เรื่องสายส่งเคยมีพูดกันไปแล้ว มึงไปหาอ่านดู
ภาพที่มึงโพสมันเป็นการทำนาบนหลังคนตรงไหน
25% เป็นกำไรเข้าร้านหนังสือ ไม่ได้เข้าสายส่ง
ก็คือสายส่งรับหนังสือมาที่ราคา 55% ของราคาปกก็จริง แต่ส่งให้ร้านหนังสือในราคา 75% ของราคาปก
ได้ไปแค่ 20%
ซึ่งมันก็มีค่าจ้างพนักงานส่วนต่าง ๆ ค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษารถ และอื่น ๆ อีกมากมาย เหมือนข้อมูลทางซ้ายของทางสำนักพิมพ์นั่นแหละ ไม่ใช่ว่าเจ้าของสายส่งมันดีดนิ้วแล้วหนังสือจากสำนักพิมพ์มันจะลอยไปเข้าร้านหนังสือเองซะที่ไหน แต่ infographic มันไม่ได้แยกออกมาให้ดู เขียนรวมเป็น ค่าบริการจัดการไปหมดเลยก็เท่านั้น ถ้าแยกออกมาให้เห็นเป็นอย่าง ๆ ก็จะเห็นว่ากำไรมันไม่ได้เยอะมากเช่นกัน
ร้านหนังสือมันก็มีค่าบริหารจัดการเหมือนกัน ซึ่ง infographic ไม่ได้แยกให้ดู
แฟรนไชส์ร้านหนังสือแห่งหนึ่งต้องเรียก % เยอะ ๆ เพราะเน้นการบริหารจัดการที่ให้ความสะดวกกับลูกค้า สร้างสาขาให้เยอะ ๆ แม้ว่าหลาย ๆ สาขาจะขาดทุนเพื่อให้ลูกค้าสามารถหาซื้อหนังสือที่ต้องการได้สะดวก ซึ่งใช้ต้นทุนสูง ไม่ได้ทำเพื่อหวังฟันกำไร
ในบรรดาร้านต่าง ๆ ที่มีสาขาอยู่ในทุกห้างทั่วประเทศ ร้านที่พวกมึงด่ากันว่าทำนาบนหลังคนเนี่ยเป็นร้านที่ได้กำไรน้อยเป็นอันดับต้น ๆ ด้วยซ้ำ
กูว่าร้านหนังสือที่เห็นความสะดวกของลูกค้า สำคัญกว่าความร่ำรวยของทางสำนักพิมพ์ มันก็ทำถูกแล้ว
แล้วกูก็เห็นมีแต่เฉพาะสำนักพิมพ์สายการ์ตูน กับพวกสำนักพิมพ์นิยายขายไม่ออก สองพวกนี้แหละที่ออกมาโวยด่าแฟรนไชส์ร้านหนังสือนี้
แล้วก็ ข้อมูลต้นทุนของสำนักพิมพ์ที่ภาพ infographic เอามาแจกแจงนี่โคตรมั่ว
ถ้าขายหมดแล้วได้กำไรแค่ 10% แสดงว่า
ถ้าหนังสือราคาปก 200 บาท
ราคาที่สำนักพิมพ์ขายออกให้สายส่งคือ 110 บาท << 55% ของราคาปก
แบ่งเป็นกำไร 11 บาท << 10% ของ 110
ต้นทุนของหนังสือจริง ๆ คือ 99 บาท << ราคาขายออก 110 บาท - กำไร 11 บาท
ถ้าพิมพ์ 3,000 เล่ม ต้นทุนคือ 297,000 บาท << 99 บาท x 3,000 เล่ม
ถ้าขายหนังสือได้ 90% ของที่พิมพ์ ( 2,700 เล่ม ) จะได้เงินกลับมา 297,000 บาท << 110 บาท x 2,700 เล่ม
แสดงว่า ถ้าสำนักพิมพ์คิดกำไรค่าหนังสือแค่ 10% จริง ถึงจะขายหนังสือออก 90% ของที่พิมพ์ ก็จะได้แค่เท่าทุน ไม่มีกำไรเลย
ถ้าคิดกำไรแค่ 5% ก็ต้องขายให้ได้เยอะกว่านั้นอีก
ซึ่งถ้าจริง สำนักพิมพ์เจ๊งไปหมดแล้วว่ะ
http://peestory.wordpress.com/2010/10/15/รบกวนสอบถามเกี่ยวกับกา-2/
พวกมึงอย่าไปเชื่อเรื่องที่สำนักพิมพ์ด่าร้านหนังสือ ด่าสายส่งให้มาก เพียงเพราะว่าสำนักพิมพ์มีช่องทางติดต่อสื่อสารกับผู้อ่านมากกว่าทางสายส่งกับทางร้านหนังสือเลย
คนทำงานสำนักพิมพ์บางคนก็ด่าเอามัน บางคนก็ลืมคิดไปว่าร้านหนังสือกับสายส่งมันก็มีต้นทุนเหมือนกัน ไม่ใช่ได้เงินไป 20% 25% แล้วเป็นกำไร 20% 25% ทั้งหมดซะที่ไหน
ถ้ามันกำไรดีมากจริง ๆ มีคนทำแบบมันไปเยอะแล้ว ไม่ปล่อยให้มีเจ้าใหญ่ผูกขาดอยู่เจ้าเดียวมานานขนาดนี้หรอก
ไอ้ทฤษฎีสมคบคิดปัญญาอ่อนที่ว่า บริษัทสายส่งมันมีเส้นสาย เอามาใช้บีบคู่แข่งบีบร้านหนังสือ มึงก็ไม่ต้องยกมาอ้างนะ กูเบื่อ
คนที่มีเส้นสายมีอำนาจมืดมหาศาลมีเยอะแยะ ถ้ามันงานสบายกำไรดีจริง มันไม่กลัวเส้นสายสายส่งหรอก มันมาทำแข่งไปนานแล้ว กูบอกเลย