แบบนี้ เข้าใจยัง
ขอมูลพวกมึงเนี้ยจะจริงเเค่ไหนวะเนี้ย =*=
มึงก็ลองไปโพสต์ถามสนพ.ดูดิวะ ไปหลอกถามนะ อย่าไปโต้งๆ
Shishunki na Adam กูอยากอ่านเรื่องนี้ กูว่าเนื้อเรื่องเเม่งต้องดีวะ 5555555555555555555
>>760
ข้อมูลเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆของทุกฝ่ายน่าจะจริง เพราะกูได้ยินมาเยอะ แล้วทุกฝ่ายก็พูดตรงกัน ทั้งทางสนพ. ทางร้านค้า และสายส่ง
แต่ข้อมูลเรื่องซีเอ็ดจ่ายช้าไป 6 เดือนนี่กูไม่เคยได้ยินเลย ไม่รู้ว่ะ เคยได้ยินแต่ว่าซีเอ็ดจะจ่ายช้าสามเดือน ซึ่งเป็นการตกลงกันไว้ก่อนแล้ว ซึ่งธุรกิจใหญ่ๆอื่นๆทั่วไปก็ทำแบบเดียวกันนี่แหละ
แต่กูสงสัยว่ะสนพ.กำไรน้อย ลำบาก โดนกดขี่จริงเหรอวะ กูรู้สึกว่าบริษัทประเภทที่มีเยอะที่สุดในไทยก็คือบริษัทของสำนักพิมพ์นี่แหละ
มีเยอะกว่าบริษัททนายความ มีเยอะกว่าบริษัทยาสีฟัน เยอะกว่าบริษัทผลิตเก้าอี้ เยอะกว่าบริษัทผลิตขนม บริษัทผลิตเครื่องดื่ม กูมองไปรอบ ๆ บ้านกูยังหาสินค้าและบริการอะไรที่มีคนแห่กันมาเปิดบริษัทแข่งกันทำเยอะเท่าสำนักพิมพ์ไม่ได้เลยว่ะ
ถ้ามันขาดทุนจริงลำบากจริงทำไมคนถึงมาทำกันเยอะขนาดนั้นวะ แล้วทำไมมันถึงไม่เจ๊งไปกันหมด แต่เหลือเยอะแยะมหาศาลแบบนี้วะถ้าขายไม่ดี ทั้ง ๆ ที่คู่แข่งก็มีหลายร้อยบริษัท
ธุรกิจที่ กำไรน้อย มีคนมาทำนาบนหลัง โดนเอาเปรียบ คู่แข่งก็เยอะมหาศาล ความเสี่ยงสูง ขาดทุนง่ายอีกต่างหาก
แต่มีคนแห่กันมาทำเยอะแยะ แถมบริษัทที่เจ๊งก็เป็นแค่เสี้ยวเล็กๆจากทั้งหมด ยังเหลือที่อยู่รอดได้อีกเป็นกระบุง แล้วพวกบริษัทอื่น ๆ อย่าง ROSE หรือ DEX ก็พยายามจะแข่งกันเข้ามาในวงการสิ่งพิมพ์กันด้วยอีกต่างหาก
มันขัดแย้งกันชิบหายเลย
>>765 เจ้าของสำนักพิมพ์เค้าอาจจะบอกว่ามันไม่ดี เพราะกลัวจะมีคู่แข่งเพิ่ม
อย่างเรื่องของสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง ที่ปิดตัวไปเพราะบริษัทแม่เอางบไปซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอล
ก็มีคนออกมาปล่อยข่าวว่าไม่ใช่ จริง ๆ แล้วที่ปิดก็เพราะขาดทุน
หลังจากนั้นก็มีข่าวออกมาว่าทีมงานเก่าของสำนักพิมพ์นั้นออกมาเปิดสำนักพิมพ์ใหม่
กูเห็นข่าวแล้วกูคิดเลยว่า มันปล่อยข่าวว่าขายไม่ออก ขาดทุน เพราะกลัวคนอื่นจะมาแย่งซื้อลิขสิทธิ์ไปแน่ ๆ
กูไม่เชื่อว่า จะมีคนคิดแบบนี้หรอกนะ
"พี่ ๆ สำนักพิมพ์เราเจ๊ง โดนปิดแล้ว เพราะเราบริหารไม่ดี เลือกเรื่องที่จะซื้อลิขสิทธิ์เขามาผิด ขาดทุน เราจะทำอะไรกันต่อไปดี"
"ก็ทำสำนักพิมพ์ยังไงล่ะ"
"โห ไอเดียดีมากพี่ ปะ เราเปิดสำนักพิมพ์กันเถอะ"
>>764 เหมือนซีเอ็ดมันเครดิตแต่ละสนพ.ไม่เท่ากันนะ ถามมาสองสามที่ก็ไม่ตรงกัน
กระแสร้าน+สายส่งเอาเปรียบ มันพึ่งมาเริ่มมีเอาตอนซีเอ็ดกับนายอินทร์รวมหัวกันปรับส่วนแบ่งนี่แหละ
เดิมทีใช้ 40% มานาน กูไม่เห็นใครบ่นอะไร พวกบริษัทการ์ตูนก็ไม่เดือดร้อนอยู่แล้วเพราะไม่ผ่านมัน ไลท์โนเวลก็เหลือไม่กี่เจ้าที่ยังผ่านมันอยู่ (หรืออาจไม่เหลือแล้วซักเจ้า ที่เห็นอยู่อาจเป็นการไปดึงของจากสายส่งอื่นมาขายก็ได้ มันมีการจัดจำหน่ายลักษณะนี้อยู่เหมือนกัน) เกือบทั้งหมดมาจากสายส่งผ่านฟ้าแทบทั้งนั้น ดังนั้นน่าจะเลิกใช้ไอ้สองร้านเหี้ยนี่เป็นโมเดลสำหรับกระทู้นี้ได้แล้วรึเปล่า? มันกระทู้ไลท์โนเวลนะเว้ย
ละไอ้เรื่องกำไร กูก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงว่ะ งานของกูเป็นแค่เอาท์ซอร์สของพวกสำนักพิมพ์ แต่เท่าที่กูดูนายจ้างของกูเนี่ย มีแต่พวกเขียมๆ จนๆ ค้างเงินกูครึ่งปีรึครบปีกันบ่อยๆ เอาว่าพวกแม่งไม่ค่อยรวยหรอก พวกที่รวยมีแต่บริษัทใหญ่ๆ กับพวกสายป่านยาวเอาเงินมาทิ้งเล่นเอาหน้าหรือเพื่อเอื้อประโยชน์กับเซคชั่นอื่นของบริษัทแค่นั้นแหละ
>>766
กูเข้าใจว่าที่มันปิดสำนักพิมพ์แล้วเปิดใหม่ เป็นแผนทางการตลาดของคนในบริษัทนะ
แรกเริ่มเลยคือ มันบริหารกันไม่ดี ซื้อลิขสิทธิ์หนังสือเข้ามามั่วซั่ว เรื่องไหนดังเป็นประแสตอนนั้นก็ซื้อๆมา หลายๆเรื่องพอผ่านไปซักพักก็ขายไม่ออก แต่ถ้าลอยแพไปเฉยๆโดนแฟนๆรุ่มด่ายับแน่นอน
พอมาทีนี้ก็เลยมีแผน ปิดสำนักพิมพ์แม่งเลยแล้วค่อยเปิดใหม่ เรื่องไหนขายดีก็ไปไล่กว้านซื้อลิขสิทธิ์กลับมา เรื่องไหนขายไม่ดีก็ปล่อยหลุดไป
ทีนี้ก็ลอยแพเรื่องเก่าๆได้โดยแฟนๆไม่ด่า แถมยังมาคอยอวยมาคอยเลียขอบคุณที่ซื้อลิขสิทธิ์กลับมาอีก ทั้งๆที่คนที่บริหารไม่ดีจนทำให้สำนักพิมพ์มันไม่ค่อยได้กำไรแม้จะมีเรื่องเด่นๆดังๆเยอะแยะก็พวกมันเองแท้ๆ
ทำแบบนี้แล้วสบายสุดๆไปเลยว่ะ ลอยแพนิยาย แต่ได้คนมาอวย อีกหน่อยสำนักพิมพ์อื่นๆอาจจะเลียนแบบกันเป็นล่ำเป็นสันก็เป็นได้
>>769
มันก็มีอยู่สำนักพิมพ์เดียวที่ทำไลท์โนเวลแล้วปิดตัวไป แล้วคนในบริษัทก็มาเปิดสำนักพิมพ์กันใหม่
ข้อมูลตัวเลขที่กูได้ยินมาส่วนใหญ่มาจากคนที่ทำงานให้กับสำนักพิมพ์นิยาย ซึ่งก็ตรงกับตัวเลขที่โม่งอื่นๆพูดมา ส่วนการ์ตูน นิตยสาร กูไม่รู้
เรื่องที่กูสงสัยมากกว่าตัวเลขคือครึ่งหลังของ >>764 ที่กูพูดไว้นี่ล่ะ
ถ้าสำนักพิมพ์มันลำบากจริงกำไรน้อยจริงทำไมมันถึงเป็นบริษัทประเภทที่มีเยอะที่สุดในประเทศ และคนอื่นถึงแข่งกันมาทำวะ
ต่อให้มันมีบริษัทประเภทอื่นเยอะกว่า สำนักพิมพ์มันก็ยังอยู่อันดับต้นๆแน่นอน
อย่างที่กูบอกไปตอนแรก กูนึกบริษัทสินค้าและบริการชนิดอื่นที่มีจำนวนบริษัทมากกว่าบริษัทที่เป็นสำนักพิมพ์ไม่ออกเลยด้วยซ้ำ
ทำหนังสือการ์ตูน คอมมิค กำลังตายกันเพราะ แม่ง ขายเป็นร้อยบาท คนก็ ด่ากันตรึม แต่ไลท์โนเวลเล่มละ 200+ บาท แต่ค่าทำเท่าๆกันกะทำคอมมิคนะ ดังนั้นไม่แปลกที่มีคนมาลงเยอะน่อ
ค่าทำเท่ากัน? กูได้ยินแล้วอยากจะร้องไห้แทนคนแปลกับคนตรวจ
อ่านแล้วทำให้รู้ว่าความเชื่องี่เง่าๆโดยไม่ใช่สมองใตร่ตรองแม่งยังวนเวียนไปมาอยู่มากมาย
ไอ้บริษัทเก่ามันไม่ได้ทำนิยายขาดทุนโว้ย
แต่เสือกไปเปิดไลน์อื่นนอกจากนิยายเพิ่มแล้วทำเจ๊งเละเทะเลยโดนบีบออก
ไอ้คนมาบริหารต่อก็ไม่ทำเลยปิดเอาเงินไปหมุนบอลแทน
คนเก่าๆเลยย้ายไปที่เปิดใหม่ ดีตายห่าล่ะลิขสิทธิ์ต้องมาเริ่มกันใหม่หมดนะโว้ย
เรื่องที่เคยได้ก็หลุดไปบริษัทอื่น ฟังดูดีชิบหาย
เรื่อง talent1 นี่ เห็นกันอยู่นะว่าเสียเปรียบเรื่องดีลลิขสิทธิ์เต็ม ๆ เหลือติดมาแค่คินดะอิจิกับคินดะอิจิ ซึ่งกุว่าที่ขายดีมันไม่ได้มีแค่ 2 ตัวนี้หรอกนะ กุว่าซายากะกับยาคุโมะนี่ก็น่าจะขายดีน่าดูเลย แล้วแม่งก็โดนแย่งไปแล้ว สัส กุไม่เชื่อว่าลอยแพแล้วเปิด สนพ ใหม่จะคุ้มจริงอย่างที่ >>768,770 พูดหรอก
ตกลงแม่ม สนพ ไหนวะ กูไม่ค่อยรู้เลย เฉลยทีบอดโม่งหลััวไรวะ เอาชื่อมาเลย
ถ้ามึงคิดว่าเขาปิดบริษัท แล้วเปิดใหม่ แล้วลอยแพยาคุโมะ ซายากะกับโชเนนนะ แปลว่าพวกมึงไม่เข้าใจเหี้ยอะไรแน่นอน
>>775
บริษัท บ. ไม่ได้ทำนิยายแล้วขาดทุน มีไลน์อื่นมาทำให้ขาดทุน แต่ก็เป็นฝีมือของพวกมันเองอยู่ดี
ที่นิยายไม่ขาดทุน เพราะนิยายบางเรื่องขายดี ไม่อยากปล่อยหลุด แต่นิยายบางเรื่องก็ขาดทุน อยากลอยแพทิ้ง แต่รวม ๆ แล้วออกมาคือไลน์นิยายได้กำไร
>>776 ถ้าปิดแล้วไม่คุ้ม ทำต่อคุ้มกว่า มันไม่ปิดหรอก บริษัทแม่มันเตรียมทรัพยากรไว้พอสำหรับเรื่องบอลตั้งแต่ตอนที่มันวางแผนจะทำเรื่องบอลแล้ว ไม่ใช่พึ่งมาวางแผนกันตอนจะซื้อเหมือนเล่นขายของ
>>778
กูไม่ได้คิดว่าเขาปิดบริษัทเพื่อลอยแพสิ่งที่ทำกำไรให้มัน กูคิดว่ามันปิดบริษัทเพื่อลอยแพสิ่งที่ทำให้มันขาดทุน
เพราะถึงผลรวมมันคือขาดทุน แต่ถ้าตัดไอ้ส่วนที่ทำให้ขาดทุนทิ้งไปได้ มันก็จะมีกำไร
แล้วก็ปล่อยข่าวลือออกมาให้แฟน ๆ เห็นใจ และทำให้คู่แข่งที่จะมาแย่งซื้อลิขสิทธิ์ลังเล
กูไม่ได้บอกว่ามันอยากปล่อยลิขสิทธิ์เรื่องที่ขายดีหลุดไป แต่ทุกอย่างที่มันถือโดยรวมแล้วทำให้มันขาดทุน ทำต่อไปมันก็มีแต่จะขาดทุนมากขึ้น
จะปล่อยไปแค่ที่ขาดทุนก็ไม่ได้ เลยต้องปิดบริษัท ปล่อยหลุดหมดแล้วค่อยหาทางซื้อเฉพาะที่ทำกำไรได้กลับมา เพื่อที่มันจะได้ทำกำไรได้ มึงเข้าใจไหม
พวกมึงจะเถียงกันเรื่องนี้ไปทำไมวะ มันก็เปิดปิดเพราะผลประโยชน์อยู่ดี ต่างกันที่ปิดเพราะผลประโยชน์ของทาเลนท์ หรือปิดเพราะผลประโยชน์ของแกรม ซึ่งพวกมึงก็ไม่มีวันรู้หรอก คนของแกรมมี่ก็ต้องบอกว่าเพราะทาเลนท์ คนของทาเลนท์ก็ต้องบอกว่าเพราะแกรมอยู่แล้ว
>>781
เรื่องประมูลบอล
ขนาดมันเตรียมนานแล้ว ร่วมกับทรูก็แล้ว
ยังประมูลแพ้เลยนะมึง
มโนยังกับว่า ถ้า NED เลิกทำการ์ตูนเพราะขาดทุนเลยปิดแม่ง
แล้วพวกคนเก่าเลยมาเปิดบริษัทการ์ตูนใหม่
มึงคิดเหรอว่า jump มันจะขาย ดรากอนบอล สแลมดังส์ นารุโตะ โจโจ้ ฮันเตอร์ฯ ฯลฯ ให้บริษัทโนเนมแบบที่มึงคิด
โดน sic เอาไปแดกหมดล่ะไม่ว่า
เผลอๆ โดเรมอนจะโดนฉกไปด้วย
กุรุ้อย่างเดียวว่า ตอนป้าแกได้ข่าวว่ายาคุโมะ ซายากัะโดนคนอื่นเอาไป ป้าแกโกรธมาก เรื่องซายากะนี่โดนฉกทั้งเรื่องทั้งคนแปล (หรือคนดีลงาน) ไปหมดเลยทีเดียว
ทีกุรู้อีกอย่างคือไลน์นิยายตัวที่ไม่ทำเงิน (หรือได้น้อยเกินไปไม่คุ้มตามเป้า) คือไลน์นิยายแปลฝรั่งกับไลน์ไลท์โนเวล มึงลองคิดดู เปิดบริษัทใหม่แล้วไลน์นิยายฝรั่งหายไปไหนหมดวะ
>>787
มึงพูดซะยังกับพวก harry potter,the lord,hunger game,game of throne ฯลฯ
ขายไม่ออก กูว่าเป็นกรณีหาเรื่องทำเงินไม่ได้ก็ไม่เอามากกว่า
>>788
เอเจนซี่ดี Jump มันยอมปล่อยมั่วๆเลยเหรอวะ ดูเป็นกรณีหน่อยก็ดี
ไม่งั้นจะมีโมริไปเม้งถึง สนพ. เลยโดนสวนบินไปดีลกับลูกเจ้าของที่ญี่ปุ่นเหรอ
เอาจริงๆกูรู้สึกว่า เอเจนซี่ แม่งทำนาบนหลังคนยิ่งกว่าอีกวะ อยู่เฉยๆมีคนเอาเงินมาให้ล่ะ
กุว่าโมริมันมาเพื่อเคลมว่ะ เลยโดนสวน
jump มันปล่อยแต่โมริว่ะ มึงเคยเห็นมันปล่อยให้เอเจนซี่ตัวอื่นหรือวะ
เรื่องโมริโดนสวนนี่คืออะไรวะ
แต่กุรู้สึกมานานละว่าเอเจนซี่นี่ตัวเหี้ยมาก ตรงที่สนแต่คนที่จ่ายหนักจนขาดจรรยาบรรณ
>>789 มึงไม่รู้อย่าพูดเยอะเลย
ประการแรก เรื่องที่มึงยกมามันเป็นแค่เศษเสี้ยวของบรรดาหนังสือขายดีจากต่างประเทศ
ประการต่อมา
ในบรรดาเรื่องที่มึงพูดมา Harry Potter ขายดีจริง ถล่มทลายเลย แต่เรื่องอื่น ๆ
Hunger Games นี่ เจ๊ง ขายไม่ออก พึ่งมาขายได้หลังจากที่มันได้ทำเป็นหนัง ก็คือมันไม่ได้ขายได้ในฐานะหนังสือ แต่มันขายได้ในฐานะ merchandise ของหนัง เหมือนกับพวกตุ๊กตามินเนี่ยนน่ะแหละ
็The Lord of the Rings หนังสือที่ขายดีเป็นอันดับสองของโลก ถ้าไม่นับคัมภีร์ทางศาสนา เข้าไทยมาแล้วขายได้แค่ในระดับกลาง ๆ ยอดขายไม่เท่า Harry Potter ด้วยซ้ำ
Game of Throne ก็อาการเดียวกับ LotR ที่ต่างประเทศขายดีถล่มทลาย เข้ามาในไทยขายได้ในระดับกลาง ๆ
100 อันดับนิยายขายดีตลอดกาลของโลก ไทยซื้อลิขสิทธิ์เข้ามาทำเกือบหมด แต่เรื่องที่พอขายได้มีอยู่แค่หยิบมือเท่านั้นแหละ
>>792 กูนึกว่าเนชั่นจะได้คากามินะเนี่ย
Hunger game ก่อนมีหนังฉายนี้แปลได้เหี้ยปาน กู(เกิ้ล)แปล มาก
จะเจ๊งก็ไม่แปลกล่ะ
ส่วนใหญ่ฝรั่งจะขายได้มักพ่วงกระแสหนังเข้าไปด้วยทั้งนั้น ไม่งั้นก็การตลาดต้องดีจริง
ส่วนใหญ่หนังสือเล่มเป็นร้อยๆ หนาตีหัวแตก
คนมันไม่ค่อยกล้าซื้อมาลองของกันบ่อยๆอ่ะ
นิยายฝรั่งยังอุตส่าห์มีแปลเหี้ยอีกเหรอวะ ว่าจะลองซื้อมาอ่านกูถอยดีกว่า
Hunger game
Version นาธาน แปล
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2012/01/K11581540/K11581540.html
ใครอ่าน eng มาจะสะดุดได้ทันทีว่ามั่วตรงไหนบ้าง
World War Z อีกเรื่องที่แม่งแปลกากหมาชิบหาย
Game of thrones พยายามจะดีนะ แต่ก็แปลมาแข็งชิบหาย
ไอ้ที่รำคาญสุดคือแปลชื่อเฉพาะซะกูต้องเปิดนิยายต้นฉบับหาชื่อจริงมัน
กรณี GoT เห็นคนแปลออกมาโพสท์บ่นลงบอร์ดแล้วกูเห็นใจว่ะ ทำงานกับสำนักพิมพ์หัวโบราณไม่พอ ยังเจอบก.โง่อวดฉลาดอีก
เหนื่อยใจแทน เสียชื่อเสียเครดิต โดนคนไม่รู้เรื่องด่าฟรีอีก
GoT กูว่าจะไปชื้อมาอ่านอยู่ ตกลงควรดีไหมวะ =*=
Seirei no BladeDance สนุกดีเล่มแรกๆ นึกว่าเป็นฮาเร็มธรรมดาเล่มหลังๆ ยิ่งอ่านยิ่งติด พระเอกเก่งโคตร
game of throne มีแผ่นแท้ขายนี่
GOT season box ละ 800 กว่ามั้ง กูยังไม่ได้ซื้อ ราคานี้จริงเดี๋ยวค่อยไปถอย
กูขอแทรกหน่อย
นิยายของLP นี่มีเรื่องไรสนุกมั่ง
แบบที่เนื้อเรื่องน่าสนใจจริงๆน่ะ
Enter แจ้งว่า สึคุโมโดะ ออกเดือนเมษาโน่นเลย แล้วก็มีเรื่องใหม่ออกด้วยคือ Quick Save & Load แค่ 3 เล่มจบ เรื่องเกี่ยวกับอะไรวะ
แมลงลูกตานี่ได้ข่าวว่าเเปลโคตรเหี้ยเลยไม่ใช่เรอะ......
PARABELLUM นี่ออกเล่มจบละ น่าอ่านมั๊ย......มีใครตามอยู่บ้าง
ใช้ได้เหมือนกัน แต่ทำใจนะเวลาอ่าน มันมีทั้งคู่เลส คู่เกย์(จริงๆ) คู่ปรกติ
เล่มจบเลยเรอะ...
เดียวไปซื้อแล้วจะได้อ่านรวดตั้งแต่เล่ม 1
โนวรินนี่นิยายมันล้อหนักเหมือนเมะไหมวะ พอดีเห็นในเฟสฯมันอัพเดทเป็นรูปหน้าไทม์ไลน์
แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อมาอ่านดีรึเปล่า(แน่นอนว่าต้องดูการแปลก่อน) เลยอยากรู้เนื้อในนิยายคร่าวๆก่อนน่ะ
มีซื้อไว้ทุกเล่มตอนมันออกนะจ๊ะขอโบว๊ก
อิสุมิโกะกูมาแล้วววววววววว
ว่าแต่ quick save & load นี้มันเกี่ยวกับอะไรวะ
พาราเบลลัมถ้าดูแค่ปกคงไม่รู้ว่ามันเป็น LN ที่มีฉาก 'แบบนั้น' หนักมาก แถมอ่านจบแล้วก็ยังงงๆ ว่าพระเอกมันได้พลังสุดยอดมายังไง
แต่กุว่าพาราเบลลัมงั้น ๆ ไม่หนุกเท่าไร เอาเวลาไปอ่านเรื่องอื่นดีกว่าว่ะ
https://www.facebook.com/animagbooks/posts/705165419503637
ได้ข่าวว่าแถวนี้มีคนอ่านเคียวรันคาโซขุหลายคน เล่มสี่เจอกันชาติหน้านะแจ๊ะ......
กว่า บก. จะฉลาด
บริษัททั่วไปเวลาจ้างคนนอกทำงาน เขาก็ไม่ให้เลทอยู่แล้ว
มันไม่วิธีตรวจสอบว่าคนรับงานป่วยจริงไหม อาจจะไปรับงานอื่นมาแทรกคิวหรือแค่อู้แล้วแกล้งบอกเราว่าป่วยก็ได้
ถ้าเป็นเหตุสุดวิสัยจริง ๆ มีหลักฐานยืนยัน แล้วเลทแค่ไม่กี่วันก็พอจะอนุโลมได้ แต่ถ้าช้าไปเป็นสัปดาห์เป็นเดือนก็ต้องยกเลิกสัญญาเหมือนกัน
คนทำงานฟรีแลนซ์ ร่างกายของตัวเองก็เหมือนสินค้าที่เอาไปให้เขาเช่า ถ้าไม่ดูแลให้ดีจนมันใช้การไม่ได้ เขาเลยยกเลิกสัญญาเช่า จะเรียกร้องอะไรได้
กุว่าประเด็นก็คือมันจะหักหาญน้ำใจคนแปลมากไป หากไม่อะลุ่มอะลวยกัน เพราะทุกวันนี้นักแปลยิ่งน้อยๆ อยู่ พวกนักแปลนี่ก็มันศิลปินพอตัวนะเว้ย ไม่ใช่เครื่องจักรนักแปล มึงลองไปตามทวิตพวกมันก็น่าจะรู้ กุว่ามันคงเหลืออดแล้ว ไม่งั้นมันคงไม่ให้งานไปตั้งสองเรื่อง แล้วพาพังไปทั้งสองเรื่อง
เค้าอาจจะไม่เคยทำงานที่อื่นมาก่อนเลย จึงไม่รู้ว่าโดยปกติแล้วบริษัทอื่นเขาทำงานกันยังไง
คนไม่มีประสบการณ์ไม่ใช่คนไม่ฉลาด
คงป่วยโรคเรื้อรังแล้วออกแนว บก. เห็นใจมากกว่า
แต่ส่วนตัวมองว่ายื้อสัญญานานไปจริงๆ ครบสองปีพอดีแล้วเนี่ย น่าจะ cut loss ไปตั้งแต่ตอนครบปีล่ะ
>>836
ทำไมมันคนละเรื่องกับที่กูเคยได้ยินมาเลยวะ
กูได้ยินว่า นักแปลมีเยอะมาก แต่
มีพวกกระจอกไร้ความสามารถ หรือไร้ความรับผิดชอบเยอะ
พวกเก่ง มีความรับผิดชอบ ก็ไม่รับงานค่าจ้างน้อย ๆ หนีไปรับงานแปลชนิดอื่นที่ไม่ใช่นิยาย ซึ่งได้เงินมากกว่ากันหมด
ส่วนพวกที่เก่ง มีความรับผิดชอบ และไม่เกี่ยงงานก็มี แต่ บก ขี้เกียจไปตามหา
>>838
ถ้าเป็นงานสายอื่น ถึงเอาท์ซอร์สจะป่วยเรื้อรัง เค้าก็ไม่เก็บไว้เพราะสงสารแบบนี้นะ เค้าไปจ้างคนใหม่เลย
โดยส่วนตัวกุคิดว่าคนแปลแสดงสปิริตที่ว่าตัวเองจะทำต่อให้ได้ให้ บก.เห็นด้วยนะ ไม่งั้นคงไม่อลุ้มอล่วยนานขนาดนี้หรอก
เพียงแต่สุดท้ายก็ฝืนสังขารตัวเองไม่ไหวก็เท่านั้นเอง
กุว่าอนิแม็กเป็นค่ายนึงเลยนะที่ให้เกียรติคนแปล(ที่เก่งและไม่ทำตัวงี่เง่า)มาก
เคยเห็นประกาศอยู่ว่าจะเอาชื่อคนแปลขึ้นหน้าปกให้ได้ทุกเล่มด้วย แถมเป็นชื่อจริงอีก โหดสลัด
ให้เกียรติคนแปลเป็นเรื่องที่ดี แต่ควรให้เกียรติคนอ่านด้วย
เอาแต่คอยประคบประหงมคนแปล แล้วปล่อยคนอ่านรอเป็นปี มันไม่ถูกแล้ว
เรื่องแบบนี้มันก็มีแต่วงการนี้นี่แหละ พวกมึงทำใจเถอะ
ถ้าเป็น "บริษัทกูลิโกะจะออกขนมใหม่ คนออกแบบบรรจุภัณฑ์ออกแบบไปแล้ว 50% แต่ดันป่วยเรื้อรัง ออกแบบต่อไม่ได้" แทน ไม่มีทางจบแบบนี้หรอก
>>842 ก็นะ บริบทต่างกันเยอะ งานออกแบบฯมันไม่ยุ่งยากเหมือนการแปล หาคนใหม่ทำมันง่ายกว่าอยู่แล้ว
ยิ่งเอาระดับของบริษัทมาเทียบนี่ยิ่งห่างไกลเลย
แต่นิยายแปล หาคนใหม่แปลก็ต้องลำบากทีมงานมาปรับสำนวนให้ ถ้าคุณภาพงานตกก็โดนคนอ่านด่าอีก
แถมคนแปลดีๆก็หายากชิบหาย เป็นสนพ.ดีๆอยู่ในวงการนี้แม่มลำบากเชี้ยๆ
แต่อีกมุมนึง ก็เพราะเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องขายดีด้วยแหละ เลยไม่ได้รีบเร่งดำเนินการอะไรขนาดนั้นละมั้ง www
กุก็ว่าคนแปลจริงๆแล้วมีเยอะนะ แต่มันไม่ค่อยมีใครทำเป็นอาชีพหลัก หลายคนยังเรียนอยู่ด้วยซ้ำ บางทีก็อาจไม่ได้ทุ่มให้กับการแปล 100% และคนเก่งๆหลายคนก็ไม่มาทำสายนี้เพราะสายอื่นมันค่าตอบแทนสมน้ำสมเนื้อกว่า
ไลท์โนเวลจะจ้างนักแปลระดับอาจารย์ก็คงไม่ใช่ล่ะว่ะ สนพ.ที่ไหนจะยอมทุ่มค่าแปลขนาดนั้น
- เมื่อผมจับพลัดจับผลู ต้องมาเป็นครูในชุดเดรส เล่ม 1 Mizuki Nomura / karory 189 บาท (นิยาย)
คนแต่งเดียวกับอีสาวแดกหนังสือ เห็นการ์ตูนออก นิยายจะออกตามมาแล้ว
แต่พล๊อตแม่งหนุ่มครอสเดรสอ่ะ...
>>844 เออ กุลืมเจาะจงไป ว่าวงการนิยายแปลที่ว่าเจาะจงแค่ลาโนเบะน่ะนะ
แต่หลังจากอ่านประเด็นฮังเกอร์เกมส์ที่นาธานแปลกับเกมส์ล่าบัลลังค์ที่บ่นกันข้างบนไปกุว่าวงการนี้แม่มอยู่ยากจริงๆแหละ
เพราะขนาดงานแปลสายอิงที่น่าจะมีทางเลือกเยอะกว่าสายญี่ปุ่นยังเชี้ยได้ขนาดนี้ สายญี่ปุ่นนี่คงจะเหลือหรอกนะ
บ่น ซื้อb.a.d.เล่มหนึ่งมาอ่าน แปลโคตรเหร้เลย เนื้อเรื่องมันก็ชวนอึดอัดเครียดๆอยู่แล้วเจอสำนวนแปลเครียดหนักกว่าเดิม
แต่แม่งสนุกกุคงต้องทำใจยอมรับแล้วซื้อเล่มต่อๆไปมาอ่าน
>>847 มึงแยกไม่ออกเหรอวะ งานแปลกับงานเขียน มึงโง่จริงหรือมึงจงใจใช้ตรรกะป่วย ๆ มาเถียงเพื่อเอาชนะวะ
งานแปลใคร ๆ ก็ทำได้โดยไม่ต้องเจาะจงตัวผู้ทำ เหมือนกับงานออกแบบ งานวาดออกแบบตัวละคร ถ้าคนที่ตั้งใจจะให้ทำเขาทำไม่ได้ ก็สามารถหาคนอื่นมาทำแทนได้
งานเขียนการ์ตูน มันเป็นงานที่ให้คนอื่นทำแทนไม่ได้ เหมือนงานเขียนนิยาย เพราะคนอื่นที่มาทำต่อจะไม่รู้ว่าจะต้องเขียนเรื่องต่อไปอย่างไร
แต่ถ้าเป็นกรณีที่คนเขียนเรื่องกับคนวาดภาพเป็นคนละคนกัน การเปลี่ยนคนเขียนตอนจบภาคหรือการสั่งตัดจบแล้วเปลี่ยนคนเขียนนี่ก็เป็นเรื่องที่มีเหมือนกันว่ะ
หรือเอาคนแปลฟูกไปแปลคินดะอิจิดิ
>>844 ตามนั้น
จากคนเคยหลวมตัวลงไปลองทำเพราะใจรัก และแล้วกูก็ได้ค้นพบว่ากูเอาเวลาไปทำงานอื่นที่ได้เงินเยอะๆ แล้วเอาเงินนั้นมาซื้อมังงะ&ไลท์โนเวลฉบับภาษาญี่ปุ่นมานอนอ่านคนเดียวเวิร์คกว่าหลายขุม การทำงานแปลในช่วงเวลาว่างหลังเลิกงานและเสาร์อาทิตย์มีข้อดีข้อเดียวคือทำให้กูไม่มีเวลาไปแดกเหล้ากับเพื่อน ส่วนเงินที่ได้น่ะเหรอ เหอะๆ กูอยู่โอที่บริษัท 4-5 วันวันละไม่กี่ชั่วโมงแม่งก็ได้เท่ากับที่นั่งหลังขดหลั่งแข็งตาโพลงแปลทั้งเดือนแล้ว ส่วนถ้าทำเป็นอาชีพหลักกูนึกภาพออกเลยว่าต้องแปลให้เร็วให้ชุ่ยแค่ไหนถึงจะแปลได้เยอะมากพอที่จะพอแดก
วงการนี้มันเน่าเป็นวัฏจักรว่ะ ค่าแปลก็ขึ้นไม่ได้เพราะเดี๋ยวหนังสือแพงคนไม่ซื้ออ่าน พอค่าแปลกระจอกคนเก่งก็ไม่อยากเสียเวลามาทำ พอคนเก่งไม่มาทำงานมันก็เลยมีแต่พวกฝีมือไม่ถึงมาแปล หรือบางทีคนเก่งอาจจะลงมาทำแต่เพื่อจะทำให้พอแดกก็ต้องทำให้เร็วให้ได้จำนวนเยอะ งานมันก็ออกมาชุ่ยกว่าที่ควรจะเป็น ถ้าพวกมึงยอมรับความจริงข้อนี้ไม่ได้ก็จงไปเรียนภาษาญี่ปุ่นแล้วอ่านเองซะ แต่กูบอกไว้ก่อนว่าเรียนจนระดับที่อ่านนิยายได้น่ะไม่ง่ายหรอกนะ เวลากูเจอพวกแปลผิดบางทีกูยังทำใจด่ามันไม่ลงเลย พอจะดูออกว่ามันก็แค่มือไม่ถึง ชั่วโมงบินไม่พอ เลยอ่านแล้วเข้าใจผิด ตีความผิด ภาษาเหี้ยอะไรนี่แม่งยากชิบหาย ยากกว่าอังกฤษเยอะ ขนาดกูเรียนในประเทศญี่ปุ่นมาแต่ไม่เคยไปเหยียบพวกประเทศฝรั่งซักครั้ง กูว่ากูยังเข้าใจภาษาอังกฤษมากกว่าภาษาญี่ปุ่นอีกว่ะ
>>855 มันก็พยายามโยงเรื่องนั้นเรื่องนี้หาทางเอาชนะให้ได้ล่ะว่ะ
คนแปลแทนกันได้ไหม กับ คนแปลแปลเก่งไหม แม่งคนละเรื่องเลย
ถ้าใช้ตรรกะปัญญาอ่อน เอาคนไร้ฝีมือมาเปรียบเทียบแบบ >>852-853 เนี่ย บริษัทไหนก็เปลี่ยนคนทำงานไม่ได้เลยว่ะ เพราะไม่ว่างานไหน ๆ มันก็ต้องมีคนที่ทำได้ห่วยกว่าอยู่ดี
>>854 กูก็เรียนทั้งสองภาษา ไม่เห็นว่าภาษาญี่ปุ่นมันจะยากกว่าตรงไหน ที่มึงรู้สึกว่าภาษาญี่ปุ่นยากเพราะมึงเจอภาษาอังกฤษมากกว่า และมึงมาเรียนาภาษาญี่ปุ่นตอนโตแล้วแค่นั้นแหละ
ถ้ามึงได้เรียนภาษาญี่ปุ่นทุกปี สัปดาห์ละหลาย ๆ ชั่วโมงมาตั้งแต่อนุบาล เพราะมันถูกบรรจุอยู่ในการศึกษาภาคบังคับ มึงก็จะรู้สึกว่าภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ยากไปกว่าภาษาอังกฤษหรอก
แล้วนี่มึงทำงานบริษัทจริงเหรอ ถ้ามึงทำจริงมึงน่าจะรู้ว่า งานยาก ไม่ใช่ข้ออ้างของความผิดพลาด
ไม่ว่างานจะง่ายหรือยาก ถ้าผิดก็คือผิด สมควรถูกตำหนิทั้งนั้น โดยเฉพาะพวกที่มือไม่ถึง แต่ยังเสือกไปรับงานยาก โดยไม่ยอมรับกับคนให้งานว่าตัวเองทำไม่ได้ แล้วก็ทำออกมาผิด ๆ นี่กูว่ามันสมควรโดนด่ามาก ๆ ว่ะ
พวกมึงบอกว่ามีความรู้ภาษาญี่ปุ่นขนาดที่แปลไลท์โนเวลส่งสำนักพิมพ์ได้
บอกว่าซื้อฉบับภาษาญี่ปุ่นมาอ่านดีกว่า
แล้วพวกมึงมาเถียงกันเรื่องไลท์โนเวลฉบับแปลภาษาไทยทำไมวะ ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกมึงเลย
กูว่าพวกมึงยก
คนแปล คนเก่งหลุดโลก เวอร์ชั่น กูมึง ของค่าย S
หรือ ยูกิเกมแถอัจฉริยะ
มาเทียบจะเข้าใจง่ายกว่าไหม
พวกมึงคงไม่รู้ว่ามีนิยายแปลเรื่องนึงใช่เวลาแปลไทย 14-15 ปีจึงเสร็จ
ทำไมแม่งไม่ให้คนอื่นมาช่วยแปลให้เสร็จๆ ไปวะ นานขนาดนั้น
คือกุจะบอกว่า บางทีพวกกุก็ไม่รุหรอกว่า พวกนักแปลกับสนพ. มันดีลกันยังไง ถึงได้รอกันได้ขนาดนั้น เพีราะมันไม่ใช่เรื่องที่กุอยากรุ ถ้ามันแปลดี กุรอเป็นสิบปีได้อยู่ มึงอย่าลอยแพแล้วกัน
ก่อนที่จะเถียงกันต่อ พวกมึงลองหยุดสูดหายใจแล้วเรียกเก็ปเปลดองเกอร์มาดูตัวเองกันหน่อยเถอะ...
ใกล้งานหนังสือ แต่ละค่ายเริ่มอัพนิยายออกใหม่ แต่ SICL ยังเงียบกริบ ไอ้ที่เคยโม้ว่าซื้อ LC มาเยอะ สงสัยถ้าไม่ทำไม่ทัน ก็คงยังหาคนแปลไม่ได้ สินะ
>>869 กูว่า บก. มันโม้ ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องคนแปลเลย ถ้ามันได้มาเยอะจริงมันประกาศลิขสิทธิ์ไปนานแล้ว
วงการนี้พอได้ลิขสิทธิ์อะไรมาเป็นจำนวนนึงแล้วก็จะประกาศลิขสิทธิ์เลย ไม่ได้รอให้แปลเสร็จก่อนแล้วค่อยประกาศ
SIC มันก็ทำแบบนี้มาตลอดเหมือนกัน ไม่เคยเห็นมันรอแปลเสร็จก่อนประกาศเลยว่ะ
แล้วนี่มันบอกได้มาเยอะ แต่ไม่ประกาศลิขสิทธิ์อะไรเท่าไหร่ มันก็ชัดอยู่แล้ว
>>871 แต่กูก็เห็นสนพ.ที่ได้มาแล้วยังเก็บเงียบรอคนแปลทำให้เสร็จอยู่นะ แต่กูพูดไม่ได้จริงๆว่าเรื่องอะไรบ้างเพราะถ้ากูปูดจะโม่งแตกแน่นอน อีกอย่างมีเพื่อนเคยทำแปลนิยายกับSICสมัยที่มันยังไม่ทำไลท์ แม่งบอกว่าการเงินข้างในเหี้ยมาก ไม่รู้ปัจจุบันปรับปรุงรึยังแต่คงหานักแปลอยู่แหละ เพราะมีคนมาโดนทาบทามแต่ก็ปฏิเสธไปอยู่
SICL ที่มีข่าวออกมาก็ กันดัมวิง กับ ฮิงุราชิ แต่ LC ที่กุสนใจจริงๆคือพวกที่เป็น LN แท้ๆ ซึ่งก็ยังเงียบเป็นป่าช้า สยามแม่งรวยแต่แบบนี้คงยังหาคนแปลไม่ได้แหงม
>>817 สนุกหรอวะกูชื้อมาอ่าน 2 เล่มไม่สนุกหวะ
>>844 มี สนพ นึงเเม่งทำงั้น ลองหาๆดู เล่มไหนภาษาแปลเเม่ง เหมือนคนไม่เคยอยู่ในวงการ กูใบ้ให้ I
เออกูอยากรู้อย่างเจ้านี้หนะหรือซอมบี้ของ animag สนุกหรอวะกุอ่านมา ครึ่งเล่มเเล้วหยุดมาหลายรอบเเละไอเหี้ย ทำใจอ่านต่อไม่ได้
ไอแมวยิ้มยากของ LP ด้วยหวะ กูอ่านเเล้วไม่เข้าใจไอเห้ยเเม่งสนุกตรงไหนวะ
>>874 ไอ้แอดมินเพจ SIC ที่ทำมาเป็นหยั่งกระแสในเพจตัวเองนั่นน่ะเหรอ
หน้าโง่ชมัด เสร็จค่ายอื่นไปเป็นปีแล้ว ทำเป็นโชว์พาว กลายเป็นช่วยโปรโมทให้คู่แข่งไปฉิบ
ที่สำคัญมันยังไม่รู้ตัวว่าเงิบ วงการนี้เขาดีลเงียบๆกันทั้งนั้นยกเว้นค่าย Z
ไอ้พวกขี้โม้มักไม่มีอะไรในมือหรอก เหมือน"บิ๊กเนม"ของไอ้หนึ่งไง
ไหนวะสับ B.A.D กูอยากเห็น
ไม่ทันสับว่ะ คนสับโดนสับไปซะก่อน
สรุปว่า SICL นี่จะไม่มีห่าไรจริง ๆ นอกจากกันดัมกับนิยายการ์ตูนจัมป์เหรอวะ เสียแรงที่เงินหนา กุนึกว่าจะมากว้านซื้อแข่งกับเซนชูซะอีก กุรึนึกฝันอยากอ่น ben-to กับ campione
ไม่ใช่แย่งแปลmangaเหรอ
เสียดายที่กุพูดมากไม่ได้ เดี๋ยวโม่งแตก
มีเดียเวิร์คอีกละ ไม่มีของชูเอฉะมั้งวะ มันดีลแค่กับสยามด้วยสิ
ทำไมหมดหวังกับนิยายกันดัมวะ โดนเจ้าอื่นฉก หรือ ยุ่นไม่ยอมขายให้ ตปท แน่ ๆ?? ถ้าอย่างแรกนี่สยามเสียหมาเลยนะ เพราะล่าสุดเซนชูก็คว้าธันเดอโบลท์ไปละ
กูว่าเดกซ์เอาไปแดกนานแล้ว หึหึหึ
เอาไปนานแล้วแต่ยังไม่ได้ออกซะที หึหึหึ
สมน้ำหน้าไอ้แอดมินเพจ SIC โชว์โง่ไม่รู้ตัว รอดูมันเงิบได้เลย
เดกซ์เนี่ยร้าย มึงดู มันมาเงียบๆ โป้งแล้วขายเลยเฟทงิ้ บาเคะงิ้ กันดั้มมันจะเหลือหรือวะ ก่อนหน้านี้ก็ออกอนาเธอร์ของค่ายเดียวกันมาแล้ว
เด้วพวกมึงรอดูของ SICL เอาเอง
กูว่าเลือกมาเพราะหวังกระแสบุฮี้ แต่น่าจะแป๊กว่ะ
ตกลง กันดั้มนิยาย มันมีใช่มะ แต่ SIC ไม่ได้ lc ?
DEX นี่กูกลัวดองยาวข้ามปีแบบ cutting กับ สว่าน โคตรๆว่ะ
สว่านกูว่ามึงตัดใจเหอะ ไม่ออกนานชิบ...
มันเจอปัญหาคนแปลเหมือนกันหรือเปล่าวะ
สว่านมันดองเค็มลอยแพเพราะขายไม่ดีมากกว่ามั้ง ถ้ามีปัญหาคนแปลป่านนี้ก็ควรออกเล่มใหม่ได้แล้ว
ไลน์Dกูเห็นยังออกต่อแค่2เรื่อง ลอยแพแล้วแน่ๆ
cutting นี่กูไหว้ละ อีกเล่มเดียวเอง ;_;
เออ เดกซ์มันเคยลอยแพด้วยนี่ อีวาไงจำได้ไหม
cutting กะ สว่านทำใจเหอะ
กูเห็นแม่งเอามาลงกระบะขายเหลือเล่ม 50 ก็รู้ชะตากรรมล่ะ...
กำ cutting กู TT
ออกผู้กล้าดวงให้จบนะมึง
ผู้กล้าดวงอีกไม่กี่เล่มก็จบแล้ว
cutting นี่มันกะจะตัดทิ้งตามชื่อเรื่องเลยเหรอวะ
ว่าแต่ DEX นี่ก็ดองตัวพ่อเลยนี่หว่า กูพึ่งนึกได้ ปกติด่าแต่เจ้าอื่น
LN ไทยซื้อแค่ ผู้กล้าดวง สว่าน ฮาริยามะ
ออกไม่จบไปสองแล้ว กลัวโดนลอยแพมาก
Dexกูว่าไม่เรียกดองหว่ะ แม่งเรียกอินดี้ กูอยากออกกูก็ออก กูอยากจะดองกูก็ดอง แผนงานไม่มีซักนิด
มันออกจะจบแล้วคงไม่แพมั้ง
พูดถึงฮาริยามะแล้ว กูคิดถึงเลย แม่งสนุกดี
ยังอ่านไม่จบเลยสัส เหี้ยเอ้ย
ว่าแต่ของbliss นี่มีใครจะเอามาทำต่อป่ะวะ
กูเสียดาย เหมือนเคยมีข่าว
พูดถึงแล้วกูแทบร้องไห้
ชานะกู คิโนะกู โมโมะกู โทระกู ฮาริยามะกู ปริศนาโลกหอคอยกู บักทึกของพระเจ้ากู
ตัวประกอบมากับดวงสนุกเหรอ อ่านแล้วโคตรน่าเบื่อเลย เป็นเรื่องแรกที่เห็นพระเอกแม่งบทน้อยกว่าตัวละครรอง ไม่รู้คนเขียนมันจะสร้างคาแร็คเตอร์ตัวนี้ขึ้นมาเพื่ออะไร
จอมมารหลังห้องไม่ได้อ่านเลยไม่รู้แต่ผู้กล้านี่บอกตรงๆ ว่าไม่สนุกเลย (โดยส่วนตัว) แต่เห็นหลายคนชมเลยรู้สึกแปลกใจว่ามันสนุกตรงไหนวะ
รสนิยมน่า รสนิยม ไม่ชอบก็หาเรื่องอื่นที่พระเอกมีบทเยอะๆ อ่านไป
รู้ไว้ว่ามีคนอื่นอ่านสนุกก็พอจะได้ไม่ไปเผลอออกตัวแรงที่ไหน
ปล.กูชอบเรื่องผู้กล้าเพราะนางเอกแบบนี้หาในเรื่องไหนไม่ได้อีกแล้ว... แม่ง
คุณครูชุดเดรสของบงกชนี่คนเขียนคนเดียวกับอีสาวแดกหนังสือนี่แนวไหนวะ ดูปกแล้วไม่ค่อยมั่นใจ
>>928 มึงบอกพึ่งเคยเจอพระเอกบทน้อย พอมีคนยกตัวอย่าง มึงก็บอก บทน้อยแต่ยังมีความเป็นพระเอก
เดี๋ยวถ้ามีคนมายกตัวอย่างเรื่องที่พระเอกไม่มีความเป็นพระเอก มึงก็แถไปประเด็นอื่นอีกอยู่ดี
ความเป็นพระเอกนี่คืออะไรวะ แล้วตัดสินยังไงว่าแค่ไหนคือมาก แค่ไหนคือน้อย?
มันก็แค่ความชอบส่วนตัวของมึงเองคนเดียวนี่หว่า
มึงไม่ชอบอยู่คนเดียว ไม่ได้แปลว่านิยายเรื่องนั้นไม่ดีหรือจะขายไม่ออกนี่หว่า
ทำไมกุรู้สึกว่าปัีนี้งานหนังสือมันออกจะเงียบๆ วะ พวกตัวแรงๆ ไม่มีออกเลย กุเห็นแปดเล่มของอนิแมกแล้วยังจืดๆ อยู่
มีบงกชน่าสนอยู่หลายเล่ม
มันอยู่ในช่วงกั๊กของรองานหนังสือกันอยู่ กว่าจะประกาศ ก่อนเริ่มงาน 1-2 สัปดาห์นู่น
อ่านพิธีอัญเชิญเทพเล่ม2 แล้วฟินเหี้ยๆเลยกู
ถูกใจคู่พระ-นางฉิบหาย
ทุกทีก็ 2 สัปดาห์ก่อนงาน ถึงจะเริ่มประกาศลิสท์หนังสือกับโปรกัน นี่ยังไม่ชินกันอีกรึ
มันฟินคนละแบบกับ สุคุโมะโดจริงๆ
ไอ้คู่นี่มันปากหมาซึนเดเระคู่ชัดๆ
นานๆจะมีคู่แบบนี้โผล่มาซักที อาห์ กูก็ฟิน
ถ้ากุอ่านมาโฮกะแล้วข้ามส่วนที่อธิบายเกี่ยวกับเวทย์ไป ตอนหลังๆจะอ่านรู้เรื่องป่าว เพราะมันอธิบายดูเวิ่นเว้อมาก
ไม่ก็อ่านมังกะก็ได้มันมีภาพช่วยอธิบายให้เข้าใจง่าย
ตอนนี้กูว่างมาก ไม่มีอะไรอ่านแล้ว
_พาราเบลัม
_ date a live
_ลีเวียธาน
_แอสเทริกส์
_นางิสะ
มีเรื่องไหนที่กูควรหามาอ่านบ้างวะ
นางิสะไม่ได้อ่าน รอคนอื่นมาตอบ
ส่วนที่เหลือ...ที่ไม่ใช่แนวฮาเร็มก็มีแค่พาราเบลลัม (มีแม่มทุกแบบตั้งนอร์มอล ยาโอย ยูริ แต่ไม่ใช่ประเด็นหลักของเรื่อง เพราะมันปวดตับ......)
แอสเทอริกส์ = โรงเรียนฮาเร็มทั่วไปที่สนุกกว่า IS ร้อยล้านเท่า... (เว้นแต่มึงจะคิดความสนุกของ IS ไว้ที่ติดลบนะ) พระเอกเก่งแบบติดลิมิเตอร์ บื้อแค่พอประมาณ ไม่มีผู้หญิงคนไหนทำตัวน่าตบ
เดทอะไลฟ์ = เรื่องแอบดีพอยู่นิดนึง...นิดนึงจริงๆ เพราะมันเอาลำดับเซย์เรย์ในเรื่องมาจากแผนผังต้นไม้เซฟิรอท แต่พล็อตเดาทางง่ายไปหน่อย ไม่แนะนำให้ไปหาดูเมะประกอบการตัดสินใจซื้อเพราะเมะมันเหี้ย......
ลีเวียธาน = คนแต่งเดียวกับแคมปิโอเน่ เนื้อหาลึกสุด (และอ่านสนุกสุด...มั้งนะ) ใน LN ฮาเร็มที่ยกมา 3 เรื่อง ถ้าชอบพวกสัตว์ประหลาด + มังกรด้วยความสนุก + 50% (ชอบมังกรเรื่องนี้มากกว่าเรื่องมังกรป้ายแดงเยอะ) แต่พระเอกมันไม่ใช่สายบู๊นะ เป็นสาย int + buff สาวๆ ไม่เหมือนไอ้โกโด (ดักไว้ก่อน เผื่อไม่ชอบ)
แต่กุไม่แนะนำพาราเบลลัมว่ะ ไม่หนุกอะ เรื่องอื่นเป็นแนวฮาเร็มแต่ก็มีมาตรฐานพอโอเคอยู่
แอสเทอริก = เป็น IS ที่โดนจับลดความบุฮี้ปัญญานิ่มลง เพิ่มสาระมากขึ้น
นางิสะ = สูตรสำเร็จเลิฟคอมแฟนตาซี พลอตแบนๆ จืดๆ นางเอกซึนกำลังดี
ลิเวียธาน = น้ำท่วมทุ่ง ฮาเรมเต็มบ้าน อาช่าน่าฟัด♡
เดท,พารา = กูดร็อปไปตอนเล่มสองทั้งคู่
แนะนำ ลิเวียธาน > แอสเตอริก >เดท >> นางิสะ >>>>พาราเซตามอล
พาราเบลลัม กูว่าไม่สนุกเหมือนกัน ซื้อมา 2 เล่มแล้วก็เลิกอ่านกลางเล่ม 2
ส่วนเล่มแรกก็ต้องทนอ่านกว่าจะจบ
แอสเทริส เหมือนดูเกม RPG
ลิเวียธาน รอเล่มสามออกแล้วอ่านรวดเดียวดีกว่ามั้ง ปล. อาช่ายิ่งทียิ่งอนาถ
http://pantip.com/topic/31738604
ความสนุกจะอยู่ที่ตรงไหน?? ถ้าคาแรกเตอร์พระเอกรึนางเอกไม่แข็งจริง มันจะดู lame มาก ๆ เหมือนที่กุเอือมระอากับเทพทัตซึยะ
พล็อตแม่งนิยายเกมออนไลน์ไทยเหี้ยๆ
พล๊อทนี้ญี่ปุ่นตามไทยหลายขุม แต่สคิลงี่เง่าแบบ ฆ่าล้าง map นี่โคตร Overpower เลย งี้เดินไปกดแม่งไปเรื่อยๆจะอัพสคิลอื่นทำเหี้ยอะไร
ฟังดูเพ้อเจ้อทั้งตัวนิยายทั้งคนตั้งกระทู้อวย
กามสูตร , จีบสาว ไม่อัพ
กะเก็บเลเวลด้วยตัวเองสินะ
ตอนในเวบหนึ่งตอนยาว5หน้ากระดาษเองมั้ง เว้นวรรคถี่เชียว
ทุกอย่างแม่งอธิบายได้ด้วยคำว่า"บังเอิญ" เจริญล่ะ
อ่านนิยายเกมออนไลน์ไทยก็ได้ คล้ายๆกันแหล่ะ lol
นึกว่าใคร ไอ้เหี้ย peTOUCHso นี่เอง
peTOUCHso นี่เห็นว่าเพิ่งจะเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นไม่ใช่เรอะ แล้วเอานิยายมาตั้งว่าอยากได้แบบเนี้ย เพิ่งเริ่มเรียนก็อ่านนิยายได้แล้วเรอะ ในกระทู้เอาภาษาญี่ปุ่นใส่ซะเยอะเชียว เหมือนจะให้รู้ว่าอ่านนิยายญี่ปุ่นได้งั้นแหละ แต่สงสัยว่าอ่านได้จริงเรอะ ขนาดพวกสอบได้ N1 หลายคนยังจอดป้ายกับนิยายเลย
กุว่ามันเอามาจากทู้ที่คนตั้งในตุรกี
ว่าแต่แม่งเขียนขัดๆกันเองรึเปล่าวะ?
"เรื่องนี้สำหรับใครที่ชอบพระเอกเก่งเทพตั้งแต่ต้นเรื่องละก็.......มันเก่งจนโกงระดับเอาไปตบกับเทพหมอน ฮาโอ หรือท่านผู้นำไอเซ็น ได้เลยครับ
เก่งแค่ไหนเหรอ....ก็ระดับจอมราชาปีศาจโจมตีใส่มันเต็มกำลังยังทำเสื้อมันเลอะไม่ได้ อุปมาดั่งโปริ่งเอาหัวไปโหม่งใส่ GM ยังไงอย่างนั้น"
แล้วพอมาตอนอิบายว่ามันสนุกตรงไหน
"3. บอสของเรื่องนี้โกงกว่าพระเอกอีก นึกภาพท่านจอมราชาปีศาจเวิร์นร่ายเศษเมร่าเล็กๆทะลุเมราโซม่าของป๊อปไว้นะครับ
อารมณ์นั้นแหละ แค่สกิลขั้นต้นก็แรงกว่าสกิลขั้นกลางกว่าพระเอกแล้ว นั่นแหละครับท่านลาสบอสของเรา"
แปลว่าบอสไม่ใช่ราชาปิศาจ แล้วเอาความโกงมาสู้กัน
ล็อคอินที่ชื่อซ่อนนามเนี่ย แต่งนิยายแนวเกมส์ออนไลน์ด้วยเรอะ เห็นในกระทู้นั้นก็มาบอกว่าถ้ายังไงก็ไปอ่านนิยายของตัวเองได้ มีเหตุมีผลกว่า พอมีคนบอกว่าไม่สนุก เจ้าตัวก็มาบอกว่ามีแต่คนบอกว่าสนุกซะงั้น ใครเคยอ่านของหมอนี่บ้างเนี่ย ส่วนตัวเคยอ่านนิยายของเด็กดีแค่ไม่กี่เรื่องเอง เจอแต่ประหลาดๆทั้งนั้น
ฟังเกริ่นแล้วไม่น่าอ่านมาก...
Setting มันเกินเหตุ เดียวจัดการลาสบอสได้ด้วย Plot Shield อีกแหงๆ
>>969 ซ่อนนาม มันโดนสำนักพิมพ์ใหญ่แบนด้วยนะ
เพราะไปเสนองาน ตอนยุคแฟนตาซีโรงเรียนแล้วไม่ผ่าน แล้วมาด่า สนพ. ใหญ่
มันคิดว่า สนพ. ไม่รู้ แต่เขารู้ว่ะ
ตอนหลังโดนนักเขียนด้วยกันตบเกรียนในเด็กดีบ่อยมั้ง เลยย้ายมาพันทิพ ทำตัวมีภูมิๆ หน่อย
ชอบโพสต์โชว์รู้มากยาวๆ เหมือนเดิมเลย
เม้นของซ่อนนามข้ามตลอด เขียนยาวๆ พยายามอวดภูมิ แต่น้ำท่วมทุ่งไม่กระชับ สุดท้ายข้ามไปอ่านคนอื่น
สงสัยอยู่ว่าซ่อนนามมันอายุเท่าไหร่วะ เหมือนจะรู้เยอะแต่รู้เป็นเป็ด ที่เขียนยาวๆนั่นอ่านดีๆแม่งกลวง
สังเกตเห็นอีกอย่างคือเวลาจะเถียงแม่งก็ชอบเอาเรื่องยิบย่อยมาเถียง ทั้งที่ประเด็นเค้าพูดถึงภาพรวม
ไอ้นี่มาละ ไม่จริงหรอก แบบนี้ก็มีนะ กรณีนี้ก็เคยมี ไอ้เคสบายเคสของมึงมันมีอยู่จริงไม่เถียง แต่มันจะเกิดซักกี่%ของภาพรวมกัน หอก!!!
ไอ้ชิบหาย มู้นี้แม่มกลายเป็นมู้แม่บ้านไปแล้วรึไงวะ ถกเรื่องไม่เป็นเรื่องกันอยู่ได้
วื่งควายดีกว่าเนอะ
เห็นนิยาย Boys and A Doll ที่ร้านเช่า เลยลองอ่านไปหน่อยนึง กลั้นหัวเราะแทบแย่ คนเขียนมันเอาตัวเองมาเป็นพระเอกวุ้ย เพิ่งจะเคยเจอนี่แหละ แถมบรรยายสรรพคุณตัวเองซะเลิศจนน่าหัวเราะเลย ไม่หลงตัวเองจริงทำไม่ได้นะเนี่ย แบบไม่คิดเลยว่ามีสำนักพิมพ์กล้ารับออกมาพิมพ์ขายเนี่ย พวกไลท์โนเวลนี่มีบ้าๆแบบนี้ไหมเนี่ย แต่อดคิดไม่ได้ ถ้าป๊อปมันไปอยู่ญี่ปุ่นแล้วเขียนแบบนี้ออกมา จะมีสำนักพิมพ์ไหนกล้าเอาไปพิมพ์ขายไหมเนี่ย
มันอาจจะดังในอีกแง่ก็ได้นะ แบบตลกๆประชดๆแทน
gary stu ยังอาย เจอด๊อกเตอร์ป๊อป
กูโคตรขำนิยายที่คนเขียนเอาตัวเองมาเป็นพระเอกแล้วก็ทำให้ตัวเองเทพให้มีสาวๆ มารุมรักเลย ขรรมสัด ไม่แปลกเลยที่แม่งเป็นโอตาคุ เชิญมึงเพ้อเจ้อต่อไปเหอะ
แต่งนิยายสนองตัณหาตัวเองว่างั้น?
ยังมีคนอ่านอยู่อีกหรือวะ ด๊อกป๊อปห่าอะไรเนี่ย
เพราะคนเราชอบself insert ลงในนิยาย ดังนั้นยิ่งตัวเอกเป็นแนวMary sue นี่ยิ่งทำให้การself insert มันฟินขึ้นเท่าตัว
เป็นสาเหตุให้นิยายแนวพระเอกเก่งเวอร์ๆกับแนวฮาเร็มขายดี
>>984 ที่มันฮาก็ตรงเขียนว่าตัวเองเป็นเขียนหนุ่มผู้มีชื่อเสียง มีแฟนคลับบลาๆๆๆ สั้นๆก็คือแต่งตัวเองซะเลิศเลอประเสริฐศรีไงล่ะ แบบเข้าใจนะว่ามันเป็นนิยาย แต่ก็เกินขีดไปอ่ะ ความจริงฐานะทางบ้านของคนเขียนมันก็รวยจริงอ่ะนะ เส้นสายเยอะด้วย เลยไม่แปลกที่จะใช้เส้นทางครอบครัวช่วยดันตัวเองด้วย แต่มีหลายกระแสบอกว่าไอ้หมอนี่มันเป็นเกย์(หรือตุ๊ด)ด้วย ไม่รู้ว่าจริงไหม
>>979 เพิ่งรู้ว่าคนแต่ง Infinite stratos ใช้ตัวเองเป็นต้นแบบพระเอก ฮ่วย ชีวิตคนแต่งสงสัยไม่เคยมีแฟนแหงๆ แต่นิยายเรื่องนี้ ส่วนตัวอ่านยังไงก็ไม่สนุกอ่ะ ฮาเร็มบ้าบอเพ้อเจ้อมาก ผู้หญิงแต่ละคนแรดระเบิดเลย
IS มันจินตนาการไปเลย จะเอา self insert แค่ไหนมันก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องแต่ง
แต่ด๊อกป๊อบนี่มันเอาตัวเองปัจจุบันมายกยอปอปั้นเพิ่ม ชื่อเดียวกัน อาชีพเดียวกัน
แล้วก็โม้ซะให้หล่อเลิศดังระเบิดเก่งเทพ คิดแล้วแม่งเขียนไปได้ไงวะ ไม่กระดากมั่งหรือไง
>>987 ไม่น่าจะจริง กูเคยได้ยินข่าวว่ามันพยายามไปตีสนิทเน็ทไอดอลสาวแล้วเค้าไม่เล่นด้วย
พวกเด็กบ้านรวยที่พ่อแม่คอยตามใจ ไม่ต้องเจอความลำบากอะไร เวลาทำอะไรผิดก็ไม่ต้องรับผิด มีพ่อแม่คอยให้ท้าย ประคบประหงมตามใจตลอด ทำตัวไม่แมนนี่กูเจอบ่อย มันไม่ได้เป็นตุ๊ดเป็นเกย์หรอก
คนบางคนชีวิตมันไม่ค่อยได้ปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิงจริง ๆ มันก็นึกว่าผู้หญิงจริง ๆ จะต้องเป็นเหมือนในโดจิน ในเกมจีบสาวที่มันเคยเล่น จะไปว่ามันเพ้อเจ้อก็ไม่ได้ มันก็คิดไปตามความรู้เท่าที่มันมี แค่บังเอิญว่าความรู้เกี่ยวกับผู้หญิงในสมองของมันส่วนใหญ่ มันมาจากเกมจีบสาว ก็เลยออกมาเป็นแบบนี้
คนอ่านก็เพ้อเจ้อ self insert พอกันน่ะแหละ ไม่งั้นมันก็ขายไม่ได้หรอก
โอตาคุที่กูรู้จักยังมีคนที่คิดว่าเทคนิคจีบสาวในเรื่องพี่เทพนี่เป็นสิ่งที่เอามาใช้ในชีวิตจริงได้เลย
>>985 ขายดีเพราะพวกคุมโนเพ้อเจ้อมันเยอะไง คนเพ้อเจ้อขี้มโนขายคนเพ้อเจ้อขี้มโนด้วยกันจะไม่ขายดีได้ไงวะ อูย มโนว่าตัวเองเจ๋งเมพมีสาวแว่นสาวนมโตสาวซึนสาวยันมารุมรักรุมแย่งมีความสุขชิบหาย ชีวิตจริงหมาซักตัวยังไม่แล ถถถ
>>987 กูก็ว่าคนที่จะเขียนและอ่านอะไรพวกนี้ได้สนุกชีวิตต้องไม่เคยมีแฟนว่ะ เพราะการ์ตูนหรือนิยายที่มีเรื่องความรักเข้ามาปะปนแบบไม่เพ้อเจ้อมันจะไม่ได้เป็นแบบนี้ มันเล่นอะไรได้เยอะเรื่องความรักเนี่ย แต่ไม่ใช่เพ้อเจ้อบ้าบอไม่มีน้ำหนักไม่มีความสมเหตุสมผลนอกจากเพ้อเจ้อมโนเข้าข้างตัวเองไปวันๆ
ไอ้เรื่องถนนสีขาวของด็อกเตอร์ปอบนี่ ลอกไฟนอลแปดมาซะส่วนใหญ่ แล้วก็มีอีกหลายเกมที่กูจำได้ว่าลอกมา เอาแบบเห็นได้ชัดก็ฉากที่ไปเจอนางเอกใต้โดมที่เปิดให้เห็นท้องฟ้าเวลากลางคืน ลอกฉากสควอลเจอรีนัวมาชัดๆ
นี่ยังจะเขียนนิยายจูนิเบียว เอาตัวเองเป็นพระเอกอีก หน้าด้านสัดๆ
http://th.m.wikipedia.org/wiki/ดร.ป๊อป
ในวิกิบอกบอยแอนอะดอนี่7หมื่นเล่มเลยนะมึง ของจริงป่าววะ กรั่กๆ
วิกิที่เขียนประวัติตัวเองอ่ะเรอะ
กระทู้หน้าเอาชื่อแม่บ้านไลท์โนเวลเลยก็ได้นะ ตรงดี
https://fanboi.ch/animanga/301
ไปด่ากันต่อกระทู้นี้ไป
นาเดโกะเมียกู
1000
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.